หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Kat Sidestory 3

Kat Sidestory 3 “ผลข้างเคียงของตะวันเลือด!?”

(29 มิถุนายน 2548
...ผม เชื่อในความบริสุทธิ์ใจของตัวเองว่าไม่ได้คิดกับพี่แคทไปในเชิงชู้สาว เลย...เหตุการณ์ที่เกิดในห้องเป็นเพียงอุบัติเหตุ...ผมแค่คิดถึงกุนและอยาก จะเข้าไปเห็นห้องนอนที่เคยเป็นของเธอก็เท่านั้น...)
“โกหก!!”
“!!!”
“!?”
“?”
“...........................................”
“สุรีย์พรรณ...อาจารย์โกหกตรงไหนหรือคะ?”
“ปละ...เปล่าค่ะ...หนูขอโทษ”
“ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?...เทสต์ย่อยเมื่อวานเธอก็ทำคะแนนได้ไม่ดีเลย”
“...หนูสบายดีค่ะ”
“ไม่สบายใจรึสงสัยอะไรก็มาปรึกษาอาจารย์ได้นะ”
“ค่ะ”
“แคทเป็นอะไรไปเหรอ?”
“จู่ก็ตะโกนดังลั่น...แก้วตกใจหมดเลย”
“ไม่มีอะไรหรอก”
...นี่ ฉันฟุ้งซ่านมากถึงขนาดเผลอตะโกนออกมาเลยเชียวรึ?...ถ้าคุณน้าอรศินีย์มาเห็น เข้าฉันจะต้องถูกจับนั่งสมาธิเป็นชั่วโมงแน่แต่บันทึกความจริงอะไรกันหลอก ลวงทั้งเพ!!...หากฉันยังหลงเชื่อเจ้าหนุ่มลูกพี่ลูกน้องตัวแสบก็โง่เง่าเต็ม ทนและนับวันก็ยิ่งรู้สึกขยะแขยงสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “ผู้ชาย” มากขึ้นทุกทีๆโดยเฉพาะช่วงนี้เห็นที่ไหนเวลาไหนเป็นต้องหงุดหงิดขัดหูขัดตา ไปหมด!!!...ฉันน่าจะเชื่อฟังคุณแม่ที่บอกให้หยุดเรียนไปสักสองสามวันแต่อีก ใจก็กลัวเวลาเรียนจะไม่พอสอบปลายภาค...
(เจ้าไดอารี่บ้าๆบอๆนั่นยิ่งอ่านก็ยิ่งบั่นทอนความมั่นใจ...เดี๋ยวจะกลับไปเผาทิ้งให้เรียบ!!!)
“ฮ้า~~...จบซะที...หิวข้าวจะตายอยู่แล้ว!!”
“บ่ายนี้ไปดูหนังกันมั้ย”?
“แก้วกับนันไปเถอะ”
“สองวันมานี่เธอไม่ร่าเริงเอาซะเลย...ยังโกรธบอลอยู่อีกหรือ?”
“............................................”
“น้าเย็นก็ให้เขาออกจากหอแล้ว...มันน่าจะจบสักที”
“ระหว่างฉันกับบอล...พวกเธอคิดว่าใครผิด?”
“ก็...ผิดทั้งคู่แหละ”
“...งั้นหรือ?”
“บอลถึงจะนิสัยเจ้าชู้แต่ไม่ใช่คนเลวส่วนแคทเป็นคนมีเหตุผลแต่บางครั้งก็เข้มงวดเกินไปหน่อย”
“แก้วเห็นด้วย...หากแคทจะหาคนผิดก็ต้องรวมพวกเรา”
“รวมพวกเรา!?...เดี๋ยว...เดี๋ยวสิ!!!”
“ก็...คิดเองล่ะกัน”
“แม้แต่พวกเธอ...”
“เพราะความใกล้ชิดมันอันตรายกว่าที่คาดไว้น่ะ”
“............................................”
“ถ้าแคทเอาทุกอย่างมาเป็นอารมณ์หมดชีวิตนี้จะไม่มีความสบายใจเลย...ที่นันตัดสินใจพูดความจริงก็เพราะเห็นแคทเป็นเพื่อนสนิท”
...ฉัน แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง...เพื่อนสองคนที่คิดว่าสนิทที่สุดล้วนตกเป็นคู่นอน ของเจ้าหนุ่มลูกพี่ลูกน้องตัวแสบเรียบวุธ!!!...แม้ฉันจะเคยเอะใจอยู่บ้างแต่ ก็ไม่กล้าเอ่ยถามเพราะเห็นเป็นเพื่อนกัน...ความใกล้ชิดกันนี่มันช่างอันตราย เหลือเกิน...
“ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะกล้านอกใจเธอ”
“!?”
“ตอนที่นอนด้วยกันก็ปากหวานชมฉันสารพัดแต่พอลับหลังกลับแอบไปมีกิ๊ก...เจ็บใจจริงๆ!!!”
(ริอาจมีสัมพันธ์กับผู้ชายในวัยเรียนงั้นรึ?)
“ฉันควรจะทำยังไงดี?”
“หากเขาไม่รักเราแล้วป่วยการจะรั้งเอาไว้ทำไม?...ไปหาคนใหม่ที่ดีกว่าเถอะ”
“แต่...แต่ฉันรักเขามากเลยนะไม่ว่าอยากจะได้อะไรฉันก็หาให้ทำให้เขาทุกอย่าง...เรื่องบนเตียงก็ไม่เคยขัดข้อง”
“.............................................”
(น่าเบื่อ)
...ทนฟังต่อไปไม่ได้แล้ว!!...ในเมื่อโง่ยอมเสียตัวให้เองก็ไม่มีสิทธิ์ว่าใครได้...
“ฮ้า!?...เมื่อคืนเธอกับนายดิวเรียบร้อยกันแล้วเหรอ?”
“!?”
“นี่!!...หล่อนจะแหกปากให้อาจารย์รู้จนได้หรือไงยะ?”
“ก็ฉันตกใจอ่ะ!!...แล้ว...แล้ว...เป็นไงบ้าง?”
(มาอีกคน!?)
“ดิวเค้าทำไม่ค่อยเป็น”
“งั้นเธอก็สวมบทบาทรุ่นพี่แสนดีช่วยติววิชารักให้รุ่นน้องน่ะสิ?”
“ก็ไม่ได้นำอะไรนักหรอกเพราะเดี๋ยวความแตกว่าฉันเคยมีอะไรกับแฟนเก่ามาก่อน”
(หา!?)
“อ๋อ~~...ทำเป็นว่ายังซิงอยู่งั้นเหอะ?”
“แน่นอน...ฉันก็ต้องตอแหลมั่งสิยะ”
“ฮะๆๆ”
(น่าสะอิดสะเอียนที่สุด!!...แค่หาซื้อขนมปังกับน้ำดื่มและเดินกลับมาอาคารก็ได้ยินเรื่องบัดสีถึงสองเรื่องติดกัน)
...ผู้หญิง สมัยนี้กล้าพูดเรื่องในมุ้งให้คนอื่นฟังหน้าตาเฉยเชียวหรือ?...ช่างไม่มี ความเป็นกุลสตรีเอาเสียเลย!!!...ความยางอายมันหายไปไหนหมด?...
“อุ๊บ!!”
(ใบ...ใบ หน้าร้อนวูบวาบ...ร่างกายร้อนรุ่มมือไม้แข้งขาสั่นหายใจถี่ขึ้นและ...และ เหงื่อก็เริ่มออกทั่วตัว!?...มัน...มันใกล้จะมาแล้ว!!!!)
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
“...ไม่...ไม่เป็นอะไร...แค่...แค่เวียนหัวนิดหน่อย”
(เพราะได้ยินเรื่องพรรค์นั้นและเผลอจินตนาการตามไปด้วย...ไม่ได้!!!...ถึงตายก็ไม่ยอมให้มันแผลงฤทธิ์ที่นี่!!!!)
“ฮึ!!”
“อะไรของเขาน่ะ?”
“อย่าไปสนเลย...หาข้าวกินกันดีกว่า”
“............................................”
...เมื่อ ครู่เล่นซะเข่าทรุดเลย...อดกลั้น “มัน” ลงได้แล้วแต่แค่ชั่วคราวเท่านั้น...ช่วงที่รอให้ฝนเรียนภาคบ่ายจบฉันจึงควร จะอยู่ตามลำพังโดยไม่พยายามเข้าใกล้คนหมู่มากเพราะมันอาจจะทำให้เกิดเรื่อง อีกจนนำไปสู่ “ผลข้างเคียงของตะวันเลือด” ซึ่งคราวนี้คงจะหยุดยั้งไว้ไม่ได้อีกอย่างแน่แท้...
“ยู้ฮู~~”
“!?”
“ขึ้นมาเลยจ้าคนสวย!!”
“พี่เซคมาที่นี่ทำไมคะ?”
“ก็มารับน่ะสิ...พี่รู้ว่าแคทไม่มีเรียนบ่าย...รถก็ทิ้งไว้นี่แหละ”
“แต่ฝน...”
“เย็นค่อยมารับก็ได้...ไปพักผ่อนให้จิตใจมันหายเครียดบ้างจะเป็นไรเล่า?...โอเคไหม?”
“............................................”
“ตอน นี้แคทหน้าแดงมากนะรู้มั้ย?...อย่าอดกลั้นไว้อีกเลยมันจะไม่ดีต่อสุขภาพจิต และสภาพนี้ไม่มีทางจะทนได้ถึงตอนเย็นหรอก...อย่างเก่งก็ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง นับจากนี้”
“............................................”
“............................................”
“ตกลงค่ะ...พี่จะพาหนูไปที่ไหนก็ได้”
“งั้นก็ขึ้นมาเลยน้องรัก”
...เมื่อ ตกลงได้แล้วเราสองคนก็มุ่งหน้าไปทางทิศใต้จนข้ามเขตจังหวัดและไม่นานพี่เซ คก็เลี้ยวรถเข้าไปในถนนลูกรังเล็กๆโดยตลอดทางก็คุยกันเรื่องทั่วๆไปเพราะพี่ เซคไม่ต้องการให้ฉัน “เสร็จ” ก่อนจะถึงที่หมาย...เอาล่ะ!!...ไหนๆก็ไหนๆฉันจะบอกให้รู้ก็ได้ว่าอาการที่ เป็นในขณะนี้คืออะไร!?...นี่เป็นผลข้างเคียงหลังจากที่เกิดสุริยะโลหิตไป แล้วประมาณ 24 - 48 ชั่วโมงซึ่งผลข้างเคียงที่ว่ามันจะทำให้ฉันเกิดความต้องการทางเพศมาก ขึ้นเรื่อยๆโดยจะมีอาการอยู่ราวๆสองวันแล้วจึงกลับมาเป็นปกติ...ถามว่าความ ต้องการทางเพศจะมีมากขนาดไหน?...ก็มากจนแทบควบคุมสติไม่อยู่ทีเดียว...บางที อาจจะถึงขั้นหน้ามืดต้องไปฉุดผู้ชายมาขืนใจสักคนโดยไม่เลือกดูที่หน้าตาและ วัยวุฒิหรือไม่สนว่าเป็นผัวเขาลูกชายใครก็ว่าได้แต่ฉันไม่เคยทำมาก่อน นะ!!!!...อย่าเพิ่งเข้าใจผิด...
“เป็นผลข้างเคียงที่ไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย”
“พี่ว่ามันน่าสนุกดีออก”
“สนุกตรงไหนคะ?...เป็นทีไรหนูออกจากบ้านไม่ได้ทุกที...วันๆต้องเอาแต่ช่วยตัวเองจนหน้าอกกับจิ๋มแดงก่ำไปหมด”
“ก็ไม่ยอมใช้วิธีที่พี่กับยัยอ๋อมทำ”
“นั่นก็ไม่ไหวค่ะ!!”
...วิธีที่พี่เซคกับอ๋อมใช้เพื่อยับยั้งผลข้างเคียงของสุริยะโลหิตก็คือกินเหล้าจนเมาแต่ตัวฉันทำไม่ได้เพราะร่างกายไม่ถูกกับแอลกอฮอล์อย่างแรงเอาง่ายๆแค่ไวน์ผลไม้ที่มีดีกรีต่ำและจิบเพียงนิดเดียวฉันก็แพ้น็อคแล้ว...
(เคยเมาไวน์องุ่นแล้วก่อเหตุอาละวาดในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณพ่อเมื่อสี่ปีก่อนจึงถูกสั่งห้ามมาตั้งแต่บัดนั้น)
“จะว่าไปน้องฝนยังคอแข็งกว่าแคท”
“............................................”
“?”
“เด็กคนนั้น...วันๆเอาแต่ขลุกอยู่กับบอลที่โรงพยาบาลยกเว้นเวลาไปเรียน...แคทกังวลจริงๆ”
“ก็ไปคอยเฝ้าดูสิ...แคททำได้อยู่แล้วเพราะคุณแม่กับคุณน้าไม่ได้ห้ามนี่นา”
“จริงด้วย”
“พูดถึงคุณน้า...แฮ่ม!!...เสียดายจะปล้ำได้อยู่แล้วเชียว”
“พี่เซค!?...พี่จะทำอย่างนั้นกับคุณแม่ไม่ได้นะคะ!!!”
“คือมันอดใจไม่ไหวน่ะ”
“หัดยับยั้งชั่งใจบ้างสิคะ...นิสัยเสียจัง!!”
“ขอโทษทีพี่ผิดไปแล้ว...นึกว่าคุณน้าจะเล่นด้วยแต่ต่อไปต้องยอมแน่ๆ”
“ห้ามเด็ดขาด!!!”
“เฮ้ย!?”
“หื่นกับน้องกับนุ่งน่ะแคทว่ามันก็มากเกินแล้วแต่นี่เป็นญาติผู้ใหญ่ของพี่...หยุดเลยค่ะ!!”
“แหมก็มันเสียดายอ่ะ!!...น้านิภายังน่ารักซะขนาดนั้นน๊า~~”
“กลับไปส่งหนูเดี๋ยวนี้!!”
“อ้าว!?”
“ถ้ายังดึงดันวางแผนคิดไม่ดีกับคุณแม่อีก...แคทจะไม่ไปกับพี่!!!”
“เฮอ--...แล้วแคทจะระบายความปรารถนาที่กำลังคุกรุ่นรอเวลาปะทุนี่ยังไงและกับใครจ๊ะ?”
“นั่น...”
...เล่น เอาจุดอ่อน(ในขณะนี้)ของฉันมาขู่ด้วยรู้ตัวว่าถือไพ่เหนือกว่า...ให้ตาย เถอะ!!...ตัวเองเป็นหลานแท้ๆแต่กล้าคิดกับผู้เป็นน้าในเชิงชู้สาว...ไปๆมาๆ นี่เริ่มจะไม่แน่ใจแล้วสิว่าระหว่างเธอกับบอลตกลงใครหื่นกามมากกว่า กัน?...ฉันได้ยินระแคะระคายมาว่าบรรดานักศึกษาสาวเอยพยาบาลสาวเอยหรือแม้แต่ คนไข้ผู้หญิงหน้าตาดีๆพี่เซคก็เที่ยวไปยุ่มย่ามกับเค้าหมดและเที่ยวนี้คงจะ ไม่เลิกราจากคุณแม่ของฉันง่ายๆแน่...ทำยังไงดี?...
“เลี้ยวขวาข้างหน้าก็ถึงละ”
“มาอยู่อะไรในที่แบบนี้คะ?...หรือว่าจะเป็น...ม่านรูด?”
“อื้ม!!”
“นี่หมายความว่าหนูต้องเข้าม่านรูดกับผู้หญิงด้วยกัน?”
“ฮะๆๆ...แม่นแล้ว”
...การ เข้าโรงแรมม่านรูดในวันนี้ถือประสบการณ์ครั้งแรกของฉันทีเดียวแต่สำหรับพี่ เซคนั้นไม่ใช่แน่...เธอเลี้ยวรถเข้าไปในโรงแรมแห่งหนึ่งและเข้าจอดในช่องที่ มีพนักงานมารูดม่านปิดให้...ฉันนั่งอยู่ในรถรอให้พี่เซคเปิดประตูห้องพร้อม กับจ่ายเงินเสร็จจึงออกมา...
“หยิบกระเป๋าด้านหลังมาด้วย”
“ใบนี้ใช่ไหมคะ?”
“ล็อคประตูเลย”
...พี่ เซควางกระเป๋าถือแล้วเดินไปเปิดไฟในห้องกับในห้องน้ำหยิบผ้าเช็ดตัวมาส่งให้ พลางบอกว่าห้องน้ำที่นี่มันแคบจึงให้ฉันอาบก่อน...ฉันรับมาวางไว้ที่เก้าอี้ แล้วแกะกระดุมถอดเสื้อนักศึกษากับยกทรงจากนั้นปลดเข็มขัดรูดซิปกระโปรงจีบสี ดำเหลือแค่กางเกงใน...ฝ่ายญาติสาวผู้พี่ก็จับจ้องดูการกระทำของฉันทุก อิริยาบถโดยไม่ยอมละสายตาไปที่อื่น...
“................................................”
“................................................”
“อูย~~...แฉะหมดแล้ว”
“?”
“เห็น น้องแคทแก้ผ้าแล้วพี่มีอารมณ์จังเลย...โอออออออออ...โดยเฉพาะกางเกงในสี เขียวอ่อนที่เปื้อนคราบน้ำรักจนฉ่ำเยิ้มตัวนั้น...อืมมมมมมมมมมม...ความสุข กำลังรออยู่เบื้องหน้า...อาาาาาาาาาา”
...ฉันรู้สึกเขินเวลาเปลื้องผ้า ต่อหน้าพี่เซคเพราะเธอจะมองด้วยสายตาที่ลุกวาวและเต็มเปี่ยมด้วยความปรารถนา ทางเพศทุกครั้งไปฉะนั้นสิ่งที่ฉันทำได้คือพยายามตัดใจรูดกางเกงในออกจากปลาย เท้าแต่ก็ดันหันก้นไปทางพี่เซคซะอีกซึ่งนั่นเพราะไม่อยากสบตาด้วยนี่ นา!!!...
(เมื่อกี้...หล่อนแลบลิ้นเลียริมฝีปากแถมมองบั้นท้ายเราเขม็งเลย!?)
“ไม่ต้องปิดประตู...พี่จะดูน้องแคทอาบน้ำ”
“...ชอบให้หนูทำอะไรแปลกๆอยู่เรื่อย”
“ฮิๆ”
“................................................”
“................................................”
“นั่นมัน...”
“จำได้สินะ”
“ที่แท้กระเป๋าใบนั้นก็ใส่บรรดาของเล่นของพี่ไว้นี่เอง...เอาอุปกรณ์ลามกพกติดตัวมาด้วยเกิดเขาตั้งด่านแล้วค้นเจอจะอธิบายว่าไงคะ?”
“รถเก่าๆตำรวจไม่ค่อยเรียกหรอก...เกิดจอดแล้วเสียก็เดือดร้อนเขาอีก”
“นั่นพี่ทำอะไรน่ะ?”
(หยิบกางเกงในของเรามาดูทำไมกัน!?)
“อือ--”
“?”
“หอมจัง”
“พี่เซค!”
“จริงๆนะ...แคทก็ลองมาดมสิ”
“บ้า!!”
“ฮิๆ...ยกทรงก็หอม”
“พอได้แล้วนะคะ!!!...โรคจิต”
“ก็ให้สมกับที่ยัยอ๋อมชอบว่าไง”
“จำเป็นต้องทำตามเหรอ?”
“กับคนอื่นพี่ไม่ทำหรอกน่า~~”
“ถ้าทำน่ะเป็นคดีแน่ค่ะ!!”
...ถึง ตรงนี้ก็กรุณาอย่าเพิ่งเข้าใจพี่เซคผิดไปว่าเธอมีรสนิยมประหลาดๆอย่างชอบดม ชั้นในของคนอื่น...หล่อนแค่แกล้งล้อฉันเล่นเท่านั้นและที่ผ่านมาก็ไม่เคยทำ ด้วย...แต่...ความรู้สึกแปลกๆนี่มันอะไร?...
(ตื่นเต้นที่เห็นพี่เซคสูดดมชุดชั้นในของเราหรือ!?)
“ห้อง...ห้องน้ำว่างแล้ว”
“..............................................”
“..............................................”
“ยัง...เสร็จแล้วอาบพร้อมกันเวิรก์กว่า”
...ญาติ สาวผู้พี่ปลดผ้าขนหนูทิ้งลงหน้าห้องน้ำแล้วกลับมาที่เตียงโดยทั้งร่างมี เพียงกางเกงในสีดำปิดบังของสงวน...พี่เซคคลานเข่ามาใกล้พลางเอามือเชิดคาง ฉันให้เงยหน้าสบตากับเธอ...แววตาที่แฝงไปด้วยไฟปรารถนาคู่นั้นทำให้ฉัน พยายามเบี่ยงหน้าหลบด้วยความประหม่าอายทว่าเจ้าหล่อนก็ค่อยๆประทับริมฝีปาก บนแก้มฉันทั้งสองข้าง...
“พี่กับแคทเป็นผู้หญิงเหมือนกันนะคะ”
“...แล้วไงจ๊ะ?”
“.........................................”
“ผ้าขนหนูนี่เอาออกซะเถอะ...พี่อยากเห็นหน้าอกสวยๆของแคท”
“ของพี่ก็สวย”
“ไม่อ่ะ...สู้ของเธอไม่ได้”
“อาาาาาาาา~~”
...เพียง สัมผัสแรกก็ทำให้อารมณ์ของฉันคุกรุ่นจิตใจว้าวุ่นสติเตลิดเปิดเปิงและ ทุกอย่างที่ว่ามามันเกิดขึ้นเร็วมากจนตั้งตัวไม่ติดซึ่งเป็นเพราะผลข้าง เคียงแห่งตะวันโลหิต...พี่เซคดันร่างฉันนอนหงายจากนั้นก็ปฏิบัติการอุกอาจ ขโมยจูบอย่างรวดเร็ว...อา~~...นี่มันผิดไปจากทุกทีนี่...เธอกล้ามาก...กล้า ทำกับฉันถึงขนาดนี้...เจ้าหล่อนประกบปากจูบพลางส่งลิ้นเข้ามาดุนดันกับลิ้น ของฉันจนอดตกใจระคนสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดญาติสาวผู้พี่ถึงได้เริ่ม “เกมส์รัก” อย่างร้อนแรงผิดวิสัยที่ควรจะเป็น...
“อื๊ออออออออออออออ”
“อืมมมมมมมมมมมมมมมมมม...อู้”
(สุดยอด!?...ลีลาการจูบของพี่เซค...เรา...เราเทียบเธอไม่ติดเลย...โออออออ~~...แบบนี้ร้อยทั้งร้อยก็เสร็จหล่อนหมด)
“น่ารักเหลือเกินน้องรักของพี่”
“อืออออออ--”
“เคลิบเคลิ้มไปถึงไหนเล่า?...ความสุขเพิ่งจะเริ่ม”
“อุ๊!!”
...การ โจมตีระลอกที่สองมาติดๆและคราวนี้ใช้มือร่วมด้วย...พี่เซคเอานิ้วบีบหัวนม ฉันแล้วบี้คลึงวนเป็นวงกลมขณะที่ในปากเธอก็ส่งลิ้นที่ตวัดรัวด้วยความว่องไว เกินกว่าจะรับมือไหว...ต่อหน้าผู้ที่เชี่ยวชาญในเกมส์สวาทอย่างเจ้าหล่อน... ฉัน...ฉันจึงต้องกลายเป็นลูกไก่ในกำมือโดยไม่อาจหลีกหนีได้...อื๋อ?...มือ ขวาของพี่เซควาดลงต่ำไปแถวๆสะดือของฉันแล้ว...อีกไม่นาน...อีกไม่นานอวัยวะ ส่วนที่สำคัญของฉันจะถูกรุกราน...
“มะ...ไม่เอานะคะ...หยุดแกล้งแคทซะที”
“หึๆ...แกล้งอะไร?”
“................................................”
“จงลืมความขัดข้องหมองใจทุกอย่างไปซะและเวลาต่อไปนี้แคทจะมีแต่ความสุขสมหวัง...พี่จะช่วยปลดเปลี้ยงตัณหานั่นให้เอง”
...นั่น สินะ?...ฉันยังจะมีอะไรให้ต้องเขินอายอีกก็ในเมื่อเป็นฝ่ายตามเค้ามาเองดัง นั้นมันต้องสนุกให้เต็มที่...ไม่ต้องเลือกวิธีการไม่ต้องอิดออดปฏิเสธ...ฉัน ตอบสนองความรู้สึกกลับไปหาพี่เซคมากขึ้นและยอมให้เธอสัมผัสทุกสิ่งทุกอย่าง ในร่างกาย...ญาติสาวผู้พี่เตรียมจะถอดกางเกงในออกแต่ฉันขอทำให้เองซึ่งแน่ นอนว่าเธอพยักหน้าทันที...
“เอาร้อนหรือเย็นคะ?”
“สภาพหนูเวลานี้อย่างเย็นคงไม่ทันการแล้วล่ะ”
“รับทราบ”
“จริงๆไม่ต้องถามพี่เซคก็รู้อยู่แก่ใจ”
“อยากให้น้องแคทเป็นฝ่ายบอกเอง”
“นิสัยนะ”
“แหกขาซิ!...หู~~...เห็นสมบัติส่วนตัวน้องแคททีไรรู้สึกแช่มชื่นหัวใจทุกครั้งสิน่า”
“มีอะไรต่างกับของพี่คะ...อุ๊ย!!”
“ขอพี่ชื่นชมใกล้ๆหน่อยนะแคทจ๋า~~”
“จูบไปทีนึงแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ฮิ!”
... “จะเอาร้อนหรือเย็น” คือความหมายที่รู้กันระหว่างพี่เซคกับฉัน “เย็น” คือต่างคนต่างช่วยทำให้กันและกันไปเรื่อยๆโดยไม่เกี่ยงเวลาว่าจะใช้ไปเท่า ไหร่และจะหยุดตอนไหน...ถึงจุดสุดยอดก็พักและหากไม่รู้สึกว่าพอก็เริ่มต้น ใหม่ส่วน “ร้อน” นั้นจะตรงกันข้ามเพราะมันมักจบลงในเวลาอันสั้นแต่ขอบอกว่า “สุดยอด” มาก...
“อู๊ยยยยยยยยยย...พี่เซคก็...”
“..............................................”
“บอกแล้วไงว่าไม่...ไม่ต้องจ้องนัก...ก็...ก็ได้...อือออออออออออ...อย่า...อย่าแหกซี่~~”
“เฉยๆไว้น้อง”
“..............................................”
“หือ!?”
“เสียงอะไรคะ?”
“เหมือนคนทะเลาะกันเลย...ขนาดดังเข้ามาในห้องที่เก็บเสียงแบบนี้ได้...”
...พี่ เซคลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวและสั่งให้ฉันอยู่ที่เตียงเฉยๆก่อนเธอจะค่อยๆแง้มบาน ประตูมองออกไปข้างนอก...ฉันคว้าผ้ามาห่มพลางคิดในใจว่าดันมีคนมาขัดจังหวะซะ ได้!?...เสียงที่ได้ยินข้างนอกมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง...น่ากลัวจะหนีไม่พ้น เรื่องแอบมีชู้กันล่ะมั้ง?...
“ฝันไปเถอะไอ้บ้ากาม!!!”
“!!”
(พี่เซคด่าใครน่ะ!?)
“ขออภัยด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะไม่เป็นไร”
“จะต่อเวลาให้คุณหมอเป็นพิเศษเลยค่ะ”
“ฮะๆๆ”
“เกิดเรื่องอะไรคะ?”
“เมียคบชู้แอบพาผู้ชายคราวลูกเข้าม่านรูดแล้วผัวตามมาเจอ”
“หนูว่าแล้ว...”
“เถียงกันดังจนเจ้าของโรงแรมออกมาห้าม...ผัวสั่งให้เมียกลับบ้านแต่เมียไม่ยอมแถมบอกว่าจะไปโรงแรมอื่น”
“..............................................”
“ฝ่ายผัวเลยโมโหตะโกนด่าทั้งเมียทั้งชู้หนุ่มและบอกอีกว่าในเมื่อมึงมีได้งั้นกูก็จะมีมั่ง”
“แล้วพี่ไปด่าเขาทำไม?”
“ก็...อีตาผัวดันเหลือบเห็นพี่จึงพูดว่าจะมีเมียน้อยน่ารักเอ๊าะๆแบบ...จะหาให้ได้อย่างพี่น่ะ”
“...ผู้ชายไม่ว่าวัยไหนก็เหมือนกันหมด”
“มองแวบเดียวก็รู้ว่าตาลุงนี่คิดกับพี่ยังไงแต่ฝันซะเถอะ”
“พี่ไม่น่าให้เขาเห็นหน้าเลย”
“ไม่งั้นก็ดังหนวกหูอยู่นั่นแหละ...เอ้า...มาต่อเรื่องของเราดีกว่าจ้ะ”
“อื้อ!”
“จุ๊ๆๆๆ...อายุน้อยกว่าตั้งห้าปีแต่หีใหญ่กว่าพี่อีก”
“...............................................”
“อา~~...ช่างเป็นกลีบกุหลาบที่แสนงดงามอะไรอย่างนี้”
“อะ...อย่า...อย่าแหกแบบนั้นสิคะ...แคท...แคทอาย”
“ความอายเป็นคุณสมบัติของผู้หญิงจ้ะ”
“อ๊อยยยยยยยยยยยย”
...มัน ก็มีบ้างที่ฉันนึกอายตัวเองจึงทำเป็นผลักไสแต่ความรู้สึกแท้จริงนั้นกลับ ยินดีและเต็มใจให้ญาติสาวผู้พี่ทำอะไรกับฉันก็ได้...ใช่...ทุกอณูเนื้อใน ร่างกายมันเรียกร้องเช่นนั้นซึ่งพี่เซคก็รับรู้ถึงได้ลากลิ้นเลียรูหีที่อาบ ชุ่มไปด้วยน้ำเมือกครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักเบื่อบ้างก็กรีดปลาย นิ้วไปตามรอยแยกสลับกับบี้เม็ดติ่งของฉัน...
“ก็เยิ้มอย่างนี้ไงเล่า...เป้ากางเกงในถึงได้เปียกเป็นดวงเบ้อเริ่ม”
“อูยยยยยยยยยยยยยย”
“น้องจะได้เสียวสุดยอดมากกว่านี้แน่...ถ้า...”
“แคท...แคทต้องทำยังไง?”
“ยอมให้พี่ใช้ควยปลอม”
“................................................”
“คืนนั้นเธอปฏิเสธทีนึงแล้ว...จะว่าไงล่ะ?”
“หนู...”
“ยังไงแคทก็เคยโดนของตาเอ้มาแล้วนี่?”
“...ก็ได้ค่ะ...แต่...แต่อย่าให้โอเวอร์นักนะคะ”
“ไว้ใจพี่ได้เลยจ้า!!”
...ความ ต้องการทางเพศที่มีมากมหาศาลทำให้ฉันตอบรับข้อเสนอของพี่เซคอย่างง่ายดาย ซึ่งเธอก็แสดงอาการดีใจอย่างเห็นได้ชัดที่จะได้ใช้ของเล่นสุดโปรดกับ ฉัน...ถูกแล้ว...มันคือกางเกงหนังสำหรับสาวเลสเปี้ยนที่มีแท่งเนื้ออวัยวะ เพศชายชี้โด่มาที่ฉัน...ขนาดของมันไม่ใหญ่และความยาวกำลังพอดีแต่ไอ้ที่ฉัน เห็นที่บ้านพี่เซคน่ะใหญ่กว่านี้...
“พี่เตรียมให้สำหรับแคทโดยเฉพาะ”
(ในสภาพพร้อมใช้งาน!?...นี่เธอมั่นใจแต่แรกว่าเราจะโอเคงั้นรึ?)
“...ร้ายจริงๆพี่สาวหนูเนี่ย”
“แหม่~~... ถ้าใช้เจ้าดุ้นประจำตัวของพี่มีหวังแคทร้องจ๊ากกันพอดี...แค่ไอ้นี่ก็เพียง พอแล้วที่จะส่งน้องแคทไปสู่แดนสุขาวดี...เดี๋ยวขอเวลาพี่ใส่แป๊บหนึ่ง”
“จะเอาหนูเลยหรือ?”
“เวลาไม่คอยท่า”
“ให้หนูเตรียมใจก่อนสิคะ”
“30 วิ”
“แหมพี่เซคก็...”
“โก้งโค้งสิจ๊ะ”
...พี่ เซคสวมกางเกงหนังก็ลุกยืนพับขาพลางเอาท่อนเนื้อเทียมของผู้ชายมาจ่อที่ปาก ฉันและสั่งให้ดูดอมมันส่วนเธอก็เอามือแหวกแก้มก้นฉันแล้วยื่นปากจุมพิตแคมหี เล่นเอาฉันสะดุ้งเฮือกขณะกำลังผงกหัวอ้าปากรูดอมควยปลอมพอพี่เซคเห็นดังนั้น ก็เอานิ้วชี้นิ้วกลางยัดเข้ารูหีเพื่อแกล้งทรมานฉันเพิ่มเข้าไปอีกแต่ยังไม่ หมดแค่นี้...หมอสาววัย 26 ยังแลบลิ้นเลียรูก้นของฉันด้วย...
“อู๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย...ก็...ก็บอกแล้วว่าอย่าเลียตรงนั้น”
“เฉยไว้เดี๋ยวดีเอง”
“มันเฉยไม่ไหวสิคะ...ซีดสสสสสสสสสสสสส”
“ครางออกมาเลยไม่ต้องเกรงใจ”
“กรอดดดดดด...ใครได้ยินขายหน้าตายเลย”
“อายทำไม?...มีแค่เราสองคน”
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย...อย่า...อย่าค่ะ...อื้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมม”
“เรื่องสิจ๊ะ...กว่าจะทำให้แคทเงี่ยนได้ถึงขนาดนี้น่ะมันยากเย็นแค่ไหน”
“อ๊าวววววววววววววววววว...ชะ...ชอบแกล้งหนูจัง”
“ใครจะอดใจไหว?...ก็รูตูดน้องแคทมีสีชมพูสวยระเรื่อแบบนี้”
“พอ...พอเถอะ...อย่าแกล้งแคทต่อไปอีก...แคทยอมให้พี่เย็ดแล้วค่ะ...โอ๊วววววววววววววววว...แคทยอมแล้ววววววว”
...พี่เซคได้ยินก็ยิ้มกริ่มอย่างผู้มีชัยก่อนจะเปิดกระเป๋าคว้าขวดใส่น้ำใสๆเทใส่มือแล้วทาไล่ตั้งแต่หัวหยักลงไปถึงโคนพลางถามฉัน...
“อยากโดนเย็ดท่าไหนเอ่ย?”
“ท่าไหนก็ได้เพราะยังไงหนูก็ต้องโดนทุกท่าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“รู้ใจพี่ดีมาก...งั้นนอนหงายกับแบะขาออก”
“ท่ายกล้อ?”
“จ้า!!”
“...สนุกใหญ่เลยนะคะ?”
“ก็สนุกด้วยกันน่า--”
