ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 106 “คำตอบที่อยู่ในแขนขวา!?”
(หลังจากเหตุระทึกขวัญผ่านพ้นไปเราก็ล้มตัวนอนกับพื้นและพอมองที่ไหล่ขวาก็อดถอนหายใจไม่ได้)
“เป็นอย่างนั้นก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องมีหญิงสาวมาหลงรัก”
“แต่...ให้เลือกได้พ่ออยากเป็นเหมือนคนปกติ...เอาเถอะ...แขนข้างนี้ถ้าช่วยชีวิตลูกได้พ่อก็ยินดี”
“ที่แม่รักพ่อมากก็เพราะอย่างนี้...ข้าเข้าใจแล้ว”
“!?”
...เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เสือทองอันมีร่างกายที่น่าเกรงขามได้แปรเปลี่ยนเป็นเด็กหญิงผิวขาวหมดจดสวมชุดคลุมสีทองอร่ามเปล่งแสงระยิบระยับเฉียงเปิดไหล่ขวาไว้ผมสั้นประบ่าสีดำขลับและมีตาสองข้างสีเหลืองดุจอำพัน..อืมๆ...หน้าตาหมดจดจิ้มลิ้มไม่เบาแต่ก็ดุเอาเรื่องและในมือยังถือแขนขวาของผมไว้ด้วย...
“อยู่นิ่งๆ...จะต่อแขนให้”
“.................................................................”
“พ่อไม่ผ่านการทดสอบของข้า”
“รู้อยู่แล้ว...ฮะๆ”
“ยังจะหัวเราะ!”
“หนูหงุดหงิดง่ายจัง”
“ใช่...ข้ามักจะอารมณ์ร้าย...รู้แบบนี้ไม่ต้องมารักกันมากก็ได้เพราะข้านิสัยไม่ดีเหมือนคนอื่น”
“ไม่ใช่อย่างนั้น...พ่อรักลูกทุกคนไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม”
“.................................................................”
“โดยเฉพาะหนูที่ห้าวหาญไม่เกรงกลัวใคร...ดูตาของหนูแล้วพ่อยังกลัวเลย”
“ปากบอกกลัวแต่ทำหน้าทะเล้นยิ้มกรุ้มกริ่ม”
(ถึงจะดุไปหน่อยแต่หนูน้อยก็มีจิตใจดีสังเกตได้จากระหว่างที่ต่อแขนเธอจะค่อยๆทำอย่างนุ่มนวล)
“เสร็จแล้ว...พ่อลองขยับดู”
(นอกจากเราจะได้แขนขวากลับคืนมาแล้วยังใช้การได้ดีเหมือนเดิมอีกด้วย!!!...จะมีอะไรที่ดีไปกว่านี้อีก?)
“หนูช่างเหมือนแม่เหลือเกิน”
“ก็ต้องเหมือนน่ะสิ”
“แล้วลูกล่ะเป็นยังไงบ้างบาดเจ็บตรงไหน?...ให้พ่อดูหน่อย”
“แค่นี้ข้าไม่เห็นจะเจ็บเท่าไหร่”
“แขนซ้ายหนูมีรอยช้ำ”
“บอกว่าไม่เป็นอะไร”
“น่าๆ...พันไว้ก่อนดีกว่า...ลูกของพ่อคนนี้เก่งที่สุดแต่ก็ดูแลตัวเองหน่อย”
“ผ้าที่เคยใช้ซับเลือดเจ้านกบ้านั่น...ข้าจะฉีกทิ้งซะ”
“ฉีกไปพ่อก็หาอันใหม่มาพันให้อยู่ดี”
“ฮึ!!”
“หนูชื่ออะไร?”
“ศรแก้วสุดา...อายุ 8 ขวบเป็นลูกสาวของแม่ศรบุษราคัมและ...พ่อเอกคเชนทร์”
(อายุเท่าหนูรีย์?)
“ชื่อเพราะจังเลย...ชื่อเล่นล่ะจ๊ะ?”
“...ขาล”
“เอ๊ะ?...ขาล...ปีขาลน่ะหรือ?”
