หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 86

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 86 จงเดินเข้าสู่กับดัก!?...คำเชิญจากแดนใต้

“หน้าตายังกับคนไม่ได้หลับไม่ได้นอน”
“ก็ไม่ได้นอนน่ะสิ”
“ทำไมล่ะ?”
“เมื่อคืนผีมันหลอกฉัน!!...หมดสวยเลยเห็นมั้ย?”
“ผี!?...นี่ภาเป็นเด็กประถมหรือไงถึงยังเชื่อเรื่องพรรค์นี้อยู่?”
“ก๊าดดดดดดด~~...นั่นขนมปัง...เชิญไปปิ้งเอาเองเถอะย่ะ!!!
“ผมไม่กินขนมปังตอนเช้าภาก็รู้นี่”
“ไม่กินก็ไม่ต้องกิน...ฮึ!!!
“...อะไรของเขา?”
“หลีก!!...มองหน้าอยากมีเรื่องเรอะ?”
“....................................................”
“ก็นายน่ะผิดที่ไม่เชื่อเมียตัวเอง”
“จะให้ผมเชื่อว่ามีผีในบ้านนี้!?...เอาล่ะ!...นอกจากภาแล้วมีใครเห็นอีกมั่ง?”
“ฉันไม่เห็นหรอก”
“หนูก็ไม่เห็นค่ะ”
“ผมด้วย”
“เห็นมะ?...แล้วแบบนี้จะให้ผมเชื่อ...โอ๊ย!!...เลิกสักทีได้มั้ยไอ้ที่โมโหใครแล้วก็ขว้างของใส่เนี่ย!?
“บรี้~~
“ฉันว่านายรีบไปง้อเมียจะดีกว่านะ...ด่วนเลยด้วย”
...ในการทำคดีต่างๆตำรวจจะต้องยึดอิงกับพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เสมอดังนั้นอาสนจะไม่เชื่อก็ไม่แปลกแต่สำหรับตัวผม...
(“หา!?...ผีหลอกเธอเรอะ?”
“น่ากลัวมากเลยพี่!!!...ทีแรกภาได้ยินเสียงพูดก็คิดว่าเป็นพี่หรือแคทลงมาข้างล่างแต่พอเข้าไปในครัวก็เห็น”
“เห็น?”
“ผีเด็กตาแดงก่ำมันยืนยิ้มแสยะอยู่ตรง...ตรงนี้เลย!!!!
“แล้ว...คุณแม่ลงมาทำอะไรดึกๆดื่นๆคะ?”
“แม่...รู้สึกเหนียวตัวเลยลงมาอาบน้ำน่ะ
“อืม”
แคทต้องเชื่อแม่นะ!!...แม่ไม่ได้โกหกแม้แต่คำเดียวเลย!!!...เมื่อกี้เห็นผีเด็กสองคนจริงๆ...โอ้ยไม่ใช่ๆ...ผีเด็กผู้หญิงสองตัวดวงตาแดงโร่ยังกะกองไฟแน่ะ!!!!
ไม่...ไม่จริงค่ะ...เป็นไปไม่ได้!!!...คุณแม่จะต้องตาฝาดไปแน่ๆ...เธอ...ไม่มีวันทำอย่างนั้น
(พี่แคทพูดอะไรที่น่าสงสัยออกมาอีกแล้วสิแต่หนึ่งในผีเด็กผู้หญิงนั่นรึว่าจะเป็นหนูริน...ลูกสาวของเรา!?)
“เอ้อ!!...แม่ได้ยินผีเด็กตาแดงมันพูดว่า...พูดว่าอะไรนะ?...เอ--
“..................................................”
“ใช่ๆ...พี่รีย์!!...พูดว่าพี่รีย์ด้วย!!!
!?
“ละ...ลูกแม่!!
“หนูแคทว่าอะไรนะ?”
“.................................................”
“หนูแคท”
“ปละ...เปล่าค่ะ...ไม่มีอะไร”
(ไม่มีอะไรกันจะต้องมีแหงๆ!!...รีย์งั้นเหรอ?...อีกหนึ่งในสองผีเด็กหญิงมีชื่อว่ารีย์และพอพี่แคทได้ยินชื่อนี้สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที!?)
“ไม่เอาแล้ว~~...คืนนี้แม่ไม่นอนคนเดียวแล้ว!!!...ขอไปนอนกับแคทด้วยนะ”
“ได้ค่ะ”
“โฮ่~~...งั้นพวกเธอแม่ลูกก็นอนห้องเดียวกันไปเถอะส่วนฉัน...”
“ไม่ค่ะ...คุณป้าก็ต้องนอนห้องนี้ด้วย”
“เตียงเดียวนอนยังไงไหวตั้งสามคน?”
“คุณป้าไม่ต้องห่วง...เตียงกว้างพอค่ะ”
“ชิ!!
“แล้วผม...ล่ะครับ?”
“บอลก็นอนในห้องฝนอยู่แล้วนี่”
“แค่คนเดียวเรอะ?”
“เป็นลูกผู้ชายแท้ๆกลัวไปได้!!”)
“ก็กลัวน่ะสิแม่คู้น~~...รู้ทั้งรู้”
“พ่อบอลเตรียมตัวเสร็จหรือยัง?...เราจะออกเดินทางแล้วจ้ะ”
“ครับ”
...ขามากับพี่แคทขากลับกับป้าเอ็ม...ถ้าคนภายนอกรู้ก็อาจจะเห็นเป็นเรื่องปกติแต่แท้จริงแล้วมันไม่ใช่เลยสักนิด...พอผมเดินกะย่องกะแย่งผ่านห้องครัวก็ได้ยินเสียงของอานิภากับพี่แคทคุยกัน...
“อย่ากลัวไปเลย...ยังไงบอลก็ไม่มีวันละสายตาจากลูก”
“หนูน่ะหรือกลัว?...เขาจะไปเดินตามก้นสาวอื่นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหนูนี่คะ”
(อ้าวเฮ่ย!?...เราถึงถูกพาดพิง?)
“แน่ใจ๊~~...ไม่ใช่พอรู้เข้าก็จะรีบตามไปตบสาวพวกนั้นด้วยความหึงหวงหรอกเหรอ?...ฮี่ๆ”
“คุณแม่!!...พูดอย่างกับหนูเป็นเมียที่คอยตามหึงผัวเลย”
“ฮะๆๆ...หึงก็ยอมรับสิจะปิดบังทำไม?...การกระทำมันก็ฟ้องอยู่โต้งๆว่าลูกแคร์บอลมากขนาดไหน...ทนไม่ได้ใช่ไหมที่จะต้องอยู่ห่างเขา?...ทำใจไม่ได้ใช่ไหมที่จะเห็นเขาควงไปกับสาวคนอื่น?”
“...................................................”
“ลูกแคทเปลี่ยนไปมากทีเดียวนะจากเมื่อช่วงครึ่งปีก่อนที่ได้พบกับบอลอีกครั้ง”
“ยังไงมั่งคะ?”
“ลูกสาวของแม่สวยขึ้น...อ่อนโยนขึ้นและก็...”
“คะ?”
“งอนเก่งขึ้นด้วย”
“คะ...คุณแม่!!!
“ฮะๆๆ...ยังไงก็แบ่งให้น้องเรามั่งล่ะกัน...ป่านนี้ชะเง้อคอรอที่โยนกอุดรแย่แล้ว”
“...................................................”
“ยังไม่สบายใจอะไรอีกเหรอ?”
“อือ--
“พูดออกมาได้เลยนะอย่าเก็บเอาไว้...มันจะเสียสุขภาพจิต”
“เรา...ตามไปทีหลังคุณป้าจะดีหรือคะ?”
“ไม่เป็นไรๆ...รอดูกันไปเถอะจ้ะ...เชื่อแม่สิ”
(มันจะมีอะไรกัน?)
“แล้วก็...”
“หืม?”
“เรื่องผี...เมื่อคืน”
“อ๋า!!...จะพูดถึงทำไมเนี่ยแม่ยิ่งโมโหอยู่?”
“คุณแม่คะ!!...ได้โปรดอย่าโกรธเด็ก...ผีเด็กผู้หญิงนะคะ”
“ไม่โกรธได้ไงเล่นโผล่มาหลอกแม่ซึ่งๆหน้าเลย!?...มันหาว่าแม่ไปปั่นหัวพ่อมัน!!!...เอ๊ะ?...แล้วใครเป็นพ่อมัน?”
(กึ๋ย!!!...รึว่าจะเป็น...หนูรินจริงๆ...โอ่ย!!...นี่เล่นออกจากความฝันมาเล่นซนบ้าๆบอๆเชียวเรอะ?)
“ช่างเหอะๆ...ถ้าเป็นคนนะแม่จะจับไปห้อยหัวตรงระเบียงโน่นคอยดูซี่เจ้าผีเด็กตาแดงโร่!!!...อื๋อ!?...ลูกแคทพูดเหมือนจะรู้จัก...ผีสองตัวนั่น?”