“ฮึ!!...เจ้าแท่งยางไร้ชีวิตนี่ช่างโชคดีนักที่มีวาสนาได้เย็ดหีแคท...ของจริงยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะเข้าใกล้เลย...อุ๊ย!!!”
...ญาติ สาวผู้พี่จับตรงโคนดิลโด้สีเนื้อที่ทาเยลหล่อลื่นชนมันวาวทั้งลำเอามาจ่อที่ ช่องหีฉันก่อนจะถูไถไปทั่วบริเวณทั้งแคมนอกแคมในขึ้นไปคลึงที่เม็ดติ่งกับลง ต่ำถึงรูก้นและค่อยๆไล้มันขึ้นมาอีกครั้งตรงทางเข้าถ้ำส่วนตัวของ ฉัน...หล่อนเอาเจ้าควยปลอมเป็นอาวุธโจมตีให้ฉันเร่าร้อนในอารมณ์มากยิ่งขึ้น กว่าเดิมจนขนตามร่างกายลุกซู่กับเหงื่อผุดเต็มหน้าทั้งที่ในห้องเปิดแอร์ เย็นฉ่ำ...
“หนาวมั้ยจ๊ะ?”
“ไม่...ไม่ค่ะ...แอร์ไม่เย็นหรอก”
“พี่หมายถึงเจ้านี่ต่างหาก...จะดันมันเข้าไปแล้วนะ”
“กะ...ก็ ลองดูค่ะ...อึ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย...หี...หีแคทร้อนไปหมดเลยพี่...ซีด สสสสสสสสสสสสสสสส...อืออออออออออออออออออออออ...แค ทเสียว...อู๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“นี่ยังไม่สุดลำนะจ๊ะ”
“ยัง...ยังเหรอคะ?...อ๊อยยยยยยยยยยยยยยยยย...มันยาวขนาดไหนกันนี่?...อื๊ออออออออออออออ...โออออออออออออออออ”
“ต้องอย่างนี้ใช่ไหม...ที่น้องแคทชอบ?”
“ค่ะ”
“ที นี้ไม่ต้องง้อผู้ชายแล้ว...เงี่ยนเมื่อไหร่บอกพี่...โอ๊ย ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย...ไอ้...ไอ้เงี่ยงนี่ก็ตำหีพี่เหมือนกัน...ซีด สสสสสสสสสสสสส”
“อูยยยยยยยยยยยยยยย....ค่อยๆก่อนค่ะพี่...อือออออออออออออออออ...ควยนี่ใหญ่จัง”
“จ้า!...พี่จะทำค่อยๆรับรองไม่เจ็บ”
“อื้อฮือ~~...มันใหญ่...ยาวกว่าของเอ้ซะอีก”
“แล้วของอีตาสันต์ล่ะ?”
“สั้นกว่าเกือบนิ้วค่ะ...อุ๊ก!!...หีแหกแน่งานนี้”
...ฉัน หรี่ตาเม้มปากท้าวข้อศอกยันที่นอนในท่ากึ่งนั่งเห็นควยยางดุ้นยักษ์มุดรูหี ตัวเองอย่างถนัด...น่ากลัว!?...รับเข้าไปได้ยังไงนะเนี่ย?...
“โอ๊วววววววววววววววววววว...ถะ...ถึงปากมดลูกแล้ววววววววววว...กรอดดดดดดดดดดด...หนูเสียวมากค่ะพี่เซค”
“คิกๆ...เดี๋ยวแคทจะเสียวมากกว่านี้อีกหลายเท่า”
“ช้าก่อนค่ะช้าๆก่อน...อู๊ยยยยยยยยยยยยย...พะ...พี่จะเร่งไปไหน?”
“แค่นี้ไม่เสียศูนย์หรอก”
“พี่ก็ลองมาโดนเย็ดเองมั่งสิคะ?”
“โอ๊ย!!...พี่ลองแน่”
“อืมมมมมมมมมมมมมมม...อยากเย็ดแคทมานานสิท่า?”
“ทำกับใครก็ไม่มีความสุขเท่าทำกับน้องแคทคนสวยร้อก!!”
“อึ๊!...ปากหวานจังนะ...ระวังน้องม่อนงอนเถอะ”
...ฉัน ค้อนสาวคู่เลส(?)ด้วยสีหน้าแดงซ่านพลางบอกให้ชะลอความเร็วลง...อุ!!...เสียบ เน้นๆอย่างนี้ทำให้เห็นปากแคมหีของตัวเองยู่เข้ายู่ออกปลิ้นแพลมเนื้อในแดง แจ๋อย่างน่าขนลุก...เสร็จศึกคงได้มีหุบขาไม่ลงกันบ้างละ!!!!...
“ให้เร่งเรอะ?”
“อ๊า!!!...เพิ่งบอกไปว่าให้ช้าๆก่อน”
“โอเคๆ”
“อ๊าวววววววววววววววววว...เสียวหีจังเลย...อืมมมมมมมมมมมมมมมมม...เน้นๆแน่นๆแบบนั้นแหละค่ะ...อาาาาาา”
“หึๆๆ...ขาวๆอวบๆแถมหยิ่งอย่างน้องเนี่ยต้องสนองให้หนัก...จะเอาคืนที่แกล้งนินทาพี่ด้วย”
“นินทา?”
“ก็ในงานเลี้ยงวันก่อนไง”
“ยัง...ยังไม่ลืมอีก?”
“ไม่ลืมย่ะ!!”
“ซีดสสสสสสสสสสสสสสสสส...ดะ...ได้สิคะ...ถ้าแคทผิดก็ทำโทษให้หนักเลยค่ะ...อูวววววววววววววววว”
...ฉันยกก้นขึ้นรับแรงกระเด้าพลางเอามือรั้งข้อพับพร้อมกับร้องครางอย่างสุดกระสัน...ถึงจะถูกผู้หญิงด้วยกันเย็ดก็ช่างเพราะยังไงมันก็ดีกว่าช่วยตัวเองคนเดียวล่ะ...
“เจ็บก็บอก”
“ไม่...ไม่ค่ะ”
“ฮืม--...ต้องงี้สิ”
“คับหีจัง...อูยยยยยยย”
“เก่งมาก...เข้าเกือบมิดดุ้นเลยอ่ะ”
“ขอแคทดูหน่อย...โอ--...เหลือตรงโคนนิดหน่อยเองค่ะ”
...ฉัน ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าจะรับความใหญ่ยาวของเจ้าดุ้นยางไร้ชีวิตเข้ามิด ด้ามเหลือปลายนิดเดียวแต่ไม่จะแปลกอะไรเพราะยกแรกฉันถูกเบิกร่องมาอย่าง โชกโชนด้วยควยยางที่ขนาดไม่เล็กกว่ากันไปเท่าไหร่นัก...พี่เซคดึงควยยางออก และลงนอนตะแคงข้างๆพลางหอมแก้มฉัน...
“มา...พี่จะทำให้น้องเสียวสุดชีวิตยิ่งขึ้น...โค้งตูดสิจ๊ะ”
“อ๊ายยยยยยยยยยยยย...พี่...โอยยยยยยยยยยยย...เสียวจังเลยค่ะ...อูยยยยยยยยยยยยย”
...จังหวะ พี่เซคดึงควยออกมาฉันพาลนึกไปว่าเธอจะดึงมันจนหลุดจึงดันสะโพกตามแต่หมอ สาวกลับอัดสวนเข้ามาทีเดียวมิดลำเล่นเอาฉันสะดุ้งสุดตัวอ้าปากค้างมือจิกที่ นอนแน่นเลย...โอ๊ย!!...เสียวอะไรขนาดนี้...เจ้าดุ้นยางไร้ชีวิตมันทำให้ฉัน เสียวซ่านจนต้องหลุดปากครางออกมาได้...
“คับหีจังเลย”
“สนุกไหม?”
“ค่ะ”
“เธอจะเสียวกระสันมากกว่านี้อีก”
“อาวววววววววววว...เหมือนผู้ชายกำลังเย็ดหนู”
“เพราะพี่กับเจ้านี่เป็นหนึ่งเดียวกันแล้วจ้ะ”
“ซีดสสสสสสสสสสสสส...ยังกับโดนควยจริงๆแน่ะค่ะ...โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ฮิๆ...แคมหีแคทปลิ้นเข้าปลิ้นออก...น้ำก็ออกเยอะมาก...อาบควยมันเลื่อมเชียว”
“อย่างนั้นเหรอคะ...อูยยยยยยยยยยยยยยย”
“พี่จะกระเด้าเร็วขึ้นแล้วนะ”
“โออออออออออออออออ...สุด...สุดยอดค่ะพี่...อืมมมมมมมมมมมม”
“รับความรักของพี่เข้าไปให้เต็มเหนี่ยว”
“อื๊อออออออออออ...อ๊อออออออออออออออ”
...ฉัน เริ่มจะหายใจไม่ทันเพราะพี่เซคกระหน่ำเจ้าแท่งหรรษาอัดรูหีอย่างถี่ยิบเสียง ดังปั๊บๆๆๆๆผสมกับเสียงร้องกระเส่าของเราสองคนที่ต่างก็แสดงลีลากันชนิดไม่ มีหมกเม็ด...ฉันก้มหัวกับที่นอนยกก้นโด่งบีบคลึงเต้านมตัวเองหลับตาสูดปาก ครางซี๊ดซ๊าดแข่งกับพี่เซคที่ทาบทับบนหลังแลบลิ้นเลียแผ่นหลังฉันขณะที่ท่อน ล่างของเธอก็เด้งเข้าเด้งออกไม่หยุดหย่อน...
“ไงจ๊ะน้อง?”
“พี่เย็ดได้มันส์ถึงใจหนูมากค่ะ”
...เรา สองพี่น้องสบตามองแล้วก็จูบปากกันจากนั้นวินาทีแห่งความสุขก็ใกล้ถึงจุดสูง สุด...ฉันตบบั้นท้ายส่งสัญญาณให้สาวคู่ขา(?)รับรู้ว่าน้ำใกล้จะทะลักเอ่อ แล้วพี่เซคจึงกัดฟันกรอดพร้อมรวบรวมเรี่ยวแรงที่มีกระหน่ำเย็ดฉันอย่างหนัก หน่วงชนิดที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต...
“พี่เซค...หนูจะ...จะไม่ไหวแล้ววววววววววววว”
“โอ๊ยยยยยยยยยยยย...พี่ก็ไม่ไหว...อูยยยยยยยยยยยยยยยย”
“อ๊าววววววววววววววววววว...ซีดสสสสสสสสสสสสสสสส”
“เสร็จพร้อมกันเลยยยยยยย...โอ๊ออออออออออออออออออออออ”
“อึ๊ยยยยยยยย”
“..................................................”
“..................................................”
“เฮ้อ!...แทบเป็นลม~~”
“รู้สึกดีใช่มั้ยล่า?”
“...ค่ะ”
“บอกแล้วว่าพี่ทำเก่ง...ฉะนั้นแคทจงอย่าคิดสงสัยลังเลอีกเลย”
“แคทหนาวหรือเปล่า?”
“ไม่ค่ะ...ได้ออกแรงแล้วรู้สึกร่างกายอบอุ่นดี”
“ฮะๆ”
...ฉัน นอนคว่ำพักเอาแรงโดยมีดุ้นควยเสียบคาหีอยู่สักพักจึงควานหยิบทิชชู่มาเช็ด คราบน้ำเมือกที่เปรอะเต็มปากร่องและดึงอวัยวะเพศเทียมออกมาพลิกดู...
“น้ำเยอะขนาดนี้เลย”
“ไหน?”
“อย่าเอาไปเลีย!!”
“เช็ดออกน่ะน่าเสียดายจะตาย...อืม--...พี่คิดว่านี่ยังน้อย...ยกต่อไปจะออกมากกว่านี้แน่ๆ”
...พี่เซคแย่งดิลโด้ไปจากมือแล้วก็เอาใส่ปากดูดกินน้ำหล่อลื่นแถมทำเสียงจ๊วบจ๊าบด้วยเล่นเอาฉันอายจนหน้าแดงไปถึงหู...
“มาต่อกันเลยดีไหมคะ?”
“โอ้!!!...เรี่ยวแรงดีจริงๆน้องสาวที่น่ารักของฉัน”
“กับผู้หญิงด้วยกันก็นับว่าดีไม่เบา”
“ถูก ต้องๆๆ...สาวๆที่พี่เคยสะด๊วบอย่างเบาะๆก็ต้องเลยชั่วโมงทั้งนั้น...เวลา ผู้ชายเย็ดหีนับจากสอดใส่น่ะไม่นานหรอก...อย่างเก่งสุดๆก็สิบนาทีเอ้า...นี่ เผื่อให้มากแล้วนะ”
“..................................................”
“เชื่อเถอะน้อง...พี่เป็นหมอนะจ๊ะ”
“ค่า!!”
“ดังนั้นพวกเราที่มีสุริยะโลหิตในตัวถึงได้ต้องการเวลาบนเตียงมากกว่าผู้หญิงอื่น...ธรรมชาติสร้างมาถูกกฏเกณฑ์แล้ว”
“แต่พวกเราเองนั่นแหละที่ผิดธรรมชาติ”
...ราว กับพวกเรา 5 คนได้แก่พี่เซค,ฉัน,ม่อน,อ๋อมและก็ฝน(รวมน้องป้อมด้วย)เป็นตัวประหลาดเลยแต่ ก็เถียงไม่ออกสักคำ...เข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมตอนฉันยังเล็กๆคุณพ่อกับคุณแม่ ถึงทะเลาะกันบ่อย!?...
(รสรักที่เติมไม่เต็มเนี่ยถือเป็นเรื่องใหญ่มากๆ)
“พี่จะไปไหน?”
“ล้างตัวสักหน่อย”
“..............................................”
...พอ พี่เซคหายเข้าไปในห้องน้ำฉันก็รีบเปิดกระเป๋าของเธอออกดูด้วยความอยากรู้ว่า ข้างในยังมีอะไรอีกบ้าง...โอ้โห!?...มีแต่ Sextoy ทั้งนั้นและบางอันฉันก็ไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไร...
“...ไอ้ที่เหมือนฝักข้าวโพดนี่คืออะไรนะ?”
“ก็ดิลโด้นั่นแหละ”
“อ๋อ~~”
“อยากลองมั้ยจ๊ะ?”
“ไม่เอาดีกว่าค่ะ...แคทกลัวจะกินไม่ลง”
“ว่าไปนั่น...ข้าวโพดสีชมพูมีที่ไหนเล่า?”
“พี่เตรียมของเล่นมาเยอะแยะเชียวนะ...นี่กะจะกระหน่ำหนูเต็มที่สิท่า?”
“จะเอากันทั้งทีก็ต้องให้มันสุดๆซี่น้องรัก!!”
“แล้วไอ้นี่มัน...ใช้กับรูตูดไม่ใช่เหรอ?”
(เราจำได้เพราะคืนนั้นที่บ้านราศีกาญจนาพี่เซคก็ใช้เจ้านี่ด้วย)
“แม่นแล้ว”
“แคทบอกพี่หลายครั้งแล้วนะว่าไม่ชอบ!”
“เธอไม่มีทางปฏิเสธความต้องการของพี่ได้หรอกและพอเอาเข้าจริงๆ...พี่เชื่อว่าเธอต้องบอกว่าห้ามหยุดแน่ๆ”
“.............................................”
...เหลือ เกิน!?...ตอนไปค้างที่โยนกบูรพากับเธอๆก็ตั้งใจจะเอาไวเบรเตอร์ปุ่มกระสัน ยัดรูก้นแต่ฉันไม่ยอมท่าเดียวเพราะรู้สึกอายฝนที่แอบดูอยู่ห้องข้างๆซึ่งต่อ มาก็ต่อรองขอใช้ลิ้นเลียกับใช้นิ้วเท่านั้น...ถามว่าฉันรู้สึกยังไงน่ะ หรือ?...อืม--...มันก็เสียวสยิวดีอยู่หรอกนะและพี่เซคก็เลียเก่งซะด้วยแต่อี ตอนสอดนิ้วเข้าไปในรูตูดฉันนี่สิ...ขอยอมรับเลยว่ามันเจ็บมากกว่าเสียว...
“ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง?...ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตล่ะกัน”
“ร่วมกันทางประตูหลังเนี่ยนะคะ?...ให้มันอยู่แต่ในหนังก็พอแล้ว”
“หนังก็เอามาจากชีวิตจริง”
...เอาสิ...ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะดุเด็ดเผ็ดมันส์สมกับที่พี่เซคคุยนักคุยหนาหรือเปล่า?...อย่างไรมันก็ไม่ถึงตายหรอกน่า!?...
(เป็นไงเป็นกันสิแคท!!!)
“รับรองว่าสนุก”
“แคทเชื่อพี่”
“งั้นก็...”
...พี่เซคสั่งให้ฉันคุกเข่าโก้งโค้งพลางบีบครีมใสๆลงบนนิ้ว...แคทเอ๋ย~~...งานนี้เธอไม่แคล้วโดนชำเราประตูหลังแน่แล้ว!!!...
“หืมมมมมมมมมมมม...มัน...มันเย็นนะพี่...อึ๊ยยยยยยยย...อย่าล้วงซี่~~”
“พี่รู้ว่าแคทเสียว...ครางออกมาได้เลยไม่ต้องอาย”
“อึ๊ก!!...นะ...หนูอายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้ว...อูยยยยยยยยยยยยยยยย...มัน...มันไม่เป็นอันตรายใช่ไหมคะ?”
“ไม่เลยจ้ะเพราะเขาผลิตมาเพื่อการนี้แหละ...พวกเกย์ก็นิยมใช้มาก...หมอตัวจริงมาคอนเฟิรม์แล้วไม่ต้องกังวล”
“เอาแคทไปเปรียบกับ...ว้าย!!!”
...ฉันสะดุ้งสุดตัวร้องลั่นห้องเพราะญาติสาวผู้พี่ตัวดีแหย่นิ้วควงไปมาในรูก้นของฉันหลังจากที่ใช้ครีมหล่อลื่นทาจนชุ่มแฉะ...
“...ค่อยๆนะ”
“อื้อ!!...รับรองจะทำค่อยๆจ้ะ...เจ็บน้อยกว่าโดนต่อยชัวร์”
“เอาไปเทียบกันได้ไง?”
“หึๆๆ”
“ไม่...ไม่เอาไอ้นั่น...ใหญ่ไป...อะ...อันนี้ดีกว่า”
...ฉัน รีบส่งไวเบรเตอร์รูปหัวตุ๊กตาเพราะเห็นว่าอันนี้เล็กที่สุดแล้ว...พี่เซครับ มาถือและเริ่มเอาปลายของมันถูไถไปตามแผ่นหลังของฉันๆขนลุกอย่างบอกไม่ถูกจะ ว่ากลัวก็กลัวจะว่าอยากลองก็อยากลอง...คือมันสับสนปนเปกันไปหมด...
“โอววววววววววววว”
“แค่นิ้วเอง”
“อ๊อยยยยยยยยยยยยยยยยย...หนูแตกอีกแล้วค่ะพี่...ซีดสสสสสสสสสสสสสสสส”
“นี่ครั้งที่เท่าไหร่แล้วน๊าเนี่ย?”
“ไม่...ไม่ได้นับค่ะ...อู๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย...นิ้วเข้าลึกจังเลยค่ะ...อ๊าวววววววววววววว”
“แคทขมิบตูดสู้นิ้วพี่ใหญ่เลย...อยากได้อีกอันใช่ไหมล่า?”
“พี่เซค...พี่จะ...จะทำอะไรก็...เร็วๆเข้าเถอะ...ได้โปรด”
...ฉัน เสียวหีเสียวตูดจนลืมตัวลืมอายหมดแล้ว...ไม่ว่าจะโดนเจ้าควยปลอมเย็ดรูไหนก็ ไม่เกี่ยงอะไรทั้งนั้น...ขอ...ขอแค่มันช่วยปลดปล่อยความต้องการทางเพศจนถึง ที่สุดได้เป็นพอ...พี่เซคดึงนิ้วออกและเอาไวเบรเตอร์มาเขี่ยตรงกล้ามเนื้อ หูรูดทวารหนักก่อนจะค่อยๆเสียบมันเข้าไปฉันซบหน้ากับหมอนหลับตาปี๋อ้าปาก น้ำลายไหลยืดเลย...ไม่เจ็บมากอย่างที่คิดและเจ้าของเล่นสุดหรรษาก็แทรกผ่าน รูตูดฉันเข้าไปอย่างง่ายดายด้วยเพราะขนาดที่เล็กกับมีครีมช่วยหล่อลื่นอีก แรงในที่สุดพี่เซคก็กระซิบเบาๆว่าเข้ามิดดุ้นแล้วทำให้ฉันเป่าปากถอนหายใจ ด้วยความโล่งอก...
(ต้องขอบคุณพี่เซคด้วยที่สัญญาว่าจะทำอย่างเบามือที่สุด...เธอเก่งมาก)
“เป็นไงบ้าง?...ความรู้สึกที่โดนเสียบตูดครั้งแรก”
“...แคท...แคทอาย”
“เจ็บมั้ย?”
“มะ...ไม่เท่าไหร่ค่ะ...มัน...มันก็เสียวดี...คิดถูกที่เลือกอันนี้”
...ที่ จริงมันเจ็บแปล๊บๆแต่ฉันไม่อยากให้พี่เซคหมดสนุกจึงแกล้งตอบเพื่อเอาใจ(แต่ ก็เสียวจริงๆนั่นแหละ)ทีนี้เธอเลยยิ่งได้ใจดึงแท่งเทียมออกแล้วดันกลับเข้า ไปใหม่...ทำอยู่สามสี่รอบจึงกดปุ่มออน...
“ว้าย!!!...อะ...อะไรนี่?”
“ระบบสั่นจ้ะ”
“นะ...น่า...น่าอายที่สุดเลย!!...อึ๊ยยยยยยยยยยยย...อะ...มัน...มันสั่นแรงจังค่ะ”
“แล้วแคทจะติดใจเหมือนพี่แน่”
“อ๊า~~...อย่า...อย่ามองนะ!!...อืมมมมมมมมมมมม...อย่ามอง~~”
“เห็นจนไม่รู้จะเห็นยังไงแล้ว”
“พี่เซคบ้า!!...อยากมองก็มองของตัวเองไปสิคะ...เรื่องอะไรมาจ้องตูดหนู?”
“ที่จ้องก็เพราะมีอะไรบางอย่างคาอยู่ในรูตูดสาวสวยน่ะสิจ๊ะ”
“บ้า...บ้าๆๆ”
“หันก้นมาทางนี้...พี่จะทำให้เธอได้รับความสุขอันแปลกใหม่ที่ไม่มีวันลืม”
...พี่ เซคดึงเจ้าอวัยวะเพศชายเทียมออกแล้วดันเข้ามาในรูก้นฉันอีกแต่มันแทบจะไม่ รู้สึกเจ็บเลยซึ่งจากที่เหลือบตาดูกระจกเงาข้างผนัง...เจ้าแท่งยางหรรษานี่ มันแทรกหายไปในรูก้นฉันเกินครึ่งเชียว...
“อื๊อออออออออออออออ...พี่...พี่เซคคะ...ซีดสสสสสสสสสสสสส”
“ฟิตมาก...ดึงแทบไม่ออกแน่ะ”
“แล้ว...แล้วพี่จะดึงมันทำไม?...อู๊ยยยยยยยยยยยยยย”
“ทำแบบนี้ยังเจ็บหรือเปล่า?”
“..........................................”
“พูดความจริง...นี่คือคำสั่ง”
“ทะ...ทั้งเสียวทั้งเจ็บค่ะ”
“เป็นปกติ”
...ร่าง ฉันสั่นเทาไปหมด...มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน...พี่เซ คจับโคนควยปลอมหมุนไปหมุนมาบางทีก็ดึงเข้าดึงออกส่วนอีกมือแบะแคมหีฉันแล้ว ยื่นปากจูบกับตวัดลิ้นเลีย...ฉันยกมือปิดปากเพื่อไม่ให้เสียงลอดออกมาทั้ง ที่ความจริงมันเสียวซ่านจนแทบจะขาดใจซะเดี๋ยวนั้นแต่ดูเหมือนญาติสาวผู้พี่ จะรู้จึงยิ่งแกล้งฉันหนักข้อขึ้นด้วยการกระทุ้งเจ้าควยยางเข้าใส่รูตูดของ ฉันเร็วและแรงกว่าเดิม...
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย...อย่าแรงนักสิ...หนู...หนูเจ็บ”
“เจ็บแล้วทำไมรูนี้ถึงมีน้ำออกเยอะแยะเลยล่ะ?”
“อ๊อยยยยยยยยย...ไม่...ไม่ไหวแล้วค่ะ...มัน...มันครูดก้นแคท...อืมมมมมมมมมมมมมมมม”
“อย่าอยู่เฉยๆ...เด้งก้นสู้สิ”
“นะ...หนูก็ทำอยู่...อูววววววววววววว...สุดยอดเลย...พี่เซคทำให้หนู...เสียว...หี...อืออออออออออออ...เสียวตูดด้วย”
...มือ ของหมอสาวจอมแสบยังไม่ปล่อยเจ้าไวเบรเตอร์ตัวร้ายที่ยัดคาประตูหลังฉันง่ายๆ ส่วนปากกับลิ้นของหล่อนก็ไม่ยอมละไปจากอวัยวะเพศของฉัน...สีหน้าที่แสดงออก มาประหนึ่งว่าเธอได้เจอของเล่นที่ถูกใจและเฝ้าหามานานดังนั้นเรื่องที่จะยอม หยุดในเวลาอันสั้นคงไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในห้วงความคิดเป็นแน่...ฉันมองตัวเอง ในกระจกด้วยความรู้สึกที่ยังสับสนว่านี่คือความจริงแน่หรือ?...ความจริงที่ เห็นตัวเองตกเป็นเครื่องเล่นสนองตัณหาของญาติสาวผู้พี่วัย 26 ผู้ไม่ชอบชายตามองเพศตรงข้าม...เธอกำลังเพลิดเพลินสนุกสนานไปกับการใช้กระดอ เทียมเปิดระดับสั่นแรงสุดแยงยัดรูก้นของฉัน...
“พี่เซค...อย่า...อ๊ายยยยยยยยยย”
“เสียงเซ็กส์ซี่จังเลย”
“อย่า แรงนักสิคะ...โอววววววววววววว...นุ่มนวลกับแคทหน่อย...อูยยยยยยยยยยยยยยย... ได้...ได้โปรด...ซีดสสสสสสสสสส...แคทเสียวตูดจังเลยค่ะ... อึ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“มีความสุขหรือเปล่าจ๊ะ?”
“..........................................”
“ถ้าไม่พูดพี่จะเอาออกนะ”
“มะ...ไม่นะ!!”
“งั้นบอกความจริงมา”
“...ค่ะ”
“ค่ะอะไร?”
“หนู...หนูมีความสุขค่ะ”
“มันต้องอย่างนั้น”
“โอออออออออออออออ”
...ภาพ สะท้อนในกระจกฉันเห็นตัวเองในท่าโก้งโค้งและพี่เซคจับโคนไวเบรเตอร์ซอยเข้า ซอยออกในรูตูดอย่างต่อเนื่องมันทำให้ฉันทั้งเจ็บทั้งเสียว...เธอเป็นไปได้ ถึงขนาดนี้เชียวหรือสุรีย์พรรณ เทวะกรนันท์!?...ผู้หญิงเงียบขรึมจิตใจมั่นคงคนนั้นต้องมาสิ้นท่าให้กับความ ต้องการทางเพศที่รุนแรงหรือที่ตระกูลของเราเรียกว่าผลข้างเคียงของสุริยะ โลหิต...
“น้ำหีเยิ้มใหญ่แล้วน้องฉัน”
“ซีดสสสสสสสสสสส...พี่เซคจ๋า~~”
“แถมตอดแรงด้วย...อูววววววววววว...แคทเสร็จแล้วนี่?”
“ไม่นะ...อย่าเลีย...อึ๊ยยยยยยยยยยยยยย”
“พี่ไม่ฟังแคทหรอก”
“อึ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย”
...ยิ่ง ห้ามก็เหมือนยิ่งยุ...พี่เซคก้มเลียน้ำเมือกที่หลั่งไหลออกมาจากอวัยวะเพศ ของฉันครั้งแล้วครั้งเล่า...เธอต้องเลียจนไม่เหลือให้เห็นด้วยตาเปล่า แน่ๆ...แม้จะเสร็จไปแล้วแต่ฉันยังมีอารมณ์เงี่ยนอยู่มากจึงร้องครางสลับสูด ปากความเสียวซ่านเพราะกำลังโดนแท่งยางดุ้นเขื่องกระหน่ำที่รูก้นอย่าง หนัก...
“อ๊าาาาาาาา...หนูไม่ไหวแล้วพี่!!!”
“ทนไว้น้องรัก...โยกเอวไปด้วย”
“อูววววววววววววววว...แคทเสียวหีเสียวตูดจะตายอยู่แล้ว”
“พี่ก็เหมือนกัน...แยงหีพี่บ้างสิจ๊ะ...โอวววววววววววววววว”
...รู หีพี่เซคก็มีน้ำหล่อลื่นเอ่อเยิ้มออกมามากไม่แพ้กันเห็นแล้วฉันนึกอยากเอา คืนจึงสอดนิ้วชักเข้าออกและแลบลิ้นเลียเม็ดแตดที่พองตัวใหญ่ขึ้น...หมอสาว อ้าปากค้างร้องครางลั่นอย่างมีความสุขแข่งกับฉันๆเด้งบั้นท้ายสู้ควยปลอม ด้วยอารมณ์ทางเพศที่เร่าร้อนพี่เซคก็แอ่นหีร่อนสู้สองนิ้วของฉันเป็นระวิง แล้วต่อมาไม่นานเราก็หวีดร้องออกมาพร้อมๆกัน...
“แคทจ๋า~~”
“พี่เซค!!!”
“ซีดสสสสสสสสส...พี่...พี่แตกแล้ววววววววววววววววว~~~”
“หนู...หนูก็ด้วยค่ะ...อ๊าวววววววววววววว”
...ร่าง ของเราสองลูกพี่ลูกน้องเกร็งกระตุกโอบผวากอดกันแน่น...พี่เซคหลับตาปี๋เคล้น บี้หัวนมกับสอดนิ้วแยงหีตัวเองอย่างสุขกระสันถึงสามนิ้วส่วนฉันที่นอน คร่อมอยู่ข้างบนก็เป็นฝ่ายเอื้อมจับกระดอเทียมชักเข้าชักออกรูตูดตัว เองอย่างลืมเจ็บลืมอาย...ญาติสาวลืมตามองแล้วก็ยิ้มหวานให้ฉันเห็นก็เกิด ความอายจึงจะดึงไวเบรเตอร์ออกจากช่องทวารหนัก...
“อ๊ะ!!...อย่าเพิ่งเอาออก”
“...รูตูดหนูบานหมดแล้ว...อุ!!!”
“ปละ...ปล่อยออกมาเลย...พี่ก็จะออกเหมือนกัน”
...รู หีของฉันขับน้ำเมือกจำนวนมากออกมาราดรดบนรูหีของพี่เซคที่ก็หลั่งน้ำหล่อ ลื่นสีขาวใสปนขุ่นอันเนืองนองไม่แพ้กัน...น้ำเสียวทั้งของเราผสมรวมกันแล้ว ไหลเป็นทางลงมาตามง่ามขาส่งกลิ่นคาวขึ้นไปถึงจมูก...เมื่อทุกอย่างสงบลงฉัน ก็ทิ้งตัวนอนตะแคงหายใจหอบข้างพี่เซคโดยที่ตัวฉันจำไม่ได้แล้วว่า “เสร็จ” ไปกี่ครั้งแต่รู้แค่ว่าเรี่ยวแรงแทบจะไม่มีเหลือเลย...ไม่มีแรงกระทั่งจะดึง ไวเบรเตอร์ออกจากรูตูดโดยต้องปล่อยให้มันค่อยๆหลุดออกมาเองในอีกไม่กี่อึดใจ ต่อจากนั้น...
“พี่...พี่อยากทำกับแคท...อย่างนี้มานานแล้ว...วันนี้สมหวังซะที”
“............................................”
“ดูเธอจะชอบแล้ว?”
“...เปล่าสักหน่อย”
“เห็นปกติเงียบๆขรึมๆแต่พอได้ปลดปล่อยเต็มที่ก็เร่าร้อนไม่เบาน๊าน้องรักของพี่!!”
“พะ...พี่เป็นคนแรก...ที่ทำให้แคทต้องอยู่ในสภาพที่น่าอายอย่างนี้”
“ใช่...อายจนแดงไปหมดทั้งข้างบนข้างล่าง”
“บะ...บ้า!”
“เวลาแคทเขินนี่น่ารักถูกใจพี่เหลือเกิน...ขอจูบหน่อยเหอะ”
“............................................”
“...ผมยุ่งหมดแล้ว”
“ก็เพราะพี่นั่นแหละ”
“เด็กไม่ดี...โทษพี่งั้นเหรอ?”
“แคทจะเอาคืนบ้าง”
“ไว้ไปเอาคืนพี่ที่บ้านดีกว่า”
“ทำไมคะ?”
“เวลาจะหมดน่ะ”
“ก็ต่อสิ”
“พอแค่นี้ดีกว่า”
“จะหนีแคทว่างั้นเถอะ?”
“ฮ่า~~...อย่างพี่รึจะหนี?...ระดับนี้ไม่มีกลัวอยู่แล้วจ้าแต่นี่มันใกล้เวลาที่น้องฝนจะเลิกเรียนนะ”
“...ช่วยไม่ได้...นี่ผลข้างเคียงก็สลายไปแล้วด้วย”
“แน่ใจนะจ๊ะ?”
“ค่ะ”
“งั้นถือว่าพี่ติดหนี้แคทไว้ก่อนละกันแต่...”
“?”
“ฮิๆ...ในที่สุดยมทูตสาวสวยก็สิ้นฤทธิ์ด้วยฝีมือพี่”
“ยะ...อย่าพูดนะคะ!!...อูย~~”
“อย่าเพิ่งขยับตัวสิ”
“ให้ตายเถอะเหมือนยังมีอะไรคาอยู่ข้างในเลย...ฮึ!...ได้ผลดีมากๆ”
“บอกแล้วว่าพี่เก่ง”
“นี่ไม่ได้ชมนะคะ!!”
“อ้าว?”
“..............................................”
...เรา สองคนนอนกอดกันคุยเรื่องทั่วๆไปสักพักพี่เซคก็ลุกหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้า ห้องน้ำปล่อยให้ฉันนอนแผ่หลาหมดสภาพโดยแม้จะขยับตัวก็ยังไม่กล้าเพราะมัน ระบมไปหมดทั้งประตูหน้าประตูหลัง...ถูกกระหน่ำรูหียังพอรับไหวแต่รูก้นนี่ เป็นครั้งแรกของฉันนะ!!!!...
“แดงช้ำเลย...พี่นะพี่!!”
“เมื่อกี้เรียกรึ?”
“ไม่มีครั้งที่สองแน่ค่ะ!!”
“?”
“จะไม่ยอมให้พี่เซคล่วงล้ำประตูหลังหนูอีกแล้ว!!!”
“โธ่~~...เดี๋ยวก็ชิน!”
“ไม่!!...รีบออกมาค่ะหนูจะได้อาบมั่ง”
“ทีเวลานั้นล่ะเคลิบเคลิ้มเชียว...แบบนี้เขาเรียกพาลหรือเปล่าเนี่ย?”
“ใช่ซะที่ไหนคะ?”
“อ่ะตามใจ--...เอ้อ!...พี่จะให้คนไปรับน้องฝนและเอารถของแคทมาไว้บ้าน...โอเคนะ?”
“...ที่โรงพยาบาลดีกว่า”
“หา!?”
“พี่เซค...หนูไม่ไว้ใจท่าทีของฝนและจะไปสังเกตให้เห็นกับตาตัวเอง...ไม่ใช่เพราะจะไปเยี่ยมบอลหรอกค่ะ”
.....................................................................................................................

