หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2555

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 53

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 53 “เพลิงพิโรธที่ลุกโชนไม่สมบูรณ์!?”

“โอ๊ย!...โอย~~”
“นายท่าน!!”
“พี่!!!...รู้ทั้งรู้ว่าบอลจะเข้ามากันให้หนูแต่ก็ยัง...”
“มันสมควรโดน”
“ไร้น้ำใจ!!!”
“เกะกะนัก!!”
“ทำได้ก็ลองดู!!!”
...พี่แคทมุ่งมั่นจะเอากำปั้นยมทูตประทับบนหน้าผมให้ได้แต่ก็ถูกน้องสาวขัดขวางครั้งแล้วครั้งเล่าสาวเจ้าผมยาวจึงเบนเป้าเล่นงานฝนซะก่อน...ด้วยแรงแห่งโทสะที่เรียกว่า “สุริยะโลหิต” ทำให้เธอกลายเป็นนางมารร้ายที่สามารถประทุษร้ายทุกคนที่ขวางหน้าแม้กระทั่งน้องสาวร่วมสายเลือดของตัวเอง...การโหมบุกชนิดที่ไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้หยุดพักหายใจของพี่แคททำให้ฝนต้องยกแขนสองข้างป้องปัดอุตลุดทว่าเมื่อเจอกับกำปั้นที่รัวต่อยออกมาทั้งบนและล่างกับทั้งซ้ายและขวาก็ไม่อาจจะป้องกันได้หมดจึงโดนหมัดซ้ายชกเข้าที่หัวไหล่อย่างจังและหมัดขวาก็พุ่งตามออกมาเป็นลูกติดพันซึ่งเป็นจังหวะที่ผมถลันเข้าไปแล้วผลก็เป็นดังข้างต้น...แค่หมัดเดียว ผมก็ตัวงอเป็นกุ้งเพราะถูกอัดเข้าที่ท้องเต็มๆ...
“อูย~~...จะเรียก...สุภาพบุรุษได้มั้ย?”
“ศิเตือนนายท่านแล้วว่าอย่าเข้ามาในห้อง”
“ฉันเป็นต้น...เหตุนะ...จะหนีได้ไงเล่า?”
“แต่หากนายท่านยังอยู่ที่นี่...”
“พี่แคทจะเอาถึงตาย...ฮึ!!...ดูนั่น”
“............................................”
“ฝนยอมเผชิญหน้ากับพี่สาวที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธสุดขีดเพียงลำพังแล้วถ้าฉันทิ้งเธอหนีเอาตัวรอด...ฉันจะไม่สามารถมองหน้าใครได้อีก!!!”
“ไม่มีใครตำหนินายท่านอย่างนั้นหรอกค่ะ”
“คนอื่นจะว่าฉันโง่ก็ช่างแต่ต่อให้ช่วยเหลืออะไรฝนไม่ได้เลย...ฉันก็จะอยู่ที่นี่กับเธอ!!!!”
“แกจะต้องเสียใจ...อ๊อก!!!”
“แต่ได้ยินที่บอลพูดประโยคนี้ฝนก็ไม่เสียใจแล้ว!!!!”
“ฮึ่ม!!!”
...ฝนงัดวิชาคาราเต้ออกมาสู้กับพี่แคททุกรูปแบบจนข้าวของพังยับกระจัดกระจายหมดแถมหลอดไฟบนเพดานยังแตกเพราะโดนอะไรบางอย่างไปก็ไม่รู้พอภายในห้องมืดสนิทสองสาวพี่น้องก็ออกมาสู้กันข้างนอกผลัดกันรุกผลัดกันรับชนิดไม่มีใครยอมใคร...พี่แคทถูกถีบยอดอกหงายท้องหงายไส้แต่ก็ลุกมาเหวี่ยงศอกกระแทกกลางหลังฝนหน้าคว่ำล้มไปได้เหมือนกันแล้วพอจะเข้ามาซ้ำฝนก็คว้ากองหนังสือพิมพ์ฟาดตีพี่สาวจอมระห่ำสุดท้ายหยิบเก้าอี้พลาสติคขว้างใส่แต่พี่แคทปัดได้พลางแผดเสียงร้องลั่น...
“ไอ้เด็กบ้า!!!”
“ก็บ้าทั้งคู่แหละ”
“เอะอะอะไรหา?...ทำอะไรกันน่ะ!?”
(แย่แล้ว!!!)
... “น้าเย็น” เจ้าของหอพักวัย 40 ปีผัวเป็นตำรวจยศจ่าอยู่ที่อุทัยธานีมีลูกชายคนนึงเรียนชั้นมัธยมต้นซึ่งบ้านแกก็อยู่หลังหอพักนี่เองและช่วงเวลานี้ของทุกๆวันแกจะเดินขึ้นมาตรวจตราความเรียบร้อย...น้าเย็นเป็นคนปากจัดและไม่ยอมเสียเปรียบใครง่ายๆแถมยังงกอีกต่างหาก...สงสัยผมคงได้โดนไล่ออกก็ครั้งนี้แหละเพราะสองลูกพี่ลูกน้องทะเลาะวิวาทกันจนทำข้าวของๆแกเสียหายไปหลายอย่างไม่ว่าจะหลอด ไฟ,เก้าอี้,ประตู,หน้าต่าง...
“............................................”
“เสียงดังหนวกหูลงไปถึงข้าง...ว้ายผีหลอก!!!!”
...งานนี้น้าเย็นคงกะจะเฉ่งด่าให้สะใจปากเหมือนทุกทีแต่ขอโทษ!!...พอแกขึ้นมาเห็นหน้าพี่แคทเท่านั้นก็ถึงกับหวีดร้องด้วยความตกใจเป็นลมหมดสติไปเลย(จะมาทำซากอะไรวะเนี่ย?)ซึ่งถ้าผมไม่รู้เรื่องสุริยะโลหิตมาก่อนหน้าและเจอเข้าอย่างนี้ก็คงช็อคตาตั้งไปเหมือนกัน...
(เผอิญพี่แคทอยู่ตรงที่สลัวๆตาของเธอเลยมีแสงสีแดงก่ำ...ใครไม่รู้ความก็นึกว่าหล่อนเป็นผี)
“โอ๊ว!!”
“จะไม่ยอมแพ้เรอะ?”
“หนูขอสู้ตาย!!!”
“หนอยแน่!!!”
“คุณหยาดฝนสู้ไม่ถอยแบบนี้คุณสุรีย์พรรณยิ่งโมโหไปใหญ่”
“..............................................”
(“ป้าจะบอกให้ตาหนูรู้ว่าสุริยะโลหิตคืออะไร?...สุริยะโลหิตคือภาวะการเปลี่ยนแปลงในร่างกายที่จะเกิดขึ้นในหญิงสาววัยกำดัดของตระกูลวิษณุมนตรี”
“เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น?”
“จ้ะ...วัยกำดัดในที่นี้จะยืนยาวไปจนกว่าเธอผู้นั้นจะให้กำเนิดลูกสาวคนสุดท้องและราวๆหนึ่งปีต่อจากนั้นสุริยะโลหิตในร่างกายจะเสื่อมถอยลงไปตามลำดับ...สุดท้ายไม่มีเหลืออยู่อย่างเช่นป้าหรือนิภา”
“ถ้าเป็นลูกผู้ชายและไม่ตั้งท้องอีกล่ะครับ?”
“...สุริยะโลหิตก็จะยังคงอยู่จนล่วงเข้าวัยกลางคนและค่อยๆหายไปเองจ้ะ”
“..............................................”
“ของป้าหายไปหมดตอนอายุเข้า 35 หลังจากคลอดน้องคนสุดท้องไม่นานส่วนนิภาประมาณ 22-23 และพอลูกสาวอายุประมาณ 3-4 ขวบสุริยะโลหิตในร่างกายก็จะเริ่มตื่นพร้อมกับกล้าแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ”
“สืบทอดจากรุ่นหนึ่งไปอีกรุ่นหนึ่ง...อย่างกับทายาทอสูรเลย!?”
“หลักๆที่มองเห็นได้คือดวงตาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มเพราะมีเลือดไหลเข้าไปในส่วนที่เป็นตาดำ”
“มัน...มันไม่เป็นอันตรายหรือครับ?”
“ไม่จ้ะเพราะมันไม่ใช่โรคหรือได้รับบาดแผลเพียงแค่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงอยู่ใน นั้นมากกว่าปกติ...อ้อ!!...ถ้าเป็นตอนกลางคืนดวงตาจะเรืองแสงได้ด้วยนะจ๊ะ...สีแดงส่องสว่าง”
“ผะ...ผมว่ามันจะน่ากลัวเกินไปแล้วครับ...นี่คนหรือภูติผีกันแน่?”
...เดี๋ยวก่อนซิ!?...ดวงตาเรืองแสงได้ในตอนกลางคืน!!!...เหมือนว่าผมเคยได้ยินมาจากที่ไหนมาก่อน?...
“เอ่อ--...สุริยะโลหิตจะทำให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้างครับนอกจากตาดำเป็นสีแดงเลือดกับสุ้มเสียงที่ห้าวขึ้น?”
“ที่เห็นชัดๆคือความป่าเถื่อนเหี้ยมโหด...มันจะเข้าครอบงำจิตใจส่วนที่เป็นด้านดีไว้หมดสิ้น...คิดเพียงอย่างเดียวคือทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ศัตรูล้มลงตรงหน้าในสภาพที่ไม่อาจจะลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้ง”
“ทำยังไงถึงจะเกิดสุริยะโลหิตครับ?”
“...ส่วนใหญ่เกิดจากความโกรธ”
“ความโกรธ?”
“อืม!!...ต้องมากอย่างผิดปกติด้วย...ยกตัวอย่างง่ายๆ...ตาหนูเคยโมโหใครจนอยากจะฆ่าให้ตายหรือเปล่า?”
“ผมไม่...”
“สำหรับผู้ที่มีสุริยะโลหิตในตัวนั่นแหละคือเชื้อไฟ...โกรธเคือง,เคียดแค้นชิงชัง,ผิดหวังโศกเศร้า,มัวเมาหม่นหมอง”
“ไม่เคยเห็นเลยครับผมจึงไม่รู้...พี่แคทกับฝน...”
“สำหรับหนูสองคนนั้นถ้าไม่โมโหถึงขีดสุดก็ไม่เกิดหรอกซึ่งต่างจากลูกสาวป้าที่เกิดขึ้นง่ายกว่าแต่ระดับของสุริยะโลหิตจะพอๆกัน”
“หมายความว่าสุริยะโลหิตของสองคนนี้จะใช้แรงโทสะเป็นเชื้อ?”
“ถูกต้องเลยและถ้าได้เห็นบุคคลอันเป็นที่รักของตัวเองโดนทำร้ายก็จะยิ่งส่งผลมากขึ้นไปอีก”
“มันจะเพิ่มพลังทำลาย...ประเภทว่าช่วยให้หมัดหนักขึ้นด้วยหรือเปล่าครับ?”
“...ไม่นะจ๊ะ...แค่ขจัดความลังเลกับความกลัวออกไปจากจิตใจเท่านั้น”
“อ๋อ!!... เมื่อไม่มีความเกรงกลัว,เมตตาสงสารหรือลังเล...ตั้งใจแน่วแน่ที่จะต่อสู้จึงใช้กำลังออกมาได้อย่างเต็มที่...โจมตีแต่ล่ะครั้งก็จะทำอย่างสุดกำลัง”
“แต่ความน่ากลัวที่แท้จริงไม่ใช่ระดับของสุริยะโลหิตนะ...วิชาการต่อสู้ต่างหากล่ะพ่อบอล...หนูแคทกับหนูฝนฝึกศิลปะการต่อสู้มายาวนานเป็นสิบปีจนมีความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้ง...รู้ว่าส่วนไหนในร่างกายคือจุดบอดหรือจุดตายและรู้ว่าโจมตีไปแล้วจะส่งผลอย่างไรบ้างแต่หากใครที่พวกเธอตัดสินแล้วว่านี่เป็นศัตรูไม่ต้องให้รอตะวันเลือดออกมาหรอกจริงไหมจ๊ะ?”
“พวกเธอไม่เคยบอกผมเลย”
“เอ่อ--...ที่ไม่พูดก็คงเพราะว่ามัน...ไม่น่าดูน่ะ”)
“โอ๊ย!!”
“ก็บอกว่าไม่ได้ผลยังไม่เข้าใจอีก...ลูกไม้เดิมใช้ไม่...อั๊ก!!”
“ยังไม่จบหรอก!!”
“เจ้าเด็กนี่!!!”
“ฮึ่ย!!!”
...ในสถานที่แคบๆนี่แขนมีประโยชน์กว่าขาซึ่งฝนก็รู้จึงหาจังหวะล่อหลอกเพื่อรุกเข้าถึงตัวและใช้วิชาบิดข้อต่อแต่พี่แคทไม่หลงกลสะบัดหลุดทุกครั้ง...ที่ป้าเอ็มว่ามันไม่น่าดูนั่นก็เพราะมีเลือดจำนวนมากไปหล่อเลี้ยงอยู่ในส่วนตาดำและส่องสว่างได้หากอยู่ในที่มืดอีกทั้งน้ำเสียงยังเปลี่ยนไปคือห้าวทุ้มไม่ แหลมเล็กอย่างปกติและดังก้องกังวานฟังแล้วน่าเกรงขาม...
“อ๊า~~”
“ฝน!!!”
...แค่ชั่วเดี๋ยวเดียวที่ผมนึกถึงตอนที่คุยกับป้าเอ็มเรื่องของความลับของสุริยะโลหิตฝนก็ถูกพี่แคทจับตัวได้!!!!...
“ความไวนั้นน่ะน่ารำคาญแต่มันจบแล้ว”
“ไม่...ไม่”
“นายหญิงรีบขึ้นมาเร็วๆเข้า...ศิอยู่กับนายท่านค่ะ”
“อึ๊!!”
“ทำให้ฉันเสียเวลาไปมากนะ...เจ้าเด็กนิสัยเสีย”
“!!!!”
...และแล้วพี่แคทก็ทำในสิ่งที่พวกเราไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองคือเธอก้มจูบปากฝนและก็ใช้สันมือตีที่หลังคอน้องสาว...ในหนังประเภทบู๊ดุเดือดผมเห็นบ่อยถ้าโดนฟาดจากบริเวณนั้นก็สามารถทำให้คนเราสลบได้...
“อย่า...อย่านะ!!”
“นอนอยู่ตรงนั้นแหละ”
“บะ...บอล...หนี--”
...ฝนพูดได้แค่นั้นก็ทรุดฮวบหมดสติไปและวินาทีนั้นพี่แคทก็หันขวับจ้องมาที่ผม...ศิจึงตัดสินใจขั้นเด็ดขาดชักปืนออกมาจากเอวแต่ทว่า...
“คนที่จะเอาชนะฉันได้ไม่มีอีก...แล้วทางหนีของแกก็ปิดตัวลงด้วย”
“หยุดเถอะค่ะคุณสุรีย์พรรณ...อย่าให้ดิฉันต้องลำบากใจเลย”
“...............................................”
“!!!”
“ชักช้า!!!”
“ว้าย!!”
“พี่แคท!!!...ศิไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ”
“หุบปาก!!...ฉันจะไม่ละเว้นไอ้อีหน้าไหนที่บังอาจมาขัดขวาง...หือ?”
“ได้โปรดอย่าทำร้ายนายท่าน...ศิขออ้อนวอนคุณสุรีย์พรรณเถิด”
“............................................”
“............................................”
“แกมีความภักดีกับไอ้สารเลวนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ในเมื่อเจ้านายของแกก็มีอยู่?...สิ่งที่พวกแกสามพี่น้องกำลังกระทำคือการทรยศเนรคุณ!!!”
“ไม่...ไม่ใช่นะคะ!!”
“อย่ามาแก้ตัว!!!”
...หลังจากศิโดนแย่งปืนจากมือก็ถูกเตะล้มคมำแต่ยังตะเกียกตะกายคว้าข้อเท้าของพี่แคทพลางอ้อนวอนไม่ให้ทำร้ายผมทว่าหญิงสาวผมยาวไม่ยอมฟังและใช้ด้ามปืนทุบที่ท้ายทอยของศิจนสลบไปอีกคน...
“ไม่มีใครช่วยแกได้อีก...แค่ยืดเวลาออกไปเท่านั้น”
“เอาเลย!!...พี่แคทอยากจะทำอะไรก็เชิญ!!!...ปืนในมือนั่นไงเล่า”
“สำหรับคนอย่างแกน่ะใช้ไอ้นี่สนุกกว่า...อัญเชิญยมทูต!!!!”
...พี่แคทตวาดเสียงดังกึกก้องแล้วกำหมัดสองข้างยกแขนขึ้นเสมอระดับอกพลางพุ่งเข้ามาจับคอด้วยมือซ้ายจากนั้นมันก็เหมือนทุกสิ่งรอบๆตัวสว่างจ้าหรือว่าผมจะถึงแก่ชีวิตแล้วกำลังเดินทางไปสู่อีกโลกหนึ่ง!?...โลกที่มีคุณแม่รัญภรณ์...
....................................................................................................................

“?”
“.....................................................”
“สมุดปกแข็งในเสื้อ...ใครกัน?”
“.....................................................”
“ศศิธร?...ไม่เลว”
“หยุดเดี๋ยวนี้!!!”
“พวกแก!!...ฮึ่ย~~”
“ล็อคคอไว้!!!...ออกแรงเต็มที่ไม่ต้องกลัว”
“ใครสั่งพวกแกมา?”
“กรุณาหยุดได้แล้วค่ะคุณสุรีย์พรรณ!!...เหตุผลของคุณไร้ความชอบธรรมแล้ว!!!”
“มันยังไม่จบแค่นี้หรอก!!...ไร้ความชอบธรรมรึ?...ปล่อยเซ่!!!”
“ต่อให้เก่งแค่ไหนแต่ถูกประชิดตัวล็อคคอล๊อคแขนขาก็ไปไม่เป็น...เมื่อกี้คุณถามใครสั่งมาใช่ไหมคะ?”
“กรอด!!!”
“ก็คุณแม่ของคุณเอง”
“ว่าไงนะ!?”
“ฝน!!...ฝนเป็นยังไงบ้างลืมตาดูแม่สิลูก!?...บอล...บอลตื่นสินี่อาเองนะ!!...พี่เอ็มมาเร็วๆเข้า!!!”
“...แม่”
“ตาหนู!!!...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?”
“ทำไม...ทำไมถึงมาขวาง?”
“เกินไปแล้วนะเจ้าลูกบ้า!!!”
“....................................................”
“จะลืมตาตื่นได้หรือยัง?”
“แม่...ตบพี่...”
“ก็ตบให้ตาสว่างไง!!...มีพี่ที่ไหนในโลกทำร้ายน้องๆตัวเองจนบาดเจ็บหมดสติไปตามๆกันอย่างนี้บ้างหา?...แม่ไม่นึกเลยว่าลูกจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้น่าผิดหวังเหลือเกิน!!!...ความใจเย็นสุขุมรอบคอบมันหายไปไหนหมดแล้ว?...ดูซิ!?...ดูให้เต็มๆตาเลยว่าทำอะไรลงไป!!...ต้องให้ฝนหรือไม่ก็บอลคนใดคนหนึ่งตายไปต่อหน้าใช่มั้ยถึงจะสะใจ!!!”
“คุณแม่เข้าข้างคนผิด!!!...หากบอลเป็นคนซื่อสัตย์เสียแล้วแคทจะมีเหตุผลอะไรไปยุ่ง?”
“จะผิดหรือจะถูกลูกก็ไม่ควรแสดงความป่าเถื่อนอย่างนี้...ปล่อยให้ความเคียดแค้นชิงชังเข้าครอบงำ...แบบนี้จะเป็นตัวอย่างให้น้องได้อย่างไร?...ลืมคำสั่งสอนของแม่หมดแล้วหรือว่าจงเป็นคนใจเย็นทำอะไรให้มีสติกับตัวเสมอ?”
“เพราะแคทให้โอกาสบอลปรับปรุงตัวมานานมากเกินพอและที่คุณแม่พูดก็ใช่ว่าจะไม่ทำตามแต่พอเห็นพี่กุนกับสาต้องเศร้าโศกเสียใจแคทจึงทนไม่ได้”
“แต่อย่างไรลูกก็เป็นคนนอก...ขึ้นชื่อว่าแฟนกันก็ต้องปล่อยให้พวกเขาเคลียร์ปัญหาเอาเอง”
“หนูจะไม่ยุ่งด้วยเลยถ้าไม่ใช่พี่กุน”
“ยังจะเถียงแม่อีก?...นี่ถ้าแม่กับป้ามาไม่ทันแคทตั้งใจจะทำอะไรกับบอลอีกรึ?...จะเอาให้ถึงแก่ชีวิตให้ได้ใช่ไหมแคทจึงจะมีความสุขได้?”
“....................................................”
“ตาหนูๆ...ลืมตามองป้าสิ!!!...ตาหนู!!!!”
“อึ๊ก!!...อือ--
“พ่อบอล!!...จำป้าได้มั้ย?”
“...ป้าเอ็ม”
“โอ้ดีจริงๆหลานรักของป้า~~...พวกเธอมาช่วยพาหลานฉันไปที่รถเร็ว!!!...ศิ...เธอลุกไหวมั้ย?”
“...ค่ะนายหญิง”
“มาฉันช่วย”
“นายหญิง!!...นะ...นายท่านหมดสติไปอีกแล้วค่ะ!!!!”
“ไม่!!...ไม่เอานะอย่าล้อเล่นกับป้าแบบนี้!!!...รีบพาไปโรงพยาบาลเร็วโทรบอกเซคด้วย...จะปล่อยให้ตาหนูเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด!!!!”
“ฝนจะไปรถป้านะคะแม่...พี่แคท”
“ฮึ!!”
“...พี่”
“ท่าทางจะยังไม่หายบ้าเดี๋ยวปล่อยให้แม่จัดการเอง...แคท...เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยละ”
“...............................................”
“หาก...หากพ่อบอลเป็นอะไรไปฉันจะไม่ยกโทษให้หนูแคทเลย!!...นิภา...ต่อไปเธออย่าให้หนูแคทเข้าใกล้พ่อบอลอีก!!!”
“พี่เอ็มพูดอะไรเนี่ย?”
“ที่หลานชายฉันบาดเจ็บหนักอย่างนี้ก็เพราะลูกสาวของเธอไงเล่า!!”
“บอลก็เป็นหลานของภาเหมือนกันนะคะ!!”
“โธ่~~...แม่กับป้าเอ็มอย่าเพิ่งเถียงกันตอนนี้ได้มั้ย?”
“ก็ดูป้าของลูกสิ...เอะอะก็จะเอาแต่โทษแม่”
“เออฉันขอโทษก็ได้พอใจยัง?...บ้าเอ๊ย!!!”
“แล้วคุณเจ้าของหอพักนี่ล่ะ?”
“หนูฝนเอาน้ำสาดให้ฟื้นก็พอเพราะมันสมกับความเค็มของยัยนี่แล้ว”
..........................................................................................................................................

“..............................................”
“ฟื้นแล้วหรือลูก?”
“ป้าเอ็ม...ที่นี่...”
“ห้องพิเศษที่โรงพยาบาลจ้ะ”
“...โรงพยาบาล?”
“นายหลับไปเกือบสามชั่วโมงเชียว”
...สามชั่วโมง!?...นี่ผมหลับไปนานขนาดนั้นเลยหรือแต่นึกว่าจะต้องตายซะแล้วสิ...อ๊ะ!!...ผมฝันเห็นแม่รัญภรณ์และได้คุยกับท่านด้วยล่ะ!!!...ท่านดูมีความสุขสีหน้าก็ยิ้มแย้มแล้วสั่งให้ผมกลับไปสะสางปัญหาซะเพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะอยู่ที่นี่...
(หมายความว่าคุณแม่ช่วยชีวิตเรา!?)
“อุ๊บ!!”
“ตาหนูปวดท้องเหรอ?”
“มันปวดเสียดๆครับ”
“นอนพักสักคืนก็คงหาย”
“แล้วเธอเป็นไงมั่ง?”
“เล็กน้อยจ้า!!...ไกลหัวใจตั้งแยะ”
“แล้วเศกล่ะครับ?...ศิด้วย”
“อยู่ห้องข้างๆนี่แหละ...เศกกระดูกซี่โครงหักสามซี่น่ะส่วนยัยศิ...ศุกร์เพิ่งพาไปห้องเอ็กซ์เรย์เพราะบ่นปวดขามาก”
“ฝนต้องขอโทษป้าเอ็มกับบอลแทนพี่แคทด้วยค่ะ”
“เฮ้อ!!...ทั้งที่ป้าอุตส่าห์ตักเตือนแล้วว่าอย่าปล่อยให้สุริยะโลหิตเข้าครอบงำจิตใจก็เพราะกลัวเหตุการณ์ร้ายอย่างวันนี้จะเกิดขึ้นไง...ไม่เห็นนิภาโกรธขนาดนี้มานานมากๆเลย”
“หากป้อรู้ก็จะพลอยผสมโรงโกรธไปด้วยอีกคนแหงๆ”
“เพราะกลัวกันว่าพี่เราจะเป็นเหมือนห้าปีก่อนใช่ไหม?”
“จ้ะ”
“รุ่นป้าน่ะเทียบกับรุ่นหนูไม่ติดเลยจริงๆนะ”
“แต่ตะวันเลือดครั้งนี้ของพี่แคทยังมีเมฆมาบดบังอยู่บ้างค่ะ”
“ฮ้า!?...นี่ยัง...ไม่ถึงที่สุดเหรอ?”
“เดี๋ยวๆๆ...เมฆบังอะไรกันหรือฝน?”
“แค่คำเปรียบเทียบเฉยๆ”
“หมายความว่าเกิดความลังเล...อ้าวว่าไงจ๊ะ?...เหรอจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“?”
“ตาหนูเพิ่งฟื้นก็อย่าขยับตัวกับคิดอะไรมากเลย...พักผ่อนเยอะๆ”
“ครับ”
“พบใครคะ?”
“...คุณหมอจ้ะ”
“อ๋อ!!”
“.............................................”
“ฉันจะเฝ้านายเอง...อยากให้ทำอะไรก็บอกมาได้”
“เธอก็พักซะบ้างเถอะ”
“ฝนไม่เป็นไรหรอก”
“...สารู้เรื่องหรือยังนะ?”
“มาเยี่ยมตอนบอลหมดสติเมื่อสักครู่ใหญ่แล้ว”
“เฮ่!?...มาแล้วรึ?”
“อื้อ!!...แต่มาไม่นานหรอกเพราะป้าเอ็มคอยกันท่า...น้องอ้อยก็มาแถมพี่กุนกับคุณลุงยังโทรถามอาการด้วยละ”
“ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดี...ขอโทรศัพท์หน่อย”
“เอ้า!”
“............................................”
“...ฝนกดให้มั้ย?”
“ฉัน...ฉันไม่กล้า...”
“............................................”
“............................................”
“เอางี้...ถ้าบอลยังไม่สบายใจกับไม่รู้จะพูดอะไรงั้นก็ฟังสิ่งที่ฝนจะเล่าต่อไปนี้ก่อนแล้วกัน...เกี่ยวกับที่พี่แคทไม่รู้...ไม่สิ!!...จงใจจะทำเป็นไม่รู้ต่างหาก”
“?”
.................................................................................................................................

