ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 112 “ในที่สุดก็ตามหาเจอแล้ว!?”
“อิ่มจริงๆ”
“นายท่านจะไปโยนกประจิมเลยมั้ยครับ?”
“ใกล้จะค่ำแล้ว...ไปกันเลย”
“ผมจะโทรหานายท่านตามที่คุยกันไว้นะครับ”
“ไม่รู้ว่าจะไปได้หรือเปล่า?...ยังไงฝากนายดูแลป้าเอ็มด้วยล่ะกัน...น่าจะมาถึงแล้วใช่มั้ย?”
“ไม่ครับ...นายหญิงยังไม่มา”
“ไหงงั้น?”
“ผมคาดว่ามีการเปลี่ยนแผน...พรุ่งนี้น่าจะมาถึงครับ”
“อืม”
“พ่อ...ฟังที่หนูบอกนะ”
(หนูหนึ่ง!?)
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
(หนูสองก็ด้วย!!)
“จงอย่าขยับตัวเด็ดขาดค่ะ”
“ห้ามขยับแม้สักนิดเดียวจ้ะ”
“นายท่าน...นั่นคุณสุริยาวรรณไม่ใช่หรือครับ?”
“?”
...ก่อนจะถึงประตูทางเข้าหมู่บ้านโยนกประจิมศุกร์ต้องจอดรถเพราะปรากฎร่างพี่เอ้นั่งก้มหน้าคุกเข่าข้างหนึ่งโดยถือดาบชิโรเทนไว้ในมือขวา...ทำไมดูนิ่งสงบอย่างนั้นและจะเกี่ยวข้องกับคำเตือนของลูกสาวฝาแฝดของผมหรือเปล่า?...
“มาท้ารบกับนายท่านหรือนั่น?”
“ไม่ใช่หรอก...ศุกร์...นายกลับไปเถอะ”
“จะดีหรือครับ?”
“ฉันไม่เป็นไร”
“...ได้ครับ”
(ศุกร์กลับรถออกไปแล้วส่วนเราเดินเข้าไปหาพี่เอ้ช้าๆ)
“มาถึงจนได้นะขอรับ”
(พูดแบบผู้ชาย?)
“เป็นอะไรไปน่ะครับ?...วันก่อนไม่ใช่อย่างนี้”
“แล้วน้องบอลชอบให้เป็นอย่างไหนเจ้าคะ?”
(คราวนี้เปลี่ยนพูดแบบผู้หญิง)
“สำหรับผมจะแบบไหนก็ได้ถ้านั่นคือตัวตนจริงๆของพี่แต่ผมก็อยากให้พี่เป็นผู้หญิงแหละนะ”
“ทำไมหรือเจ้าคะ?”
“เพราะพี่จะต้องมีลูกสาวให้ผมไงครับ”
“ลูกสาว...เอ๊ะนั่น?...ดวงตาของน้องบอล!!”
“หือ?”
“ตาเป็น...เป็นสีดำสนิททั้งหมด”
(เหมือนตาของหนูหนึ่งน่ะเรอะ?)
“ไม่น่าใช่...เฮ่ย!?...ตาของพี่เอ้เปลี่ยนเป็นสีขาวทั้ง 2 ข้างเลย!!!”
(นี่ก็เหมือนกับตาของหนูสอง)
“อะ...อะไรนะเจ้าคะ?”
“ฮะ...ฮะๆๆๆๆ...ดูท่าทั้งพี่ทั้งผมจะถูกแกล้งซะแล้วล่ะ”
“ผู้ใดแกล้งเจ้าคะ?”
“ไหนพี่บอกผมก่อนว่าเอาดาบมาทำไม?”
“ถ้าพี่บอกแล้วน้องบอลจะพูดใช่ไหม?”
“อื้อ!!...แน่นอน”
“...................................................................”
“พี่เอ้?”
“...................................................................”
“!!!!!”
...ลูกพี่ลูกน้องวัย 22 ไม่พูดไม่จาก่อนจะชักดาบคู่ใจออกจากฝักแล้วพุ่งเข้าใส่ชนิดที่แทบมองไม่ทันแต่เพราะผมเชื่อฟังเสียงที่ดังอยู่ในหัวอยู่ก่อนแล้วจึงไม่ขยับตัวแม้กระทั่งปลายนิ้วมือ...
