หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

Moonstone Sidestory 3



Moonstone Sidestory 3 “ตามล่าฆาตกร...ลงฑัณท์!!!!

1 มกราคม 2549 เวลา 18.00 น....ที่สำนักงานนักสืบ...

“ผมว่ามันยังเร็วไปนะครับ...คำพูดต่างๆกับหลักฐานที่เรามีอยู่นี้ยังเอาผิดเจ้าเสี่ยคำลือไม่ได้”
“เมื่อคุณหนูตัดสินใจแล้วก็หามีผู้ใดจะทัดทานได้ไม่...หลักฐานมิเพียงพอก็จงสร้างมันขึ้นมาอีกสิ”
“สะ...สร้างขึ้น!?
“คุณหนูว่าไว้อย่างนั้น...หึ!...แต่ว่ากันตรงๆเลยนะ...เธอต้องการอีกเพียงสิ่งเดียวคือคำสารภาพจากปากเสี่ยคำลือ”
“................................................”
“อีกมินานเจ้าหน้าที่จะต้องสืบสาวไปถึงหญิงวัยรุ่นที่เป็นเมียลับของเสี่ยคำลือแลกำลังตั้งท้องอยู่...ไหนจะเรื่องการแอบนำชื่อภรรยาไปทำธุรกิจมืดผิดกฏหมายจนโดนเจ้าหน้าที่บ้านเมืองตามกลิ่นได้”
“แสดงว่าคุณหนูปักใจเชื่อไปแล้วเหรอครับ?”
“อืม--...เมื่อกำลังจะถูกขุดคุ้ยก็ร้อนตนจึงชิงวางแผนฆ่าภรรยาโดยจัดฉากว่าเป็นอัตวินิบาศกรรมแลจากนั้นก็ป้ายสีผู้วายชนม์...ที่คุณหนูโกรธแค้นจนอยากจะสังหารเสี่ยคำลือก็เพราะเหตุนี้”
“คุณไหม”
“?”
“ผมน่ะอดภูมิใจตัวเองไม่ได้นะครับที่ครั้งนี้สามารถสืบหาหลักฐานได้เร็วกว่าตำรวจแต่...”
“จะพูดอะไรรึ?...นายชาญ”
“มีคนเคยว่าไว้...นักสืบที่ไล่ต้อนผู้อื่นไปสู่ความตายก็ไม่ต่างอะไรจากฆาตกร...ครั้งนี้เสี่ยคำลือคงจะ...”
“เขาจะต้องตาย...รวมไปถึงนายจิ๋ว แวงใหญ่ด้วย”
“................................................”
“นายชาญบอกเองว่าสองวันก่อนคืนเกิดเหตุหาได้มีผู้ใดพบเห็นคุณดวงตาเลยแม้แต่คนเดียว”
“ผมสามารถยืนยันความจริงข้อนี้ได้และมีพยานด้วยล่ะครับ”
“ลุงที่ขี่รถสามล้อรับซื้อของเก่าในหมู่บ้าน”
“ครับ...เขารู้จักคุณดวงตาเป็นอย่างดีและมักพูดคุยทักทายเกือบทุกวันเพราะบ้านก็อยู่ไม่ห่างกัน”
“ทว่าสองวันก่อนจะเกิดเหตุ...ลุงเขามิได้เห็นคุณดวงตาอีกเลย”
“ใช่ครับ...เป็นไปได้สูงว่าคุณดวงตาจะถูกลักพาตัวไปซ่อนไว้ที่ไหนสักแห่งและเมื่อผมเอารูปจิ๋ว แวงใหญ่ให้ลุงดูเขาก็บอกว่าเคยเห็นผู้ชายคนนี้เข้าออกบ้านนั้นบ่อยๆแล้วยังชอบไปยืนดูแถวหน้าบ้านกับด้านหลังเป็นประจำ”
“เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหว...เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับคุณหนูแล้ว”
“เอ่อ--...เมื่อกี้ที่บอกว่าจะสร้างหลักฐานเพิ่มขึ้นมา...อะไรที่ทำให้คุณหนูม่อนมั่นใจถึงขนาดนั้น?”
“...ล็อคเก็ต”
“?”
..................................................................................................................................................

1 มกราคม 2549 เวลา 20.30 น....ที่สวนหย่อมด้านหลังโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัย...

“ล็อคเก็ตนี่...พี่จำได้ว่าน้องเป็นคนซื้อให้คุณดวงตา”
“..............................................”
“มีรูปเจ้าหมอนั่นด้วย...เอ๊ะ?...แล้วไอ้คราบที่ติดอยู่...เลือด!!!
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ”
“มีความเป็นไปได้สูงเลยว่าจะเป็นเลือดของคุณดวงตา...นะ...นี่คือไดอิ้งเมจเสจหรือเนี่ย?”
(“ล็อคเก็ตที่น้องม่อนให้มาถูกใจพี่จริงๆ”
“เราดีใจมากที่ได้ยินเช่นนี้แต่เหตุใดท่านจึงมิใส่รูปที่ตนชอบอย่างเช่นรูปของท่านหรือผู้อันเป็นที่รักล่ะเจ้าคะ?”
“ถ้าพี่มีลูกก็จะเอาใส่น่ะ”
“เช่นนั้นก็สามี”
“เขา...ไม่มีค่าพอหรอก”
“?”
“บางที...พี่อาจจะลองทำอะไรบางอย่างเช่น...เอารูปของใครบางคนที่เกลียดหรืออยากฆ่าพี่ใส่ลงไปในนี้ก็ได้”
“ท่าน!!...ใยท่านจึงพูดจาน่ากลัวเช่นนี้เล่า?”
“พี่แค่ยกตัวอย่างจากในนิยายหนังสืบที่อ่านจ้ะ...น้องม่อนอย่าเพิ่งตกใจ”
“ท่านอ่านเรื่องพรรค์นี้มากจะมิเกิดผลดีนะเจ้าคะ...เรามิชอบเลย”
“อ่ะๆ...งั้นเรามาอ่านโดราเอม่อนให้สนุกกันดีกว่า...อย่าทำหน้าเครียดแบบนั้นซี่~~
“....................................................”)
“หมายความว่าคุณดวงตารู้ตัวอยู่ก่อนว่าจะต้องตายงั้นรึ?”
“ตอนนั้นน้องก็มิได้เฉลียวใจสงสัยเท่าใดนักเพราะคิดว่าคุณดวงตายกมาจากในนิยายนักสืบจริงๆ”
“ม่อน...น้องเสียใจมากสินะ?”
“หากรู้แต่แรกเหตุการณ์อันน่าเศร้านี้จักมิเกิดขึ้น...น้องนี่ช่างโง่เขลานัก!!!...ตั้งแต่ได้ล็อคเก็ตนี่คุณดวงตาก็มิเคยเอารูปอะไรใส่เข้าไปเลย”
“วันนั้นที่น้องแอบเข้าไปในออฟฟิศเสี่ยคำลือก็เพื่อจะหาของสิ่งนี้...อืม--...ถ้าตำรวจหาเจอก่อนก็อาจจะ...ดีละ!!!...พี่จะตามเจ้าทิมมาเดี๋ยวนี้แหละน้องไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว”
“หยุดก่อนเจ้าค่ะ”
“?”
“ฟ้าดินต้องการให้น้องเป็นผู้เจอล็อคเก็ตอันนี้เพื่อนำทางไปสู่การลากเจ้าคนชั่วช้าลงนรก...ขอท่านพี่จงอย่าห้ามน้อง”
“ไม่!!...พี่ต้องห้ามแน่เพราะด้วยจรรยาบรรณของหมอ...พี่จะยอมให้น้องไปฆ่าเสี่ยคำลือไม่ได้!!!...ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆที่น้องสังหารศัตรูตามคำสั่งของคุณตาแต่นั่นก็เพื่อปกป้องตระกูลของเรา...นี่เป็นแค่ความแค้นส่วนตัว...น้องปล่อยให้เจ้าทิมจัดการซะเถอะนะอย่าถลำลึกไปมากกว่านี้”
“เป็นดังที่คิดไว้...เมื่อถึงที่สุดแล้วท่านพี่จักต้องห้ามน้องแต่ทว่าช้าไปแล้วเจ้าค่ะ”
“หา!?...มะ...หมายความว่ายังไง?”
“เพราะยาที่ผสมในน้ำหวานใกล้จะออกฤทธิ์น่ะสิเจ้าคะ”
“นะ...น้ำหวานในแก้วที่ไหมซื้อมาให้เมื่อกี้?”
“...สุริยะโลหิตในร่างกายของท่านพี่ต่อต้านไว้จึงแสดงผลช้ากว่าปกติ”
“บะ...บ้าจริง!!...มิน่าถึงรู้สึกง่วงๆ...อึ๊ก!...มึนหัว...สะกดจิตพี่ไม่ได้ก็เลยแอบวางยานอนหลับงั้นรึนี่?”
“เข้าสู่การนิทราไปเถิดนะเจ้าคะแลเมื่อท่านพี่ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง...ทุกอย่างจะเรียบร้อย”
“ทำ...ทำกับพี่ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ?...โธ่เอ๊ย!!...ใส่ลงไปกี่เม็ดเนี่ย?...ฮึ่ม!!!...ขนาดตะวันเลือดยัง...ต้านไม่อยู่”
“............................................”
“หนอย!!!!
“ท่านพี่แพ้แล้ว...ได้โปรดอย่าดื้ออีกเลย”
“อา...”
“............................................”
“............................................”
“ไหม...พาท่านพี่กลับบ้านแล้วตามไปสมทบกับเรายังที่นัดหมายไว้”
“...คุณหนูใหญ่โกรธมากแน่”
“ขอแค่ได้ฆ่าเจ้าเดนมนุษย์สองตัวนั่นเราก็พร้อมยอมรับการลงโทษทุกประการ...ธนูง้างแล้วจะต้องยิง...เราถอยกลับไปมิได้แล้ว!!!!
.....................................................................................................................................................

