หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2565

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 112

 ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 112 “ในที่สุดก็ตามหาเจอแล้ว!?

 

“อิ่มจริงๆ”

“นายท่านจะไปโยนกประจิมเลยมั้ยครับ?”

“ใกล้จะค่ำแล้ว...ไปกันเลย”

“ผมจะโทรหานายท่านตามที่คุยกันไว้นะครับ”

“ไม่รู้ว่าจะไปได้หรือเปล่า?...ยังไงฝากนายดูแลป้าเอ็มด้วยล่ะกัน...น่าจะมาถึงแล้วใช่มั้ย?”

“ไม่ครับ...นายหญิงยังไม่มา”

“ไหงงั้น?”

“ผมคาดว่ามีการเปลี่ยนแผน...พรุ่งนี้น่าจะมาถึงครับ”

“อืม”

“พ่อ...ฟังที่หนูบอกนะ”

(หนูหนึ่ง!?)

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

(หนูสองก็ด้วย!!)

“จงอย่าขยับตัวเด็ดขาดค่ะ”

“ห้ามขยับแม้สักนิดเดียวจ้ะ”

“นายท่าน...นั่นคุณสุริยาวรรณไม่ใช่หรือครับ?”

“?”

...ก่อนจะถึงประตูทางเข้าหมู่บ้านโยนกประจิมศุกร์ต้องจอดรถเพราะปรากฎร่างพี่เอ้นั่งก้มหน้าคุกเข่าข้างหนึ่งโดยถือดาบชิโรเทนไว้ในมือขวา...ทำไมดูนิ่งสงบอย่างนั้นและจะเกี่ยวข้องกับคำเตือนของลูกสาวฝาแฝดของผมหรือเปล่า?...

“มาท้ารบกับนายท่านหรือนั่น?”

“ไม่ใช่หรอก...ศุกร์...นายกลับไปเถอะ”

“จะดีหรือครับ?”

“ฉันไม่เป็นไร”

“...ได้ครับ”

(ศุกร์กลับรถออกไปแล้วส่วนเราเดินเข้าไปหาพี่เอ้ช้าๆ)

“มาถึงจนได้นะขอรับ”

(พูดแบบผู้ชาย?)

“เป็นอะไรไปน่ะครับ?...วันก่อนไม่ใช่อย่างนี้”

“แล้วน้องบอลชอบให้เป็นอย่างไหนเจ้าคะ?”

(คราวนี้เปลี่ยนพูดแบบผู้หญิง)

“สำหรับผมจะแบบไหนก็ได้ถ้านั่นคือตัวตนจริงๆของพี่แต่ผมก็อยากให้พี่เป็นผู้หญิงแหละนะ”

“ทำไมหรือเจ้าคะ?”

“เพราะพี่จะต้องมีลูกสาวให้ผมไงครับ”

“ลูกสาว...เอ๊ะนั่น?...ดวงตาของน้องบอล!!

“หือ?”

“ตาเป็น...เป็นสีดำสนิททั้งหมด”

(เหมือนตาของหนูหนึ่งน่ะเรอะ?)

“ไม่น่าใช่...เฮ่ย!?...ตาของพี่เอ้เปลี่ยนเป็นสีขาวทั้ง 2 ข้างเลย!!!

(นี่ก็เหมือนกับตาของหนูสอง)

“อะ...อะไรนะเจ้าคะ?”

“ฮะ...ฮะๆๆๆๆ...ดูท่าทั้งพี่ทั้งผมจะถูกแกล้งซะแล้วล่ะ”

“ผู้ใดแกล้งเจ้าคะ?”

“ไหนพี่บอกผมก่อนว่าเอาดาบมาทำไม?”

“ถ้าพี่บอกแล้วน้องบอลจะพูดใช่ไหม?”

“อื้อ!!...แน่นอน”

“...................................................................”

“พี่เอ้?”

“...................................................................”

!!!!!