(ดาบของพี่เอ้ห่างจากคอเราไม่ถึงความยาวของนิ้วชี้)
“เหตุใดจึงมิขยับเจ้าคะ?”
“เพราะเชื่อว่าพี่จะไม่ทำร้ายผมแน่”
“เท่านี้หรือ?”
“ไม่ครับ”
“แล้วมันคือ...”
“นี่เกิดจากลูกสาว”
“!?”
(ดวงตาพี่เอ้เบิกโตในทันใด)
“ใช่ครับ...ลูกสาวฝาแฝดของผม...คนหนึ่งทำให้ตาของผมเปลี่ยนเป็นสีดำและอีกคนก็ทำให้ตาของพี่เปลี่ยนเป็นสีขาว”
“เช่นนั้นผิดแล้วเจ้าค่ะ...มิใช่ลูกสาวของนายท่านแต่ผู้เดียวไม่”
“นายท่าน?”
(เคยได้ยินจากที่ไหน!?)
“จำคืนนั้นมิได้หรืออย่างไรเจ้าคะ?”
“คืนนั้น...ที่...บ้านพี่เอ้”
“........................................................”
“แสดงว่าในคืนนั้น!!!...ผู้หญิงที่นอนกับผมคือ...”
“เธอก็ยืนอยู่ตรงหน้านายท่านนี่ไงล่ะเจ้าคะ”
“เป็นพี่จริงๆด้วยสินะ!!!!”
...พูดจบญาติ “สาว” ผู้พี่วัย 22 ก็ทิ้งดาบในมือแล้ววิ่งเข้ามากอดผมด้วยความดีใจพร้อมกับมีน้ำตาออกมา...ผมทั้งดีใจและประหลาดใจผสมปนเปกันและมันบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลย...
“รู้เสียทีนะเจ้าคะ”
“ผม...ผม”
“อ๊ะ!!...ตาของนายท่านเปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว”
“ตาของพี่ก็เปลี่ยนเป็นสีดำด้วยเหมือนกัน!!!”
“แหม~~...งั้นดูท่าเราจะถูกลูกสาวหยอกเย้าซะแล้วจริงๆ”
(ในที่สุดก็ตามหาเจอแล้ว!!!... “แม่” ของหนูหนึ่งกับหนูสอง)
“ต่อไปขออนุญาตเรียกว่าสามีได้ไหมเจ้าคะ?”
“สะ...สามี!!”
“ได้ไหมล่ะ?”
(อูย~~...ทำตาออดอ้อนได้น่ารักเหลือเกิน)
“ได้...ได้ครับ”
“ดีใจที่สุดเลย!!!...สามีของเอ้”
(ใจจะละลาย~~)
“ต่อไปจะเรียกว่าสามีทุกคำเลย...อุ๊ย!!...จับนมทำไมอ่ะ?”
“ของจริงใช่มั้ยเนี่ย?”
“ก็ของจริงสิเจ้าคะ!...หน้าอกผู้หญิงแท้ๆเลย”
“ซ่อนรูปจริงๆ...แล้วก็ใส่ชุดผู้ชายจนดูไม่ออก”
“นี่เป็นชุดที่ทำขึ้นพิเศษสำหรับเอ้”
“ต่อหน้าผมอย่าใส่อีก”
“สัญญาเจ้าค่ะ...สามี”
(เรียกเราว่าสามีทุกครั้งจริงๆด้วย...เขินแฮะ)
“งั้นตรงนี้ล่ะ?”
“ก้นก็ของจริง...ทีนี้คงมิว่าเอ้นะเจ้าคะว่านุ่งกางเกงในผู้หญิงทำไม?”
“ไม่ว่าอีกแล้วจ้า!!...แล้วก็...”
“อื้ม!!...ตรงนี้ยิ่งของแท้แน่นอน”
“มันคืออะไรหนอ?...ไหนลองบอกให้ผมชื่นใจหน่อยซิ”
“ฮื่อ~~...สามีนี่ล่ะก็!”
