หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 89

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 89 “ลูกสาวคนที่สอง...หนี่งในสามดรุณี!?

“เร็วกว่านี้สิสุรีย์พรรณ!!!
“ถนนสายนี้มืดและแคบ...ขับเร็วไม่ได้”
“ฮึ่ม!!
“หนูร้อนใจจังเลย...ป่านนี้พี่ชายจะเป็นยังไงบ้าง?”
“เราตามไม่ทันแน่เลยค่ะ...จะเอายังไงดีพี่แคท?”
“...กำลังใช้ความคิดอยู่”
“ส่วนยัยน้าบ้านี่เราก็ตามไม่ทัน...เร็วเหลือเกิน”
“แล้วน้านีย์จะรู้เหรอว่าพี่ชายถูกพาตัวไปทางไหน?”
“ไม่รู้สินะแต่ถ้าตามทันมีเฮแน่ๆเลยยัยตัวเล็ก”
“ทำไมคะ?”
“เพราะน้านีย์เอาชิโรเทนเคียวไปด้วย”
“มันส์ล่ะทีนี้!!!...หมายความว่าน้าก็โมโหเหมือนกันนี่หว่า?”
“...คงจะมีแต่วิธีนี้”
“เจ๊คิดออกแล้วเหรอ?...อ๊ะ!...ถึงถนนใหญ่”
“เหยียบให้มิดเลยโว้ย!!!...ฉันมั่นใจว่าเจ้าพวกศิวะบัณฑิตจะต้องใช้เส้นทางนี้ล่ะ”
“ป้อมก็จำทะเบียนรถได้ด้วย...เห็นเมื่อไหร่รับรองไม่มีพลาด”
“ฝนช่วยกดเบอร์ที่พี่บอกที”
“ค่ะ”
08x-xxxxxxx
“นี่จ้ะ”
“อืม”
“พี่ฝน...พี่แคทโทรหาใครเรอะ?”
“จะรู้มั้ยเล่า?”
“สวัสดีค่ะ...ขออภัยที่โทรมารบกวนในเวลามืดค่ำแต่แคทมีเรื่องขอให้ท่านช่วยเหลือจริงๆค่ะ”
“รึ...รึว่าเจ๊โทรหา...ผบ.ภาคเพื่อนของป้อ?”
“?”
!?
“จะขอกำลังตำรวจให้ช่วยตั้งด่านสกัดรถของพวกศิวะบัณฑิตไง”
“หืม--...มีพ่อเป็นนายตำรวจใหญ่ก็ดีอย่างนี้เองนะ”
“อะไรนะคะ?”
“?”
“ค่ะๆ...เข้าใจแล้วค่ะ...ขอบพระคุณมากนะคะ”
“มีอะไรหรือจ๊ะพี่?”
“เราช้ากว่าคุณแม่ไปก้าวนึง”
“หา?”
“อธิบายหน่อยซิ...สุรีย์พรรณ”
“คุณแม่ก็มีความคิดเดียวกับพี่และลงมือไปแล้ว...สภ.ทั้งหมดที่อยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบจะติดตามและสกัดรถของคุณศิริรัศมี...แน่นอน...จะมีด่านเพื่อตรวจสอบรถที่เข้าข่ายด้วย”
“เยี่ยม!!!...ต้องแบบนี้สิคะ...ฮะๆๆ...แม่นิภาของฝนเก่งที่สุดในโลกเล้ย!!!!
“ฉันไม่มีปัญหาขัดข้องกับเห็นด้วยเต็มที่แต่นี่จะเรียกว่าใช้อำนาจรัฐไปในทางมิชอบได้หรือเปล่าวะ?”
“เหอะน่าๆๆ...พี่อ๋อมอย่าอะไรมากเลย...ป้อมว่ามันก็ดีออกเพราะทีนี้พี่ชายก็จะ...”
“เฮ้ย!?...นั่นมัน!!!
“อะไรเรอะพี่อ๋อม?”
“หยาดฝน!!...เมื่อกี้ฉันเห็นแม่ของเธอขับรถสวนไป”
“จะ...จำผิดหรือเปล่า?”
“ไม่!...ฉันจำเลขทะเบียนได้และก็เป็นรถกะบะที่จอดอยู่ในบ้านเธอที่โยนกอุดร”
“จริงด้วย...ตอนพี่ไปเอารถก็ไม่เห็นรถกะบะจอดอยู่”
“เลี้ยวกลับเร็วๆเข้าสุรีย์พรรณ!!
“อื้อ!!
“หวา~~...เลี้ยวกะทันหัน...พี่อ๋อมแน่ใจนะคะ?”
“เออ!!...มีน้านีย์ยืนตรงกะบะท้ายไปด้วยแล้วยังจะว่าผิดอีกมั้ยเล่า?”
“แต่ป้อมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงวิ่งขึ้นเหนือนะ?...พี่ชายต้องถูกพาลงใต้ไม่ใช่หรือ?”
“ง่ายมาก...เพื่อลวงให้เราหลงทางไงเพราะใครๆต้องคิดว่าพวกเขาจะกลับลงใต้แน่แต่คุณแม่ก็ยังมองออก...หัวแหลมจนพี่กลัวจริงๆ”
“หนอย~~...ช่างคิดดีนักนะแต่อย่าหวังเลยว่าจะพาบอลไปได้...ฝนไม่ยอมหรอก!!!
“คอยโทรหาบอลบ่อยๆนะ...เผื่อติดต่อได้”
“จ้ะพี่...แต่มานี่ฝนโทรหลายครั้งก็ไม่มีใครรับแถมตอนนี้ติดต่อไม่ได้...สงสัยจะปิดเครื่อง”
“แล้วเผลอๆพวกมันอาจขึ้นไปถึงเชียงใหม่หรือลำปางเพื่อนั่งเครื่องบินย้อนกลับลงไปกรุงเทพฯ...อ้อ!!...ฉันยังเห็นยัยศรมุกดานั่งที่กะบะท้ายรถคันนั้นด้วย”
“น้องม่อนน่ะรึ?”
“นี่มันอะไรกันคะ?...ฝนชักจะงงไปใหญ่แล้ว!!
“ใช่ๆ...ก็พี่ม่อนร่วมมือกับพวกศิวะบัณฑิตเพื่อจะล่อลวงพี่ชายให้ติดกับไม่ใช่เหรอ?”