“แคทก็บอกคุณแม่ไปแล้วไงคะ...ถ้านายบอลไม่ได้คบกับพี่กุนและเขาจะไปมีผู้หญิงอีกสักกี่คน...แคทจะไม่ยุ่งไม่สนใจแต่ขอเกลียดชังไปจนวันตาย”
“...ตรงข้ามกับน้องเราเลยแฮะ...เด็กนั่นนับวันก็ยิ่งชอบบอลมากขึ้นๆ”
“ไม่เข้าใจเลยสักนิด...ไอ้ผู้ชายคนนี้มันมีอะไรดีตรงไหนถึงได้มีผู้หญิงมารุมรัก?...เจ้าชู้หัวดื้อแถมปากเสียอีก”
“หนูไม่รู้จริงๆเหรอ?”
“...ไม่รู้ค่ะ”
“ไม่อ่ะ!...แคทรู้แล้ว”
“.............................................”
“แม่ขอโทษที่ตบหน้าหนูแต่มันก็เป็นวิธีเดียวกับที่ยายของหนูใช้กับแม่น่ะ”
“ได้ผลชะงัดเลย”
“แต่แม่แปลกใจที่ตะวันเลือดดับง่ายเหลือเกิน...เวลานั้นลูกสับสนอยู่เหรอ?”
“...ประมาณนั้นค่ะ”
“งั้นก็ใช่แล้ว!!...ฝนบอกแม่ว่าระหว่างต่อสู้เราจงใจทิ้งโอกาสที่จะทำร้ายบอลให้บาดเจ็บสาหัสไปถึงสองครั้ง”
“คุณแม่เชื่อ?”
“อื้อ!!...เชื่ออย่างสนิทใจด้วยจ้ะ...ครั้งแรกคือแคทจงใจทิ้งดาบคงโมเคียวไว้โดยไม่ไปแตะต้องอีก”
“เพราะมันหลุดจากเอวหนูไปแล้วก็สู้ติดพันกับฝนจนหยิบมาไม่ได้ต่างหากค่ะ”
“เหรอ?...แล้วครั้งที่สอง...รอยฝ่ามือที่สมุดจะอธิบายยังไง?”
“นั่น...”
“ที่ทำให้บอลสลบไปแคทใช้อัญเชิญยมทูตใช่มั้ย?”
“...........................................”
“มันไม่ใช่เลย...อัญเชิญยมทูตที่สันต์สอนลูกไม่ใช่การใช้ฝ่ามือแต่เป็นหมัดต่างหาก...หมัดซ้ายขวาที่โจมตีทั่วร่างของศัตรูหลายสิบครั้ง”
“...หนูเปลี่ยนใจในเสี้ยววินาทีสุดท้าย”
“แคทลังเลใจสินะที่เห็นบอลปกป้องฝนและมีผลให้สุริยะโลหิตกลายเป็นเพลิงพิโรธที่ลุกโชนไม่สมบูรณ์!?”
“...เมฆดันมาบังซะได้”
“หึๆๆ...ลูกแม่ยังมีน้ำใจให้บอลอยู่...ตะวันเลือดถึงได้สลายไปอย่างรวดเร็วแต่ยังไงสองสามวันนี้ก็อย่าเพิ่งออกไปไหนเลยนะจ๊ะ...อยู่แต่ในบ้านดีกว่าเดี๋ยวจะหาว่าสุดสวยไม่เตือน”
“...........................................”
“อ้อ!!...มีอีกเรื่องนึงที่แคทควรจะรู้ไว้”
“?”
.....................................................................................................................

“เจ๊ไม่มีเจตนาจะเอาชีวิตใครเลยตั้งแต่แรกและนี่คือหลักฐาน”
“สมุด...สมุดจดของฉันทำไม?”
“ดูให้ดีๆ”
“รอยยุบรูปมือ!?”
“ที่บอลสลบไปก็เพราะเจ้านี่...อัญเชิญยมทูต...ท่าไม้ตายที่พี่แคทจะปล่อยพลังกำปั้นได้รุนแรงที่สุด”
“ไม้ตาย...อัญเชิญยมทูต...กำปั้น”
“แต่รอยที่สมุดนี่เป็นฝ่ามือใช่มั้ย?...อัญเชิญยมทูตจะมีอานุภาพสูงสุดเมื่อกำหมัดต่อยออกไปฉะนั้นพอเปลี่ยนเป็นฝ่ามือพลังทำลายจึงลดลงนั่นแสดงว่าพี่แคทไม่ต้องการให้บอลเจ็บหนัก”
“ขนาดส่งฉันนอนโรง’บาลเนี่ยนะไม่หนัก?”
“อ่า--...ที่จริงไม่ต้องนอนก็ได้แต่ป้าเอ็มขออนุญาตคุณหมอเป็นพิเศษ”
“เพราะอะไร?”
“ก็เพราะ...บอลถูกน้าเย็นไล่ออกจากหอพักแล้วน่ะสิ”
“ล้อเล่นน่า!?”
“เป็นความจริง”
“ป้าเอ็ม”
“แต่ไม่ต้องกังวลจ้ะ...ป้าจะหาที่อยู่ที่ดีกว่านี้ให้พ่อบอลเอง...อือ--”
“มีอะไรอีกครับ?”
“ฟังนะจ๊ะ...คุณแม่...ย่าของพ่อบอลน่ะต้องการให้พ่อบอลย้ายออกจากบ้านและห้ามมีอะไรกับแฟนจนกว่าจะเรียนจบ”
“ฮ้า!!?”
“............................................”
“จะไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ?...ผมไม่เคยคิดจะไปข้องแวะกับคนที่นั่นและพวกเขามีสิทธิ์อะไรมาห้าม?”
“สิทธิ์ในฐานะปู่กับย่าของบอลไง”
“ฝน?”
“กำพืดของตัวเองเปลี่ยนแปลงได้เรอะ?...ต่อให้หนีไปจนสุดขอบโลกแต่เลือดที่ใหลเวียนอยู่ในร่างของนายก็เป็นของวิษณุมนตรี...หัดเปิดตามองเสียบ้างอย่าเอาอคติส่วนตัวใช้ให้มันมากนักเลย”
“ฉันเปล่ามีอคติ”
“มีอยู่ชัดๆ”
“ก็บอกว่าไม่!!...ฉันแค่ไม่อยากจะอีนังขังขอบอะไรด้วยเท่านั้น”
“นั่นแหละที่เรียกว่ามีอคติ”
“............................................”
“พี่กุนกับสารวมทั้งหนูอ้อยก็ยอมรับเงื่อนไขแล้ว”
“อะไรนะ?”
“ยังไม่เข้าใจเรอะ?...ที่ทั้งสามยอมตกลงก็เพื่อไม่ให้ตกเป็นข้อครหาและเป็นการทดสอบไงเล่า...หลานสะใภ้ของวิษณุมนตรีจะต้องมีความประพฤติที่ดีและเป็นที่ยอมรับของทุกคนในตำบลโยนกจัตุรัสฉะนั้นการมีอะไรกันทั้งที่ยังเรียนอยู่กับยังไม่เข้าพิธีแต่งงานจึงเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้”
“หนูฝนพูดถูก...หากเรียนจบแล้วบรรลุนิติภาวะแล้วก็จะไม่มีใครว่าได้หรอกจ้ะ...แค่สองปีกว่าๆเองถ้าทนไม่ไหวหรือใจเร็วด่วนได้ก็ไม่สมควรแต่งเข้าเป็นสะใภ้และถึงเวลานั้นป้าจะค้านหัวชนฝาแบบยอมตายกันไปข้างเลย”
...หมายความว่าต่อไปนี้ผมจะไม่สามารถเล่นเสียวกับสามสาวทั้งกุน,สาและก็น้องอ้อยได้จนกว่าจะสำเร็จการ ศึกษา!?...แต่...แต่กับสาวอื่นล่ะ?...ฝนอยู่ในห้องด้วยผมเลยไม่กล้าถามป้าเอ็มจึงได้แต่ปิดปากเงียบ...
(ไว้รอถามเธอตอนอยู่กันตามลำพังดีกว่า)
“ต่อให้อายุ 20 บรรลุนิติภาวะแต่ยังเรียนไม่จบก็ไม่ได้”
“ห้ามจ้ะ!”
“ผมสลบไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็เล่นตัดสินใจกันเอาเอง...ไม่คิดจะรอกันบ้างเลย”
“บ่นอะไร?...บอลก็ยังกลับไปบ้านนั้นได้นี่นาหรือจะชวนแฟนออกมาเที่ยวก็ได้แต่อย่ามีอะไรกันเท่านั้นเป็นพอ...อ้อจริงด้วย!!...ยังไม่ได้บอกว่าถ้าฝ่ายไหนผิดเงื่อนไขที่ตั้งไว้จะเป็นยังไง?”
“?”
“ก็อย่างที่หนูฝนพูด...จะชวนไปเที่ยวไปดูหนังหรือซื้อของทานอาหารก็ไม่ถือว่าผิดกติกาแต่ห้ามไปนอนค้างอ้างแรมแอบทำอะไรไม่เหมาะสม...หากละเมิดเงื่อนไขก็จะถูกตัดสิทธิ์ห้ามคบหากันอีกต่อไปและพ่อบอลต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ทางตระกูลหาให้”
“ไม่เอาครับ!!!!”
“...งั้นรึ?”
“ให้ไปแต่งงานกับใครก็ไม่รู้เรื่องอะไรที่ผมจะยอม?”
“...........................................”
“ก็ทำให้ได้ล่ะกัน...อ้อ!!...สิ้นปีกลับโยนกจัตุรัสได้แล้วนะจ๊ะ”
“ทำไมผมต้องไป?”
“แน่ะ!...รับปากกับป้าไว้ว่ายังไง?”
“อุ!!”
(เรื่องของเรื่องคือที่บ้านพักตากอากาศเราดันเผลอรับปากป้าเอ็มไปเสียได้!!!)
“ต้องกลับไปนะ...กลับไปฟังความจริงในวันที่รัญภรณ์เสียชีวิต”
“มันยังมีความจริงเหลืออยู่ตรงไหนอีกครับ?”
“ที่แล้วมาบอลเข้าใจคุณปู่คุณย่าผิดหมด”
“ผิดอะไร?...ก็ฉันเห็นกับตาตัวเองว่า...”
“แม่รัญภรณ์โดนคุณตาผลักตกจากบันไดจนเสียชีวิต...จะบอกอย่างนี้ใช่มั้ย?”
“ใช่!!... ก่อนที่แม่จะตายฉันกอดท่านไว้แน่นและคำสั่งเสียสุดท้ายคืออย่าโกรธแค้นปู่เขาเลยนะลูก...นี่คือคำพูดที่แม่บอกฉันก่อนจะสิ้นใจฉะนั้นฆาตกรที่ฆ่าแม่ก็คือ...”
“ผิดแล้ว!!!...คุณตาไม่ใช่ฆาตกรแต่มันเป็นอุบัติเหตุ...กลับบ้านเกิดสิแล้วจะมีคนบอกนายเอง”
“ใคร?”
“พยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดในวันนั้น...เขารับปากกับป้าเอ็มแล้วว่าจะเล่าทุกอย่างให้นายรู้และจะช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ให้คุณตากับคุณยายด้วย”
“เขา...เขาเป็นใครกัน?”
“อดีตคนใช้ในบ้านจ้ะ...อายุ 70 กว่าแล้วแต่ยังจดจำเหตุการณ์ได้...เขาไปอยู่ระนองหลายสิบปีแต่สิ้นปีนี้จะมาร่วมงานเลี้ยงที่โยนกบูรพา...พ่อบอลต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้เลย”
“โอกาสนี้เปรียบดังกุญแจที่จะเปิดหีบแห่งความจริงเมื่อเกือบสิบปีก่อน...มันจะช่วยขจัดความคลาดเคลื่อนและความระแวงสงสัยในใจของบอลนะ”
“...............................................”
..................................................................................................................................

“พี่เชน”
“จ๋า~~”
“ไหนบอกจะไปเยี่ยมพี่บอลไง?...ขวัญรอนานแล้วนะ”
“อีกแป๊บนึงๆ”
“มัวทำอะไรน่ะ?...อุ๊ย!!...มัวแต่ดูหนังโป๊อยู่นั่นแหละ”
“นี่ไม่ใช่หนังโป๊ทั่วไปนา--”
“ยังไง?”
“ดูหน้านางเอกสิ...คุ้นๆมั้ย?”
“อือ--...ดูคล้ายคุณแม่?”
“น้องขวัญก็เห็นด้วยใช่มะ?”
“แต่ภาพไม่ค่อยชัดเลยนะคะ”
“ของเก่าเมื่อสิบปีก่อนก็อย่างนี้แหละแต่ถ้าเป็นคุณแม่จริงๆจะว่าไงนะ?”
“ไม่ มีทาง!!...ถึงเมื่อก่อนแม่จะเคยเป็นนางแบบปฏิทินกับถ่ายรูปลงหนังสือแฟชั่นแต่ไม่มีทางรับงานเล่นหนังลามกเกรดต่ำอย่างนี้หรอก!!!...ดูสิ...ผู้หญิงถูกผู้ชายรุมตั้งสามคนแน่ะ”
“แต่พี่ดูยังไงก็คุณแม่ชัดๆน๊า~~”
“พอเถอะรีบไปโรงพยาบาลได้แล้ว!...ดูนานเดี๋ยวก็เดือดร้อนขวัญอีก”
“จ้ะๆๆ”
“ไม่รู้บ้านนั้นเกิดอะไรขึ้นอีก?...พักนี้มีแต่เรื่องไม่ดี...แล้วตอนนี้คนที่รอชุบมือเปิบก็คือยัยจอยเพราะเอาแต่ซุ่มเงียบตลอดเลย”
“อืม--...พี่จะต้องรู้ให้ได้เลยว่านั่นใช่คุณแม่จริงหรือเปล่า?”
“หา!?...นี่ยังไม่เลิกคิดเรื่องทะลึ่งอีกเรอะ?”
“โอ๊ยเจ็บ!!!”
....................................................................................................................

...ตอนที่แล้ว ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 52 ...
...ตอนต่อไป ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 54 ...

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 52

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 52 “รหัส ASA!?...ยมทูตมรณะ!!!!”

(“ขึ้นอยู่กับบอล...หากเขายังมีความจริงใจกับพี่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงล่ะก็ใช้เวลาแค่วันเดียวทุกอย่างต้องเรียบร้อยแต่ถ้าไม่...”
“ความจริงแล้วผู้ชายคนนี้อาจจะยังไม่ดีพอสำหรับพี่ก็ได้...น่าละอายใจที่เขามีศักดิ์เป็นน้องของแคท”
“เธอไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วจะกังวลใจไปทำไม?”
“บอล กลับมาเมื่อไหร่หนูจะพูดกับเขาให้รู้ดำรู้แดงไปซะทีถึงแม้ต้องใช้กำลังบ้าง ก็ตาม...พี่กุน...ให้หนูเป็นคนจัดการแทนพี่เถอะนะคะ...นี่คือสิ่งเดียวที่ หนูจะทำให้พี่ได้”)
“...................................................”
“หน้าเครียดเชียวนะ...เจ๊มีอะไรเหรอ?”
“...บอลจะกลับมาถึงเย็นวันนี้ใช่มั้ย?”
“อื้อ!!...เขาโทรมาบอกเมื่อตอนสาย”
“...เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณ...พี่จะให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเอง”
“หา!?...พี่จะทำอะไร?...อย่าวู่วามเด็ดขาดนะคะไม่งั้นแม่ต้องโกรธมากแน่!!!...จะมาวันนี้ด้วย”
“มันจะเรียบร้อยก่อนคุณแม่มาถึง”
“และก็ไม่ใช่อย่างเมื่อวันก่อนด้วยละ...นั่นน่ะถึงคุกเลย”
“...................................................”
(“ยินดีต้อนรับ...อะ...”
“คุณพี่!!!”
“แกกล้าตบคุณหนู!!!...อยากตายเรอะ?”
“มาเลย!!...ปืนของพวกแกกับดาบของฉัน...ใครจะแน่กว่ากัน!!!”
“ไม่นะพี่แคท!!!!”
“ถอยไป!!”
“คุณบุศ!?”
“ฉันบอกให้ถอยไป!!!”
“...................................................”
“คนของฉันเก็บปืนแล้วพี่สุรีย์พรรณก็อย่าเอาดาบนั่นกวัดแกว่งไปมาอีกเลย...ดูสิ...ใครต่อใครแตกตื่นกันหมดแล้ว”
“เธอเป็นผู้หญิงชั่วช้าแบบที่คนปกติเขาไม่ทำกัน”
“ฉันไม่มีทางเลือก...คนที่ทำให้ฉันเป็นอย่างนี้ก็คือบอลนั่นแหละ”
“ว่าไงนะ?”
“น้องฝนจ๊ะพี่ว่าเรามานั่งคุยกันก่อนดีกว่า...เด็กๆ...ยกอาหารกับเครื่องดื่มมา”
“...................................................”
“โบว์ก็มาด้วย...รู้จักกับพี่ๆไว้นะเพราะวันหน้าเรากับเขาก็จะเป็นญาติกัน”
“พี่กุนกับน้องสาคือผู้หญิงที่พวกเรายอมรับ...ไม่ใช่เธอสองคนหรือใครหน้าไหนอีก”
“บุศก็รู้แต่แล้วยังไงล่ะคะ?...พี่แคทไม่ใช่คนที่จะแต่งงานกับบุศสักหน่อย”
“หือ?”
“ความหมายก็คือพวกคุณคือคนนอกค่ะและพี่บอลต่างหากที่จะเป็นผู้ตัดสินใจเอง”
“เชิญดื่มน้ำชาก่อนสิคะ”
“ฉับตบหน้าเธอแต่เธอยังมีแก่ใจชวนฉันดื่มอีก...ช่างใจกว้างจริงนะ?”
“เพราะความใจกว้างเป็นคุณสมบัติของผู้ดีค่ะพี่แคท”
“แต่เราจะไม่กินของๆคนไร้ยางอายแย่งแฟนชาวบ้านหรอก...เอากลับคืนไป!!”
“ไม่เห็นจะต้องรังเกียจกันถึงขนาดนี้เลยนี่นา?”
“ใช่ค่ะ...ลองเปิดใจยอมรับพวกเราสองพี่น้องดูบ้างจะเป็นไรไปเล่า?”
“แม้พี่กุนกับน้องสาจะไม่มีอะไรติดตัวมาเลยแต่ฉันก็จะขออยู่เคียงข้างพวกเธอโดยไม่มีวันเปลี่ยนใจ...ฝน...กลับ!!!”)
“คนเห็นแก่ตัวที่เที่ยวแย่งชิงของๆผู้อื่นและคนทรยศหักหลังเพื่อน...พี่ทำใจยอมรับคนพวกนี้ไม่ได้”
“ฝนเข้าใจความรู้สึกของพี่”
“เจ้านั่นไม่มีสิทธิ์เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นหรืองานอดิเรกยามว่าง...ฉันจะทำให้มันรู้ซึ้งชนิดที่ไม่มีวันลืมอีกเลยชั่วชีวิต!!!”
“.......................................................”
..........................................................................................................................................

