หน้าเว็บ

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 55

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 55 “เสียงที่ล่องลอยมากับสายลม!?...ศาสตร์แห่งการหลอกลวง?”

...เนื้อเรื่องพิเศษก่อนงานเลี้ยงใหญ่...ช่วงเวลาเดียวกันกับที่แคทมาถึงโรงพยาบาล...

“หุงข้าวแล้วเรอะ?”
“จ้ะ”
“งั้นจะไปเก็บเห็ดมาปิ้ง...อุ๊!!”
“ให้ป้อมทำก็ได้...พี่อ๋อมนอนเถอะ”
“.............................................”
“ว่าแต่ใส่เสื้อผ้าซะหน่อยก็ดีนะเพราะตรงนี้มันติดถนน...คนผ่านไปมาก็จะเห็นชัดว่าพี่อ๋อมแก้ผ้าล่อนจ้อนนอนหงายเอกเขนก”
“ที่ไม่ใส่เสื้อผ้าก็เพราะจะได้ทาสมุนไพรง่ายๆไม่ต้องมัวถอดเข้าถอดออกส่วนใครอยากดูก็ช่างหัวแม่งมันเหอะ!!!”
“หาผ้ามาห่มก็ยังดีนิ?”
“ยาร้อนอยู่แล้วขืนห่มผ้าอีกยิ่งได้ร้อนตับแตกกันไปใหญ่...อูย~~...ฉันโดนหนักกว่าทุกที”
“น้านีย์ใจร้าย!...ลงโทษให้หนูไปกางแขนยืนขาเดียวบนคันนาตั้งเกือบชั่วโมง...คนนะไม่ใช่หุ่นไล่กา!!”
“มันเป็นเรื่องของป้อมกับพี่แต่ยัยพวกแอบจิตสี่คนดันเข้ามาเสือกและก็เป็นน้านีย์ที่เรียกเราไปรับโทษข้อหาก่อความวุ่นวาย!?...วุ้ย!!!...เวลาทะเลาะวิวาทมีใครเขาทำอย่างสงบเรียบร้อยกันเล่า?”
“เราจะทำยังไงต่อไปดี?”
“...ถึงแค้นใจขนาดไหนแต่ก็คงต้องละหนี้แค้นกับนังจุนไว้ชั่วคราว...เมื่อครู่แม่ส่งข่าวมาบอกว่าพรุ่งนี้บอลจะย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่และด้วยเงื่อนไขที่ป้อมขอให้ยายออกคำสั่ง...ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเรา”
“พี่ว่ายังไงหนูก็เห็นตามนั้นค่ะ”
“ถึงเวลาที่เราจะพบกันแล้วไอ้น้อง...หึๆ...คืนนี้เลยเป็นไง?”
“เอาจริงน่ะ!?”
“ก็รู้ๆอยู่ว่าพี่ไม่ใช่คนชอบพูดเล่น...จะเอาของฝากไปให้ด้วย”
“ของฝากอะไรคะ?”
“...ความบริสุทธิ์”
“กรี๊ด!!!”
“จะกรี๊ดทำไมเล่าเอ้อ!?”
“ก็หนูตื่นเต้นนิ!!...พี่อ๋อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะจับพี่ชายทำผัวแล้วรึ?”
“ทำผัวอะไรกันพูดน่าเกลียด?...ต้องบอกว่าพี่จะไปเป็นแม่ศรีเรือนของบอลต่างหากล่ะ”
“ฮืม--...แม่ศรีเรือนในความหมายของเจ้าสารรูปเป็นเช่นนั้นหรือ?”
“!!!”
“ว้าก!!!...น้า...น้านีย์~~”
“มะ...มาทำอะไร?...จะมาซ้อมฉันอีกแล้วใช่มั้ย?”
“..............................................”
..................................................................................................................................

...อีกด้านหนึ่ง...