“ฮึ!!...ฉันเองก็ไม่เข้าใจความคิดของยัยซกมกแอบจิตหมายเลขสองนั่นเหมือนกันแต่ถ้าจะให้เดา...”
............................................................................................................................................

“อะ...โอะ...ออ...พอทีเถอะ--
“ฮี่ๆๆ”
“จะ...ดึงหูกันทำไมเล่า?...อ้าว!?...ไม่...ไม่มี”
...ถ้ากลับมายังสถานที่แห่งนี้ก็หมายความว่าผมจะได้พบหนูริน “ลูกสาว” ที่จะถือกำเนิดมาในอนาคตอีกหลายปีต่อไปนี้แต่ทว่า...
“หนูรินจ๋า~~...ออกมาได้แล้ว...พ่อรู้ว่าเป็นหนู”
“.................................................”
“หายตัวไวจริง...แม่ลูกเหมือนกันเปี๊ยบ...หือ?”
(ข้างหลังมีใครอยู่)
“นั่นแน่!!...หนูริ...เอ๊ะ?”
“.................................................”
“ไม่ใช่นี่”
(แต่คุ้นหน้าจังเลยและโดยเฉพาะไม่ยิ้มไม่พูดแบบนี้ก็ช่างคล้ายกับใครบางคน)
“.................................................”
“อ๋อ~~...ใช่ๆๆ...หนูน่ะเหมือน...โอ๊ว!?
“นึกออกแล้วหรือ?”
“อั๊ก!!...เจ็บ~~...แม่หนู...อย่า...อย่าดึง!!!
“คุณแม่ฝากหนูมาค่ะ”
(คะ...คุณแม่?)
“และนี่ก็เป็นส่วนของหนู...ฮึ!!
“โอ๊ยๆๆๆ”
(โดนดึงทั้งจมูกทั้งหูเลยวุ้ย!!...เราไปทำอะไรให้หนูน้อยที่ไม่เคยเห็นหน้าผู้นี้โกรธเคืองกันนะ?)
“คุณแม่ห่วงใยขนาดนั้นแต่คุณพ่อยังใจร้ายไม่กลับไปหาเธอ...ต้องจัดการ!!
“โอ๊ยๆ...พอทีๆ...จู่ๆก็มาดึงหูดึงจมูกกันแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอแม่หนูน้อย?...เอ๊ะ!?...คุณพ่อ...คุณแม่เหรอ?”
“ไม่รู้หนูก็จะบอกให้!!...คิดว่าคุณแม่จะต้องอดทนต่อความเจ้าชู้ของคุณพ่อมากมายสักเท่าไหร่กันคะ?”
“นี่หมาย...หมายความว่าหนูเป็นลูกของ...”
“แม่สุรีย์พรรณ”
“กับ...กับพ่อ!!!!
...ไม่มีอะไรให้คลางแคลงใจใดๆทั้งสิ้นเลยเพราะเธอคือกระจกที่สะท้อนภาพของพี่แคทในวัยเด็กแทบทุกอย่างไม่ว่าจะกิริยาท่าทางหรือหน้าตาทรงผมและหากถามว่ารู้สึกยังไงก็ขอตอบว่า “ปลาบปลื้มใจอย่างที่สุด” แต่ผมก็เริ่ม “หวั่นเกรง” ลูกสาวคนที่สองนี้ในเวลาเดียวกันด้วยนั่นเพราะเธอแตกต่างจากหนูรินมากทีเดียว...
“เดี๋ยวลูก”
“...ปล่อยค่ะ!
“ไม่ยากๆ”
“?”
“ถ้าหนูเหมือนแม่งั้นพ่อก็ง้อไม่ยาก”
“......................................................”
“ไหนจ๊ะ...ให้พ่อดูหน้าชัดๆซิ...ยิ้มหน่อยๆ”
“ไม่ค่ะ”
“งั้นพ่อขอกอดที”
!?
“ให้พ่ออุ้มพาเดินเที่ยวนะ”
“หนู...ไม่ใช่เด็กทารกที่จะต้องให้อุ้มค่ะ!
“ไม่เกี่ยวกันเลยสักนิด...เอ้า!!
“คุณพ่อ!?
“อืม--...ดูดีๆก็คล้ายพ่อไม่น้อยนะเนี่ย?”
“...หนูเหมือนคุณแม่ต่างหาก”
“จ้า!...สวยและก็เย็นชาเหมือนแม่...ปากแข็งอีกต่างหาก”
“ฮึ!!
“ฮะๆๆ...ตอนนี้ลูกสาวพ่ออายุเท่าไหร่เหรอ?”
“แปดขวบ”
“อายุมากกว่าหนูรินปีเดียว”
“ค่ะ”
“แสดงว่าหนู...เอ่อ--...พ่อยังไม่รู้ชื่อหนูเลย”
“หนูชื่อสุพรรณรีย์”
“สลับ...กับชื่อของแม่รึ?...แหม~~...ใครช่างตั้งให้นะ?”
“ก็คุณพ่อไงคะ”
“หา!!...พ่อเหรอ?”
“คุณพ่อจะตั้งชื่อให้ลูกๆทุกคน...หยาดวารินทร์ชื่อของน้องรินก็ใช่”
“อืม--...งั้นพ่อเรียกหนูสั้นๆว่ารีย์นะจ๊ะ...แล้วหนูรินไปไหนซะล่ะ?”
“ไม่มาค่ะ...คงไปเที่ยวเล่นตามประสา”
(แต่เมื่อครู่เราได้ยินเสียงหัวเราะของเธอไม่ใช่หรือไง?)
“หนูรีย์เป็นลูกคนโตของพ่อหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่ค่ะ”
“อ้าว!!...พ่อไม่ได้มีลูกแค่สองคนหรอกหรือ?”
“ก็เจ้าชู้ซะขนาดนี้คงจะมีแค่สองหรอกนะคะ”
...ประชดประชันเก่งแฮะลูกสาวผมคนนี้...ให้ตายเถอะ!...พี่แคทเข้าใจเลี้ยงลูกให้เหมือนตัวเองดีจริงๆ...ผมไม่เคืองหรือน้อยใจที่โดนหนูรีย์ต่อว่าหรอกนะแต่ตรงกันข้ามกลับรู้สึก “ผิด” ที่ไม่ยอมเลิกพฤติกรรมเจ้าชู้ได้สักทีจนกระทั่งมีลูกมีเต้า...สุพรรณรีย์...ช่างเป็นชื่อที่ไพเราะยิ่งนัก...ผมอดที่จะภาคภูมิใจในตัวเองไม่ได้จริงนะเนี่ย...
