ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 100 “เหนือเหตุผล!?”
“โอ๊ย!!...เจ๊เบาหน่อย~~”
“อย่าโวยนักเลย...ทำตัวเองทั้งนั้น”
“หงึ!!...หนูชนะนะเออ”
“แล้วยังไง?...เจ็บตัวทั้งคู่”
...เรื่องของเรื่องคือเมื่อเย็นวานฝนกับจีสาวทอมรุ่นน้องของผมนัดหมายซัดกันให้รู้แพ้ชนะหลังจากที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาอย่างยาวนานและได้ยินว่ายัยผีเป็นฝ่ายท้าก่อนซะด้วย...
(“วันนี้จะได้รู้กัน”
“ย่อมได้”
“ทั้งคู่ฟังให้ดี...ทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างยุติธรรม...มือเปล่าไม่มีอาวุธไม่ใช้กลโกง”
“หนูไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้ว”
“เล่นโกงไม่ใช่แนวทางของฉันหรอก”
“แน่ใจรึ?...แกจะต้องเสียใจแน่นังทอมวิตถาร”
“อย่ามายั่วยุกันให้ยาก...ยัยคนวิปริตติดพี่ชาย”
“หนอย!!!”
“เออ!!...แทงใจดำงั้นเรอะ?”
“หยุดนะ!!...นี่จะประลองกันด้วยฝีปากหรือไง?”
“............................................................”
“............................................................”
“ไม่จำกัดเวลาจนกว่ามีฝ่ายไหนเอ่ยปากยอมแพ้แต่ถ้าพี่เห็นว่าไม่อยู่ในสภาพที่จะสู้ได้แล้วก็ยุติทันที”
“ได้เลยเจ๊”
“ตกลงตามนั้น”
“ทั้งคู่จงแสดงฝีมือออกมาให้เต็มที่แล้วไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะทุกอย่างต้องจบลงในวันนี้...จะไม่มีครั้งต่อไป”)
“ที่ว่าชนะ”
“อ๋อ!!...เค้าชนะหมดไม่ว่าจะความเร็ว...ไหวพริบ...อุ!!...เบาสิพี่”
“แต่ความอึดน้องแพ้”
“นังทึกนั่นมันไปโด๊ปอะไรมาก็ไม่รู้...โดนหวดล้มไปตั้งหลายครั้งยังลุกขึ้นได้หน้าตาเฉย...ฮึ!!...ถ้าหนูใช้บาทามรณะเร็วกว่านั้นก็ตัดสินกันได้แล้ว”
“เสร็จแล้ว...นั่งพักไม่ต้องออกไปข้างนอกสัก 2-3 วัน”
“ไม่ถึงหรอก”
“อย่าเถียง”
(เท่าที่ดูฝนไม่ได้บาดเจ็บมากแต่จีนี่สิเป็นยังไงบ้างไม่รู้...ยังไงเธอก็เป็นรุ่นน้องฉะนั้นสมควรจะไปเยี่ยม)
“...นายมาทำไม?”
“ก็มาเยี่ยมเธอไง”
“กลับไปดูแลน้องสาวนายจะดีกว่า”
“อะไร?...เพิ่งมาถึงก็ไล่กันเลย”
“เดี๋ยวฝนรู้ก็มากระทืบฉัน”
“เธอไม่ทำแบบนั้นหรอก...เลิกแล้วต่อกันไปไม่ใช่รึ?”
“ยัยนั่นมันขี้หึงจะตายไป...นึกรึว่าจะไม่ทำ?”
“หา?”
“อย่าบอกว่านายไม่รู้”
“เอ่อมันก็...”
“ฉันรู้ว่านายกับยัยนั่นได้กันไปแล้ว”
“จี!!...เธอพูดอะไร?”
“ยัยนั่นเป็นคนพูดออกมาจนหมดเปลือก”
“ตอนไหน?”
