หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 65



ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 65 “สิบปีที่จาก...พี่สาวคนที่สี่!?

...ยิ่งใกล้จะถึงเวลากลับบ้านเกิดผมก็ยิ่งตื่นเต้นพาลให้หลับๆตื่นๆเกือบตลอดคืน...ขณะที่นอนพลิกไปพลิกมาหูก็ได้ยินเสียงน้ำดังจากข้างล่าง...
“............................................”
“ป้าเอ็ม?”
“ตาหนูตื่นไวจัง”
“ผมได้ยินเสียงน้ำเลยลงมาดู...ป้าอาบน้ำทำไมล่ะครับอากาศออกจะหนาว?”
“นอนเบียดกันสามคนก็เลยรู้สึกร้อนจ้ะ”
...จริงด้วย...อาสนกับอานิภานอนที่ห้องป้าเอ็มและต้องใช้เตียงเดียวกัน...ผมพอจะนึกภาพออก...
(อาสนนอนริมและอานิภาอยู่ตรงกลางอีกฝั่งก็ป้าเอ็ม)
“แต่สองคนนั่นทำอะไรไม่เกรงใจป้าซะบ้าง”
“ทำไมครับ?”
“ก็ไม่รู้นึกคึกอะไรขึ้นมา...เอากันข้างๆป้าเลยน่ะสิ”
“ฮ้า!!!
(ตาสว่างเลยเรา...อาสนกับอานิภาเนี่ยนะ?)
“ไม่รู้จักเห็นใจกันมั่ง...ป้ายิ่งเหงาๆอยู่”
“เอ--...ผมว่าที่ป้ามาอาบน้ำนี่ไม่ใช่เพราะเหนียวตัวหรอก...ร้อนรุ่มในใจมากกว่า”
“ทำเป็นรู้ดีเหรอ?...แต่มันก็...ใช่น่ะนะ”
“งั้น...ให้ผมช่วยสิครับ”
“อ๋าไม่ได้ๆ...เดี๋ยวคนอื่นก็รู้หรอก”
“เฮ้อ!!
“อดใจรอให้ไปที่นั้นก่อนแล้วป้าจะพาพ่อบอลเข้าห้องลับ”
“จริงเหรอครับ?”
“ในห้องนั้นเราจะได้มีความสุขกันอย่างเต็มที่โดยไม่มีใครมารบกวน...เข้าใจไหมจ๊ะ?”
...ผมรีบพยักหน้ารับข้อเสนอของคุณป้าคนสวยทันที...ห้องลับที่ว่าเคยเห็นจากในวีดีโอแล้วทีนี้ก็จะได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียน...ใครปฏิเสธก็โง่ละ!!!...
“ต้องสนุกสุดยอดแน่ๆ...หือ?”
“สนุกอะไรของเธอ?”
“เปล่า...ผมพูดลอยๆคนเดียว”
“หึ!...ใครไม่รู้จะหาว่าเธอบ้า”
“ช่างผมเถอะครับ...ว่าแต่พี่...”
“พี่ก็จะไปซ้อมดาบไง”
“...ผมรู้ว่าทุกเช้าพี่แคทจะ...อื้อหือ--...”
...ผมไม่มีปัญหาใดๆหรอกถ้าพี่แคทไม่ได้ตื่นนอนมาซ้อมดาบ(ไม้)ในสภาพนุ่งชุดนอนซีทรูบางเบาลายลูกไม้สีน้ำเงินอันวาบหวิว...อา--...ท่อนบนเห็นจุกสองเม็ดจิ๋วท่อนล่างเห็นขนในที่ลับดำขลับซึ่งก็ถูกปิดบังด้วยชิ้นผ้ารูปสามเหลี่ยมหัวกลับสีขาวผืนจ้อย...นี่ถ้าไม่เกรงใจอาวุธยาวในมือขวากับศักดิ์ศรีของญาติสาวผู้พี่...ผมคงจะ...ผมคงจะปรี่เข้าอุ้มพี่สาวพาเข้าห้องนอนตัวเองอย่างแน่นอน...
(ทว่าแต่งตัวอย่างนี้ซ้อมดาบทุกเช้า...คุณเธอช่างกล้านัก)
“กลืนน้ำลายลงไปกี่เอื๊ยกแล้วล่ะ?”
“...อยากตามไปดูพี่ซ้อมดาบจัง”
“คงจะไม่น่าสนุกเท่าเมื่อกี้หรอกน่ะ...เธอคุยอะไรกับคุณป้าหรือ?”
“ก็ไม่ได้คุยอะไรมากนี่ครับ”
“คุณป้ายังดูสวยมากเลยนะ...บอลเห็นด้วยมั้ย?”
(การจับผิดเริ่มอีกแล้วไง!?)
“หากพี่เป็นผู้ชายรูปหล่อกับป้อยอคำหวานเก่งและมีผู้หญิงสวยๆนุ่งกระโจมอกมาอยู่ต่อหน้า...คงยากที่จะไม่คิดอะไรหรือปล่อยให้เธอคนนั้นผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
(จงใจพูดกระทบเราด้วยมั้งนี่?)
“.............................................”
“...จะไปซ้อมดาบ”
“เดี๋ยวครับ”
“ครั้งก่อนอุ้มครั้งนี้ดึงแขน...ครั้งหน้าเธอจะทำอะไรอีก?”
...แล้วถ้าเกิดมีหญิงสาวนุ่งชุดชั้นในวาบหวามมายืนอยู่ตรงหน้า...จะให้ผมยอมปล่อยหล่อนไปเฉยๆล่ะก็...เมินซะเถอะ!!...ใช่...ผมตอบพี่แคทไปอย่างนี้...
“ก็บอกพี่มาให้หมดสิแล้วเธอจะได้สมหวัง”
“แต่ผมเชื่อว่าพี่ไม่กล้าครับ”
“บอลรู้ใจพี่เรอะ?...ไม่ต้องห่วงว่าพี่จะกลับคำพูดและไม่ตำหนิบอลด้วย”
“ตำหนิผม?”
“ว่าที่ยอมเปิดปากบอกก็เพราะอยากล่อหีพี่จนควยสั่น”
...ประโยคสุดท้ายญาติสาวผู้พี่ที่กระซิบข้างหู...เล่นเอาผมขนลุกซู่ทีเดียวเชียว...
“อย่างไรเสียก็ควรจะรู้และจำไว้ให้ดีเพราะต่อไปพี่จะไม่พูดซ้ำอีก...พี่กุนคือคนที่พี่นับถือ...ไม่ใช่เธอขอพี่ก็ไม่ทำ”
“ไม่ชอบไม่เต็มใจก็บอกปัดสิ”
เธอนึกว่าฉันสามารถทำตามอำเภอใจตัวเองได้อย่างงั้นหรือ?...ถ้าพี่กุนไม่ขอร้องมันก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น
พี่มีสิทธิ์เต็มที่อยู่แล้วที่จะปฏิเสธแต่เพราะอะไรถึงตอบตกลงครับ?”