“กลับแล้วหรือคะคุณหมอ?”
“ค่ะ”
“?”
(ผู้หญิงคนนี้รู้จักพี่เซค!?...แล้วเธอยิ้มให้เราทำไมทั้งๆที่ไม่เคยเจอหน้ากันเลยสักครั้ง?)
“ยังไงคุณหมอก็ช่วยรับข้อเสนอไว้พิจารณาบ้างนะคะ”
“ได้ค่ะดิฉันจะลองไปคิดดู...ถ้าตัดสินใจได้อย่างไรก็จะแจ้งให้ทราบค่ะ”
...ดู จากการแต่งกายไม่น่าจะใช่พนักงานหรือแม่บ้านทำความสะอาดเพราะสวมชุดไปรเวท และใส่เครื่องประดับหลายชิ้นอันบ่งบอกว่าเป็นคนมีฐานะ...ฉันเก็บความสงสัย ไว้จนรถวิ่งมาถึงทางแยกออกถนนใหญ่...
“นั่นใครคะ?”
“...ภรรยาเจ้าของโรงแรมจ้ะ”
“รู้จักกันได้อย่างไร?...หืม--...พี่คงจะมาบ่อยจนเขาจำได้”
“ก็ไม่เชิง...คือสามีเธอเป็นคนไข้ของพี่”
“...แต่ไม่รู้ว่าเธอยิ้มให้หนูทำไม?”
“ก็เพราะรู้ไงว่าแคทกับพี่มาทำอะไรกัน?”
“นะ!...น่าอายจัง”
“ฮิๆๆ”
“แล้วข้อเสนออะไรคะที่อยากให้พี่พิจารณา?”
“...เขาขอร้องให้ช่วยซื้อกิจการน่ะ”
“ซื้อกิจการ...ม่านรูด!?”
“หมออย่างพี่จะเป็นเจ้าของโมเต็ลไม่ได้เหรอไงจ๊ะ?”
“ไม่...ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะเพียงแต่...”
“ก็...ยังไม่รีบเร่งตัดสินใจหรอก”
“ตัวพี่สนใจหรือเปล่า?”
“ถามว่าสนมั้ย?...อืม--...เอาจริงๆนะ”
“ค่ะ”
“สนใจ สิจ๊ะ...น่าสนมากๆด้วยแต่คงใช้เงินมากโขเลย...ไว้จะรอปรึกษาคุณแม่เพราะ ลำพังเงินพี่คนเดียวมันไม่พอและอาจต้องให้เจ้าแมวหลงทางช่วยอีกแรง...หึ!... ยังเรียนอยู่แท้ๆแต่แม่คนนั้นมีเงินในบัญชีมากกว่าพี่ซะอีกนะ”
...งั้น ฉันก็ไม่จำเป็นจะต้องถามอีก...ไม่นานโรงแรมม่านรูดแห่งนี้จะเป็นสถานที่ๆพี่ เซคสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้ตามต้องการและเธอจะพาใคร(สาวๆ)มาเปิดห้อง เพื่อหาความสุขกันก็ย่อมกระทำได้ตามใจปรารถนาส่วนตัวฉันก็จะกลับไปสะสาง เรื่องที่ยังค้างคาอยู่...
...........................................................................................................................................

“เมื่อกี้แทบไม่อยากจะออกจากรถเลยให้ตาย...อึ๊ย!!”
...ฉัน พยายามเดินให้เป็นปกติทั้งที่ความจริงอยากนั่งเก้าอี้เต็มแก่...ตอนนั้นไม่ ค่อยเจ็บเท่าไหร่แต่พอเวลาผ่านไปนานเข้ามันสุดแสนจะเจ็บก้นมาก...นี่สินะที่ เขาเรียกกันว่า “เสียวสนุกจนลืมตัวลืมสติ” ...
“คอยดูเถอะพี่เซค...วันหลังแคทจะเอาคืนแน่”
“ปี้จ๋า~~”
“ฝน...มานานแล้วหรือ?”
“เพิ่งมาถึง...พี่ไปเฝ้าบอลก่อนล่ะกันหนูขอไปหาอะไรกินสักหน่อย”
“ปล่อย ให้พี่ไปดูแลบอลแค่คนเดียว?...หึ!...ถ้าเจ้าคนบ้านั่นพูดจาโยกโย้กวนประสาท จนพี่ระงับอารมณ์ไม่อยู่แล้วเผลออัดขึ้นมาก็อย่าโทษกันนะ”
“เจ๊ไม่ทำอย่างพูดหรอก...หือ?”
“อะไร?”
“..............................................”
“เดี๋ยวเหอะ!!...เที่ยวดมไปทั่วเลยนะ”
(ระ...หรือ ว่ายังมีกลิ่นแปลกๆติดอยู่ที่ตัวเรา?...ไม่น่าจะเป็นไปได้ในเมื่อเราอาบน้ำ ล้างถูทำความสะอาดอย่างดีแถมพี่เซคก็เอาชุดชั้นในกับเสื้อผ้าใหม่มาให้เรา เปลี่ยนแล้วด้วย!?)
“นี่คือกลิ่นของเอื้องคำ...ก่อนหน้านี้ไปอยู่กับพี่เซครึ?”
“...ใช่”
“โฮ่~”
“?”
“โฮ่~~”
“อะไรอีก?”
“โฮ่ว~~~”
“นี่!!...จะพูดอะไรก็พูดเอาแต่โฮ่ๆอยู่ได้แล้วสายตาแบบนั้นน่ะ...”
“เฮะ!...หนูยางมะด้ายว่าอารายเยย~~...เจ๊จะร้อนตัวปายทามมายเนี่ย?”
“ใครร้อนตัวยะ!?”
“เอาน่ะๆฝนพอจะเดาออก...คิกๆๆ...มันเรื่องส่วนตัวเนอะ”
“อุ๊!!”
“เป็น’ไรอ่ะ?”
(อูย~~...ตีก้นซะแรงเลย...ไม่ได้!!...จะให้แม่น้องสาวตัวดีรู้ไม่ได้ว่าเราไปถูกพี่เซคชำเราประตูหลังมา)
“เปล่า...จะไปหาของกินก็ไปซี่!”
“...ตังค์”
“เดือดร้อนกระเป๋าพี่อีกละ?”
“นิดหน่อยเอง”
“เอ้าๆ”
“ฮี่!...เดี๋ยวมาน๊ะ”
...ฉัน ไม่อิดออดที่จะควักเงินเพราะอยากให้ฝนรีบไปเร็วๆ...นับวันยิ่งฉลาดขึ้นๆแฮะ เด็กนี่!?...แน่ล่ะ!...อย่างไรเธอก็รู้จักผลข้างเคียงของสุริยะโลหิตดีซะ ยิ่งกว่าบทเรียนในหนังสือซะอีก...
“ติดต่อเรื่องอะไรคะ?”
“ฉันมาเยี่ยม...คุณ...เอกคเชนทร์ห้อง 505 ค่ะ”
“อ๋อ!...เมื่อสักครู่ก็มีคนมาเยี่ยม”
“ใคร?”
“ผู้หญิงสองคนค่ะ...คนนึงเป็นนักศึกษาส่วนอีกคนแต่งชุดนักเรียน”
(น้องสากับน้องอ้อย!?)
...ความ คิดครั้งแรกของฉันคิดว่าคือสองคนนี้แต่เอาจริงกลับไม่ใช่และทำให้ฉันต้อง หยุดแอบมองที่ช่องประตู...บุศยากับน้องสาวของเธอกล้ามาถึงที่นี่เลย!?...
“บอลไม่ต้องกลัวค่ะ...ไม่มีใครมาเห็น”
“โบว์กับคุณพี่อุตส่าห์มาเยี่ยมด้วยความเป็นห่วงนะคะ”
...เป็น ห่วงประสาอะไรกัน?...ห่วงใยมากถึงขนาดขึ้นนั่งบนเตียงคนไข้กับกลุ้มรุมหอม แก้มกอดรัดฟัดเหวี่ยงผู้ชายเนี่ยนะ!?...หึ!...ดูเหมือนเจ้าหนุ่มญาติผู้น้อง ตัวดีจะชอบใจซะด้วยเพราะไม่เห็นมีสีหน้าโกรธเคืองอะไรเลย...ทั้งสองคนต่างก็ ถูกฉันสั่งสอนมาแล้วแต่ยังไม่รู้จักเข็ดหลาบ...
“ท่าทางมีความสุขเสียจริงนะ”
“!?”
“ผู้หญิงใจร้ายที่บังอาจตบหน้าคุณพี่เรอะ?”
“กับพวกไร้ยางอายชอบแย่งของๆคนอื่นฉันไม่จำเป็นต้องใจดีด้วย!!!”
..................................................................................................................................

“น้องก็คาดคิดไว้แล้วว่าสักวันจะต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้”
“พวกเราทำตัวเฉยๆไว้ซะ...แล้วธุระที่ไปทำได้ความว่าไง?”
“...ของปลอม”
“?”
“แอบ อ้างตนเป็นผู้วิเศษแลหลอกลวงชาวบ้านเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เข้าพกเข้า ห่อ...น้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจับกุมพวกมันไปรับโทษแล้ว”
“แต่ก่อนนั้นม่อนคงจะ...เชือด...นิ่มๆ”
“..............................................”
“เฮ้อ~~...อุตส่าห์ไปซะไกลนึกว่าจะได้เจอคนที่เหมือนเธอเสียอีก...ต่อไปจะทำอะไร?”
“อันดับแรกคือไปพบผู้ที่ทำให้ท่านพี่สุรีย์พรรณเกิดความลังเลใจ”
“อึย!!...มันจะผิดข้อตกลงที่พี่ให้กับคุณแม่”
“มิเป็นไรดอก...น้องหาได้ปรากฏตัวต่อหน้าเอกคเชนทร์ในรูปลักษณ์ของศรมุกดาไม่”
“ตอนไหนเหรอ?”
“...ประมาณยามสามเจ้าค่ะ”
“อ่ะ!...เอาแค่พอหอมปากหอมคออย่าเล่นหนักเกินไปนะเพราะคุณแม่เอ็นดูมันมาก...หากเจ้านั่นเป็นอะไรขึ้นมาเราจะซวยทั้งคู่”
“.............................................”
..............................................................................................

...สำหรับตอนนี้ไม่ต้องถึงมือผู้ชายส่วนเหตุการณ์ในตอนหน้าจะมีเรื่องน่าพิศวงเกิดขึ้นกับนายบอลของเรา...

ตอนที่แล้ว ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 54
ตอนต่อไป ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 55

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 54

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 54 “แหวนดอกหญ้า...คำมั่นสัญญาอันสูงส่ง!?”

“คุณแม่ไปโรงพยาบาลอีกแล้ว?”
“ค่ะ”
“นายเศกน่ะพอเข้าใจแต่ไอ้อีกคนนี่...ผลตรวจร่างกายก็ไม่มีอะไรผิดปกติแต่เดาะนอนห้องพิเศษเชียวนะ”
“..........................................”
“แคทไปเรียนรึ?”
“ค่ะ...เพิ่งออกไปเมื่อสักครู่”
“ทั้งที่อายุยังน้อยแต่กล้าต่อกรกับแคทที่กำลังโมโห...ฉันนับถือพวกเธอสี่คนมาก”
“แม้จะเป็นเรื่องที่ขลาดเขลาแต่ก็จำต้องใช้วิธีรุมสี่ต่อหนึ่งและคุณอรนิภาก็อนุญาตแล้ว...คุณสุรีย์พรรณช่างเป็นนักสู้ที่มากด้วยความสามารถจริงๆค่ะ”
“แต่ในสายตาของฉัน...แคทยังอ่อนหัดอยู่”
“คุณ...ว้าว!!!”
“มีอะไรหรือจ๊ะ?”
“ไม่...ไม่...ไม่มีอะไรค่ะ”
“ส่วนเธอไปบอกให้น้องๆเตรียมตัวกันได้...เราจะกลับโยนกอุดรบ่ายนี้”
“ค่ะ”
“..............................................”
“หือ!?...มาหาน้าถึงห้องมีอะไรจ๊ะ?”
“..............................................”
“เออใช่!...หนูเซคมีแฟนหรือยัง?”
“มีหลายคนค่ะ”
“เฮ้ย!!...คบ...คบผู้ชายพร้อมกันหลายคนเหรอ?”
“...ก็เพื่อคัดเลือกหาคนที่ดีที่สุดไงคะ”
“โอ้โห!?...ตอนน้าอายุเท่าหนูน่ะไม่มีโอกาสแบบนี้เพราะลูกสองกับหลานอีกเป็นโขยงแล้วจ้า~~...ว่าแต่จะแต่งเมื่อไหร่?”
“หนูยังไม่คิดหรอกค่ะ”
“ปีนี้เซคอายุ 26 ใช่มั้ย?...งั้นก็น่าจะคิดได้แล้ว...ผู้หญิงแต่งงานอายุ 30 ขึ้นไปมันดูไม่ค่อยดีน่ะจ้ะ”
“ถึงจะไม่ได้แต่งงานหนูก็ไม่อนาทรร้อนใจอะไรค่ะ”
“ไหงพูดอย่างนั้น?...ความสุขของผู้หญิงก็คือการแต่งงานกับมีลูกนะ”
“หากคุณน้าไปถามน้องแคทก็อาจจะได้คำตอบอย่างเดียวกัน”
“...เหรอจ๊ะ?”
“อีกอย่างแคทก็ยังเรียนหนังสืออยู่...ในความคิดของเซค...การที่เธอไม่สนใจความรักระหว่างเรียนถือว่าเป็นเรื่องดีนะคะ”
“อืม--...นั่นสิเนอะ!!...ก็ขนาดเจ้าตัวเค้ายังไม่เดือดร้อนแล้วเราจะไปมัวกลุ้มใจแทนทำไม?”
“ว่าแต่คุณน้า...อยู่ต่ออีกวันไม่ได้หรือคะ?”
“ลางานถึงแค่วันนี้เอง...อะ...อุ๊ย!!...ทะ...ทำอะไรจ๊ะ?”
“คุณน้าเนี่ย...ยังสวยอยู่เลยนะคะ”
“อย่าจ้ะ!!...ผ้า...ผ้ามันจะหลุด~~”
“ทรวดทรงองค์เอวน้านิภายังอวบอัดดีเหลือเกิน...น้าศักดิ์ช่างโชคดีนัก”
“เอ๋!?...รึที่หนูพูดว่ามีหลายคน...ไม่ใช่...ไม่ใช่ผู้ชายเรอะ?”
“แล้วเซคบอกเมื่อไหร่คะ?...หึๆ”
“หวาเลสเปี้ยน!!...หลานสาวฉันเป็นเลสเปี้ยน!?...ว้าย!!!”
“คุณน้าอย่าเสียงดังสิคะเดี๋ยวพวกเด็กๆมันจะได้ยิน”
“............................................”
“คุณน้าเป็นสาวอายุสี่สิบที่เพอร์เฟ็คส์ที่สุดเท่าที่หนูเจอมาเลย...อ้า!!...ตัวคุณน้าหอมจัง”
“แหม~~...หนูเซคชอบผู้หญิงด้วยกันก็ไม่บอกปล่อยให้น้าเข้าใจผิดอยู่ได้”
“ไม่รู้ว่าหนูเป็นเลส?”
“...ไม่เลย”
“ในเมื่อรู้แล้วคุณน้าจะทำยังไงต่อคะ?”
“ก็จะถามน่ะสิว่าแคทกับฝนเสร็จหนูไปแล้วหรือยัง?”
“คิกๆ...ไม่เหลือค้า~~”
“ว้าย!?...หนูเซคนิสัยไม่ดีอ่ะ!!...ทำกับลูกสาวน้าได้ยังไงเนี่ย?”
“ถ้ากลัวเสียเปรียบล่ะก็...”
“อ๊ะ!?...ไม่นะ!!...ตรงนั้นมัน~~”
“หนูจะทำให้คุณน้ารู้จักประสบการณ์แปลกใหม่...ดีมั้ยคะ?”
“อืมมมมมมมมมม...ก็...ก็ดีอยู่จ้ะ...ตะ...แต่...”
“งั้นก็ยังจะมัวรออะไรอีก?”
“แต่...น้าไม่ใช่เลสเปี้ยนนะจ๊ะขอบอก”
“อูยเจ็บ!!...อ๊ะ!?...อย่าปิดประตูสิคะ”
“ไม่เอาไม่เปิด...เพราะน้าชอบผู้ชายย่ะ!!...ฮิๆๆๆ”
“โธ่คุณน้านี่ล่ะก็~~...หลอกให้เซคดีใจเล่นซะงั้น!?...เจ้าเล่ห์แสนกลเหมือนน้องฝนเลย”
“อ๋า~~...เด็กคนนั้นต่างหากที่เหมือนน้า...ขืนพูดผิดอีกระวังจะถูกฟ้องนะเออ!!”
“ฟ้อง?”
“ก็ที่หนูเซคพยายามจะปลุกปล้ำทำมิดีมิร้ายกับน้าไง...จะฟ้องแม่หนูด้วย!!”
“คุณแม่ไม่ดุหนูหรอกและคุณน้าก็รู้เห็นเป็นใจด้วยไม่ใช่หรือ?”
“เปล่านะ!!...ใครว่าน้า...”
“งั้นก็ออกมาคุยกันสิคะ”
“ถ้าน้าหลงกลหนูเซคซ้ำสองก็แย่แล้วละ...แบร่~~...หลอกลูกฝนกับลูกแคทได้แต่หลอกน้าไม่ได้ร้อก!!...ฮะๆๆ”
“แรกๆน้องฝนก็อย่างนี้แหละแต่สุดท้าย...เสร็จหนู”
“เซคก็เจ้าชู้เหมือนบอล...”
“คุณน้าอย่าเอาหนูไปเปรียบกับผู้ชายคนนั้นนะคะ...หนูไม่เหมือนมันเลยสักนิดเดียว!!!”
“ไม่เหมือนยังไง?”
“เจ้านั่นมีคนรักแต่กลับนอกใจแอบไปหาหญิงอื่นถือเป็นพฤติกรรมที่ชั่วช้าเห็นแก่ได้ที่สุดส่วนหนูยังไม่เคยสัญญาจะเป็นแฟนกับใครเลยสักคนแล้วจะบอกว่าเหมือนกันได้อย่างไร?...หนูยังไม่บ้าหาบ่วงมารัดคอตัวเองหรอกค่ะ...ใช้ชีวิตอิสระแบบนี้สบายใจกว่ากันเยอะ”
“..............................................”
....................................................................................................................................