“ตอนที่สู้กัน”
(“ยังจะลุกขึ้นมาอีก...แกนี่...อึดกว่าที่คิดนะ”
“แค่นี้...ล้ม...ฉันไม่ได้หรอก”
“ใช้ได้!!”
“ชิ!!...ตวัดขาเหมือนตวัดแส้เชียวนะ”
“แกถอยหลังไปขนาดนั้นอย่ามามารยา”
“ใครจะโง่รับแรงเตะของคนบ้าพลังอย่างหล่อนวะ?”
“ดี--...อึดยิ่งกว่าควายแบบนี้ฉันชอบ...ฉัน...ฉันจะเตะให้กระดูกหักทั้งตัว”
“ทำได้ก็ลองดูเซ่!!!”
“เหนื่อยกันแล้วสิ...งั้นหยุดกันได้ล่ะมั้ง?”
“ไม่นะเจ๊!!”
“ใครจะให้หยุดเล่า?”
“ปล่อยขาฉันเว้ย!!”
“ฉันไม่ให้หล่อนหวดกลิ้งง่ายๆแน่”)
“จังหวะนั้นฝนก็พูดเรื่องน่าสนใจออกมา”
“?”
(“จะไม่ยืดเยื้ออีกแล้ว...รีบเผด็จศึกแกจะได้กลับไปเอากับผัวฉัน”
“ผัว...หมายความว่าเธอกับ...”
“โง่หรือแกล้งห๊ะผัวฉันก็มีอยู่คนเดียว...อย่างแกที่เล่นสนุกกับของปลอมจะเข้าใจอะไร?”
“หึๆ...ฉันว่าไว้ไม่ผิด...เธอมันจิตวิปริตมีอะไรกับพี่ชายตัวเอง...อ๊ากกกก”
“ปากดีนักแต่แขนแกยังไม่หักหรอก...เอ้าลุกขึ้นมา!!...ได้เวลาฉันจะใช้บาทามรณะฝังศพแกแล้ว”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งแต่ทำให้ได้ก่อนค่อยโม้เถอะ”
“คืนนี้แกใช้ของปลอมเล่นอะไรๆวิตถารไม่ได้ล่ะเพราะแกจะเจ็บปวดแบบเจียนตาย...เจ๊!!”
“พี่ขอเตือนสักหน่อยนะ...ไม้ตายถ้าใช้ไม่ได้ก็อย่าใช้”)
“ฉันพูดถูกมั้ย?”
“ไม่ผิดเลย”
“งั้นก็กลับไปได้แล้ว”
“ก็ได้...เอ่อ--...พี่เอายามาให้”
“ฉันมี”
“แต่พี่ได้มาจากที่บ้านโยนก...สรรพคุณดีมากๆ”
“...ยัยฝนก็ใช้รึ?”
“อะ...อืม”
“..........................................................”
“ลองใช้ดูสิ”
“...ขอบใจ”
...การแสดงออกของจีที่มีต่อผมนั้นรู้สึกเหมือนจะดีขึ้นคือกิริยาเธอนุ่มนวลไม่ดุด่าว่ากล่าวหรือประชดประชันอะไร...พอผมเดินออกมาไม่กี่ก้าวก็หันไปเห็นสาวรุ่นน้องทรุดนั่งเอามือกุมน่องจึงรีบเข้าไปดู...
“จีเป็นอะไร?”
“ฉันไม่เป็นอะไรน่า--...นายกลับไปได้แล้ว”
“จะกลับได้ยังไง?...เธอดูเจ็บมาก”
“เพราะน้องจอมวิปริตของนายนั่นแหละ...ตัวก็เล็กๆแต่เตะหนักฉิบหา-...ไม่รู้ไปเอาแรงมาจากไหน?”
“เข้าไปในบ้านก่อน”
“..........................................................”
“ขอดูขาหน่อย”
“..........................................................”
“ตรงนี้ใช่มั้ย?”
“..........................................................”
