หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 93



ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 93 “Angels Eye!?

...ตามตำนานที่เล่าขานตั้งแต่อดีตเมื่อนานแสนนานมาแล้วปรากฏนามของเทพบดี 2 องค์ที่เป็นปรปักษ์ต่อกันเพียงเพราะต่างถือตนว่าเป็นเลิศกว่าอีกฝ่าย...
(“หญ้าแพรกอย่างพวกเราจะแหลกลาญกันหมด”
“องค์อชินีสุราลัยและองค์ราชหงส์สุรัมภาสู้กันมาเกือบห้าปีสวรรค์(เก้าหมื่นปีมนุษย์)แล้วยังไม่หยุด...เสียง...เสียงร้องดังเหลือเกิน”
“เสียงคำรามขององค์อชินีสุราลัยช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก...สัตว์ป่าน้อยใหญ่แตกตื่นพากันหนีเอาตัวรอดหมดแล้ว”
“ทาง...ทางนี้ก็เสียงร้องขององค์ราชหงส์สุรัมภา...น่าพรั่นพรึงไม่แพ้กัน...ปานแผ่นฟ้าจะถล่มลงมาเลย”
“ตรงนั้น!!
!?
“พยัคฆ์ที่มีร่างสีทอง”
“แล้วก็...”
“หงส์ที่มีกายสีเงิน”
“หยุดสู้กันแล้ว”
“หมดแรงบินแล้วหรือยังไงถึงลงมา?”...พญาหงส์”
“...ข้าเบื่อหน่าย”
“หา?”
“เบื่อหน่ายที่จะสู้กับเจ้าแล้ว...นางพยัคฆ์...ตลอดเวลาห้าปีทั้งเจ้าแลข้าหาได้ถูกพระเวทย์ของอีกฝ่ายโจมตีไม่...เปล่าประโยชน์”
“แต่ข้าไม่เบื่อและไม่รู้สึกว่าเปล่าประโยชน์”
“เจ้าหมดแรงแล้ว...อชินีสุราลัย”
“ฮึ!!...เจ้าก็เหมือนกัน...ราชหงส์สุรัมภา”
“ข้าจะมิสู้กับเจ้าอีกต่อไป”
“อะไรนะ?”
“ข้าต้องการเข้าสู่การนิทรา”
“อย่างนั้นเจ้าจงยอมรับว่าข้าเหนือกว่าแล้วข้าจะยอมหยุดเพียงเท่านี้”
“ย่อมได้...ข้ายอมรับ...พอใจหรือยัง?”
“ไม่!!!
“หยุดเถิด...ข้ายอมรับแล้วว่าเจ้าเหนือกว่าแลยังจะต้องการอะไรอีก?”
“เพราะเจ้าไม่มีความจริงใจ”
“สุดแท้แต่จะคิดเถิด”
“เจ้า...กลายร่างเป็นเทพบดีทำไม?...อั๊ก!!...นี่...นี่มัน?”
“...................................................”
“ราชหงส์สุรัมภา...ที่แท้เจ้ายังเหลือพระเวทย์มากขนาดนี้เชียวหรือ?...ปล่อย...ปล่อยข้านะ!!!
“ทว่าพระเวทย์ของเจ้าหมดไปแล้ว...ขัดขืนมิได้ดอก...อชินีสุราลัยเอ๋ย~~
“กรอด!!...หลอกลวง!!!...เสแสร้งยอมรับว่าข้าเหนือกว่ารึ?...โกหกทั้งเพ!!!!
“หุบปาก...ข้าจะนอน”
“นั่นเจ้า!!...เจ้าคายพระเวทย์ทำไมกัน?...หรือว่า...เจ้าคิดจะสูญสลายไป!?
“ถูกต้อง”
“ขลาดเขลา!!!...คิดว่านอนหลับแล้วจะหลีกหนีได้เหรอ?...ข้าจะปลุกให้เจ้าตื่นขึ้นมาสู้กันอีกจนกว่าจะรู้ผลแพ้ชนะ”
“เช่นนั้นเจ้าจงไปท้าประลองกับหัสดินเทวนาถเถิด”
“ว่าไงนะ?”
“หากเจ้ามีชัยเหนือพญาคชสารผู้นั้นได้ก็หมายความว่าเจ้าสามารถสยบพญาหงส์ผู้นี้ได้เช่นกัน”
“ข้าไม่สนใครอื่น...เจ้าเท่านั้นที่ข้าถือเป็นคู่ต่อกร”
“ช่วยเป็นธุระให้ด้วยเถิด...ทวิเทพ”
“เข้าใจแล้ว”
“เข้าใจแล้ว”
“อุษณรัศมี...สีตลรัศมี...นี่ไม่ใช่เรื่องของพวกเจ้า...อย่ามายุ่งเกี่ยว!!!
“ข้าจะเข้าสู่การหลับใหล ณ ที่แห่งนี้แลมิลืมตาตื่นขึ้นมาอีก”
“ราชหงส์สุรัมภา...มันจะไม่จบเพียงเท่านี้หรอก”
“แต่ท่านน่ะจบแล้ว”
“ท่านจบแล้วนะ”
“จะ...เจ้าแฝดคู่นี้!!
“ตราบใดที่อุษณรัศมีผู้นี้ยังอยู่...ไม่มีใครจะมารบกวนการนอนหลับของท่านได้”
“ตราบใดที่สีตลรัศมีผู้นี้ยังอยู่...จงเข้าสู่การหลับใหลอย่างสบายเถอะ...พญาหงส์”)
“โธ่เว้ย!!!
“หนวกหูจริง”
“วสันตะนุจรินทร์”
“หลับแล้วฝันอะไรเหลวไหลแน่ๆ”
“หุบปาก!!
“หยุดซะทีเถอะ”
“พี่รีย์...สหายพี่พาลกับหนู”
“เจ้าฝันถึงเรื่องนั้นอีกแล้วหรือ?...อชินีสุราลัย”
“...อืม”
“ฮื่อ~~...จะอะไรกันนัก?...เวลานี้ราชหงส์สุรัมภาสู้ใครไม่ได้อีกและพระเวทย์ของนางก็จวนจะหมดสิ้นเต็มที”
“ข้าไม่เชื่อว่านางจะสูญสลายไป...มันต้องมีบางอย่างแอบแฝง!!...เจ้าไม่สังเกตเจ้าสองเทพแฝดนั่นหรือยังไง?...สหายจะสูญสิ้นแต่กลับไม่รู้สึกยินดียินร้ายสักนิดซ้ำยัง...”
