หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 88

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 88 “ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิ!!!

“เจ้าพายด้านขวามากไปแล้ว”
“ผมคอยดูอยู่ครับ”
“คอยดูหรือ?...หากเมื่อกี้เรามิเตือนเรือก็จะชนขอบตลิ่งอย่างแน่นอน”
“คร้าบๆ...ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งครับ”
“อย่าบังอาจมาใช้วาจาล้อเลียนเรา!!
“อึ๊ก!!
(แหย่นิดแหย่หน่อยก็ไม่ได้แฮะ...ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลยแม่คนนี้)
“แล้ว...ยังอีกไกลมั้ยครับ?”
“...ไกล”
“งั้นผมว่าเดินไปจะเร็วกว่า”
“ด้วยขาสองข้างของเจ้า?”
“...................................................”
“จุดหมายอยู่ทางเหนือของโยนกบูรพาแต่นี่ยังหาได้พ้นเขตโยนกอุดรไม่...อย่างนี้รุ่งสางพวกเราก็ไปมิถึงดอก”
“ผมก็บอกพี่แล้วไงว่าไม่ได้จับพายมาเป็นสิบปี...จะให้เร็วน่ะมันเป็นไปไม่ได้และนี่ก็...”
“เช่นนั้น...เจ้าจงคัดท้ายเรือให้ดี”
!?
...ทันใดนั้นเรือก็แล่นเร็วขึ้นทั้งที่ผมไม่ได้ออกแรงเพิ่มทว่าที่สำคัญที่สุดเรือลำนี้กำลังไหลทวนกระแสน้ำอยู่นะ!!!!...ผมหันซ้ายหันขวาด้วยความงุนงงส่วนพี่ม่อนกลับเฉยเมยไม่รู้สึกรู้สาอะไรนอกจากลืมตาขึ้นกับชี้นิ้วไปทางซ้ายหรือทางขวา!?...
(แล้วที่รู้ว่าลืมตาก็เพราะเห็นแสงสีแดงสัญลักษณ์ของตะวันเลือดแต่หล่อนไม่ได้ลืมเต็มที่ซึ่งก็น่าจะประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้น)
“อย่ามองมากจะดีกว่า”
“เดี๋ยวจะโดนสะกดจิตอย่างไม่รู้ตัว”
“หึ!...ก็รู้นี่?”
(จะพี่เซคหรือพี่ม่อนก็ล้วนแต่ไม่ปลอดภัยต่อเราทั้งนั้นและวันนี้ “คุณหนูสี่” จะทำอะไรบ้างก็ไม่รู้?...อุ๊บ!!)
“เกือบไปๆ”
“...............................................”
(โชคดีที่คว้าพายทันซึ่งนี่ก็เป็นข้อพิสูจน์อย่างดีว่าเรือไม่ได้เคลื่อนที่จากแรงคนแต่เป็น “พลังจิต” ของพี่ม่อนบังคับอยู่ต่างหาก!?)
“ว่าแต่ที่พี่จะคุยกับผม”
“ไปให้ถึงเสียก่อน”
...........................................................................................................................................

“พี่ๆ...พี่แคทโทรมา”
“ว่าไง?”
“....................................................”
“อะไรนะ?...บอลยังไม่กลับถึงบ้าน?”
“เอ๋?”
“เขาออกไปจากโยนกทักษิณแล้ว...ใช่...ป้อมไปส่งเพิ่งจะกลับมาเมื่อครู่นี้เอง...ฉันพูดจริงเว้ย!!...ทำตามเงื่อนไขบ้าบอคอแตกของพวกหล่อนทุกประการไง!!!
“....................................................”
“เออๆ...จะไปเดี๋ยวนี้...เจอกันที่สี่แยกจัตุรัส”
“พี่อ๋อม”
“น้องไม่ได้ส่งบอลถึงบ้านหรอกเหรอ?”
“ก็พี่ชายพูดว่าอยากจะใช้ความคิดเงียบๆคนเดียว”
“แล้วให้กลับทางไหน?”
“ทางลัด”
“อ้าว!?...ทำไมไม่ใช้ทางหลัก?”
“คือหนูเห็นว่ามันใกล้กว่าและขาพี่ชายก็...เอ่อ--...พี่อ๋อมคิดว่า...”
“อย่าเพิ่งด่วนสรุป...ตอนนี้เราไปพบสุรีย์พรรณกับหยาดฝนก่อน...บางทีมันอาจจะไม่เป็นไปอย่างที่เรากังวลก็...โอ๊ย!!!
“พี่เป็นอะไรคะ?”
“ปวด...มันปวดที่จิ๋ม”
“เดินไหวนะ...ป้อมว่าพี่กินยาแก้ปวดดีกว่าค่ะ”
“ฮึ่ย!!...บอลนะบอล--...ถ้านายนอนค้างกับฉันซะก็จบเรื่องไปแล้ว”
.......................................................................................................................................

“ว่าไงเคอะพี่อ๋อม?...ความรู้สึกของการสูญเสียความสาว”
“มันก็ไม่ได้ต่างไปจากเธอหรอก”
“พี่ฝน!...นี่ใช่เวลามาล้อเล่นกันหรือไงคะ?”
“เงียบซะแม่หนูเวอร์จิ้น!!
“วะ...ว่าไงน๊ะ?”
“จะเอาเรอะ?”
“เออเซ่!!...โอ๊ย~~...พี่แคทหยิกหนูทำไมอ่ะ?”
“อย่าเอะอะเสียงดัง!!
“ฮึ่ย!!...ป้อมขอโทษก็ได้แต่พี่ต้องจัดการพี่ฝนด้วยไม่งั้นป้อมไม่ยอม!!!
“ฮึๆ...ไม่มีทาง...จ๊าก!!...เจ๊เขกหัวหนูซะแรงเลยนะ~~
“เริ่มต้นจากน้องนั่นแหละไม่ต้องโอดร้อง”
“อือ--
“ฮิๆๆ...สมน้ำหน้า~~
“ยัยตัวเล็ก!!
“เลิกเล่นกันได้แล้ว!!...เธอสองคนฟังไว้นะ...ฉันขอยืนยันว่าที่พูดไปเป็นความจริงทุกอย่าง!!!
“ใช่!!...ป้อมก็สาบานได้ค่ะ”
“ต่อให้เป็นทางลัดแต่ไม่ได้ซับซ้อนอะไรแค่เดินมาเรื่อยๆก็ถึงจึงไม่มีหลงแน่นอกซะจาก...”
