หน้าเว็บ

วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 92

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 92 “แขกผู้มาเยือนที่คาดไม่ถึง!?

“บอล...ขามึงหายดีแน่เรอะ?”
“อืม--...เดินวิ่งได้ปกติ”
“งั้นเย็นนี้ไปเตะมึงกันมะ?”
“หา!?
“เตะบอลๆ”
“เวร!!...มึงนี่ทำมาเป็นเล่นคำ...ไปสิวะ”
...หมู่นี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเส้นเอ็นชักจะตึงหมด...ตั้งแต่กลับมาจากโยนกจัตุรัสก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์และไม่เคยได้ฝันถึง “ลูกสาว” คนไหนเลย...
(นับนิ้วได้ก็สี่คนเชียวแล้วก็น่ารักน่าชังกันทั้งนั้นแต่ยังคิดไม่ตกตรงที่หนูหนึ่งกับหนูสองเป็นลูกของใครกันแน่และไหนจะสี่คำปริศนา...จะ...แม่...ท่าน...เสียอะไรนั่นอีก?)
“แต่งตัวแบบนั้น...ลืมไปแล้วหรือว่าวันนี้เธอต้องไปทำอะไร?”
“เอ๋?”
“โห~~...ลืมจริงๆด้วยอ่ะ!
(ตายละ!!...เย็นนี้หมอนัดตรวจขาของเราที่โรงพยาบาลนี่หว่า!?)
“นึกออกแล้วใช่มั้ยตัวเอง?”
“อะ...อือ”
“งั้นก็ไปกันได้”
“........................................................”
“หลังจากนั้นเราไปหาอะไรกินดีคะ?”
“ฝนก็ลองเสนอมานะ”
“อืม--...แวะร้านข้ามต้มใกล้ๆโรงพยาบาลก็ได้”
“ไม่ใช่ว่าฉันได้ไปเจอพี่เซคนะ?”
“จะบังเอิญขนาดนั้นหรือ?”
“ไม่รู้ละ!!...ฉันยิ่งไม่อยากเจออยู่”
“แต่บอลอย่าลืมนะว่าพี่เซคเป็นคนที่รักษาขาให้?”
“เพราะเผอิญเป็นหมอเวรต่างหากครับ”
“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก”
...ยังไงก็ตาม...ผมกับพี่เซคก็เปรียบเหมือนน้ำกับน้ำมันที่จะไม่มีวันเข้ากันได้อย่างแน่นอน...วางแผนการถึงขนาดนั้นแต่ไม่มีจะเอ่ยปากขอโทษกันเลยแม้แต่คำเดียวซึ่งมันผิดวิสัยของเราๆท่านๆใช่มั้ย?...
“เจ๊!...นั่นพี่เซคนี่?”
“จริงด้วย”
(ญาติสาวผู้พี่วัย 26 มาร้องโวยวายอะไรอยู่ตรงร้านอาหารใกล้ทางเข้าโรงพยาบาล!?)
“โธ่เอ๊ย~~...มีเยี่ยงอย่างที่ไหนมาไล่ลูกค้าฟะ?”
“แต่คุณหมอดื่มมากแล้วนะครับ”
“ทำไม?...กลัวฉันจะไม่มีเงินจ่ายงั้นเรอะ?”
“ผมไม่ได้กลัวว่าคุณหมอจะไม่มีเงินแต่คุณหมอกินมากแล้วก็เสียงดังขึ้นๆ...รบกวนลูกค้า...”
“พอที!!...ฉานเสียงดังใช่มั้ย?...จาชดเชยค่าเสียหายห้ายก็ได้!!...และฉานจะม่ายมาร้านนี้อีก...คอย...ดู!!!
“พี่เซค...นี่เกิดอะไรขึ้นคะ?”
“ว้าวน้องแคทจ๋า~~...คิดถึงพี่เลยมาหาเหรอ?...อุ๊ย!!...น้องฝนก็มาด้วย?”
“อุ!!...กลิ่นเหล้าหึ่งเลยค่ะ”
“แคท...บอกคุณน้า...ห้ายสั่งปิดร้านนี้ซ้า~~...มานกล้าล่ายลูกค้าเก่าแก่...อย่างพี่!!
“ทำได้ซะที่ไหนล่ะคะพี่เซคก็!!
“ฮื่อ~~...ขาดจาย...จริงเชียว...อื๋อ?”
(เห็นหน้าเราซะแล้ว)
“อุ!!...จาอ้วก~~
(ยัยผู้หญิงคนนี้มันเป็นบ้าอะไร?...เมาหัวราน้ำทั้งที่ตะวันยังไม่ทันจะตกดินแล้วคงไม่ใช่โดดเวลางานมาหรอกนะ!?)
“แก!...ผู้นำวิษณุมนตรีนิ?”
“?”
“ไหนปิดไอ้ร้านเฮงซวยนี่ให้ฉันดูหน่อยเซ่!!
“พูดบ้าอะไรครับ?”
“ไมอ่ะ?...ทำไม่ได้เรอะ?”
“ใครจะไปทำได้ครับ?...เรื่องบ้าๆบอๆ”
“เฮอ--...เพราะแกมันไม่ใช่ไง!!...ฮึๆๆ”
“ต่อให้ผมเป็นก็ไม่มีวันทำหรอก!!!
“อุ๊ก!!...อื๊ออออออ~~
“พี่เซคคะ!
“กินเข้าไปเยอะขนาดไหนเนี่ย?”
“ผมว่าพวกคุณรีบพาคุณหมอไปดีกว่าครับ”
“ขอโทษแทนพี่เซคด้วยนะคะส่วนเรื่องเงินเดี๋ยวฉันจะจัดการเอง”
“..................................................”
“...ท่าทางจะไม่พอ...ต้องไปกดเพิ่ม”
“ของฝนก็มีอยู่ไม่มากค่ะ”
“เอาเงินของผมออกไปก่อนก็ได้”
“แล้วกระเป๋าตังค์ของพี่เซคล่ะเจ๊?”
“ไม่มี...สักบาท”
“ฮ้า!!...แล้วมานั่งกินได้หน้าตาเฉยเนี่ยนะ?”
(แล้วปากเก่งบอกจะชดใช้ค่าเสียหายอีกด้วย!?)
“ปกติคุณหมอจะลงบัญชีร้านไว้แล้วสิ้นเดือนจะให้ลูกน้องมาจ่ายน่ะครับ”
(เออ!!...จะว่าไปบรรดาคนสนิทของเจ้าหล่อนหายไปไหนกันหมด?)
“วันก่อนๆค้างอยู่เท่าไหร่คะ?”
“ไม่มีครับ...เดือนนี้คุณหมอเพิ่งมากินที่นี่วันแรก”
...ให้มันได้แบบนี้ซี่!!...ผมตั้งใจจะเอาเงินไปซื้อของแต่ดันต้องมาจ่ายให้ผู้หญิงขี้เมาแถมไม่ชอบหน้าอย่างพี่เซคอีกแล้วจะไม่จ่ายก็ไม่ได้ด้วยนะเพราะพี่แคทออกปากไปแล้ว...ตอนนี้เธอกับฝนไปซื้อน้ำดื่มที่มินิมาร์ทฝั่งตรงข้ามถนนปล่อยให้ผมอยู่กับญาติสาวผู้พี่ตามลำพังซึ่งคิดว่าคงไม่มีอะไรแต่ที่ไหนได้...
“ฮึๆ...แกนี่มาช่วยฉันได้ทันเวลาพอดี”
“หา?”
(จู่ๆพี่เซคที่หลับคอพับก็ลืมตาตื่นพร้อม “สุริยะโลหิต” ที่แผดแสงเหมือนกับสีของดวงอาทิตย์ทางด้านหลังของเธอไม่มีผิด)
“งงหรือ?...ฉันเริ่มสร่างเมาตั้งแต่นั่งคู่มากับแกแล้ว”
“ทำได้ยังไง?”
“เพราะตะวันเลือดของฉันแต่แกไม่ต้องรู้หรอก”
“ผมก็ไม่ได้อยากจะรู้”
“แกมาทำอะไรที่นี่?”
“หมอนัดตรวจขา”
(ที่จริงเราน่าจะย้อนกลับมั่งว่าไม่จำเป็นต้องรู้แต่อย่าดีกว่า)
“ฮะ...ฮะๆๆๆ”
“ขำอะไรครับ?”
“มาเสียเที่ยวเปล่าๆน่ะสิ”
“?”
“ก็ในเมื่อขาแกหายสนิทดีแล้วยังจะต้องมาหาหมออีกทำไม?”
“รู้ดีจังนะครับ”
“ฉันก็เป็นหมอ...สังเกตการเดินก็รู้แล้ว...อย่ามาดูถูกกัน”
(ยังไม่มีใครคิดจะดูถูกเลย...แม่นี่พาลจริงๆ)
“ไม่ๆๆ...ฉันทนนั่งข้างแกไม่ไหวแล้ว”
...พูดจบพี่เซคก็เปิดประตูรถออกไปด้วยอาการเซเล็กน้อย...รึว่าที่ผมคิดไว้จะเป็นความจริงที่สุริยะโลหิตของหล่อนสามารถ “หักล้าง” ผลของสุราได้!?...
“ตอนนี้เงินฉันหมดแต่ไม่ต้องกังวลเพราะอีกสิบนาทีจะมีเงินเข้าบัญชีของแก”
“นี่พี่รู้เลขที่บัญชีของผมได้ยังไง?”
“ดูถูกกันอีกแล้ว...แกคิดว่าฉันเป็นใครหึ?”
“ก็แค่ผู้หญิงขี้เมาคนนึง”
“ปากดีนัก”
“เดี๋ยว”
“?”
พี่เซคเคยพูดว่าผมมันก็เปรียบเสมือนลูกไก่ในกำมือ...จะบีบก็ตายจะคลายก็รอดใช่มั้ย?”
ใช่...แล้วยังไง?”
แต่สำหรับผม...พี่ก็เป็นได้แค่กบที่กำลังเผชิญหน้ากับงูพิษเช่นผม...ไม่มีทางรอดนอกจากถูกฉกกัดจนตาย
“โฮ่!!
“.......................................................”
“แต่แกพูดผิดถนัดเพราะคนอย่างฉันไม่มีทางเป็นกบหรือตัวอะไรทั้งนั้น!!...งูพิษเหรอ?...ถูกฉกกัดจนตายเหรอ?...น่าขำไอ้เด็กอมมือ!!!...มีแต่ฉันจะจับแกถอนเขี้ยวออกแล้วตัดหัวตัดหางโยนทิ้งลงเหวลึกซะล่ะมากกว่า!!!!
“.......................................................”
“เอ๊ะ?...พี่เซคไปไหนล่ะ?”
“...ไปแล้ว”
“หืม?”
“ก็เดินล้วงกระเป๋าหัวเราะร่าอยู่ทางโน้นไงครับ”
“ใช่ๆ...พี่ก็ลืมไป”
“เหล้าเบียร์หรือของมึนเมาไม่มีผลกับพี่เซคจริงๆสินะคะ”
(แต่ไม่น่าเข้าไปยุ่งด้วยเล้ย!!)
.....................................................................................................................................................

