หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 52

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 52 “รหัส ASA!?...ยมทูตมรณะ!!!!”

(“ขึ้นอยู่กับบอล...หากเขายังมีความจริงใจกับพี่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงล่ะก็ใช้เวลาแค่วันเดียวทุกอย่างต้องเรียบร้อยแต่ถ้าไม่...”
“ความจริงแล้วผู้ชายคนนี้อาจจะยังไม่ดีพอสำหรับพี่ก็ได้...น่าละอายใจที่เขามีศักดิ์เป็นน้องของแคท”
“เธอไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วจะกังวลใจไปทำไม?”
“บอล กลับมาเมื่อไหร่หนูจะพูดกับเขาให้รู้ดำรู้แดงไปซะทีถึงแม้ต้องใช้กำลังบ้าง ก็ตาม...พี่กุน...ให้หนูเป็นคนจัดการแทนพี่เถอะนะคะ...นี่คือสิ่งเดียวที่ หนูจะทำให้พี่ได้”)
“...................................................”
“หน้าเครียดเชียวนะ...เจ๊มีอะไรเหรอ?”
“...บอลจะกลับมาถึงเย็นวันนี้ใช่มั้ย?”
“อื้อ!!...เขาโทรมาบอกเมื่อตอนสาย”
“...เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณ...พี่จะให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเอง”
“หา!?...พี่จะทำอะไร?...อย่าวู่วามเด็ดขาดนะคะไม่งั้นแม่ต้องโกรธมากแน่!!!...จะมาวันนี้ด้วย”
“มันจะเรียบร้อยก่อนคุณแม่มาถึง”
“และก็ไม่ใช่อย่างเมื่อวันก่อนด้วยละ...นั่นน่ะถึงคุกเลย”
“...................................................”
(“ยินดีต้อนรับ...อะ...”
“คุณพี่!!!”
“แกกล้าตบคุณหนู!!!...อยากตายเรอะ?”
“มาเลย!!...ปืนของพวกแกกับดาบของฉัน...ใครจะแน่กว่ากัน!!!”
“ไม่นะพี่แคท!!!!”
“ถอยไป!!”
“คุณบุศ!?”
“ฉันบอกให้ถอยไป!!!”
“...................................................”
“คนของฉันเก็บปืนแล้วพี่สุรีย์พรรณก็อย่าเอาดาบนั่นกวัดแกว่งไปมาอีกเลย...ดูสิ...ใครต่อใครแตกตื่นกันหมดแล้ว”
“เธอเป็นผู้หญิงชั่วช้าแบบที่คนปกติเขาไม่ทำกัน”
“ฉันไม่มีทางเลือก...คนที่ทำให้ฉันเป็นอย่างนี้ก็คือบอลนั่นแหละ”
“ว่าไงนะ?”
“น้องฝนจ๊ะพี่ว่าเรามานั่งคุยกันก่อนดีกว่า...เด็กๆ...ยกอาหารกับเครื่องดื่มมา”
“...................................................”
“โบว์ก็มาด้วย...รู้จักกับพี่ๆไว้นะเพราะวันหน้าเรากับเขาก็จะเป็นญาติกัน”
“พี่กุนกับน้องสาคือผู้หญิงที่พวกเรายอมรับ...ไม่ใช่เธอสองคนหรือใครหน้าไหนอีก”
“บุศก็รู้แต่แล้วยังไงล่ะคะ?...พี่แคทไม่ใช่คนที่จะแต่งงานกับบุศสักหน่อย”
“หือ?”
“ความหมายก็คือพวกคุณคือคนนอกค่ะและพี่บอลต่างหากที่จะเป็นผู้ตัดสินใจเอง”
“เชิญดื่มน้ำชาก่อนสิคะ”
“ฉับตบหน้าเธอแต่เธอยังมีแก่ใจชวนฉันดื่มอีก...ช่างใจกว้างจริงนะ?”
“เพราะความใจกว้างเป็นคุณสมบัติของผู้ดีค่ะพี่แคท”
“แต่เราจะไม่กินของๆคนไร้ยางอายแย่งแฟนชาวบ้านหรอก...เอากลับคืนไป!!”
“ไม่เห็นจะต้องรังเกียจกันถึงขนาดนี้เลยนี่นา?”
“ใช่ค่ะ...ลองเปิดใจยอมรับพวกเราสองพี่น้องดูบ้างจะเป็นไรไปเล่า?”
“แม้พี่กุนกับน้องสาจะไม่มีอะไรติดตัวมาเลยแต่ฉันก็จะขออยู่เคียงข้างพวกเธอโดยไม่มีวันเปลี่ยนใจ...ฝน...กลับ!!!”)
“คนเห็นแก่ตัวที่เที่ยวแย่งชิงของๆผู้อื่นและคนทรยศหักหลังเพื่อน...พี่ทำใจยอมรับคนพวกนี้ไม่ได้”
“ฝนเข้าใจความรู้สึกของพี่”
“เจ้านั่นไม่มีสิทธิ์เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นหรืองานอดิเรกยามว่าง...ฉันจะทำให้มันรู้ซึ้งชนิดที่ไม่มีวันลืมอีกเลยชั่วชีวิต!!!”
“.......................................................”
..........................................................................................................................................

(“เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งหลายวันแต่ผมไม่รู้เลย”
“...ป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“กลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมาซะแล้ว...ผมควรจะทำยังไงดีครับป้า?”
“......................................................”
“รู้งี้ผมไม่ปิดมือถือซะก็ดี”
“ก็ใครจะรู้จ๊ะว่าเวลาแค่สามสี่วันจะเกิดเหตุบ้าๆบอๆบานปลายใหญ่โต!?...อือ--...เอาอย่างนี้มั้ย?...ตาหนูทำตามที่ป้าบอก”
“?”
“ป้าพอจะมีวิธีดีๆอยู่แต่พ่อบอลต้องใจแข็งสักหน่อยนะ”)
...ใน รถไฟขบวนพิเศษผมนั่งกระสับกระส่ายด้วยจิตใจที่ร้อนรนคืออยากจะให้ถึงบ้านซะ ตอนนี้เลยจริงๆให้ตายเถอะ!!!...ไอ้ครั้นจะขอติดรถป้าเอ็มกลับพร้อมกันแต่ก็ ถูกเบรคเพราะกลัวแผนการเสียและเมื่อกี้โทรหาสาเพื่อจะง้อแต่เธอพูดว่าให้ถึง บ้านก่อนค่อยตกลงกันอีกทีส่วนกุนก็ปิดเครื่องโดยพยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่า คงจะไปเข้าห้องประชุมกับเจ้านายในฐานะที่เป็นเลขา...
“ฝนเหรอ?”
“อยู่ไหนเนี่ย?”
“...ออกจากพรหมพิรามมาแล้ว...ทางนั้นเป็นไง?”
“ทุกคนรอนายกลับไปคนเดียวแหละ...ป้าเอ็มกับแม่ก็จะมาถึงเหมือนกัน”
“อานิภา?”
“คงจะถึงไล่ๆกันน่ะ...บอล...คราวนี้เรื่องใหญ่มากเลยนะ...ฉันเตือนนายแล้วว่าพี่บุศเป็นคนไม่ดีให้เลิกยุ่งซะ”
“พอเถอะน่า!!...แค่นี้ฉันก็แทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว”
“มัวแต่เที่ยวเพลินไม่สนใจแฟนก็แบบนี้แหละ”
“ก็...อยู่บ้านเพื่อนมันฉันชวนกินเหล้าเมาแทบทุกวัน...แบตหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไม่รู้ตัว”
“เมาเหล้า!?...ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนเลยรึ?”
“ไม่...ขนาดขนมเปี๊ยะที่พี่แคทฝากซื้อฉันยังต้องรบกวนแม่เพื่อนเลย...นี่ฝน...ฉันถามอะไรหน่อย?”
“หืม?”
“สากับอ้อยโกรธฉันมากมั้ย?”
“ของมันแน่อยู่แล้ว”
“โธ่~~...พูดไม่ให้กำลังใจกันบ้างเล้ย!!!”
“แต่นั่นคือเมื่อก่อน”
“ตอนนี้ล่ะ?”
“ก็คงจะโกรธอยู่นะ...พี่กุนเอยป้ากวางเอย”
“..................................................”
“นี่...ฝนถามบอลบ้างสิ”
“อะไร?”
“อยู่ที่บ้านเพื่อนน่ะได้สนด้ายเข้าเข็มกับใครป่ะ?”
“สนด้ายเข้าเข็ม...จะ...จะบ้าเรอะฉันไม่ได้ทำ!!”
“จริงง่ะ?”
“แม่สาวแก่แดดนี่!!!...บอกว่าไม่ได้ทำก็ไม่ได้ทำสิ”
“เฮะๆๆ...ขึ้นเสียงดังแบบนี้น่าสงสัยซะจริง”
“ก็บอกแล้วไงว่า...”
“ขอให้เป็นตามที่พูดจริงๆเถอะเพราะทางนี้เองก็เริ่มจะไม่ชอบใจแล้วเหมือนกัน”
“ไม่ชอบใจ?”
“แค่นี้ก่อนนะ...พี่แคทเรียก”
“อะ...อือ”
... “ทางนี้” ที่ฝนว่าหมายถึงอะไรกันนะแต่จะให้รู้ไม่ได้หรอกว่าโกหกคำโตเพราะตลอดเวลาที่ พักอยู่ในบ้านพักกลางภูเขาผมเล่นสนด้ามเข้าเข็มกับผู้หญิงถึงสามคนที เดียว!?...นึกย้อนไปตั้งแต่ช่วงที่ศิไม่ได้ไปรับพี่สะใภ้และกลับมาแอบดูเรา กับป้าเอ็มมีสัมพันธ์สวาทกัน...
(“หนูแอบก่อนนะคะนายท่าน”
“จากนั้นเธอต้องมาปรนนิบัติฉันนะ”
“ค่ะ...ศิจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง”
...หลัง จากที่ศิไปซ่อนตัวแล้วผมก็เดินขึ้นบันไดซึ่งข้างบนนั้นป้าเอ็มกำลังนั่งยองๆ บีบหลอดเจลหล่อลื่นก่อนจะเอาป้ายรูตูดตัวเองพลางทำหน้าเหยเกเม้มปาก...
“อูย~~...ทีนี้แหละ...ควยหลานรักของฉันจะได้เข้าลึกๆ”
“น่าถ่ายรูปเก็บไว้จัง”
“คงไม่ว่ากันนะถ้าป้าจะทาเอง?”
“ไม่เป็นไรครับ...ช่วยประหยัดเวลา”
...ป้าเอ็มนอนหงายและยกขาขึ้นแบะอ้ารอ...ท่านี้ทำให้ผมเห็นรูทวารหนักของเธอมีรอยแดงกับกลวงโบ๋นิดๆ...