นั่นสิมันเป็นเพราะอะไรนะ?...เธอกับฉันจะลองมาช่วยค้นหาคำตอบนี้ด้วยกันไหม?”
“ค้นหาด้วยกัน?”
“เพื่ออยากลองดี...เพื่อแก้เหงา...เพื่อใช้ร่างกายในวัยสาวให้คุ้มค่าหรือว่าจะมีเหตุผลอื่นอีก”
“ผม...ผมไม่รู้”
“ตัวพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
...ไม่รู้จริงแน่เหรอ?...เธออาจรู้แต่ไม่บอกก็ได้...เจ้าความลับอยู่แล้วนี่...
“อ๊ะ!...อรุณสวัสดิ์จ้ะ...วันนี้บอลตื่นเช้าแฮะ”
(คนนี้ก็ใช่ย่อยซะที่ไหนสวมเสื้อยืดแต่ท่อนล่างนุ่งกางเกงในตัวเดียว?)
“มันตื่นเต้นน่ะ”
“เหรอ?...เดี๋ยวฝนจะลงไปอุ่นอาหารก่อน”
“ป้าเอ็มทำอยู่...ฉันว่าเธอไปนอนต่ออีกหน่อยก็ได้”
“ก็ดีสิ”
“อุ๊ย!!...มาทำอะไรกันตรงนี้จ๊ะ?”
...ผมสะดุ้งเฮือกทันทีที่เห็นอานิภาเพราะรู้จากป้าเอ็มว่าเธอกับอาสนเพิ่งจะ...ฮึ๊ย!!!...มันก็เรื่องปกติของผัวเมียเขาไม่ใช่เรอะ?...แต่แหม~~...อานิภานุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวก็น่าดูชมไม่น้อยไปกว่าป้าเอ็มเลยสักนิด...ผิวขาวผ่องเหมือนกันเสียด้วย...
(เอ๊ย!!...นรกจะกินกบาลแล้วมึง!?...ผัวหล่อนก็นอนอยู่ในห้อง...อยากโดนลูกโม่กรอกปากหรือไง?)
“แน่ะ!!...เอาอีกแล้วใช่มั้ยแม่?”
“พูดอะไรน่ะ?”
“อย่าๆๆ...ฝนรู้นะคะว่าแม่กับป้อทำอารายกัน...”
(ฝนก็รู้!?)
“แหม่ยังจะได้ยินอีก?...แม่อุตส่าห์กัดผ้าห่มแล้วอ่ะ!
“เปล่าๆ...หนูไม่ได้ยินแต่รู้จากที่แม่จะออกมาอาบน้ำนี่แหละจ้า!!
“อ้าว?”
“ตอนอยู่บ้านที่ลำปางก็เหมือนกัน...เวลาไหนแม่ออกมาอาบน้ำก็หมายความว่าเพิ่งจะไปสำรวจถ้ำกับป้อมา”
“สำรวจถ้ำ!?
“อ๋าน่าอายจังเลย~~...อื๋อ?...นี่...นี่ไม่ใช่เรื่องที่เด็กควรรู้นะยะ!!...บอล...บอลอย่าไปฟังน้อง”
“จะแก้ตัวตอนนี้ก็ช้าไปซะแล้วจ้ะแม่”
“ป้าเอ็มก็รู้ครับ”
“จริงด้วยสิ...เห็นนอนอยู่ข้างๆแต่ครู่เดียวหายไปไหนไม่รู้ส่วนแม่ก็มัวแต่เพลิน...ว้าย!!!...ไม่เอาแล้วๆ...ลูกฝนเนี่ยทะลึ่งจังเลยคอยดูนะคอยดู~~...แม่จะตัดเงินลูกล่ะ!!
“ก๊าด!!...หนูทำผิดอะไรอ่ะ?”
“ผิดที่รู้ทันแม่...ฮึ!!
...อานิภาขมวดปมผ้าเช็ดตัวให้แน่นขึ้นแล้วรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินลงไปชั้นล่างด้วยใบหน้าที่แดงก่ำแต่ก็ยังมีรอยยิ้ม...เช้ามืดนี้เธอเผลอหลุดอะไรออกมาหลายอย่างเชียวไม่ว่าจะนิสัยใจคอกับลักษณะการพูดการจาที่เหมือนลูกสาวคนเล็กอย่างไม่ผิดเพี้ยน...ไม่ๆๆ...ฝนต่างหากล่ะที่ถอดแบบมาจากผู้เป็นแม่...
(สองแม่ลูกคู่นี้บางทีก็เหมือนเป็นเพื่อนเล่นกัน...ดูน่ารักไปอีกแบบ)
“ป่านนี้ผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่แถมเลอะไปหมดแล้วมั้ง?”
“เธอก็พูดเข้า”
“แล้วเราสองคนค่อยมาทำเลอะแบบนี้บ้างนะจ๊ะ”
“ยะ...ยัยบ้า!!
“ฮิๆๆ”
...ก่อนจะกลับเข้าห้องฝนก็ขยิบตาพลางส่งจูบให้ผมด้วย...เช้าตรู่อาทิตย์ใกล้ขึ้นผมได้พบปะทักทายกับสาวน้อยสาวใหญ่ถึงสี่คน...หวังว่ามันคงจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับการกลับสู่บ้านเกิดที่จากมานับสิบปี...
...........................................................................................................................

“ตรงนี้เป็นจุดพักรถสุดท้ายและเราจะวิ่งยาวรวดเดียวเลย...ไปจัดการทำธุระให้เรียบร้อยซะนะ”
“เฮ!...น้ำแอ๊ปเปิ้ลที่นี่อร่อยมาทีไรต้องแวะกินทุกที...ไปกันเหอะ”
“ฉันขอเข้าห้องน้ำก่อนเดี๋ยวตามไป”
“จ้า!!
...การกลับสู่บ้านเกิดครั้งนี้ของผมนั้นช่างเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายไม่ว่าจะทั้งกลัว,ตื่นเต้น,สับสนระคนกันไปแต่เมื่อต้องการรู้ความจริงที่เกี่ยวข้องกับแม่รัญภรณ์ฉะนั้นต่อให้น่าเศร้าสักเพียงใดผมก็พร้อมจะยอมรับ...
“ดี...ไปฟังความจริงจากคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วก็จงคิดเอาเอง”
“.............................................”
“...มองหน้าพี่ทำไม?”
“แขนหายหรือยังครับ?”
“พักคืนเดียวก็หาย...มาลองพิสูจน์กัน”
“เจ็บ!!!
(โอย!!...นี่ใช่แรงของผู้หญิงแน่รึ?)
