หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Garnet Sidestory 1



Garnet Sidestory 1 “ชะตากรรมของน้องคนเล็ก!?

“จะเหนื่อยเพียงไหน...จะทุกข์เพียงใดโปรดรู้...ตรงนี้ยังมีฉันอยู่...”
(เสียงเพลง?...นี่เป็นเสียงพี่แคทไม่ใช่เหรอ?)
“นั่น...”
(ออกจากหมู่บ้านโยนกเพื่อมาหาพี่ชายแต่ก็ได้เจอคนที่ไม่ค่อยจะปรากฏตัวให้เห็นบ่อยครั้งนัก...โชคดีแล้วสิ)
“เราทั้งคู่นี่มักจะเจอกันในที่ๆคาดไม่ถึงตลอดนะคะ...พี่อ้อ”
“...พี่ก็คิดอย่างนั้นจ้ะ”
“อาครับ...ผมไปข้างนอกสักพักนะ”
“ทิ้งลูกสาวอาอีกแล้ว~~
“เอ้ย!?...ทิ้งอะไรกันครับ?...อาก็พูดเกินไป”
“งั้นบอลพาไปด้วย”
“หา?”
“มีพิรุธ!!...คิดจะแอบไปหาสาวอื่นใช่มั้ย?...อารู้นะอาเห็นนะ”
“ไม่ใช่เลยครับ!!!
“ฮะๆๆ...น่ารักจัง”
“น้านิภาเรอะ?”
“บอล”
(โฮ่~~...แบบนี้ที่เรารู้มาก็ไม่ผิด)
“หรือกระทั่งพี่ก็ชอบพี่ชายด้วยถึงได้มาคอยตามดูเขา?”
“มิใช่แค่ชอบ...อยากได้เป็นสามีเชียวล่ะ”
!!!
“แต่มันมิง่ายเพราะเขามิเคยเจอพี่เลย”
“จะทำหน้าเซ็งไปทำไมคะ?...พี่ก็ออกไปพบพี่ชายสิ”
“พบ?”
“ใช่...ออกไปแนะนำตัวเลยว่าพี่เป็นใคร...ไม่เห็นจะยากตรงไหน?”
“นั่นคือ...สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับพี่”
“?”
...ตัวเองเคยปรากฏให้พี่ชายเห็นสักครั้งหรือยังถึงบอกว่ายาก...หนูไม่ชอบเลยที่จะมีใครมาพูดว่าไม่ได้ทั้งที่ยังไม่เคยลงมือทำ...
“เหตุผลของพี่อ้อคืออะไร?”
“พี่ใช้ชีวิตอยู่ในเงามืดของท่านพี่สุริยาวรรณมาตลอดแลมีเพียงคนหยิบมือที่รู้ว่าพี่เป็นใคร”
“ก็ไม่ใช่เหตุที่จะฟังขึ้นอยู่ดี...อยู่ในเงามืดก็ออกมาอยู่ในที่สว่างได้”
“...พี่ทำเช่นนั้นมิได้”
“เพราะอะไรคะ?”
“สองมือนี้ของพี่...แปดเปื้อนโลหิตมามาก”
“โธ่เอ๊ยพี่อ้อ~~...คิดมากไปได้!!...ไม่ใช่แค่พี่คนเดียวที่มือเปื้อนเลือดสักหน่อย...หนูก็เคยทำร้ายคนอื่นมาเหมือนกัน”
“...น้องป้อมเคยฆ่าคนหรือเปล่า?”
“ไม่...แต่ก็เคยมีความคิดอยากฆ่าคนให้ตาย...ตายด้วยเข็มในมือนี้”
“แต่พี่ใช้ดาบที่เหน็บเอวนี้สังหารผู้อื่นมาแล้ว...พี่นี่แหละคือฆาตกร”
“พี่อ้อกำลังบอกหนูว่าฆาตกรไม่สมควรจะได้รับความสุขงั้นรึ?”
“ถูกแล้ว”
“ไม่มีใครอยากจะเป็นฆาตกรหรอก...หนูเชื่อ”
“........................................................”
“ที่พี่อ้อไม่กล้าออกไปพบพี่ชายก็เพราะกลัวว่าสักวันหนึ่ง...พี่ชายจะรู้ความจริง”
“เขาต้องเกลียดชังพี่แน่”
“พี่อ้อไม่ใช่พี่ชายจะรู้ใจเขาได้ยังไง?”
“แต่...”
“คนขี้ขลาด”
“ว่าอะไรนะ?”
“อย่างนั้นพี่อ้อก็เป็นได้แค่คนขี้ขลาดกับทุกๆเรื่อง...ไม่ว่าจะเรื่องความรักหรือกระทั่งความเป็นมนุษย์”
“หยุด!
“ไม่ว่าจะพี่อ้อหรือพี่เอ้...ฮึ!...น้าก็ด้วย”
“ท่านแม่มาเกี่ยวข้องได้อย่างไร?”
(อุ!...แหย่เพลิงโทสะพี่อ้อเข้าซะแล้วไง)
“ก็มีเรื่องเดียวเท่านั้นที่น้านีย์ไม่กล้านั่นคือไม่กล้ายอมรับความจริงไงว่าพี่เป็นลูกของ...”
“หยุดนะ!!!
“ถ้าป้อมพูดอะไรผิดพี่อ้อก็เชิญเอาดาบในมือปาดคอได้เลยแต่หนูจำเป็นต้องพูด”
“ฮึ่ม!!!!
“.........................................................”