“ท่าทางมีความสุขเสียจริงนะ?”
“!?”
“ผู้หญิงใจร้ายที่บังอาจตบหน้าคุณพี่เรอะ?”
“กับพวกไร้ยางอายชอบแย่งของๆคนอื่นฉันไม่จำเป็นต้องใจดีด้วย!!!”
...ซวยแล้วไง!!...ใครจะไปรู้ว่าพี่แคทดันผ่ามาที่นี่แล้วก็จังหวะเหมาะเหม็งที่บุศกับโบว์กำลังรุมจูบรุมกอดผมซะด้วยนะ...ถูกชกแน่ๆอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!!!...ทำไมเหตุการณ์มันถึงได้พอเหมาะพอเจาะซะเหลือเกิน?...ป้าเอ็มครับ ...เห็นทีผมคงต้องนอนโรงพยาบาลต่ออีกนานแล้วล่ะมั้ง!?...
(ทำไมคนที่มาไม่ใช่ฝนแต่เป็นยัยพี่จอมโหดวะเนี่ย!?)
“เป็นอะไรมากมั้ย?”
“?”
“ถอดเสื้อถอดผ้าทั้งที่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ...สงสัยประสาทส่วนรับความรู้สึกของพวกเธอคงจะบกพร่อง”
“เรื่องของผัวๆเมียๆ...พี่สุรีย์พรรณกรุณาอย่ายุ่งได้ไหมคะ?”
“จริงค่ะ...คนไม่มีแฟนจะมาเข้าใจอะไร?”
“ใช่ฉันไม่เข้าใจ...ฉันไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของพวกคนหน้าด้านที่ชอบแย่งแฟนชาวบ้านได้เลย”
“หนอย!!!”
“รู้เงื่อนไขของคุณยายฉันหรือยัง?”
“แล้วจะทำไมคะ?...ยังไงเราก็คือตัวเก็งเต็งจ๋า”
“หมายความว่าจะไม่ทำตามกติกา?...ได้--...งั้นฉันจะแจ้งให้คุณยายทราบเดี๋ยวนี้ว่าพวกเธอพี่น้องไม่ใช่ผู้ที่เหมาะสมจะเป็นหลานสะใภ้ของท่านแต่เป็นเพียงผู้หญิงสำส่อนมักง่ายที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวอ่อยเหยื่อผู้ชายไปทั่วจึงไม่สนใจจะเข้ารับการทดสอบจากทางตระกูล”
“อะไรนะ?”
“แค่สองปีกว่ามันคงไม่ถึงกับตายหรอกมั้ง?...รึถ้าทนไม่ได้พวกผู้ชายในบ้านเธอก็มีนี่?”
“สุรีย์พรรณ--...เธอจะดูหมิ่นฉันเกินไปแล้ว!!!”
“กล้าดียังไงถึงพูดจาให้ร้ายคุณพี่ๆไม่มีวันตาต่ำลงไปข้องแวะกับคนพวกนั้นหรอก!!!”
“ฉันก็แค่พูดเรื่อยเปื่อยเอง...บุศยา...ทำไมเธอถึงโกรธขนาดนั้นเล่าหากมันไม่ใช่เรื่องจริง?”
“.............................................”
“หากฉันพูดอะไรผิดก็ขอโทษล่ะกัน”
“.............................................”
“.............................................”
“กลับ”
“เอ๋?”
“บอกให้กลับก็กลับสิ!!”
“เดี๋ยว!”
“...มีอะไรจะสั่งสอนอีกมิทราบคะ?”
“เอาของๆเธอกลับไปด้วย...อย่ามาทิ้งไว้ให้เป็นราคีในห้องนี้”
“มันไม่จบเพียงเท่านี้หรอกค่ะพี่สุรีย์พรรณ...วันนี้คือทีของเธอแต่วันหน้าจะต้องเป็นทีของฉันบ้าง”
“...ฉันจะรอวันนั้น”
...พี่แคทก้มหยิบยกทรงโยนให้บุศส่วนโบว์รีบติดกระดุมเสื้อนักเรียนแล้วดึงกางเกงในขึ้นเหมือนเดิม...สองพี่น้องกลับไปด้วยใบหน้าโกรธเคืองเพราะถูกลูกพี่ลูกน้องของผมจวกยับเยินชนิดหมอไม่รับเย็บ...เฮ้ย!!...ไม่ต้องไปยุ่งกับคนอื่นห่วงตัวเองซะก่อนเถอะว่าจะโดนตั๊นหน้าด้วยหมัดฮุคหรืออับเปอร์...โหย~~... ยมทูตมาเยี่ยมถึงขอบเตียงแล้วโว้ย!!!...
“เธอนัดสองคนนั่น?”
“ไม่ใช่ครับ...พวกเธอมาเอง”
“...............................................”
“จะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจผมขี้เกียจอธิบายและนี่พี่ยังกล้ามาอีกเหรอ?”
“มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะไม่กล้า?”
“พี่มาทำไม?”
“มา...เพื่อดูผลงานของตัวเอง”
“ผะ...ผู้หญิงทุเรศ!!”
“ฉันยังทุเรศน้อยกว่าผู้ชายบ้ากามแถวๆนี้”
“กลับไป!!!”
“เห็นทีจะไม่ได้เพราะฝนฝากให้พี่มาคอยดูแลเธอ”
“ฮ้า!?...บะ...บ้าหรือเปล่า?...ยัยผีนั่นคิดอะไรของมันวะ?”
“หยุดปากเสียกับน้องสาวฉัน!!”
“น้องสาวเรอะ?...ฮ่าๆๆๆๆๆ...พี่เลือดขึ้นหน้าชกต่อยฝนซะล้มลุกคลุกคลานแล้วนี่ยังมีหน้ามาพูดว่าเป็นน้องสาว...เฮอะ!...อยากหัวเราะเป็นภาษาตุรกีว้อย!!!”
“ก็ไม่ได้อยากมาเห็นหน้าคนปากเสียอย่างเธอหรอก...”
“งั้นกลับไปเซ่!!”
“แต่พี่จะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าฝนจะกลับมา”
“ประสาท!!!”
...ขืนต่อปากต่อคำต่อไปมีหวังเส้นเลือดในสมองแตกแหงๆ...ผมตั้งใจจะออกไปนอกห้องแต่พี่แคทกลับมาขวางผมจึงจ้องหน้าหล่อนเขม็ง...
“หลีก!!”
“...........................................”
“ก็บอกให้หลีก...โอ๊ย!!”
“ถ้าจะไปก็ต้องให้พี่ไปด้วย...เข้าใจมั้ย?”
“เหตุผลบ้าบออะไรกัน?”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันได้รับมอบหมายให้มาคอยดูแลเธอทุกฝีก้าวฉะนั้นจะออกไปไหนก็ต้องบอกให้ฉันรู้”
“อุ๊บ!!”
“แล้วฉันจะพาไป...เอ้า!...นำทางสิ”
“บ้าเอ๊ย~~...ไม่ไปก็ได้วะ!!!”
...ผมกลับมานั่งที่เตียงตามเดิมด้วยความหัวเสียฝ่ายพี่แคทก็เดินมานั่งโซฟาข้างๆพลางหยิบขนมเปี๊ยะที่ผมเอามาให้ขึ้นมากิน...
“คนบ้าอะไรฟะ?...ทำร้ายเขาจนเข้าโรง’บาลแต่เสือกเอาของเขามากินหน้าตาเฉย”
“พี่ได้ยินบอลพูดคำว่าบ้าหลายครั้งแล้วนะ...ไม่รู้จักเบื่อหรือ?”
“..........................................”
“กินมั้ย?”
“ไม่!!...ผมจะนอน”
“ว่าง่ายๆซะตั้งแต่แรกก็หมดเรื่อง”
(พิลึกสุดเดช...วันก่อนจะ “ฆ่า” กันให้ตายอยู่เลยแต่วันนี้ดันมานั่งหัวโด่เฝ้าข้างเตียง)
“หันหน้ามามองพี่”
“หา?”
“เพราะถ้าตอนนี้เกิดพี่พกมีดอยู่บอลจะได้เห็นและคอยระวังตัว”
...นัง...นังปิศาจตาแดงผมยาวสุดเหี้ยมโหด!!!...นี่หล่อนกะจะทำให้ผมประสาทแดกจนได้ใช่มั้ย!?...อึ๋ย!!...เมื่อตอนบ่ายฝนนั่งหวอออกแต่พอตกเย็นพี่แคทก็เอามั่งเรอะ?...
(กางเกงในสีฟ้าที่เนื้อผ้าบางซะจนเห็นหมอยดำขลับ)
“............................................”
“?”
“............................................”
“มองอะไร?...เดี๋ยวก็ต่อยตาเขียวหรอก!!”
“ปละ...เปล่ามอง!!!”
“ลามก!!”
(ก็นั่งแยกขาเองนี่หว่า!!...ถ้าไขว่ห้างซะก็ไม่มีใครเห็น)
...พี่แคทกินขนมเปี๊ยะหมดไปสองชิ้นฝนก็มาถึง...ค่อยใจชื้นขึ้นหน่อยเพราะผมยังระแวงพี่สาวของเธอไม่หายให้ตายสิ...
“โฮ่~~...นึกว่าจะตีกันหัวร้างข้างแตกไปเรียบร้อยแล้ว?”
“ฝน...เธอใจร้ายมากนะ”
“เค้าใจร้ายกับตัวเองยังไงอ่ะ?”
“ก็ที่ไหว้วานให้...นางมารร้ายนี่มาเฝ้าฉันไง!”
“ยังไม่เลิกหาเรื่องฉันอีกรึ?”
“เอาสิ!!...ถ้าปล่อยให้หญิงบ้าพลังอารมณ์ร้ายบุกมาฆ่าผู้ป่วยถึงในห้องพิเศษที่นี่ก็ไม่ใช่โรงพยาบาลแล้ว”
“น่าๆๆๆ...ทั้งคู่ใจเย็นๆและมาปรับความเข้าใจกันดีกว่า”
“ที่พี่มาไม่ได้เพื่อจะขอโทษแต่เพราะฝนขอร้อง”
“ผมก็ไม่ได้ต้องการ...อย่าสำคัญตัวผิดนักเลย”
“เจ้าเด็กปากกล้านี่!!”
“เออแล้วจะทำไม?...แม่สาวอันธพาล!!”
“หวาๆๆ...ใจเย็นก่อนทั้งสองคน...ฝนลำบากใจนะ”
“..................................................”
“..................................................”
“ฝน...ลำบากน้องจริงๆนะที่มาดูแลนายคนเอาแต่ใจนี่”
“ผมเอาแต่ใจยังไงมิทราบครับ?”
“เดี๋ยวจะเอาคนโน้นเดี๋ยวจะเอาคนนี้ยังบอกว่าไม่ใช่เรอะ?”
“เพราะฝนพูดจาภาษาคนรู้เรื่องกว่าพี่ไง”
“..................................................”
“เจ๊อย่าถือสาบอลเลยนะจ๊ะ...เขาอารมณ์ไม่ค่อยดีมาตั้งแต่บ่ายแล้ว”
“จะกลับล่ะ”
“ไปแล้วเรอะ?”
“อยู่ต่อต้องได้ชกหน้าคนปากเสียแน่”
“ฮึ!!...อย่านึกว่าคนอื่นไม่มีมือมีตีน”
...พี่แคทกำลังจะเปิดประตูพอได้ยินประโยคนี้เข้าก็หันขวับแต่แค่มองผมด้วยหางตาส่วนฝนคงเห็นท่าไม่ดีรีบดันร่างพี่สาวให้ออกไปจากห้อง...
.............................................................................................................................