“...เอาคืนเมื่อวานไง”
“แต่พี่ก็ทั้งหยิกทั้งเหยียบเท้านี่นา”
“สาสมกับความบังอาจที่เธอถือวิสาสะอุ้มพี่แล้วเรอะ?...นี่ยังไม่นับที่ดึงแขนเมื่อเช้านะ”
...พี่แคทบีบแขนผมซะแรงจนรู้สึกชาเลย...ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนักหนาทั้งที่ตอนรูดไอ้หนูของผมน่ะสุดจะเบามือเหลือเกิน...
(อดหวาดเสียวไม่ได้จริงๆถ้าเมื่อกี้หล่อนบีบตรงนั้นของเรา...แรงระดับนี้รับรองหน้าเขียวปี๋แน่ๆ)
“ตื่นเต้นมั้ย?”
“ครับ”
“ทุกคนที่นั่นต่างรอการกลับมาของบอล...งานเลี้ยงส่งท้ายปีครั้งนี้ครึกครื้นกว่าที่ผ่านมาแน่”
“แล้วพี่ภพจะถึงตอนไหน?”
“น่าจะช่วงเย็นๆเพราะพ่อต้องแวะ...แวะบ้านนั้นด้วยครับ”
“มาคนเดียวก็ได้ไม่เห็นจะต้องพาแม่พวกนั้นมาเลย?”
“เอาน่าพี่เอ็ม--...ช่วยๆทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้สักครั้ง”
“เชอะ!!...ถ้าพ่อบอลไม่มาด้วยล่ะก็ฉันจะเฉ่งให้ยับเชียวคอยดู...นี่ยังนับว่าฉันอารมณ์ดีอยู่นะ”
...พ่อพาป้าศรีขึ้นมารับแม่กวาง,สาและอ้อยโดยขาดแค่กุนคนเดียวส่วนเมื่อครู่บุศก็โทรมาบอกว่าเธอกับโบว์จะมาร่วมงานเลี้ยงปลายปีด้วย...เรียกได้ว่าถนนแทบทุกสายมุ่งหน้าสู่โยนกจัตุรัส...
(อา--...ต่อไปนี้ป้าเอ็มกับแม่กวางคงได้ฟาดฟันกันอีกหลายยกจนกว่าจะถึงเวลาแยกย้ายทางใครทางมัน)
“เจ๊”
“หือ?”
“ปีนี้พี่น้องแปดคนจะมาพบหน้ากันหมดมั้ย?”
“...ไม่...พี่เซคบอกว่าม่อนติดธุระส่วนเอ้ก็พาคุณน้าไปต่างจังหวัด...กลับมาอีกทีน่าจะหลังปีใหม่ไปแล้ว”
(อ้าว!?...ก็ไหนว่าถ้าอยากจะพบให้ไปที่โยนกจัตุรัส?)
“...หมายความว่าอย่างมากจะมีแค่ 6 คน?”
“อืม”
“แต่...พี่อ๋อมจะมาเหรอ?...รายนี้ได้ชื่อว่าเกลียดงานรื่นเริงทุกรูปแบบนิ”
“มาสิจ๊ะ...ครั้งนี้รับรองว่าไม่พลาดแน่เพราะมีตาหนูมาด้วยแต่ยังไงก็พูดคุยกันดีๆอย่าถึงขั้นลงไม้ลงมือเหมือนในงานเลี้ยงครั้งก่อนนะ...ไม่เอา”
“ลงไม้ลงมือ?”
“ฮะๆ...ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอกจ้ะ”
...ป้าเอ็มหัวเราะด้วยท่าทางสบายอกสบายใจแต่ผมกลับไม่คิดเช่นนั้น...เอาแค่กรณีของแม่กวางคนเดียวผมก็มองไม่เห็นหนทางเลยว่าเรื่องราวมันจะดำเนินไปอย่างราบรื่นได้ยังไง?...
“อ่ะไปกันได้แล้ว!!...เมฆมันชักจะตั้งเค้าหนาขึ้น”
“หน้าหนาวยังจะมีฝนอีก?”
“มีสิ...ก็เค้านี่ไง”
“ไม่ใช่เธอ~~
“หงึ!
“อยู่ในเขาก็อย่างนี้...ที่จัตุรัสก็ตกทุกเดือนทุกฤดู...คุณพ่อให้หนูขับเถอะค่ะ”
“ลูกนั่งเฉยๆดีกว่าแขนเพิ่งจะค่อยยังชั่วไม่ใช่เรอะ?...พ่อขับเอง”
“หึๆ...ตอนทำงานมีลูกน้องพาไปแต่พอมาขับเองฝีมือก็ยังไม่ตกนี่”
“พี่เอ็มช่างโชคดีนะครับรู้มั้ย?”
“ยังไง?”
“ก็มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นสารถีขับรถให้ไงครับ”
“ฮะๆๆ...จริงๆ...แถมเป็นตำรวจมือปราบชื่อดังระดับประเทศซะด้วย”
“ก็พี่ขับไม่เป็นนี่นา”
“ฉันไม่คิดจะหัดเว้ย!!
“คันนั้นมัวเถียงอะไรกันครับ?”
“พี่สาวกับน้องเขยคู่นั้นน่ะประจำแหละ...เจอหน้าเป็นต้องเถียงกัน”
“นี่บอลรู้ป่าว?”
“หือ?”
“ก่อนที่ป้อจะมาแต่งงานกับแม่ก็เคยจีบป้าเอ็มล่ะ”
“จริงเหรอ?”
(ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย!?...ป้าเอ็มก็ไม่เคยเล่า)
“โอ้!!...จริงซะยิ่งกว่าจริง...ป้าเอ็มสมัยสาวๆน่ะสวยมากมีหนุ่มตามจีบหัวกะไดไม่มีแห้งเชียวจะบอกให้!!!
“...ช่วงนั้นสนเค้าเพิ่งจะจบนายร้อยตำรวจใหม่ๆแล้วได้มาบรรจุที่อุตรดิตถ์เป็นที่แรก”
“เจอกันได้ยังไงครับ?”
“สมัยก่อนตามป่าเขามักจะมีโจรผู้ร้ายชุกชุมใช่ไหมล่ะ?...ที่โยนกจัตุรัสก็มีอยู่ก๊กสองก๊ก...ตานี่เป็นตำรวจเลยถูกส่งมาปราบปราม”
“อ๋อ!!...สุดท้ายก็เลยได้พบรักกับอา”
“ใช่...เจอกับอาก่อนแท้ๆแต่ดันไปชอบพี่เอ็ม...เชอะ!!
“โธ่แม่จ๋า~~...ก็ตอนนั้นแม่ยังเด็กอยู่นิส่วนป้าเอ็มน่ะโตเป็นสาวงามสะพรั่งเต็มตัว”
“แม่ก็ออกแววสวยเริ่ดมาแต่เล็กแล้วย่ะ!!