“.............................................”
“อือ~~...อือออออออออ”
“.............................................”
“สะ...สี่ทุ่ม...รึ?...หนอย!?...โอ๊ย!!!
“คุณหนูใหญ่!!!...เป็นไปอะไรไปหรือเจ้าคะ?”
“หยิบ...โทรศัพท์...มา...ให้ฉัน”
“เมาหรือเปล่านะ?”
“บ้า!...มีกลิ่นเหล้าซะเมื่อไหร่กันล่ะ?”
“ใคร...ใครก็ได้...ได้โปรดเถอะ...อย่าเพิ่งหลับตอนนี้”
“.............................................”
“.............................................”
(ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก)
“ไอ้ทิม!!...ไอ้บ้าเอ๊ย!!!...เว...เวลาอย่างนี้...อูย~~...ปวดหัวเหมือนจะระเบิดออกมา...ยัยม่อนนะยัยม่อนคอยดูเหอะ!!
“.............................................”
“งั้น...งั้นเหลือแค่...”
“............................................”.
“แข็งใจไว้ศรเพทาย...เธอจะมายอมแพ้ตรงนี้...ไม่ได้นะ!!!
“มีอะไรหรือขอรับ?”
“เอ้~~...ช่วยพี่ด้วย!!
“ห๊ะ!?...เกิดอะไรขึ้นขอรับ?”
“ยะ...อย่าเพิ่งถาม!...เอ้รีบมา...ม่อน...ม่อนน่ะ”
“น้องนางศรมุกดา!?...เธอเป็นอะไรไปขอรับ?”
“ธะ...เธอจะฆ่าคน...อีกแล้ว”
!?
“ช่วย...ช่วยรีบมาห้ามเด็กคนนั้น...อุ๊ก!!
“ได้ขอรับ!!...กระผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้!!!
“...........................................”
“ท่านพี่ศรเพทาย!?...ท่านพี่ศรเพทาย!!!
“คุณสุริยาวรรณ”
“เธอ...เป็นสาวใช้สินะ...บอกกระผมมาทีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“คือ...หนูก็มิทราบเจ้าค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น...เธอเห็นน้องนางศรมุกดาครั้งสุดท้ายเวลาเท่าไหร่?”
“เอ่อ--...คุณหนูรองพาคุณหนูใหญ่มาส่งที่บ้านเวลา...ราวๆสามทุ่มกว่าเจ้าค่ะ”
“เข้าใจแล้ว!!...พวกเธอดูแลท่านพี่ศรเพทายให้ดี...กระผมกำลังจะไปที่นั่น”
“จะ...เจ้าค่ะ”
“เราก็ยังมิเข้าใจเหตุการณ์แต่น้องนางศรมุกดาในขณะนี้น่าจะกลายเป็นมือสังหารไปเสียแล้ว...”
(“ลูกเอ้จงจำไว้...ขึ้นชื่อว่ามือสังหารนั้นมักจะลงมือในสองสถานการณ์...หนึ่งกลางดึกสงัดแลสองท่ามกลางฝูงชน”)
“ทว่าขณะนี้เหลือเพียงประการเดียว...แม้โอกาสไปห้ามน้องนางศรมุกดาทันแทบกลายเป็นศูนย์แต่หากเรารีบไปก็อาจจะพอทำอะไรได้บ้าง”
.................................................................................................................................................