“เจ็บก็บอกอย่าฝืน”
“ฉันไม่ใช่เด็กนะ!”
(นี่แหละนิสัยเด็กๆละ)
“นั่งพักสักนิดคงจะดีขึ้น...เธอมีข้าวกลางวันกินหรือยัง?”
“ไม่มี...เดี๋ยวต้มบะหมี่กิน”
“งั้นพี่ทำให้เอง”
“.............................................................”
...ใช้เวลาไม่นานผมทำไข่ตุ๋นทรงเครื่องมาให้จีลองชิม...ดูเธอจะแปลกใจนิดๆแต่ก็ชมว่าอร่อยดี...
“ยัยฝนสอนเหรอ?”
“เปล่า--...พี่ทำเป็นมานานแล้ว”
“เก่งนะ...แบบนี้แหละผู้หญิงชอบ”
“พี่กลับล่ะ...ดูแลตัวเองด้วย”
“เออ--...ป่านนี้ยัยนั่นคงชะเง้อคอยหาแย่”
“ไม่หรอก”
“แล้วที่มานี่มันรู้หรือเปล่า?”
“ไม่รู้”
“หึ!!...เดี๋ยวยัยขี้หึงนั่นก็ได้มาแหกอกฉัน”
“พี่ไม่บอกหรอกน่ะ”
“...........................................................”
.......................................................................................................................................
(แต่ไปๆมาๆพี่แคทดันรู้ซะเสียฉิบ...แค่เรากลับมาถึงบ้านเธอก็ยืนรอที่หน้าประตู)
“ใจดีจังนะ”
“ก็ฝนทำให้เธอเจ็บหนักผมเลยไปเยี่ยม”
“ไม่ได้ว่าอะไรแต่เด็กนั่นก็ควรจะรู้”
“ผมจะบอกครับ”
“อืม”
...แต่เอาเข้าจริงผมก็ไม่กล้าบอกเพราะวันนี้เห็นฝนอารมณ์ดีเป็นพิเศษและหลังจากมีเพศสัมพันธ์กันก็ยิ่งรื่นรมย์มากขึ้น...
“ตัวเอง~~”
“หือ?”
“มีลูกกันมั้ย?”
“เฮ่ย!!...ยังเร็วไป”
“ก็เค้าอยากมีอ่ะ!!”
“ต้องคิดดีๆเว้ย!!!”
“ฮ่าๆๆ...โอเคๆ”
(หนูรินจะว่าไงกัน?)
.....................................................................................................................................................
“กินข้าวบ้านพี่เซค”
“ไปด้วยกันมะ?”
“เธอไม่ได้ชวนฉันนี่แล้วจะไปทำไม?”
“รู้...แต่น่าจะใช้โอกาสนี้ปรับความเข้าใจกัน”
“พี่แคทลองคุยกับพี่เซคก่อนดีกว่าครับว่าโอกาสนั่นจะเกิดขึ้นมั้ย...ไปกันเถอะ...ผมไปด้วยเดี๋ยวอาหารจะไม่อร่อยซะเปล่าๆ”
“งื่อ~~”
“ตามใจ...งั้นก็อยู่บ้านดีๆ”
...จากครั้งก่อนๆที่พี่แคทกับฝนไปทานอาหารเย็นที่บ้านพี่เซคกว่าจะกลับก็ 3-4 ทุ่มและไอ้ครั้นจะออกไปหาเพื่อนก็กลัวโดนสองสาวดุ...หือ...ผมเป็นคนกลัวเรื่องพรรค์นี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...
“ไม่มีทางร้อก~~...จะไปซะอย่างใครห้ามได้?”
“อาไง!!”
“อื๋อ?”
“ค่ำมืดโพล้เพล้ยังจะออกไปไหนน่ะ?”
“ผมจะไปหาเพื่อน”
“บอลนี่ใจร้ายจริง...จะให้อาอยู่บ้านคนเดียวไม่ห่วงความปลอดภัยบ้างหรือ?”