“มาพบใครหรือคะ?”
“ศกุนตลา วิชานาถ”
“ไม่ทราบว่าได้นัดไว้หรือเปล่าคะ?”
“มิได้”
“งั้นขอชื่อคุณนะคะเพราะดิฉันจะได้แจ้งให้...”
“มิจำเป็นเพราะเราจะเข้าไปพบเดี๋ยวนี้!
!?
“นำทางเราซิ”
“ค่ะ...เชิญ...ทางนี้”
“.....................................................”
“หัว...หน้าคะ...มีแขกมาขอพบ”
“ใครหรือคะ?”
“.......................................................”
“ทำไมเงียบ?”
“.......................................................”
“ตายจริง!!!...เป็นอะไรไปนี่?”
“มิต้องกังวลดอกเธอเพียงแต่หลับไปเท่านั้น...อย่างน้อยก็จนกว่าการสนทนาจะเสร็จสิ้น”
!!!
“เราอยู่ตรงนี้”
“คุณ!?
“คงจะยังจำกันได้นะ?”
นี่!!...คุณเข้ามาในห้องดิฉันได้อย่างไรกันคะ?”
จะด้วยวิธีใดนั้นหาใช่ประเด็นสำคัญ...ที่เรามาในวันนี้ก็เพราะมีเรื่องเร่งด่วนจะสนทนากับเจ้า...ศกุนตลา
แต่ดิฉันไม่มีอะไรจะพูดด้วย...เชิญกลับไปซะเถอะค่ะ...คุณศรมุกดา
“...เสียดาย”
“?”
“หน้าตาก็สะสวยแต่มารยาทแย่...แขกผู้เดินทางไกลมาเยือนกลับออกปากไล่...เอกคเชนทร์ก็ช่างกระไรมาหลงผู้หญิงเช่นเจ้าจนหน้ามืดตามัวเสียได้”
“ถึงกับใช้คำว่าหลงจนหน้ามืดตามัว...จะไม่ว่ากันแรงเกินไปหน่อยหรือคะคุณหนู?”
“มิรุนแรงดอกเพราะเราคิดว่าคำนี้เหมาะสมกับเจ้า...อยากจะรู้คำตอบไหม?”
“น่าสนใจดี...ดิฉันคงต้องขอรับฟังแล้วล่ะค่ะว่าคุณหนูสี่ผู้สูงศักดิ์แห่งตระกูลวิษณุมนตรีรู้อะไรในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้และมองเห็นอะไรในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น”
“โฮ่?...เจ้านี่ช่างพูดจามิเบาเทียว...เช่นนี้กระมังท่านพี่สุรีย์พรรณจึงไว้ใจนักหนา?...ถูกต้อง!!...เรารู้แลมองเห็นอยู่”
“รู้เห็นอะไรคะ?”
“ก็เรื่องวุ่นวายของบุคคลทั้งสามที่มีเจ้า,ท่านพี่สุรีย์พรรณแลเอกคเชนทร์อย่างไรเล่า”
!?
“ทุกวันนี้ท่านพี่สุรีย์พรรณมีความทุกข์ใจก็เพราะเจ้าแย่งชิงชายอันเป็นที่รักของนาง”
“แย่งชิง...คำนี้ออกจะแรงไปหน่อยและทุกวันนี้น้องแคทก็อยู่ใกล้ชิดกับชายอันเป็นที่รักของเธอนะคะ”
“อยู่ใกล้แต่เจ้าก็หาปล่อยให้ทั้งสองได้ครองคู่กันอย่างแท้จริงไม่...เจ้ามิพูดแลมิกระทำอะไรเลยว่าจะยุติความสัมพันธ์หรือสานต่อทั้งที่เจ้ากับเอกคเชนทร์อยู่ห่างไกลกันเช่นนี้”
“ตรงไหนหรือคะคุณหนูสี่คิดว่าดิฉันไม่ปล่อย?”
“การที่เจ้าเอาแต่นิ่งเฉยมิพูดอะไรเลยนั่นคือการฉุดรั้ง”
“ดิฉันไม่จำเป็นจะต้องพูดหรือประกาศอะไรหรอกค่ะและก็ให้โอกาสพวกเขาไปแล้ว”
“...ตั้งแต่ต้นเจ้ารู้ดีว่าท่านพี่สุรีย์พรรณแลน้องนางหยาดฝนคิดอย่างไรกับเอกคเชนทร์?”
“ทีแรกดิฉันก็ไม่รู้น่ะค่ะ...ไม่เคยรู้เรื่องสัญญาในวัยเด็กของพวกเขาเลย”
“เมื่อรู้จึงให้โอกาส?”
“ค่ะ...ความรู้สึกของน้องแคทกับน้องฝนที่มีต่อบอลมีหรือที่ดิฉันจะมองไม่ออกแล้วดิฉันก็ไม่ใช่คนใจแคบหรือไร้เหตุผลจนไม่ลืมตามองสิ่งรอบตัวแต่น้องสาวดิฉันคงไม่คิดแบบนี้”
“สาวิตรี...หึ!...หาได้เกิดประโยชน์อะไรที่จะไปคุยกับนางนี่จึงเป็นเหตุผลที่เรามาพบเจ้าแล้วก็โอกาสที่เอ่ยเมื่อครู่...โอกาสที่เจ้าเฝ้าดูเงียบๆโดยมิแสดงออกให้ชัดเจนสักทีน่ะหรือ?...เจ้าคงจะสนุกมากสิ”
“ดิฉันไม่สนุกแต่มีความสุขค่ะคุณหนูสี่”
“ความสุขอะไรของเจ้า?”
“ที่ความคิดของดิฉันถูกต้องไงคะ...ทั้งสามคนรักใคร่กันดี”
“ฟังแล้วรู้สึกเจ้าช่างเป็นคนดีจริงนะ?”
“คุณหนูสี่ก็เหมือนกัน...ได้ยินว่าเป็นคนไม่ค่อยพูดจาแต่พอดิฉันได้สัมผัสแล้วคุณเองก็ช่างพูดนะคะ”
“ฮึๆ...เราเริ่มจะชอบเจ้าขึ้นมาแล้ว...ทำไมน่ะรึ?...เพราะน้อยคนนักที่จะกล้ายืนต่อปากต่อคำกับเราอย่างไรล่ะ!
“ยอมรับตรงๆเลยนะคะว่าดิฉันกลัวคุณหนูสี่แต่จะให้ถกกันเรื่องของความรักก็เป็นอีกเรื่อง”
“ว่าอย่างไรนะ?”
“เพราะคุณหนูสี่ยังอ่อนประสบการณ์ด้านความรักยังไงล่ะคะ”
“.....................................................”
“ฉะนั้นจะมาคุยเรื่องนี้กับดิฉันไม่ได้เพราะคุณหนูสี่ยังไม่เข้าใจ”
“.....................................................”
“ดิฉันพูดตรงไหนผิดไปหรือเปล่าคะ?”
“หึๆๆ...ศกุนตลาเอย...ผู้หญิงเช่นเจ้าจะทำให้เรารู้สึกสนุก...น่าสนุกต่อการค้นหา!!
!!!!
“เช่นนี้เอง”
“คุณ...เอาคืนมานะ!!!!
“เราแปลกใจยิ่งนักที่รูปของคนผู้นี้ยังอยู่ในห้องของเจ้า...ทำได้อย่างไรกัน?
“กรอบ...กรอบรูปที่วางไว้ลอยมาเข้ามือเองได้!?...คำร่ำลือนั่นเป็นความจริง!!!...คุณหนูศรมุกดา...คุณมี...”
“เจ้าพูดถูกต้อง...เรายังมิประสีประสาเรื่องความรักแต่เราก็หาได้ต้องการจะรับรู้มันไม่”
“ถือว่ามาไม่เสียเที่ยวนะคะ...ครั้งนี้คุณหนูสี่เป็นผู้ชนะแล้วอยากจะให้ผู้แพ้อย่างดิฉันทำอะไร?”
“จงพูดออกมาต่อหน้าเราว่าเจ้าจะจบปัญหานี้อย่างไร?...เรามิต้องการเห็นท่านพี่สุรีย์พรรณหรือใครๆต้องมาทนทุกข์ทรมานเพราะความมิกล้าตัดสินใจแลความเห็นแก่ตนของเจ้า!!!
“....................................................”
...............................................................................................................................................................