“ฮะๆ...เรื่องเถียงนี่แม่ก็ไม่ยอมใครเหมือนกันน๊อ~~
“ทำไมป้าเอ็มถึงปฏิเสธครับ?”
“ก็มีคนรักอยู่แล้วน่ะสิ...โยทะกาพ่อของหนูเซคกับหนูม่อนไง”
“ท่านเสียไปแล้ว”
“อื้อ!!...สี่ยิบปีได้แล้วมั้ง?”
“21 ปีจ้ะ...เท่าอายุหนูม่อน”
“แสดงว่าคุณลุงโยทะกาจะต้องหล่อแล้วก็ปากหวานมาก”
“ใครว่าจ๊ะ?...หน้าตาก็งั้นๆแถมขี้อายอีกต่างหาก”
“อ้าว?”
“ถ้าไม่ได้พี่ภพเป็นพ่อสื่อให้ก็ไม่มีวันได้แอ้มพี่เอ็มเค้าหรอก...จีบผู้หญิงไม่เอาอ่าวและพ่อ...ปู่ของบอลก็ไม่ค่อยชอบเพราะเคยแต่งงานและยังมีลูกติดมาด้วย”
“................................................”
“แต่สุดท้ายลุงโยะก็ชนะใจป้าเอ็มจนได้นะคะ”
“อีตาบ้านั่นจึงอกหักไปตามระเบียบ...หึๆๆสมน้ำหน้า!...มาจีบอาซะแต่ทีแรกก็สิ้นเรื่องสิ้นราวไปแล้ว”
...นอกจากนี้อานิภายังเล่าเรื่อง(ความแก่นเซี๊ยว)สมัยยังสาวๆให้ผมกับฝนฟังอีกหลายเรื่อง...บางครั้งเล่าเพลินหัวเราะร่าจนเกือบขับรถตามคันหน้าที่สามีเธอขับไม่ทันทีเดียว...
“สบายๆ...อีกไม่นานก็ถึงจะรีบร้อนไปไย?”
“ใช่จ้ะแม่...ขับช้าๆบ้างเราจะได้คุยกันถึงเรื่องเมื่อเช้า”
“เฮ่ย!...ลูกฝนยังจะรู้อะไรอีกเนี่ย?”
“ก็รู้ว่า...นั่นสิน๊า~~...รู้อะไรเอ่ย?”
“นั่นแน่ะๆ...ลูกฝนตีขลุมหลอกแม่อีกละ!!
“เปล่าตีขลุมจ้า!!...ฝนรู้ว่าแม่น่ะ...”
“?”
“เปลี่ยนใจไม่ใส่กางเกงแต่นุ่งกระโปรงแทนไง”
“ว้าย!!!
!!!!!
...ผมที่นั่งเบาะหน้าคู่อานิภาแทบจะสำลักคาขวดน้ำ...ก็ฝนน่ะสิไม่รู้คิดอะไรอยู่ๆยื่นมือมาเลิกกระโปรงอานิภาจนร้องว้ายลั่นรถ...
(เห็นกางเกงในด้วยแม่เจ้าโว้ย!!!!)
“ลูกฝนทำไมถึงชอบแกล้งเลิกกระโปรงแม่นักห๊ะ!!...บอลเห็นของแม่หมดแล้วเห็นไหม?”
“ฮี่ๆ”
“เปล่าครับ!!...ผมไม่เห็น”
“บอลเห็น!!
“ไม่ครับ”
“อย่าโกหกอา--...บอลเห็นหมดแล้วใช่ม๊าว่าอาสวมกางเกงในสีเขียวลายหมี?”
“เอ่อ...”
“ลายหมีอะไรกันเชยซะไม่มี?...ลายลูกไม้ดอกทานตะวันไม่ใช่หรือจ๊ะ?”
“เซ็กส์ซี่มากเชียวล่ะ...ฮึ่ม!...พอย่ะพอ!!!...แม่อายจะแย่อยู่แล้ว!!!
“ก็ที่แม่ไม่นุ่งกางเกงเพราะอยากให้คนอื่นเห็นไม่ใช่รึงาย?”
“ใครว่าเล่า?...ใส่กางเกงเดินทางเวลาเข้าห้องน้ำมันยุ่งยากสู้กระโปรงไม่ได้”
“หือ~~...จริงเหยอ?”
“จริงซี่~~
“แน่น๊ะ!!
“แน่สิยะยัยหนู!!
“................................................”
“................................................”
“ฮิๆๆๆ”
“ฮะๆๆๆ”
(แม่ลูกคู่นี้ยังมีอารมณ์มาเล่นต่อคำกันอีกวุ้ย!?)
“พอเลย--...ลูกฝนอยากจะเปิดให้พี่เค้าดูก็ทำไปคนเดียว...ไม่ต้องมายุ่งกับแม่”
“มะ...ไม่ใช่นะครับ!!!
“หันมาสิจ๊ะ...มาดูของเค้า”
“บะ...บ้าเรอะ?”
...อานิภาก็อยู่ด้วยทั้งคนฝนทำบ้าอะไรเนี่ย?...ไม่...ไม่ถูกนะ!?...ถ้าผู้เป็นแม่ไม่เห็นด้วยต่อให้ใจกล้าขนาดไหนฝนก็ไม่น่าจะทำได้งั้นนี่ก็แสดงว่าอานิภา “รู้เห็นเป็นใจ” กับลูกสาวคนเล็กแน่นอน...
(โอ้!!!...นั่งชันเข่าโชว์แพนดี้สีส้มที่ไม่มีลวดลายใดๆก็ช่างน่ารักไปอีกแบบ)
“ตั้งแต่แรกเริ่ม...อารู้หมดทุกอย่าง”
“?”
“รู้ดีว่าลูกฝนรักบอลมาก”
“..................................................”
“ลูกฝนต้องการใช้ชีวิตร่วมกับบอลในฐานะคนรักไม่ใช่พี่น้อง”
“..................................................”
“ทีนี้บอลจะว่าอย่างไรล่ะจ๊ะ?”
“...ผม”
“หึๆ...นับว่านิสัยเหมือนพ่อของเธอทุกกะเบียดนิ้วเลยนะ”
...จากที่พูดจาหยอกล้อเล่นหัวกับลูกสาวมาเกือบตลอดทาง(ถึงขั้นโดนเปิดกระโปรง)บัดนี้อานิภากลับกลายเป็นอีกคนที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน...นิ่งสงบเงียบขรึมทว่าแอบแฝงไว้ด้วยแรงกดดันบางเวลาถึงจะหัวเราะแต่ก็เหมือนไม่ใช่...อย่างไหนคือตัวตนที่แท้จริงของน้องสาวพ่อกันแน่?...
“ไปถึงโยนกอุดรเมื่อไหร่...บอลคงจะให้คำตอบได้สักทีค่ะแม่”
“ฝน!!