“ยับยั้งอารมณ์หน่อย...ถึงตอนนี้ตะวันเลือดก็ยังไม่ได้ลาลับขอบฟ้าจนมืดมิดซะทั้งหมด...เข้าใจนะบอล?”
“เออ!!...ยังไงหลังจากย้ายไปอยู่บ้านที่ป้าเอ็มซื้อให้ก็ไม่ได้เจอหน้ากันบ่อยๆอีกแล้วน่ะ”
“มั่นใจรึ?”
“?”
“จะไปไหนจ๊ะ?”
“เดินเล่นแถวๆนี้...เธอก็จะห้ามฉันด้วยเรอะ?”
“ฝนไม่เหมือนเจ๊เค้าสักหน่อยนะ...อยากไปก็ไปเถอะ”
...อยู่กับน้องสาวสบายใจกว่าอยู่กับพี่สาวจริงๆด้วยเพราะอย่างน้อยฝนก็ไม่เข้มงวดจู้จี้เหมือนพี่แคท...
“อื้ม!!...ลมเย็นจริงๆ”
“..........................................”
“เข้าหน้าหนาวเต็มตัวแล้วสินะ?...อีกไม่นานก็จะสิ้นปีแต่ยังมีอะไรให้ทำอีกตั้งเยอะแยะ”
(“ผิดแล้ว!!!...คุณตาไม่ใช่ฆาตกรแต่มันเป็นอุบัติเหตุ...กลับบ้านเกิดสิแล้วจะมีคนบอกนายเอง”
“ใคร?”
“พยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดในวันนั้น...เขารับปากกับป้าเอ็มแล้วว่าจะเล่าทุกอย่างให้นายรู้และจะช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ให้คุณตากับคุณยายด้วย”
“เขา...เขาเป็นใครกัน?”
“อดีตคนใช้ในบ้านจ้ะ...อายุ 70 กว่าแล้วแต่ยังจดจำเหตุการณ์ได้...เขาไปอยู่ระนองหลายสิบปีแต่สิ้นปีนี้จะมาร่วมงานเลี้ยงที่โยนกบูรพา...พ่อบอลต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้เลย”
“โอกาสนี้เปรียบดังกุญแจที่จะเปิดหีบแห่งความจริงเมื่อเกือบสิบปีก่อน...มันจะช่วยขจัดความคลาดเคลื่อนและความระแวงสงสัยในใจของบอลนะ”)
“หมายความว่าหากอยากจะรู้ความจริงก็คงมีแต่ต้องกลับไปเท่านั้น...ก็ได้!!...เราจะกลับ”
“ตัดสินใจ...แล้วหรือ?”
“!?”
“..............................................”
“เมื่อกี้เหมือนได้ยินเสียงใครพูดนะ?”
“..............................................”
“รึเราจะหูฝาด?...ลมมันก็พัดแรงด้วย”
“..............................................”
“กลับห้องดีกว่า”
“...เช่นนั้นเจ้าก็จะได้พบกับความจริงที่น่าเจ็บปวด”
“นะ...นั่นใครพูดน่ะ!?”
“..............................................”
“ฉันถามว่าใคร?”
“..............................................”
“อยู่ไหน?...ออกมาเซ่!!!”
“หากอยากทราบว่าเราคือใครก็จงกลับไปโยนกจัตุรัส...”
(ได้ยินแต่เสียงไม่เห็นตัวกับเป็นใครก็ไม่รู้แต่มั่นใจว่าเป็นเสียงของผู้หญิงแน่นอน!?)
“แล้วพวกเราจะได้พบกัน...หึๆๆๆ”
...ต่อจากนั้นเสียงหัวเราะก็ค่อยๆจางหายไปกับสายลม...ผมสุดจะเป็นงงระคนหวาดกลัวเพราะที่นี่เป็นลานกว้างมีแต่ม้านั่งกับกระถางต้นไม้เตี้ยๆไม่มีที่ให้ซ่อนตัวเลยแล้วเจ้าคนปริศนานี่มันจะหลบอยู่ตรงไหนได้?...
“ขนยังลุกอยู่เลยเนี่ย!!!...ตะวันยังไม่ทันจะลับขอบฟ้าหมดดวงแท้ๆ...เสียงที่ล่องลอยมาตามสายลมนั่นตกลงมันคนหรือ...ผีฟะ?”
“ไม่!!...ไม่ใช่ผีแน่ๆ”
“พูดอย่างกะเธอรู้ว่าเป็นใคร?”
“ก็รู้น่ะสิ...แฮ่ม!!”
“คะ...ใครเหรอ?”
“อืม--...คงบอกไม่ได้”
“ทำไมเล่า?”
“เพราะเธอคนนั้นพูดไว้ว่าถ้าบอลอยากรู้ก็ให้กลับไปโยนกจัตุรัสใช่ไหมล่า?”
“อือ--”
“งั้นก็หมายความว่าฝนจะบอกออกมาตอนนี้ไม่ได้”
“รอให้ฉันรู้เองว่างั้นเหอะ?”
“แม่นแย้ว~~”
“ให้มันได้อย่างนี้ซี่!”
...แม้ยังไม่รู้ว่าเธอผู้นี้ชื่ออะไรกับหน้าตาเป็นยังไงแต่แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งว่าหล่อนคือ “หนึ่ง” ในบรรดาลูกพี่ลูกน้องของผมอย่างไม่ต้องสงสัย...
“อีกไม่นานเกินรอบอลจะต้องได้พบกับเธอแน่”
“เฮ่ย!...แล้วนั่นจะทำอะไรน่ะ?”
“อาบน้ำไง”
“ที่นี่เนี่ยนะ?”
“อื้อ!!...กลับไปบ้านจะได้ไม่ต้องอาบ...ยืมผ้าเช็ดตัวหน่อย”
“มีผืนเดียวนะ”
“นั่นแหละๆ”
“เฮ้ย!!!...ทะ...ทำอะไรแบบนั้นล่ะเธอ?”
“ทำไมอ่ะ?...ไม่อยากดูเหรอ?”
“เธอนี่มัน...”
“แค่บอกมาคำเดียวเค้ายินดีจะเปิดนมเปิดจิ๋มให้ตัวเองดู”
“อะ...อะ”
“ว่าไงๆ?...เร็วสิ!!...จะถอดกางเกงในแล้วนะ?”
“...............................................”
“แหม~~...ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองหน่อยซี่!!”
...พูดจบฝนก็เลิกชายผ้าเช็ดตัวขึ้นจนเห็นบั้นท้ายขาวผ่องที่งอนได้รูปพลางส่งจูบให้ผมๆนั่งตัว(ควย)แข็งทื่อไม่กล้าขยับ...กล้าทำถึงขนาดนี้เชียวหรือ?...
“เมื่อไหร่จะช่วยให้เค้าเป็นของตัวเองซะทีล่ะ?”
“เอ่อ...เอ่อคือ...”
“...............................................”
“...............................................”
“พอก่อนดีกว่า...บอลจะได้เห็นอะไรๆมากกว่านี้อีกนะถ้าสัญญาว่าจะให้ฝนไปอยู่ด้วย”
“บ้านหลังใหม่น่ะหรือ?”
“อย่างน้อยมีฝนไปอยู่...บอลก็จะไม่เดือดร้อนเรื่องคนทำอาหาร”
“ฉันก็พอทำได้หรอกน่า--”
“ผู้ชายก็พูดงี้แทบทุกคน...ลับหลังก็พึ่งแต่พวกบะหมี่สำเร็จรูป”
“ตะ...ต้องให้คุณป้าอนุญาตซะก่อน”