“อะไร?”
“เปล่า”
“จะไปไหน?...เจ้าเพิ่งพ้นโทษออกมานะ”
“ข้าไม่ทำอะไรวู่วามหรอก...หัดเชื่อใจสหายของเจ้าบ้าง...สุริยนนุจรินทร์”
“...................................................”
..............................................................................................................................................

“บอล...อาจารย์เรียกแน่ะ”
“เออ”
“เอกคเชนทร์”
“ครับผม”
“มีคนฝากซองนี่มาให้เธอ”
“ใครครับ?”
“อาจารย์ก็ไม่รู้...ลุงยามเขามาส่งให้อีกที”
(มันคืออะไรหว่า?)
“กุญแจ?”
“น่าจะเป็นของตู้เช่าไปรษณีย์ในมหาวิทยาลัยนี่นะ...อาจารย์เคยเห็น”
(แล้วใครเอากุญแจนี่มาแล้วเอามาให้เราทำไม?)
“ไปไหนวะเพื่อน?”
“ไปรษณีย์ว่ะ”
“อาจารย์จะมาแล้วนะเว้ย!?
“เออน่ะ!...ฝากบอกด้วย”
(ตอนนี้ความอยากรู้อยากเห็นมันมีมากกว่าชั่วโมงเรียนแล้ว)
“อืม--...ช่องที่ 44”
“.................................................”
“ได้ล่ะ...กล่อง?”
(คงไม่ได้มีระเบิดใส่ไว้หรอกนะ)
“...ไม่เห็นมีอะไรเลย...กล่องเปล่าๆ”
(โดนแกล้งป่าว?...อ๊ะ!!...มีกระดาษอีกแล้ว)
“หันหลังไปแล้วจะมีกล่องวางไว้บนม้านั่ง...บ๊ะ!!...คิดว่าเป็นใครกันถึงมาสั่ง?”
(แต่มันมีกล่องวางอยู่จริงๆ)
“..................................................”
“ถ้าเล่นตลกกันล่ะน่าดู...เอ้ย!!...มีด...หรือเปล่า?”
(ทำไมมันเล็กจัง?)
“ฮัลโหล...พี่เซค?”
(เงียบหายไปหลายวันโผล่มาแล้วไง)
“พี่ส่งมาเองเหรอ?”
“ใช่”
“....................................................”
เห็นมีดในกล่องแล้วใช่มั้ย?”
หมายความว่าอะไรไม่ทราบครับ?”
มี 2 วิธีให้แกเลือก...เอามีดเฉือนไอ้หนอนสกปรกทิ้งแล้วก็ไปแปลงเพศซะกับเชือดคอตายไปเลยไง!!!!
“นี่พี่!!...ผมไม่มีเวลามาล้อเล่นด้วยหรอกนะ...กะอีแค่มีดเล่มเดียวจะทำให้กลัวรึ?...ฝันไปเถอะ!!!
...ผมชิงตัดบทวางสายเพราะไม่อยากฟังเสียงผู้หญิงร้ายกาจคนนี้อีก...ไอ้กล่องบ้าพวกนี้จะเอาทิ้งลงขยะให้หมดเชียว!!...ใช่...ผมตั้งใจจะทำอย่างนั้นแต่เกิดสะดุดกับข้างในของกล่องแรกด้านหนึ่งที่ดูหนากว่าปกติ...
“ไม่รู้สึกไปเองมั้ง?...นั่นไง!!...มีอะไรซ่อนอยู่?”
(คล้ายจะเป็นหนังสือแต่อยู่ในซองพลาสติคสีดำเลยไม่รู้ว่าคืออะไร)
“สมุด...หัดคัดลายมือ...อีหมอบ้า!!!...มันหลอกด่าเราเป็นเด็กอนุ...เอ้ย!!!!
“....................................................”
“....................................................”
“ไอ้เชน!!...กู...กูไม่สบาย!!!...ช่วยบอกอาจารย์ว่ากูขอลากลับบ้าน”
“ทำไมมึงไม่บอกเองเล่า?”
“เหอะน่า!!!...กูกำลัง...ไม่สบายมากๆ...แค่นี้นะ!!
“อ้าวเฮ้ย!?
“ไม่เข้ารงเข้าเรียนแล้ว!!!...นี่พี่เซคคิดจะทำอะไรกันแน่?”
(ถึงได้ส่งรูปนู้ดของตัวเองมาให้เรา!!!!...แม่คุณเอ้ย~~...แรกๆหล่อนนุ่งชุดชั้นในแต่หลังๆเปลื้องผ้าหมดจด...เห็นแคมเห็นเนื้อในชัดแจ๋วแถมโพสแต่ล่ะท่านางแบบมืออาชีพยังต้องอายเลย!!!!!)
.................................................................................................................................

(“แหม~~...อยากดูฉันแก้ผ้าก็ไม่บอกซะตั้งแต่แรก...ที่ส่งไปให้แกดูเป็นภาพโป๊สุดอล่างฉ่างของฉันเลยนะ”
(ผะ...ผู้หญิงคนนี้บ้าหรือเมากันแน่ที่ส่งอัลบั้มรูปเปลือยของตัวเองมาให้เราชนิดว่าเผยจุดอ่อนอย่างเต็มที่!?)
“รูปในมือถือนั่นมันกระจอกเกินไป...ไม่มีประโยชน์หรอกถ้าแกจะเอามาเล่นงานฉัน...ไอ้หน้าโง่!!!”)