“มะ...ไม่ค่ะ...หนูไม่รู้จักผีเด็กผู้หญิงตาแดง”
“แล้วอีกตัวล่ะ?”
“อย่าพูดว่าตัวสิคะ!!...เธอใช่ผีที่ไหนกัน?”
“ล่องหนหายตัวได้เนี่ยนะไม่ใช่ผีงั้นจะเป็นอะไร?”
“คือเธอ...เป็น...”
“?”
“อะ...เอาเป็นว่าคุณแม่ลืมๆไปเถอะนะคะ!!!...แล้วก็อย่าโกรธเคืองเด็ก...ผีเด็กที่ชื่อว่ารีย์เลยหนูขอร้อง...ขอให้คุณแม่คิดซะว่าฝันไปก็ได้”
“แปลกนะเรานี่...รู้อะไรแล้วไม่บอกแม่หรือเปล่า?”
“เปล่าค่ะ”
“ก็ลูกแคทดูจะปกป้องผีเด็กชื่อรีย์เหลือเกิน?”
“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่หนูจะพูดอะไรได้ค่ะแต่ขอให้คุณแม่เลิกโกรธเคืองกับเข้าใจผิดเสียที...บ้านหลังนี้ไม่มีผีสางอะไรทั้งนั้น!!...ไม่แน่บางทีคุณแม่อายุเยอะขึ้นทำงานมากๆก็คงจะเหนื่อยจนตาฝาดไปเอง”
“หวา~~...แม่ยังไม่แก่จนเลอะเลือนขนาดนั้นนะ!!...อ้าวเดี๋ยวสิ!
“หนูจะเอากระเป๋าไปไว้ที่รถ”
“...................................................”
“ออกหน้ารับแทนยังกะเป็นลูกของตัวเองแน่ะ?...ฮิๆๆ...ใช่มั้ยยะพ่อตัวดีที่แอบฟังอยู่ตรงนั้น?”
“เออะ!!
..................................................................................................................................................

“เมื่อคืนหนักใช่มั้ย?”
“...ค่ะนายหญิง”
“ฉันอุตส่าห์บอกแล้วนะและดูท่านั่งของเธอ...ทำไมต้องขยับไปขยับมาบ่อยๆ?”
“คือว่า...พี่ศุกร์...”
“อ๋อ~~...เข้าประตูหลังด้วยล่ะสิ?...หนอย!!...สนุกกันใหญ่เชียว...ฉันน่ะไม่ได้แม้แต่จะดูดควยตาหนู...ฮึ่ม!...หนูแคทก็คอยกันท่าซะไม่มี”
“เอ่อ--...ถ้ายังไงให้ผมจอดแวะที่ม่านรูดดีมั้ยครับ?”
“ดี!!...มองหาเลยยัยศิ...เอาที่มันไม่ดูซอมซ่อเกินไปนะ”
“ป้าเอ็ม”
“ยังพอมีเวลานี่นา...สักหน่อยนึง”
(เข้าม่านรูดทั้งๆที่ขาเราเดี้ยงอย่างนี้เนี่ยเรอะ?)
“นายหญิง...ป้ายนั่น...ไปอีกสองกิโลครับ”
“รีสอร์ท?...ลองไปดูก็ได้...อ้าเดี๋ยวๆๆ!!...แวะมินิมาร์ทที่ปั๊มน้ำมันก่อน”
“จะซื้ออะไรครับ?”
“ฮิๆ...ถุง...ยาง...จ้ะ”
...ปัจจุบันถุงยางอนามัยหาซื้อได้ง่ายพอๆกับขนมขบเคี้ยวเพียงแค่ทำใจกล้า(หน้าด้าน)เดินเข้ามินิมาร์ทที่ไหนสักแห่งเท่านั้นก็จะได้มาในครอบครองอย่างง่ายดาย...ผมกับป้าเอ็มนั่งรออยู่ในรถไม่นานสองพี่น้องก็หิ้วถุงใส่ “ของ” ตามที่ผู้เป็นเจ้านายต้องการ...
“นายหญิงครับ”
“อะไร?”
“จะให้ผมเปิดอีกห้องหรือเปล่าครับ?”
“แล้วจะสวิงกิ้งกันยังไงยะถ้าเปิดสองห้องน่ะ?”
“ว้าว~~...โอ...โอเคเลยครับ!!!!
“ว่าแต่นายไหวแน่นะ?”
“สบายมากครับ!!!
“ดี!...ช่วยทำให้ฉันหายเงี่ยนหน่อย...ไม่ได้เจอนานมากเลย...ควยสองอันเย็ดหีเย็ดรูตูดพร้อมกัน”
“ศิก็อยากโดนรุมสองต่อหนึ่งค่ะ”
“แหมๆ~~...เธอเพิ่งโดนชำเราประตูหลังเมื่อคืนแต่ก็อยากเหมือนกับฉัน...เอ้า!!...อย่ามัวช้ารีบไปหาความสุขเสียวกันดีกว่า”
“นายหญิงครับ”
“ทำไมอีก?”
“นั่นใครกำลังมาหาเราเหรอคะ?”
!?
...ระหว่างนั้นมีชายสองคนขับรถมาจอดข้างหลังเราแล้วเดินมายกมือไหว้พลางล้วงอะไรบางอย่างในกระเป๋าเสื้อนอกซึ่งมันคือ “ตราเจ้าหน้าที่ตำรวจ” ...นี่...นี่มันอะไรกัน?...
“คุณศรมรกตใช่หรือเปล่าครับ?”
“ใช่...แล้วพวกคุณมีธุระอะไรกับฉัน?”
“เราเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ”
(ตำรวจ!?)
“ครับ...เราทั้งสองได้รับมอบหมายจากท่านวงศ์ศักดิ์ให้มาคอยอำนวยความสะดวกให้กับคุณศรมรกตและคุณเอกคเชนทร์รวมไปถึงผู้ติดตามให้เดินทางกลับถึงตำบลโยนกจัตุรัสโดยสวัสดิภาพครับ”
“หา!?...จะบ้าหรือไง?...ฉันมาได้ก็กลับเองได้ซี่ทำไมต้องให้คนอื่นมาคอยติดตามด้วยเล่า?...เชิญพวกคุณกลับไปเลย!!
“เมื่อเราได้รับคำสั่งมาแล้วก็จะต้องปฏิบัติตามครับ”
“เฮอะ!!...เดี๋ยวนี้ตำรวจไม่มีงานมีการทำแล้วงั้นเรอะ?”
“พวกผมอยู่ในช่วงลาพักร้อนครับแต่เมื่อผู้บังคับบัญชามีคำสั่งก็สามารถกลับมาปฏิบัติงานได้”
“แต่ผมเข้าใจว่านี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวนะครับ?”
“จริงด้วยค่ะ!...ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ทางราชการสักหน่อย”
“ฉันเป็นประชาชนธรรมดาที่ไม่ต้องการให้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือใครมาอารักขาหรืออำนวยความสะดวกเวลาเดินทางไปไหนมาไหนหรอกนะ!!...พวกเราไม่ใช่เจ้าพ่อมาเฟีย”
(แน่ใจหรือป้า?)
“อ่า--...คุณศรมรกตกรุณาฟังพวกผมอธิบายก่อนนะครับ”
“ว่ามา!
“คือท่านวงศ์ศักดิ์เคยเปรยๆไว้ก่อนหน้านี้ว่าในช่วงลาพักร้อนก็อยากจะให้พวกเราไปเที่ยวที่โยนกจัตุรัสน่ะครับ...ท่านชอบพูดเสมอๆว่าที่นั่นอากาศดีและอาหารก็อร่อย...ผมจึงรู้สึกอยากจะไปที่นั่นสักครั้งหนึ่ง”
“ผมก็เหมือนกันครับ”
“หมายความว่าคุณตำรวจสองคนจะไปเป็นการส่วนตัว?”
“ใช่ครับ”
“แต่ก็จะขับรถนำหน้าพวกเราเพื่อคอยอำนวยความสะดวกไปด้วยตามที่อาสนสั่ง?”
“ถูกต้องครับคุณเอกคเชนทร์”
“กรอด!!!...ไอ้สนบ้าคิดอะไรของมันเนี่ย?”
“จะเอาไงดีครับป้า?”
“ป้าจะโทรหาเจ้าน้องเขยตัวแสบเดี๋ยวนี้...ฮึ!!...ก็พอจะรู้หรอกว่ามันคิดอะไรอยู่”
(เจตนาที่แท้จริงของอาสนคือส่งลูกน้องมาเพื่อจับตาดูเรากับป้าเอ็มสินะ?...ร้ายกาจๆ!!!)
..........................................................................................................................

“คุณแม่”
“...................................................”
“ตื่นสิคะ
“...................................................”
“คุณแม่”
“อือ--
“...................................................”