(นี่ถือเป็นเรื่อง “ต้องห้าม” อันดับต้นๆของคนในโยกจัตุรัสที่ห้ามหลุดออกมาจากปากเป็นเด็ดขาดและโดยเฉพาะกับต่อหน้าพี่อ้อผู้นี้)
“หากเธอมิใช่น้องสาวแล้วไซร้คอเธอจักขาดตกถึงพื้น!!...ถ้าจะว่าจะด่าก็ขอให้ลงที่พี่คนเดียว...อย่าได้เอาท่านแม่มาข้องเกี่ยว!!!
...ดูท่าจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลยสักนิดแล้วพี่อ้อก็จะใช้ชีวิตเยี่ยงเงาพร้อมกับกวัดแกว่งดาบอสูรอันน่ากลัวนั่นพิฆาตความชั่วที่แสงสว่างส่องลงไปไม่ถึงต่อไป...สูญเปล่า...
“มิว่าจะเป็นอ้อหรือพี่ก็มีความคิดที่หาได้ต่างกันไม่...นั่นคือปกป้องครอบครัว”
“....................................................”
“ที่ผ่านมาพี่เอ้เหนื่อยมากมั้ย?”
“?”
“ป้อมถามใหม่ก็ได้...ดาบชิโระเทนเคียวอยู่ในมือใครจะน่ากลัวที่สุดระหว่างพี่เอ้กับพี่อ้อ?”
“อยากรู้จริงๆหรือขอรับ?”
“เพราะอยากรู้ถึงถาม”
“ลองเดาก่อนสิขอรับ”
“...ถ้าให้เดา...ป้อมว่าพี่อ้อ”
“..................................................”
“ถูกมั้ยคะ?”
“หึๆ...สมกับที่เป็นน้องนางศรโกเมน”
“แต่ยังไงก็ตาม...หนูจะไม่มีวันเปลี่ยนความคิดว่า...”
“?”
“พี่เอ้ก็ยังเป็นคนที่ไม่สมควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย...ขอยืนยันเลย”
“....................................................”
(อย่างไรซะเงาก็เป็นแค่สิ่งที่จับต้องไม่ได้...เฮ่อ~~...พี่อ๋อมก็ไม่กลับมาสักที...กะจะปรีกษาอะไรด้วยสักหน่อย)
“อื๋อ?”
“ฮิๆๆ”
(พี่อ้อกำลังถ้ำมองใครอาบน้ำน่ะ?...รึ...รึว่า?)
“ขนาดยังมิตื่นตัวแต่ช่างมีเสน่ห์ชวนน่าหลงใหล...เฮ้อ~~...ผู้ชายอะไรนะ...อุ๊ย!?
“น่าเกลียดที่สุดเลยพี่อ้อเนี่ย!!!...ผู้หญิงประสาอะไรแอบดูผู้ชายอาบน้ำ?”
“นิดหน่อยเองทำหวง!...น้องนางศรโกเมนก็มาดูสิ”
“ไม่เอา!!
(ทั้งที่จริงหนูก็อยากเห็นมากๆนะ)
“งั้นก็อย่ามากวนใจพี่”
“ไม่ได้!!...ออกมาเดี๋ยวนี้เลย”
“มิเอา~~...โอกาสงามเช่นนี้หามิได้ง่ายๆเจ้าค่ะ”
(เมื่อตอนเย็นยังถลึงตาเลือดใส่หนูอยู่เลยแต่พอตกค่ำกลับแอบถ้ามองพี่ชายอาบน้ำ)
“นี่ใช่คนเดียวกับที่เคยสยบจันทรกานต์ของพี่ม่อนหรือเปล่า?...เวลานี้มองยังไงก็เป็นแค่ผู้หญิงลามกคนหนึ่ง!!!
“ก็บอกแล้วว่าโอกาสเช่นนี้หามิได้ง่ายๆ”
“หนอย~~
(อยากจะร้องให้!!)
...........................................................................................................................................


(“โอ๊ยยยยยยยยยยยยย~~...เจ็บ!!...เจ็บๆๆๆๆๆๆ”
“พี่เป็นยังไงน่ะ?”
“เจ็บสิถามได้!!!...เด็กผู้หญิงที่ไหนเขาปีนต้นไม้เล่นกันเล่า?”
“พี่มารับหนูทำไม
“ไม่รับเธอก็จะตกลงมาตายสิ!!
“ใจดีจัง”
“เจ็บ~~
“แล้วถ้าหนูตกต้นไม้แบบนี้อีกพี่ชายจะมารับหนูมั้ย?”)
“แต่สุดท้ายพี่ชายก็ไม่มารับ...ปล่อยให้ป้อมตกต้นมะขามจนขาหักอ่ะ...ฮึ!
“บ่นอะไรอยู่คนเดียว?”
“ไม่มีอะไร...แค่บ่นว่า...”
“?”
“พี่เซคคือจอมแผนการและก็ร้ายกาจเสียยิ่งกว่าแม่มด”
“เฮ่!!...เรื่องอะไรมาว่าพี่ยะ?”
“ก็จริงไม่ใช่เหรอที่ตัวเองคิดแต่จะหาวิธีเล่นงานพี่ชาย?”
“ฮึๆๆ...งั้นลองเดาด้วยหัวสมองอันชาญฉลาดของน้องซิว่าจอมแผนการและก็ร้ายกาจเสียยิ่งกว่าแม่มดอย่างพี่จะทำอะไรต่อไป”
“ป้อมจะไปรู้ได้ไงแต่ขอให้เลิกสักทีได้มั้ย?”
“ไม่ยาก...คืนนี้ยอมมาเป็นของพี่สิ”
“วิปริต!!!...กับน้องตัวเองก็จะไม่เว้น”
“..........................................................”
“ยะ...ยิ้มอะไร?”