...ลูกพี่ลูกน้องวัย 22 ไม่พูดไม่จาก่อนจะชักดาบคู่ใจออกจากฝักแล้วพุ่งเข้าใส่ชนิดที่แทบมองไม่ทันแต่เพราะผมเชื่อฟังเสียงที่ดังอยู่ในหัวอยู่ก่อนแล้วจึงไม่ขยับตัวแม้กระทั่งปลายนิ้วมือ...

(ดาบของพี่เอ้ห่างจากคอเราไม่ถึงความยาวของนิ้วชี้)

“เหตุใดจึงมิขยับเจ้าคะ?”

“เพราะเชื่อว่าพี่จะไม่ทำร้ายผมแน่”

“เท่านี้หรือ?”

“ไม่ครับ”

“แล้วมันคือ...”

“นี่เกิดจากลูกสาว”

!?

(ดวงตาพี่เอ้เบิกโตในทันใด)

“ใช่ครับ...ลูกสาวฝาแฝดของผม...คนหนึ่งทำให้ตาของผมเปลี่ยนเป็นสีดำและอีกคนก็ทำให้ตาของพี่เปลี่ยนเป็นสีขาว”

“เช่นนั้นผิดแล้วเจ้าค่ะ...มิใช่ลูกสาวของนายท่านแต่ผู้เดียวไม่”

“นายท่าน?”

(เคยได้ยินจากที่ไหน!?)

“จำคืนนั้นมิได้หรืออย่างไรเจ้าคะ?”

“คืนนั้น...ที่...บ้านพี่เอ้”

“........................................................”

“แสดงว่าในคืนนั้น!!!...ผู้หญิงที่นอนกับผมคือ...”

“เธอก็ยืนอยู่ตรงหน้านายท่านนี่ไงล่ะเจ้าคะ”

“เป็นพี่จริงๆด้วยสินะ!!!!

...พูดจบญาติ “สาว” ผู้พี่วัย 22 ก็ทิ้งดาบในมือแล้ววิ่งเข้ามากอดผมด้วยความดีใจพร้อมกับมีน้ำตาออกมา...ผมทั้งดีใจและประหลาดใจผสมปนเปกันและมันบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลย...

“รู้เสียทีนะเจ้าคะ”

“ผม...ผม”

“อ๊ะ!!...ตาของนายท่านเปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว”

“ตาของพี่ก็เปลี่ยนเป็นสีดำด้วยเหมือนกัน!!!

“แหม~~...งั้นดูท่าเราจะถูกลูกสาวหยอกเย้าซะแล้วจริงๆ”

(ในที่สุดก็ตามหาเจอแล้ว!!!... “แม่” ของหนูหนึ่งกับหนูสอง)

“ต่อไปขออนุญาตเรียกว่าสามีได้ไหมเจ้าคะ?”

“สะ...สามี!!

“ได้ไหมล่ะ?”

(อูย~~...ทำตาออดอ้อนได้น่ารักเหลือเกิน)

“ได้...ได้ครับ”

“ดีใจที่สุดเลย!!!...สามีของเอ้”

(ใจจะละลาย~~)

“ต่อไปจะเรียกว่าสามีทุกคำเลย...อุ๊ย!!...จับนมทำไมอ่ะ?”

“ของจริงใช่มั้ยเนี่ย?”

“ก็ของจริงสิเจ้าคะ!...หน้าอกผู้หญิงแท้ๆเลย”

“ซ่อนรูปจริงๆ...แล้วก็ใส่ชุดผู้ชายจนดูไม่ออก”

“นี่เป็นชุดที่ทำขึ้นพิเศษสำหรับเอ้”

“ต่อหน้าผมอย่าใส่อีก”

“สัญญาเจ้าค่ะ...สามี”

(เรียกเราว่าสามีทุกครั้งจริงๆด้วย...เขินแฮะ)

“งั้นตรงนี้ล่ะ?”

“ก้นก็ของจริง...ทีนี้คงมิว่าเอ้นะเจ้าคะว่านุ่งกางเกงในผู้หญิงทำไม?”

“ไม่ว่าอีกแล้วจ้า!!...แล้วก็...”

“อื้ม!!...ตรงนี้ยิ่งของแท้แน่นอน”

“มันคืออะไรหนอ?...ไหนลองบอกให้ผมชื่นใจหน่อยซิ”

“ฮื่อ~~...สามีนี่ล่ะก็!

