หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 98


ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 98 ผู้ไม่เคยรักใครอย่างแท้จริง!?

“ทำนายโชคชะตา?”
“ลองดูมั้ย?”
“นั่นเด็กไม่ใช่รึไง?”
“คงเป็นลูกหมอดูมานั่งเฝ้าร้านแทนมั้ง?”
“แล้วเครื่องมือหนังสือตำราอะไรก็ไม่เห็นมีสักอย่าง”
“แต่ไม่เห็นมีใครอีกเลย...กูว่าใช่เด็กคนนั้น”
“เอาจริงเรอะ?”
“ลองดูก็ไม่เสียหายอะไร...ให้ทำนายดูว่าช่วงนี้เราจะทำมาค้าขึ้นหรือเปล่าน่าจะดี”
“โจรย่องเบาเนี่ยนะ?...มึงก็พูดให้ดูดี”
“เหอะน่า--...หนู...ที่นี่รับดูดวงใช่หรือเปล่าจ๊ะ?”
“...........................................................”
“ทำไมต้องเอาผ้าปิดหัวด้วยวะนั่น?”
“ชี่!!
“ท่านเห็นเรา?”
“ก็เห็นน่ะสิ...หนูถามแปลกๆนะ”
“หามิได้...เราเพียงจะบอกว่าท่านทั้งสองนี้โชคดีแล้ว”
“...โชคดี?”
“เมื่อท่านทั้งสองเห็นเราก็ถือว่ามีวาสนาอย่างไรเล่า”
“พูดแปลกแฮะเด็กคนนี้...ตกลงหนูคือหมอดูใช่มั้ย?”
“..........................................................”
“เฮ่ย!!...ข้าว่าโดนเด็กหลอกเล่นแล้วว่ะ...ไปกันเหอะเสียเวลา”
“เดี๋ยวๆ”
“การที่เราได้มาพบกันนับเป็นโชคชะตาที่มิอาจจะบังเกิดขึ้นอีกในกาลต่อจากนี้เช่นนั้นจงให้เราทำนายหนทางแห่งชีวิตของพวกท่านเถิด”
“ได้เลยๆ...แล้วจะทำนายยังไง?”
“การทำนายของเราคือท่านจงถามสิ่งที่ต้องการรู้แลเราจะพยากรณ์เหตุการณ์เบื้องหน้า”
“โอ้!!...น่าสนุกดี...ถ้าแม่นจริงรับรองจะจ่ายให้อย่างงามเลย”
“มึงก็เล่นกับเด็กนี่ได้”
“เอาน่ะๆ...ถือว่าฆ่าเวลา”
“เชิญ”
“ต่อไปเราจะมีเงินทองใช้มากกว่าที่มีอยู่นี้มั้ย?”
“หามิได้...ท่านจะมีเพียงเท่านี้”
“อ้าว!?
“ทำไมล่ะ?”
“เพราะท่านจักมิต้องทำอะไรอีกต่อไป”
“มะ...หมายความว่ายังไง?”
“ก็ท่านมีทรัพย์สินแก้วแหวนเงินทองมากมายแล้วมิใช่หรือ?”
“นี่...นี่หนูรู้ได้ยังไง?”
“ถูกต้องใช่หรือไม่?”
“ถูก...ใช่เลย”
“ทว่าท่านมิอาจใช้ได้หมดดอก”
“ฮะๆๆๆ...เพราะมันมากมายไงเล่า”
“กูถามมั่ง...แล้วครอบครัวของพี่ล่ะจะเป็นยังไง?”
“แม้หาได้มีท่านพวกเขาก็ดำรงชีวิตอยู่ได้...อย่าวิตกไปเลย”
“ฟังแล้วมันทะแม่งๆยังไงไม่รู้”
“คิดมากไปได้ไม่เห็นจะมีอะไรนี่หว่า!!...หนูจ๋า--...แล้วต่อไปการ...อ่า--...การทำมาค้าขายของพี่จะราบรื่นดีหรือเปล่า?”
“เราตอบคำถามนี้แล้ว...ท่านจะทำงานด้วยเหตุใดอีกเล่า?”
“อืม--...ถ้าพูดแบบนั้น”
“เอ่อ--...แล้ว...”
“เมื่อใดที่ท่านจะหยุดประกอบอาชีพแล้วไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุข?”
“ระ...รู้ได้ยังไงว่าพี่จะถาม?”
“รู้ได้อย่างไรท่านมิต้องใส่ใจดอกแต่เราจะตอบให้...อีกมินานต่อจากนี้ท่านจะหาได้มีเรื่องต้องกังวลต่อไปไม่”
“........................................................”
“จงจากโลกนี้ไปอย่างหมดห่วงเถิด”
“เมื่อกี้หนูว่าอะไรนะ?”
“เราพูดว่าท่านทั้งสองถามพอแล้ว”
“เอ๊ะเดี๋ยวสิ!!!...พี่ยังถามไม่...”
“........................................................”
“นึกไม่ออกว่ะว่าจะถามอะไร?”
“กูก็ด้วย”
“อะ...อ้าว!?...หนูน้อยคนนั้นหายไปไหนวะ?”
“นั่นสิ”
“ว่าจะให้ตังค์ไปกินขนมสักหน่อย”
“ทายแม่นเหมือนกันนี่”
“อืม--...รู้ด้วยว่าเรามีเงินเยอะ”
“แต่เป็นเงินที่เราขโมยของแล้วเอาไปขาย”
“พวกคุณ”
“หืม?”
