หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Savitre Sidestory 1

Savitre Sidestory 1 “ความรู้สึกของฉัน!!!”

...เวลา 22.40 น.ที่ไนท์คลับแห่งหนึ่ง...

“บุศล่ะ?”
“ไปแล้ว”
“อะไร?...แค่มาช้าหน่อยเดียวเอง!!...จะรอกันมั่งก็ไม่ได้นะ”
“พรุ่งนี้เธอจะไปบ้านว่าที่สามีแต่เช้า”
“เหย--...ใครวะว่าที่สามี?”
“ก็บอลปีสองวิทย์-เทคไง”
“โวะ!?...เอาจริงแน่ใช่มั้ย?...อีตานมรสจืดที่มีแฟนแล้วน่ะนะ!!!”
“การทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้คนที่พึงปรารถนามาครอบครองนั่นคือความรักในแบบฉบับของยัยบุศ”
“แม้ จะต้องแย่งชิงงั้นเหอะ?...เออโส!!...ฉันอยากรู้มานานแล้วว่าบุศไปชอบนายบอล รสจืดนั่นได้ยังไง?...คือฉันไม่เห็นเขาจะมีอะไรตรงไหนโดดเด่นเลย”
“ก็อย่างที่นุ่นว่าแหละ...บอลเป็นผู้ชายที่ธรรมดาๆมาก”
“ใช่มะ?...แล้วทำไมบุศจะต้องพยายามเป็นแฟนกับเขาด้วย?”
“รักแรกพบ...บุศเห็นบอลครั้งแรกในพิธีเปิดการศึกษาก็ปิ๊งทันทีแล้วบอกว่าผู้ชายคนนี้แหละที่คู่ควรกับตัวเอง”
“หวา!!...ง่ายจัง?”
“ก็ว่ากันไป...ไม่เกิดขึ้นกับตัวเองไม่มีทางรู้หรอกแต่จนป่านนี้หล่อนยังไม่ถึงบ้านเลย...เมื่อกี้ฉันเพิ่งโทรไป”
“อ้าว!?...ยัยนั่นออกจากนี่นานยัง?”
“...เกือบชั่วโมงละ”
“แล้วมิทราบว่าแม่คุณเธอไปอยู่ซะที่แห่งหนตำบลไหนเนี่ย?”
“จะ รู้ได้ไงฉันไม่ใช่แม่หล่อนแต่ถ้าให้เดาในฐานะเพื่อนสนิทที่กล้ำกลืนฝืนทนคบ กันมาตั้งแต่สมัยประถม...ฉันว่าตอนนี้ยัยบุศคงจะอยู่ที่...”
...............................................................................................................

“ทำเป็นรู้ดีว่าฉันทำอะไร?...อยู่ในชุดวันเกิดและกำลังกอดผู้ชาย...เดี๋ยวเหอะหล่อน!!”
“...............................................”
“รูดซิปปากให้สนิทเลยนะแล้วก็ฝากบอกยัยนุ่นว่าไว้คราวหน้าฉันจะขอแก้ตัวใหม่...แค่นี้แหละ!!”
“มีอะไรครับคุณหนู?”
“เบื่อคนรู้ทันน่ะสิถามได้...ยัยโสชักจะรู้มากเกินซะแล้ว”
“แต่คุณหนูไม่ได้บอกนี่ครับว่าเราอยู่ไหน”
“ใครว่าเล่า?...ยัยนั่นรู้ย่ะแถมรู้ถึงขั้นว่าฉันอยู่ที่โรงแรมไหนและกับใครด้วย!!”
“!!!”
“ห้าทุ่มรึ?...ลุกแต่งตัวอย่ามัวแต่ดูหนังโป๊!...ฉันสวยกว่าในหนังเยอะ”
“ไม่ต่ออีกสักหน่อยหรือครับ?”
“พอ!!...พรุ่งนี้มีธุระต้องไปโยนกบูรพาแต่เช้า...ถ้าใครที่บ้านโทรมาก็บอกว่าฉันเข้าห้องน้ำอยู่นะยศ”
“ห้องน้ำ?”
“ไม่ได้โกหกนี่ก็ฉันจะอาบน้ำ”
“.............................................”
“.............................................”
“คุณหนูต้องเปลี่ยนที่ครับ...ไว้ผมจะหาข้อมูลจากพวกเพื่อนๆ”
“แต่ฉันชอบที่นี่นะเพราะเขาจัดห้องได้สวยดีและอีกอย่าง...”
“?”
“ฉันไว้ใจที่นี่เพราะเจ้าของเป็นเพื่อนสมัยเรียนของคุณพ่อแถมชอบมีเรื่องน่าสนใจมาบอกด้วย”
“เรื่องน่าสนใจ?”
“โรงแรมนี่อยู่ไม่ห่างจากมหา’ลัยเท่าไหร่แต่นายเชื่อมั้ยว่ามีพวกอาจารย์มาใช้บ่อยๆ?...เข้าทำนองที่ๆอันตรายคือที่ๆปลอดภัยไง”
“จริง...จริงๆหรือครับ?”
“มากับชู้บ้าง,กับเพื่อนอาจารย์ด้วยกันบ้าง,กับพวกเจ้าหน้าที่ลูกจ้างบ้างรึไม่ก็...นักศึกษา”
“โอ้!?”
“เคยได้ยินข่าวนักศึกษาที่ยอมนอนกับอาจารย์เพื่อแลกเกรดไหม?”
“นั่นเป็นข่าวลือ...”
“จริง!!!”
“!?”
“แล้ว ก็มีทั้งชายทั้งหญิง...นิสิตสาวต้องเป็นคู่นอนของอาจารย์ที่แก่คราวพ่อคราว ลุงเพื่อแลกกับการไม่สอบตกส่วนนักศึกษาหนุ่มๆก็ถูกอาจารย์สาวใหญ่ไร้ผัวหิ้ว เข้าม่านรูดพอออกมาอีกทีคะแนนสอบพุ่งพรวด...เฮ้อ~~...เดี๋ยวไปอาบที่บ้านอีก ที...หยิบกางเกงกับชุดชั้นในมาให้ฉันหน่อย”
“...นี่ครับ”
“โบว์คงหลับไปแล้ว...จะได้ไม่ต้องรู้ว่าฉันไปทำอะไรมา”
“มันจะไม่เป็นไรหรือครับ?”
“หือ?”
“คือคุณหนูมีแฟนแต่ยังชวนผมเข้าโรงแรมอีก”
“ความรู้สึกช้าจริงๆเล้ย~~...นายน่าจะถามตั้งแต่ฉันสั่งให้เลี้ยวรถเข้ามานี่แล้ว!”
“เอ่อ...”
“ฉันจะบอกก็ได้!!...ผู้ชายคนอื่นนอกจากบอลก็เป็นแค่คู่นอนชั่วครั้งชั่วคราว...ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่านั้น”
“.............................................”
..................................................................................................................

... 10 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น...