“อย่างตัวเองแค่พูดคำเดียวรับรองฉลุย...ลองไปคุยกับป้าเอ็มดูนะ”
“เธอไม่อยากอยู่บ้านหลังนั้นแล้วเหรอ?”
“บ้านที่จะไม่มีบอลอยู่แบบนั้น...บอกตามตรงว่าเค้าไม่ชอบใจเลย”
“และพี่แคทก็คงไม่อนุญาตด้วย”
“สำหรับฝนน่ะเจ๊ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก”
...ฝนผลัดผ้าเสร็จก็เดินร้องเพลงเข้าห้องน้ำไปส่วนผมเปิดทีวีดูข่าวดูละครด้วยจิตใจที่ว้าวุ่นเพราะบั้นท้ายอันขาวอวบกลมกลึงของเด็กสาววัย 18 มันลอยเด่นมาอยู่ตรงหน้าตลอด...
(แม่นี่นับวันชักจะรุกหนักขึ้นทุกทีๆแล้ว...ปัญหาคือตัวเรานั่นแหละจะอดทนอดกลั้นไปได้จนถึงเมื่อไหร่?...อยากไปอยู่ด้วยงั้นรึ?...หากเป็นอย่างนั้นจริงรับรองว่าไม่ถึงเดือนตบะเราแตกแน่ !!!!)
“ขออนุญาตค่ะ”
“ครับ?”
(แม่บ้านมาทำสะอาดอะไรเวลาป่านนี้เนี่ย!?)
“ไม่มีญาติอยู่เฝ้าหรือคะ?”
“น้องผมอาบน้ำอยู่”
“...........................................”
“เอ่อ--...มาใหม่เหรอครับ?”
“ฉันเพิ่งมาทำงานวันแรกค่ะ”
...แม่บ้านทำความสะอาดประจำชั้น 5 ที่เข้ามาปัดกวาดเช็ดถูในห้องของผมเป็นประจำทุกวันคือคุณป้าวัยกลางคนแต่คุณแม่บ้านคนนี้ยังดูสาวอยู่เลย...เอ๊ะแล้วไหงเธอถึงจับด้ามไม้กวาดแปลกๆอย่างนั้น?...
“นี่คุณ...”
“?”
“ไม่ใช่แปรงปัดนะครับ...ทำไมจับด้ามซะเกือบถึงโคน?...เวลากวาดมันจะปวดหลังน่ะ”
“...ฉันถนัดแบบนี้...”
“...........................................”
“...........................................”
(เก้ๆกังๆเหมือนคนไม่เคยจับไม้กวาดมาก่อน?...ผ่านสัมภาษณ์เข้ามาทำงานเป็นแม่บ้านได้ยังไงหว่า!?)
“ใครมาเหรอ?”
“แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดน่ะ”
“อ๋อ~~”
“นายท่านคะศิซื้อซาลาเปากับน้ำผลไม้มาให้...คุณหยาดฝนยังไม่กลับหรือค่ะ?”
“ขอบใจนะกำลังหิวพอดี...ฝนเขาอาบน้ำอยู่แต่เดี๋ยวก็กลับแล้ว”
“งั้นศิจะวางไว้...อ๊ะ!”
“..........................................”
“...คุณ?”
“?”
“ฉันเป็นแม่บ้านคนใหม่เพิ่งจะมาทำงานวันแรกค่ะ”
“อะ...เอ่อ--”
“มีอะไรเหรอ?”
“ไม่...ไม่มีอะไรค่ะ!!...ศิขอตัวก่อนนะคะนายท่าน”
(ทำไมศิทำกิริยาแปลกๆ!?)
“...............................................”
“...............................................”
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกับคุณหรือคะ?”
“?”
“ต้องขออภัยด้วยค่ะที่ละลาบละล้วงคือฉันได้ยินเธอเรียกคุณว่านายท่าน”
“อ่า--...ไม่เป็นไรครับ...เธอเป็นเพื่อนของผมเอง”
“เพื่อน...แต่ดูจะให้ความเคารพคุณมากเลยนะคะ?”
“...จะว่างั้นก็ได้ครับ...ที่จริงผมไม่ชอบให้พวกเค้าทำอย่างนั้นหรอก”
“ทำไมหรือ?”
“เพราะผมไม่ใช่ผู้มากลาภดีมาจากไหน...เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ต้องการมีอภิสิทธิ์เหนือใคร”
“..............................................”
“ผมจึงไม่ถนัดที่จะมีคนอื่นมาห้อมล้อมคอยปรนนิบัติเอาอกเอาใจ”
“คุณไม่มีความสุขใช่มั้ย?”
“หา?”
“...คุณไม่สบายใจกับสถานภาพของตัวเองในเวลานี้...คุณวางตัวไม่ถูกและกำลังสับสน”
“ถูกต้องเลยครับ”
“..............................................”
“ผมรู้ว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่...”
“หึ!...คุณนี่แปลกคนนะคะ”
“อะไรนะครับ?”
“คุณคือทายาทของตระกูลที่ร่ำรวยด้วยทรัพย์สินเงินทองและชื่อเสียง...มีผู้คนอีกนับหมื่นนับแสนที่อยากจะมายืนอยู่ตรงจุดที่คุณยืนอยู่...คุณไม่ดีใจหรอกหรือคะ?”
“จะดีใจได้อย่างไรครับในเมื่อมันไม่ได้เกิดจากความพยายามของผม?”
“.............................................”
“ว่าแต่...คุณแม่บ้านรู้ได้ไงว่าผมเป็น?...”
“ฉัน...ได้ยินพวกพยาบาลพูดถึงคุณ”
“พูดถึงผม?”
“ก็คุณมีนามสกุลเดียวกับผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลแห่งนี้...ท่านเอกบดินทร์ วิษณุมนตรีคือ...”
“ปู่ของผม”
“...จริงสินะ...ฉันเห็นป้ายชื่อหน้าห้องก็ยังอดสงสัยไม่ได้”
“แต่ผมไม่เคยพบกับปู่มานานมากแล้ว...ที่มาอยู่นี่ก็เพราะคุณป้าพามา...ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโรงพยาบาลนี้เป็นของใคร”
“...............................................”
“ผมโตมาพร้อมกับเสียงดูถูกเย้ยหยัน...ต้องขวนขวายหาด้วยตัวเองถึงจะมีกินมีใช้ดังนั้นผมจึงไม่เข้าใจความรู้สึกของพวกที่นอนเสพสุขบนกองเงินกองทองหรอกครับ”
(เปรี๊ยะ!!)
“อะ...อะไรน่ะ!?”
“...............................................”
(มันชักจะมีอะไรแปลกๆแล้วสิ!?)
“เอ้อ!!...ผมบ่นอะไรไปเรื่อยก็ไม่รู้นะเนี่ย...เสียเวลาคุณแม่บ้านหมด”
“...ไม่เป็นไรค่ะ”
..........................................................................................................................................