“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?”
“ล้มเหลว”
“เอ๋?”
“มีคนมาขวางเสียก่อนเราจึงรีบหนีออกมา”
“น่าเสียดาย”
“แต่เราจะกลับมาพบนางอีกอย่างแน่นอน”
“.....................................................”
“เราจะไปเดินเล่นแถวนี้สักพัก”
“ให้ไหมไปด้วยนะเจ้าคะ”
“อย่าเห็นเราเป็นเด็กนักจะได้ไหม!!
“จะ...เจ้าค่ะ”
“.....................................................”
“ผมว่าคุณหนูสี่อารมณ์ไม่ดีแน่”
“มิต้องสงสัยเลย”
“คุณไหมครับ...คุณหนูไม่ให้เราไปด้วย”
“แต่มิได้ห้ามมิให้ตาม...คุณหนูหาได้รู้จักถนนหนทางในกรุงเทพฯไม่...เราตามไปห่างๆ”
“ครับ”
“.................................................”
“เฮ่ยมึงดูนั่น!?
“สุดยอดเลย!!!...กูจะเข้าไปทักดีมั้ยวะ?”
“มึงว่าถ้าถอดแว่นออกหล่อนจะสวยมะ?”
“ไม่น่าถามเลยให้โง่เลยนะมึง!!
“กูจะไปละ”
“เดี๋ยวน้องชาย!
!?
“นั่นคือเจ้านายอั๊วะ...อย่าเข้าไปรบกวนจะดีกว่านะ”
“....................................................”
“นะ?”
“คะ...ครับ”
“ดีมากน้องชาย”
“.....................................................”
“เชี่ย!!!...ลูกสาวเจ้าพ่อเหรอไงวะ?
“ชัวร์เลย...เกือบไปแล้วสิ!!
“แม่หนู...สนใจดูภาพหน่อยมั้ย?”
“?”
“หนูที่ใส่แว่นดำนั่นแหละ”
“เราหรือ?”
“ใช่แล้ว”
“ขายภาพรึ?”
“อื้อ!!...ภาพเก่าๆหายากทั้งนั้น...บางภาพเก่าแก่มากเชียวนะ”
“ที่พูดว่าเก่าแก่นั่น...นานสักเพียงใด?
“ไม่มีใครรู้หรอกแม่หนูว่าตั้งแต่เมื่อไหร่และใครวาดไว้แต่น้าเพิ่งได้มาเมื่อตอนต้นปี...ดูแล้วน่าจะได้ราคาดีเลยลงทุนใส่กรอบเอามาขาย”
“เป็นภาพวาดอะไร?
“ภาพวาดเทพบดีสามองค์แต่มีสองภาพนะแม่หนู...อันนี้คือภาพของอุษณรัศมีเทพบดีแห่งกาลเวลาที่แปรเปลี่ยนและสีตลรัศมีเทพบดีแห่งห้วงมิติที่ผกผัน”
“อืม...ส่วนอีกภาพ”
“นี่เป็นเทพบดีแห่งการหยั่งรู้...ราชหงส์สุรัมภา...เอ--...แต่ช้างตัวนี้น้าก็ไม่รู้นะ....สงสัยคนวาดจะวาดๆให้ดูสวยมั้ง?...ฮะๆๆ”
..............................................
“แม่หนูสนใจมั้ยล่ะ?...น้าคิดไม่แพงหรอก”
“ช่างน่าเสียดายนัก...ดวงตาของเราเวลานี้พร่าเลือนเหลือเกิน...มิอาจจะพินิจมองภาพของน้าได้”
!?
...................................................................................................................................

