หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 54

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 54 “แหวนดอกหญ้า...คำมั่นสัญญาอันสูงส่ง!?”

“คุณแม่ไปโรงพยาบาลอีกแล้ว?”
“ค่ะ”
“นายเศกน่ะพอเข้าใจแต่ไอ้อีกคนนี่...ผลตรวจร่างกายก็ไม่มีอะไรผิดปกติแต่เดาะนอนห้องพิเศษเชียวนะ”
“..........................................”
“แคทไปเรียนรึ?”
“ค่ะ...เพิ่งออกไปเมื่อสักครู่”
“ทั้งที่อายุยังน้อยแต่กล้าต่อกรกับแคทที่กำลังโมโห...ฉันนับถือพวกเธอสี่คนมาก”
“แม้จะเป็นเรื่องที่ขลาดเขลาแต่ก็จำต้องใช้วิธีรุมสี่ต่อหนึ่งและคุณอรนิภาก็อนุญาตแล้ว...คุณสุรีย์พรรณช่างเป็นนักสู้ที่มากด้วยความสามารถจริงๆค่ะ”
“แต่ในสายตาของฉัน...แคทยังอ่อนหัดอยู่”
“คุณ...ว้าว!!!”
“มีอะไรหรือจ๊ะ?”
“ไม่...ไม่...ไม่มีอะไรค่ะ”
“ส่วนเธอไปบอกให้น้องๆเตรียมตัวกันได้...เราจะกลับโยนกอุดรบ่ายนี้”
“ค่ะ”
“..............................................”
“หือ!?...มาหาน้าถึงห้องมีอะไรจ๊ะ?”
“..............................................”
“เออใช่!...หนูเซคมีแฟนหรือยัง?”
“มีหลายคนค่ะ”
“เฮ้ย!!...คบ...คบผู้ชายพร้อมกันหลายคนเหรอ?”
“...ก็เพื่อคัดเลือกหาคนที่ดีที่สุดไงคะ”
“โอ้โห!?...ตอนน้าอายุเท่าหนูน่ะไม่มีโอกาสแบบนี้เพราะลูกสองกับหลานอีกเป็นโขยงแล้วจ้า~~...ว่าแต่จะแต่งเมื่อไหร่?”
“หนูยังไม่คิดหรอกค่ะ”
“ปีนี้เซคอายุ 26 ใช่มั้ย?...งั้นก็น่าจะคิดได้แล้ว...ผู้หญิงแต่งงานอายุ 30 ขึ้นไปมันดูไม่ค่อยดีน่ะจ้ะ”
“ถึงจะไม่ได้แต่งงานหนูก็ไม่อนาทรร้อนใจอะไรค่ะ”
“ไหงพูดอย่างนั้น?...ความสุขของผู้หญิงก็คือการแต่งงานกับมีลูกนะ”
“หากคุณน้าไปถามน้องแคทก็อาจจะได้คำตอบอย่างเดียวกัน”
“...เหรอจ๊ะ?”
“อีกอย่างแคทก็ยังเรียนหนังสืออยู่...ในความคิดของเซค...การที่เธอไม่สนใจความรักระหว่างเรียนถือว่าเป็นเรื่องดีนะคะ”
“อืม--...นั่นสิเนอะ!!...ก็ขนาดเจ้าตัวเค้ายังไม่เดือดร้อนแล้วเราจะไปมัวกลุ้มใจแทนทำไม?”
“ว่าแต่คุณน้า...อยู่ต่ออีกวันไม่ได้หรือคะ?”
“ลางานถึงแค่วันนี้เอง...อะ...อุ๊ย!!...ทะ...ทำอะไรจ๊ะ?”
“คุณน้าเนี่ย...ยังสวยอยู่เลยนะคะ”
“อย่าจ้ะ!!...ผ้า...ผ้ามันจะหลุด~~”
“ทรวดทรงองค์เอวน้านิภายังอวบอัดดีเหลือเกิน...น้าศักดิ์ช่างโชคดีนัก”
“เอ๋!?...รึที่หนูพูดว่ามีหลายคน...ไม่ใช่...ไม่ใช่ผู้ชายเรอะ?”
“แล้วเซคบอกเมื่อไหร่คะ?...หึๆ”
“หวาเลสเปี้ยน!!...หลานสาวฉันเป็นเลสเปี้ยน!?...ว้าย!!!”
“คุณน้าอย่าเสียงดังสิคะเดี๋ยวพวกเด็กๆมันจะได้ยิน”
“............................................”
“คุณน้าเป็นสาวอายุสี่สิบที่เพอร์เฟ็คส์ที่สุดเท่าที่หนูเจอมาเลย...อ้า!!...ตัวคุณน้าหอมจัง”
“แหม~~...หนูเซคชอบผู้หญิงด้วยกันก็ไม่บอกปล่อยให้น้าเข้าใจผิดอยู่ได้”
“ไม่รู้ว่าหนูเป็นเลส?”
“...ไม่เลย”
“ในเมื่อรู้แล้วคุณน้าจะทำยังไงต่อคะ?”
“ก็จะถามน่ะสิว่าแคทกับฝนเสร็จหนูไปแล้วหรือยัง?”
“คิกๆ...ไม่เหลือค้า~~”
“ว้าย!?...หนูเซคนิสัยไม่ดีอ่ะ!!...ทำกับลูกสาวน้าได้ยังไงเนี่ย?”
“ถ้ากลัวเสียเปรียบล่ะก็...”
“อ๊ะ!?...ไม่นะ!!...ตรงนั้นมัน~~”
“หนูจะทำให้คุณน้ารู้จักประสบการณ์แปลกใหม่...ดีมั้ยคะ?”
“อืมมมมมมมมมม...ก็...ก็ดีอยู่จ้ะ...ตะ...แต่...”
“งั้นก็ยังจะมัวรออะไรอีก?”
“แต่...น้าไม่ใช่เลสเปี้ยนนะจ๊ะขอบอก”
“อูยเจ็บ!!...อ๊ะ!?...อย่าปิดประตูสิคะ”
“ไม่เอาไม่เปิด...เพราะน้าชอบผู้ชายย่ะ!!...ฮิๆๆๆ”
“โธ่คุณน้านี่ล่ะก็~~...หลอกให้เซคดีใจเล่นซะงั้น!?...เจ้าเล่ห์แสนกลเหมือนน้องฝนเลย”
“อ๋า~~...เด็กคนนั้นต่างหากที่เหมือนน้า...ขืนพูดผิดอีกระวังจะถูกฟ้องนะเออ!!”