“ใกล้จะถึงแล้วนะ”
“มาขอหลานเค้าแต่งงาน...จะออกหัวหรือออกก้อยยังไม่รู้เลย?”
“ก็เพราะยังไม่รู้ถึงต้องมาไงล่ะ”
... “โยนกบูรพา” เป็นหนึ่งในสี่หมู่บ้านที่รวมกันเป็นตำบล “โยนกจัตุรัส” คือสถานที่ๆฉันกำลังจะไปถึงในอีกไม่กี่อึดใจ...แม่ของฉันกับพี่กุนเคยใช้ ชีวิตอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดจนถึงวัยสาวก่อนจะแต่งงานกับพ่อสมควร...จะว่า ดีใจก็ดีใจที่ได้มาแต่ความกังวลนี่...
“บุศยาเป็นหญิงร้าย...วันนี้ไล่ได้กันท่าได้แต่รุ่งขึ้นก็เชิดหน้าชูคอกลับมาใหม่ทั้งที่ฝนกับเจ๊พยายามขัดขวางแต่ก็ระวังไม่ได้ตลอด”
“ฝนกับแคททำดีแล้วจ้ะ”
“................................................”
“เราไม่ได้ละเลยหน้าที่แต่เรื่องหยุมหยิมไม่อยากจะบอก”
“สารู้--”
...ใคร จะเชื่อว่าเมื่อต้นเดือนชีวิตรักของฉันกับบอลยังราบรื่นหวานชื่นกันอยู่แต่ พอเข้าช่วงปลายกลับมีแต่ปัญหามารุมเร้า?...ฉันไม่คิดว่ามันเพิ่งจะเกิดหรอก เพียงแต่สะสมพอกพูนขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งมาระเบิดตูมเมื่อถึงเวลาเท่านั้น เอง...นี่คือความรู้สึกของฉันซึ่งมันต้องไม่ผิดแน่!!!...
“บ้านหลังนั้นมีงานเลี้ยงหรือ?”
“เอ่อ--...มีไปแล้วเมื่อคืนวานค่ะ”
“ฝนยังได้ขึ้นเวทีไปเดี่ยวตั้งหลายเพลงแน่ะพี่กุน”
“เหรอจ๊ะ?”
“ร้องถึงตีสี่กว่าๆด้วยค่ะ”
“โห!?...ไม่เบานะเธอเนี่ย?”
“ชะ...ใช่ซะเมื่อไหร่?...พี่แคทมั่วละ!!”
“มั่วตรงไหน?”
“ตีสี่อะไรกัน?...แค่...หงึ!!...หนู...หนูไม่พูดด้วยแล้ว!!!”
“ฮิๆ”
...แล้ว ฝนก็นั่งเงียบกริบโดยที่มองไปทางอื่นแต่หน้างี้แดงก่ำ!?...ฉันว่าพี่แคทกับ เธอคงจะมีความลับอะไรกันเมื่อเร็วๆนี้แน่แต่จะเป็นหรืออยู่ใน “ระดับ” เดียวกับฉันและพี่กุนก็ยังไม่รู้...เหตุการณ์ที่โรงแรมเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน หากไม่นับฉันที่ถูกบอลชำเรารูหีในท่าหมาอย่างถึงพริกถึงขิงร้องกระสันคราง แข่งกันอย่างมีความสุขแล้วทั้งพี่กุนและน้องอ้อยต่างก็กำลังมีความสัมพันธ์ ที่เกินเลยกับแม่ตัวเอง...แม่โอวเอวพี่กุนๆก็ลูบไล้แผ่นหลังท่านส่วนน้อง อ้อยกำลังถอดเสื้อผ้าป้าศรีให้เหลือแต่กางเกงในตัวเดียวเหมือน เธอ...อ้อ!!...บอลคงจะเคยเล่าไปแล้วมั้งว่าป้าศรีอายุมากกว่าแม่เขาปีหนึ่ง ดังนั้นจึงเรียกป้าซึ่งก็ไม่ผิดอะไรแต่สำหรับฉันกับพี่กุนแล้วความจริงต้อง เรียกว่าน้าศรีเพราะเธออายุน้อยกว่าแม่หลายปี...พอฉันบอกจะเรียกน้าก็ปฏิเสธ ว่าเดี๋ยวคนอื่นเค้าจะงงเลยให้เรียกป้าเหมือนบอลนั่นแหละดีแล้ว...
(“ว้าว!!...กางเกงในของแม่เซ็กส์ซี่จัง”
“ก็...เอาใจพ่อม่ายเขาจ้ะ...อย่าดังนะเดี๋ยวบอลมาโวยแม่อีก...มาใกล้ๆจ้ะแม่จะถอดให้ลูกมั่ง”
“ยังอายอยู่เหรอ?”
“ค่ะ”
“ปล่อยตัวตามสบายอย่าเกร็ง...ถือว่าเป็นการเรียนรู้นะจ๊ะ”
...พี่ กุนเคยสารภาพกับฉันว่าแม้รู้สึกกระดากอายอยู่บ้างแต่ให้ถือซะว่านี่คือการ เรียนรู้...สักพักแม่คงจะทนไม่ไหวดันร่างพี่กุนลงนอนหงายแล้วก้มจูบปากพี่ กุนๆก็เผยอปากจูบตอบอย่างเป็นธรรมชาติและค่อยๆดันลิ้นเข้าไปในปาก แม่...ใช่!!!...แม่เป็นคนสอนให้ฉันกับพี่กุนรู้จักการจูบอย่างดูดดื่มรวม ทั้งกลเม็ดที่ช่วยมัดใจบอลซึ่งมันเกิดขึ้นหลังจากที่รู้ว่าพวกเราสามแม่ลูก ต่างก็ตกเป็นคู่นอนของบอลกันถ้วนหน้า...
“อืมมมมมมมมมมมมมมม...จูบเก่งนะลูก...แบบ...แบบนั้นล่ะ...อื้ออออออออออออออ”
“ได้วิชาจากแม่เยอะ”
“ฮิๆ”
“โอ๊ววววววววววววววว...สาจ๋า~~...ผะ...ผมใกล้จะออกแล้วววววววววววววว”
“แหมรอด้วยซี่~~...อูยยยยยยยยยยยยยยย...สา...สาก็จะออกเหมือนกัน...ซีดสสสสสสสส”
“อ๊าววววววววววววววว...แตกแล้วววว...น้ำแตกแล้วววววววววววว”
...บอล โน้มตัวทาบบนหลังพร้อมหลั่งน้ำอสุจิเข้าสู่ช่องคลอดของฉัน...ยกแรกเขาเย็ด พี่กุนและปล่อยน้ำออกข้างนอกให้พวกเราห้าสาวดูดเลียส่วนยกนี้ก็เป็นทีของฉัน ซึ่งไม่รู้ว่าบอลจะมีเรี่ยวแรงร่วมเพศให้ผู้หญิงครบทุกคนหรือเปล่าแต่เราก็ มีวิธีรับมือในกรณีนั้นอยู่แล้วคือแม่เอาของเล่นมาเพียบเลยละไม่ว่าจะควย ปลอมแบบหัวเดียวหรือสองหัว,แท่งเม็ดปุ่มยางสำหรับสอดยัดทางรูตูดรึจะสายคาด หนังพร้อมไอ้จู๋ดุ้นเขื่องแถมป้าศรียังสั่งซื้อไวเบรเตอร์ทูอินวันมาจากใน เน็ตสองอัน...
“ไอ้นี่ยัยขวัญเพื่อนหนูมีค่ะ!...ดุ้นใหญ่เสียบหีแล้วดุ้นเล็กเอายัดก้น”
“เหรอ?...ไวไฟจังนะเพื่อนลูกเนี่ย”
“เวลาแฟนไม่มานอนด้วยขวัญจะใช้ทุกครั้งค่ะ...บางทีถึงจุดสุดยอดหลายครั้งจนหมดแรงหลับไปทั้งที่เจ้านี่ยังเสียบคารูเลยแหละแม่”
“แม่ก็เพิ่งเคยเห็นน่ะ...มันแปลกดีเลยสั่งซื้อมาฝากอ้อยกับหนูสา”
“คงแพงสินะคะ?”
“ไม่เท่าไหร่หรอกจ้ะ”
“ซื้อมาฝากน้องอ้อยแต่ไม่มีไว้ใช้เอง?”
“แบบ นั้นได้มีคนน้อยใจใหญ่แน่ๆเลยหนูกุนจ๋า~~...อ้อ!!...หัวใหญ่นี่เส้นรอบวง นิ้วครึ่งส่วนหัวเล็กครึ่งนิ้วใช้ถ่านสองก้อน...สนุกได้พร้อมกันสองรู”
“ดีจัง...หนูจะได้ไว้ใช้เวลาพี่บอลไม่สู้”
“โอ้โห!?...ดูถูกกันซึ่งหน้าเลยนะน้อง”
“หมายถึงเวลาพี่ล่อกับพี่สาหรือป้ากวางจนไม่มีแรงมาเย็ดอ้อยค่ะ”
“อื้อ!!...เธอคนเดียวไม่มีทางทำให้ผู้หญิงสามสี่คนสงบลงได้แน่...มันจึงต้องมีตัวช่วย”
“แล้วไปครับ”
...บอล พาฉันไปนั่งล้วงหีจับควยกันที่โซฟายกเตียงนอนให้สี่สาวน้อยสาวใหญ่บรรเลง เพลงกามอย่างเต็มที่เริ่มจากแม่เข้าด้านหลังสอดแขนลอดรักแร้เอามือคลึงหน้า อกพี่กุนพลางใช้นิ้วบี้ที่หัวนมพร้อมแลบลิ้นเลียไปตามติ่งหูเรื่อยลงถึงต้น คอ...พี่กุนแหงนหน้าสูดปากตาปรือครางออกมาเบาๆเหมือนพยายามเก็บอาการแต่มือ เธอขยุ้มที่นอนแน่นเชียว...แม่ยังเล้าโลมปลุกอารมณ์ลูกสาวคนโตไม่หยุดเมื่อ มือที่เหลืออีกข้างละจากเต้านมข้างซ้ายเลื่อนลงต่ำไปแถวๆใต้สะดือซึ่งบริเวณ เนินเนื้อตรงนั้นมีขนขึ้นรกดำขลับคล้ายกับของฉัน...
“แล้วแม่ลูกคู่นั้นทำไมยังไม่ถอดกางเกงในเหมือนคู่นี้ซะที?”
“จะรีบร้อนไปไหนจ๊ะพ่อหนุ่ม?”
“อยากดูของดีก็ต้องใจเย็นนะคะพี่”
“ไม่รู้ละ!...ถ้าภายในสามนาทียังไม่ถอดเดี๋ยวจะลุกไปดึงกางเกงในออกทั้งแม่ทั้งลูกเลย”
“ฉันนั่งทับควยอยู่นี่นายลุกไม่ได้หรอกย่ะ!!”
“เออแฮะ”
“ฮะๆๆ”
“มาสนุกด้วยกันมั้ยสา?”
“ขอดูเฉยๆดีกว่าค่ะ...หนูน่ะเมื่อไหร่ก็ได้แต่พี่นั่นแหละสนุกให้เต็มที่เลย...นานๆจะกลับบ้าน”
“งั้นพี่ไม่เกรงใจนะ”
“เร็วๆลูก...แม่แหกหีรอจนเมื่อยแล้ว”
...อ้อย กับป้าศรีถอดแพนดี้แล้วก็ลุกมานั่งใกล้ๆพวกเรา...เวลานี้ควยบอลพองแข็งตัว เต็มที่แล้วอ้อยหันมาเห็นจึงรีบคว้ามันเข้าปากทันทีโดยป้าศรีรับอาสาเอาฟัน ขบงับหนังพวงสวรรค์แบบพอเสียวๆ...บอลเริ่มสูดปากหายใจแรงขึ้นและมือเขาก็โอบ ตัวฉันแน่นขึ้นด้วยส่วนตาก็จับจ้องมองไปข้างหน้า...พี่กุนหยิบไวเบรเตอร์อัน สีแดงที่ป้าศรีซื้อมาฝากฉัน(ของน้องอ้อยสีเขียว)แต่แม่กวางจะขอใช้ก่อนเป็น การทดสอบคุณภาพ(เธอว่างั้น)...
“ยังไงก็สู้ของผมไม่ได้”
“แหม~~...จะเอามาเทียบกันได้ยังไง?”
“สาอย่าใช้มันบ่อยจนลืมของจริงล่ะ...อ้อยด้วย”
“ไม่แน่นา--...ถ้าบอลไม่กลับมานอนบ่อยๆระวังจะเสียเมียให้เจ้านี่ไม่รู้นะ”
“ฮึฮือ!!...วันไหนมันทำหน้าที่เกินตัวผมโยนทิ้งแน่”
“ว่าเข้าไปนั่น”
“ฮิๆ”
...อ้อย หยิบไวเบรเตอร์สีเขียวพลิกดูไปมาพลางบอกว่าคืนนี้เธอจะลองใช้โดยที่พูดไปก็ กลืนน้ำลายไป...น่าอยู่หรอกเพราะถึงมันจะไม่ยาวไม่ใหญ่แต่ตรงส่วนหัวนี่ น้องๆควยบอลเชียวนะ...โดนเข้าไปคงน้ำตาแทบเล็ดแบบที่แม่กวางเป็นอยู่นี้... พี่กุนเอาไวเบรเตอร์เข้าปากอมและตวัดลิ้นเลียก่อนเอาปลายถูขึ้นลงกับหีแม่ กวางสองสามทีก็ค่อยๆยัดมันเข้าไป...
“โอ๊ววววววววววววววว...ดะ...ดีจ้ะลูกกุน...เอาเข้ามาอีก...อูยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย...หัว...หัวมันใหญ่ใช้ได้เลยนะนี่”
“อีกหัวนี่จะว่าไงคะ?”