(พี่เอ้หน้าแดงก่ำไม่กล้าออกเสียงออกมาและค่อยๆยื่นหน้ามากระซิบข้างหูว่า “หี”)
“ดีมาก!...เดี๋ยวไปรับรางวัลกัน”
“รางวัล?”
“อย่างในคืนนั้นไง...ที่ห้องพี่เอ้น่ะ”
“มิค่อยดีเจ้าค่ะ”
“ทำไมล่ะ?”
“เด็กๆในบ้านมีเยอะ”
“ก็ไหนว่ามาทำงานเช้าแล้วกลับเย็น?”
“มีหลายคนที่อาศัยที่บ้านเอ้เจ้าค่ะ...เช่นนั้นมีที่ๆหนึ่งที่เหมาะ”
“ที่ไหน?”
“เรือนเล็กหลังบ้านเอ้เจ้าค่ะ...ที่นั่นหาได้มีผู้ใดเข้าไปเพราะเป็นสถานที่ส่วนตัวของท่านแม่”
“แล้วอานีย์ไม่ว่าหรือ?”
“มิว่าเจ้าค่ะ”
“งั้นไปกันเลย”
“อืม--...สามีอดใจรอสักพักก่อนได้ไหมเจ้าคะ?”
“รออะไรเหรอ?”
...พี่เอ้บอกผมว่าตอนเย็นเธอขึ้นไปบนยอดเขามิหวนกลับได้เห็นรถของอานิภาเข้ามาและรู้ทีหลังว่ามีป้าเอ็มมาด้วย...ผมฟังแล้วค่อนข้างแปลกใจก็ไหนศุกร์บอกว่าป้าเอ็มจะมาถึงพรุ่งนี้...
“แล้วอานิภากับป้าเอ็มไปไหนครับ?”
“ตอนแรกเอ้คิดว่าจะไปหาท่านตากับท่านยายที่โยนกบูรพาแต่กลับมิใช่”
“งั้นพวกเขา...”
“ท่านป้าอรนิภาเอารถไปจอดที่บ้านที่โยนกอุดรแต่จากนั้นก็หาได้มีผู้ใดเห็นทั้งสองอีก”
“น่าแปลก...พวกเธอจะไปที่ไหน?...โยนกทักษิณหรือโยนกประจิมล่ะครับ?”
(หญิงสาวส่ายหน้าแทนคำตอบ)
“ในเมื่อไม่อยู่ใน 4 หมู่บ้านโยนกแล้วจะไปที่ไหนกันได้?”
“แต่เอ้พอจะเดาออกเจ้าค่ะ...จะไปดูไหมเจ้าคะ?”
“ไป...ไปสิ!!!”
“แต่สามีต้องรับปากเอ้ก่อน”
“ได้สิจ๊ะ...ผมรับปาก”
“ถ้าเกิดไปเห็นอะไรแล้วสามีห้ามเปิดปากเล่าให้ใครฟังอย่างเด็ดขาด”
(เราฟังแล้วรู้สึกงงอยู่บ้างแต่ก็รับคำ)
“เช่นนั้นเราไปกันเถิด...ก่อนอื่น...”
(พี่เอ้หยิบมือถือโทรออกหาใครไม่รู้?)
“เป็นอย่างไรบ้าง?...อือ--...ได้ๆ...ขอบใจมากนะ...สามีตามมาเจ้าค่ะ...ท่านป้าทั้งสองเพิ่งเดินกลับมาจากตลาดนัดหน้าหมู่บ้าน”
“?”
..........................................................................................................................................
“ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างน๊า?”
“...ทั้งคู่ไม่ส่งข่าวมาบอกกันเลย”
“เจ๊ดูจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนะจ๊ะ”
“.........................................................”
“อืม--...ของจริงนี่หว่า”
“หรือว่าน้องไม่รู้สึก?”
“หึงใช่มั้ย?”
“...ใช่”
“โฮะ!...ที่เจ๊หน้าบึ้งมาแต่ตอนเย็นก็เพราะหึงบอลนี่เองเหรอ?”