“ไงเพื่อน!!...ขายอะไรได้มั่ง?
“..............................................”
“เป็นอะไรไปวะ?”
“กู...ได้มา...สามหมื่น”
“ฮ้า!?...ขายอะไรวะได้ตั้งสามหมื่น?”
“ภาพวาดที่กูเพิ่งได้มาตอนต้นปีไง”
“อ๋อ!!...รูปเทพสามองค์น่ะเรอะ?...เฮ่ย!?...เอ็งตั้งไว้ภาพละห้าร้อยแต่ทำไมขายได้ราคางามขนาดนี้วะ?...แล้ว...แล้วคนซื้อเป็นใครล่ะ?”
“สาว...มหาลัย”
“เฮ่!!...เดี๋ยวนี้พวกนักศึกษาพกเงินเยอะขนาดนี้เชียว...รวยจังว่ะ!!!
“เธอหยิบปึกเงินส่งให้เลยนะทีแรกกูคิดว่าปลอมแต่เพิ่งไปใส่เครื่องตรวจเมื่อกี้...ของจริงทั้งปึก”
“ภาพสองบานนั้นดูเก่าแก่จริงแต่ราคาไม่น่าจะถึงสามหมื่น...ไม่รู้ว่ะ...กูก็ไม่มีความรู้เรื่องนี้”
“แต่มันอาจจะราคาสูงกว่านี้อีกก็ได้แม่หนูคนนั้นถึงควักเงินโดยไม่มีต่อราคาสักคำ...เอาเหอะ...แค่นี้กูก็พอใจละ”
........................................................................................................................................

“อยากให้เรื่องนี้จบมั้ยครับ?”
“...แกหมายความว่าอะไร?”
“ผมคิดว่าเราน่าจะเจรจากันด้วยสันติวิธี”
“ไม่ต้องมาพูดเยิ่นเย้อมาก...แกจะพูดอะไรก็พูดออกมา”
“เราจะไปหาที่เงียบๆคุยกันเพียงสองคน...ไม่มีใครอื่นอีก”
“ว่าไงนะ?”
“มาตกลงกันให้ชัดเจนไปเลยครับว่าสุดท้ายแล้วจุดยืนของเราสองคนจะไปอยู่ตรงไหนกันแน่?”
“................................................”
“พี่เซคกล้าหรือเปล่าล่ะ?”
“หึ!...หึๆๆ...คนอย่างแกน่ะเรอะจะหาญกล้ามาปากดีกับฉันถ้าไม่มีใครหนุนหลังให้?”
“ผมไม่ได้วางแผนกับใครทั้งนั้นแหละครับ...ลำพังคนเดียวล้วนๆ”
“................................................”
“จะว่าไงล่ะ?”
“ฉันขอคิดดูก่อน”
“ตามสะดวกเลยครับ”
“อีกสิบนาทีจะให้คำตอบ”
“หา?”
(เร็วขนาดนั้นเชียว!!!...ไอ้เราก็นึกว่าจะเป็นวันๆ)
“พี่กับฝนจะออกไปเรียนล่ะ”
“เฝ้าบ้านดีๆนะตัวเอง”
“อืม”
(แต่แกพูดผิดถนัดเพราะคนอย่างฉันไม่มีทางเป็นกบหรือตัวอะไรทั้งนั้น!!...งูพิษเหรอ?...ถูกฉกกัดจนตายเหรอ?...น่าขำไอ้เด็กอมมือ!!!...มีแต่ฉันจะจับแกถอนเขี้ยวออกแล้วตัดหัวตัดหางโยนทิ้งลงเหวลึกซะล่ะมากกว่า!!!!”)
...วันต่อมาผมคิดว่าตัดสินใจรอบคอบดีแล้วจึงติดต่อไปหาพี่เซคเพื่อนัดให้ออกมาเคลียร์ปัญหาทั้งหมดซะเพราะแบบนี้ไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่ายเลย...
TRRRRRRR
“ครับ”
“อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะไปที่บ้าน”
“พี่กล้ามาเหรอครับ?”
“หมายความว่ายังไง?”
“เพราะตอนนี้ผมอยู่บ้านคนเดียวนะ”
“ฮึไอ้นี่!!...อย่างแกจะมีปัญญาทำอะไรฉัน?...เมื่อใดที่แกคิดเล่นไม่ซื่อฉันรับรองว่าแกจะไม่มีไอ้ไก่น้อยไว้ขันอีกต่อไป!!!...ฉันจะช่วยศัลยกรรมตกแต่งให้อย่างดีแถมไม่คิดเงินด้วย”
(อึ๊ก!!)
“แล้วเจอกัน”
(นังโหดเอ๊ย!!)
“พ่อบอล”
“อ้าวป้า!?
“คิดถึงเลยมาหา”
“ผมก็เหมือนกันครับ”
“แหม!!...ไม่ต้องมาปากหวาน...เมื่อกี้ป้าได้ยินเสียงพ่อบอลคุยกับใคร?”
“ไม่ใช่ๆ...พี่เซคน่ะครับ”
“มีอะไรกันอีก?”
“เอ่อ...”
(อย่าเพิ่งบอกป้าเอ็มดีกว่ามั้ง)
“ป้าจะอยู่นานมั้ย?”
“ทำไม?...ตาหนูจะนัดสาวคนไหนมาอีกเหรอ?”
“ไม่ใช่สักหน่อยครับ...พี่เซคต่างหาก”
“เซค...จะมารึ?”
“ก็มีเรื่องคุยกันน่ะครับ”
“คุย?”
“เรื่องทั่วๆไปไม่มีอะไรสำคัญหรอก”
“อืม...”
“ถ้าเธอมาเห็นป้าอยู่กับผมตามลำพังก็อาจจะเข้าใจผิดกันไงครับ”
“เข้าใจล่ะ...งั้นป้าจะออกไปข้างนอกสักพัก”
“น่ารักมากครับ”
“จ้า~~
...จังหวะป้าเอ็มเดินผ่านไปผมอดใจไม่ไหวเอื้อมมือจับก้นทีนึงจนเธอหันมามองค้อนพลางเคาะนิ้วใส่แต่จากนั้นสาวใหญ่ก็เลิกกระโปรงขึ้นโชว์กางเกงในให้ผมตาลุกแล้วเดินยิ้มจากไป...
(หูย~~...เนื้อหนังมังสาขาวๆตัดกับกางเกงชั้นในสีดำสนิทมันช่างทำให้อารมณ์ปั่นป่วนจริงๆเล้ย!!...ถ้าไม่ติดว่าพี่เซคใกล้จะมาล่ะก็...ได้เสียแน่!!!)
...............................................................................................................................................