“จะว่าไง?...ก็แยงเข้าอีกรูเลยสิลูกจ๋า!!!...อื๊ออออออออออออออ”
...พอ พี่กุนจับปลายอีกแท่งยัดรูก้นแม่กวางก็ร้องครางลั่นห้องเพราะรู้สึกไว เบรเตอร์จะควงสั่นได้แรงมากชนิดที่นั่งห่างออกมายังได้ยินเสียงชัดเจน...แม่ กวางหลับตาปี๋เอามือบีบขยำแก้มก้นตัวเองแถมร้องดังมากจนน้าศรีกับอ้อยจ้อง กันตาเยิ้ม(สงสัยอยากลองมั่ง)ฝ่ายบอลก็ไม่น้อยหน้านั่งชักว่าวด้วยสีหน้า จริงจังมาก...
(ระวังกระสุนจะหมดซะก่อนนะยะ!!)
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย...สั่นแรงจริงๆ...ของดีๆ...ซีดสสสสสสสสสสสสสสสส”
“เป็นไงคะแม่?”
“สะ...เสียวมาก...เสียวมากๆจ้ะ...อูววววววววววววว...อันที่อยู่ในตูดก็พลอยสั่นไปด้วย...อืมมมมมมมมมมมมมมม”
...แม่ กวางแทบพูดไม่เป็นภาษาเมื่อเจอฤทธิ์เจ้าสองหัวเข้าไปทั้งขยุ้มทั้งจิกที่นอน จนยับไปหมดพี่กุนก็ดูท่าจะหมั่นเขี้ยวจับด้ามไวเบรเตอร์ชักเข้าชักออกเร็ว ขึ้นเรื่อยจนบางจังหวะหลุดออกมาทำให้พวกเราเผลออุทานด้วยความใจหายวาบตามไป ด้วย...
“ชอบใจไหมคะพี่กวาง?”
“อืม--...ก็ดี...มันเล็กไปนิดแต่...แต่...สั่นควงแรง...ใช้ได้...อ๊าววววววววว...เที่ยวนี้ออกเร็ว...ซีดสสสสสส”
“น้ำของแม่ออกเยอะจัง”
“เจอเข้าไปตั้งสองรูจะไม่ออกยังไงไหว?...อัน...อันนี้พอก่อนจ้ะกุน...เรามาใช้แท่งสองหัวเล่นเสียวพร้อมกันดีกว่า”
“ค่ะ”
...พี่ กุนดึงเจ้าสองหัวออกโดยมีน้ำหล่อลื่นเกาะอยู่รอบๆจำนวนมากซึ่งปริมาณขนาดนี้ แม่กวางก็น่าจะเสร็จไปแล้วแต่เพราะอยากจะให้ลูกสาวคนโตมีความสุขด้วยจึง เรียกหาเจ้าท่อนยางขนาดยาวสีเนื้อที่สามารถสอดใส่ได้ทั้งสองคนหรือคนเดียว แต่สองรูพร้อมกันก็ได้...พี่กุนเป็นฝ่ายถ่างขาก่อนขยับตัวเข้ามาใกล้แม่กวาง ที่หุบขารอ...สองสาวต่างคลานโก้งโค้งมองลอดหว่างขาคุยกัน...
“จะเอารูไหนก่อน?”
“แล้วแต่แม่ค่ะ”)
“สา”
“..............................................”
“ยัยสา!?”
“หะหา?”
“จะว่าไงบ้างเล่า?”
“โทษ...โทษทีฉันไม่ได้ฟัง...ว่าอีกทีซิ”
(กำลังย้อนเวลาหาอดีตซะเพลิดเพลินเลยยัยฝนดันขัดจังหวะซะได้)
“เรื่องของบุศยา...”
“ฉันเกลียดอีนี่!!!!”
“เสียงดังไปแล้ว!”
“หนู เกลียดขี้หน้านังคนแย่งผัวชาวบ้านนี่!!!...พี่จำตอนที่เจอมันครั้งแรกได้ มั้ย?...น่าโมโหนักที่ยังไม่รู้ไม่งั้นล่ะก็จะตบให้ดิ้นพราดๆคาสระว่ายน้ำ เลย!!!!”
“เอาเถอะ...ยังไงทั้งสองก็มีภาษีเหนือกว่าเยอะ”
“ทำไมหรือ?”
“เรารู้มาว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีแค่บอลแต่ยังมีชายอื่นมาติดพันด้วย”
“คือพี่แคทกำลังสงสัยว่าแม่นั่นจะเป็นนิมโฟมาเนีย”
“นิมโฟ...มาเนีย!?”
“โรคขาดผู้ชายไม่ได้ไงล่ะหรือในอีกแง่คือขาดเซ็กส์ไม่ได้...เนอะ?”
“ยังสรุปไม่ได้...บางทีเธออาจจะมีความต้องการทางเพศสูงกว่าปกติเท่านั้น”
“แคทรู้จากไหนเหรอ?”
“หนูถามคุณหมอมาค่ะ”
“หมายถึงบุศยาน่ะ”
“เอ่อ--...จากแหล่งข่าวส่วนตัวจ้ะ”
“ก็นะ...พอไม่ได้ปลดปล่อยมานานมันย่อมจะรุนแรงมากกว่าปกติอยู่แล้ว...ใครๆก็เป็นทั้งนั้น”
“สาด้วยรึ?”
“เธอก็ด้วยย่ะ!!”
“ไม่จริงสักหน่อย~~”
“อย่า!!...ชอบทำที่นอนฉันเลอะอยู่เรื่อยโดยเฉพาะเวลาอยู่บ้านคนเดียว”
“นั่นมันเหงื่อตังหาก”
“แหม!...เอาไปหลอกเด็กอนุบาลเถอะหล่อน!!”
“หึหือ~~”
...ยัย ฝนเพื่อนร่วมห้องของฉันเนี่ยใครอย่าคิดว่าไร้เดียงสาไม่รู้อะไรเชียวนะ!?... แม่นี่แหละตัวดีเลยเวลาอยู่คนเดียวไม่มีอะไรทำก็จะชอบสำเร็จความใคร่อย่าง เช่นวันหนึ่งฉันจอดรถที่ริมรั้วแล้วเดินเข้ามาเอาเอกสารที่ลืมไว้ซึ่งฝนคงจะ ไม่ได้ยินเพราะเมื่อฉันเปิดประตูห้องเข้ามาก็เห็นเรือนร่างที่เปลือยเปล่า ของเธอในอริยาบถแบะขาท่ายกล้อใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางเขี่ยติ่งเกี่ยวเบ็ดและ อีกมือก็เคล้นบีบหน้าอกตัวเอง...ฉันล่ะตกใจซะไม่มีแต่ฝนกลับมองด้วยใบหน้า ยิ้มแย้ม...
“เห็นหมดแล้วเหรอ?”
“ฮื่อ~~...ก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะแต่ล็อคประตูสักหน่อยเซ่!!”
“ไม่มีใครมาเห็นหรอก”
“เร่าร้อนเหมือนกันนี่เธอ?...หาแฟนสักคนสิ”
“ยังไม่เจอ...คนถูกใจอ่ะ”
“อะไรกัน?...อย่างเธอนี่มีมาให้เลือกนับไม่ถ้วนเลย”
“อึ๊บ!!...คงต้องใช้นิ้วไปพลางๆก่อนน่ะเพราะเจ๊เค้าไม่ยอมให้ฉันมีแฟนหรอก”
“แล้วข่าวลือที่ว่าเธอกับพี่แคทเป็นเลสเปี้ยนน่ะจริงแน่ใช่ป่าว?”
“ได้ยินจากใครรึ?”
“บอล”
“ฮะๆ...อย่างตานั่นจะรู้อะไร?”
...ฝนหัวเราะพลางลุกเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันปิดร่างกายแล้วพูดว่าบอลก็ยังไม่ค่อยเข้าใจผู้หญิงดีพอ...
“ฉันชอบผู้ชายแต่ก็ไม่ปฏิเสธผู้หญิงนะ...โดยเฉพาะเธอ”
“บะ...บ้าสิยะ!!!”
“ไม่บ้าหรอก...ก็เหมือนพี่แคทแหละ”
“สงสัยฉันคงต้องอยู่ห่างๆเธอไว้บ้าง”
“เฮอๆ...ถ้าฝนพอใจซะอย่างต่อให้หนีไปอยู่ที่ไหน...”
“ว้าย!!...เรื่องอะไรมาจับอกฉัน!?”
“เคะๆๆ...อย่างไรก็ไม่รอดร้อก!!!”
“ยัยนี่~~...จะหันมาเล่นกันเองซะแล้วเรอะ?”
“เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีเถอะ...ฮิ!!”
...ส่วน กรณีของพี่แคทก็น่าตื่นตระหนกไม่แพ้กันนั่นคือกลางดึกคืนหนึ่งที่อากาศร้อน อบอ้าวและมีแค่พวกเราสามคนอยู่บ้านเพราะแม่พาน้องอ้อยไปหาป้าศรีที่กรุงเทพฯ ส่วนบอลนอนค้างที่หอพัก...ฉันรู้สึกเหนียวตัวจึงลงมาอาบน้ำ...
“พะ...พี่แคท!?”
“อาบด้วยนะจ๊ะ”
“คะ...ค่ะ”
...เป็นไปได้ไงก็ฉันล็อคลูกบิดประตูห้องน้ำแล้ว?...อื๋อ!?...ไอ้ที่อยู่ในมือพี่แคทนั่นมันเส้นลวดไม่ใช่หรือ?...
“ลวดนั่น...”
“...ไม่ต้องล็อคประตูก็ได้น่ะ”
“เอ่อ--”
...พี่แคทปลดผ้าขนหนูพาดที่ราวก่อนเดินมาหาฉันเห็นท่าไม่ค่อยดีจึงจะลุกแต่ก็ถูกเธอจับแขนไว้...
“อุ๊ย!!...จะทำอะไรคะ?”
“อย่าทำท่ารังเกียจกันอย่างนั้นสิ”
“สะ...สาไม่ได้มีรสนิยม...”
“โกหกน่ะ...ฉันรู้ว่าเธอแอบไปนอนกับน้องอ้อยตั้งหลายครั้ง...จะบอกว่าไปติวหนังสือกันงั้นหรือ?”
...ได้ ใจใหญ่แล้ว!!!...พอพี่แคทเห็นฉันเงียบก็เข้าสวมกอดทางด้านหลังและเริ่มลูบ ไล้ไปตามเนื้อตัวบวกกับกลิ่นหอมจากเส้นผมของเธอมันก็ทำให้ฉันรู้สึกใจหวิวๆ จนเผลอครางออกมาในที่สุด...
“อย่า...อย่าค่ะ~~...พี่...พี่กินเหล้ามาเหรอ?”
“แค่ เบียร์สองสามอึกเท่านั้น...หัวค่ำเล่นไพ่กับฝนโดยใครแพ้ต้องเปลื้องผ้าออกที ล่ะชิ้นๆ...พอพี่แก้หมดแล้วก็ต้องดื่มเบียร์แทน...ฮิๆๆ...พี่แพ้เกือบทุกตา เลยล่ะ”
...ลูกสาวนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ชวนกันเล่นไพ่แก้ผ้า?...ฝนยังพอ ทำเนาแต่พี่แคทกลับเอากะเขาด้วยและอะไรก็ไม่ประหลาดเท่ากับที่เจ้าหล่อนซด เบียร์แค่สองสามอึกก็เมาตาเยิ้มแบบนี้ฉันไม่เคยพบเคยเห็น!!...เดี๋ยว นะๆ!?...เล่นไพ่แต่หัวค่ำแล้วเพิ่งจะออกมาป่านนี้งั้นเหรอ?...ไม่ๆ...เหตุ ปัจจุบันคับขันกว่า...ขืนปล่อยไว้ฉันต้องโดนพี่แคทปล้ำแน่นอน!!!!...
“ใครอยู่ในห้องน้ำ?”
“บะ...บอลกลับมาเหรอ?
“.............................................”
“คืนนี้อยากมานอนบ้าน”
“พี่แคท...บอลกลับมาแล้ว...ถ้าเขารู้เข้าจะไม่ดีนะคะ”
“...ชิ!!...มารคอหอยจริงๆ”
...นั่นแหละฉันถึงได้รอดพ้นจากพี่แคทอย่างหวุดหวิดที่สุดถึงแม้ในส่วนลึกจะรู้สึก “เสียดายนิดๆ” ก็ตาม...
“สา”
“.............................................”
“ยัยสา!!”
“เอ้ย!!!”
“เหม่ออะไรอีกแล้วน่ะ?”
“ปละ...เปล่า”
(คิดเพลินจนเยิ้มแฉะเต็มเป้าเลยเดี๋ยวเปลี่ยนกางเกงในใหม่ดีกว่า...หวาย~~...พี่แคทเหลือบตาดูเราผ่านกระจกมองหลังแล้วก็ยิ้มให้ด้วย)
“เรา...เรามาช้าไปหรือเปล่าฝน?”
“สาพูดอะไรเนี่ยฟังไม่เข้าใจ?...เรามาถึงก่อนเวลาตั้งยี่สิบนาที”
“............................................”
......................................................................................................................................