“คุณสมพรและคุณชลิตใช่มั้ย?”
“ตำรวจ!!!
“เหี้ยแล้วไง!!!!
“รีบจับสองคนนั้น!!!
“บ้าเอ้ย!!...ตำรวจมาตามเราได้ไงวะ?”
“กูไม่ยอมให้จับหรอกโว้ย!!!
“หาได้มีทางหนีพ้นไม่...ชะตาชีวิตของท่านทั้งสองถูกลิขิตไว้แล้ว”
!?
“จักต้องถึงแก่ความตายเมื่อฟังคำพยากรณ์ของเราจบสิ้น”
“เฮ่ยๆๆๆ...คนถูกรถชน!!!!
“โอ้โฮคาที่!!...อีกคนมุดอยู่ใต้ท้องโดนลากไปโน่น”
“มันวิ่งข้ามถนนมาไม่ดูเล้ย!!!...รถที่ไหนจะไปเบรกทัน”
“อื้อหือ--...แหวะ!!...ดูไม่ได้ๆ”
“เขาว่าสองคนนี้เป็นตีนแมวว่ะ...นี่ก็วิ่งหนีตำรวจจนโดนรถชนนะ”
“ทรัพย์สินเงินทองล้วนแต่เป็นของนอกกาย...ตายแล้วก็มิอาจเอาติดตัวไปได้”
“งั้นก็สาสมแล้ว”
“ครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังแม้โศกเศร้าเสียใจแต่พวกเขาก็จะต้องมีชีวิตต่อไป”
“หมดเวรหมดกรรม”
“ใช่...มิต้องทนทุกข์ทรมานอยู่อย่างหวาดระแวงใดๆอีกแล้ว”
ช่างเถอะยังไงก็ตายโหงไปแล้ว...คนชั่วตายไปสองแผ่นดินจะได้สูงขึ้น
“เออ!!...มีคนบอกว่าเห็นสองคนนี้ยืนคุยกับใครไม่รู้ก่อนจะถูกรถชน”
“ผู้เป็นใหญ่ในหมู่วิหคทั่วหล้า...พญาหงส์ผู้ไร้ซึ่งจิตสำนึก...เทพบดีแห่งการหยั่งรู้...ราชหงส์สุรัมภาคือนามของเรา!!!!
.....................................................................................................................................

“เลิกตามตื้อซะที!
“ไม่!!...จะตามจนกว่าพี่จะหายงอนผม”
“ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น...มีแต่จะน่ารำคาญ”
“ผมทำเรื่องร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ถามตัวเองจะดีกว่า...ทำมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว”
...ลูกพี่ลูกน้องสาววัย 22 ยังไม่หายโกรธผมจากคดีล่าสุดที่ไปเข้าโรงแรมหรูกับอ๋อมแต่วันนี้ยังดีที่พูดด้วยซึ่งผิดจากเมื่อวานที่แม้แต่หน้าญาติสาวผู้พี่ก็ยังไม่แลกันสักนิด...
“นายนี่ชอบทำให้ผู้หญิงโกรธอยู่เรื่อยแต่อย่างว่าแหละนะ...เป็นใครก็โกรธทั้งนั้น”
“.............................................................”
“ไม่คิดจะแก้ตัวสักหน่อยเหรอ?”
“แบบนั้นจะยิ่งแย่ไปใหญ่”
“ดีที่คิดได้...แต่...”
“อุ๊บ!!
(อานิภากางมือปิดหน้าพร้อมกับแค่นหัวเราะในลำคอ)
“ฮึๆๆ...ทำให้ลูกสาวอาโมโหบ่อยๆเดี๋ยวได้ซวยหรอก!!!
“ผมคงไม่โดนซ้อมจนช้ำในตายน่า”
“ยังจะมาพูดดีรึ?”
“แหะๆ”
“เฮ่ย!?...หัวเราะอะไร?...นี่อาก็โกรธอยู่เฟ้ย!!...งั้นกลางวันนายไม่ต้องกินข้าว”
“อ้าวๆ...ไหงงั้นล่ะ?”
.......................................................................................................................................................

(“...เราทอดไข่กินเองก็ได้”
(แต่จะเผื่ออาด้วยดีมั้ยนะ?)
...ไม่ได้ลงมือทำเองนานมากๆเพราะเรื่องการเข้าครัวจะเป็นหน้าที่ของฝนทุกครั้ง...ยังดีที่มือไม่ตก...
อายังนอนอยู่ในห้องฝนหรือเปล่า?...ใกล้จะเที่ยงแล้วไปปลุกดีกว่า...
“เที่ยงแล้วนะครับ...อื๋อ?”
“.......................................................”
“ไม่อยู่?”
“มีอะไร?...อากำลังจะอาบน้ำ”
“ผมจะชวนไปกินข้าว”
“นายทำอะไร?”
“ไข่เจียวกุ้งสับครับ”
“โฮ่~~..ทำเป็นด้วยแฮะ”
“อา--...ผมก็ไม่ใช่คุณชายมาจากที่ไหนนะครับ”
“เรอะ!!...เออๆ...เดี๋ยวตามไป”
“........................................................”
(ความคิดอันชั่วช้าแล่นเข้ามาในสมองฉับพลันเชียวนะเจ้าเอกคเชนทร์)
“........................................................”