“สาคิดดีแล้วหรือ?”
“ฉันตัดสินใจรอบคอบแล้ว”
“..............................................”
“อะไรที่ได้มาง่ายๆคนเรามักจะไม่เห็นคุณค่า...ฉันเองก็ผิดพลาดมาแต่ต้น...ผิดที่ใจง่ายเกินไป”
“ไม่หรอก...คนที่ผิดมากที่สุดคือผม”
“พูดอะไรอ่ะ?”
“ฝน...เธอก็รู้จักฉันดีไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่!...ฝนรู้จักบอลว่าเป็นคนมีน้ำใจไม่ทอดทิ้งผู้อื่นหนีเอาตัวรอดตามลำพังและปฎิเสธคำขอร้องของใครไม่เก่งเลย...แล้ว...แล้วมันผิดตรงไหนเล่า!?...หากบอลจะผิดก็คือผิดตรงที่เขาใจดีเกินไปนะสา!!”
“แต่บางครั้งความใจดีที่มากเกินก็นำมาซึ่งผลเสีย...นังบุศกับน้องสาวมันรู้จุดอ่อนนี้จึงเอามาใช้เป็นประโยชน์”
“..............................................”
“เฮ้อ~~...แต่เพราะบอลดีกับทุกคนและพยายามจะมอบความรักให้อย่างทั่วถึงแบบนี้...สาถึงทำใจโกรธบอลต่อไปอีกไม่ได้”
“สา”
“มาเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้งนะบอล...พวกเรายังคบเป็นแฟนแต่ไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศมาเกี่ยวข้องจนกว่าจะถึงเวลาที่สมควร...เหตุต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเราศึกษานิสัยใจคอเรียนรู้ตัวตนของกันและกันได้ไม่ดีพอ”
“แฮ่ม!!...สาตัดสินใจอย่างนี้ต้องได้ใจคุณยายไปเต็มๆแน่เลย”
...เช้าวันนี้สาแวะมาเยี่ยมพร้อมกับให้คำตอบว่าเธอ,กุนและอ้อยยินดีปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คุณย่าอุทุมพรกำหนดโดยไม่มีข้อแม้ใดๆซึ่งคุณพ่อของผมก็ได้แจ้งให้ทางโยนกจัตุรัสทราบแล้ว...
“พี่กุน,สารึแม้แต่หนูอ้อยยังมีเยื่อใยให้บอลอยู่นะ”
“............................................”
“แค่สองปีเอง...อย่าซีเรียส”
“เห็นฉันเป็นไอ้บ้ากามตามพี่แคทไปแล้วเรอะ?...ฉันไม่ขาดใจตายกะอีแค่ไม่ได้ทำอย่างว่านะเว้ย!!”
“โฮ่~~...แต่เงื่อนไขมันจำกัดแค่แฟนเท่านั้น...บอลยังไปฉึกๆกับสาวอื่นได้อีกน่ะซี้!!”
“บ้าสิ!!”
“ฝนมองออกน๊าว่าเงื่อนไขนี้บอลได้เปรียบ...คึๆๆ...อยากเห็นคนคิดวิธีนี้ออกมาจัง”
“ฉันจะไปทำกับใครอีกเล่า!?”
“ไม่มีจริงน่ะ?”
“เออ!!”
“ขี้จุ๊!!...เค้ารู้ว่าตัวเองยังแอบซ่อนสาวๆน่ารักไว้อีก?”
“มีที่ไหน?...เธออย่ามั่ว!”
“จะให้พูดมะ?”
“เชิญ!!”
“เริ่มจากในบ้านที่รู้อยู่ก็มีพี่กุน,สา,หนูอ้อย...ฮึ!!...แม้แต่เด็กมัธยมก็ไม่เว้นนะนาย”
“ทำไงได้ก็คนมันมีเสน่ห์”
“ฮิ!...เสน่ห์ของตัวเองนี่ช่างแน่ซะจริงนะขนาดสาวใหญ่ยังหลงใหล...ป้ากวางกับป้าศรีก็มีอะไรกับบอลด้วย...อู้ๆๆ”
“เธอ...เธอเอาอะไรมาพูด!?”
“แฮ่~~”
“กัด!!...กัดเหรอ?...นี่ๆ”
“ใจร้าย~~...รังแกสาวน้อยน่ารักได้ลงคอ!!...ฮี่ๆ...หลักฐานกับพยานครบครันดิ้นไม่หลุดทั้งรูปถ่ายและเทปลับนะจะบอกให้”
“............................................”
“ไม่แก้ตัวอีกรึ?”
“...ฉันไม่มีอารมณ์จะโกหกใครอีกแล้ว”
“ยอมรับง่ายจัง!?...ไม่สนุกเลย--”
“ทีนี้เธอก็ได้รู้ซึ้งแล้วว่าฉันเป็นผู้ชายที่มักมากในกามขนาดไหน”
“...แล้วไง?”
“ยังจะถามว่าแล้วไง?...ฉันเป็นคนประเภทไหนเธอก็รู้ดีฉะนั้นต่อไปไม่ต้องมาปกป้องหรืออะไรหรอก!!...ฉันไม่มีค่าพอ...”
“หยุดนะ!!!...เลิกว่าตัวเองซะที”
“............................................”
“ความจริงที่นายแอบได้เสียกับป้ากวางและน้าศรี...ฝนรู้มาก่อนเกิดเหตุที่หอพักซะด้วยซ้ำ”
“เธอ...เธอรู้!?”
“ถูกต้อง!!...บอลเที่ยวไปมีกิ๊กกับใครที่ไหนบ้างฝนก็รู้หมดเช่นกัน”
“............................................”
“ทั้งที่บอลทำตัวเหลวใหลจนพี่แคทฉุนขาดแต่ฝนก็ยังเลือกเข้าข้างบอลเพราะอะไรรู้ไหม?...เพราะฝนไม่เอามันมาใส่ใจเลยสักนิด...จริงอยู่ที่ตอนแรกฝนก็โกรธว่าทำไมบอลจึงมีนิสัยเจ้าชู้แบบนี้แต่พอมาลองคิดถึงอนาคตที่บอลอาจจะได้เป็นนายใหญ่ของตระกูล...มันช่างธรรมดามากเหลือเกิน”
“หมาย...หมายความว่าไงที่บอกธรรมดา?”
“ขออนุญาตค่ะ”
“............................................”
...เจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บขยะและปัดกวาดถูห้องพอดีเราสองคนจึงหยุดสนทนากันแค่นั้น...ความเจ้าชู้เป็นเรื่องที่ธรรมดามากถ้าผมรับตำแหน่งนายใหญ่!?...เหตุใดฝนจึงพูดเช่นนี้?...
“รักกันดีนะคะ”
“ครับ”
“แฟนคุณนี่ดีจังคอยมาดูแลให้ตลอดเลย”
“ยัย...ยัยนี่ไม่...อุ๊บ!!!”
“ทำไงได้คะคุณป้า?...ก็แฟนหนูคนเนี้ยหัวดื้อหัวรั้นจะตาย~~...ปากแข็งที่หนึ่งแกล้งมึนก็ไม่เป็นสองรองใครด้วย”
“พูด...พูดอะไรฟะ?”
“ฮะๆๆ...หนุ่มๆสาวๆก็แบบนี้แหละค่ะ”
...ผมจะเอ่ยปากว่านี่ลูกพี่ลูกน้องไม่ใช่แฟนก็ถูกฝนหยิกแขนมั่บ...มองเธอๆก็แลบลิ้นพลางทำแววตายียวนใส่ให้อีก...
“อยู่คนเดียวนะ...ฝนจะไปหาของกิน”
“ไม่กินข้าวเช้ามาหรือไง?”
“กินแต่มันหิวน่ะ...เอาอะไรมั้ยจะซื้อมาฝาก?”
“...ไม่เอาหรอก”
...พอมาลองพิจารณาดีๆเงื่อนไขของคุณย่าอุทุมพรก็ไม่ค่อยยุติธรรมกับสาวๆเท่าไหร่นักแต่ผมนี่สิ...ก่อนหน้านี้ป้าเอ็มบอกว่าเบื้องหน้าให้ทำตัวดีๆห้ามไปข้องแวะกับผู้หญิงคนไหนจนเกินงามแต่เบื้องหลังเธอจะช่วยปลดเปลื้องความต้องการทางเพศให้ผมซึ่งแน่นอนว่ามีข้อแลกเปลี่ยนนั่นก็คือ...
(“ตาหนูห้ามไปมีอะไรกับกวางฤทัยและศรีวิกาเด็ดขาด”
“...แต่เงื่อนไขจำกัดแค่แฟน?”
“เดี๋ยวเหอะ!!!...มีป้าเป็นคู่นอนอยู่ทั้งคนแล้วยังจะอาลัยอาวรณ์ยัยหน้าเหี่ยวพวกนั้นทำไมอีกและก็สำนึกมั่งสิว่าที่ต้องมานอนโรงพยาบาลนี่เป็นเพราะอะไร?”
“พี่แคททำร้ายผม”
“ก็ที่ถูกทำร้ายน่ะมันเพราะอะไรห๊ะ?...เพราะผู้หญิงที่ชื่อบุศยาใช่มั้ย?”
...ฝนเล่าว่าเหตุที่พี่แคทโกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็เพราะบุศกับโบว์บุกไปกล่าววาจาดูถูกเหยียมหยามสาถึงบ้านแถมยังเลยเถิดไปถึงกุนด้วยซึ่งประเด็นอย่างหลังนี้แหละที่ทำให้เธอเป็นเดือดเป็นแค้นผมนักและก็ยังตามไปตบหน้าบุศถึงบ้านอีกด้วย...
“อีกอย่าง...ป้าตกลงซื้อบ้านใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
“เร็วจัง!!!”
“ชักช้าไม่ได้...ความจริงป้าเสาะหามาก่อนหน้าจะไปเที่ยวพักหนึ่งแล้วเพียงแต่ไม่พูดอีกอย่างตาหนูก็ไม่บาดเจ็บอะไรมากฉะนั้นจะอยู่โรงพยาบาลนานไม่ได้...ป้าจะสั่งให้คนไปขนของทั้งหมดจากหอพักแคบเท่ารูหนูนั่นมาไว้ที่บ้านหลังใหม่และช่วงแรกตาหนูต้องทนอยู่คนเดียวไปก่อนนะ”
“ผมมักจะอยู่คนเดียวมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ”
“ให้มันจริงเหอะ?...พ่อบอลอย่าแอบพาสาวมากกล่ะกัน...ป้าไม่ยอมจริงๆด้วย!!!”
“อย่าบอกนะครับว่าหึง?”
“หึงสิยะ!!...ลับหลังคนอื่นตาหนูก็เป็นผัวป้านิ!!!”
“ฮะๆ”
“แล้วป้าจะให้ลูกสาวมาอยู่ด้วยสองคน...จีบให้ติดนะ...คิกๆ”
“สองคน?”
“ไม่พอ?...งั้นจะเอาทั้งสี่คนเลยก็ได้นะ”
“ผมไม่ได้...ไม่ได้หมายความอย่างนั้นครับ!!!!”
“ป้าพูดเล่น...ที่จริงก็มีแค่สองคนเท่านั้นที่จะเป็นมิตรกับตาหนู”
“พี่ศรเพทายล่ะครับ?”
“สำหรับคนนี้...พ่อบอลไม่เจอเธอจะดีซะกว่าเพราะเวลาโกรธขึ้นมาน่ะน่ากลัวจริงๆ”
“ที่ว่าน่ากลัวนี่...”
“บอกได้แค่ว่า...หนูแคทกับหนูฝนชิดซ้ายตกขอบไปเลย”
“ไม่เคยเห็นฝนโกรธมากขนาดนั้น”
“ป้าก็ไม่เคยเห็นสุริยะโลหิตของหนูฝนกับตาตัวเอง...ได้ยินแต่นิภาเล่าให้ฟัง”
“เด็กร่าเริงสดใสแบบนี้น่ะเหรอ!?”)
...ตั้งแต่ได้เจอกันอีกครั้งในรอบสิบปีเมื่อช่วงกลางปีจนตอนนี้จะสิ้นปีอยู่แล้วผมก็ไม่เคยเห็นฝนโกรธใครเป็นจริงเป็นจังสักทีส่วนเหตุที่ร้านของพี่แก้วนั่นก็ไม่น่าจะเข้าข่ายเพราะยัยผีโดดเตะโดดถีบพวกนักเลงเป็นว่าเล่นแต่ก็นั่งปรบมือหัวเราะชอบใจไปด้วย...คิดไปคิดมาก็ยิ่งงง...
“ฮ้า~~...อิ่มจังตังค์อยู่ครบ”
“เธอไปกินอะไร?”
“ก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดข้างๆโรง’บาลนี่เอง...ซัดตั้งสี่ชามแน่ะ”
“กินจุแท้...สาธุ!!...ขอให้เป็นหมูตอน”
“ว่าไงน๊ะ?”
“เปล่า”
“ได้ยินหมูตอนๆ...เดี๋ยวเหอะ!!...ฝนไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนตอนเด็กหรอกน่า--”
“จริงด้วยสิเนาะ!!...เธอในสมัยเด็กทั้งดำทั้งอ้วนแถมขี้แยชอบร้องให้ขี้มูกโป่งอีกต่างหาก”
“แล้วปัจจุบันตรงหน้าบอลเล่า?”
“............................................”
“ว่าไงๆ”
“เธอ...”
“จ๋า~~”
“...เธอน่ารัก...และ...และก็เป็นผู้หญิงสวย”
“ฮิๆๆ...งั้นก็จีบซะสิ”
“พะ...พูดอะไรน่ะ?...เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันนะ!!!”
“แง้ว~~...เบื่อจังเล้ยไอ้คำว่าลูกพี่ลูกน้องเนี่ย!?”
“............................................”
“............................................”
“อะ...เอ้อใช่!!...แล้วไอ้ที่พูดว่าอิ่มจังตังค์อยู่ครบเนี่ยใครจ่ายให้?”
“อ๋อ!!...มีเศรษฐีเลี้ยงจ้า?”
“ใครฟะ?”
“อย่าไปสนใจเลย...เรื่องของตัวเองสำคัญกว่าเยอะ”
“ฉันทำไม?”
“ตกลงบอลจะเลือกใครระหว่างสากับพี่บุศ?”
“.............................................”
“ตัวเองจะเลือกใคร?”
“.............................................”
“แฮ่!!”
“เอ้ยอะไรวะ!?”
“เค้าถามว่าตัวเองจะเลือกสาหรือพี่บุศ?”
“..............................................”
“ไม่ตอบรึ?...งั้นก็แสดงว่านายน่ะ...ชอบผู้หญิงคนอื่นอีกชัวร์”
“มีที่ไหน?”
“ต้องมีซี่!!...ใคร?”
“เพ้อเจ้อ!”
“ฝนอยากรู้...บอกมาๆๆๆ”
“แล้วนี่จะขึ้นมาบนเตียงคนป่วยทำไม?”
“ถ้าตัวเองไม่บอกความจริงเค้าจะไม่ลง...ใช่แล้ว!!!...ยังไม่ได้รางวัลเลย”
“รางวัล?”
“ฝนน่ะยอมผิดใจทะเลาะกับพี่แคทเพื่อจะปกป้องบอลเชียวนา--...จนป่านนี้ก็ยังไม่คุยกันเลยสักคำด้วย”
“............................................”
...ผมนอนโรง’บาลได้สองวันแล้วแต่ไม่เห็นพี่แคทมาเลยซึ่งก็ไม่รู้ว่าเธอตั้งใจหรือถูกป้าเอ็มกับอานิภาสั่งห้ามกันแน่?...
(แต่ไม่มาน่ะดีแล้วเพราะขืนเห็นหน้าเราหล่อนอาจจะอารมณ์ขึ้นอีก)
“เจอกันที่มหา’ลัยก็แค่ไม่กี่ครั้งเอง”
“ไม่ได้อยู่บ้าน?”
“เปล่า...ไปค้างบ้านพี่...”
“พี่?”
“ก็เป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลนี้ไง”
“ลูกสาวป้าเอ็ม?”
“อื้อ!”
...ผมยังไม่เคยเจอ “ศรเพทาย” ลูกสาวคนโตของป้าเอ็มสักครั้งซึ่งเธอเป็นเจ้านายที่แท้จริงของสามพี่ น้อง...เอ--...ที่ว่าโกรธใครขึ้นมาจะเอาให้ถึงตายนั่นมันเวอร์เกินไปหรือเปล่าอีกอย่างหล่อนก็เป็นหมอรักษาคนป่วยด้วย!?...
“เอารางวัลๆๆ”
“ฉันไม่มีเงิน...อะ”
“.................................................”
“อุ!!...อู้~~”
“.................................................”
“อย่า!...อุ๊บ!!!”
“อื้ม~~...นิ่งๆซี่!!”
“!!!!!!!!!”
...อ๊าาาาาา!!!!... รางวัลที่ฝนต้องการก็ไม่ใช่เงินแต่คือจูบกับผมหรอกเหรอนี่...จูบ...จูบเก่งไม่เบาเสียด้วยนะเนี่ยแม่เขี้ยวแหลมคนนี้...
“ฮิๆๆ...รางวัลที่หนึ่งสำหรับเค้าเลย”
“เธอ...เธอ”
“สบโอกาสที่อยู่กันสองต่อสอง”
“ฉันไม่ได้จะถามเรื่องนี้...แต่...แต่...”
“นี่เป็นรางวัลที่ฝนสมควรได้ในฐานะที่ยอมเสี่ยงอันตราย...แค่นี้ไม่สึกหรอร้อก!!...ทีบอลจูบสาวๆคนอื่นมาตั้งไม่รู้เท่าไหร่ไม่เห็นโวยเลย”
“แต่เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน”
“ไม่สน”
“!!!!!”
... “ไม่สน” งั้นเหรอ!?...คำนี้มีความหมายลึกซึ้งกว่าที่คิดมากมายมหาศาลเลยละ!!!!...ฝนตั้งใจส่งสัญญาณที่ชัดเจนให้ผมรู้ถึงความในใจของเธอ...เดี๋ยว!!!...มันจะใช่แน่หรือเปล่าก็ไม่รู้และยังมีปัญหาใหญ่รออยู่ดังนั้นผมจะมาคิดไม่ดีกับญาติพี่น้องของตัวเองได้อย่างไรกันล่ะ?...
(แค่นึกหน้าพี่แคทก็เสียวสันหลังวาบขึ้นไปถึงสมองแล้ว...ไม่ดีๆๆ)
“...ฉันไม่ดีพอสำหรับเธอ”
“ใครว่า?...บอลเป็นผู้ชายนิสัยดีจะตายไป”
“เจ้าชู้ซะจนพี่แคทโกรธควันออกหูและก็ส่งมานอนกินข้าวต้มในโรง’บาลเนี่ยนะนิสัยดี?”
“ขึ้นชื่อว่าผู้ชายก็ต้องเจ้าชู้หาเศษหาเลยกันบ้าง”
“เธอนี่...ช่างไม่เหมือนพี่สาวเลยจริงๆ”
“ไม่ว่าคนอื่นจะมองบอลเป็นยังไงแต่สำหรับฝน...บอลคือผู้ชายที่ดีมาก”
...อะไร!?...ไม่ว่าผมจะยืนกรานว่าเป็นคนไม่ดียังไงแต่สาวน้อยเขี้ยวแหลมก็ยังแย้งอยู่นั่นแหละ...
“เชื่อเถอะ...ถ้าไม่แน่ใจแล้วจะพูดออกมาได้เรอะเพราะความรู้สึกของฝนที่มีต่อบอลน่ะมันได้ก้าวข้ามทุกอย่างไปจนหมดสิ้น”
“ก้าวข้าม...ทุกอย่าง...”
“แม้แต่กำแพงที่เรียกว่าลูกพี่ลูกน้อง...ฉันมองนายเป็นผู้ชายคนหนึ่งไม่ใช่พี่ชายอย่างที่ใครๆเข้าใจกันนะจะบอกให้”
“!!!!!!!!!!!!!!”
“ฝะ...ฝน...นี่...นี่เธอพูดอะไรออกมารู้ตัวมั้ย?”
“ฉันมีสติครบถ้วน”
“ธะ...เธอเห็นฉันดีตรงไหนมั่ง...พูดให้ชัดๆอีกครั้งซิ”
“...ตัดประเด็นเจ้าชู้ออกไปนะ...ตัดออกไปเลย”
“อือ--”
“บอลน่ะกินเหล้าบ้างแต่ไม่มากบุหรี่ไม่สูบการพนันอบายมุขไม่ยุ่งการเรียนใช้ได้รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาสมชายชาตรีถึงแม้จะ...ปากแข็งไม่ค่อยยอมรับความรู้สึกตัวเองก็เหอะแต่บอลเป็นคนมีน้ำใจไม่ทอดทิ้งเพื่อนกับคนรอบข้างอย่างเช่นเมื่อสองวันก่อนที่ไม่หนีเอาตัวรอดและปกป้องฝนทั้งที่ตัวเองก็บาดเจ็บ...นี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมมุมมองของฝนจึงไม่เหมือนพี่แคทที่ยึดถือแค่คติผู้ชายที่ดีต้องรักเดียวใจเดียวเท่านั้น”
“................................................”
“เพราะฉะนั้นในสายตาของฝน...บอลจึงเป็นคนดีแน่นอน”
...หยาด ฝน เทวะกรนันท์...เด็กสาววัย 18 ปีคนนี้มองข้ามความเจ้าชู้ของผมไปอย่างไม่แยแส...เธอสนใจแต่ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีน้ำใจต่อพวกพ้องของผมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด...
“และเรื่องแหวนดอกหญ้าที่บอลทำให้ฝนพร้อมกับคำมั่นสัญญาอันสูงส่งนั่นน่ะ”
“...............................................”
“เค้ารู้น๊าว่าตัวเองนึกออกหมดแล้วแต่แกล้ง~~...ร้ายนัก!!”
“คือว่า...
“ถ้ายังแกล้งนึกไม่ออกอีกฝนจะช่วยเตือนความจำให้ก็ได้...ทำแบบเมื่อกี้ไง”
...สาวน้อยวัย 18 เขยิบมานั่งใกล้ผมอีกพลางสบตามองแป๋วแหววกับเอาปลายนิ้วแตะที่ริมฝีปากตัวเอง...
“เอ่อ--”
“หืม?”
“อาหารกลางวันค่ะ”
“ฝน...เขามาส่งอาหาร”
“จิ๊!!...กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย”
(เข้าด้ายเข้าเข็มอะไรกันเล่า!?)
“วู้ว!?...ข้าวสวยกับต้มจืดเต้าหูหมูสับและนี่ก็กุนเชียงทอดส่วนของหวานคือบัวลอย...มา--...ฝนป้อนให้”
“ฉันกินเองได้”
“ถ้าไม่ให้เค้าป้อนงั้นตัวเองก็ไม่ต้องกิน!!”
“มีอย่างนี้ด้วย?”
“คนป่วยน่ะนั่งเฉยๆ...อ้าม~~”
“.............................................”
“อ้าม~~”
“.............................................”
“กินเยอะๆจะได้แข็งแรง...เอ้าอ้าม~~”
“ฉัน...ฉันอาย”
“อายทำไมมีเราอยู่กันแค่สองคน?...อ่ะดื่มน้ำ”
“.............................................”
“อีกคำนึง”
...สมัยก่อนก็เป็นอย่างนี้ที่ฝนจะคอยดูแลเวลาผมไม่สบายและแหวนดอกหญ้าก็ถือกำเนิดมาด้วยเหตุผลนั้น...
(“พี่บอลจะเพิ่งหายไข้นะ...เข้าบ้านเหอะ”
“ไม่เป็นไรแค่สนามหญ้าหน้าบ้านเอง...พี่มีอะไรจะให้น้องฝนแน่ะ”
“อะไรอ่ะ?”
“นี่ไง”
“...นี่คือ...แหวน?”
“อื้อ!...ทำจากดอกหญ้า”
“เพราะพี่บอลรู้ว่าฝนอยากได้แหวนเหรอ?”
“เอาไว้ฝนโตขึ้นพี่จะซื้อแหวนจริงๆให้”
“จริงๆนะ?”
“สัญญาจ้ะ”
“เฮ!!...พี่บอลต้องซื้อแหวนมาขอฝนแต่งงานนะ”
“ใช่...โตขึ้นเราจะแต่งงานกัน”
“ว้าย~~...ฝนรักพี่บอลที่สุดในโลกเลย!!!...จนกว่าจะถึงวันนั้นฝนจะเก็บแหวนวงนี้ไว้”
“หนูๆจ๊ะ...เย็นแล้วนะ”
“แม่จ๋า...พี่บอลขอฝนแต่งงาน”
“พูดทำไม?”
“จริงเหรอ?...บอลสัญญาจะแต่งงานกับหนูฝนหรือ?”
“อ่า...”
“นี่ไงคะแม่...แหวนที่พี่บอลทำให้หนู”
“แหมใส่ได้พอดีนิ้วเลยนะแต่นี่แน่ะ~~...แหวนหมั้นน่ะเขาต้องสวมนิ้วนางข้างซ้ายนะจ๊ะ”
“อ๊ะ!?...พี่บอลจะไปไหน?”
“ก็...ก็เข้าบ้านน่ะสิ”
“รอฝนด้วย”
“ฮิๆ...พี่เขาอายหนูจ้ะ”
“โตขึ้นฝนจะเป็นเจ้าสาวของพี่บอลค่ะ...แม่ต้องยกฝนให้พี่บอลแค่คนเดียวนะคะห้ามยกให้คนอื่น”
“ตายจริงลูกคนนี้!?...มันยังอีกนานมากนะ?”
“ไม่ว่านานแค่ไหนฝนก็จะรอพี่บอลคนเดียวเท่านั้น...พี่บอลจ๋า~~...ฝนรักพี่ๆๆ...รักที่สุดในโลกเลยน๊า!!!!”
“ตะโกนทำไมเล่า?...อายเค้า”)
“ตัวเองหน้าแดงนี่!?...แสดงว่าต้องคิดไม่ดีกับเค้าแน่เลย!!!”
“ก็บอกว่าไม่...”
“ไม่ต้องเสียงดังขนาดนั้นก็ด้าย~~...ฝนรู้แล้ว”
“รู้อะไร?”
“ก็...รู้ว่าบอลยังชอบผู้หญิงคนอื่นอีกไงจ๊ะแล้วเธอก็...อยู่ใกล้ๆนี่ซะด้วย...ฮิๆๆ”
“...............................................”
...ทำ...ทำไมผมไม่ตอบปฏิเสธเล่าว่าที่ฝนพูดเมื่อกี้มันไม่ใช่ความจริง?...มันไม่ใช่ ...แหวนดอกหญ้ากับสัญญาว่าจะขอฝนแต่งงานนั่น...มัน...มันเป็นแค่การเล่นสนุกเมื่อครั้งยังเด็กไม่ใช่หรือ?...
“เค้าขอบัวลอยนะ”
“อือ--”
“ลาภปาก!”
“...............................................”
“อร่อยดีเหมือนกัน”
“นี่”
“จ๊ะ?”
“นั่งดีๆ...หวอออกแล้ว!!!”
“อ๋า~~...ลามก!”
“เธอนุ่งกระโปรงแต่นั่งชันเข่าเองนะ...ปิดซี่~~”
“ไม่อยากดูเหรอ?”
“หะ...เห็นฉันเป็นคนยังไงฟะ?”
“ปิดก็ได้”
“ไม่ใช่ให้เอามือปิด...เอาขาลงๆ”
“โฮ่~~...บอลยังเห็นอยู่รึ?...แสดงว่าของฝนก็ใหญ่เหมือนกัน”
“อะ...อะไรใหญ่?”
“ก็ตรงนั้นไงจ๊ะ...ขนาดเค้าเอามือปิดแต่ตัวเองก็ยังเห็นอีก...อา--...พอวับๆแวมๆอย่างนี้ตื่นเต้นดีใช่ม๊า?”
...ผมล่ะอายแทนฝนจริงๆแต่เธอก็จงใจนั่งชันเข่าโชว์กางเกงในยั่วกันอยู่ได้...นี่ผู้ชายทั้งแท่งนะเฮ้ย!!!...อย่างนี้เรียกว่าปิดเร๊อะ?...
(ช๊อตที่แม่สาวน้อยเอามือปิดเป้าแต่กางเกงในผ้าฝ้ายสีขาวขอบชมพูยังแลบออกมานี่มันช่างเด็ดขาดบาดอารมณ์เหลือร้าย...เห็นแล้วโด่ทันทีเชียวล่ะ!?)
“อยากดูชัดๆกว่านี้ไหม?”
“ดูอะไร?”
“รู้แล้วยังจะถามอีก?”
“อะ...”
“ถ้าเป็นบอลล่ะก็...ฝนเต็มใจนะ”
...เหงื่อแตกซิกเต็มตัวเลยกู!!!!...ลูกสาวคนเล็กของอาอรนิภาเปิดเกมส์รุกใส่ชนิดที่ผมตั้งตัวไม่ติดเช่นนี้...จะ...จะทำยังไงดี?...
“หวัดดีจ้าเด็กๆ!!”
“คุณอา”
“..............................................”
“ข้างนอกร้อนจัง...นี่มันฤดูหนาวแน่หรือเนี่ย?”
...ลงมาครั้งนี้คุณอาอรนิภาเปลี่ยนทรงผมใหม่เป็นตัดสั้นจากที่แต่ก่อนไว้ยาวประบ่า...แบบนี้ดูเธออ่อนเยาว์ขึ้นเยอะและไม่ค่อยรู้สึกถึงความตึงเครียดเท่าใดนัก...
(ป้าเอ็มบอกว่าสมัยอานิภายังเด็กสุดแสนจะซนเป็นลิงแถมชอบก่อเรื่องวุ่นวายไม่เว้นแต่ล่ะวัน)
“ทำไมมองหน้าอาอย่างนั้นจ๊ะ?”
“ปละ...เปล่าครับ”
“เอ้อแม่!!...พอบอลหายดีก็จะพาฝนไปเที่ยว”
“ฉันพูดเมื่อไหร่?”
“เมื่อกี้ไง”
“เอ๋!?...บอลจะพาน้องไปเที่ยวไหนหรือจ๊ะ?”
“คือผม...”
“อืม--... จะไปไหนอาก็ไม่ว่าหรอกแต่บอลต้องดูแลให้ดีๆนะ...อ้อ!!...ฝนค่อนข้างจะขี้อ้อนแต่ยังไงก็อย่าถือสามาก...แค่ตามใจกับง้องอนสักหน่อยก็ไม่มีอะไรแล้ว”
“จริงด้วย...เป็นอย่างนั้นเลย...คิกๆ”
“ฮิๆ”
...อานิภาพูดประโยคแบบนี้มันเหมือนกับตอนที่แม่ส่งลูกสาวเข้าเรือนหอยังไงก็ไม่รู้แฮะ?...รึเธอจะรู้กันกับลูกสาว!?...ต้องใช่แหงๆเลยเพราะทั้งคู่ลอบสบตากันแล้วก็หัวเราะในลำคอด้วย!!!!...
(วันที่เราทำแหวนดอกหญ้าให้ฝน...อานิภาก็เห็นนี่หว่า!!!)
“อ้าว!?...ภาก็อยู่เหรอ?”
“จะกลับแล้วล่ะค่ะ”
“ตามที่ตกลง...พี่จะสั่งให้ทุกคนปิดปากเงียบแม้กระทั่งลูกสาวก็ไม่ให้รู้”
“ขอบคุณพี่เอ็มมากค่ะ”
“เที่ยงพรุ่งนี้ตาหนูก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลนะ”
“ครับ”
“พี่เอ็ม...นี่พี่ดูสาวขึ้นหรือเปล่า?”
“เปล่าสักหน่อย...พี่คงจะแต่งตัวเหมือนสาววัยรุ่นมากไปมั้ง?”
“อือ--...ภารู้สึกเหมือนผิวพรรณพี่เอ็มดูมีน้ำมีนวลขึ้นกว่าเมื่อก่อน...ใบหน้าก็ผุดผาดเต่งตึงเชียว”
“คิดมากไปแล้ว!!...พี่ก็เป็นของพี่อย่างนี้ตลอดแหละ...จริงด้วย!!...ป้าเห็นพวกเพื่อนตาหนูอยู่ข้างล่างเดี๋ยวก็คงจะขึ้นมาเยี่ยม”
“งั้นฝนไปเรียนก่อนล่ะ...เย็นๆจะมาใหม่นะบอล”
“อะ...อืม”
...............................................................................................................................

“ที่จริงแม่ตั้งใจพาหนูสี่คนพี่น้องนั่นมาเที่ยวเปิดหูเปิดตาแท้ๆแต่พี่เราดันก่อเรื่องขึ้นซะนี่”
“หากไม่ได้พวกเธอช่วยก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรอีก?”
“นี่”
“คะ?”
“แม่เห็นนะว่าลูกฝนทำอะไร”
“เห็นด้วย!?”
“จูบพี่เขาเอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้เอยแกล้งนั่งถ่างขาโชว์แพนดี้เอย...ลูกชักจะใจกล้าเกินไปละ!”
“แหม!!...หนูแค่อยากรู้ว่าบอลจะมีอาการยังไงบ้าง?”
“มันจะดูน่าเกลียดเกินนะลูก--”
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปคือโอกาสของหนูแล้วค่ะแม่”
“แต่ลูกจงอย่าได้ลืมว่าหนูกุนหนูสายังเป็นแฟนบอลอยู่และทั้งสองก็ยอมทำตามเงื่อนไขของคุณยายโดยไม่บิดพริ้วซึ่งแสดงว่าพวกเธอมีความรักต่อบอลมาก”
“ฮิ!...เบื้องหน้าหนูคือเพื่อนที่คอยเอาใจช่วยแต่เบื้องหลังหนูจะทำตามใจของตัวเองอย่างเช่นเมื่อกี้”
“เฮ้อ~~...พี่เราได้อกแตกตายแหงๆถ้ามาได้ยินเข้า”
“ก็คงงั้นแหละแม่แต่ฝนจะไม่ถอยแล้ว!!...ใครที่ว่าฝนทรยศเพื่อนคนนั้นพูดผิดถนัดเพราะบอลให้สัญญาว่าจะแต่งงานกับฝนมาก่อนตั้งนานมากแต่ผู้หญิงคนอื่นต่างหากที่จ้องจะมาแย่งบอลไปจากฝน!!!”
“.............................................”
“มะม๊า?”
“แม่ขอถามอะไรหน่อยเถอะ...ลูกฝนชอบผู้ชายหรือผู้หญิงจ๊ะ?”
“เห!?”
“รึชอบทั้งสองเพศ?”
“แม่...แม่พูดอะไรเนี่ย!?...ฝนชอบผู้ชายนะคะขอบอก!!!”
“ชอบผู้ชาย...แล้วไหงถึงเสร็จหนูเซคได้อ่ะ?”
“จ๊าก!!!...มะ...แม่รู้แล้วเรอะ?”
“รู้สิก็แม่เกือบจะโดนเหมือนกัน...นี่ดีนะที่รอดได้อย่างหวุดหวิด”
“หวาย!!”
“มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น...เซคเป็นเลสเปี้ยนทำไมแคทกับหนูถึงไม่บอกแม่?”
“แม่ไปทำอีท่าไหนถึงจะถูกพี่เซคปล้ำเหรอ?”
“คือ...สายวันนี้แม่อาบน้ำเสร็จก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาคุยกับเซคซึ่งก็จ้องซะตาเป็นมันเชียวละแต่แม่ยังไม่กล้าคิดอะไรไม่ดี”
“แม่โชว์เรือนร่างอันเซ็กส์ซี่โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวนั่นเอง...แล้วไงต่อจ๊ะ?”
“จากนั้น...แม่เข้าไปนั่งเช็ดหน้าเช็ดตาในห้องเซคก็เข้ามาพูดด้วยและจู่ๆ...เธอก็มาลูบแขนลูบไหล่แม่”
“อืมๆ”
“และเธอ...และเธอก็หอมแก้มแม่อ่ะ!!”
“ว้าวๆๆ”
“ว้าวอะไรยะ!?...แม่ก็ใจสั่นแต่พยายามไม่คิดอะไรมาก...แล้ว...แล้วก็ถามว่ามีแฟนหรือยังและจะแต่งงานเมื่อไหร่...เซคก็ตอบหน้าระรื่นว่ามีหลายคนแต่ใครจะไปรู้ว่าแฟนที่พูดน่ะผู้หญิง!!!”
“จากนั้น?”
“แม่ชักเห็นท่าไม่ดีเลยลุกจะเดินหนีแต่เซคเข้ามากอดแล้วดึงผ้าเช็ดตัวออก”
“วี้ดวิ้ว~~...น่าตื่นเต้น...โอ๊ย!!”
“นี่แน่ะตื่นเต้น!!...แม่จะโดนขืนใจอยู่ข้างลูกฝนยังบอกตื่นเต้น”
“แค่นี้ก็ถึงกับต้องจอดรถเขกหัวลูกสาวตัวเองเชียวเหยอ?”
“ก็บอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น...หลานสาวจะปล้ำน้าตัวเอง...ใครรู้เข้าอายเขาตาย”
“พี่เซคยังปากว่ามือถึงเหมือนเดิม...แม่คงถูกจูบถูกไซ้จนใจหวิวไปเลยสิ”
“..............................................”
“ไม่ตอบแสดงว่าใช่”
“แถมบีบจับหน้าอกแม่ใหญ่เลยอ่ะส่วนอีกมือก็...”
“ก็อะไรคะ?”
“ก็...ก็ลูบจิ๋มแม่น่ะสิ...ถามอะไรก็ไม่รู้”
“ดูเหมือนแม่จะชอบแฮะ?”
“คะ...ใครว่า!?”
“เพราะแม่พูดไปก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปด้วยนี่นา?”
“นี่ยัยหนู~~...แม่ชอบผู้ชายย่ะ!!”
“หนูก็ชอบผู้ชายเหมือนกันจ้ะขอบอก”
“จริงน่ะ?”
“จริง!!”
“แน่นะ?”
“แน่ซี่!!”
“.........................................”
“.........................................”
“ฮะๆๆๆๆ”
“เอิ้กๆๆๆ”
“พอละ!...พอ!!”
“เฮะ?”
“พอซะทีได้มั้ย?...เลิกกระโปรงแม่อยู่ได้!?”
“อ้าวลืม!!”
“จงใจมากกว่านะลูกฝนเนี่ย...จะดูอะไรยะ?”
“ก็จะดูร่องรอยความเสียหายที่พี่เซคทำไว้น่ะจิ”
“ไม่มีหรอกของพรรค์นั้นเพราะมือชั้นนี้แล้วพลาดยากจ้ะ...แต่...แต่ก็ตกใจหมดเลย”
“................................................”
“แม่แน่ใจก็ได้ว่าลูกฝนชอบผู้ชายแต่วงเล็บผู้หญิงก็ไม่มีปัญหา...ใช่ม๊า?”
“แหม~~”
“ส่วนแคทก็ต้องรับผลข้างเคียงของสุริยะโลหิตไปอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง...ตั้งใจเรียนนะจ๊ะ...แม่ฝากลาพี่เราด้วย”
“ค่ะ”
“อย่างไร...ลูกฝนก็จะเดินหน้าต่อไปใช่หรือไม่?”
“ใช่แล้วค่ะ”
“ถ้างั้น...แม่จะคอยเอาใจช่วยนะลูก”
“พะ...พูดจริงหรือคะ?”
“ถึงจะไม่ดีต่อพี่กวางกับศรีวิกา...ไม่ดีต่อหนูกุนหนูสาและหนูอ้อยแล้วอาจจะโดนแคทกับพ่อเขาคัดค้านอย่างหนักก็ตามเถอะแต่แม่จะขออยู่เคียงข้างลูกฝนจ้ะเพราะความสุขของลูกก็คือความสุขของแม่”
“ขอบพระคุณคุณแม่มากค่ะ...ฝนดีใจเหลือเกินที่ได้ยินแบบนี้”
“โอ๋ๆ...ร้องให้เป็นเด็กๆเชียวลูกคนนี้...แม่จะไปให้ความสำคัญกับคนอื่นยิ่งกว่าลูกสาวสุดที่รักของตัวเองได้อย่างไรกันจ๊ะ?”
“อื้ม!!!”
“จงทำทุกอย่างตามแต่ใจต้องการเถอะและแม่ขออวยพรให้ลูกฝนโชคดี”
...........................................................................................................