“แหม--...ใครจะกล้าครับ?”
“ผู้หญิงอยู่บ้านคนเดียวเธอรับประกันได้เรอะว่าจะไม่มีอันตรายเกิดขึ้น?”
(เถียงไม่ออกเลยตู)
“ผมอยู่ก็ได้ครับ”
“มันสมควรต้องเป็นอย่างนั้น”
“...................................................................”
...อานิภาเริ่มงานที่โรงพยาบาลแห่งใหม่ได้ 4 วันแล้วซึ่งฝนเล่าว่าแม่ของเธอดูจะมีความสุขมากขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างชัดเจนทีเดียว...ผมก็ไม่รู้หรอกว่าที่ทำงานเก่ามีปัญหาอะไรแต่ให้คิดแง่ดีคือเธออยากจะมาอยู่ใกล้ลูกๆ...
(ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าอานิภามีเด็กหนุ่มมาจีบซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าจริงหรือเปล่า?)
“มากินข้าวกัน...อาซื้อกับข้าวมาหลายอย่าง”
“มีแต่ของชอบผมทั้งนั้นครับ”
“อารู้ว่าบอลชอบอะไรบ้าง?”
“คิดถูกแล้วที่ไม่ออกไป”
“เห็นมั้ย?...ใจคอจะให้อากินข้าวเหงาคนเดียว”
“จริงๆอาก็ไปกับพี่แคทได้นี่ครับ”
“ไม่เอาหรอก...ปล่อยให้เด็กๆเขาสนุกสนานกันไป”
“นั่นสิ”
“แล้วบอลล่ะทำไมไม่ไปด้วย?”
“ผมเข้ากับคนบ้านนั้นไม่ได้อาก็รู้”
“เพราะความเจ้าชู้มั้งนะ”
“มีส่วนครับ”
“ยอมรับแล้วเหรอ?”
“ก็ไม่รู้จะปฎิเสธเพื่ออะไร?”
“คุยถึงเรื่องนี้ทีไรอาก็อดคิดไม่ได้ถึงเรื่องของบอลกับพี่เอ็ม...เฮ้อ~~...มันยุ่งอิรุงตุงนังไปหมด”
“ยังไงครับ?”
“หัดคิดเอาเองบ้างสิยะ...ฮึ!!”
“........................................................”
................................................................................................................................................
...กินข้าวเสร็จผมนั่งพักผ่อนในห้องรับแขกดูทีวีไปตามเรื่องส่วนอานิภากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด...เธอยังไม่เปลี่ยนชุดพยาบาลแต่น่าเสียดายที่ใส่กางเกงเพราะผมชอบดูตอนสวมกระโปรงมากกว่า...
(แต่ก็เห็นขอบกางเกงในเหมือนกัน)
“เดี๋ยวนี้เขาฮิตกันจังเลยนะ...เธอว่ามั้ย?”
“?”
“เรื่องนี้จะโทษผู้หญิงฝ่ายเดียวมันไม่ได้หรอก”
(เรื่องของแม่บ้าน)
“เฮอะ!...อายุปูนนั้นแล้วจะมีอีหนูก็เชิญเหอะ!!”
(พูดถึงใคร?)
“แต่มันจะไม่ใช่อย่างนั้นน่ะซี่~~...กลัวไปหลงแม่สาวพราวเสน่ห์ใกล้ตัวนี่แหละ!!!”
(ตาดูทีวีแต่หูเงี่ยฟังที่อานิภาคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอย่างตั้งใจ)
“ไม่สนหรอกย่ะเพราะฉันไม่มีรสนิยมชอบกินเด็กหนุ่ม!!”
(เฮ่ย!?)
“ฮะๆๆๆ...ก็ฉันตัดรำคาญถึงได้มาอยู่กับลูกสาวนี่ไง”
(อย่าบอกนะว่าอานิภามีหนุ่มตามจีบอย่างที่เขาร่ำลือกันจริงๆ!?)