“เร็วๆสิผัวจ๋า~~...รีบมาเย็ดตูดเมียเร็วเข้า”
“ไม่ต้องท้า!!...จะล่อให้รูบานเดินขาถ่างเชียว”
“อ๊า!!!...แล้วจะติดใจจนลืมไม่ลงแน่ค่ะ”
...ผม ใส่ถุงยางเสร็จก็ลงนั่งคุกเข่าจับใต้ข้อพับป้าเอ็มแล้วโย้ไปข้างหน้าจนก้น ลอย...หญิงสาวเบือนหน้าไปทางอื่นด้วยความเขินอายแต่ก็แอบชำเลืองผมขยับควย เข้าใกล้รูก้นของเธอ...พอปลายหัวหยักสัมผัสกล้ามเนื้อหูรูดหล่อนก็เผลอ ครางออกมาเบาๆ...
“อาววววววววว...ไม่ต้องกลัวเมียเจ็บนะ...ดันเข้าไปเลย...อู๊ยยยยยยยยยยยยยย...นั่นแหละๆ”
“ซีดสสสสสสสสสสส...ตูด...ตูดเมียคับควยผัวมาก”
“อื๊ออออออออออออออ...หัวควยเข้ามิดแล้วก็ง่ายล่ะ...โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย...ทีนี้ต้องยัดทีเดียวมิดแท่งนะผัวขา~~”
“อยู่แล้วจ้ะ...ซีดสสสสสสสสสสส”
...ผม กลั้นหายใจก้มมองท่อนควยที่ค่อยๆจมหายเข้าไปในรูก้นป้าเอ็มจนมิดในที่ สุด...ฝ่ายสาวใหญ่นอนตาปรือมองเพดานซึ่งไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรในใจ บ้าง?...
“สองคนป้าหลานเนี่ยลามกจัง”
“ไม่หรอกครับ...ใครๆก็ทำกัน”
“ป้ากับหลานชายเนี่ยน่ะเหรอ?”
“ผมหมายถึง anal sex”
“ต้องเติม aunt ต่อท้ายด้วยจ้ะ”
... “Anal Sex Aunt” ...งั้นผมขอย่อลงเหลือแค่ “ASA!?” ถือเป็นรหัสที่รู้กันเพียงสองคน...
“เจ็บมั้ยครับ?”
“นิดหน่อยแต่ไม่เป็นไร”
“ผมจะสาวควยล่ะนะ”
“มาเถอะจ้ะที่รัก...เชิญตักตวงความสุขให้เต็มที่จะได้ไม่ต้องกลับไปหา...”
...ป้า เอ็มทิ้งท้ายประโยคและโอบคอคว้าผมไปจูบ...ดูท่าเธอจะหวงผมมากจริงๆเพราะ ตั้งแต่เสร็จศึกในครัวก็สั่งห้ามไม่ให้พูดถึงสาหรือใครๆที่บ้านต่อหน้าหล่อน อีก...
“อึ๊ก!!...ถ้าเมียยังไม่ทำหมันล่ะก็...จะมีลูกให้ผัวสักคนนะ...อืออออออออออออ”
“ไหวเหรอ?”
“อย่าดูถูกเมียคนนี้น๊า~~...อืมมมมมมมมมมมมม...ช้าๆค่ะ...อาสสสสสสสสสสสสส...เร็วอีกนิดนึง...อ๊อยยยยยยยยยย”
...ป้า เอ็มเอานิ้วถูหีขยี้แตดส่ายหัวไปมาด้วยความเงี่ยนง่านสุดจะระงับใจ...เธอจะ เคยนึกบ้างหรือเปล่าว่าวันหนึ่งต้องมานอนแก้ผ้าล่อนจ้อนให้หลานชายแท้ๆเย็ด หีเย็ดตูดตัวเองส่วนผมน่ะเหรอ?...แค่ฝันก็ยังไม่กล้าแต่บัดนี้มันกลายเป็น ความจริงแล้ว...ควยของผมกำลังหยุบเข้าหยุบออกอยู่ในรูตูดคุณป้าคนสวยวัย 49 เป็นครั้งแรกหลังจากที่เมื่อคืนก็ได้เปิดซิงทางรูหีเรียบร้อยไปก่อนหน้านี้ แล้ว...
“อูยยยยยยยยยยยย...เมียจ๋า...ผัว...ผัวกำลังเย็ด...เย็ดตูดเมียอยู่ใช่มั้ย?...ซีดสสสสสสสสสสส”
“ชะ...ใช่ค่ะ...เมียถูกผัวล่อตูด...อืมมมมมมมมมมมมมม...ควยผัวคับตูดเมียเหลือเกินค่ะ...โอ๊วววววววววววว”
...ไม่ อยากเชื่อจริงๆว่าประตูหลังของป้าเอ็มจะฟิตเปรี๊ยะมีแรงบีบรัดมากมายถึง เพียงนี้...ยิ่งกว่าของผู้หญิงคนใดๆที่เคยเจอมาซะอีก...ผมต้องออกแรงที่ เอวกระเด้าควยมากกว่าปกติจนเหงื่อไหลเต็มหน้าทั้งที่อากาศโดยรอบเย็น สบาย...หากไม่คุมจังหวะให้ดีก็มีสิทธิ์เงี่ยนแตกคาถุงยางในอีกไม่กี่วินาที ข้างหน้า...
(ให้ความรู้สึกแบบมันจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ตลอดเวลา)
“อึ๊บบบบบบบบ...กรอดดดดดดดดดดดด...ทำไมฟิตจังวะ?”
“ฮิๆ...อย่าเพิ่งออกละกัน...เมียยังไม่ได้ขย่มตามที่ผัวเรียกร้องเลย...อือออออออออออ”
“เมตตาผัวมือใหม่บ้าง”
“ไม่รุ!!...ถ้าผัวโยกช้าๆเนิบๆถึงตาเมียจะขย่มให้ควยผัวหลุดไปเลย”
“โธ่~~...อุตส่าห์ไม่เร็วมากเพราะกลัวแตกไวนี่น่า”
“มันอยากแตกก็ให้แตกมาสิคะไม่ต้องกลั้นไว้...ยังมีเวลาอีกเยอะ...ไม่ต้องกลัวเมียว่าเป็นไก่อ่อนหรอก”
...ผม กระเด้าควยถี่ขึ้นแต่ก็พยายามครองเกมส์ยื้อให้นานเข้าไว้ทว่าป้าเอ็มกลับ แกล้งขมิบรูก้นตลอดเวลา...ด้วยความที่มันฟิตจนรัดควยแทบปริอยู่แล้วก็ยิ่ง บีบตอดหนักข้อไปใหญ่...
“อืมมมมมมมมมมมม...พ่อบอลจ๋า...ซีด สสสสสสสสสสสส...เร็ว...เร็วเข้า...เร็วๆ...อูยยยยยยยยยยย...ป้าเสียวตูดจัง เลย...โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย...ควยตาหนูอร่อยเหาะไปเลยจ้ะ...อื๊อออออออออออ ออออ...เบาๆก็ได้เดี๋ยวออกเร็ว...อึ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“งะ...งั้นป้าขย่มดีกว่านะ...ผมได้จะออมแรงไว้”
“จ้ะ”
...ผม ชักควยออกจากรูก้นป้าเอ็มและจัดดึงถุงยางใหม่...สาวใหญ่บอกให้ผมนอนหงายเอา เบาะที่เตรียมมาหนุนหัวห้อยขาลงไปที่ขั้นบันไดแล้วยืนคร่อมจากนั้นค่อยหย่อน บั้นท้ายลงมาช้าๆพลางเอื้อมจับท่อนควยตั้งลำก่อนจะรูดเบาๆระหว่างนั้นผมถาม เธอว่า...
“ป้าเจ็บก็บอกนะครับ”
“ไม่เป็นไรป้าทนได้ถึงควยตาหนูจะใหญ่กว่าที่เคยเจอมาก็เถอะ”
“กว่าที่เคยเจอ”
“จะบอกให้รู้ก็ได้ว่าควยพ่อบอลน่ะใหญ่กว่าของตาภพซะอีก”
“ฮ้า!?”
“จริง!!”
(อดภูมิใจไม่ได้เหมือนกันแฮะ...อุ๊บ!!!)
“อู๊ยยยยยยยยย...อูยยยยยยยยยย...ตูดเมียแหกหมดแล้วมั้ง?...อืมมมมมมมมมมมมมม”
“หัว...หัวเข้าหมดแล้วครับ...ซีดสสสสสสสส”
...ป้า เอ็มเริ่มโยกตัวขึ้นลงช้าๆพลางบีบนมไปด้วยส่วนผมจับสะโพกเธอแล้วเงยหัวมอง ท่อนควยกำลังผลุบหายเข้าไปทางประตูหลังมากขึ้นเรื่อยๆจนมิด...ผมรู้สึกได้ ว่ามีน้ำเมือกจากรูหีไหลเยิ้มลงมาเปรอะควยซึ่งช่วยในการหล่อลื่นเวลาป้าเอ็ม ขย่มตัวขึ้นลงมันก็ซึมเข้ารูก้นโดยอัตโนมัติ...
“จะขย่มแล้วนะจ๊ะ”
“ผมรออยู่ครับ”
“อึ๊บๆๆๆ...โอวววววววววววว...จะ...เจ็บ...โอยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ป้า?”
“ไม่เป็นไร...มันเสียวมากกว่า...เพราะงั้นป้าไม่หยุด...คิกๆๆ...อืออออออออออออออออ”
...แสดงว่าที่บอกนั้นเป็นจริงเพราะป้าเอ็มเร่งความเร็วโขยกควยหลานชายตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆปากก็ครางกระเส่าร้องดังลั่นตามไปด้วย...
“อ๊าววววววววววววววว...รู้อย่างนี้...ป้ามาหาตาหนูนานแล้วววววววววววววว...เสียว...เสียวตูดจริงๆ”
“ผมก็เสียวควยครับ...โอววววววววววววววววว”
“ดีจริงที่ยังมีหลานชายไว้เย็ด...ซีดสสสสสสสสสสสสสสสส...คงไม่ว่านะที่มีป้าขี้เย็ด...โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ไม่...ไม่ว่าเลยครับ”
...ผมกับสาวใหญ่ร้องครางแข่งกันลั่นบ้านซึ่งถ้ามีใครอยู่รอบๆคงรู้แน่ว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่?...จริงด้วย...ยังมีศิอยู่อีก...