“แม่ก็หวังอย่างนั้น...บอลจ๊ะ...ขอเพียงแค่พูดออกมาคำเดียวว่าบอลรักลูกฝน...อาก็จะยกให้ทันที”
“อะ...อานิภาอย่าล้อผมเล่นสิครับ!!!
“สีหน้าของอาตอนนี้ดูเหมือนคนล้อเล่นหรือเปล่าล่ะหือ?”
“..................................................”
“โอกาสนี้ยากนักที่จะมีอีก...พี่อ๋อมกับเจ้าป้อมจะขัดขวางฝน...ได้--...มาลองดูกันสักตั้ง!!!!
...ฝนก็เปลี่ยนไปในแนวทางเดียวกับผู้เป็นแม่...ความจริงจังที่แสดงออกมาจากดวงตาคู่นั้น...หมดข้อสงสัยแล้วว่าสาวน้อยหยาดฝน เทวะกรนันท์นั้น...เหมือนใคร!?...
.......................................................................................................................................

...ตื่นเต้นไม่น้อยเลยช่วงที่รถวิ่งผ่านเข้าอุโมงค์และทางออกก็จะเป็นหมู่บ้าน “โยนกอุดร” ถิ่นกำเนิดของผม...
“สภาพแวดล้อมก็เหมือนตามชนบททั่วไปน่ะแหละแต่อาขอยืนยันให้บอลรู้ไว้ก่อน”
“ครับ?”
“สาวๆที่นี่น่ารักมาก...ขนาดแม่หม้ายยังเช้งวับเด็ดขาดไปเลย...โอ๊ยเจ็บ!!
“พูดอะไรให้หลานบอลฟังน่ะ?...เพ้อเจ้อใหญ่แล้วนะคุณ!!
“ไว้หน้าผมมั่งซี่!!...อยู่ต่อหน้าลูกด้วย”
“เฮอะเฮอ~~...อย่าเอาตำแหน่งนายพลมาขู่ฉันเลย...จำไว้ว่าในบ้านคนที่ใหญ่กว่าคุณก็คือฉันย่ะ!!
“เออแม่คุณหญิง!...พูดเล่นนิดหน่อยก็ไม่ได้”
...พอผ่านเข้าอุโมงค์อานิภากับฝนก็กลับมาร่าเริงเหมือนเดิมจากที่นิ่งเงียบกันไปพักใหญ่...ค่อยยังชั่ว...บรรยากาศในช่วงนั้นมันชวนให้น่าอึดอัดใจเป็นบ้า...
“อุโมงค์ที่เพิ่งผ่านเข้ามาเมื่อกี้ชื่อว่าประตูปฐพี”
“ครับพี่...ผมพอจะนึกออกบ้างแล้ว”
“แต่ล่ะหมู่บ้านจะมีประตูที่เป็นทางออกสู่โลกภายนอก...บ้างก็เป็นอุโมงค์บ้างก็เป็นประตูจ้ะ”
“ถ้าอยากจะเป็นนายใหญ่เรื่องแค่นี้ต้องรู้...อุดรปฐพีทักษิณเมฆาบูรพานภาประจิมอัคคี...ท่องไว้ล่ะกัน”
(จำได้ง่ายแน่เพราะชื่อมันคล้องจองกันดี...บ้างก็เป็นอุโมงค์บ้างก็เป็นประตูงั้นรึ?...อยากเห็นจังเลย)
“นั่นไง!!!...บ้านของเราๆ”
“ไม่ใช่หลังเก่าสินะครับ?”
“หลังเก่าแต่ทาสีใหม่น่ะ”
“ป้อหยุดรถทำไมจ๊ะ?”
“นั่นสิสน...อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว”
“มีอะไรหรือคะ?”
“...ไม่สังเกตกันหรือว่าตั้งแต่เราออกจากอุโมงค์มาน่ะก็ยังไม่เห็นใครสักคนเลย?”
“เอ๋?”
“จริงด้วยค่ะคุณ...หายไปไหนกันหมด?”
“หรือมีเหตุร้ายเกิดขึ้น?...เดี๋ยวฉันจะไปถามเอง”
...ป้าเอ็มลงจากรถเดินไปที่บ้านใกล้ๆแล้วร้องเรียกคนในนั้น...สักครู่เจ้าของบ้านก็ออกมาทักทายพวกเรา...
“นี่เกิดอะไรขึ้น?”
“ใช่ค่ะลุง...ทุกคนหายไปไหนกัน?”
“ก่อนที่ลุงจะพูดก็ขอถามคุณศรมรกตสักหน่อยครับ”
“ก็ถามมาสิไม่ต้องเกรงใจ...เราคนอื่นคนไกลที่ไหนกัน”
“พ่อหนุ่มคนนี้คือคุณชายหกใช่ไหมครับ”
“ใช่จ้ะ...เขาเป็นหลานชายของคุณพ่อชื่อเอกคเชนทร์”
“โอ้ๆๆ...เป็นหลานของท่านจริงๆ”
“สวัสดีครับ”
“หน้าตาผิวพรรณละม้ายคล้ายท่านสมัยหนุ่มจริงๆ”
“ทีนี้ก็บอกมาสิ”
“อ่า--...คุณหนูใหญ่สั่งครับ”
“หลานเซคเรอะ?”
“นี่มันยังไงคะพี่เอ็ม?”
“ฉันไม่รู้เรื่องด้วยนะยัยภา...อย่าเพิ่งโบ้ยกันซี่!!
“พี่เซคน่ะหรือ?”
“คิดอะไรของเขาเนี่ย?”
“เมื่อสักสามโมงเช้าคุณหนูศรเพทายติดต่อมาหาผู้ใหญ่และสั่งให้ลูกบ้านทุกคนอยู่แต่ในบ้านห้ามออกมาจนกว่าจะเลยเที่ยงวันครับ”
“ลูกคนนี้สั่งอะไรบ้าๆ!!
“เพื่ออะไรคะ?”
“ก็คงจะ...เพื่อแสดงให้พ่อบอลรวมทั้งพี่...รู้ว่าใครคือผู้มีอำนาจตัดสินใจที่แท้จริง”
“เอ่อ--...แล้วก็ให้บอลรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวหรือเปล่า?”
“พี่...เห็นด้วย”
“มันจะไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือยังไง?...ฉันต้องดุสักหน่อยแล้ว!!
“ใจเย็นไว้ก่อนค่ะคุณป้า...พี่เซคน่ะยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ”
“จริงด้วยค่ะ...เดี๋ยวมันจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่”
“แต่ปล่อยไว้ก็จะยิ่งได้ใจน่ะสิ”
“หนูเซคนี่...สมแล้วล่ะที่คุณพ่อไว้วางใจ”
“และที่คุณว่าทุกคนรอการกลับมาของบอลน่ะเห็นทีจะไม่ใช่ซะแล้วค่ะ”
“ผมเองก็คาดไม่ถึงว่าเธอจะมาไม้นี้...แม้อาจดูว่าเป็นเรื่องเล็กและไม่สำคัญแต่ก็จะมองข้ามไปไม่ได้เพราะนี่คือสงครามจิตวิทยาหรือว่ากันอีกนัยหนึ่ง...มันเป็นสาสน์ท้ารบที่หนูเซคส่งตรงถึงหลานบอล”
“.................................................”