“ละ...ลูกรีย์!?...ลูกรักของแม่!!...เข้ามาให้แม่กอดหน่อย!!!...อา~~...แม่คิดถึงลูกจังเลย!!!!
“...หนูถูกเข้าใจผิดเสียแล้ว”
“ไม่เป็นไรๆ...อย่าไปถือสาคุณยายเลยนะจ๊ะ...แม่เชื่อและเข้าใจทุกอย่างว่าลูกรีย์ไม่ใช่ผีสางอะไรสักนิด”
“แต่หากหนูเป็น...”
“ไม่ว่าลูกจะเป็นอะไรแม่ก็รักอย่างไม่เปลี่ยนแปลง!!...รักยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง!!!...รักโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น!!!!
“ขอบพระคุณค่ะ”
“แม่อยากจะกอดลูกอย่างนี้นานๆให้สมกับความคิดถึง...มาๆ...นั่งคุยกับแม่เถอะ”
“..................................................”
“ดูสิ...ใบหน้าของลูกเกลี้ยงเกลาหมดจดแต่กลับมีรอยยิ้มที่ดูแล้วเศร้าๆ...ทำไมลูกรีย์ถึงเหมือนแม่ตอนเด็กจังนะ?”
“เพราะหนูเป็นลูกสาวของคุณแม่นี่คะ”
“ฟังกี่ครั้งๆแม่ก็ไม่เคยเบื่อประโยคนี้จริงๆนะว่าแต่ทำไมลูกถึงมาอยู่ที่บ้านคุณยายล่ะจ๊ะ?”
“อยากมาท่องเที่ยวเมืองเขลางค์นครกับอยากมาอยู่ใกล้ๆคุณแม่”
“แล้วไม่อยากอยู่ใกล้คุณพ่อหรือไงเอ่ย?”
“คุณแม่!
“ฮะๆๆ...เข้าใจๆ...แม่เข้าใจลูกจ้ะ”
“.................................................”
“เอ่อ--...แม่อยากจะถามลูก”
“เรื่องผีเด็กผู้หญิงนัยน์ตาแดงก่ำใช่ไหมคะ?”
“เธอเป็นใครจ๊ะ?”
“.................................................”
“ถ้าลูกรีย์ไม่อยากพูดแม่ก็จะไม่บังคับ”
“เป็น...น้องสาวของหนูค่ะ”
“แต่ไม่ใช่ลูกของแม่สินะ?...น้องสาว...แปลว่าเธออายุน้อยกว่าลูก?”
“ค่ะ”
ลูกรีย์ช่วยบอกแม่ทีเถอะว่าเด็กผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าหนูแท้จริงแล้วนั่นคือ...
แม้หนูจะไม่พูดแต่คุณแม่ก็คงมีคำตอบที่ชัดเจนอยู่ในใจแล้วนะคะ
จริงหรือนี่?...เด็กผู้หญิงที่แกล้งหลอกคุณ...คุณยายก็คือหลานสาวของท่านและก็ลูกสาวของฝน
“นิสัยใจคอนับว่าถอดแบบมาจากแม่หยาดฝนอย่างไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่นิดเดียวค่ะ”
“มิน่าถึงได้แกล้งหลอกคุณยายซะขวัญกระเจิงจนหนูต้องเข้ามาห้าม...แหม!...แม่ชักอยากจะเจอซะแล้วสิ”
“คงไม่ได้เพราะเธอไม่อยู่”
“อ้าว!?...ไปไหนล่ะจ๊ะ?”
“ไปหาแม่หยาดฝนค่ะ”
“งั้นแม่จะมีโอกาสได้เจอเด็กคนนั้นไหม?”
“มีโอกาสแน่นอนค่ะ...คุณแม่”
“จ๊ะ?”
“จงเก็บรักษาเหรียญทองดวงตะวันไว้ให้ดีนะคะเพราะนั่นเป็นสื่อกลางที่ทำให้เราทั้งสองสามารถติดต่อกันได้”
“ได้จ้ะได้!!...แม่จะไม่ยอมให้อยู่ห่างตัวเลย”
“ส่วนคุณพ่อ...”
“ทำไมหรือจ๊ะ?”
“อีกไม่นาน...”
“อะ...อีกไม่นาน...อีกไม่นานอะไร?...อื๋อ?”
“?”
“นี่มัน...ในรถ!?”
“ลูกแคทเป็นอะไรจ๊ะ?”
“................................................”
“อุ๊ย!!...น้ำตาไหลด้วยนิ?”
“หนู...หนูฝันไป...ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณแม่”
“เหรอ?”
“ถึงไหนแล้วคะ?”
“เพิ่งจะออกพ้นตัวเมืองลำปางเอง...รถติดน่าดูเลย”
“................................................”
“ป่านนี้พี่เอ็มคงฉุนขาดอยู่แน่ๆ...แม่อยากเห็นจัง...เนอะ?”
“...ค่ะ”
“พ่อของหนูนี่นับว่าก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันแฮะ...ฮิๆๆๆ”
“เมื่อกี้...ลูกรีย์ต้องการจะบอกอะไรเรากันแน่?...แม่จะรอโอกาส...โอกาสที่จะได้เจอกับลูกอีกครั้ง...นะ?”
......................................................................................................................................................

“คุณแม่...”
“......................................................”
“เป็นท่าน...อีกแล้วหรือที่ขัดขวางเรา?”
“การแพร่งพรายชะตาชีวิตของใครออกไปให้ผู้อื่นรับรู้นั้นหาใช่สิ่งที่สมควรกระทำนะขอรับ...สุริยนนุจรินทร์”
“ผู้อื่นหรือ?...นั่นคือ...”
“บิดาแลมารดาของท่าน...มิว่าจะเป็นผู้ใดก็ผิดขอรับ”
“แต่หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้คุณพ่อก็จะ...”
“ต้องตาย”
“แล้วจะให้เรากับวสันตะนุจรินทร์ทนนิ่งดูดายอยู่ได้อย่างไรกันเล่า?”
“พวกท่านทั้งสองหรืออชินีสุราลัยมิอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ดอก...มิสู้ปล่อยให้เป็นธุระของเทพบดีแห่งกาลเวลาที่ผันแปรแลเทพบดีแห่งห้วงมิติที่ผกผันเล่า?”
“จะให้พวกเราเชื่อใจอุษณรัศมีกับสีตลรัศมีที่ครั้งก่อนก็เกือบจะลักพาดวงจิตของคุณพ่อไปซ่อนเร้นในห้วงมิติที่มิอาจคาดเดาว่าเป็นที่ใด...ท่านเห็นเราสองพี่น้องเป็นเด็กอมมือหรือ?...หัสดินเทวนาถ!!!
“สุริยนนุจรินทร์เอย...ท่านกำลังเข้าใจพวกนางผิดอยู่นะขอรับ”
!?
.....................................................................................................................................................

“ฮะๆๆๆ...ครั้งนี้ก็แพ้หนูอีกแล้ว”
“แฮ่กๆ...ยัย...ยัยหนูนี่~~...ทำไม...ทำไมวิ่งไวนัก?...ไล่เท่าไหร่...ก็...ก็ไม่เคยทันสักที!!
“ฮิๆๆ”
“ฮึ!!...ฉะ...ฉันน่ะเรอะจะแพ้เด็กตัวกะเปี๊ยกเท่านี้?...ไม่ยอม...ไม่ยอมหรอก!!!
“นั่นแน่ะ!!!...เล่นทีเผลอรึ?”
“มาให้จับตัวซะดีๆนะ!!!
“ถ้าจับหนูไม่ได้ก็ไม่มีทาง”
“ไหนว่าเป็นลูกของฉันไง”
“ฮึฮื่อ~~...หนูพูดตอนไหนจ๊ะ?”
“ไม่!...ถึงไม่เคยพูดก็จริงแต่รูปร่างหน้าตาแบบนั้นมันคล้ายฉันตอนเด็กมากๆนี่!?
“อยากรู้ล่ะสิ?...งั้นตามมา”
“จะ...จะไปไหน?...วิ่งอีกแล้ว!!...โธ่~~...ฉันเหนื่อยแล้วนะ!!!
“...............................................”
“โอ้ย!!...รอด้วยยัยหนู~~
“...............................................”
“อ้าว!?...หาย...ไปไหนแล้ว?
“ไงลูก!!...ไปวิ่งเล่นถึงไหนมา?”
“เสียงนั่น!?
“พ่อจ๋า~~
“ระ...หรือว่า...”
“มาให้พ่ออุ้มหน่อยซิ...อึ๊ดช่า!!...นางฟ้าตัวน้อยของพ่อ”
!!!!!!!!
“วันๆเอาแต่วิ่งเล่นไปโน่นมานี่นะลูก...ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ?”
“ก็หนูอยากเก่งเหมือนพ่อเร็วๆที่ไม่ใช่แค่วิ่งไวแต่ท่าเตะก็สุดยอดด้วยละ!!!