“สุรีย์พรรณ...แววตาของเธอฟ้องชัดเจนว่าไม่เชื่อแต่เธอก็รู้ดีว่าฉันไม่ใช่คนชอบพูดจาโกหก”
“แต่จนป่านนี้บอลก็ยังไม่ได้กลับมาถึงที่นี่อย่างที่อ๋อมบอก...มันหมายความว่ายังไง?”
“เดี๋ยวค่ะ!!...ยัยตัวเล็กยืนยันว่าพาบอลมาส่งที่ทางลัดเข้าโยนกอุดรจริงๆแต่ที่เขาหายไปแบบนี้...ฝนคิดว่า...”
“มีใครมาพาตัวไป...ใช่มั้ยหยาดฝน?”
“ลักพา,ชักชวน,ออกคำสั่ง...พี่คิดว่าน่าจะราวๆนี้”
“ฝนเห็นด้วยกับเจ๊”
“หรือว่าสมัครใจ?...ไม่ๆๆ...ป้อมขอตัดประเด็นนี้ไปเลย...อืม--...ลักพาตัวเอย...ชักชวนเอย...ออกคำสั่งเอย...เอ่อ--...มันมีทางเป็นไปได้หมดนะเนี่ย?”
“ความจริงก็ไม่ต้องเดาให้มากความ...พวกเรากำลังคิดถึงคนๆนั้นอยู่ใช่ไหม?”
“พี่เซค!?
“ฝนเองก็...เนอะพี่แคท?”
“...............................................”
“เพราะคนที่ไม่ชอบบอลมากที่สุดในโยนกจัตุรัสก็ไม่มีใครเกินหน้ามันอีกแล้ว”
“ศิวะบัณฑิตจะเกี่ยวข้องด้วยหรือเปล่า?”
“ฝนว่าชัวร์ค่ะเจ๊”
“แต่เรายังไม่มีหลักฐาน”
“โอ่ยพี่แคท!!!...กว่าจะรู้อะไรเป็นอะไรมีหวังพี่ชายแย่ก่อนแน่ๆ”
“จริงด้วยๆ”
“ถ้าเป็นพี่เซคจริง...”
“ก็มีแต่จะต้องลุยกันให้รู้ดำรู้แดง!!!
“โทรติดแล้วๆ...พี่เซค...นี่ฝนนะ”
“เปิดลำโพงซิ”
“ว่าไงจ๊ะน้องฝนคนสวย?...จะมาหาพี่เหรอ?”
“อ่า--...ไม่ใช่...คือหนูอยากถามพี่ว่า...”
“ศรเพทาย!!!...หล่อนเอาผัวฉันไปไว้ที่ไหนวะ?”
“เหอนังเสือบ้า!!...นี่เธอก็อยู่ด้วยรึ?”
“ฉันถามว่าเธอเอาบอลไปไว้ไหน?”
“...ไม่รู้”
“อย่างพี่เซคน่ะหรือคะจะไม่รู้?...ป้อมไม่เชื่อ!!
“ป้อมจ๋า...พี่ได้ยินข่าวว่าวันนี้ไอ้จระเข้น้ำเค็มมันมุ่งหน้าไปรับเอาความสาวของพี่สาวเธอแล้วไม่ใช่เหรอ?ดังนั้นตามหลักเขาจึงควรจะอยู่ที่โยนกทักษิณนี่นา”
“หล่อนไปรู้มาจากไหน?”
“เอาเป็นว่าฉันรู้ล่ะกัน”
“งั้นเธอก็ต้องบอกฉันได้ว่าเวลานี้บอลอยู่ที่ไหน?”
“พี่บอกไม่ได้เพราะไม่รู้”
“โกหก!!
“อย่าหาเรื่องกันดีกว่า...พี่ไม่มีอารมณ์มาทะเลาะกับเธอด้วยเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง...แค่นี้ล่ะ”
“ศรเพทาย!!
“มีอะไรอีกศรบุษราคัม?”
“ถ้าอย่างเธอไม่รู้แล้วหมาที่ไหนมันจะรู้?”
“คนเขาไม่รู้แล้วยังจะบังคับให้รู้นี่...พี่ว่าเธอน่าจะไปเช็คสมองบ้างก็ดีนะ”
“แก!!!
“ฮะๆๆ...เอาเป็นว่าพี่ไม่รู้อะไรด้วยจริงๆและถ้าจะให้สมมติว่ารู้...พี่ก็ไม่บอกหรอก...ใช่ไหมจ๊ะน้องแคท?”
“...............................................”
“ชัดเลย!
“ฝีมือมันแน่นอน!!
“ใช่ค่ะ!!!
“ไม่ว่าไอ้หน้าไหนมันก็กวนตีนทั้งนั้น!!!...งั้นฉันจะถล่มพวกมันให้ย่อยยับไปเลย!!!!...เธอสองคนจะไปด้วยหรือไม่ตอบมา?...ยมทูต!!...เทพธิดา!!
“...ในเมื่อนางพญาเสือถูกความพิโรธปลุกให้ตื่นขึ้นแล้วฉันจะทำนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร?...ก็ไปสิ!!!
“ฝนขอตามไปด้วย...เราสามคนช่วยกันอาละวาดให้รู้เรื่องไปเลยแล้วก็พาคนรักของพวกเรากลับคืนมา!!!
“ลืมนับหนูได้ยังไงกันคะ?”
“ล้อเล่นๆ”
“ดี~~...พวกเราไปกันให้หมดนี่แหละ!!...ไปบีบคอยัยซกมกแอบจิตให้คายความจริงออกมา”
“มีอะไรหรือจ๊ะสาวๆมืดค่ำป่านนี้เหตุใดจึงมิกลับบ้าน?”
“คุณน้าไปไหนมาคะ?”
“ไปงานแต่งเพื่อนน้าจ้ะ...ว่าแต่...”
“พวกเราจะไปตามหาพี่ชายค่ะ...พี่เซคพาตัวไป”
“เอ๋?”
“ศิวะบัณฑิตก็ร่วมมือด้วย...ฉันจะจัดการให้หมดสิ้นเสี้ยนหนามไปในคืนนี้!!!
“หลานบอล...หายตัวไปจริงหรือ?”
“จริงค่ะ!!...ป้อมยืนยันได้”
“อืม--...มีหลักฐานแน่ชัดแล้วหรือว่าเป็นฝีมือของหนูเซคที่ร่วมมือกับตระกูลศิวะบัณฑิต?”