(เอ้า!!...ทีนี้แกจะรับมือยังไง?...ฮะๆๆๆ)
...ในหัวสมองของผมคล้ายได้ยินประโยคนี้ดังอยู่ใกล้ๆ...จะทำยังไงน่ะหรือ?...ขืนโมโหฉุนเฉียวก็มีแต่จะไปเข้าทางพี่เซคซะล่ะมากกว่า...
........................................................................................................................................

“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ...บางทีคุณหนูรองอาจจะตามมาในภายหลัง”
“ก็ไม่แน่...เธอคงอยากจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ก่อนเข้าปีใหม่แต่หากอีกฝ่ายคิดสู้ก็จะต้องใช้เวลามากขึ้น”
“ถึงแล้วหรือคะพี่เศก?...แล้วนาย...นายหญิงล่ะคะ?”
“.................................................”
“ออกมากันแล้วค่ะ...ไม่ค่ะคนล่ะทาง...พี่ก็รู้ว่าเราต้องไปเข้าทางประตูนภา”
“.................................................
“ค่ะ...แล้วเจอกันนะคะ”
“ไหม...ทางข้างหน้าจะไม่ค่อยดีนะ...ขับช้าๆ”
“เจ้าค่ะ”
“นี่ศุกร์”
“ครับ?”
“เมื่อคืนนายต่อกับคุณแม่อีกกี่ยก?...บอกฉันมา”
“ไม่...ไม่ได้ต่อครับ...นายหญิงไล่ให้ผมไปนอน”
“ไหงงั้นล่ะ?”
“คือนายหญิง...อารมณ์ไม่ดีครับ”
“ว๊า~~...สงสัยหงุดหงิดที่ฉันไปขัดจังหวะเข้าน่ะสิ”
“อันนี้ผมก็...”
“ฮ่าๆๆโทษทีๆ...คราวหน้าจะไม่เข้าไปขัดอีกแล้ว...อื๋อ?”
“...................................................”
“ศิ!...ทำไมต้องหลบหน้าฉัน?”
“เปล่านะคะ”
“เมื่อกี้แอบมองฉันแล้วก็รีบหันไปทางอื่น...ปิดบังอะไรอยู่หรือเปล่า?”
“ไม่มีค่ะ”
“หือ--...น่าสงสัย”
“...................................................”
“เธอกับไอ้บ้ากามนั่นเรียบร้อยกันตั้งแต่เมื่อไหร่นะช่วยบอกอีกทีซิ?...คือฉัน...จำไม่ค่อยได้”
“...................................................”
“ตอบคุณหนูใหญ่ไปสิ”
“พี่ศุกร์”
“นายเองก็ไม่หวงน้องสาวบ้างเลย...เธอคิดว่าไงล่ะไหม?”
“ช่างเป็นพี่ชายที่แสนดีมากเจ้าค่ะ”
“...................................................”
“หนูมีอะไรกับนาย...คุณเอกคเชนทร์ครั้งแรกเมื่อกลางเดือนนี้ค่ะ”
“กลางเดือน?...ก็ตอนที่เจ้านั่นเพิ่งจะย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่...รอดหูรอดตาแคทกับฝนไปได้ไงฟะ?...เก่งกาจซะจริงนะเธอ”
“...................................................”
“แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่ามีคุณแม่ช่วยอำนวยความสะดวกให้...แผนดึงให้หลานชายสุดที่รักตีตัวออกห่างจากลูกของผู้หญิงที่ตนเกลียดแต่ฉันว่าคุณแม่มีแต่จะส่งเธอไปเป็นของว่างเอนจอยกระดอไอ้บ้ากามนั่นซะล่ะมากกว่า”
“คุณเอกคเชนทร์ไม่เคยบังคับศิเลยนะคะ...บอกว่าถ้าศิไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไร”
“แล้วฉันเล่า?”
“คะ?”
“หากฉันขอให้เธอทำบ้างจะเต็มใจมั้ย?...ไม่บังคับเหมือนกัน”
“เอ่อ...”
“ก็กรณีเดียวกันไม่ใช่เหรอ?...ลงนั่งข้างล่างนี่แล้วมาเลียหีให้ฉันหน่อย”
“คุณหนูใหญ่คะ...พี่ศุกร์ก็อยู่และพี่ไหมก็ขับรถด้วย”
“มิต้องสนใจพี่ดอก”
“ใช่ๆๆ...ผมอยู่ด้วยนะครับ”
“ฮึ!...นายก็อยากจะดูล่ะสิ?”
“ทำตามคำสั่งของคุณหนูใหญ่...อย่าได้บิดพลิ้ว”
“...............................................”
“นายศุกร์คอยบอกทางให้พี่...มิต้องชำเลืองดู”
“ช่างเหอะๆ...อยากดูนักก็ตามใจแต่ห้ามชักว่าวเด็ดขาดเดี๋ยวจะเลอะในรถฉัน”
“ทำไมพี่ไหมดูจะไม่ตื่นเต้นเลยหรือว่าทำอย่างนี้บ่อยครับ?”
“...คิดเองล่ะกัน”
“...............................................”
“ถอดกางเกงในฉันออกเลย”
“อู้หู~~
“อะไร?”
“ผมเพิ่งจะเห็น...หีคุณหนูใหญ่ชัดๆก็วันนี้”
“ทุกทีได้แต่แอบดูล่ะสิท่า?”
“ผมไม่กล้าครับ”
“เฮอะ!!...อุ!...ดึงมันออกไป...จะได้ไม่เลอะ”
“ค่ะ”
“ฉัน...จะแยกขาให้กว้างอีกก็ได้...เป็นไง?...น่าเย็ดเหมือนของคุณแม่หรือเปล่า?”
“ครับ!!!...สู้ได้สบายมากเลยครับ”
“ไอ้...ไอ้นี่ตอบไม่ตรงคำถามแฮะ...อึ๊ยยยยยยยยย...ตรง...ตรงนั้นล่ะๆ...อาาาาาาาาา”
“เฮอ--...ผะ...ผมจะเป็นไข้แล้วมั้งเนี่ย?”
“หืมมมมมมมม...อูยยยยยยยยยยย...บะ...บ่นอะไรของนายหึ?”
“หน้า...หน้าผมร้อนผ่าวไปหมดแล้ว”
“นะ...นายอยากให้ฉันทำอะไร...สั่งมา”
“ผมสั่งได้หรือครับ?”