“อยู่บ้านคนเดียวรึ?”
“ใช่”
“..................................................”
“เชิญนั่งครับ”
“ไม่ดีกว่า”
“?”
“เกือบเที่ยงแล้ว...ฉันว่าเราออกไปหาอะไรกินกันและก็พูดคุยไปด้วย”
(จะมาไม้ไหนอีก?)
“ไปกับพี่น่ะเรอะ?”
“ทำไม?”
“พี่เซคคงไม่ได้คิดแผนชั่วร้ายอะไรอีกใช่มั้ย?”
“ฉันหิวจะแย่แล้วยังจะมีแก่ใจมาคิดแผนชั่วร้ายอย่างที่แกกำลังกลัวอยู่อีกหรือ?”
...แสบไปถึงในทรวง!!!...ทั้งประชดทั้งดูถูก...ก็เอาสิจะต้องกลัวอะไร?...มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ใช้แผนเดิมสองครั้งติดๆกันและพี่เซคก็ไม่ใช่คนประเภทนั้น...
(หล่อนอาจคิดว่าอยู่ในบ้านหลังนี้กับเราแค่สองคนคงไม่น่าไว้ใจล่ะมั้งถึงได้ชวนออกไปข้างนอก)
“ค่ะคุณแม่”
(ป้าเอ็มออกไปไม่ถึงห้านาทีพี่เซคก็มาถึง...เกือบไปแล้วสิ!?)
“คงไม่ล่ะค่ะ...หนูว่าจะไปกินร้านที่เคยไปคราวก่อน...ค่ะๆๆ”
“.................................................”
“อ้าว?”
“................................................”
“สตารท์ไม่ติด...เป็นอะไรอีกล่ะพ่อจ๋า?”
“รถเก่าขนาดนี้พี่ยังจะเอามาใช้อีกทำไม...แค่ซื้อใหม่สักคันไม่กระเทือนขนหน้าแข้งพี่หรอก”
“ไม่รู้อะไรอย่าพูด!!
“ก็ไม่รู้น่ะสิครับ”
“งั้นจงฟังเอาไว้...รถคันนี้เป็นของพ่อฉันและที่ฉันเรียนจนมาเป็นหมอได้ก็เพราะมัน”
(แต่เท่าที่รู้มาพี่ม่อนนั่งเบนซ์อีคลาสเชียวนะ...สรุปพี่น้องคู่นี้มันยังไงหว่า?)
“ติดซี่พ่อหนุ่ม!...โอเค~~
“.................................................”
“ไปเลย!!
(ดัทสันรุ่นคุณปู่โดยแท้...สมัยนี้ยังมีคนขับอยู่ก็นับว่าหายากเอาการ)
“โอ๊ววววววว...พี่...พี่ขับเร็วไปแล้ว!!!!
“ปกติสำหรับฉันเฟ้ย~~
“เมื่อกี้ยังติดๆดับๆอยู่ไม่ใช่เรอะ?”
“ฮ่าๆๆๆ...กลัวก็หลับตาไป...เจ้าขี้ขลาด!!
(ผู้หญิงคนนี้สุดขั้วจริงๆ...เปลี่ยนเกียร์เหยียบคันเร่งปั๊บๆเร่งความเร็วไปเกินร้อยวิ่งบนถนนที่มีรถอยู่ไม่ใช่น้อย...พี่เซคขับปาดออกขวาหุบเข้าซ้ายแซงรถคันแล้วคันเล่าอย่างแทบจะไม่ผ่อนคันเร่งเลย)
“ฮิๆๆๆๆ...แกไม่เคยขับแบบนี้ล่ะสิ?”
“ใครจะขับรถบ้าๆเถื่อนๆแบบพี่เซค”
“จะบ้าๆเถื่อนๆยิ่งกว่านี้ก็ได้”
“อย่านะพี่!!
“ไม่มีใครมาสั่งฉัน!!!
...ผมนั่งตัวแข็งเกร็งมือจับเข็มขัดนิรภัยแน่น...ไม่น่ามาด้วยเล้ย~~...อื๋อ?...รู้สึกเหมือนผมจะเห็นทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวช้าลงไปนะ!?...พี่เซคที่นั่งแสยะยิ้มก็ขยับปากพูดช้าลงรวมไปถึงการขยับเท้าเปลี่ยนเกียร์กับเหยียบคันเร่งจนไปถึงรถคันอื่นที่อะไรก็ช้าไปหมด...
“?”
“เป็นอะไรไปล่ะ?....อย่าบอกนะว่ากลัวจนฉี่ราดไปแล้ว?”
“........................................................”
(แต่มันแค่ชั่วขณะเท่านั้น...พอพี่เซคทักเราทุกอย่างก็กลับมาเป็นเช่นเดิม)
“เฮ่ย!?
“ครับ”
“วิญญาณหลุดจากร่างเรอะ?”
“เปล่านี่ครับ...ผมก็ปกติดี”
“โฮ่?”
“พูดจริงนะครับ...ผมว่าพี่เซคขับช้าไปนิดนึงด้วยซ้ำ”
“ไอ้...ไอ้นี่!!
“ไม่ใช่เรื่องยากเพียงแค่แปรเปลี่ยนให้การไหลในห้วงเวลาของฝ่ายตรงข้ามช้าลงเราก็จะสามารถมองได้ทัน”
(สะ...เสียงใคร?)
“แล้วก็เอาเวลาของที่ช้าลงนั้นมาผกผันเพื่อเพิ่มความเร็วให้กับเวลาของเราเท่านี้โอกาสชนะก็จะมาเยือน”
(เราหูฝาดไปเองหรือเปล่าเนี่ย?...ไม่น่านะ!?)
“..........................................................”
“แก...ไม่กลัวหรือไง?”
“ผมก็...บอกแล้วนี่ว่าพี่ต้องเร็วกว่านี้”
“ฮึ!!...แน่มาก”
“รู้แล้ว...คิดจะข่มขวัญให้ผมกลัวก่อนใช่มั้ยแล้วจากนั้นพี่ก็สามารถคุมทุกอย่างไว้ได้?”
“เก่งไม่เบาที่มองออก...ฮะๆๆ”
“แสบได้ทุกเวลาจริงๆ”
.....................................................................................................................................................

“ไม่นึกว่ารูปที่สมมติว่าเป็นของเราจะมีค่าเพียงเท่านั้น”
“มีค่าเพียงเท่านั้น”
“แล้วก็ไม่เหมือนเราเลยสักนิด”
“ไม่เหมือนเลยสักนิด”
“ท่านทั้งสองมีความยินดีนักหรือขอรับ?”
“?”
“?”
“การที่มานั่งเฝ้ามองราชหงส์สุรัมภาหลับใหลอยู่เช่นนี้ทุกเพลา”
“เพราะจะรอพญาหงส์ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นเราทั้งสอง”
“เห็นเราทั้งสองก่อนผู้ใด”
“แล้วพญาคชสารเช่นท่านเล่า...รูปนั้นพอใจหรือไม่?”
“พอใจหรือไม่?”
“ทุกสิ่งเป็นแค่นามสมมติ...ราชหงส์สุรัมภาก็เช่นเดียวกัน...นางหาได้มีรูปลักษณ์เช่นนั้นไม่”
“มนุษย์นั้นช่างเต็มเปี่ยมด้วยจินตนาการและความฝัน”
“เต็มเปี่ยมด้วยจินตนาการและความฝัน”
“ฉะนั้นเราจึงชอบมนุษย์”
“ชอบมนุษย์”
“ท่านล่ะชอบมนุษย์ไหม?”
“ชอบมนุษย์ไหม?”
“อย่าได้ถามอีกเลยขอรับเพราะข้าพเจ้าเคยตอบคำถามนี้ไปแล้ว”
“อย่างนั้นก็ไม่เหมือนราชหงส์สุรัมภา”
“ไม่เหมือนราชหงส์สุรัมภา”
“พญาหงส์นั้นเกลียดมนุษย์”
“ผู้เป็นใหญ่ในหมู่วิหคนั้นเกลียดมนุษย์”
.......................................................................................................................................................