(พี่เอ้หน้าแดงก่ำไม่กล้าออกเสียงออกมาและค่อยๆยื่นหน้ามากระซิบข้างหูว่า “หี”)

“ดีมาก!...เดี๋ยวไปรับรางวัลกัน”

“รางวัล?”

“อย่างในคืนนั้นไง...ที่ห้องพี่เอ้น่ะ”

“มิค่อยดีเจ้าค่ะ”

“ทำไมล่ะ?”

“เด็กๆในบ้านมีเยอะ”

“ก็ไหนว่ามาทำงานเช้าแล้วกลับเย็น?”

“มีหลายคนที่อาศัยที่บ้านเอ้เจ้าค่ะ...เช่นนั้นมีที่ๆหนึ่งที่เหมาะ”

“ที่ไหน?”

“เรือนเล็กหลังบ้านเอ้เจ้าค่ะ...ที่นั่นหาได้มีผู้ใดเข้าไปเพราะเป็นสถานที่ส่วนตัวของท่านแม่”

“แล้วอานีย์ไม่ว่าหรือ?”

“มิว่าเจ้าค่ะ”

“งั้นไปกันเลย”

“อืม--...สามีอดใจรอสักพักก่อนได้ไหมเจ้าคะ?”

“รออะไรเหรอ?”

...พี่เอ้บอกผมว่าตอนเย็นเธอขึ้นไปบนยอดเขามิหวนกลับได้เห็นรถของอานิภาเข้ามาและรู้ทีหลังว่ามีป้าเอ็มมาด้วย...ผมฟังแล้วค่อนข้างแปลกใจก็ไหนศุกร์บอกว่าป้าเอ็มจะมาถึงพรุ่งนี้...

“แล้วอานิภากับป้าเอ็มไปไหนครับ?”

“ตอนแรกเอ้คิดว่าจะไปหาท่านตากับท่านยายที่โยนกบูรพาแต่กลับมิใช่”

“งั้นพวกเขา...”

“ท่านป้าอรนิภาเอารถไปจอดที่บ้านที่โยนกอุดรแต่จากนั้นก็หาได้มีผู้ใดเห็นทั้งสองอีก”

“น่าแปลก...พวกเธอจะไปที่ไหน?...โยนกทักษิณหรือโยนกประจิมล่ะครับ?”

(หญิงสาวส่ายหน้าแทนคำตอบ)

“ในเมื่อไม่อยู่ใน 4 หมู่บ้านโยนกแล้วจะไปที่ไหนกันได้?”

“แต่เอ้พอจะเดาออกเจ้าค่ะ...จะไปดูไหมเจ้าคะ?”

“ไป...ไปสิ!!!

“แต่สามีต้องรับปากเอ้ก่อน”

“ได้สิจ๊ะ...ผมรับปาก”

“ถ้าเกิดไปเห็นอะไรแล้วสามีห้ามเปิดปากเล่าให้ใครฟังอย่างเด็ดขาด”

(เราฟังแล้วรู้สึกงงอยู่บ้างแต่ก็รับคำ)

“เช่นนั้นเราไปกันเถิด...ก่อนอื่น...”

(พี่เอ้หยิบมือถือโทรออกหาใครไม่รู้?)

“เป็นอย่างไรบ้าง?...อือ--...ได้ๆ...ขอบใจมากนะ...สามีตามมาเจ้าค่ะ...ท่านป้าทั้งสองเพิ่งเดินกลับมาจากตลาดนัดหน้าหมู่บ้าน”

“?”

..........................................................................................................................................

 

“ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างน๊า?”

“...ทั้งคู่ไม่ส่งข่าวมาบอกกันเลย”

“เจ๊ดูจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนะจ๊ะ”

“.........................................................”

“อืม--...ของจริงนี่หว่า”

“หรือว่าน้องไม่รู้สึก?”

“หึงใช่มั้ย?”

“...ใช่”

“โฮะ!...ที่เจ๊หน้าบึ้งมาแต่ตอนเย็นก็เพราะหึงบอลนี่เองเหรอ?”