“เร็ว!!
“แหก...คุณหนูใหญ่แหกหีให้ผมดูชัดๆทีสิครับ”
“พอ...พอก่อนศิ”
“..............................................”
“ชัดหรือยัง?”
“ครับ...น้ำไหลออกมาเยอะเลย”
“อือออออออออออ...ฉะ...ฉันตกเบ็ดให้นายดู...อูยยยยยยยยยยย...ถือเป็นของแถมจ้ะ...อ๊าววววววววว”
“ว้าว!!!!...ยิ่งเยิ้มออกมาจนแฉะกว่าเมื่อกี้...สุดยอดเหลือร้ายครับ”
“หี...หีฉันสวยกว่าของคุณแม่นะ...รู้ไว้ซะด้วย”
“คะ...ครับ”
“หลังจากนี้คอเธอต้องเคล็ดแน่”
“ผมยอม...ผมยอมครับ”
“โอออออออออออออออออ...นั่นแหละๆ...ดี...ดีมากจ้ะศิ...อึ๊!!...ไม่...ซีดสสสสสสสสสส”
“คุณหนูใหญ่เสร็จแล้ว!!!...หูย~~...น้ำพุ่งออกมาเลย”
“ฮ่า...ฮ่า...ฉะ...ฉันออกแล้วแฮะ”
“เร็วมากเลยเจ้าค่ะ”
“เพราะ...เพราะมีนายศุกร์นั่งดูอยู่ล่ะมั้ง?...หึๆ...แบบนี้ก็นับว่าไม่เลว...เลียให้สะอาดเอี่ยมนะศิ”
“ได้ค่ะ”
“อืมมมมม...ทะ...ที่จริงฉันก็เคยตั้งใจจะเรียกนายมาเย็ดกัน”
“คุณหนูใหญ่พูดจริงหรือครับ?”
“แต่คิดอีกทีไม่เอาดีกว่า...ฉันไม่อยากใช้ของร่วมกับคุณแม่น่ะ”
“น่าเสียดายนัก~~
“ไอ้...ไอ้บ้านี่!?...ใจคอคิดจะเล่นทั้งแม่ทั้งลูกเดี๋ยวก็ถูกม่อนฆ่าหรอก!!!...โอออออออออ...นั่นเธอทำอะไร?”
“คือน้ำหล่อลื่นของคุณหนูไหลไปถึงรูก้นค่ะศิก็เลย...”
“ฮิ...ขอบใจๆ”
“นายก็ออกเช่นกันรึ?”
“เปล่าครับพี่ไหม!!
“พี่ได้กลิ่นน้ำกามอสุจิจากตัวนายยังจะปฏิเสธว่าเปล่า?...คุณหนูใหญ่เจ้าคะ”
“น่า--...ไม่ได้แตกข้างนอกนี่...แค่เลอะคากางเกงก็ทนนั่งไปจนกว่าจะถึงบ้านเถอะ...การแสดงจบแล้วทีนี้ก็ได้เวลาเขียนบทใหม่...ตอนนี้คุณแม่กับทุกคนคงจะแปลกใจกันน่าดู”
“....................................................”
พี่รู้ว่านี่ฝีมือใคร?”
ฝนด้วยค่ะ...ในหมู่บ้านสี่โยนกถ้าไม่ใช่ป้าเอ็มก็มีอยู่แค่คนเดียวเท่านั้นที่ทำได้ถึงขนาดนี้
อุ๊ยตาย!!...นี่น้องสาวที่น่ารักทั้งสองคนกำลังพูดถึงพี่อยู่หรือเปล่าจ๊ะ?”
“เป็น...พี่จริงๆด้วย”
“ใช่พี่เอง...ฮิๆ...แต่ยังหรอก...มันเพิ่งจะเริ่มต้น”
“ไม่ค่อยดีมั้งคะ...ฝนว่าเลิกเหอะ”
“อะไรกันจ๊ะน้องฝน?...พี่อุตส่าห์คิดวางแผนมาตั้งนานจะให้เลิกล้มได้ยังไง?...สองคนน่ะอยู่เฉยๆและรอดูดีกว่า...พี่ไม่ทำให้ไอ้บ้ากามนั่นเจ็บตัวแม้รอยเท่าแมวข่วนหรอก...ก็แค่...กระตุ้นให้ต่อมยางอายของมันรู้จักทำงานบ้างก็เท่านั้น”
.........................................................................................................................

“พี่เซค...พี่เซค!
“วางสายไปแล้ว”
“ไม่ยอมคุยกับฉันด้วย...ลูกคนนี้นี่จริงๆเล้ย!!...ถอดแบบมาจากฉันไม่มีผิดเพี้ยน”
“แต่นิภาว่าหนูเซคเก่งกว่าพี่เอ็มนะคะ...เอ--...จำได้ว่าพี่ก็เคยใช้วิธีนี้มาก่อน”
“ในบรรดาลูกสาวทั้งสี่คนเซคนิสัยใจคอเหมือนพี่ที่สุด...งานนี้เถียงไม่ออกเลย”
“ผมจะอยู่เฉยๆไม่ตอบโต้พี่เซคครับ...ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นซะก็สิ้นเรื่อง”
“บอลจะดูถูกพี่เซคมากไปหน่อยล่ะ...ยังไงเธอก็ไม่ยอมเลิกจนกว่าจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายสิ้นท่าหมดสภาพ”
“อื้มๆๆ...จากที่คุยกันเมื่อกี้ก็แจ่มแจ้งแดงแจ๋แล้ว”
“แต่ก็เป็นวิธีที่ใช้ได้เหมือนกัน...ตอนนี้อยู่เฉยๆก่อน...พ่อบอลไปที่บ้านอาบน้ำอาบท่าพักผ่อนให้สบายแล้วค่อยมาหารือ...หืม?”
“............................................”
“อ๋อใช่!!...ตอนนี้อยู่ที่สี่แยกใหญ่...อะไรนะ?”
“............................................”
“เข้าใจแล้วจ้ะ”
“บ้านเราอยู่ใกล้แค่นี้เอง...เดินไปก็ได้”
“เดี๋ยวจ้ะหนูฝน...ป้าว่าเราล่วงหน้าไปก่อนดีกว่า”
“...มีคนจะรอพบบอลใช่ไหมคะ?”
“อื้อ!
“ฮื่อ~~...ไม่เปลี่ยนเลยคนนี้”
...ฝนหน้ามุ่ยขณะไปขึ้นรถและพี่แคทเดินมาตบบ่าผมพลางพูดเบาๆว่า...
“สิบปีที่จากกันในที่สุดก็จะได้พบ...ยินดีด้วย...คนๆนี้อยากเจอเธอเป็นการส่วนตัวฉะนั้นพี่หรือใครก็อยู่ด้วยไม่ได้เพราะมันจะเกิดเรื่อง”
“ไม่ถูกกันสินะครับ?”