“ห๊ะ!?...วิ่งไวเตะเก่งเรอะ?...เอ้ยๆๆ...จะเป็นไปได้ยังไงเล่า?...อ้อ!!...ถ้าเป็นเรื่องเกี้ยวสาวๆน่ะไม่เถียงหรอก”
“แหม~~...ลูกสาวคนเก่งชมพ่อซะตัวแทบลอยเลยเนี่ย”
“แต่ว่าที่สำคัญกว่านั้น...ตัวสูงขึ้นกับหน้าตาก็แลดูเป็นผู้ใหญ่...อืม--
“ไม่หรอกจ้ะ...อีกไม่กี่ปีพ่อก็ตามจับพวกหนูไม่ทันแล้ว”
“ดูหล่อเหลาคมคายขึ้นเยอะเชียวละและหุ่นก็ไม่ผอมบางแต่รู้สึกขัดใจที่จะไว้หนวดทำไมหว่า?...ไม่ชอบเลย!!
“อ๋า!!...เดี๋ยวนี้พ่อวิ่งแข่งชนะแม่ขาดลอยไม่ใช่เหรอ?”
“อึ่ย~~...แม่เค้าอ่อนให้พ่อต่างหาก--...เอาจริงๆพ่อวิ่งสู้แม่ไม่ได้เลย”
“ไม่จริงๆ...พ่อหนูเก่งที่สุดในโลก!!!...งั้นใช้บาทามรณะให้หนูดูหน่อยสิ”
“ว่า...ว่ายังไงนะ!?...บะ...บาทามรณะไม้ตายของเราน่ะเรอะ?...บ้าแล้ว!!!!...ไปหัดตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมเราไม่รู้?...อึ๊!!...อะไรนี่!?...ขยับตัวไม่ได้เลย!!!...ฮึ่ม~~
“พ่อทำให้ดูหลายครั้งแล้วนี่?”
“ก็หนูอยากดูอีกอ่ะ!!...นะๆๆ...จะดูกี่ครั้งๆก็ไม่เบื่อเลย”
“อ่ะๆๆ...ก็ได้”
“เย้!!!
“อีตาบ้านี่จะใช้บาทามรณะ...คิก!!...น่ารักซะจริงๆนะแต่ก็คงจะแค่แกล้งทำหลอกเด็กร้อก~~...มันเป็นกันได้ง่ายๆซะที่ไหน?...ขืนทำสุ่มสี่สุ่มห้ากล้ามเนื้อขาจะฉีกเอา”
“เอาล่ะนะ!
“ค่า~~
“ไม่มีทางๆ...กว่าเราจะใช้เป็นก็...”
“ฮ่าห์!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“โอ๊ะ!?...พ่อเตะออกไปแล้วหรือ?...กี่ครั้งๆ?”
“สองครั้ง”
“ว้า!!...แม่น่ะเตะได้ตั้งเก้าครั้งแล้วไหงพ่อเตะแค่สองครั้งเองเล่า?”
“โธ่~~...พ่อก็แค่ครูพักลักจำแม่เค้ามาอีกที...เอ้า!!...กลับกันเถอะลูก...ป่านนี้แม่คงทำกับข้าวเสร็จแล้วมั้ง?...พ่อชักจะหิวล่ะ”
“จ้ะพ่อ!!
“แม่ของหนูน่ะเก่งกว่าพ่อตั้งเยอะรู้มั้ย?”
“แต่หนูว่าในบ้านของเราไม่มีใครเก่งกว่าพ่อ”
“ฮะๆๆ...หนูอย่าไปพูดในบ้านเชียวนะเดี๋ยวพ่อจะโดน”
“.......................................................”
“.......................................................”
“ไม่อยากเชื่อถึงจะแค่สองครั้งแต่ก็ใช่บาทามรณะจริงๆ!!!...เตะเฉียงซ้ายและถีบขวาเข้ากลางอกที่เป็นท่าพิฆาตสุดท้าย...โห~~...มองไม่ทันเลยว่าออกท่าเตะไปตอนไหน!!!!...นี่เขาจะเก่งขึ้นถึงขนาดนี้เชียวหรือ?”
“.......................................................”
“อ๊ะ!!...หายไปไหนกันอีกแล้ว?...ปัทโธ่!!...ฉันยังมีคำถามตั้งเยอะตั้งแยะไปหมดเลยนะ~~...บ้าจังพ่อลูกคู่นี้นี่!!!
“.......................................................”
“ใช่...ใช่แล้ว!!!...บอลคือพ่อส่วนเราก็คือแม่แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้น...วี้ด~~...ลูกสาว!!!...เธอเป็นลูกสาวของฉันจริงๆด้วย!!!!...มิน่าเล่าทำไมถึงเหมือนกันซะขนาดนี้?...ฮ่าๆๆๆ...ครั้งหน้า...ครั้งหน้าแม่จะต้องจับตัวหนูให้ได้เล้ย!!!!
“.......................................................”
“ฮะๆๆๆ...จับให้ได้ๆๆ”
“น้องนางหยาดฝน”
“ฮี่ๆๆ...เอ๊อะ!!!...พี่...พี่อ้อ!?
“ฝันดีมากเลยหรือไงจ๊ะ?”
“ฝะ...ฝันงั้นรึ?”
“อื้ม!!...พี่เห็นน้องฝนหลับตายิ้มกริ่มเชียว”
“ไม่ใช่!!...ต้องไม่ใช่!!!
“หือ?”
“จะต้องไม่ใช่ฝันค่ะ!!!...หนูฝันซ้ำๆกันมาตลอดฉะนั้นสักวันหนึ่งมันจะต้องกลายเป็นความจริงขึ้นมาอย่างแน่นอน!!!!
“นี่น้องนางหยาดฝนพูดอะไรพี่เริ่มงงแล้วนะ...ฝันมิใช่ฝันอะไร?”
“เย้ๆๆๆ...เก่งกันทั้งพ่อทั้งลูกเลย~~...ยู้ฮู้!!!
“เป็นอะไรของเขาน่ะ?...คือพี่จะมาบอกน้องว่าท่านป้าศรมรกตกับเอกคเชนทร์มาถึงแล้ว”
“จริงเรอะคะ?”
“กำลังจะเข้าไปที่โยนกบูรพาจ้ะ”
“ทำไมต้องไปที่นั่นแต่ไม่แวะโยนกอุดรก่อนนะเพราะอีกเดี๋ยวแม่กับพี่แคทก็จะตามมาถึงเหมือนกัน?”
“พี่ก็มิแน่ใจจ้ะแต่ดูอาจจะเกี่ยวข้องกับ...”
“ศิวะบัณฑิต...อีกแล้วเหรอ?”
.................................................................................................................................

“ไอ้บ้าๆๆ...กล้ามาลบเหลี่ยมคนอย่างฉัน!!!
...ตั้งแต่คุยโทรศัพท์กับอาสนจบป้าเอ็มก็นั่งหน้าบึ้งตึงบ่นเป็นหมีกินผึ้งตลอดทางโดยข้างหน้ารถของเรามีรถนายตำรวจขับนำซึ่งหมายความว่าแผน “สวิงกิ้งลับสุดยอด” จึงมีอันต้องพับฐานลงไปโดยปริยาย...
“นายหญิงอย่าเพิ่งหงุดหงิดไปเลยค่ะ”
“ใช่ครับ...เอาไว้โอกาสหน้า”
“ฉันไม่อยากรอเลยจริงๆ...น่าโมโหเจ้าบ้านั่นนัก!!...มันทำเพื่อลูกสาวหรือเพื่อตัวเองกันแน่?”
“ป้า...ที่นี่...”
“หมู่บ้านโยนกบูรพาไง”
“หมอกเยอะจังครับ...ไม่ใช่เวลาเช้ามืดสักหน่อย”
“ที่นี่หมอกจะลงทั้งวันทั้งคืนจ้ะ...บางวันก็ไม่มีแสงแดดส่องลงมาถึงพื้นเลย”
(หมู่บ้านโยนกที่เหลืออีกสามไม่มีปรากฏการณ์แบบนี้...จะพูดว่าธรรมชาติบรรจงสรรสร้างก็คงไม่ผิด)
“นายหญิงคะ...นั่นคุณหนูรองค่ะ”
(ขนาดกลับมาที่บ้านพี่ม่อนก็ยังใส่ชุดนักศึกษากับห่มผ้าคลุมอีก!?)
“สวัสดีท่านแม่เจ้าค่ะ”
“ลูกจะไปไหนเหรอ?”
“โยนกอุดรเจ้าค่ะ”
“ให้ไปส่งไหม?”
“.....................................................”
(มองมาทางเรา!?)
“...ลูกคงจะมิรบกวนท่านแม่ดอก...ขอตัวเจ้าค่ะ”
“เอ่อพี่ม่อนครับ...สะ...สวัสดี”
“.....................................................”