(“เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งหลายวันแต่ผมไม่รู้เลย”
“...ป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“กลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมาซะแล้ว...ผมควรจะทำยังไงดีครับป้า?”
“......................................................”
“รู้งี้ผมไม่ปิดมือถือซะก็ดี”
“ก็ใครจะรู้จ๊ะว่าเวลาแค่สามสี่วันจะเกิดเหตุบ้าๆบอๆบานปลายใหญ่โต!?...อือ--...เอาอย่างนี้มั้ย?...ตาหนูทำตามที่ป้าบอก”
“?”
“ป้าพอจะมีวิธีดีๆอยู่แต่พ่อบอลต้องใจแข็งสักหน่อยนะ”)
...ใน รถไฟขบวนพิเศษผมนั่งกระสับกระส่ายด้วยจิตใจที่ร้อนรนคืออยากจะให้ถึงบ้านซะ ตอนนี้เลยจริงๆให้ตายเถอะ!!!...ไอ้ครั้นจะขอติดรถป้าเอ็มกลับพร้อมกันแต่ก็ ถูกเบรคเพราะกลัวแผนการเสียและเมื่อกี้โทรหาสาเพื่อจะง้อแต่เธอพูดว่าให้ถึง บ้านก่อนค่อยตกลงกันอีกทีส่วนกุนก็ปิดเครื่องโดยพยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่า คงจะไปเข้าห้องประชุมกับเจ้านายในฐานะที่เป็นเลขา...
“ฝนเหรอ?”
“อยู่ไหนเนี่ย?”
“...ออกจากพรหมพิรามมาแล้ว...ทางนั้นเป็นไง?”
“ทุกคนรอนายกลับไปคนเดียวแหละ...ป้าเอ็มกับแม่ก็จะมาถึงเหมือนกัน”
“อานิภา?”
“คงจะถึงไล่ๆกันน่ะ...บอล...คราวนี้เรื่องใหญ่มากเลยนะ...ฉันเตือนนายแล้วว่าพี่บุศเป็นคนไม่ดีให้เลิกยุ่งซะ”
“พอเถอะน่า!!...แค่นี้ฉันก็แทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว”
“มัวแต่เที่ยวเพลินไม่สนใจแฟนก็แบบนี้แหละ”
“ก็...อยู่บ้านเพื่อนมันฉันชวนกินเหล้าเมาแทบทุกวัน...แบตหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไม่รู้ตัว”
“เมาเหล้า!?...ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนเลยรึ?”
“ไม่...ขนาดขนมเปี๊ยะที่พี่แคทฝากซื้อฉันยังต้องรบกวนแม่เพื่อนเลย...นี่ฝน...ฉันถามอะไรหน่อย?”
“หืม?”
“สากับอ้อยโกรธฉันมากมั้ย?”
“ของมันแน่อยู่แล้ว”
“โธ่~~...พูดไม่ให้กำลังใจกันบ้างเล้ย!!!”
“แต่นั่นคือเมื่อก่อน”
“ตอนนี้ล่ะ?”
“ก็คงจะโกรธอยู่นะ...พี่กุนเอยป้ากวางเอย”
“..................................................”
“นี่...ฝนถามบอลบ้างสิ”
“อะไร?”
“อยู่ที่บ้านเพื่อนน่ะได้สนด้ายเข้าเข็มกับใครป่ะ?”
“สนด้ายเข้าเข็ม...จะ...จะบ้าเรอะฉันไม่ได้ทำ!!”
“จริงง่ะ?”
“แม่สาวแก่แดดนี่!!!...บอกว่าไม่ได้ทำก็ไม่ได้ทำสิ”
“เฮะๆๆ...ขึ้นเสียงดังแบบนี้น่าสงสัยซะจริง”
“ก็บอกแล้วไงว่า...”
“ขอให้เป็นตามที่พูดจริงๆเถอะเพราะทางนี้เองก็เริ่มจะไม่ชอบใจแล้วเหมือนกัน”
“ไม่ชอบใจ?”
“แค่นี้ก่อนนะ...พี่แคทเรียก”
“อะ...อือ”
... “ทางนี้” ที่ฝนว่าหมายถึงอะไรกันนะแต่จะให้รู้ไม่ได้หรอกว่าโกหกคำโตเพราะตลอดเวลาที่ พักอยู่ในบ้านพักกลางภูเขาผมเล่นสนด้ามเข้าเข็มกับผู้หญิงถึงสามคนที เดียว!?...นึกย้อนไปตั้งแต่ช่วงที่ศิไม่ได้ไปรับพี่สะใภ้และกลับมาแอบดูเรา กับป้าเอ็มมีสัมพันธ์สวาทกัน...
(“หนูแอบก่อนนะคะนายท่าน”
“จากนั้นเธอต้องมาปรนนิบัติฉันนะ”
“ค่ะ...ศิจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง”
...หลัง จากที่ศิไปซ่อนตัวแล้วผมก็เดินขึ้นบันไดซึ่งข้างบนนั้นป้าเอ็มกำลังนั่งยองๆ บีบหลอดเจลหล่อลื่นก่อนจะเอาป้ายรูตูดตัวเองพลางทำหน้าเหยเกเม้มปาก...
“อูย~~...ทีนี้แหละ...ควยหลานรักของฉันจะได้เข้าลึกๆ”
“น่าถ่ายรูปเก็บไว้จัง”
“คงไม่ว่ากันนะถ้าป้าจะทาเอง?”
“ไม่เป็นไรครับ...ช่วยประหยัดเวลา”
...ป้าเอ็มนอนหงายและยกขาขึ้นแบะอ้ารอ...ท่านี้ทำให้ผมเห็นรูทวารหนักของเธอมีรอยแดงกับกลวงโบ๋นิดๆ...
“เร็วๆสิผัวจ๋า~~...รีบมาเย็ดตูดเมียเร็วเข้า”
“ไม่ต้องท้า!!...จะล่อให้รูบานเดินขาถ่างเชียว”
“อ๊า!!!...แล้วจะติดใจจนลืมไม่ลงแน่ค่ะ”
...ผม ใส่ถุงยางเสร็จก็ลงนั่งคุกเข่าจับใต้ข้อพับป้าเอ็มแล้วโย้ไปข้างหน้าจนก้น ลอย...หญิงสาวเบือนหน้าไปทางอื่นด้วยความเขินอายแต่ก็แอบชำเลืองผมขยับควย เข้าใกล้รูก้นของเธอ...พอปลายหัวหยักสัมผัสกล้ามเนื้อหูรูดหล่อนก็เผลอ ครางออกมาเบาๆ...
“อาววววววววว...ไม่ต้องกลัวเมียเจ็บนะ...ดันเข้าไปเลย...อู๊ยยยยยยยยยยยยยย...นั่นแหละๆ”
“ซีดสสสสสสสสสสส...ตูด...ตูดเมียคับควยผัวมาก”
“อื๊ออออออออออออออ...หัวควยเข้ามิดแล้วก็ง่ายล่ะ...โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย...ทีนี้ต้องยัดทีเดียวมิดแท่งนะผัวขา~~”
“อยู่แล้วจ้ะ...ซีดสสสสสสสสสสส”
...ผม กลั้นหายใจก้มมองท่อนควยที่ค่อยๆจมหายเข้าไปในรูก้นป้าเอ็มจนมิดในที่ สุด...ฝ่ายสาวใหญ่นอนตาปรือมองเพดานซึ่งไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรในใจ บ้าง?...
“สองคนป้าหลานเนี่ยลามกจัง”
“ไม่หรอกครับ...ใครๆก็ทำกัน”
“ป้ากับหลานชายเนี่ยน่ะเหรอ?”
“ผมหมายถึง anal sex”
“ต้องเติม aunt ต่อท้ายด้วยจ้ะ”
... “Anal Sex Aunt” ...งั้นผมขอย่อลงเหลือแค่ “ASA!?” ถือเป็นรหัสที่รู้กันเพียงสองคน...
“เจ็บมั้ยครับ?”
“นิดหน่อยแต่ไม่เป็นไร”
“ผมจะสาวควยล่ะนะ”
“มาเถอะจ้ะที่รัก...เชิญตักตวงความสุขให้เต็มที่จะได้ไม่ต้องกลับไปหา...”
...ป้า เอ็มทิ้งท้ายประโยคและโอบคอคว้าผมไปจูบ...ดูท่าเธอจะหวงผมมากจริงๆเพราะ ตั้งแต่เสร็จศึกในครัวก็สั่งห้ามไม่ให้พูดถึงสาหรือใครๆที่บ้านต่อหน้าหล่อน อีก...
“อึ๊ก!!...ถ้าเมียยังไม่ทำหมันล่ะก็...จะมีลูกให้ผัวสักคนนะ...อืออออออออออออ”
“ไหวเหรอ?”
“อย่าดูถูกเมียคนนี้น๊า~~...อืมมมมมมมมมมมมม...ช้าๆค่ะ...อาสสสสสสสสสสสสส...เร็วอีกนิดนึง...อ๊อยยยยยยยยยย”
...ป้า เอ็มเอานิ้วถูหีขยี้แตดส่ายหัวไปมาด้วยความเงี่ยนง่านสุดจะระงับใจ...เธอจะ เคยนึกบ้างหรือเปล่าว่าวันหนึ่งต้องมานอนแก้ผ้าล่อนจ้อนให้หลานชายแท้ๆเย็ด หีเย็ดตูดตัวเองส่วนผมน่ะเหรอ?...แค่ฝันก็ยังไม่กล้าแต่บัดนี้มันกลายเป็น ความจริงแล้ว...ควยของผมกำลังหยุบเข้าหยุบออกอยู่ในรูตูดคุณป้าคนสวยวัย 49 เป็นครั้งแรกหลังจากที่เมื่อคืนก็ได้เปิดซิงทางรูหีเรียบร้อยไปก่อนหน้านี้ แล้ว...
“อูยยยยยยยยยยยย...เมียจ๋า...ผัว...ผัวกำลังเย็ด...เย็ดตูดเมียอยู่ใช่มั้ย?...ซีดสสสสสสสสสสส”
“ชะ...ใช่ค่ะ...เมียถูกผัวล่อตูด...อืมมมมมมมมมมมมมม...ควยผัวคับตูดเมียเหลือเกินค่ะ...โอ๊วววววววววววว”
...ไม่ อยากเชื่อจริงๆว่าประตูหลังของป้าเอ็มจะฟิตเปรี๊ยะมีแรงบีบรัดมากมายถึง เพียงนี้...ยิ่งกว่าของผู้หญิงคนใดๆที่เคยเจอมาซะอีก...ผมต้องออกแรงที่ เอวกระเด้าควยมากกว่าปกติจนเหงื่อไหลเต็มหน้าทั้งที่อากาศโดยรอบเย็น สบาย...หากไม่คุมจังหวะให้ดีก็มีสิทธิ์เงี่ยนแตกคาถุงยางในอีกไม่กี่วินาที ข้างหน้า...
(ให้ความรู้สึกแบบมันจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ตลอดเวลา)
“อึ๊บบบบบบบบ...กรอดดดดดดดดดดดด...ทำไมฟิตจังวะ?”
“ฮิๆ...อย่าเพิ่งออกละกัน...เมียยังไม่ได้ขย่มตามที่ผัวเรียกร้องเลย...อือออออออออออ”
“เมตตาผัวมือใหม่บ้าง”
“ไม่รุ!!...ถ้าผัวโยกช้าๆเนิบๆถึงตาเมียจะขย่มให้ควยผัวหลุดไปเลย”
“โธ่~~...อุตส่าห์ไม่เร็วมากเพราะกลัวแตกไวนี่น่า”
“มันอยากแตกก็ให้แตกมาสิคะไม่ต้องกลั้นไว้...ยังมีเวลาอีกเยอะ...ไม่ต้องกลัวเมียว่าเป็นไก่อ่อนหรอก”
...ผม กระเด้าควยถี่ขึ้นแต่ก็พยายามครองเกมส์ยื้อให้นานเข้าไว้ทว่าป้าเอ็มกลับ แกล้งขมิบรูก้นตลอดเวลา...ด้วยความที่มันฟิตจนรัดควยแทบปริอยู่แล้วก็ยิ่ง บีบตอดหนักข้อไปใหญ่...
“อืมมมมมมมมมมมม...พ่อบอลจ๋า...ซีด สสสสสสสสสสสส...เร็ว...เร็วเข้า...เร็วๆ...อูยยยยยยยยยยย...ป้าเสียวตูดจัง เลย...โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย...ควยตาหนูอร่อยเหาะไปเลยจ้ะ...อื๊อออออออออออ ออออ...เบาๆก็ได้เดี๋ยวออกเร็ว...อึ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“งะ...งั้นป้าขย่มดีกว่านะ...ผมได้จะออมแรงไว้”
“จ้ะ”
...ผม ชักควยออกจากรูก้นป้าเอ็มและจัดดึงถุงยางใหม่...สาวใหญ่บอกให้ผมนอนหงายเอา เบาะที่เตรียมมาหนุนหัวห้อยขาลงไปที่ขั้นบันไดแล้วยืนคร่อมจากนั้นค่อยหย่อน บั้นท้ายลงมาช้าๆพลางเอื้อมจับท่อนควยตั้งลำก่อนจะรูดเบาๆระหว่างนั้นผมถาม เธอว่า...
“ป้าเจ็บก็บอกนะครับ”
“ไม่เป็นไรป้าทนได้ถึงควยตาหนูจะใหญ่กว่าที่เคยเจอมาก็เถอะ”
“กว่าที่เคยเจอ”
“จะบอกให้รู้ก็ได้ว่าควยพ่อบอลน่ะใหญ่กว่าของตาภพซะอีก”
“ฮ้า!?”
“จริง!!”
(อดภูมิใจไม่ได้เหมือนกันแฮะ...อุ๊บ!!!)
“อู๊ยยยยยยยยย...อูยยยยยยยยยย...ตูดเมียแหกหมดแล้วมั้ง?...อืมมมมมมมมมมมมมม”
“หัว...หัวเข้าหมดแล้วครับ...ซีดสสสสสสสส”
...ป้า เอ็มเริ่มโยกตัวขึ้นลงช้าๆพลางบีบนมไปด้วยส่วนผมจับสะโพกเธอแล้วเงยหัวมอง ท่อนควยกำลังผลุบหายเข้าไปทางประตูหลังมากขึ้นเรื่อยๆจนมิด...ผมรู้สึกได้ ว่ามีน้ำเมือกจากรูหีไหลเยิ้มลงมาเปรอะควยซึ่งช่วยในการหล่อลื่นเวลาป้าเอ็ม ขย่มตัวขึ้นลงมันก็ซึมเข้ารูก้นโดยอัตโนมัติ...
“จะขย่มแล้วนะจ๊ะ”
“ผมรออยู่ครับ”
“อึ๊บๆๆๆ...โอวววววววววววว...จะ...เจ็บ...โอยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ป้า?”
“ไม่เป็นไร...มันเสียวมากกว่า...เพราะงั้นป้าไม่หยุด...คิกๆๆ...อืออออออออออออออออ”
...แสดงว่าที่บอกนั้นเป็นจริงเพราะป้าเอ็มเร่งความเร็วโขยกควยหลานชายตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆปากก็ครางกระเส่าร้องดังลั่นตามไปด้วย...
“อ๊าววววววววววววววว...รู้อย่างนี้...ป้ามาหาตาหนูนานแล้วววววววววววววว...เสียว...เสียวตูดจริงๆ”
“ผมก็เสียวควยครับ...โอววววววววววววววววว”
“ดีจริงที่ยังมีหลานชายไว้เย็ด...ซีดสสสสสสสสสสสสสสสส...คงไม่ว่านะที่มีป้าขี้เย็ด...โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ไม่...ไม่ว่าเลยครับ”
...ผมกับสาวใหญ่ร้องครางแข่งกันลั่นบ้านซึ่งถ้ามีใครอยู่รอบๆคงรู้แน่ว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่?...จริงด้วย...ยังมีศิอยู่อีก...
“ป้า...ป้าขย่มแรงไปแล้ว”
“ได้ ที่แล้วล่ะลูก...เด้งควยสู้ด้วยสิจ๊ะ...อื้มมมมมมมมมมมมมมมม...แข็งเต็มรูดี จังควยหลานรักของฉันเนี่ย...ทำไมควยใหญ่อย่างนี้...รูตูดป้าบานแน่ๆ...อู ยยยยยยยยยยยยยยย...ทั้งเจ็บทั้งเสียวพร้อมกันเลย...โอออออออออออออ”
...ป้า เอ็มเอนตัวมาข้างหลังพลางยื่นปากมาให้ผมๆจูบพร้อมส่งลิ้นเข้าไปในปากส่วนมือ ก็ขยำหน้าอกเธอไปด้วยโดยที่ท่อนล่างของเราก็กระแทกกระทั้นกันไม่มีหยุดพัก ให้เว้นระยะ...พี่สาวพ่อส่ายเอวร่อนคลึงแล้วเอานิ้วถูหีให้น้ำหล่อลื่นไหล ออกมาชะโลมควยเยอะๆ...
“เหมือนฝัน...”
“หือ?”
“เหมือนกับกำลังฝันเลยครับ”
“เหรอคะ?”
“แต่...แต่มันคือความจริง...ผมกำลังล่อตูดป้าอยู่...อู๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ชอบมั้ยจ๊ะ?”
“ชอบมากครับ”
“งั้นก็อย่าไปเย็ดใครอีกนะ?”
“เอ่อ”
“ฮิๆ...นึกแล้วว่าต้องลังเล...ไม่เป็นไร...อืมมมมมมมมมมมม...ตาหนูก็คิดเองเถอะว่าผู้หญิงคนอื่นกับป้า...ใครจะเย็ดมันส์กว่ากัน”
“อ๊ะ!!”
...ผม ร้องด้วยความเสียดายเพราะจู่ๆสาวใหญ่ก็ยกก้นขึ้นควยหลุดเลยเผลอแอ่นตามแต่ ไม่นานหล่อนกลับสวนรูตูดลงมาทับควยพอดีพอดิบ...เราสองป้าหลานถึงกับร้องครวญ ครางโผเข้ากอดกันแน่นด้วยความเสียวซ่านไปทั้งร่างกายเชียว...
“เอ๊าะอ๊อยยยยยยยยยย...เด้งควยขึ้นมาซะได้”
“ป้าเล่นแบบนี้หัวใจผมจะวาย”
“พูดจาเป็นคนแก่เลยนะ”
...ป้า เอ็มหมุนตัวกลับและประคองหัวผมให้ดูดนมส่วนเธอจับหัวไหล่ผมยกก้นกระแทกควย ปั่บๆๆๆๆอ้าหลับตาปี๋อ้าปากครางซี๊ดซ๊าดเหงื่อออกเต็มตัวแล้วระหว่างที่ผม เลียหัวนมป้าเอ็มอยู่นั้นศิได้ออกมาจากที่ซ่อนเดินขึ้นบันไดมาสองสามก้าวจาก นั้นก็เลิกเสื้อโชว์หน้าอกในวัยสาวน้อยให้ผมดูพลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากเพราะ ป้าเอ็มหันหน้ามาหาผมจึงมองไม่เห็นศิที่อยู่ข้างหลัง...
(เธอคงเงี่ยนเต็มที่แล้วล่ะแต่ว่าควยเราไม่ว่างกำลังร่วมเพศทางรูตูดนายหญิงของหล่อนติดพันอยู่เนี่ยน่ะสิ)
“เออะ...หลานรักของป้า...ไม่ไหว...ป้าจะออกแล้วจ้ะ...อ๊อยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ผมก็ชักไม่ไหวเหมือนกันครับ”
...ดี เลย...ผมไม่อยากน้ำแตกก่อนป้าเอ็มให้ขายหน้าตัวเอง...ในเมื่อสาวเจ้าจะถึง สวรรค์งั้นผมก็จะได้เสร็จตามหล่อนไปด้วย...อะไรนั่น!?...ศิรูดกางเกงยีนส์ลง แล้วเอามือลูบเป้ากางเกงในแถมส่งสายตาหวานเยิ้มให้ผมอีกต่างหาก...
“ปิดท้ายด้วยท่าเมื่อกี้เถอะ”
“ได้ครับ”
...ผมพลิกตัวสาวใหญ่ให้นอนหัวหนุนเบาะแทน...ป้าเอ็มโอบแขนกอดรัดผมแน่นพลางขยับก้นสู้ควยที่สวนแทงอย่างแรงเป็นการส่งท้าย...
“อะ...เอา เลย...ไม่ต้องกลัวป้าเจ็บ...เย็ดตูดป้าแรงๆ...อย่างนั้นๆๆๆ... โอ๊ววววววววววววววววววว...ถูกใจป้าเหลือเกิน...มะ...ไม่ไหวแล้ว วววววววววววววว”
“ผะ...ผมก็...กรอด...เงี่ยนจะพุ่งแล้วครับ”
“ออก...ออกเลย...เอาถุงยางออกแล้วยัดใหม่...ทะ...ทันมั้ย?”
“ไม่ครับ...ไม่ทันแล้วววววววววววววววววววว...โอ๊วววววววววว”
...ป้า เอ็มกอดตัวผมแน่น 2 ขาเธอตวัดไขว้เกี่ยวเอวพยายามแอ่นก้นใส่ผมเป็นพัลวันด้วยความบ้าคลั่งโดยที่ ศิยืนตรงหัวบันไดเอานิ้วถูกางเกงในตัวเองสูดปากซี๊ดซ๊าดตามไปด้วยและในที่ สุดควยผมก็ทนแรงบีบรัดภายในรูตูดของป้าเอ็มต่อไปไม่ไหวกระฉูดน้ำอสุจิออกมา มากมายยิ่งกว่าตอนเย็ดหียกแรกเสียอีก...ผมนอนหมดแรงบนร่างสาวใหญ่ที่ลูบหัว ลูบหลังกับมองด้วยแววตาที่รักใคร่เอ็นดู...
“ใช้ได้ยังครับ?”
“จ้ะ...ลีลาเข้าขั้นแล้วแต่ต้องให้อึดอีกนิด”
“ผมขอฝึกกับป้าอีกนะ”
“ได้จ้ะที่รักขา~~...น่ารักแบบนี้จะตามใจให้ทุกอย่างเลย”
...พอ ป้าเอ็มจะหันหน้าไปบันไดผมก็จับมาจูบเพื่อไม่ให้สาวเจ้าเห็นศิที่กำลังดึง กางเกงขายาวขึ้นแต่ก่อนนั้นหล่อนเอานิ้วเกี่ยวขอบกางเกงในที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่นพลางชี้มาที่บริเวณเป้าประหนึ่งต้องการจะบอกให้รู้ว่าตัวเองพร้อมมีเพศสัมพันธ์กับผมทุกเมื่อ...
“อะไรหรือจ๊ะ?”
“เปล่าครับ”
(แอบโบกมือให้ศิหลบไปก่อน)
“ฮิๆ...ควยตาหนูยังไม่หดง่ายๆเลยเนี่ย”
“เพราะฤทธิ์ยาหรือเปล่า?”
“ใช่จ้ะ...กินอีกสักเม็ดแล้วขึ้นไปพักในห้องก่อนนะ...เดี๋ยวเศกก็พาเมียมาถึงแล้ว”
...ผม ดึงควยออกจากรูก้นป้าเอ็มแล้วรูดถุงยางที่มีน้ำกามนองอยู่ในนั้นออกพลางคิด ว่าถ้ายกหน้าไม่สวมมันจะแตกเร็วกว่ายกนี้หรือเปล่านะ?...
............................................................................................................................

“อุ!!...อู๊ยแสบก้นจัง~~...ควยตาหนูก็ใหญ่คับรูเหลือเกิน...เอ๊ะ?”
“..............................................”
“ศิ!?...นี่!!...นี่เธอมาถึงเมื่อไหร่น่ะทำไมเร็วจัง?”
“หนูไม่ได้ไปค่ะ”
“ห๊า!?...งั้นเธอก็เห็น...”
“ค่ะ”
“สำคัญมากนะยะหล่อน!!...แอบดูตาหนูชำเราตูดฉันเพลินเลยสิ?”
“ก่อนหน้านั้นอีกค่ะนายหญิง”
“ฮ้า!!!...ในห้องน้ำกะในครัวก็ด้วยรึ?”
“..............................................”
“อื้อหือ~~...เธอนี่นับวันก็เหมือนสองพี่ชายจอมลามกเข้าไปทุกทีๆ”
“ต่อไปถึงทีของหนูมั่งสิคะ”
“หนอยแน่ะ!!...แอบย้อนกลับมาแล้วยังจะ...”
“นายท่านก็ตกลงแล้วค่ะ”
“ตาหนูรู้!?”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวเหอะๆ...สองคนนายบ่าวรวมหัวช่วยกันปกปิดดีนัก!!”
“นายหญิง...”
“ก็ตามใจซี่~~”
“ขอบ...ขอบพระคุณนายหญิงค่ะ!!!!”
“แต่ฉันจะเอาคืนแก้เผ็ดตาหนูมั่ง...ไว้รอให้สามคนนั่นมาก่อน...ฮิๆๆ...รับรองสนุกแน่!!!”
...ได้ยินเสียงสองนายบ่าวคุยกันผมก็อดขำไม่ได้ว่าจะโดนแก้เผ็ด...แหม~~...พูดดังแบบนี้เขาก็รู้ตัวก่อนสิครับคนสวยจ๋า!!!...
“ไม่มีทางยอมโดนเชือดง่ายๆหรอกน่า!!...มั่นใจว่าตัวเองก็มีดีเหมือนกัน”)
...เอา ไว้ว่างๆผมจะท้าวความถึงเหตุการณ์สยิวทั้งหมดตลอดเวลาที่พักอยู่ในบ้านพัก กลางอากาศให้กระจ่างแจ้งแต่ขอให้ผมเคลียร์ปัญหาของตัวเองซะก่อน...
(ทั้งที่กลุ้มใจจะตายห่าแต่ยังมีกะจิตนึกถึงความหลังอันสุดแสนทะลึ่งลามกของตัวเองได้อีก!?)
...................................................................................................................................................

“ประตูไม่ได้ล็อค!?...พี่แคท!!”
...ก่อน จะกลับเข้าบ้านไปอธิบาย(ง้อ)เรื่องราวให้สาวน้อยสาวใหญ่หายโกรธผมแวะที่หอ พักเพื่อจ่ายเงินค่าเช่าที่ติดค้างไว้แต่ก็ต้องประหลาดใจระคนตกใจเพราะเมื่อ เปิดไฟในห้องผมก็เห็นหญิงสาววัย 22 นั่งไขว่ห้างกอดอกและมีสีหน้าที่บึ้งตึง!?...
(โมโหใครมาเนี่ย?)
“พอดีเลย...นี่ครับขนมเปี๊ยะร้านที่พี่ฝากซื้อกับเงินทอน”
“.................................................”
“มีตราประทับของร้านด้วย...หากผมไม่ได้ไปลำพูนจริงก็คงไม่มีทางซื้อมาได้...จริงไหมครับ?”
“.................................................”
“...ทำไมมองผมแบบนั้น?”
...แล้ว ทันใดนั้นพี่แคทก็ลุกขึ้นมาชกหน้าผมจนเซถลาไปนอนหงายอยู่กลางห้อง!!!!...ผม โดนกำปั้นชกเข้าที่ระหว่างโหนกแก้มกับขมับอย่างจังเลยก็รู้สึกมึนหัวอยู่พัก ใหญ่กว่าที่จะนั่งได้...
“ปะ...เป็นบ้าอะไรของพี่!?”
“เป็นบ้าอะไร?...ฉันควรจะถามประโยคนี้กับเธอมากกว่า!!”
“เรื่องของบุศใช่มั้ย?”
“.................................................”
“แต่ผู้ดีเขาไม่ใช้กำลังตัดสินปัญหาหรอกนะและผมก็ไม่รู้เห็นกับการกระทำของบุศด้วย!!”
“ผู้...ดี?...อย่างเธอเหรอผู้ดี!!!”
(ทำ...ทำไมถึงต้องตวาดเสียงดังขนาดนี้ด้วย!?)
“เลิกแก้ตัวให้ดูประหนึ่งว่าเป็นคนดีซะที!!”
“เออผมมันไอ้เลว!!!...พอใจหรือยัง?”
“ไม่ ต้องทำเป็นพูดประชด!!...ที่ผ่านมาฉันพยายามอดกลั้นมาตลอดแต่ก็ไม่มีอะไรดี ขึ้น...บัดนี้...มันถึงจุดที่สุดแล้ว!!!...ฉันเคยพูดใช่ไหมว่าพี่กุนคือคน ที่มีบุญคุณและจะไม่ยอมให้อภัยใครก็ตามที่ทำให้เธอเสียใจ?”
...พอหญิงสาว ก้าวเข้ามาผมฉวยหยิบขวดน้ำขว้างใส่เพื่อหาทางหนีแต่นอกจากจะใช้ไม่ได้ผลแล้ว ยังถูกเธอใช้เข่าตีท้องจนทรุดฮวบแต่ไม่ปล่อยให้ผมร่วงไปกองกับพื้น...หล่อน คว้าคอเสื้อผมดึงขึ้นมาและมองด้วยดวงตาที่แดงระเรื่อ...
(หรือนี่คือ?)
“อะ...อะ”
“อย่าพูด--...อย่าพูดออกมาแม้สักคำเดียวเลย!!”
“หยุดนะพี่แคท!!!”
...ทันใดนั้นฝนก็กระโดดเข้ามาพร้อมกับเงื้อกำปั้นพุ่งใส่พี่สาวตัวเองอย่างไม่รีรอแต่ถูกป้องปัดได้อย่างง่ายดาย...
“ตามมาจนได้”
“หนูต้องตามสิ...ปล่อยบอลนะ!!!”
...ฝน พุ่งหมัดใส่อีกครั้งโดยทีนี้พี่แคทผลักผมออกไปและรับหมัดของน้องสาวด้วย กำปั้น...หมัดต่อหมัดประทะกันเสียงดังและจากแรงกระแทกทำให้สาวผู้พี่ที่ตั้ง รับอยู่กับที่ต้องถอยผงะไปมากกว่าเพราะสาวผู้น้องโถมเข้ามาทั้งตัว...
“กล้าแลกหมัดกับพี่ตรงๆแล้วหรือ!?”
“บอลรีบหนี!!!...ฉันจะรับมือพี่แคทเอง”
...ไม่... ไม่ไหว...รับการโจมตีที่รุนแรงเข้าไปถึงสองครั้งทั้งที่หน้าและที่ท้องผมจึง ยังทรงตัวขึ้นมาไม่ได้แต่ก็พยายามเขยิบตัวมาที่ประตูทว่าพี่แคทเดินมาขวาง ไว้...
“...หนีไม่พ้นหรอก”
“มากเกินไปแล้ว!!...ค่อยๆคุยกันสิคะ”
“ป่วยการที่จะพูดและเธอก็เหมือนกัน...ต่อให้เป็นน้องแต่ฉันจะจัดการซะอีกคนหากสอดมือมายุ่ง”
“พี่กุนกับสาไม่ต้องการให้พี่ทำเช่นนี้”
“ฉันจะสั่งสอนเจ้าลิงได้แก้วนี่แทนผู้มีพระคุณต่างหาก...ถอยไป!!”
“ไม่!!...บอลคือคนสำคัญฉะนั้นหนูจะไม่ปล่อยให้พี่ทำร้ายเขามากไปกว่านี้แน่!!!”
“ฝน!!...อื๋อ?”
...คราวนี้เป็นเศกกับศุกร์พุ่งเข้าสกัดพี่แคทด้วยการล็อคแขนสองข้างไว้รวมทั้งศิที่มาช่วยพยุงผมลุกขึ้น...
“พวกนาย!?”
“แจ๋วเลย!!!...ฝากด้วยนะ”
“ค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงพวกพี่...เอ็งพานายท่านไปเร็วๆเข้า!!!”
“ปล่อยฉัน!!!”
...สาว เจ้าผมยาวที่ขึ้นชื่อในความเงียบขรึมเป็นนิจแต่บัดนี้อาละวาดใหญ่ทั้งดิ้น ทั้งสะบัด...นี่ไปๆมาๆสองหนุ่มพี่น้องจะเริ่มรับมือไม่อยู่เหมือนกันนะ!?...
“นายท่านไปจากที่นี่เถอะค่ะ”
“ฉันไปไม่ได้...เศกกับศุกร์ยังอยู่ในนั้นและฝนด้วย”
“นายท่านคะ!!”
“ไม่!!...ฉันไม่ไป!!!”
“บอลจะอยู่นี่ทำไมอีกเล่า?...เที่ยวนี้พี่แคทจะเอาเลือดหัวนายออกให้ได้เลยนะรู้มั้ย!?...อย่าโง่เซ่!!!”
“กรอด!!!”
“คุณสุรีย์พรรณใจเย็นๆก่อน!!”
“ไม่ใช่ความผิดของนายท่านหรอกครับ”
“นายท่านบ้าบอคอแตกอะไร?...ฉันไม่ยอมรับเจ้าคนเหลวแหลกพรรค์นี้!!!”
“ออกแรงมากกว่านี้อีก!!!...ดิ้นหลุดเมื่อไหร่...เราเน่าแน่ๆ”
“ผมก็เต็มที่แล้วพี่...แต่...แต่แรงเยอะเหลือเกิน”
“แส่หาเรื่อง!!!”
“โอ๊ว!!”
“อะไรนี่?”
“ฮ่าห์!!!”
“!!!!”
...แม้ ศิจะหิ้วปีกพาออกมานอกห้องแล้วแต่ผมก็ยังทันเห็นความบ้าระห่ำของลูกพี่ลูก น้องวัย 22 ที่ไม่ทราบไปเอาพละกำลังมาจากไหนจัดการเหวี่ยงผู้ชายถึงสองคนไปคนละทิศคนละ ทางแต่จังหวะนั้นฝนก็ฉวยโอกาสถีบด้วยเท้าขวาเข้าที่ท้องจนร่างของพี่แค ทกระเด็นไปอัดกับผนังห้องและร่วงตกจากเตียงนอนหน้าคว่ำที่พื้นแน่นิ่งไม่ ไหวติงเส้นผมแผ่บานสยายแล้วดาบซามูไรก็หลุดจากข้างเอวหญิงสาวลอยไปตกบนโต๊ะ ของผมด้วย!!!!...
(นี่ตั้งใจว่าถ้าซ้อมเราจนน่วมแล้วก็จะจับตอนใช่มั้ยเนี่ย!!!?)
“สำ...สำเร็จแล้วคุณหยาดฝน!!”
“...................................................”
“น่ากลัวเหลือเกินครับ...เวลาคุณสุรีย์พรรณโกรธ”
“...................................................”
“...นายสองคน...รีบออกจากที่นี่...เดี๋ยวนี้เลย”
“หา?”
“เร็วเซ่!!!”
“คุณหยาดฝน!?”
“ถ้าเมื่อกี้บอกน่ากลัวแล้วต่อไปจะเรียกอะไร?”
“!!!!!!!!!!!”
“กล้า มาก...กล้าทำร้ายกระทั่งพี่สาวแท้ๆของตัวเองเพียงเพราะผู้ชายโฉดชั่วคน เดียว?...เพื่อปกป้องผู้ชายเพียงแค่คนเดียวก็ถึงกับเอาเท้าถีบพี่สาวร่วมสาย เลือดอย่างฉัน!!!!”
“ไม่ทันแล้ว!!!”
...และแล้วผมก็ได้ยิน เสียงบางอย่างที่ฟังแล้วมันน่าสยดสยองขนลุกคล้ายกับเสียงกระดูกหักยังไงก็ ไม่รู้ต่อจากนั้นเสียงร้องแห่งด้วยความเจ็บปวดก็ดังตามมาติดๆ...เศกถลันเข้า มาบังให้ฝนแล้วโดนพี่แคทต่อยเข้าที่ชายโครงอย่างแรง...
“พี่เศกคะ!!!!”
“อ๊อก...แค่กๆ...อั๊ก”
“โธ่เว้ย!!...ซี่โครงพี่หักไปกี่ซี่แล้วเนี่ย?”
“...ออกรับแทน?”
“ในที่สุด...ในที่สุดยมทูตมรณะก็เผยโฉมหน้าออกมาแล้ว!!!!...ถ้าไม่ทุ่มเทฝีมือสู้สุดชีวิตมีหวังถูกลากลงขุมนรกแน่!!!”
“คะ...คะ...แค่หมัดเดียว!?”
“ศุกร์...พาเศกออกไปแล้วล็อคประตูซะ...ฉันจะขอเดิมพันหยุดอสูรร้ายตรงหน้านี่เองเพื่อตอบแทนพี่ชายของนาย”
“คุณหยาดฝนจะสู้คนเดียวเหรอครับ?...เป็นไปไม่ได้!!!”
“อยู่ก็เป็นตัวถ่วงฉันเปล่าๆพี่นายซี่โครงหักเบาะๆก็สองซี่ต้องรีบไปรักษา...ทำตามที่บอก!!”
“คะ...ครับ”
“อย่าขยับ!!”
“พี่นั่นแหละหยุด!!!”
“ฝน!!...เธอทำอะไรน่ะอย่าบ้านะ!?”
“ยังไงก็เป็นน้องสาว..พี่แคทไม่ฆ่าฉันหรอก”
“ฉันไม่มีวันฆ่าเธอแต่จะสั่งสอนให้หลาบจำ...จะมอบความเจ็บปวดชนิดที่ไม่มีทางลืมได้ลงตลอดชีวิต”
“หนูไม่กระจอกขนาดจะให้พี่ทำอย่างพูดง่ายๆ”
“........................................................”
“พี่ศุกร์พาพี่เศกไปโรงพยาบาลนะคะ...หนูจะไปกับนายท่านเอง”
“ฉันไม่ไป!”
“นายท่าน!!!”
“อันตราย มากนะครับ!!...คุณสุรีย์พรรณในตอนนี้ถูกสุริยะโลหิตครอบงำ...เธอจะทำร้ายทุก คนที่ขวางหน้าแม้กระทั่งคุณหยาดฝนก็ยังไม่ปลอดภัย!!!”
“เพราะงั้นฉันถึงต้องอยู่”
“บอล...”
“จะแสดงให้รู้ว่าโทษของการลบหลู่ฉันคนนี้แล้วมันเป็นอย่างไร?”
“ไม่มีใครลบหลู่พี่แต่เป็นพี่เองนั่นแหละที่โมโหจนขาดสติ”
“หุบปาก!!!”
“ย่าห์!!!”
...ฝน เป็นฝ่ายฉวยโอกาสโจมตีก่อนด้วยการกระโดดถีบสองเท้าแต่พี่แคทกางฝ่ามือรับและ จับที่บริเวณน่องขาแล้วเหวี่ยงร่างน้องสาวทิ้งลงพื้นหน้าตาเฉยเหมือนกับ ขว้างสิ่งของที่ไม่มีชีวิต...พอล้มก้นกระแทกพื้นฝนก็กลิ้งตัวถอยออกห่าง ทันทีเพื่อเซฟตัวเอง...
“เชอะ!!”
“ที่นี่...ยาก”
“ถูกต้อง...มันยากมากแต่ยังไงหนูก็จะหยุดพี่ให้ได้และต้องเป็นในห้องนี้ด้วย”
“เสียแรงที่ฉลาด”
“อุ๊บ!!!”
...พี่ แคทจู่โจมกลับบ้าง...เธอสืบเท้าซ้ายไปข้างหน้าครึ่งก้าวแล้ววาดแขนชกอับ เปอร์คัทด้วยหมัดขวาในแนวเฉียงจากล่างขึ้นบนเฉียดคางน้องสาวที่ถอยหลบไป อย่างหวุดหวิดและตามด้วยหมัดซ้ายตรงซึ่งฝนก็ยกเข่ารับแต่ต้องหงายหลังล้ม เพราะความรุนแรงของกำปั้นกับการยืนทรงตัวแค่ขาเดียวทำให้ร่างกายเสีย สมดุล...
“แย่แล้วค่ะ!!”
“?”
“คุณหยาดฝนใช้ขาเป็นหลักจึงถนัด ต่อสู้ในพื้นที่กว้างแต่จุดเด่นของคุณสุรีย์พรรณคือหมัดที่หนักทั้งซ้ายและ ขวา...แม้ช่วงแขนของคนเราจะสั้นกว่าช่วงขาก็จริงแต่ศิคิดว่าในที่แคบแบบนี้ คุณสุรีย์พรรณจะได้เปรียบคุณหยาดฝนเพราะต้องการเนื้อที่น้อยกว่าค่ะนายท่าน”
“...แถมข้าวของที่อยู่ในห้องก็เป็นตัวเกะกะซะด้วย”
“ใช่ ค่ะ...จะเตะหรือจะถีบก็ใช้แรงส่งเต็มที่ไม่ได้...คุณหยาดฝนอาจจะใช้เข่า คล่องแคล่วแต่ก็ไม่เพียงพอจะเผด็จศึกคุณสุรีย์พรรณที่มีฝีมือระดับเดียวกัน ได้และยิ่งมาเกิดสุริยะโลหิตด้วยแล้ว...”
...หมายความว่าถ้าปล่อยให้ฝน สู้ตามลำพังก็มีแต่แพ้กับแพ้น่ะสิ!?...ไม่!!...จะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้เพราะ นี่คือปัญหาที่ผมเป็นคนก่อ!!!!...พี่แคทระดมพายุหมัดซ้ายขวาชกใส่ฝนที่หลบ กับถอยร่นเสียส่วนใหญ่แต่เธอก็จะตอบโต้กลับมาตลอดชนิดที่ทำให้พี่แคทชะงักไป ได้เหมือนกัน!!!...
“จะเตือนเป็นครั้งสุดท้าย...หลีก!!!”
“ไม่!!!...ถ้าพี่จะทำร้ายบอลต้องเอาชนะฝนซะก่อน”
“นังเด็กไม่รักดี!!!”
“พอแค่นั้นเถอะครับอย่าทำร้ายฝน!!...คนที่พี่ต้องการคือผมไม่ใช่หรือ?”
“นายท่าน!!!”
“นี่...นี่ศุกร์ไม่ได้ล็อคประตูเหรอ?...บ้าเอ๊ย!!!!”
“เตรียมตัวชดใช้กรรม!!!!!”
.........................................................................................................................................