“เที่ยงคืนแล้วเจ้าค่ะ”
“อืม--...เจ้าคนไร้ยางอายนั่นคงจะเสียพลังงานไปเยอะ”
“เขาจะหลับสนิทหรือยังก็มิทราบน่ะเจ้าค่ะ?”
“เราจะเข้าไปดูเอง”
“ขอให้คุณหนูจงระมัดระวังให้มากนะเจ้าคะ”
...เรากับไหมมาถึงบ้านเสี่ยคำลือตั้งแต่เมื่อเลยสี่ทุ่มไปเพียงนิดแต่ต้องยั้งรอเพราะชายโฉดที่มิรู้จักสำนึกในบาปกรรมนั้นสั่งให้ลูกน้องจัดหานักศึกษาสาวแห่งเดียวกับที่ท่านพี่สุรีย์พรรณเรียนอยู่มาปรนเปรอความใคร่ถึงสองคน...
(ภรรยาเสียชีวิตยังมิถึงสัปดาห์ก็พาหญิงขายบริการเข้าบ้าน...มันยิ่งสมควรตายนัก!!!)
“.........................................”
(ทว่านักศึกษาสาวสองคนนั้นก็คุ้นหน้าคุ้นตาเพียงแต่ยังนึกมิออกว่าเป็นใคร?)
“.........................................”
(ช่างเถิด...เวลานี้ภารกิจ “ลงฑัณท์” คนชั่วช้าสำคัญกว่าแลนับว่าโชคเข้าข้างที่จิ๋ว แวงใหญ่มิได้อยู่ที่นี่)
“โธ่เอ๊ย!!...ทำไมชอบปวดเยี่ยวอีตอนหนาวๆอย่างนี้ด้วยว๊า~~
(ลูกน้องที่เฝ้ายามอยู่หน้าบ้านหรือ?...แม้ลอบเข้าในบริเวณบ้านได้แล้วแต่หากปล่อยไว้อาจจะเป็นอุปสรรคต่องานของเรา...ตามไปจนถึงที่ๆปลอดคนแล้วจัดการซะ!!)
“อ้า!!...สบายตัว...รู้งี้ไม่แลกเวรซะดีกว่า...อ๊อก!!!
“...เจ้าโชคร้ายเองนะ”
(ทีนี้ก็ลากไปซ่อนด้านหลังห้องน้ำ...มิฟื้นคืนสติเร็วๆนี้ดอกเพราะเราฉวยหยิบพลั่วตักดินก่อนใช้พลังจิตขว้างไปที่หลังคอชายคนนั้น)
“.........................................”
(เรียบร้อย...ข้างนอกทางสะดวก)
“.........................................”
(พอเข้ามาในบ้านก็ได้ยินเสียงหายใจยามหลับ...หนึ่ง...สอง...สาม...เจ้าเสี่ยคำลือสั่งให้ลูกน้องมาคอยอารักขามันเกือบสิบคนเชียวหรือนี่อีกทั้งมีคนที่ยังตื่นอยู่ด้วย!?)
“.........................................”
(ทำให้ยุ่งยากมิเข้าท่าจริงๆ!!)
“เอ้ย!?...นั่นเสียงอะไรวะ?”
“มึงไปดูซิ”
“ก็ไปด้วยกันหน่อยเซ่!!
“ไอ้ห่-...ปอดแหกอีกแล้วนะ!!!
(ได้ผลกว่าที่คาด...ดีมาก!...ไปกันสองคนตรงนี้ก็เปิดโล่ง)
“..........................................”
“นึกว่าอะไร?...เสียงทัพพีหล่นนี่เอง”
“สงสัยแมวมาวิ่งไล่หนูแถวนี้ว่ะ”
(ระเบียงชั้นสองยังมีลูกน้องยืนเฝ้าอยู่อีกคน...หืม?)
“งืมๆๆ”
(พอเข้าไปใกล้จึงเห็นว่าเขายืนสัปหงก...หึๆ...เช่นนั้นก็สมควรจะสงเคราะห์ให้หลับสบายไปเลยนะ)
“หากง่วงนักก็จงหลับตาพักผ่อนไปเสียเถิด”
“..........................................”
“ดีเหลือเกิน”
(ประตูใหญ่สองบานข้างหน้านั่นก็คือห้องนอนของเจ้าเสี่ยคำลือ...ได้ยินเสียงหายใจในยามหลับเบาๆแลสม่ำเสมอ)
“..........................................”
(ใช้พลังงานกับสองสาวนักศึกษาไปมากจริงๆด้วยแต่เวลานี้เจ้าหลับสนิทแล้วหรือไม่อีกมินานจะได้รู้กัน!?)
“..........................................”
(มิได้ล็อคประตูเพราะอุ่นใจว่ามีลูกน้องอยู่ในบ้านหลายคน...สีหน้าของเจ้ายังดูมีความสุขดีอยู่หรือ?)
“..........................................”
(เริ่ม!!!)
“คำลือ--”
“..........................................”
“คำลือเอ๋ย~~...หากเจ้าได้ยินเสียงแห่งเข็มนาฬิกานี้ก็จงตอบรับออกมาเถิด”
“..........................................”
...หากมิตอบรับใดๆแสดงว่าหลับสนิทอย่างแท้จริงแล้วเราก็จะสามารถส่งพลังจิตผ่านทางปลายนิ้วเข้าสู่กลางกระหม่อมเพื่อควบคุมจิตใต้สำนึกให้คล้อยตามผู้สะกดได้ซึ่งแตกต่างจากการสะกดจิตในภาวะปกติที่ยังมีสติรู้สึกตนแลเกิดจิตต่อต้านตรงที่ผู้ถูกสะกดโดยวิธีนี้จะมิอาจปิดบังความจริงที่ตนรับรู้ได้เลย...
(กล่าวง่ายๆคือถามอะไรไปก็จะสารภาพออกมาทั้งหมด)
“ความจริงที่ตัวเจ้าแอบซ่อน,ปิดบัง,บิดเบือน,โกหก,หลอกลวงแลตัวเรานั้นสนเท่ห์,สงสัย,ใฝ่รู้,สืบหา,เปิดเผย...ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้หาได้มีความลับแต่อย่างใดไม่...คำลือเอ๊ย!!...ขอให้เจ้าจงสารภาพทุกอย่างออกมาเถิด”
“...ครับ”
“คำถามแรก...เจ้ารักภรรยาของตนหรือไม่?”
“...ไม่...ไม่เคยรัก”
“แล้วเจ้าแต่งงานไปเพื่ออะไรกันเล่า?”
“...พ่อแม่บังคับ”
“อ้อ!!
“อยู่กับยัยนี่...ไม่เคยมีความสุขเลยสักวันเดียว”
“เจ้าจึงมีหญิงอื่น...ใช่หรือเปล่า?”
“...ใช่...แล้วตอนนี้เธอก็ตั้งท้องลูกของฉันด้วย...ฉันเฝ้ารอลูกคนนี้มาหลายปี”
“เหตุใดจึงมิยอมมีลูกกับภรรยา?”
“เธอเป็นหมัน”
“ห๊ะ!?...คะ...คุณดวงตามีลูกมิได้หรือนี่?”
(“ถ้าพี่มีลูกก็จะเอาใส่น่ะ”)
“เรา...เข้าใจความหมายเมื่อตอนนั้นแล้ว”
“ถึงไม่ได้รักแต่ก็น่าจะมีลูกให้สักคนก็ยังดี...เชอะ!!...นังผู้หญิงจืดชืดนั่นไม่รู้จะเกิดมาทำไม?”
“เจ้าก็เลย...วางแผนฆ่านางอย่างงั้นหรือ?”
“.............................................”
“พูด!!
“ใช่...ฉันอยากฆ่าดวงตามานานแล้ว!!!
(!!!!!!!!!)
“ตั้งแต่ฉันคบกับหนูฟ้าก็คิดมาตลอด...คิดทุกวิถีทางว่าต้องทำยังไงผู้หญิงที่น่ารังเกียจคนนั้นถึงจะหายไปจากโลกนี้?”
“..............................................”
“แถมเข้าล็อคกับธุรกิจของฉันที่แอบเอาชื่อเธอไปเริ่มมีปัญหาพอดีด้วย...ฮะๆๆ”
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็จงหายไปจากโลกนี้ด้วย...ตายซะเถิดไอ้สัตว์นรกใจทราม!!!!
...ในที่สุดคำตอบที่เรามุ่งหวังจะได้รู้ก็ปรากฏแลบัดนี้ถึงเวลา “ลงฑัณท์” คนชั่วช้าสามานย์ซะที!!!!...ดวงตาทั้งสองของเราเปิดขึ้นเต็มที่เพื่อปลดปล่อยสุริยะโลหิตแท้จริงพร้อมกับรวมพลังจิตไปที่ปลายนิ้วชี้ขวาจนเกิดแสงสีขาวนวลดังแสงสว่างจากดวงจันทร์ค่อยๆวนล้อมรอบนิ้วชี้ครบเต็มวง...
“ศรมุกดาผู้นี้สามารถเปลี่ยนพลังจิตที่มองมิเห็นกับไร้ตัวตนให้กลายเป็นวัตถุที่มองด้วยตาเนื้อได้...”
“..............................................”
“ซึ่งมันถูกเรียกว่า...จันทรกานต์...เราจะใช้พลังนี้ยิงตัดขั้วหัวใจของแกซะ!!!...ไหม!?...เจ้ามาที่นี่ทำไม?”
“แย่แล้วเจ้าค่ะ!!!...จิ๋ว แวงใหญ่...”
!?
...เจ้ามือปืนนั่นมาที่นี่?...จริงด้วยสิ...เราปล่อยให้ตะวันเลือดเข้าครอบงำจิตใจจนเกือบจะสังหารคนวางแผนฆ่าโดยที่ยังมิทันทราบตัวผู้ลงมือว่าเป็นใคร...
“ดี...ดีมาก--...มาที่นี่ก็จะได้ถามมันเสียเลย”
“เขาจะยอมพูดหรือเจ้าคะ?”
“.............................................”
“มิได้!!...เรามีเพียงสองคนแล้วบุกเข้ามาในถิ่นของศัตรู...เสียเปรียบนะเจ้าคะ”
“...เจ้าหลบไปก่อน”
“แต่ว่า...”
“ทำตามที่สั่งเถิดน่า!
................................................................................................................................

“พี่จิ๋ว...ดึกดื่นป่านนี้มีอะไรครับ?”
“พอดีมีเรื่องสงสัยจะถามเสี่ยหน่อย”
“แต่เสี่ยเข้านอนไปแล้ว”
“ก็ปลุกได้นี่หว่า!!...แล้ว...ไอ้คนเฝ้ายามมันไปไหน?”
“เอ--...ตอนออกมาผมก็ไม่เห็น...สงสัยแอบไปหลับซะแล้วมั้ง?”
“แย่แล้ว!!
“?”
“ทำไมไอ้สิงห์มานอนอยู่ตรงนี้วะ?”
“หนอย!!!
“พี่จิ๋ว?...อั๊ก!!
“พวกโง่เง่า!!!...ศัตรูบุกเข้าบ้านแต่แม่งไม่ได้รู้ห่-เหวอะไรกันเลย!!!!
“หา!?...ใครจะบุกเข้ามาครับ?”
“.............................................”
“แกเป็นใครวะ?”
“นังนี่กล้าบุกเข้ามาในบ้านเสี่ยคำลือ!!!
“เฮ่ย!...ที่นี่ให้เป็นหน้าที่กูเอง...มึงไปปลุกพวกที่อยู่ในบ้านให้หมด”
“ครับ!!
“.............................................”
“ฮ่า--...วันก่อนมีหนูสกปรกลอบเข้าออฟฟิศคืนนี้ก็มี...จะเรียกว่าอะไรดี...สาวสวย?”
“.............................................”
“แต่มืออาชีพอย่างกูไม่มีวันใจอ่อนต่อให้เป็นเด็กหรือคนแก่โว้ย!!
(เปรี้ยง!!!)
“อื๋อ?”
“หึๆๆ...นี่น่ะรึมืออาชีพ?...ยิงพลาดไปไกลน่าดูเทียวนะ”
“แก!!!
“มา--...ถ้าแกอยากสังหารเราก็จงตามออกมาข้างนอก”
“อีนี่~~...กูจะยิงมึงให้พรุน!!!!
.............................................................................................................................