(และก็มีความเป็นไปได้ที่เรากับอ๋อมจะมีลูกด้วยกันสินะ)
“คุณพ่อ”
“จ๊ะ”
“รักคุณแม่หรือเปล่าคะ?”
“แน่นอน...รักสิจ๊ะ”
“งั้นทำไมไม่กลับไปหา?”
“พ่อไม่กลับอะไร?”
“คุณแม่กำลังรออยู่นะคะ”
“เห?...พ่อก็ไม่ได้ไม่อยากกลับไปหาแม่นี่...อืม--...เมื่อก่อนน่ะยอมรับว่าอึดอัดแต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว...พ่อมีความสุขที่ได้อยู่กับแม่ของลูกนะ”
“แม้ว่าคุณแม่จะไม่เคยบอกรักคุณพ่อหรือคะ?”
“ไม่เป็นไร...พ่อรู้ดีว่าแม่ของหนูรีย์น่ะปากแข็งที่สุด”
“แต่ใจอ่อนกับคุณพ่อมากนะคะ”
“จริงเรอะ?”
“ไม่เชื่อหนูหรือไง?”
“เปล่าๆ...พ่อต้องเชื่อสิจ๊ะ...แหม่~~...ไม่เชื่อลูกสาวตัวเองแล้วจะให้ไปเชื่อใครเล่า?”
“อย่างนั้นก็อย่าช้าเลยค่ะ...รีบกลับไปหาคุณแม่และอยู่กับเธอ”
“ลูกรีย์พูดเหมือนพ่อกำลังจะพลัดพรากไปจากแม่?”
“หนูบอกได้แต่เพียงว่า...อย่าเข้าใกล้คุณน้าศรมุกดา”
(พี่ม่อน?)
“คุณน้าศรมุกดานั้นอันตรายกับคุณพ่ออย่างคาดไม่ถึง...เธอมีอะไรอยู่คุณพ่อก็รู้ดี”
“...................................................”
“ให้หนูลงค่ะ”
“จ้ะ”
“เวลาที่ยังเหลืออีกเพียงน้อยนิดหนูจะแสดงอะไรให้คุณพ่อเห็น”
!!!
...หนูรีย์พูดจบก็เงื้อกำปั้นพุ่งใส่หน้าผมอย่างรวดเร็วและท่วงท่าที่เด็กหญิงใช้เหมือนกับ “ยมทูตขวาเร็ว” ของพี่แคทไม่มีผิดเพี้ยน!!!...
“นี่...นี่มัน”
“ค่ะ...หมัดยมทูตขวาเร็วที่คุณแม่ใช้บ่อยครั้ง”
“ลูกใช้เป็นด้วยเหรอ?”
“ก็เหมือนหนูรินไงคะ”
“อือ--...เก่งจัง”
“มองทันหรือเปล่าคะ?”
“ไม่...ไม่ทัน”
(พอรู้ตัวอีกทีกำปั้นน้อยๆของเด็กหญิงผมยาวสลวยก็หยุดตรงหน้าเราแล้ว)
“ยังใช้ไม่ได้”
“เอ๋?”
“พบกันครั้งหน้าคุณพ่อจะต้องมองยมทูตขวาเร็วของหนูให้ทันไม่อย่างนั้น...”
“ทะ...ทำไม?”
“ถึงเวลาที่มีอันตรายคุณพ่อจะยากเอาตัวให้รอดและไม่อาจช่วยเหลือใครได้เลย”
“...หนูพูดน่ากลัวจัง”
“เอาล่ะค่ะ...กลับไปหาคุณแม่และอย่าด่วนตัดสินใจอะไรง่ายๆ...ขอให้คุณพ่อตรึกตรองอย่างละเอียดรอบคอบ”
“เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อนสิ!!...พ่อยังไม่เข้าใจอะไรเลยนะ...ฮะ...เฮ้ย!?
“ตายจริง~~...รู้สึกตัวแล้วเหรอคะ?”
“คะ...คุณคือ...ศิริรัศมี...จะทำอะไรกับผมครับ?...แล้วกำลังจะไปที่ไหน?”
“ตำบลศรีไตรตรึงษ์อันเป็นที่ตั้งของตระกูลศิวะบัณฑิตไงล่ะคะ”
!?
...............................................................................................................................

“ไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องปฏิเสธดิฉันนะคะ”
“ยังไงมันก็ไม่ได้ครับ...เราเพิ่งจะพบกัน”
“นั่นไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ”
“เป็นสิครับ!!!...โธ่~~...ปล่อยผมไปเถอะ”
“คุณชายหกไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะต่อรองอะไรได้...ก่อนที่จะได้พบกับสามดรุณีเราทั้งสองก็ควรมาทำความสนิทสนมกันให้มากกว่านี้”
“ผมมีอะไรกับคุณไม่ได้หรอกครับ!!!
“แหม~~...แต่อาวุธของคุณชายหกดูจะไม่เห็นด้วยสักนิดเลยนะคะ”
(บ้าฉิบ!!...หล่อนจับเราแก้ผ้าตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?)
“เท่านี้สวรรค์ก็อยู่แค่เอื้อมมือถึง”
“นะ...ในรถนี่น่ะเรอะ?”
“ใช่ค่ะ...หรือคุณชายอยากจะทำในโรงแรมมากกว่า?”
“มะ...ไม่”
“งั้นค่อยไปให้ถึงเชียงใหม่ก่อนค่ะ”
“ชะ...เชียงใหม่อะไรกันครับ?”
(ไม่ใช่จะลงไปภาคใต้หรอกรึ?)
“เจ้านายคะ”
“มีอะไร?”
“ข้างหน้ามีด่านตรวจ”
“เรียกเรารึ?”
“ค่ะ
“ให้ตายสิ!!...อยู่นิ่งๆไม่ต้องพูดอะไรนะคะคุณชายหก...ไม่งั้นดิฉันอาจให้คุณดมยาสลบอีกรอบ”
“อุ!!