(นิ่ง)
“สวัสดี...เป็นอย่างไรบ้าง?”
“หา?”
“เจ้าลืมคำพูดของเราไปแล้วหรืออย่างไร?”
“ไม่!!...ผมไม่ได้ลืม...ดี...ดีมากเลยครับ”
“.....................................................”
“.....................................................”
“เช่นนั้นพบกันครั้งหน้าเราจะขอถามเจ้าถึงความหมายของคำว่าดี”
...ยังทำตัวลึกลับได้อย่างเสมอต้นเสมอปลายจริงๆนะสำหรับญาติสาวผู้พี่วัย 21 คนนี้แล้วผมจะได้มีโอกาสเห็นพี่ม่อนลืมตาขึ้นบ้างหรือเปล่าแต่ได้ยินว่าดวงตาของเธอไม่ปกติก็คงจะเป็นเรื่องยากน่ะสิและฝนเคยบอกว่าไม่สมควรไปเห็นด้วยเพราะอาจถูกสะกดจิตได้ง่ายๆ!?...
“ทำได้ดีนี่จ๊ะ”
“ครับ?”
“ป้าไม่นึกว่าจะพ่อบอลจะสนิทกับลูกม่อนได้”
“สนิท...แบบนั้นเรียกว่าสนิทแล้วหรือครับ?”
“ใช่...ลูกม่อนไม่เคยพูดทำนองว่าจะมาขอถามอะไรแบบนี้กับใครเลยสักครั้งเดียวนะ”
“นายหญิงพูดถูกแล้วครับ...สำหรับคุณหนูศรมุกดาแล้วผู้ชายก็ไม่ต่างอะไรกับอากาศธาตุหรือฝุ่นละออง”
“เมื่อกี้ศิยังอดแปลกใจไม่ได้ที่คุณหนูรองทักทายกับนายท่าน”
(แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะลดทัศนคติในแง่ลบที่มีต่อเราได้สักเท่าไหร่และประโยคที่ว่าบุรุษนั้นไซร้คือแมลงเราก็จดจำได้อย่างแม่นยำ)
“ถึงแล้วจ้ะ...นี่คือบ้านราศีกาญจนา”
“ใหญ่กว่าบ้านของพ่อซะอีก...นี่ขนาดว่าต่อเติมขยับขยายเยอะแล้วนะครับ”
“ก็คุณปู่กับคุณย่าพักอยู่ด้วยนี่นา”
“สร้างมานานแล้วสินะครับ?”
“จ้ะ...ก่อนพ่อบอลเกิดตั้งหลายปี”
“แต่ยังดูเหมือนใหม่อยู่เลยแฮะ...บรรยากาศก็ร่มรื่นจริงๆ”
“ฝีมือเซคน่ะ...เขาทำงานกลับมาเหนื่อยๆก็อยากจะให้สภาพแวดล้อมที่นี่รู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด”
“อืม”
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะนายหญิงศรมรกต”
“พวกเธอทักทายว่าที่นายท่านคนใหม่ด้วย...คุณชายอันดับหก...เอกคเชนทร์ วิษณุมนตรี”
(โหย~~...ป้าเอ็มเรียกเราซะเต็มยศเชียว!!!...อ้าวๆ...บรรดาสาวใช้ต่างก้มหน้างุดกันหมดทุกคนเลย!?)
“ไม่ต้องเป็นทางการนักก็ได้ครับ...ทำตัวตามสบายเถอะ”
“คุณชายหกสั่งแน่ะ”
“จะ...เจ้าค่ะ”
“โธ่ป้าครับ!!...ผมกดดันนะนี่~~
(ยิ่งไม่อยากให้บรรยากาศมันเครียดๆอยู่)
“โอ้โฮ!?...ห้องโถงกว้างชะ...เฮ่ย!!!
“?”
“นายท่าน?”
“พ่อบอลเป็นอะไรไป?”
“นะ...นั่น...”
“ตายจริง!!...ป้าลืมบอกพ่อบอลไปว่าตรงนั้นมี...มันเป็นภาพสีน้ำมันที่เขียนไว้เมื่อสองปีก่อนน่ะ”
“ไม่แปลกหรอกครับที่นายท่านจะตกใจ”
“ใช่ค่ะ...ขนาดหนูอยู่ที่นี่มานานแต่พอเห็นทีไรก็รู้สึกขนลุกทุกที”
...เมื่อก้าวเข้ามาในบ้านสิ่งที่รอต้อนรับผมคือรูปภาพขนาดใหญ่สองบานที่ติดอยู่ตรงระเบียงบ้านชั้นบนซึ่งเป็นภาพครึ่งตัวของพี่เซคและพี่ม่อนที่ให้ความรู้สึกราวกับจะมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ!?...แต่ทว่า...มันช่างน่าเกรงขามกับกดดันอะไรอย่างนี้!!!!...ภาพของพี่เซคแต่งชุดสวมเสื้อกาวส์กำหมัดขวาอ้าปากหัวเราะร่าและดวงตาก็มีสีแดงก่ำดุจดังเลือดอันแสดงออกถึงความ “ทรงอำนาจ” และ “บ้าคลั่ง” ส่วนภาพของพี่ม่อนแม้สีหน้าจะเงียบสงบไม่ยิ้มหัวเราะหรือแสดงอารมณ์ใดๆแต่ก็น่าสะพรึงกลัวไม่ต่างกันคือดวงตาทั้งสองข้างของเจ้าหล่อนนั้นก็ลุกวาวเป็นสีแดงประดุจกองเพลิง...ผู้หญิงสองคนนี้เป็นมนุษย์ชนิดไหนกันแน่และจิตรกรที่วาดภาพนี่ก็ดูท่าจะจิตไม่ค่อยปกติด้วย!?...
(สรุปคือเราได้เห็นสมใจแล้วใช่มั้ย?)
“ขอต้อนรับสู่หมู่บ้านโยนกบูรพา...ฉันกำลังรอนายอยู่”
“.................................................”
“แล้วก็ยังมีคนที่อยากพบกับนายแน่ะ”
“ฮึ!!...มาจนได้”
“ใจเย็นๆค่ะนายหญิง”
(โอ้โห!?...ผู้หญิงผิวเข้มตาคมคิ้วหนาเค้าหน้าออกไปทางสาวแขกนี่เป็นใคร?...เอ้ยๆๆ...ทั้งเธอและคนติดตามที่เป็นหญิงล้วนต่างลงนั่งคุกเข่าคำนับให้ผู้ที่อาวุโสน้อยกว่าอย่างเราแล้วยังดึงมือไปแตะที่หน้าผากอีกด้วย!!!...นี่มันแสดงออกถึงความหมายอะไรกัน?)
“ดิฉันรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะที่ได้พบกับคุณชายเอกคเชนทร์ในวันนี้”
“คุณ...”
“ศิริรัศมี ศิวะบัณฑิตค่ะ”
!!
(ตระกูลที่มีฐานอำนาจอยู่ทางภาคใต้และมั่งคั่งร่ำรวยไม่ด้อยไปกว่าวิษณุมนตรีนั่นคือศิวะบัณฑิตแห่งตำบลศรีไตรตรึงษ์ในจังหวัดกระบี่...ใช่แล้ว...คุณย่าของเราก็เติบโตมาจากที่นี่)
“ผม...ผมก็ยินดีมากเช่นกันครับที่ได้พบกับคุณและทุกคน”
“คุณชายหกช่างสมกับที่ผู้คนต่างกล่าวขาน...สุภาพและอ่อนน้อมถ่อมตน”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับแล้วก็ยืนขึ้นเถอะ...มาคุกเข่าให้แบบนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลย”
“นั่นคือวิถีปฏิบัติของศิวะบัณฑิตที่จะกระทำต่อแขกคนสำคัญหรือบุคคลที่พวกเขาให้การยอมรับอย่างสูง...นายควรจะรับรู้ไว้”
...แขกคนสำคัญก็ยังพอว่าแต่นี่ให้การยอมรับอย่างสูง!?...ผมไม่เคยเจอคุณศิริรัศมีมาก่อนแล้วเหตุใดจะต้องทำเช่นนี้ด้วย?...
“หึ!!...จะมัวพูดอ้อมค้อมยืดยาวไปทำไมกันเสียเวลาเปล่าๆ...พวกเธอต้องการอะไรถึงได้อุตส่าห์ดั้นด้นมาถึงนี่ก็ว่าออกมาตรงๆเลยจะดีกว่ามั้ง?”
“คุณศิริรัศมีเป็นแขกของหนูนะคะ”
“แต่มันต้องเกี่ยวกับพ่อบอลหลานของแม่ด้วยใช่ไหมเล่า?”
“....................................................”