“พวกเราแค่เคาเดากันแต่ต้องไม่ผิดแน่ค่ะเพราะในโยนกจัตุรัสไม่มีใครอื่นอีกแล้วที่จะกล้าทำได้ถึงขนาดนี้”
“หมายความว่าใช้เพียงการคาดเดาเท่านั้นก็จะไปเอาเรื่องผู้อื่น?...น้าว่ามันใช้มิได้นะหนูฝน”
“เอ่อ”
“หนูแคทก็จะไปด้วย?”
“พวกเราจะถามพี่เซคก่อนค่ะ”
“ถ้าขอร้องดีๆยัยนั่นไม่บอกหรอก!!!...มีแต่จะต้องใช้กำลังเท่านั้น”
“อ๋อม...น้าเคยสอนไว้ว่าอย่างไร?”
“เฮ่ย!?...จะมาสั่งสอนอะไรตอนนี้มันใช่เวลาเรอะ?”
“มิว่าอย่างไรก็จะไปให้ได้ใช่ไหม?”
“ถูกต้อง!!...น้าอย่าห้ามพวกฉันให้เปลืองน้ำลาย...ตะวันเลือดจุดติดและจะดับได้ก็ต้องลงไม้ลงมือกัน”
“.................................................”
“พี่ฝน...หนูว่า...”
“ใช่...บรรยากาศชักไม่ค่อยดีแล้วแฮะ...นะเจ๊?”
“อืม”
“อย่ามัวเสียเวลาเลย...ไปง้างปากยัยหมอโรคจิตนั่นเถอะ...อื๋อ?”
“ยังไปมิได้”
“อะไรของน้า!?...จะขัดขวางกันงั้นเรอะ?”
“เรื่องนี้มีผลกระทบต่อหลายฝ่ายจึงมิอาจกระทำตามแต่ใจตนหรือลุแก่อารมณ์ดังนั้นหากต้องการที่จะไปโยนกบูรพาก็ต้องเอาชนะน้าให้ได้เสียก่อน”
“?”
!?
!!!
“นี่...นี่น้ากลายเป็นพวกเดียวกับยัยศรเพทายไปแล้วหรือไง?”
“เปล่าเลย...น้ามิได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพราะทุกคนต่างก็เป็นหลานทั้งนั้น...อ๋อม...ศิวะบัณฑิตมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเรามาช้านานจึงควรที่จะ...”
“ไม่!!...ฉันไม่มีวันนับถือพวกมัน!!!...ฉันรู้เพียงอย่างเดียวว่าพวกมันจะพาผัวฉันไปไหนไม่ได้และใครที่ขัดขวางฉันจะทำลายให้หมด!!!!
“...เอาแต่ใจตนจริงๆ”
“พะ...พวกเธอรีบตั้งกระบวนท่า!!!!
“อะ...เอาจริงหรือ?...ให้สู้กับ...คุณน้า!!
“จะไปชนะได้ยังไงเล่า?
“พี่แคทพี่ฝนอย่ามัวตะลึงอยู่สิ!!!...หวา~~
“มาแล้ว!!!!!
.................................................................................................................................................

“อูย~~...แขนฉัน!!...ขยับ...ขยับสิโว้ย!!!
“เท้า...เท้าฝนก็ชาไปหมดเลย~~...พี่แคทเป็นไงมั่ง?”
“...พี่ถูกจี้จุดที่หัวไหล่ขวา...อือ--...ขยับแขนกับมือไม่ได้”
“ฮืออออออ”
“ยัยตัวเล็กก็ร้องให้อยู่ได้!!...เงียบซะที”
“พี่ฝนนั่นแหละเงียบ!!!...หนูกลัวจริงๆนะ~~
“ยังไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ใช่เหรอ?”
“ก็...ก็พอป้อมจะซัดเข็มน้านีย์ก็ประชิดถึงตัวแล้ว!!...ฮือ~~...จะให้ทำยังไงเล่า?”
“น้า!!...เล่นทีเผลอกันนี่หว่า?...แน่จริงให้พวกเราตั้งตัวทันสิ!!!
“อ่อนหัด”
“หา!?
“น้าสอนพวกหนูไปหลายครั้งแล้วว่าในการต่อสู้จริงที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน...ศัตรูจะมัวยืนรอให้เราตั้งตัวรับมืออย่างนั้นหรือ?...สบโอกาสเมื่อใดจะต้องลงมือทันทีอย่าได้รีรอ”
...สมแล้วที่เป็น “อาจารย์” สอนสั่งศิลปะการต่อสู้ให้พวกเรา...แค่พริบตาเดียวน้านีย์ก็เอาชนะพี่อ๋อม,พี่แคทและพี่ฝนได้อย่างราบคาบส่วนตัวหนูน่ะหรือ?...ช่างน่าอับอายยิ่งนักที่ทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่จะขยับตัวสักนิดโดยที่น้านีย์เป็นฝ่ายชิงจังหวะจู่โจมก่อนแม้พี่อ๋อมจะปฏิกิริยาเร็วกว่าพี่แคทกับพี่ฝนเตรียมตั้งท่า “เขี้ยวพยัคฆ์” แต่ก็รวบรวมกำลังไม่ทันจึงถูกซัดฝ่ามือใส่จนถอยกรูดไปหลายก้าวฝ่ายพี่ฝนที่เรียกสติกลับมาได้ตวัดเท้าหวดใส่ในระยะประชิดทว่าน้านีย์กางมือรับและโต้กลับต่อเนื่องด้วยการจี้นิ้วชี้ที่หลังเท้าทันทีทำให้พี่ฝนหงายหลังล้มไม่เป็นท่าพี่แคทเห็นก็รีบเข้าไปประคองรับน้องสาวเลยโดนสกัดจุดที่หัวไหล่ขวาอย่างง่ายดายให้ตายเถอะ!!!!...
(พอถึงตาเราน้านีย์ก็มาอยู่ตรงหน้าพลางชิงเข็มทั้งหมดไปจากมือชนิดแทบไม่รู้สึกตัวสักนิดแล้วจะไม่ให้เราร้องให้ด้วยความหวาดกลัวได้ยังไง?)
“ทั้งสี่คนอารมณ์เย็นลงบ้างหรือยัง?”
“ชิ!!...ปิศาจมาเกิดชัดๆ...มันไม่ทำให้ฉันใจเย็นขึ้นมาได้หรอกมีแต่จะยิ่งคับแค้นมากขึ้น!!!!
“น้าขี้โกง!!...ถ้าพี่อ๋อมยังร่างกายสมบูรณ์อยู่ล่ะก็ไม่มีทางถูกน้าคว่ำง่ายๆแบบนี้หรอก!!!
“ว่าไงนะ?”
“.......................................................”
“น้องป้อม!?
“ยัยตัวกะเปี๊ยกหยุดพูดน่ะ!!