...คุณศิริรัศมีดึงกางเกงผมขึ้นกับคว้าเสื้อสูทใส่ทับนั่งประกบข้างผมทำหน้าตานิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ผมสมควรจะร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจดีมั้ยนะ?...
“ขอโทษนะครับ”
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“พวกคุณจะไปที่ไหนกันครับ?”
“เชียงใหม่ค่ะ”
“อ๋อ~~
“เราไปได้แล้วใช่มั้ยคะ?”
“เชิญครับ...ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ”
(เอ้ย!!...ทำไมปล่อยให้ไปง่ายๆเล่า?...แค่เอาไฟฉายส่องเข้ามาในรถกับแกว่งไปแกว่งมาแค่เนี้ย!?)
“คงจะตรวจหาของผิดกฎหมายล่ะมั้งคะ?”
“อืม--...แต่รถของเราไม่ใช่เป้าหมาย...เอาล่ะค่ะคุณชายหก”
“เจ้านายคะ...ข้างหน้ามีด่าน”
“หา!?...ห่างไม่ถึงสามกิโลเมตรก็มีด่านอีกแล้วเรอะ?”
“เอายังไงดีคะ?”
“รถเราไม่มีของผิดกฎหมายหรือยาเสพติดจะต้องกลัวไปทำไม?”
“................................................”
...ด่านนี้ก็เหมือนกับด่านที่ผ่านมา...ตำรวจเพียงแต่ถามว่าจะไปที่ไหนเท่านั้นและก็ปล่อยให้ไปแล้วพอรถวิ่งมาอีกประมาณห้ากิโลเมตรก็เจอด่านที่สาม...
“ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือครับ”
“คุณตำรวจคะ...มีอะไรเกิดขึ้นกันแน่?”
“ช่วงนี้มีขบวนการลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายบ่อยครั้งขึ้น...เจ้าหน้าที่จึงต้องกวดขันเป็นพิเศษครับ”
“เข้าใจค่ะ”
“ขออภัยในความไม่สะดวกแต่เราทำตามหน้าที่ครับ”
“นี่”
“คะ?”
“ใช้เส้นทางเลี่ยงดีกว่า...ทางหลักเราไม่ไปแล้ว”
“ทำไมหรือคะ?”
“ไม่ต้องถาม...ทำตามที่สั่งก็พอ”
(อะไรกันหว่า?...ไม่เข้าใจเลย)
“เส้นทางนี้ไม่มีเสาไฟฟ้าเลยค่ะ”
“ขับต่อไปเถอะ”
“ค่ะ...ว้าย!!
!!!
“คนขับรถกะบะคันนั้นเฮงซวยจริงๆแซงปาดหน้าจนเกือบจะชนแล้ว!!!...เจ้านายไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคะ?”
“ฉันปกติดีแต่เมื่อกี้...เสียงอะไรดังบนหลังคาน่ะ?”
(เราก็ได้ยินเหมือนกัน...เสียงดังตึงเชียว)
“จอดรถซิ”
“ค่ะ”
“คุณ...ธะ...เธอช่วยออกไปดูที”
“...อืม”
“.....................................................”
“มีอะไรตกใส่หลังคารถหรือเปล่าน๊า~~...อ๊อก!!!
!!!!
“เฮ้ย!!
...พอหลบรถเข้าข้างทางและสาวน้อยผู้ติดตามคุณศิริรัศมีเปิดประตูออกไปเท่านั้นก็ได้เรื่องเลยเมื่อเธอถูกใครบางคนบีบเข้าที่คอ...ผมนึกในใจว่าฉิบหา-ล่ะงานนี้สงสัยโดนโจรปล้นอย่างแน่นอนทว่าผู้ที่อยู่บนหลังคารถกลับกลายเป็น...
“คุณอา!!
“ไม่...ไม่น่าเชื่อ!!!...ทำไมคุณอรศินีย์มาอยู่ที่นี่?”
“ทุกคนที่เหลือจงออกมาจากรถแลยกแขนสองข้างขึ้น...อย่าได้คิดเล่นเล่ห์อุบายมิเช่นนั้นสาวน้อยผู้นี้...”
“โอ๊ย!!
“หยุดนะคะคุณอรศินีย์!!!...ดิฉันยอม...ยอมแล้ว~~...อย่าทำ...คนของดิฉัน!!!!
(คุณศิริรัศมีก็เป็นห่วงลูกน้องตัวเองดีนะ)
“เจ้านายออกไปก่อนเพื่อดึงความสนใจของยัยนั่นค่ะ...หนูจะออกเป็นสุดท้ายและจะเอาปืนยิงมันเอง”
“อย่านะ!!!!...นั่นเป็นอาของฉัน”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่ง!!
“ไม่มีสมอง!!!...อยากรนหาที่ตายหรือไง?”
“แต่...”
“ก่อนที่เธอจะได้ทำอย่างพูดก็คงโดนฟันหัวขาดกระเด็นกลิ้งไปไหนต่อไหนแล้วเพราะสำหรับผู้หญิงคนนั้นลูกปืนยังเร็วไม่เท่า!!!!
!?
ดิฉันฉุกคิดช้าไปจึงเสียท่าคุณและพี่สาวของคุณ
รู้ด้วยหรือเจ้าคะ?
เธอน่ะไม่มีทางทำอะไรรอดพ้นสายตาของฉันไปได้หรอกเฟ้ย!!
(อานิภาก็มาด้วยโดยรับหน้าที่คนขับรถให้น้องสาวฝาแฝดนี่เอง)
“ส่งหนุ่มน้อยคนนั้นมาซะศิริรัศมี...ตอนนี้ลูกสาวน่ารักทั้งสองคนของฉันกำลังรอคอยเขาด้วยหัวใจห่วงหากระวนกระวาย...ฉันจะได้รีบเอาไปคืนและถือซะว่าคืนนี้ไม่มีการลักพาตัวเกิดขึ้น”
“การเล่นไล่จบลงแล้วเจ้าค่ะ...พวกท่านอย่าได้หลบหนีอีกต่อไป”
“...สมกับที่เคยเป็นมือสังหาร...ตามติดอย่างกับฉลามได้กลิ่นคาวเลือด”
“จุดประสงค์ของฉันคือมารับตัวหลานชายคืนหาได้มีเจตนาจะทำร้ายผู้ใดไม่...โปรดเข้าใจด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
“แต่ก่อนอื่นดิฉันอยากจะถามว่าด่านตำรวจพวกนั้นเป็นฝีมือของคุณอรนิภาหรือเปล่า?”