“ฟ้อง?”
“ก็ที่หนูเซคพยายามจะปลุกปล้ำทำมิดีมิร้ายกับน้าไง...จะฟ้องแม่หนูด้วย!!”
“คุณแม่ไม่ดุหนูหรอกและคุณน้าก็รู้เห็นเป็นใจด้วยไม่ใช่หรือ?”
“เปล่านะ!!...ใครว่าน้า...”
“งั้นก็ออกมาคุยกันสิคะ”
“ถ้าน้าหลงกลหนูเซคซ้ำสองก็แย่แล้วละ...แบร่~~...หลอกลูกฝนกับลูกแคทได้แต่หลอกน้าไม่ได้ร้อก!!...ฮะๆๆ”
“แรกๆน้องฝนก็อย่างนี้แหละแต่สุดท้าย...เสร็จหนู”
“เซคก็เจ้าชู้เหมือนบอล...”
“คุณน้าอย่าเอาหนูไปเปรียบกับผู้ชายคนนั้นนะคะ...หนูไม่เหมือนมันเลยสักนิดเดียว!!!”
“ไม่เหมือนยังไง?”
“เจ้านั่นมีคนรักแต่กลับนอกใจแอบไปหาหญิงอื่นถือเป็นพฤติกรรมที่ชั่วช้าเห็นแก่ได้ที่สุดส่วนหนูยังไม่เคยสัญญาจะเป็นแฟนกับใครเลยสักคนแล้วจะบอกว่าเหมือนกันได้อย่างไร?...หนูยังไม่บ้าหาบ่วงมารัดคอตัวเองหรอกค่ะ...ใช้ชีวิตอิสระแบบนี้สบายใจกว่ากันเยอะ”
“..............................................”
....................................................................................................................................

“สาคิดดีแล้วหรือ?”
“ฉันตัดสินใจรอบคอบแล้ว”
“..............................................”
“อะไรที่ได้มาง่ายๆคนเรามักจะไม่เห็นคุณค่า...ฉันเองก็ผิดพลาดมาแต่ต้น...ผิดที่ใจง่ายเกินไป”
“ไม่หรอก...คนที่ผิดมากที่สุดคือผม”
“พูดอะไรอ่ะ?”
“ฝน...เธอก็รู้จักฉันดีไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่!...ฝนรู้จักบอลว่าเป็นคนมีน้ำใจไม่ทอดทิ้งผู้อื่นหนีเอาตัวรอดตามลำพังและปฎิเสธคำขอร้องของใครไม่เก่งเลย...แล้ว...แล้วมันผิดตรงไหนเล่า!?...หากบอลจะผิดก็คือผิดตรงที่เขาใจดีเกินไปนะสา!!”
“แต่บางครั้งความใจดีที่มากเกินก็นำมาซึ่งผลเสีย...นังบุศกับน้องสาวมันรู้จุดอ่อนนี้จึงเอามาใช้เป็นประโยชน์”
“..............................................”
“เฮ้อ~~...แต่เพราะบอลดีกับทุกคนและพยายามจะมอบความรักให้อย่างทั่วถึงแบบนี้...สาถึงทำใจโกรธบอลต่อไปอีกไม่ได้”
“สา”
“มาเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้งนะบอล...พวกเรายังคบเป็นแฟนแต่ไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศมาเกี่ยวข้องจนกว่าจะถึงเวลาที่สมควร...เหตุต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเราศึกษานิสัยใจคอเรียนรู้ตัวตนของกันและกันได้ไม่ดีพอ”
“แฮ่ม!!...สาตัดสินใจอย่างนี้ต้องได้ใจคุณยายไปเต็มๆแน่เลย”
...เช้าวันนี้สาแวะมาเยี่ยมพร้อมกับให้คำตอบว่าเธอ,กุนและอ้อยยินดีปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คุณย่าอุทุมพรกำหนดโดยไม่มีข้อแม้ใดๆซึ่งคุณพ่อของผมก็ได้แจ้งให้ทางโยนกจัตุรัสทราบแล้ว...
“พี่กุน,สารึแม้แต่หนูอ้อยยังมีเยื่อใยให้บอลอยู่นะ”
“............................................”
“แค่สองปีเอง...อย่าซีเรียส”
“เห็นฉันเป็นไอ้บ้ากามตามพี่แคทไปแล้วเรอะ?...ฉันไม่ขาดใจตายกะอีแค่ไม่ได้ทำอย่างว่านะเว้ย!!”
“โฮ่~~...แต่เงื่อนไขมันจำกัดแค่แฟนเท่านั้น...บอลยังไปฉึกๆกับสาวอื่นได้อีกน่ะซี้!!”
“บ้าสิ!!”
“ฝนมองออกน๊าว่าเงื่อนไขนี้บอลได้เปรียบ...คึๆๆ...อยากเห็นคนคิดวิธีนี้ออกมาจัง”
“ฉันจะไปทำกับใครอีกเล่า!?”
“ไม่มีจริงน่ะ?”
“เออ!!”
“ขี้จุ๊!!...เค้ารู้ว่าตัวเองยังแอบซ่อนสาวๆน่ารักไว้อีก?”
“มีที่ไหน?...เธออย่ามั่ว!”
“จะให้พูดมะ?”
“เชิญ!!”
“เริ่มจากในบ้านที่รู้อยู่ก็มีพี่กุน,สา,หนูอ้อย...ฮึ!!...แม้แต่เด็กมัธยมก็ไม่เว้นนะนาย”
“ทำไงได้ก็คนมันมีเสน่ห์”
“ฮิ!...เสน่ห์ของตัวเองนี่ช่างแน่ซะจริงนะขนาดสาวใหญ่ยังหลงใหล...ป้ากวางกับป้าศรีก็มีอะไรกับบอลด้วย...อู้ๆๆ”
“เธอ...เธอเอาอะไรมาพูด!?”