“ยินดีต้อนรับทุกท่าน...ขอเชิญที่ห้องโถงใหญ่เจ้าค่ะ”
“นั่น?”
“อะไรหรือคะพี่สา?”
“ดูเก้าอี้ในห้องสิอ้อย...ตรงกลางมีเก้าอี้ยาวหนึ่งตัวแล้วทางซ้าย...แปดส่วนทางขวาสี่”
“ตรงนี้ก็มีนับสิบตัว...จะนั่งไหนก็ได้หรือ?”
“มิได้เจ้าค่ะคุณศกุนตลา...เก้าอี้ใหญ่เป็นของนายท่านเอกบดินทร์แลนายหญิงอุทุมพรส่วนเก้าอี้ทั้งสี่ด้านขวา...”
“ตัวแรกของพี่เอ็มและตัวที่สามกับสี่ก็ของยัยภากับยัยนีย์”
“เก้าอี้ประจำตัว!?...มีแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย?”
(มีบ้านไหนเมืองไหนเขาทำอะไรแปลกๆกันอย่างนี้บ้าง?...ถ้าเป็นเจ้านายใหญ่โตก็ว่าไปอย่าง)
“คุณแม่คะ”
“แม่กับป้ากวางรู้มานานแล้วจ้ะแต่ไม่ได้บอก”
“ก็ใครจะรู้ล่ะศรีว่าวันนี้เรามีวาสนาได้มาที่นี่?”
“อือ--...กุนพอจะเข้าใจแล้วกับตำแหน่งเก้าอี้ทั้ง 8 นี่...แคทนั่งตัวที่สอง?”
“ค่ะ”
“ฝน...เธอนั่งไหน?”
“ตัวที่เจ็ดถัดจากตาบอล”
(นั่นก็คือบอลเป็นลูกหลานที่มีอาวุโสลำดับที่ 6 จากทั้งหมด 8 คน)
“งั้นพวกเรา...”
“ผู้ที่มิได้มีสายเลือดของวิษณุมนตรีฤาผู้ที่เป็นแขกมาเยือนจะต้องนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับของนายท่านแลนายหญิงเจ้าค่ะ”
“หา!?...ภรรยามากับสามีแต่จะนั่งด้วยกันก็ไม่ได้หรือไง?”
“นี่คือธรรมเนียมปฏิบัติของเราที่มีมาเนิ่นนาน...คุณสาวิตรีได้โปรดเข้าใจด้วยเจ้าค่ะ”
“ใจเย็นน่า--...ขนาดป้อฝนมาที่นี่ก็ยังต้องแยกนั่งกับมะม๊าเลย”
...มัน อะไรกันนักกันหนา!!!...แค่จะนั่งจะยืนยังเรื่องมากถึงขนาดนี้เลยเรอะ?...พี่ กุนเห็นอาการเลยดึงมือฉันเป็นเชิงบอกว่า “ทำตามเถอะจะได้ไม่มีปัญหา” ส่วนอ้อยก็มองมาที่ฉันพลางพยักหน้าเห็นด้วย...
(นั่งก็นั่งสิฟะ!!)
“ระหว่างที่รอนายท่านแลนายหญิงมาถึง...ขอเชิญทุกท่านรับประทานอาหารแลเครื่องดื่มที่ทางเราจัดเตรียมไว้เจ้าค่ะ...เข้ามาได้”
...เจอ เรื่องแปลกอีกแล้ว!!!...ที่เดินถือถาดอาหารทั้งขนมและผลไม้เรียงแถวกันมาน่ะ เด็กสาวๆวัยยังไม่ถึงทำบัตรทั้งนั้น...อื๋อ!?...แม่หนูคนสุดท้ายไหงสีผมถึง ได้ประหลาดกว่าเขาล่ะ?...กะจะถามพี่แคทก็พอดีเธอกับฝนโพล่งออกมาซะก่อน...
“น้องป้อม?”
“ยัย...ยัยตัวกะเปี๊ยก!?...เล่นตลกอะไรอีกเนี่ย?”
“หยุดนะ!...ถ้าพี่ฝนแกล้งล่ะก็หนูจะฟ้องตาแก่แน่...นั่งเฉยๆเลย!!”
“จะเฉยได้ไง?...สารภาพบาปมาซะดีๆ”
“วึ!!...ชอบมองคนอื่นเหมือนตัวเองอยู่เรื่อย”
“ว้าก!!!”
“ขนมชั้นที่ยายทำ...ของโปรดพี่ฝนใช่หรือไม่?”
“อึ๊!!”
“ถ้าอยากกินก็นั่งเงียบๆไม่อย่างนั้นหนูจะโยนมันออกไป...หนึ่งสอง...”
“ยะ...อย่าน๊ะ!!...พี่ยอมแล้วพี่ยอม!!!”
“ฮี่ๆ”
...เล่นเอาของโปรดมาเป็นตัวประกันแบบนี้ยัยฝนก็หงอน่ะสิ!?...อืม--...แม่หนูนี่ก็นับว่าแน่เหมือนกัน...
“เด็กคนนี้?”
“หนูป้อมลูกสาวคนสุดท้องของพี่เอ็ม...โตขึ้นมากเลย”
“เจ๊”
“ไม่รู้จะมาไม้ไหนอีก?”
“ปรากฏตัวทีไรเป็นได้มีเหตุพิลึกๆทุกทีสิน่า”
“นั่นคือ...ลูกพี่ลูกน้องอีกคนใช่ไหมคะ?”
“อื้อ!...คนสุดท้องที่เป็นตัวแสบประจำบ้านเลย”
“จะนินทาก็ทำตอนเขาไม่อยู่สิ...พี่ฝนบ้า!!”
...แหม~~...ก็เหมือนเธอไม่ใช่เรอะแล้วยังจะไปว่าเค้าอีกแน่ะ!!...นั่นปะไรโดนมองตาเขียวเลย!?...
“ท่าทางจะอายุมากกว่าอ้อยนะคะพี่กวาง?”
“แค่ปีเดียวมั้ง?”
“จำได้แล้ว--...ศรีเคยเห็นตอนมางานบุญร้อยวันของยายเหมือนค่ะ...ตอนนั้นตัวนิดเดียวเอง”
“ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเธอเหมือนแม่จริงๆ”
“น้องป้อมลงทุนแต่งชุดสาวใช้เชียว?”
“เออเฮ่อ~~...ช่างไม่เข้ากันอย่างแรงอ่ะ!!”
“หึ!!... อย่างพี่ๆสองคนจะรู้อะไรแต่มันก็น่ายินดีไม่ใช่เหรอคะ?...ในฐานะที่หนูก็ เป็นเจ้าบ้านคนหนึ่งและขันอาสาออกมาต้อนรับบรรดาว่าที่พี่สะใภ้ในอนาคตด้วย ตัวเอง”
...แม่สาวน้อยผมเปียคู่สีทองแซมริ้วดำปากสนทนากับฝนและพี่แคทแต่ ปรายหางตามาที่พวกเราสามคนโดยเฉพาะพี่กุน...งานนี้เห็นทีว่าคงจะไม่ได้รับ ไมตรีจิตที่ดีจาก “น้องสาว” คนนี้ของบอลเป็นแน่เพราะลางสังหรณ์มันฟ้องอย่างชัดเจน...นั่นไง!!!...พอเธอ เสริฟ์ขนมมาถึงน้องอ้อยก็ร้องเอะอะขึ้นทันที...
“อะไรกันน่ะเธอ!?”
“คะ?”
“อย่าบอกนะว่าเธอกับพี่ชายก็...”
“..............................................”
“ดูไปดูมาอายุเธอก็ไม่น่าจะห่างฉันเท่าไหร่แต่ริอ่านจะมีผัวแล้วงั้นเร๊อะ!?...ชื่ออะไร?”
“ชื่อ...ชื่ออ้อยจ้ะ”
“ฉันจะต้องจำหน้าเธอไว้สักหน่อยแล้ว--”
..................................................................................................................................