“ใช่...ฉันเอง”
“แล้วคนที่ลูกสาวทั้งสองของคุณรักก็คือหลานชายแท้ๆของคุณด้วย”
“ช่วยไม่ได้นี่นาก็ในเมื่อแคทกับฝนหมายตาบอลไว้ตั้งหลายปีและเผอิญฉันดันเป็นแม่ที่ตามใจลูกซะด้วย”
“แต่มันคือความรักต้องห้าม!!!
“เพื่อความสุขของลูกๆฉันจะไม่มีวันขัดขวางหรอก...เธอน่ะสมควรกลับไปได้”
“...ถ้าดิฉันกลับไปมือเปล่าก็ถือว่าล้มเหลว”
“แล้วเธอยังจะคิดว่าต้องได้ของติดไม้ติดมือไปอีกรึในเมื่อน้องสาวของฉันก็ยืนอยู่ตรงหน้าทั้งคน”
“..........................................................”
“หลานบอล”
“ครับ
“จูงมือแม่หนูคนนั้นมาทางนี้”
“เอ๊ะ?”
“ทำตามที่อาสั่ง”
“จะทำอะไร...คนของดิฉันคะ?”
“น้องฉันไม่เอาไปต้มยำทำแกงหรอกน่า!
“ฮึ่ม!!
“เธอเองก็จงอยู่เฉยๆเถิด...ฉันขอรับรองว่าสหายของเธอจักมิเป็นอันตราย”
“..........................................................”
“หืม?...เธอ...”
(อานีย์มองสาวน้อยที่เราจูงมือพามาแล้วก็ดูเหมือนสีหน้าจะเปลี่ยนไป...นี่เราจะคิดมากไปเองหรือเปล่าหว่า?)
“บอลไปนั่งในรถอาและห้ามออกมา...เอาล่ะ!!...แม่หนูกลับไปหา...เจ้านายได้แล้ว”
“เจ้านาย...อย่างนั้นหรือ?”
...ที่แท้อานีย์ใช้แผน “ตัวประกัน” เพื่อให้ผมกลับมาอย่างปลอดภัยแต่ตลอดทางที่มานี่ผมก็เกิดความสงสัยว่าต่อให้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตั้งด่าน “ถ่วงเวลา” คุณศิริรัศมีซึ่งแม้จะได้ผลแต่ก็ไม่น่าตามมาทันเร็วขนาดนี้?...
(ราวกับล่วงรู้เส้นทางที่คุณศิริรัศมีจะใช้ลักพาตัวเราเป็นอย่างดี!?)
“อย่าออกมาเชียวนะยะ!!...นอนลงไปก็ได้”
“ครับๆ”
“นี่มือถือ...โทรรายงานเมียซะ”
“มะ...เมีย?”
“เออ!
“อาหมายถึง?”
“ฮึ่ย~~...บัดซบตบชัก!!...ก็จะมีใครอีกล่ะ?”
“................................................”
“อีกสักแป๊บก็คงจะมาถึงกันน่ะ...นอนสิจ๊ะพ่อตัวดี”
(ผลักเรานอนที่เบาะหลังแล้วปิดประตูรถ...ปฏิบัติอย่างกับเราเป็นเด็กน้อย)
“อาครับ”
“หือ?”
“ทำไมอานีย์ใส่กางเกงขาสั้นครับคือปกติผมเคยเห็นแต่งตัวเรียบร้อยตลอด?”
“อยากรู้ก็รอถามเจ้าตัวเองสิเคอะ...ฮิๆๆ...ชอบดูล่ะซี้~~
“ไม่ใช่ๆ...ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น..เดี๋ยวพี่เอ้รู้ผมก็ซวยพอดี”
“เอ้ไม่ใช่คนใจแคบขนาดนั้นหรอกจ้ะ”
(จะจริงรึ?...เอ้า!...สั่งให้นอนก็นอน...อื๋อ!?...อะไรนุ่มๆ?)
“เอ้ย!!!...พี่...พี่ม่อน!?
(เราเอนศรีษะหนุนไปบนตักสาวเจ้าได้ยังไง?)
“...ไปจากที่นี่กัน”
“นี่จะเล่นตลกอะไรกับผมอีกเนี่ยก็พี่ไม่ใช่เหรอที่เป็นหนึ่งในตัวการทำให้ผม?...อึ๊ก!!
“หุบปากแล้วจงตามเรามา!
(ร่าง...ร่างกายขยับไปเองทั้งที่สมองไม่ได้สั่งการ!?...บ้าแล้ว!!!!...เราลุกขึ้นนั่งเอื้อมมือเปิดประตูรถเองเหรอนี่?)
........................................................................................................................................

“บอลอยู่ไหนคะแม่?”
“ในรถจ้ะ...กำลังรอลูกฝนพอดีเล้ย!!
“...ไม่มีนี่คะ?”
“หา?...ลูกแคทอย่าล้อแม่เล่นน่า!!
“ไม่มีเลยน้า!!
“จริงด้วยค่ะ...ไม่เห็นพี่ชายเลย”
“คุณชายหก...หายไปรึ?”
“เฮ่ยๆๆ...จะไม่อยู่ได้ยังไงก็แม่เป็นคน...อ๋า!?...ไม่มีจริงๆด้วยอ่ะนีย์!!!
“...................................................”
“หนอยแน่ะ~~...ขาเดี้ยงอยู่ยังจะออกไปเพ่นพ่านที่ไหนอีกนะเจ้าหลานคนนี้?”
“ท่านพี่กรุณาใจเย็นๆก่อนเจ้าค่ะ”
“เป็นเธออีกแล้วใช่มั้ยศิริรัศมี?”
“พวกคุณเลิกปรักปรำเจ้านายของหนูสักทีเถอะค่ะ!!!...คุณอรศินีย์ยืนถือดาบขวางหน้าอยู่ทั้งคนแล้วพวกเราจะทำอะไรอีกได้?”
“ปากกล้าไม่เบานะยัยหนูนี่!!...เอ๊ะเดี๋ยว?...ฉันว่าเหมือนเคยเห็นเธอที่ไหนมาก่อน...ป้อมว่ายังไง?”