“เสียงปืน?”
...หมายความคุณหนูรองได้พบเจ้ามือปืนนั่นแล้วแต่คงมิจะเป็นไร...ดิฉันคาดหวังว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น...คุณหนูรองเก่งกาจอย่างมิอาจหาผู้ใดเทียบแลอดีตก็เคยสู้กับผู้ใช้อาวุธปืนมาแล้วหลายครั้ง...
(มิน่าจะพลาดท่าง่ายๆดอก)
“ดูท่าพวกเราน่าจะยังมาทันอยู่นะขอรับ?”
“คะ...คุณสุริยาวรรณ?”
“พวกหล่อน~~...ทำ...ทำกันดีมากนะยะ!!!
“นี่...นี่คุณหนูใหญ่ก็มาด้วยหรือเจ้าคะ?”
(ฟื้นจากฤทธิ์ยานอนหลับได้เร็วถึงเพียงนี้เทียวหรือทั้งที่คาดการณ์ว่าจะหมดสติไปจนถึงรุ่งเช้า!?)
“เล่นซะ...แทบแย่เลย...ยัย...ยัยแมวหลงทางตัวแสบอยู่ไหน?”
“อยู่...ในบ้านเสี่ยคำลือเจ้าค่ะ”
“ไปพา...ไปพาเด็กนั่นออกมา!!!
!?
(คุณหนูรอง!!!)
“เงาขาวๆที่ลอยผ่านไปเมื่อกี้...น้องนางศรมุกดา?”
“มีใครตามไปด้วยเจ้าค่ะคุณเอ้”
“เร็ว!!...พี่จิ๋วไปทางโน้นแล้ว”
“คุณไหมอยู่ที่นี่กับท่านพี่ศรเพทายนะ...กระผมจะไปสกัดพวกที่ตามมา”
“...............................................”
“นังนั่นมันเป็นใครวะ?”
“คนบ้ามั้ง?...แต่งชุดนักศึกษาแต่มีผ้าคลุมด้วยว่ะ”
“กูก็ไม่รู้แต่กว่าเราจะไปถึงพี่จิ๋วคงฆ่ามันไปแล้วล่ะ”
“ตามไปดูศพมันกัน”
“เสียใจด้วยนะขอรับ...กระผมต้องขอให้พวกคุณหยุดเพียงเท่านี้”
“มึงเป็นใครอีกวะ?”
“พวกเดียวกับผู้หญิงเมื่อกี้แน่...เฮ่ยลุย!!!
“หึ!
“ไหม...รีบไปช่วยม่อน”
“แต่...”
“ฉันมีหนูนิดอยู่ด้วย...เธอรีบไปพายัยเด็กดื้อนั่นมาเถอะ”
“คุณไหมไปเถิดเจ้าค่ะ...นิดจะคุ้มครองคุณหนูใหญ่เอง”
“งั้นฝากด้วยนะจ๊ะ”
...ทางด้านคุณสุริยาวรรณที่ถูกรุมล้อมไปด้วยลูกน้องเสี่ยคำลือ...เอ๊ะ!?...จัดการหมดแล้วหรือ?...แค่ช่วงที่ดิฉันละสายตาไปคุยกับคุณหนูใหญ่แลน้องนิดเท่านั้นคุณสุริยาวรรณก็ใช้ “ชิโรเทนเคียว” ที่ยังมิได้ชักออกจากฝักเล่นงานฝ่ายตรงข้ามจนราบคาบ!!!!...
“โอย~~
“แค่กๆๆ”
“ไอ้...ไอ้หมอนี่!!...คนเดียว...อัดพวกเราซะหมอบ”
“ไม่อยากจะ...เชื่อ”
“หนอย~~
(หนึ่งในลูกน้องเสี่ยคำลือจะควักปืนยิงแต่คุณสุริยาวรรณเอาปลายดาบกดไปที่หลังมือซะก่อน)
“อะ...อ๊าก!!!
“อย่าเสี่ยงดีกว่าขอรับมิเช่นนั้นกระผมจะฟันมือข้างนี้ให้ขาดสะบั้น...กระผมหวดเข้าจุดสำคัญของทุกคนฉะนั้นจงนอนพักอยู่ที่นี่สักครู่”
(แต่ล่ะคนถูกฝักดาบที่เป็นเหล็กกล้าหวดตามแขนขาหลังท้อง...ถ้าลุกขึ้นได้ทันทีก็ต้องยกนิ้วให้ละ!!!)
“.................................................”
“คุณไหม...เรารีบตามทั้งสองคนนั้นไปเถิด”
“เจ้าค่ะ”
...จบประโยคคุณสุริยาวรรณก็ออกวิ่งนำหน้าไปก่อนด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง...แข็งแกร่งแลเลือดเย็น...หากเมื่อครู่ชายผู้นั้นยังคว้าปืนโดยมิสนใจฟังคำเตือนมือของเขาต้องขาดกระเด็นอย่างแน่นอนเพราะคุณสุริยาวรรณจักมิพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง!!!!...
....................................................................................................................................................