“...พี่รู้สึกเกลียดตัวเองทั้งที่ปากบอกเข้าใจความรู้สึกของเอ้แต่เอาจริงก็ยังคิดอย่างเห็นแก่ตัว”

“หนูว่ามันเรื่องปกตินะ...ความจริงหนูก็หึงบอลเหมือนกันแต่ก็ต้องทำใจว่าบอลไม่ใช่ของหนูคนเดียวอีกต่อไป...อย่างน้อยตอนนี้ก็มีเรา 4 คนกับลูกสาวอีก 5 คนแล้วนี่คะ”

“ฝนนี่ใจกว้างกว่าที่คิดซะอีกนะแต่พี่คงจะเป็นคนใจแคบไปสำหรับเรื่องนี้”

“.............................................................”

“เอ้มีชะตาชีวิตที่น่าเห็นใจและเธอต้องได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”

“พี่เอ้จะให้กำเนิดลูกสาวฝาแฝด...สุดท้ายตระกูลของเราก็ยังคงสืบทอดในความลี้ลับเรื่องนี้ต่อไปนะคะ”

“ฝน...พี่กังวลยิ่งไปกว่านั้น”

“กังวลอะไรคะ?”

“น้องไม่เคยคิดเหรอว่าพี่เซคกับน้องม่อนจะไปมีลูกกับใคร?”

“ใครว่าหนูไม่คิดคะ?...คิดมาตลอดเลยตั้งแต่วันนั้นโดยเฉพาะพี่เซค...เธอจะมีลูกชายซึ่งมันยากจะเชื่อได้ว่าเป็นเรื่องจริง”

“ถ้าพี่เซคมีลูกชายจะเป็นยังไง?”

“เจ๊หมายถึง...”

“ความเป็นไปได้แค่มีสองทางเท่านั้น...หนึ่ง...พี่เซคมีลูกกับผู้ชายคนอื่นและเด็กคนนี้จะเติบโตขึ้นมาพร้อมกับคุณสมบัติที่สามารถสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลวิษณุมนตรีต่อไปได้”

“อื้อๆ...เจ๊พูดถูกแล้วแต่นั่นคือกรณีที่บอลมีแต่ลูกสาวเท่านั้นนะ”

“ใช่...ถือว่าเป็นเรื่องดีเชียวล่ะ”

“ดียังไงคะ?”

“พี่เซคจะได้หยุดคุกคามบอลสักทีไง”

“อ๋อ!...ยังไงแค่รอเวลามาถึงลูกชายตัวเองก็จะได้รับตำแหน่งแน่ๆจึงไม่ต้องรีบร้อนอะไรอีก”

“อืม”

“แล้วทางที่สอง?”

“ทางนี้จะว่าดีก็ใช่จะว่าร้ายก็ไม่ผิด”

“หรือว่า...”

“พี่เซคมีลูกกับบอล”

“เฮ่ยไม่มีทาง!!!...สองคนนี้คือน้ำกับน้ำมันชัดๆเลย...พี่เซคไม่ยอมมีลูกกับบอลแน่ๆ”

“ถูกต้อง...เราทุกคนต่างรู้ดีแต่มาลองสมมติดูสิ”

“สมมติ...สมมติว่าพี่เซคกับบอลมีลูกเป็นผู้ชาย...ถ้างั้นก็มีแต่ได้กับได้อย่างเดียวแหละ”

“ถูกแล้ว...สรุปคือไม่ว่าจะไปมีลูกกับใคร...เด็กคนนั้นก็จะได้เป็นผู้สืบทอดคนต่อไปอยู่ดี”

“เจ๊...พี่เอ้กับพี่อ๋อมรู้หรือยัง?”

“พี่ว่าสองคนนั้นคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว”

“แต่เดี๋ยวนะคะ...มันอาจมีตัวแปรสำคัญอยู่”

“อะไร?”

“ยัยตัวเล็กไง...อีก 6 ปีจะได้คำทำนายถึงตอนนั้นอาจได้ลูกชายก็ได้”

“...นอกจากเรื่องฝาแฝดแล้วตระกูลเรายังมีความแปลกอีกเรื่อง”

“?”