“ใช่...ที่แปลว่าเสือไง”
(ชื่อจริงฟังแล้วไพเราะสมเป็นกุลสตรีดีแต่ชื่อเล่นนี่สิ...เด็กผู้หญิงใช้ชื่อแบบนี้มันยังไงๆอยู่นา?)
“ใครตั้งให้เนี่ย?...ต้องเป็นแม่แน่ๆใช่มั้ย?”
“ก็พ่อน่ะแหละ”
“!?”
..........................................................................................................................................................
“ตัวเองตื่นแล้วเหรอ?”
“นายเป็นไงมั่ง?”
“เจ็บแขนขวาหรือไง?”
(ตื่นขึ้นมาในโลกความจริงก็อดไม่ได้ที่จะลองขยับแขนขวาจนสาวๆถาม...ไม่มีอะไรผิดปกติ)
“...ไม่มีอะไรครับ...ผมแค่ฝันไปเท่านั้น”
“เธอฝันว่าอะไร?”
“...ถูกเสือกัดแขนขาด”
“ฮื่อ~~...จะมีเรื่องดีนี่หว่า!!”
“ดียังไงอ่ะพี่อ๋อม?...น่ากลัวออก”
“ฝันว่าถูกเสือกัดเขาว่าจะได้ลาภจากเพศตรงข้าม”
“ทุกวันนี้ก็ได้อยู่แล้วไม่ใช่รึ?”
(พี่แคทพูดอะไรเนี่ย!?)
“แล้วลาภนี่มันคืออะไร?”
“ฉันจะรู้ได้ยังไง?”
“ถ้างั้นผมคิดว่าได้มาแล้วล่ะ”
...จะมีเรื่องอะไรน่ายินดีไปกว่าที่ได้รู้ว่าตัวเองมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคนคือหนู “ศรแก้วสุดา” หรือ “ขาล” ที่ทั้งน่าเกรงขามและน่ารักน่าชังและถึงจะชอบทำหน้าดุใส่แต่เธอก็ห่วงใยผมมาก...ไม่น่าเลย...มีเรื่องคุยด้วยเยอะแยะไปหมดแท้ๆแต่กลับรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาซะได้...
(พี่เอ้โทรมา)
“พรุ่งนี้ช่วงสายๆสะดวกไหมเจ้าคะ?”
“นี่พี่ยังทำตัวเป็นผู้หญิงอีกหรือเนี่ย?”
“ก็เวลานี้พี่เป็นผู้หญิงไงล่ะเจ้าคะ”
“เฮ่อ!...ช่างเหอะๆ...พี่มีอะไรครับ?”
“พี่จะชวนไปซื้อของ”
“อ่า--...ก็ได้ครับ”
“09.00 น. น้องบอลออกมารอที่หน้าบ้านเจ้าค่ะ”
“เข้าใจแล้วครับ”
.................................................................................................................................................
“เชิญขึ้นรถเจ้าค่ะ”
“พี่เอ้”
“เจ้าคะ?”
“ถ้าพี่เป็นผู้หญิงจริงๆล่ะก็ผมไม่ปล่อยให้รอดมือแน่”
“ทำไมหรือเจ้าคะ?”
“พี่น่ะเหมือนผู้หญิงมากเกินไปแล้ว”
“บอกว่าพี่เป็นผู้หญิงเลยก็ได้”
(โธ่~~...แน่จริงนายเปิดกระโปรงให้ดูสิ!!)