...เรียบเรียงตอนนี้จบก็ให้มาคิดสงสัยว่าตกลงแล้วใครเป็นคนร้ายกันแน่ระหว่างบอลกับแคท?...

...ตอนที่แล้ว Wannaluck Sidestory 1 ...
...ตอนต่อไป ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 53 ...

Wannaluck Sidestory 1

Wannaluck Sidestory 1 “ทุกสิ่งไม่เหมือนเดิม!?”

“จะรับเพิ่มหรือเจ้าคะ?”
“เปล่าค่ะ...คือ...”
“................................................”
“................................................”
“ทำไมคุณป้อมถึงมองฉันจังเลยคะ?”
“คุณหนูเล็ก...คงจะอยากสนทนากับคุณวรรณลักษณ์กระมัง?”
...เสียง ของเด็กหญิงรับใช้ที่น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกันช่วยทำให้หนูตื่นจากจาก พวังค์...สนทนาหรือ?...คุณป้อมคงจะอยากตบหนูมากกว่า...พยายามมองไปทางอื่นรึ ไม่ก็ชวนพี่สาคุยโน่นคุยนี่แต่พอหันหน้ามาก็ยังเห็นคุณป้อมจ้องตาลุกวาวเสีย ทุกครั้งไป!?...ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าหนูไปทำอะไรให้เธอขุ่นเคืองตั้งแต่ เมื่อไหร่?...
(แล้วก็ทำไมน๊าทำไมเก้าอี้ตัวสุดท้ายในจำนวนทั้ง 8 ที่เธอนั่งถึงอยู่ใกล้ๆเราด้วย!?)
“จะให้รอไปถึงไหนเนี่ย?”
“ใจเย็นๆ”
“..............................................”
...พี่ สาเริ่มอึดอัดกับบรรยากาศเบื้องหน้าซึ่งหนูก็รู้สึกแบบเดียวกันว่าถ้าคุณปู่ กับคุณย่าของพี่บอลเห็นพวกเราแล้วจะว่าอย่างไรมั่ง?...พวกท่านจะยอมรับได้ หรือเปล่าโดยเฉพาะหนูที่เป็นแค่ลูกสาวอดีตคนรับใช้?...
“เปลี่ยนชุดแล้วค่อยมานั่งไม่ดีกว่าเรอะ?”
“เสียเวลา”
“ตรงไหน?”
“ก็ตรงที่มองบรรดาว่าที่พี่สะใภ้ทั้งหลายให้เต็มๆตาน่ะสิคะ”
“จะไปยุ่งอะไรกับเขาหรือ?”
“พี่แคทก็รู้ว่าป้อมคิดอะไรแต่ยังจะแสร้งถาม...จะให้บอกออกมา?”
“พูดจาโอหังยัยตัวเล็ก!!”
“หนูรู้สึกยังไงก็พูดออกมาแบบนั้น...ไม่เหมือนพี่ฝนที่ร้ายลึกน่ากลัวกับหลอกคนอื่นเก่งมากๆ”
“...............................................”
“พี่กวางว่าไว้ไม่ผิด...นิสัยเหมือนคุณศรมรกต”
“แถมแตะต้องไม่ได้ง่ายๆด้วย”
“หนูป้อมจ๊ะ”
“?”
“การรับฟังความเห็นของผู้ที่อาวุโสกว่าถือเป็นสิ่งที่สมควรกระทำนะ”
“หากมันมีประโยชน์จะรับฟังแต่ถ้าไม่หนูก็ขอเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา”
“..................................................”
“ยังไงก็แล้วแต่...คำสั่งสอนของคุณน้า...หนูจะจำใส่ใจไว้ไม่มีลืมค่ะ”
“..................................................”
“ฮืม--”
“ใช่แล้วจ้ะพี่แคท”
...แล้วพี่แคทกับฝนก็ยิ้มให้กันส่วนคุณป้อมหลับตานั่งเงียบไปพักใหญ่จนกระทั่ง...
“นายหญิงมาถึงแล้วเจ้าค่ะ”
“สวัสดีครับคุณแม่”
“ไม่ค่อยจะกลับมาเลยนะพ่อภพ?”
“งานมันยุ่งครับคุณแม่”
“แล้วปีใหม่จะมามั้ย?”
“โอ้!!...นี่โอกาสสำคัญไม่มาไม่ได้ครับ”
“ต้องพาหลานบอลมาพบแม่ด้วย”
...งาน นี้ไม่ใช่ง่ายๆเพราะพี่บอลยืนกรานว่าชั่วชีวิตจะไม่กลับมาที่นี่แถมพอใคร เซ้าซี้มากๆก็จะพาลโมโหทุกครั้งแต่คนๆนี้หรือคุณย่าของพี่บอล?...แม้จะล่วง เข้าวัยชราแต่ร่างกายก็ยังดูแข็งแรงกระฉับกระเฉงและที่สำคัญคือแววตาของท่าน เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตัวเองกับแฝงไว้ซึ่งอำนาจบารมีที่สามารถข่มผู้ อื่นให้ยำเกรงได้ตั้งแต่แรกเห็น...
“สวัสดีค่ะคุณแม่...กุน,สา...สวัสดีคุณย่าอุทุมพรซะสิ”
“อ้อย”
“ค่ะแม่”
“เดี๋ยวก่อน!...ฉันไม่ให้เรียกย่าเพราะพวกเจ้ายังไม่มีใครได้รับการยอมรับว่าเป็นหลานสะใภ้ของบ้านนี้”
“ทำ...ทำไมคะคุณแม่?”
“แม่ กวางฤทัยไม่เข้าใจหรือไงว่าฉันต้องการตัดปัญหายุ่งยาก?...รอให้หลานบอลเลือก ซะก่อนว่าจะแต่งงานกับใครแล้วค่อยมาเรียกย่าก็ยังไม่สาย”
“..................................................”
...นาย หญิงอุทุมพรช่างเป็นบุคคลที่น่าหวั่นเกรงมาก...แค่ได้ยินเสียงพูดปกติหนูก็ ตัวสั่นแทบจะไม่กล้าสบตาด้วยแล้ว...นึกไม่ถึงจริงๆว่าพี่บอลจะมีคุณย่าที่ เข้มงวดถึงเพียงนี้...
“ทะเลาะกับตามาอีกแล้วใช่มะ?”
“ฝน!”
“แหมๆ...ออกมาก็หน้าบึ้งอย่างเงี้ยสงสัยใช่แหงๆ”
“ยายไม่ได้ทะเลาะกับตาสักหน่อย”
“เฮอๆ...ถ้าเรื่องเงินล่ะก็หายห่วง...ตาไม่ได้แอบจิ๊กไปให้อีหนูที่ไหนแต่เอามาให้หนูเองแหละจ้ะ”
“ฮะๆๆอีหนูเร๊อะ!...ขานั้นน่ะไม่กล้าร้อก~~”
“คุณยายอย่าถือสาฝนนะคะ...เด็กนี่ชอบพูดเหลวใหล”
“เหลวใหลอะไรกันเจ๊?”
“หยุดพูดเลย!”
“ไม่เป็นไรๆก็เหมือนแม่ภาตอนอายุเท่าๆกันนี่แหละ...แล้วขนมที่ยายทำเป็นไงบ้าง?”
“อร่อยมากค่ะ”
“ฝีมือยายไม่มีตกเลยแต่คนเอามาให้เนี่ยสิ--”
“ว่าไงน๊ะ!?...คนเอามาให้มันเป็นยังไง?”
“ยังจะต้องให้บอกรึ?”
“ฮึ่ม!...แน่จริงก็พูดมาซี่!!”
“ไม่เอาลูกไม่เอา...พูดจากันดีๆเถอะเป็นพี่เป็นน้องกันทั้งนั้น”
“ก็พี่ฝนชอบแหย่หนูอยู่เรื่อย”
“งั้นยัยตัวเล็กก็อย่าหาเรื่องก่อน...ทำได้มั้ยล่ะ?”
“ใครกันแน่คะที่หาเรื่องก่อน?”
“เอ้าๆ...ยายขอๆ”
...ทว่า... พอกับหลานสาวของตนเองกลับมีสีหน้าแววตาทีท่าอ่อนโยนลงอย่างไม่น่าเชื่อซึ่ง พี่บอลก็คงจะได้รับการปฏิบัติที่ดูอบอุ่นมีเมตตาแบบนี้ด้วย...
“เอาล่ะ!...แม่สาวพวกนั้นน่ะแนะนำตัวให้ฉันรู้หน่อยว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครมาจากไหน”
“อะไรๆ...เริ่มไปแล้วเร๊อะ?”
“ก็ใครใช้ให้มัวแต่ยืดยาด”
“จะรอสักหน่อยก็ไม่ได้น๊า!!...มวยมันเพิ่งจบ”
...คราว นี้เป็นชายสูงวัยท่าทางใจดี...พอลงนั่งเก้าอี้ข้างๆนายหญิงอุทุมพรหนูก็รู้ ทันทีว่าท่านคือคุณปู่ของพี่บอลและเป็นผู้นำตระกูลวิษณุมนตรีคน ปัจจุบัน...ท่านเอกบดินทร์...
“สวัสดีคุณพ่อครับ”
“มากันตั้งเยอะตั้งแยะเชียวนะ...ใครบ้างเนี่ย?”
“เอาซี่พี่กุน!!”
(พี่ฝนดูจะเอาใจช่วยพวกเราเต็มที่!?)
“อ่า--...หนูชื่อศกุนตลาค่ะ”
“หนูเป็นน้องสาวชื่อสาวิตรีค่ะ”
“...ลูกสาวของสมควรใช่มั้ย?”
“ค่ะ”
“แหม่--...ไม่นึกว่าเจ้านั่นจะมีลูกสาวน่ารักขนาดนี้...นับว่าเจ้าบอลตาถึง”
“.............................................”
“แล้วแม่หนูคนเล็ก?”
“หนู...หนูชื่อวรรณลักษณ์เป็นลูกสาวของแม่ศรีวิกาค่ะ”
“ห๊ะ!!...ลูกสาวเจ้า?”
“ค่ะนายท่าน”
“เคยเห็นตอนแบะเบาะนี่จะโตเป็นสาวแล้ว...เฮ่ย!?...โดนเจ้าบอลหลอกเหมือนกันเรอะ?...ฮ่าๆๆๆ...เอากับมันสิ”
“ดีอกดีใจซะเหลือเกินที่หลานชายนิสัยเหมือนตัวเองน่ะ?”
“แน่นอน!!!”
(ปลื้มใจที่มีหลานชายเจ้าชู้!?)
“ก็เพราะแบบนี้แหละแม่เซคกับแม่ม่อนถึงไม่ยอมอยู่ไง”
“ปล่อยสองคนนั่นไปเถอะ...ใช่มั้ยเจ้าป้อม?”
“สงสัยเรื่องนี้จะยาวแน่ๆ”
“ข้าก็ว่างั้นแหละ”
“เออใช่ตาแก่...พี่ฝนจะแกล้งหนูอีกแล้ว!!”
“ว่ะ!?...อย่าไปเชื่อยัยตัวกะเปี๊ยกขี้จุ๊นะตา!!”
“คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?”
“ก็พี่สาวเธอไงยะ!”
“นิสัยแย่อย่างนี้ไม่นับถือเป็นพี่ร้อก!!”
“ฉันยังแย่น้อยกว่าเธอเฟ้ย!...ปากเสียแบบนี้ต้องจับตีก้นให้ลายพร้อย!!!”
“ทำได้ก็ลองเซ่!!”
“เฮ้ยๆๆๆ...พอซะทีได้ไหมต่อหน้าแขกเหรื่อตั้งเยอะแยะ?...พวกเจ้านี่มันยังไงกันเฮอะ!?”
“ฮึ่ม!!”
“แฮ่!!”
“หนูแคทพาน้องๆออกไปข้างนอก...ยายชักจะรำคาญแล้ว”
“ป้อมไม่ไปไหนทั้งนั้น!!”
“งั้นสัญญากับยายสิว่าจะอยู่เงียบๆ”
“หนูไม่มีเจตนาจะมาก่อกวนสักหน่อย~~...พี่ฝนต่างหาก!!”
“หนอย!!”
“เดี๋ยวเหอะ!...ถ้าไม่อยากถูกโยนออกไปทั้งคู่ก็นั่งฟังเฉยๆและอย่าหวังว่าตาจะช่วยเลย”
“อือ~~”
“..............................................”
“ยังๆ...ยังจะแยกเขี้ยวใส่กันอีก!?...ช่วยเห็นแก่หน้ายายเค้าหน่อยมีอะไรค่อยไปคุยกันทีหลัง...เข้ามาสิแม่นีย์”
“!!!”
“..............................................”
“ใคร...นี่ใครอีกล่ะคะคุณแม่?...หน้าเหมือนคุณอรนิภาเปี๊ยบเลยแต่...”
“น้องสาวฝาแฝดของคุณอรนิภาชื่ออรศินีย์จ้ะ”
...วาว!!!!... เส้นผมเธอยาวมากๆเลยแล้วก็ยังเป็นสี...สีขาวดุจน้ำนมซึ่งมันแปลกจริงๆเพราะ ปกติผมของคนไทยส่วนใหญ่จะสีดำและมีน้อยมากเหลือเกินที่จะมีสีอื่นอย่างเช่น ลุงเอกภพที่ผมเป็นสีทองมาแต่กำเนิด!?...
(แต่ผมพี่บอลสีดำเหมือนแม่รัญภรณ์)
“ฝาแฝดที่ผมต่างสีมีด้วยหรือเนี่ย?”
“พี่ไม่มีความรู้น่ะ”
“ไว้ยาวมากเลยนะ...นี่ขนาดรวบมัดทำทรงหางม้าปลายผมยังยาวถึงน่อง”
“มีความผิดปกติอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ไม่จ้ะ...แม่โตมาก็เห็นเธอเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว...แม้กระทั่งคิ้วก็สีขาวเห็นไหม?”
“แปลกมากๆ...ไม่เหมือนพี่สาวเลย”
...สรุป คือคุณอรนิภากับคุณอรศินีย์เป็นพี่น้องฝาแฝดที่ช่างแตกต่างกันมากเหลือ เกิน...เธอนั่งเก้าอี้ตัวสุดท้ายของแถวตรงข้ามกับพี่ฝนและคุณป้อมพอดีซึ่งก็ หยุดเถียงกันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้มีเพียงแค่เสียงซุบซิบเบาๆแต่อ้อยได้ ยินเพราะอยู่ใกล้...
“สงบศึกชั่วคราวนะคะถ้าไม่อยากโดนทำโทษ”
“กลัวรึ?”
“ลงโทษให้นั่งสมาธิเป็นชั่วโมงๆใครบ้างจะไม่กลัว?”
“ชี่~~...น้านีย์ยิ้มให้แสดงว่าได้ยินที่เราคุย!!”
“................................................”
(ที่แท้พวกเธอก็กลัวคุณอรศินีย์นี่เองแต่เหตุผลคืออะไร?)
“ท่านพี่เอกภพยังสบายดีอยู่หรือเจ้าคะ?”
“ก็...สบายดี”
“คุณกวางฤทัยแลคุณศรีวิกา...มิได้พบกันเสียนาน”
“จะ...จ้ะ”
“แลนั่น...”
“ลูกสาวของศรีเองค่ะ...อ้อย...สวัสดีคุณอรศินีย์”
“สะ...สวัสดีค่ะ”
“...ดูไปก็ช่างละม้ายคล้ายกับผู้เป็นแม่นัก...น่ายินดี...”
“..................................................”
“..................................................”
“พี่กุน...ทำไมคุณอรศินีย์มองเราเขม็งเลยล่ะคะ?”
“ไม่รู้สิ”
“บุตรสาวของสมควรหรือ?...ประเสริฐยิ่งนัก...ประเสริฐยิ่งนัก”
...คุณ อรศินีย์นุ่งผ้าซิ่นสีฟ้าอ่อนยาวเกือบถึงตาตุ่มที่มีลวดลายประณีตงดงามและ สวมเสื้อคอกลมสีเดียวกันส่วนเครื่องประดับก็มีสร้อยคอกับต่างหูแต่ที่โดด เด่นสุดไม่ใช่ของมีค่าทว่าเป็นรูปร่างหน้าตาต่างหาก...ฝาแฝดของคุณอรนิภาก็ หมายความว่าเกิดวันเดือนปีเดียวกัน...ปีนี้อายุ 40 แต่ดูภายนอกเหมือนเธอเพิ่งจะ 20 ปลายๆเท่านั้น...
“นี่แน่ะพ่อภพ!!...จะให้ลูกชายแต่งงานแล้วทำไมไม่พาเจ้าตัวมาด้วยล่ะ?”
“คือ...”
“มันหมายความว่าอะไร?...เอ้าแม่กวางฤทัยบอกฉันหน่อยซิ!!”
“..............................................”
“ไม่ได้ยินที่ฉันถามหรือ?...นี่ตกลงหลานบอลรู้หรือเปล่าว่าเขาจะต้องแต่งงานน่ะ?”
“อ่า...”
“ว่าไง?”
“ยัง...ยังไม่รู้ค่ะ”
“ไม่รู้?”
“...............................................”
“บังอาจ!!!”
“!!!”
“คุณแม่...คุณแม่ใจเย็นๆก่อนครับ”
...นาย หญิงอุทุมพรในวัยชราแต่น้ำเสียงยังกังวานสดใสและเต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจบารมี แค่เสียงของท่านคนเดียวก็ดังก้องไปทั่วห้องโถงและมันสามารถสะกดพวกเราทุกคน จนไม่มีใครกล้าแม้แต่จะขยับตัวกับไม่กล้าสบตาด้วย...หมดข้อสงสัยเลยว่าคุณศร มรกตนั้นเหมือนใคร...
“ไม่เห็นจะต้องโมโหโกรธาถึงขนาดนั้นเลยนี่ยาย?”
“ยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกรึไงเจ้าป้อม?”
“พี่ฝนเข้าใจงั้นก็บอกหนูมาสิ”
“สองคนนั้นน่ะเงียบ”
“อะไรกันเล่าพี่แคท?”
“...............................................”
“ฮึ!!...แค่พี่บอลไม่ได้มาด้วยเท่านั้นเอง”
...ไม่ เข้าใจหรือ?...ผิดแล้ว!!...อ้อยว่าคุณป้อมอาจจะรู้เรื่องแต่แกล้งมากกว่า เพราะสังเกตแววตาที่มองมาที่พวกเราแต่ล่ะครั้งมันแฝงไว้ด้วยความเย้ยหยันดู ถูกเช่นเดียวกับคุณศรมรกตผู้เป็นแม่และอาจจะรวมถึงคุณอุทุมพรผู้เป็นยาย...
“มัดมือชกกันนี่?...กวางฤทัยศรีวิกา...พวกเจ้าตั้งใจจะให้หลานเอกคเชนทร์เกลียดฉัน!!...จงใจจะให้เขาเกลียดย่าตัวเองใช่มั้ย?”
“ไม่...ไม่ใช่นะคะ!!!...คุณแม่อย่าเพิ่งเข้าใจผิด”
“นายหญิงคะ...ศรีไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่...”
“จะ บอกว่าหลานชายฉันรักกับลูกสาวเธอ?...ฮึ!!...จะรักกันขนาดไหนฉันไม่ขอรับรู้ แต่พ่อบอลต้องมายืนยันว่าอยากจะแต่งงานและจะแต่งกับใครด้วยตัวของเขาเองเท่า นั้น...จู่ๆมาขอให้พวกฉันรับรองโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องนี่เห็นทีจะไม่ ได้!!!”
“แต่บอลมอบแหวนหมั้นให้ลูกกุนแล้วนะคะ”
“ต่อให้แหวนราคาเป็นล้านก็ไม่มีประโยชน์หรอกแม่กวางฤทัย”
“คุณพ่อ”
“คุณกวางฤทัยเอย...ท่านแม่ก็ชี้แจงชัดเจนแล้วมิใช่หรือว่าต้องการให้หลานเอกคเชนทร์มายืนยันด้วยตนเอง”
“นีย์”
“โบราณว่าปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ผูกอู่ตามใจผู้นอน...ท่านพี่เอกภพสมควรให้หลานเอกคเชนทร์เป็นผู้ตัดสินใจนะเจ้าคะมิใช่ผู้ใหญ่รวมหัวหาวิธีรวบรัดจัดการกันเอง...นั่นหาใช่สิ่งที่สมควรกระทำไม่”
“ไม่...ไม่ใช่อย่างนั้น”
“จริงด้วยๆ...ถ้ามั่นใจกันนักหนาแล้วทำไมถึงไม่พาพี่ชายมาด้วยล่ะ?...อ๋อ!!...รึคิดจะใช้แผนมัดมือชกบีบให้พี่ชายไม่มีทางเลือกงั้นสิ?”
“เจ้าป้อม!”
“..................................................”
“ขอแสดงความเห็นหน่อยนะคะ...ในฐานะที่หนูก็เป็นวิษณุมนตรีคนหนึ่ง”
“ลองว่ามาซิ”
“อืม--...ฉันอยากจะถาม...เธอ!!”
“!!!!”
(หนูเหรอ!?)
“พี่ชายอยู่ไหน?”
“เอ่อ...ไปเที่ยวลำพูนค่ะ”
“แล้วเหตุใดจึงไม่รอให้พี่ชายกลับมาถึงก่อนค่อยหารือแต่รีบยกโขยงกันมาทำไม?”
“.................................................”
“ไม่ตอบงั้นฉันตอบเอง...พวกเธอกลัวพี่ชายจะถูกชิงตัดหน้าไปซะก่อนใช่ไหม?”
“หนูยังเด็กไม่รู้อะไรหรอก”
“รู้สิ!!...รู้ดีเลยล่ะและก็พวกเธอน่ะ...”
“ยัยตัวจิ๋ว!”
“ปล่อยนะพี่ฝนอย่ายุ่ง!!...พี่ชายหนูทั้งคนจะให้ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ยังไง?”
“เอาล่ะเลิกเถียงกันเสียทีฉันขอเป็นคนตัดสินเรื่องนี้เอง!!...ตกลงมั้ย?”
“...............................................”
“แม่กวางฤทัยกับแม่ศรีวิกาจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่...ไม่มีค่ะ”
“พ่อภพล่ะ?”
“ผมก็แล้วแต่คุณแม่ครับ”
“ยายจะว่าไงเร๊อะ?”
“เรื่องที่ให้หลานบอลแต่งงานฉันจะขอเลื่อนออกไปก่อนเพราะเจ้าตัวไม่รู้และไม่ได้อยู่ที่นี่”
“ข้ากับยายต้องการเห็นหลานชายได้ครองคู่กับผู้หญิงที่เขารักจริงๆโดยไม่ว่าจะเป็นลูกเต้าเหล่าใครมาจากไหนพวกเราก็ยอมรับได้”
..................................................................................................................................