“เออโง่!!!...แต่ไอ้โง่คนนี้แหละกำลังทำให้คนฉลาดอย่างเธอแปดเปื้อนอยู่นี่ไงโว้ย!!!!...ซีดสสสสสสสสส”
(ด้วยรูปญาติสาวผู้พี่สวมเสื้อกาวส์นอนตะแคงโชว์หน้าอกท่อนล่างเปลือยเปล่านี่แหละ)
“อาาาาาาาา”
(มั่นใจตัวเองดีนัก...ฮึ่ย!!!...แต่มั่นใจมากเกินไประวังจะสะดุดล้มไม่เป็นท่า)
“อุ...โออออออออออออออออ...แตกแล้วววววววววว”
(ออกเยอะมาก...ไม่รู้ว่านานๆทีชักว่าวหรือเพราะนางแบบเป็นผู้หญิงจอมหยิ่งอย่างพี่เซค)
...สะใจอย่างบอกไม่ถูก...รู้สึกราวกับตัวเองได้ครองโลกใบนี้...ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่มาเยือนอย่างไม่คาดคิด...มีแต่คนสติไม่ดีเท่านั้นที่จะทำอย่างพี่เซคที่หยิบยื่น “จุดอ่อน” ของตัวเองให้ศัตรู...
“แต่แค่นี้ยังไม่สาสมหรอก...รอให้ไอ้น้องฟื้นตัวซะก่อนแล้วจะเล่นต่อ”
(ยกต่อไปสนุกกับรูปพี่เซคใส่เสื้อเชิ้ตขาวนอนแหกหีเอานิ้วเขี่ยติ่งดีกว่า...เห็นแล้วโคตรเงี่ยนมากมาย)
“หะ...หายไปไหน?”
(ก็ก่อนจะเข้าห้องน้ำเราวางไว้ตรงนี้นี่!?)
“ไม่เจอ”
“...............................................”
“ไม่มี”
“...............................................”
“เฮ้ย!?...จะหายไปได้ไงก็เมื่อกี้วางไว้บนเตียงกับมือนี่หว่า?”
“...............................................”
(หือ?)
“...............................................”
“คุณไหม!?”
“ต่ำช้า!!
“หา?”
“ใช้รูปคุณหนูใหญ่มาเป็นเครื่องมือสำเร็จความใคร่...คุณช่างเป็นคนต่ำช้าที่สุด!!!...ดิฉันรู้สึกผิดหวังจริงๆ”
(สาวคนสนิทของพี่เซคเข้ามาในห้องเราตั้งแต่เมื่อไหร่?)
“ฮึ!!...มันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญมากเลยนะครับ...ผู้ชายที่ไหนก็ทำกันทั้งนั้น”
“นี่ยังจะหาเหตุผลทุเรศๆมาเข้าข้างตนเองอย่างมิรู้สึกอาย...คุณชายเอกคเชนทร์”
“ไม่ว่าจะผู้ดีหรือไพร่ต่างก็หนีเรื่องนี้ไปไม่พ้นหรอก...คุณเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น”
“อย่าเหมารวมดิฉันไปด้วย!!
“คุณนั่นแหละอย่าปากแข็งและก็เอาสมุดนั่นคืนมาครับ”
“ดิฉันจะมิยอมให้คุณนำรูปคุณหนูใหญ่ไปกระทำเรื่องบัดสีอีก”
“พี่เซคต่างหากที่ทำบัดสี”
“ว่าอย่างไรนะ?”
“ถ่ายรูปโป๊ของตัวเองถ่างแข้งถ่างขาอ้าซ่า...โพสแต่ล่ะท่าสุดจะน่าอับอาย...แบบนี้ไม่เรียกบัดสีแล้วให้”เรียกว่าอะไร?”
“นั่นคือเรื่องส่วนตัวของคุณหนูใหญ่ที่หากมิทำให้ผู้ใดเดือดร้อนก็หาได้ต้องไปสนใจใครไม่”
“นี่คุณเห็นว่าเป็นเรื่องปกติเหรอ?”
“ใช่”
(ไม่แปลกใจ...ยังไงลูกน้องก็ต้องเข้าข้างเจ้านายวันยังค่ำ)
“หนอย~~...ยังไม่จบหรอกน่า!!!...ในมือถือของผมก็...”
“โทรศัพท์ของคุณถูกทำลายไปแล้วและดิฉันก็เอาเครื่องใหม่รุ่นเดียวกันมาเปลี่ยนให้”
“ฮ้า!?
(ที่พื้นมีเศษซากของ...ยัยบ้าเอ๊ย!!!...แบบนี้หลักฐานก็พังพินาศหมดทำไมถึงไม่รีบย้ายรูปลงคอมวะ?...โง่ฉิบหา-เลยกูนี่!!!!)
...ทั้งเจ็บใจและก็สมน้ำหน้าตัวเองแท้ๆ...ลำพังแค่ผมพูดปากเปล่าว่าพี่เซคมีงานอดิเรก “ถ่ายรูปนู้ด” แล้วใครมันจะไปเชื่อเล่าแถมเผลอๆจะถูกชี้หน้าด่าว่าใส่ร้ายญาติพี่น้องตัวเองอีก...
.............................................................................................................................................

“พี่เซคชวนกินไปกินข้าวที่บ้าน?”
“ใช่...เย็นนี้”
“ไม่ไป”
“ทำไมอ่ะ?”
“รู้แล้วยังจะถาม...ฉันเกลียดเธอแค่ไหนฝนก็รู้”
“แหม!...ไม่เอาน่า--”
“อยากไปก็ไปเถอะ”
(ไม่รู้ว่าจะวางแผนชั่วร้ายอะไรไว้อีกหรือเปล่า?)
“พี่เซคก็ชิงชังบอลไม่น้อยเหมือนกัน”
“เพราะฉะนั้นผมจึงไม่ไปน่ะถูกแล้วไง”
“แต่เธอต้องไป”
“พี่แคทไปกับฝนน่ะแหละ...พี่เซคคงไม่ตั้งใจจะชวนผมด้วยหรอก”
“เธอไม่ได้บอกห้ามไม่ให้บอลไป”
“ลงว่าคนเกลียดขี้หน้ากันก็ไม่จำเป็นต้องพูดออกมานี่ครับ?”
“...ไปอาบน้ำแต่งตัว”
“ผมไม่ไป”
“รึจะให้พี่จัดการทุกอย่าง?”
“.................................................”
“ฝน”
“ได้ค่า!!...เค้าจะจับตัวเองแก้ผ้าล่ะนะ...เอาให้ล่อนจ้อนไปเล้ย!!!
“หา?...เอ้ย!?...ไม่เอา!!