“เธอพูดช้าเกินไปแล้ว”
“จะช้าหรือเร็วก็ช่างแต่พี่เซคไม่ควรทำตัวแบบนี้”
“ความรักความสัมพันธ์ของมนุษย์บนโลกนี้มันมีตั้งหลายแบบ...เธอยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ”
“เชอะ!!...พี่เซคล่ะรู้เยอะสักแค่ไหนกัน?”
“ก็รู้เห็นธาตุแท้ของคนมามากจนไม่ไว้ใจใครง่ายๆนอกจากญาติพี่น้องของตัวเอง”
...จริงๆหนูก็ได้ไม่รู้อะไรละเอียดแต่คิดว่าต้องเป็นเพราะ “คนๆนั้น” ที่ทำให้พี่เซคเปลี่ยนไปและยิ่งตอกย้ำให้เธอมองผู้ชายเป็นสิ่งมีชีวิตที่  “ไม่คู่ควร” จะฝากทั้งชีวิตไว้ให้ดูแล...
(ก็ดันไปเห็นเข้าซะเต็มตาแบบนั้นจะช็อคก็ไม่แปลก...เอ๊ะเดี๋ยว!?)
“มันขัดแย้งกันไม่ใช่เหรอ?”
“หา?”
“ได้ยินข่าวมาว่าพี่กับตาแก่ผอ.โรง่บาลตัณหากลับเคยแอบมีอะไรกัน...จริงหรือเปล่า?”
“...นี่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่”
“แต่หนูก็ไม่ใช่เด็กน้อยนะ”
(ต้องการอะไรเนี่ย?...ล้างแค้นหรือประชดตัวเอง?)
“การข่าวของป้อมแทบจะไม่ผิดพลาดนิ”
“แสดงว่าจริง”
“..........................................................”
“กล้าทำได้ยังไงอ่ะ?...ตาแก่นั่นอายุคราวพ่อของพี่เชียวนะ!!
“พี่ทำอะไรย่อมต้องมีเหตุผลและเหตุผลนั้นก็ไม่จำเป็นต้องบอกด้วย”
“................................................”
“จะตามมาทำไมน่ะ?”
“ก็หนูว่างนี่”
“ออกไปหาอะไรกินไป”
“ยังไม่หิว”
“งั้นรอพี่ก่อน...เลิกงานแล้วไปหาของกินกัน”
“อืม”
“คุณหมอศรเพทายมาหรือยัง?”
“เข้ามาแล้วค่ะ”
!?
“ผมมีเรื่องจะหารือกับคุณหมอ...ถ้าใครมาพบก็ให้เขารอก่อน”
“ค่ะ”
 ...เฮ่ย!!...ชักจะไม่เข้าทีแล้วแฮะเพราะหนูเห็นตาแก่ผอ.โรงบาลหัวงูเข้าไปในห้องทำงานของพี่เซคและยังสั่งเจ้าหน้าที่หน้าห้องแบบนั้นด้วย...หรือว่า...มะ...ไม่ได้การต้องรีบเข้าไปขัดขวางก่อนที่จะเกิดเหตุงามหน้าให้อับอายไปทั้งตระกูล!!!!...
(แต่ถ้าเกิดว่ามันไม่ใช่แล้วเราจะอ้างเหตุผลอะไรดี)
“คุณหนูศรโกเมนจะพบคุณหมอหรือคะ?”
“ไม่...เปล่า”
(ต้องหาวิธีอื่น)
“...................................................”
(ได้การ!!!...แอบเข้าห้องพักหมอข้างๆแล้วปีนออกทางหน้าต่างจากนั้นก็...)
“...................................................”
“อุ!!...โอ้~~...คุณหมอยัง...ยังสุดยอดไม่มีเปลี่ยน”
“อือ--...ที่ผอ.มาหาดิฉันเพราะอยากให้ทำแค่นี้น่ะเหรอคะ?”
(ไหงตาแก่หัวงูนี่ถึงมีท่าทางหอบๆหว่า?)
“ก็คุณหมอไม่ไปหาที่ห้องสักทีผมเลยต้องมาเอง”
(ฮึ๊ย~~...บ้าเอ๊ย!!...ตาแก่นี่มานั่งหำห้อยอะไรแถวนี้อุบาทส์ตาเป็นบ้า!!!...เอ๋?...รึ...รึว่า!?...สองคนนี้จะ...ทะ...ทะ...ทำกันไปแล้ว!!!!)
“น่ารังเกียจที่สุด!!!!...ไม่นึกเลยว่าพี่เซคจะกลายเป็นคนแบบนี้”
(ไหนพูดนักพูดหนาว่าชอบผู้หญิงแต่การกระทำมันกลับตรงกันข้ามกันเลย)
“ดิฉันกำลังจะอาบน้ำพอดี...มาด้วยกันมั้ยคะ?”
...ตาเฒ่าหัวงูพยักหน้าแทนคำตอบแล้วทั้งสองก็ถอดเสื้อผ้าให้กันและกัน...หนูต้องหรี่ตาข้างหนึ่งไม่กล้าดูตรงๆเพราะน่าบัดสีไม่ใช่น้อย...พี่เซคยอมให้ผู้ชายแก่คราวพ่อล่วงล้ำถึงขั้นถอดชุดชั้นในซึ่งตาแก่นั่นก็มือไม้สั่นเทากับตาลุกวาวไม่เบาเชียวในจังหวะที่รูดกางเกงในของพี่เซคลง...