(แอบดูอาสาวคนสวยอาบน้ำดีกว่า...วันก่อนเราพลาดไป)
“หือ?”
(ยกทรงกับกางเกงในของอานิภา)
“........................................................”
(ทำไมมันบางอย่างนี้แต่หอมมากเลย!?)
“วางเดี๋ยวนี้--...เจ้าเด็กลามก!!!
“หวา!!!
“นี่แน่ะๆๆ”
“โอ้ย~~...เปียกหมดแล้ว”
“สมน้ำหน้า!!!...ใครใช้ให้หยิบเล่า?...เด็กนี่--”
...เล่นเป็นเด็กๆเลย...อานิภาเปิดประตูในสภาพนุ่งผ้าขนหนูกระโจมอกถือฝักบัวฉีดใส่ผมจนตัวเปียกไปหมดและยังทำให้ภายในห้องเปียกไปด้วย...
“ออกไปนะ!!!...ไม่งั้นอาจะฟ้องแคทกับฝนด้วย”
“ฟ้องที่ผมแอบดูอาน่ะเหรอ”
“เออสิ!!...คราวก่อนก็จะแอบดูทีนึงแล้วทีนี้ยังจะ...”
“?”
(ทำไมหยุด?)
“หยิบกางเกงในอาจะเอามาสำเร็จความใคร่แบบโจรโรคจิตในข่าวใช่มั้ยห๊ะ?”
“ไม่ใช่สักหน่อย”
“ฮึๆๆ...เจตนาของนายมันไม่บริสุทธิ์แล้ว...คิดจะทำมิดีมิร้ายกับอาสิท่า?”
“กับป้าเอ็มผมยังเอามาแล้วเลยครับ”
“แน่ละ!!...แล้วมีอะไรอีกที่นายจะไม่กล้า?”
“...........................................................”
“อาไม่อยากจะเจริญรอยตามพี่เอ็มที่มีอะไรกับหลานชายแท้ๆของตัวเองหรอกจะบอกให้”
“.............................................................”
...อานิภาเปิดประตูเดินออกมานั่งที่เตียงก่อนจะพูดด้วยใบหน้าที่แสดงออกถึงความจริงจังอย่างที่ไม่ค่อยเผยให้เห็นบ่อยครั้งนักจากนั้นก็สั่งให้ผมนั่งลง...
“นั่ง”
“ครับ”
“เฮอะ!!...นิดหน่อยก็จะเอานะนาย...ไม่มีทางเห็นหรอกย่ะ!!!
(นั่งไขว่ห้างซะเลย...แหม~~...รู้ทันซะอีก)
“ไม่รู้ว่าพี่เอ็มคิดยังไงถึงมีสัมพันธ์กับชายคนอื่นและโดยเฉพาะชายคนนั้นคือหลานแท้ๆของเธอเอง...บอล...อาถามจริงๆนะและขอให้ตอบมาตรงๆตามความรู้สึกด้วย”
“ครับ”
“เวลาที่บอล...ร่วมเพศกับพี่เอ็ม...มีความสุขมากมั้ย?”
“เอ่อ...”
“พูดมาเถอะ”
“ครับ...มีความสุขมากครับ”
“ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลยหรือ?...แบบว่านี่ป้าแท้ๆของเรานะอะไรประมาณนี้”
“คือ...มันก็มีบ้างแต่เวลานั้นใครจะยั้งใจไหวล่ะครับ?”
“จริงน่ะนะ...มันไม่เข้าใครออกใคร”
“อาครับ”
“หือ?”
“ผมก็มีอะไรจะถามและอยากให้อาตอบมาตามตรงเหมือนกัน”
“ฮะ...มีคำถามด้วยเรอะ?...อ่ะ!...ถามมา”
“อามีอะไรกับอาสนบ่อยมั้ย?”
“ช่างกล้าถาม”
“............................................................”
“...ไม่มีอะไรกันเกือบสี่เดือนแล้ว”
“โอ้โห!!...อัดอั้นแย่--...อาเองก็ยังสาวขนาดนี้”
“หืมๆ...อาพอจะรู้จุดประสงค์ของเธออยู่”
“............................................................”
“แต่ก็อย่างที่บอกไปว่าอาไม่อยากเจริญรอยตามพี่เอ็มเพราะที่เธอทำทั้งหมดเพราะต้องการจะเอาชนะพี่กวางซึ่งอามองว่ามันเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว”
“สี่เดือน”
“?”
“เป็นเวลาที่นานนะครับ”
“...อืม”
“ถ้าเป็นผมทนไม่ไหวหรอก...แค่สามวันก็เต็มที่แล้วต้องหาที่ลง”
“นั่นเพราะนายมันบ้ากาม”
“ไม่ใช่”
“หมกมุ่น”
“เรื่องปกติธรรมดาของวัยรุ่นต่างหากครับ”
“ยังจะเถียง!!
“ก็จริงนี่ครับ”
“ฮะๆๆๆๆ...ฮ่าๆๆ...เรื่องนี้นายไม่ยอมรับเลยให้ตาย--”
“...............................................................”
“ลงไปรอข้างล่าง...เดี๋ยวอาตามไป”
“ครับ”
“เอ้าๆ...ปกติก็ปกติ...แต่ว่า...หลานชายที่มีความคิดจะตีหม้ออาแท้ๆของตัวเองมันไม่ปกติโดยสิ้นเชิงนะจะบอกให้...อ๊า!!
!!!!!!!!!!!
“ตายแล้ว!!!