“ป้า...ป้าขย่มแรงไปแล้ว”
“ได้ ที่แล้วล่ะลูก...เด้งควยสู้ด้วยสิจ๊ะ...อื้มมมมมมมมมมมมมมมม...แข็งเต็มรูดี จังควยหลานรักของฉันเนี่ย...ทำไมควยใหญ่อย่างนี้...รูตูดป้าบานแน่ๆ...อู ยยยยยยยยยยยยยยย...ทั้งเจ็บทั้งเสียวพร้อมกันเลย...โอออออออออออออ”
...ป้า เอ็มเอนตัวมาข้างหลังพลางยื่นปากมาให้ผมๆจูบพร้อมส่งลิ้นเข้าไปในปากส่วนมือ ก็ขยำหน้าอกเธอไปด้วยโดยที่ท่อนล่างของเราก็กระแทกกระทั้นกันไม่มีหยุดพัก ให้เว้นระยะ...พี่สาวพ่อส่ายเอวร่อนคลึงแล้วเอานิ้วถูหีให้น้ำหล่อลื่นไหล ออกมาชะโลมควยเยอะๆ...
“เหมือนฝัน...”
“หือ?”
“เหมือนกับกำลังฝันเลยครับ”
“เหรอคะ?”
“แต่...แต่มันคือความจริง...ผมกำลังล่อตูดป้าอยู่...อู๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ชอบมั้ยจ๊ะ?”
“ชอบมากครับ”
“งั้นก็อย่าไปเย็ดใครอีกนะ?”
“เอ่อ”
“ฮิๆ...นึกแล้วว่าต้องลังเล...ไม่เป็นไร...อืมมมมมมมมมมมม...ตาหนูก็คิดเองเถอะว่าผู้หญิงคนอื่นกับป้า...ใครจะเย็ดมันส์กว่ากัน”
“อ๊ะ!!”
...ผม ร้องด้วยความเสียดายเพราะจู่ๆสาวใหญ่ก็ยกก้นขึ้นควยหลุดเลยเผลอแอ่นตามแต่ ไม่นานหล่อนกลับสวนรูตูดลงมาทับควยพอดีพอดิบ...เราสองป้าหลานถึงกับร้องครวญ ครางโผเข้ากอดกันแน่นด้วยความเสียวซ่านไปทั้งร่างกายเชียว...
“เอ๊าะอ๊อยยยยยยยยยย...เด้งควยขึ้นมาซะได้”
“ป้าเล่นแบบนี้หัวใจผมจะวาย”
“พูดจาเป็นคนแก่เลยนะ”
...ป้า เอ็มหมุนตัวกลับและประคองหัวผมให้ดูดนมส่วนเธอจับหัวไหล่ผมยกก้นกระแทกควย ปั่บๆๆๆๆอ้าหลับตาปี๋อ้าปากครางซี๊ดซ๊าดเหงื่อออกเต็มตัวแล้วระหว่างที่ผม เลียหัวนมป้าเอ็มอยู่นั้นศิได้ออกมาจากที่ซ่อนเดินขึ้นบันไดมาสองสามก้าวจาก นั้นก็เลิกเสื้อโชว์หน้าอกในวัยสาวน้อยให้ผมดูพลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากเพราะ ป้าเอ็มหันหน้ามาหาผมจึงมองไม่เห็นศิที่อยู่ข้างหลัง...
(เธอคงเงี่ยนเต็มที่แล้วล่ะแต่ว่าควยเราไม่ว่างกำลังร่วมเพศทางรูตูดนายหญิงของหล่อนติดพันอยู่เนี่ยน่ะสิ)
“เออะ...หลานรักของป้า...ไม่ไหว...ป้าจะออกแล้วจ้ะ...อ๊อยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ผมก็ชักไม่ไหวเหมือนกันครับ”
...ดี เลย...ผมไม่อยากน้ำแตกก่อนป้าเอ็มให้ขายหน้าตัวเอง...ในเมื่อสาวเจ้าจะถึง สวรรค์งั้นผมก็จะได้เสร็จตามหล่อนไปด้วย...อะไรนั่น!?...ศิรูดกางเกงยีนส์ลง แล้วเอามือลูบเป้ากางเกงในแถมส่งสายตาหวานเยิ้มให้ผมอีกต่างหาก...
“ปิดท้ายด้วยท่าเมื่อกี้เถอะ”
“ได้ครับ”
...ผมพลิกตัวสาวใหญ่ให้นอนหัวหนุนเบาะแทน...ป้าเอ็มโอบแขนกอดรัดผมแน่นพลางขยับก้นสู้ควยที่สวนแทงอย่างแรงเป็นการส่งท้าย...
“อะ...เอา เลย...ไม่ต้องกลัวป้าเจ็บ...เย็ดตูดป้าแรงๆ...อย่างนั้นๆๆๆ... โอ๊ววววววววววววววววววว...ถูกใจป้าเหลือเกิน...มะ...ไม่ไหวแล้ว วววววววววววววว”
“ผะ...ผมก็...กรอด...เงี่ยนจะพุ่งแล้วครับ”
“ออก...ออกเลย...เอาถุงยางออกแล้วยัดใหม่...ทะ...ทันมั้ย?”
“ไม่ครับ...ไม่ทันแล้วววววววววววววววววววว...โอ๊วววววววววว”
...ป้า เอ็มกอดตัวผมแน่น 2 ขาเธอตวัดไขว้เกี่ยวเอวพยายามแอ่นก้นใส่ผมเป็นพัลวันด้วยความบ้าคลั่งโดยที่ ศิยืนตรงหัวบันไดเอานิ้วถูกางเกงในตัวเองสูดปากซี๊ดซ๊าดตามไปด้วยและในที่ สุดควยผมก็ทนแรงบีบรัดภายในรูตูดของป้าเอ็มต่อไปไม่ไหวกระฉูดน้ำอสุจิออกมา มากมายยิ่งกว่าตอนเย็ดหียกแรกเสียอีก...ผมนอนหมดแรงบนร่างสาวใหญ่ที่ลูบหัว ลูบหลังกับมองด้วยแววตาที่รักใคร่เอ็นดู...
“ใช้ได้ยังครับ?”
“จ้ะ...ลีลาเข้าขั้นแล้วแต่ต้องให้อึดอีกนิด”
“ผมขอฝึกกับป้าอีกนะ”
“ได้จ้ะที่รักขา~~...น่ารักแบบนี้จะตามใจให้ทุกอย่างเลย”
...พอ ป้าเอ็มจะหันหน้าไปบันไดผมก็จับมาจูบเพื่อไม่ให้สาวเจ้าเห็นศิที่กำลังดึง กางเกงขายาวขึ้นแต่ก่อนนั้นหล่อนเอานิ้วเกี่ยวขอบกางเกงในที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่นพลางชี้มาที่บริเวณเป้าประหนึ่งต้องการจะบอกให้รู้ว่าตัวเองพร้อมมีเพศสัมพันธ์กับผมทุกเมื่อ...
“อะไรหรือจ๊ะ?”
“เปล่าครับ”
(แอบโบกมือให้ศิหลบไปก่อน)
“ฮิๆ...ควยตาหนูยังไม่หดง่ายๆเลยเนี่ย”
“เพราะฤทธิ์ยาหรือเปล่า?”
“ใช่จ้ะ...กินอีกสักเม็ดแล้วขึ้นไปพักในห้องก่อนนะ...เดี๋ยวเศกก็พาเมียมาถึงแล้ว”
...ผม ดึงควยออกจากรูก้นป้าเอ็มแล้วรูดถุงยางที่มีน้ำกามนองอยู่ในนั้นออกพลางคิด ว่าถ้ายกหน้าไม่สวมมันจะแตกเร็วกว่ายกนี้หรือเปล่านะ?...
............................................................................................................................

“อุ!!...อู๊ยแสบก้นจัง~~...ควยตาหนูก็ใหญ่คับรูเหลือเกิน...เอ๊ะ?”
“..............................................”
“ศิ!?...นี่!!...นี่เธอมาถึงเมื่อไหร่น่ะทำไมเร็วจัง?”
“หนูไม่ได้ไปค่ะ”
“ห๊า!?...งั้นเธอก็เห็น...”
“ค่ะ”
“สำคัญมากนะยะหล่อน!!...แอบดูตาหนูชำเราตูดฉันเพลินเลยสิ?”
“ก่อนหน้านั้นอีกค่ะนายหญิง”
“ฮ้า!!!...ในห้องน้ำกะในครัวก็ด้วยรึ?”
“..............................................”
“อื้อหือ~~...เธอนี่นับวันก็เหมือนสองพี่ชายจอมลามกเข้าไปทุกทีๆ”
“ต่อไปถึงทีของหนูมั่งสิคะ”
“หนอยแน่ะ!!...แอบย้อนกลับมาแล้วยังจะ...”
“นายท่านก็ตกลงแล้วค่ะ”
“ตาหนูรู้!?”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวเหอะๆ...สองคนนายบ่าวรวมหัวช่วยกันปกปิดดีนัก!!”
“นายหญิง...”
“ก็ตามใจซี่~~”
“ขอบ...ขอบพระคุณนายหญิงค่ะ!!!!”
“แต่ฉันจะเอาคืนแก้เผ็ดตาหนูมั่ง...ไว้รอให้สามคนนั่นมาก่อน...ฮิๆๆ...รับรองสนุกแน่!!!”
...ได้ยินเสียงสองนายบ่าวคุยกันผมก็อดขำไม่ได้ว่าจะโดนแก้เผ็ด...แหม~~...พูดดังแบบนี้เขาก็รู้ตัวก่อนสิครับคนสวยจ๋า!!!...
“ไม่มีทางยอมโดนเชือดง่ายๆหรอกน่า!!...มั่นใจว่าตัวเองก็มีดีเหมือนกัน”)
...เอา ไว้ว่างๆผมจะท้าวความถึงเหตุการณ์สยิวทั้งหมดตลอดเวลาที่พักอยู่ในบ้านพัก กลางอากาศให้กระจ่างแจ้งแต่ขอให้ผมเคลียร์ปัญหาของตัวเองซะก่อน...
(ทั้งที่กลุ้มใจจะตายห่าแต่ยังมีกะจิตนึกถึงความหลังอันสุดแสนทะลึ่งลามกของตัวเองได้อีก!?)
...................................................................................................................................................

“ประตูไม่ได้ล็อค!?...พี่แคท!!”
...ก่อน จะกลับเข้าบ้านไปอธิบาย(ง้อ)เรื่องราวให้สาวน้อยสาวใหญ่หายโกรธผมแวะที่หอ พักเพื่อจ่ายเงินค่าเช่าที่ติดค้างไว้แต่ก็ต้องประหลาดใจระคนตกใจเพราะเมื่อ เปิดไฟในห้องผมก็เห็นหญิงสาววัย 22 นั่งไขว่ห้างกอดอกและมีสีหน้าที่บึ้งตึง!?...
(โมโหใครมาเนี่ย?)
“พอดีเลย...นี่ครับขนมเปี๊ยะร้านที่พี่ฝากซื้อกับเงินทอน”
“.................................................”
“มีตราประทับของร้านด้วย...หากผมไม่ได้ไปลำพูนจริงก็คงไม่มีทางซื้อมาได้...จริงไหมครับ?”
“.................................................”
“...ทำไมมองผมแบบนั้น?”