“เมื่อวานสำเร็จด้วยดีนะเจ้าคะ”
“หูตาพี่ยังกว้างไกลเหมือนเดิม”
“ฮะๆๆ...จะถือว่าน้องบอลชมล่ะกัน”
“ไม่รู้พี่ม่อนจะว่ายังไงเพราะเธอก็ไม่ได้บอกอะไร”
“น้องนางศรมุกดาที่พี่รู้จักแม้จะทำอะไรลึกลับอยู่เนืองๆทว่าก็เป็นผู้ที่รักษาคำพูด...หากนางเอ่ยปากยอมรับความพ่ายแพ้ก็จะเป็นไปตามนั้นแต่วิธีการของน้องบอลอันตรายเกินไปมิสมควรกระทำอีกเจ้าค่ะ”
“ผมรู้ว่าอันตรายแต่มันจำเป็น”
“นับวันน้องบอลยิ่งทำให้พี่ประหลาดใจ...ครั้งที่สองแล้วนะเจ้าคะ”
(ครั้งแรกเขาหมายถึงตอนเราถูก “สิง” แล้วเล่นงานคนของพี่เซคแทบปางตาย)
“ก็บอกไม่รู้กี่ครั้งว่านั่นไม่ใช่ผม”
“เจ้าค่าๆ”
...พี่เอ้พาผมมาที่สวนขายต้นไม้ซึ่งเขาบอกว่าจะซื้อพันธุ์ไม้ดอกไปปลูกที่บ้านพี่เซค...ผมก็ไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่หรอกแต่ไม่รู้เป็นไงถึงเต็มใจเดินดูกับญาติหนุ่มผู้พี่โดยไม่ปริปากบ่นสักคำ...
“ต้นนี้ก็สวยต้นนั้นก็งาม”
“พี่ซื้อเยอะไปหรือเปล่า?”
“ท่านพี่ศรเพทายสั่งมาว่าให้เอาไปเยอะๆ”
“แต่ขนไปหมดนี่คงเอาใส่รถไม่ได้ครับ”
“อีกสักครู่คนของบ้านท่านพี่ศรเพทายจะขับรถกระบะมาขนเจ้าค่ะ”
“อ๋อๆ”
“เราเข้าไปดูข้างในต่อ”
(นี่ยังไม่มากพออีกรึ?)
“...ตรงนั้นแขวนไว้สูงจัง--”
“ถ้าพี่เอื้อมไม่ถึงผมก็เหมือนกันแหละ...ให้เขาเอาไม้มาเขี่ยเถอะ”
(เพราะพี่เอ้สูงไล่เลี่ยกับเรา...โอ๊ะ!?...กระเป๋าเงินหล่น)
“อึ๊บ!!”
(ยังจะพยายามเอื้อมหยิบกระถางแขวนกล้วยไม้มาดูจนได้...อะ...อื๋อ?)
“อ่า--...ก็สวยดีเหมือนกัน”
(ใช่...สวยๆๆ...กางเกงในสีขาวอวดโฉมเต็มตาเราเลย...เฮ่ย!?...ผู้ชายอะไรทำไมบั้นท้ายถึงสวยได้รูปแบบนี้?)
“น้องบอลคิดว่าสวยไหม?...อ๋า~~...ลามก!...แอบมองกางเกงในพี่อีกแล้ว!!”
“อะ...เอ้ย!!...ผม...ผมไม่ได้ดูนะ...ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”
“โกหก!...กล้าดูแต่มิกล้ายอมรับ”
“มันไม่ใช่!”
“มิใช่อะไรเจ้าคะ?”
...เออ--...ดูก็ดูวะยอมรับ!!!...ผมน่ะเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่แล้ว...ยังไงวันนี้ก็ต้องรู้ให้ได้ว่าพี่เอ้สุดหล่อหน้าหยกแต่แตกสาวนี่เป็นชายหรือหญิงกันแน่?...
“น้องบอล!?”
“จะว่าไป...ผมยังไม่เคยสนิทแนบชิดตามประสาผู้ชายกับพี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว”
“เอ๋?”
“พี่เอ้นี่รอบอกเท่าไหร่น๊า?...ผมดูล่ำกว่าก็จริงแต่อกของพี่ไหงถึงใหญ่กว่าของผมอีกแฮะ”
“มิ...ถึงขนาดนั้นดอก...เอ่อ--...จะทำอะไรเจ้าคะ?”
(เราคว้าตัวพี่เอ้มาอยู่ในอ้อมกอดและสังเกตอากัปกิริยา...ไหงร่างกายของเขาถึงได้บอบบางยังกับผู้หญิงแต่บริเวณอกกลับนูนยิ่งกว่าผู้ชายอย่างเรา!?...อุ!...พอยิ่งสบตากันพี่เอ้ก็หน้าแดงมากขึ้นเรื่อยๆด้วย)
“แน่ะ!!...อย่าบอกนะเจ้าคะว่าน้องบอลหลงเสน่ห์พี่แล้ว?”