...ตอนที่แล้ว ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 53 ...
...ตอนต่อไป Kat Sidestory 3 (ผู้ชายถอยไปผู้หญิงล้วนๆ...ตอนหน้าจัดเต็มแน่) ...

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2555

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 53

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 53 “เพลิงพิโรธที่ลุกโชนไม่สมบูรณ์!?”

“โอ๊ย!...โอย~~”
“นายท่าน!!”
“พี่!!!...รู้ทั้งรู้ว่าบอลจะเข้ามากันให้หนูแต่ก็ยัง...”
“มันสมควรโดน”
“ไร้น้ำใจ!!!”
“เกะกะนัก!!”
“ทำได้ก็ลองดู!!!”
...พี่แคทมุ่งมั่นจะเอากำปั้นยมทูตประทับบนหน้าผมให้ได้แต่ก็ถูกน้องสาวขัดขวางครั้งแล้วครั้งเล่าสาวเจ้าผมยาวจึงเบนเป้าเล่นงานฝนซะก่อน...ด้วยแรงแห่งโทสะที่เรียกว่า “สุริยะโลหิต” ทำให้เธอกลายเป็นนางมารร้ายที่สามารถประทุษร้ายทุกคนที่ขวางหน้าแม้กระทั่งน้องสาวร่วมสายเลือดของตัวเอง...การโหมบุกชนิดที่ไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้หยุดพักหายใจของพี่แคททำให้ฝนต้องยกแขนสองข้างป้องปัดอุตลุดทว่าเมื่อเจอกับกำปั้นที่รัวต่อยออกมาทั้งบนและล่างกับทั้งซ้ายและขวาก็ไม่อาจจะป้องกันได้หมดจึงโดนหมัดซ้ายชกเข้าที่หัวไหล่อย่างจังและหมัดขวาก็พุ่งตามออกมาเป็นลูกติดพันซึ่งเป็นจังหวะที่ผมถลันเข้าไปแล้วผลก็เป็นดังข้างต้น...แค่หมัดเดียว ผมก็ตัวงอเป็นกุ้งเพราะถูกอัดเข้าที่ท้องเต็มๆ...
“อูย~~...จะเรียก...สุภาพบุรุษได้มั้ย?”
“ศิเตือนนายท่านแล้วว่าอย่าเข้ามาในห้อง”
“ฉันเป็นต้น...เหตุนะ...จะหนีได้ไงเล่า?”
“แต่หากนายท่านยังอยู่ที่นี่...”
“พี่แคทจะเอาถึงตาย...ฮึ!!...ดูนั่น”
“............................................”
“ฝนยอมเผชิญหน้ากับพี่สาวที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธสุดขีดเพียงลำพังแล้วถ้าฉันทิ้งเธอหนีเอาตัวรอด...ฉันจะไม่สามารถมองหน้าใครได้อีก!!!”
“ไม่มีใครตำหนินายท่านอย่างนั้นหรอกค่ะ”
“คนอื่นจะว่าฉันโง่ก็ช่างแต่ต่อให้ช่วยเหลืออะไรฝนไม่ได้เลย...ฉันก็จะอยู่ที่นี่กับเธอ!!!!”
“แกจะต้องเสียใจ...อ๊อก!!!”
“แต่ได้ยินที่บอลพูดประโยคนี้ฝนก็ไม่เสียใจแล้ว!!!!”
“ฮึ่ม!!!”
...ฝนงัดวิชาคาราเต้ออกมาสู้กับพี่แคททุกรูปแบบจนข้าวของพังยับกระจัดกระจายหมดแถมหลอดไฟบนเพดานยังแตกเพราะโดนอะไรบางอย่างไปก็ไม่รู้พอภายในห้องมืดสนิทสองสาวพี่น้องก็ออกมาสู้กันข้างนอกผลัดกันรุกผลัดกันรับชนิดไม่มีใครยอมใคร...พี่แคทถูกถีบยอดอกหงายท้องหงายไส้แต่ก็ลุกมาเหวี่ยงศอกกระแทกกลางหลังฝนหน้าคว่ำล้มไปได้เหมือนกันแล้วพอจะเข้ามาซ้ำฝนก็คว้ากองหนังสือพิมพ์ฟาดตีพี่สาวจอมระห่ำสุดท้ายหยิบเก้าอี้พลาสติคขว้างใส่แต่พี่แคทปัดได้พลางแผดเสียงร้องลั่น...
“ไอ้เด็กบ้า!!!”
“ก็บ้าทั้งคู่แหละ”
“เอะอะอะไรหา?...ทำอะไรกันน่ะ!?”
(แย่แล้ว!!!)
... “น้าเย็น” เจ้าของหอพักวัย 40 ปีผัวเป็นตำรวจยศจ่าอยู่ที่อุทัยธานีมีลูกชายคนนึงเรียนชั้นมัธยมต้นซึ่งบ้านแกก็อยู่หลังหอพักนี่เองและช่วงเวลานี้ของทุกๆวันแกจะเดินขึ้นมาตรวจตราความเรียบร้อย...น้าเย็นเป็นคนปากจัดและไม่ยอมเสียเปรียบใครง่ายๆแถมยังงกอีกต่างหาก...สงสัยผมคงได้โดนไล่ออกก็ครั้งนี้แหละเพราะสองลูกพี่ลูกน้องทะเลาะวิวาทกันจนทำข้าวของๆแกเสียหายไปหลายอย่างไม่ว่าจะหลอด ไฟ,เก้าอี้,ประตู,หน้าต่าง...
“............................................”
“เสียงดังหนวกหูลงไปถึงข้าง...ว้ายผีหลอก!!!!”
...งานนี้น้าเย็นคงกะจะเฉ่งด่าให้สะใจปากเหมือนทุกทีแต่ขอโทษ!!...พอแกขึ้นมาเห็นหน้าพี่แคทเท่านั้นก็ถึงกับหวีดร้องด้วยความตกใจเป็นลมหมดสติไปเลย(จะมาทำซากอะไรวะเนี่ย?)ซึ่งถ้าผมไม่รู้เรื่องสุริยะโลหิตมาก่อนหน้าและเจอเข้าอย่างนี้ก็คงช็อคตาตั้งไปเหมือนกัน...
(เผอิญพี่แคทอยู่ตรงที่สลัวๆตาของเธอเลยมีแสงสีแดงก่ำ...ใครไม่รู้ความก็นึกว่าหล่อนเป็นผี)
“โอ๊ว!!”
“จะไม่ยอมแพ้เรอะ?”
“หนูขอสู้ตาย!!!”
“หนอยแน่!!!”
“คุณหยาดฝนสู้ไม่ถอยแบบนี้คุณสุรีย์พรรณยิ่งโมโหไปใหญ่”
“..............................................”
(“ป้าจะบอกให้ตาหนูรู้ว่าสุริยะโลหิตคืออะไร?...สุริยะโลหิตคือภาวะการเปลี่ยนแปลงในร่างกายที่จะเกิดขึ้นในหญิงสาววัยกำดัดของตระกูลวิษณุมนตรี”
“เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น?”
“จ้ะ...วัยกำดัดในที่นี้จะยืนยาวไปจนกว่าเธอผู้นั้นจะให้กำเนิดลูกสาวคนสุดท้องและราวๆหนึ่งปีต่อจากนั้นสุริยะโลหิตในร่างกายจะเสื่อมถอยลงไปตามลำดับ...สุดท้ายไม่มีเหลืออยู่อย่างเช่นป้าหรือนิภา”
“ถ้าเป็นลูกผู้ชายและไม่ตั้งท้องอีกล่ะครับ?”
“...สุริยะโลหิตก็จะยังคงอยู่จนล่วงเข้าวัยกลางคนและค่อยๆหายไปเองจ้ะ”
“..............................................”
“ของป้าหายไปหมดตอนอายุเข้า 35 หลังจากคลอดน้องคนสุดท้องไม่นานส่วนนิภาประมาณ 22-23 และพอลูกสาวอายุประมาณ 3-4 ขวบสุริยะโลหิตในร่างกายก็จะเริ่มตื่นพร้อมกับกล้าแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ”
“สืบทอดจากรุ่นหนึ่งไปอีกรุ่นหนึ่ง...อย่างกับทายาทอสูรเลย!?”
“หลักๆที่มองเห็นได้คือดวงตาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มเพราะมีเลือดไหลเข้าไปในส่วนที่เป็นตาดำ”
“มัน...มันไม่เป็นอันตรายหรือครับ?”
“ไม่จ้ะเพราะมันไม่ใช่โรคหรือได้รับบาดแผลเพียงแค่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงอยู่ใน นั้นมากกว่าปกติ...อ้อ!!...ถ้าเป็นตอนกลางคืนดวงตาจะเรืองแสงได้ด้วยนะจ๊ะ...สีแดงส่องสว่าง”
“ผะ...ผมว่ามันจะน่ากลัวเกินไปแล้วครับ...นี่คนหรือภูติผีกันแน่?”
...เดี๋ยวก่อนซิ!?...ดวงตาเรืองแสงได้ในตอนกลางคืน!!!...เหมือนว่าผมเคยได้ยินมาจากที่ไหนมาก่อน?...
“เอ่อ--...สุริยะโลหิตจะทำให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้างครับนอกจากตาดำเป็นสีแดงเลือดกับสุ้มเสียงที่ห้าวขึ้น?”
“ที่เห็นชัดๆคือความป่าเถื่อนเหี้ยมโหด...มันจะเข้าครอบงำจิตใจส่วนที่เป็นด้านดีไว้หมดสิ้น...คิดเพียงอย่างเดียวคือทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ศัตรูล้มลงตรงหน้าในสภาพที่ไม่อาจจะลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้ง”
“ทำยังไงถึงจะเกิดสุริยะโลหิตครับ?”
“...ส่วนใหญ่เกิดจากความโกรธ”
“ความโกรธ?”
“อืม!!...ต้องมากอย่างผิดปกติด้วย...ยกตัวอย่างง่ายๆ...ตาหนูเคยโมโหใครจนอยากจะฆ่าให้ตายหรือเปล่า?”
“ผมไม่...”
“สำหรับผู้ที่มีสุริยะโลหิตในตัวนั่นแหละคือเชื้อไฟ...โกรธเคือง,เคียดแค้นชิงชัง,ผิดหวังโศกเศร้า,มัวเมาหม่นหมอง”
“ไม่เคยเห็นเลยครับผมจึงไม่รู้...พี่แคทกับฝน...”
“สำหรับหนูสองคนนั้นถ้าไม่โมโหถึงขีดสุดก็ไม่เกิดหรอกซึ่งต่างจากลูกสาวป้าที่เกิดขึ้นง่ายกว่าแต่ระดับของสุริยะโลหิตจะพอๆกัน”
“หมายความว่าสุริยะโลหิตของสองคนนี้จะใช้แรงโทสะเป็นเชื้อ?”
“ถูกต้องเลยและถ้าได้เห็นบุคคลอันเป็นที่รักของตัวเองโดนทำร้ายก็จะยิ่งส่งผลมากขึ้นไปอีก”
“มันจะเพิ่มพลังทำลาย...ประเภทว่าช่วยให้หมัดหนักขึ้นด้วยหรือเปล่าครับ?”
“...ไม่นะจ๊ะ...แค่ขจัดความลังเลกับความกลัวออกไปจากจิตใจเท่านั้น”
“อ๋อ!!... เมื่อไม่มีความเกรงกลัว,เมตตาสงสารหรือลังเล...ตั้งใจแน่วแน่ที่จะต่อสู้จึงใช้กำลังออกมาได้อย่างเต็มที่...โจมตีแต่ล่ะครั้งก็จะทำอย่างสุดกำลัง”
“แต่ความน่ากลัวที่แท้จริงไม่ใช่ระดับของสุริยะโลหิตนะ...วิชาการต่อสู้ต่างหากล่ะพ่อบอล...หนูแคทกับหนูฝนฝึกศิลปะการต่อสู้มายาวนานเป็นสิบปีจนมีความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้ง...รู้ว่าส่วนไหนในร่างกายคือจุดบอดหรือจุดตายและรู้ว่าโจมตีไปแล้วจะส่งผลอย่างไรบ้างแต่หากใครที่พวกเธอตัดสินแล้วว่านี่เป็นศัตรูไม่ต้องให้รอตะวันเลือดออกมาหรอกจริงไหมจ๊ะ?”
“พวกเธอไม่เคยบอกผมเลย”
“เอ่อ--...ที่ไม่พูดก็คงเพราะว่ามัน...ไม่น่าดูน่ะ”)
“โอ๊ย!!”
“ก็บอกว่าไม่ได้ผลยังไม่เข้าใจอีก...ลูกไม้เดิมใช้ไม่...อั๊ก!!”
“ยังไม่จบหรอก!!”
“เจ้าเด็กนี่!!!”
“ฮึ่ย!!!”
...ในสถานที่แคบๆนี่แขนมีประโยชน์กว่าขาซึ่งฝนก็รู้จึงหาจังหวะล่อหลอกเพื่อรุกเข้าถึงตัวและใช้วิชาบิดข้อต่อแต่พี่แคทไม่หลงกลสะบัดหลุดทุกครั้ง...ที่ป้าเอ็มว่ามันไม่น่าดูนั่นก็เพราะมีเลือดจำนวนมากไปหล่อเลี้ยงอยู่ในส่วนตาดำและส่องสว่างได้หากอยู่ในที่มืดอีกทั้งน้ำเสียงยังเปลี่ยนไปคือห้าวทุ้มไม่ แหลมเล็กอย่างปกติและดังก้องกังวานฟังแล้วน่าเกรงขาม...
“อ๊า~~”
“ฝน!!!”
...แค่ชั่วเดี๋ยวเดียวที่ผมนึกถึงตอนที่คุยกับป้าเอ็มเรื่องของความลับของสุริยะโลหิตฝนก็ถูกพี่แคทจับตัวได้!!!!...
“ความไวนั้นน่ะน่ารำคาญแต่มันจบแล้ว”
“ไม่...ไม่”
“นายหญิงรีบขึ้นมาเร็วๆเข้า...ศิอยู่กับนายท่านค่ะ”
“อึ๊!!”
“ทำให้ฉันเสียเวลาไปมากนะ...เจ้าเด็กนิสัยเสีย”
“!!!!”
...และแล้วพี่แคทก็ทำในสิ่งที่พวกเราไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองคือเธอก้มจูบปากฝนและก็ใช้สันมือตีที่หลังคอน้องสาว...ในหนังประเภทบู๊ดุเดือดผมเห็นบ่อยถ้าโดนฟาดจากบริเวณนั้นก็สามารถทำให้คนเราสลบได้...
“อย่า...อย่านะ!!”
“นอนอยู่ตรงนั้นแหละ”
“บะ...บอล...หนี--”
...ฝนพูดได้แค่นั้นก็ทรุดฮวบหมดสติไปและวินาทีนั้นพี่แคทก็หันขวับจ้องมาที่ผม...ศิจึงตัดสินใจขั้นเด็ดขาดชักปืนออกมาจากเอวแต่ทว่า...
“คนที่จะเอาชนะฉันได้ไม่มีอีก...แล้วทางหนีของแกก็ปิดตัวลงด้วย”
“หยุดเถอะค่ะคุณสุรีย์พรรณ...อย่าให้ดิฉันต้องลำบากใจเลย”
“...............................................”
“!!!”
“ชักช้า!!!”
“ว้าย!!”
“พี่แคท!!!...ศิไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ”
“หุบปาก!!...ฉันจะไม่ละเว้นไอ้อีหน้าไหนที่บังอาจมาขัดขวาง...หือ?”
“ได้โปรดอย่าทำร้ายนายท่าน...ศิขออ้อนวอนคุณสุรีย์พรรณเถิด”
“............................................”
“............................................”
“แกมีความภักดีกับไอ้สารเลวนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ในเมื่อเจ้านายของแกก็มีอยู่?...สิ่งที่พวกแกสามพี่น้องกำลังกระทำคือการทรยศเนรคุณ!!!”
“ไม่...ไม่ใช่นะคะ!!”
“อย่ามาแก้ตัว!!!”
...หลังจากศิโดนแย่งปืนจากมือก็ถูกเตะล้มคมำแต่ยังตะเกียกตะกายคว้าข้อเท้าของพี่แคทพลางอ้อนวอนไม่ให้ทำร้ายผมทว่าหญิงสาวผมยาวไม่ยอมฟังและใช้ด้ามปืนทุบที่ท้ายทอยของศิจนสลบไปอีกคน...
“ไม่มีใครช่วยแกได้อีก...แค่ยืดเวลาออกไปเท่านั้น”
“เอาเลย!!...พี่แคทอยากจะทำอะไรก็เชิญ!!!...ปืนในมือนั่นไงเล่า”
“สำหรับคนอย่างแกน่ะใช้ไอ้นี่สนุกกว่า...อัญเชิญยมทูต!!!!”
...พี่แคทตวาดเสียงดังกึกก้องแล้วกำหมัดสองข้างยกแขนขึ้นเสมอระดับอกพลางพุ่งเข้ามาจับคอด้วยมือซ้ายจากนั้นมันก็เหมือนทุกสิ่งรอบๆตัวสว่างจ้าหรือว่าผมจะถึงแก่ชีวิตแล้วกำลังเดินทางไปสู่อีกโลกหนึ่ง!?...โลกที่มีคุณแม่รัญภรณ์...
....................................................................................................................

“?”
“.....................................................”
“สมุดปกแข็งในเสื้อ...ใครกัน?”
“.....................................................”
“ศศิธร?...ไม่เลว”
“หยุดเดี๋ยวนี้!!!”
“พวกแก!!...ฮึ่ย~~”
“ล็อคคอไว้!!!...ออกแรงเต็มที่ไม่ต้องกลัว”
“ใครสั่งพวกแกมา?”
“กรุณาหยุดได้แล้วค่ะคุณสุรีย์พรรณ!!...เหตุผลของคุณไร้ความชอบธรรมแล้ว!!!”
“มันยังไม่จบแค่นี้หรอก!!...ไร้ความชอบธรรมรึ?...ปล่อยเซ่!!!”
“ต่อให้เก่งแค่ไหนแต่ถูกประชิดตัวล็อคคอล๊อคแขนขาก็ไปไม่เป็น...เมื่อกี้คุณถามใครสั่งมาใช่ไหมคะ?”
“กรอด!!!”
“ก็คุณแม่ของคุณเอง”
“ว่าไงนะ!?”
“ฝน!!...ฝนเป็นยังไงบ้างลืมตาดูแม่สิลูก!?...บอล...บอลตื่นสินี่อาเองนะ!!...พี่เอ็มมาเร็วๆเข้า!!!”
“...แม่”
“ตาหนู!!!...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?”
“ทำไม...ทำไมถึงมาขวาง?”
“เกินไปแล้วนะเจ้าลูกบ้า!!!”
“....................................................”
“จะลืมตาตื่นได้หรือยัง?”
“แม่...ตบพี่...”
“ก็ตบให้ตาสว่างไง!!...มีพี่ที่ไหนในโลกทำร้ายน้องๆตัวเองจนบาดเจ็บหมดสติไปตามๆกันอย่างนี้บ้างหา?...แม่ไม่นึกเลยว่าลูกจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้น่าผิดหวังเหลือเกิน!!!...ความใจเย็นสุขุมรอบคอบมันหายไปไหนหมดแล้ว?...ดูซิ!?...ดูให้เต็มๆตาเลยว่าทำอะไรลงไป!!...ต้องให้ฝนหรือไม่ก็บอลคนใดคนหนึ่งตายไปต่อหน้าใช่มั้ยถึงจะสะใจ!!!”
“คุณแม่เข้าข้างคนผิด!!!...หากบอลเป็นคนซื่อสัตย์เสียแล้วแคทจะมีเหตุผลอะไรไปยุ่ง?”
“จะผิดหรือจะถูกลูกก็ไม่ควรแสดงความป่าเถื่อนอย่างนี้...ปล่อยให้ความเคียดแค้นชิงชังเข้าครอบงำ...แบบนี้จะเป็นตัวอย่างให้น้องได้อย่างไร?...ลืมคำสั่งสอนของแม่หมดแล้วหรือว่าจงเป็นคนใจเย็นทำอะไรให้มีสติกับตัวเสมอ?”
“เพราะแคทให้โอกาสบอลปรับปรุงตัวมานานมากเกินพอและที่คุณแม่พูดก็ใช่ว่าจะไม่ทำตามแต่พอเห็นพี่กุนกับสาต้องเศร้าโศกเสียใจแคทจึงทนไม่ได้”
“แต่อย่างไรลูกก็เป็นคนนอก...ขึ้นชื่อว่าแฟนกันก็ต้องปล่อยให้พวกเขาเคลียร์ปัญหาเอาเอง”
“หนูจะไม่ยุ่งด้วยเลยถ้าไม่ใช่พี่กุน”
“ยังจะเถียงแม่อีก?...นี่ถ้าแม่กับป้ามาไม่ทันแคทตั้งใจจะทำอะไรกับบอลอีกรึ?...จะเอาให้ถึงแก่ชีวิตให้ได้ใช่ไหมแคทจึงจะมีความสุขได้?”
“....................................................”
“ตาหนูๆ...ลืมตามองป้าสิ!!!...ตาหนู!!!!”
“อึ๊ก!!...อือ--
“พ่อบอล!!...จำป้าได้มั้ย?”
“...ป้าเอ็ม”
“โอ้ดีจริงๆหลานรักของป้า~~...พวกเธอมาช่วยพาหลานฉันไปที่รถเร็ว!!!...ศิ...เธอลุกไหวมั้ย?”
“...ค่ะนายหญิง”
“มาฉันช่วย”
“นายหญิง!!...นะ...นายท่านหมดสติไปอีกแล้วค่ะ!!!!”
“ไม่!!...ไม่เอานะอย่าล้อเล่นกับป้าแบบนี้!!!...รีบพาไปโรงพยาบาลเร็วโทรบอกเซคด้วย...จะปล่อยให้ตาหนูเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด!!!!”
“ฝนจะไปรถป้านะคะแม่...พี่แคท”
“ฮึ!!”
“...พี่”
“ท่าทางจะยังไม่หายบ้าเดี๋ยวปล่อยให้แม่จัดการเอง...แคท...เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยละ”
“...............................................”
“หาก...หากพ่อบอลเป็นอะไรไปฉันจะไม่ยกโทษให้หนูแคทเลย!!...นิภา...ต่อไปเธออย่าให้หนูแคทเข้าใกล้พ่อบอลอีก!!!”
“พี่เอ็มพูดอะไรเนี่ย?”
“ที่หลานชายฉันบาดเจ็บหนักอย่างนี้ก็เพราะลูกสาวของเธอไงเล่า!!”
“บอลก็เป็นหลานของภาเหมือนกันนะคะ!!”
“โธ่~~...แม่กับป้าเอ็มอย่าเพิ่งเถียงกันตอนนี้ได้มั้ย?”
“ก็ดูป้าของลูกสิ...เอะอะก็จะเอาแต่โทษแม่”
“เออฉันขอโทษก็ได้พอใจยัง?...บ้าเอ๊ย!!!”
“แล้วคุณเจ้าของหอพักนี่ล่ะ?”
“หนูฝนเอาน้ำสาดให้ฟื้นก็พอเพราะมันสมกับความเค็มของยัยนี่แล้ว”
..........................................................................................................................................

“..............................................”
“ฟื้นแล้วหรือลูก?”
“ป้าเอ็ม...ที่นี่...”
“ห้องพิเศษที่โรงพยาบาลจ้ะ”
“...โรงพยาบาล?”
“นายหลับไปเกือบสามชั่วโมงเชียว”
...สามชั่วโมง!?...นี่ผมหลับไปนานขนาดนั้นเลยหรือแต่นึกว่าจะต้องตายซะแล้วสิ...อ๊ะ!!...ผมฝันเห็นแม่รัญภรณ์และได้คุยกับท่านด้วยล่ะ!!!...ท่านดูมีความสุขสีหน้าก็ยิ้มแย้มแล้วสั่งให้ผมกลับไปสะสางปัญหาซะเพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะอยู่ที่นี่...
(หมายความว่าคุณแม่ช่วยชีวิตเรา!?)
“อุ๊บ!!”
“ตาหนูปวดท้องเหรอ?”
“มันปวดเสียดๆครับ”
“นอนพักสักคืนก็คงหาย”
“แล้วเธอเป็นไงมั่ง?”
“เล็กน้อยจ้า!!...ไกลหัวใจตั้งแยะ”
“แล้วเศกล่ะครับ?...ศิด้วย”
“อยู่ห้องข้างๆนี่แหละ...เศกกระดูกซี่โครงหักสามซี่น่ะส่วนยัยศิ...ศุกร์เพิ่งพาไปห้องเอ็กซ์เรย์เพราะบ่นปวดขามาก”
“ฝนต้องขอโทษป้าเอ็มกับบอลแทนพี่แคทด้วยค่ะ”
“เฮ้อ!!...ทั้งที่ป้าอุตส่าห์ตักเตือนแล้วว่าอย่าปล่อยให้สุริยะโลหิตเข้าครอบงำจิตใจก็เพราะกลัวเหตุการณ์ร้ายอย่างวันนี้จะเกิดขึ้นไง...ไม่เห็นนิภาโกรธขนาดนี้มานานมากๆเลย”
“หากป้อรู้ก็จะพลอยผสมโรงโกรธไปด้วยอีกคนแหงๆ”
“เพราะกลัวกันว่าพี่เราจะเป็นเหมือนห้าปีก่อนใช่ไหม?”
“จ้ะ”
“รุ่นป้าน่ะเทียบกับรุ่นหนูไม่ติดเลยจริงๆนะ”
“แต่ตะวันเลือดครั้งนี้ของพี่แคทยังมีเมฆมาบดบังอยู่บ้างค่ะ”
“ฮ้า!?...นี่ยัง...ไม่ถึงที่สุดเหรอ?”
“เดี๋ยวๆๆ...เมฆบังอะไรกันหรือฝน?”
“แค่คำเปรียบเทียบเฉยๆ”
“หมายความว่าเกิดความลังเล...อ้าวว่าไงจ๊ะ?...เหรอจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“?”
“ตาหนูเพิ่งฟื้นก็อย่าขยับตัวกับคิดอะไรมากเลย...พักผ่อนเยอะๆ”
“ครับ”
“พบใครคะ?”
“...คุณหมอจ้ะ”
“อ๋อ!!”
“.............................................”
“ฉันจะเฝ้านายเอง...อยากให้ทำอะไรก็บอกมาได้”
“เธอก็พักซะบ้างเถอะ”
“ฝนไม่เป็นไรหรอก”
“...สารู้เรื่องหรือยังนะ?”
“มาเยี่ยมตอนบอลหมดสติเมื่อสักครู่ใหญ่แล้ว”
“เฮ่!?...มาแล้วรึ?”
“อื้อ!!...แต่มาไม่นานหรอกเพราะป้าเอ็มคอยกันท่า...น้องอ้อยก็มาแถมพี่กุนกับคุณลุงยังโทรถามอาการด้วยละ”
“ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดี...ขอโทรศัพท์หน่อย”
“เอ้า!”
“............................................”
“...ฝนกดให้มั้ย?”
“ฉัน...ฉันไม่กล้า...”
“............................................”
“............................................”
“เอางี้...ถ้าบอลยังไม่สบายใจกับไม่รู้จะพูดอะไรงั้นก็ฟังสิ่งที่ฝนจะเล่าต่อไปนี้ก่อนแล้วกัน...เกี่ยวกับที่พี่แคทไม่รู้...ไม่สิ!!...จงใจจะทำเป็นไม่รู้ต่างหาก”
“?”
.................................................................................................................................

“แคทก็บอกคุณแม่ไปแล้วไงคะ...ถ้านายบอลไม่ได้คบกับพี่กุนและเขาจะไปมีผู้หญิงอีกสักกี่คน...แคทจะไม่ยุ่งไม่สนใจแต่ขอเกลียดชังไปจนวันตาย”
“...ตรงข้ามกับน้องเราเลยแฮะ...เด็กนั่นนับวันก็ยิ่งชอบบอลมากขึ้นๆ”
“ไม่เข้าใจเลยสักนิด...ไอ้ผู้ชายคนนี้มันมีอะไรดีตรงไหนถึงได้มีผู้หญิงมารุมรัก?...เจ้าชู้หัวดื้อแถมปากเสียอีก”
“หนูไม่รู้จริงๆเหรอ?”
“...ไม่รู้ค่ะ”
“ไม่อ่ะ!...แคทรู้แล้ว”
“.............................................”
“แม่ขอโทษที่ตบหน้าหนูแต่มันก็เป็นวิธีเดียวกับที่ยายของหนูใช้กับแม่น่ะ”
“ได้ผลชะงัดเลย”
“แต่แม่แปลกใจที่ตะวันเลือดดับง่ายเหลือเกิน...เวลานั้นลูกสับสนอยู่เหรอ?”
“...ประมาณนั้นค่ะ”
“งั้นก็ใช่แล้ว!!...ฝนบอกแม่ว่าระหว่างต่อสู้เราจงใจทิ้งโอกาสที่จะทำร้ายบอลให้บาดเจ็บสาหัสไปถึงสองครั้ง”
“คุณแม่เชื่อ?”
“อื้อ!!...เชื่ออย่างสนิทใจด้วยจ้ะ...ครั้งแรกคือแคทจงใจทิ้งดาบคงโมเคียวไว้โดยไม่ไปแตะต้องอีก”
“เพราะมันหลุดจากเอวหนูไปแล้วก็สู้ติดพันกับฝนจนหยิบมาไม่ได้ต่างหากค่ะ”
“เหรอ?...แล้วครั้งที่สอง...รอยฝ่ามือที่สมุดจะอธิบายยังไง?”
“นั่น...”
“ที่ทำให้บอลสลบไปแคทใช้อัญเชิญยมทูตใช่มั้ย?”
“...........................................”
“มันไม่ใช่เลย...อัญเชิญยมทูตที่สันต์สอนลูกไม่ใช่การใช้ฝ่ามือแต่เป็นหมัดต่างหาก...หมัดซ้ายขวาที่โจมตีทั่วร่างของศัตรูหลายสิบครั้ง”
“...หนูเปลี่ยนใจในเสี้ยววินาทีสุดท้าย”
“แคทลังเลใจสินะที่เห็นบอลปกป้องฝนและมีผลให้สุริยะโลหิตกลายเป็นเพลิงพิโรธที่ลุกโชนไม่สมบูรณ์!?”
“...เมฆดันมาบังซะได้”
“หึๆๆ...ลูกแม่ยังมีน้ำใจให้บอลอยู่...ตะวันเลือดถึงได้สลายไปอย่างรวดเร็วแต่ยังไงสองสามวันนี้ก็อย่าเพิ่งออกไปไหนเลยนะจ๊ะ...อยู่แต่ในบ้านดีกว่าเดี๋ยวจะหาว่าสุดสวยไม่เตือน”
“...........................................”
“อ้อ!!...มีอีกเรื่องนึงที่แคทควรจะรู้ไว้”
“?”
.....................................................................................................................