...ดิฉันวิ่งตามเสียงปืนจนมาถึงถนนลูกรังเลียบริมคลองชลประทานที่น้ำกำลังไหลเชี่ยวโดยที่คลาดกับคุณสุริยาวรรณ...ละแวกนี้มีบ้านคนอยู่น้อยแลคงหาได้มีใครกล้าออกมาข้างนอกเพราะเสียงปืนที่ดังขึ้นหลายนัด...
(เปรี้ยงๆ)
“ไวนักนะแก!!...อะไร?”
(เสียงของจิ๋ว แวงใหญ่ดังอยู่ข้างหน้านี้เอง...เจอแล้ว!!!)
“อิฐบล็อก...เมื่อกี้มันลอยมาเรอะ?...เฮ้ย!!!
“ฮะๆๆๆ”
“ไอ้จอบเสียมพวกนี้...มันลอยได้ยังไงวะ?...โอ๊ะ!?
(แถวนี้คงมีการก่อสร้างอะไรสักอย่างคุณหนูรองจึงหยิบฉวยเป็นอาวุธได้สบายมาก...เพียงใช้พลังจิตบังคับก็สามารถนำมาโจมตีหรือป้องกันตนเองตามแต่ใจปรารถนา)
“แก...แกขว้างไอ้พวกนี้ใส่ฉันแต่จำนวนมากขนาดนี้...ทำได้ยังไง?...นี่...นี่แกเป็นพวกแม่มดหมอผี...ใช้คาถาอาคมรึ?...ฮึ่ย!!
(เปรี้ยง!!!)
“...ปืนของเจ้ามิได้ผลกับเรา”
(อย่างไรคุณหนูก็มิโง่พอจะยืนเด่นในที่แจ้งรอให้กระสุนปืนวิ่งมาเจาะร่างกายดอก...ใช้วิธีหลบหลีกเข้าที่กำบังหรือหาสิ่งของมาช่วยบดบังย่อมเป็นผลดีที่สุด)
“กะ...ก้อนอิฐบล็อคมากมายลอยเข้ามาบังตัวแกจากกระสุนปืน!?...นี่แก...เป็นใครกันแน่?”
“...จำมิได้แล้วรึว่าเราเคยพบกันมาก่อน?...เมื่อเร็วๆนี้เอง”
“ระ...หรือว่า...ที่แท้แกก็คือไอ้คนแกล้งเสียสตินั่น?”
“............................................”
“ปะ...เป็นแกเองเรอะเนี่ย?”
“ถูกต้อง”
“............................................”
“............................................”
“นึกไม่ถึงว่า...ตัวจริงของหนูสกปรกนั่นจะเป็นสาวงามขนาดนี้...แต่...สาวงามที่กล้าบุกเดี่ยวเข้าถิ่นศัตรูย่อมไม่ใช่คนธรรมดา...ตกลงแกเป็นตัวอะไรกัน?”
“ตอบเรามาก่อนสิว่าเจ้าคือผู้ที่ลงมือฆ่าคุณดวงตาใช่หรือไม่?”
“งั้นกูไม่ต้องการรู้...มึงตาย!!!!
“เจ้าคนโง่เขลา!!!
“ถัง...ถังน้ำมัน?...แกเอาถังน้ำมันเปล่ามาบังกระสุนปืนโดยไม่ใช้มือจับ...นี่...นี่ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะทำได้แล้ว!?
“ตกใจเร็วไปหน่อยกระมัง?”
“อื๋อ!?...โอ๊ก!!!
...จิ๋ว แวงใหญ่เป็นมือปืนย่อมรู้วิธีหลบซ่อนตัวเพื่อหาทางเข้าใกล้เป้าหมายแต่หาได้เป็นประโยชน์ไม่เพราะคุณหนูรองก็เร้นกายแลปิดสัมผัสของตนเองได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน...อา--...ทำได้ดีกว่าเสียด้วย!!...ชั่วพริบตาเดียวก็แอบมาอยู่ด้านหลังแล้วใช้พลังจิตยกถังน้ำมันเปล่าลอยไปกระแทกหลังของจิ๋ว แวงใหญ่จนล้มกลิ้งหลายตลบ...
“บะ...บ้าเอ๊ย!!!
“เจ้าคงใช้ปืนนี่...ปลิดชีวิตผู้คนมามากมายแล้วสินะ?”
“ที่...ที่แกใช้อยู่มันคืออะไร?”
“...พลังจิต”
“อ้อ!!...นึกว่ามีแต่ในหนังซะอีก”
“ตอบมา--...เจ้าคือผู้สังหารคุณดวงตาใช่ไหม?”
“ดูเหมือน...เธอจะปักใจเชื่อไปแล้ว...”
“ช้าไป!!
“โอ๊ย!!!...แขน...แขนกู~~
“ลูกไม้ตื้นๆอย่ามาใช้กับเรา...นึกหรือว่าเราจะมิรู้ว่าเจ้ายังมีปืนซ่อนอีกกระบอก?”
...น่าหวาดเสียว!!...เมื่อกี้คุณหนูรองใช้พลังจิตบิดแขนของจิ๋ว แวงใหญ่อย่างแรง...สภาพแขนขวาห้อยต่องแต่งตั้งแต่ข้อศอกลงมาเช่นนั้นคงมิอาจกลับมาเป็นปกติดังเดิมได้อีกต่อไป...
“ฆ่า...ฆ่ากูสิวะ!!!...มึงชนะแล้วนี่นังปิศาจ!!!!
“มิต้องท้า!!...หากเจ้าเป็นผู้ที่ฆ่าคุณดวงตาจริงๆ...เราจะสังหารเจ้าให้ตายอย่างทรมานที่สุดแน่!!!
“อ๊าก!!!!
“นี่...สำหรับที่เจ้าชกท้องเราเมื่อวันก่อน”
(ใช้พลังจิตยกร่างจิ๋ว แวงใหญ่แล้วเหวี่ยงไปกระแทกกับต้นไม้ซึ่งก็ลอยละลิ่วเหมือนเศษกระดาษเลยเทียว...แสดงว่าคุณหนูรองกำลังโกรธมาก!?)
“ค่อกๆ...แค่ก”
“ยังมิฆ่าเจ้าดอก...จงพูดมาซะ!...มิเช่นนั้นแขนอีกข้างก็จะมิเหลือไว้ใช้งาน”
“...............................................”
“นักฆ่าต่างถิ่นอย่างเจ้ามาอยู่ที่นี่ก็มิใช่เรื่องปกติเลย...เจ้ามาสมัครเป็นคนขับรถให้เสี่ยคำลือรึ?...น่าขำ!!!
“อะ...อ๊าก!!!!
“แขนซ้ายข้างถนัดของเจ้าสินะ...เราเริ่มชอบมันล่ะ”
“อือ--...อื๊ออออออออ~~...อั๊ก!!!
(ยิ่งปากแข็งก็ยิ่งทรมานเพราะคุณหนูรองมิคลายพลังจิตง่ายๆแน่นอน...สู้ตอบคำถามไปเสียดีกว่าเผื่อจะได้เจ็บปวดน้อยลง)
“พูด”
“..............................................”
“เราบอกให้พูด!!!
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย...โอ๊อออออออออออออ”
“ช่างเป็นสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของมิใช่เบา...ชักอยากจะฆ่าแกให้ตายไปจริงๆซะแล้ว”
(ดวงตาของคุณหนูรองแดงก่ำแลส่องสว่างอย่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม...หมายความว่าเวลานี้เธอกำลังโกรธสุดขีด!!!!)
“งั้นแกก็ล่วงหน้าไปรอไอ้เจ้านายแสนดีในนรกก่อนล่ะกัน”
“เฮ้ย!!!...พวกแกทำอะไรน่ะ?”
“?”
“ช่วยด้วย!!!!...มีคนร้าย--
(เส้นทางเปลี่ยวแลดึกดื่นป่านนี้ยังมีชาวบ้านผ่านไปมาอีก?...มิได้การ!!!...แล้วเมื่อสักครู่เราก็ได้ยินเสียงคล้ายหวอรถตำรวจดังอยู่ไกลๆด้วย...คงมีใครบางคนแจ้งเหตุไปเป็นแน่!?)
“หุบปากแกอีกสักคนดีไหม?”
“อย่าเจ้าค่ะคุณหนู!!!...เรารีบไปจากที่นี่เถิด”
“จะยอมล่าถอยไปได้อย่างไรกัน?”
“ช่วยด้วยครับ!!!...สองคนนี้จะฆ่าผม~~
“แก!!!!
“ตำรวจ...ตำรวจกำลังมาแล้ว!!!
“บะ...บ้าที่สุด!!!
...คุณหนูรองสบถออกมาด้วยความเจ็บใจทว่าก็มิอาจทำอย่างอื่นได้นอกจากยอมล่าถอย...ดิฉันตามเธอกลับมาที่ถนนลูกรังที่มีคุณสุริยาวรรณยืนรออยู่แล้วก็เห็นว่ามีรถตำรวจวิ่งตรงเข้ามาจริงๆซึ่งน่าจะมาจากสภ.ใกล้ๆ...
“รถท่านพี่ศรเพทายจอดอยู่ตรงสะพานข้างหน้า...ระยะทางประมาณสี่ร้อยเมตรขอรับ”
“คุณสุริยาวรรณวิ่งเร็วที่สุดกรุณาล่วงหน้าไปก่อนเถิดเจ้าค่ะ”
“...อ๋อ!!...จะใช้วิธีนั้นสินะ?”
“เจ้าค่ะ”
“ล้มเหลว...ล้มเหลวทุกอย่าง!!!!
“กระผมเข้าใจความรู้สึกของน้องนางศรมุกดาแต่เวลานี้เราต้องรีบหนีนะขอรับ”
“จริงด้วย...เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลังนะเจ้าค่ะ”
“..............................................”
“เช่นนั้นกระผมไปก่อนขอรับ”
...คุณสุริยาวรรณพุ่งตัวก้าวเท้าออกวิ่งประดุจลมพัดไปยังจุดที่นัดหมายกันไว้โดยรับฝากของๆเราทั้งสองด้วย...ท่านคงจะคอยซุ่มดูเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วติดต่อให้คุณหนูใหญ่ทราบจึงเอารถไปจอดรอเป็นแน่ส่วนวิธีที่พวกเราจะใช้คือกระโดดลงคลองปล่อยให้กระแสน้ำที่ไหลแรงช่วยพัดพาไปยังสะพานข้างหน้านั้น...
“ยังมิจบ...มันยังมิจบเพียงเท่านี้!!!
“ไปเถิดเจ้าค่ะ!!
“..............................................”
“น้ำเย็นจัง~~
“อีกนิดเดียวแท้ๆ!!...อีกนิดเดียวเอง~~
“น้ำไหลเชี่ยวมาก...คุณหนูรองจับมือดิฉันไว้เจ้าค่ะ!!
“เรามิยอมตายง่ายๆดอกจนกว่าจะได้ลงทัณฑ์เจ้าสารเลวสองตัวนั้น!!!
“..............................................”
...คุณหนูรองกอดอกนอนหงายเงยหน้ามองพระจันทร์ด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความผิดหวังที่ยังมิอาจจะคืนความเป็นธรรมให้แก่เพื่อนต่างวัยได้...ดิฉันก็หวังอยู่ในใจว่ากระแสน้ำอันหนาวเย็นที่กำลังพัดพาร่างของเราทั้งสองไปนี้จะช่วยบรรเทาเพลิงโทสะของเจ้านาย(น้องสาว)คนสำคัญให้มอดดับลงได้บ้าง...
..................................................................................................................................................

2 มกราคม พ.ศ. 2549 09.00 น....ห้องหัวหน้าแผนกศัลยกรรมโรงพยาบาล...