(พยายามจะทำใจดีสู้เสือผู้หญิงอย่างเราหรือเปล่า?)
“ที่นี่มิเหมาะเจ้าค่ะ...เดี๋ยวคนมาเห็น--”
“ผมไม่กลัวสักหน่อย”
“ตกลงจะทำอะไรกัน?”
(ลองจูบดูซิ)
“อื้ม--”
(ความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับตอนจูบพี่แคทหรือฝนเลย)
“หยะ...หยุดเจ้าค่ะ!!!”
“!!”
“ออกจะหยาบคายไปสักหน่อยนะ...จูบให้เคลิบเคลิ้มแล้วฉวยโอกาสจะล้วงจับของสงวน”
(หน้าบึ้งเชียว...ทำให้โกรธซะแล้ว!!)
“นิสัยใช้มิได้...มิรู้กาลเทศะเลยเจ้าค่ะ...ขึ้นรถ!!”
...จ๋อยเลยผมครั้งนี้เล่นหนักไปหน่อย...พี่เอ้ไม่พูดอะไรเลยสักคำทำให้บรรยากาศภายในรถอึดอัดมาก...
“ผมขอโทษครับ”
“..........................................................”
“ยกโทษให้สักครั้งนะครับที่ผมทำอะไรขาดสติไป”
“..........................................................”
“พี่จะให้ผมทำอะไรก็ได้...”
“คิก!”
“!?”
“คิกๆๆๆ”
“พี่เอ้...พี่ไม่ได้โกรธผมเรอะ?”
“เปล่า...แค่แกล้งน้องบอลเล่นๆ”
“หนอยแน่ะ--”
“อ๋า!?...คนที่ต้องโกรธสมควรจะเป็นพี่นะเจ้าคะ...น้องบอลเล่นพิเรนทร์จริงเชียว...น่าตีนัก!!”
“นั่น...”
“ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นน้องบอลโดนตบหน้าหันไปแล้ว...อยู่ดีๆก็จะมาจับ...พี่...พี่มิพูดด้วยล่ะ!!”
(หน้าแดงอีกแล้วแต่ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มซึ่งแสดงว่าไม่ได้โกรธเราจริงๆ)
“พี่เอ้”
“..........................................................”
“พี่”
“ฮื่อ~~”
“คุยกับผมหน่อยสิ”
“รู้แล้ว~~”
“..........................................................”
“อะไรที่พี่ยังมิอยากให้รู้น้องบอลก็อย่าเพิ่งใจเร็วด่วนได้เลย”
“ครับ...ผมขอโทษจริงๆที่เสียมารยาท”
“เจ้าค่า--...ที่พี่มิถือสาหาความก็เพราะน้องบอลเป็นคนที่พี่ชอบดอก”
“หา?”
“ก็เคยบอกไปแล้วมิใช่หรือ?”
(กับคนที่ชอบกระผมรู้ไปหมดทุกอย่างแหละขอรับ)
“โธ่เอ้ย~~...อย่างนี้ยิ่งทำให้อยากรู้เข้าไปใหญ่”
“อย่าใจร้อนซี่--...หืม?”
“อะไรหรือครับ?”
“มีคนขี่รถตามเรามา”
“จริงด้วย!...พี่ไปทำอะไรหรือเปล่าเนี่ย?”
“ใจร้าย~~...พี่มิใช่คนอันธพาลที่จะเที่ยวหาเรื่องผู้ใดสักหน่อย!”
“เอ่อ--...ผมก็ไม่ได้...”
“ชิ!...งอน”
“พี่เอ้”
“มิรู้!...งอน”
(ให้ตายสิ--...อื๋อ?...ให้เราหอมแก้มง้องั้นเรอะ?)
“เวลาแบบนี้ยังจะ...”
“เร็วๆเจ้าค่ะ”
“อ่ะๆๆ...ก็ได้ๆ”
“ว้าย!!”