“แฮ่~~”
“กัด!!...กัดเหรอ?...นี่ๆ”
“ใจร้าย~~...รังแกสาวน้อยน่ารักได้ลงคอ!!...ฮี่ๆ...หลักฐานกับพยานครบครันดิ้นไม่หลุดทั้งรูปถ่ายและเทปลับนะจะบอกให้”
“............................................”
“ไม่แก้ตัวอีกรึ?”
“...ฉันไม่มีอารมณ์จะโกหกใครอีกแล้ว”
“ยอมรับง่ายจัง!?...ไม่สนุกเลย--”
“ทีนี้เธอก็ได้รู้ซึ้งแล้วว่าฉันเป็นผู้ชายที่มักมากในกามขนาดไหน”
“...แล้วไง?”
“ยังจะถามว่าแล้วไง?...ฉันเป็นคนประเภทไหนเธอก็รู้ดีฉะนั้นต่อไปไม่ต้องมาปกป้องหรืออะไรหรอก!!...ฉันไม่มีค่าพอ...”
“หยุดนะ!!!...เลิกว่าตัวเองซะที”
“............................................”
“ความจริงที่นายแอบได้เสียกับป้ากวางและน้าศรี...ฝนรู้มาก่อนเกิดเหตุที่หอพักซะด้วยซ้ำ”
“เธอ...เธอรู้!?”
“ถูกต้อง!!...บอลเที่ยวไปมีกิ๊กกับใครที่ไหนบ้างฝนก็รู้หมดเช่นกัน”
“............................................”
“ทั้งที่บอลทำตัวเหลวใหลจนพี่แคทฉุนขาดแต่ฝนก็ยังเลือกเข้าข้างบอลเพราะอะไรรู้ไหม?...เพราะฝนไม่เอามันมาใส่ใจเลยสักนิด...จริงอยู่ที่ตอนแรกฝนก็โกรธว่าทำไมบอลจึงมีนิสัยเจ้าชู้แบบนี้แต่พอมาลองคิดถึงอนาคตที่บอลอาจจะได้เป็นนายใหญ่ของตระกูล...มันช่างธรรมดามากเหลือเกิน”
“หมาย...หมายความว่าไงที่บอกธรรมดา?”
“ขออนุญาตค่ะ”
“............................................”
...เจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บขยะและปัดกวาดถูห้องพอดีเราสองคนจึงหยุดสนทนากันแค่นั้น...ความเจ้าชู้เป็นเรื่องที่ธรรมดามากถ้าผมรับตำแหน่งนายใหญ่!?...เหตุใดฝนจึงพูดเช่นนี้?...
“รักกันดีนะคะ”
“ครับ”
“แฟนคุณนี่ดีจังคอยมาดูแลให้ตลอดเลย”
“ยัย...ยัยนี่ไม่...อุ๊บ!!!”
“ทำไงได้คะคุณป้า?...ก็แฟนหนูคนเนี้ยหัวดื้อหัวรั้นจะตาย~~...ปากแข็งที่หนึ่งแกล้งมึนก็ไม่เป็นสองรองใครด้วย”
“พูด...พูดอะไรฟะ?”
“ฮะๆๆ...หนุ่มๆสาวๆก็แบบนี้แหละค่ะ”
...ผมจะเอ่ยปากว่านี่ลูกพี่ลูกน้องไม่ใช่แฟนก็ถูกฝนหยิกแขนมั่บ...มองเธอๆก็แลบลิ้นพลางทำแววตายียวนใส่ให้อีก...
“อยู่คนเดียวนะ...ฝนจะไปหาของกิน”
“ไม่กินข้าวเช้ามาหรือไง?”
“กินแต่มันหิวน่ะ...เอาอะไรมั้ยจะซื้อมาฝาก?”
“...ไม่เอาหรอก”
...พอมาลองพิจารณาดีๆเงื่อนไขของคุณย่าอุทุมพรก็ไม่ค่อยยุติธรรมกับสาวๆเท่าไหร่นักแต่ผมนี่สิ...ก่อนหน้านี้ป้าเอ็มบอกว่าเบื้องหน้าให้ทำตัวดีๆห้ามไปข้องแวะกับผู้หญิงคนไหนจนเกินงามแต่เบื้องหลังเธอจะช่วยปลดเปลื้องความต้องการทางเพศให้ผมซึ่งแน่นอนว่ามีข้อแลกเปลี่ยนนั่นก็คือ...
(“ตาหนูห้ามไปมีอะไรกับกวางฤทัยและศรีวิกาเด็ดขาด”
“...แต่เงื่อนไขจำกัดแค่แฟน?”
“เดี๋ยวเหอะ!!!...มีป้าเป็นคู่นอนอยู่ทั้งคนแล้วยังจะอาลัยอาวรณ์ยัยหน้าเหี่ยวพวกนั้นทำไมอีกและก็สำนึกมั่งสิว่าที่ต้องมานอนโรงพยาบาลนี่เป็นเพราะอะไร?”
“พี่แคททำร้ายผม”
“ก็ที่ถูกทำร้ายน่ะมันเพราะอะไรห๊ะ?...เพราะผู้หญิงที่ชื่อบุศยาใช่มั้ย?”
...ฝนเล่าว่าเหตุที่พี่แคทโกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็เพราะบุศกับโบว์บุกไปกล่าววาจาดูถูกเหยียมหยามสาถึงบ้านแถมยังเลยเถิดไปถึงกุนด้วยซึ่งประเด็นอย่างหลังนี้แหละที่ทำให้เธอเป็นเดือดเป็นแค้นผมนักและก็ยังตามไปตบหน้าบุศถึงบ้านอีกด้วย...
“อีกอย่าง...ป้าตกลงซื้อบ้านใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
“เร็วจัง!!!”
“ชักช้าไม่ได้...ความจริงป้าเสาะหามาก่อนหน้าจะไปเที่ยวพักหนึ่งแล้วเพียงแต่ไม่พูดอีกอย่างตาหนูก็ไม่บาดเจ็บอะไรมากฉะนั้นจะอยู่โรงพยาบาลนานไม่ได้...ป้าจะสั่งให้คนไปขนของทั้งหมดจากหอพักแคบเท่ารูหนูนั่นมาไว้ที่บ้านหลังใหม่และช่วงแรกตาหนูต้องทนอยู่คนเดียวไปก่อนนะ”
“ผมมักจะอยู่คนเดียวมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ”
“ให้มันจริงเหอะ?...พ่อบอลอย่าแอบพาสาวมากกล่ะกัน...ป้าไม่ยอมจริงๆด้วย!!!”