“เหมือนกับเราเสียเวลาไปเปล่าๆยังไงไม่รู้ค่ะ?”
“อ้อยคิดเหมือนพี่กับสาเลย”
“แม่กับพี่กวางก็นึกแล้วว่านายหญิงต้องเอาประเด็นของบอลมาใช้”
“..........................................................”
...หมาย ความว่าคุณปู่เอกบดินทร์กับคุณย่าอุทุมพรจะไม่ทำอะไรทั้งนั้นจนกว่าพี่บอลจะ กลับมายังบ้านเกิดและประกาศต่อหน้าทุกคนว่าจะแต่งงานกับพี่กุนหรือ...ใครคน อื่น...
“เวลาอย่างนี้ดันหนีไปเที่ยวลำพูนซะได้...เหลวใหลจริงๆและไหนจะมียัยบุศยากับน้องของมันอีกเล่า!!”
“กล้าว่าร้ายพี่ชายฉันเรอะ?”
“คุณป้อม!?”
“รู้ผลลัพธ์ล่วงหน้าแล้วก็ยังจะโง่มากันอีกเขาเรียกงี่เง่าแต่แค่สัญญาปากเปล่าไม่ทำให้ตาเฒ่ายอมรับพวกเธอ”
“สาบานว่านั่นน่ะปากรึนังหนู?”
...คล้าย คุณป้อมต้องการจะดักรอพวกเรา!?...เธอขึ้นไปนั่งอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่หน้า บ้านพลางมองลงมาด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลยโดยเฉพาะอ้อยที่โดนจ้อง เหมือนกับเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่แค้นเคืองกันมานาน!!!...
“สาวิตรีเอ๊ยฉัน จะบอกให้เอาบุญ!!!...จู่ๆพวกหล่อนก็เดินดุ่มเข้ามาขอเป็นลูกสะใภ้ของวิษณุ มนตรีก็ถือว่าบังอาจมากพออยู่แล้วแต่เพราะยังเห็นแก่หน้าคุณน้ารวมไปถึงพี่ แคทกับพี่ฝนอยู่หรอกนะไม่งั้นตาแก่เฉดหัวพวกหล่อนออกไปตั้งนานแล้วรู้ไว้ เสียด้วย!!!!”
“ไร้สัมมาคารวะอะไรอย่างนี้!!!”
“อย่างพวกหล่อนไม่จำเป็นต้องมีโดยเฉพาะเธอ!!”
“หนู?”
“ฉัน ไม่ชอบหน้าเธอตั้งแต่แรกเห็นแล้ว!!!...ชั่วชีวิตนี้ไม่ต้องเจอกันอีกเลยคงดี มาก...อ้อ!...ในสายตาของฉันน่ะบุศยากับบุศลาวัลย์ยังดูดีกว่าพวกหล่อนซะอีก”
“อะไรนะ?”
“แสดงว่าเธอสนับสนุนสองคนนั้นหรือ?”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วจะทำไมรึศกุนตลา?”
“เพราะคุณป้อมไม่ถูกกับพี่แคทและก็พี่ฝนเลยเลือกถือหางฝั่งตรงข้าม”
“ฉลาดเหมือนกันนิ!?...นึกว่าจะดีแต่แก้ผ้าให้ผู้ชายดูอย่างเดียว”
“มันจะมากไปแล้วนะ!!!...ถือวิสาสะอะไรมาด่าลูกฉันฉอดๆ?”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ...ทน ฟังเรื่องจริงไม่ได้เลยเรอะศรีวิกา?...จะปฏิเสธไปทำไมเล่าในเมื่อสุภาษิตเขา ก็มีบอกไว้ว่าจะดูช้างให้ดูหางจะดูนางให้ดูแม่?...ฮิๆ...แม่ลูกประสาอะไรวะ มีรสนิยมชอบใช้ของร่วมกัน?”
“!!!!”
...ประโยคนี้ทำให้อ้อยใจหายวาบและแม่ก็คงจะไม่ต่างกันด้วยรวมทั้งพี่กุน,พี่สา,ป้ากวางที่ต่างก็มีท่าทางตื่นตระหนกไปตามๆกัน...
“ศกุนตลาและก็สาวิตรี...พวกเธอเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า?”
“พูด...พูดอะไรไม่รู้เรื่อง!!!”
“เอ๊าะเหรอ?...งั้นฉันถามแม่เธอดีกว่านะว่า...”
“...ป้อม”
“..........................................................”
“เพิ่งจะเจอกันแท้ๆ...มันไม่มีเหตุผลเลยนะที่หนูจะไปเกลียดพวกเขา”
“แต่แม่สอนป้อมว่าการที่จะเกลียดใครสักคนบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล”
“อะไรนะ?”
“และหนูก็เชื่อมั่นในสิ่งที่แม่สอนด้วย”
“ไม่...ไม่น่าเชื่อว่าพี่เอ็มจะสอนให้หนูมีความคิดแบบนี้...”
“หากคุณน้าไม่พอใจก็ไปคุยกับแม่เองเถอะค่ะ”
“..........................................................”
...................................................................................................................................

“แม่คะ”
“จ๊ะ?”
“หวังว่าคุณลุงจะไม่รู้นะคะ”
“แม่ก็กังวลอยู่แต่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร”
...พวกเราแวะกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารก่อนเข้าอำเภอวัดโบสถ์โดยเลือกที่จะไม่พูดถึงเหตุการณ์ที่โยนกบูรพา...
“โบว์!!!”
“ไง!!”
“มะ...มาทำอะไร?”
“ฉันกับคุณพี่ก็ไปที่โยนกบูรพาเหมือนกันน่ะแต่ไม่ได้เผยตัวเพราะอยากรู้ว่าพวกเธอจะทำอย่างไรบ้างและผลที่ได้รับกลับมาคืออะไร?”
“...................................................”
“คุณพี่ช่างคาดการณ์แม่นยำนักว่าพวกเธอจะคว้าน้ำเหลวกลับมาแน่นอน”
“ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องนี้”
“?”
“คุณ...คุณป้อมให้การหนุนหลังเธอกับพี่บุศจริงหรือเปล่า?”
“...จริง”
“แล้วเธอก็เป็นคนบอกคุณป้อมว่าฉันกับแม่และพี่บอลมีความสัมพันธ์กัน?”
“ถูกต้อง”
“เลว!!!”
...ปกติอ้อยจะพยายามอดทนอดกลั้นไม่โกรธใครง่ายๆแต่ครั้งนี้โบว์ทำเกินไปแล้วจึงตบหน้าเธอทีนึง...
“มือหนักดี”
“ร้ายมาก”
“ที่ร้ายน่ะมันเธอต่างหาก”
“หา?”
“สุดท้ายอ้อยก็ยอมให้พี่เชนล่วงล้ำ...ไหนเคยยืนยันนักหนาว่าจะมีแต่พี่บอลคนเดียวเท่านั้น?”
“!!!!!!”
“ตกใจรึ?”
“เธอ...เธอรู้มาจาก...ขวัญใช่มั้ย?”
“หากยัยขวัญไม่เมาก็คงไม่เผลอหลุดปากหรอก...โบว์รู้หลังจากที่พวกเธอไปโรงแรมนั่นได้อาทิตย์หนึ่งและจอยก็รู้เหมือนกันนะ”
“แล้วไง?...พี่บอลเขายอมให้พี่เชนเอาฉันเพื่อจะได้ไม่เสียเปรียบกัน”
“ไม่ๆๆ...ประเด็นสำคัญไม่ใช่ตรงนี้”
“อะไรนะ?”
“หลังจากนั้นๆ...ฉันเห็นกับตาตัวเองนะว่าอ้อยไปที่บ้านขวัญและทำอะไรกับพี่เชนบ้าง”
“...............................................”
“เดิมทีก็ไม่อยากยุ่งแต่เผอิญถ่ายคลิปไว้ด้วย”
“จะเอามาขู่ฉันเรอะ?”
“ขู่?...นั่นสิ...เกิดพี่บอลเห็นเข้าจะว่าไงน๊า!?”
“ไม่ นึกว่าเธอจะเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้เสียแรงที่คบเป็นเพื่อน...ฉันเชื่อพี่สาแล้ว ว่าเธอน่ะเป็นงูพิษแต่อย่าฝันว่าจะล้มฉันได้ด้วยวิธีนี้!!!!”
“?”
“เพราะฉันก็มีคลิปที่เธอแอบมีอะไรๆกับพี่เชนเช่นกัน!!!”
“!!!!!!”
“ก็ไหนพร่ำบอกนักหนาว่าที่น้ำตกนั่นจะถือเป็นอุบัติเหตุแต่ไหงถึงแบหีให้เขาเย็ดในห้องเรียนล่ะจ๊ะโบว์?”
“แก!!!”
“วัน นั้นฉันลืมสมุดจดเลยกลับมาเอาแต่ได้ยินเสียงซะก่อน...ต้องขอบคุณสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ที่ดลใจไม่ให้ฉันเผยตัว...เธอเองก็ไม่ซื่อสัตย์ต่อพี่บอลเหมือน กันนั่นแหละ!!...ว่าไงจะยังเอาคลิปนี้มาเล่นงานฉันอีกไหม?”
“...อ้อยนี่ก็ร้ายอย่างคาดไม่ถึงแฮะ...ขอดูหน่อยได้มั้ย?”
...หนูจึงเปิดไฟล์วิดีโอคลิปที่เก็บในมือถืออย่างไม่รอช้าแล้วชูให้โบว์ดูพลางเร่งเสียงให้ดังขึ้น...
“ไม่ผิด...คนที่กำลังขย่มตอพี่เชนคือฉันเอง”
“...............................................”
“สนุกกันจนลืมเลยแฮะฉันนี่”
“...แล้วของเธอ?”
“เอ้า!!”
“...ฉันก็แค่อมให้พี่เชนเท่านั้น”
“แค่ดูดควยแต่แก้ผ้าหมดเนี่ยนะ?”
“ไม่เชื่อก็ตามใจเอาไว้ถามขวัญเอง”
...สถาน ที่คือภายในห้องนอนของขวัญและอ้อยอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าคลานโก้งโค้งตูดก้ม หน้าเลียควยพี่เชนส่วนขวัญกำลังนอนตะแคงแหกขาเอาดิลโด้แหย่เข้าๆออกๆรูหี ร้องครางกระเส่าอยู่ใกล้กัน...
(“อาวววววววววววววว...เร็วๆเข้าน้องอ้อยจ๋า~~...พี่...พี่จะแตกแล้ววววว”
“อืมมมมมมม...อื้มมมมมมมมมมมม”
“นั่นต้องแบบนั้น!!!”
“อ้อย...ขอ...ขอให้ฉันเถอะ”
...ขวัญ ละมือจากควยยางและขอเล่นกับควยจริงต่อพอหนูได้ยินก็คายท่อนลำพลางหยิบกระดาษ มาเช็ดปากเพราะพี่เชนหลั่งน้ำกามออกมาบ้างแล้วแต่ยังไม่มากฝ่ายยัยขวัญเห็น ดังนั้นก็คว้าเข้าปากต่อทันทีเธอดูดแรงมากจนพี่เชนตัวงอร้องบอกให้เบาๆหน่อย แต่ขวัญก็ไม่ยอมฟังคล้ายคนตายอดตายอยากเรื่องบนเตียงมานานทั้งๆที่สองคนนี้ เอากันแทบทุกวันเรียกได้ว่าว่างเมื่อไหร่เป็นต้องเล่นเสียวกัน...
“อ้อยจะกลับล่ะ”
“อ๊าว!!!...ไหนน้องอ้อยบอกจะค้างที่นี่ไง?”
“หนูลืมไปว่าแม่จะกลับมาบ้านวันนี้ค่ะ”
“จะไม่ปลดปล่อยสักหน่อยหรือจ๊ะ?...ขวัญไม่ว่าอะไรหรอกนะ”
“อืม...”)
“...หมดแล้ว!?”
“ความ จริงฉันก็รู้อยู่แล้วว่าจากนั้นพวกเธอทำอะไรกันอีกบ้างเพราะยังแอบดูต่อแต่ ถามไปงั้นแหละ...ไม่หวั่นไหวไม่ตกใจสมกับเป็นอ้อยจริงๆ”
“เธอยิ้มอะไร?”
“เปล่านี่”
“โกหก!!...เห็นชัดๆว่ายิ้มอยู่...เธอกับพี่บุศกำลังวางแผนอะไรไว้อีกล่ะ?”
“................................................”
“โบว์!!”
“หนวกหูน่า!!...เกรงใจแขกคนอื่นเขาบ้าง”
“อ้อย~~...เราจะไปแล้วนะ”
“คะ...ค่า!!”
“................................................”
“โบว์”
“หืม?”
“เราสองคนจะไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อนใช่ไหม?”
“ก็...คงงั้นแหละ”
“ทุกสิ่งไม่เหมือนเดิมและไม่ยั่งยืน...สาอะไรกับใจคนเล่า?”
...หนูกับโบว์แค่รักผู้ชายคนเดียวกันเท่านั้นแต่กลับผิดใจจนถึงขั้นตัดความสัมพันธ์...ไม่น่าเลย...มันไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย...
“ว้าย!!!”
“อ๋าขอโทษทีน๊า!!...เผอิญมองไม่เหน~~”
“คุณนี่เอง!!”
...อ้อยเห็นกับตาเลยนะคะว่าพี่ฝนจงใจแหย่เท้ามาขัดขาโบว์ให้สะดุดและหวุดหวิดจะล้มที่หน้าห้องน้ำ!!!...
“รู้จักฉันด้วย?”
“คุณหยาดฝน เทวะกรนันท์ที่มีศักดิ์เป็นพี่ของคุณศรโกเมน...หนูย่อมรู้จักสิคะ”
“โฮ่!?...คารมคมคายไม่เบาแต่อย่างเธอกับเจ้าป้อมจะเอาชนะได้เรอะ?”
“ยังมีคุณพี่อีกทั้งคน...กรุณาอย่าประเมินพวกเราต่ำจนเกินไปนักเพราะอาจจะน้ำตาตกในภายหลังได้นะคะ”
“...................................................”
“พี่ฝน...คุณป้อมเลือกที่จะอยู่ข้างฝ่ายนั้น”
“ไม่ต้องกังวลหรอก”
“?”
“คน อย่างยัยตัวเล็กไม่เคยไว้ใจใครง่ายๆหรือยอมช่วยฟรีๆโดยที่ไม่หวังผลตอบแทน กับไม่มีจุดประสงค์แอบแฝง...เชื่อเถอะหนูอ้อย...พี่รู้นิสัยมันดีจะตายไป”
“ว่าแต่พี่ฝนคะ...คุณป้อมเธอเกลียดชังอะไรหนูนักหนา?...คิดจนหัวแทบแตกก็ไม่เข้าใจสักทีค่ะ”
“อือ...”
“..................................................”
“อาจเป็นเพราะหนูอ้อยหน้าอกใหญ่กว่ายัยตัวกะเปี๊ยกมั้ง?”
“เอ๋!?”
“ไม่เห็นเหรอจ๊ะว่าอกยัยนั่นน่ะแบนราบยังกับไม้กระดานซักผ้า?...มันก็คงจะอิจฉาหนูอ้อยไง”
...แล้ว พี่ฝนก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดีซึ่งภายนอกอ้อยก็พลอยยิ้มไปด้วยแต่ในใจกลับไม่ รู้สึกเบิกบานสักเท่าไหร่นักเมื่ออุปสรรคขวากหนามที่หนักหนาสาหัสกำลังรอ คอยอยู่เบื้องหน้า...
................................................................................................................................................

...ตอนที่แล้ว Savitre Sidestory 1 ...
...ตอนต่อไป ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 52 ...

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Savitre Sidestory 1

Savitre Sidestory 1 “ความรู้สึกของฉัน!!!”

...เวลา 22.40 น.ที่ไนท์คลับแห่งหนึ่ง...

“บุศล่ะ?”
“ไปแล้ว”
“อะไร?...แค่มาช้าหน่อยเดียวเอง!!...จะรอกันมั่งก็ไม่ได้นะ”
“พรุ่งนี้เธอจะไปบ้านว่าที่สามีแต่เช้า”
“เหย--...ใครวะว่าที่สามี?”
“ก็บอลปีสองวิทย์-เทคไง”
“โวะ!?...เอาจริงแน่ใช่มั้ย?...อีตานมรสจืดที่มีแฟนแล้วน่ะนะ!!!”
“การทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้คนที่พึงปรารถนามาครอบครองนั่นคือความรักในแบบฉบับของยัยบุศ”
“แม้ จะต้องแย่งชิงงั้นเหอะ?...เออโส!!...ฉันอยากรู้มานานแล้วว่าบุศไปชอบนายบอล รสจืดนั่นได้ยังไง?...คือฉันไม่เห็นเขาจะมีอะไรตรงไหนโดดเด่นเลย”
“ก็อย่างที่นุ่นว่าแหละ...บอลเป็นผู้ชายที่ธรรมดาๆมาก”
“ใช่มะ?...แล้วทำไมบุศจะต้องพยายามเป็นแฟนกับเขาด้วย?”
“รักแรกพบ...บุศเห็นบอลครั้งแรกในพิธีเปิดการศึกษาก็ปิ๊งทันทีแล้วบอกว่าผู้ชายคนนี้แหละที่คู่ควรกับตัวเอง”
“หวา!!...ง่ายจัง?”
“ก็ว่ากันไป...ไม่เกิดขึ้นกับตัวเองไม่มีทางรู้หรอกแต่จนป่านนี้หล่อนยังไม่ถึงบ้านเลย...เมื่อกี้ฉันเพิ่งโทรไป”
“อ้าว!?...ยัยนั่นออกจากนี่นานยัง?”
“...เกือบชั่วโมงละ”
“แล้วมิทราบว่าแม่คุณเธอไปอยู่ซะที่แห่งหนตำบลไหนเนี่ย?”
“จะ รู้ได้ไงฉันไม่ใช่แม่หล่อนแต่ถ้าให้เดาในฐานะเพื่อนสนิทที่กล้ำกลืนฝืนทนคบ กันมาตั้งแต่สมัยประถม...ฉันว่าตอนนี้ยัยบุศคงจะอยู่ที่...”
...............................................................................................................

“ทำเป็นรู้ดีว่าฉันทำอะไร?...อยู่ในชุดวันเกิดและกำลังกอดผู้ชาย...เดี๋ยวเหอะหล่อน!!”
“...............................................”
“รูดซิปปากให้สนิทเลยนะแล้วก็ฝากบอกยัยนุ่นว่าไว้คราวหน้าฉันจะขอแก้ตัวใหม่...แค่นี้แหละ!!”
“มีอะไรครับคุณหนู?”
“เบื่อคนรู้ทันน่ะสิถามได้...ยัยโสชักจะรู้มากเกินซะแล้ว”
“แต่คุณหนูไม่ได้บอกนี่ครับว่าเราอยู่ไหน”
“ใครว่าเล่า?...ยัยนั่นรู้ย่ะแถมรู้ถึงขั้นว่าฉันอยู่ที่โรงแรมไหนและกับใครด้วย!!”
“!!!”
“ห้าทุ่มรึ?...ลุกแต่งตัวอย่ามัวแต่ดูหนังโป๊!...ฉันสวยกว่าในหนังเยอะ”
“ไม่ต่ออีกสักหน่อยหรือครับ?”
“พอ!!...พรุ่งนี้มีธุระต้องไปโยนกบูรพาแต่เช้า...ถ้าใครที่บ้านโทรมาก็บอกว่าฉันเข้าห้องน้ำอยู่นะยศ”
“ห้องน้ำ?”
“ไม่ได้โกหกนี่ก็ฉันจะอาบน้ำ”
“.............................................”
“.............................................”
“คุณหนูต้องเปลี่ยนที่ครับ...ไว้ผมจะหาข้อมูลจากพวกเพื่อนๆ”
“แต่ฉันชอบที่นี่นะเพราะเขาจัดห้องได้สวยดีและอีกอย่าง...”
“?”
“ฉันไว้ใจที่นี่เพราะเจ้าของเป็นเพื่อนสมัยเรียนของคุณพ่อแถมชอบมีเรื่องน่าสนใจมาบอกด้วย”
“เรื่องน่าสนใจ?”
“โรงแรมนี่อยู่ไม่ห่างจากมหา’ลัยเท่าไหร่แต่นายเชื่อมั้ยว่ามีพวกอาจารย์มาใช้บ่อยๆ?...เข้าทำนองที่ๆอันตรายคือที่ๆปลอดภัยไง”
“จริง...จริงๆหรือครับ?”
“มากับชู้บ้าง,กับเพื่อนอาจารย์ด้วยกันบ้าง,กับพวกเจ้าหน้าที่ลูกจ้างบ้างรึไม่ก็...นักศึกษา”
“โอ้!?”
“เคยได้ยินข่าวนักศึกษาที่ยอมนอนกับอาจารย์เพื่อแลกเกรดไหม?”
“นั่นเป็นข่าวลือ...”
“จริง!!!”
“!?”
“แล้ว ก็มีทั้งชายทั้งหญิง...นิสิตสาวต้องเป็นคู่นอนของอาจารย์ที่แก่คราวพ่อคราว ลุงเพื่อแลกกับการไม่สอบตกส่วนนักศึกษาหนุ่มๆก็ถูกอาจารย์สาวใหญ่ไร้ผัวหิ้ว เข้าม่านรูดพอออกมาอีกทีคะแนนสอบพุ่งพรวด...เฮ้อ~~...เดี๋ยวไปอาบที่บ้านอีก ที...หยิบกางเกงกับชุดชั้นในมาให้ฉันหน่อย”
“...นี่ครับ”
“โบว์คงหลับไปแล้ว...จะได้ไม่ต้องรู้ว่าฉันไปทำอะไรมา”
“มันจะไม่เป็นไรหรือครับ?”
“หือ?”
“คือคุณหนูมีแฟนแต่ยังชวนผมเข้าโรงแรมอีก”
“ความรู้สึกช้าจริงๆเล้ย~~...นายน่าจะถามตั้งแต่ฉันสั่งให้เลี้ยวรถเข้ามานี่แล้ว!”
“เอ่อ...”
“ฉันจะบอกก็ได้!!...ผู้ชายคนอื่นนอกจากบอลก็เป็นแค่คู่นอนชั่วครั้งชั่วคราว...ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่านั้น”
“.............................................”
..................................................................................................................

... 10 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น...