...จังหวะที่อานิภากลับเข้าห้องทันใดนั้นผ้าขนหนูก็หลุดออกลงไปกองที่พื้น...ผมงี้ตาแทบถลนเพราะเห็นแผ่นหลังขาวเนียนและบั้นท้ายอันงามงอนเต็มๆ...อาสาวคนสวยรีบหลบเข้าห้องด้วยเรือยร่างที่เปลือยเปล่าพลางโผล่แค่หัวออกมาเอ็ดผม...
“มองอะไรห๊ะ?...ลงไปเลย...บรี่!!
(หรือ...หรือหล่อนจะจงใจทำผ้าหลุดกันแน่!?)
“อาๆ...ลืมผ้าขนหนู...โอ๊ย!!”)
“.........................................................”
 นั่งหลับตรงนี้ไม่ได้นะคะ...ขวางหน้าร้าน
เอ๊ะ!?...ขอ...ขอโทษครับ
(ฝะ...ฝันไปหรอกเหรอ?)
“แต่เหมือนจริงชะมัด...แบบไม่รู้ว่าตกลงอันไหนความจริงอันไหนฝัน...หืม?...นึกออกแล้ว...เราออกมาซื้อของในเมืองนี่นา”
(ชักงงตัวเอง...ความฝันอะไรไม่รู้เหมือนจริงเหลือเกิน)
“...........................................................”
หนูมีอะไรเหรอ?”
ช่างเป็นความฝันที่น่าสนใจ
นี่หนูเป็นใคร?”
เรานั้นเป็นเพียงวิหคผู้ต่ำต้อยนามว่าบุหรง
(เป็นชื่อที่ไพเราะอย่างน่าประหลาด)
“แล้ว...ยังไงจ๊ะ?”
“....................................................”
(เด็กหญิงที่มีลักษณะการพูดคล้ายๆพี่ม่อน)
“หนูบอกว่าชื่อบุหรง”
“โปรดเรียกเราเช่นนั้น”
“พ่อแม่ของหนูอยู่ไหน?”
“หามีไม่”
“อ้าว!?...งั้นหนูมาจากไหนและมากับใคร?...พอจำได้มั้ย?”
(ส่ายหน้า)
“ท่านมิต้องวิตกดอก...เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเราจะกลับเอง”
“เอ่อ--...จนป่านนี้พี่ก็ยังไม่เข้าใจว่าหนูพูดอะไร?”
................................................................................................................................................

“นั่นใครนะ?”
“ไม่รู้”
แม้กระทั่งพี่รีย์ก็ยังมองไม่ออกว่าเด็กผู้หญิงที่อยู่กับพ่อเป็นใคร...แสดงว่า...
แต่พี่มั่นใจว่าไม่ใช่อุษณรัศมีหรือสิตลรัศมีเพราะทั้งสองมีพระเวทย์เทียบเท่ากับพี่ซึ่งพี่จะต้องรู้
หมายความว่าหากพระเวทย์ของอีกฝ่ายเหนือกว่าก็จะไม่รู้สินะคะแล้วผู้ที่มีพระเวทย์เหนือกว่าพี่รีย์...หัสดินเทวนาถ...ไม่!!...พญาคชสารไม่มีทางมาทำอะไรแบบนี้
“...........................................................”
“พวกเจ้ายังมองไม่ออกหรือ?”
“อชินีสุราลัย”
“เจ้าพ้นโทษแล้ว”
“น่าเบื่อจริงๆที่ต้องถูกกักตัวในถ้ำที่แสนจะคับแคบอย่างนั้น”
“เพราะอาละวาดจนท้องฟ้าปั่นป่วนแผ่นดินพังพินาศไปหมดไง”
“สองแฝดก็สมควรถูกลงโทษเหมือนกันแต่กลับไม่เป็นอะไรเลย...เจ้าคิดว่ามันยุติธรรมเรอะ?...วสันตนุจรินทร์”
“นั่นเพราะเจ้าเป็นฝ่ายเริ่มต้น”
“เฮอะ!!...ข้าไม่เคยทำอะไรดีหรอก”
“เรากำลังพูดถึงเด็กผู้หญิงที่สนทนากับคุณพ่ออยู่นะ...ทำไมจะต้องมาโต้เถียงกันเอง?”
“จริงด้วย!!...เจ้าดูออกแล้วใช่มั้ย?”
“ฮึ!!...ถ้าข้าไม่รู้จักมันเป็นอย่างดีก็คงเหมือนพวกเจ้าที่ไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร?”
!?
“อชินีสุราลัย...เจ้าจะพูดว่า...”
มะ...ไม่จริง!!!...เป็นไปไม่ได้!!!!...ก็...ก็เวลานี้นางยังหลับใหลอยู่ไม่ใช่หรือ?”
“วสันตนุจรินทร์เอ๋ย!!...เทพบดีแม้จะหลับก็สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง...แค่ส่งดวงจิตเข้าสู่ร่างผู้อื่นนั้นง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ...เจ้าก็เห็นตัวอย่างจากหัสดินเทวนาถแล้ว”
“ไม่เป็นบริวารอะไรทั้งสิ้น...ชื่อบุหรงก็ไม่ใช่”
“อะไรกัน?”
“น้องดูที่เงาของนาง”
!!!!
“เงาที่ทอดยาวออกไปนั้นปรากฏรูปนกยักษ์สยายปีก”
“ก็หมายความว่า...”