“อย่าบอกนะครับว่าหึง?”
“หึงสิยะ!!...ลับหลังคนอื่นตาหนูก็เป็นผัวป้านิ!!!”
“ฮะๆ”
“แล้วป้าจะให้ลูกสาวมาอยู่ด้วยสองคน...จีบให้ติดนะ...คิกๆ”
“สองคน?”
“ไม่พอ?...งั้นจะเอาทั้งสี่คนเลยก็ได้นะ”
“ผมไม่ได้...ไม่ได้หมายความอย่างนั้นครับ!!!!”
“ป้าพูดเล่น...ที่จริงก็มีแค่สองคนเท่านั้นที่จะเป็นมิตรกับตาหนู”
“พี่ศรเพทายล่ะครับ?”
“สำหรับคนนี้...พ่อบอลไม่เจอเธอจะดีซะกว่าเพราะเวลาโกรธขึ้นมาน่ะน่ากลัวจริงๆ”
“ที่ว่าน่ากลัวนี่...”
“บอกได้แค่ว่า...หนูแคทกับหนูฝนชิดซ้ายตกขอบไปเลย”
“ไม่เคยเห็นฝนโกรธมากขนาดนั้น”
“ป้าก็ไม่เคยเห็นสุริยะโลหิตของหนูฝนกับตาตัวเอง...ได้ยินแต่นิภาเล่าให้ฟัง”
“เด็กร่าเริงสดใสแบบนี้น่ะเหรอ!?”)
...ตั้งแต่ได้เจอกันอีกครั้งในรอบสิบปีเมื่อช่วงกลางปีจนตอนนี้จะสิ้นปีอยู่แล้วผมก็ไม่เคยเห็นฝนโกรธใครเป็นจริงเป็นจังสักทีส่วนเหตุที่ร้านของพี่แก้วนั่นก็ไม่น่าจะเข้าข่ายเพราะยัยผีโดดเตะโดดถีบพวกนักเลงเป็นว่าเล่นแต่ก็นั่งปรบมือหัวเราะชอบใจไปด้วย...คิดไปคิดมาก็ยิ่งงง...
“ฮ้า~~...อิ่มจังตังค์อยู่ครบ”
“เธอไปกินอะไร?”
“ก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดข้างๆโรง’บาลนี่เอง...ซัดตั้งสี่ชามแน่ะ”
“กินจุแท้...สาธุ!!...ขอให้เป็นหมูตอน”
“ว่าไงน๊ะ?”
“เปล่า”
“ได้ยินหมูตอนๆ...เดี๋ยวเหอะ!!...ฝนไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนตอนเด็กหรอกน่า--”
“จริงด้วยสิเนาะ!!...เธอในสมัยเด็กทั้งดำทั้งอ้วนแถมขี้แยชอบร้องให้ขี้มูกโป่งอีกต่างหาก”
“แล้วปัจจุบันตรงหน้าบอลเล่า?”
“............................................”
“ว่าไงๆ”
“เธอ...”
“จ๋า~~”
“...เธอน่ารัก...และ...และก็เป็นผู้หญิงสวย”
“ฮิๆๆ...งั้นก็จีบซะสิ”
“พะ...พูดอะไรน่ะ?...เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันนะ!!!”
“แง้ว~~...เบื่อจังเล้ยไอ้คำว่าลูกพี่ลูกน้องเนี่ย!?”
“............................................”
“............................................”
“อะ...เอ้อใช่!!...แล้วไอ้ที่พูดว่าอิ่มจังตังค์อยู่ครบเนี่ยใครจ่ายให้?”
“อ๋อ!!...มีเศรษฐีเลี้ยงจ้า?”
“ใครฟะ?”
“อย่าไปสนใจเลย...เรื่องของตัวเองสำคัญกว่าเยอะ”
“ฉันทำไม?”
“ตกลงบอลจะเลือกใครระหว่างสากับพี่บุศ?”
“.............................................”
“ตัวเองจะเลือกใคร?”
“.............................................”
“แฮ่!!”
“เอ้ยอะไรวะ!?”
“เค้าถามว่าตัวเองจะเลือกสาหรือพี่บุศ?”
“..............................................”
“ไม่ตอบรึ?...งั้นก็แสดงว่านายน่ะ...ชอบผู้หญิงคนอื่นอีกชัวร์”
“มีที่ไหน?”
“ต้องมีซี่!!...ใคร?”
“เพ้อเจ้อ!”
“ฝนอยากรู้...บอกมาๆๆๆ”
“แล้วนี่จะขึ้นมาบนเตียงคนป่วยทำไม?”
“ถ้าตัวเองไม่บอกความจริงเค้าจะไม่ลง...ใช่แล้ว!!!...ยังไม่ได้รางวัลเลย”
“รางวัล?”
“ฝนน่ะยอมผิดใจทะเลาะกับพี่แคทเพื่อจะปกป้องบอลเชียวนา--...จนป่านนี้ก็ยังไม่คุยกันเลยสักคำด้วย”
“............................................”
...ผมนอนโรง’บาลได้สองวันแล้วแต่ไม่เห็นพี่แคทมาเลยซึ่งก็ไม่รู้ว่าเธอตั้งใจหรือถูกป้าเอ็มกับอานิภาสั่งห้ามกันแน่?...
(แต่ไม่มาน่ะดีแล้วเพราะขืนเห็นหน้าเราหล่อนอาจจะอารมณ์ขึ้นอีก)
“เจอกันที่มหา’ลัยก็แค่ไม่กี่ครั้งเอง”
“ไม่ได้อยู่บ้าน?”
“เปล่า...ไปค้างบ้านพี่...”
“พี่?”
“ก็เป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลนี้ไง”
“ลูกสาวป้าเอ็ม?”
“อื้อ!”
...ผมยังไม่เคยเจอ “ศรเพทาย” ลูกสาวคนโตของป้าเอ็มสักครั้งซึ่งเธอเป็นเจ้านายที่แท้จริงของสามพี่ น้อง...เอ--...ที่ว่าโกรธใครขึ้นมาจะเอาให้ถึงตายนั่นมันเวอร์เกินไปหรือเปล่าอีกอย่างหล่อนก็เป็นหมอรักษาคนป่วยด้วย!?...