“นั่นคือลูกหลานแต่ละรุ่นจะมีเพียงผู้ชายแค่คนเดียวและฝาแฝดส่วนมากจะเป็นผู้หญิง...ถ้ามีฝาแฝดเป็นชายก็แค่คนเดียวเพราะอีกคนจะเป็นผู้หญิง”

“เอ๋?...เจ๊จะบอกว่าลูกของยัยตัวเล็กก็คงเป็นผู้หญิงเหมือนกันเหรอ?”

“แค่เดาเท่านั้น”

“เฮ้อ~~...น้องรักสองคนของพี่ทำไมจะต้องคิดมากกันไปถึงขนาดนั้นด้วยนะ?”

!?

“พี่เซค”

“ได้ยินหมดแล้วล่ะ...ขอบใจนะจ๊ะที่ช่วยค้นหาคำตอบให้ว่าพี่จะต้องทำยังไงต่อ”

“คือ”

“ไม่เฉพาะพวกหนูแต่พี่กับน้องม่อนก็คิดอยู่ใช่มั้ยคะ?”

“อื้ม!!...ดีเหมือนกัน...พี่จะได้ไม่ต้องทำอะไรนอกจากนอนเล่นใต้ต้นไม้รอให้ผลสุกหล่นลงมาเข้าปากเอง”

“.........................................................”

“.........................................................”

“อย่าทำหน้ากันอย่างนั้นสิจ๊ะ...พี่บอกไม่ก็คือไม่แต่ว่าเจ้าเอกคเชนทร์จะยังต้องทำตามที่มันรับปากไว้”

“จะทำยังไงดี?”

“พี่ยังคิดไม่ออก”

“กระซิบกระซาบอะไรเอ่ย?”

“เปล่าๆๆ”

“ไม่มีอะไรค่ะ”

“...เธอสองคนจะตามไปอยู่กับเจ้านั่นด้วยก็ได้”

“จริงหรือคะ?”

“อื้อ!

“งั้นฝนไปด้วย”

“เชิญเลยจ้า~~

“เจ๊...ทีนี้เราก็กำกับบอลให้อยู่เฉยๆได้แล้วล่ะค่ะ”

“อืม”

“คาดว่าน้องเอ้ก็จะตามมาอยู่ด้วยแน่ๆเพราะพี่เพิ่งได้ข่าวว่าเรียกเจ้าเคี่ยมนั่นว่าสามีทุกคำเลย”

!!

!?

“นับว่าเธอเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของทั้งสองคนมากนะจ๊ะ...ฮิๆๆ”

“พี่อ๋อมพูดไม่ผิด”

“...........................................................”

........................................................................................................................................................................

 

(“หลานเจ้าคนนี้...ไม่สมควรใช้ชีวิตอย่างเด็กผู้หญิง”

“อะไรนะ?...นี่แม่หมอกำลังจะบอกให้หนูเอ้แต่งตัวเป็นผู้ชายไปปีนกำแพงโหนต้นไม้เล่นรึ?”

“น่ารักจังเลย!!...ตาดูสิจ๊ะหน้าเหมือนน้องแคทมาก”

“ต่อไปหนูจะต้องดูแลน้องสาว 2 คนนี้ให้ดีนะ”

“ค่ะยาย!!

“แม่อุทุมพรพาหลานๆออกไปข้างนอกก่อน...ฉันมีเรื่องจะคุยกับแม่หมอ”

“จ้ะ”

“แม่หมอ...ช่วยพูดให้ละเอียดสักหน่อยเถอะ”

“เจ้าก็รู้ดีว่าตระกูลวิษณุมนตรีมีความลี้ลับอย่างหนึ่ง”

“ฝาแฝด”

“ใช่...ลูกหลานทุกรุ่นจะต้องมีฝาแฝดถือกำเนิดขึ้นและที่ผ่านมาก็ล้วนแต่มีพ่อแม่เดียวกันแต่มาถึงรุ่นหลานของเจ้ากลับกลายเป็นฝาแฝดต่างแม่เกิดขึ้นมา...อรนิภาลูกสาวเจ้าที่ใครๆต่างคิดว่าจะมีลูกแฝดเพราะได้รับคำทำนายว่าจะมีลูกสาวสองคน”

“...แต่แล้วก็คลอดหนูแคทออกมาคนเดียว”

“เหมือนกับเมื่อราวๆ 70 ปีก่อนที่มีฝาแฝดต่างแม่...เจ้าจำได้หรือไม่ว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น?”