“เจ๊ไม่มีเจตนาจะเอาชีวิตใครเลยตั้งแต่แรกและนี่คือหลักฐาน”
“สมุด...สมุดจดของฉันทำไม?”
“ดูให้ดีๆ”
“รอยยุบรูปมือ!?”
“ที่บอลสลบไปก็เพราะเจ้านี่...อัญเชิญยมทูต...ท่าไม้ตายที่พี่แคทจะปล่อยพลังกำปั้นได้รุนแรงที่สุด”
“ไม้ตาย...อัญเชิญยมทูต...กำปั้น”
“แต่รอยที่สมุดนี่เป็นฝ่ามือใช่มั้ย?...อัญเชิญยมทูตจะมีอานุภาพสูงสุดเมื่อกำหมัดต่อยออกไปฉะนั้นพอเปลี่ยนเป็นฝ่ามือพลังทำลายจึงลดลงนั่นแสดงว่าพี่แคทไม่ต้องการให้บอลเจ็บหนัก”
“ขนาดส่งฉันนอนโรง’บาลเนี่ยนะไม่หนัก?”
“อ่า--...ที่จริงไม่ต้องนอนก็ได้แต่ป้าเอ็มขออนุญาตคุณหมอเป็นพิเศษ”
“เพราะอะไร?”
“ก็เพราะ...บอลถูกน้าเย็นไล่ออกจากหอพักแล้วน่ะสิ”
“ล้อเล่นน่า!?”
“เป็นความจริง”
“ป้าเอ็ม”
“แต่ไม่ต้องกังวลจ้ะ...ป้าจะหาที่อยู่ที่ดีกว่านี้ให้พ่อบอลเอง...อือ--”
“มีอะไรอีกครับ?”
“ฟังนะจ๊ะ...คุณแม่...ย่าของพ่อบอลน่ะต้องการให้พ่อบอลย้ายออกจากบ้านและห้ามมีอะไรกับแฟนจนกว่าจะเรียนจบ”
“ฮ้า!!?”
“............................................”
“จะไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ?...ผมไม่เคยคิดจะไปข้องแวะกับคนที่นั่นและพวกเขามีสิทธิ์อะไรมาห้าม?”
“สิทธิ์ในฐานะปู่กับย่าของบอลไง”
“ฝน?”
“กำพืดของตัวเองเปลี่ยนแปลงได้เรอะ?...ต่อให้หนีไปจนสุดขอบโลกแต่เลือดที่ใหลเวียนอยู่ในร่างของนายก็เป็นของวิษณุมนตรี...หัดเปิดตามองเสียบ้างอย่าเอาอคติส่วนตัวใช้ให้มันมากนักเลย”
“ฉันเปล่ามีอคติ”
“มีอยู่ชัดๆ”
“ก็บอกว่าไม่!!...ฉันแค่ไม่อยากจะอีนังขังขอบอะไรด้วยเท่านั้น”
“นั่นแหละที่เรียกว่ามีอคติ”
“............................................”
“พี่กุนกับสารวมทั้งหนูอ้อยก็ยอมรับเงื่อนไขแล้ว”
“อะไรนะ?”
“ยังไม่เข้าใจเรอะ?...ที่ทั้งสามยอมตกลงก็เพื่อไม่ให้ตกเป็นข้อครหาและเป็นการทดสอบไงเล่า...หลานสะใภ้ของวิษณุมนตรีจะต้องมีความประพฤติที่ดีและเป็นที่ยอมรับของทุกคนในตำบลโยนกจัตุรัสฉะนั้นการมีอะไรกันทั้งที่ยังเรียนอยู่กับยังไม่เข้าพิธีแต่งงานจึงเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้”
“หนูฝนพูดถูก...หากเรียนจบแล้วบรรลุนิติภาวะแล้วก็จะไม่มีใครว่าได้หรอกจ้ะ...แค่สองปีกว่าๆเองถ้าทนไม่ไหวหรือใจเร็วด่วนได้ก็ไม่สมควรแต่งเข้าเป็นสะใภ้และถึงเวลานั้นป้าจะค้านหัวชนฝาแบบยอมตายกันไปข้างเลย”
...หมายความว่าต่อไปนี้ผมจะไม่สามารถเล่นเสียวกับสามสาวทั้งกุน,สาและก็น้องอ้อยได้จนกว่าจะสำเร็จการ ศึกษา!?...แต่...แต่กับสาวอื่นล่ะ?...ฝนอยู่ในห้องด้วยผมเลยไม่กล้าถามป้าเอ็มจึงได้แต่ปิดปากเงียบ...
(ไว้รอถามเธอตอนอยู่กันตามลำพังดีกว่า)
“ต่อให้อายุ 20 บรรลุนิติภาวะแต่ยังเรียนไม่จบก็ไม่ได้”
“ห้ามจ้ะ!”
“ผมสลบไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็เล่นตัดสินใจกันเอาเอง...ไม่คิดจะรอกันบ้างเลย”
“บ่นอะไร?...บอลก็ยังกลับไปบ้านนั้นได้นี่นาหรือจะชวนแฟนออกมาเที่ยวก็ได้แต่อย่ามีอะไรกันเท่านั้นเป็นพอ...อ้อจริงด้วย!!...ยังไม่ได้บอกว่าถ้าฝ่ายไหนผิดเงื่อนไขที่ตั้งไว้จะเป็นยังไง?”
“?”
“ก็อย่างที่หนูฝนพูด...จะชวนไปเที่ยวไปดูหนังหรือซื้อของทานอาหารก็ไม่ถือว่าผิดกติกาแต่ห้ามไปนอนค้างอ้างแรมแอบทำอะไรไม่เหมาะสม...หากละเมิดเงื่อนไขก็จะถูกตัดสิทธิ์ห้ามคบหากันอีกต่อไปและพ่อบอลต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ทางตระกูลหาให้”
“ไม่เอาครับ!!!!”
“...งั้นรึ?”
“ให้ไปแต่งงานกับใครก็ไม่รู้เรื่องอะไรที่ผมจะยอม?”
“...........................................”
“ก็ทำให้ได้ล่ะกัน...อ้อ!!...สิ้นปีกลับโยนกจัตุรัสได้แล้วนะจ๊ะ”
“ทำไมผมต้องไป?”
“แน่ะ!...รับปากกับป้าไว้ว่ายังไง?”
“อุ!!”
(เรื่องของเรื่องคือที่บ้านพักตากอากาศเราดันเผลอรับปากป้าเอ็มไปเสียได้!!!)
“ต้องกลับไปนะ...กลับไปฟังความจริงในวันที่รัญภรณ์เสียชีวิต”
“มันยังมีความจริงเหลืออยู่ตรงไหนอีกครับ?”
“ที่แล้วมาบอลเข้าใจคุณปู่คุณย่าผิดหมด”
“ผิดอะไร?...ก็ฉันเห็นกับตาตัวเองว่า...”
“แม่รัญภรณ์โดนคุณตาผลักตกจากบันไดจนเสียชีวิต...จะบอกอย่างนี้ใช่มั้ย?”
“ใช่!!... ก่อนที่แม่จะตายฉันกอดท่านไว้แน่นและคำสั่งเสียสุดท้ายคืออย่าโกรธแค้นปู่เขาเลยนะลูก...นี่คือคำพูดที่แม่บอกฉันก่อนจะสิ้นใจฉะนั้นฆาตกรที่ฆ่าแม่ก็คือ...”
“ผิดแล้ว!!!...คุณตาไม่ใช่ฆาตกรแต่มันเป็นอุบัติเหตุ...กลับบ้านเกิดสิแล้วจะมีคนบอกนายเอง”
“ใคร?”
“พยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดในวันนั้น...เขารับปากกับป้าเอ็มแล้วว่าจะเล่าทุกอย่างให้นายรู้และจะช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ให้คุณตากับคุณยายด้วย”
“เขา...เขาเป็นใครกัน?”
“อดีตคนใช้ในบ้านจ้ะ...อายุ 70 กว่าแล้วแต่ยังจดจำเหตุการณ์ได้...เขาไปอยู่ระนองหลายสิบปีแต่สิ้นปีนี้จะมาร่วมงานเลี้ยงที่โยนกบูรพา...พ่อบอลต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้เลย”
“โอกาสนี้เปรียบดังกุญแจที่จะเปิดหีบแห่งความจริงเมื่อเกือบสิบปีก่อน...มันจะช่วยขจัดความคลาดเคลื่อนและความระแวงสงสัยในใจของบอลนะ”
“...............................................”
..................................................................................................................................

“พี่เชน”
“จ๋า~~”
“ไหนบอกจะไปเยี่ยมพี่บอลไง?...ขวัญรอนานแล้วนะ”
“อีกแป๊บนึงๆ”
“มัวทำอะไรน่ะ?...อุ๊ย!!...มัวแต่ดูหนังโป๊อยู่นั่นแหละ”
“นี่ไม่ใช่หนังโป๊ทั่วไปนา--”
“ยังไง?”
“ดูหน้านางเอกสิ...คุ้นๆมั้ย?”
“อือ--...ดูคล้ายคุณแม่?”
“น้องขวัญก็เห็นด้วยใช่มะ?”
“แต่ภาพไม่ค่อยชัดเลยนะคะ”
“ของเก่าเมื่อสิบปีก่อนก็อย่างนี้แหละแต่ถ้าเป็นคุณแม่จริงๆจะว่าไงนะ?”
“ไม่ มีทาง!!...ถึงเมื่อก่อนแม่จะเคยเป็นนางแบบปฏิทินกับถ่ายรูปลงหนังสือแฟชั่นแต่ไม่มีทางรับงานเล่นหนังลามกเกรดต่ำอย่างนี้หรอก!!!...ดูสิ...ผู้หญิงถูกผู้ชายรุมตั้งสามคนแน่ะ”
“แต่พี่ดูยังไงก็คุณแม่ชัดๆน๊า~~”
“พอเถอะรีบไปโรงพยาบาลได้แล้ว!...ดูนานเดี๋ยวก็เดือดร้อนขวัญอีก”
“จ้ะๆๆ”
“ไม่รู้บ้านนั้นเกิดอะไรขึ้นอีก?...พักนี้มีแต่เรื่องไม่ดี...แล้วตอนนี้คนที่รอชุบมือเปิบก็คือยัยจอยเพราะเอาแต่ซุ่มเงียบตลอดเลย”
“อืม--...พี่จะต้องรู้ให้ได้เลยว่านั่นใช่คุณแม่จริงหรือเปล่า?”
“หา!?...นี่ยังไม่เลิกคิดเรื่องทะลึ่งอีกเรอะ?”
“โอ๊ยเจ็บ!!!”
....................................................................................................................

...ตอนที่แล้ว ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 52 ...
...ตอนต่อไป ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 54 ...

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 52

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 52 “รหัส ASA!?...ยมทูตมรณะ!!!!”

(“ขึ้นอยู่กับบอล...หากเขายังมีความจริงใจกับพี่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงล่ะก็ใช้เวลาแค่วันเดียวทุกอย่างต้องเรียบร้อยแต่ถ้าไม่...”
“ความจริงแล้วผู้ชายคนนี้อาจจะยังไม่ดีพอสำหรับพี่ก็ได้...น่าละอายใจที่เขามีศักดิ์เป็นน้องของแคท”
“เธอไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วจะกังวลใจไปทำไม?”
“บอล กลับมาเมื่อไหร่หนูจะพูดกับเขาให้รู้ดำรู้แดงไปซะทีถึงแม้ต้องใช้กำลังบ้าง ก็ตาม...พี่กุน...ให้หนูเป็นคนจัดการแทนพี่เถอะนะคะ...นี่คือสิ่งเดียวที่ หนูจะทำให้พี่ได้”)
“...................................................”
“หน้าเครียดเชียวนะ...เจ๊มีอะไรเหรอ?”
“...บอลจะกลับมาถึงเย็นวันนี้ใช่มั้ย?”
“อื้อ!!...เขาโทรมาบอกเมื่อตอนสาย”
“...เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณ...พี่จะให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเอง”
“หา!?...พี่จะทำอะไร?...อย่าวู่วามเด็ดขาดนะคะไม่งั้นแม่ต้องโกรธมากแน่!!!...จะมาวันนี้ด้วย”
“มันจะเรียบร้อยก่อนคุณแม่มาถึง”
“และก็ไม่ใช่อย่างเมื่อวันก่อนด้วยละ...นั่นน่ะถึงคุกเลย”
“...................................................”
(“ยินดีต้อนรับ...อะ...”
“คุณพี่!!!”
“แกกล้าตบคุณหนู!!!...อยากตายเรอะ?”
“มาเลย!!...ปืนของพวกแกกับดาบของฉัน...ใครจะแน่กว่ากัน!!!”
“ไม่นะพี่แคท!!!!”
“ถอยไป!!”
“คุณบุศ!?”
“ฉันบอกให้ถอยไป!!!”
“...................................................”
“คนของฉันเก็บปืนแล้วพี่สุรีย์พรรณก็อย่าเอาดาบนั่นกวัดแกว่งไปมาอีกเลย...ดูสิ...ใครต่อใครแตกตื่นกันหมดแล้ว”
“เธอเป็นผู้หญิงชั่วช้าแบบที่คนปกติเขาไม่ทำกัน”
“ฉันไม่มีทางเลือก...คนที่ทำให้ฉันเป็นอย่างนี้ก็คือบอลนั่นแหละ”
“ว่าไงนะ?”
“น้องฝนจ๊ะพี่ว่าเรามานั่งคุยกันก่อนดีกว่า...เด็กๆ...ยกอาหารกับเครื่องดื่มมา”
“...................................................”
“โบว์ก็มาด้วย...รู้จักกับพี่ๆไว้นะเพราะวันหน้าเรากับเขาก็จะเป็นญาติกัน”
“พี่กุนกับน้องสาคือผู้หญิงที่พวกเรายอมรับ...ไม่ใช่เธอสองคนหรือใครหน้าไหนอีก”
“บุศก็รู้แต่แล้วยังไงล่ะคะ?...พี่แคทไม่ใช่คนที่จะแต่งงานกับบุศสักหน่อย”
“หือ?”
“ความหมายก็คือพวกคุณคือคนนอกค่ะและพี่บอลต่างหากที่จะเป็นผู้ตัดสินใจเอง”
“เชิญดื่มน้ำชาก่อนสิคะ”
“ฉับตบหน้าเธอแต่เธอยังมีแก่ใจชวนฉันดื่มอีก...ช่างใจกว้างจริงนะ?”
“เพราะความใจกว้างเป็นคุณสมบัติของผู้ดีค่ะพี่แคท”
“แต่เราจะไม่กินของๆคนไร้ยางอายแย่งแฟนชาวบ้านหรอก...เอากลับคืนไป!!”
“ไม่เห็นจะต้องรังเกียจกันถึงขนาดนี้เลยนี่นา?”
“ใช่ค่ะ...ลองเปิดใจยอมรับพวกเราสองพี่น้องดูบ้างจะเป็นไรไปเล่า?”
“แม้พี่กุนกับน้องสาจะไม่มีอะไรติดตัวมาเลยแต่ฉันก็จะขออยู่เคียงข้างพวกเธอโดยไม่มีวันเปลี่ยนใจ...ฝน...กลับ!!!”)
“คนเห็นแก่ตัวที่เที่ยวแย่งชิงของๆผู้อื่นและคนทรยศหักหลังเพื่อน...พี่ทำใจยอมรับคนพวกนี้ไม่ได้”
“ฝนเข้าใจความรู้สึกของพี่”
“เจ้านั่นไม่มีสิทธิ์เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นหรืองานอดิเรกยามว่าง...ฉันจะทำให้มันรู้ซึ้งชนิดที่ไม่มีวันลืมอีกเลยชั่วชีวิต!!!”
“.......................................................”
..........................................................................................................................................

(“เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งหลายวันแต่ผมไม่รู้เลย”
“...ป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“กลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมาซะแล้ว...ผมควรจะทำยังไงดีครับป้า?”
“......................................................”
“รู้งี้ผมไม่ปิดมือถือซะก็ดี”
“ก็ใครจะรู้จ๊ะว่าเวลาแค่สามสี่วันจะเกิดเหตุบ้าๆบอๆบานปลายใหญ่โต!?...อือ--...เอาอย่างนี้มั้ย?...ตาหนูทำตามที่ป้าบอก”
“?”
“ป้าพอจะมีวิธีดีๆอยู่แต่พ่อบอลต้องใจแข็งสักหน่อยนะ”)
...ใน รถไฟขบวนพิเศษผมนั่งกระสับกระส่ายด้วยจิตใจที่ร้อนรนคืออยากจะให้ถึงบ้านซะ ตอนนี้เลยจริงๆให้ตายเถอะ!!!...ไอ้ครั้นจะขอติดรถป้าเอ็มกลับพร้อมกันแต่ก็ ถูกเบรคเพราะกลัวแผนการเสียและเมื่อกี้โทรหาสาเพื่อจะง้อแต่เธอพูดว่าให้ถึง บ้านก่อนค่อยตกลงกันอีกทีส่วนกุนก็ปิดเครื่องโดยพยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่า คงจะไปเข้าห้องประชุมกับเจ้านายในฐานะที่เป็นเลขา...
“ฝนเหรอ?”
“อยู่ไหนเนี่ย?”
“...ออกจากพรหมพิรามมาแล้ว...ทางนั้นเป็นไง?”
“ทุกคนรอนายกลับไปคนเดียวแหละ...ป้าเอ็มกับแม่ก็จะมาถึงเหมือนกัน”
“อานิภา?”
“คงจะถึงไล่ๆกันน่ะ...บอล...คราวนี้เรื่องใหญ่มากเลยนะ...ฉันเตือนนายแล้วว่าพี่บุศเป็นคนไม่ดีให้เลิกยุ่งซะ”
“พอเถอะน่า!!...แค่นี้ฉันก็แทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว”
“มัวแต่เที่ยวเพลินไม่สนใจแฟนก็แบบนี้แหละ”
“ก็...อยู่บ้านเพื่อนมันฉันชวนกินเหล้าเมาแทบทุกวัน...แบตหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไม่รู้ตัว”
“เมาเหล้า!?...ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนเลยรึ?”
“ไม่...ขนาดขนมเปี๊ยะที่พี่แคทฝากซื้อฉันยังต้องรบกวนแม่เพื่อนเลย...นี่ฝน...ฉันถามอะไรหน่อย?”
“หืม?”
“สากับอ้อยโกรธฉันมากมั้ย?”
“ของมันแน่อยู่แล้ว”
“โธ่~~...พูดไม่ให้กำลังใจกันบ้างเล้ย!!!”
“แต่นั่นคือเมื่อก่อน”
“ตอนนี้ล่ะ?”
“ก็คงจะโกรธอยู่นะ...พี่กุนเอยป้ากวางเอย”
“..................................................”
“นี่...ฝนถามบอลบ้างสิ”
“อะไร?”
“อยู่ที่บ้านเพื่อนน่ะได้สนด้ายเข้าเข็มกับใครป่ะ?”
“สนด้ายเข้าเข็ม...จะ...จะบ้าเรอะฉันไม่ได้ทำ!!”
“จริงง่ะ?”
“แม่สาวแก่แดดนี่!!!...บอกว่าไม่ได้ทำก็ไม่ได้ทำสิ”
“เฮะๆๆ...ขึ้นเสียงดังแบบนี้น่าสงสัยซะจริง”
“ก็บอกแล้วไงว่า...”
“ขอให้เป็นตามที่พูดจริงๆเถอะเพราะทางนี้เองก็เริ่มจะไม่ชอบใจแล้วเหมือนกัน”
“ไม่ชอบใจ?”
“แค่นี้ก่อนนะ...พี่แคทเรียก”
“อะ...อือ”
... “ทางนี้” ที่ฝนว่าหมายถึงอะไรกันนะแต่จะให้รู้ไม่ได้หรอกว่าโกหกคำโตเพราะตลอดเวลาที่ พักอยู่ในบ้านพักกลางภูเขาผมเล่นสนด้ามเข้าเข็มกับผู้หญิงถึงสามคนที เดียว!?...นึกย้อนไปตั้งแต่ช่วงที่ศิไม่ได้ไปรับพี่สะใภ้และกลับมาแอบดูเรา กับป้าเอ็มมีสัมพันธ์สวาทกัน...
(“หนูแอบก่อนนะคะนายท่าน”
“จากนั้นเธอต้องมาปรนนิบัติฉันนะ”
“ค่ะ...ศิจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง”
...หลัง จากที่ศิไปซ่อนตัวแล้วผมก็เดินขึ้นบันไดซึ่งข้างบนนั้นป้าเอ็มกำลังนั่งยองๆ บีบหลอดเจลหล่อลื่นก่อนจะเอาป้ายรูตูดตัวเองพลางทำหน้าเหยเกเม้มปาก...
“อูย~~...ทีนี้แหละ...ควยหลานรักของฉันจะได้เข้าลึกๆ”
“น่าถ่ายรูปเก็บไว้จัง”
“คงไม่ว่ากันนะถ้าป้าจะทาเอง?”
“ไม่เป็นไรครับ...ช่วยประหยัดเวลา”
...ป้าเอ็มนอนหงายและยกขาขึ้นแบะอ้ารอ...ท่านี้ทำให้ผมเห็นรูทวารหนักของเธอมีรอยแดงกับกลวงโบ๋นิดๆ...
“เร็วๆสิผัวจ๋า~~...รีบมาเย็ดตูดเมียเร็วเข้า”
“ไม่ต้องท้า!!...จะล่อให้รูบานเดินขาถ่างเชียว”
“อ๊า!!!...แล้วจะติดใจจนลืมไม่ลงแน่ค่ะ”
...ผม ใส่ถุงยางเสร็จก็ลงนั่งคุกเข่าจับใต้ข้อพับป้าเอ็มแล้วโย้ไปข้างหน้าจนก้น ลอย...หญิงสาวเบือนหน้าไปทางอื่นด้วยความเขินอายแต่ก็แอบชำเลืองผมขยับควย เข้าใกล้รูก้นของเธอ...พอปลายหัวหยักสัมผัสกล้ามเนื้อหูรูดหล่อนก็เผลอ ครางออกมาเบาๆ...
“อาววววววววว...ไม่ต้องกลัวเมียเจ็บนะ...ดันเข้าไปเลย...อู๊ยยยยยยยยยยยยยย...นั่นแหละๆ”
“ซีดสสสสสสสสสสส...ตูด...ตูดเมียคับควยผัวมาก”
“อื๊ออออออออออออออ...หัวควยเข้ามิดแล้วก็ง่ายล่ะ...โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย...ทีนี้ต้องยัดทีเดียวมิดแท่งนะผัวขา~~”
“อยู่แล้วจ้ะ...ซีดสสสสสสสสสสส”
...ผม กลั้นหายใจก้มมองท่อนควยที่ค่อยๆจมหายเข้าไปในรูก้นป้าเอ็มจนมิดในที่ สุด...ฝ่ายสาวใหญ่นอนตาปรือมองเพดานซึ่งไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรในใจ บ้าง?...
“สองคนป้าหลานเนี่ยลามกจัง”
“ไม่หรอกครับ...ใครๆก็ทำกัน”
“ป้ากับหลานชายเนี่ยน่ะเหรอ?”
“ผมหมายถึง anal sex”
“ต้องเติม aunt ต่อท้ายด้วยจ้ะ”
... “Anal Sex Aunt” ...งั้นผมขอย่อลงเหลือแค่ “ASA!?” ถือเป็นรหัสที่รู้กันเพียงสองคน...
“เจ็บมั้ยครับ?”
“นิดหน่อยแต่ไม่เป็นไร”
“ผมจะสาวควยล่ะนะ”
“มาเถอะจ้ะที่รัก...เชิญตักตวงความสุขให้เต็มที่จะได้ไม่ต้องกลับไปหา...”
...ป้า เอ็มทิ้งท้ายประโยคและโอบคอคว้าผมไปจูบ...ดูท่าเธอจะหวงผมมากจริงๆเพราะ ตั้งแต่เสร็จศึกในครัวก็สั่งห้ามไม่ให้พูดถึงสาหรือใครๆที่บ้านต่อหน้าหล่อน อีก...
“อึ๊ก!!...ถ้าเมียยังไม่ทำหมันล่ะก็...จะมีลูกให้ผัวสักคนนะ...อืออออออออออออ”
“ไหวเหรอ?”
“อย่าดูถูกเมียคนนี้น๊า~~...อืมมมมมมมมมมมมม...ช้าๆค่ะ...อาสสสสสสสสสสสสส...เร็วอีกนิดนึง...อ๊อยยยยยยยยยย”
...ป้า เอ็มเอานิ้วถูหีขยี้แตดส่ายหัวไปมาด้วยความเงี่ยนง่านสุดจะระงับใจ...เธอจะ เคยนึกบ้างหรือเปล่าว่าวันหนึ่งต้องมานอนแก้ผ้าล่อนจ้อนให้หลานชายแท้ๆเย็ด หีเย็ดตูดตัวเองส่วนผมน่ะเหรอ?...แค่ฝันก็ยังไม่กล้าแต่บัดนี้มันกลายเป็น ความจริงแล้ว...ควยของผมกำลังหยุบเข้าหยุบออกอยู่ในรูตูดคุณป้าคนสวยวัย 49 เป็นครั้งแรกหลังจากที่เมื่อคืนก็ได้เปิดซิงทางรูหีเรียบร้อยไปก่อนหน้านี้ แล้ว...
“อูยยยยยยยยยยยย...เมียจ๋า...ผัว...ผัวกำลังเย็ด...เย็ดตูดเมียอยู่ใช่มั้ย?...ซีดสสสสสสสสสสส”
“ชะ...ใช่ค่ะ...เมียถูกผัวล่อตูด...อืมมมมมมมมมมมมมม...ควยผัวคับตูดเมียเหลือเกินค่ะ...โอ๊วววววววววววว”
...ไม่ อยากเชื่อจริงๆว่าประตูหลังของป้าเอ็มจะฟิตเปรี๊ยะมีแรงบีบรัดมากมายถึง เพียงนี้...ยิ่งกว่าของผู้หญิงคนใดๆที่เคยเจอมาซะอีก...ผมต้องออกแรงที่ เอวกระเด้าควยมากกว่าปกติจนเหงื่อไหลเต็มหน้าทั้งที่อากาศโดยรอบเย็น สบาย...หากไม่คุมจังหวะให้ดีก็มีสิทธิ์เงี่ยนแตกคาถุงยางในอีกไม่กี่วินาที ข้างหน้า...
(ให้ความรู้สึกแบบมันจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ตลอดเวลา)
“อึ๊บบบบบบบบ...กรอดดดดดดดดดดดด...ทำไมฟิตจังวะ?”
“ฮิๆ...อย่าเพิ่งออกละกัน...เมียยังไม่ได้ขย่มตามที่ผัวเรียกร้องเลย...อือออออออออออ”
“เมตตาผัวมือใหม่บ้าง”
“ไม่รุ!!...ถ้าผัวโยกช้าๆเนิบๆถึงตาเมียจะขย่มให้ควยผัวหลุดไปเลย”
“โธ่~~...อุตส่าห์ไม่เร็วมากเพราะกลัวแตกไวนี่น่า”
“มันอยากแตกก็ให้แตกมาสิคะไม่ต้องกลั้นไว้...ยังมีเวลาอีกเยอะ...ไม่ต้องกลัวเมียว่าเป็นไก่อ่อนหรอก”
...ผม กระเด้าควยถี่ขึ้นแต่ก็พยายามครองเกมส์ยื้อให้นานเข้าไว้ทว่าป้าเอ็มกลับ แกล้งขมิบรูก้นตลอดเวลา...ด้วยความที่มันฟิตจนรัดควยแทบปริอยู่แล้วก็ยิ่ง บีบตอดหนักข้อไปใหญ่...
“อืมมมมมมมมมมมม...พ่อบอลจ๋า...ซีด สสสสสสสสสสสส...เร็ว...เร็วเข้า...เร็วๆ...อูยยยยยยยยยยย...ป้าเสียวตูดจัง เลย...โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย...ควยตาหนูอร่อยเหาะไปเลยจ้ะ...อื๊อออออออออออ ออออ...เบาๆก็ได้เดี๋ยวออกเร็ว...อึ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“งะ...งั้นป้าขย่มดีกว่านะ...ผมได้จะออมแรงไว้”
“จ้ะ”
...ผม ชักควยออกจากรูก้นป้าเอ็มและจัดดึงถุงยางใหม่...สาวใหญ่บอกให้ผมนอนหงายเอา เบาะที่เตรียมมาหนุนหัวห้อยขาลงไปที่ขั้นบันไดแล้วยืนคร่อมจากนั้นค่อยหย่อน บั้นท้ายลงมาช้าๆพลางเอื้อมจับท่อนควยตั้งลำก่อนจะรูดเบาๆระหว่างนั้นผมถาม เธอว่า...
“ป้าเจ็บก็บอกนะครับ”
“ไม่เป็นไรป้าทนได้ถึงควยตาหนูจะใหญ่กว่าที่เคยเจอมาก็เถอะ”
“กว่าที่เคยเจอ”
“จะบอกให้รู้ก็ได้ว่าควยพ่อบอลน่ะใหญ่กว่าของตาภพซะอีก”
“ฮ้า!?”
“จริง!!”
(อดภูมิใจไม่ได้เหมือนกันแฮะ...อุ๊บ!!!)
“อู๊ยยยยยยยยย...อูยยยยยยยยยย...ตูดเมียแหกหมดแล้วมั้ง?...อืมมมมมมมมมมมมมม”
“หัว...หัวเข้าหมดแล้วครับ...ซีดสสสสสสสส”
...ป้า เอ็มเริ่มโยกตัวขึ้นลงช้าๆพลางบีบนมไปด้วยส่วนผมจับสะโพกเธอแล้วเงยหัวมอง ท่อนควยกำลังผลุบหายเข้าไปทางประตูหลังมากขึ้นเรื่อยๆจนมิด...ผมรู้สึกได้ ว่ามีน้ำเมือกจากรูหีไหลเยิ้มลงมาเปรอะควยซึ่งช่วยในการหล่อลื่นเวลาป้าเอ็ม ขย่มตัวขึ้นลงมันก็ซึมเข้ารูก้นโดยอัตโนมัติ...
“จะขย่มแล้วนะจ๊ะ”
“ผมรออยู่ครับ”
“อึ๊บๆๆๆ...โอวววววววววววว...จะ...เจ็บ...โอยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ป้า?”
“ไม่เป็นไร...มันเสียวมากกว่า...เพราะงั้นป้าไม่หยุด...คิกๆๆ...อืออออออออออออออออ”
...แสดงว่าที่บอกนั้นเป็นจริงเพราะป้าเอ็มเร่งความเร็วโขยกควยหลานชายตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆปากก็ครางกระเส่าร้องดังลั่นตามไปด้วย...
“อ๊าววววววววววววววว...รู้อย่างนี้...ป้ามาหาตาหนูนานแล้วววววววววววววว...เสียว...เสียวตูดจริงๆ”
“ผมก็เสียวควยครับ...โอววววววววววววววววว”
“ดีจริงที่ยังมีหลานชายไว้เย็ด...ซีดสสสสสสสสสสสสสสสส...คงไม่ว่านะที่มีป้าขี้เย็ด...โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ไม่...ไม่ว่าเลยครับ”
...ผมกับสาวใหญ่ร้องครางแข่งกันลั่นบ้านซึ่งถ้ามีใครอยู่รอบๆคงรู้แน่ว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่?...จริงด้วย...ยังมีศิอยู่อีก...
“ป้า...ป้าขย่มแรงไปแล้ว”
“ได้ ที่แล้วล่ะลูก...เด้งควยสู้ด้วยสิจ๊ะ...อื้มมมมมมมมมมมมมมมม...แข็งเต็มรูดี จังควยหลานรักของฉันเนี่ย...ทำไมควยใหญ่อย่างนี้...รูตูดป้าบานแน่ๆ...อู ยยยยยยยยยยยยยยย...ทั้งเจ็บทั้งเสียวพร้อมกันเลย...โอออออออออออออ”
...ป้า เอ็มเอนตัวมาข้างหลังพลางยื่นปากมาให้ผมๆจูบพร้อมส่งลิ้นเข้าไปในปากส่วนมือ ก็ขยำหน้าอกเธอไปด้วยโดยที่ท่อนล่างของเราก็กระแทกกระทั้นกันไม่มีหยุดพัก ให้เว้นระยะ...พี่สาวพ่อส่ายเอวร่อนคลึงแล้วเอานิ้วถูหีให้น้ำหล่อลื่นไหล ออกมาชะโลมควยเยอะๆ...
“เหมือนฝัน...”
“หือ?”
“เหมือนกับกำลังฝันเลยครับ”
“เหรอคะ?”
“แต่...แต่มันคือความจริง...ผมกำลังล่อตูดป้าอยู่...อู๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ชอบมั้ยจ๊ะ?”
“ชอบมากครับ”
“งั้นก็อย่าไปเย็ดใครอีกนะ?”
“เอ่อ”
“ฮิๆ...นึกแล้วว่าต้องลังเล...ไม่เป็นไร...อืมมมมมมมมมมมม...ตาหนูก็คิดเองเถอะว่าผู้หญิงคนอื่นกับป้า...ใครจะเย็ดมันส์กว่ากัน”
“อ๊ะ!!”
...ผม ร้องด้วยความเสียดายเพราะจู่ๆสาวใหญ่ก็ยกก้นขึ้นควยหลุดเลยเผลอแอ่นตามแต่ ไม่นานหล่อนกลับสวนรูตูดลงมาทับควยพอดีพอดิบ...เราสองป้าหลานถึงกับร้องครวญ ครางโผเข้ากอดกันแน่นด้วยความเสียวซ่านไปทั้งร่างกายเชียว...
“เอ๊าะอ๊อยยยยยยยยยย...เด้งควยขึ้นมาซะได้”
“ป้าเล่นแบบนี้หัวใจผมจะวาย”
“พูดจาเป็นคนแก่เลยนะ”
...ป้า เอ็มหมุนตัวกลับและประคองหัวผมให้ดูดนมส่วนเธอจับหัวไหล่ผมยกก้นกระแทกควย ปั่บๆๆๆๆอ้าหลับตาปี๋อ้าปากครางซี๊ดซ๊าดเหงื่อออกเต็มตัวแล้วระหว่างที่ผม เลียหัวนมป้าเอ็มอยู่นั้นศิได้ออกมาจากที่ซ่อนเดินขึ้นบันไดมาสองสามก้าวจาก นั้นก็เลิกเสื้อโชว์หน้าอกในวัยสาวน้อยให้ผมดูพลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากเพราะ ป้าเอ็มหันหน้ามาหาผมจึงมองไม่เห็นศิที่อยู่ข้างหลัง...
(เธอคงเงี่ยนเต็มที่แล้วล่ะแต่ว่าควยเราไม่ว่างกำลังร่วมเพศทางรูตูดนายหญิงของหล่อนติดพันอยู่เนี่ยน่ะสิ)
“เออะ...หลานรักของป้า...ไม่ไหว...ป้าจะออกแล้วจ้ะ...อ๊อยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ผมก็ชักไม่ไหวเหมือนกันครับ”
...ดี เลย...ผมไม่อยากน้ำแตกก่อนป้าเอ็มให้ขายหน้าตัวเอง...ในเมื่อสาวเจ้าจะถึง สวรรค์งั้นผมก็จะได้เสร็จตามหล่อนไปด้วย...อะไรนั่น!?...ศิรูดกางเกงยีนส์ลง แล้วเอามือลูบเป้ากางเกงในแถมส่งสายตาหวานเยิ้มให้ผมอีกต่างหาก...
“ปิดท้ายด้วยท่าเมื่อกี้เถอะ”
“ได้ครับ”
...ผมพลิกตัวสาวใหญ่ให้นอนหัวหนุนเบาะแทน...ป้าเอ็มโอบแขนกอดรัดผมแน่นพลางขยับก้นสู้ควยที่สวนแทงอย่างแรงเป็นการส่งท้าย...
“อะ...เอา เลย...ไม่ต้องกลัวป้าเจ็บ...เย็ดตูดป้าแรงๆ...อย่างนั้นๆๆๆ... โอ๊ววววววววววววววววววว...ถูกใจป้าเหลือเกิน...มะ...ไม่ไหวแล้ว วววววววววววววว”
“ผะ...ผมก็...กรอด...เงี่ยนจะพุ่งแล้วครับ”
“ออก...ออกเลย...เอาถุงยางออกแล้วยัดใหม่...ทะ...ทันมั้ย?”
“ไม่ครับ...ไม่ทันแล้วววววววววววววววววววว...โอ๊วววววววววว”
...ป้า เอ็มกอดตัวผมแน่น 2 ขาเธอตวัดไขว้เกี่ยวเอวพยายามแอ่นก้นใส่ผมเป็นพัลวันด้วยความบ้าคลั่งโดยที่ ศิยืนตรงหัวบันไดเอานิ้วถูกางเกงในตัวเองสูดปากซี๊ดซ๊าดตามไปด้วยและในที่ สุดควยผมก็ทนแรงบีบรัดภายในรูตูดของป้าเอ็มต่อไปไม่ไหวกระฉูดน้ำอสุจิออกมา มากมายยิ่งกว่าตอนเย็ดหียกแรกเสียอีก...ผมนอนหมดแรงบนร่างสาวใหญ่ที่ลูบหัว ลูบหลังกับมองด้วยแววตาที่รักใคร่เอ็นดู...
“ใช้ได้ยังครับ?”
“จ้ะ...ลีลาเข้าขั้นแล้วแต่ต้องให้อึดอีกนิด”
“ผมขอฝึกกับป้าอีกนะ”
“ได้จ้ะที่รักขา~~...น่ารักแบบนี้จะตามใจให้ทุกอย่างเลย”
...พอ ป้าเอ็มจะหันหน้าไปบันไดผมก็จับมาจูบเพื่อไม่ให้สาวเจ้าเห็นศิที่กำลังดึง กางเกงขายาวขึ้นแต่ก่อนนั้นหล่อนเอานิ้วเกี่ยวขอบกางเกงในที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่นพลางชี้มาที่บริเวณเป้าประหนึ่งต้องการจะบอกให้รู้ว่าตัวเองพร้อมมีเพศสัมพันธ์กับผมทุกเมื่อ...
“อะไรหรือจ๊ะ?”
“เปล่าครับ”
(แอบโบกมือให้ศิหลบไปก่อน)
“ฮิๆ...ควยตาหนูยังไม่หดง่ายๆเลยเนี่ย”
“เพราะฤทธิ์ยาหรือเปล่า?”
“ใช่จ้ะ...กินอีกสักเม็ดแล้วขึ้นไปพักในห้องก่อนนะ...เดี๋ยวเศกก็พาเมียมาถึงแล้ว”
...ผม ดึงควยออกจากรูก้นป้าเอ็มแล้วรูดถุงยางที่มีน้ำกามนองอยู่ในนั้นออกพลางคิด ว่าถ้ายกหน้าไม่สวมมันจะแตกเร็วกว่ายกนี้หรือเปล่านะ?...
............................................................................................................................