“นางผู้นั้นแหละคือราชหงส์สุรัมภา!!!!
“นาง!!...นางต้องการอะไรกันแน่คะถึงได้ใช้ร่างเด็กผู้หญิงไปพบกับพ่อ?”
“ไม่รู้...ยังไม่รู้อะไรสักนิดเดียว”
“แต่ที่แน่ๆไม่ใช่เรื่องดี...ถ้าพวกเจ้ายังจำได้...เจ้านั่นมีอีกสมญานามหนึ่ง”
...................................................................................................................................................

“หนูดื่มน้ำสักหน่อยนะ”
“.....................................................
“วันนี้อากาศร้อน...ดื่มสักหน่อยจะได้สดชื่น”
“ขอบคุณในความมีน้ำใจของท่าน”
...เด็กหญิงรับมาแล้ววางข้างตัว...ดูไปดูมาใบหน้าของหนูน้อยคนนี้ดำคล้ำซูบซีดราวกับคนป่วยแถมผิวหนังบริเวณแขนก็มีรอยเหมือนเข็มฉีดยาเจาะ...
“หนูบุหรง”
“?”
“ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
“เหตุใดท่านจึงพูดเช่นนี้?”
“พี่สังเกตมาพักหนึ่งแล้ว...ก็ไม่ใช่หมอหรอกนะแต่ร่างกายของหนูดูไม่ปกติเลย”
“...........................................................”
“ถูกมั้ยล่ะ?”
“หึๆ...สายตาแหลมคมไม่เบา...ถูกต้องแล้ว...ร่างกายนี้กำลังป่วยหนัก”
“หา!?...หนูป่วยเป็นโรคอะไรแล้วทำไมมาอยู่ที่นี่?...พ่อแม่หนูอยู่ไหน?...พี่จะพาไปส่ง”
“ท่านรู้รึว่าเราอยู่ที่ใด?”
“ไม่รู้แต่พี่จะปล่อยให้หนูที่ป่วยหนักอยู่ตามลำพังได้ยังไง?”
“ท่านช่างมีน้ำใจนัก”
“ไม่ใช่เวลามาพูดเล่นนะ!!
“บอกแล้วว่าหาได้ต้องกังวลไปไม่...มินานก็จะมีคนมารับเราเอง”
“งั้นพี่จะอยู่เป็นเพื่อนหนูเอง”
“เวลาของท่านมีค่าจะมาเสียอยู่กับเราด้วยเหตุใดเล่า?”
“เพราะพี่ทิ้งหนูไปไม่ได้”
“เรามิเคยรู้จักกันมาก่อน”
“ถึงอย่างนั้นพี่ก็ทิ้งหนูไปไม่ได้จนกว่าจะมีคนมารับ”
“.............................................................”
“.............................................................”
“...มิน่า...พวกนางจึงยอมรับแต่เท่านี้ก็หาได้ช่วยให้หลุดพ้นไม่”
“เมื่อกี้หนูอะไรนะ?”
“น่าสนใจ...เช่นนั้นเราจะตอบแทนในความมีน้ำใจของท่านสักหนึ่งอย่าง”
“?”
..........................................................................................................................................

“เด็กหายไปทั้งคนทำไมไม่มีใครรู้?”
“คุณหมอครับแต่พวกเราตรวจตรากันอย่างเข้มงวดแล้ว”
“เข้มงวดจริงแล้วจะหายไปได้ยังไง?...เด็กผู้หญิงและก็ป่วยหนักด้วย...คนนะไม่ใช่หมาหรือแมวที่จะเล็ดลอดออกไปได้ง่ายๆ!!!!
“คุณหมอศรเพทายอย่าเพิ่งโกรธเลย...ผมว่าเรารีบติดต่อให้พ่อแม่เด็กรู้ก่อนดีกว่าครับ”
“เรื่องนั้นต้องทำแน่ๆค่ะแต่ก่อนอื่นต้องตามหาหนูอารยาให้เจอ...ดิฉันส่งคนออกไปสืบหาแล้ว...ไม่นานคงได้ข่าว”
“ส่วนเจ้าหน้าที่รปภ.รอให้เจอเด็กก่อนแล้วค่อยตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงนะครับ”
“ค่ะ”
“คุณหมอคะ!!...เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว...เมื่อสองชั่วโมงก่อนหนูอารยาเดินออกจากห้องไอซียูไปเพียงคนเดียวค่ะ!!!
“บ้า--...บ้าไปแล้ว!!!!...คนป่วยโรคไตวายเฉียบพลันและหมดสติไปเมื่อเก้าโมงเช้าแต่พอตกบ่ายกลับมีแรงลุกเดินไปเองเนี่ยนะ?”
“แต่...คุณหมอลองดูนี่ก่อนสิคะ”
“..........................................................”
“ในภาพเป็นหนูอารยาจริงๆ”
“เดินเหินเหมือนคนปกติเลย!!!...นี่...นี่ฉันกำลังดูอะไรอยู่?”
“น่าอัศจรรย์เหลือเกิน”
“ตรงไหนกันห๊ะ?...หนูอารยาตอนนี้บอกตรงๆว่าถ้าไม่ได้รับการเปลี่ยนไตโอกาสรอดชีวิตก็มีไม่ถึงครึ่ง...ให้ตายสิ!!!...เธอไปอยู่ที่ไหนนะ?”