“อือ--...จริงด้วย...หนูก็ว่างั้นค่ะ”
“ก็...ก็ที่โยนกจัตุรัสไงคะ”
“ไม่...ไม่ใช่!!...ก่อนหน้านี้แน่ๆ...ใช่มั้ยเจ๊?”
“อืม”
“มิพบกันเดี๋ยวเดียว...เติบโตขึ้นมากเทียว”
“อ๋อ~~...ฝนจำได้แล้ว!!!...ที่แท้เธอก็เป็น...”
“น้องศิรินภาลัยหรือนี่?”
“หึ!!...หนึ่งในสามดรุณีงั้นเรอะ?”
“ถึงว่าสิคะ!!...ป้อมรู้สึกคุ้นๆหน้า...แหม~~...เล่นบทผู้ติดตามแม่ของตัวเองได้แนบเนียนไม่เบาเชียว”
“..................................................”
“โฮ่~~...ไม่นึกว่าจะตามแม่มาด้วย?...สนใจหลานชายของ...”
“คุณป้า”
“ว้าก!!!...เรื่องอะไรมาเรียกฉันว่าป้ายะ?”
“หนูเรียกผิดตรงไหนก็คุณป้าอายุมากกว่าคุณแม่ของหนูนี่คะ?”
“เออจริง...ก๊าดดดดดดด~~...หยุดนะ!!...ห้ามเรียกว่าป้าไม่งั้นจะโยนหนอนใส่จริงๆด้วย!!!
“แล้วจะให้เรียกว่าอะไรหรือคะ?”
“แฮ่ม!!...พี่สาวคนสวย”
“อุ๊บ!
“ศิริรัศมี...หล่อนขำอะไรไม่ทราบ?”
“เปล่าค่ะ”
“แต่ฉันจำได้ว่าเธอหน้าตาดีกว่านี้ไม่ใช่เหรอ?”
“หึๆๆ...ตอนเด็กๆน่ะใช่แต่โตมาคงเริ่มจะขี้เหร่จ้ะ”
“ผิดแล้วจ้ะน้องป้อม...พี่ใช้หน้ากากหนังปิดบังต่างหาก”
“ในเมื่อความจริงเปิดเผยแล้วลูกแม่ช่วยเผยโฉมที่แท้จริงให้ทุกคนเห็นสิจ๊ะ”
“ค่ะ”
“เธ่อ~~...จะสวยสักแค่ไหนเชียว...ไม่...เท่า...”
“.................................................”
“ฮะๆ...ดูถูกคุณหนูศิรินภาลัยอย่างนี้ก็แย่สิคะ...สาวใต้ก็งดงามไม่แพ้สาวเหนือหรือจากที่ไหนหรอกนะ”
“บะ...บ้าฉิบ!!!...หล่อนเพิ่งจะอายุแค่...สิบห้าปีเองไม่ใช่เรอะวะ?”
“อื้อหือ?...ถ้าพี่ชาย...เห็นเข้าล่ะก็...ฮึ่ม!!!...คู่แข่งที่น่ากลัว”
“ไม่จะอยากคิดจริงๆยัยตัวเล็ก...อีตาบ้านั่นต้องหลงเสน่ห์อย่างไม่ต้องสงสัยเลย...ฮึ!!
“หรือที่เจ้าคนบ้าไม่อยู่ตอนนี้อาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้”
“มั่นใจในตัวเองกันหน่อยสิ!!...เอ้ย!!!...ไม่ใช่เวลาจะมาพูดเรื่องนี้...คนรักของพวกหนูน่ะหายไปไหน?”
“ฉันรู้น่ะน้าว่าเป็นฝีมือของใคร”
“แต่จะว่าไป...นอกจากฉันกับนีย์ก็ยังมี...อ๋า~~
“ถูกต้องเจ้าค่ะ...ผู้ที่จะกระทำเช่นนี้ได้มีเพียงนางเท่านั้น”
“พี่ม่อน!?
“คุณศรมุกดามาด้วยหรือ?”
“และพี่ศรมุกดาก็พาคุณชายหกไป?”
“พี่สาวตัวแสบนี่!!...ป้อมอยากเอาเข็มจิ้มก้นให้ร้องลั่นนัก”
................................................................................................................................................

“เอกคเชนทร์...เจ้าเอาแต่นิ่งเงียบเหตุใดจึงมิพูดอะไรบ้าง?”
“ผมไม่รู้จะพูดอะไร”
“เจ้ามีความชอบธรรมที่จะตำหนิเราได้”
“แต่พี่ก็มาช่วยผมแล้วนี่”
“เราน่ะหรือช่วยเจ้า?”
“ก็...พี่เป็นคนบอกอาทั้งสองไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่...ทว่าเรามิได้ทำเพื่อเจ้าดอก...ท่านพี่ต่างหาก”
“คนอื่นผมไม่รู้แต่สำหรับตัวผมจะไม่แพร่งพรายออกไปหรอกครับเพียงแค่ให้พี่ม่อนช่วยตอบอะไรมาสักอย่าง”
“?”
“ทำไมคุณศิริรัศมีถึงลักพาตัวผมไปศรีไตรตรึงษ์ทั้งที่ออกปากเชิญเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้ว?”
“นางยังมิได้บอกเจ้ารึ?”
“ยังครับ”
(TRRRRRRRRRR)
“ฝน”
“ฉันอยู่กับพี่ม่อน”
“ว่าแล้วไง...บอลอย่าไปศรีไตรตรึงษ์เด็ดขาดนะ!!!
“ฉันกำลังสงสัยทำไมคุณศิริรัศมีจะต้องทำถึงขนาดนี้?...ถ้าฉันไปพวกเขาจะเป็นยังไง?...จะต้อนรับหรือว่า...”
“ฝนไม่รู้และไม่เข้าใจด้วยเพราะบอลจะไปไม่ได้!!
“แต่ฉันกำลังคิดว่าควรจะไป”
“ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่บอลจะไปที่นั้น”
“ลึกๆแล้ววิษณุมนตรีกับศิวะบัณฑิตมีความขัดแย้งกันอยู่ใช่มั้ย?”