...ตอนที่แล้ว ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 51 ...
...ตอนต่อไป Wannaluck Sidestory 1 ...

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 51

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 51 “อดีต!?”

...มนุษย์ทุกคนต่างมีอดีต ด้วยกันทั้งนั้นซึ่งไม่ว่าจะดีหรือร้ายแต่มันก็คือบทเรียนที่สำคัญในการดำรง ชีวิต...เรื่องที่ดีควรค่าแก่การจดจำก็นำมาเป็นแบบอย่าง...เรื่องที่ไม่ดี สมควรลืมเลือนหรือเอามาเป็นสิ่งเตือนใจไม่ให้ก่อเหตุซ้ำและเพื่อ...ขอแก้ไข อีกครั้ง...

“นานทีปีหนเอาอัลบั้มรูปเก่าๆมาทำความสะอาดหน่อยก็น่าจะดี...เอ๊ะ?”
“..............................................”
“ความจริงฉันไม่เคยคิดที่จะยกโทษให้คุณเลยนะคะแต่ก็ไหนๆคุณก็ตายไปนานแล้วจะมามัวฟื้นฝอยหาตะเข็บก็ใช่ที่”
“ป้าคะ...พวกคุณลุงจะมาถึงกี่โมงคะ?”
“...คงราวๆบ่ายสามหรืออย่างช้าก็สี่โมงเย็นจ้ะ”
“งั้นพี่แคทกับฝนก็จะถึงบ้านก่อน”
“มีพวกเธออยู่ด้วยน่ะดีแล้ว...อย่างน้อยก็ทำให้พวกหนูสบายใจขึ้นได้บ้าง”
“หนูรู้มาว่าคุณป้า,แม่ศรีและแม่ของพี่บอลเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก”
“จ้ะ...พวก เราทั้งสามสนิทสนมรักใคร่เหมือนเป็นพี่น้องแท้ๆแต่พอโตขึ้น...ป้ากับรัญภรณ์ กลับต้องมาแย่งชิงผู้ชายคนเดียวกันนั่นก็คือลุงภพ”
“คุณศรมรกตเกี่ยวข้องด้วยหรือเปล่าคะ?”
“เกี่ยวมากเพราะเธอคือผู้ที่ขีดเส้นชะตาชีวิตให้ทุกคนเดินโดยที่ไม่มีใครยินยอมพร้อมใจเลยไม่ว่าจะป้าหรือลุงภพ”
“แล้ว...คนที่อยู่ในรูปนั่นคือ?”
“สมควร...พ่อของกุนกับสาที่เสียไปหลายปีแล้วไงจ๊ะ...นี่เป็นรูปถ่ายตอนหนุ่ม”
“อ้อยไม่เคยเห็นมาก่อน...เก่ามากเลยค่ะ”
“เขา เองก็เป็นผู้หนึ่งที่ถูกคุณศรมรกตบงการชีวิตทั้งๆที่รู้ความจริง ทุกอย่าง...รู้ทั้งรู้ว่าโดนหลอกใช้ให้เป็นเครื่องมือแต่ก็ยังเต็มใจ”
“..............................................”
(“สาแก่ใจคุณแล้วใช่มั้ยคะ?”
“สาแก่ใจอะไรมิทราบ?...ฉันก็แค่ทำสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น”
“ถูกต้องหรือคะ?...เด็กสามขวบยังรู้ว่ามันเป็นการกลั่นแกล้ง!!!”
“งั้น คนบ้าก็รู้ความกับสิ่งที่หล่อนทำไปทั้งหมดเหมือนกัน!!!...หนอย~~...ยังมี หน้ามาย้อนถามฉัน!?...ตกลงต่อมสำนึกยางอายของเธอที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด นี่มันเหือดหายไปจากขุมกบาลกลวงๆนั่นหมดแล้วเรอะ?...เอากองทิ้งไว้ที่ กระท่อมกลางป่าโดยตั้งใจจะไม่หยิบกลับมาแล้วใช่มั้ย?...หญิงราคีแปดเปื้อน ที่มีสัมพันธ์กับชายอื่นแล้วอย่างเธอไม่มีทางจะได้มาร่วมวงไพบูลย์ของ ฉัน!!!!...ได้ยินชัดพอหรือยัง?”
“ที่สุดคุณศรมรกตก็เอาเหตุผลนี้เพื่อจะพรากความรักของฉันกับภพให้ได้”
“ความ รักกับเจ้าภพ?...อย่ามาใช้บทพูดนางเอกละครน้ำเน่าในทีวีแถวนี้!!...หล่อนน่ะ หายไปกับเจ้าสมควรถึงสามวันสามคืนเต็มๆจนแม้แต่พ่อแม่เธอก็ยังคิดเล้ยว่าเธอ ต้องเสร็จมันแน่...เจ้าสมควรหลงรักเธอมานานแค่ไหนใครๆก็รู้แล้วมีรึที่มันจะ ยอมพลาดโอกาสทอง?...หน้ามืดเป็นลมงั้นเรอะ?...ฉันว่ามันคงไม่ใช่หรอกม้าง~~”
“คุณศรมรกตอย่าดูหมิ่นฉันนะคะ!!!”
“คน อย่างหล่อนยังจะมีอะไรเหลือให้หมิ่นอีกยะ?...เฮอะ!!...งั้นก็เถียงสิว่าไม่ จริงแต่ฉันจะบอกเลยว่านอกจากคนปัญญาอ่อนเท่านั้นแหละที่เชื่อว่าแกยัง บริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่...ฉาวโฉ่เหม็นเน่าไปทั่วโยนกจัตุรัสแล้วยังไม่รู้ สำนึกตัวเจียมกะลาหัว...ฉันแปลกใจเหลือเกินที่ยังเห็นแกกล้าออกจากบ้านมา พบปะผู้คน...นับถือในความไร้ยางอายหน้าด้านมาก!!!”
“คุณคือคนที่เที่ยวป่าวประกาศจนทำให้ชื่อเสียงฉันเสียหาย”
“แล้วจะทำไม?”
“.............................................”
“.............................................”
“และคุณก็ถือโอกาสเข้ามาเป็นธุระจัดงานแต่งงานให้เพราะต้องการจะกำจัดฉัน”
“กำจัด?...ใช่!!...หนทางใดที่จะให้ย่อยยับได้ฉันยินดีทำทุกอย่าง!!!”
“เอกภพจะไม่ลืมฉัน...เขาจะจดจำฉันตลอดไปและสักวันหนึ่งในอนาคตเราต้องได้กลับมาครองคู่กัน”
“ดีนี่~~...แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นฉันขอหัวเราะเยาะในชะตากรรมของแกให้สะใจ...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”)
“จนป่านนี้ป้าก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะของผู้หญิงคนนั้นดังก้องอยู่ในหัว”
“ป้ากวางรักกับลุงภพมาตั้งแต่แรกจริงๆด้วย”
“แต่ คุณศรมรกตจะขัดขวางป้าตลอดเพราะเธอต้องการให้น้องชายได้แต่งงานกับรัญ ภรณ์...แม่ของบอลซึ่งเดิมทีเธอก็ไม่ได้ชอบใจอะไรรัญภรณ์เท่าไหร่แต่เพียงแค่ เอามาเป็นเครื่องมือเพื่อเขี่ยป้าออกไปเท่านั้น”
“แม่ของพี่บอลคืออดีตสาวรับใช้ที่หมู่บ้านโยนกอุดร”
“ศรีก็ด้วย...เข้ามาเป็นสาวรับใช้พร้อมๆกันเลยแต่ป้าปฏิเสธ”
“เอ๋?”
“คือพ่อแม่ของป้าก็หวังจะให้ได้เข้าบ้านวิษณุมนตรีในฐานะสาวรับใช้แต่ป้าไม่ยอม”
“ทำไมคะ?”
“เพราะป้าตั้งใจแน่วแน่ว่าหากจะเข้าไปอยู่ที่บ้านวิษณุมนตรีก็ต้องเป็นในฐานะลูกสะใภ้ไม่ใช่คนรับใช้...ป้าจะไม่ให้ใครมาค่อนแคะดูถูก”
“...............................................”
“ซึ่งนี่แหละที่ทำให้คุณศรมรกตเป็นเดือดเป็นแค้นป้ามาก...เธอบุกไปด่าป้าถึงบ้านเลยนะหาว่าหวังสูงเกินตัวไม่รู้จักเจียมกะลาหัวซะบ้าง”
“ด้วยเหตุผลเพียงแค่นี้เองเหรอคะ?”
“...ความ จริงเธอกับป้าก็ไม่ลงรอยกันมาก่อนหน้านั้นตั้งนานมากและที่จะเล่าให้ฟังต่อ ไปนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งในหลายๆครั้ง...ป้ายังจำได้ไม่ลืม...เวลานั้นที่ ตำบลโยนกจัตุรัสช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2518 เราสองคนแอบเจอกันบนยอดเขามิหวนกลับ”
“แอบพบกัน?”
“เพราะอีกไม่ถึง หนึ่งเดือนต่อจากนั้นป้าจะต้องแต่งงาน...ใช่...มันเป็นการกระทำที่ผิด ศีลธรรมแต่จะให้ทำยังไงล่ะก็ในเมื่อเรารักกันมากเหลือเกิน”
“หนูเข้าใจค่ะ”
“หลัง จากที่ทางผู้ใหญ่ของสมควรมาสู่ขอและตกลงสินสอดดูฤกษ์ดูยามเรียบร้อย...ลุงภพ ก็เอาแต่กินเหล้าเมายาไปวันๆไม่ยอมรับรู้อะไรทั้งสิ้นบางทีก็เอะอะโวยวายราว กับคนบ้า...ฝ่ายศรีทนไม่ไหวที่เห็นพวกเราไม่มีความสุขจึงอาสามาเป็นธุระ จัดการวางแผนให้”
“................................................”
“อ้อ อีกนิดหนึ่ง!...แล้วเพราะวันๆลุงภพเอาแต่เมาจนขาดสตินี่แหละคุณศรมรกตจึงส่ง รัญภรณ์มาคอยดูแลปรนนิบัติไม่ห่าง...ชายหนุ่มหญิงสาวอยู่ใกล้ชิดกันไม่อาจ หักห้ามใจกันได้หรอกดังนั้นทุกอย่างจึงเป็นไปตามที่คุณศรมรกตต้องการ”
“คุณป้าของพี่บอลช่างเป็นคนที่น่ากลัว”
“ใช่...ไม่ มีใครสักคนในโยนกจัตุรัสที่จะต่อต้านเธอได้...ลุงภพเป็นคนอ่อนโยนหัวอ่อนใจ ดีเกินไปส่วนอรนิภากับอรศินีย์สองพี่น้องฝาแฝดก็ยังอายุน้อยไม่มีสิทธิ์มี เสียงอะไร”
“คุณลุงกับพี่บอลนี่นับว่านิสัยเหมือนกันเลย”
“จ้ะ...สอง พ่อลูกจึงโดนคุณศรมรกตควบคุมได้ง่าย...ไม่ว่าทำอะไรหรือไปที่ไหนก็จะถูกล่วง รู้อย่างรวดเร็วเช่นตอนนั้น...ระหว่างที่ป้ากับลุงภพกำลังมีความสุขกันจวนจะ ถึงปลายทางอยู่แล้วจู่ๆประตูกระท่อมก็ถูกจนถีบพัง...พวกเราตกใจแทบจะสิ้น สติ”
(“พวกแก!!!!”
“ว้าย!!!!”
“พี่!!!...ทำไม?...ทำไมถึงรู้ว่าผมอยู่นี่?”
“คนอย่างแกไปไหนหรือทำอะไรมีรึที่ฉันจะไม่รู้น่ะหา!?”
“โยทะกา...แก!!”
“อย่าโกรธกันเลยนะ...ฉันไม่อยากให้แกทำผิด...”
“หุบ ปากไอ้เพื่อนทรยศ!!...ฉันอุตส่าห์สนับสนุนเต็มที่ให้แกได้ลงเอยกับพี่สาวแต่ แกทำกับฉันอย่างนี้เหรอ?...หลงนึกว่าเป็นเพื่อนรักที่ไว้ใจได้แต่สุดท้ายแก ก็คือไอ้งูพิษ!!!”
“คนที่ต้องหุบปากน่ะแกต่างหาก!!...รีบใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปข้างนอกทั้งคู่เลย!!!”
“..............................................”
“แก ไม่ต้องมองยัยเด็กศรีวิกาแบบนั้นเพราะมันก็แทบจะไม่รู้ตัวเลยซะด้วยซ้ำว่า พวกฉันมาถึง...เข้าใจคิดนี่--...ให้คนดูต้นทางและก็จะได้เสพสุขกันอย่างสบาย ใจแต่แกไม่มีความรู้สึกละอายใจอยู่ในหัวสมองบ้างเลยรึ?...กวางฤทัย...อี ผู้หญิงสำส่อน!!!”
“ถ้าพี่เอ็มจะด่ากวางก็ต้องด่าผมด้วยเพราะผมเป็นคนนัดเองครับ!!”
“นี่คือการยืดอกแสดงรับผิดชอบอย่างลูกผู้ชายในแบบฉบับของแกหรือ?”
“..............................................”
“เดือน หน้าผู้หญิงคนนี้จะแต่งงานกับไอ้สมควรส่วนแกก็หมั้นหมายกับน้องรัญ ภรณ์...ทุกสิ่งทุกอย่างตระเตรียมไว้หมดแล้ว...บอกฉันซิว่าน้องรัญภรณ์ทำความ ผิดอะไรแกถึงทำกับเธอได้ลงคอ?”
“..............................................”
“ถ้ายังไม่มีอะไรกันก็พอว่าแต่นี่แกได้เธอแล้ว...”
“กวางฤทัยก็ได้กับผมแล้วเหมือนกันครับ”
“ไอ้ภพ!!!...แกยังจะเถียงฉันข้างๆคูๆ”
“เอ็มใจเย็นๆ”
“ก็ฟังมันพูดสิโย!...ฟังมันพูด!!...มัน...มันไม่น่าเกิดมาเป็นน้องฉันจริงๆ!!!”
“พี่บีบบังคับผมทุกอย่าง...ทุกวันนี้ผมไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจได้เลยแม้กระทั่งการหาคู่ครองด้วยตัวเอง”
“แกก็จะได้คว้าอีผู้หญิงสำส่อนนี่มาเป็นเมียให้ผู้คนดูถูกเหยียดหยามตระกูลของเรา...พอ--...พอเลยแก!...ไป!!...กลับบ้านไปเดี๋ยวนี้!!!”
“พี่!?”
“โยทะกา!!”
“ไปน่า!...ขืนแกยังอยู่ตรงนี้เหตุการณ์มันจะยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม”
“ปล่อย!!...ไม่ต้องจับตัวฉัน!!!”
“..............................................”
“ผู้หญิงอย่างแกเหมาะสมกับกุ๊ยข้างถนนอย่างไอ้สมควรที่สุด!!...เลิกฝันลมๆแล้งๆซะที”
“ไม่...ฉันไม่มีทางยอมเลิกราง่ายๆ...ภพคือผู้ชายที่ฉันรักเพียงคนเดียว”
“..............................................”
“..............................................”
“แพศยา!!!...อีดอกอุตพิด!!!!”
“โอ๊ย!!”
“พี่กวาง!?”
“เสือกเหรออีเด็กเวร!!!...ยังโดนตบไม่พอใช่มั้ย?”
“ว้าย!!”
“เจ้ากี้เจ้าการเป็นต้นทางให้น้องฉันกับนังสำส่อนนี่ดีนัก!!!”
“หยุดนะคะ!!...ศรีไม่ผิด...ถ้าคุณอยากระบายโทสะก็เชิญมาลงที่ฉัน!!!”
“เล่นบทนางเอกน่าสงสารรึ?...ได้!!...จะฉลองศรัทธาให้...วันนี้ฉันจะตบให้แกขาดใจตายคาที่เลย!!!!”
“พี่!!!”
“ภา...ภามาได้ไง?...นีย์ก็ด้วย!?”
“ท่านพี่ศรมรกตน่ากลัวเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”
“อย่าเลยนะพี่เอ็ม”
“.............................................”
“ชิ!!...กวางฤทัย...ครั้งนี้เห็นแก่น้องสาวฉันแต่ครั้งหน้าโชคจะไม่เข้าข้างแกอีก...ไสหัวไป๊!!!!”
“รีบ...รีบไปค่ะพี่กวาง”
“.............................................”
“หน้าด้านที่สุด!!...ระเริงสวาทอยู่กับไอ้โจรชั่วสมควรถึงสามวันสามคืนแล้วยังจะมีหน้ามาพูดว่ารักเจ้าภพคนเดียว...อีดอกทอง!!!”
“ท่านพี่ศรมรกต...”
“ฉัน นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าได้กลิ่นดอกมะลิโชยมา...เธอสองคนห้ามเอาเรื่องที่ เห็นในวันนี้ไปบอกใครเด็ดขาดโดยเฉพาะรัญภรณ์...เข้าใจมั้ย?”
“เรื่องมันเป็นไงมาไงจ๊ะพี่?”
“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก!!”
“หงะ!...ก็หนูอยากรู้...”
“ท่านพี่!!”
“โธ่!...นีย์ก็อยากรู้เหมือนกันแหละน่า”
“พวกเธอเพิ่งสิบขวบ...อย่ารีบร้อนยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่จะดีกว่า”
“............................................”
“............................................”)
..........................................................................................................................