คุณหมอจะอธิบายว่ายังไงครับ?...ผมสามารถแจ้งความจับน้องสาวของคุณข้อหาบุกรุกได้เดี๋ยวนี้เลย!!
“ข้อหาพยายามฆ่าด้วยครับเสี่ย”
“ใช่!!...ลูกน้องของผมเก้าคนก็โดนทำร้ายบาดเจ็บกันถ้วนหน้า...ไอ้คนที่ทำน่าจะเป็นน้องๆของคุณหมอใช่มั้ย?...เฮอะ!!!...ไม่คิดเลยว่าตระกูลผู้ดีอย่างวิษณุมนตรีที่เป็นที่นับหน้าถือตาจะมีพฤติกรรมน่าละอายแอบทำอะไรลับๆล่อๆ...ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องนอนผมจะไม่ยอมเชื่อนะเนี่ย”
“...น่าละอาย...ทำอะไรลับๆล่อๆ...ที่ว่ามานั่นมันเป็นของเสี่ยทั้งหมดเลยไม่ใช่เหรอคะ?”
“อีนี่!!!
“เฮ่ย!?
“แต่เสี่ยครับ!!
“ผลีผลามทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้ามึงระวังจะไม่มีแผ่นดินกลบหน้า!!!
“............................................”
“ทำตัวน่าละอายแอบไปมีเมียน้อยแถมกำลังจะมีลูกด้วยกัน...เมียหลวงเป็นหมันไม่อาจมีลูกได้จึงกลายเป็นตัวเกะกะต้องหาทางกำจัดไปเสียให้พ้นทางแต่ครั้นจะลงมือเองก็กลัวเสียภาพพจน์คนดีที่สู้อุตส่าห์สร้างสมมานาน...ดิฉันได้ดูคลิปที่น้องสาวบันทึกไว้...คำพูดของเสี่ยนี่ช่างน่าสนใจจริงๆ...ครั้งนี้เจ้าทิมคงได้ผลงานใหญ่แล้ว”
“คลิป...อ๋อ!...ในมือถือสินะ?...ผมเห็นน้องสาวคุณหมอหยิบมาถืออยู่เหมือนกัน...ใช้ไสยศาสตร์คู่กับวิทยาศาสตร์ได้ลงตัวเชียวแฮะ”
“ไสยศาสตร์?”
“ก็น้องสาวคุณหมอเป็นพวกแม่มดหมอผีไง...คำพูดนั่นออกมาโดยที่ผมหลับไม่รู้สึกตัวจะเอามาใช้เป็นหลักฐานได้ยังไง?...ใครเชื่อก็บ้าเต็มที!!!
“แต่ถ้าตำรวจรู้ก็จะเป็นเบาะแสสำคัญ...เสี่ยคำลือคะ...คุณเอาชื่อภรรยาไปใช้ติดต่อทำธุรกิจผิดกฎหมายมากมาย...หากผู้หมวดทิมสืบไปถึงเรื่องนี้...คุณจะดิ้นไม่หลุด”
“นั่นก็ต้องไปสู้คดีกันในศาลถ้าถึงเวลาแต่เรื่องฆ่าเมียนี่ผมไม่ยอมรับหรอก!!...ก็บอกแล้วไงว่าน้องสาวคุณหมอน่ะต้องใช้อุบายเล่ห์กล...ผมไม่ยอมให้จบแค่นี้แน่!!!
“หากมั่นใจว่าเสี่ยไม่ได้ทำผิดก็ขอให้รีบไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองเถอะ”
“...นี่คงเป็นความหวังดีของคุณหมอล่ะมั้งครับ?”
“ดิฉันเชื่อว่าคุณไม่อยากตายก่อนจะได้เห็นหน้าลูกคนแรก...นี่ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด...อย่าลืมว่าเมื่อคืนคุณกับลูกน้องคนสำคัญก็เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด”
“...................................................”
..............................................................................................................................................