“อุ!!...อู๊ยแสบก้นจัง~~...ควยตาหนูก็ใหญ่คับรูเหลือเกิน...เอ๊ะ?”
“..............................................”
“ศิ!?...นี่!!...นี่เธอมาถึงเมื่อไหร่น่ะทำไมเร็วจัง?”
“หนูไม่ได้ไปค่ะ”
“ห๊า!?...งั้นเธอก็เห็น...”
“ค่ะ”
“สำคัญมากนะยะหล่อน!!...แอบดูตาหนูชำเราตูดฉันเพลินเลยสิ?”
“ก่อนหน้านั้นอีกค่ะนายหญิง”
“ฮ้า!!!...ในห้องน้ำกะในครัวก็ด้วยรึ?”
“..............................................”
“อื้อหือ~~...เธอนี่นับวันก็เหมือนสองพี่ชายจอมลามกเข้าไปทุกทีๆ”
“ต่อไปถึงทีของหนูมั่งสิคะ”
“หนอยแน่ะ!!...แอบย้อนกลับมาแล้วยังจะ...”
“นายท่านก็ตกลงแล้วค่ะ”
“ตาหนูรู้!?”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวเหอะๆ...สองคนนายบ่าวรวมหัวช่วยกันปกปิดดีนัก!!”
“นายหญิง...”
“ก็ตามใจซี่~~”
“ขอบ...ขอบพระคุณนายหญิงค่ะ!!!!”
“แต่ฉันจะเอาคืนแก้เผ็ดตาหนูมั่ง...ไว้รอให้สามคนนั่นมาก่อน...ฮิๆๆ...รับรองสนุกแน่!!!”
...ได้ยินเสียงสองนายบ่าวคุยกันผมก็อดขำไม่ได้ว่าจะโดนแก้เผ็ด...แหม~~...พูดดังแบบนี้เขาก็รู้ตัวก่อนสิครับคนสวยจ๋า!!!...
“ไม่มีทางยอมโดนเชือดง่ายๆหรอกน่า!!...มั่นใจว่าตัวเองก็มีดีเหมือนกัน”)
...เอา ไว้ว่างๆผมจะท้าวความถึงเหตุการณ์สยิวทั้งหมดตลอดเวลาที่พักอยู่ในบ้านพัก กลางอากาศให้กระจ่างแจ้งแต่ขอให้ผมเคลียร์ปัญหาของตัวเองซะก่อน...
(ทั้งที่กลุ้มใจจะตายห่าแต่ยังมีกะจิตนึกถึงความหลังอันสุดแสนทะลึ่งลามกของตัวเองได้อีก!?)
...................................................................................................................................................

“ประตูไม่ได้ล็อค!?...พี่แคท!!”
...ก่อน จะกลับเข้าบ้านไปอธิบาย(ง้อ)เรื่องราวให้สาวน้อยสาวใหญ่หายโกรธผมแวะที่หอ พักเพื่อจ่ายเงินค่าเช่าที่ติดค้างไว้แต่ก็ต้องประหลาดใจระคนตกใจเพราะเมื่อ เปิดไฟในห้องผมก็เห็นหญิงสาววัย 22 นั่งไขว่ห้างกอดอกและมีสีหน้าที่บึ้งตึง!?...
(โมโหใครมาเนี่ย?)
“พอดีเลย...นี่ครับขนมเปี๊ยะร้านที่พี่ฝากซื้อกับเงินทอน”
“.................................................”
“มีตราประทับของร้านด้วย...หากผมไม่ได้ไปลำพูนจริงก็คงไม่มีทางซื้อมาได้...จริงไหมครับ?”
“.................................................”
“...ทำไมมองผมแบบนั้น?”
...แล้ว ทันใดนั้นพี่แคทก็ลุกขึ้นมาชกหน้าผมจนเซถลาไปนอนหงายอยู่กลางห้อง!!!!...ผม โดนกำปั้นชกเข้าที่ระหว่างโหนกแก้มกับขมับอย่างจังเลยก็รู้สึกมึนหัวอยู่พัก ใหญ่กว่าที่จะนั่งได้...
“ปะ...เป็นบ้าอะไรของพี่!?”
“เป็นบ้าอะไร?...ฉันควรจะถามประโยคนี้กับเธอมากกว่า!!”
“เรื่องของบุศใช่มั้ย?”
“.................................................”
“แต่ผู้ดีเขาไม่ใช้กำลังตัดสินปัญหาหรอกนะและผมก็ไม่รู้เห็นกับการกระทำของบุศด้วย!!”
“ผู้...ดี?...อย่างเธอเหรอผู้ดี!!!”
(ทำ...ทำไมถึงต้องตวาดเสียงดังขนาดนี้ด้วย!?)
“เลิกแก้ตัวให้ดูประหนึ่งว่าเป็นคนดีซะที!!”
“เออผมมันไอ้เลว!!!...พอใจหรือยัง?”
“ไม่ ต้องทำเป็นพูดประชด!!...ที่ผ่านมาฉันพยายามอดกลั้นมาตลอดแต่ก็ไม่มีอะไรดี ขึ้น...บัดนี้...มันถึงจุดที่สุดแล้ว!!!...ฉันเคยพูดใช่ไหมว่าพี่กุนคือคน ที่มีบุญคุณและจะไม่ยอมให้อภัยใครก็ตามที่ทำให้เธอเสียใจ?”
...พอหญิงสาว ก้าวเข้ามาผมฉวยหยิบขวดน้ำขว้างใส่เพื่อหาทางหนีแต่นอกจากจะใช้ไม่ได้ผลแล้ว ยังถูกเธอใช้เข่าตีท้องจนทรุดฮวบแต่ไม่ปล่อยให้ผมร่วงไปกองกับพื้น...หล่อน คว้าคอเสื้อผมดึงขึ้นมาและมองด้วยดวงตาที่แดงระเรื่อ...
(หรือนี่คือ?)
“อะ...อะ”
“อย่าพูด--...อย่าพูดออกมาแม้สักคำเดียวเลย!!”
“หยุดนะพี่แคท!!!”
...ทันใดนั้นฝนก็กระโดดเข้ามาพร้อมกับเงื้อกำปั้นพุ่งใส่พี่สาวตัวเองอย่างไม่รีรอแต่ถูกป้องปัดได้อย่างง่ายดาย...
“ตามมาจนได้”
“หนูต้องตามสิ...ปล่อยบอลนะ!!!”
...ฝน พุ่งหมัดใส่อีกครั้งโดยทีนี้พี่แคทผลักผมออกไปและรับหมัดของน้องสาวด้วย กำปั้น...หมัดต่อหมัดประทะกันเสียงดังและจากแรงกระแทกทำให้สาวผู้พี่ที่ตั้ง รับอยู่กับที่ต้องถอยผงะไปมากกว่าเพราะสาวผู้น้องโถมเข้ามาทั้งตัว...
“กล้าแลกหมัดกับพี่ตรงๆแล้วหรือ!?”
“บอลรีบหนี!!!...ฉันจะรับมือพี่แคทเอง”
...ไม่... ไม่ไหว...รับการโจมตีที่รุนแรงเข้าไปถึงสองครั้งทั้งที่หน้าและที่ท้องผมจึง ยังทรงตัวขึ้นมาไม่ได้แต่ก็พยายามเขยิบตัวมาที่ประตูทว่าพี่แคทเดินมาขวาง ไว้...
“...หนีไม่พ้นหรอก”
“มากเกินไปแล้ว!!...ค่อยๆคุยกันสิคะ”
“ป่วยการที่จะพูดและเธอก็เหมือนกัน...ต่อให้เป็นน้องแต่ฉันจะจัดการซะอีกคนหากสอดมือมายุ่ง”
“พี่กุนกับสาไม่ต้องการให้พี่ทำเช่นนี้”
“ฉันจะสั่งสอนเจ้าลิงได้แก้วนี่แทนผู้มีพระคุณต่างหาก...ถอยไป!!”
“ไม่!!...บอลคือคนสำคัญฉะนั้นหนูจะไม่ปล่อยให้พี่ทำร้ายเขามากไปกว่านี้แน่!!!”
“ฝน!!...อื๋อ?”
...คราวนี้เป็นเศกกับศุกร์พุ่งเข้าสกัดพี่แคทด้วยการล็อคแขนสองข้างไว้รวมทั้งศิที่มาช่วยพยุงผมลุกขึ้น...
“พวกนาย!?”
“แจ๋วเลย!!!...ฝากด้วยนะ”
“ค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงพวกพี่...เอ็งพานายท่านไปเร็วๆเข้า!!!”
“ปล่อยฉัน!!!”
...สาว เจ้าผมยาวที่ขึ้นชื่อในความเงียบขรึมเป็นนิจแต่บัดนี้อาละวาดใหญ่ทั้งดิ้น ทั้งสะบัด...นี่ไปๆมาๆสองหนุ่มพี่น้องจะเริ่มรับมือไม่อยู่เหมือนกันนะ!?...
“นายท่านไปจากที่นี่เถอะค่ะ”
“ฉันไปไม่ได้...เศกกับศุกร์ยังอยู่ในนั้นและฝนด้วย”
“นายท่านคะ!!”
“ไม่!!...ฉันไม่ไป!!!”
“บอลจะอยู่นี่ทำไมอีกเล่า?...เที่ยวนี้พี่แคทจะเอาเลือดหัวนายออกให้ได้เลยนะรู้มั้ย!?...อย่าโง่เซ่!!!”
“กรอด!!!”
“คุณสุรีย์พรรณใจเย็นๆก่อน!!”
“ไม่ใช่ความผิดของนายท่านหรอกครับ”
“นายท่านบ้าบอคอแตกอะไร?...ฉันไม่ยอมรับเจ้าคนเหลวแหลกพรรค์นี้!!!”
“ออกแรงมากกว่านี้อีก!!!...ดิ้นหลุดเมื่อไหร่...เราเน่าแน่ๆ”
“ผมก็เต็มที่แล้วพี่...แต่...แต่แรงเยอะเหลือเกิน”
“แส่หาเรื่อง!!!”
“โอ๊ว!!”
“อะไรนี่?”
“ฮ่าห์!!!”
“!!!!”
...แม้ ศิจะหิ้วปีกพาออกมานอกห้องแล้วแต่ผมก็ยังทันเห็นความบ้าระห่ำของลูกพี่ลูก น้องวัย 22 ที่ไม่ทราบไปเอาพละกำลังมาจากไหนจัดการเหวี่ยงผู้ชายถึงสองคนไปคนละทิศคนละ ทางแต่จังหวะนั้นฝนก็ฉวยโอกาสถีบด้วยเท้าขวาเข้าที่ท้องจนร่างของพี่แค ทกระเด็นไปอัดกับผนังห้องและร่วงตกจากเตียงนอนหน้าคว่ำที่พื้นแน่นิ่งไม่ ไหวติงเส้นผมแผ่บานสยายแล้วดาบซามูไรก็หลุดจากข้างเอวหญิงสาวลอยไปตกบนโต๊ะ ของผมด้วย!!!!...
(นี่ตั้งใจว่าถ้าซ้อมเราจนน่วมแล้วก็จะจับตอนใช่มั้ยเนี่ย!!!?)
“สำ...สำเร็จแล้วคุณหยาดฝน!!”
“...................................................”
“น่ากลัวเหลือเกินครับ...เวลาคุณสุรีย์พรรณโกรธ”
“...................................................”
“...นายสองคน...รีบออกจากที่นี่...เดี๋ยวนี้เลย”
“หา?”
“เร็วเซ่!!!”
“คุณหยาดฝน!?”
“ถ้าเมื่อกี้บอกน่ากลัวแล้วต่อไปจะเรียกอะไร?”
“!!!!!!!!!!!”
“กล้า มาก...กล้าทำร้ายกระทั่งพี่สาวแท้ๆของตัวเองเพียงเพราะผู้ชายโฉดชั่วคน เดียว?...เพื่อปกป้องผู้ชายเพียงแค่คนเดียวก็ถึงกับเอาเท้าถีบพี่สาวร่วมสาย เลือดอย่างฉัน!!!!”
“ไม่ทันแล้ว!!!”
...และแล้วผมก็ได้ยิน เสียงบางอย่างที่ฟังแล้วมันน่าสยดสยองขนลุกคล้ายกับเสียงกระดูกหักยังไงก็ ไม่รู้ต่อจากนั้นเสียงร้องแห่งด้วยความเจ็บปวดก็ดังตามมาติดๆ...เศกถลันเข้า มาบังให้ฝนแล้วโดนพี่แคทต่อยเข้าที่ชายโครงอย่างแรง...
“พี่เศกคะ!!!!”
“อ๊อก...แค่กๆ...อั๊ก”
“โธ่เว้ย!!...ซี่โครงพี่หักไปกี่ซี่แล้วเนี่ย?”
“...ออกรับแทน?”
“ในที่สุด...ในที่สุดยมทูตมรณะก็เผยโฉมหน้าออกมาแล้ว!!!!...ถ้าไม่ทุ่มเทฝีมือสู้สุดชีวิตมีหวังถูกลากลงขุมนรกแน่!!!”
“คะ...คะ...แค่หมัดเดียว!?”
“ศุกร์...พาเศกออกไปแล้วล็อคประตูซะ...ฉันจะขอเดิมพันหยุดอสูรร้ายตรงหน้านี่เองเพื่อตอบแทนพี่ชายของนาย”
“คุณหยาดฝนจะสู้คนเดียวเหรอครับ?...เป็นไปไม่ได้!!!”
“อยู่ก็เป็นตัวถ่วงฉันเปล่าๆพี่นายซี่โครงหักเบาะๆก็สองซี่ต้องรีบไปรักษา...ทำตามที่บอก!!”
“คะ...ครับ”
“อย่าขยับ!!”
“พี่นั่นแหละหยุด!!!”
“ฝน!!...เธอทำอะไรน่ะอย่าบ้านะ!?”
“ยังไงก็เป็นน้องสาว..พี่แคทไม่ฆ่าฉันหรอก”
“ฉันไม่มีวันฆ่าเธอแต่จะสั่งสอนให้หลาบจำ...จะมอบความเจ็บปวดชนิดที่ไม่มีทางลืมได้ลงตลอดชีวิต”
“หนูไม่กระจอกขนาดจะให้พี่ทำอย่างพูดง่ายๆ”
“........................................................”
“พี่ศุกร์พาพี่เศกไปโรงพยาบาลนะคะ...หนูจะไปกับนายท่านเอง”
“ฉันไม่ไป!”
“นายท่าน!!!”
“อันตราย มากนะครับ!!...คุณสุรีย์พรรณในตอนนี้ถูกสุริยะโลหิตครอบงำ...เธอจะทำร้ายทุก คนที่ขวางหน้าแม้กระทั่งคุณหยาดฝนก็ยังไม่ปลอดภัย!!!”
“เพราะงั้นฉันถึงต้องอยู่”
“บอล...”
“จะแสดงให้รู้ว่าโทษของการลบหลู่ฉันคนนี้แล้วมันเป็นอย่างไร?”
“ไม่มีใครลบหลู่พี่แต่เป็นพี่เองนั่นแหละที่โมโหจนขาดสติ”
“หุบปาก!!!”
“ย่าห์!!!”
...ฝน เป็นฝ่ายฉวยโอกาสโจมตีก่อนด้วยการกระโดดถีบสองเท้าแต่พี่แคทกางฝ่ามือรับและ จับที่บริเวณน่องขาแล้วเหวี่ยงร่างน้องสาวทิ้งลงพื้นหน้าตาเฉยเหมือนกับ ขว้างสิ่งของที่ไม่มีชีวิต...พอล้มก้นกระแทกพื้นฝนก็กลิ้งตัวถอยออกห่าง ทันทีเพื่อเซฟตัวเอง...
“เชอะ!!”
“ที่นี่...ยาก”
“ถูกต้อง...มันยากมากแต่ยังไงหนูก็จะหยุดพี่ให้ได้และต้องเป็นในห้องนี้ด้วย”
“เสียแรงที่ฉลาด”
“อุ๊บ!!!”
...พี่ แคทจู่โจมกลับบ้าง...เธอสืบเท้าซ้ายไปข้างหน้าครึ่งก้าวแล้ววาดแขนชกอับ เปอร์คัทด้วยหมัดขวาในแนวเฉียงจากล่างขึ้นบนเฉียดคางน้องสาวที่ถอยหลบไป อย่างหวุดหวิดและตามด้วยหมัดซ้ายตรงซึ่งฝนก็ยกเข่ารับแต่ต้องหงายหลังล้ม เพราะความรุนแรงของกำปั้นกับการยืนทรงตัวแค่ขาเดียวทำให้ร่างกายเสีย สมดุล...
“แย่แล้วค่ะ!!”
“?”
“คุณหยาดฝนใช้ขาเป็นหลักจึงถนัด ต่อสู้ในพื้นที่กว้างแต่จุดเด่นของคุณสุรีย์พรรณคือหมัดที่หนักทั้งซ้ายและ ขวา...แม้ช่วงแขนของคนเราจะสั้นกว่าช่วงขาก็จริงแต่ศิคิดว่าในที่แคบแบบนี้ คุณสุรีย์พรรณจะได้เปรียบคุณหยาดฝนเพราะต้องการเนื้อที่น้อยกว่าค่ะนายท่าน”
“...แถมข้าวของที่อยู่ในห้องก็เป็นตัวเกะกะซะด้วย”
“ใช่ ค่ะ...จะเตะหรือจะถีบก็ใช้แรงส่งเต็มที่ไม่ได้...คุณหยาดฝนอาจจะใช้เข่า คล่องแคล่วแต่ก็ไม่เพียงพอจะเผด็จศึกคุณสุรีย์พรรณที่มีฝีมือระดับเดียวกัน ได้และยิ่งมาเกิดสุริยะโลหิตด้วยแล้ว...”
...หมายความว่าถ้าปล่อยให้ฝน สู้ตามลำพังก็มีแต่แพ้กับแพ้น่ะสิ!?...ไม่!!...จะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้เพราะ นี่คือปัญหาที่ผมเป็นคนก่อ!!!!...พี่แคทระดมพายุหมัดซ้ายขวาชกใส่ฝนที่หลบ กับถอยร่นเสียส่วนใหญ่แต่เธอก็จะตอบโต้กลับมาตลอดชนิดที่ทำให้พี่แคทชะงักไป ได้เหมือนกัน!!!...
“จะเตือนเป็นครั้งสุดท้าย...หลีก!!!”
“ไม่!!!...ถ้าพี่จะทำร้ายบอลต้องเอาชนะฝนซะก่อน”
“นังเด็กไม่รักดี!!!”
“พอแค่นั้นเถอะครับอย่าทำร้ายฝน!!...คนที่พี่ต้องการคือผมไม่ใช่หรือ?”
“นายท่าน!!!”
“นี่...นี่ศุกร์ไม่ได้ล็อคประตูเหรอ?...บ้าเอ๊ย!!!!”
“เตรียมตัวชดใช้กรรม!!!!!”
.........................................................................................................................................

...เรียบเรียงตอนนี้จบก็ให้มาคิดสงสัยว่าตกลงแล้วใครเป็นคนร้ายกันแน่ระหว่างบอลกับแคท?...

...ตอนที่แล้ว Wannaluck Sidestory 1 ...
...ตอนต่อไป ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 53 ...

Wannaluck Sidestory 1

Wannaluck Sidestory 1 “ทุกสิ่งไม่เหมือนเดิม!?”