“ร้ายกาจ!!!...คุณแม่ไม่เคยบอกหนูเลยค่ะ”
“เธอตบหน้าป้ากับศรีเต็มแรงทีเดียว...ถ้าสองแฝดไม่มาเจอล่ะก็ป้าคงสาหัสเจียนตาย”
“ได้รู้อย่างนี้อ้อยยิ่งกลัวคุณศรมรกตและก็รู้สึกชิงชังด้วย”
“แล้วพอมารู้ความจริงที่สมควรสารภาพก่อนตายราวๆสองเดือนป้าก็สาบานกับตัวเองว่าชั่วชีวิตนี้คงจะไม่อาจให้อภัยคุณศรมรกตได้”
“ความจริง?”
“ก็ อย่างที่บอกตอนแรกว่าคุณศรมรกตคือผู้อยู่เบื้องหลังทุกเรื่อง...ที่ป้าต้อง ระเห็จออกจากโยนกจัตุรัสและไม่ได้กลับไปนับสิบปีก็เป็นเพราะเธอ”
(“หมาย...หมายความว่า...”
“หากแกตกลง...ฉันจะให้เงินไปตั้งตัวก้อนหนึ่งและไม่ต้องมาใช้คืนด้วย”
“............................................”
“ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลยแค่พอแกแต่งงานแล้วก็พานัง...พากวางฤทัยไปอยู่ที่อื่น...นี่เพื่อตัวแกเองนะ”
“เพื่อผม?”
“พ่อ แกติดคุกข้อหาฆ่าคนตายชาตินี้จะได้ออกมารึเปล่าไม่รู้...เหลือแกอยู่กับยาย เหมือนสองคน...ไม่แน่บางทีฝ่ายโน้นอาจจะเอาความแค้นมาลงที่แกแทนก็ได้”
“แต่ถ้าผมไปจากที่นี่แล้วย่าจะอยู่ยังไง?”
“แกก็ไม่เห็นจะทำการทำงานอะไรเอาแต่กินเหล้าเข้าบ่อนไปวันๆ...แกเคยดูแลเอาใจใส่ย่าตัวเองด้วยเรอะ?”
“............................................”
“ฉันสัญญาว่าจะดูแลยายเหมือนอย่างดีที่สุด...แกไม่ต้องห่วงหรอก”
“ผมจะไปทำอาชีพอะไรดี?...”
“นั่นก็เรื่องของพวกแก...พรุ่งนี้สักตอนเที่ยงๆมาเอาเงินจากฉัน”
“จะ...จะให้ผมเท่าไหร่ครับ?”
“...ห้าล้านพอมั้ย?”
“โอ้โห!?...ตั้ง...ตั้งห้าล้าน!!!!”
“แต่ฉันจะแบ่งให้ยายเหมือนล้านนึงส่วนที่เหลือสี่ล้านแกเอาไป...ตกลงไหม?”
“ครับๆ...ตกลงครับ!!!”
“จง ห้ามลืมเงื่อนไขของฉันเด็ดขาด...พอแต่งงานแล้วแกต้องพากวางฤทัยไปจากโยนก จัตุรัสภายในหนึ่งอาทิตย์...หากแกอยากเจอยายเหมือนก็ส่งข่าวมาแล้วฉันจะให้ คนพาไปพบ”
“ผมทราบครับ”
“อีกอย่าง...เมื่อใดที่ฉันรู้ว่าแกกับกวางฤทัยยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ล่ะก็...คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”
“ครับ!!...ผมยินดีทำตามที่คุณศรมรกตสั่งทุกอย่างและจะไม่กล้าฝ่าฝืนเลยครับ”)
“อะไรกันคะนี่?...พะ...เพียงเพื่อจะขับไล่ป้ากวางให้ออกจากโยนกจัตุรัสคุณศรมรกตถึงกับใช้เงินตั้งมากตั้งมายอย่างไม่เสียดาย!?”
“ห้า ล้านสมัยนั้นถือว่าเยอะมากถ้าเทียบกับปัจจุบันก็ราวยี่สิบสามสิบล้าน มั้ง?...พอรู้เข้าป้าถึงกับช็อคไปครู่ใหญ่ทีเดียว...สมควรปิดบังเรื่องเงิน ห้าล้านมาตลอดแม้กระทั่งตอนงานศพของยายเหมือนเขาก็ยังไม่ยอมปริปากออกมาเลย สักคำ”
“อ๊ะ!!...ท่าทางจะมาถึงกันแล้วค่ะ”
“ทีนี้หนูอ้อยรู้แล้วนะจ๊ะ ว่าเพื่อเป้าหมายที่ต้องการเธอผู้นั้นก็พร้อมจะทำได้ทุกอย่าง...พวกหนูต้อง เข้มแข็งไม่ยอมแพ้...เราจะต่อสู้เพื่อให้ได้สิทธิ์ที่ควรจะเป็นของเรา... ใช่...มันต้องเป็นอย่างนั้น”
.................................................................................................................

...คล้อยบ่ายของวันหนึ่งในเดือนกรกฎาคม 2518 ...

“เจ้าภา!!!”
“หูย~~...บ้านเรามีตั้งเยอะตั้งแยะน่าพ่อ!!”
“อันอื่นแตกไปพ่อจะไม่ว่าเลยแต่นี่คือแจกันที่ตาเจ้าปั้นมากับมือนะ!?”
“ของตารึ?”
“ท่านพ่อ!...ท่านพ่อได้โปรดอย่าเพิ่งโกรธ...ลูกเป็นผู้ทำแตกเองมิใช่ท่านพี่เจ้าค่ะ”
“นีย์--...พ่อพูดตั้งหลายครั้งแล้วว่าอย่าเที่ยวรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ...เอาแต่ออกรับแทนกันแบบนี้พี่เจ้าก็ยิ่งได้ใจใหญ่สิ”
“โห!!...พ่อคิดได้อย่างเดียวเลยนะว่าหนูเป็นคนทำ?”
“เออสิเว้ย!!...จะเป็นใครอีก?”
“นั่นแน่ะ!!!...เอาไม้นั่นมาถือทำไมน่ะ?
“ท่านพ่อเจ้าคะ”
“หลบไปเจ้านีย์...เฮ่!!...หนีเหรอๆ?”
“ไม่อยู่ให้ตีร้อก~~”
“พวกแก!!...ไปปิดประตูหน้าต่างให้หมด...อย่าให้ลูกฉันออกนอกบ้านได้!!!”
“ว้าก!!”
“สม!...อยากมาขวางดีนัก!!”
“มันอยู่ตรงไหนน่ะ?”
“วิ่งไปทางห้องครัวครับ”
“พาคนไปดักไว้อย่าให้หนีรอดเชียว...วันนี้แหละวันนี้”
“เอะอะโวยวายอะไรของพี่อีกเนี่ย?...กะอีแค่แจกันใบเดียว”
“นั่นเป็นของขวัญเมื่อคราวขึ้นบ้านใหม่จากพ่อ”
“แต่ถ้าพ่อรู้ว่าพี่ตีหลานท่านล่ะมันก็ไม่ต่างกันหรอก”
“ทำผิดก็ต้องยอมรับ...จะปล่อยให้เสียเด็กได้เรอะ?”
“บอกให้หลบไป!!...ถือดียังไงมาขวางฉัน?”
“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยเชียวไม่มีทางหนีแล้ว...ยอมให้ตีซะโดยดีเถอะ”
“ใจร้าย!!...พ่อจะตีหนูได้ลงคอเชียวหรือ?...คอยดูนะคอยดู!!!”
“ฉันไม่คอยดูหรอกว่ะ...มานี่!!”
“...............................................”
“...............................................”
“โป๊ะเช๊ะ!!!”
“เฮ้ยตาม!!...ตามไปเร็ว~~”
“ทำบ้าบออะไรของพี่หนอ?”
“เจ้าลูกคนนี้นับวันยิ่งเหลี่ยมจัด...แกล้งเดินเข้ามาแต่ฉวยโอกาสผลักน้องสาวตัวเองแล้วก็วิ่งหนี”
“เพราะพี่ประมาทลูกเกินไป”
“อยู่ไหนแล้วนี่?”
“นั่นครับ...ที่ต้นมะม่วงหน้าบ้าน”
“หา!?”
“คุณหนูกรุณาลงมาเถอะค่ะ!!”
“ฉันจะโดดลงไปให้ดู!!!”
“ยะ...อย่าทำอะไรบ้าๆนะ!!...ลงมาเดี๋ยวนี้!!!”
“ไม่ลง!!”
“บอกให้ลงไง!!”
“ไม่!!”
“ทำให้ใครต่อใครยุ่งไปหมด...พวกแกรออยู่ใต้ต้นไม้ส่วนแกปีนขึ้นไปเอาลูกฉันลงมา...อย่าให้มีแม้แต่รอยขีดข่วนเด็ดขาด”
“เฮอ--”
“ลงมาพูดคุยกันดีๆ...อย่างนี้พ่อไม่ชอบ”
“พ่อเห็นแจกันดีกว่าลูกสาวตัวเอง...ฮึ!!”
“ฮ้า!!!”
“ตายแล้วลูกฉัน!!!!”
“ท่านพี่!!!!”
“เย้วๆๆ...แน่จริงก็ปีนหลังคาขึ้นมาจับซี่!!”
“เจ้าลูกเวร~~...เพิ่งจะสิบขวบก็เป็นได้ถึงขนาดนี้...ลิงค่างมาเกิดใช่มั้ยเนี่ย?”
“เฮ้ทุกคน!!...ฉันเก่งมั้ยๆ?...คั่กๆๆ”
.....................................................................................................................