“แบบนี้เราจะตอบคำถามพ่อแม่ของหนูอารยาได้ยังไง...ชื่อเสียงของโรงพยาบาลมีหวังเละก็งานนี้”
“กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาแล้ว...ถ้ารู้ไปถึงหูนักข่าวล่ะก็”
“ต้องรีบไปเตรียมจัดแถลงข่าว”
“รอดูก่อนน่า!!...คงจะไม่ร้ายแรงถึงขนาดนั้นมั้ง?”
“ฮัลโหลว่าไง?...หา!?...จะ...เจอแล้ว!!!!
!!!
!?
“รีบบอกมาว่าอยู่ไหน?”
“..............................................................”
“เออรู้แล้วๆ!!
“เจอแล้วใช่มั้ยครับ?”
“ฉันจะล่วงหน้าไปก่อน...ทางนี้เตรียมห้องรักษากับอุปกรณ์ให้พร้อม!!...ไปเตรียมรถพยาบาลเร็วเข้า!!!
“ครับ”
“ไอ้เอกคเชนทร์!!!...ทำไมหนูอารยาถึงไปอยู่กับแก?”
...........................................................................................................................................................

“อีกสมญานามของผู้เป็นใหญ่ในหมู่วิหค?”
“ถูกต้อง”
“เหตุที่นางได้รับขนานนามว่าเทพบดีแห่งการหยั่งรู้เพราะ...เพราะ...ใช่แล้ว!
“...สุริยนนุจรินทร์...เจ้านึกออกแล้วสิ”
“เทพบดีแห่งการทำนาย...”
“อืม”
“หยั่งรู้...ทำนาย...สองสิ่งนี้มักอยู่คู่กันเสมอตั้งแต่โบราณกาล”
“เมื่อหยั่งรู้ซึ่งทุกสิ่งก็ย่อมถ่ายทอดคำทำนายได้แต่เจ้านั่นกลับมีบางสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า”
“คือ?”
“ราชหงส์สุรัมภาไม่เคยสนใจต่อความดีหรือความชั่วใดๆ...ผู้ใดที่เจ้านั่นเห็นสมควรก็จะให้คุณหรือให้โทษโดยไม่แยกแยะอะไรทั้งสิ้น”
“จะบอกว่าทำตามแต่ใจที่ตัวเองต้องการโดยไม่สนว่าใครจะดีหรือใครจะเลว?”
“ถูกแล้ว...ข้าถึงพูดว่าเจ้านั่นไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอะไรเลยไงเล่า”
“อย่างนี้ไม่ถูกต้องแล้วนางจะทำอะไรกับคุณพ่อ?”
“หากให้ข้าเดา...นางคงจะให้คำทำนายและมันจะส่งผลให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป”
“ทำนาย?”
“และที่ผ่านมาก็ไม่เคยผิดพลาดซะด้วย”
“บ้าน่ะ!!
“อชินีสุราลัย...ถ้าที่เจ้าพูดมาเป็นความจริง...คุณพ่อต้องอย่าฟังคำพูดของนางเด็ดขาด!!!!
ใช่...แบบนี้อนาคตของพ่อต้องเปลี่ยนแน่!!!!
“จะไปห้ามรึ?”
“ปล่อยเทพวิหคที่ไร้ซึ่งจิตสำนึกให้คำทำนายบ้าๆกับพ่อไม่ได้!!!
“นางรู้อยู่แล้วว่าพวกเจ้าจะทำอะไร”
“ส่วนเจ้าก็จะไม่ทำอะไรบ้างหรือ?”
“จะให้ข้าทำอะไรล่ะ?”
“เชิญมาเป็นสักขีพยานในคำทำนายแห่งเราเถิด...สุริยนแลวสันต...”
!!
!?
“เจ้าจะมาด้วยก็ได้...อชินีสุราลัย”
“ฮึ!!...โผล่หางออกมาจนได้...เจ้านกปิศาจที่เอาแต่ความสะใจของตนเองและไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ”
“ถ้าทำอะไรกับพ่อก็จะได้เห็นดีกัน...ต่อให้สู้ไม่ได้ก็อย่าหวังว่าวสันตนุจรินทร์ผู้นี้จะงอมืองอเท้ายอมให้เจ้าทำตามใจง่ายๆเลย...พญาหงส์!!!!
“.........................................................”
.............................................................................................................................................


“ถึงเวลาที่เราจะต้องไปแล้ว”
“เอ๋?”         
“ขอบใจท่านจริงๆ”
“จะขอบใจพี่ด้วยเรื่องอะไร?...มันเล็กน้อยมาก”
ท่านดูแลเราเป็นอย่างดีเช่นนี้ก็เห็นทีจะต้องได้รับสิ่งตอบแทนบ้าง
หนูน้อย...จะตอบแทนอะไรพี่เหรอ?...แต่จริงๆพี่ไม่ได้ทำอะไรเลยนะแค่อยู่เป็นเพื่อนหนูเท่านั้นเอง
นั่นก็คือ...วาระสุดท้ายแห่งชีวิตของท่านอย่างไรล่ะ?”
โอ้โห!!...ขำไม่ออกนะเนี่ย?...จะเล่นแรงไปหน่อยแล้วมั้ง?”
(เด็กเวร!!!...เราอุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อนแต่กลับพูดอะไรไม่เป็นมงคล..ถ้าเป็นเพื่อนกันนี่ตบหัวทิ่มไปนานแล้ว)
“ว่าแต่ท่าน...”
“?”