“...............................................”
“กรุณาหยุดก่อนค่ะ!!”
“...............................................”
“คุณหนูรอง”
“...มีอะไร?”
“คุณหนูรอง...จะทำอะไรนายท่านกันแน่คะถึงได้ปลอมตัวเป็นคนทำสะอาด?”
“พวกเจ้าเรียกเอกคเชนทร์ว่านายท่านได้เต็มปากเต็มคำเชียวนะ?...ได้ยินดังนี้แล้วเรามิประหลาดใจเลยที่ท่านพี่สุรีย์พรรณโกรธเกรี้ยวมากขนาดนั้น”
“...............................................”
“คุณแม่บ้านขยันจัง...มืดค่ำแล้วยังอยู่ทำความสะอาดอีก”
“เดินสำรวจความเรียบร้อยน่ะค่ะ”
“..........................................”
“..........................................”
“กลับมาถึงก็หาเรื่องสนุกทำเลยนะจ๊ะ...พี่ม่อน”
“คะ?”
“ศิกลับห้องไป...ที่นี่ให้เป็นหน้าที่ฉัน”
“เข้า...เข้าใจแล้วค่ะ”
“กลิ่นเอื้องสายหลวงหอมติดจมูกอย่างนั้น...จะหลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่ฝนนะคะขอบอก”
“..........................................”
“..........................................”
“สมกับเป็นน้องนางหยาดฝน...ไหมมือตกหรือเปล่านะ?”
“ไม่ว่าใครที่รู้จักพี่ดีก็ต้องรู้ทั้งนั้นแหละค่ะแต่โดยรวมพี่ก็ปลอมตัวแนบเนียนมากแบบว่าไม่เห็นใกล้ๆไม่มีทางจับได้แน่...ถ้าเป็นศัตรูกันล่ะก็กลัวตายชัก...พี่ม่อนยังไม่กลับบ้านเหรอ?”
“คืนนี้พี่จะค้างที่นี่”
“อยู่เป็นเพื่อนพี่เซค?”
“จ้ะ”
“ได้...เจอกับบอลแล้วใช่หรือเปล่าคะ?”
“ก็...เพิ่งพบมาเมื่อสักครู่นี้...ช่วงที่น้องนางหยาดฝนอาบน้ำอยู่นั่นล่ะ”
“เออะ!...ไม่...ไม่ใช่ว่าพี่ทำอะไรแปลกๆกับเขาไปแล้วนะอย่างเช่น...สะกดจิตหรือสร้างภาพหลอน...”
“มิได้ๆ...พี่หาได้มีความคิดจะกระทำเช่นนั้นไม่”
“โอ้!!...ค่อยยังชั่วหน่อย”
“.............................................”
“แล้ว...ในความคิดของพี่ม่อนเห็นบอลเป็นยังไง?”
“คงจะมิอาจกล่าวอะไรได้มากมายนักแต่...”
“?”
“...หากมิใช่คนเจ้าชู้มากรักแล้วไซร้เอกคเชนทร์ก็นับเป็นบุรุษที่ใช้ได้ผู้หนึ่ง”
“เห็นมั้ยคะๆ”
“แต่ถึงกระนั้นพี่ก็มิยอมรับเขาดอกเพราะพฤติกรรมอันเลวร้ายที่กระทำต่อสตรีเพศ...ชื่อเสียของเขาเลื่องลือไปทั่วโยนกจัตุรัสแลตำบลข้างเคียง...น้องนางหยาดฝนเอย...ผลตอบแทนที่ชายผู้นั้นจะได้รับกลับคืนย่อมหนีมิพ้นเสียงก่นด่าสาปแช่งเป็นแม่นมั่น”
“.............................................”
....................................................................................................................................