...ญาติสาวผู้พี่วัย 22 กับญาติสาวผู้น้องวัย 18 จัดแจงจะเข้ามาถอดเสื้อผมซึ่งถ้าว่ากันตามปกติน่าดีใจแต่เวลานี้ผมไม่ได้อยู่ในอารมณ์นั้น...
“รู้...รู้แล้วน่า--...ผมทำเอง”
“ฮี่!!...แล้วเค้าจะอาบน้ำให้นะ”
“ไม่เอา!!...น่าอายจะตายชัก”
“โธ่~~...ทำเป็นอายไปได้”
“.................................................”
“.................................................”
“อ้าว?...ไปสิครับ!!...นี่ใจคอจะยืนดูกันตรงนี้เหรอ?”
“จะให้ดูตรงนี้ก็ได้นะ...หึๆๆ”
“...ทำให้เสร็จในครึ่งชั่วโมง”
“ถ้าหนูช่วยน่ะเสร็จแน่...ว๊า!?
“เราก็ไปเตรียมตัว”
“ฮื่อ!!
...............................................................................................................................................

“อะ...อาหารยังไม่เสร็จเรอะ?”
“ไม่ใช่ไม่เสร็จแต่ยังไม่มา”
“อ้าว?...ไม่ได้ทำเองเหรอคะ?”
“พี่สั่งจากภัตตาคารในโรงแรมน่ะ”
“อีกนานมั้ยอ่ะ?...ฝนหิวจนท้องกิ่วแย้ว~~
“ครึ่งชั่วโมง”
“โห~~
“น่า--...พี่มีของว่าง...เข้าไปกินกันก่อน”
“ป่ะตัวเอง!!
“ฉันไม่หิว”
“บอล”
“พี่แคทกับฝนเชิญเลยครับผมจะไปเดินเล่นแถวๆนี้...อ้อ!!...ถ้าอาหารมาก็กินกันได้เลยไม่ต้องบอกผมหรอก”
“จองหอง”
“พองขนด้วยมั้ยล่ะครับ?”
“......................................................”
“......................................................”
...ผู้หญิงโรคจิตเอ๊ย!!!...ไว้สักวันจะช่วยสงเคราะห์ล่อให้หายร่านบ้างคงจะดีนะ...ผมเดินออกมาทางด้านหลังตัวบ้านที่อยู่ติดคลองเล็กๆและโดยไม่ตั้งใจสักนิดว่าจะได้เจอพี่ม่อนที่นี่...
(ยิ่งดูก็ยิ่งสวยแต่ภายใต้ใบหน้าอันงดงามนั้นมีความ “น่าสะพรึงกลัว” ซ่อนเร้นอยู่ด้วย)
“......................................................”
(ดูท่าเธอจะยังไม่เห็นเรา)
“......................................................”
(แต่อย่ารบกวนหล่อนแล้วไปที่อื่นจะดีกว่า)
“อื๋อ!?
“......................................................”
“ตก...ตกใจหมด!!!...อะไรของพี่เนี่ย?”
(เมื่อกี้สาวเจ้ายังอยู่ตรงริมคลองแต่จู่ๆก็มาโผล่ข้างหลังและพอเราหันตัวกลับก็เกือบชนเธอเข้าแล้ว!!!!)
“เจ้าได้รับเชิญจากท่านพี่ด้วยหรือ?”
“ก็...ก็ประมาณนั้นครับ”
...จะว่าผมโอเวอร์ก็ตามแต่น้ำเสียงของพี่ม่อนฟังแล้วให้ความรู้สึกเย็นเยือกถึงไขสันหลังเราะมันช่างไม่มีชีวิตชีวาเอาซะเลย...เหมือนคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต...
“แต่ผมไม่อยากมาหรอก”
“มิได้”
“หืม?”
“หากเจ้ามิยอมมาเราจะเป็นผู้ไปลากเจ้าเอง”
“ทำไมครับ?”
“เพราะท่านพี่เชิญเจ้าเช่นนั้นเจ้าต้องมา”
(วางอำนาจซะจริง...อื๋อ?)
“...............................................”
(ญาติสาวผู้พี่ลงนั่งเหยียดขาหลังพิงต้นไม้และก้มหน้านิดนึง...จะหลับรึ?...แต่นี่ใกล้เวลาอาหารมื้อเย็นแล้ว)
“...............................................”
“พี่ม่อน”
“...อะไร?”
“ไม่กินข้าวเย็นหรือครับ?”
“เรายังมิรู้สึกหิว”
“ผมก็เหมือนกัน”
“...............................................”
“เอ่อ--...ผมขอนั่งตรงนี้ได้มั้ยครับ?”
“...หาได้มีผู้ใดห้ามเจ้าไว้”
(ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ซะเลย)
...ผมอยู่ห่างจากพี่ม่อนเกือบห้าเมตรได้ซึ่งไม่ถือว่าใกล้จนเกินไปหากมีอะไรเกิดขึ้น...เปล่า...แค่ระวังไว้เฉยๆ”เพราะถึงเธอจะเคยช่วยให้รอดพ้นจากการถูกลักพาตัวแต่ก็ไม่ใช่หมายความว่าผมจะวางใจได้สักหน่อย...
“ศิวะบัณฑิตยังมิเลิกราจากเจ้านะ”
“พวกเขาจะมาพาผมไปศรีไตรตรึงษ์อีกเหรอ?”
“มิใช่แค่นั้นดอก”
“ผมบอกแล้วไงว่าถึงเวลาจะไปเอง...ไม่ต้องให้ใครมาชี้นิ้วสั่งหรือเล่นไม่ซื่อ”
“เจ้าไปแล้วอาจมิกลับมาก็เป็นได้”
“หมายความว่าไงครับ?”
“สามดรุณีแห่งศิวะบัณฑิตนั้นแม้ยังเยาว์วัยแต่ก็สวยหยาดเยิ้มสมคำร่ำลือ”
“แต่ผมว่า...พี่ม่อนหรือพี่แคทก็ไม่น่าจะสวยแพ้พวกเธอนะครับ”
“.................................................”
(หือ?...เมื่อกี้ตาฝาดหรือเปล่า...คือเราเห็นพี่ม่อน...มีรอยยิ้มที่มุมปาก)
“อย่าเอาเราไปเทียบกับท่านพี่สุรีย์พรรณเลย”
“ทำไมล่ะครับ?...พี่ม่อนก็ได้ความสวยมาจากป้าเอ็มตั้งเยอะนะ”
“คึ”
“แล้วตอนนี้ป้าเอ็มก็ยังสวยอยู่นะครับ...ถ้าอายุเท่าๆกันและไม่ใช่ป้าหลานแล้วล่ะก็ผมจะลองจีบดู”
!