“มีแล้วจะทำไม?...ไม่ใช่เรื่องของเราและมันก็มีมาก่อนพวกเราจะเกิดซะอีก”
“แต่มันดีไม่ใช่หรือถ้าความขัดแย้งนี้จะจบสิ้นลงในรุ่นของเรา”
“อย่าบอกนะว่าบอลตั้งใจจะไป”
“ก็ไม่รู้หรอกว่าทั้งสองตระกูลมีความขุ่นข้องหมองใจอะไรกันแต่ฉันน่าจะพอทำอะไรได้บ้าง”
“ด้วยการถ่อสังขารเป็นพันกิโลไปพบกับตาสิทธิกรน่ะรึ?”
“ฉันคิดว่านี่คงเป็นวิธีที่ดีที่สุด...วิษณุมนตรีและศิวะบัณฑิตจะได้ยุติความบาดหมางที่มีมานานสักที”
“พูดจาใหญ่โตซะเหลือเกินแต่บอลคนเดียวจะไปทำอะไรได้?...พอแล้ว--...กลับมาหาฝนกับลูกเดี๋ยวนี้!!!!
“ฝน!?...นี่...นี่เธอ”
“อีกไม่นานเราก็จะมีลูกด้วยกัน...ไม่ต้องไปสนใจคนอื่นแล้ว!!!!
“เธอรู้?”
“ใช่...ฝนได้พบกับแม่หนูน้อยและก็เชื่อมั่นว่านั้นคือความจริง”
(นี่สองแม่ลูกได้เจอกันแล้วหรือ?)
“เพราะฉะนั้น...โอ๊ะ!?...แบตจะมาหมดอะไรตอนนี้?”
(สายตัดไปแล้ว)
“นั่นคือความตั้งใจของเจ้าจริงๆหรือ?”
“ผมว่าที่คุณศิริรัศมียอมลงทุนถึงขนาดนี้มันต้องไม่ปกติแน่ๆครับแต่ก่อนที่จะไป...”
“ย่อมได้...เช่นนั้นเราจะพูด...สมัยก่อนนั้น...”
“นังผู้หญิงบ้า!!...คืนผัวฉันมานะ!!!
!!
...ปัทโธ่!!!...ใกล้จะรู้เรื่องสำคัญแล้วแท้ๆเชียวแต่อ๋อมดันเข้ามาขัดจังหวะและพยายามจับตัวพี่สาวต่างบิดาให้อยู่มือทว่าพี่ม่อนหลบไปหลบมาซึ่งเท่าที่เห็นการเคลื่อนไหวของเจ้าหล่อนนั้นผมรู้สึกเหมือนอ๋อมกำลังไล่คว้าอากาศธาตุยังไงยังงั้น!?...
“พี่หาได้ปรารถนาในตัวชายคนรักของเธอแม้แต่นิดเดียว”
“โกหก!!!...แล้วเธอจะพาตัวบอลมาทำไม?”
“เช่นนั้นเธอก็บอกเอกคเชนทร์เองเถิด”
“คิดหนีเรอะ?...ป้อม...ซัดเข็มใส่เลย!!!
“เอ๋?”
“เร็วๆ”
“ดะ...ได้”
(บ้าไปแล้วอ๋อม!!!...นั่นพี่สาวของเธอนะ...หะ...หือ?)
!?
“ฮึย!!
“หนอย~~...ไม่ได้ผลจริงๆ”
“แล้วพี่อ๋อมให้หนูซัดทำไมอ่ะ?”
“เดี๋ยวๆๆ...มันอะไรกัน?”
“พี่ม่อนใช้พลังจิตหยุดเข็มที่ป้อมซัดออกไปแล้วเบี่ยงเบนทิศทางให้ไปปักที่ต้นไม้แทน...โธ่เอ้ย!!...ในที่มืดแบบนี้มันหายากนะ”
 (“หนูบอกได้แต่เพียงว่า...อย่าเข้าใกล้คุณน้าศรมุกดา”
(พี่ม่อน?)
“คุณน้าศรมุกดานั้นอันตรายกับคุณพ่ออย่างคาดไม่ถึง...เธอมีอะไรอยู่คุณพ่อก็รู้ดี”)
“คะ...คนอะไรกันเนี่ย?”
“เอกคเชนทร์...เจ้าพลาดเสียแล้ว”
“พลาดอะไรครับ?”
“เมื่อกี้หากเจ้าออกคำสั่งมาหนึ่งข้อเราจะยินดีทำตามโดยหามีข้อแม้ใดๆไม่”
“คำสั่ง...หนึ่งข้อรึ?”
“จะอะไรก็ได้...แม้กระทั่งสั่งให้เราเป็นคู่นอนกับเจ้า”
!!!!
“ศรมุกดา!!...หล่อนกล้าเรอะ?”
“ใจเย็นค่ะพี่...พี่ม่อนทำพูดดีไปงั้นแหละ...เอาเข้าจริงก็ไม่กล้าหรอกน่า”
“จะพิสูจน์ไหมเล่า?...น้องนางศรโกเมน”
“อึ๊ก!!
“รีบไสหัวไปไกลๆนะอย่ามาปั่นหัวผัวฉัน!!!
“เฮอะ!...ถ้าผมฉุกคิดเร็วกว่านี้สักนิดจะสั่งพี่แบบนั้นแน่ๆ”
“บอล!!
“พี่ชายก็~~
“หึ!!...เสียดายที่เจ้ามิทันรู้”
“ผัวของฉันไม่เสียดายผู้หญิงประหลาดอย่างเธอหรอกโว้ย!!!
“จริงด้วยๆ”
“นายบอกมันไปสิว่าถึงให้ฟรีก็ไม่เอา”
“ใช่ๆ...พี่ชายประกาศออกไปเลยค่ะ”
“ไม่ต้องประกาศหรอกเพราะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”
“ดี!!
“อย่างพี่ม่อนน่ะไม่ต้องไปเสียดายค่ะ!!!
(ใครว่า?...สุดแสนจะเสียดายมากเลยต่างหาก~~...เอ้ย!?...ลูกสาวเพิ่งจะเตือนเรามาหยกๆนะเว้ย...บ้าชะมัด!!!!)
......................................................................................................................................

“คุณพ่อก็เป็นเสียอย่างนี้”
“เอาน่าพี่...น่ารักดี”
“น่าตีต่างหาก!!
“แล้วพี่รีย์ดีใจไหม?”
“ทำไมต้องดีใจ?”