“ใกล้จะถึงแล้วนะ”
“มาขอหลานเค้าแต่งงาน...จะออกหัวหรือออกก้อยยังไม่รู้เลย?”
“ก็เพราะยังไม่รู้ถึงต้องมาไงล่ะ”
... “โยนกบูรพา” เป็นหนึ่งในสี่หมู่บ้านที่รวมกันเป็นตำบล “โยนกจัตุรัส” คือสถานที่ๆฉันกำลังจะไปถึงในอีกไม่กี่อึดใจ...แม่ของฉันกับพี่กุนเคยใช้ ชีวิตอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดจนถึงวัยสาวก่อนจะแต่งงานกับพ่อสมควร...จะว่า ดีใจก็ดีใจที่ได้มาแต่ความกังวลนี่...
“บุศยาเป็นหญิงร้าย...วันนี้ไล่ได้กันท่าได้แต่รุ่งขึ้นก็เชิดหน้าชูคอกลับมาใหม่ทั้งที่ฝนกับเจ๊พยายามขัดขวางแต่ก็ระวังไม่ได้ตลอด”
“ฝนกับแคททำดีแล้วจ้ะ”
“................................................”
“เราไม่ได้ละเลยหน้าที่แต่เรื่องหยุมหยิมไม่อยากจะบอก”
“สารู้--”
...ใคร จะเชื่อว่าเมื่อต้นเดือนชีวิตรักของฉันกับบอลยังราบรื่นหวานชื่นกันอยู่แต่ พอเข้าช่วงปลายกลับมีแต่ปัญหามารุมเร้า?...ฉันไม่คิดว่ามันเพิ่งจะเกิดหรอก เพียงแต่สะสมพอกพูนขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งมาระเบิดตูมเมื่อถึงเวลาเท่านั้น เอง...นี่คือความรู้สึกของฉันซึ่งมันต้องไม่ผิดแน่!!!...
“บ้านหลังนั้นมีงานเลี้ยงหรือ?”
“เอ่อ--...มีไปแล้วเมื่อคืนวานค่ะ”
“ฝนยังได้ขึ้นเวทีไปเดี่ยวตั้งหลายเพลงแน่ะพี่กุน”
“เหรอจ๊ะ?”
“ร้องถึงตีสี่กว่าๆด้วยค่ะ”
“โห!?...ไม่เบานะเธอเนี่ย?”
“ชะ...ใช่ซะเมื่อไหร่?...พี่แคทมั่วละ!!”
“มั่วตรงไหน?”
“ตีสี่อะไรกัน?...แค่...หงึ!!...หนู...หนูไม่พูดด้วยแล้ว!!!”
“ฮิๆ”
...แล้ว ฝนก็นั่งเงียบกริบโดยที่มองไปทางอื่นแต่หน้างี้แดงก่ำ!?...ฉันว่าพี่แคทกับ เธอคงจะมีความลับอะไรกันเมื่อเร็วๆนี้แน่แต่จะเป็นหรืออยู่ใน “ระดับ” เดียวกับฉันและพี่กุนก็ยังไม่รู้...เหตุการณ์ที่โรงแรมเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน หากไม่นับฉันที่ถูกบอลชำเรารูหีในท่าหมาอย่างถึงพริกถึงขิงร้องกระสันคราง แข่งกันอย่างมีความสุขแล้วทั้งพี่กุนและน้องอ้อยต่างก็กำลังมีความสัมพันธ์ ที่เกินเลยกับแม่ตัวเอง...แม่โอวเอวพี่กุนๆก็ลูบไล้แผ่นหลังท่านส่วนน้อง อ้อยกำลังถอดเสื้อผ้าป้าศรีให้เหลือแต่กางเกงในตัวเดียวเหมือน เธอ...อ้อ!!...บอลคงจะเคยเล่าไปแล้วมั้งว่าป้าศรีอายุมากกว่าแม่เขาปีหนึ่ง ดังนั้นจึงเรียกป้าซึ่งก็ไม่ผิดอะไรแต่สำหรับฉันกับพี่กุนแล้วความจริงต้อง เรียกว่าน้าศรีเพราะเธออายุน้อยกว่าแม่หลายปี...พอฉันบอกจะเรียกน้าก็ปฏิเสธ ว่าเดี๋ยวคนอื่นเค้าจะงงเลยให้เรียกป้าเหมือนบอลนั่นแหละดีแล้ว...
(“ว้าว!!...กางเกงในของแม่เซ็กส์ซี่จัง”
“ก็...เอาใจพ่อม่ายเขาจ้ะ...อย่าดังนะเดี๋ยวบอลมาโวยแม่อีก...มาใกล้ๆจ้ะแม่จะถอดให้ลูกมั่ง”
“ยังอายอยู่เหรอ?”
“ค่ะ”
“ปล่อยตัวตามสบายอย่าเกร็ง...ถือว่าเป็นการเรียนรู้นะจ๊ะ”
...พี่ กุนเคยสารภาพกับฉันว่าแม้รู้สึกกระดากอายอยู่บ้างแต่ให้ถือซะว่านี่คือการ เรียนรู้...สักพักแม่คงจะทนไม่ไหวดันร่างพี่กุนลงนอนหงายแล้วก้มจูบปากพี่ กุนๆก็เผยอปากจูบตอบอย่างเป็นธรรมชาติและค่อยๆดันลิ้นเข้าไปในปาก แม่...ใช่!!!...แม่เป็นคนสอนให้ฉันกับพี่กุนรู้จักการจูบอย่างดูดดื่มรวม ทั้งกลเม็ดที่ช่วยมัดใจบอลซึ่งมันเกิดขึ้นหลังจากที่รู้ว่าพวกเราสามแม่ลูก ต่างก็ตกเป็นคู่นอนของบอลกันถ้วนหน้า...
“อืมมมมมมมมมมมมมมม...จูบเก่งนะลูก...แบบ...แบบนั้นล่ะ...อื้ออออออออออออออ”
“ได้วิชาจากแม่เยอะ”
“ฮิๆ”
“โอ๊ววววววววววววววว...สาจ๋า~~...ผะ...ผมใกล้จะออกแล้วววววววววววววว”
“แหมรอด้วยซี่~~...อูยยยยยยยยยยยยยยย...สา...สาก็จะออกเหมือนกัน...ซีดสสสสสสสส”
“อ๊าววววววววววววววว...แตกแล้วววว...น้ำแตกแล้วววววววววววว”
...บอล โน้มตัวทาบบนหลังพร้อมหลั่งน้ำอสุจิเข้าสู่ช่องคลอดของฉัน...ยกแรกเขาเย็ด พี่กุนและปล่อยน้ำออกข้างนอกให้พวกเราห้าสาวดูดเลียส่วนยกนี้ก็เป็นทีของฉัน ซึ่งไม่รู้ว่าบอลจะมีเรี่ยวแรงร่วมเพศให้ผู้หญิงครบทุกคนหรือเปล่าแต่เราก็ มีวิธีรับมือในกรณีนั้นอยู่แล้วคือแม่เอาของเล่นมาเพียบเลยละไม่ว่าจะควย ปลอมแบบหัวเดียวหรือสองหัว,แท่งเม็ดปุ่มยางสำหรับสอดยัดทางรูตูดรึจะสายคาด หนังพร้อมไอ้จู๋ดุ้นเขื่องแถมป้าศรียังสั่งซื้อไวเบรเตอร์ทูอินวันมาจากใน เน็ตสองอัน...
“ไอ้นี่ยัยขวัญเพื่อนหนูมีค่ะ!...ดุ้นใหญ่เสียบหีแล้วดุ้นเล็กเอายัดก้น”
“เหรอ?...ไวไฟจังนะเพื่อนลูกเนี่ย”
“เวลาแฟนไม่มานอนด้วยขวัญจะใช้ทุกครั้งค่ะ...บางทีถึงจุดสุดยอดหลายครั้งจนหมดแรงหลับไปทั้งที่เจ้านี่ยังเสียบคารูเลยแหละแม่”
“แม่ก็เพิ่งเคยเห็นน่ะ...มันแปลกดีเลยสั่งซื้อมาฝากอ้อยกับหนูสา”
“คงแพงสินะคะ?”
“ไม่เท่าไหร่หรอกจ้ะ”
“ซื้อมาฝากน้องอ้อยแต่ไม่มีไว้ใช้เอง?”
“แบบ นั้นได้มีคนน้อยใจใหญ่แน่ๆเลยหนูกุนจ๋า~~...อ้อ!!...หัวใหญ่นี่เส้นรอบวง นิ้วครึ่งส่วนหัวเล็กครึ่งนิ้วใช้ถ่านสองก้อน...สนุกได้พร้อมกันสองรู”
“ดีจัง...หนูจะได้ไว้ใช้เวลาพี่บอลไม่สู้”
“โอ้โห!?...ดูถูกกันซึ่งหน้าเลยนะน้อง”
“หมายถึงเวลาพี่ล่อกับพี่สาหรือป้ากวางจนไม่มีแรงมาเย็ดอ้อยค่ะ”
“อื้อ!!...เธอคนเดียวไม่มีทางทำให้ผู้หญิงสามสี่คนสงบลงได้แน่...มันจึงต้องมีตัวช่วย”
“แล้วไปครับ”
...บอล พาฉันไปนั่งล้วงหีจับควยกันที่โซฟายกเตียงนอนให้สี่สาวน้อยสาวใหญ่บรรเลง เพลงกามอย่างเต็มที่เริ่มจากแม่เข้าด้านหลังสอดแขนลอดรักแร้เอามือคลึงหน้า อกพี่กุนพลางใช้นิ้วบี้ที่หัวนมพร้อมแลบลิ้นเลียไปตามติ่งหูเรื่อยลงถึงต้น คอ...พี่กุนแหงนหน้าสูดปากตาปรือครางออกมาเบาๆเหมือนพยายามเก็บอาการแต่มือ เธอขยุ้มที่นอนแน่นเชียว...แม่ยังเล้าโลมปลุกอารมณ์ลูกสาวคนโตไม่หยุดเมื่อ มือที่เหลืออีกข้างละจากเต้านมข้างซ้ายเลื่อนลงต่ำไปแถวๆใต้สะดือซึ่งบริเวณ เนินเนื้อตรงนั้นมีขนขึ้นรกดำขลับคล้ายกับของฉัน...
“แล้วแม่ลูกคู่นั้นทำไมยังไม่ถอดกางเกงในเหมือนคู่นี้ซะที?”
“จะรีบร้อนไปไหนจ๊ะพ่อหนุ่ม?”
“อยากดูของดีก็ต้องใจเย็นนะคะพี่”
“ไม่รู้ละ!...ถ้าภายในสามนาทียังไม่ถอดเดี๋ยวจะลุกไปดึงกางเกงในออกทั้งแม่ทั้งลูกเลย”
“ฉันนั่งทับควยอยู่นี่นายลุกไม่ได้หรอกย่ะ!!”
“เออแฮะ”
“ฮะๆๆ”
“มาสนุกด้วยกันมั้ยสา?”
“ขอดูเฉยๆดีกว่าค่ะ...หนูน่ะเมื่อไหร่ก็ได้แต่พี่นั่นแหละสนุกให้เต็มที่เลย...นานๆจะกลับบ้าน”
“งั้นพี่ไม่เกรงใจนะ”
“เร็วๆลูก...แม่แหกหีรอจนเมื่อยแล้ว”
...อ้อย กับป้าศรีถอดแพนดี้แล้วก็ลุกมานั่งใกล้ๆพวกเรา...เวลานี้ควยบอลพองแข็งตัว เต็มที่แล้วอ้อยหันมาเห็นจึงรีบคว้ามันเข้าปากทันทีโดยป้าศรีรับอาสาเอาฟัน ขบงับหนังพวงสวรรค์แบบพอเสียวๆ...บอลเริ่มสูดปากหายใจแรงขึ้นและมือเขาก็โอบ ตัวฉันแน่นขึ้นด้วยส่วนตาก็จับจ้องมองไปข้างหน้า...พี่กุนหยิบไวเบรเตอร์อัน สีแดงที่ป้าศรีซื้อมาฝากฉัน(ของน้องอ้อยสีเขียว)แต่แม่กวางจะขอใช้ก่อนเป็น การทดสอบคุณภาพ(เธอว่างั้น)...
“ยังไงก็สู้ของผมไม่ได้”
“แหม~~...จะเอามาเทียบกันได้ยังไง?”
“สาอย่าใช้มันบ่อยจนลืมของจริงล่ะ...อ้อยด้วย”
“ไม่แน่นา--...ถ้าบอลไม่กลับมานอนบ่อยๆระวังจะเสียเมียให้เจ้านี่ไม่รู้นะ”
“ฮึฮือ!!...วันไหนมันทำหน้าที่เกินตัวผมโยนทิ้งแน่”
“ว่าเข้าไปนั่น”
“ฮิๆ”
...อ้อย หยิบไวเบรเตอร์สีเขียวพลิกดูไปมาพลางบอกว่าคืนนี้เธอจะลองใช้โดยที่พูดไปก็ กลืนน้ำลายไป...น่าอยู่หรอกเพราะถึงมันจะไม่ยาวไม่ใหญ่แต่ตรงส่วนหัวนี่ น้องๆควยบอลเชียวนะ...โดนเข้าไปคงน้ำตาแทบเล็ดแบบที่แม่กวางเป็นอยู่นี้... พี่กุนเอาไวเบรเตอร์เข้าปากอมและตวัดลิ้นเลียก่อนเอาปลายถูขึ้นลงกับหีแม่ กวางสองสามทีก็ค่อยๆยัดมันเข้าไป...
“โอ๊ววววววววววววววว...ดะ...ดีจ้ะลูกกุน...เอาเข้ามาอีก...อูยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย...หัว...หัวมันใหญ่ใช้ได้เลยนะนี่”
“อีกหัวนี่จะว่าไงคะ?”
“จะว่าไง?...ก็แยงเข้าอีกรูเลยสิลูกจ๋า!!!...อื๊ออออออออออออออ”
...พอ พี่กุนจับปลายอีกแท่งยัดรูก้นแม่กวางก็ร้องครางลั่นห้องเพราะรู้สึกไว เบรเตอร์จะควงสั่นได้แรงมากชนิดที่นั่งห่างออกมายังได้ยินเสียงชัดเจน...แม่ กวางหลับตาปี๋เอามือบีบขยำแก้มก้นตัวเองแถมร้องดังมากจนน้าศรีกับอ้อยจ้อง กันตาเยิ้ม(สงสัยอยากลองมั่ง)ฝ่ายบอลก็ไม่น้อยหน้านั่งชักว่าวด้วยสีหน้า จริงจังมาก...
(ระวังกระสุนจะหมดซะก่อนนะยะ!!)
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย...สั่นแรงจริงๆ...ของดีๆ...ซีดสสสสสสสสสสสสสสสส”
“เป็นไงคะแม่?”
“สะ...เสียวมาก...เสียวมากๆจ้ะ...อูววววววววววววว...อันที่อยู่ในตูดก็พลอยสั่นไปด้วย...อืมมมมมมมมมมมมมมม”
...แม่ กวางแทบพูดไม่เป็นภาษาเมื่อเจอฤทธิ์เจ้าสองหัวเข้าไปทั้งขยุ้มทั้งจิกที่นอน จนยับไปหมดพี่กุนก็ดูท่าจะหมั่นเขี้ยวจับด้ามไวเบรเตอร์ชักเข้าชักออกเร็ว ขึ้นเรื่อยจนบางจังหวะหลุดออกมาทำให้พวกเราเผลออุทานด้วยความใจหายวาบตามไป ด้วย...
“ชอบใจไหมคะพี่กวาง?”
“อืม--...ก็ดี...มันเล็กไปนิดแต่...แต่...สั่นควงแรง...ใช้ได้...อ๊าววววววววว...เที่ยวนี้ออกเร็ว...ซีดสสสสสส”
“น้ำของแม่ออกเยอะจัง”
“เจอเข้าไปตั้งสองรูจะไม่ออกยังไงไหว?...อัน...อันนี้พอก่อนจ้ะกุน...เรามาใช้แท่งสองหัวเล่นเสียวพร้อมกันดีกว่า”
“ค่ะ”
...พี่ กุนดึงเจ้าสองหัวออกโดยมีน้ำหล่อลื่นเกาะอยู่รอบๆจำนวนมากซึ่งปริมาณขนาดนี้ แม่กวางก็น่าจะเสร็จไปแล้วแต่เพราะอยากจะให้ลูกสาวคนโตมีความสุขด้วยจึง เรียกหาเจ้าท่อนยางขนาดยาวสีเนื้อที่สามารถสอดใส่ได้ทั้งสองคนหรือคนเดียว แต่สองรูพร้อมกันก็ได้...พี่กุนเป็นฝ่ายถ่างขาก่อนขยับตัวเข้ามาใกล้แม่กวาง ที่หุบขารอ...สองสาวต่างคลานโก้งโค้งมองลอดหว่างขาคุยกัน...
“จะเอารูไหนก่อน?”
“แล้วแต่แม่ค่ะ”)
“สา”
“..............................................”
“ยัยสา!?”
“หะหา?”
“จะว่าไงบ้างเล่า?”
“โทษ...โทษทีฉันไม่ได้ฟัง...ว่าอีกทีซิ”
(กำลังย้อนเวลาหาอดีตซะเพลิดเพลินเลยยัยฝนดันขัดจังหวะซะได้)
“เรื่องของบุศยา...”
“ฉันเกลียดอีนี่!!!!”
“เสียงดังไปแล้ว!”
“หนู เกลียดขี้หน้านังคนแย่งผัวชาวบ้านนี่!!!...พี่จำตอนที่เจอมันครั้งแรกได้ มั้ย?...น่าโมโหนักที่ยังไม่รู้ไม่งั้นล่ะก็จะตบให้ดิ้นพราดๆคาสระว่ายน้ำ เลย!!!!”
“เอาเถอะ...ยังไงทั้งสองก็มีภาษีเหนือกว่าเยอะ”
“ทำไมหรือ?”
“เรารู้มาว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีแค่บอลแต่ยังมีชายอื่นมาติดพันด้วย”
“คือพี่แคทกำลังสงสัยว่าแม่นั่นจะเป็นนิมโฟมาเนีย”
“นิมโฟ...มาเนีย!?”
“โรคขาดผู้ชายไม่ได้ไงล่ะหรือในอีกแง่คือขาดเซ็กส์ไม่ได้...เนอะ?”
“ยังสรุปไม่ได้...บางทีเธออาจจะมีความต้องการทางเพศสูงกว่าปกติเท่านั้น”
“แคทรู้จากไหนเหรอ?”
“หนูถามคุณหมอมาค่ะ”
“หมายถึงบุศยาน่ะ”
“เอ่อ--...จากแหล่งข่าวส่วนตัวจ้ะ”
“ก็นะ...พอไม่ได้ปลดปล่อยมานานมันย่อมจะรุนแรงมากกว่าปกติอยู่แล้ว...ใครๆก็เป็นทั้งนั้น”
“สาด้วยรึ?”
“เธอก็ด้วยย่ะ!!”
“ไม่จริงสักหน่อย~~”
“อย่า!!...ชอบทำที่นอนฉันเลอะอยู่เรื่อยโดยเฉพาะเวลาอยู่บ้านคนเดียว”
“นั่นมันเหงื่อตังหาก”
“แหม!...เอาไปหลอกเด็กอนุบาลเถอะหล่อน!!”
“หึหือ~~”
...ยัย ฝนเพื่อนร่วมห้องของฉันเนี่ยใครอย่าคิดว่าไร้เดียงสาไม่รู้อะไรเชียวนะ!?... แม่นี่แหละตัวดีเลยเวลาอยู่คนเดียวไม่มีอะไรทำก็จะชอบสำเร็จความใคร่อย่าง เช่นวันหนึ่งฉันจอดรถที่ริมรั้วแล้วเดินเข้ามาเอาเอกสารที่ลืมไว้ซึ่งฝนคงจะ ไม่ได้ยินเพราะเมื่อฉันเปิดประตูห้องเข้ามาก็เห็นเรือนร่างที่เปลือยเปล่า ของเธอในอริยาบถแบะขาท่ายกล้อใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางเขี่ยติ่งเกี่ยวเบ็ดและ อีกมือก็เคล้นบีบหน้าอกตัวเอง...ฉันล่ะตกใจซะไม่มีแต่ฝนกลับมองด้วยใบหน้า ยิ้มแย้ม...
“เห็นหมดแล้วเหรอ?”
“ฮื่อ~~...ก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะแต่ล็อคประตูสักหน่อยเซ่!!”
“ไม่มีใครมาเห็นหรอก”
“เร่าร้อนเหมือนกันนี่เธอ?...หาแฟนสักคนสิ”
“ยังไม่เจอ...คนถูกใจอ่ะ”
“อะไรกัน?...อย่างเธอนี่มีมาให้เลือกนับไม่ถ้วนเลย”
“อึ๊บ!!...คงต้องใช้นิ้วไปพลางๆก่อนน่ะเพราะเจ๊เค้าไม่ยอมให้ฉันมีแฟนหรอก”
“แล้วข่าวลือที่ว่าเธอกับพี่แคทเป็นเลสเปี้ยนน่ะจริงแน่ใช่ป่าว?”
“ได้ยินจากใครรึ?”
“บอล”
“ฮะๆ...อย่างตานั่นจะรู้อะไร?”
...ฝนหัวเราะพลางลุกเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันปิดร่างกายแล้วพูดว่าบอลก็ยังไม่ค่อยเข้าใจผู้หญิงดีพอ...
“ฉันชอบผู้ชายแต่ก็ไม่ปฏิเสธผู้หญิงนะ...โดยเฉพาะเธอ”
“บะ...บ้าสิยะ!!!”
“ไม่บ้าหรอก...ก็เหมือนพี่แคทแหละ”
“สงสัยฉันคงต้องอยู่ห่างๆเธอไว้บ้าง”
“เฮอๆ...ถ้าฝนพอใจซะอย่างต่อให้หนีไปอยู่ที่ไหน...”
“ว้าย!!...เรื่องอะไรมาจับอกฉัน!?”
“เคะๆๆ...อย่างไรก็ไม่รอดร้อก!!!”
“ยัยนี่~~...จะหันมาเล่นกันเองซะแล้วเรอะ?”
“เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีเถอะ...ฮิ!!”
...ส่วน กรณีของพี่แคทก็น่าตื่นตระหนกไม่แพ้กันนั่นคือกลางดึกคืนหนึ่งที่อากาศร้อน อบอ้าวและมีแค่พวกเราสามคนอยู่บ้านเพราะแม่พาน้องอ้อยไปหาป้าศรีที่กรุงเทพฯ ส่วนบอลนอนค้างที่หอพัก...ฉันรู้สึกเหนียวตัวจึงลงมาอาบน้ำ...
“พะ...พี่แคท!?”
“อาบด้วยนะจ๊ะ”
“คะ...ค่ะ”
...เป็นไปได้ไงก็ฉันล็อคลูกบิดประตูห้องน้ำแล้ว?...อื๋อ!?...ไอ้ที่อยู่ในมือพี่แคทนั่นมันเส้นลวดไม่ใช่หรือ?...
“ลวดนั่น...”
“...ไม่ต้องล็อคประตูก็ได้น่ะ”
“เอ่อ--”
...พี่แคทปลดผ้าขนหนูพาดที่ราวก่อนเดินมาหาฉันเห็นท่าไม่ค่อยดีจึงจะลุกแต่ก็ถูกเธอจับแขนไว้...
“อุ๊ย!!...จะทำอะไรคะ?”
“อย่าทำท่ารังเกียจกันอย่างนั้นสิ”
“สะ...สาไม่ได้มีรสนิยม...”
“โกหกน่ะ...ฉันรู้ว่าเธอแอบไปนอนกับน้องอ้อยตั้งหลายครั้ง...จะบอกว่าไปติวหนังสือกันงั้นหรือ?”
...ได้ ใจใหญ่แล้ว!!!...พอพี่แคทเห็นฉันเงียบก็เข้าสวมกอดทางด้านหลังและเริ่มลูบ ไล้ไปตามเนื้อตัวบวกกับกลิ่นหอมจากเส้นผมของเธอมันก็ทำให้ฉันรู้สึกใจหวิวๆ จนเผลอครางออกมาในที่สุด...
“อย่า...อย่าค่ะ~~...พี่...พี่กินเหล้ามาเหรอ?”
“แค่ เบียร์สองสามอึกเท่านั้น...หัวค่ำเล่นไพ่กับฝนโดยใครแพ้ต้องเปลื้องผ้าออกที ล่ะชิ้นๆ...พอพี่แก้หมดแล้วก็ต้องดื่มเบียร์แทน...ฮิๆๆ...พี่แพ้เกือบทุกตา เลยล่ะ”
...ลูกสาวนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ชวนกันเล่นไพ่แก้ผ้า?...ฝนยังพอ ทำเนาแต่พี่แคทกลับเอากะเขาด้วยและอะไรก็ไม่ประหลาดเท่ากับที่เจ้าหล่อนซด เบียร์แค่สองสามอึกก็เมาตาเยิ้มแบบนี้ฉันไม่เคยพบเคยเห็น!!...เดี๋ยว นะๆ!?...เล่นไพ่แต่หัวค่ำแล้วเพิ่งจะออกมาป่านนี้งั้นเหรอ?...ไม่ๆ...เหตุ ปัจจุบันคับขันกว่า...ขืนปล่อยไว้ฉันต้องโดนพี่แคทปล้ำแน่นอน!!!!...
“ใครอยู่ในห้องน้ำ?”
“บะ...บอลกลับมาเหรอ?
“.............................................”
“คืนนี้อยากมานอนบ้าน”
“พี่แคท...บอลกลับมาแล้ว...ถ้าเขารู้เข้าจะไม่ดีนะคะ”
“...ชิ!!...มารคอหอยจริงๆ”
...นั่นแหละฉันถึงได้รอดพ้นจากพี่แคทอย่างหวุดหวิดที่สุดถึงแม้ในส่วนลึกจะรู้สึก “เสียดายนิดๆ” ก็ตาม...
“สา”
“.............................................”
“ยัยสา!!”
“เอ้ย!!!”
“เหม่ออะไรอีกแล้วน่ะ?”
“ปละ...เปล่า”
(คิดเพลินจนเยิ้มแฉะเต็มเป้าเลยเดี๋ยวเปลี่ยนกางเกงในใหม่ดีกว่า...หวาย~~...พี่แคทเหลือบตาดูเราผ่านกระจกมองหลังแล้วก็ยิ้มให้ด้วย)
“เรา...เรามาช้าไปหรือเปล่าฝน?”
“สาพูดอะไรเนี่ยฟังไม่เข้าใจ?...เรามาถึงก่อนเวลาตั้งยี่สิบนาที”
“............................................”
......................................................................................................................................

“ยินดีต้อนรับทุกท่าน...ขอเชิญที่ห้องโถงใหญ่เจ้าค่ะ”
“นั่น?”
“อะไรหรือคะพี่สา?”
“ดูเก้าอี้ในห้องสิอ้อย...ตรงกลางมีเก้าอี้ยาวหนึ่งตัวแล้วทางซ้าย...แปดส่วนทางขวาสี่”
“ตรงนี้ก็มีนับสิบตัว...จะนั่งไหนก็ได้หรือ?”
“มิได้เจ้าค่ะคุณศกุนตลา...เก้าอี้ใหญ่เป็นของนายท่านเอกบดินทร์แลนายหญิงอุทุมพรส่วนเก้าอี้ทั้งสี่ด้านขวา...”
“ตัวแรกของพี่เอ็มและตัวที่สามกับสี่ก็ของยัยภากับยัยนีย์”
“เก้าอี้ประจำตัว!?...มีแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย?”
(มีบ้านไหนเมืองไหนเขาทำอะไรแปลกๆกันอย่างนี้บ้าง?...ถ้าเป็นเจ้านายใหญ่โตก็ว่าไปอย่าง)
“คุณแม่คะ”
“แม่กับป้ากวางรู้มานานแล้วจ้ะแต่ไม่ได้บอก”
“ก็ใครจะรู้ล่ะศรีว่าวันนี้เรามีวาสนาได้มาที่นี่?”
“อือ--...กุนพอจะเข้าใจแล้วกับตำแหน่งเก้าอี้ทั้ง 8 นี่...แคทนั่งตัวที่สอง?”
“ค่ะ”
“ฝน...เธอนั่งไหน?”
“ตัวที่เจ็ดถัดจากตาบอล”
(นั่นก็คือบอลเป็นลูกหลานที่มีอาวุโสลำดับที่ 6 จากทั้งหมด 8 คน)
“งั้นพวกเรา...”
“ผู้ที่มิได้มีสายเลือดของวิษณุมนตรีฤาผู้ที่เป็นแขกมาเยือนจะต้องนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับของนายท่านแลนายหญิงเจ้าค่ะ”
“หา!?...ภรรยามากับสามีแต่จะนั่งด้วยกันก็ไม่ได้หรือไง?”
“นี่คือธรรมเนียมปฏิบัติของเราที่มีมาเนิ่นนาน...คุณสาวิตรีได้โปรดเข้าใจด้วยเจ้าค่ะ”
“ใจเย็นน่า--...ขนาดป้อฝนมาที่นี่ก็ยังต้องแยกนั่งกับมะม๊าเลย”
...มัน อะไรกันนักกันหนา!!!...แค่จะนั่งจะยืนยังเรื่องมากถึงขนาดนี้เลยเรอะ?...พี่ กุนเห็นอาการเลยดึงมือฉันเป็นเชิงบอกว่า “ทำตามเถอะจะได้ไม่มีปัญหา” ส่วนอ้อยก็มองมาที่ฉันพลางพยักหน้าเห็นด้วย...
(นั่งก็นั่งสิฟะ!!)
“ระหว่างที่รอนายท่านแลนายหญิงมาถึง...ขอเชิญทุกท่านรับประทานอาหารแลเครื่องดื่มที่ทางเราจัดเตรียมไว้เจ้าค่ะ...เข้ามาได้”
...เจอ เรื่องแปลกอีกแล้ว!!!...ที่เดินถือถาดอาหารทั้งขนมและผลไม้เรียงแถวกันมาน่ะ เด็กสาวๆวัยยังไม่ถึงทำบัตรทั้งนั้น...อื๋อ!?...แม่หนูคนสุดท้ายไหงสีผมถึง ได้ประหลาดกว่าเขาล่ะ?...กะจะถามพี่แคทก็พอดีเธอกับฝนโพล่งออกมาซะก่อน...
“น้องป้อม?”
“ยัย...ยัยตัวกะเปี๊ยก!?...เล่นตลกอะไรอีกเนี่ย?”
“หยุดนะ!...ถ้าพี่ฝนแกล้งล่ะก็หนูจะฟ้องตาแก่แน่...นั่งเฉยๆเลย!!”
“จะเฉยได้ไง?...สารภาพบาปมาซะดีๆ”
“วึ!!...ชอบมองคนอื่นเหมือนตัวเองอยู่เรื่อย”
“ว้าก!!!”
“ขนมชั้นที่ยายทำ...ของโปรดพี่ฝนใช่หรือไม่?”
“อึ๊!!”
“ถ้าอยากกินก็นั่งเงียบๆไม่อย่างนั้นหนูจะโยนมันออกไป...หนึ่งสอง...”
“ยะ...อย่าน๊ะ!!...พี่ยอมแล้วพี่ยอม!!!”
“ฮี่ๆ”
...เล่นเอาของโปรดมาเป็นตัวประกันแบบนี้ยัยฝนก็หงอน่ะสิ!?...อืม--...แม่หนูนี่ก็นับว่าแน่เหมือนกัน...
“เด็กคนนี้?”
“หนูป้อมลูกสาวคนสุดท้องของพี่เอ็ม...โตขึ้นมากเลย”
“เจ๊”
“ไม่รู้จะมาไม้ไหนอีก?”
“ปรากฏตัวทีไรเป็นได้มีเหตุพิลึกๆทุกทีสิน่า”
“นั่นคือ...ลูกพี่ลูกน้องอีกคนใช่ไหมคะ?”
“อื้อ!...คนสุดท้องที่เป็นตัวแสบประจำบ้านเลย”
“จะนินทาก็ทำตอนเขาไม่อยู่สิ...พี่ฝนบ้า!!”
...แหม~~...ก็เหมือนเธอไม่ใช่เรอะแล้วยังจะไปว่าเค้าอีกแน่ะ!!...นั่นปะไรโดนมองตาเขียวเลย!?...
“ท่าทางจะอายุมากกว่าอ้อยนะคะพี่กวาง?”
“แค่ปีเดียวมั้ง?”
“จำได้แล้ว--...ศรีเคยเห็นตอนมางานบุญร้อยวันของยายเหมือนค่ะ...ตอนนั้นตัวนิดเดียวเอง”
“ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเธอเหมือนแม่จริงๆ”
“น้องป้อมลงทุนแต่งชุดสาวใช้เชียว?”
“เออเฮ่อ~~...ช่างไม่เข้ากันอย่างแรงอ่ะ!!”
“หึ!!... อย่างพี่ๆสองคนจะรู้อะไรแต่มันก็น่ายินดีไม่ใช่เหรอคะ?...ในฐานะที่หนูก็ เป็นเจ้าบ้านคนหนึ่งและขันอาสาออกมาต้อนรับบรรดาว่าที่พี่สะใภ้ในอนาคตด้วย ตัวเอง”
...แม่สาวน้อยผมเปียคู่สีทองแซมริ้วดำปากสนทนากับฝนและพี่แคทแต่ ปรายหางตามาที่พวกเราสามคนโดยเฉพาะพี่กุน...งานนี้เห็นทีว่าคงจะไม่ได้รับ ไมตรีจิตที่ดีจาก “น้องสาว” คนนี้ของบอลเป็นแน่เพราะลางสังหรณ์มันฟ้องอย่างชัดเจน...นั่นไง!!!...พอเธอ เสริฟ์ขนมมาถึงน้องอ้อยก็ร้องเอะอะขึ้นทันที...
“อะไรกันน่ะเธอ!?”
“คะ?”
“อย่าบอกนะว่าเธอกับพี่ชายก็...”
“..............................................”
“ดูไปดูมาอายุเธอก็ไม่น่าจะห่างฉันเท่าไหร่แต่ริอ่านจะมีผัวแล้วงั้นเร๊อะ!?...ชื่ออะไร?”
“ชื่อ...ชื่ออ้อยจ้ะ”
“ฉันจะต้องจำหน้าเธอไว้สักหน่อยแล้ว--”
..................................................................................................................................