“ว่าไงคุณศิริรัศมี?...ฉันพูดถูกสินะ”
“ค่ะ...ไม่ผิด...ดิฉันในฐานะตัวแทนของตระกูลศิวะบัณฑิตมาที่นี่เพื่อเยี่ยมเยียนอาการบาดเจ็บของคุณชายหกค่ะ”
“อ่า--...ขอบคุณมากๆครับ”
“นายท่าน...คุณพ่อของดิฉันได้ยินข่าวก็ตกใจมากรีบสั่งให้ดิฉันเดินทางมาเยี่ยมคุณชายหกเพียงแต่คราวที่แล้วคลาดกันไป”
“แหม่~~...หูตาช่างไวซะจริงๆอย่างกับมีใครบางคนแถวนี้คาบข่าวไปประเคนให้ถึงปาก”
“อ๋อม!?
“ไงสามีของฉัน!!
(ระ...เรียกสามีเลยเรอะ?)
“เพราะรู้ว่าพี่ชายอยู่ที่นี่หนูกับพี่อ๋อมถึงได้ยอมเข้าโยนกบูรพาทั้งที่ใจไม่คิดอยากจะย่างกรายมาเลยด้วยซ้ำ”
“แล้วดูรูปนั่นสิ...หลอกได้แค่เด็กอนุบาลเท่านั้นแหละเว้ย!!
“จริงค่ะพี่...ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหน”
“พวกเธอ...ถ้าจะมาก่อกวนก็ขอให้กลับไปซะ”
“หา!?...พี่เซคไล่แขกได้ไงเนี่ย?”
“แขกอะไรกัน?...น้องสาวนิสัยไม่ดีต่างหาก”
“วะ...ว่าไงน๊ะ!?...แม่จ๊ะ...ฟังที่พี่เซคพูดสิ”
“อย่าเพิ่งเถียงกันเองได้มั้ย?”
“เอ้าพูดมา!!...นอกจากมาเยี่ยมผัวของฉันแล้วพวกเธอต้องการอะไรอีก?”
“ผัว?”
“เออ!!...ก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอนี่ไง”
“อ๋อม”
“นายเงียบน่ะ!!
“ในเมื่อคุณหนูห้าอยากรู้ดิฉันก็จะไม่ปิดบัง...คุณพ่อของดิฉันต้องการจะเชิญคุณเอกคเชนทร์ไปที่ตำบลศรีไตรตรึงษ์”
“เรียกว่าคำเชิญจากแดนใต้ซึ่งก็เป็นที่รู้กันว่าผู้ถูกเชิญไม่อาจจะปฏิเสธได้”
(มีธรรมเนียมปฏิบัติแบบนี้ด้วยเหรอ?)
“ใช่ค่ะ...แล้วในทางกลับกันหากมีคำเชิญจากแดนเหนือทางเราก็จะไม่บิดพลิ้ว”
“บ้าบอคอแตกสิ้นดี!!...ฉันไม่ให้บอลไปโว้ย!!!...มีอะไรมั้ย?”
“ใช่!!...มันจะมากเกินไปแล้ว...เคยถามพี่ชายสักคำว่าอยากจะไปหรือเปล่า?”
“จริงด้วย!...พ่อบอลก็ขาเป็นแบบนี้แล้วจะเดินทางสะดวกได้ยังไง?...ไกลก็ไกล...ฉันไม่ให้ไปแน่!!
“ต่อให้เป็นคุณศรมรกตก็ไม่มีทางตัดสินใจแทนได้หรอกนะคะ”
“แล้วทีพวกเธอคิดเองเออเล่า?...พ่อบอลเพิ่งจะได้เจอวันนี้แท้ๆพวกเธอก็จะมาพาเขาไป...มีเยี่ยงอย่างที่ไหนกัน?”
“เอาล่ะค่ะๆ...ตอนนี้อย่าเพิ่งเถียงกันเลย...คุณแม่เพิ่งมาถึงก็พักผ่อนให้สบายใจสบายอารมณ์ก่อนดีกว่าแล้วจากนี้จะว่ายังไงก็ไว้ค่อยหารือกันใหม่”
“ไม่หารือใหม่อะไรทั้งนั้นแหละโว้ยยัยบ้า!!!
“ถ้ายึดตามที่เคยทำกันมาผมก็จะต้องไปใช่ไหมครับ?”
“ฉันไม่ให้ไปนะ!!!
“หนูก็ไม่ยอม!!
“เดี๋ยวก่อน--...เธอสองคนอย่าเพิ่งโวยวาย”
“แต่ว่า...”
“ไปหรือไม่มันอยู่ที่ฉันคนเดียว...ไม่มีใครบังคับได้”
“....................................................”
“เข้าใจนะอ๋อม...น้องป้อมก็ด้วย”
“ฮึ!...เออๆๆ”
“...ก็ได้ค่ะ”
“ขอโทษนะคะที่ดิฉันใจร้อนรีบบอกคุณชายหกแต่มันมีเหตุผลอยู่”
“ไม่เป็นไรครับเพราะช้าเร็วก็ต้องรู้อยู่ดี”
“ยู้ฮู่!!...มาแล้วจ้า~~
...อานิภามาโยนกจัตุรัสด้วยหรือนี่แถมพี่แคทกับฝนก็ยังตามมาอีกต่างหาก!?...แหม่~~...ได้จังหวะเหมาะซะจริงจริ๊ง!!...วี่แววแห่งความวุ่นวายมันช่างเกิดขึ้นเป็นระลอกราวกับเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งอย่างไม่จบสิ้นแท้หนอ?...
“เอ๋!?...พวกเรามาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่าเอ่ย?...ไหงดูเคร่งเครียดกันจัง?”
“ฮึ่ย--...ยัยตัวยุ่งเอ๊ย!!
“เมื่อกี้พี่เอ็มว่าไงนะคะ?”
“เปล่านี่”
“เอาะเหรอ?...โอเค!!...บอล...ลืมอะไรไปใช่มั้ย?”
“ลืม?”
“แม่นแย้ว!!...บอลลืมของสำคัญไว้อาก็เลยตามมาคืน”
(เอ่อ--...อย่าบอกนะว่าของที่เราลืมก็คือ?)
“เอ้า!!...รับไปซะสิ”
...ว่าแล้วไง!!!...อานิภาจูงมือลูกสาวทั้งสองแล้วพาเดินเข้ามาส่งให้...พี่แคทสบตาผมแว่บหนึ่งก็หันหน้าไปทางอื่นแสดงอาการไม่รู้ไม่ชี้ส่วนฝนเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พลางชำเลืองมองผมด้วยความเขินอาย...
“เก็บรักษาไว้ยิ่งกว่าชีวิตเลยนะไม่งั้นอาจะเอาเรื่องบอล...อ้อ!!...ไม่รับคืนด้วยนะจ๊ะขอบอก”
(ใครชอบพูดว่าเป็นคนมีเสน่ห์แล้วดูเท่ห์กับน่าอิจฉาขอให้ดูตัวอย่างตรงนี้ไว้เลย...มันช่างน่าปวดหัวที่สุด!!...อื๋อ?)
“..............................................”
“พี่เซค...เมื่อกี้...”
“มีอะไร?”
“..............................................”
“ฉันถามว่ามีอะไร?”
“...เปล่าครับ”
(เราว่าเมื่อกี้ตาไม่ฝาดไปเองนะที่เห็นพี่เซคสำแดงสุริยะโลหิตออกมาแว่บหนึ่ง...โธ่เอ๋ย~~...แค่นี้หล่อนก็ชังน้ำหน้าเราจะตายอยู่แล้ว!!!)
..................................................................................................................................................

“พวกศิวะบัณฑิตจะเชิญพี่ชายไป...พี่สามคนจะว่าไง?”
“ไม่น่าถามเลยยัยตัวเล็ก...ใครจะยอมได้เล่า!!!
“พวกมันจะได้รู้ถึงความน่ากลัวของฉัน...จะเอาให้จดจำไปจนวันตาย!!!
“แต่ก่อนอื่นพี่มีคำถาม”
“อะไรคะเจ๊?”
“ทำไมจะเราต้องขึ้นมาหารือกันบนเขานี่แถมยังมานอนคว่ำล้อมวงเอาผ้าห่มคลุมหัวด้วย?”
“ก็เป็นการประชุมลับไงเล่ายัยเบ๊อะ!!