“...พี่รู้สึกเกลียดตัวเองทั้งที่ปากบอกเข้าใจความรู้สึกของเอ้แต่เอาจริงก็ยังคิดอย่างเห็นแก่ตัว”
“หนูว่ามันเรื่องปกตินะ...ความจริงหนูก็หึงบอลเหมือนกันแต่ก็ต้องทำใจว่าบอลไม่ใช่ของหนูคนเดียวอีกต่อไป...อย่างน้อยตอนนี้ก็มีเรา 4 คนกับลูกสาวอีก 5 คนแล้วนี่คะ”
“ฝนนี่ใจกว้างกว่าที่คิดซะอีกนะแต่พี่คงจะเป็นคนใจแคบไปสำหรับเรื่องนี้”
“.............................................................”
“เอ้มีชะตาชีวิตที่น่าเห็นใจและเธอต้องได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”
“พี่เอ้จะให้กำเนิดลูกสาวฝาแฝด...สุดท้ายตระกูลของเราก็ยังคงสืบทอดในความลี้ลับเรื่องนี้ต่อไปนะคะ”
“ฝน...พี่กังวลยิ่งไปกว่านั้น”
“กังวลอะไรคะ?”
“น้องไม่เคยคิดเหรอว่าพี่เซคกับน้องม่อนจะไปมีลูกกับใคร?”
“ใครว่าหนูไม่คิดคะ?...คิดมาตลอดเลยตั้งแต่วันนั้นโดยเฉพาะพี่เซค...เธอจะมีลูกชายซึ่งมันยากจะเชื่อได้ว่าเป็นเรื่องจริง”
“ถ้าพี่เซคมีลูกชายจะเป็นยังไง?”
“เจ๊หมายถึง...”
“ความเป็นไปได้แค่มีสองทางเท่านั้น...หนึ่ง...พี่เซคมีลูกกับผู้ชายคนอื่นและเด็กคนนี้จะเติบโตขึ้นมาพร้อมกับคุณสมบัติที่สามารถสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลวิษณุมนตรีต่อไปได้”
“อื้อๆ...เจ๊พูดถูกแล้วแต่นั่นคือกรณีที่บอลมีแต่ลูกสาวเท่านั้นนะ”
“ใช่...ถือว่าเป็นเรื่องดีเชียวล่ะ”
“ดียังไงคะ?”
“พี่เซคจะได้หยุดคุกคามบอลสักทีไง”
“อ๋อ!...ยังไงแค่รอเวลามาถึงลูกชายตัวเองก็จะได้รับตำแหน่งแน่ๆจึงไม่ต้องรีบร้อนอะไรอีก”
“อืม”
“แล้วทางที่สอง?”
“ทางนี้จะว่าดีก็ใช่จะว่าร้ายก็ไม่ผิด”
“หรือว่า...”
“พี่เซคมีลูกกับบอล”
“เฮ่ยไม่มีทาง!!!...สองคนนี้คือน้ำกับน้ำมันชัดๆเลย...พี่เซคไม่ยอมมีลูกกับบอลแน่ๆ”
“ถูกต้อง...เราทุกคนต่างรู้ดีแต่มาลองสมมติดูสิ”
“สมมติ...สมมติว่าพี่เซคกับบอลมีลูกเป็นผู้ชาย...ถ้างั้นก็มีแต่ได้กับได้อย่างเดียวแหละ”
“ถูกแล้ว...สรุปคือไม่ว่าจะไปมีลูกกับใคร...เด็กคนนั้นก็จะได้เป็นผู้สืบทอดคนต่อไปอยู่ดี”
“เจ๊...พี่เอ้กับพี่อ๋อมรู้หรือยัง?”
“พี่ว่าสองคนนั้นคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว”
“แต่เดี๋ยวนะคะ...มันอาจมีตัวแปรสำคัญอยู่”
“อะไร?”
“ยัยตัวเล็กไง...อีก 6 ปีจะได้คำทำนายถึงตอนนั้นอาจได้ลูกชายก็ได้”
“...นอกจากเรื่องฝาแฝดแล้วตระกูลเรายังมีความแปลกอีกเรื่อง”
“?”