“ก็บอกแล้วว่าไม่ยอมให้ตี...หือ?...ห้องนอนพี่เอ็ม”
“บนหลังคาไม่มี...หายไปไหนอีก?”
“ฮึ่ย!!...ตามล่าไม่เลิก~~...ซ่อนใต้เตียงง่ายไปในตู้เสื้อผ้าก็ไม่ได้...เอ๋นี่?”
“.........................................”
“รึว่าจะเป็นทางลับ?...เหวอ!!”
“ท่านพี่...น้องมิได้จะมาพาไปหาท่านพ่อดอก”
“เราสองคนรู้ใจกันอยู่แล้ว...ไป”
“ไปไหนเจ้าคะ?”
“ก็นี่ไง”
“...........................................”
“พี่เอ็มจะสร้างไว้เพื่ออะไรกันน๊า?”
“ท่านพี่...เราแอบเข้ามาเช่นนี้...”
“จุ๊ๆ...ได้ยินเสียงมั้ย?”
“เจ้าค่ะ”
“ดังมาจากประตูตรงหน้านี่เอง”
“แล้วจะเปิดไปได้อย่างไร?”
“เดี๋ยวนะ...อุ๊ย!!!...ประตูไม่ได้ล็อค”
“นั่น...”
“!!!!”
“อ่ะ...อ่ะ...อีก...เอาอีกสิคะ!...เอาอีกค่ะที่รัก!!”
“เอ็มจ๋า~~...โยรักเอ็มที่สุดในโลก”
“อย่า...อย่าปากหวานแค่ปากนะ...คิกๆ...โอออออออออออออ”
“อู้หู~~...กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย!!”
“นะ...น่าบัดสียิ่งนัก!!!”
“ดูไว้เพื่อศึกษาสิอย่าคิดมาก!!...อีกหน่อยเมื่อเราแต่งงานก็ต้องทำแบบนี้กับสามี”
“.............................................”
“ยก...ยกนี้แหละจะไม่ลมปากอ่าวอีกแน่!!”
“แน่รื้อ?”
“สัญญาจ้ะ”
“ถ้าเที่ยวนี้โยยังเสร็จก่อนเอ็มล่ะก็จะไม่ยอมกินยาไม่ได้แล้วนะ”
“อื้อ!!”
“ยา...ยาอะไรหรือเจ้าคะ?”
“พี่ก็ไม่รู้...ว้าว!?...ไอ้นั่นของพี่โยะ...มัน...มันขยายใหญ่ได้ด้วยแฮะ!!!”
“...............................................”
“เอ้า!!...มัวแต่มองอยู่นั่น”
“หีเอ็มสวยจัง”
“ชมได้ทุกที...ไม่เบื่อบ้างรึ?”
“ไม่เคยเบื่อเลยครับ”
“สวย!?...มันสวยตรงไหนกันว๊าขนขึ้นรกดำออกอย่างนั้น?...สู้ของเราไม่ได้หรอก...ใช่ไหมนีย์?”
“แต่ท่านพี่ศรมรกตเคยพูดไว้ว่าถ้ามีขนขึ้นในที่ลับย่อมอาจหมายถึงการเติบโตเป็นผู้ใหญ่”
“วู้ว~~...พี่เขยจะเอามันเข้าไปแล้ว”
“อื้ม มมมมมม...เอ็มชอบควยหัวใหญ่ๆอย่างนี้แหละ...อูยยยยยยยยยยยยยย...คับรูจัง... ฉะ...ฉันว่าฉันหีใหญ่พอตัวเหมือนกันนะแต่พอมาเจอควยเธอแล้ว...”
“ถ้าเจ็บก็บอก”
“ไม่เป็นไรหรอก...ดันเข้ามาเถอะ...อืออออออออออ”
“เกือบครึ่งแล้วเอ็ม”
“ขนาดน่ะได้แต่ความอึดนี่สิต้องพัฒนาอีกเยอะเลยนะโย”
“อืม--”
“มิดยัง?...อูยยยยยยยยยย”
“อีก...อีกนิด...อ้า...มิดแล้วจ้ะ”
“กอดจูบกันกลมเชียวนะแต่ถ้าไอ้นั่นเข้าจิ๋มจนมิดแล้วมันจะรู้สึกดีจริงๆเรอะ?”
“...น่าจะเป็นอย่างนั้นเจ้าคะ”
“แต่เห็นพี่เอ็มมั้ย?...หน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว”
“น้องก็มิทราบ”
“โอ๊ววววววววววววว...ช้าๆก็ได้...ซีดสสสสสสสสสสส...ตายอดตายอยากมาจากไหน?”
“ต้องให้ควยมันคุ้นกับหีก่อนไงจ๊ะ”
“แหม~~...ป่านนี้ยังไม่...ว้าย!!!!”
“อะ...อะไรเหรอ?”
“ภา!!...น้องเข้ามาได้ยังไงกัน?...นีย์ก็ด้วย!!!”
“ซวยแล้ว!!!!”
“หยุด!...ทั้งคู่ไม่ต้องไปไหนเลยนะ!!...โยรีบหากางเกงใส่สิ!!!”
“ไม่มี”
“ผ้าเช็ดตัวน่ะ”
“ก็เอ็มเพิ่งคว้าไปห่มไงครับ...มันมีแค่ผืนเดียว”
“ชุดของโยน่ะก็อยู่ข้างเตียงไงเล่า!!!”
“เออแฮะ”
“นี่!!...มองอะไรกันน่ะ?”
“พี่เอ็มกับพี่โยะแอบทำเรื่องไม่ดีไม่งามกันแล้วยังจะมาดุหนูรึ?”
“การชิงสุกก่อนห่ามหาใช่เรื่องที่สมควรไม่นะเจ้าคะ”
“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าสอดรู้สอดเห็นเรื่องของผู้ใหญ่”
“พูดงี้อีกละ!?...แฮ่ม!!...แต่ถ้าผู้ใหญ่ทำตัวไม่ดีมันก็น่ายุ่งหรอกนะจ๊ะ”
“ยัยภา!!!...พี่จะฟ้องคุณพ่อคุณแม่”
“เอาเซ่ฟ้องเลยจ้ะ!!...แล้วทุกคนก็จะได้รู้เรื่องของพี่เอ็มกะพี่โยะ”
“หนอย!!!”
“............................................”
“แล้วพ่อก็จะต้องโกรธมากแน่ๆ”
“ยังไงเราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว...อยากฟ้องก็ฟ้องเลย!!”
“มั่นใจ?”
“อะไร?”
“ภาดูออกนะว่าพ่อไม่ค่อยจะชอบหน้าพี่โยะสักเท่าไหร่และถ้าเกิดรู้เข้า...คนที่จะแย่ก็คือพี่โยะนั่นแหละ”
“อึ๋ย~~”
“จะขู่พี่เร๊อะ?”
“เฮ่ย~~... เรามาตกลงกันอย่างสันติดีกว่าน่า...ถ้าพี่ยอมช่วยหนูๆก็จะปิดปากเงียบไม่พูด อะไรทั้งนั้นและน้องนีย์ก็จะไม่แพร่งพรายด้วย...นะ?”
“จะ...เจ้าค่ะ”
“ช่วยอะไร?”
“คือ...หนูโดนพ่อไล่ตีมาเพราะทำแจกันแตก...หนีขึ้นหลังคาแล้วก็เข้ามาในห้องนอนพี่”
“หาทางลับของฉันเจอเพราะหนีความผิด...ช่างเป็นเหตุผลที่เหมาะสมกับตัวร้ายอย่างเธอดีจังนะ...ก็คือจะให้พี่ช่วยพูดกับคุณพ่อใช่มั้ย?”
“มันไม่ได้ยากอะไรเลยก็คุณพ่อตามใจพี่เอ็มมากๆนี่นา”
“.............................................”
“.............................................”
“ออกไปรอข้างนอก...ขอพี่ใส่เสื้อผ้าก่อน”
“เอ็ม!?”
“ได้จ้ะ”
“ท่านพี่”
“อ้า!!...พี่เอ็มยอมช่วย...ไปเถอะนีย์”
“..............................................”
“แย่จริง...เอ็มคงจะต้องทำให้มันมิดชิดกับรอบคอบกว่านี้...โยก็ไม่รู้สึกตัวบ้างเลยว่ามีคนแอบเข้ามา?”
“อยู่ต่อหน้าเอ็มทีไรผมก็ไม่เคยรวบรวมสมาธิได้”
“อ๋อเหรอจ๊ะ?”
“ครับ”
“แหมพ่อคู้ณ~~...เสียแรงมีพลังจิตซะเปล่า!!”
“น้องภาจะไปบอกใครหรือเปล่า?”
“เธอจะไม่ทำแบบนั้น”
“มั่นใจหรือ?”
“อืม--...ถึงยัยภาจะเป็นพวกมะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูกแต่เอ็มรู้นิสัยเธอดีส่วนยัยนีย์ก็ยิ่งไว้ใจได้เลย”
“...............................................”
........................................................................................................................

...แล้ววันเวลาก็ได้ล่วงเลยผ่านมาเกือบ 14 ปี...ช่วงบ่ายในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2532 ...