“ต้นคิดคือยัยตัวกะเปี๊ยก...เจ๊มีปัญหาก็ให้มันตอบ”
“ฮื้อ!!...ไม่มีที่ไหนในโยนกบูรพาจะปลอดคนเท่าที่นี่แล้วค่ะพี่แคทก็อย่าสงสัยนักเลย...รู้ๆกันอยู่ว่าหูตาของพี่เซคมีอยู่เต็มไปหมดเพราะงั้นจะต้องรีบหารือแล้วแยกย้ายกันกลับให้เร็ว”
“โดยเฉพาะยัยซกมกแอบจิตหมายเลขสองไม่ชอบนุ่งกางเกงใน...เห็นหน้ามันเมื่อไหร่ฉันเป็นต้องอารมณ์เสียเมื่อนั้น”
“ไปๆมาๆพี่อ๋อมจะไปลงที่พี่ม่อนอีกละ!!...ไม่ได้เกี่ยวกันเล้ย~~...เรากำลังปรึกษากันเรื่องของบอลนะคะ”
“วุ้ย!!...เออๆๆ”
“หากบอลจะไปซะอย่างแล้วเรามีเหตุผลอะไรไปห้ามได้?...คำเชิญระหว่างสองตระกูลไม่เคยมีสักครั้งที่ฝ่ายใดจะบอกปัด”
“นี่สุรีย์พรรณ!...เธอก็รู้ว่าพวกนั้นมาที่นี่เพราะเหตุผลเดียวก็คือพาบอลไปแต่งเป็นเขยเข้าบ้านศิวะบัณฑิต...จะให้นิ่งเป็นทองไม่รู้ร้อนได้งั้นเรอะ?”
“ตกลงพี่แคทรักหวงพี่ชายจริงหรือเปล่าเนี่ย?”
“คือ...”
“ถ้าเธอไม่รักบอลก็กลับไปซะแล้วอย่ามาทำตัวเป็นอีแอบอีก!!!
“มะ...ไม่”
“แล้วตกลงรักหรือไม่รัก?”
“..............................................”
“โอ่ย~~...ก็พูดออกมาสิเว้ย!!...กลัวดอกพิกุลร่วงจากปากหรือไงยะ?”
“น่าๆๆ...เจ๊น่ะไม่บอกรักกับใครนอกจากบอลหรอกค่ะ”
“ฝน!!
“อ้าว!?...นี่หนูช่วยพูดให้พี่น๊า!!
“ฉันล่ะเบื่อพวกปากแข็งจริงๆ...ขนาดจับแม่ฉันมัดเพราะระแวงว่าจะไปหาบอลแล้วยังมีอะไรที่หล่อนไม่กล้าทำอีกวะ?”
“พี่แคทช่างกล้ามากนะคะ...ฮึฮื่อ!!!
“เอาล่ะๆๆ...เรื่องอื่นเอาไว้ทีหลังแต่ตอนนี้เรื่องของบอลสำคัญกว่าแล้วเราจะเอายังไงกันดีคะ?”
“พี่เชื่อว่าบอลจะไม่ไปศรีไตรตรึงษ์เวลานี้เพราะขายังไม่หาย”
“ป้อมเห็นด้วยกับพี่อ๋อม”
“แล้วจะโน้มน้าวเขาได้ยังไง?”
“พวกเธอสองคนก็เริ่มกันไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“?”
!?
“หยาดฝนน่ะคุยกันรู้เรื่องแล้วแต่สำหรับสุรีย์พรรณ...ฉันจะมองข้ามความเป็นแมวขโมยของเธอไปก่อน...รอให้จัดการพวกบ้านใต้เสร็จแล้วเราค่อยมาสะสางกัน”
“...................................................”
“พี่แคท...พี่น่ะจะยอมให้พี่ชายจากไปไหนไกลๆหรือเปล่า?...พูดออกมาตรงๆเลย!!
“ใช่...ที่นี่มีแต่พวกเราและต่างก็มีหัวอกเดียวกัน...รักผู้ชายคนเดียวกัน”
“เจ๊~~...ไม่ได้ให้บอกว่ารักสักหน่อย...พูดไปเลยๆ”
“คือพี่...”
“เอ้า!!...ว่าไงเล่า?”
“พี่แคทจะเป็นพวกเดียวกับเราหรือไม่ป้อมอยากรู้”
“ไม่เกี่ยวกับตำแหน่งนายใหญ่หรืออะไรทั้งนั้นค่ะ...แสดงความจริงในใจของพี่ออกมา”
“พี่คง...จะเป็นผู้หญิงที่โง่ที่สุด...ถ้ายอมปล่อยเขาไป”
“เออ!!!...ก็แค่นั้นแหละ--
“จริงด้วย!!...แล้วยังจะมัวอ้ำๆอึ้งๆอยู่นั่น”
“น่าๆๆ...นี่เจ๊ก็รวบรวมความกล้าสุดๆแล้วจ้ะ”
“แต่ทั้งสามคนรู้ไว้นะว่าพี่ไม่ได้ทำเพื่อบอลเท่านั้น”
“เธอทำเพื่อใครอีก?”
“นั่นสิคะ”
“ฝนก็นึกไม่ออกแฮะ”
“พี่ขอไม่พูดตอนนี้”
“หึ!...ก็ตามใจเพราะนั่นมันเป็นสิทธิ์ของเธอ”
“อย่างน้อยป้อมก็ได้รู้ว่าพี่แคทจะไม่มีวันคิดร้ายกับพี่ชายแน่”
“หนูก็พลอยสบายใจเพราะต่อไปจะไม่ต้องมัวหลบๆซ่อนๆ...คิๆๆๆ”
“เอ้ย!?...พี่ฝนหมายความว่าไงพูดให้เคลียร์นะคะ!!!
“ไม่บอกเฟ้ย!!
“กี๊~~
“หนวกหูว่ะ!!...เดี๋ยวยัยซกมกแอบจิตหมายเลขหนึ่งชอบโนบราก็รู้จนได้หรอก”
“พูดถึงพี่เซค...ไม่รู้เธอคิดจะทำอะไรหรือเปล่า?”
“ซี้กันขนาดนั้นพี่แคทจะไม่รู้เชียวหรือ?”
“สาบานได้ว่าพี่ไม่รู้จริงๆ”
“ฉันไม่เคยไว้ใจยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นี่...ที่ผ่านมามันไม่เคยอนุญาตให้คนที่เกลียดขี้หน้าย่างกรายเข้าโยนกบูรพาแม้สักก้าวเดียว”
“ฝนก็ว่ามันแปลกอยู่ค่ะ”
“คาดเดาไม่ออกจริงๆแฮะว่าตาต่อไปพี่เซคจะเดินหมากตัวไหนมา?”
“ถ้าฉันเป็นมัน...ฮึ!...เรากำลังโดนแอบฟังแน่ะ”
“......................................................”
“......................................................”
“......................................................”
“ใคร?”
“แย่แล้ว!!
“หนีไม่รอดหรอก...อย่าฝันเลย!!!
“กล้ามากนะ...หยุดเดี๋ยวนี้ไม่งั้นเข็มของฉันเสียบทะลุอกแน่!!!
“จับตัวได้แล้ว!!
“ได้...ได้โปรด...อย่าทำอะไรหนูเลยเจ้าค่ะ”
“เธอ...สาวใช้ในบ้านพี่เซคนี่”
“จริงด้วยค่ะพี่แคท...ฝนก็จำได้”
“ยัยบ้านั่น!!...มันไม่ปล่อยพวกเราให้คลาดสายตาจริงๆ”
“เอ้า!!...สารภาพบาปมาซะดีๆนะว่ามาแอบฟังเราทำไม?...ไม่งั้นฉันเอาเข็มจิ้มตูดเธอเป็นรูจริงๆ!!!
“อี๋~~
“เร้ว!!
“เจ้าค่ะๆ...หนูบอกแล้ว...คุณหนูใหญ่...สั่งให้หนูคอยติดตามคุณหนูทั้งสี่...พอ...พอรู้อะไรแล้วให้รีบกลับไปรายงาน”
“หนอย!!...มีใครจะอุตริทำอย่างมันบ้างวะ?...ยัยศรเพทาย...เธอจะลองดีกับฉันสินะ!!!
“พี่เซคยังสั่งอะไรเธอมาอีกพูดให้หมด!!
“ปละ...เปล่าเจ้าค่ะ!!...มีเพียงเท่านี้จริงๆเจ้าค่ะ”
“นึกว่าฉันจะเชื่อหล่อนเรอะ?...เข็มนี่ยาวตั้งคืบเชียว...จิ้มซะเลยดีไหมน้อ?”
“ว้าย!!
“พอเถอะๆ...ปล่อยเธอไป”
“เอ๊ะ?...แต่ว่าเจ๊”
“บังอาจมาแอบสืบความเคลื่อนไหวของเราแบบนี้จะปล่อยไปได้ไงคะพี่แคท?”
“อ๋อ~~
“อ๋อมก็รู้แล้วสิ”
“อืม--...ปล่อยไปเหอะ”
“พี่อ๋อม...จะดีเหรอคะ?”
“เออ!...ให้กลับไปรายงานต่อเจ้านาย...เอาให้ครบถ้วนทุกถ้อยคำอย่าตกหล่นเชียวนะ”
“ฮื่อ~~...ไปซะก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ!
“...................................................”
“ไหนบอกฝนมาซิว่าเจ๊รู้อะไร?”
“ไม่เป็นวิชาการต่อสู้อะไรสักอย่าง...แค่สาวใช้ธรรมดาๆแต่พี่เซคสั่งให้มาแอบฟังพวกเรา...ไม่คิดว่ามันตลกไปหน่อยเหรอฝน?”