“เพราะฉะนั้นน้าชนะไปก็ไม่น่าภาคภูมิใจเลยสักนิด!!!
“โฮ่--...น่าสนใจนี่จ๊ะ?...เช่นนั้นน้าจะขอฟังเหตุผลหน่อยซิ”
“ยัยเด็กบ้า~~...มันหาเรื่องอีกแล้ว”
(ใช่ๆพี่ฝน...เราหาเรื่องใส่ตัวเองซะแล้วมั้ยเล่า?...ฮือ~~...กลัวน้องสาวแม่คนนี้ที่สุดเลย!!!)
...................................................................................................................................


“ทำไมรู้สึก...ง่วงขึ้นมาได้นะ?”
“นั่นเป็นเพราะเจ้าอาจจะกำลังตกอยู่ในอำนาจสะกดจิตของเรา”
“เอ้ย!?...พี่จะสะกดจิตผมทำไมเนี่ย?”
“เราเตือนเจ้าแล้วมิให้สบตาแต่เจ้าก็ยังชำเลืองดูเราต่างหาก!!
“ก็พี่ม่อนนั่งข้างหน้าผมนี่”
“เป็นความผิดของเรา?”
“อะ...ไม่...ไม่ใช่ครับ!
“...ย่อมได้”
“หือ?”
“เราจะเปลี่ยนใบหน้าสำหรับเจ้าโดยเฉพาะ”
“อ๊อก!!...นะ...น่าสยองกว่าเมื่อกี้อีก...ขอเลยครับ!...ขอเถอะ~~...เอาหน้ายัยแก่ไปให้พ้นๆที!!!
(ตาแดงโร่ยังพอทำเนาแต่นี่เล่นเอาหน้าหญิงชราเหี่ยวย่นทั้งที่แต่งชุดนักศึกษา...จะอ้วกแตกซะให้ได้เดี๋ยวนี้สิวุ้ย!!!)
“แต่เจ้าจักมิถูกสะกดจิต”
“มันทุเรศครับ!!
“...เช่นนั้น”
“โอ๊ย~~...พี่บ้าไปแล้ว!!!
“บังอาจนัก!!
“ไม่!...คือ...ผม...ผมยิ่งกลัวผีอยู่นะ...ได้โปรดเอาหน้ากะโหลกผีไปไกลๆเลย!!
“เจ้า...กลัวผี”
“เอ่อ--...ผมหมายถึงในความมืดใครก็กลัวทั้งนั้นไง...คอยดูเถอะ!!...พี่ชอบไปทำแบบนี้สักวันต้องมีคนหัวใจวายตายแน่ๆ”
(ญาติสาวผู้พี่คนนี้จะทำให้เราประสาทแดก!!!)
“กลับไปเป็นหน้าจริงของพี่ดีกว่าครับ”
“เรื่องมาก...ใกล้จะถึงที่หมายแล้ว...นำเรือไปจอดข้างหน้านั่น”
“นี่เราทวนน้ำขึ้นมาถึงน้ำตก...โอ้โห!?...สวย...สวยจังเลยครับ!!!!
(แสงจันทร์สาดส่องลงมากระทบกับผืนน้ำข้างล่างกลายเป็นสีขาวนวลไปทั่วบริเวณ...ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยว่าจะยังมีสถานที่อันงดงามดังเช่นนี้อยู่)
“เอ่อ”
“?
“เรือนไม้หลังนั้นเป็นของใครครับ?”
“ของเรา...เรือนมุกดาจันทร์”
(มีที่ไว้พักผ่อนหย่อนใจส่วนตัวซะด้วย)
“นั่งสิ”
“แล้วพี่...เฮ่ย!?
...หญิงสาวเดินลงไปในลำธารที่ทั้งหนาวเย็นและน้ำไหลเชี่ยวอย่างหน้าตาเฉยแล้วนี่มันใช่เวลาเล่นหรือไง?...อึ๋ย!!!...เข้าไปนั่งในน้ำตกที่ไหลลงมาเรอะ?...ผมไม่เข้าใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ทว่าทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งรอจนชักรู้สึกว่ามันชักจะนานเกินไปแล้ว...
“พี่ม่อนไม่รู้สึกหนาวหรือครับ?”
“...ปกติ”
“ก็ไหนว่าอยากจะพูดธุระกับผมไงครับแต่เอาเข้าจริงพี่ม่อนกลับไปนั่งแช่ในน้ำตกที่หนาวเย็นแบบนั้น?”
“เจ้าควรหุบปากแลจงดื่มด่ำความงดงามของสถานที่แห่งนี้ดีกว่าจะมาส่งเสียงรบกวนโสตประสาทเรา!
(ผู้หญิงคนนี้ไม่บ้าก็เพี้ยน!!!...น้ำเย็นเฉียบชนิดกระดูกแทบหลุดยังไปนั่งแช่ได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!?)
“รึมันจะไม่เย็นอย่างที่คิด?...อู๊ย~~...ใครว่าเล่า?”
(แค่แตะก็ชักมือหนีแทบจะไม่ทันแต่คุณเธอเล่นลงไปแช่ทั้งตัว...ยอมรับว่าหล่อน “กล้า” และก็ “บ้า” มาก!!!!)
“เอกคเชนทร์”
“ครับ”
“ท่านพี่สุรีย์พรรณในสายตาของเรานั้นหาได้เย็นชาดังที่ผู้คนกล่าวขานไม่ทว่านางเพียงแค่มิต้องการจะไปจดจ่อกับใคร”
“เท่าที่ผมรู้คนที่พี่แคทห่วงใยเอาใจใส่ก็มีแต่ฝน”
“ผิดแล้ว...เจ้าเป็นอีกคน”
“ผม?”
“นางก็ได้แสดงออกให้เจ้าเห็นแล้วมิใช่หรือ?”
(ที่จริงเราเองก็พอจะรู้)
“พี่ม่อน”
“?”
“ต่อหน้ากับลับหลังคนอื่นพี่แคทจะแสดงออกไม่เหมือนกันครับ”
“มันผิดปกติตรงไหนรึที่นางจะเผยนิสัยแท้จริงให้คนที่ตนรักเห็นเท่านั้น?”
“เอ่อ--”
“แลที่เจ้าบอกว่าดีนั้นคงหมายถึงเรื่องนี้สินะ?”