“?”

(จู่พี่ม่อนก็ลุกขึ้นยืนแล้วมองมาที่เรา)
“ถ้าอายุเท่าๆกัน”
“หืม?”
“แลมิใช่ป้าหลานแล้วจะลองจีบดูอย่างนั้นหรือ?”
“เอ่อ--”
“เมื่อกี้เจ้า...เอ่ยวาจาแทะโลมท่านแม่ของเรา?”
“เอ๋?...หา!?...ไม่ใช่ๆ...ผมเปล่านะ!!
“เราได้ยินเต็มสองรูหูเจ้ายังจะกล้าปฏิเสธอีก!!!
...ตายละวา!!!...ปากพาซวยแท้ๆที่เผลอชมไปว่าป้าเอ็มสวยเหมือนสาววัยรุ่นและจะจีบแน่ถ้าไม่ใช่ป้าหลานกัน...อะไรเนี่ยๆ...แค่ผมชมเท่านี้พี่ม่อนถึงกับโมโหจนควันออกหูเชียวหรือ?...
(“มีอยู่ครั้งหนึ่งป้าเอ็มเคยโดนลักพาตัวและพอน้องม่อนจับคนร้ายได้ก็เอาซะปางตาย”
“เธอตัดเส้นเอ็นแขนขาทั้งหมดและก็ตัดลิ้นเจ้าพวกนั้นทุกคน...ตอนที่ฝนไปเห็น...ไม่อยากจะบอกว่าสภาพน่าสยดสยองมาก”
“สำหรับม่อน...หนึ่งไม่ตายสองก็ต้องอยู่อย่างทรมานไปชั่วชีวิต”
“แล้วที่ผ่านมาเธอชอบอย่างหลังซะด้วย”)
“....................................................”
(นี่ถ้าพี่ม่อนรู้ว่าเรากับแม่ของหล่อนเคย...ผลมัน...ผลมันจะเป็นยังไง?)
“ผะ...ผมขอโทษ”
“ท่านแม่ของเราหาใช่ผู้ที่เจ้าจะพูดถึงท่านพล่อยๆได้...เจ้าเป็นหลานสมควรที่จะสำนึกไว้”
“ผมขอโทษ!!...ผมผิดไปแล้ว!!!
“เราจะมิให้ใครหน้าไหนมาดูหมิ่นหรือพูดจาว่าร้ายท่านแม่อย่างเด็ดขาด...หลานชายเช่นเจ้าก็หาได้เป็นข้อยกเว้นไม่!!!
(ตาพี่ม่อนลุกโพลงเป็นสีแดงราวกับกองไฟ...หนีดีกว่าเราแต่จะไปทางไหน?...ข้างหน้ามีพี่ม่อนยืนขวางอยู่ส่วนข้างหลังก็เป็นคลอง)
“อย่าให้ถึงกับเลือดตกยางออกกันเลยขอรับ”
“หือ?”
“พี่เอ้”
“มิใช่เรื่องของท่านพี่สุริยาวรรณเจ้าค่ะ”
“เรื่องเล็กมิสมควรลุกลามให้กลายเป็นเรื่องใหญ่...ครั้งนี้น้องนางศรมุกดาก็ยกโทษให้เอกคเชนทร์เถิด”
“หากน้องมิยกโทษให้?”
“พี่เชื่อว่าน้องนางศรมุกดานั้นมีจิตใจโอบอ้อมอารีแลมิได้ถือสากับเหตุเพียงเท่านี้ดอก”
“แต่ที่ผ่านมาผู้ใดบังอาจปากพล่อยหรือคิดร้ายกับท่านแม่...น้องหาได้เคยละเว้นให้มันผู้นั้นลอยนวลอยู่ไม่!!
“ครั้งนี้พี่ขอเถิดขอรับ”
“.....................................................”
(พี่เอ้พยายามช่วยเราหรือ?)
“หากมีครั้งหน้าอีกพี่จะมิช่วยเขาอีกแล้ว”
“.....................................................”
“.....................................................”
“เจ้าค่ะ...เห็นแก่ท่านพี่สุริยาวรรณน้องจะมิเอาความอีก”
“ขอบคุณน้องนางศรมุกดาสิขอรับ”
“คะ...ครับ...ขอบคุณพี่ม่อนจริงๆครับ!!!...ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้ว”
“.....................................................”
...ญาติสาวผู้พี่วัย 21 ไม่พูดอะไรก่อนจะเดินหายเข้าไปในความมืด...ผมเป่าปากหายใจอย่างโล่งอกและไม่ลืมขอบคุณพี่เอ้...
“ครั้งนี้โชคยังดีที่กระผมได้รับเชิญมาด้วย”
“หูย~~...เกือบไปแล้วสิ”
“กระผมเข้าใจว่าท่านป้าศรมรกตเป็นเช่นไรแต่บางอย่างก็มิสมควรจะเอ่ยออกมาดอก”
(ได้ทีสอนเราใหญ่เชียวนะ)
Angel Eyes”
“เอ๋?”
“ดวงตาแห่งนางฟ้าไงล่ะขอรับ”
(เจ้าหนุ่มหน้าหยกพูดอะไรไม่เห็นจะเข้าใจเลยสักนิด)
...............................................................................................................................................

...คืนนั้นผมหลับแล้วก็ได้ฝัน...
(“อื๋อ?”
(หนูหนึ่งกับหนูสองลูกสาวฝาแฝดของเรา!!!)
...พอลูกสาวฝาแฝดเห็นผมก็วิ่งมาหาซึ่งทางนี้อ้าแขนรอกอดอยู่แล้วแต่พวกเธอกลับหยุดนิ่งห่างไปประมาณห้าก้าวเดิน...ทำไมกันล่ะ?...
(ยังทำสีหน้าเหมือนกำลังสงสัยอะไรด้วยนะ!?)
“ผู้ใดเรียกพ่อมาทีนี่?”
“ผู้ใดเรียกพ่อมาหรือ?”