“เออ!!...วันหลังลงมากินเหล้ากัน”
(หลับตานึกก็ถือว่าเข้าเค้าเหมือนกันเพราะน้องสาวพ่อคนนี้ยังเช้งสวยอยู่ไง)
“เฮ่ย!!...รู้นะเว้ยว่าแอบฟังน่ะ?”
“อาจะรู้ได้ไง?”
“หึ!!...ไม่รู้ก็เซ่อเต็มทีแล้ว...ยังไง...ผู้ชายนี่มันเหมือนกันหมดเลยใช่มั้ย?”
“ผมไม่รู้ว่าอากำลังพูดถึงใคร?”
“จะใครก็ช่าง...บางคนก็ชอบมีอีหนูแต่ยังมีคนที่ชอบสาวแก่ด้วย”
“หลอกด่าผมหรือเปล่าเนี่ย?”
“บอลจะรับก็เชิญนะ”
...เผอิญผมมีประสบการณ์กับทั้งสาวน้อยสาวใหญ่มาพอสมควรเลยไม่แน่ใจว่าอานิภาตำหนิผมหรือเปล่า...ไม่อยู่ให้ถูกด่าดีกว่าคิดดังนั้นจึงปิดทีวีเตรียมจะขึ้นห้องตัวเองแต่ก็ถูกเบรกไว้...
“ทนฟังไม่ได้เรอะ?”
“ผมว่าเราอย่าคุยเรื่องนี้กันเลยดีกว่าครับ”
“ทำไมจะคุยไม่ได้?”
“อารู้ว่าผมนิสัยเสียเรื่องผู้หญิงคุยไปก็ทะเลาะกันเปล่าๆ...ผมยอมรับว่าเป็นผู้ชายอย่างนี้และจะให้แก้ไขก็คงยาก”
“.............................................................”
“แต่ผมก็พยายามทำให้ดีที่สุดนะครับ”
“อามีอะไรจะถาม”
“อะไรครับ?”
“ที่นี่ไม่สะดวก...อีกครึ่งชั่วโมงอาจะไปคุยด้วย”
...ไม่รู้ว่าอานิภามีอะไรพูดกับผมแต่ท่าทางจริงจังไม่เบา...ผมจึงใช้จังหวะนี้ไปทำธุระให้เรียบร้อยแล้วรอที่ห้องตัวเอง...
“เข้าไปนะ”
“ครับ”
(อานิภายังไม่เปลี่ยนชุดแต่ถือผ้าเช็ดตัวมาด้วย...คงคุยเสร็จแล้วจะไปอาบน้ำเลย)
“มีอะไรจะถามผม?”
“......................................................”
(ไม่ตอบแต่มองเรา)
“เอ่อ--”
“บอลจะว่ายังไงถ้าวันหนึ่งรู้ว่าฝนหรือแคทแอบไปมีคนอื่น?
“หา?”
“แค่สมมติ...จะตกใจทำไม?”
“ตกใจสิครับจู่ๆอาก็พูดแบบนี้”
“แล้วว่าไงล่ะ?”
“ผม...”
“เอางี้มาเล่นเกมส์กันดีกว่า”
“เกมส์อะไรครับ?”
“โกหกนั้นตายตกนรก”
(เออะ!!)
“กำหนดรางวัลด้วยจะได้น่าเล่น...เรื่องเครียดๆก็ทำให้มันสนุกสนานซะ”
“รางวัลอะไรดีครับ?”
“จ่ายเงินดีมะ?”
“ผมไม่อยากได้เงินหรอก”
“หนอย~~...พี่เอ็มให้เยอะแล้วใช่มั้ยยะ?”
(เถียงไม่ออก)
“เรื่องเงินน่ะพี่เอ็มให้บอลแน่อยู่แล้วแต่บางครั้งก็แลกกับไปนอนกันสินะ”
“อา!!...ไหนว่าจะไม่พูด?”