“อูย~~...หีคุณหมอยังน่าเลียเหมือนเดิมเลย”
(คงหลายครั้งสิท่า?...เอ--...เมื่อกี้จะคิดไปเองหรือเปล่านะว่าแววตาที่พี่เซคมองไอ้แก่นั่นมีร่องรอยแห่งความดูหมิ่นและสมเพศปนอยู่ด้วย)
“อย่าเพิ่งใจร้อนสิคะ...ถ้าอยากจะลงลิ้นก็ไปลงในนั้นดีกว่า”
“ดีๆๆ...ไปกันๆ”
(ทั้งสองคนโอบเอวคุยกะหนุงกะหนิงเข้าไปในห้องน้ำและต่อมาหนูก็ได้ยินเสียงน้ำไหลปนะเสียงครางกระเส่าของพี่เซคแว่วมาให้ได้ยิน...ไม่ไหวแล้ว~~...ทุเรศเกินกว่าจะรับได้!!!!)
“เบื้องหลังของพี่เซคช่างเน่าเฟะยิ่งกว่าที่ได้ยินมาเสียอีก...อย่างนี้เราจะนับถือเธอต่อไปอีกทำไม?...กลับบ้านดีกว่า”
“เน่าเฟะอะไร?...พูดเกินไปหน่อยนะ”
!?
“ไม่เห็นจะต้องทำหน้าอย่างนั้น”
“เสื่อมทราม!!!...ไม่คิดมาก่อนเลยว่าพี่เซคจะเป็นผู้หญิงที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเช่นนี้...กล้าเอากับตาแก่คราวพ่อ...น่าสะอิดสะเอียนที่สุดจนอยากอาเจียน!!!!
“ป้อมเข้าใจผิดแล้ว...พี่ไม่ได้มีอะไรกับผอ.”
“กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้องยังจะกล้าโกหกอีกเรอะ?...ด้วยสภาพแบบนั้นต่อให้อมโบสถ์มาพูดก็ไม่เชื่อ”
“หรือว่าเธอ...”
“ใช่...หนูเห็นและได้ยินหมดแล้วว่าในห้องนั่นพี่กับไอ้แก่...”
“ผอ.ไม่สามารถมีอะไรกับพี่ได้อย่างแน่นอน”
“อะไรนะ?”
“เพราะเขาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปหลายปีแล้ว”
“นี่คิดว่าหนูปัญญาอ่อนนักหรือ?...แล้วไอ้เสียงครางกระเส่าที่หนูได้ยินมันจะหมายความว่าอะไรและที่บอกว่าเกลียดผู้ชายก็เป็นคำโกหกหลอกลวงทั้งเพใช่มั้ย?...พูดมาตรงๆ”
“เราแค่ใช้ปากให้กันเท่านั้น...ไม่ได้สอดใส่เข้าไปเลยสักนิด”
“ห๊ะ!?
(ใช้ปาก?)
“อีกอย่างผอ.เป็นโรคหัวใจซึ่งอาการจะกำเริบขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้”
“แล้วพี่เซคไม่รู้รึว่าทำแบบนี้เขาอาจจะหัวใจวายได้น่ะ?”
“ก็สันดานผู้ชายไง”
“หนูไม่เข้าใจ”
“ขนาดเหี่ยวเป็นมะเขือเผาและป่วยเป็นโรคหัวใจก็ยังไม่ละกิเลสตัณหา”
“ที่พี่ยอมทำกับเขา...จะประชดอะไรหรือว่าต้องการล้างแค้นใคร?”
“ก็บอกไปแล้วว่าพี่มีเหตุผล”
“มันคืออะไรคะ?”
“ยังไม่ขอบอกตอนนี้”
“พี่เซคไม่เคย...”
“เย็ด”
“เออนั่นล่ะ!!...กับตาเฒ่าหัวงูนั่น...พูดจริงแน่นะ?”
“ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว”
“......................................................”
“......................................................”
“หึ!...งั้นป้อมจะเชื่อสักครั้งก็ได้”
“อย่าห่วงไปเลย...พี่ไม่มีวันเปลี่ยนความคิดไปชอบผู้ชายหน้าไหนหรอกน่า--”
“ใครห่วงยะ?...บ้าสิ!!
“ผู้ชายก็เป็นแค่ของไร้ค่าที่ไม่จำเป็นต้องมีในชีวิตของพี่ซึ่งสักวันป้อมจะเข้าใจเอง”
“ไม่มีวันเข้าใจแน่!!!
...พี่เซคช่างเป็นบุคคลที่อันตรายต่อผู้ชายมีดุ้นทุกตัวตน...เธอมั่นใจหนักหนาว่าชั่วชีวิตนี้สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องมีผู้ชายแต่สำหรับตัวหนูถ้าไม่มีพี่ชายสักคนแล้วชีวิตนี้จะมีความหมายอะไรกันเล่า?...
(แค่คิดก็อยากจะร้องให้!!!)
.............................................................................................................................................


(พี่แคทจะมีอะไรให้น่าติดตามมั่งนะ?)
...เธอจะตื่นเวลาหกโมงเช้าทุกวันแล้วมาออกกำลังกายหรือไม่ก็รดน้ำต้นไม้และดูเหมือนช่วงนี้จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ...พอหล่อนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จหนูก็เข้าไปคุย...
“น้องป้อมตื่นแล้วหรือ?”
“หนูตื่นตีห้าทุกวันค่ะ”
“เช้าจัง”
“ฮ้าว~~...รุณหวัดค่าทุกคน...จะรีบทำอาหารเช้าเดี๋ยวนี้แหละ”
“เช้านี้หนูขอไข่ดาวนะ”
“ได้ดิ”
“บอลยังไม่ตื่นเหรอ?”
“ยังหลับอยู่เลย”
“งั้นป้อมไปปลุกเอง”
“เฮ่!!...เราน่ะไม่ต้อง”
“ทำไมเล่า?”
“ถ้าอยากกินไข่ดาวไปช่วยพี่ทำ”
“อ๋า!!...เรื่องอะไร?”
“อยากกินมะ?”