“ไม่...ไม่มี”
“ถ้าไม่มีพ่อจะมาได้ยังไง?”
“มาได้ยังไง?”
“อื้อ!!...จะอะไรก็ช่างเถอะ...ไม่ดีใจที่เจอพ่อเหรอจ๊ะ?”
“...................................................”
“...................................................”
“นี่พ่อทำอะไรให้พวกหนูไม่พอใจหรือเปล่า?”
“ไม่มี”
“ไม่ใช่
!?
(สองยัยหนูหันหลังวิ่งไปกันคนละทิศคนละทางเลย...ชวนเราเล่นซ่อนแอบหรือเปล่า...เอ้ย!!...ไม่ใช่มั้ง?)
“แล้วจะให้ตามหาใครก่อนล่ะนี่?”
“หนูหนึ่ง”
“......................................................”
“หนูสอง...ออกมาหาพ่อเถอะ”
(ไร้วี่แวว)
“ชวนพ่อเล่นซ่อนหาเหรอ?”
“......................................................”
“ถ้าหาเจอจะให้รางวัลอะไรดีจ๊ะ?”
“......................................................”
...หายังไงก็ไม่เจอจนรู้สึกเหนื่อยและทันใดนั้นผมเหลือบไปเห็นแสงสว่างอยู่บนหน้าผาที่ก็ไม่ถือว่าไกลมากนัก...มันจะเป็นแสงจากอะไรไม่รู้แต่ไม่สว่างสม่ำเสมอบ้างก็สว่างจ้าบ้างก็ริบหรี่...
“อยากรู้ก็ต้องไปดู”
(แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องหาทางปีนขึ้นไปเนื่องจากไม่มีเส้นทางเดิน)
“ตรงนี้พอมีทางไปได้นี่แต่มันแคบไปหน่อย”
“......................................................”
“พอได้ๆ...อื๋อ?”
(ระหว่างที่เดินลัดเลาะขึ้นไปเรื่อยๆก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างอยู่ในกอไม้ข้างทางจึงแวะเข้าไปดู)
“ลูกนก?”
(น่าสงสารจัง...ตาแทบจะยังไม่ลืมด้วย)
“ไม่ต้องกลัวๆ...ฉันไม่ทำอะไรหรอก”
(เพิ่งจะมีขนขึ้นซึ่งน่าจะพลัดหลงจากพ่อแม่มา...ไม่สิ...คงตกลงมาจากรังบนต้นไม้ต้นใดต้นหนึ่งแน่ๆ)
“จะทำยังไงดี?...ตกลงมาจากต้นไหนก็ไม่รู้...ดีนะที่ไม่อดตายหรือโดนตัวอะไรคาบไปกินซะก่อน”
(เอาไว้ในอุ้งมือล่ะกัน)
“อยู่นิ่งๆนะหนูน้อย...ฉันจะหาทางช่วยเอง”
(ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันจะไปตามหาพ่อกับแม่มันที่ไหน?)
“ค่อยคิดอีกทีล่ะกัน...ไว้ไปให้ถึงตรงแสงนั่นก่อน...อ้าวเฮ่ย!?
...ลูกนกตัวจ้อยจู่ๆก็บินออกจากอุ้งมือแล้วไปเกาะที่หัวไหล่ผมและไม่มีทีท่าจะบินไปไหนอีกด้วย...เจอเรื่องแปลกอีกแล้วสิ!?...
“เอาไงล่ะเราน่ะ?”
“................................................”
“ดี...งั้นเราไปตามหาแสงสว่างนั่นด้วยกัน”
“................................................”
(เหนื่อยเอาการแต่ก็จวนจะถึงแล้ว)
“นี่มัน?”
(สวยจังเลย...แสงสีเงินอันเรืองรองที่เปล่งออกจากร่าง)
นกสีเงินตัวนี้สวยจังเลยแต่เหมือนจะหลับอยู่มั้งนะ?”
“........................................................”
นี่มันจะใช่...หงส์หรือเปล่า?”
จงออกไปจากที่นี่!!
“!!!!”
(เสียงดังมาจากไหน?...รึจะเป็นของหงส์ตัวนี้!?)
ต้องการจะเผชิญหน้ากับความพิโรธของผู้เป็นใหญ่ในหมู่วิหคเช่นเราหรืออย่างไร?...เจ้ามนุษย์บาปหนา!!!
“ทะ...ท่าจะไม่ดี...ไปดีกว่า”
...เมื่อรู้แล้วว่าแสงสีเงินคืออะไรงั้นภารกิจ(?)ต่อไปก็คือช่วยตามหาพ่อแม่ของนกน้อยตัวนี้...อา--...ในความรู้สึกของผมดูเหมือนเจ้าหนูจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย...
“พ่อ”
“พ่อ”
“นกนั่น”
“นกนั่น”
“เมื่อกี้ไปไหนมาล่ะลูก?”
“.....................................................”
“.....................................................”
(ทำไมไม่ยอมพูดอะไรเลย?)
“ช่างเถอะ”
“ปล่อยผ่านไป”
“?”
“เมื่อกี้พ่อขึ้นไปบนผานั่นใช่มั้ย?”
“ขึ้นไปบนผานั่นใช่มั้ย?”
“ใช่แล้วจ้ะ”
“ไปเพื่ออะไร?”
“ไปทำอะไร?”
“พ่ออยากไปดูแสงสีเงิน”
“ไม่เห็นจะต้องขึ้นไปให้ลำบาก”
“ไม่ต้องขึ้นไปให้ลำบาก”
“หา?”
...แล้วผมก็จำอะไรไม่ได้อีกและพอรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่านอนอยู่ในห้องตัวเองโดยมีฝนหลับอยู่ข้างๆ...
(เข้ามาในห้องเราตั้งแต่เมื่อไหร่และเวลาตอนนี้...ตีสอง)
“กำลังฝันถึงลูกสาวน่ารักเลยเชียว...เฮ้อ!!...เสียดายจัง?”
“ทำไม?”
“?”
“ทำไมไม่หยุดสักที?”
(ฝนละเมอ...ว่าแต่กำลังว่าใคร?...เอ่อ--...คงจะไม่ใช่เราหรอกนะ?)
“หนูจะวิ่งหนี...ไปถึงไหน?”
!?