...แล้ว ทันใดนั้นพี่แคทก็ลุกขึ้นมาชกหน้าผมจนเซถลาไปนอนหงายอยู่กลางห้อง!!!!...ผม โดนกำปั้นชกเข้าที่ระหว่างโหนกแก้มกับขมับอย่างจังเลยก็รู้สึกมึนหัวอยู่พัก ใหญ่กว่าที่จะนั่งได้...
“ปะ...เป็นบ้าอะไรของพี่!?”
“เป็นบ้าอะไร?...ฉันควรจะถามประโยคนี้กับเธอมากกว่า!!”
“เรื่องของบุศใช่มั้ย?”
“.................................................”
“แต่ผู้ดีเขาไม่ใช้กำลังตัดสินปัญหาหรอกนะและผมก็ไม่รู้เห็นกับการกระทำของบุศด้วย!!”
“ผู้...ดี?...อย่างเธอเหรอผู้ดี!!!”
(ทำ...ทำไมถึงต้องตวาดเสียงดังขนาดนี้ด้วย!?)
“เลิกแก้ตัวให้ดูประหนึ่งว่าเป็นคนดีซะที!!”
“เออผมมันไอ้เลว!!!...พอใจหรือยัง?”
“ไม่ ต้องทำเป็นพูดประชด!!...ที่ผ่านมาฉันพยายามอดกลั้นมาตลอดแต่ก็ไม่มีอะไรดี ขึ้น...บัดนี้...มันถึงจุดที่สุดแล้ว!!!...ฉันเคยพูดใช่ไหมว่าพี่กุนคือคน ที่มีบุญคุณและจะไม่ยอมให้อภัยใครก็ตามที่ทำให้เธอเสียใจ?”
...พอหญิงสาว ก้าวเข้ามาผมฉวยหยิบขวดน้ำขว้างใส่เพื่อหาทางหนีแต่นอกจากจะใช้ไม่ได้ผลแล้ว ยังถูกเธอใช้เข่าตีท้องจนทรุดฮวบแต่ไม่ปล่อยให้ผมร่วงไปกองกับพื้น...หล่อน คว้าคอเสื้อผมดึงขึ้นมาและมองด้วยดวงตาที่แดงระเรื่อ...
(หรือนี่คือ?)
“อะ...อะ”
“อย่าพูด--...อย่าพูดออกมาแม้สักคำเดียวเลย!!”
“หยุดนะพี่แคท!!!”
...ทันใดนั้นฝนก็กระโดดเข้ามาพร้อมกับเงื้อกำปั้นพุ่งใส่พี่สาวตัวเองอย่างไม่รีรอแต่ถูกป้องปัดได้อย่างง่ายดาย...
“ตามมาจนได้”
“หนูต้องตามสิ...ปล่อยบอลนะ!!!”
...ฝน พุ่งหมัดใส่อีกครั้งโดยทีนี้พี่แคทผลักผมออกไปและรับหมัดของน้องสาวด้วย กำปั้น...หมัดต่อหมัดประทะกันเสียงดังและจากแรงกระแทกทำให้สาวผู้พี่ที่ตั้ง รับอยู่กับที่ต้องถอยผงะไปมากกว่าเพราะสาวผู้น้องโถมเข้ามาทั้งตัว...
“กล้าแลกหมัดกับพี่ตรงๆแล้วหรือ!?”
“บอลรีบหนี!!!...ฉันจะรับมือพี่แคทเอง”
...ไม่... ไม่ไหว...รับการโจมตีที่รุนแรงเข้าไปถึงสองครั้งทั้งที่หน้าและที่ท้องผมจึง ยังทรงตัวขึ้นมาไม่ได้แต่ก็พยายามเขยิบตัวมาที่ประตูทว่าพี่แคทเดินมาขวาง ไว้...
“...หนีไม่พ้นหรอก”
“มากเกินไปแล้ว!!...ค่อยๆคุยกันสิคะ”
“ป่วยการที่จะพูดและเธอก็เหมือนกัน...ต่อให้เป็นน้องแต่ฉันจะจัดการซะอีกคนหากสอดมือมายุ่ง”
“พี่กุนกับสาไม่ต้องการให้พี่ทำเช่นนี้”
“ฉันจะสั่งสอนเจ้าลิงได้แก้วนี่แทนผู้มีพระคุณต่างหาก...ถอยไป!!”
“ไม่!!...บอลคือคนสำคัญฉะนั้นหนูจะไม่ปล่อยให้พี่ทำร้ายเขามากไปกว่านี้แน่!!!”
“ฝน!!...อื๋อ?”
...คราวนี้เป็นเศกกับศุกร์พุ่งเข้าสกัดพี่แคทด้วยการล็อคแขนสองข้างไว้รวมทั้งศิที่มาช่วยพยุงผมลุกขึ้น...
“พวกนาย!?”
“แจ๋วเลย!!!...ฝากด้วยนะ”
“ค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงพวกพี่...เอ็งพานายท่านไปเร็วๆเข้า!!!”
“ปล่อยฉัน!!!”
...สาว เจ้าผมยาวที่ขึ้นชื่อในความเงียบขรึมเป็นนิจแต่บัดนี้อาละวาดใหญ่ทั้งดิ้น ทั้งสะบัด...นี่ไปๆมาๆสองหนุ่มพี่น้องจะเริ่มรับมือไม่อยู่เหมือนกันนะ!?...
“นายท่านไปจากที่นี่เถอะค่ะ”
“ฉันไปไม่ได้...เศกกับศุกร์ยังอยู่ในนั้นและฝนด้วย”
“นายท่านคะ!!”
“ไม่!!...ฉันไม่ไป!!!”
“บอลจะอยู่นี่ทำไมอีกเล่า?...เที่ยวนี้พี่แคทจะเอาเลือดหัวนายออกให้ได้เลยนะรู้มั้ย!?...อย่าโง่เซ่!!!”
“กรอด!!!”
“คุณสุรีย์พรรณใจเย็นๆก่อน!!”
“ไม่ใช่ความผิดของนายท่านหรอกครับ”
“นายท่านบ้าบอคอแตกอะไร?...ฉันไม่ยอมรับเจ้าคนเหลวแหลกพรรค์นี้!!!”
“ออกแรงมากกว่านี้อีก!!!...ดิ้นหลุดเมื่อไหร่...เราเน่าแน่ๆ”
“ผมก็เต็มที่แล้วพี่...แต่...แต่แรงเยอะเหลือเกิน”
“แส่หาเรื่อง!!!”
“โอ๊ว!!”
“อะไรนี่?”
“ฮ่าห์!!!”
“!!!!”
...แม้ ศิจะหิ้วปีกพาออกมานอกห้องแล้วแต่ผมก็ยังทันเห็นความบ้าระห่ำของลูกพี่ลูก น้องวัย 22 ที่ไม่ทราบไปเอาพละกำลังมาจากไหนจัดการเหวี่ยงผู้ชายถึงสองคนไปคนละทิศคนละ ทางแต่จังหวะนั้นฝนก็ฉวยโอกาสถีบด้วยเท้าขวาเข้าที่ท้องจนร่างของพี่แค ทกระเด็นไปอัดกับผนังห้องและร่วงตกจากเตียงนอนหน้าคว่ำที่พื้นแน่นิ่งไม่ ไหวติงเส้นผมแผ่บานสยายแล้วดาบซามูไรก็หลุดจากข้างเอวหญิงสาวลอยไปตกบนโต๊ะ ของผมด้วย!!!!...
(นี่ตั้งใจว่าถ้าซ้อมเราจนน่วมแล้วก็จะจับตอนใช่มั้ยเนี่ย!!!?)
“สำ...สำเร็จแล้วคุณหยาดฝน!!”
“...................................................”
“น่ากลัวเหลือเกินครับ...เวลาคุณสุรีย์พรรณโกรธ”
“...................................................”
“...นายสองคน...รีบออกจากที่นี่...เดี๋ยวนี้เลย”
“หา?”
“เร็วเซ่!!!”
“คุณหยาดฝน!?”
“ถ้าเมื่อกี้บอกน่ากลัวแล้วต่อไปจะเรียกอะไร?”
“!!!!!!!!!!!”
“กล้า มาก...กล้าทำร้ายกระทั่งพี่สาวแท้ๆของตัวเองเพียงเพราะผู้ชายโฉดชั่วคน เดียว?...เพื่อปกป้องผู้ชายเพียงแค่คนเดียวก็ถึงกับเอาเท้าถีบพี่สาวร่วมสาย เลือดอย่างฉัน!!!!”
“ไม่ทันแล้ว!!!”
...และแล้วผมก็ได้ยิน เสียงบางอย่างที่ฟังแล้วมันน่าสยดสยองขนลุกคล้ายกับเสียงกระดูกหักยังไงก็ ไม่รู้ต่อจากนั้นเสียงร้องแห่งด้วยความเจ็บปวดก็ดังตามมาติดๆ...เศกถลันเข้า มาบังให้ฝนแล้วโดนพี่แคทต่อยเข้าที่ชายโครงอย่างแรง...
“พี่เศกคะ!!!!”
“อ๊อก...แค่กๆ...อั๊ก”
“โธ่เว้ย!!...ซี่โครงพี่หักไปกี่ซี่แล้วเนี่ย?”
“...ออกรับแทน?”
“ในที่สุด...ในที่สุดยมทูตมรณะก็เผยโฉมหน้าออกมาแล้ว!!!!...ถ้าไม่ทุ่มเทฝีมือสู้สุดชีวิตมีหวังถูกลากลงขุมนรกแน่!!!”
“คะ...คะ...แค่หมัดเดียว!?”
“ศุกร์...พาเศกออกไปแล้วล็อคประตูซะ...ฉันจะขอเดิมพันหยุดอสูรร้ายตรงหน้านี่เองเพื่อตอบแทนพี่ชายของนาย”
“คุณหยาดฝนจะสู้คนเดียวเหรอครับ?...เป็นไปไม่ได้!!!”
“อยู่ก็เป็นตัวถ่วงฉันเปล่าๆพี่นายซี่โครงหักเบาะๆก็สองซี่ต้องรีบไปรักษา...ทำตามที่บอก!!”
“คะ...ครับ”
“อย่าขยับ!!”
“พี่นั่นแหละหยุด!!!”
“ฝน!!...เธอทำอะไรน่ะอย่าบ้านะ!?”
“ยังไงก็เป็นน้องสาว..พี่แคทไม่ฆ่าฉันหรอก”
“ฉันไม่มีวันฆ่าเธอแต่จะสั่งสอนให้หลาบจำ...จะมอบความเจ็บปวดชนิดที่ไม่มีทางลืมได้ลงตลอดชีวิต”
“หนูไม่กระจอกขนาดจะให้พี่ทำอย่างพูดง่ายๆ”
“........................................................”
“พี่ศุกร์พาพี่เศกไปโรงพยาบาลนะคะ...หนูจะไปกับนายท่านเอง”
“ฉันไม่ไป!”