“พวกนายคิดว่าที่ฉันพูดน่ะถูกมั้ย?”
“ไม่ผิดครับ”
“เป็นบุตรสาวของนายหญิงจริงๆค่ะ”
“ไม่ว่าถามยังไงฝนก็ไม่ยอมบอกแต่ให้ฉันรู้ด้วยตัวเอง”
“..............................................”
“แต่มันสงสัยจนนอนไม่หลับเลย...อย่างน้อยรู้ชื่อก็ยังดี...ฉันจึงรอให้ฝนกลับไปก่อนแล้วมาถามพวกนายถึงห้องนี่ไง”
“คงไม่ผิดนะพี่เศกถ้าเราจะบอกนายท่าน?”
“ไม่มั้ง?...ก็คุณหนูรองไม่เคยสั่งห้ามนี่”
“คุณหนูรอง?”
“ค่ะ...พวกเรามั่นใจว่าเสียงผู้หญิงที่นายท่านได้ยินต้องเป็นของคุณศรมุกดา”
“ศร...มุกดา”
“บุตรสาวคนที่สองของนายหญิง...อายุ 21 เรียนชั้นปีสามที่มหาวิทยาลัยนี้แหละครับ”
“...พี่ฉันงั้นเหรอ?”
“เธอเป็นคนสวยมากค่ะ...นายหญิงภูมิใจสุดๆเลยแถมชอบคุยอวดกับคุณอรนิภาได้อย่างไม่น้อยหน้า”
“?”
“แต่ถึงจะงามหยดย้อยขนาดไหนคุณม่อนก็เป็นคนที่น่ากลัว”
“ม่อน...ชื่อเล่นรึ?”
“ค่ะ...ม่อนในทีนี้หมายถึงเนินสูงๆในภาษาเหนือ”
“แล้วที่ว่าเป็นคนน่ากลัวน่ะมันยังไงกัน?”
“เพราะเธอมักจะมีพฤติกรรมแปลกๆและชอบทำตัวลึกลับน่ะครับนายท่าน”
“พฤติกรรมแปลกๆ!?...ทำตัวลึกลับ!?”
“หากให้พูดไปมากกว่านี้บางทีวันหน้าเราสามคนอาจจะเคราะห์ร้ายเข้าก็ได้”
“งั้นไม่ต้องขยายความ...ฉันก็ไม่ให้พวกนายลำบากใจ”
“ขอบคุณนายท่านมากครับ”
“แต่ถ้าเป็นพวกนิสัยใจคอทั่วๆไปก็พอจะบอกได้ค่ะอย่างเช่นคุณศรมุกดาจะถูกอัธยาศัยกับคุณสุรีย์พรรณเป็นพิเศษ”
“พี่แคทน่ะเหรอ?”
“เพราะเป็นคนไม่ค่อยพูดและชอบอยู่ตามลำพังเหมือนกันไงครับ”
“.................................................”
........................................................................................................