“ชะ...ใช่ครับ”
“เช่นนั้นเจ้าจงตอบสนองต่อความรักของนางที่มีให้จึงเป็นเรื่องสมควร...ต่อหน้าผู้อื่นคือพี่แลน้องแต่เมื่ออยู่ตามลำพังนางแสดงออกมาอย่างไรเจ้าก็ตอบสนองไปอย่างนั้น...นี่คือสิ่งที่เราอยากพูด”
“ถ้างั้นก็ถึงเวลากลับสักที...ป่านนี้ที่บ้านคงจะเป็นห่วงแล้ว”
(ตอนนั่งในเรือตั้งใจจะโทรบอกฝนแต่ดันไม่มีสัญญาณเลย)
“เจ้ากลับ...ถูกหรือ?”
“ไม่มั่นใจครับ...พี่ช่วยนำทางหน่อยสิ”
“...เรายังมิกลับ...จะชำระร่างกายสักครู่”
(ก็แล้วที่นั่งแช่ในน้ำตกนั่นยังไม่พออีกเหรอ?)
“พี่วางใจได้ครับผมไม่แอบดูหรอก”
“.....................................................”
“แต่ก็น่าลงเล่นแหละนะถ้าขาเราไม่เข้าเฝือกล่ะก็...อื๋อ!?...อะไรลอยน้ำมา?”
(เฮ่ย!!!...นะ...นี่มันเสื้อนศ.สีขาวของพี่ม่อนไม่ใช่เรอะ?)
“อุ๊บ!!...และนี่ก็ยก...ยกทรง...เอ๋?...พี่ม่อนไม่อยู่”
(ตรงที่สาวเจ้านั่งอยู่มีแต่ความว่างเปล่า...พี่ม่อนหายไปไหน?)
“จ๊าก!!!!...กระโปรง!?
“เจ้าจะนั่งเงียบๆมิได้หรืออย่างไร?”
!!!!!!!!!!
...ลูกพี่ลูกน้องสาววัยยี่สิบเอ็ดมาอยู่ด้านหลังผมได้ยังไงไม่รู้แต่ที่รู้คือเธอเปลือยร่างกายยืนในลำธารที่น้ำลึกประมาณต้นขา...โอ้!!...ช่างงดงามเหลือเกินราวกับนางกินรีมาเล่นน้ำในป่าหิมพานต์แม้ดวงตาของหญิงสาวจะมีแต่สีแดงก่ำน่าหวั่นเกรงก็ตามที...ความตั้งใจของผมที่แรกเริ่มอยากจะกลับบ้านพลันมลายหายไปสิ้นเมื่อได้เห็นพี่ม่อนคนสวย...
“ยอดเหลือเกิน~~...รูปร่างดีอะไรขนาดนี้แถมขาวไปทั้งตัว...หูย!!...ต่อให้ต้องตายก็ยอม”
“เจ้ายอมตายแน่หรือ?”
(ได้ยินด้วย!?...ว่าแต่ไม่เห็นมีกางเกงในหรือจะล่องลอยไปไหนต่อไหนแล้ว?)
“.....................................................”
(สาวเจ้ามือซ้ายปิดหน้าอกมือขวาลูบไล้ต้นขา...อูย~~...ทำไมไม่สว่างกว่านี้อีกสักนิดล่ะ?)
“.....................................................”
(โชคดีวุ้ย!!...มีผู้หญิงสวยแก้ผ้าอาบน้ำให้ดูเป็นอาหารตา)
“ไหนเจ้าพูดว่าจะมิดูเรา?”
“อุ๊บ!!...อ่า--”
(ลืมความตั้งใจของตัวเองเสียแล้วไง?...ฮ่า--...ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิของเรา)
“เจ้าจะมองร่างเปลือยของเรามากเกินไปแล้ว”
...พูดจบญาติสาวผู้พี่ก็เอาผ้าคลุมสีขาวมาห่มตัวแต่ให้ตายเถอะวะครับ!!!...ผ้าเปียกๆเอามาแนบเนื้อกับร่างกายมันก็ยิ่งกลายเป็นอาวุธทำลายล้างขั้นสุดยอดซี่แม่คุณ!!!!!!!...
(โดยเฉพาะตรงหน้าอกกับบั้นท้ายพี่ม่อนเห็นแล้วหัวใจเกิดหยุดเต้นขึ้นมาจะไม่ผิดปกติเลย)
“แบบนี้ต่อให้ต้องอยู่นั่งตากน้ำค้างทั้งคืนก็...อุ๊!!
“คงไม่ได้หรอกนะคะเพราะคุณเอกคเชนทร์จะต้องไปกับพวกเรา”
“ไป...เรอะ?”
“ค่ะ...ดิฉันจะพาคุณไปที่ศรีไตรตรึงษ์”
!!!!
..............................................................................................................................................

“หมายความว่าจากที่หนูป้อมเอ่ยมาทั้งหมดนอกจากน้าจะมิชนะแล้วยังเป็นฝ่ายแพ้ด้วย”
“ใช่ค่ะ...เพราะงั้นน้านีย์จะต้องไปช่วยพี่ชายกับพวกหนู”
!?
“ยัยตัวเล็ก...เลอะเทอะใหญ่แล้ว”
“ก็น้านีย์มาขัดขวางทำให้พวกเราเสียเวลานี่คะ...ป่านนี้พี่ชายจะเป็นยังไงมั่งก็ไม่รู้ฉะนั้นน้าต้องรับผิดชอบ”
“จะหลอกใช้น้ารึ?”
“ไม่ๆๆๆ...หนูขอร้องต่างหาก”
“แต่ประโยคว่าต้องรับผิดชอบคือคำสั่งนะ”
“โธ่น้า~~
“....................................................”
“ได้โปรดเห็นใจเถอะนะคะ...ปกติน้านีย์ก็ใจดีกับพวกหนูตลอดนี่?”
“แต่...น้าเพียงผู้เดียวจะทำอย่างไรได้?”
“โห!!...ยิ่งกว่าทำได้ซะอีกค่ะ...ถ้าน้ายอมออกหน้าพี่เซคจะไม่กล้ากำแหงแน่ๆ”
“เหตุใดจึงมั่นใจเสียจริงว่าหนูเซคอยู่เบื้องหลัง?...ขอเหตุผลสักหนึ่งข้อสิ”
“เอ่อ...”
“ฝนก็บอกน้านีย์ไปแล้วไงคะว่าคนที่จะกล้าทำถึงขนาดนี้มีแค่พี่เซคคนเดียว”
“ฉันมั่นใจว่าน้าไปโยนกบูรพาตอนนี้ก็จะได้รู้ความจริง”
“คุณน้าลองไปถามพี่เซคสักครั้งนะคะ...ลำพังแคทหรือคนอื่นเธอไม่มีทางพูดแน่นอน”
“น้ามิไป”
“โธ่~~...ไม่สงสารป้อมเลยเหรอ?”