...ตอนที่แล้ว ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 51 ...
...ตอนต่อไป Wannaluck Sidestory 1 ...

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 51

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 51 “อดีต!?”

...มนุษย์ทุกคนต่างมีอดีต ด้วยกันทั้งนั้นซึ่งไม่ว่าจะดีหรือร้ายแต่มันก็คือบทเรียนที่สำคัญในการดำรง ชีวิต...เรื่องที่ดีควรค่าแก่การจดจำก็นำมาเป็นแบบอย่าง...เรื่องที่ไม่ดี สมควรลืมเลือนหรือเอามาเป็นสิ่งเตือนใจไม่ให้ก่อเหตุซ้ำและเพื่อ...ขอแก้ไข อีกครั้ง...

“นานทีปีหนเอาอัลบั้มรูปเก่าๆมาทำความสะอาดหน่อยก็น่าจะดี...เอ๊ะ?”
“..............................................”
“ความจริงฉันไม่เคยคิดที่จะยกโทษให้คุณเลยนะคะแต่ก็ไหนๆคุณก็ตายไปนานแล้วจะมามัวฟื้นฝอยหาตะเข็บก็ใช่ที่”
“ป้าคะ...พวกคุณลุงจะมาถึงกี่โมงคะ?”
“...คงราวๆบ่ายสามหรืออย่างช้าก็สี่โมงเย็นจ้ะ”
“งั้นพี่แคทกับฝนก็จะถึงบ้านก่อน”
“มีพวกเธออยู่ด้วยน่ะดีแล้ว...อย่างน้อยก็ทำให้พวกหนูสบายใจขึ้นได้บ้าง”
“หนูรู้มาว่าคุณป้า,แม่ศรีและแม่ของพี่บอลเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก”
“จ้ะ...พวก เราทั้งสามสนิทสนมรักใคร่เหมือนเป็นพี่น้องแท้ๆแต่พอโตขึ้น...ป้ากับรัญภรณ์ กลับต้องมาแย่งชิงผู้ชายคนเดียวกันนั่นก็คือลุงภพ”
“คุณศรมรกตเกี่ยวข้องด้วยหรือเปล่าคะ?”
“เกี่ยวมากเพราะเธอคือผู้ที่ขีดเส้นชะตาชีวิตให้ทุกคนเดินโดยที่ไม่มีใครยินยอมพร้อมใจเลยไม่ว่าจะป้าหรือลุงภพ”
“แล้ว...คนที่อยู่ในรูปนั่นคือ?”
“สมควร...พ่อของกุนกับสาที่เสียไปหลายปีแล้วไงจ๊ะ...นี่เป็นรูปถ่ายตอนหนุ่ม”
“อ้อยไม่เคยเห็นมาก่อน...เก่ามากเลยค่ะ”
“เขา เองก็เป็นผู้หนึ่งที่ถูกคุณศรมรกตบงการชีวิตทั้งๆที่รู้ความจริง ทุกอย่าง...รู้ทั้งรู้ว่าโดนหลอกใช้ให้เป็นเครื่องมือแต่ก็ยังเต็มใจ”
“..............................................”
(“สาแก่ใจคุณแล้วใช่มั้ยคะ?”
“สาแก่ใจอะไรมิทราบ?...ฉันก็แค่ทำสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น”
“ถูกต้องหรือคะ?...เด็กสามขวบยังรู้ว่ามันเป็นการกลั่นแกล้ง!!!”
“งั้น คนบ้าก็รู้ความกับสิ่งที่หล่อนทำไปทั้งหมดเหมือนกัน!!!...หนอย~~...ยังมี หน้ามาย้อนถามฉัน!?...ตกลงต่อมสำนึกยางอายของเธอที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด นี่มันเหือดหายไปจากขุมกบาลกลวงๆนั่นหมดแล้วเรอะ?...เอากองทิ้งไว้ที่ กระท่อมกลางป่าโดยตั้งใจจะไม่หยิบกลับมาแล้วใช่มั้ย?...หญิงราคีแปดเปื้อน ที่มีสัมพันธ์กับชายอื่นแล้วอย่างเธอไม่มีทางจะได้มาร่วมวงไพบูลย์ของ ฉัน!!!!...ได้ยินชัดพอหรือยัง?”
“ที่สุดคุณศรมรกตก็เอาเหตุผลนี้เพื่อจะพรากความรักของฉันกับภพให้ได้”
“ความ รักกับเจ้าภพ?...อย่ามาใช้บทพูดนางเอกละครน้ำเน่าในทีวีแถวนี้!!...หล่อนน่ะ หายไปกับเจ้าสมควรถึงสามวันสามคืนเต็มๆจนแม้แต่พ่อแม่เธอก็ยังคิดเล้ยว่าเธอ ต้องเสร็จมันแน่...เจ้าสมควรหลงรักเธอมานานแค่ไหนใครๆก็รู้แล้วมีรึที่มันจะ ยอมพลาดโอกาสทอง?...หน้ามืดเป็นลมงั้นเรอะ?...ฉันว่ามันคงไม่ใช่หรอกม้าง~~”
“คุณศรมรกตอย่าดูหมิ่นฉันนะคะ!!!”
“คน อย่างหล่อนยังจะมีอะไรเหลือให้หมิ่นอีกยะ?...เฮอะ!!...งั้นก็เถียงสิว่าไม่ จริงแต่ฉันจะบอกเลยว่านอกจากคนปัญญาอ่อนเท่านั้นแหละที่เชื่อว่าแกยัง บริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่...ฉาวโฉ่เหม็นเน่าไปทั่วโยนกจัตุรัสแล้วยังไม่รู้ สำนึกตัวเจียมกะลาหัว...ฉันแปลกใจเหลือเกินที่ยังเห็นแกกล้าออกจากบ้านมา พบปะผู้คน...นับถือในความไร้ยางอายหน้าด้านมาก!!!”
“คุณคือคนที่เที่ยวป่าวประกาศจนทำให้ชื่อเสียงฉันเสียหาย”
“แล้วจะทำไม?”
“.............................................”
“.............................................”
“และคุณก็ถือโอกาสเข้ามาเป็นธุระจัดงานแต่งงานให้เพราะต้องการจะกำจัดฉัน”
“กำจัด?...ใช่!!...หนทางใดที่จะให้ย่อยยับได้ฉันยินดีทำทุกอย่าง!!!”
“เอกภพจะไม่ลืมฉัน...เขาจะจดจำฉันตลอดไปและสักวันหนึ่งในอนาคตเราต้องได้กลับมาครองคู่กัน”
“ดีนี่~~...แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นฉันขอหัวเราะเยาะในชะตากรรมของแกให้สะใจ...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”)
“จนป่านนี้ป้าก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะของผู้หญิงคนนั้นดังก้องอยู่ในหัว”
“ป้ากวางรักกับลุงภพมาตั้งแต่แรกจริงๆด้วย”
“แต่ คุณศรมรกตจะขัดขวางป้าตลอดเพราะเธอต้องการให้น้องชายได้แต่งงานกับรัญ ภรณ์...แม่ของบอลซึ่งเดิมทีเธอก็ไม่ได้ชอบใจอะไรรัญภรณ์เท่าไหร่แต่เพียงแค่ เอามาเป็นเครื่องมือเพื่อเขี่ยป้าออกไปเท่านั้น”
“แม่ของพี่บอลคืออดีตสาวรับใช้ที่หมู่บ้านโยนกอุดร”
“ศรีก็ด้วย...เข้ามาเป็นสาวรับใช้พร้อมๆกันเลยแต่ป้าปฏิเสธ”
“เอ๋?”
“คือพ่อแม่ของป้าก็หวังจะให้ได้เข้าบ้านวิษณุมนตรีในฐานะสาวรับใช้แต่ป้าไม่ยอม”
“ทำไมคะ?”
“เพราะป้าตั้งใจแน่วแน่ว่าหากจะเข้าไปอยู่ที่บ้านวิษณุมนตรีก็ต้องเป็นในฐานะลูกสะใภ้ไม่ใช่คนรับใช้...ป้าจะไม่ให้ใครมาค่อนแคะดูถูก”
“...............................................”
“ซึ่งนี่แหละที่ทำให้คุณศรมรกตเป็นเดือดเป็นแค้นป้ามาก...เธอบุกไปด่าป้าถึงบ้านเลยนะหาว่าหวังสูงเกินตัวไม่รู้จักเจียมกะลาหัวซะบ้าง”
“ด้วยเหตุผลเพียงแค่นี้เองเหรอคะ?”
“...ความ จริงเธอกับป้าก็ไม่ลงรอยกันมาก่อนหน้านั้นตั้งนานมากและที่จะเล่าให้ฟังต่อ ไปนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งในหลายๆครั้ง...ป้ายังจำได้ไม่ลืม...เวลานั้นที่ ตำบลโยนกจัตุรัสช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2518 เราสองคนแอบเจอกันบนยอดเขามิหวนกลับ”
“แอบพบกัน?”
“เพราะอีกไม่ถึง หนึ่งเดือนต่อจากนั้นป้าจะต้องแต่งงาน...ใช่...มันเป็นการกระทำที่ผิด ศีลธรรมแต่จะให้ทำยังไงล่ะก็ในเมื่อเรารักกันมากเหลือเกิน”
“หนูเข้าใจค่ะ”
“หลัง จากที่ทางผู้ใหญ่ของสมควรมาสู่ขอและตกลงสินสอดดูฤกษ์ดูยามเรียบร้อย...ลุงภพ ก็เอาแต่กินเหล้าเมายาไปวันๆไม่ยอมรับรู้อะไรทั้งสิ้นบางทีก็เอะอะโวยวายราว กับคนบ้า...ฝ่ายศรีทนไม่ไหวที่เห็นพวกเราไม่มีความสุขจึงอาสามาเป็นธุระ จัดการวางแผนให้”
“................................................”
“อ้อ อีกนิดหนึ่ง!...แล้วเพราะวันๆลุงภพเอาแต่เมาจนขาดสตินี่แหละคุณศรมรกตจึงส่ง รัญภรณ์มาคอยดูแลปรนนิบัติไม่ห่าง...ชายหนุ่มหญิงสาวอยู่ใกล้ชิดกันไม่อาจ หักห้ามใจกันได้หรอกดังนั้นทุกอย่างจึงเป็นไปตามที่คุณศรมรกตต้องการ”
“คุณป้าของพี่บอลช่างเป็นคนที่น่ากลัว”
“ใช่...ไม่ มีใครสักคนในโยนกจัตุรัสที่จะต่อต้านเธอได้...ลุงภพเป็นคนอ่อนโยนหัวอ่อนใจ ดีเกินไปส่วนอรนิภากับอรศินีย์สองพี่น้องฝาแฝดก็ยังอายุน้อยไม่มีสิทธิ์มี เสียงอะไร”
“คุณลุงกับพี่บอลนี่นับว่านิสัยเหมือนกันเลย”
“จ้ะ...สอง พ่อลูกจึงโดนคุณศรมรกตควบคุมได้ง่าย...ไม่ว่าทำอะไรหรือไปที่ไหนก็จะถูกล่วง รู้อย่างรวดเร็วเช่นตอนนั้น...ระหว่างที่ป้ากับลุงภพกำลังมีความสุขกันจวนจะ ถึงปลายทางอยู่แล้วจู่ๆประตูกระท่อมก็ถูกจนถีบพัง...พวกเราตกใจแทบจะสิ้น สติ”
(“พวกแก!!!!”
“ว้าย!!!!”
“พี่!!!...ทำไม?...ทำไมถึงรู้ว่าผมอยู่นี่?”
“คนอย่างแกไปไหนหรือทำอะไรมีรึที่ฉันจะไม่รู้น่ะหา!?”
“โยทะกา...แก!!”
“อย่าโกรธกันเลยนะ...ฉันไม่อยากให้แกทำผิด...”
“หุบ ปากไอ้เพื่อนทรยศ!!...ฉันอุตส่าห์สนับสนุนเต็มที่ให้แกได้ลงเอยกับพี่สาวแต่ แกทำกับฉันอย่างนี้เหรอ?...หลงนึกว่าเป็นเพื่อนรักที่ไว้ใจได้แต่สุดท้ายแก ก็คือไอ้งูพิษ!!!”
“คนที่ต้องหุบปากน่ะแกต่างหาก!!...รีบใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปข้างนอกทั้งคู่เลย!!!”
“..............................................”
“แก ไม่ต้องมองยัยเด็กศรีวิกาแบบนั้นเพราะมันก็แทบจะไม่รู้ตัวเลยซะด้วยซ้ำว่า พวกฉันมาถึง...เข้าใจคิดนี่--...ให้คนดูต้นทางและก็จะได้เสพสุขกันอย่างสบาย ใจแต่แกไม่มีความรู้สึกละอายใจอยู่ในหัวสมองบ้างเลยรึ?...กวางฤทัย...อี ผู้หญิงสำส่อน!!!”
“ถ้าพี่เอ็มจะด่ากวางก็ต้องด่าผมด้วยเพราะผมเป็นคนนัดเองครับ!!”
“นี่คือการยืดอกแสดงรับผิดชอบอย่างลูกผู้ชายในแบบฉบับของแกหรือ?”
“..............................................”
“เดือน หน้าผู้หญิงคนนี้จะแต่งงานกับไอ้สมควรส่วนแกก็หมั้นหมายกับน้องรัญ ภรณ์...ทุกสิ่งทุกอย่างตระเตรียมไว้หมดแล้ว...บอกฉันซิว่าน้องรัญภรณ์ทำความ ผิดอะไรแกถึงทำกับเธอได้ลงคอ?”
“..............................................”
“ถ้ายังไม่มีอะไรกันก็พอว่าแต่นี่แกได้เธอแล้ว...”
“กวางฤทัยก็ได้กับผมแล้วเหมือนกันครับ”
“ไอ้ภพ!!!...แกยังจะเถียงฉันข้างๆคูๆ”
“เอ็มใจเย็นๆ”
“ก็ฟังมันพูดสิโย!...ฟังมันพูด!!...มัน...มันไม่น่าเกิดมาเป็นน้องฉันจริงๆ!!!”
“พี่บีบบังคับผมทุกอย่าง...ทุกวันนี้ผมไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจได้เลยแม้กระทั่งการหาคู่ครองด้วยตัวเอง”
“แกก็จะได้คว้าอีผู้หญิงสำส่อนนี่มาเป็นเมียให้ผู้คนดูถูกเหยียดหยามตระกูลของเรา...พอ--...พอเลยแก!...ไป!!...กลับบ้านไปเดี๋ยวนี้!!!”
“พี่!?”
“โยทะกา!!”
“ไปน่า!...ขืนแกยังอยู่ตรงนี้เหตุการณ์มันจะยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม”
“ปล่อย!!...ไม่ต้องจับตัวฉัน!!!”
“..............................................”
“ผู้หญิงอย่างแกเหมาะสมกับกุ๊ยข้างถนนอย่างไอ้สมควรที่สุด!!...เลิกฝันลมๆแล้งๆซะที”
“ไม่...ฉันไม่มีทางยอมเลิกราง่ายๆ...ภพคือผู้ชายที่ฉันรักเพียงคนเดียว”
“..............................................”
“..............................................”
“แพศยา!!!...อีดอกอุตพิด!!!!”
“โอ๊ย!!”
“พี่กวาง!?”
“เสือกเหรออีเด็กเวร!!!...ยังโดนตบไม่พอใช่มั้ย?”
“ว้าย!!”
“เจ้ากี้เจ้าการเป็นต้นทางให้น้องฉันกับนังสำส่อนนี่ดีนัก!!!”
“หยุดนะคะ!!...ศรีไม่ผิด...ถ้าคุณอยากระบายโทสะก็เชิญมาลงที่ฉัน!!!”
“เล่นบทนางเอกน่าสงสารรึ?...ได้!!...จะฉลองศรัทธาให้...วันนี้ฉันจะตบให้แกขาดใจตายคาที่เลย!!!!”
“พี่!!!”
“ภา...ภามาได้ไง?...นีย์ก็ด้วย!?”
“ท่านพี่ศรมรกตน่ากลัวเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”
“อย่าเลยนะพี่เอ็ม”
“.............................................”
“ชิ!!...กวางฤทัย...ครั้งนี้เห็นแก่น้องสาวฉันแต่ครั้งหน้าโชคจะไม่เข้าข้างแกอีก...ไสหัวไป๊!!!!”
“รีบ...รีบไปค่ะพี่กวาง”
“.............................................”
“หน้าด้านที่สุด!!...ระเริงสวาทอยู่กับไอ้โจรชั่วสมควรถึงสามวันสามคืนแล้วยังจะมีหน้ามาพูดว่ารักเจ้าภพคนเดียว...อีดอกทอง!!!”
“ท่านพี่ศรมรกต...”
“ฉัน นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าได้กลิ่นดอกมะลิโชยมา...เธอสองคนห้ามเอาเรื่องที่ เห็นในวันนี้ไปบอกใครเด็ดขาดโดยเฉพาะรัญภรณ์...เข้าใจมั้ย?”
“เรื่องมันเป็นไงมาไงจ๊ะพี่?”
“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก!!”
“หงะ!...ก็หนูอยากรู้...”
“ท่านพี่!!”
“โธ่!...นีย์ก็อยากรู้เหมือนกันแหละน่า”
“พวกเธอเพิ่งสิบขวบ...อย่ารีบร้อนยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่จะดีกว่า”
“............................................”
“............................................”)
..........................................................................................................................

“ร้ายกาจ!!!...คุณแม่ไม่เคยบอกหนูเลยค่ะ”
“เธอตบหน้าป้ากับศรีเต็มแรงทีเดียว...ถ้าสองแฝดไม่มาเจอล่ะก็ป้าคงสาหัสเจียนตาย”
“ได้รู้อย่างนี้อ้อยยิ่งกลัวคุณศรมรกตและก็รู้สึกชิงชังด้วย”
“แล้วพอมารู้ความจริงที่สมควรสารภาพก่อนตายราวๆสองเดือนป้าก็สาบานกับตัวเองว่าชั่วชีวิตนี้คงจะไม่อาจให้อภัยคุณศรมรกตได้”
“ความจริง?”
“ก็ อย่างที่บอกตอนแรกว่าคุณศรมรกตคือผู้อยู่เบื้องหลังทุกเรื่อง...ที่ป้าต้อง ระเห็จออกจากโยนกจัตุรัสและไม่ได้กลับไปนับสิบปีก็เป็นเพราะเธอ”
(“หมาย...หมายความว่า...”
“หากแกตกลง...ฉันจะให้เงินไปตั้งตัวก้อนหนึ่งและไม่ต้องมาใช้คืนด้วย”
“............................................”
“ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลยแค่พอแกแต่งงานแล้วก็พานัง...พากวางฤทัยไปอยู่ที่อื่น...นี่เพื่อตัวแกเองนะ”
“เพื่อผม?”
“พ่อ แกติดคุกข้อหาฆ่าคนตายชาตินี้จะได้ออกมารึเปล่าไม่รู้...เหลือแกอยู่กับยาย เหมือนสองคน...ไม่แน่บางทีฝ่ายโน้นอาจจะเอาความแค้นมาลงที่แกแทนก็ได้”
“แต่ถ้าผมไปจากที่นี่แล้วย่าจะอยู่ยังไง?”
“แกก็ไม่เห็นจะทำการทำงานอะไรเอาแต่กินเหล้าเข้าบ่อนไปวันๆ...แกเคยดูแลเอาใจใส่ย่าตัวเองด้วยเรอะ?”
“............................................”
“ฉันสัญญาว่าจะดูแลยายเหมือนอย่างดีที่สุด...แกไม่ต้องห่วงหรอก”
“ผมจะไปทำอาชีพอะไรดี?...”
“นั่นก็เรื่องของพวกแก...พรุ่งนี้สักตอนเที่ยงๆมาเอาเงินจากฉัน”
“จะ...จะให้ผมเท่าไหร่ครับ?”
“...ห้าล้านพอมั้ย?”
“โอ้โห!?...ตั้ง...ตั้งห้าล้าน!!!!”
“แต่ฉันจะแบ่งให้ยายเหมือนล้านนึงส่วนที่เหลือสี่ล้านแกเอาไป...ตกลงไหม?”
“ครับๆ...ตกลงครับ!!!”
“จง ห้ามลืมเงื่อนไขของฉันเด็ดขาด...พอแต่งงานแล้วแกต้องพากวางฤทัยไปจากโยนก จัตุรัสภายในหนึ่งอาทิตย์...หากแกอยากเจอยายเหมือนก็ส่งข่าวมาแล้วฉันจะให้ คนพาไปพบ”
“ผมทราบครับ”
“อีกอย่าง...เมื่อใดที่ฉันรู้ว่าแกกับกวางฤทัยยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ล่ะก็...คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”
“ครับ!!...ผมยินดีทำตามที่คุณศรมรกตสั่งทุกอย่างและจะไม่กล้าฝ่าฝืนเลยครับ”)
“อะไรกันคะนี่?...พะ...เพียงเพื่อจะขับไล่ป้ากวางให้ออกจากโยนกจัตุรัสคุณศรมรกตถึงกับใช้เงินตั้งมากตั้งมายอย่างไม่เสียดาย!?”
“ห้า ล้านสมัยนั้นถือว่าเยอะมากถ้าเทียบกับปัจจุบันก็ราวยี่สิบสามสิบล้าน มั้ง?...พอรู้เข้าป้าถึงกับช็อคไปครู่ใหญ่ทีเดียว...สมควรปิดบังเรื่องเงิน ห้าล้านมาตลอดแม้กระทั่งตอนงานศพของยายเหมือนเขาก็ยังไม่ยอมปริปากออกมาเลย สักคำ”
“อ๊ะ!!...ท่าทางจะมาถึงกันแล้วค่ะ”
“ทีนี้หนูอ้อยรู้แล้วนะจ๊ะ ว่าเพื่อเป้าหมายที่ต้องการเธอผู้นั้นก็พร้อมจะทำได้ทุกอย่าง...พวกหนูต้อง เข้มแข็งไม่ยอมแพ้...เราจะต่อสู้เพื่อให้ได้สิทธิ์ที่ควรจะเป็นของเรา... ใช่...มันต้องเป็นอย่างนั้น”
.................................................................................................................

...คล้อยบ่ายของวันหนึ่งในเดือนกรกฎาคม 2518 ...

“เจ้าภา!!!”
“หูย~~...บ้านเรามีตั้งเยอะตั้งแยะน่าพ่อ!!”
“อันอื่นแตกไปพ่อจะไม่ว่าเลยแต่นี่คือแจกันที่ตาเจ้าปั้นมากับมือนะ!?”
“ของตารึ?”
“ท่านพ่อ!...ท่านพ่อได้โปรดอย่าเพิ่งโกรธ...ลูกเป็นผู้ทำแตกเองมิใช่ท่านพี่เจ้าค่ะ”
“นีย์--...พ่อพูดตั้งหลายครั้งแล้วว่าอย่าเที่ยวรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ...เอาแต่ออกรับแทนกันแบบนี้พี่เจ้าก็ยิ่งได้ใจใหญ่สิ”
“โห!!...พ่อคิดได้อย่างเดียวเลยนะว่าหนูเป็นคนทำ?”
“เออสิเว้ย!!...จะเป็นใครอีก?”
“นั่นแน่ะ!!!...เอาไม้นั่นมาถือทำไมน่ะ?
“ท่านพ่อเจ้าคะ”
“หลบไปเจ้านีย์...เฮ่!!...หนีเหรอๆ?”
“ไม่อยู่ให้ตีร้อก~~”
“พวกแก!!...ไปปิดประตูหน้าต่างให้หมด...อย่าให้ลูกฉันออกนอกบ้านได้!!!”
“ว้าก!!”
“สม!...อยากมาขวางดีนัก!!”
“มันอยู่ตรงไหนน่ะ?”
“วิ่งไปทางห้องครัวครับ”
“พาคนไปดักไว้อย่าให้หนีรอดเชียว...วันนี้แหละวันนี้”
“เอะอะโวยวายอะไรของพี่อีกเนี่ย?...กะอีแค่แจกันใบเดียว”
“นั่นเป็นของขวัญเมื่อคราวขึ้นบ้านใหม่จากพ่อ”
“แต่ถ้าพ่อรู้ว่าพี่ตีหลานท่านล่ะมันก็ไม่ต่างกันหรอก”
“ทำผิดก็ต้องยอมรับ...จะปล่อยให้เสียเด็กได้เรอะ?”
“บอกให้หลบไป!!...ถือดียังไงมาขวางฉัน?”
“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยเชียวไม่มีทางหนีแล้ว...ยอมให้ตีซะโดยดีเถอะ”
“ใจร้าย!!...พ่อจะตีหนูได้ลงคอเชียวหรือ?...คอยดูนะคอยดู!!!”
“ฉันไม่คอยดูหรอกว่ะ...มานี่!!”
“...............................................”
“...............................................”
“โป๊ะเช๊ะ!!!”
“เฮ้ยตาม!!...ตามไปเร็ว~~”
“ทำบ้าบออะไรของพี่หนอ?”
“เจ้าลูกคนนี้นับวันยิ่งเหลี่ยมจัด...แกล้งเดินเข้ามาแต่ฉวยโอกาสผลักน้องสาวตัวเองแล้วก็วิ่งหนี”
“เพราะพี่ประมาทลูกเกินไป”
“อยู่ไหนแล้วนี่?”
“นั่นครับ...ที่ต้นมะม่วงหน้าบ้าน”
“หา!?”
“คุณหนูกรุณาลงมาเถอะค่ะ!!”
“ฉันจะโดดลงไปให้ดู!!!”
“ยะ...อย่าทำอะไรบ้าๆนะ!!...ลงมาเดี๋ยวนี้!!!”
“ไม่ลง!!”
“บอกให้ลงไง!!”
“ไม่!!”
“ทำให้ใครต่อใครยุ่งไปหมด...พวกแกรออยู่ใต้ต้นไม้ส่วนแกปีนขึ้นไปเอาลูกฉันลงมา...อย่าให้มีแม้แต่รอยขีดข่วนเด็ดขาด”
“เฮอ--”
“ลงมาพูดคุยกันดีๆ...อย่างนี้พ่อไม่ชอบ”
“พ่อเห็นแจกันดีกว่าลูกสาวตัวเอง...ฮึ!!”
“ฮ้า!!!”
“ตายแล้วลูกฉัน!!!!”
“ท่านพี่!!!!”
“เย้วๆๆ...แน่จริงก็ปีนหลังคาขึ้นมาจับซี่!!”
“เจ้าลูกเวร~~...เพิ่งจะสิบขวบก็เป็นได้ถึงขนาดนี้...ลิงค่างมาเกิดใช่มั้ยเนี่ย?”
“เฮ้ทุกคน!!...ฉันเก่งมั้ยๆ?...คั่กๆๆ”
.....................................................................................................................