“อือ~~
“จริงๆว่าจะทำสเต็กเนื้อให้ยัยตัวเล็กกินเป็นพิเศษ...งั้นไม่ทำดีกว่า”
“ไม่ๆๆๆๆ...อันนี้ต้องทำนะต้องทำ!!...หนูจะไปช่วยก็ได้”
(ฮึ่ย~~...เอาของชอบมาขู่...เดี๋ยวจะลักกางเกงในตัวโปรดไปซ่อนซะเลย!!)
“อ้าวแม่!?
“อาหารเช้าเสร็จหมดแล้วจ้ะ”
“เร็วมาก”
“แง่ว~~...อดแสดงฝีมือเลย”
(แบบนี้หนูก็ไปปลุกพี่ชายได้...อื๋อ?)
“......................................................”
(เหมือนกับเห็นอะไรบางอย่าง!?)
“เมื่อไหร่จะตื่น?”
“......................................................”
“ยังต้องให้ปลุกเป็นเด็กๆอีกหรือ?”
(ถูกพี่แคทตัดหน้าซะงั้น)
“จะให้ตื่นก็ได้แต่หอมแก้มผมก่อนสิครับ”
“ข้อเสนอนี้ช่างเอาเปรียบจังนะ?”
“เปล่าสักหน่อย”
“ฝันไปเถอะ”
“โธ่~~
“เดี๋ยว”
!?
!!!
...ถ้าเป็นหนูล่ะก็จะหอมแก้มทั้งซ้ายทั้งขวาของพี่ชายเลย...ฮึ!!...ความคิดนี้อ่อนหัดที่สุด...พี่แคทไม่ยอมหอมแก้มแต่คว้าตัวพี่ชายมาประทับรอยริมฝีปากซึ่งเล่นเอาทั้งหนูและผู้ที่ถูกขโมยจูบตะลึงงันไปเชียว...
“แบบนี้ดีกว่าหอมแก้มเป็นไหนๆ”
“สวรรค์...สวรรค์แท้ๆ”
“ไปอาบน้ำได้แล้ว”
“ขออีกทีนะครับ”
“ไม่”
“เพราะจะไม่หยุดแค่จูบแน่...ใช่มั้ย?”
“รู้ทันแฮะ”
“จะรอข้างล่าง”
“คร้าบ~~
“ก็ไม่อยากจะพูดสักเท่าไหร่หรอกนะแต่พี่แคทเป็นคนที่สวยจริงๆ...รู้สึกหนักใจแทนตัวเองและก็พี่อ๋อม...นับว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว...เอ๋?”
“...............................................”
“...............................................”
(แสงอะไรทางด้านหลังพี่แคท...เราตาฝาดไปหรือเปล่าหว่า?)
“...............................................”
(คงไม่ใช่มั้ง?)
...บ่ายนี้พวกเราสี่พี่น้องมาซื้อของกับหาอะไรกินในห้างโดยที่หนูนั้นเก็บงำความสงสัยเรื่องแสงปริศนาเมื่อเช้ามาตลอด...เฮ่ย!?...หนูเห็นมันอีกแล้วล่ะซึ่งมาจากทางพี่แคทจริงๆ...ชักไม่ค่อยชอบมาพากลเพราะส่วนตัวมั่นใจว่าตาไม่ฝาดแน่นอน!!!!...
(จริงสินะ!!...พึ่งนึกได้...มีผู้เฒ่าเคยบอกไว้เมื่อนานมาแล้วว่าถ้าเราใช้ตะวันเลือดก็อาจจะมองเห็น “บางสิ่ง” ที่ตาเนื้อไม่มีทางมองได้...งั้นลองเปิดตาอีกข้างหนึ่งดูพี่แคทซิว่าจะเป็นยังไง?)
“..............................................”
“..............................................”
“หา!?
“..............................................”
“มะ...ไม่จริงน่า!!!
(เมื่อก่อนไม่เคยมี “อะไร” อย่างนี้เลยนะ)
“ยัยตัวเล็ก”
“..............................................”
“เฮ่ย!?
“เป็นไปไม่ได้...”
“ป้อม!!
“อื้อ!!...อะไรพี่ฝน?...ตกใจหมด!!!
“เป็นอะไรของเธอน่ะ?...พี่เรียกตั้งหลายครั้ง”
“พี่ฝน!!...พี่เห็นอะไรมั้ย?”
“เห็นอะไรล่ะ?”
“เอ่อ...”
...พี่ฝนจะเชื่อที่หนูพูดหรือเปล่า?...ไม่!!!...เธอจะต้องไม่เชื่อและหาว่าหนูเพี้ยนแหงๆเลย...
“แล้วเรื่องอะไรถึงมาเปิดตาให้ดูยะ?”
“หา!?
“จะหาเรื่องใครเล่า?”
“ใคร...เปิดตาให้พี่ฝนดูกัน?”
“ประสาทนะเนี่ย”
(ไม่ใช่เวลามาต่อปากต่อคำกับพี่สาวจอมกวนคนนี้หรอกแต่ที่สำคัญ...พี่แคทยังปกติดีอยู่หรือเปล่า?)
“อุ!!...ปวดตา...ทำไมถึงปวดได้?”
“อาหารตรงนั้นท่าทางน่ากิน...ลองไปดูร้านนั้นมั้ย?”
“ดีครับ”
“ฝนไปด้วย”
“.............................................”
“ยัยตัวเล็กก็ตามมาสิ...มัวช้าอยู่นั่น”
“ระ...รู้แล้ว”
(พอเอาผ้าปิดอาการปวดตาก็ค่อยๆหายไป)
“...หมายความว่าเราไม่สมควรมองอย่างนั้นหรือ?”
“ยังมัวช้าอะไรอีกเล่า?”
“ไปแล้วๆ”
(นอกจากเราไม่มีผู้ใดเห็นอีกจริงๆน่ะเหรอ?)