“นายท่าน!!!”
“อันตราย มากนะครับ!!...คุณสุรีย์พรรณในตอนนี้ถูกสุริยะโลหิตครอบงำ...เธอจะทำร้ายทุก คนที่ขวางหน้าแม้กระทั่งคุณหยาดฝนก็ยังไม่ปลอดภัย!!!”
“เพราะงั้นฉันถึงต้องอยู่”
“บอล...”
“จะแสดงให้รู้ว่าโทษของการลบหลู่ฉันคนนี้แล้วมันเป็นอย่างไร?”
“ไม่มีใครลบหลู่พี่แต่เป็นพี่เองนั่นแหละที่โมโหจนขาดสติ”
“หุบปาก!!!”
“ย่าห์!!!”
...ฝน เป็นฝ่ายฉวยโอกาสโจมตีก่อนด้วยการกระโดดถีบสองเท้าแต่พี่แคทกางฝ่ามือรับและ จับที่บริเวณน่องขาแล้วเหวี่ยงร่างน้องสาวทิ้งลงพื้นหน้าตาเฉยเหมือนกับ ขว้างสิ่งของที่ไม่มีชีวิต...พอล้มก้นกระแทกพื้นฝนก็กลิ้งตัวถอยออกห่าง ทันทีเพื่อเซฟตัวเอง...
“เชอะ!!”
“ที่นี่...ยาก”
“ถูกต้อง...มันยากมากแต่ยังไงหนูก็จะหยุดพี่ให้ได้และต้องเป็นในห้องนี้ด้วย”
“เสียแรงที่ฉลาด”
“อุ๊บ!!!”
...พี่ แคทจู่โจมกลับบ้าง...เธอสืบเท้าซ้ายไปข้างหน้าครึ่งก้าวแล้ววาดแขนชกอับ เปอร์คัทด้วยหมัดขวาในแนวเฉียงจากล่างขึ้นบนเฉียดคางน้องสาวที่ถอยหลบไป อย่างหวุดหวิดและตามด้วยหมัดซ้ายตรงซึ่งฝนก็ยกเข่ารับแต่ต้องหงายหลังล้ม เพราะความรุนแรงของกำปั้นกับการยืนทรงตัวแค่ขาเดียวทำให้ร่างกายเสีย สมดุล...
“แย่แล้วค่ะ!!”
“?”
“คุณหยาดฝนใช้ขาเป็นหลักจึงถนัด ต่อสู้ในพื้นที่กว้างแต่จุดเด่นของคุณสุรีย์พรรณคือหมัดที่หนักทั้งซ้ายและ ขวา...แม้ช่วงแขนของคนเราจะสั้นกว่าช่วงขาก็จริงแต่ศิคิดว่าในที่แคบแบบนี้ คุณสุรีย์พรรณจะได้เปรียบคุณหยาดฝนเพราะต้องการเนื้อที่น้อยกว่าค่ะนายท่าน”
“...แถมข้าวของที่อยู่ในห้องก็เป็นตัวเกะกะซะด้วย”
“ใช่ ค่ะ...จะเตะหรือจะถีบก็ใช้แรงส่งเต็มที่ไม่ได้...คุณหยาดฝนอาจจะใช้เข่า คล่องแคล่วแต่ก็ไม่เพียงพอจะเผด็จศึกคุณสุรีย์พรรณที่มีฝีมือระดับเดียวกัน ได้และยิ่งมาเกิดสุริยะโลหิตด้วยแล้ว...”
...หมายความว่าถ้าปล่อยให้ฝน สู้ตามลำพังก็มีแต่แพ้กับแพ้น่ะสิ!?...ไม่!!...จะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้เพราะ นี่คือปัญหาที่ผมเป็นคนก่อ!!!!...พี่แคทระดมพายุหมัดซ้ายขวาชกใส่ฝนที่หลบ กับถอยร่นเสียส่วนใหญ่แต่เธอก็จะตอบโต้กลับมาตลอดชนิดที่ทำให้พี่แคทชะงักไป ได้เหมือนกัน!!!...
“จะเตือนเป็นครั้งสุดท้าย...หลีก!!!”
“ไม่!!!...ถ้าพี่จะทำร้ายบอลต้องเอาชนะฝนซะก่อน”
“นังเด็กไม่รักดี!!!”
“พอแค่นั้นเถอะครับอย่าทำร้ายฝน!!...คนที่พี่ต้องการคือผมไม่ใช่หรือ?”
“นายท่าน!!!”
“นี่...นี่ศุกร์ไม่ได้ล็อคประตูเหรอ?...บ้าเอ๊ย!!!!”
“เตรียมตัวชดใช้กรรม!!!!!”
.........................................................................................................................................

...เรียบเรียงตอนนี้จบก็ให้มาคิดสงสัยว่าตกลงแล้วใครเป็นคนร้ายกันแน่ระหว่างบอลกับแคท?...

...ตอนที่แล้ว Wannaluck Sidestory 1 ...
...ตอนต่อไป ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 53 ...

Wannaluck Sidestory 1

Wannaluck Sidestory 1 “ทุกสิ่งไม่เหมือนเดิม!?”

“จะรับเพิ่มหรือเจ้าคะ?”
“เปล่าค่ะ...คือ...”
“................................................”
“................................................”
“ทำไมคุณป้อมถึงมองฉันจังเลยคะ?”
“คุณหนูเล็ก...คงจะอยากสนทนากับคุณวรรณลักษณ์กระมัง?”
...เสียง ของเด็กหญิงรับใช้ที่น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกันช่วยทำให้หนูตื่นจากจาก พวังค์...สนทนาหรือ?...คุณป้อมคงจะอยากตบหนูมากกว่า...พยายามมองไปทางอื่นรึ ไม่ก็ชวนพี่สาคุยโน่นคุยนี่แต่พอหันหน้ามาก็ยังเห็นคุณป้อมจ้องตาลุกวาวเสีย ทุกครั้งไป!?...ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าหนูไปทำอะไรให้เธอขุ่นเคืองตั้งแต่ เมื่อไหร่?...
(แล้วก็ทำไมน๊าทำไมเก้าอี้ตัวสุดท้ายในจำนวนทั้ง 8 ที่เธอนั่งถึงอยู่ใกล้ๆเราด้วย!?)
“จะให้รอไปถึงไหนเนี่ย?”
“ใจเย็นๆ”
“..............................................”
...พี่ สาเริ่มอึดอัดกับบรรยากาศเบื้องหน้าซึ่งหนูก็รู้สึกแบบเดียวกันว่าถ้าคุณปู่ กับคุณย่าของพี่บอลเห็นพวกเราแล้วจะว่าอย่างไรมั่ง?...พวกท่านจะยอมรับได้ หรือเปล่าโดยเฉพาะหนูที่เป็นแค่ลูกสาวอดีตคนรับใช้?...
“เปลี่ยนชุดแล้วค่อยมานั่งไม่ดีกว่าเรอะ?”
“เสียเวลา”
“ตรงไหน?”
“ก็ตรงที่มองบรรดาว่าที่พี่สะใภ้ทั้งหลายให้เต็มๆตาน่ะสิคะ”
“จะไปยุ่งอะไรกับเขาหรือ?”
“พี่แคทก็รู้ว่าป้อมคิดอะไรแต่ยังจะแสร้งถาม...จะให้บอกออกมา?”
“พูดจาโอหังยัยตัวเล็ก!!”
“หนูรู้สึกยังไงก็พูดออกมาแบบนั้น...ไม่เหมือนพี่ฝนที่ร้ายลึกน่ากลัวกับหลอกคนอื่นเก่งมากๆ”
“...............................................”
“พี่กวางว่าไว้ไม่ผิด...นิสัยเหมือนคุณศรมรกต”
“แถมแตะต้องไม่ได้ง่ายๆด้วย”
“หนูป้อมจ๊ะ”
“?”
“การรับฟังความเห็นของผู้ที่อาวุโสกว่าถือเป็นสิ่งที่สมควรกระทำนะ”
“หากมันมีประโยชน์จะรับฟังแต่ถ้าไม่หนูก็ขอเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา”
“..................................................”
“ยังไงก็แล้วแต่...คำสั่งสอนของคุณน้า...หนูจะจำใส่ใจไว้ไม่มีลืมค่ะ”
“..................................................”
“ฮืม--”
“ใช่แล้วจ้ะพี่แคท”
...แล้วพี่แคทกับฝนก็ยิ้มให้กันส่วนคุณป้อมหลับตานั่งเงียบไปพักใหญ่จนกระทั่ง...
“นายหญิงมาถึงแล้วเจ้าค่ะ”
“สวัสดีครับคุณแม่”
“ไม่ค่อยจะกลับมาเลยนะพ่อภพ?”
“งานมันยุ่งครับคุณแม่”
“แล้วปีใหม่จะมามั้ย?”
“โอ้!!...นี่โอกาสสำคัญไม่มาไม่ได้ครับ”
“ต้องพาหลานบอลมาพบแม่ด้วย”
...งาน นี้ไม่ใช่ง่ายๆเพราะพี่บอลยืนกรานว่าชั่วชีวิตจะไม่กลับมาที่นี่แถมพอใคร เซ้าซี้มากๆก็จะพาลโมโหทุกครั้งแต่คนๆนี้หรือคุณย่าของพี่บอล?...แม้จะล่วง เข้าวัยชราแต่ร่างกายก็ยังดูแข็งแรงกระฉับกระเฉงและที่สำคัญคือแววตาของท่าน เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตัวเองกับแฝงไว้ซึ่งอำนาจบารมีที่สามารถข่มผู้ อื่นให้ยำเกรงได้ตั้งแต่แรกเห็น...
“สวัสดีค่ะคุณแม่...กุน,สา...สวัสดีคุณย่าอุทุมพรซะสิ”
“อ้อย”
“ค่ะแม่”
“เดี๋ยวก่อน!...ฉันไม่ให้เรียกย่าเพราะพวกเจ้ายังไม่มีใครได้รับการยอมรับว่าเป็นหลานสะใภ้ของบ้านนี้”
“ทำ...ทำไมคะคุณแม่?”
“แม่ กวางฤทัยไม่เข้าใจหรือไงว่าฉันต้องการตัดปัญหายุ่งยาก?...รอให้หลานบอลเลือก ซะก่อนว่าจะแต่งงานกับใครแล้วค่อยมาเรียกย่าก็ยังไม่สาย”
“..................................................”
...นาย หญิงอุทุมพรช่างเป็นบุคคลที่น่าหวั่นเกรงมาก...แค่ได้ยินเสียงพูดปกติหนูก็ ตัวสั่นแทบจะไม่กล้าสบตาด้วยแล้ว...นึกไม่ถึงจริงๆว่าพี่บอลจะมีคุณย่าที่ เข้มงวดถึงเพียงนี้...
“ทะเลาะกับตามาอีกแล้วใช่มะ?”
“ฝน!”