“จนกว่าพวกหนูจะตอบได้ว่าเหตุใดน้าจึงต้องออกหน้า...พูดมาคนละข้อก็ได้...เริ่มจากหนูอ๋อม”
“ฉัน?”
“ว่ามา”
“เพราะ...น้าก็คงอยากรู้แล้วใช่มั้ยล่ะว่าความเป็นไปทั้งหมดมันคืออะไร?”
“.................................................”
“หึ!...เหตุผลฉันใช้ได้สินะ?”
“...ต่อไปหนูฝน”
“บอลคือผู้ชายที่ฝนรักมากที่สุดค่ะ...ถ้าเขาเป็นอะไรไปฝนก็ไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้”
“...เหตุผลของหนูออกจะเป็นส่วนตัวมากเทียว”
“.................................................”
“หนูแคท”
“คือ...คือหนูไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีของพี่เซค...ถ้าเธออยู่เบื้องหลังจริงๆหนูก็จะขอคัดค้าน”
“น้ายังมิค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่แลมันก็อ้อมค้อมไปนะ”
“เอ๋?”
“ทีนี้ก็หนูป้อมล่ะ”
“อึ๊ก!!
“คำตอบของพี่ๆสามคนยังมิชัดแจ้งพอแลยังหาได้มีเหตุเพียงพอที่น้าจะให้ความช่วยเหลือไม่”
“อ้าว!?...เมื่อกี้น้าเงียบไม่ใช่เห็นด้วยกับที่ฉันพูดหรอกเรอะ?”
“อย่าคิดเองเออเองสิจ๊ะ”
“เชอะ!!!
“เพราะว่า...”
“?”
“เพราะว่าพี่ชายเป็นหลานชายแท้ๆเพียงคนเดียวของน้านีย์ไงคะ”
!!!
“ดังนั้นเมื่อพี่ชายมีอันตราย...อ๋า!?...หาย...หายไปไหนน่ะ?”
“ท่านแม่ก็ไปที่โยนกบูรพาไงขอรับ”
“เอ้?”
“แก...แอบดูอยู่นานแค่ไหนกันวะ?”
“จริงด้วยค่ะ...ทำไมไม่ออกมาช่วยพวกเรา?”
“ฮะๆ...ต่อให้ใจกล้าสักปานใดกระผมก็มิกล้าต่อกรกับท่านแม่ดอก”
“ไอ้นี่!!...แล้วก็มัวแต่เก๊กหล่อพล่ามไร้สาระอยู่นั่น...ตามยัยอาจารย์บ้านั่นไปเร็วเข้า...สุรีย์พรรณ,หยาดฝน”
“อื้ม!!...ฝนไหวมั้ย?”
“ค่ะ...ไม่มีปัญหา”
“ท่าเท้าแตะยอดหญ้าของคุณน้าสุดยอดจริงๆ...ไม่ทันไรก็เห็นแค่เส้นผมขาวๆไกลลิบโน่น”
“ก็ฉันถึงบอกไงว่าเป็นปิศาจมาเกิด”
“ยัยตัวกะเปี๊ยก...เร้ว!!
“ค่า~~
“คำตอบของน้องนางศรโกเมนนั้นช่างตรงใจท่านแม่ที่สุด”
“หา?”
“มิต้องอ้อมค้อมมิต้องใช้ถ้อยคำยืดยาว...ตอบในสิ่งที่ตนเห็นอยู่ตรงหน้าชัดเจน...ทำได้ดีมากนะขอรับ”
“แต่จริงๆน้านีย์ก็ตั้งใจจะไปอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ?”
“หึๆ”
“ฮื่อ~~...ทั้งแม่ทั้งลูกนิสัยไม่ดีจริงๆเล้ย...อ๊ะ!...พี่เอ้จะไปด้วยหรือเปล่า?”
“ป้อม!
“ไม่มีเวลาแล้ว...หนูไปก่อนนะ”
“กระผม...มิไปดีกว่า”
“เช่นนั้นให้อ้อไปเถิดเจ้าค่ะ”
“อืม--...มิรู้ครั้งนี้ท่านแม่จะถูกติเตียนว่าเป็นผู้ใหญ่แต่เข้ามาก้าวก่ายเรื่องของเด็กๆหรือเปล่านะ?”
“จะคิดมากไปไยล่ะเจ้าคะ?”
“นั่นสิขอรับ”
“แล้วนานๆทีอ้อก็อยากจะสนทนากับท่านพี่ศรเพทายบ้าง...ฮิๆ”
“..................................................”
....................................................................................................................................................

“เลี้ยวโค้งหน้าก็ถึงบ้านราศีกาญจนา”
“ป่านนี้น้านีย์คงเข้าไปแล้ว...เร็วจริงๆค่ะ...อายุเข้าเลขสี่แล้วแท้ๆแต่ฝีเท้าไม่มีตกเลย”
“พี่ก็สงสัยนะว่าแต่งชุดกับใส่รองเท้าแบบนั้นแต่ทำไมเคลื่อนไหวร่างกายได้คล่องแคล่วนัก”
“ได้ยินว่าไปงานแต่งมาใช่ไหมคะ?”
“อ้าว!?...มาทันแล้วเรอะยัยตัวเล็ก?”
“ฮึ!...ก็ทำไมจะไม่ทันคะ?...แต่เอ--...อันที่จริงพี่ฝนน่ะวิ่งช้าลงต่างหาก”
“ปากดี!!...อื๋อ?...ตรงนั้นเหมือนมีใครอยู่”
“คะ...คุณน้า!!!
“อ้าว?”
“ไหงถึงไปนอนแอ้งแม้งได้?...แล้วผ้านี่มันอะไรฟะ?”
“เอ้ย!?...กระโปรง”
“ยะ...แย่จัง”
“คุณน้าคะ...กระโปรงมันพันติดกับต้นไม้”
“น้าคิดว่าน่าจะผ่านช่องว่างไปได้จึงกระโดด...”
“แล้วที่ไปล้มตรงนั้นน่ะคืออะไร?...อ๋อ~~...ป้อมเข้าใจล่ะ...น้าคงตกใจทำอะไรไม่ถูกและก็เสียหลักเพราะวิ่งมาไวสิท่า?...ฮิๆ...อุ๊ย!!
“.......................................................”