“จะรับเพิ่มหรือเจ้าคะ?”
“เปล่าค่ะ...คือ...”
“................................................”
“................................................”
“ทำไมคุณป้อมถึงมองฉันจังเลยคะ?”
“คุณหนูเล็ก...คงจะอยากสนทนากับคุณวรรณลักษณ์กระมัง?”
...เสียง ของเด็กหญิงรับใช้ที่น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกันช่วยทำให้หนูตื่นจากจาก พวังค์...สนทนาหรือ?...คุณป้อมคงจะอยากตบหนูมากกว่า...พยายามมองไปทางอื่นรึ ไม่ก็ชวนพี่สาคุยโน่นคุยนี่แต่พอหันหน้ามาก็ยังเห็นคุณป้อมจ้องตาลุกวาวเสีย ทุกครั้งไป!?...ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าหนูไปทำอะไรให้เธอขุ่นเคืองตั้งแต่ เมื่อไหร่?...
(แล้วก็ทำไมน๊าทำไมเก้าอี้ตัวสุดท้ายในจำนวนทั้ง 8 ที่เธอนั่งถึงอยู่ใกล้ๆเราด้วย!?)
“จะให้รอไปถึงไหนเนี่ย?”
“ใจเย็นๆ”
“..............................................”
...พี่ สาเริ่มอึดอัดกับบรรยากาศเบื้องหน้าซึ่งหนูก็รู้สึกแบบเดียวกันว่าถ้าคุณปู่ กับคุณย่าของพี่บอลเห็นพวกเราแล้วจะว่าอย่างไรมั่ง?...พวกท่านจะยอมรับได้ หรือเปล่าโดยเฉพาะหนูที่เป็นแค่ลูกสาวอดีตคนรับใช้?...
“เปลี่ยนชุดแล้วค่อยมานั่งไม่ดีกว่าเรอะ?”
“เสียเวลา”
“ตรงไหน?”
“ก็ตรงที่มองบรรดาว่าที่พี่สะใภ้ทั้งหลายให้เต็มๆตาน่ะสิคะ”
“จะไปยุ่งอะไรกับเขาหรือ?”
“พี่แคทก็รู้ว่าป้อมคิดอะไรแต่ยังจะแสร้งถาม...จะให้บอกออกมา?”
“พูดจาโอหังยัยตัวเล็ก!!”
“หนูรู้สึกยังไงก็พูดออกมาแบบนั้น...ไม่เหมือนพี่ฝนที่ร้ายลึกน่ากลัวกับหลอกคนอื่นเก่งมากๆ”
“...............................................”
“พี่กวางว่าไว้ไม่ผิด...นิสัยเหมือนคุณศรมรกต”
“แถมแตะต้องไม่ได้ง่ายๆด้วย”
“หนูป้อมจ๊ะ”
“?”
“การรับฟังความเห็นของผู้ที่อาวุโสกว่าถือเป็นสิ่งที่สมควรกระทำนะ”
“หากมันมีประโยชน์จะรับฟังแต่ถ้าไม่หนูก็ขอเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา”
“..................................................”
“ยังไงก็แล้วแต่...คำสั่งสอนของคุณน้า...หนูจะจำใส่ใจไว้ไม่มีลืมค่ะ”
“..................................................”
“ฮืม--”
“ใช่แล้วจ้ะพี่แคท”
...แล้วพี่แคทกับฝนก็ยิ้มให้กันส่วนคุณป้อมหลับตานั่งเงียบไปพักใหญ่จนกระทั่ง...
“นายหญิงมาถึงแล้วเจ้าค่ะ”
“สวัสดีครับคุณแม่”
“ไม่ค่อยจะกลับมาเลยนะพ่อภพ?”
“งานมันยุ่งครับคุณแม่”
“แล้วปีใหม่จะมามั้ย?”
“โอ้!!...นี่โอกาสสำคัญไม่มาไม่ได้ครับ”
“ต้องพาหลานบอลมาพบแม่ด้วย”
...งาน นี้ไม่ใช่ง่ายๆเพราะพี่บอลยืนกรานว่าชั่วชีวิตจะไม่กลับมาที่นี่แถมพอใคร เซ้าซี้มากๆก็จะพาลโมโหทุกครั้งแต่คนๆนี้หรือคุณย่าของพี่บอล?...แม้จะล่วง เข้าวัยชราแต่ร่างกายก็ยังดูแข็งแรงกระฉับกระเฉงและที่สำคัญคือแววตาของท่าน เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตัวเองกับแฝงไว้ซึ่งอำนาจบารมีที่สามารถข่มผู้ อื่นให้ยำเกรงได้ตั้งแต่แรกเห็น...
“สวัสดีค่ะคุณแม่...กุน,สา...สวัสดีคุณย่าอุทุมพรซะสิ”
“อ้อย”
“ค่ะแม่”
“เดี๋ยวก่อน!...ฉันไม่ให้เรียกย่าเพราะพวกเจ้ายังไม่มีใครได้รับการยอมรับว่าเป็นหลานสะใภ้ของบ้านนี้”
“ทำ...ทำไมคะคุณแม่?”
“แม่ กวางฤทัยไม่เข้าใจหรือไงว่าฉันต้องการตัดปัญหายุ่งยาก?...รอให้หลานบอลเลือก ซะก่อนว่าจะแต่งงานกับใครแล้วค่อยมาเรียกย่าก็ยังไม่สาย”
“..................................................”
...นาย หญิงอุทุมพรช่างเป็นบุคคลที่น่าหวั่นเกรงมาก...แค่ได้ยินเสียงพูดปกติหนูก็ ตัวสั่นแทบจะไม่กล้าสบตาด้วยแล้ว...นึกไม่ถึงจริงๆว่าพี่บอลจะมีคุณย่าที่ เข้มงวดถึงเพียงนี้...
“ทะเลาะกับตามาอีกแล้วใช่มะ?”
“ฝน!”
“แหมๆ...ออกมาก็หน้าบึ้งอย่างเงี้ยสงสัยใช่แหงๆ”
“ยายไม่ได้ทะเลาะกับตาสักหน่อย”
“เฮอๆ...ถ้าเรื่องเงินล่ะก็หายห่วง...ตาไม่ได้แอบจิ๊กไปให้อีหนูที่ไหนแต่เอามาให้หนูเองแหละจ้ะ”
“ฮะๆๆอีหนูเร๊อะ!...ขานั้นน่ะไม่กล้าร้อก~~”
“คุณยายอย่าถือสาฝนนะคะ...เด็กนี่ชอบพูดเหลวใหล”
“เหลวใหลอะไรกันเจ๊?”
“หยุดพูดเลย!”
“ไม่เป็นไรๆก็เหมือนแม่ภาตอนอายุเท่าๆกันนี่แหละ...แล้วขนมที่ยายทำเป็นไงบ้าง?”
“อร่อยมากค่ะ”
“ฝีมือยายไม่มีตกเลยแต่คนเอามาให้เนี่ยสิ--”
“ว่าไงน๊ะ!?...คนเอามาให้มันเป็นยังไง?”
“ยังจะต้องให้บอกรึ?”
“ฮึ่ม!...แน่จริงก็พูดมาซี่!!”
“ไม่เอาลูกไม่เอา...พูดจากันดีๆเถอะเป็นพี่เป็นน้องกันทั้งนั้น”
“ก็พี่ฝนชอบแหย่หนูอยู่เรื่อย”
“งั้นยัยตัวเล็กก็อย่าหาเรื่องก่อน...ทำได้มั้ยล่ะ?”
“ใครกันแน่คะที่หาเรื่องก่อน?”
“เอ้าๆ...ยายขอๆ”
...ทว่า... พอกับหลานสาวของตนเองกลับมีสีหน้าแววตาทีท่าอ่อนโยนลงอย่างไม่น่าเชื่อซึ่ง พี่บอลก็คงจะได้รับการปฏิบัติที่ดูอบอุ่นมีเมตตาแบบนี้ด้วย...
“เอาล่ะ!...แม่สาวพวกนั้นน่ะแนะนำตัวให้ฉันรู้หน่อยว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครมาจากไหน”
“อะไรๆ...เริ่มไปแล้วเร๊อะ?”
“ก็ใครใช้ให้มัวแต่ยืดยาด”
“จะรอสักหน่อยก็ไม่ได้น๊า!!...มวยมันเพิ่งจบ”
...คราว นี้เป็นชายสูงวัยท่าทางใจดี...พอลงนั่งเก้าอี้ข้างๆนายหญิงอุทุมพรหนูก็รู้ ทันทีว่าท่านคือคุณปู่ของพี่บอลและเป็นผู้นำตระกูลวิษณุมนตรีคน ปัจจุบัน...ท่านเอกบดินทร์...
“สวัสดีคุณพ่อครับ”
“มากันตั้งเยอะตั้งแยะเชียวนะ...ใครบ้างเนี่ย?”
“เอาซี่พี่กุน!!”
(พี่ฝนดูจะเอาใจช่วยพวกเราเต็มที่!?)
“อ่า--...หนูชื่อศกุนตลาค่ะ”
“หนูเป็นน้องสาวชื่อสาวิตรีค่ะ”
“...ลูกสาวของสมควรใช่มั้ย?”
“ค่ะ”
“แหม่--...ไม่นึกว่าเจ้านั่นจะมีลูกสาวน่ารักขนาดนี้...นับว่าเจ้าบอลตาถึง”
“.............................................”
“แล้วแม่หนูคนเล็ก?”
“หนู...หนูชื่อวรรณลักษณ์เป็นลูกสาวของแม่ศรีวิกาค่ะ”
“ห๊ะ!!...ลูกสาวเจ้า?”
“ค่ะนายท่าน”
“เคยเห็นตอนแบะเบาะนี่จะโตเป็นสาวแล้ว...เฮ่ย!?...โดนเจ้าบอลหลอกเหมือนกันเรอะ?...ฮ่าๆๆๆ...เอากับมันสิ”
“ดีอกดีใจซะเหลือเกินที่หลานชายนิสัยเหมือนตัวเองน่ะ?”
“แน่นอน!!!”
(ปลื้มใจที่มีหลานชายเจ้าชู้!?)
“ก็เพราะแบบนี้แหละแม่เซคกับแม่ม่อนถึงไม่ยอมอยู่ไง”
“ปล่อยสองคนนั่นไปเถอะ...ใช่มั้ยเจ้าป้อม?”
“สงสัยเรื่องนี้จะยาวแน่ๆ”
“ข้าก็ว่างั้นแหละ”
“เออใช่ตาแก่...พี่ฝนจะแกล้งหนูอีกแล้ว!!”
“ว่ะ!?...อย่าไปเชื่อยัยตัวกะเปี๊ยกขี้จุ๊นะตา!!”
“คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?”
“ก็พี่สาวเธอไงยะ!”
“นิสัยแย่อย่างนี้ไม่นับถือเป็นพี่ร้อก!!”
“ฉันยังแย่น้อยกว่าเธอเฟ้ย!...ปากเสียแบบนี้ต้องจับตีก้นให้ลายพร้อย!!!”
“ทำได้ก็ลองเซ่!!”
“เฮ้ยๆๆๆ...พอซะทีได้ไหมต่อหน้าแขกเหรื่อตั้งเยอะแยะ?...พวกเจ้านี่มันยังไงกันเฮอะ!?”
“ฮึ่ม!!”
“แฮ่!!”
“หนูแคทพาน้องๆออกไปข้างนอก...ยายชักจะรำคาญแล้ว”
“ป้อมไม่ไปไหนทั้งนั้น!!”
“งั้นสัญญากับยายสิว่าจะอยู่เงียบๆ”
“หนูไม่มีเจตนาจะมาก่อกวนสักหน่อย~~...พี่ฝนต่างหาก!!”
“หนอย!!”
“เดี๋ยวเหอะ!...ถ้าไม่อยากถูกโยนออกไปทั้งคู่ก็นั่งฟังเฉยๆและอย่าหวังว่าตาจะช่วยเลย”
“อือ~~”
“..............................................”
“ยังๆ...ยังจะแยกเขี้ยวใส่กันอีก!?...ช่วยเห็นแก่หน้ายายเค้าหน่อยมีอะไรค่อยไปคุยกันทีหลัง...เข้ามาสิแม่นีย์”
“!!!”
“..............................................”
“ใคร...นี่ใครอีกล่ะคะคุณแม่?...หน้าเหมือนคุณอรนิภาเปี๊ยบเลยแต่...”
“น้องสาวฝาแฝดของคุณอรนิภาชื่ออรศินีย์จ้ะ”
...วาว!!!!... เส้นผมเธอยาวมากๆเลยแล้วก็ยังเป็นสี...สีขาวดุจน้ำนมซึ่งมันแปลกจริงๆเพราะ ปกติผมของคนไทยส่วนใหญ่จะสีดำและมีน้อยมากเหลือเกินที่จะมีสีอื่นอย่างเช่น ลุงเอกภพที่ผมเป็นสีทองมาแต่กำเนิด!?...
(แต่ผมพี่บอลสีดำเหมือนแม่รัญภรณ์)
“ฝาแฝดที่ผมต่างสีมีด้วยหรือเนี่ย?”
“พี่ไม่มีความรู้น่ะ”
“ไว้ยาวมากเลยนะ...นี่ขนาดรวบมัดทำทรงหางม้าปลายผมยังยาวถึงน่อง”
“มีความผิดปกติอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ไม่จ้ะ...แม่โตมาก็เห็นเธอเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว...แม้กระทั่งคิ้วก็สีขาวเห็นไหม?”
“แปลกมากๆ...ไม่เหมือนพี่สาวเลย”
...สรุป คือคุณอรนิภากับคุณอรศินีย์เป็นพี่น้องฝาแฝดที่ช่างแตกต่างกันมากเหลือ เกิน...เธอนั่งเก้าอี้ตัวสุดท้ายของแถวตรงข้ามกับพี่ฝนและคุณป้อมพอดีซึ่งก็ หยุดเถียงกันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้มีเพียงแค่เสียงซุบซิบเบาๆแต่อ้อยได้ ยินเพราะอยู่ใกล้...
“สงบศึกชั่วคราวนะคะถ้าไม่อยากโดนทำโทษ”
“กลัวรึ?”
“ลงโทษให้นั่งสมาธิเป็นชั่วโมงๆใครบ้างจะไม่กลัว?”
“ชี่~~...น้านีย์ยิ้มให้แสดงว่าได้ยินที่เราคุย!!”
“................................................”
(ที่แท้พวกเธอก็กลัวคุณอรศินีย์นี่เองแต่เหตุผลคืออะไร?)
“ท่านพี่เอกภพยังสบายดีอยู่หรือเจ้าคะ?”
“ก็...สบายดี”
“คุณกวางฤทัยแลคุณศรีวิกา...มิได้พบกันเสียนาน”
“จะ...จ้ะ”
“แลนั่น...”
“ลูกสาวของศรีเองค่ะ...อ้อย...สวัสดีคุณอรศินีย์”
“สะ...สวัสดีค่ะ”
“...ดูไปก็ช่างละม้ายคล้ายกับผู้เป็นแม่นัก...น่ายินดี...”
“..................................................”
“..................................................”
“พี่กุน...ทำไมคุณอรศินีย์มองเราเขม็งเลยล่ะคะ?”
“ไม่รู้สิ”
“บุตรสาวของสมควรหรือ?...ประเสริฐยิ่งนัก...ประเสริฐยิ่งนัก”
...คุณ อรศินีย์นุ่งผ้าซิ่นสีฟ้าอ่อนยาวเกือบถึงตาตุ่มที่มีลวดลายประณีตงดงามและ สวมเสื้อคอกลมสีเดียวกันส่วนเครื่องประดับก็มีสร้อยคอกับต่างหูแต่ที่โดด เด่นสุดไม่ใช่ของมีค่าทว่าเป็นรูปร่างหน้าตาต่างหาก...ฝาแฝดของคุณอรนิภาก็ หมายความว่าเกิดวันเดือนปีเดียวกัน...ปีนี้อายุ 40 แต่ดูภายนอกเหมือนเธอเพิ่งจะ 20 ปลายๆเท่านั้น...
“นี่แน่ะพ่อภพ!!...จะให้ลูกชายแต่งงานแล้วทำไมไม่พาเจ้าตัวมาด้วยล่ะ?”
“คือ...”
“มันหมายความว่าอะไร?...เอ้าแม่กวางฤทัยบอกฉันหน่อยซิ!!”
“..............................................”
“ไม่ได้ยินที่ฉันถามหรือ?...นี่ตกลงหลานบอลรู้หรือเปล่าว่าเขาจะต้องแต่งงานน่ะ?”
“อ่า...”
“ว่าไง?”
“ยัง...ยังไม่รู้ค่ะ”
“ไม่รู้?”
“...............................................”
“บังอาจ!!!”
“!!!”
“คุณแม่...คุณแม่ใจเย็นๆก่อนครับ”
...นาย หญิงอุทุมพรในวัยชราแต่น้ำเสียงยังกังวานสดใสและเต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจบารมี แค่เสียงของท่านคนเดียวก็ดังก้องไปทั่วห้องโถงและมันสามารถสะกดพวกเราทุกคน จนไม่มีใครกล้าแม้แต่จะขยับตัวกับไม่กล้าสบตาด้วย...หมดข้อสงสัยเลยว่าคุณศร มรกตนั้นเหมือนใคร...
“ไม่เห็นจะต้องโมโหโกรธาถึงขนาดนั้นเลยนี่ยาย?”
“ยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกรึไงเจ้าป้อม?”
“พี่ฝนเข้าใจงั้นก็บอกหนูมาสิ”
“สองคนนั้นน่ะเงียบ”
“อะไรกันเล่าพี่แคท?”
“...............................................”
“ฮึ!!...แค่พี่บอลไม่ได้มาด้วยเท่านั้นเอง”
...ไม่ เข้าใจหรือ?...ผิดแล้ว!!...อ้อยว่าคุณป้อมอาจจะรู้เรื่องแต่แกล้งมากกว่า เพราะสังเกตแววตาที่มองมาที่พวกเราแต่ล่ะครั้งมันแฝงไว้ด้วยความเย้ยหยันดู ถูกเช่นเดียวกับคุณศรมรกตผู้เป็นแม่และอาจจะรวมถึงคุณอุทุมพรผู้เป็นยาย...
“มัดมือชกกันนี่?...กวางฤทัยศรีวิกา...พวกเจ้าตั้งใจจะให้หลานเอกคเชนทร์เกลียดฉัน!!...จงใจจะให้เขาเกลียดย่าตัวเองใช่มั้ย?”
“ไม่...ไม่ใช่นะคะ!!!...คุณแม่อย่าเพิ่งเข้าใจผิด”
“นายหญิงคะ...ศรีไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่...”
“จะ บอกว่าหลานชายฉันรักกับลูกสาวเธอ?...ฮึ!!...จะรักกันขนาดไหนฉันไม่ขอรับรู้ แต่พ่อบอลต้องมายืนยันว่าอยากจะแต่งงานและจะแต่งกับใครด้วยตัวของเขาเองเท่า นั้น...จู่ๆมาขอให้พวกฉันรับรองโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องนี่เห็นทีจะไม่ ได้!!!”
“แต่บอลมอบแหวนหมั้นให้ลูกกุนแล้วนะคะ”
“ต่อให้แหวนราคาเป็นล้านก็ไม่มีประโยชน์หรอกแม่กวางฤทัย”
“คุณพ่อ”
“คุณกวางฤทัยเอย...ท่านแม่ก็ชี้แจงชัดเจนแล้วมิใช่หรือว่าต้องการให้หลานเอกคเชนทร์มายืนยันด้วยตนเอง”
“นีย์”
“โบราณว่าปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ผูกอู่ตามใจผู้นอน...ท่านพี่เอกภพสมควรให้หลานเอกคเชนทร์เป็นผู้ตัดสินใจนะเจ้าคะมิใช่ผู้ใหญ่รวมหัวหาวิธีรวบรัดจัดการกันเอง...นั่นหาใช่สิ่งที่สมควรกระทำไม่”
“ไม่...ไม่ใช่อย่างนั้น”
“จริงด้วยๆ...ถ้ามั่นใจกันนักหนาแล้วทำไมถึงไม่พาพี่ชายมาด้วยล่ะ?...อ๋อ!!...รึคิดจะใช้แผนมัดมือชกบีบให้พี่ชายไม่มีทางเลือกงั้นสิ?”
“เจ้าป้อม!”
“..................................................”
“ขอแสดงความเห็นหน่อยนะคะ...ในฐานะที่หนูก็เป็นวิษณุมนตรีคนหนึ่ง”
“ลองว่ามาซิ”
“อืม--...ฉันอยากจะถาม...เธอ!!”
“!!!!”
(หนูเหรอ!?)
“พี่ชายอยู่ไหน?”
“เอ่อ...ไปเที่ยวลำพูนค่ะ”
“แล้วเหตุใดจึงไม่รอให้พี่ชายกลับมาถึงก่อนค่อยหารือแต่รีบยกโขยงกันมาทำไม?”
“.................................................”
“ไม่ตอบงั้นฉันตอบเอง...พวกเธอกลัวพี่ชายจะถูกชิงตัดหน้าไปซะก่อนใช่ไหม?”
“หนูยังเด็กไม่รู้อะไรหรอก”
“รู้สิ!!...รู้ดีเลยล่ะและก็พวกเธอน่ะ...”
“ยัยตัวจิ๋ว!”
“ปล่อยนะพี่ฝนอย่ายุ่ง!!...พี่ชายหนูทั้งคนจะให้ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ยังไง?”
“เอาล่ะเลิกเถียงกันเสียทีฉันขอเป็นคนตัดสินเรื่องนี้เอง!!...ตกลงมั้ย?”
“...............................................”
“แม่กวางฤทัยกับแม่ศรีวิกาจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่...ไม่มีค่ะ”
“พ่อภพล่ะ?”
“ผมก็แล้วแต่คุณแม่ครับ”
“ยายจะว่าไงเร๊อะ?”
“เรื่องที่ให้หลานบอลแต่งงานฉันจะขอเลื่อนออกไปก่อนเพราะเจ้าตัวไม่รู้และไม่ได้อยู่ที่นี่”
“ข้ากับยายต้องการเห็นหลานชายได้ครองคู่กับผู้หญิงที่เขารักจริงๆโดยไม่ว่าจะเป็นลูกเต้าเหล่าใครมาจากไหนพวกเราก็ยอมรับได้”
..................................................................................................................................

“เหมือนกับเราเสียเวลาไปเปล่าๆยังไงไม่รู้ค่ะ?”
“อ้อยคิดเหมือนพี่กับสาเลย”
“แม่กับพี่กวางก็นึกแล้วว่านายหญิงต้องเอาประเด็นของบอลมาใช้”
“..........................................................”
...หมาย ความว่าคุณปู่เอกบดินทร์กับคุณย่าอุทุมพรจะไม่ทำอะไรทั้งนั้นจนกว่าพี่บอลจะ กลับมายังบ้านเกิดและประกาศต่อหน้าทุกคนว่าจะแต่งงานกับพี่กุนหรือ...ใครคน อื่น...
“เวลาอย่างนี้ดันหนีไปเที่ยวลำพูนซะได้...เหลวใหลจริงๆและไหนจะมียัยบุศยากับน้องของมันอีกเล่า!!”
“กล้าว่าร้ายพี่ชายฉันเรอะ?”
“คุณป้อม!?”
“รู้ผลลัพธ์ล่วงหน้าแล้วก็ยังจะโง่มากันอีกเขาเรียกงี่เง่าแต่แค่สัญญาปากเปล่าไม่ทำให้ตาเฒ่ายอมรับพวกเธอ”
“สาบานว่านั่นน่ะปากรึนังหนู?”
...คล้าย คุณป้อมต้องการจะดักรอพวกเรา!?...เธอขึ้นไปนั่งอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่หน้า บ้านพลางมองลงมาด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลยโดยเฉพาะอ้อยที่โดนจ้อง เหมือนกับเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่แค้นเคืองกันมานาน!!!...
“สาวิตรีเอ๊ยฉัน จะบอกให้เอาบุญ!!!...จู่ๆพวกหล่อนก็เดินดุ่มเข้ามาขอเป็นลูกสะใภ้ของวิษณุ มนตรีก็ถือว่าบังอาจมากพออยู่แล้วแต่เพราะยังเห็นแก่หน้าคุณน้ารวมไปถึงพี่ แคทกับพี่ฝนอยู่หรอกนะไม่งั้นตาแก่เฉดหัวพวกหล่อนออกไปตั้งนานแล้วรู้ไว้ เสียด้วย!!!!”
“ไร้สัมมาคารวะอะไรอย่างนี้!!!”
“อย่างพวกหล่อนไม่จำเป็นต้องมีโดยเฉพาะเธอ!!”
“หนู?”
“ฉัน ไม่ชอบหน้าเธอตั้งแต่แรกเห็นแล้ว!!!...ชั่วชีวิตนี้ไม่ต้องเจอกันอีกเลยคงดี มาก...อ้อ!...ในสายตาของฉันน่ะบุศยากับบุศลาวัลย์ยังดูดีกว่าพวกหล่อนซะอีก”
“อะไรนะ?”
“แสดงว่าเธอสนับสนุนสองคนนั้นหรือ?”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วจะทำไมรึศกุนตลา?”
“เพราะคุณป้อมไม่ถูกกับพี่แคทและก็พี่ฝนเลยเลือกถือหางฝั่งตรงข้าม”
“ฉลาดเหมือนกันนิ!?...นึกว่าจะดีแต่แก้ผ้าให้ผู้ชายดูอย่างเดียว”
“มันจะมากไปแล้วนะ!!!...ถือวิสาสะอะไรมาด่าลูกฉันฉอดๆ?”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ...ทน ฟังเรื่องจริงไม่ได้เลยเรอะศรีวิกา?...จะปฏิเสธไปทำไมเล่าในเมื่อสุภาษิตเขา ก็มีบอกไว้ว่าจะดูช้างให้ดูหางจะดูนางให้ดูแม่?...ฮิๆ...แม่ลูกประสาอะไรวะ มีรสนิยมชอบใช้ของร่วมกัน?”
“!!!!”
...ประโยคนี้ทำให้อ้อยใจหายวาบและแม่ก็คงจะไม่ต่างกันด้วยรวมทั้งพี่กุน,พี่สา,ป้ากวางที่ต่างก็มีท่าทางตื่นตระหนกไปตามๆกัน...
“ศกุนตลาและก็สาวิตรี...พวกเธอเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า?”
“พูด...พูดอะไรไม่รู้เรื่อง!!!”
“เอ๊าะเหรอ?...งั้นฉันถามแม่เธอดีกว่านะว่า...”
“...ป้อม”
“..........................................................”
“เพิ่งจะเจอกันแท้ๆ...มันไม่มีเหตุผลเลยนะที่หนูจะไปเกลียดพวกเขา”
“แต่แม่สอนป้อมว่าการที่จะเกลียดใครสักคนบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล”
“อะไรนะ?”
“และหนูก็เชื่อมั่นในสิ่งที่แม่สอนด้วย”
“ไม่...ไม่น่าเชื่อว่าพี่เอ็มจะสอนให้หนูมีความคิดแบบนี้...”
“หากคุณน้าไม่พอใจก็ไปคุยกับแม่เองเถอะค่ะ”
“..........................................................”
...................................................................................................................................

“แม่คะ”
“จ๊ะ?”
“หวังว่าคุณลุงจะไม่รู้นะคะ”
“แม่ก็กังวลอยู่แต่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร”
...พวกเราแวะกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารก่อนเข้าอำเภอวัดโบสถ์โดยเลือกที่จะไม่พูดถึงเหตุการณ์ที่โยนกบูรพา...
“โบว์!!!”
“ไง!!”
“มะ...มาทำอะไร?”
“ฉันกับคุณพี่ก็ไปที่โยนกบูรพาเหมือนกันน่ะแต่ไม่ได้เผยตัวเพราะอยากรู้ว่าพวกเธอจะทำอย่างไรบ้างและผลที่ได้รับกลับมาคืออะไร?”
“...................................................”
“คุณพี่ช่างคาดการณ์แม่นยำนักว่าพวกเธอจะคว้าน้ำเหลวกลับมาแน่นอน”
“ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องนี้”
“?”
“คุณ...คุณป้อมให้การหนุนหลังเธอกับพี่บุศจริงหรือเปล่า?”
“...จริง”
“แล้วเธอก็เป็นคนบอกคุณป้อมว่าฉันกับแม่และพี่บอลมีความสัมพันธ์กัน?”
“ถูกต้อง”
“เลว!!!”
...ปกติอ้อยจะพยายามอดทนอดกลั้นไม่โกรธใครง่ายๆแต่ครั้งนี้โบว์ทำเกินไปแล้วจึงตบหน้าเธอทีนึง...
“มือหนักดี”
“ร้ายมาก”
“ที่ร้ายน่ะมันเธอต่างหาก”
“หา?”
“สุดท้ายอ้อยก็ยอมให้พี่เชนล่วงล้ำ...ไหนเคยยืนยันนักหนาว่าจะมีแต่พี่บอลคนเดียวเท่านั้น?”
“!!!!!!”
“ตกใจรึ?”
“เธอ...เธอรู้มาจาก...ขวัญใช่มั้ย?”
“หากยัยขวัญไม่เมาก็คงไม่เผลอหลุดปากหรอก...โบว์รู้หลังจากที่พวกเธอไปโรงแรมนั่นได้อาทิตย์หนึ่งและจอยก็รู้เหมือนกันนะ”
“แล้วไง?...พี่บอลเขายอมให้พี่เชนเอาฉันเพื่อจะได้ไม่เสียเปรียบกัน”
“ไม่ๆๆ...ประเด็นสำคัญไม่ใช่ตรงนี้”
“อะไรนะ?”
“หลังจากนั้นๆ...ฉันเห็นกับตาตัวเองนะว่าอ้อยไปที่บ้านขวัญและทำอะไรกับพี่เชนบ้าง”
“...............................................”
“เดิมทีก็ไม่อยากยุ่งแต่เผอิญถ่ายคลิปไว้ด้วย”
“จะเอามาขู่ฉันเรอะ?”
“ขู่?...นั่นสิ...เกิดพี่บอลเห็นเข้าจะว่าไงน๊า!?”
“ไม่ นึกว่าเธอจะเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้เสียแรงที่คบเป็นเพื่อน...ฉันเชื่อพี่สาแล้ว ว่าเธอน่ะเป็นงูพิษแต่อย่าฝันว่าจะล้มฉันได้ด้วยวิธีนี้!!!!”
“?”
“เพราะฉันก็มีคลิปที่เธอแอบมีอะไรๆกับพี่เชนเช่นกัน!!!”
“!!!!!!”
“ก็ไหนพร่ำบอกนักหนาว่าที่น้ำตกนั่นจะถือเป็นอุบัติเหตุแต่ไหงถึงแบหีให้เขาเย็ดในห้องเรียนล่ะจ๊ะโบว์?”
“แก!!!”
“วัน นั้นฉันลืมสมุดจดเลยกลับมาเอาแต่ได้ยินเสียงซะก่อน...ต้องขอบคุณสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ที่ดลใจไม่ให้ฉันเผยตัว...เธอเองก็ไม่ซื่อสัตย์ต่อพี่บอลเหมือน กันนั่นแหละ!!...ว่าไงจะยังเอาคลิปนี้มาเล่นงานฉันอีกไหม?”
“...อ้อยนี่ก็ร้ายอย่างคาดไม่ถึงแฮะ...ขอดูหน่อยได้มั้ย?”
...หนูจึงเปิดไฟล์วิดีโอคลิปที่เก็บในมือถืออย่างไม่รอช้าแล้วชูให้โบว์ดูพลางเร่งเสียงให้ดังขึ้น...
“ไม่ผิด...คนที่กำลังขย่มตอพี่เชนคือฉันเอง”
“...............................................”
“สนุกกันจนลืมเลยแฮะฉันนี่”
“...แล้วของเธอ?”
“เอ้า!!”
“...ฉันก็แค่อมให้พี่เชนเท่านั้น”
“แค่ดูดควยแต่แก้ผ้าหมดเนี่ยนะ?”
“ไม่เชื่อก็ตามใจเอาไว้ถามขวัญเอง”
...สถาน ที่คือภายในห้องนอนของขวัญและอ้อยอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าคลานโก้งโค้งตูดก้ม หน้าเลียควยพี่เชนส่วนขวัญกำลังนอนตะแคงแหกขาเอาดิลโด้แหย่เข้าๆออกๆรูหี ร้องครางกระเส่าอยู่ใกล้กัน...
(“อาวววววววววววววว...เร็วๆเข้าน้องอ้อยจ๋า~~...พี่...พี่จะแตกแล้ววววว”
“อืมมมมมมม...อื้มมมมมมมมมมมม”
“นั่นต้องแบบนั้น!!!”
“อ้อย...ขอ...ขอให้ฉันเถอะ”
...ขวัญ ละมือจากควยยางและขอเล่นกับควยจริงต่อพอหนูได้ยินก็คายท่อนลำพลางหยิบกระดาษ มาเช็ดปากเพราะพี่เชนหลั่งน้ำกามออกมาบ้างแล้วแต่ยังไม่มากฝ่ายยัยขวัญเห็น ดังนั้นก็คว้าเข้าปากต่อทันทีเธอดูดแรงมากจนพี่เชนตัวงอร้องบอกให้เบาๆหน่อย แต่ขวัญก็ไม่ยอมฟังคล้ายคนตายอดตายอยากเรื่องบนเตียงมานานทั้งๆที่สองคนนี้ เอากันแทบทุกวันเรียกได้ว่าว่างเมื่อไหร่เป็นต้องเล่นเสียวกัน...
“อ้อยจะกลับล่ะ”
“อ๊าว!!!...ไหนน้องอ้อยบอกจะค้างที่นี่ไง?”
“หนูลืมไปว่าแม่จะกลับมาบ้านวันนี้ค่ะ”
“จะไม่ปลดปล่อยสักหน่อยหรือจ๊ะ?...ขวัญไม่ว่าอะไรหรอกนะ”
“อืม...”)
“...หมดแล้ว!?”
“ความ จริงฉันก็รู้อยู่แล้วว่าจากนั้นพวกเธอทำอะไรกันอีกบ้างเพราะยังแอบดูต่อแต่ ถามไปงั้นแหละ...ไม่หวั่นไหวไม่ตกใจสมกับเป็นอ้อยจริงๆ”
“เธอยิ้มอะไร?”
“เปล่านี่”
“โกหก!!...เห็นชัดๆว่ายิ้มอยู่...เธอกับพี่บุศกำลังวางแผนอะไรไว้อีกล่ะ?”
“................................................”
“โบว์!!”
“หนวกหูน่า!!...เกรงใจแขกคนอื่นเขาบ้าง”
“อ้อย~~...เราจะไปแล้วนะ”
“คะ...ค่า!!”
“................................................”
“โบว์”
“หืม?”
“เราสองคนจะไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อนใช่ไหม?”
“ก็...คงงั้นแหละ”
“ทุกสิ่งไม่เหมือนเดิมและไม่ยั่งยืน...สาอะไรกับใจคนเล่า?”
...หนูกับโบว์แค่รักผู้ชายคนเดียวกันเท่านั้นแต่กลับผิดใจจนถึงขั้นตัดความสัมพันธ์...ไม่น่าเลย...มันไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย...
“ว้าย!!!”
“อ๋าขอโทษทีน๊า!!...เผอิญมองไม่เหน~~”
“คุณนี่เอง!!”
...อ้อยเห็นกับตาเลยนะคะว่าพี่ฝนจงใจแหย่เท้ามาขัดขาโบว์ให้สะดุดและหวุดหวิดจะล้มที่หน้าห้องน้ำ!!!...
“รู้จักฉันด้วย?”
“คุณหยาดฝน เทวะกรนันท์ที่มีศักดิ์เป็นพี่ของคุณศรโกเมน...หนูย่อมรู้จักสิคะ”
“โฮ่!?...คารมคมคายไม่เบาแต่อย่างเธอกับเจ้าป้อมจะเอาชนะได้เรอะ?”
“ยังมีคุณพี่อีกทั้งคน...กรุณาอย่าประเมินพวกเราต่ำจนเกินไปนักเพราะอาจจะน้ำตาตกในภายหลังได้นะคะ”
“...................................................”
“พี่ฝน...คุณป้อมเลือกที่จะอยู่ข้างฝ่ายนั้น”
“ไม่ต้องกังวลหรอก”
“?”
“คน อย่างยัยตัวเล็กไม่เคยไว้ใจใครง่ายๆหรือยอมช่วยฟรีๆโดยที่ไม่หวังผลตอบแทน กับไม่มีจุดประสงค์แอบแฝง...เชื่อเถอะหนูอ้อย...พี่รู้นิสัยมันดีจะตายไป”
“ว่าแต่พี่ฝนคะ...คุณป้อมเธอเกลียดชังอะไรหนูนักหนา?...คิดจนหัวแทบแตกก็ไม่เข้าใจสักทีค่ะ”
“อือ...”
“..................................................”
“อาจเป็นเพราะหนูอ้อยหน้าอกใหญ่กว่ายัยตัวกะเปี๊ยกมั้ง?”
“เอ๋!?”
“ไม่เห็นเหรอจ๊ะว่าอกยัยนั่นน่ะแบนราบยังกับไม้กระดานซักผ้า?...มันก็คงจะอิจฉาหนูอ้อยไง”
...แล้ว พี่ฝนก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดีซึ่งภายนอกอ้อยก็พลอยยิ้มไปด้วยแต่ในใจกลับไม่ รู้สึกเบิกบานสักเท่าไหร่นักเมื่ออุปสรรคขวากหนามที่หนักหนาสาหัสกำลังรอ คอยอยู่เบื้องหน้า...
................................................................................................................................................

...ตอนที่แล้ว Savitre Sidestory 1 ...
...ตอนต่อไป ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 52 ...