“ผู้หญิงคนนั้นอวดดีจริงๆ”
“มึงน่ะจะทำให้กูซวย!!
“โธ่เสี่ย~~...ไม่เห็นจะต้องไปกลัวพวกวิษณุมนตรีอะไรนี่เลยนะครับ”
“ที่กูกลัวคือบรรดาตระกูลที่รายล้อมอยู่ต่างหากเล่า!!...พวกนี้ส่วนใหญ่มือสะอาดและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตาแก่เอกบดินทร์...แน่นอนว่ามันหลายๆคนก็เป็นคู่แข่งทางธุรกิจของกู...ถ้ากูพลาดเมื่อไหร่ไอ้ห่-พวกนี้มีหวังได้รุมเหยียบกระทืบจมดินสิวะ!!!
“พวกสุนัขรับใช้ดีๆนี่เอง--”
“ที่ผ่านมาถ้าวิษณุมนตรีไม่ชอบหน้าอยากกำจัดใครก็ไม่จำเป็นต้องลงมือเองเพราะมีคนพร้อมจะทำแทนให้อยู่แล้ว...ความน่ากลัวมันอยู่ตรงนี้...กูก็เป็นแค่พ่อค้าธุรกิจมืดปลายๆน้ำคนหนึ่งแล้วจะเอาอะไรไปสู้?”
“แต่ทำไมครั้งนี้ถึง?...โทรศัพท์ครับเสี่ย”
“กูรู้แล้ว...ว่าไง?”
“...ผมปลอดภัย...คิดถูกที่เมื่อคืนรีบหนีออกจากโรงบาลหลังทำแผลเสร็จไม่งั้นโดนอายัดตัวเรียบร้อย...ตำรวจแม่งจมูกไวอยู่เต็มไปหมด”
“กูกำลังคิดว่าจะส่งมึงกลับขอนแก่นชั่วคราวและไปรักษาแขนขวาให้หายก่อนด้วย...กูพอจะมีเพื่อนเป็นหมออยู่ที่นั่น...”
“ผมไม่กลับ!!...ผมจะล้างแค้นนังศรมุกดานั่น!!!...จะต้องฆ่ามันด้วยมือของผมเองแล้วเอาเลือดจากหัวมาสังเวยความเจ็บปวดที่แขนขวานี่!!!!
“มึงจะเอาอะไรไปต่อกรกับนังหมอผีนั่นวะ?...ขนาดถือปืนไว้สองมือยังทำอะไรมันไม่ได้เลย!!!...อยากรนหาที่เหรอไง?”
“แต่แค้นนี้ยังไงก็ต้องชำระให้ได้!!...วิธีน่ะคิดออกแล้ว...ผมขอยืมลูกน้องเสี่ยสักสี่ห้าคน”
“คิดจะทำอะไรอีกเล่า?...มึงอย่าเพิ่งหาเหาใส่หัวซี่~~
“ไม่ต้องห่วงหรอกเสี่ย...นี่เป็นความแค้นส่วนตัวของผมและถ้าเสี่ยขี้ขลาดก็เชิญนั่งรอความตายไปเถอะแต่ผมไม่มีทางยอมง่ายๆแน่!!...มันกับผมจะต้องมีใครพินาศไปข้างหนึ่ง!!!
“แล้ว...จะให้ลูกน้องกูไปพบมึงที่ไหน?”
“ตอนที่ไอ้จักรพาผมหนีออกมาเมื่อคืนเผอิญผ่านไปเห็นโกดังร้างแห่งหนึ่งทางทิศตะวันตกของตัวเมือง...ให้ลูกน้องเสี่ยคอยโทรหาผมๆจะบอกทางเอง”
“เข้าใจล่ะ”
“แล้วตกลงเสี่ยจะเอาไงต่อไป?”
“...ตราบใดที่มึงไม่หักหลังกูๆก็ยังพอจะมีทางรอด”
“ฮึ!...เคยบอกไปแล้วนี่ว่าถ้าผมตายไปความลับนี่ก็จะตายตามไปด้วย...ยังไงก็ขอให้เสี่ยทำตามสัญญาด้วยล่ะกัน”
“กูให้สัญญาไม่ต้องห่วง...แม่ของมึงที่ขอนแก่นจะไม่ลำบาก”
“เราทั้งคู่นี่สภาพหมาจนตรอกแท้ๆเลยนะ”
“.....................................................”
“ว่าไงหรือครับ?”
“มึงโทรตามพวกที่บาดเจ็บไม่มากสักห้าหกคนให้ไปพบไอ้จิ๋วเดี๋ยวนี้เลย”
“ได้ครับ...เอ้อกูเอง!!...เสี่ยมีงานให้ทำว่ะ”
“.....................................................”
“รีบไปเร็วๆเลยพี่จิ๋วรออยู่...โอเค!...เรียบร้อยครับเสี่ย”
“ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะทำอะไรแต่ขอให้สำเร็จเถอะ”
“เอ่อ...”
“?”
“คือว่า...”
“มึงจะพูดอะไรกันแน่?”
“เสี่ย...เสี่ยสั่งให้พี่จิ๋วฆ่าคุณนาย...มันจริง...โอ๊ว!?
“มึง...หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!!”
“แต่...”
“ไม่มีแต่...กูสั่งให้มึงหุบปาก!!!”
“คะ...ครับ”
“ฮึ่ย~~...กูสั่งอะไรก็ไปทำซะมึงไม่ต้องสะเออะมาแสดงความฉลาดตอนนี้”
“?”
“อะไรอีกวะ?”
“เสี่ย...ดูผู้หญิงคนนั้นสิครับมีผ้าคลุมที่หลัง...เพี้ยนหรือเปล่าน่ะ?”
“.....................................................”
“เฮ่ยนังนี่มัน?...เสี่ยครับ!!...คนนี้แหละที่บุกเข้าไปในบ้านเมื่อคืน”
“...นั่นน่ะเรอะน้องสาวของหมอเซค?”
“มันคิดจะฆ่าเสี่ย...ฮึ่ม!!
“อย่านะไอ้โง่!!!...ที่นี่โรงพยาบาล”
“แกอยากจะรีบลงนรกนักก็เหนี่ยวไกเลย”
“ทะ...ทำไมนังนี่ตาแดงก่ำแบบนั้น?...น่า...น่ากลัวฉิ-หาย!!!
“เธอเองเรอะที่ใช้วิธีสกปรกกับฉันน่ะ?...อ้อ!...ฉันจำได้แล้วว่าเคยเห็นเธอมาที่บ้านอยู่สองสามครั้ง...มิน่าถึงรู้ว่าห้องนอนฉันอยู่ตรงไหน?”
“กับมนุษย์โสโครกชั่วช้าเช่นแกมิสมควรจะใช้วิธีขาวสะอาด”
“แก~~...อุ!?
“เสี่ย!?...อั๊ก!!!
“จะบีบคอให้ขาดใจตายไปเลยดีไหมนะ?”
“อึ๊ก!...โอ๊ก!!...อึ๊ก!?...ทั้งที่...มัน...ไม่ได้...อั๊ก!!...เข้าใกล้เราแต่...ทำไม?”
“.............................................”
“นะ...นี่มันอะไรกัน?...อ๊ากกกกกก~~
“นี่ลูกน้องคู่บารมีมิได้บอกแกดอกรึ?...ใช้มิได้เลยนะ...หรือว่า...จะบังคับให้แกใช้ปืนนั่นยิงขมับตนเอง...ฆ่าตัวตายอย่างเช่นที่แกให้การกับเจ้าหน้าที่นั่นไง?”
“อื๊อออออออออ”
“โอ้!!...จะใช้วิธีหัวหน้ากับลูกน้องยิงกันเองก็มิเลวเลย”
“ยะ...อย่านะ!!!!...แก...แกกล้าฆ่าคนใน...โรง...โรงพยาบาลเชียวเหรอ?”
“คนชั่วยังมีทุกหนแห่ง...เหตุใดจะกระทำมิได้เล่า?”
“ถ้า...ฆ่าฉันที่นี่...พะ...พี่สาวเธอจะเดือดร้อนนะ!!!
“...............................................”
“คะ...คอฉัน~~
“ฮึ!
“โอ๊ย!!
“เห็นแก่ที่แกมิได้มาทำอันตรายท่านพี่...ก็ได้...ครั้งนี้เราจะปล่อยแกไปก่อน”
“กะ...แก~~
“บ้าเอ๊ย!!...มึงสู้มันไม่ได้หรอก...หยุด!!!
“น่าเสียดาย...เมื่อคืนก็เกือบจะฆ่าแกได้แล้วเทียวแต่ดันมีพวกหมารับใช้ส่ายหางดิกๆรีบมาเห่าหอนให้รำคาญข้างหู...ลูกน้องคนสนิทผู้ซื่อสัตย์เป็นอย่างไรบ้าง?...แขนขวาของมันยังยกพนมมือไหว้ขอเศษอาหารจากแกได้อยู่หรือเปล่า?”
“..................................................”
“เราได้ยินว่ามันถูกพามารักษาตัวที่นี่แต่ก็รีบหนีไปเพราะกลัวเจ้าหน้าที่มาตามจับทั้งที่แขนขวายังบาดเจ็บสาหัส...ช่างน่าเวทนานัก”
“หะ...เห็นเงียบๆหงิมๆแต่ปากคอเราะร้ายไม่เบา...นี่คงมั่นใจว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นก็จะไม่มีใครเอาผิดได้เพราะถือว่ามีเส้นใหญ่ล่ะสิ?”
“นี่เป็นเรื่องระหว่างเรากับแกเท่านั้น...อย่าเข้าใจผิด”
“ดูจากแววตาของแกคงคิดอยากจะฆ่าฉันที่นี่เต็มแก่แล้ว”
“ในเมื่อต่างคนต่างเปิดหน้าออกมาแล้วก็มิต้องเกรงใจกันอีก...ไอ้จิ๋ว แวงใหญ่ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน?”
“ไม่ต้องรีบร้อนหรอก...อีกไม่นานมันจะติดต่อมาหาแกเองแหละ”
“โฮ่?”
“นี่!!...ฉันขอถาม”
“?”
“ดูเธอจะปักใจเชื่อว่าเจ้านั่นเป็น...”
“ผู้ร้ายที่สังหารคุณดวงตา”
“มีหลักฐานงั้นเรอะ?”
“จนป่านนี้แกยังคิดว่าตนเองเป็นคนดีอยู่อีกรึ?...แกจ้างมือปืนปลิดชีวิตผู้คนเพื่อมาเป็นพนักงานขับรถหรืออย่างไร?”
“ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน!!!
“เราจะมิยุ่งเกี่ยวด้วยเลยหากผู้ที่ตายหาได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสหายของเรา...คำพูดทุกคำของแกเมื่อคืนล้วนแต่ออกมาจากจิตใต้สำนึกทั้งสิ้น...ผู้ที่รู้ดีที่สุดย่อมต้องเป็นตัวแกเอง”
“.................................................”
“แกหลอกลวงผู้คนทั้งโลกได้แต่มิอาจจะโกหกตนเอง...ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“.................................................”
“จะเอาชีวิตของแกนั้นง่ายมาก...แค่เราจ้องหน้าอย่างเช่นเมื่อครู่”
“ฮึ๊ย~~
“หึๆๆ”
“ฉิบห-เอ๊ย!!!...เจอพวกเหนือมนุษย์เข้าให้มิน่าปืนไอ้จิ๋วถึงกลายเป็นของเด็กเล่น...มึงรีบไปเปิดประตูรถเซ่มัวยืนบื้อรอให้มันมากุดหัวเหรอ?”
.................................................................................................................................................

“เซค...เธอร้ายกาจเกินไปแล้ว!!!...เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้แต่ไม่ยอมบอกผมสักคำ”
“ฉันยอมรับผิดน่าว่าไม่ได้บอกเรื่องจิ๋ว แวงใหญ่ให้นายรู้แต่แรก...”
“ไม่ใช่แค่นี้หรอก!!...ถ้าเมื่อคืนม่อนฆ่าเสี่ยคำลือหรือจิ๋ว แวงใหญ่สำเร็จ...เธอรู้สินะว่าจะเกิดอะไรตามมา?”
“เออ--...ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้นถึงได้เรียกนายมานั่งเทศนาให้ฟังอยู่นี่ไง!!
“หากเหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ผมก็ไม่รู้จะช่วยยังไงและวิษณุมนตรีไม่มีทางรับผิดชอบไหวด้วย...บอกผมมา...เวลานี้น้องม่อนอยู่ไหน?”
“ไม่รู้”
“เซค!!
“ตื่นเช้ามาฉันก็ไม่เห็นม่อนอีกจนถึงตอนนี้...นี่พูดโดยสัตย์จริง”
“................................................”
“................................................”
“ดูท่า...น้องสาวเธอจะไม่ยอมหยุดจนกว่าเสี่ยคำลือกับจิ๋ว แวงใหญ่จะหายไปจากโลกนี้งั้นสิ?...เซค”
“?”
“ผมขอล่ะ...อย่าช่วยเหลือน้องม่อนอย่างผิดๆอีก...ถ้าเธอกลับมาเมื่อไหร่เซครีบติดต่อผมทันทีนะ”
“อืม--”
“ห้ามโกหกเชียวล่ะ...ว่าไงจ่า?”
“ไม่โกหกหรอกเฟ้ยเพราะฉันก็มืดแปดด้านอยู่เนี่ย!?...จะหยุดด้วยพลังจิตก็สู้ไม่ไหว...จะสั่งคนไปตามจับแววล้มเหลวก็ลอยมาแต่ไกล...จะขอให้เอ้ช่วยอย่างมากก็แค่เสมอ...จะบอกคุณแม่...นี่ก็ไม่ได้วุ้ย!!!
“เซค”
“อะไรอีกยะ?”
“ลูกน้องผมบอกว่าเจอผู้หญิงลักษณะรูปร่างคล้ายๆน้องม่อนป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้”
“ต้องใช่แน่ๆ...งะ...งั้นรีบไปพามาเร็วๆเข้าสิ!!...ฉันจะได้เกลี้ยกล่อม”
“ไม่ได้ละ...สงสัยจะเห็นว่ามีลูกน้องผมอยู่ที่นี่ก็เลยหายตัวไปแล้วแต่เธอน่าจะมาหาเซคทีหลังนะ?”
“...นายยังไม่รู้จักเด็กนั่นดีพอ...ม่อนไม่มาหาฉันแน่นอน...เธอคง...แค่จะมาสังเกตการณ์ว่าเสี่ยคำลือจะมาพบฉันหรือเปล่าน่ะ?”
“...............................................”
.....................................................................................................................................