(หอมจังและที่สำคัญกว่านั้น...ไอ้ที่ร้อง “ว้าย” เมื่อกี้ทำเอาเราใจเต้นโครมครามไปหมด!!!!)
“แล้วจะจับหน้าอกพี่ทำไมอ่ะ?...เพิ่งดุไปหยกๆเองว่าอย่าเล่นพิเรนทร์”
“ทำไม...มันนุ่มขนาดนี้?...ยังกะ...นมจริงๆแน่ะ”
“ฮึ!...พี่รู้ว่าน้องบอลจงใจแต่เรื่องนี้เอาไว้ก่อน...ดูท่าเราจะเจอปัญหาเสียแล้ว”
“แสดงว่าเราจะมีอันตรายหรือครับ?”
(รถมอเตอร์ไซค์คันนั้นขี่ตามไม่ยอมลดละ)
“มิได้การเจ้าค่ะ...ตามมาถึงขนาดนี้พวกเขาย่อมประสงค์ร้ายอย่างแน่นอน”
“ทำยังไงดี?”
“แผนการมีดังนี้นะเจ้าคะ...พี่จะเร่งความเร็วไปจนถึงที่กลับรถใต้สะพานข้างหน้าแล้วหาที่เหมาะๆจอดรถจากนั้นก็จะล่อพวกมันไปอีกทางหนึ่ง”
“ได้ครับ”
“วางใจเจ้าค่ะ...พี่มิยอมให้น้องบอลมีอันตรายแม้เท่าปลายเส้นผมดอก”
...พอพูดจบพี่เอ้ก็เร่งความเร็วรถปานพายุบุแคมไปถึงจุดกลับรถใต้สะพานและทางซ้ายมือมีถนนเล็กจึงเลี้ยวเข้าไปประมาณ 200 เมตรก็จอดข้างทางและเราสองคนรีบลงจากรถวิ่งเข้าไปในพงหญ้า...ตื่นเต้นไม่น้อยเชียวเพราะนี่คือการหนีจากถูก “ล่า” ในสถานการณ์จริง...
“แม่งเอ้ย!!...หายไปไหนวะ?”
“มาแล้ว”
“ชี่~~”
(มีผู้ชายสองคนเดินเข้าไปดูภายในรถของพี่เอ้ซึ่งเมื่อไม่เห็นใครก็แยกย้ายกันไปคนละทาง)
“กูจะดูแถวๆนี้มึงไปดูตรงโน้นซิ!!”
“น้องบอลหลบที่นี่ห้ามออกไปเด็ดขาดนะเจ้าคะ”
“พี่เอ้จะทำอะไร?”
“มีหลายวิธีที่จะจัดการเจ้าค่ะ”
“เหมือนพี่จะออกไปท้าทายพวกมันตรงๆ?”
“อุ๊ย!!...เก่งจังเลย--”
“อย่านะพี่!!...อันตรายมาก...ถ้าพวกมันมีปืนล่ะก็อาจไม่จบแค่บาดเจ็บ”
...ผมจับแขนพี่เอ้ไว้และส่ายหน้าไม่เห็นด้วยแต่เขากลับเอามือแตะที่บ่าก่อนจะจูบที่ปากผมอย่างอ่อนโยน...บ้าจริง--...เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ยังจะทำอะไรเนี่ย?...
“พี่!!”
“คิกๆ...แหม~~...ก็อยากได้กำลังใจนี่เจ้าคะ”
“คนอุตส่าห์เป็นห่วง!”
“ได้ยินน้องบอลพูดว่าเป็นห่วงพี่เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว...เดี๋ยวพี่จะตีหมาสองตัวแล้วหักขามาฝากเจ้าค่ะ”
(พี่เอ้พูดจบก็ลุกเดินจากไป...เรารู้ดีว่าในยามที่เขาถือดาบ “ชิโรเทนเคียว” นั้นจะเก่งกาจมากแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้)
“เจอผู้หญิงแล้ว!!”
“พวกแก...ตามฉันกับแฟนมาทำไมมิทราบ?”
“แฟนเรอะ?”
“เออ!!...ฉันกับแฟนกำลังจะไปมีความสุขกันในม่านรูด...ทำไมอยากจะดูรึ?”