“มื้อนี้เจ๊เลี้ยงใช่มั้ยคะ?”
“บอกตอนไหน?”
“โธ่~~...แค่นี้เอง”
“ไม่เป็นไร...ฉันเลี้ยงเอง”
(ไม่ว่าจะทั้งพี่ชาย,พี่ฝนหรือกระทั่งพี่แคทเองก็ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด)
“ตายแล้ว!!
“อะไรคะ?”
“พี่ลืมของไว้ที่รถ”
“ของสำคัญหรือครับ?”
“ใช่...สำคัญมากๆเลย”
“ขออีกสักทีเถอะ!!!
“...........................................”
“...........................................”
(จริงๆด้วย!!!! “มัน” ตามพี่แคทไปทุกหนทุกแห่ง)
“อุ๊บ!!!...บ้าเอ๊ย~~
“เรารอพี่แคทตรงนี้แหละ”
“อืม”
“ป้อม...ไปเล่นบ้านบอลตรงนั้นก่อนมะ?”
“หนูไม่ตลกด้วยนะ!!!
“เฮ่!!...ไม่เห็นต้องใส่อารมณ์แบบนี้เลย...วันนี้เป็นอะไรของเธอเนี่ย?”
“.............................................”
“มาแล้ว”
“พี่แคท”
“จ๊ะ”
“ไม่รู้สึก...ร้อนบ้างเลยหรือคะ?”
“ร้อน?...เปล่านี่...พี่ปกติดี”
“.............................................”
“มีอะไร?”
“อ๋อ!!...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
“เร็วเข้า!!...หนูหิวแล้ว”
“.............................................”
...พี่แคทบอกอย่างหน้าตาเฉยว่าไม่รู้สึกร้อนอะไรเลยสักนิดทั้งที่...ทั้งที่...ด้านหลังของเธอ...ด้านหลังของเธอน่ะมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ตั้งแต่ศีรษะถึงปลายเท้า!!!!!!...
(แค่คิดก็อยากจะร้องให้)
...............................................................................................................................


(ความลับแห่งดวงตาของพี่ม่อน)
“ที่เราเห็นวันก่อนมันคืออะไรกันแน่?”
...ไม่ว่าจะเปิด “ตะวันเลือด” กี่ครั้งก็ไม่ได้ผล...หนูไม่สามารถมองเห็น “ไฟ” ที่ลุกไหม้ด้านหลังของพี่แคทได้อีกและจะปวดตาทุกครั้งที่พยายามฝืนใช้...
“ในเมื่อสุริยะโลหิตของเราใช้ไม่ได้ก็ต้องหาคนอื่นแล้วดูเหมือนจะไม่พ้นเธอ”
(ทั้งที่ใจจริงก็ไม่อยากไปเจอหน้าคนๆนี้สักเท่าไหร่)
“คุณหนูรองมิอยู่เจ้าค่ะ”
“ไปไหน?”
“หนูก็มิทราบเจ้าค่ะ”
“เออ!!...ให้มันได้แบบนี้...เวลาต้องการเจอเป็นหายหัวทุกที”
“ผู้ใดมาส่งเสียงโหวกเหวกน่ารำคาญ”
(น่ารำคาญ!?...หนอย!!!)
“โฮ่--...มาได้จังหวะดี...เจ้านายเธอไปไหน?”
“คุณหนูศรโกเมนจะพบคุณหนูรองด้วยเหตุใดเจ้าคะ?”
(ฉุนกึกเลยสิ)
“น้องจะเจอพี่นี่จำเป็นต้องรายงานเธอด้วยงั้นรึ?...อย่าโยกโย้!!...ไปตามพี่ม่อนมาพบฉัน”
“เอาแต่ใจตนมิต่างจากคุณหนูศรบุษราคัมเลย”
“ว่าอะไรนะ?”
“คุณหนูรองมิได้อยู่ที่นี่ดอก”
“งั้นอยู่ไหน”
“...หอสมุดมหาวิทยาลัยเจ้าค่ะ”
“พาไปหน่อย”
“.................................................................”
“ไหม”
“เจ้าคะ”
“เธอน่ะมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นมั้ย?”
“คุณหนูศรโกเมนหมายถึง?”
“ก็บรรดา...สิ่งลี้ลับทั้งหลายแหล่”
“หามิได้เจ้าค่ะ...แม้ดิฉันจะมีพลังจิตแต่ก็มิอาจมองเห็นในสิ่งที่คุณหนูหมายถึง”
“พี่ม่อนล่ะ?”
“คุณหนูรองมิเคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ตรงๆแต่เมื่อครั้งที่เกิดเรื่องคุณดวงตา”
“ทำไม?”
“ความฝัน”
“?”
“คุณหนูรองเล่าให้ฟังว่าได้ฝันถึงคุณดวงตา”
“หือ?”
“การล่ำลาเจ้าค่ะ”
“อืม--...น่าเจ็บปวดนะ”
“...............................................................”
“เอ๊ะ!?...ฉันไม่ได้หมายถึงนอนหลับแล้วฝันเห็นแต่มองเห็นตอนกำลังตื่นอยู่ต่างหาก”
“เช่นนั้นดิฉันไม่ทราบจริงๆเจ้าค่ะ”
“...ขนาดเธอก็ยังไม่รู้หรือ?”
“คุณหนูรองคงจะอยู่ในอาคารหลังนั้น”
...จากที่ไหมบอกพี่ม่อนชอบมานั่งอ่านหนังสือที่มุมหนังสือเด็ก(!?)...โป๊ะเช๊ะ!!!...ไอ้หนุ่มหน้าตี๋ใส่แว่นนั่นมันอะไรฟะ?...แปลงโฉมไม่เข้าเรื่องเข้าราวอีกแล้ว...