“ก็บอกแล้วว่าไม่ยอมให้ตี...หือ?...ห้องนอนพี่เอ็ม”
“บนหลังคาไม่มี...หายไปไหนอีก?”
“ฮึ่ย!!...ตามล่าไม่เลิก~~...ซ่อนใต้เตียงง่ายไปในตู้เสื้อผ้าก็ไม่ได้...เอ๋นี่?”
“.........................................”
“รึว่าจะเป็นทางลับ?...เหวอ!!”
“ท่านพี่...น้องมิได้จะมาพาไปหาท่านพ่อดอก”
“เราสองคนรู้ใจกันอยู่แล้ว...ไป”
“ไปไหนเจ้าคะ?”
“ก็นี่ไง”
“...........................................”
“พี่เอ็มจะสร้างไว้เพื่ออะไรกันน๊า?”
“ท่านพี่...เราแอบเข้ามาเช่นนี้...”
“จุ๊ๆ...ได้ยินเสียงมั้ย?”
“เจ้าค่ะ”
“ดังมาจากประตูตรงหน้านี่เอง”
“แล้วจะเปิดไปได้อย่างไร?”
“เดี๋ยวนะ...อุ๊ย!!!...ประตูไม่ได้ล็อค”
“นั่น...”
“!!!!”
“อ่ะ...อ่ะ...อีก...เอาอีกสิคะ!...เอาอีกค่ะที่รัก!!”
“เอ็มจ๋า~~...โยรักเอ็มที่สุดในโลก”
“อย่า...อย่าปากหวานแค่ปากนะ...คิกๆ...โอออออออออออออ”
“อู้หู~~...กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย!!”
“นะ...น่าบัดสียิ่งนัก!!!”
“ดูไว้เพื่อศึกษาสิอย่าคิดมาก!!...อีกหน่อยเมื่อเราแต่งงานก็ต้องทำแบบนี้กับสามี”
“.............................................”
“ยก...ยกนี้แหละจะไม่ลมปากอ่าวอีกแน่!!”
“แน่รื้อ?”
“สัญญาจ้ะ”
“ถ้าเที่ยวนี้โยยังเสร็จก่อนเอ็มล่ะก็จะไม่ยอมกินยาไม่ได้แล้วนะ”
“อื้อ!!”
“ยา...ยาอะไรหรือเจ้าคะ?”
“พี่ก็ไม่รู้...ว้าว!?...ไอ้นั่นของพี่โยะ...มัน...มันขยายใหญ่ได้ด้วยแฮะ!!!”
“...............................................”
“เอ้า!!...มัวแต่มองอยู่นั่น”
“หีเอ็มสวยจัง”
“ชมได้ทุกที...ไม่เบื่อบ้างรึ?”
“ไม่เคยเบื่อเลยครับ”
“สวย!?...มันสวยตรงไหนกันว๊าขนขึ้นรกดำออกอย่างนั้น?...สู้ของเราไม่ได้หรอก...ใช่ไหมนีย์?”
“แต่ท่านพี่ศรมรกตเคยพูดไว้ว่าถ้ามีขนขึ้นในที่ลับย่อมอาจหมายถึงการเติบโตเป็นผู้ใหญ่”
“วู้ว~~...พี่เขยจะเอามันเข้าไปแล้ว”
“อื้ม มมมมมม...เอ็มชอบควยหัวใหญ่ๆอย่างนี้แหละ...อูยยยยยยยยยยยยยย...คับรูจัง... ฉะ...ฉันว่าฉันหีใหญ่พอตัวเหมือนกันนะแต่พอมาเจอควยเธอแล้ว...”
“ถ้าเจ็บก็บอก”
“ไม่เป็นไรหรอก...ดันเข้ามาเถอะ...อืออออออออออ”
“เกือบครึ่งแล้วเอ็ม”
“ขนาดน่ะได้แต่ความอึดนี่สิต้องพัฒนาอีกเยอะเลยนะโย”
“อืม--”
“มิดยัง?...อูยยยยยยยยยย”
“อีก...อีกนิด...อ้า...มิดแล้วจ้ะ”
“กอดจูบกันกลมเชียวนะแต่ถ้าไอ้นั่นเข้าจิ๋มจนมิดแล้วมันจะรู้สึกดีจริงๆเรอะ?”
“...น่าจะเป็นอย่างนั้นเจ้าคะ”
“แต่เห็นพี่เอ็มมั้ย?...หน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว”
“น้องก็มิทราบ”
“โอ๊ววววววววววววว...ช้าๆก็ได้...ซีดสสสสสสสสสสส...ตายอดตายอยากมาจากไหน?”
“ต้องให้ควยมันคุ้นกับหีก่อนไงจ๊ะ”
“แหม~~...ป่านนี้ยังไม่...ว้าย!!!!”
“อะ...อะไรเหรอ?”
“ภา!!...น้องเข้ามาได้ยังไงกัน?...นีย์ก็ด้วย!!!”
“ซวยแล้ว!!!!”
“หยุด!...ทั้งคู่ไม่ต้องไปไหนเลยนะ!!...โยรีบหากางเกงใส่สิ!!!”
“ไม่มี”
“ผ้าเช็ดตัวน่ะ”
“ก็เอ็มเพิ่งคว้าไปห่มไงครับ...มันมีแค่ผืนเดียว”
“ชุดของโยน่ะก็อยู่ข้างเตียงไงเล่า!!!”
“เออแฮะ”
“นี่!!...มองอะไรกันน่ะ?”
“พี่เอ็มกับพี่โยะแอบทำเรื่องไม่ดีไม่งามกันแล้วยังจะมาดุหนูรึ?”
“การชิงสุกก่อนห่ามหาใช่เรื่องที่สมควรไม่นะเจ้าคะ”
“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าสอดรู้สอดเห็นเรื่องของผู้ใหญ่”
“พูดงี้อีกละ!?...แฮ่ม!!...แต่ถ้าผู้ใหญ่ทำตัวไม่ดีมันก็น่ายุ่งหรอกนะจ๊ะ”
“ยัยภา!!!...พี่จะฟ้องคุณพ่อคุณแม่”
“เอาเซ่ฟ้องเลยจ้ะ!!...แล้วทุกคนก็จะได้รู้เรื่องของพี่เอ็มกะพี่โยะ”
“หนอย!!!”
“............................................”
“แล้วพ่อก็จะต้องโกรธมากแน่ๆ”
“ยังไงเราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว...อยากฟ้องก็ฟ้องเลย!!”
“มั่นใจ?”
“อะไร?”
“ภาดูออกนะว่าพ่อไม่ค่อยจะชอบหน้าพี่โยะสักเท่าไหร่และถ้าเกิดรู้เข้า...คนที่จะแย่ก็คือพี่โยะนั่นแหละ”
“อึ๋ย~~”
“จะขู่พี่เร๊อะ?”
“เฮ่ย~~... เรามาตกลงกันอย่างสันติดีกว่าน่า...ถ้าพี่ยอมช่วยหนูๆก็จะปิดปากเงียบไม่พูด อะไรทั้งนั้นและน้องนีย์ก็จะไม่แพร่งพรายด้วย...นะ?”
“จะ...เจ้าค่ะ”
“ช่วยอะไร?”
“คือ...หนูโดนพ่อไล่ตีมาเพราะทำแจกันแตก...หนีขึ้นหลังคาแล้วก็เข้ามาในห้องนอนพี่”
“หาทางลับของฉันเจอเพราะหนีความผิด...ช่างเป็นเหตุผลที่เหมาะสมกับตัวร้ายอย่างเธอดีจังนะ...ก็คือจะให้พี่ช่วยพูดกับคุณพ่อใช่มั้ย?”
“มันไม่ได้ยากอะไรเลยก็คุณพ่อตามใจพี่เอ็มมากๆนี่นา”
“.............................................”
“.............................................”
“ออกไปรอข้างนอก...ขอพี่ใส่เสื้อผ้าก่อน”
“เอ็ม!?”
“ได้จ้ะ”
“ท่านพี่”
“อ้า!!...พี่เอ็มยอมช่วย...ไปเถอะนีย์”
“..............................................”
“แย่จริง...เอ็มคงจะต้องทำให้มันมิดชิดกับรอบคอบกว่านี้...โยก็ไม่รู้สึกตัวบ้างเลยว่ามีคนแอบเข้ามา?”
“อยู่ต่อหน้าเอ็มทีไรผมก็ไม่เคยรวบรวมสมาธิได้”
“อ๋อเหรอจ๊ะ?”
“ครับ”
“แหมพ่อคู้ณ~~...เสียแรงมีพลังจิตซะเปล่า!!”
“น้องภาจะไปบอกใครหรือเปล่า?”
“เธอจะไม่ทำแบบนั้น”
“มั่นใจหรือ?”
“อืม--...ถึงยัยภาจะเป็นพวกมะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูกแต่เอ็มรู้นิสัยเธอดีส่วนยัยนีย์ก็ยิ่งไว้ใจได้เลย”
“...............................................”
........................................................................................................................

...แล้ววันเวลาก็ได้ล่วงเลยผ่านมาเกือบ 14 ปี...ช่วงบ่ายในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2532 ...

“ฮะๆๆๆ...ถ้าเป็นเรื่องนี้ก็สนุกจนลืมไม่ลง...ภานึกทีไรก็ขำทุกที”
“ที่จริงไม่ต้องให้พี่เป็นหนังหน้าไฟเธอก็รอดตัวอยู่แล้วเพราะยังมีคุณทวดศรไพฑูรย์ทั้งคน”
“แหมไหนๆก็ไหนๆ~~...เมื่อมีโอกาสก็ต้องคว้าไว้ก่อนสิคะ”
“เออย่ะแม่คนเจ้าเล่ห์!...อ้า!!...นีย์ก็พูดอะไรมั่งสิเงียบตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”
“ได้ฟังท่านพี่ทั้งสองสนทนากันเพียงเท่านี้น้องก็เบิกบานใจแล้วเจ้าค่ะ”
“จะว่าไปพี่ก็ดีใจเหมือนกันนะ”
“คะ?”
“ที่นิสัยหนูแคทไม่เหมือนเธอไงส่วนหนูฝนยังไม่รู้”
“เชอะ!!...นั่นถือว่าได้จากพ่อเขาเต็มๆแต่ลูกแคทสวยเหมือนหนูนะจ๊ะพี่”
“มันเห็นๆกันอยู่แล้ว...พ่อหล่อแม่สวย”
“...................................................”
“ถ้าภาเป็นคนเลี้ยงหนูแคทป่านนี้จะเป็นไงบ้าง?”
“จะเหมือนหนูตอนเด็กทุกอย่าง...ไม่ต้องสงสัยค่ะแต่เสียดาย...”
“เสียดาย และจะบอกว่าโชคร้ายงั้นสิจ๊ะ?...ไม่ถูกๆ...เธอคลอดหนูแคทตอนอายุแค่ 18 ก็จริงแต่ยังถือว่าโชคดีที่คลอดก่อนเข้าเรียนพยาบาลนะ...มันดูไม่จืดแน่เลย ถ้าเธอเลี้ยงลูกพร้อมกับเรียนหนังสือไปด้วย”
“...................................................”
“เพราะคุณพ่อโกรธหนูมากจนเกือบจะตัดสินใจไปแบบนั้นแม้กระทั่งตอนที่นอนอยู่โรงพยาบาล”
“เฮอๆ...แต่ พอเห็นหน้าหลานแคทครั้งแรกก็ลืมหมดว่าเคยดุด่าอะไรไว้บ้างเช่นจะขับออกจาก บ้านเอยหรือจะตัดพ่อตัดลูกเอย...พี่จำได้แม่นจ้ะที่วิ่งอ้าวมาที่รถแล้วรีบ เปิดประตูขออุ้มหนูแคทน่ะ...หึๆๆ....หนูแคทก็เลี้ยงง่ายไม่ค่อยงอแงคุณพ่อ เลยยิ่งรักยิ่งหวงกันไปใหญ่จนลูกเซคเคยแอบมาบ่นน้อยใจกับพี่เชียวละ”
“นั่นสินะคะ...บางทีคุณแม่จะอุ้มบ้างยังไม่ยอมให้เลย”
“ใช่ไหม?...อย่างไรคุณพ่อก็ไม่มีทางปล่อยให้หลานสาวที่น่ารักไปตกระกำลำบากได้แต่ทำเป็นปากแข็งไปงั้นเอง”
“จะ ว่าไปภาต้องขอบคุณลูกสาวคนนี้นะคะ...เวลานั้นชีวิตภาเหมือนโดนต้อนเข้าทาง ตัน...โรงเรียนเกือบจะไล่ออกเพราะตั้งท้องแต่ดีที่แม่ไปช่วยพูดให้...พ่อก็ ไม่ยอมรับพี่ศักดิ์และไม่จัดกระทั่งงานผูกข้อไม้ข้อมือแถมจะเฉดหัวไล่ออกจาก โยนกจัตุรัสด้วย”
“..................................................”
“พี่เอ็ม...เราว่า...”
“อ๊ะ!?...จริงด้วย”
“....................................................”
“....................................................”
“ฮะฮ่าๆๆ...ดูๆ”
“อย่าเข้ามานะ!!!”
“ลูกเซค!!...บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเอาตะวันเลือดมาหลอกน้อง”
“จะให้แคทเป็นเหมือนหนูตังหาก”
“น้องเค้ายังทำไม่ได้หรอกลูก”
“แต่ม่อนกับอ๋อมทำได้แล้วอ่ะ”
“พอๆๆ...นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาเล่น...ถ้าดื้อแม่จะตีนะ”
“ค่า~~”
“พาน้องๆไปเล่นตรงโน้นและก็อย่าซนนักล่ะ”
“ทีนี้ตาม่อนเป็นคนหา”
“มาน้อยออกกันอย่างยุติธรรมดีกว่า...ท่านพี่สุรีย์พรรณก็หยุดร้องให้ได้แล้วเจ้าค่ะ”
“ปละ...เปล่าร้องสักหน่อย!!”
“น้ำตาร่วงแหมะๆยังจะบอกเปล่า?...ขี้ขลาดจังเลย--”
“ไม่ใช่นะ!!”
“เบ้!!...แคทขี้แยไปขายดอกแค”
“อ๋อม!”
“ฮ่าๆๆๆ”
“มา!!...โออาน้อยออก...ใครไม่เปลี่ยนเป็น!!”
“................................................”
“ใครเปลี่ยนเป็น!!”
“เอ๊ะ?”
“สุดท้ายม่อนก็เป็นคนหาอยู่ดีแหละ”
“นั่นสิเสียเวลา...ไม่ต้องน้อยออกก็ได้”
“ฮึ!!...เค้าจะนับละ”
“เอาเล้ย!!”
“ซ่อนเร็ว!!!”
“อย่าขี้โกงใช้พลังจิตนะ...คราวก่อนก็ทีนึงแล้ว”
“หนูวิ่งช้านี่เจ้าคะท่านพี่...ดวงตาก็มองมิค่อยชัด”
“รับรองว่าซ่อนไม่ไกลหรอกน่า!!”
“1-2-3...18-19...”
“เด็กๆร่าเริงกันดีนะเจ้าคะ”
“แล้วเอ้อยู่ไหนเหรอ?...พี่ไม่เห็นเลย”
“น้องภรณ์พาไปซื้อของในเมืองจ้ะ”
“................................................”
“เกือบเดือนแล้วสิที่พี่ภพไม่กลับมา?”
“ปากก็อ้างว่างานเยอะแต่นี่มันกรรมเวรจริงๆ...เล่นพรากลูกพรากแม่กัน”
“ตอนหลานบอลมาบ้านคราวก่อนลูกๆเราก็ไม่ยอมมาพบแถมชวนกันขึ้นไปเล่นบนเขามิหวนกลับโน่น”
“ก็ ไม่รู้เซคไปได้ยินจากใครมาว่าบอลนิสัยไม่ดีโตขึ้นจะเจ้าชู้เลยสั่งน้องๆห้าม มาเล่นด้วย!?...โดยเฉพาะม่อนนี่เชื่อถือเป็นจริงเป็นจังมาก”
“นั่นสิ...รู้สึกม่อนกับบอลจะไม่เคยพบหน้ากันเลยใช่มั้ย?”
“รอให้พวกเขาเติบโตขึ้นอีกสักนิดน่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่เจ้าค่ะ”
“อื๋อ!?...คุณพ่อเป็นอะไรน่ะ?”
“จะมีอะไรซะอีกนอกจากโดนแกล้งไง”
“เมื่อกี้บอกจะเล่นซ่อนหากันแท้ๆ”
“เฮ้ยๆๆๆ...เอาห่อยาเส้นตาคืนมา!!!”
“ขอหนูมั่งสิ”
“ไม่ได้ๆ...ไม่ใช่ของเด็ก”
“อยากได้ก็มาแย่งคืนซี่~~”
“วะ!...ชอบมาก่อกวนคนแก่จริ๊ง~~...ส่งมานี่เลยเจ้าเซคเดี๋ยวหกหมด!!”
“เรื่องอะไรจ๊ะ?...แคทรับ!”
“เอ้ย!?”
“เอ้า!!”
“ฮะๆๆ”
“นี่เจ้าม่อนก็เอากับเค้าด้วยเรอะ?”
“อ๋อม!”
“ได้แล้ว!!”
“แน่ะๆๆ”
“คิกๆๆ...คุณพ่อโดนแทบทุกวัน”
“แต่ท่านก็ชอบมิใช่หรือเจ้าคะ?”
“หนูๆจ๊ะ...มากินขนมกันเร้ว~~”
“เฮ!!!”
“วางทิ้งตรงนั้นไม่เอามาคืนด้วย!?...โอ๊ย~~...แข้งขาก็ไม่ค่อยจะดีเหมือนก่อน”
“ตาจ๋า~~...เดี๋ยวเรามาเล่นไล่จับกัน”
“มะ...ไม่เอา!!...ตาแก่แล้ววิ่งไม่ไหว”
“น่านะ!”
“พวกเจ้าแต่ล่ะคนวิ่งไวกันจะตายแล้วใครจะไปจับตัวได้?”
“ดื่มน้ำค่ะคุณพ่อ”
“เออขอบใจๆ...ลูกๆเจ้าแต่ล่ะคนทำไมถึงชอบมาคอยแหย่ข้าอยู่เรื่อยก็ไม่รู้?”
“นี่ยังนับว่าน้อย...พ่อคอยดูลูกฝนให้ดีๆน๊า~~...จะเลี้ยงให้เหมือนภาเลย”
“ตายๆๆ~~...ตอนหนุ่มวิ่งไล่จับลูกแต่พอแก่ตัวก็จะให้ตามไล่ขับหลานอีก!!!”
“ท่านพ่อยังดูหนุ่มแน่นหาได้ชราภาพแต่อย่างใดไม่เจ้าค่ะ”
“ใช่...เพิ่งจะหกสิบนิดๆเอง”
“ฮะๆๆ...อย่าเพิ่งรีบแก่เลยค่า~~”
“ก็ ตั้งแต่เจ้าพวกนี้โตขึ้นมานั่นแหละข้าถึงได้รู้สึกว่าตัวเองเริ่มแก่ แล้ว...ต้องเล่นกับคนโน้นคนนี้แทบทุกวัน...ซนยิ่งกว่ารุ่นพวกเจ้าซะอีก”
“อะไรคะคุณพ่อ?...ที่ซนน่ะยัยภาคนเดียวไม่ใช่เอ็มกับนีย์สักหน่อย!?”
“เออๆ...เมื่อ ก่อนน่ะคนเดียวก็ว่าแย่แล้วแต่นี่เล่นยกโขยงตั้งสี่ห้าคน...ข้าล่ะนับถือพวก เจ้าจริงๆว่าเลี้ยงลูกกันอีท่าไหนถึงได้ซนสุดขั้วแบบนี้?...จะมีก็เจ้าเอ้ กับเจ้าบอลมั้งที่เรียบร้อยหน่อย”
“ก็วิธีเดียวกับพ่อนั่นแหละ”
“ไม่จริงๆ...อู้!!...มาแล้วไง”
“ขอขี่หลังตาหน่อย”
“เอ้าๆๆ...ตาจะพาไปเที่ยว”
“อ๋อมขี้โกง!!”
“โกงอะไรกันพี่ม่อน?”
“ไม่ต้องเถียงกันๆ...ตาอุ้มทั้งคู่เลย”
“เย้!!!”
“ไหวหรือคะพ่อ?...ม่อนกับอ๋อมโตขึ้นกว่าเดิมเยอะนะ”
“รับปากแล้วจะไม่ทำได้ไงเสียชื่อข้าหมด...อึ๊บอู้หูย!?...ตัวหนักไม่เบานี่หว่า”
“ไปดูเขาตกปลาที่บึงกันนะเจ้าคะ”
“เอาสิ”
“เซคกับแคทไปด้วย!!!”
“โอ้โห!?...หมดเลยเรอะ?”
“แง~~”
“อุ๊ยลูกฝน!?”
“ขอประทานโทษค่ะ!!!...จู่ๆคุณหนูก็ตื่นนอนแล้วร้องให้ไม่หยุด...ป้าจะป้อนนมให้ก็ไม่ยอมกิน”
“ไม่มีอะไรให้ต้องขอโทษหรอก...โอ๋ๆแม่อยู่นี่แล้วจ้ะลูก...มีอะไรเหรอบอกแม่มาซิ?”
“ตา...ตา--”
“อ๋อ!!...จะตามคุณตาไปเที่ยว”
“ท่านพ่อเจ้าคะ!!...ได้โปรดกลับมารับหลานฝนด้วย”
“อ้าว!?...เมื่อกี้เห็นหลับอยู่”
“เราคงจะเสียงดังไปหน่อยน้องฝนเลยตื่น”
“มามะหลานตา!!...ไม่ต้องร้องๆ...ตาจะพาเจ้าไปด้วย”
“แอะ!!!”
“ขี้มูกขี้ตาไหลย้อยเต็มหน้าเลย...มานี่พี่เช็ดให้”
“ให้น้องนางหยาดฝนขึ้นขี่คอท่านตาก็แล้วกัน”
“อื้อ!!...ฝนยังเล็กมากเดินไกลไม่ไหว...เอ้กลับมาแล้ว!?”
“พอดีเลย...ไปเที่ยวที่บึงกับตาไหม?”
“ขอรับ!!!...ท่านตารอเอ้ด้วยขอรับ”
“เราก็ตามไปเหอะ...คุณพ่อคนเดียวรับมือหลานๆที่ไวปานวอกไม่ได้หรอก”
“ท่านพี่ศรมรกต”
“หือ?”
“จากคำทำนาย...ท่านพี่ศรมรกตจะให้กำเนิดบุตรสาวอีกคนมิใช่หรือเจ้าคะ?”
“ก็...น่าจะราวๆปีหน้าแหละอ๋อมจะได้มีน้องซะที...ฮิ!...ขานั้นเขาขอไว้ตั้งนานแล้ว”
“ไม่อยากน้อยหน้าหนูเซคกับลูกแคทว่างั้น?...โอ้โฮ!!...มีหวังทีนี้พ่อได้ผมร่วงหมดหัวแน่นอน”
“พี่ ยอมรับว่าในบรรดาลูกๆของเราทั้งหมดน่ะอ๋อมดื้อและก็ซนที่สุด...พี่ชัก สังหรณ์ว่าถ้าคนสุดท้องเกิดมาก็คงจะเลี้ยงยากกับเอาแต่ใจไม่น้อยกว่ากัน เพราะทุกคนจะรุมตามใจ”
“ท่านพ่อคงหาได้มีปัญหาแต่อย่างใดไม่เจ้าค่ะ”
“ใช่...เวลาโดนแหย่ก็บ่นอุบไปงั้นเองแต่เรื่องเห่อหลานยกให้เลย...รับรองไม่เป็นสองรองใคร”
“ภรณ์!!...ไปดูเขาตกปลากันมั้ย?”
“ไม่ไปค่ะ...ภรณ์จะอยู่ช่วยคุณแม่ทำอาหารเย็น”
“ว้า!!...ก็ไม่ใช่อะไรเผื่อจะได้ปลาสดๆมาทำกับข้าว...ช่างเถอะ”
“ที่จริงพี่เอ็มไม่น่าชวนเพราะถ้าพี่ภรณ์เห็นหน้าหลานมากๆเข้าแล้วจะพาลคิดถึงลูกชายตัวเองน่ะสิ”
“เช่นนั้นน้องจึงบอกลูกเอ้ให้ไปหารัญภรณ์ตราบเท่าที่มีโอกาสไงล่ะเจ้าคะ”
“เผื่อจะช่วยให้หายเหงาขึ้นมาได้บ้างรึ?...ก็เป็นความคิดที่ใช้ได้แต่ทางที่ดีที่สุดคือหลานบอลจะต้องอยู่ที่นี่”
“................................................”
......................................................................................................................................

“บ้านเพื่อนพ่อน่ะ...แวะสักเดี๋ยวก่อนกลับแต่ลูกอย่าบอกแม่นะว่าเรามาที่นี่”
“ทามไมเหรอ?”
“อ่า--...ลูกสัญญาสิว่าจะไม่บอกแม่เค้า...ถ้าทำตามที่บอกแล้วพ่อจะซื้อรถแข่งที่ลูกอยากได้นะ”
“คับ!”
“มาแล้วหรือคะ?”
“บอล...นี่...น้ากวางเพื่อนของพ่อ”
“หวัดดีคับ!!”
“แหมเพิ่งอายุแค่นี้แต่มารยาทดีจริงๆ~~...เข้ามาใกล้ๆน้าหน่อยซิ”
“..........................................”
“ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนคุณตอนเด็กๆแต่ผิดกันแค่สีผมเท่านั้น...กุน,สา...ไหว้ลุงภพสิจ๊ะ”
“โอ้โห!?...ไม่เจอแค่เดี๋ยวเดียวโตขึ้นมากเลยนะเนี่ย!!”
“และนี่ก็น้องบอล...รู้จักกันไว้”
“หวัดดีจ้ะ...พี่ชื่อกุน”
“ยี้!!”
“ทำไมลูกสาทำกิริยาแบบนั้นเล่า?...ไม่น่ารักเลยนะ”
“น่า--...เด็กก็อย่างนี้แหละ...แรกๆก็จะงอนจะอายหรอกแต่พอได้เล่นได้คุยเดี๋ยวสนิทกันไปเอง”
“อืม--...สากับบอล...แค่อ่อนเดือนกันสินะ?”
“ห๊ะ?”
“อ๊ะไม่!!...ไม่มีอะไรค่ะ...กวางแค่กำลังคิดว่าจะทำกับข้าวอะไรให้คุณกับลูกชายดี?”
“โอ๊ยไม่ต้องคิดมาก!!...พ่อลูกชอบเหมือนกัน”
“ค่ะ”
............................................................................................................................

...อดีตก็คืออดีต