“ฮะๆๆๆ...ถ้าเป็นเรื่องนี้ก็สนุกจนลืมไม่ลง...ภานึกทีไรก็ขำทุกที”
“ที่จริงไม่ต้องให้พี่เป็นหนังหน้าไฟเธอก็รอดตัวอยู่แล้วเพราะยังมีคุณทวดศรไพฑูรย์ทั้งคน”
“แหมไหนๆก็ไหนๆ~~...เมื่อมีโอกาสก็ต้องคว้าไว้ก่อนสิคะ”
“เออย่ะแม่คนเจ้าเล่ห์!...อ้า!!...นีย์ก็พูดอะไรมั่งสิเงียบตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”
“ได้ฟังท่านพี่ทั้งสองสนทนากันเพียงเท่านี้น้องก็เบิกบานใจแล้วเจ้าค่ะ”
“จะว่าไปพี่ก็ดีใจเหมือนกันนะ”
“คะ?”
“ที่นิสัยหนูแคทไม่เหมือนเธอไงส่วนหนูฝนยังไม่รู้”
“เชอะ!!...นั่นถือว่าได้จากพ่อเขาเต็มๆแต่ลูกแคทสวยเหมือนหนูนะจ๊ะพี่”
“มันเห็นๆกันอยู่แล้ว...พ่อหล่อแม่สวย”
“...................................................”
“ถ้าภาเป็นคนเลี้ยงหนูแคทป่านนี้จะเป็นไงบ้าง?”
“จะเหมือนหนูตอนเด็กทุกอย่าง...ไม่ต้องสงสัยค่ะแต่เสียดาย...”
“เสียดาย และจะบอกว่าโชคร้ายงั้นสิจ๊ะ?...ไม่ถูกๆ...เธอคลอดหนูแคทตอนอายุแค่ 18 ก็จริงแต่ยังถือว่าโชคดีที่คลอดก่อนเข้าเรียนพยาบาลนะ...มันดูไม่จืดแน่เลย ถ้าเธอเลี้ยงลูกพร้อมกับเรียนหนังสือไปด้วย”
“...................................................”
“เพราะคุณพ่อโกรธหนูมากจนเกือบจะตัดสินใจไปแบบนั้นแม้กระทั่งตอนที่นอนอยู่โรงพยาบาล”
“เฮอๆ...แต่ พอเห็นหน้าหลานแคทครั้งแรกก็ลืมหมดว่าเคยดุด่าอะไรไว้บ้างเช่นจะขับออกจาก บ้านเอยหรือจะตัดพ่อตัดลูกเอย...พี่จำได้แม่นจ้ะที่วิ่งอ้าวมาที่รถแล้วรีบ เปิดประตูขออุ้มหนูแคทน่ะ...หึๆๆ....หนูแคทก็เลี้ยงง่ายไม่ค่อยงอแงคุณพ่อ เลยยิ่งรักยิ่งหวงกันไปใหญ่จนลูกเซคเคยแอบมาบ่นน้อยใจกับพี่เชียวละ”
“นั่นสินะคะ...บางทีคุณแม่จะอุ้มบ้างยังไม่ยอมให้เลย”
“ใช่ไหม?...อย่างไรคุณพ่อก็ไม่มีทางปล่อยให้หลานสาวที่น่ารักไปตกระกำลำบากได้แต่ทำเป็นปากแข็งไปงั้นเอง”
“จะ ว่าไปภาต้องขอบคุณลูกสาวคนนี้นะคะ...เวลานั้นชีวิตภาเหมือนโดนต้อนเข้าทาง ตัน...โรงเรียนเกือบจะไล่ออกเพราะตั้งท้องแต่ดีที่แม่ไปช่วยพูดให้...พ่อก็ ไม่ยอมรับพี่ศักดิ์และไม่จัดกระทั่งงานผูกข้อไม้ข้อมือแถมจะเฉดหัวไล่ออกจาก โยนกจัตุรัสด้วย”
“..................................................”
“พี่เอ็ม...เราว่า...”
“อ๊ะ!?...จริงด้วย”
“....................................................”
“....................................................”
“ฮะฮ่าๆๆ...ดูๆ”
“อย่าเข้ามานะ!!!”
“ลูกเซค!!...บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเอาตะวันเลือดมาหลอกน้อง”
“จะให้แคทเป็นเหมือนหนูตังหาก”
“น้องเค้ายังทำไม่ได้หรอกลูก”
“แต่ม่อนกับอ๋อมทำได้แล้วอ่ะ”
“พอๆๆ...นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาเล่น...ถ้าดื้อแม่จะตีนะ”
“ค่า~~”
“พาน้องๆไปเล่นตรงโน้นและก็อย่าซนนักล่ะ”
“ทีนี้ตาม่อนเป็นคนหา”
“มาน้อยออกกันอย่างยุติธรรมดีกว่า...ท่านพี่สุรีย์พรรณก็หยุดร้องให้ได้แล้วเจ้าค่ะ”
“ปละ...เปล่าร้องสักหน่อย!!”
“น้ำตาร่วงแหมะๆยังจะบอกเปล่า?...ขี้ขลาดจังเลย--”
“ไม่ใช่นะ!!”
“เบ้!!...แคทขี้แยไปขายดอกแค”
“อ๋อม!”
“ฮ่าๆๆๆ”
“มา!!...โออาน้อยออก...ใครไม่เปลี่ยนเป็น!!”
“................................................”
“ใครเปลี่ยนเป็น!!”
“เอ๊ะ?”
“สุดท้ายม่อนก็เป็นคนหาอยู่ดีแหละ”
“นั่นสิเสียเวลา...ไม่ต้องน้อยออกก็ได้”
“ฮึ!!...เค้าจะนับละ”
“เอาเล้ย!!”
“ซ่อนเร็ว!!!”
“อย่าขี้โกงใช้พลังจิตนะ...คราวก่อนก็ทีนึงแล้ว”
“หนูวิ่งช้านี่เจ้าคะท่านพี่...ดวงตาก็มองมิค่อยชัด”
“รับรองว่าซ่อนไม่ไกลหรอกน่า!!”
“1-2-3...18-19...”
“เด็กๆร่าเริงกันดีนะเจ้าคะ”
“แล้วเอ้อยู่ไหนเหรอ?...พี่ไม่เห็นเลย”
“น้องภรณ์พาไปซื้อของในเมืองจ้ะ”
“................................................”
“เกือบเดือนแล้วสิที่พี่ภพไม่กลับมา?”
“ปากก็อ้างว่างานเยอะแต่นี่มันกรรมเวรจริงๆ...เล่นพรากลูกพรากแม่กัน”
“ตอนหลานบอลมาบ้านคราวก่อนลูกๆเราก็ไม่ยอมมาพบแถมชวนกันขึ้นไปเล่นบนเขามิหวนกลับโน่น”
“ก็ ไม่รู้เซคไปได้ยินจากใครมาว่าบอลนิสัยไม่ดีโตขึ้นจะเจ้าชู้เลยสั่งน้องๆห้าม มาเล่นด้วย!?...โดยเฉพาะม่อนนี่เชื่อถือเป็นจริงเป็นจังมาก”
“นั่นสิ...รู้สึกม่อนกับบอลจะไม่เคยพบหน้ากันเลยใช่มั้ย?”
“รอให้พวกเขาเติบโตขึ้นอีกสักนิดน่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่เจ้าค่ะ”
“อื๋อ!?...คุณพ่อเป็นอะไรน่ะ?”
“จะมีอะไรซะอีกนอกจากโดนแกล้งไง”
“เมื่อกี้บอกจะเล่นซ่อนหากันแท้ๆ”
“เฮ้ยๆๆๆ...เอาห่อยาเส้นตาคืนมา!!!”
“ขอหนูมั่งสิ”
“ไม่ได้ๆ...ไม่ใช่ของเด็ก”
“อยากได้ก็มาแย่งคืนซี่~~”
“วะ!...ชอบมาก่อกวนคนแก่จริ๊ง~~...ส่งมานี่เลยเจ้าเซคเดี๋ยวหกหมด!!”
“เรื่องอะไรจ๊ะ?...แคทรับ!”
“เอ้ย!?”
“เอ้า!!”
“ฮะๆๆ”
“นี่เจ้าม่อนก็เอากับเค้าด้วยเรอะ?”
“อ๋อม!”
“ได้แล้ว!!”
“แน่ะๆๆ”
“คิกๆๆ...คุณพ่อโดนแทบทุกวัน”
“แต่ท่านก็ชอบมิใช่หรือเจ้าคะ?”
“หนูๆจ๊ะ...มากินขนมกันเร้ว~~”
“เฮ!!!”
“วางทิ้งตรงนั้นไม่เอามาคืนด้วย!?...โอ๊ย~~...แข้งขาก็ไม่ค่อยจะดีเหมือนก่อน”
“ตาจ๋า~~...เดี๋ยวเรามาเล่นไล่จับกัน”
“มะ...ไม่เอา!!...ตาแก่แล้ววิ่งไม่ไหว”
“น่านะ!”
“พวกเจ้าแต่ล่ะคนวิ่งไวกันจะตายแล้วใครจะไปจับตัวได้?”
“ดื่มน้ำค่ะคุณพ่อ”
“เออขอบใจๆ...ลูกๆเจ้าแต่ล่ะคนทำไมถึงชอบมาคอยแหย่ข้าอยู่เรื่อยก็ไม่รู้?”
“นี่ยังนับว่าน้อย...พ่อคอยดูลูกฝนให้ดีๆน๊า~~...จะเลี้ยงให้เหมือนภาเลย”
“ตายๆๆ~~...ตอนหนุ่มวิ่งไล่จับลูกแต่พอแก่ตัวก็จะให้ตามไล่ขับหลานอีก!!!”
“ท่านพ่อยังดูหนุ่มแน่นหาได้ชราภาพแต่อย่างใดไม่เจ้าค่ะ”
“ใช่...เพิ่งจะหกสิบนิดๆเอง”
“ฮะๆๆ...อย่าเพิ่งรีบแก่เลยค่า~~”
“ก็ ตั้งแต่เจ้าพวกนี้โตขึ้นมานั่นแหละข้าถึงได้รู้สึกว่าตัวเองเริ่มแก่ แล้ว...ต้องเล่นกับคนโน้นคนนี้แทบทุกวัน...ซนยิ่งกว่ารุ่นพวกเจ้าซะอีก”
“อะไรคะคุณพ่อ?...ที่ซนน่ะยัยภาคนเดียวไม่ใช่เอ็มกับนีย์สักหน่อย!?”
“เออๆ...เมื่อ ก่อนน่ะคนเดียวก็ว่าแย่แล้วแต่นี่เล่นยกโขยงตั้งสี่ห้าคน...ข้าล่ะนับถือพวก เจ้าจริงๆว่าเลี้ยงลูกกันอีท่าไหนถึงได้ซนสุดขั้วแบบนี้?...จะมีก็เจ้าเอ้ กับเจ้าบอลมั้งที่เรียบร้อยหน่อย”
“ก็วิธีเดียวกับพ่อนั่นแหละ”
“ไม่จริงๆ...อู้!!...มาแล้วไง”
“ขอขี่หลังตาหน่อย”
“เอ้าๆๆ...ตาจะพาไปเที่ยว”
“อ๋อมขี้โกง!!”
“โกงอะไรกันพี่ม่อน?”
“ไม่ต้องเถียงกันๆ...ตาอุ้มทั้งคู่เลย”
“เย้!!!”
“ไหวหรือคะพ่อ?...ม่อนกับอ๋อมโตขึ้นกว่าเดิมเยอะนะ”
“รับปากแล้วจะไม่ทำได้ไงเสียชื่อข้าหมด...อึ๊บอู้หูย!?...ตัวหนักไม่เบานี่หว่า”
“ไปดูเขาตกปลาที่บึงกันนะเจ้าคะ”
“เอาสิ”
“เซคกับแคทไปด้วย!!!”
“โอ้โห!?...หมดเลยเรอะ?”
“แง~~”
“อุ๊ยลูกฝน!?”
“ขอประทานโทษค่ะ!!!...จู่ๆคุณหนูก็ตื่นนอนแล้วร้องให้ไม่หยุด...ป้าจะป้อนนมให้ก็ไม่ยอมกิน”
“ไม่มีอะไรให้ต้องขอโทษหรอก...โอ๋ๆแม่อยู่นี่แล้วจ้ะลูก...มีอะไรเหรอบอกแม่มาซิ?”
“ตา...ตา--”
“อ๋อ!!...จะตามคุณตาไปเที่ยว”
“ท่านพ่อเจ้าคะ!!...ได้โปรดกลับมารับหลานฝนด้วย”
“อ้าว!?...เมื่อกี้เห็นหลับอยู่”
“เราคงจะเสียงดังไปหน่อยน้องฝนเลยตื่น”
“มามะหลานตา!!...ไม่ต้องร้องๆ...ตาจะพาเจ้าไปด้วย”
“แอะ!!!”
“ขี้มูกขี้ตาไหลย้อยเต็มหน้าเลย...มานี่พี่เช็ดให้”
“ให้น้องนางหยาดฝนขึ้นขี่คอท่านตาก็แล้วกัน”
“อื้อ!!...ฝนยังเล็กมากเดินไกลไม่ไหว...เอ้กลับมาแล้ว!?”
“พอดีเลย...ไปเที่ยวที่บึงกับตาไหม?”
“ขอรับ!!!...ท่านตารอเอ้ด้วยขอรับ”
“เราก็ตามไปเหอะ...คุณพ่อคนเดียวรับมือหลานๆที่ไวปานวอกไม่ได้หรอก”
“ท่านพี่ศรมรกต”
“หือ?”
“จากคำทำนาย...ท่านพี่ศรมรกตจะให้กำเนิดบุตรสาวอีกคนมิใช่หรือเจ้าคะ?”
“ก็...น่าจะราวๆปีหน้าแหละอ๋อมจะได้มีน้องซะที...ฮิ!...ขานั้นเขาขอไว้ตั้งนานแล้ว”
“ไม่อยากน้อยหน้าหนูเซคกับลูกแคทว่างั้น?...โอ้โฮ!!...มีหวังทีนี้พ่อได้ผมร่วงหมดหัวแน่นอน”
“พี่ ยอมรับว่าในบรรดาลูกๆของเราทั้งหมดน่ะอ๋อมดื้อและก็ซนที่สุด...พี่ชัก สังหรณ์ว่าถ้าคนสุดท้องเกิดมาก็คงจะเลี้ยงยากกับเอาแต่ใจไม่น้อยกว่ากัน เพราะทุกคนจะรุมตามใจ”
“ท่านพ่อคงหาได้มีปัญหาแต่อย่างใดไม่เจ้าค่ะ”
“ใช่...เวลาโดนแหย่ก็บ่นอุบไปงั้นเองแต่เรื่องเห่อหลานยกให้เลย...รับรองไม่เป็นสองรองใคร”
“ภรณ์!!...ไปดูเขาตกปลากันมั้ย?”
“ไม่ไปค่ะ...ภรณ์จะอยู่ช่วยคุณแม่ทำอาหารเย็น”
“ว้า!!...ก็ไม่ใช่อะไรเผื่อจะได้ปลาสดๆมาทำกับข้าว...ช่างเถอะ”
“ที่จริงพี่เอ็มไม่น่าชวนเพราะถ้าพี่ภรณ์เห็นหน้าหลานมากๆเข้าแล้วจะพาลคิดถึงลูกชายตัวเองน่ะสิ”
“เช่นนั้นน้องจึงบอกลูกเอ้ให้ไปหารัญภรณ์ตราบเท่าที่มีโอกาสไงล่ะเจ้าคะ”
“เผื่อจะช่วยให้หายเหงาขึ้นมาได้บ้างรึ?...ก็เป็นความคิดที่ใช้ได้แต่ทางที่ดีที่สุดคือหลานบอลจะต้องอยู่ที่นี่”
“................................................”
......................................................................................................................................

“บ้านเพื่อนพ่อน่ะ...แวะสักเดี๋ยวก่อนกลับแต่ลูกอย่าบอกแม่นะว่าเรามาที่นี่”
“ทามไมเหรอ?”
“อ่า--...ลูกสัญญาสิว่าจะไม่บอกแม่เค้า...ถ้าทำตามที่บอกแล้วพ่อจะซื้อรถแข่งที่ลูกอยากได้นะ”
“คับ!”
“มาแล้วหรือคะ?”
“บอล...นี่...น้ากวางเพื่อนของพ่อ”
“หวัดดีคับ!!”
“แหมเพิ่งอายุแค่นี้แต่มารยาทดีจริงๆ~~...เข้ามาใกล้ๆน้าหน่อยซิ”
“..........................................”
“ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนคุณตอนเด็กๆแต่ผิดกันแค่สีผมเท่านั้น...กุน,สา...ไหว้ลุงภพสิจ๊ะ”
“โอ้โห!?...ไม่เจอแค่เดี๋ยวเดียวโตขึ้นมากเลยนะเนี่ย!!”
“และนี่ก็น้องบอล...รู้จักกันไว้”
“หวัดดีจ้ะ...พี่ชื่อกุน”
“ยี้!!”
“ทำไมลูกสาทำกิริยาแบบนั้นเล่า?...ไม่น่ารักเลยนะ”
“น่า--...เด็กก็อย่างนี้แหละ...แรกๆก็จะงอนจะอายหรอกแต่พอได้เล่นได้คุยเดี๋ยวสนิทกันไปเอง”
“อืม--...สากับบอล...แค่อ่อนเดือนกันสินะ?”
“ห๊ะ?”
“อ๊ะไม่!!...ไม่มีอะไรค่ะ...กวางแค่กำลังคิดว่าจะทำกับข้าวอะไรให้คุณกับลูกชายดี?”
“โอ๊ยไม่ต้องคิดมาก!!...พ่อลูกชอบเหมือนกัน”
“ค่ะ”
............................................................................................................................

...อดีตก็คืออดีต