...เวลา 15.00 น. ที่โกดังร้างนอกเมืองแห่งหนึ่ง...

“เสี่ยครับ...เตรียมการเกือบจะเสร็จแล้ว...ติดต่อนังศรมุกดาว่าพรุ่งนี้สองทุ่มให้ไปที่โกดังร้างเก็บสินค้าทางทิศตะวันตก...ต้องมาคนเดียวเท่านั้นถ้าอยากรู้ความจริง”
“................................................”
“ไม่ต้องกลัวหรอกครับมันเป็นแผนล่อให้มาติดกับ...นังศรมุกดาจะไม่ได้รู้อะไรทั้งสิ้น...ขอให้เสี่ยไว้ใจผม...อะไรนะ?”
“................................................”
“ห้ามสบตากับมันหรือ?...งั้นสัญชาตญาณนักฆ่ากับประสาทสัมผัสของผมก็ได้ใช้ประโยชน์ล่ะครับ...ขอบคุณเสี่ยที่เตือน”
“พี่จิ๋ว...ไอ้ลังใส่ขวดนี่จะเอาไงดี?”
“ยกออกไปใส่รถขนไปทิ้งให้หมด...แม้แต่ขวดสักใบก็ห้ามเหลือไว้เด็ดขาด!!!
“ครับๆ”
“หึๆๆ...โกดังโล่งๆไม่มีข้าวของแม้แต่เข็มสักเล่ม...ทีนี้มึงจะใช้ของเล่นอะไรมาทำร้ายกูได้?...ใครที่กล้าลองดีกับกูๆจะเป่าสมองมันให้กระจุยทุกคน!!!!
“วันนี้พี่จิ๋วดูน่ากลัวกว่าทุกทีว่ะ...มึงว่ามั้ย?”
“เออน่ะ!!...เรารีบๆทำงานให้เสร็จเถอะ”
.........................................................................................................................................

3 มกราคม พ.ศ. 2549 10.00 น....

“จดหมายนี่วางไว้บนโต๊ะทำงานของท่านพี่หรือ?”
“แม่บ้านทำความสะอาดบอกว่าเมื่อแปดโมงกว่าลูกน้องของเสี่ยคำลือฝากมาให้คุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ...ดิฉันจึงเก็บไว้”
“..............................................”
“เขียนว่าอย่างไรบ้างเจ้าคะ?”
“ไอ้เศษเดนชั่วช้านั่นนัดหมายให้เราไปพบกับมันคืนนี้เวลาสองทุ่ม”
“โกดังร้างนอกเมืองทางทิศตะวันตก...แนบแผนที่มาด้วย...คุณหนู...นี่เป็นกับดักเจ้าค่ะ”
“แต่ถ้ามิไปก็มิอาจทราบความจริง”
“จิ๋ว แวงใหญ่หาได้มีทางบอกแน่นอน”
“เรารู้...จริงสิ...เช่นนั้นท่านพี่ก็...”
“เปล่าเจ้าค่ะ...คุณหนูใหญ่ยังมิทราบเพราะออกเวรกลับบ้านไปก่อนแล้ว”
“ดีมาก”
“ว่าแต่...คุณหนูรองมาทำอะไรที่มหาวิทยาลัยที่คุณสุรีย์พรรณเรียนอยู่เจ้าคะ?”
“วันนี้เปิดเรียนวันแรกหลังหยุดปีใหม่...พอดีเรามีเรื่องที่ยังติดใจอยู่นิดหน่อยเลยมาตรวจสอบ”
?
“ก็เมื่อคืนนั้น...”
“อุ๊ย!?...คุณหนูใหญ่!
“ส่งมาให้เรา”
“ไหม...ตอนนี้เธอ...”
“...น้องเองเจ้าค่ะ”
“ยะ...ยัยตัวแสบ!!!...อยู่ที่ไหนน่ะ?”
“บอกมิได้เจ้าค่ะ”
“เมื่อวานหายไปทั้งวันทั้งคืนไม่ยอมกลับบ้าน...โทรหากี่ครั้งก็ไม่รับสาย...จะทำตามใจตัวเองมากเกินไปแล้วนี่ยังเห็นพี่อยู่ในสายตาหรือเปล่า?”
“น้องเคารพท่านพี่ยิ่งกว่าผู้ใดเจ้าค่ะ”
“งั้นก็กลับมาพบพี่เดี๋ยวนี้!!
“ขออภัยด้วย...เรื่องนี้ม่อนมิอาจปฏิบัติตามได้เจ้าค่ะ”
“ไหนบอกว่าเคารพแต่ไม่เชื่อฟังคำสั่งของพี่แล้วเหรอ?”
“อีกมินานทุกสิ่งทุกอย่างจะถึงจุดจบแลเมื่อนั้นน้องจะกลับไปรับโทษจากท่านพี่ทุกประการเจ้าค่ะ”
“จุดจบอะไรกัน?”
“...คุยแทนทีสิ”
“คุณหนู!
“ท่านพี่สุรีย์พรรณ,น้องนางหยาดฝนรวมทั้งเอกคเชนทร์มาถึงแล้ว...เราจะไปทักทายพวกเขาเสียหน่อย”
“โธ่คุณหนูเจ้าขา~~...ทักทายอะไรกัน?...จะไปซุ่มดูต่างหากล่ะเจ้าคะ”
“เงียบทำไมอยู่เล่ายัยแมวหลงทางบ้ากระหายเลือด?...มาพูดกันให้รู้เรื่องเลยนะยัยน้องเวร!!
“คุณหนูใหญ่อย่าเพิ่งกังวลไปเลยเจ้าค่ะ...ดิฉันเห็นว่าอาจจะพอมีทางแก้ไข”
“จะแก้ไขยังไง?...ฉันยังไม่เห็นวิธีนั้นเลย”
“ต้องขอความร่วมมือจากคุณสุริยาวรรณด้วยเจ้าค่ะจึงจะมีทางเป็นไปได้”
“...เอ้น่ะรึ?”
“คือว่า...”
“หา?”
“แล้วก็...”
“อืม”
“ต่อจากนั้น...”
“ไหม...วิธีนี้มันน่ากลัวมากไปนะแล้วฉันก็ไม่แน่ใจว่าเอ้จะยอมช่วย...อีกอย่าง...เราจะต้องคิดถึงความรู้สึกของเอ้ด้วย”
“ทว่าในอดีตคุณสุริยาวรรณก็เคยกระทำมาแล้ว...อย่างไรคุณหนูใหญ่ก็ลองพิจารณาไว้เถิดเจ้าค่ะ”
“อือ--...งั้นฉันจะลองคุยกับเอ้ดูก่อนส่วนเธอคอยเฝ้ายัยเด็กบ้านั่นให้ดีอย่าละสายตาไปเด็ดขาด”
“เจ้าค่ะ”
...................................................................................................................................



...ติดลมบนไปหน่อยแต่ยังไงก็ต้องจบในตอนหน้า(ตอนที่สี่)...ตกหล่นผิดพลาดหรือจะติชมแนะนำเชิญได้ตามสะดวกครับ...อ้อ!!...อ่านแล้วโปรดใช้วิจารนญาณด้วยนะครับ...