“นั่นคือลูกหลานแต่ละรุ่นจะมีเพียงผู้ชายแค่คนเดียวและฝาแฝดส่วนมากจะเป็นผู้หญิง...ถ้ามีฝาแฝดเป็นชายก็แค่คนเดียวเพราะอีกคนจะเป็นผู้หญิง”
“เอ๋?...เจ๊จะบอกว่าลูกของยัยตัวเล็กก็คงเป็นผู้หญิงเหมือนกันเหรอ?”
“แค่เดาเท่านั้น”
“เฮ้อ~~...น้องรักสองคนของพี่ทำไมจะต้องคิดมากกันไปถึงขนาดนั้นด้วยนะ?”
“!?”
“พี่เซค”
“ได้ยินหมดแล้วล่ะ...ขอบใจนะจ๊ะที่ช่วยค้นหาคำตอบให้ว่าพี่จะต้องทำยังไงต่อ”
“คือ”
“ไม่เฉพาะพวกหนูแต่พี่กับน้องม่อนก็คิดอยู่ใช่มั้ยคะ?”
“อื้ม!!...ดีเหมือนกัน...พี่จะได้ไม่ต้องทำอะไรนอกจากนอนเล่นใต้ต้นไม้รอให้ผลสุกหล่นลงมาเข้าปากเอง”
“.........................................................”
“.........................................................”
“อย่าทำหน้ากันอย่างนั้นสิจ๊ะ...พี่บอกไม่ก็คือไม่แต่ว่าเจ้าเอกคเชนทร์จะยังต้องทำตามที่มันรับปากไว้”
“จะทำยังไงดี?”
“พี่ยังคิดไม่ออก”
“กระซิบกระซาบอะไรเอ่ย?”
“เปล่าๆๆ”
“ไม่มีอะไรค่ะ”
“...เธอสองคนจะตามไปอยู่กับเจ้านั่นด้วยก็ได้”
“จริงหรือคะ?”
“อื้อ!”
“งั้นฝนไปด้วย”
“เชิญเลยจ้า~~”
“เจ๊...ทีนี้เราก็กำกับบอลให้อยู่เฉยๆได้แล้วล่ะค่ะ”
“อืม”
“คาดว่าน้องเอ้ก็จะตามมาอยู่ด้วยแน่ๆเพราะพี่เพิ่งได้ข่าวว่าเรียกเจ้าเคี่ยมนั่นว่าสามีทุกคำเลย”
“!!”
“!?”
“นับว่าเธอเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของทั้งสองคนมากนะจ๊ะ...ฮิๆๆ”
“พี่อ๋อมพูดไม่ผิด”
“...........................................................”
........................................................................................................................................................................
(“หลานเจ้าคนนี้...ไม่สมควรใช้ชีวิตอย่างเด็กผู้หญิง”
“อะไรนะ?...นี่แม่หมอกำลังจะบอกให้หนูเอ้แต่งตัวเป็นผู้ชายไปปีนกำแพงโหนต้นไม้เล่นรึ?”
“น่ารักจังเลย!!...ตาดูสิจ๊ะหน้าเหมือนน้องแคทมาก”
“ต่อไปหนูจะต้องดูแลน้องสาว 2 คนนี้ให้ดีนะ”
“ค่ะยาย!!”
“แม่อุทุมพรพาหลานๆออกไปข้างนอกก่อน...ฉันมีเรื่องจะคุยกับแม่หมอ”
“จ้ะ”
“แม่หมอ...ช่วยพูดให้ละเอียดสักหน่อยเถอะ”
“เจ้าก็รู้ดีว่าตระกูลวิษณุมนตรีมีความลี้ลับอย่างหนึ่ง”
“ฝาแฝด”
“ใช่...ลูกหลานทุกรุ่นจะต้องมีฝาแฝดถือกำเนิดขึ้นและที่ผ่านมาก็ล้วนแต่มีพ่อแม่เดียวกันแต่มาถึงรุ่นหลานของเจ้ากลับกลายเป็นฝาแฝดต่างแม่เกิดขึ้นมา...อรนิภาลูกสาวเจ้าที่ใครๆต่างคิดว่าจะมีลูกแฝดเพราะได้รับคำทำนายว่าจะมีลูกสาวสองคน”
“...แต่แล้วก็คลอดหนูแคทออกมาคนเดียว”
“เหมือนกับเมื่อราวๆ 70 ปีก่อนที่มีฝาแฝดต่างแม่...เจ้าจำได้หรือไม่ว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น?”