“แหมๆ...ออกมาก็หน้าบึ้งอย่างเงี้ยสงสัยใช่แหงๆ”
“ยายไม่ได้ทะเลาะกับตาสักหน่อย”
“เฮอๆ...ถ้าเรื่องเงินล่ะก็หายห่วง...ตาไม่ได้แอบจิ๊กไปให้อีหนูที่ไหนแต่เอามาให้หนูเองแหละจ้ะ”
“ฮะๆๆอีหนูเร๊อะ!...ขานั้นน่ะไม่กล้าร้อก~~”
“คุณยายอย่าถือสาฝนนะคะ...เด็กนี่ชอบพูดเหลวใหล”
“เหลวใหลอะไรกันเจ๊?”
“หยุดพูดเลย!”
“ไม่เป็นไรๆก็เหมือนแม่ภาตอนอายุเท่าๆกันนี่แหละ...แล้วขนมที่ยายทำเป็นไงบ้าง?”
“อร่อยมากค่ะ”
“ฝีมือยายไม่มีตกเลยแต่คนเอามาให้เนี่ยสิ--”
“ว่าไงน๊ะ!?...คนเอามาให้มันเป็นยังไง?”
“ยังจะต้องให้บอกรึ?”
“ฮึ่ม!...แน่จริงก็พูดมาซี่!!”
“ไม่เอาลูกไม่เอา...พูดจากันดีๆเถอะเป็นพี่เป็นน้องกันทั้งนั้น”
“ก็พี่ฝนชอบแหย่หนูอยู่เรื่อย”
“งั้นยัยตัวเล็กก็อย่าหาเรื่องก่อน...ทำได้มั้ยล่ะ?”
“ใครกันแน่คะที่หาเรื่องก่อน?”
“เอ้าๆ...ยายขอๆ”
...ทว่า... พอกับหลานสาวของตนเองกลับมีสีหน้าแววตาทีท่าอ่อนโยนลงอย่างไม่น่าเชื่อซึ่ง พี่บอลก็คงจะได้รับการปฏิบัติที่ดูอบอุ่นมีเมตตาแบบนี้ด้วย...
“เอาล่ะ!...แม่สาวพวกนั้นน่ะแนะนำตัวให้ฉันรู้หน่อยว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครมาจากไหน”
“อะไรๆ...เริ่มไปแล้วเร๊อะ?”
“ก็ใครใช้ให้มัวแต่ยืดยาด”
“จะรอสักหน่อยก็ไม่ได้น๊า!!...มวยมันเพิ่งจบ”
...คราว นี้เป็นชายสูงวัยท่าทางใจดี...พอลงนั่งเก้าอี้ข้างๆนายหญิงอุทุมพรหนูก็รู้ ทันทีว่าท่านคือคุณปู่ของพี่บอลและเป็นผู้นำตระกูลวิษณุมนตรีคน ปัจจุบัน...ท่านเอกบดินทร์...
“สวัสดีคุณพ่อครับ”
“มากันตั้งเยอะตั้งแยะเชียวนะ...ใครบ้างเนี่ย?”
“เอาซี่พี่กุน!!”
(พี่ฝนดูจะเอาใจช่วยพวกเราเต็มที่!?)
“อ่า--...หนูชื่อศกุนตลาค่ะ”
“หนูเป็นน้องสาวชื่อสาวิตรีค่ะ”
“...ลูกสาวของสมควรใช่มั้ย?”
“ค่ะ”
“แหม่--...ไม่นึกว่าเจ้านั่นจะมีลูกสาวน่ารักขนาดนี้...นับว่าเจ้าบอลตาถึง”
“.............................................”
“แล้วแม่หนูคนเล็ก?”
“หนู...หนูชื่อวรรณลักษณ์เป็นลูกสาวของแม่ศรีวิกาค่ะ”
“ห๊ะ!!...ลูกสาวเจ้า?”
“ค่ะนายท่าน”
“เคยเห็นตอนแบะเบาะนี่จะโตเป็นสาวแล้ว...เฮ่ย!?...โดนเจ้าบอลหลอกเหมือนกันเรอะ?...ฮ่าๆๆๆ...เอากับมันสิ”
“ดีอกดีใจซะเหลือเกินที่หลานชายนิสัยเหมือนตัวเองน่ะ?”
“แน่นอน!!!”
(ปลื้มใจที่มีหลานชายเจ้าชู้!?)
“ก็เพราะแบบนี้แหละแม่เซคกับแม่ม่อนถึงไม่ยอมอยู่ไง”
“ปล่อยสองคนนั่นไปเถอะ...ใช่มั้ยเจ้าป้อม?”
“สงสัยเรื่องนี้จะยาวแน่ๆ”
“ข้าก็ว่างั้นแหละ”
“เออใช่ตาแก่...พี่ฝนจะแกล้งหนูอีกแล้ว!!”
“ว่ะ!?...อย่าไปเชื่อยัยตัวกะเปี๊ยกขี้จุ๊นะตา!!”
“คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?”
“ก็พี่สาวเธอไงยะ!”
“นิสัยแย่อย่างนี้ไม่นับถือเป็นพี่ร้อก!!”
“ฉันยังแย่น้อยกว่าเธอเฟ้ย!...ปากเสียแบบนี้ต้องจับตีก้นให้ลายพร้อย!!!”
“ทำได้ก็ลองเซ่!!”
“เฮ้ยๆๆๆ...พอซะทีได้ไหมต่อหน้าแขกเหรื่อตั้งเยอะแยะ?...พวกเจ้านี่มันยังไงกันเฮอะ!?”
“ฮึ่ม!!”
“แฮ่!!”
“หนูแคทพาน้องๆออกไปข้างนอก...ยายชักจะรำคาญแล้ว”
“ป้อมไม่ไปไหนทั้งนั้น!!”
“งั้นสัญญากับยายสิว่าจะอยู่เงียบๆ”
“หนูไม่มีเจตนาจะมาก่อกวนสักหน่อย~~...พี่ฝนต่างหาก!!”
“หนอย!!”
“เดี๋ยวเหอะ!...ถ้าไม่อยากถูกโยนออกไปทั้งคู่ก็นั่งฟังเฉยๆและอย่าหวังว่าตาจะช่วยเลย”
“อือ~~”
“..............................................”
“ยังๆ...ยังจะแยกเขี้ยวใส่กันอีก!?...ช่วยเห็นแก่หน้ายายเค้าหน่อยมีอะไรค่อยไปคุยกันทีหลัง...เข้ามาสิแม่นีย์”
“!!!”
“..............................................”
“ใคร...นี่ใครอีกล่ะคะคุณแม่?...หน้าเหมือนคุณอรนิภาเปี๊ยบเลยแต่...”
“น้องสาวฝาแฝดของคุณอรนิภาชื่ออรศินีย์จ้ะ”
...วาว!!!!... เส้นผมเธอยาวมากๆเลยแล้วก็ยังเป็นสี...สีขาวดุจน้ำนมซึ่งมันแปลกจริงๆเพราะ ปกติผมของคนไทยส่วนใหญ่จะสีดำและมีน้อยมากเหลือเกินที่จะมีสีอื่นอย่างเช่น ลุงเอกภพที่ผมเป็นสีทองมาแต่กำเนิด!?...
(แต่ผมพี่บอลสีดำเหมือนแม่รัญภรณ์)
“ฝาแฝดที่ผมต่างสีมีด้วยหรือเนี่ย?”
“พี่ไม่มีความรู้น่ะ”
“ไว้ยาวมากเลยนะ...นี่ขนาดรวบมัดทำทรงหางม้าปลายผมยังยาวถึงน่อง”
“มีความผิดปกติอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ไม่จ้ะ...แม่โตมาก็เห็นเธอเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว...แม้กระทั่งคิ้วก็สีขาวเห็นไหม?”
“แปลกมากๆ...ไม่เหมือนพี่สาวเลย”
...สรุป คือคุณอรนิภากับคุณอรศินีย์เป็นพี่น้องฝาแฝดที่ช่างแตกต่างกันมากเหลือ เกิน...เธอนั่งเก้าอี้ตัวสุดท้ายของแถวตรงข้ามกับพี่ฝนและคุณป้อมพอดีซึ่งก็ หยุดเถียงกันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้มีเพียงแค่เสียงซุบซิบเบาๆแต่อ้อยได้ ยินเพราะอยู่ใกล้...
“สงบศึกชั่วคราวนะคะถ้าไม่อยากโดนทำโทษ”
“กลัวรึ?”
“ลงโทษให้นั่งสมาธิเป็นชั่วโมงๆใครบ้างจะไม่กลัว?”
“ชี่~~...น้านีย์ยิ้มให้แสดงว่าได้ยินที่เราคุย!!”
“................................................”
(ที่แท้พวกเธอก็กลัวคุณอรศินีย์นี่เองแต่เหตุผลคืออะไร?)
“ท่านพี่เอกภพยังสบายดีอยู่หรือเจ้าคะ?”
“ก็...สบายดี”
“คุณกวางฤทัยแลคุณศรีวิกา...มิได้พบกันเสียนาน”
“จะ...จ้ะ”
“แลนั่น...”
“ลูกสาวของศรีเองค่ะ...อ้อย...สวัสดีคุณอรศินีย์”
“สะ...สวัสดีค่ะ”
“...ดูไปก็ช่างละม้ายคล้ายกับผู้เป็นแม่นัก...น่ายินดี...”
“..................................................”
“..................................................”
“พี่กุน...ทำไมคุณอรศินีย์มองเราเขม็งเลยล่ะคะ?”
“ไม่รู้สิ”
“บุตรสาวของสมควรหรือ?...ประเสริฐยิ่งนัก...ประเสริฐยิ่งนัก”
...คุณ อรศินีย์นุ่งผ้าซิ่นสีฟ้าอ่อนยาวเกือบถึงตาตุ่มที่มีลวดลายประณีตงดงามและ สวมเสื้อคอกลมสีเดียวกันส่วนเครื่องประดับก็มีสร้อยคอกับต่างหูแต่ที่โดด เด่นสุดไม่ใช่ของมีค่าทว่าเป็นรูปร่างหน้าตาต่างหาก...ฝาแฝดของคุณอรนิภาก็ หมายความว่าเกิดวันเดือนปีเดียวกัน...ปีนี้อายุ 40 แต่ดูภายนอกเหมือนเธอเพิ่งจะ 20 ปลายๆเท่านั้น...
“นี่แน่ะพ่อภพ!!...จะให้ลูกชายแต่งงานแล้วทำไมไม่พาเจ้าตัวมาด้วยล่ะ?”
“คือ...”
“มันหมายความว่าอะไร?...เอ้าแม่กวางฤทัยบอกฉันหน่อยซิ!!”
“..............................................”
“ไม่ได้ยินที่ฉันถามหรือ?...นี่ตกลงหลานบอลรู้หรือเปล่าว่าเขาจะต้องแต่งงานน่ะ?”