“มิรู้สึกร้อนหนาวบ้างหรืออย่างไร?”
“ร้อน?...หนาว?...เปล่านี่...พี่ปกติดี”
“เปลวเพลิง...สายน้ำ...”
“นี่หนูพูดอะไร?...พี่ไม่เห็นเข้าใจสักนิด”
“........................................................”
“จะบอกว่าวาระสุดท้ายของพี่เป็นยังไงไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่...เราจะบอกท่าน ณ บัดนี้”
“น่าสนุก!...จะฟังหน่อยก็ได้...ว่ามาเลย”
“ท่านมิพอใจ”
“หา?”
“สีหน้าของท่านแสดงออกมาเช่นนั้นแต่จงลองฟังดูเถิด”
“...ก็พูดมาสิ”
“ก่อนหน้าคงมีผู้หนึ่งบอกท่านว่าจะได้รับเคราะห์จนอาจถึงแก่ชีวิต”
“เอ๋?”
(ผู้ใดที่ว่านั่นคือลูกสาวของเราเอง...แล้ว...แล้วแม่หนูคนนี้รู้ได้ยังไง?)
“ถูกต้องใช่หรือไม่?”
“ก็...ก็ใช่”
(เฮ่ย!?...เด็กคนนี้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับหนูน้อยของเรา?...คำพูดที่มีความเชี่ยมโยงจากในฝันสู่เรื่องจริง)
“หนู...”
“............................................................”
(ไม่ใช่!!...ความรู้สึกมันฟ้องว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวของเรา)
“คำพูดนั้นจะเป็นความจริงอย่างแน่นอน”
“อะไรนะ?”
“มิว่าจะหลีกหนีหรือระวังตนมากเพียงไรก็หาได้หนีพ้นไม่”
“หมายความว่า...มัน...มันจะไม่มีทางแก้ไขหรือผ่อนหนักเป็นเบาได้เลยหรือ?”
(เด็กหญิงส่ายหน้า)
“พี่...จะตายหรือนี่?”
“มนุษย์ทุกผู้ทุกนามย่อมต้องถึงแก่ความตายเพียงจะช้าหรือเร็ว...ท่านจะกลัวไปไยเล่า?”
“แต่มันเร็วไป...แล้วก็”
“?”
“พี่จะมีลูกก่อนแล้วค่อยตายใช่มั้ย?”
“คำถามนอกเหนือจากนี้เรามิขอตอบ”
“บอกไม่ได้?”
“.........................................................”
“ถ้างั้น...พี่จะตายยังไงและ...เมื่อ...เมื่อไหร่?”
“หนูอารยา!!!
!?
...พี่เซคเข้ามาขัดจังหวะก่อนที่เด็กหญิงจะตอบว่าผมต้องตายเมื่อไหร่...บ้าเอ๊ย!!!...ทำไมไม่มาช้าอีกสักนิด...
“หนูอารยาๆ”
“พี่เซค...หนูคนนี้ชื่ออารยาหรือ?”
“หุบปาก!!...แกน่ะทำไมมาอยู่กับเธอได้?”
“ผะ...ผมจะรู้ได้ยังไง?...หนูคนนี้เข้ามาคุยกับผมเองและเธอบอกว่าชื่อบุหรงนะครับ”
“บุหรงอะไรกันเป็นไปไม่ได้!!!...หนูอารยาป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังนอนอยู่โรงพยาบาลจะมีเรี่ยวแรงมาคุยกับแกได้หรือ?...แย่แล้ว...หนูอารยาๆๆ...บ้าจริง!!...หมดสติไปแล้ว”
“อะไรกัน?...ก็เมื่อกี้เธอยังคุยกับผมดีๆอยู่เลย”
....................................................................................................................................................

“มิต้องมองเราด้วยสายตาเคืองแค้นเช่นนั้นแลที่จริงพวกท่านก็หาได้มีสิทธิ์กล่าวโทษเราด้วยซ้ำ”
“จะไม่มีสิทธิ์ได้ยังไง?...หากครั้งนี้ข้าใช้ธารน้ำอันเชี่ยวกรากและแหลมคมดุจคมมีดทำร้าย...เจ้าก็จงมีแต่ต้องยอมรับอย่างไม่อาจขัดขืน...พญาหงส์!!!!
“เทพบดีแห่งวารี...เรารู้ว่าท่านกล่าววาจาออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวแต่ท่านจะฟังเหตุผลของเราก่อนเป็นแน่แท้”
“อะไรนะ?”
“พระเวทของท่านนั้นยังมินำออกใช้ดอก”
“อย่างนั้นเจ้าก็ต้องรู้ว่าข้าจะทำอะไรต่อไป”
“.............................................................”
!?
“แม้ไม่ใช่ร่างจริงของเจ้าแต่ข้าก็รู้สึกสาแก่ใจนัก...ข้าสามารถหักคอเจ้าได้อย่างง่ายดาย...เจ้านกปิศาจ!!!
“เจ้ามิทำเช่นนั้นดอก...อชินีสุราลัย”
“หึ!!
“ท่านหยั่งรู้ไปเสียหมดทุกอย่างก็ย่อมต้องรู้ดีว่าพวกเราจะถามอะไรท่าน?”
“เทพบดีแห่งอัคคี...เช่นนั้นจงบอกสหายของท่านให้หยุดกระทำการเสียมารยาทต่อเรา”
“เจ้าใจอ่อนอีกแล้ว--”
“เปล่า...ฉันไม่ได้ใจอ่อน”
“ฮึ!!