“มาคุยกันหน่อยซิ”
“ครับ?”
“อย่ามัวเล่น...ตามออกมาเร็วๆ”
“.........................................................”
“ที่นี่เหมาะ”
“มีอะไร?”
“พี่ม่อน...นับวันยิ่งเพี้ยน”
“ถามว่า...มีอะไร”
“อุ!!
(น่ากลัวชิบเป๋ง!!!...ขนาดไม่ใช่ “แววตาที่แท้จริง” ยังน่าขนลุกขนพอง)
“ก็...หนูก็ไม่ได้อยากรบกวนพี่ม่อนหรอก...แค่มีอะไรจะถามเฉยๆ”
“.......................................................”
“ต้องทำหน้าดุด้วย”
“พี่มิได้ดุ”
“ใครว่า?”
“เข้าเรื่องเถิด”
“พี่ม่อน...เคยเห็นผีบ้างมั้ย?”
“มิเคย”
“พี่มีพลังจิตไม่ใช่เหรอ?”
“ก็มิได้หมายความว่าจะมองเห็นภูตผี”
(แล้วอย่างนี้เราจะไปหาใครที่ไหนได้อีก?)
“น้องนางศรโกเมน...เห็นหรือ?”
“เปล่านะคะ”
“.........................................................”
(ท่าจะเหลว...หือ?...มีนกมาเกาะที่ขอบปูนกั้น)
“?”
“นั่นมันอะไร?”
“ก็เป็นเพียงลูกนกธรรมดา”
“ไม่ใช่!!...มันมีขนสีเงินวาววับนะพี่”
“มิเห็นแปลก...นกที่มีขนสีเงินหรือสีเทาในโลกนี้มีมากมายมหาศาล”
(ก็อาจจะจริงแต่ตัวเล็กขนาดนี้ยังเป็นลูกนกอยู่ไม่ใช่หรือ?...อ้าว!?...คุยเรื่องเห็นผีอยู่ดีๆกลายเป็นมาสนอกสนใจนกตัวจ้อยซะอย่างนั้น)
“คืนนี้ท่านพี่มิอยู่...ถ้าว่างน้องนางศรโกมนก็แวะมาทานมื้อเย็นที่บ้านสิ”
“ก็ดีค่ะ”
...มื้อค่ำวันนั้นไม่มีพี่เซคเพราะเธอไปเข้าเวรส่วนแม่ออกไปหาเพื่อนแต่ที่จริงๆแล้วแอบนัดกับพี่ชายไว้...
(ป่านนี้คงไปอยู่ด้วยกันในม่านรูดที่ไหนสักแห่ง)
“หนูจะถามอีกครั้ง...พี่ม่อนไม่เคยเห็นบ้างเลยหรือ?”
“พี่ได้ให้คำตอบไปอย่างชัดเจนแล้ว”
“แย่จัง”
“แลอีกประการหนึ่ง...นี่เป็นสิ่งที่มนุษย์อย่างเรามิสมควรจะเห็น”
“ทำไมล่ะ?”
“โลกหลังความตายมีอะไรน่าดูรึ?”
“หูย!!...พูดซะน่ากลัว”
“เลิกสนทนาเรื่องนี้เถิด”
“พี่ม่อน”
“?”
“หนูจะบอกก็ได้แต่พี่อย่าหาว่าหนูเพี้ยนหรือบ้านะ”
“...อืม--...ลองว่ามาสิ”
...หนูตัดสินใจพูดความจริงว่า “สุริยะโลหิต” ที่รับรู้และมองเห็นนั้นให้พี่ม่อนรู้ซึ่งเธอก็ดูจะสนใจขึ้นมาทีเดียว...
“เปลวเพลิงลุกโชนด้านหลังท่านพี่สุรีย์พรรณ”
“แต่หนูไม่ได้ตาฝาดไปแน่ๆ”
“นางมิได้มีอาการที่แสดงออกว่าร้อนเลยกระนั้นหรือ?”
“หึ!!...ไม่รู้ตัวซะด้วยซ้ำต่างหากค่ะ”
“...ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ”
“แล้วพี่ม่อนจะว่าหนูประสาทหรือโกหกมั้ยล่ะ?”
“โกหก...ด้วยเพราะประสงค์สิ่งใดเล่า?”
“อาจเพราะนึกสนุกก็ได้นี่นา”
“น้องนางศรโกเมนที่พี่รู้จักหาได้เป็นบุคคลเช่นนั้นไม่”
(อือ--...น่าปลื้มใจนิดๆ)
“หากนี่เป็นความจริงแล้วไซร้พี่เองก็อยากเห็นด้วยตาคู่นี้ที่นับวันจะพร่าเลือนเต็มที”
“............................................................”
(เราทำให้พี่ม่อนคิดมากหรือเปล่าหว่า?)
“............................................................”
โอ้ยๆๆ...เราน่ะแหละคิดมากไป!!...สามทุ่มกว่าแล้ว”
(อื๋อ!?)
“.............................................................”
“สามทุ่มกว่าแล้วพี่ม่อนยังจะออกไปไหน?”
“พี่ม่อน?”
“...........................................................”
“ออกมาทำอะไรที่นี่?...เฮ่ย!?...ไม่ใส่เสื้อผ้าด้วย”
(ไม่สิ...หล่อนสวมใส่ชุดนอนที่บางมากๆอยู่ต่างหาก)
“ฮิ”
“อุ๊ก!!!...ตะ...ตาของพี่มัน...แย่แล้วๆ”
“มิสมควรจะมาเห็น...น้องสาวที่น่ารักของพี่”
...หญิงสาววัยกำดัดสภาพเกือบเปลือยเดินออกมานอกบ้านคนเดียวในคืนอากาศหนาวเย็น...ความคิดของคนทั่วไปก็นับว่าเพี้ยนสุดกู่มากพออยู่แล้วแต่สำหรับหนูมีอย่างอื่นที่ “บ้า” ยิ่งกว่าซึ่งนั่นคือการที่พี่ม่อน “ลืมตา” ขึ้น...