“อ่า...”
“ว่าไง?”
“ยัง...ยังไม่รู้ค่ะ”
“ไม่รู้?”
“...............................................”
“บังอาจ!!!”
“!!!”
“คุณแม่...คุณแม่ใจเย็นๆก่อนครับ”
...นาย หญิงอุทุมพรในวัยชราแต่น้ำเสียงยังกังวานสดใสและเต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจบารมี แค่เสียงของท่านคนเดียวก็ดังก้องไปทั่วห้องโถงและมันสามารถสะกดพวกเราทุกคน จนไม่มีใครกล้าแม้แต่จะขยับตัวกับไม่กล้าสบตาด้วย...หมดข้อสงสัยเลยว่าคุณศร มรกตนั้นเหมือนใคร...
“ไม่เห็นจะต้องโมโหโกรธาถึงขนาดนั้นเลยนี่ยาย?”
“ยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกรึไงเจ้าป้อม?”
“พี่ฝนเข้าใจงั้นก็บอกหนูมาสิ”
“สองคนนั้นน่ะเงียบ”
“อะไรกันเล่าพี่แคท?”
“...............................................”
“ฮึ!!...แค่พี่บอลไม่ได้มาด้วยเท่านั้นเอง”
...ไม่ เข้าใจหรือ?...ผิดแล้ว!!...อ้อยว่าคุณป้อมอาจจะรู้เรื่องแต่แกล้งมากกว่า เพราะสังเกตแววตาที่มองมาที่พวกเราแต่ล่ะครั้งมันแฝงไว้ด้วยความเย้ยหยันดู ถูกเช่นเดียวกับคุณศรมรกตผู้เป็นแม่และอาจจะรวมถึงคุณอุทุมพรผู้เป็นยาย...
“มัดมือชกกันนี่?...กวางฤทัยศรีวิกา...พวกเจ้าตั้งใจจะให้หลานเอกคเชนทร์เกลียดฉัน!!...จงใจจะให้เขาเกลียดย่าตัวเองใช่มั้ย?”
“ไม่...ไม่ใช่นะคะ!!!...คุณแม่อย่าเพิ่งเข้าใจผิด”
“นายหญิงคะ...ศรีไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่...”
“จะ บอกว่าหลานชายฉันรักกับลูกสาวเธอ?...ฮึ!!...จะรักกันขนาดไหนฉันไม่ขอรับรู้ แต่พ่อบอลต้องมายืนยันว่าอยากจะแต่งงานและจะแต่งกับใครด้วยตัวของเขาเองเท่า นั้น...จู่ๆมาขอให้พวกฉันรับรองโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องนี่เห็นทีจะไม่ ได้!!!”
“แต่บอลมอบแหวนหมั้นให้ลูกกุนแล้วนะคะ”
“ต่อให้แหวนราคาเป็นล้านก็ไม่มีประโยชน์หรอกแม่กวางฤทัย”
“คุณพ่อ”
“คุณกวางฤทัยเอย...ท่านแม่ก็ชี้แจงชัดเจนแล้วมิใช่หรือว่าต้องการให้หลานเอกคเชนทร์มายืนยันด้วยตนเอง”
“นีย์”
“โบราณว่าปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ผูกอู่ตามใจผู้นอน...ท่านพี่เอกภพสมควรให้หลานเอกคเชนทร์เป็นผู้ตัดสินใจนะเจ้าคะมิใช่ผู้ใหญ่รวมหัวหาวิธีรวบรัดจัดการกันเอง...นั่นหาใช่สิ่งที่สมควรกระทำไม่”
“ไม่...ไม่ใช่อย่างนั้น”
“จริงด้วยๆ...ถ้ามั่นใจกันนักหนาแล้วทำไมถึงไม่พาพี่ชายมาด้วยล่ะ?...อ๋อ!!...รึคิดจะใช้แผนมัดมือชกบีบให้พี่ชายไม่มีทางเลือกงั้นสิ?”
“เจ้าป้อม!”
“..................................................”
“ขอแสดงความเห็นหน่อยนะคะ...ในฐานะที่หนูก็เป็นวิษณุมนตรีคนหนึ่ง”
“ลองว่ามาซิ”
“อืม--...ฉันอยากจะถาม...เธอ!!”
“!!!!”
(หนูเหรอ!?)
“พี่ชายอยู่ไหน?”
“เอ่อ...ไปเที่ยวลำพูนค่ะ”
“แล้วเหตุใดจึงไม่รอให้พี่ชายกลับมาถึงก่อนค่อยหารือแต่รีบยกโขยงกันมาทำไม?”
“.................................................”
“ไม่ตอบงั้นฉันตอบเอง...พวกเธอกลัวพี่ชายจะถูกชิงตัดหน้าไปซะก่อนใช่ไหม?”
“หนูยังเด็กไม่รู้อะไรหรอก”
“รู้สิ!!...รู้ดีเลยล่ะและก็พวกเธอน่ะ...”
“ยัยตัวจิ๋ว!”
“ปล่อยนะพี่ฝนอย่ายุ่ง!!...พี่ชายหนูทั้งคนจะให้ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ยังไง?”
“เอาล่ะเลิกเถียงกันเสียทีฉันขอเป็นคนตัดสินเรื่องนี้เอง!!...ตกลงมั้ย?”
“...............................................”
“แม่กวางฤทัยกับแม่ศรีวิกาจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่...ไม่มีค่ะ”
“พ่อภพล่ะ?”
“ผมก็แล้วแต่คุณแม่ครับ”
“ยายจะว่าไงเร๊อะ?”
“เรื่องที่ให้หลานบอลแต่งงานฉันจะขอเลื่อนออกไปก่อนเพราะเจ้าตัวไม่รู้และไม่ได้อยู่ที่นี่”
“ข้ากับยายต้องการเห็นหลานชายได้ครองคู่กับผู้หญิงที่เขารักจริงๆโดยไม่ว่าจะเป็นลูกเต้าเหล่าใครมาจากไหนพวกเราก็ยอมรับได้”
..................................................................................................................................

“เหมือนกับเราเสียเวลาไปเปล่าๆยังไงไม่รู้ค่ะ?”
“อ้อยคิดเหมือนพี่กับสาเลย”
“แม่กับพี่กวางก็นึกแล้วว่านายหญิงต้องเอาประเด็นของบอลมาใช้”
“..........................................................”
...หมาย ความว่าคุณปู่เอกบดินทร์กับคุณย่าอุทุมพรจะไม่ทำอะไรทั้งนั้นจนกว่าพี่บอลจะ กลับมายังบ้านเกิดและประกาศต่อหน้าทุกคนว่าจะแต่งงานกับพี่กุนหรือ...ใครคน อื่น...
“เวลาอย่างนี้ดันหนีไปเที่ยวลำพูนซะได้...เหลวใหลจริงๆและไหนจะมียัยบุศยากับน้องของมันอีกเล่า!!”
“กล้าว่าร้ายพี่ชายฉันเรอะ?”
“คุณป้อม!?”
“รู้ผลลัพธ์ล่วงหน้าแล้วก็ยังจะโง่มากันอีกเขาเรียกงี่เง่าแต่แค่สัญญาปากเปล่าไม่ทำให้ตาเฒ่ายอมรับพวกเธอ”
“สาบานว่านั่นน่ะปากรึนังหนู?”
...คล้าย คุณป้อมต้องการจะดักรอพวกเรา!?...เธอขึ้นไปนั่งอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่หน้า บ้านพลางมองลงมาด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลยโดยเฉพาะอ้อยที่โดนจ้อง เหมือนกับเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่แค้นเคืองกันมานาน!!!...
“สาวิตรีเอ๊ยฉัน จะบอกให้เอาบุญ!!!...จู่ๆพวกหล่อนก็เดินดุ่มเข้ามาขอเป็นลูกสะใภ้ของวิษณุ มนตรีก็ถือว่าบังอาจมากพออยู่แล้วแต่เพราะยังเห็นแก่หน้าคุณน้ารวมไปถึงพี่ แคทกับพี่ฝนอยู่หรอกนะไม่งั้นตาแก่เฉดหัวพวกหล่อนออกไปตั้งนานแล้วรู้ไว้ เสียด้วย!!!!”
“ไร้สัมมาคารวะอะไรอย่างนี้!!!”
“อย่างพวกหล่อนไม่จำเป็นต้องมีโดยเฉพาะเธอ!!”
“หนู?”
“ฉัน ไม่ชอบหน้าเธอตั้งแต่แรกเห็นแล้ว!!!...ชั่วชีวิตนี้ไม่ต้องเจอกันอีกเลยคงดี มาก...อ้อ!...ในสายตาของฉันน่ะบุศยากับบุศลาวัลย์ยังดูดีกว่าพวกหล่อนซะอีก”
“อะไรนะ?”
“แสดงว่าเธอสนับสนุนสองคนนั้นหรือ?”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วจะทำไมรึศกุนตลา?”
“เพราะคุณป้อมไม่ถูกกับพี่แคทและก็พี่ฝนเลยเลือกถือหางฝั่งตรงข้าม”
“ฉลาดเหมือนกันนิ!?...นึกว่าจะดีแต่แก้ผ้าให้ผู้ชายดูอย่างเดียว”
“มันจะมากไปแล้วนะ!!!...ถือวิสาสะอะไรมาด่าลูกฉันฉอดๆ?”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ...ทน ฟังเรื่องจริงไม่ได้เลยเรอะศรีวิกา?...จะปฏิเสธไปทำไมเล่าในเมื่อสุภาษิตเขา ก็มีบอกไว้ว่าจะดูช้างให้ดูหางจะดูนางให้ดูแม่?...ฮิๆ...แม่ลูกประสาอะไรวะ มีรสนิยมชอบใช้ของร่วมกัน?”
“!!!!”
...ประโยคนี้ทำให้อ้อยใจหายวาบและแม่ก็คงจะไม่ต่างกันด้วยรวมทั้งพี่กุน,พี่สา,ป้ากวางที่ต่างก็มีท่าทางตื่นตระหนกไปตามๆกัน...
“ศกุนตลาและก็สาวิตรี...พวกเธอเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า?”
“พูด...พูดอะไรไม่รู้เรื่อง!!!”
“เอ๊าะเหรอ?...งั้นฉันถามแม่เธอดีกว่านะว่า...”
“...ป้อม”
“..........................................................”
“เพิ่งจะเจอกันแท้ๆ...มันไม่มีเหตุผลเลยนะที่หนูจะไปเกลียดพวกเขา”
“แต่แม่สอนป้อมว่าการที่จะเกลียดใครสักคนบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล”
“อะไรนะ?”
“และหนูก็เชื่อมั่นในสิ่งที่แม่สอนด้วย”
“ไม่...ไม่น่าเชื่อว่าพี่เอ็มจะสอนให้หนูมีความคิดแบบนี้...”
“หากคุณน้าไม่พอใจก็ไปคุยกับแม่เองเถอะค่ะ”
“..........................................................”