“นี่...นี่ฝันไปใช่มั้ย?”
“..................................................”
“ก็...เมื่อครู่...เรายังอยู่ในร้านอาหารกันอยู่เลย”

...เข้าร้านอาหารสั่งเมนูมากินสามสี่อย่าง...พูดคุยแต่ไปๆมาๆเริ่มตกลงกันไม่รู้เรื่อง...รู้สึกตาพร่าเลือนแต่ยังทันเห็นพี่เซคหมดสติ...แล้ว...แล้วพอมารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่านอนอยู่ในห้องๆหนึ่ง?...
“อือออออออ”
“พี่เซค!!!
(เธออยู่ที่นี่ด้วยเรอะ?...แล้ว...ไม่ใช่ในสภาพปกติด้วย...หล่อนนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวหลับตานอนหงายอยู่ข้างๆเรา!?)
“................................................”
“นี่มันอะไรกัน?”
“..............................................”
“หมออะไรนุ่งกางเกงขาสั้นจู๋กับเสื้อแขนกุดมาทำงาน?”
“..............................................”
“...ยกทรงสีขาว...กับ”
“..............................................”
“กางเกงในจีสตริงสีดำ”
“..............................................”
“นี่คือสไตล์ของหล่อนเหรอ?”
“..............................................
“งั้นหมายความว่า...เวลานี้...พี่เซคก็...”
(ไม่สวมใส่อะไรเลย!!!)
“..............................................”
“แล้วที่นี่ก็ดูท่าจะเป็นม่านรูดที่ไหนสักแห่ง?...โทรศัพท์”
(ศิรึ?)
“นายท่านคะ...ตอนนี้ศิอยู่หน้าโรงแรม”
“หา!?
“นายท่านอยู่กับคุณหนูใหญ่”
“ธะ...เธอรู้ได้ไง?”
“ก็หนูเป็นคนพามาเองนี่คะ”
“อะไรนะ?”
“ร้านอาหารนั่นเป็นร้านที่คุณหนูใหญ่ชอบไปบ่อยๆหนูจึงส่งคนไปรอแล้วก็แอบเคลือบยานอนหลับที่ก้นแก้ว...พอใส่เครื่องดื่มลงไปยาก็ละลาย”
“วางยากระทั่งผมด้วยรึ?”
“แต่ของนายท่านไม่มากค่ะ”
“แบบนี้นี่เอง...แล้วเพื่ออะไร?”
“เพื่อให้นายท่านกับคุณหนูใหญ่ได้ลงเอยกันน่ะสิคะ”
“วะ...ว่าไงนะ?...เธอทำอะไรตามใจตัวเองได้ยังไงเนี่ย?”
“ศิไม่ได้ทำตามใจตัวเองนะคะ”
“อีกอย่างพี่เซคก็เป็นเจ้านายของเธอด้วย”
“ศิรู้ดีแต่ก็จะทำแบบนี้กับคุณหนูใหญ่ไม่ได้หาก...”
“ทำไม่ได้หาก...ระ...หรือว่า?”
“ถูกต้องค่ะ...นายหญิงเป็นผู้จัดการเองทั้งหมด”
...นึกสงสัยอยู่แล้วเชียว!!!...ป้าเอ็มรู้แต่แรกกว่าพี่เซคจะมาหาผมและเธอก็วางแผนการให้ลูกสาวของตัวเองตกมาอยู่ในเงื้อมมือ “ไอ้จระเข้น้ำเค็ม” อย่างผม...
“เหลือเกินจริงๆป้าเอ็ม”
“โอกาสแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้วนะคะ...ขออภัยที่ศิพูดอย่างนี้แต่หากถอยก็ไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้วล่ะคะ”
“..................................................”
“..................................................”
“จะให้เรา...รวบหัวรวบหางพี่เซค...ผู้หญิงร้ายกาจคนนี้เรอะ?”
(อึ๊ก!!)
“ไหนๆก็...ขอดูของลับแม่นี่หน่อยล่ะกัน”
(มือสั่น!?)
“อื๊อ!
“อึ๋ย!!
“...................................................”
“บ้าเอ๊ย~~...หลับแน่ป่าววะ?”
“...................................................”
“นี่!
“...................................................”
“ยัยผมแดงบ้าอำนาจ!!
(ดีดจมูกกับดึงแก้มก็ไม่มีการตอบสนอง...ท่าทางจะหลับลึกจริงๆ)
“...................................................”
“ถ้าไม่ตื่นมาผมจะเอาพี่แล้วนะ”
“...................................................”
“เตือนแล้วนะเว้ย!!
“...................................................”
“โอ้!!!...อู้หู~~...ทำไมขนน้อยจัง?...พะ...เพิ่งโกนหรือเปล่า?”
...อดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือมาถ่ายรูปพี่เซคผู้เย่อหยิ่งในสภาพเปลือยเปล่า...อย่างน้อยก็เก็บไว้ดูเพื่อความสะใจเล่นๆ(สำเร็จความใคร่ด้วย)...
“สุดยอด!!!...แค่เห็นก็ควยลุกแล้ว...ต้องเย็ดหีให้สาสมไปเลยแม่ผู้หญิงคนนี้...การกระทำที่ผ่านมาทั้งหมดของพี่...วันนี้ผมจะเอาคืนทบต้นทบดอกแล้ว!!!!
“..................................................”
“ไม่ต้องเล้าโลมไม่ต้องอะไรทั้งนั้น...ใส่แล้วกระเด้าให้แตกคารูก็พอ”
“..................................................”
“เอา...เอาล่ะนะ”
(แต่ในใจคิด...ยังจะทำอีกหรือ?...นี่คือการข่มขืนโดยเจ้าตัวไม่เต็มใจนะ!!...เราจะซ้ำรอยเดิมอย่างที่เคยทำกับแอมแฟนเก่าของเจ้าเชนงั้นเรอะ?)
“แต่พี่เซคทำแสบกับเรามาหลายครั้ง...ดูถูกเสียดสีก็นับไม่ถ้วน...ผู้หญิงคนนี้สมควรจะได้รับโทษแล้ว”
“อือออออ~~
“..................................................”
!!!!!!!
“..................................................
“ไอ้ทุเรศ!!!
“โอ๊ก!!!!
“ทำอะไรของแก?”
“อูย~~
“เอ๊ะ?...สะ...เสื้อผ้าฉัน...หายไปไหน?...แก!!!...แกจะข่มขืนฉันเรอะ?”
...พี่เซครู้สึกตอนไหนไม่รู้แต่ตอนนี้ผมรู้สึกจุกจนหน้ามืดเพราะถูกเข่าของเจ้าหล่อนตีไปที่กล่องดวงใจ!!!!...ญาติสาวผู้พี่ลุกพรวดยืนขึ้นแต่อาจด้วยฤทธิ์ยาทำให้ทรุดลงไปนั่งกุมหัวที่เตียงอีกครั้ง...
“จุก~~...โอ๊ย!!
“ฉันถูกวางยา...ในอาหารหรือนี่?”
“..................................................”
“โอ้ยปวดหัว~~...ไม่นึกว่า...จะมีวันที่ฉัน...โดนยานอนหลับซะเอง?...ไอ้เลว!!...แกบังอาจเกินไปแล้ว!!!
“ไม่...ไม่ใช่ผมนะ!!!
“แล้วจะเป็นหมาขี้เรื้อนตัวไหนวะ?...แก!!....แกไม่ได้รับอนุญาตให้มีชีวิตอยู่อีก...แกจะหายสาบสูญไปโดยไม่มีใครรู้ใครเห็น...อึ๊ก!...ไม่มีหลักฐาน...ระบุตัวตนไม่ได้...ไอ้สัตว์นรกเอาหนังมนุษย์มาห่ม...แก!!!!
“ก็บอกว่าไม่ใช่ไงเล่า...อีเวรนี่!!!!
“กล้าขึ้นเสียงใส่ฉันเรอะ?”
“เออ!!...รู้งี้กูไม่มัวเลียหีมึงให้เสียเวลาหรอก...ยัดควยเย็ดแม่งเลยดีกว่า”
(ที่จริงไม่ได้เลียหรอกแต่ด้วยความโมโหจึงโพล่งออกไป...ได้ผลแฮะ!?...พี่เซคสะดุ้งเฮือกเลย)
“อะไรนะ?...มะ...เมื่อกี้แกบอก”
“ใช่...กูเลียหีมึงจนน้ำเยิ้มหมดแล้วโว้ย!!
“ไอ้...ไอ้...ไอ้ชาติชั่ว!!!!...มึงกล้าดียังไง?”
“ฮึๆๆ...แล้วยังถ่ายรูปไว้ด้วย...นี่...ดูซะ!!!
!!!!!!!!!!
“ฮะๆๆๆๆ...ไงเห็นชัดหรือยัง?...นี่มันหีของใคร?”
(และก็โชคดีที่คว้ากล้องถ่ายไว้...แหม~~...ถือว่าเรายังรอบคอบน่ะนะ...เด็ดสุดๆโดยเฉพาะรูปที่เราเอานิ้วแหกแคมหีแล้วถ่ายเนื้อใน)
“เอา...เอามานี่นะ!!
“ฝันไปเหอะ!
“โอ๊ย!!
...โชคดีที่ถูกเข่าตีไม่แรงมากทำให้ผมหายจุกเร็วและจังหวะที่พี่เซคถลันมาจะแย่งมือถือก็ผลักเธอล้มกลับไปที่เตียง...การที่ญาติผู้พี่รู้สึกตัวได้เร็วคงเพราะ “สุริยะโลหิต” ในร่างกายแต่มันยังไม่ช่วยให้ฤทธิ์ยานอนหลับหมดสิ้นไปโดยสมบูรณ์...จริงๆซะด้วย...พี่เซคยังเรี่ยวแรงไม่กลับคืนมาทั้งหมดฉะนั้นจึงไม่มีทางขัดขืนได้...ผมจัดแจงบังคับให้หญิงสาววัย 26 อยู่ในท่าโก้งโค้ง...
(หูยๆๆ...ท่านี้น่าเสียบฉิบหา-)
“ฮึ่ม!!!...ฉันไม่ให้อภัยแกแน่”
“ยังจะปากเก่งอีกเรอะ?”
“ปล่อย~~...อย่าแตะเนื้อต้องตัวฉัน!!!!
“โธ่ๆๆๆ...นึกว่าอยากแตะตายละ...แม่คนเนื้อทอง”
“แล้วเมื่อกี้แก...จะเย็ดฉันทำไม?”
“อ๋อ!...เผอิญที่นี่ไม่มีบริการหาผู้หญิงให้และก็มีพี่แค่คนเดียวที่พอจะแก้ขัดได้”
“ไอ้สัตว์นรก!!...ไอ้เลว!!...อั๊ก!!!
“อย่าปากดีให้มันมากนัก...ตอนนี้พี่เป็นกบที่อยู่ตรงหน้างูพิษอย่างผมแล้วนะรู้ตัวมั้ย?”
“..................................................”
“ฮืม--...ดูๆไปพี่เซคก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย?”
“ผู้ชายหน้าตัวเมียที่ดีแต่รังแกเอาเปรียบผู้หญิงอย่างแก...จะเอายังไงก็ว่ามา!!!
“อย่ามาสามหาวกับผม!!
“โอ๊ย!
“ท่าสวย...น่าถ่ายไว้อีกสักรูป”
“ไม่มีแรงเลย...มันต้องเป็นยา...นั้นแน่...คนที่มีไว้ก็...ลบ...ลบรูปนั่นซะ”
“ว่าไงนะ?”
“ลบรูปฉันออกไป!!
“แล้วพี่จะเอาอะไรมาแลกเปลี่ยน?...ผมว่าค่าตอบแทนกับความหยิ่งผยองของพี่น่ะแพงมากเชียวนะครับ”
“กรอด!!!...ไอ้สารเลว”
“เอ้า!!...ว่าไง?”
“ฉัน...ฉันให้แกเย็ดก็ได้”
!!!!
“แต่...แต่แกต้องลบรูปนั่นออกก่อน”
“หึ!!...คิดว่าผมโง่งั้นเหรอ?”
...ลบออกง่ายๆก็หมาน่ะสิคุณ!!!...ผมเดินถือโทรศัพท์ไปให้ญาติสาวผู้พี่ดูใกล้ๆแล้วกดเลื่อนรูปภาพเปลือยอล่างฉ่างของหล่อนดู...พี่เซคผวาจะเอื้อมมือมาแย่งแต่ไม่ได้ผล...สะใจจริงๆที่ได้เห็นสภาพหมดหนทางและความพยายามที่สูญเปล่าของเธอ...
“โฮ่~~...อับจนหนทางถึงขนาดจะเสนอให้เย็ดหีเพื่อแลกกับที่ผมลบรูปออกเชียวหรือครับ?”
“...............................................”
“ผู้หญิงร้ายกาจอย่างพี่นึกรึว่าผมจะปล่อยไปง่ายๆ?...นอกจากไม่ลบแล้วผมยังจะถ่ายคลิปตอนเอากับพี่ไว้ดูเล่นด้วย”
“อย่า...อย่านะ!!!!
“อยากรู้ว่าจะเด็ดสักแค่ไหน?...ฮ่าๆๆๆ”
“ไม่มมมมมมมม”
!!!!!!!!!!!
...เมื่อกี้มันอะไร?...ทำไมร่างของผมตกมาอยู่ที่พื้นได้!?...ราวกับมีแรงผลักบางอย่าง...พี่เซคลุกยืนขึ้นอีกครั้งแล้วก้าวลงจากเตียงมายืนตรงหน้าพลางมองเขม็งด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้น...
“คงจะไม่คิดว่าฉันเป็นคนธรรมดาหรอกนะ?”
“อะ...อะ”
“แม้จะไม่ได้ฝึกฝนเหมือนม่อนแต่ฉันก็มีพลังจิตอยู่ในตัวและต้องขอบใจแกที่ช่วยปลุกให้มันตื่นขึ้นมา”
(น่ากลัว!!!!)
“วันนี้แกตายอย่างทุเรศแน่!!!...อื๋อ?”
!?
“ทำไม...พลังจิตของฉัน?”
(ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่มือพี่เซคสั่นจนสังเกตได้)
“โธ่เว้ย!!!...ไม่ได้ดังใจ”
(อะไรก็ไม่รู้แต่อาศัยที่ญาติสาวผู้พี่กำลังทำอะไรไม่ถูกนี่แหละรีบหนีดีกว่า)
“ฉัน...ไม่มีทางลืม...ความอับอายที่ได้รับในครั้งนี้...แกจะต้องชดใช้!!!!...กรอดดดดดด”
..........................................................................................................................................................