“พี่มิเห็นอะไรเลย”
“พอแล้ว...มันน่ากลัว”
“?”
“ก็ตาของพี่น่ะมันขาวโพลนไปหมด...ใครมาเห็นรับรองได้วิ่งป่าราบหรือไม่ก็เป็นลมล้มพับอยู่ตรงนี้แหละ!!!!
(ใช่...แท้ที่จริงแล้วส่วนตาดำของพี่ม่อนนั้นกลายเป็นสีขาวทั้งหมดฉะนั้นก็ลองจินตนาการดูเองว่าถ้าได้เห็นในตอนกลางคืนมันจะ “สยอง” ขนาดไหน)
“อย่ามองหนูนะ!!!...เดี๋ยวหนูโดนสะกดจิต”
“กลับเข้าไปนอนเถิด”
“พี่ล่ะ...ใจคอจะเดินทั้งที่ยังเปลือยๆแบบนี้เหรอ?”
ฮิ...ฮิๆๆ
“.......................................................”
...สาวเจ้าย่างเท้าเดินหัวเราะเบาๆหายเข้าไปในป่าอย่างไม่สนใจหรือนำพาอะไรทั้งสิ้น...แค่คิดก็อยากจะร้องให้...ร้องให้ที่มีพี่สาวเพี้ยนได้ถึงขนาดนี้...
(กลับไปห้องแล้วก็นอนดีกว่า)
“.........................................................”
“.........................................................”
“อย่าซี่~~
“น่านะ”
“ไม่เอา~~...เดี๋ยวใครได้ยิน”
(พี่ชายอยู่กับผู้หญิงที่ไหนหว่า?)
...ทีแรกหนูตั้งใจจะผลักประตูเข้าไปเพื่อดูหน้านังผู้หญิง “ไร้ยางอาย” คนนี้ว่าเป็นใครแต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนความคิดเพราะเสียงของเจ้าหล่อนนั้นช่างคุ้นหูซะเหลือเกิน...ถูกต้อง!!!...เป็นเธอจริงๆด้วย...น้าอรนิภาที่เรือนร่างมีเพียงยกทรงกับกางเกงในสีฟ้ากำลังกอดจูบกับหลานชายแท้ๆของตัวเองบนเตียงนอน...พี่ชายก็ทั้งจับหน้าอกทั้งลูบไล้เนินเนื้อกลางหว่างขาของผู้เป็นอาอย่างสนุกสนาน...
“เธอแพ้แล้วยังจะเอาอะไรอีกยะ?”
“แพ้ที่ไหนครับยังเหลืออีกตัวนึง?...ตอนนี้อาเหลือสองชิ้นแต่อีกเดี๋ยวจะกลับมาเท่ากัน”
“เหรอ?”
“คอยดูๆ”
“ทำอะไรไม่ได้หรอกเธอน่ะ...นอกจากแอบจับนมจับตูดอา...อ๊ะๆๆ...ตามใจให้หน่อยเอาใหญ่เลย!
“ฮี่ๆๆ”
“ลามกจริงเชียว~~...อืออออออออ...ชอบหรือไง?”
“ชอบมากๆครับ”
“งั้นอาให้จับบ่อยๆเอามั้ย?”
“เอาครับ”
“อืมมมมมมม~~...หน้าอกอานุ่มมือมั้ยจ๊ะ?”
“นุ่มมากครับ”
“อุ๊ย!!...อย่าดึงกางเกงใน--...เดี๋ยวอาก็ได้โป๊พอดีซี่~~
“พอได้แล้ว!!!...บัดสีบัดเถลิงที่สุด!!!!”)
“อื๋อ?”
“..........................................................”
“..........................................................”
“ฝะ...ฝันงั้นเหรอ?...โหย~~...ทำไมมันเหมือนจริงชะมัด!?
...เพราะความฝัน “บ้าบอ” ทำเอาหนูถึงกับปาดเหงื่อแต่ก็โล่งใจยิ่งนักที่มันไม่ใช่ความจริง...ไม่สิ!!...ไม่มีวันจะเป็นความจริงได้หรอก!!!!...
“ออกไปรับลมเย็นๆดีกว่า”
(เช้านี้อากาศช่างสดชื่นจริง)
“เอ๋?”
“............................................................”
“เฮ้ย!?
“............................................................”
“เฮ้ยแก!!!
“............................................................”
“แกใช่ลูกนกตัวเมื่อวานหรือเปล่า?”
...ลูกนกตัวนี้ก็มีขนสีเงินและยิ่งส่องประกายวาววับเมื่อยามต้องกับแสงอาทิตย์อีกทั้งไม่มีทีท่าจะตื่นกลัวคนเลยแต่หนูว่ามันผิดวิสัยที่ทำไมไม่มีพ่อแม่นกคอยอยู่ดูแลลูกนกที่ตัวเล็กขนาดนี้...ชักถูกชะตาซะแล้วสิ...
“นี่แก...จะมาอยู่กับฉันมั้ยล่ะ?”
“...........................................................”
“ถ้าอยากมาอยู่ด้วยก็บินมาเกาะที่มือฉันนะ”
“...........................................................”
“ไม่มาแฮะ--...ช่างเถอะๆ...ยังไงก็อยู่ให้รอดจนโตล่ะอย่าให้โดนงูหรืออะไรทำร้ายไปซะก่อน”
................................................................................................................................................