“เอารางวัลๆๆ”
“ฉันไม่มีเงิน...อะ”
“.................................................”
“อุ!!...อู้~~”
“.................................................”
“อย่า!...อุ๊บ!!!”
“อื้ม~~...นิ่งๆซี่!!”
“!!!!!!!!!”
...อ๊าาาาาา!!!!... รางวัลที่ฝนต้องการก็ไม่ใช่เงินแต่คือจูบกับผมหรอกเหรอนี่...จูบ...จูบเก่งไม่เบาเสียด้วยนะเนี่ยแม่เขี้ยวแหลมคนนี้...
“ฮิๆๆ...รางวัลที่หนึ่งสำหรับเค้าเลย”
“เธอ...เธอ”
“สบโอกาสที่อยู่กันสองต่อสอง”
“ฉันไม่ได้จะถามเรื่องนี้...แต่...แต่...”
“นี่เป็นรางวัลที่ฝนสมควรได้ในฐานะที่ยอมเสี่ยงอันตราย...แค่นี้ไม่สึกหรอร้อก!!...ทีบอลจูบสาวๆคนอื่นมาตั้งไม่รู้เท่าไหร่ไม่เห็นโวยเลย”
“แต่เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน”
“ไม่สน”
“!!!!!”
... “ไม่สน” งั้นเหรอ!?...คำนี้มีความหมายลึกซึ้งกว่าที่คิดมากมายมหาศาลเลยละ!!!!...ฝนตั้งใจส่งสัญญาณที่ชัดเจนให้ผมรู้ถึงความในใจของเธอ...เดี๋ยว!!!...มันจะใช่แน่หรือเปล่าก็ไม่รู้และยังมีปัญหาใหญ่รออยู่ดังนั้นผมจะมาคิดไม่ดีกับญาติพี่น้องของตัวเองได้อย่างไรกันล่ะ?...
(แค่นึกหน้าพี่แคทก็เสียวสันหลังวาบขึ้นไปถึงสมองแล้ว...ไม่ดีๆๆ)
“...ฉันไม่ดีพอสำหรับเธอ”
“ใครว่า?...บอลเป็นผู้ชายนิสัยดีจะตายไป”
“เจ้าชู้ซะจนพี่แคทโกรธควันออกหูและก็ส่งมานอนกินข้าวต้มในโรง’บาลเนี่ยนะนิสัยดี?”
“ขึ้นชื่อว่าผู้ชายก็ต้องเจ้าชู้หาเศษหาเลยกันบ้าง”
“เธอนี่...ช่างไม่เหมือนพี่สาวเลยจริงๆ”
“ไม่ว่าคนอื่นจะมองบอลเป็นยังไงแต่สำหรับฝน...บอลคือผู้ชายที่ดีมาก”
...อะไร!?...ไม่ว่าผมจะยืนกรานว่าเป็นคนไม่ดียังไงแต่สาวน้อยเขี้ยวแหลมก็ยังแย้งอยู่นั่นแหละ...
“เชื่อเถอะ...ถ้าไม่แน่ใจแล้วจะพูดออกมาได้เรอะเพราะความรู้สึกของฝนที่มีต่อบอลน่ะมันได้ก้าวข้ามทุกอย่างไปจนหมดสิ้น”
“ก้าวข้าม...ทุกอย่าง...”
“แม้แต่กำแพงที่เรียกว่าลูกพี่ลูกน้อง...ฉันมองนายเป็นผู้ชายคนหนึ่งไม่ใช่พี่ชายอย่างที่ใครๆเข้าใจกันนะจะบอกให้”
“!!!!!!!!!!!!!!”
“ฝะ...ฝน...นี่...นี่เธอพูดอะไรออกมารู้ตัวมั้ย?”
“ฉันมีสติครบถ้วน”
“ธะ...เธอเห็นฉันดีตรงไหนมั่ง...พูดให้ชัดๆอีกครั้งซิ”
“...ตัดประเด็นเจ้าชู้ออกไปนะ...ตัดออกไปเลย”
“อือ--”
“บอลน่ะกินเหล้าบ้างแต่ไม่มากบุหรี่ไม่สูบการพนันอบายมุขไม่ยุ่งการเรียนใช้ได้รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาสมชายชาตรีถึงแม้จะ...ปากแข็งไม่ค่อยยอมรับความรู้สึกตัวเองก็เหอะแต่บอลเป็นคนมีน้ำใจไม่ทอดทิ้งเพื่อนกับคนรอบข้างอย่างเช่นเมื่อสองวันก่อนที่ไม่หนีเอาตัวรอดและปกป้องฝนทั้งที่ตัวเองก็บาดเจ็บ...นี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมมุมมองของฝนจึงไม่เหมือนพี่แคทที่ยึดถือแค่คติผู้ชายที่ดีต้องรักเดียวใจเดียวเท่านั้น”
“................................................”
“เพราะฉะนั้นในสายตาของฝน...บอลจึงเป็นคนดีแน่นอน”
...หยาด ฝน เทวะกรนันท์...เด็กสาววัย 18 ปีคนนี้มองข้ามความเจ้าชู้ของผมไปอย่างไม่แยแส...เธอสนใจแต่ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีน้ำใจต่อพวกพ้องของผมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด...
“และเรื่องแหวนดอกหญ้าที่บอลทำให้ฝนพร้อมกับคำมั่นสัญญาอันสูงส่งนั่นน่ะ”
“...............................................”
“เค้ารู้น๊าว่าตัวเองนึกออกหมดแล้วแต่แกล้ง~~...ร้ายนัก!!”
“คือว่า...
“ถ้ายังแกล้งนึกไม่ออกอีกฝนจะช่วยเตือนความจำให้ก็ได้...ทำแบบเมื่อกี้ไง”
...สาวน้อยวัย 18 เขยิบมานั่งใกล้ผมอีกพลางสบตามองแป๋วแหววกับเอาปลายนิ้วแตะที่ริมฝีปากตัวเอง...
“เอ่อ--”
“หืม?”
“อาหารกลางวันค่ะ”
“ฝน...เขามาส่งอาหาร”
“จิ๊!!...กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย”
(เข้าด้ายเข้าเข็มอะไรกันเล่า!?)