“ก็นี่แหละคำถามแรก”
“เอ๋?”
“ถ้าไม่อยากให้พูดก็ตอบมาสิ”
“ผมยังไม่รู้เลยว่าถ้าตอบถูกใจอาแล้วจะได้รางวัลอะไร?”
“ก็บอลไม่อยากได้เงินนี่นางั้นจะเอาอะไรจากอา?”
(อดคิดชั่วไม่ได้ซะงั้น)
“โน!!!...บอกก่อนว่าห้ามเป็นเรื่องนั้น”
“ผม...ผมยังไม่ได้พูดอะไรนะครับ”
“นึกว่าอาไม่รู้รึ?”
“งั้น...อาเสนอมาเลยก็ได้”
“เธอตอบมาก่อน”
“คำถามคือ?”
“ก็เมื่อกี้ไง...บอลยังไปนอนกับพี่เอ็มอยู่หรือเปล่า?”
“...ไม่บ่อยครับ”
“ส่วนใหญ่ไปที่ไหน?”
“นี่คำถามที่ 2 ใช่หรือเปล่า?”
“ยังอยู่ในคำถามแรก”
“ตามโรงแรมม่านรูดครับ”
“ทำไม?”
“มันเงียบดี”
“ในเมืองเหรอ?”
“ส่วนใหญ่นอกเมืองครับ”
“แล้ว...บอลใส่ถุงยางมั้ย?”
“ไม่ค่อยใส่”
“โห~~”
(ถามเพราะอยากรู้หรืออะไรกันแน่?)
“เอาล่ะ...คำถามนี้อาพอใจแต่...”
“?”
“อย่าไปให้มันบ่อยนัก...เกรงใจลูกแคทกับลูกฝนของอามั่ง”
“แต่ช่วงนี้ก็ไม่ได้...”1
“นั่นแหละ!!...ไม่ไปได้เลยยิ่งดี...ไม่งั้นอาจะบอกนะเออ!!!”
“อย่านะครับ!!”
“ฮึ!!”
“อะ...อาครับ...แล้วรางวัลคืออะ...เอ้ย!!”
...ผมยังไม่ทันจะพูดจบก็ตกใจอ้าปากค้างเพราะอานิภาค่อยๆแกะกระดุมเสื้อพยาบาลทีละเม็ดและถอดมันออกเผยให้เห็นยกทรงสีเขียวอ่อน...ผมต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากและไม่คาดคิดว่าอานิภาจะทำอย่างนี้ต่อหน้าต่อตา...
“ถูกใจหรือเปล่า?”
“สุดยอดครับอา”
“คำถามต่อไปจะเล่นมั้ย?”
“เล่นครับเล่น”
“แต่เป็นคำถามสุดท้ายแล้วนะ”
“อ้าว!?”
(แค่นี้เองรึ)
หมายความว่าอาจะถอดกางเกง
ใช่
รีบถามเลยครับ
ฮะๆๆ...เจ้าเด็กลามกเอ้ย...ตั้งใจฟังคำถามให้ดีล่ะ
“ครับ”
“เพื่อนอาเล่าให้ฟังว่าสามีแอบไปมีเมียน้อย”
“หืม?”
“บอลบอกทีว่าอาควรจะแนะนำเขายังไง?”
“อืออออออ--...ผมแนะนำว่าให้เปิดอกคุยกันให้รู้เรื่องไปเลย”
“เปิดอกคุย...อย่างนี้น่ะเหรอ?”
“แหม่~~...มันก็”
“ฮะๆๆๆ...ไปๆมาๆก็มีอาคนเดียวที่เปิดอก”
(เขินเลย)
“คุยกันให้ชัดเจนรึ?”
“ผมว่านี่คือวิธีที่ดีที่สุดแล้ว”
“ก็...เข้าที...อะไรที่มันไม่ชัดเจนก็ทำให้มันเคลียร์ไป”
“ใช่ครับ”
“เอาไป 30 คะแนน”
“จากเท่าไหร่?”