“ไม่!!!...การเข่นฆ่ากันเองในหมู่พี่น้องจะไม่มีวันเกิดขึ้นในบ้านของฉัน”
“เจ้าจงคิดให้ดีๆเถอะ...อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”
“ถ้าอย่างนั้น...เพื่อความไม่ประมาท...ฉันจะทำตามที่แม่หมอแนะนำก็ได้”
“ดีแล้ว”
“หนูเอ้เอ๋ย!!...ต้องลำบากหนูแล้วนะ...นี่แม่หมอ!...ทำแบบนี้แล้วจะช่วยป้องกันให้ลูกหลานในบ้านฉันมีความสงบสุขใช่มั้ย?”
“บอกตามตรงว่าข้าเองก็ไม่มั่นใจขนาดนั้น”
“อ้าว!?”
“เพราะวันก่อนข้าได้ตรวจดวงชะตาของหนูสุรีย์พรรณและหนูสุริยาวรรณ...เด็กสองคนนี้ต่างก็มีดวงจิตอันศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่”
“ดวงจิตอันศักดิ์สิทธิ์?”
“แต่ไม่รู้หรอกว่านั่นคืออะไรเพราะข้าไม่มีความสามารถถึงขนาดนั้น”
“นั่นก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ?...สิ่งที่คุ้มครองปกปักรักษาหลานสาวของฉันจะต้องเป็นทวยเทพเทวดาแน่ๆ”
“เฮ้อ~~...ข้าไม่กล้ายืนยันหรอกว่าต่อไปภายหน้าจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าเพราะนี่คือลางบอกเหตุที่ไม่เคยเกิดขึ้นในตระกูลวิษณุมนตรีมาก่อนเลย”
“แต่ฉันมั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นเรื่องดี”)
“มีอะไรเรอะ?”
“เปล่าหรอกยาย...ฉันแค่นึกถึงเรื่องสมัยก่อน”
“เรื่องอะไรรึ?”
“ที่คุยกับแม่หมอตอนนั้น...การเข่นฆ่ากันเองในหมู่ลูกหลานจะต้องไม่เกิดขึ้นไม่ว่าตอนนี้หรืออนาคตต่อไป”
“ตาทำใจให้สบายเถอะน่า--...ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามหนทางของมันอยู่แล้ว”
“อืม”
.........................................................................................................................................................
“สามี...ทางนี้เจ้าค่ะ”
“นี่มันทางไปบ้านโยนกบูรพา”
“เราจะแอบเข้าไปที่ห้องของท่านป้าศรมรกต”
“แอบเข้าไปทำไมครับ?”
(พี่เอ้ไม่ตอบแต่นำเราพาเข้าทางที่ลัดเลี้ยวไปมาจนมาอยู่ที่บ้านของคุณปู่กับคุณย่า...เราสองคนเข้าทางประตูห้องครัวด้านหลังและไปหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง)
“ห้องของป้าเอ็มหรือครับ?”
“เจ้าค่ะ”
“ไม่ได้ล็อคด้วย”
“ท่านป้าอาจจะลืมน่ะเจ้าค่ะ”
“โอ้โห!!...ใหญ่โตโอ่อ่า”
...ข้างในมีแต่ข้าวของเครื่องใช้ที่ดูหรูหราและไม่ต้องบอกก็รู้ว่าราคาย่อมไม่ถูกแน่นอน...พี่เอ้เดินไปเปิดตู้ๆหนึ่งซึ่งผมต้องประหลาดใจเพราะมันมีประตูเล็กซ่อนอยู่ข้างในนั้น...