“วู้ว!?...ข้าวสวยกับต้มจืดเต้าหูหมูสับและนี่ก็กุนเชียงทอดส่วนของหวานคือบัวลอย...มา--...ฝนป้อนให้”
“ฉันกินเองได้”
“ถ้าไม่ให้เค้าป้อนงั้นตัวเองก็ไม่ต้องกิน!!”
“มีอย่างนี้ด้วย?”
“คนป่วยน่ะนั่งเฉยๆ...อ้าม~~”
“.............................................”
“อ้าม~~”
“.............................................”
“กินเยอะๆจะได้แข็งแรง...เอ้าอ้าม~~”
“ฉัน...ฉันอาย”
“อายทำไมมีเราอยู่กันแค่สองคน?...อ่ะดื่มน้ำ”
“.............................................”
“อีกคำนึง”
...สมัยก่อนก็เป็นอย่างนี้ที่ฝนจะคอยดูแลเวลาผมไม่สบายและแหวนดอกหญ้าก็ถือกำเนิดมาด้วยเหตุผลนั้น...
(“พี่บอลจะเพิ่งหายไข้นะ...เข้าบ้านเหอะ”
“ไม่เป็นไรแค่สนามหญ้าหน้าบ้านเอง...พี่มีอะไรจะให้น้องฝนแน่ะ”
“อะไรอ่ะ?”
“นี่ไง”
“...นี่คือ...แหวน?”
“อื้อ!...ทำจากดอกหญ้า”
“เพราะพี่บอลรู้ว่าฝนอยากได้แหวนเหรอ?”
“เอาไว้ฝนโตขึ้นพี่จะซื้อแหวนจริงๆให้”
“จริงๆนะ?”
“สัญญาจ้ะ”
“เฮ!!...พี่บอลต้องซื้อแหวนมาขอฝนแต่งงานนะ”
“ใช่...โตขึ้นเราจะแต่งงานกัน”
“ว้าย~~...ฝนรักพี่บอลที่สุดในโลกเลย!!!...จนกว่าจะถึงวันนั้นฝนจะเก็บแหวนวงนี้ไว้”
“หนูๆจ๊ะ...เย็นแล้วนะ”
“แม่จ๋า...พี่บอลขอฝนแต่งงาน”
“พูดทำไม?”
“จริงเหรอ?...บอลสัญญาจะแต่งงานกับหนูฝนหรือ?”
“อ่า...”
“นี่ไงคะแม่...แหวนที่พี่บอลทำให้หนู”
“แหมใส่ได้พอดีนิ้วเลยนะแต่นี่แน่ะ~~...แหวนหมั้นน่ะเขาต้องสวมนิ้วนางข้างซ้ายนะจ๊ะ”
“อ๊ะ!?...พี่บอลจะไปไหน?”
“ก็...ก็เข้าบ้านน่ะสิ”
“รอฝนด้วย”
“ฮิๆ...พี่เขาอายหนูจ้ะ”
“โตขึ้นฝนจะเป็นเจ้าสาวของพี่บอลค่ะ...แม่ต้องยกฝนให้พี่บอลแค่คนเดียวนะคะห้ามยกให้คนอื่น”
“ตายจริงลูกคนนี้!?...มันยังอีกนานมากนะ?”
“ไม่ว่านานแค่ไหนฝนก็จะรอพี่บอลคนเดียวเท่านั้น...พี่บอลจ๋า~~...ฝนรักพี่ๆๆ...รักที่สุดในโลกเลยน๊า!!!!”
“ตะโกนทำไมเล่า?...อายเค้า”)
“ตัวเองหน้าแดงนี่!?...แสดงว่าต้องคิดไม่ดีกับเค้าแน่เลย!!!”
“ก็บอกว่าไม่...”
“ไม่ต้องเสียงดังขนาดนั้นก็ด้าย~~...ฝนรู้แล้ว”
“รู้อะไร?”
“ก็...รู้ว่าบอลยังชอบผู้หญิงคนอื่นอีกไงจ๊ะแล้วเธอก็...อยู่ใกล้ๆนี่ซะด้วย...ฮิๆๆ”
“...............................................”
...ทำ...ทำไมผมไม่ตอบปฏิเสธเล่าว่าที่ฝนพูดเมื่อกี้มันไม่ใช่ความจริง?...มันไม่ใช่ ...แหวนดอกหญ้ากับสัญญาว่าจะขอฝนแต่งงานนั่น...มัน...มันเป็นแค่การเล่นสนุกเมื่อครั้งยังเด็กไม่ใช่หรือ?...
“เค้าขอบัวลอยนะ”
“อือ--”
“ลาภปาก!”
“...............................................”
“อร่อยดีเหมือนกัน”
“นี่”
“จ๊ะ?”
“นั่งดีๆ...หวอออกแล้ว!!!”
“อ๋า~~...ลามก!”
“เธอนุ่งกระโปรงแต่นั่งชันเข่าเองนะ...ปิดซี่~~”
“ไม่อยากดูเหรอ?”
“หะ...เห็นฉันเป็นคนยังไงฟะ?”
“ปิดก็ได้”
“ไม่ใช่ให้เอามือปิด...เอาขาลงๆ”
“โฮ่~~...บอลยังเห็นอยู่รึ?...แสดงว่าของฝนก็ใหญ่เหมือนกัน”
“อะ...อะไรใหญ่?”
“ก็ตรงนั้นไงจ๊ะ...ขนาดเค้าเอามือปิดแต่ตัวเองก็ยังเห็นอีก...อา--...พอวับๆแวมๆอย่างนี้ตื่นเต้นดีใช่ม๊า?”
...ผมล่ะอายแทนฝนจริงๆแต่เธอก็จงใจนั่งชันเข่าโชว์กางเกงในยั่วกันอยู่ได้...นี่ผู้ชายทั้งแท่งนะเฮ้ย!!!...อย่างนี้เรียกว่าปิดเร๊อะ?...
(ช๊อตที่แม่สาวน้อยเอามือปิดเป้าแต่กางเกงในผ้าฝ้ายสีขาวขอบชมพูยังแลบออกมานี่มันช่างเด็ดขาดบาดอารมณ์เหลือร้าย...เห็นแล้วโด่ทันทีเชียวล่ะ!?)