“ทั้งที่อยู่ต่อหน้าฉันและน้องสาว...ฉันอยากรู้เหลือเกินว่าเพราะเหตุใดท่านจึงพูดกับพ่อของฉันอย่างนั้น?”
“เห็นแก่ที่ท่านเป็นผู้มีเหตุผลมากที่สุด...เราจะบอกท่าน”
“นะ...นี่เจ้าหลอกด่าข้า!!!
“ใช่...เจ้าบังอาจหมิ่นข้าว่าเป็นผู้ไร้เหตุผลรึ?”
“ทั้งสองเงียบสักที!!
“ฮึ่ย!!!
“พี่!!
“ห๊ะ?...เมื่อกี้เจ้ายังมองเย้ยหยันข้า”
“อชินีสุราลัย...เจ้าพอได้แล้ว!!...ไม่มีใครมองเจ้าอย่างนั้น”
“เจ้าไม่เห็นน่ะสิ!!...ไม่เห็นเจ้านกบ้านี่มองข้าด้วยแววตาหยามเหยียด...ปัทโธ่เว้ย!!...ข้าไม่รู้ด้วยแล้ว!!!
“ราชหงส์สุรัมภา...คำพยากรณ์ของท่านนั้น”
“เราขอถามว่าคำพยากรณ์นี้ต่างจากที่พวกท่านรู้มาหรือไม่?”
“...ไม่”
“หมายความว่าหาได้มีสิ่งใดผิดเพี้ยนไปแม้แต่น้อย...บุรุษผู้นั้นจะถึงแก่ความตายภายใน 90 วันของโลกมนุษย์ซึ่งเป็นไปตามชะตาชีวิตของเขาแลตรงตามที่พวกท่านรู้”
“เจ้ามีจุดมุ่งหมายอะไรถึงมายุ่งเกี่ยวกับพ่อของข้า?”
“เรามีความสนใจว่าพวกท่านที่ดำรงฐานะเทพบดีเหตุใดจึงให้ความสำคัญต่อบุรุษผู้นั้นที่เป็นเพียงมนุษย์?...แม้กระทั่งอุษณรัศมีแลสีตลรัศมีก็เช่นเดียวกัน”
“ไม่เกี่ยวกับข้า!!!
“แต่สำหรับเรานั่นคือสิ่งที่มิสมควรจะเกิดขึ้น...เราหยั่งรู้ว่าพวกท่านมีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของบุรุษผู้นั้นเพื่อมิให้ถึงแก่ความตาย”
!?
!!!!
“ใช่แล้ว...นี่คือความตั้งใจที่แท้จริงแต่พวกท่านมิอาจเปลี่ยนแปลงได้...ความตายของเอกคเชนทร์จักบังเกิดขึ้นอย่างแน่นอนภายในเวลาเก้าสิบวันของโลกมนุษย์...ด้วยแสงจันทร์”
“ท่านก็เลย...ทำให้มันชัดเจนโดยใช้พลังอำนาจของเทพบดีแห่งการพยากรณ์”
“เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเราเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของพ่อ”
“ในนามผู้เป็นใหญ่แห่งหมู่วิหค...เราขอเตือนพวกท่านด้วยความปรารถนาดีว่าอย่าพยายามกระทำการที่ไร้ประโยชน์อีกต่อไปเลย”
“ดวงจิตหายไปแล้ว!!
“ตอนนี้ที่อยู่ต่อหน้าเราก็เป็นได้เพียงนกตัวหนึ่งเท่านั้น”
“เราจะทำยังไงดีคะพี่?”
“...........................................................”
“พวกท่านหมดหนทางจะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมแล้ว”
“ใช่...ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง”
“เจ้าแฝดนรก...สหายของพวกเจ้าเพิ่งมุดหัวหนีไปเมื่อกี้นี้ไงเล่า!?
“เสียมารยาทจริง”
“เสียมารยาทนัก”
“ข้ากำลังอารมณ์ไม่ดี...จะมาหาเรื่องอีกใช่มั้ย?”
“เราไม่ได้มาหาเรื่องใครทั้งนั้น”
“ไม่ได้มาหาเรื่อง”
“พวกท่านมาด้วยเหตุใด?”
“การจะปล่อยให้พ่อมีความทรงจำนี้เหลืออยู่ไม่ใช่เรื่องดี”
“ไม่ใช่เรื่องดีอีกต่อไป”
“จงทำให้ลืมไปเสียเถอะ”
“ลืมไปเสียเถอะ...แม้กระทั่งแม่ของท่านด้วย...สุริยนนุจรินทร์”
“.............................................................”
“เพราะจะมีแต่ทุกข์ทรมานใจเปล่าๆ”
“ทุกข์ทรมานใจเปล่าๆ”
“แลอันที่จริงมนุษย์ไม่ควรล่วงรู้จุดสิ้นสุดของตน”
“ไม่ควรล่วงรู้จุดสิ้นสุดอันเป็นข้อห้ามแห่งกฎธรรมชาติ...เราสองพี่น้องจะเป็นธุระให้เอง”
“และต่อไปนี้เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขที่สุด”
“ท่านทั้งสามคงจะยินดีนะ”
“ก็บอกแล้วว่าข้าไม่เกี่ยว...อยากทำอะไรก็เชิญเถอะ!!!
.....................................................................................................................................................