“ไม่!!!...การเข่นฆ่ากันเองในหมู่พี่น้องจะไม่มีวันเกิดขึ้นในบ้านของฉัน”

“เจ้าจงคิดให้ดีๆเถอะ...อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”

“ถ้าอย่างนั้น...เพื่อความไม่ประมาท...ฉันจะทำตามที่แม่หมอแนะนำก็ได้”

“ดีแล้ว”

“หนูเอ้เอ๋ย!!...ต้องลำบากหนูแล้วนะ...นี่แม่หมอ!...ทำแบบนี้แล้วจะช่วยป้องกันให้ลูกหลานในบ้านฉันมีความสงบสุขใช่มั้ย?”

“บอกตามตรงว่าข้าเองก็ไม่มั่นใจขนาดนั้น”

“อ้าว!?

“เพราะวันก่อนข้าได้ตรวจดวงชะตาของหนูสุรีย์พรรณและหนูสุริยาวรรณ...เด็กสองคนนี้ต่างก็มีดวงจิตอันศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่”

“ดวงจิตอันศักดิ์สิทธิ์?”

“แต่ไม่รู้หรอกว่านั่นคืออะไรเพราะข้าไม่มีความสามารถถึงขนาดนั้น”

“นั่นก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ?...สิ่งที่คุ้มครองปกปักรักษาหลานสาวของฉันจะต้องเป็นทวยเทพเทวดาแน่ๆ”

“เฮ้อ~~...ข้าไม่กล้ายืนยันหรอกว่าต่อไปภายหน้าจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าเพราะนี่คือลางบอกเหตุที่ไม่เคยเกิดขึ้นในตระกูลวิษณุมนตรีมาก่อนเลย”

“แต่ฉันมั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นเรื่องดี”)

“มีอะไรเรอะ?”

“เปล่าหรอกยาย...ฉันแค่นึกถึงเรื่องสมัยก่อน”

“เรื่องอะไรรึ?”

“ที่คุยกับแม่หมอตอนนั้น...การเข่นฆ่ากันเองในหมู่ลูกหลานจะต้องไม่เกิดขึ้นไม่ว่าตอนนี้หรืออนาคตต่อไป”

“ตาทำใจให้สบายเถอะน่า--...ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามหนทางของมันอยู่แล้ว”

“อืม”

.........................................................................................................................................................

 

“สามี...ทางนี้เจ้าค่ะ”

“นี่มันทางไปบ้านโยนกบูรพา”

“เราจะแอบเข้าไปที่ห้องของท่านป้าศรมรกต”

“แอบเข้าไปทำไมครับ?”

(พี่เอ้ไม่ตอบแต่นำเราพาเข้าทางที่ลัดเลี้ยวไปมาจนมาอยู่ที่บ้านของคุณปู่กับคุณย่า...เราสองคนเข้าทางประตูห้องครัวด้านหลังและไปหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง)

“ห้องของป้าเอ็มหรือครับ?”

“เจ้าค่ะ”

“ไม่ได้ล็อคด้วย”

“ท่านป้าอาจจะลืมน่ะเจ้าค่ะ”

“โอ้โห!!...ใหญ่โตโอ่อ่า”

...ข้างในมีแต่ข้าวของเครื่องใช้ที่ดูหรูหราและไม่ต้องบอกก็รู้ว่าราคาย่อมไม่ถูกแน่นอน...พี่เอ้เดินไปเปิดตู้ๆหนึ่งซึ่งผมต้องประหลาดใจเพราะมันมีประตูเล็กซ่อนอยู่ข้างในนั้น...