“อยากดูชัดๆกว่านี้ไหม?”
“ดูอะไร?”
“รู้แล้วยังจะถามอีก?”
“อะ...”
“ถ้าเป็นบอลล่ะก็...ฝนเต็มใจนะ”
...เหงื่อแตกซิกเต็มตัวเลยกู!!!!...ลูกสาวคนเล็กของอาอรนิภาเปิดเกมส์รุกใส่ชนิดที่ผมตั้งตัวไม่ติดเช่นนี้...จะ...จะทำยังไงดี?...
“หวัดดีจ้าเด็กๆ!!”
“คุณอา”
“..............................................”
“ข้างนอกร้อนจัง...นี่มันฤดูหนาวแน่หรือเนี่ย?”
...ลงมาครั้งนี้คุณอาอรนิภาเปลี่ยนทรงผมใหม่เป็นตัดสั้นจากที่แต่ก่อนไว้ยาวประบ่า...แบบนี้ดูเธออ่อนเยาว์ขึ้นเยอะและไม่ค่อยรู้สึกถึงความตึงเครียดเท่าใดนัก...
(ป้าเอ็มบอกว่าสมัยอานิภายังเด็กสุดแสนจะซนเป็นลิงแถมชอบก่อเรื่องวุ่นวายไม่เว้นแต่ล่ะวัน)
“ทำไมมองหน้าอาอย่างนั้นจ๊ะ?”
“ปละ...เปล่าครับ”
“เอ้อแม่!!...พอบอลหายดีก็จะพาฝนไปเที่ยว”
“ฉันพูดเมื่อไหร่?”
“เมื่อกี้ไง”
“เอ๋!?...บอลจะพาน้องไปเที่ยวไหนหรือจ๊ะ?”
“คือผม...”
“อืม--... จะไปไหนอาก็ไม่ว่าหรอกแต่บอลต้องดูแลให้ดีๆนะ...อ้อ!!...ฝนค่อนข้างจะขี้อ้อนแต่ยังไงก็อย่าถือสามาก...แค่ตามใจกับง้องอนสักหน่อยก็ไม่มีอะไรแล้ว”
“จริงด้วย...เป็นอย่างนั้นเลย...คิกๆ”
“ฮิๆ”
...อานิภาพูดประโยคแบบนี้มันเหมือนกับตอนที่แม่ส่งลูกสาวเข้าเรือนหอยังไงก็ไม่รู้แฮะ?...รึเธอจะรู้กันกับลูกสาว!?...ต้องใช่แหงๆเลยเพราะทั้งคู่ลอบสบตากันแล้วก็หัวเราะในลำคอด้วย!!!!...
(วันที่เราทำแหวนดอกหญ้าให้ฝน...อานิภาก็เห็นนี่หว่า!!!)
“อ้าว!?...ภาก็อยู่เหรอ?”
“จะกลับแล้วล่ะค่ะ”
“ตามที่ตกลง...พี่จะสั่งให้ทุกคนปิดปากเงียบแม้กระทั่งลูกสาวก็ไม่ให้รู้”
“ขอบคุณพี่เอ็มมากค่ะ”
“เที่ยงพรุ่งนี้ตาหนูก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลนะ”
“ครับ”
“พี่เอ็ม...นี่พี่ดูสาวขึ้นหรือเปล่า?”
“เปล่าสักหน่อย...พี่คงจะแต่งตัวเหมือนสาววัยรุ่นมากไปมั้ง?”
“อือ--...ภารู้สึกเหมือนผิวพรรณพี่เอ็มดูมีน้ำมีนวลขึ้นกว่าเมื่อก่อน...ใบหน้าก็ผุดผาดเต่งตึงเชียว”
“คิดมากไปแล้ว!!...พี่ก็เป็นของพี่อย่างนี้ตลอดแหละ...จริงด้วย!!...ป้าเห็นพวกเพื่อนตาหนูอยู่ข้างล่างเดี๋ยวก็คงจะขึ้นมาเยี่ยม”
“งั้นฝนไปเรียนก่อนล่ะ...เย็นๆจะมาใหม่นะบอล”
“อะ...อืม”
...............................................................................................................................

“ที่จริงแม่ตั้งใจพาหนูสี่คนพี่น้องนั่นมาเที่ยวเปิดหูเปิดตาแท้ๆแต่พี่เราดันก่อเรื่องขึ้นซะนี่”
“หากไม่ได้พวกเธอช่วยก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรอีก?”
“นี่”
“คะ?”
“แม่เห็นนะว่าลูกฝนทำอะไร”
“เห็นด้วย!?”
“จูบพี่เขาเอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้เอยแกล้งนั่งถ่างขาโชว์แพนดี้เอย...ลูกชักจะใจกล้าเกินไปละ!”
“แหม!!...หนูแค่อยากรู้ว่าบอลจะมีอาการยังไงบ้าง?”
“มันจะดูน่าเกลียดเกินนะลูก--”
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปคือโอกาสของหนูแล้วค่ะแม่”
“แต่ลูกจงอย่าได้ลืมว่าหนูกุนหนูสายังเป็นแฟนบอลอยู่และทั้งสองก็ยอมทำตามเงื่อนไขของคุณยายโดยไม่บิดพริ้วซึ่งแสดงว่าพวกเธอมีความรักต่อบอลมาก”
“ฮิ!...เบื้องหน้าหนูคือเพื่อนที่คอยเอาใจช่วยแต่เบื้องหลังหนูจะทำตามใจของตัวเองอย่างเช่นเมื่อกี้”
“เฮ้อ~~...พี่เราได้อกแตกตายแหงๆถ้ามาได้ยินเข้า”
“ก็คงงั้นแหละแม่แต่ฝนจะไม่ถอยแล้ว!!...ใครที่ว่าฝนทรยศเพื่อนคนนั้นพูดผิดถนัดเพราะบอลให้สัญญาว่าจะแต่งงานกับฝนมาก่อนตั้งนานมากแต่ผู้หญิงคนอื่นต่างหากที่จ้องจะมาแย่งบอลไปจากฝน!!!”
“.............................................”
“มะม๊า?”
“แม่ขอถามอะไรหน่อยเถอะ...ลูกฝนชอบผู้ชายหรือผู้หญิงจ๊ะ?”
“เห!?”