“เมื่อไหร่จะยอมรับแม่สักทีเล่า?”
(หนูรินไม่ยอมให้ฝนจับตัวรึ?)
“แต่ก็น่ารักดีนะแม่ลูกคู่นี้...อื๋อ?”
“.....................................................”
(พี่แคทก็เข้ามาในห้องเราด้วยเรอะ?)
...ไม่สังเกตเห็นจริงๆว่าพี่แคทนอนอยู่อีกฝั่งจนผมจูบที่หน้าผากฝนแล้วจะนอนต่อนั่นแหละ...นี่คงจะตามน้องสาวมาแน่ๆ...
“อย่ากังวลเลยจ้ะลูกรัก”
(เอ๋!?)
“พ่อหนูเจ้าชู้นักจะเจอแม่กำหราบ”
!!
“และบรรดาผู้หญิงที่เข้ามายุ่งกับพ่อหนูด้วยแม่ก็จะไม่ปล่อยไว้...จ้ะ...แม่จะทำตามที่หนูขอ”
(หนูรีย์นี่เกลียดผู้ชายเจ้าชู้เหมือนแม่จริงๆแล้วยังกำชับให้มาจัดการกับเราอีก...น่ากลัวฉิบเป๋ง)
.............................................................................................................................................

“ราชหงส์สุรัมภานายเจ้าเป็นผู้ที่เรียกดวงจิตของพ่อมาใช่หรือไม่?”
“พญาหงส์นายเจ้าต้องการอะไรจากพ่อของเรา?”
“ข้าแต่สองเทพบดีผู้เป็นใหญ่เหนือกาลเวลาและห้วงมิติ...ข้าน้อยเป็นผู้ที่เรียกดวงจิตของชายผู้นั้นมาเอง”
“พระเวทย์ของเจ้าไม่มีทางทำได้!!
“เจ้าไม่มีทางทำได้!!
“แล้วเราก็สัมผัสได้ว่าพระเวทย์นี้เป็นของราชหงส์สุรัมภา”
“พระเวทย์นี้เป็นของผู้เป็นใหญ่ในหมู่วิหค”
“ทว่าองค์ราชหงส์สุรัมภาไม่ได้ตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด...ทุกอย่างเป็นการกระทำของข้าน้อยเพียงผู้เดียว”
“กระทั่งเสียงตวาดพ่อของเราด้วยสิ?”
“เสียงตวาดนั่นเป็นของเจ้าสินะ?”
“เจ้าแอบอ้างตนเป็นนายเจ้าเช่นนี้เห็นทีจะต้องรับโทษหนัก”
“รับโทษหนักแน่”
“มิหนำซ้ำยังเอ่ยวาจาอันเป็นเท็จต่อเทพบดีเช่นเรา”
“เจ้าไปเอาความกล้านี้มาจากไหนกัน?”
“ข้า...ข้าน้อยผิดไปแล้ว!!...ได้โปรดยกโทษให้ด้วยเถิด”
“.......................................................”
“.......................................................”
“ข้าน้อยจะยอมพูดความจริงทุกอย่าง”
“งั้นจงสารภาพออกมาว่าราชหงส์สุรัมภาต้องการอะไร?”
“สารภาพออกมาให้หมดสิ้นว่าพญาหงส์คิดอ่านแผนการใด?”
“ข้าน้อยได้รับพระเวทย์ส่วนหนึ่งจากองค์ราชหงส์สุรัมภา”
“ในภาวะที่นางหลับใหลอยู่น่ะหรือ?”
“เจ้าค่ะ...องค์อุษณรัศมี”
“เจ้าคือผู้ที่พญาหงส์ไว้ใจ”
“องค์สีตลรัศมีกล่าวถูกต้องแล้ว”
“แต่พระเวทย์ของพญาหงส์นั้นมหาศาลนัก”
“ทว่าเวลานี้หายไปจนเกือบหมดสิ้น”
“.................................................”
“หือ?”
“หืม?”
“หรือว่า...”
“จะเป็น...”
“องค์ราชหงส์สุรัมภานายของข้าน้อยฝากคำพูดผ่านพระเวทย์มาถึงองค์อุษณรัศมีและองค์สีตลรัศมี”
“?”
“?”
“แม้เราจะหลับแต่ก็ยังรับรู้”
!?
!!
“ถึงการกระทำทุกอย่างของพวกท่าน”
“...................................................”
“อุษณรัศมี...ชายผู้นั้นดีพอที่จะเป็นบิดาของท่านจริงๆหรือ?”
“เราเชื่อมั่นว่าเขาดีพอ”
“สีตลรัศมี...ชายผู้นั้นดีพอที่ท่านจะเรียกว่าบิดาจริงๆหรือ?”
“เราเชื่อมั่นว่าเขาดีพอ”
“.................................................”
“ท่านก็เห็นดีด้วยเถอะนะ”
“เห็นดีและมากับเรา”
“...เป็นสหายกันมาช้านานแต่ยังมิรู้ใจเราอีกฤา?”
“ราชหงส์สุรัมภา”
“เราเกลียดชังมนุษย์ที่สุด...มิต้องการข้องแวะ...มิต้องการข้องเกี่ยว”
“พญาหงส์”
“มนุษย์ที่ดีก็มีอยู่มากมายบนโลกนี้”
“จะมองว่าเลวไปทั้งหมดนั้นไม่ได้”
“มิต้องอื่นไกลดอก...เรายังมองมิเห็นความดีที่ว่าจากชายผู้ที่พวกท่านยกย่องเป็นบิดาแลต่อไปในภายหน้าเขาจะกระทำเรื่องชั่วช้าเกินกว่าที่จะคาดถึง...สหายเราจงอย่างมงายอีกต่อไปเลย”
“....................................................”
“....................................................”
“แม้กระทั่งสุริยนนุจรินทร์แลวสันตะนุจรินทร์ก็ยังเห็นดีไปด้วยอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว”
“ไม่ผิด”
“งมงายนัก...หือ?”
“?”
“?”
“อชินีสุราลัย?...หึ!...หึๆๆๆ...พอที”
“หยุดก่อน”
“หายไปแล้ว”
“นายข้าเข้าสู่การนิทราอย่างสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง”
“นางจะตื่นขึ้นมาอีกเมื่อไหร่?”