(“คนนิสัยคล้ายๆกันจึงเข้ากันได้ดีสินะ”
“ใช่ค่ะ”
“อ้อ!!...อีกอย่างที่พอจะบอกได้คือคุณม่อนมีความสามารถในการแปลงโฉมครับ”
“แปลงโฉมอะไร?”
“ปลอมตัวเป็นคนอื่นไงครับ...ทั้งแก่ทั้งรุ่น”
“ทำอย่างนั้นมันสนุกหรือไง?...ในละครที่ฉันเคยดูเมื่อก่อนมันบอกว่าการแปลงโฉมคือศาสตร์แห่งการหลอกลวงคนอื่น?”
“จะเรียกว่างานอดิเรกก็ได้ค่ะ”
“งานอดิเรก?...พิลึกเอาการเลยนะพี่สาวฉันคนนี้...เรียนจบจะไปสมัครเป็นสปายเรอะ?”
“นายท่านจำแม่บ้านคนเมื่อช่วงหัวค่ำได้ไหมคะ?”
“อย่า...อย่าบอกนะ!?...ว่านั่นคือ...”
“................................................”
“ถูกแล้วค่ะ...คุณม่อนปลอมตัวมา”
“มิน่าเล่าถึงได้พูดอะไรแปลกๆ?...กวาดพื้นก็ไม่เอาไหนด้วย!!”
“ครั้งนี้ยัยศิจับได้แต่ครั้งหน้าไม่แน่...คุณหนูรองจะปลอมตัวเป็นอะไรอีกก็ไม่รู้เพื่อมาสังเกตท่าทีของนายท่าน”
“ฉันน่ะรึ?”
“ไม่แน่ว่าคืนนี้หรือพรุ่งนี้ก่อนนายท่านออกจากโรงพยาบาล...เธออาจจะปรากฏตัวอีกครั้ง”
“ก็เอาสิ!!...อยากรู้เหมือนกันว่าจะมาไม้ไหนอีก?”)
...กลางดึกคืนนั้นหลังจากหมอมาตรวจแล้วยืนยันว่าเที่ยงพรุ่งนี้ให้กลับบ้านได้ผมก็นอนหลับไปและลืมตาตื่นอีกทีก็ตอนตีสามกว่าเพราะรู้สึกเหมือนมีใครบางคนเข้ามาในห้องแล้วทันใดนั้นก็มีวัตถุบางอย่างจ่อที่คาง...
“เฮ้ย!!?”
“อย่าส่งเสียง...อย่าขยับ”
.....................................................................................................................................

...อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อตอนหน้านายบอลของเราถูกข่มขืน!!!?...ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง...

...ตอนที่แล้ว Kat Sidestory 3 ...
...ตอนต่อไป ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 56

8 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณอย่างสูง ติดตามทุกตอน ต้องกดเข้ามาดูทุกวัน ตอนหน้าพระเอก โดนใครข่มขืนหว่า เดาว่า ฝน ไม่ก็ อ๋อม แหงๆ ถ้าเป็นม่อน หรือเซค นี่คงหักมุมมากๆ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากครับ สนุกทุกตอนเลยรอบนี้มาใวนะเนี้ย เตรียมทำใจรออ่านเดือนแล้วนะเนี่ย
    จะติดตามให้กำลังใจเสมอครับ ตอนหน้าขอให้ เป็น ฝน นะ โอม เพี้ยง!!!!

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันครับ

    ตอบลบ
  4. สนุกมากๆเลยครับรอติดตามต่อไปอยู่นะครับว่าใครเป็นคนจับกดกันแน่นะ

    เป็นกำลังใจให้นะครับ

    ตอบลบ
  5. ขอให้เป็นอ๋อม โอมเพี้ยง!!!!

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณคร้าบ ไม่ได้แวะเข้ามานาน ยังติดตามเสมอคร้าบผ้มม

    ตอบลบ