“ประตูนี้เปิดได้ด้วยหรือ?”
“ตามมาเจ้าค่ะ”
(มีทางแคบๆเดินลงไปซึ่งแม้จะมืดแต่ก็พอมองเห็นเนื่องจากมีแสงสว่างอยู่ไม่ห่างออกไปนัก)
“ถึงแล้ว...ข้างหน้านี่คือห้องลับของท่านป้าศรมรกตเจ้าค่ะ”
...หรือว่าจะเป็นห้องลับที่ผมเคยเห็นในวีดีโอที่ป้าเอ็มเอามาให้ดู?...จำได้แล้ว!!...ป้าเอ็มเคยพูดว่าห้องลับนี้มีทางเข้าสองทางซึ่งหนึ่งในนั้นจะต้องผ่านมาจากห้องของเธอส่วนอีกทางคือในกระท่อมเล็กๆที่จะต้องมีกุญแจสองดอกและแก้ปริศนารูปแกะสลักช้างไม้...เข้าใจละว่าทำไมพี่เอ้จึงพามาทางนี้เพราะกุญแจนั้นป้าเอ็มถืออยู่เพียงผู้เดียว...
“ได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกัน”
“เจ้าค่ะ...แต่เราจะเปิดประตูบานนี้มิได้”
“ทำไงดี?”
(ต่อมอยากรู้อยากเห็นของเราทำงานแล้ว...ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาไม่ได้ยินด้วยหูรับรองคืนนี้นอนไม่หลับแน่!!!!)
“สามีค่อยๆปีนขึ้นไปบนชั้นวางตรงนั้นเจ้าค่ะ...มีช่องเล็กๆมองเห็นภายในห้องได้”
“...........................................................”
“ค่อยๆนะเจ้าคะ”
“พี่ก็ขึ้นมาด้วยสิ”
...ผมกับพี่เอ้ยืนบนชั้นวางของเก่าๆแล้วมองลอดผ่านช่องเล็กๆเข้าไป...ป้าเอ็มกับอานิภาอยู่บนเตียงกำลังนั่งคุยกันซึ่งเราทั้งสองได้ยินเสียงอย่างชัดเจนและที่สำคัญทั้งคู่ต่างนุ่งแค่ผ้าขนหนูสีขาวเผยเนื้อหนังมังสาขาวผ่องไปหมดจนผมกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่ฝ่ายพี่เอ้เหลือบมองก่อนเอามือมาลูบบริเวณเป้ากางเกงโดยผมก็ไม่รู้ว่าให้ใจเย็นๆไว้หรือจะปลุกเร้าให้อารมณ์มันคุกรุ่นกว่าเดิม...
“พี่เอ้!?”
“ฝึกความอดทนเจ้าค่ะ”
“รู้มั้ยว่าแบบนี้พี่จะต้องรับศึกหนัก?”
“ฮิ!...รออยู่แล้วเจ้าค่ะ”
(ยิ้มสื่อความหมายกับแววตาที่ราวกับจะท้าทายนั้น...ต้องโดนแล้วล่ะ!!!)
“เดินผ่านป่าเมื่อกี้มาก็น่ากลัวเหมือนกันนะ...ถึงจะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของพี่ก็เถอะ”
“ไม่มีอะไรสักหน่อย...คนอื่นไม่กล้าเข้ามาหรอก”
“ห้องนี้ตกแต่งสวยจัง...กว้างกว่าตอนนั้นที่ภากับนีย์เข้ามาซะอีก”
“ฮึ!!...แอบเข้ามากี่ครั้งล่ะยะตั้งแต่ที่พี่จับได้น่ะ?”
“ภาเปล่า”
“เชื่อตายละ~~”
“ผมตื่นเต้นจัง...อานิภากับป้าเอ็มมีความสัมพันธ์กันแบบนี้ด้วยหรือเนี่ย?”
“รู้นะว่าสามีต้องการอะไรแต่มาดูกันก่อนดีกว่าเจ้าค่ะ...โอกาสหามิได้ง่ายๆ”
“นั่นสิ”
.........................................................................................................................................................
ตอนหน้าจัดเต็ม