“100”
“อ้าว!!...แบบนี้ผมก็...”
“ตอบไม่ถูกใจอา”
“ไหงงั้นล่ะครับ?”
“เพราะอามีวิธีที่ดีกว่านั้นอีก”
“มันคือ?”
“ไม่บอก!!”
...น่าเสียดายชะมัดที่อดเห็นอานิภาถอดกางเกงพยาบาล...เธอหยิบเสื้อแล้วเดินออกไปจากห้องแต่ทว่า...
“อาลืมผ้าเช็ดตัว”
“โอ้ใช่!!”
“อื๋อ?”
“อะไรจ๊ะ?”
“อา”
(เจ้าหล่อนถอดกางเกงเมื่อไหร่ไม่รู้แต่เดินเข้ามาในห้องเพื่อมารับผ้าเช็ดตัวจากมือเรา)
“เห็นแล้วนะ...ถือว่าปลอบใจ”
“สวยจัง”
“อะไรสวย?”
“กางเกงในของอา”
“คนใส่ก็สวยย่ะ!!!”
(สาวเจ้ามองค้อนให้และเดินเข้าห้องไปปล่อยให้เราแทบคลั่งตายกับกางเกงชั้นในสีเขียวอ่อนของหล่อนที่มันบางมากจนเห็นกลุ่มเส้นหมอยสีดำอย่างชัดเจนมิหนำซ้ำบั้นท้ายขาวๆนั่น...โอ้ย!!!...หัวใจจะวาย)
“อาครับ”
“หือ?”
“จริงๆแล้วอามีเหตุผลอะไรกันแน่?”
“บางทีคนเราก็จะทำอะไรที่มันเหนือเหตุผลไม่ใช่หรือ?”
“มันก็จริง”
“สักวันหนึ่งก็จะได้รู้เอง...บอลดีกับลูกๆของอาให้มากเถอะ”
................................................................................................................................................
“อาหารอร่อยจังแต่เสียดายพี่ม่อนไม่อยู่”
“วันนี้มีสอบ”
“สักพักพวกหนูจะกลับนะคะ”
“จะรีบไปไหนล่ะเพิ่งสองทุ่มกว่าเอง?”
“บอลอยู่คนเดียวส่วนคุณแม่กลับหรือยังไม่รู้”
“จะไปห่วงเจ้านั่นทำไมกัน?...มีใครทำอะไรมันได้นอกจากพี่กับม่อน”
“พี่เซค!”
“ถูกต้องหรือเปล่าเล่า?...ถ้าพี่หรือม่อนไม่ทำอะไรเจ้านั่นก็ไม่มีอะไรหรอก”
“พี่พูดเหมือนกับ...”
“ใช่...ว่ากันตรงๆคือชีวิตมันอยู่ในกำมือพี่ไง”
“ถ้าพี่อ๋อมได้ยินต้องไม่เห็นด้วย”
“แล้วแต่...เออใช่”
“คะ?”
“ครั้งหน้าชวนเขามากินข้าวที่นี่สิ”
“เอ๋?”
“พี่เซคพูดจริงเหรอ?”
“จริง!!...พามาด้วยล่ะ”
.............................................................................................................................................
“หืม!?...นายมาทำอะไรอีก?”
...วันนี้ผมก็มาเยี่ยมจีอีกครั้งแต่พอกดกริ่งที่รั้วแล้วไม่มีใครออกมาจึงเดินเข้าไปเองและพบว่าประตูบ้านไม่ได้ล็อคซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่จีออกจากห้องน้ำในสภาพนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว...สาวรุ่นน้องมองหน้าผมด้วยความประหลาดใจ...ซวยแล้วไงถือวิสาสะเข้ามาในบ้านเฉยๆแถมเธอยิ่งไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย!!!!...
............................................................................................................................................