“ทำไมถึงล้มเหลวล่ะตาหนู?”
“คือผม...พี่เซคตื่นเร็วเกิน”
“นั่นไม่ใช่ข้ออ้างเลยนะ!!...โธ่~~...ป้าหรืออุตส่าห์เปิดทางให้...ตอนนี้ยัยเซคคงระวังตัวแจไม่มีโอกาสอีกแล้ว!!
“................................................”
...ป้าเอ็มไม่เข้าใจหรือไม่ทันฉุกคิดหรอกว่าอดีตผมเคยกระทำการที่ “ไม่สมควรอย่างยิ่ง” กับลูกผู้หญิงไปและมันก็เป็น “ตราบาป” ที่คอยย้ำเตือนตลอด...ดีแล้วล่ะที่ผมไม่ได้ทำอะไรกับพี่เซคเมื่อกี้ต่อให้เธอร้ายมากแค่ไหนก็ตาม...
“นายท่านจะไปไหนต่อคะ...กลับบ้านหรือเปล่า?”
“................................................”
“นายท่าน”
“อืม--...ยังไม่กลับหรอก...ตอนนี้พี่เซคจะส่งใครไปดักรอทำร้ายฉันหรือเปล่าก็ไม่...”
“ไม่ค่ะ...คุณหนูใหญ่ออกจากโรงแรมก็ไปบ้านเลยและไม่ส่งใครไปแน่นอน”
“เหรอ?”
“ศิเองก็ไม่รู้ว่าทำไมนายท่านจึงไม่ทำคุณหนูใหญ่แต่ก็น่ายกย่องนะคะ?”
“อ่า--”
“ถ้ายังไง...ไปกับศิก่อนมั้ยคะ?”
“หือ?”
“ไหนๆนายท่านก็ยังไม่กลับบ้านและศิก็ว่างถึงตอนเย็น...ไม่สู้เราไปหาที่สักที่...”
“ก็...ก็ได้”
“เดี๋ยวศิจะทำให้นายท่านสบายใจเองค่ะ”
“สบายใจอย่างเดียวรึ?...สบายตัวด้วยสิ”
“แหม~~
“ฮะๆๆ”
(ก็ดีเหมือนกัน)
“ใกล้ๆนี่รู้สึกจะมีโรงแรมอยู่...นั่นไงคะ”
...เมื่อผมกับศิความคิดตรงกันก็ไม่จำเป็นต้องพูดมากและกว่าเราสองคนจะออกจากโรงแรมก็ปาไปเกือบสี่โมงเย็น...
......................................................................................................................................................