“โอ้โห!!...แคบออกอย่างนี้เนี่ยนะคะ?...ต่อให้ไวแค่ไหนแต่ใส่ชุดแบบนั้นมันก็เกินไปละน้า”
“ไปติดอีท่าไหนวะ?...ตัดออกมาเลยดีกว่า”
“มิได้นะ!!...ชุดนี้ตัดจากผ้าไหมราคาหาใช่ถูกๆไม่”
“มันเสียเวลา”
“แต่น้าเสียดาย”
“งั้นก็ไปทั้งๆแบบนั้นแหละ”
“หนูอ๋อม...จะให้ท่อนล่างของน้ามีเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียวมิใจร้ายเกินไปหรือ?”
“ใจร้ายอะไรกัน?...หึ!!...แต่ก็เยี่ยมไปเลยเพราะฉันไม่เคยเห็นน้าอยู่ในสภาพน่าอายแบบนี้มา...อุ!!...บีบ...หลังคอฉันทำไม?”
“ลืมไปให้หมดเสียแลห้ามแพร่งพรายให้ผู้อื่นรู้”
“เฮ่ย!?...จะลงโทษหรืออะไรก็เอาไว้ทีหลังได้มั้ย?...เราไม่มีเวลามากนะเฟ้ย!!!
“ทำไงดีคะเจ๊?...แกะไม่ออกเลย”
“อืม--...พันจนยุ่งไปหมด”
“กระโปรงยาวขนาดนี้เสียเวลามากแน่ค่ะถ้าจะมัวแกะออกแถมยังมืดมากด้วย”
“เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ?”
“ยัยอ้อมาพอดี...ถอดกระโปรงให้น้านีย์ใส่เดี๋ยวนี้!!
“ธะ...เธอจะบ้ารึไง?”
“ไม่บ้าโว้ย!!...เร็วๆเข้าพวกฉันไม่มีเวลา”
“พี่อ้อ...เดี๋ยวค่อยเอาของน้ามาใส่ก็ได้แต่ตอนนี้พี่ถอดกระโปรงมาก่อน...ฝนขอร้อง”
“แต่ท่านแม่จะสวมมินิสเกิรต์ได้หรือ?”
“มะ...แม่มิยอมใส่เด็ดขาด”
“ผู้หญิงทั้งนั้นจะอายไปทำไมล่ะคะน้า?...ป้อมก็ใส่ประจำ”
“เอามาเปรียบกันได้ยังไงนะ?”
“แหมพี่แคท!!...น้านีย์ก็ยังสวยอยู่นิ...นานทีปีหนจะนุ่งสั้นโชว์ขาขาวๆบ้างจะเป็นไรไปคะ?”
“อือ--...แย่จริง!...ทั้งที่น้าแต่งกายเรียบร้อยสำรวมมาตลอดแท้ๆ”
“ท่านแม่”
“...จ้ะ”
“ว้าว!!...แจ่มมากค่ะ”
“คุณน้าสวยน่ารักจังเลย!?
“อย่า...อย่ามองกันนักซี่~~
“ดูดีกว่ายัยอ้อซะอีกว่ะ”
“จริงจ้ะ...ป้อมทึ่งมากๆ”
“เดี๋ยวเหอะ!!
“เมื่อพร้อมแล้วก็บุกบ้านยัยหมอโรคจิตกัน...อ้อ...หล่อนค่อยตามมาทีหลัง”
“ฮึ!...ฉันมิเคยชอบกระโปรงยาวเลยสักนิด...จำไว้เลยนะอ๋อม!!
............................................................................................................................................

“จะพาเอกคเชนทร์ไปในคืนนี้เลยหรือ?”
“ใช่ค่ะ”
“แล้วทางศิวะบัณฑิตจะรับมืออย่างไร?”
“คุณหนูสี่หมายถึง...”
“ที่เห็นกันชัดๆก็คือความโกรธเกรี้ยวของพี่น้องเราทั้งสี่”
“อย่างไรเสียพวกเธอจะไม่โทษแต่ทางดิฉันฝ่ายเดียวหรอกค่ะ”
“..................................................”
.........................................................................................................................................................

“เอ๋อ!!!...คุณ...คุณน้านุ่งกระโปรงมินิ!?
“..................................................”
“พี่เซคน้ำลายหกแล้ว!!
“มะ...ไม่อยากเชื่อตาตัวเองเลย...ขาขาวอะไรอย่างนี้?...คืนนี้...คืนนี้คุณน้าค้างที่นี่นะคะ”
“ผู้หญิงอะไรหื่นกามฉิบเป๋ง?”
“ปากดีนะยัยเสือบ๊อง!!...เดี๋ยวฉันจะกินเธอด้วย”
“ยัยหมอโรคจิต!!!...แต่งชุดบ้าอะไรวะ?”
“เขาเรียกชุดนอนไม่ได้นอนย่ะ!!
“ทุเรศชะมัด!!!
“พี่เซครู้อยู่แล้วหรือคะว่าเราจะมา?”
“จ้ะ...ฉันนึกอยู่แล้วว่าพวกเธอจะต้องมาแต่คุณน้าถือว่าเกินความคาดหมาย”
“เพราะหล่อนมันพูดภาษาคนไม่รู้เรื่องพวกฉันจึงต้องมาง้างปากถึงที่นี่”
“พี่เซคบอกมาเดี๋ยวนี้เลยว่าที่พี่ชายหายไปน่ะรู้หรือไม่รู้?”
“ดึกดื่นบุกเข้าบ้านพี่แล้วยังใช้วาจาข่มขู่อีก...โลกนี้ไม่ใช่ของเธอคนเดียวนะป้อม”
“โลกอะไรป้อมไม่สน...คนที่ป้อมต้องการคือพี่ชาย!!!
“อย่างนั้นหรือ?”
“เลิกเล่นได้แล้ว...ศรเพทาย”
“อ๋อม!
!?
“เธอสองคนเฉยๆไว้และฉันจะขอบคุณถ้าไม่เข้ามาวุ่นวาย...เอ้า!!...สารภาพบาปมาซะยัยโรคจิตถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
“คุณหนูใหญ่!!
“ไม่ต้องหรอกไหม...เธอเองก็อยู่เฉยๆเถอะ”
“...................................................”
“เอ้า!!...คายออกมาเร็วๆเซ่...แม้จะเป็นมือเปล่าแต่สำหรับฉันแล้วมันก็ไม่ต่างอะไรกับมีด...คงไม่อยากเสียโฉมหรอกใช่มั้ย?”
“เธอกล้ารึ?”
“ฉันทำจริงแน่!!
“หึๆๆ”
“หัวเราะอะไร?”
“พี่ไม่ได้เอาเจ้านั่นไปฆ่าแกงสักหน่อยทำไมจะต้องตื่นเต้นกันนัก?”
“งั้นก็พูดมา”
“บอกให้พี่สาวเธอเอามือออกไปจากคอพี่ก่อนสิ”
“หล่อนไม่มีสิทธิ์ต่อรองนะโว้ย!!