...................................................................................................................................

“แม่คะ”
“จ๊ะ?”
“หวังว่าคุณลุงจะไม่รู้นะคะ”
“แม่ก็กังวลอยู่แต่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร”
...พวกเราแวะกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารก่อนเข้าอำเภอวัดโบสถ์โดยเลือกที่จะไม่พูดถึงเหตุการณ์ที่โยนกบูรพา...
“โบว์!!!”
“ไง!!”
“มะ...มาทำอะไร?”
“ฉันกับคุณพี่ก็ไปที่โยนกบูรพาเหมือนกันน่ะแต่ไม่ได้เผยตัวเพราะอยากรู้ว่าพวกเธอจะทำอย่างไรบ้างและผลที่ได้รับกลับมาคืออะไร?”
“...................................................”
“คุณพี่ช่างคาดการณ์แม่นยำนักว่าพวกเธอจะคว้าน้ำเหลวกลับมาแน่นอน”
“ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องนี้”
“?”
“คุณ...คุณป้อมให้การหนุนหลังเธอกับพี่บุศจริงหรือเปล่า?”
“...จริง”
“แล้วเธอก็เป็นคนบอกคุณป้อมว่าฉันกับแม่และพี่บอลมีความสัมพันธ์กัน?”
“ถูกต้อง”
“เลว!!!”
...ปกติอ้อยจะพยายามอดทนอดกลั้นไม่โกรธใครง่ายๆแต่ครั้งนี้โบว์ทำเกินไปแล้วจึงตบหน้าเธอทีนึง...
“มือหนักดี”
“ร้ายมาก”
“ที่ร้ายน่ะมันเธอต่างหาก”
“หา?”
“สุดท้ายอ้อยก็ยอมให้พี่เชนล่วงล้ำ...ไหนเคยยืนยันนักหนาว่าจะมีแต่พี่บอลคนเดียวเท่านั้น?”
“!!!!!!”
“ตกใจรึ?”
“เธอ...เธอรู้มาจาก...ขวัญใช่มั้ย?”
“หากยัยขวัญไม่เมาก็คงไม่เผลอหลุดปากหรอก...โบว์รู้หลังจากที่พวกเธอไปโรงแรมนั่นได้อาทิตย์หนึ่งและจอยก็รู้เหมือนกันนะ”
“แล้วไง?...พี่บอลเขายอมให้พี่เชนเอาฉันเพื่อจะได้ไม่เสียเปรียบกัน”
“ไม่ๆๆ...ประเด็นสำคัญไม่ใช่ตรงนี้”
“อะไรนะ?”
“หลังจากนั้นๆ...ฉันเห็นกับตาตัวเองนะว่าอ้อยไปที่บ้านขวัญและทำอะไรกับพี่เชนบ้าง”
“...............................................”
“เดิมทีก็ไม่อยากยุ่งแต่เผอิญถ่ายคลิปไว้ด้วย”
“จะเอามาขู่ฉันเรอะ?”
“ขู่?...นั่นสิ...เกิดพี่บอลเห็นเข้าจะว่าไงน๊า!?”
“ไม่ นึกว่าเธอจะเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้เสียแรงที่คบเป็นเพื่อน...ฉันเชื่อพี่สาแล้ว ว่าเธอน่ะเป็นงูพิษแต่อย่าฝันว่าจะล้มฉันได้ด้วยวิธีนี้!!!!”
“?”
“เพราะฉันก็มีคลิปที่เธอแอบมีอะไรๆกับพี่เชนเช่นกัน!!!”
“!!!!!!”
“ก็ไหนพร่ำบอกนักหนาว่าที่น้ำตกนั่นจะถือเป็นอุบัติเหตุแต่ไหงถึงแบหีให้เขาเย็ดในห้องเรียนล่ะจ๊ะโบว์?”
“แก!!!”
“วัน นั้นฉันลืมสมุดจดเลยกลับมาเอาแต่ได้ยินเสียงซะก่อน...ต้องขอบคุณสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ที่ดลใจไม่ให้ฉันเผยตัว...เธอเองก็ไม่ซื่อสัตย์ต่อพี่บอลเหมือน กันนั่นแหละ!!...ว่าไงจะยังเอาคลิปนี้มาเล่นงานฉันอีกไหม?”
“...อ้อยนี่ก็ร้ายอย่างคาดไม่ถึงแฮะ...ขอดูหน่อยได้มั้ย?”
...หนูจึงเปิดไฟล์วิดีโอคลิปที่เก็บในมือถืออย่างไม่รอช้าแล้วชูให้โบว์ดูพลางเร่งเสียงให้ดังขึ้น...
“ไม่ผิด...คนที่กำลังขย่มตอพี่เชนคือฉันเอง”
“...............................................”
“สนุกกันจนลืมเลยแฮะฉันนี่”
“...แล้วของเธอ?”
“เอ้า!!”
“...ฉันก็แค่อมให้พี่เชนเท่านั้น”
“แค่ดูดควยแต่แก้ผ้าหมดเนี่ยนะ?”
“ไม่เชื่อก็ตามใจเอาไว้ถามขวัญเอง”
...สถาน ที่คือภายในห้องนอนของขวัญและอ้อยอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าคลานโก้งโค้งตูดก้ม หน้าเลียควยพี่เชนส่วนขวัญกำลังนอนตะแคงแหกขาเอาดิลโด้แหย่เข้าๆออกๆรูหี ร้องครางกระเส่าอยู่ใกล้กัน...
(“อาวววววววววววววว...เร็วๆเข้าน้องอ้อยจ๋า~~...พี่...พี่จะแตกแล้ววววว”
“อืมมมมมมม...อื้มมมมมมมมมมมม”
“นั่นต้องแบบนั้น!!!”
“อ้อย...ขอ...ขอให้ฉันเถอะ”
...ขวัญ ละมือจากควยยางและขอเล่นกับควยจริงต่อพอหนูได้ยินก็คายท่อนลำพลางหยิบกระดาษ มาเช็ดปากเพราะพี่เชนหลั่งน้ำกามออกมาบ้างแล้วแต่ยังไม่มากฝ่ายยัยขวัญเห็น ดังนั้นก็คว้าเข้าปากต่อทันทีเธอดูดแรงมากจนพี่เชนตัวงอร้องบอกให้เบาๆหน่อย แต่ขวัญก็ไม่ยอมฟังคล้ายคนตายอดตายอยากเรื่องบนเตียงมานานทั้งๆที่สองคนนี้ เอากันแทบทุกวันเรียกได้ว่าว่างเมื่อไหร่เป็นต้องเล่นเสียวกัน...
“อ้อยจะกลับล่ะ”
“อ๊าว!!!...ไหนน้องอ้อยบอกจะค้างที่นี่ไง?”
“หนูลืมไปว่าแม่จะกลับมาบ้านวันนี้ค่ะ”
“จะไม่ปลดปล่อยสักหน่อยหรือจ๊ะ?...ขวัญไม่ว่าอะไรหรอกนะ”
“อืม...”)
“...หมดแล้ว!?”
“ความ จริงฉันก็รู้อยู่แล้วว่าจากนั้นพวกเธอทำอะไรกันอีกบ้างเพราะยังแอบดูต่อแต่ ถามไปงั้นแหละ...ไม่หวั่นไหวไม่ตกใจสมกับเป็นอ้อยจริงๆ”
“เธอยิ้มอะไร?”
“เปล่านี่”
“โกหก!!...เห็นชัดๆว่ายิ้มอยู่...เธอกับพี่บุศกำลังวางแผนอะไรไว้อีกล่ะ?”
“................................................”
“โบว์!!”
“หนวกหูน่า!!...เกรงใจแขกคนอื่นเขาบ้าง”
“อ้อย~~...เราจะไปแล้วนะ”
“คะ...ค่า!!”
“................................................”
“โบว์”
“หืม?”
“เราสองคนจะไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อนใช่ไหม?”
“ก็...คงงั้นแหละ”
“ทุกสิ่งไม่เหมือนเดิมและไม่ยั่งยืน...สาอะไรกับใจคนเล่า?”
...หนูกับโบว์แค่รักผู้ชายคนเดียวกันเท่านั้นแต่กลับผิดใจจนถึงขั้นตัดความสัมพันธ์...ไม่น่าเลย...มันไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย...
“ว้าย!!!”
“อ๋าขอโทษทีน๊า!!...เผอิญมองไม่เหน~~”
“คุณนี่เอง!!”
...อ้อยเห็นกับตาเลยนะคะว่าพี่ฝนจงใจแหย่เท้ามาขัดขาโบว์ให้สะดุดและหวุดหวิดจะล้มที่หน้าห้องน้ำ!!!...
“รู้จักฉันด้วย?”
“คุณหยาดฝน เทวะกรนันท์ที่มีศักดิ์เป็นพี่ของคุณศรโกเมน...หนูย่อมรู้จักสิคะ”
“โฮ่!?...คารมคมคายไม่เบาแต่อย่างเธอกับเจ้าป้อมจะเอาชนะได้เรอะ?”
“ยังมีคุณพี่อีกทั้งคน...กรุณาอย่าประเมินพวกเราต่ำจนเกินไปนักเพราะอาจจะน้ำตาตกในภายหลังได้นะคะ”
“...................................................”
“พี่ฝน...คุณป้อมเลือกที่จะอยู่ข้างฝ่ายนั้น”
“ไม่ต้องกังวลหรอก”
“?”
“คน อย่างยัยตัวเล็กไม่เคยไว้ใจใครง่ายๆหรือยอมช่วยฟรีๆโดยที่ไม่หวังผลตอบแทน กับไม่มีจุดประสงค์แอบแฝง...เชื่อเถอะหนูอ้อย...พี่รู้นิสัยมันดีจะตายไป”
“ว่าแต่พี่ฝนคะ...คุณป้อมเธอเกลียดชังอะไรหนูนักหนา?...คิดจนหัวแทบแตกก็ไม่เข้าใจสักทีค่ะ”
“อือ...”
“..................................................”
“อาจเป็นเพราะหนูอ้อยหน้าอกใหญ่กว่ายัยตัวกะเปี๊ยกมั้ง?”
“เอ๋!?”
“ไม่เห็นเหรอจ๊ะว่าอกยัยนั่นน่ะแบนราบยังกับไม้กระดานซักผ้า?...มันก็คงจะอิจฉาหนูอ้อยไง”
...แล้ว พี่ฝนก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดีซึ่งภายนอกอ้อยก็พลอยยิ้มไปด้วยแต่ในใจกลับไม่ รู้สึกเบิกบานสักเท่าไหร่นักเมื่ออุปสรรคขวากหนามที่หนักหนาสาหัสกำลังรอ คอยอยู่เบื้องหน้า...
................................................................................................................................................

...ตอนที่แล้ว Savitre Sidestory 1 ...
...ตอนต่อไป ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 52 ...