“จะตื่นขึ้นมาอีกเมื่อไหร่?”
“ข้าน้อยไม่อาจทราบได้แต่นายข้าตื่นขึ้นมาเพื่อเตือนท่านทั้งสองและเพื่อยืนยันว่าไม่เห็นด้วยอย่างแรงกล้า”
“..................................................”
“..................................................”
...............................................................................................................................................

“ทำไมมึงเดินแปลกๆแบบนั้น?”
“ไม่มีอะไร”
(จะบอกใครได้ยังไงล่ะว่าเมื่อคืนโดนฝนที่นอนละเมอถีบจนตกเตียง!?)
“ผู้หญิงอะไรตีนหนักฉิบ!...อูย~~
(ยังเคล็ดขัดยอกไม่หาย...จับตัวลูกไม่ได้เลยมาระบายที่เรามั้งเนี่ย?)
“อาทิตย์หน้าก็ปิดเทอมใหญ่...เราใกล้จะขึ้นปีสามกันแล้วนะ”
“เร็วจังว่ะ”
“แล้วสิ้นเดือนนี้เราก็จะไปฝึกงานกัน...ตกลงเลือกที่ไหน?”
“ชะอำสิวะคำตอบสุดท้าย...ได้เที่ยวทะเลได้กินอาหารทะเลสดๆ”
“แต่กูอยากไปทางเหนือโดยเฉพาะเชียงใหม่...แม่คุณเอ้ย!!...มีแต่สาวสวยๆทั้งนั้น”
“มึงจะไปฝึกงานหรือไปจีบสาวกันแน่?...ไอ้เวร!!!
“เออน่ะ!!
“งั้นไว้รอลงมติกันแต่มีแววจะเป็นที่ชะอำแน่เลย...นะบอล?”
“สำหรับกูจะที่ไหนก็ได้...อ้าว!?
“อะไรวะ?”
“รู้สึกเหมือน...”
“.....................................................”
“เฮ่ย!?...ใครขโมยโซ่รถกูไปวะ?”
“เออว่ะ!!...แถมลมยางก็โดนปล่อยรั่วหมด...แล้วมึงจะกลับบ้านยังไง?”
“แต่ก่อนอื่นเลยกูอยากรู้ว่าไอ้บ้าตัวไหนมันทำ?”
...ใครกันที่มาเล่นพิเรนทร์กับผมแบบนี้?...ลำพังปล่อยลมยางหรือรั่วก็พอจะไปให้ร้านสูบกับเปลี่ยนให้ได้แต่นี่ขโมยโซ่ไปด้วย...ช่างเป็นการกลั่นแกล้งที่ขำไม่ออกจริงให้ตาย!!!...
“เดี๋ยวกูไปตามช่างที่ร้านมาดูให้”
“ขอบใจ”
(เซ็งชะมัด!!...กะจะกลับไปนอนบ้านก่อนแท้ๆ...กว่าจะรอให้พี่แคทเลิกสอบก็บ่ายสี่โมงเย็นโน่น)
“เธอจะรอให้ฉันสอบเสร็จก่อนไม่ได้หรือไง?”
“โห!?...อีกตั้งหลายชั่วโมงน่ะครับ”
“จะไปเที่ยวที่ไหนก็พูดมาตรงๆ”
“เปล่านะครับ...ผมจะกลับไปนอนบ้าน”
“.....................................................”
“จริงๆนะจ๊ะ”
“ไม่ต้องมาจ๊ะจ๋ากับพี่!...แบบนี้มันน่าสงสัย”
“โธ่~~...ผมบริสุทธิ์ใจจริงๆ”
“...อีกสักครู่จะมีคนไปรับเธอ”
“ใครครับ?”
“บอลก็รู้จักดี...เดี๋ยวพี่โทรบอกเขาก่อน”
...แล้วข้อสงสัยของผมก็ได้รับความกระจ่างเมื่อคนที่พี่แคทหมายถึงนั้นก็คือลูกพี่ลูกน้องหน้าหยกจากโยนกประจิมนั่นเอง...
“พี่เอ้?”
“กระผมทราบเรื่องจากท่านพี่สุรีย์พรรณแล้ว...เชิญขึ้นรถขอรับ”
“พี่มาทำอะไรหรือ?”
“ท่านแม่อยากออกมาเที่ยวเปิดหูเปิดตาพี่ก็เลยกลับไปรับมาจากบ้าน...เพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่ขอรับ”
“คุณอาก็มาด้วย?”
“แลท่านแม่คงจะต้องขอรบกวนพักที่บ้านสักสามสี่วันนะขอรับ”
(เอ๊ะ?...บ้านพี่เซคก็มีแถมกว้างขวางกว่าเป็นไหนๆแล้วทำไมคุณอาอรศินีย์ถึงจะมาพักบ้านเราล่ะ?)
...................................................................................................................................................................

...ตัวอย่างในตอนหน้า...ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 94 “อย่าหวั่นไหว!?...นี่ผู้ชายนะ(โว้ย)!!!!

“ฉันมั่นใจว่าบ้านหลังนี้ต้องยังมีใครอยู่อีกคน!!!
“เออะ!!...ตัวเองคิดมากไปแล้ว...จะมีคนอื่นอีกที่ไหนนอกจากเรา?”
“ไม่รู้สึกไปเองแน่ๆ!!...ยิ่งพอตอนกลางคืนฉันได้ยินเหมือนเสียงผู้หญิงคุยกันและก็หัวเราะด้วย”
..................................................
“อย่างหมอนั่นน่ะเรอะจะทำให้หวั่นไหวได้?...อยากดูเหมือนกันว่าถ้าแต่งหญิงแล้วจะน่าแหวะขนาดไหน?”
“ขออภัยที่ให้รอนานเจ้าค่ะ”
(ว้าว~~...ผู้...ผู้หญิงคนนี้เป็นใครเนี่ย?...สวย...สวยสุดยอดไปเลย!!!!)
“........................................................”
“มีอะไรหรือเจ้าคะ?”
“สวย...สวยสุดๆเลย...โอ๊~~...ไม่ใช่!!...ไม่ใช่แบบนี้!!!
(ไปชมว่าสวยทำไมเล่า!?...ไอ้หมอนี่มันเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ?)

...............................................................................................................................................