“...คงงั้น...เธอเองก็ควรจะระวังคำพูดคำจาเหมือนกัน...คนๆนี้ฟิวส์ขาดง่ายมากถ้าใครพูดอะไรไม่เข้าหู”
“เป็นคนเจ้าอารมณ์นี่เอง”
“บอลไปรอในศาลาริมทางนั่น”
“.............................................”
...สี่แยกนี้มีชื่อว่า “สี่แยกจัตุรัส” ซึ่งสามารถเชื่อมไปยังหมู่บ้านทั้งสี่อันได้แก่โยนกอุดร,โยนกทักษิณ,โยนกบูรพาและโยนกประจิม...โยนกอุดรก็ตรงตามชื่อคือหากจะไปก็ให้เดินทางขึ้นทางทิศเหนือแล้วภูเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าก็มีชื่อว่า “ภูเขามิหวนกลับ” ที่ทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางในตำบลแห่งนี้...
“มีขนมกับน้ำดื่มให้ด้วย...แล้วนี่ชารึ?...อุ๊บ!!
(อะไร!?...หวานๆขมๆจิบไปอึกเดียวแทบจะวูบเลย...นี่มันเหล้าไม่ใช่เรอะ?)
“เขาเรียกว่าเบญจวารี”
!?”
“ก็เป็นเหล้าป่าน่ะแหละไม่ใช่ของแปลกอะไร”
“ใครน่ะ?”
...แน่ใจว่าเป็นผู้หญิงแต่น้ำเสียงกลับไม่แหลมเล็กและออกจะคล้ายๆเสียงผู้ชายด้วยซ้ำไป...ผมออกจากศาลาแล้วมองไปรอบๆก็ไม่เห็นใครและพอเงยหน้าขึ้นไปข้างบนก็ได้พบคนๆหนึ่งนั่งอยู่บนจั่วศาลาโดยที่สวมชุดคลุมสีดำอย่างมิดชิดไม่เว้นกระทั่งใบหน้าที่มีฮู้ดบังอยู่...
สิบปีแล้วสิที่เราไม่ได้เจอกัน...ยังจำคำถามสามข้อของฉันได้หรือเปล่า?”
เธอ...เป็นใคร?”
ใครน่ะเรอะ?...ฉันก็เป็นว่าที่ภรรยาของนายไงเล่า!!!
“ภรรยา?”
“ใช่...นายมีชะตาที่จะต้องเป็นผัวของฉัน”
(ผะ...ผัว!!!!...พบกันครั้งแรกก็พูดออกมาได้หน้าตาเฉยเลยแฮะแม่สาวคนนี้!?...นี่ถ้าฝนได้ยินคงจะอารมณ์เดือดปุดๆประดุจน้ำร้อนในกา)
“เอ่อ--...เรา...เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันนะครับ”
“สิบปีมานี่ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นน้องชายเลยว่ะ”
...เพิ่งเจอกันแท้ๆแต่ทุกคำทุกประโยคมีแต่ชวนให้อึ้งทั้งนั้น...ช่วงกระพริบตาแค่เดี๋ยวเดียว “พี่สาวคนที่สี่” ก็กระโดดจากยอดศาลาลงมาข้างล่าง...เท่าที่ดูๆเธอสูงไล่เลี่ยกับฝนแต่รูปร่างจะเป็นไงไม่รู้เพราะยังไม่ถอดผ้าคลุมออก...
“จะไปบ้านนั้นใช่มั้ย?...ฉันเดินเป็นเพื่อน”
“เร็วหน่อยก็ดีมั้งครับ?”
“รีบร้อนไปไหนเล่า?...บ้านมันไม่มีตีนเดินหนีได้เองหรอกน่ะ...ค่อยเดินค่อยคุยกันเหอะฉันมีอะไรอยากถามนายเยอะแยะไปหมด”
“อะไรครับ?”
“แต่เอาเท่าที่นึกออกกับสำคัญก่อน...คำถามข้อแรกฉันได้รับคำตอบแล้วจึงไม่มีอะไรต้องพูดถึงอีก”
(เมื่อไหร่จะกลับบ้าน?)
“ข้อสอง...นายใช้ผู้หญิงเปลืองมากไปแล้ว--”
“มันคือนิสัยเสียของผมเองครับ”
“รู้ตัวเหมือนกันรึ?”
“...............................................”
“แต่ฉันไม่มีปัญหา”
!?
“นายน่ะยกฉันกับป้อมให้เป็นที่หนึ่งก็พอส่วนผู้หญิงอื่นจะไปสนุกด้วยเป็นครั้งคราวก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแต่ถ้าจะให้ดีที่สุดสำหรับนังแมวขโมยพวกนั้น...ไล่ให้ลงไปจับหนูในท่อน้ำซะเถอะ”
“...............................................”
................................................................................................................................

...ตัวอย่างในตอนต่อไป...

“วันนี้ถือเป็นวันดีฉันจึงไม่อยากต่อปากต่อคำหรือต้องการจะมีเรื่องมีราวกับใคร...แล้วไปเถอะ”
“แต่ถ้าอ๋อมยังดึงดันจะพาบอลไปจากบ้านหลังนี้...พี่ว่า...มันคงจะแล้วกันไปไม่ได้หรอกนะ”
“พูดอย่างนี้แสดงว่ายมทูตหนีขุมนรกคิดจะมีเรื่องกับนางพญาเสือให้ได้หรืออย่างไร?...สุรีย์พรรณ”
...............................................
“ข้าเข้าใจ...ทุกคนไม่ต้องพูดอะไร”
“ผมจะไม่ทำแบบในละครน้ำเน่าที่คลานเข่าไปกราบเท้าขอสำนึกผิดเพราะผมก็มีวิธีของผมอยู่”
“พูดได้ดีมาก!!...สมกับเป็นว่าที่สามีของฉัน...ที่นี่หมดเรื่องกันแล้วสินะงั้นก็ไปโยนกทักษิณกับฉันซะที!!!
...............................................
“เธอน่ะรึสาวิตรี?...ผู้หญิงที่น้องชายของฉันคว้ามาทำเมียด้วยเพราะความหน้ามืดตามัวเพียงชั่วขณะหนึ่ง”
“นะ...หน้ามืดตามัว?”
“ใช่...แต่ปัจจุบันไม่ใช่เพราะเรื่องของเธอกับบอลกลายเป็นอดีตไปแล้ว...ต่อไปอย่ามายุ่งกับเขาอีก!!!
.....................................................................................................................

 ...ปริศนาที่มืดดำมานับสิบปีใกล้จะได้รับความกระจ่างและการกระทบกระทั่งกันระหว่างยมทูตสาวกับนางพญาเสือจะมีแววลุกลามใหญ่โตหรือศึกนี้มิอาจหลีกเลี่ยง?...