“คือหนูเห็นพี่ยิ้มไม่หุบเลยเดาน่ะ”
“ฮึ!!...พี่สมควรโกรธมากกว่า”
“อ้าว?”
“เพิ่งพบหน้ากันครั้งแรกก็อุ้มพี่แล้ว...คุณแม่ยังไม่เคยเลย”
“นึกว่าอะไร...พ่ออุ้มลูกเป็นเรื่องผิดปกติตรงไหนเหรอคะ?”
“ก็...”
“พี่รีย์...สองฝาแฝดนั่นเอาอีกแล้วค่ะ”
“................................................”
“................................................”
“พวกท่านต้องการอะไรกันแน่จึงคอยเฝ้าแอบมองเราสองพี่น้อง?”
“ไม่ได้แอบมอง”
“ไม่ได้แอบดู”
“แน่ะ!!...ยังจะโกหกอีกเรอะ?”
“ครั้งนี้พวกท่านจงยอมรับมาแต่โดยดีเถอะ”
“มีของที่จะเอามาคืน”
“รับไปซะดีๆนะ”
!?
“อชินีสุราลัย!
“ไปถูกจับตัวได้ยังไง?”
“สองฝาแฝดนี่รุมข้าต่างหาก!!
“ไหนบอกว่าสองต่อหนึ่งก็ไม่กลัวไง”
“ข้าเคยกลัวที่ไหน?...วสันตะนุจรินทร์!!!
“หากตัวต่อตัวแล้วไซร้อชินีสุราลัยก็จะเสมอกับอุษณรัศมีผู้นี้”
“หากตัวต่อตัวแล้วไซร้อชินีสุราลัยก็จะเสมอกับสีตลรัศมีผู้นี้”
“แต่เราไม่อยากเสียเวลา”
“ไม่อยากเสียเวลา”
“หมายความว่าอะไรกัน?”
“สุริยนนุจรินทร์...สหายของท่านอาจหาญจะทำการที่ไม่สมควรอย่างยิ่งต่อสหายของอุษณรัศมีผู้นี้”
“นางเสือสวรรค์อันธพาลทำอะไรรึ?”
“หนอย!!!
“อุ๊ย!!
“จะปลุกให้ราชหงส์สุรัมภาสหายของสีตลรัศมีผู้นี้ตื่นจากการหลับใหลเพื่อมาต่อสู้กันอย่างไรเล่า”
“หา?”
“นางกำลังหลับสบายก็จะไปรบกวนให้ตื่น”
“ใจร้ายที่สุด~~...ให้นางนอนหลับไปก็ดีอยู่แล้ว”
“ไม่มีอะไรทำแล้วหรือไงนะสหายเรา?”
“ขะ...ข้าแค่ต้องการพิสูจน์ว่าใครจะเหนือกว่ากัน”
“แพ้อย่างไม่ต้องสงสัย”
“แพ้อย่างแน่นอน”
“ใครแพ้?”
“ท่านไง”
“ท่านน่ะแหละ”
“ฮึ่ม!!...เจ้าพวกแฝดบ้าน่ารำคาญ”
“และขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย...สุริยนนุจรินทร์”
“?”
“ที่ครั้งนี้ท่านได้เจอกับพ่อเสียทีนะ”
“..............................................”
“แต่...ชายผู้นั้นก็จะเป็นพ่อของเราเช่นกัน”
“เป็นพ่อของเราด้วย”
“ฉะนั้นลูกพบกับพ่อคงจะไม่ผิดหรอกใช่ไหม?”
“คงไม่ผิดหรอกใช่ไหม?”
“พี่รีย์”
“หัสดินเทวนาถก็เคยพูดไว้แล้วว่าความตั้งใจของนางทั้งสองคืออะไร”
“ก็รู้ค่ะแต่หนูยังไม่อยากเชื่ออย่างสนิทใจเลยนะ”
“แต่ที่เราจะต้องเชื่อนั่นคือพวกนางก็เป็นลูกสาวของคุณพ่อจริงๆ”
........................................................................................................................................

ตอนหน้าต้องจัด 18 + สักหน่อยโดยที่เจ้าบอลก่อเรื่องขึ้นอีกครั้ง
.........................................................................................................................................

ตัวอย่างในตอนหน้า “ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 90 “คืนมืดที่แดนประจิม!?

“ก่อนอื่นอธิบายให้ฟังหน่อยซิว่าม่อนทำลายแผนของพี่ทำไม?”
“ยังมีวิธีอีกมากมายที่จะขจัดเอกคเชนทร์แลน้องมิต้องการให้ท่านพี่ใช้วิธีนี้เจ้าค่ะ”
“หลานสาวสี่คนของน้าต่างแก่งแย่งช่วงชิงผู้ชายเพียงคนเดียว...มันช่างเป็นการกระทำที่มิน่าดูเอาเสียเลย”
“เหล้าแก้วนี้คือคำสัญญาว่าบอลจะไม่ทอดทิ้งลูกสาวของอา...ดื่มให้หมดรวดเดียว!!!
“คืนนี้ฉันยินดีจะปรนนิบัติท่านแต่มีข้อแม้ว่าท่านต้องมิเปิดไฟหรือแอบมองหน้า...จะทำได้หรือไม่เจ้าคะ?”
“ต้องเป็นคนในบ้านหลังนี้...ดีล่ะไปคุยให้ครบทุกคน...เรามั่นใจว่ายังไงก็ต้องเผยพิรุธออกมาบ้างแน่ๆ!!!
“รู้สึกนายหญิงจะแปลกๆไปเธอว่าไหมล่ะอย่างเช่นวันนี้ถึงกับลงมือซักผ้าปูที่นอนเองเชียวนะ?”
(อานีย์ไม่ยอมพูดด้วยแถมพอสบตามองเราก็อายหน้าแดงก่ำ...อย่า...อย่าบอกนะว่าผู้หญิงคนเมื่อคืนนี้เป็น...)
“แกนี่โชคไม่ดีนะเพราะบังเอิญฉันกำลังอยากจะฆ่าคนพอดี...ขอควักหัวใจของแกออกมาดูหน่อยล่ะกัน!!!!
“เหตุใดพบกระผมแล้วจึงเดินหนี?...มิทราบว่าน้องเอกคเชนทร์กระทำความผิดอะไรมาอีกหรือขอรับ?”
........................................................................................................................