“รึชอบทั้งสองเพศ?”
“แม่...แม่พูดอะไรเนี่ย!?...ฝนชอบผู้ชายนะคะขอบอก!!!”
“ชอบผู้ชาย...แล้วไหงถึงเสร็จหนูเซคได้อ่ะ?”
“จ๊าก!!!...มะ...แม่รู้แล้วเรอะ?”
“รู้สิก็แม่เกือบจะโดนเหมือนกัน...นี่ดีนะที่รอดได้อย่างหวุดหวิด”
“หวาย!!”
“มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น...เซคเป็นเลสเปี้ยนทำไมแคทกับหนูถึงไม่บอกแม่?”
“แม่ไปทำอีท่าไหนถึงจะถูกพี่เซคปล้ำเหรอ?”
“คือ...สายวันนี้แม่อาบน้ำเสร็จก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาคุยกับเซคซึ่งก็จ้องซะตาเป็นมันเชียวละแต่แม่ยังไม่กล้าคิดอะไรไม่ดี”
“แม่โชว์เรือนร่างอันเซ็กส์ซี่โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวนั่นเอง...แล้วไงต่อจ๊ะ?”
“จากนั้น...แม่เข้าไปนั่งเช็ดหน้าเช็ดตาในห้องเซคก็เข้ามาพูดด้วยและจู่ๆ...เธอก็มาลูบแขนลูบไหล่แม่”
“อืมๆ”
“และเธอ...และเธอก็หอมแก้มแม่อ่ะ!!”
“ว้าวๆๆ”
“ว้าวอะไรยะ!?...แม่ก็ใจสั่นแต่พยายามไม่คิดอะไรมาก...แล้ว...แล้วก็ถามว่ามีแฟนหรือยังและจะแต่งงานเมื่อไหร่...เซคก็ตอบหน้าระรื่นว่ามีหลายคนแต่ใครจะไปรู้ว่าแฟนที่พูดน่ะผู้หญิง!!!”
“จากนั้น?”
“แม่ชักเห็นท่าไม่ดีเลยลุกจะเดินหนีแต่เซคเข้ามากอดแล้วดึงผ้าเช็ดตัวออก”
“วี้ดวิ้ว~~...น่าตื่นเต้น...โอ๊ย!!”
“นี่แน่ะตื่นเต้น!!...แม่จะโดนขืนใจอยู่ข้างลูกฝนยังบอกตื่นเต้น”
“แค่นี้ก็ถึงกับต้องจอดรถเขกหัวลูกสาวตัวเองเชียวเหยอ?”
“ก็บอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น...หลานสาวจะปล้ำน้าตัวเอง...ใครรู้เข้าอายเขาตาย”
“พี่เซคยังปากว่ามือถึงเหมือนเดิม...แม่คงถูกจูบถูกไซ้จนใจหวิวไปเลยสิ”
“..............................................”
“ไม่ตอบแสดงว่าใช่”
“แถมบีบจับหน้าอกแม่ใหญ่เลยอ่ะส่วนอีกมือก็...”
“ก็อะไรคะ?”
“ก็...ก็ลูบจิ๋มแม่น่ะสิ...ถามอะไรก็ไม่รู้”
“ดูเหมือนแม่จะชอบแฮะ?”
“คะ...ใครว่า!?”
“เพราะแม่พูดไปก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปด้วยนี่นา?”
“นี่ยัยหนู~~...แม่ชอบผู้ชายย่ะ!!”
“หนูก็ชอบผู้ชายเหมือนกันจ้ะขอบอก”
“จริงน่ะ?”
“จริง!!”
“แน่นะ?”
“แน่ซี่!!”
“.........................................”
“.........................................”
“ฮะๆๆๆๆ”
“เอิ้กๆๆๆ”
“พอละ!...พอ!!”
“เฮะ?”
“พอซะทีได้มั้ย?...เลิกกระโปรงแม่อยู่ได้!?”
“อ้าวลืม!!”
“จงใจมากกว่านะลูกฝนเนี่ย...จะดูอะไรยะ?”
“ก็จะดูร่องรอยความเสียหายที่พี่เซคทำไว้น่ะจิ”
“ไม่มีหรอกของพรรค์นั้นเพราะมือชั้นนี้แล้วพลาดยากจ้ะ...แต่...แต่ก็ตกใจหมดเลย”
“................................................”
“แม่แน่ใจก็ได้ว่าลูกฝนชอบผู้ชายแต่วงเล็บผู้หญิงก็ไม่มีปัญหา...ใช่ม๊า?”
“แหม~~”
“ส่วนแคทก็ต้องรับผลข้างเคียงของสุริยะโลหิตไปอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง...ตั้งใจเรียนนะจ๊ะ...แม่ฝากลาพี่เราด้วย”
“ค่ะ”
“อย่างไร...ลูกฝนก็จะเดินหน้าต่อไปใช่หรือไม่?”
“ใช่แล้วค่ะ”
“ถ้างั้น...แม่จะคอยเอาใจช่วยนะลูก”
“พะ...พูดจริงหรือคะ?”
“ถึงจะไม่ดีต่อพี่กวางกับศรีวิกา...ไม่ดีต่อหนูกุนหนูสาและหนูอ้อยแล้วอาจจะโดนแคทกับพ่อเขาคัดค้านอย่างหนักก็ตามเถอะแต่แม่จะขออยู่เคียงข้างลูกฝนจ้ะเพราะความสุขของลูกก็คือความสุขของแม่”
“ขอบพระคุณคุณแม่มากค่ะ...ฝนดีใจเหลือเกินที่ได้ยินแบบนี้”
“โอ๋ๆ...ร้องให้เป็นเด็กๆเชียวลูกคนนี้...แม่จะไปให้ความสำคัญกับคนอื่นยิ่งกว่าลูกสาวสุดที่รักของตัวเองได้อย่างไรกันจ๊ะ?”
“อื้ม!!!”
“จงทำทุกอย่างตามแต่ใจต้องการเถอะและแม่ขออวยพรให้ลูกฝนโชคดี”
...........................................................................................................

...ตอนที่แล้ว ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 53 ...
...ตอนต่อไป Kat Sidestory 3 (ผู้ชายถอยไปผู้หญิงล้วนๆ...ตอนหน้าจัดเต็มแน่) ...