“อืม--...จริงด้วยค่ะ”
“ถึงว่าสิ...ป้อมได้กลิ่นน้ำอบที่ไม่ใช่ของเราสี่คนโชยมาใกล้...คิดไปคิดมาก็ยังนึกแปลกใจตะหงิดๆว่าเอามือสมัครเล่นมาแอบฟังพวกเราซะงั้น”
“นั่นก็คือยัยศรเพทายรู้ดีอยู่แล้วว่าสาวใช้ที่ส่งมาจะต้องถูกพวกเราจับได้”
“แต่ก็ยังใช้ให้มา”
“เพื่อมีจุดมุ่งหมายอะไรฝนไม่เข้าใจเลยสักนิด”
...................................................................................................................................

“เรียกผมมานี่มีอะไรหรือครับ?”
“เชิญนั่ง”
(พี่เซคจะมาไม้ไหนอีก!?)
“ไม่เป็นไรครับ...พี่รีบพูดธุระมาเถอะ”
“สภาพนายตอนนี้จะยืนคุยกับฉันเหรอ?...มันไม่เข้าท่ามั้ง...กินของว่างนั่งคุยไปด้วยดีกว่านะ”
“..................................................”
“เอ้า!...นี่เป็นชารสชาติดีจากศรีลังกา”
“..................................................”
“ไม่ได้ใส่อะไรลงไปทั้งนั้นน่า!...ฉันดื่มให้ดูก่อนก็ได้”
...อืม--...พี่เซคดื่มให้เห็นก่อนแล้วก็คงจะไม่มีอะไรแอบแฝงผมจึงยอมดื่มชาที่เธอคุยว่ารสชาติดี...เออ!!...กลิ่นหอมรสละมุนชุ่มคอดีแฮะ...ช้าก่อน!!!...ผมจะไม่ประมาทญาติสาวผู้พี่วัย 26 ปีตรงหน้านี้เพราะของกินแน่!!!...
“ทานขนมด้วยสิ”
“ไม่ดีกว่าครับ”
“ระวังตัวแจเชียวนะ”
“ก็คิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าผมนี่เป็นใคร?”
“เป็นใครรึ?”
“ศัตรู”
“โฮ่~~...ขนาดนั้นเลย?”
“เพราะฉะนั้นผมจะไม่ยอมเสียเวลานักหรอกครับ...ขอตัว”
“เดี๋ยว”
“?”
“นายคิดว่าตัวเองฉลาดใช่มั้ย?”
“ผมเปล่า”
“งั้นนายก็โง่น่ะสิ”
“ว่าไงนะ?”
“แถมโกรธง่ายด้วย...ระวังยาจะออกฤทธิ์เร็วขึ้นล่ะ”
!!!!!!
“ในน้ำชาน่ะไม่มีอะไรหรอกแต่มันอยู่ที่แก้วต่างหาก”
“พี่เซค!!!!...ผมไปทำอะไรให้พี่แค้นเคืองนักหนาถึงได้ทำกันถึงขนาดนี้?”
“ใจเย็นๆ”
“เอายาอะไรให้ผมกินห๊ะ?”
“ฮะๆๆๆๆๆๆ...นายนี่มันหลงเชื่ออะไรง่ายจังเลย”
“หมายความว่าไง?”
“ฉันว่านายคงจะดูละครมากไปหน่อย...ไม่ละ!!...ฉันไม่ใช้วิธีปัญญาอ่อนแบบนั้นหรอก...ชาที่นายดื่มไม่มียาพิษและที่แก้วก็ไม่มีด้วย”
“หลอกผมเหรอ?”
“ฉันแค่หยอกนายเล่นเฉยๆ”
“นิสัยเสียนะครับ!!!
“หึๆ...นั่งลงก่อน...เรายังไม่ได้คุยธุระกันเลย”
“....................................................”
“หรือว่า...กลัวจนใจฝ่อซะแล้ว?”
“ฝันซะเถอะ!!
“ดี...ดีๆๆ...ไหม...เอาน้ำผลไม้มาให้บอลซิ”
“เจ้าค่ะ”
“ไหมทำเองเชียว...ดื่มแล้วก็ติชมมั่ง”
“เชิญคุณชายหกเจ้าค่ะ”
“...ครับ”
“เป็นไง?”
“อร่อยดีครับ”
“ขอบคุณเจ้าค่ะ”
(อื๋อ!?...เมื่อกี้คุณไหมหน้าแดงขึ้นหรือเปล่า?)
“เชิญตามสบายนะ...ขนมบนโต๊ะนี่นายกินได้ทุกอย่าง”
...ผมไม่รู้หรอกว่าพี่เซคจะมีลูกเล่นอะไรมานำเสนอแต่เชื่อว่าเธอคงไม่กล้าเล่นงานผมตราบใดที่ป้าเอ็มและทุกๆคนอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วย...อะไรเนี่ย?...หยิบขนมใส่จานส่งให้ผมด้วยหรือ?...เอ--...ชักจะไม่ชอบมาพากลซะแล้วแต่ผมก็ยังทำตัวเป็นปกติ...
“หึ!!
“?”
พี่เซคมาทำดีด้วยแบบนี้ผมบอกตรงๆครับว่า...กลัว...ไม่ใช่กลัวธรรมดาด้วย...หวาดระแวงเลยล่ะ!!!
แสดงว่าที่ผ่านมาฉันร้ายกับนาย?...ผิดแล้ว...ฉันเมตตานายมากนะ...เหมือนลูกเจี๊ยบในกำมือไง
(มองหน้าเราพลางกำมือบีบแน่นบ่งบอกถึงความเหี้ยมเกรียมของจิตใจ...ผู้หญิงคนนี้อันตรายเกินไปแล้ว!!!!)
“ตกลงพี่มีธุระกันแน่?”
“ฉันก็แค่อยากรู้ว่านายจะตอบรับหรือปฏิเสธคำเชิญของศิวะบัณฑิต”
“เฮอะ!!!...คงอยากให้ผมไปซะพ้นๆจนตัวสั่นแล้วสินะครับ”
“ใช่”
(นัง...นังผู้หญิงคนนี้!!!)
“ผมคิดว่าพี่เซคไม่จำเป็นต้องรู้”
“จะบอกว่าฉันเสือกเรื่องของนาย?”
“พี่พูดเองนะครับ”
“คิกๆๆๆ...พูดตรงๆแบบนี้สิดี...ฉันชอบ...”
“...................................................”
“ไอ้เคี่ยม!!!...ฉันอุตส่าห์พูดดีด้วยแต่ดูท่าหูของแกจะไม่ชอบสิท่า?”
(ตกใจแทบจะหงายหลังร่วงเก้าอี้เลยโว้ย!!!!...จู่ๆลูกพี่ลูกน้องสาวผู้บ้าอำนาจก็แผดตะวันเลือดใส่หน้าเราอย่างไม่ให้ทันตั้งตัว)
..........................................................................................................................................

...ตัวอย่างในตอนหน้า...ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 87 “ลักพาตัว!!!...เผด็จศึกนางพญาเสือ!?

“เมื่อสักครู่คุณหนูใหญ่พูดว่าจะมิใช่แผน...ปัญญาอ่อน...แล้วเหตุใดจึงจะใช้วิธีนั้นซึ่งก็หาได้ต่างกันเลย?”
“ขนาดเธอยังเชื่อก็แสดงว่าแผนนี้จะต้องได้ผลอย่างแน่นอนฉะนั้นคนที่ดีแต่ตีหม้ออย่างเจ้านั่น...เสร็จ!!!
“หากนายหญิงทราบจะต้องมิพอใจเป็นแน่...ยังพอมีเวลาให้คุณหนูใหญ่ไตร่ตรองอีกครั้งนะเจ้าคะ”
...................................................
“ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันแต่เรามาถึงที่นี่แล้วยังจะถอยหลังกลับได้หรือเปล่านะ?”
“เข้าไปสิคะพี่ชาย...หนูไม่อยากให้เรามาอยู่ตรงนี้นานๆหรอกเดี๋ยวคนของพี่เซคมาเห็น”
“นะ...นั่นสิ...ถ้าแม่คนนั้นรู้ล่ะจะเกิดเรื่องใหญ่”
....................................................
“นี่เป็นความลับที่ไม่สมควรจะให้ผู้ชายรู้และโดยเฉพาะไอ้เคี่ยมน้ำเค็มนั่นต้องห้ามเด็ดขาดเลย”
“ซึ่งมันคือจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวของคุณหนูรอง”
“จะจีบยัยม่อนน่ะเรอะง่ายนิดเดียว?...แค่ป้อนคำพูดหวานๆกับรุกถึงเนื้อถึงตัวเด็กนั่นก็หน้าแดงก่ำแล้ว...ชิ!!
.........................................................................................................................................