...รุ่งเช้าของวันต่อมา...

“ท่านพี่”
“................................................”
“กลับมาแล้วเจ้าค่ะ”
“อืม”
“?”
“เที่ยวสนุกมั้ย?”
“เจ้าค่ะ”
“ดีแล้วๆ”
“เสียง...ของท่านพี่เปลี่ยน?...สุริยะโลหิต!?...ท่านพี่กำลังโกรธเคืองใครเจ้าคะ?...น้องหรือเปล่า?”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ”
!?
“คิดมากไปได้น้องรัก...พี่โกรธใครซะที่ไหนเล่า?...ฮึๆๆๆ”
“..................................................”
“ไปนอนก่อนนะ...ทั้งคืนพี่ไม่ได้หลับเลยสักนิด”
“มะ...มิได้หลับหรือเจ้าคะ?”
“อย่าห่วงเลย”
“..................................................”
“ฉันไม่ลืมแน่ความอัปยศในครั้งนี้...จะเอาคืนให้นับสิบเท่าร้อยเท่า...ให้มันต้องเจ็บปวดทรมานที่สุดชนิดที่มันรู้สึกว่าไม่สมควรจะเกิดมาให้อายผู้คน!!!!
“เอ๊ะ!?...ท่านพี่!!!
“..................................................”
!?
“ฮิๆ...ฮิๆๆๆ”
“..................................................”
“คุณหนูใหญ่มิได้อยู่ในภาวะเช่นนี้มานานมาก...เธอ...มานี่ซิ”
“คุณไหมมีสิ่งใดให้หนูรับใช้เจ้าคะ?”
“เปล่า...ฉันเพียงอยากรู้ว่าคุณหนูใหญ่เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร?”
“คือ”
“มิต้องกลัวดอก...เกิดอะไรขึ้นให้พูดออกมาต่อหน้าคุณหนูรอง...อย่าได้ปิดบัง”
“.................................................”
“หนูเองก็มิทราบว่าเกิดอะไรขึ้นแต่คุณหนูใหญ่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวนั้นมาตั้งแต่เย็นวานแล้วเจ้าค่ะ”
“เย็นวานรึ?”
“เจ้าค่ะ...อาหารเย็นก็มิได้ทาน”
“ดื่มสุรา?”
“มิได้เจ้าค่ะ...คุณหนูใหญ่หาได้แตะสุราแม้สักหยดไม่”
“แปลกมาก”
“แล้วสุริยะโลหิตเล่า?”
“รู้สึกจะเป็นเช่นนั้นตั้งแต่กลับเข้าบ้านเจ้าค่ะ”
“เมื่อวานหรือ?...เอาล่ะ...เธอไปทำงานต่อเถิด”
“เจ้าค่ะ”
“สุริยะโลหิตของท่านพี่มิได้ลุกโชติช่วงข้ามวันข้ามคืนมานานโขนัก...ผู้ที่หาญกล้าจุดเพลิงพิโรธนั้นมันเป็นใคร?
“เรื่องนี้จะต้องกระจ่างเจ้าค่ะ...ให้เป็นหน้าที่ของไหมเอง”
“....................................................”
...................................................................................................................................

“นายเป็นบ้าอะไรจู่ก็จะให้ฉันสอนเขี้ยวพยัคฆ์?”
“เอาเหอะน่า--...สอนให้หน่อย”
“ขอกันง่ายๆแบบนี้เลยเรอะ?”
“แล้วฉันต้องทำไง?”
“แต่งงานกับฉันสิ...หึๆๆๆ...พรุ่งนี้เลยมะ?”
“เธอก็พูดไปเรื่อย~~...ของอย่างนี้มันทำได้ง่ายๆซะที่ไหน?”
“พูดออกมาเองนะ”
“?”
“ก็เหมือนกันไง...คิดว่าสอนแล้วนายจะเป็นได้เลยในวันสองวันรึ?”
“.......................................................”
ฉันขอบอกตรงๆนะว่านายไม่จำเป็นต้องฝึกอะไรแบบนี้...นายทำหน้าที่เป็นสามีของฉันกับเลี้ยงลูกก็พอ
อ๋อมพูดอย่างนี้ทำร้ายจิตใจฉันมากเลยนะ
แต่นายต้องฟังและยอมรับ...เขี้ยวพยัคฆ์มีผลข้างเคียงที่อันตรายซึ่งถ้าไม่จำเป็นจริงๆฉันก็จะไม่ใช้
“ผลข้างเคียง?”
“พละกำลังไง...มันต้องใช้กำลังจากทุกส่วนในร่างกาย...ไม่อยากจะพูดหรอกว่าถ้าฉันใช้เต็มที่จริงๆอานุภาพของเขี้ยวพยัคฆ์จะเหนือกว่าอัญเชิญยมทูตหรือบาทามรณะแต่เวลาสู้จริงไม่ได้มีเวลารวบรวมกำลังขนาดนั้น”
“.......................................................”
“นายลืมเถอะน่ะ”
“อ๋อม!!
“แล้วถ้านายจะให้สุรีย์พรรณหรือหยาดฝนสอนก็ขอบอกเลยว่าคำตอบจะเป็นอย่างเดียวกับฉัน”
(โธ่!!...อย่างน้อยก็อยากมีอะไรติดตัวไว้ให้อุ่นใจมั่งนี่นา)
“...มิได้เรื่อง”
“หือ?”
(เสียงใคร?)
..........................................................................................................................................

ตัวอย่างในตอนหน้า...ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 93 “Angels Eye!?

“เห็นมีดในกล่องแล้วใช่มั้ย?”
“หมายความอะไรไม่ทราบครับ?”
“มี 2 วิธีให้แกเลือก...เอามีดเฉือนไอ้หนอนสกปรกทิ้งแล้วก็ไปแปลงเพศซะกับเชือดคอตายไปเลยไง!!!!
...............................................
“เฮ่ย!?...ใครขโมยโซ่รถกูวะ?”
“ลมยางก็โดนปล่อยรั่วหมด...แล้วมึงจะกลับบ้านยังไง?”
“แต่ก่อนอื่นเลยกูอยากรู้ว่าไอ้บ้าตัวไหนมันทำ?”
...............................................
“แหม~~...อยากดูฉันแก้ผ้าก็ไม่บอกซะตั้งแต่แรก...ที่ส่งไปให้แกดูเป็นภาพโป๊สุดอล่างฉ่างของฉันเลยนะ”
(ผะ...ผู้หญิงคนนี้บ้าหรือเมากันแน่ที่ส่งอัลบั้มรูปเปลือยของตัวเองมาให้เราชนิดว่าเผยจุดอ่อนอย่างเต็มที่!?)
“รูปในมือถือนั่นมันกระจอกเกินไป...ไม่มีประโยชน์หรอกถ้าแกจะเอามาเล่นงานฉัน...ไอ้หน้าโง่!!!
.....................................................................................................................................