“คนอย่างศรเพทาย...ไม่มีวันสิ้นหนทาง!!!
“อื๋อ?”
!
!?
“แก--...เมื่อกี้ใช้พลังจิตผลักฉัน”
ถึงจะไม่แรงเท่าของม่อนแต่แค่ผลักคนให้กระเด็นน่ะสบายมาก
“ก็สวยซี่!!...พลังจิตเก่าเก็บคร่ำครึขาดการฝึกปรือของหล่อนหรือจะมาเอาชนะเขี้ยวพยัคฆ์ของฉัน...ถ้าหยุดไม่ให้ฉันเคลื่อนไหวได้ก็ถือว่าเธอชนะไป!!!
“ฮิๆๆ...น่าสนุก...โอ๊ว!!...คุณน้า...เซคเจ็บค่ะ!!...เจ็บ!
“น้า...ไม่ปล่อยให้พี่เซคถูกพี่อ๋อมเขกกบาลไปเลย”
“...ดูเหมือนพวกเราจะติดกับของหนูเซคแล้ว”
“หา?”
“ติดกับ”
“ของพี่เซค”
“ตั้งแต่ที่เข้ามาในบ้าน...น้าก็มิเห็นหนูม่อน”
“จริงด้วยฝนลืมไปเลย!!...พี่ม่อนไม่อยู่”
“อะไรกันคะ?...ยัยม่อนน่ะปกติก็ชอบออกไปข้างนอกเป็นประจำ”
“ไปที่ไหนจ๊ะ?”
“เธอไปทั่วทุกทีแหละค่ะ...บางครั้งหนูก็ไม่รู้หรอก”
“เช่นนั้นน้าจะไปที่น้ำตก...หนูม่อนจะต้องอยู่ที่นั่นเป็นแน่”
!!!!
“เมื่อกี้พี่เซคตกใจนี่นา?”
“ชิ!!
“ความแตกแล้วเว้ยยัยผู้หญิงหลายหน้า!!!
“แลหากความคิดของน้าถูกต้องหนูม่อนจะอยู่พร้อมกับหลานบอล”
“หมายความว่าที่พี่เซคทำไปทั้งหมดก็เพื่อถ่วงเวลา?”
“ฮะๆๆๆ...น้องแคทนี่ฉลาดซะไม่มี”
“แม้กระทั่งน้าก็ยังพลอยติดกับ...หลงมาที่บ้านราศีกาญจนา”
“เอ้ย!!...น้ารอฉันด้วย”
“เจ้าป้อม...ดูท่าน้านีย์จะโกรธแฮะ”
“ใช่...ไปกันเร็วค่ะ”
“เจ๊!!
“อืม”
“ไม่!...สำหรับคุณน้าถือว่าเกินความคาดหมายแต่ไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์...เจ้านั่นถูกพาออกนอกโยนกจัตุรัสไปแล้ว”
“พี่เซคคะ”
“หือ?”
“ที่ผ่านมาหนูเห็นด้วยกับความคิดของพี่เสมอและต่อไปก็ต้องการจะเป็นอย่างนั้น...แต่”
“แต่?”
“ครั้งนี้หนูกับฝนไม่เห็นด้วยและคิดว่าพี่เซคทำเกินเหตุไปแล้วค่ะ”
“................................................”
........................................................................................................................................

“ไปกันหมดแล้วสิ...อ้อ”
“เจ้าคะ”
“พี่กำลังสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจจากน้องแคทหรือน้องฝนใช่หรือเปล่า?”
“...............................................”
“บอกมาเถอะ...พี่อยากฟัง”
“พูดอย่างเป็นกลางมิเข้าข้าง...ท่านพี่สุรีย์พรรณก็เริ่มที่จะมีความคิดเห็นที่เป็นตรงกันข้ามกับท่านพี่ศรเพทายขึ้นมาบ้างแล้วเจ้าค่ะ”
“แต่สุดท้ายพวกเธอจะต้องเข้าใจว่าฉันทำในสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตระกูลของเรา...เวลานี้มันช้าไปล่ะที่จะตามเอกคเชนทร์ให้ทันและม่อนก็ไม่ได้อยู่ที่น้ำตกแล้ว”
“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ”
“ไอ้จระเข้น้ำเค็มถูกคุณศิริรัศมีพาตัวไปแล้วใช่มั้ย?”
“เจ้าค่ะ”
“หึ!...ดีมาก...อื๋อ!?
“เมื่อกี้คุณหนูรองติดต่อมาว่าจะตามคุณชายหกไปเจ้าค่ะ”
“ว่าไงนะ?”
“น้องนางศรมุกดาจะตามเอกคเชนทร์ไปด้วยเหตุใด?”
“บ้าน่า--...ยัยแมวหลงทางกำลังคิดอะไรอยู่?”
.........................................................................................................................................

ตัวอย่างในตอนหน้า ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 89 “ลูกสาวคนที่สอง...สุพรรณรีย์!?”

“ฉันคิดว่านี่คงเป็นวิธีที่ดีที่สุด...วิษณุมนตรีและศิวะบัณฑิตจะได้ยุติความบาดหมางที่มีมานานสักที”
“พูดจาใหญ่โตซะเหลือเกินแต่บอลคนเดียวจะไปทำอะไรได้?...พอแล้ว--...กลับมาหาฝนกับลูกเดี๋ยวนี้!!!!
“ฝน!?...นี่...นี่เธอ”
.................................................
“การเล่นไล่จบลงแล้วเจ้าค่ะ...พวกท่านอย่าได้หลบหนีอีกต่อไป”
“...สมกับที่เคยเป็นมือสังหาร...ตามติดอย่างกับฉลามได้กลิ่นคาวเลือด”
“จุดประสงค์ของฉันคือมารับตัวหลานชายคืนหาได้มีเจตนาจะทำร้ายผู้ใดไม่...โปรดเข้าใจด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
.................................................
“คุณแม่ห่วงใยขนาดนั้นแต่คุณพ่อยังใจร้ายไม่กลับไปหาเธอ...ต้องจัดการ!!
“โอ๊ยๆ...จู่ๆก็มาดึงหูดึงจมูกกันแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอแม่หนูน้อย?...เอ๊ะ!?...คุณพ่อ...คุณแม่เหรอ?”
“ไม่รู้หนูก็จะบอกให้!!...คิดว่าคุณแม่จะต้องอดทนต่อความเจ้าชู้ของคุณพ่อมากมายสักเท่าไหร่กันคะ?”
........................................................................................................................................