“ประตูนี้เปิดได้ด้วยหรือ?”

“ตามมาเจ้าค่ะ”

(มีทางแคบๆเดินลงไปซึ่งแม้จะมืดแต่ก็พอมองเห็นเนื่องจากมีแสงสว่างอยู่ไม่ห่างออกไปนัก)

“ถึงแล้ว...ข้างหน้านี่คือห้องลับของท่านป้าศรมรกตเจ้าค่ะ”

...หรือว่าจะเป็นห้องลับที่ผมเคยเห็นในวีดีโอที่ป้าเอ็มเอามาให้ดู?...จำได้แล้ว!!...ป้าเอ็มเคยพูดว่าห้องลับนี้มีทางเข้าสองทางซึ่งหนึ่งในนั้นจะต้องผ่านมาจากห้องของเธอส่วนอีกทางคือในกระท่อมเล็กๆที่จะต้องมีกุญแจสองดอกและแก้ปริศนารูปแกะสลักช้างไม้...เข้าใจละว่าทำไมพี่เอ้จึงพามาทางนี้เพราะกุญแจนั้นป้าเอ็มถืออยู่เพียงผู้เดียว...

“ได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกัน”

“เจ้าค่ะ...แต่เราจะเปิดประตูบานนี้มิได้”

“ทำไงดี?”

(ต่อมอยากรู้อยากเห็นของเราทำงานแล้ว...ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาไม่ได้ยินด้วยหูรับรองคืนนี้นอนไม่หลับแน่!!!!)

“สามีค่อยๆปีนขึ้นไปบนชั้นวางตรงนั้นเจ้าค่ะ...มีช่องเล็กๆมองเห็นภายในห้องได้”

“...........................................................”

“ค่อยๆนะเจ้าคะ”

“พี่ก็ขึ้นมาด้วยสิ”

...ผมกับพี่เอ้ยืนบนชั้นวางของเก่าๆแล้วมองลอดผ่านช่องเล็กๆเข้าไป...ป้าเอ็มกับอานิภาอยู่บนเตียงกำลังนั่งคุยกันซึ่งเราทั้งสองได้ยินเสียงอย่างชัดเจนและที่สำคัญทั้งคู่ต่างนุ่งแค่ผ้าขนหนูสีขาวเผยเนื้อหนังมังสาขาวผ่องไปหมดจนผมกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่ฝ่ายพี่เอ้เหลือบมองก่อนเอามือมาลูบบริเวณเป้ากางเกงโดยผมก็ไม่รู้ว่าให้ใจเย็นๆไว้หรือจะปลุกเร้าให้อารมณ์มันคุกรุ่นกว่าเดิม...

“พี่เอ้!?

“ฝึกความอดทนเจ้าค่ะ”

“รู้มั้ยว่าแบบนี้พี่จะต้องรับศึกหนัก?”

“ฮิ!...รออยู่แล้วเจ้าค่ะ”

(ยิ้มสื่อความหมายกับแววตาที่ราวกับจะท้าทายนั้น...ต้องโดนแล้วล่ะ!!!)

“เดินผ่านป่าเมื่อกี้มาก็น่ากลัวเหมือนกันนะ...ถึงจะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของพี่ก็เถอะ”

“ไม่มีอะไรสักหน่อย...คนอื่นไม่กล้าเข้ามาหรอก”

“ห้องนี้ตกแต่งสวยจัง...กว้างกว่าตอนนั้นที่ภากับนีย์เข้ามาซะอีก”

“ฮึ!!...แอบเข้ามากี่ครั้งล่ะยะตั้งแต่ที่พี่จับได้น่ะ?”

“ภาเปล่า”

“เชื่อตายละ~~

“ผมตื่นเต้นจัง...อานิภากับป้าเอ็มมีความสัมพันธ์กันแบบนี้ด้วยหรือเนี่ย?”

“รู้นะว่าสามีต้องการอะไรแต่มาดูกันก่อนดีกว่าเจ้าค่ะ...โอกาสหามิได้ง่ายๆ”

“นั่นสิ”

.........................................................................................................................................................

ตอนหน้าจัดเต็ม