(พี่เอ้พูดซะเราเสียววาบตรงเป้าเลยวุ้ย!!!)
“ไม่ต้องเฉไฉ!!...วันก่อนแกสองคนไปทำอะไรที่ริมตลิ่งแม่น้ำ”
“หืม?...วันก่อน...ริมตลิ่งแม่น้ำ”
(ที่เรากับพี่เอ้ไปคุยกัน!?)
“คนเป็นแฟนกันจะไปจีบกันที่ไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก?...แกทำอะไรล่ะ?...เรื่องชั่วร้ายใช่ไหม?”
“มึงไม่ต้องรู้!!...ปากดีนะอีนี่--...แล้วแฟนมึงไปไหน?”
“ทางนั้นไง”
...พี่เอ้แกล้งชี้นิ้วไปทางอื่นและมันได้ผลเพราะเจ้าหมอนั่นหลงกลหันหน้าไปจริงๆ...ญาติหนุ่มผู้พี่วัย 22 อาศัยจังหวะนั้นชักดาบออกจากฝักแล้วเอาไพล้หลังพลางทำหน้ายิ้มๆ...
“ไม่เห็นมี!!...อีนี่อย่ามาเล่นตลกกับกู”
“เปล่าน๊า~~”
“แล้วซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง?”
“เอ่อคือ...”
“เอาออกมาอย่าเล่นตุกติก”
“เชอะ!”
“ดาบ?...วางลงเดี๋ยวนี้!!”
“ก็ได้ๆ”
“!!!!!”
(พี่เอ้หน้าบึ้งคิ้วขมวดเอาดาบมาถือในมือซ้ายและทำทีจะทิ้งลงพื้นแต่ชั่วพริบตากลับใช้มือขวาจับด้ามดาบแล้วพุ่งเข้าใส่ชายคนนั้นด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อซึ่งกว่าที่เขาจะรู้สึกตัวก็ถูกดาบเสียบที่แขนซ้ายอย่างจังจนล้มคว่ำนอนกลิ้งด้วยความเจ็บปวด...โอ้โฮ!?...ระยะทางเกือบจะสิบเมตรแต่เคลื่อนไหวร่างกายรวดเร็วมาก...แค่ไม่กี่วิก็เรียกเลือดไอ้นั่นได้แล้ว)
“โอ๊ยยยยยยยยยยย~~...แขนกู!!!”
“มะ...มึงเป็นไงมั่งวะ?”
(อีกคนมาถึงแถมถือปืนเตรียมพร้อมจะยิงด้วย...พี่เอ้อันตรายแล้ว!!!)
“อย่าทำอะไรพี่กู!!”
“!!!”
“น้องบอล...ออกจากที่ซ่อนทำไมเจ้าคะ?”
...เหตุที่ผมออกจากที่ซ่อนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของชายคนนั้นและพี่เอ้ก็จะมีโอกาสโจมตีเขาได้...เอ๊ะนี่มัน?...รู้สึกว่าทุกอย่างรอบๆตัวมันช้าลงอย่างชัดเจน...
(การขยับตัวของชายผู้นั้นคือคำตอบที่ชัดแจ้งมากและแน่นอนว่าเบื้องหลังนี้ก็คือหนูหนึ่งกับหนูสอง)
“พ่อจ๋า~~...ทำแบบครั้งก่อนสิ”
“ทำแบบครั้งก่อนที่พ่อหลบมีดน่ะ”
“หนูๆจะให้พ่อทำอะไรเมื่อหลบพ้น?”
“หลบพ้นแล้วพ่อจะทำอะไรต่อนะ?”
“พ่อจะทำอะไรต่อล่ะ?...หักแขนหรือฟาดให้หลังหัก”
(โหดไปหน่อยมั้ง?)
“หนูอยากเห็นคำตอบที่อยู่ในแขนขวาของพ่อ”
“คำตอบที่อยู่ในแขนขวาของพ่อคืออะไร?”
“แขนขวา”
“แก...ตาย!!!”
“น้อง...บอล!!!!”
(ทั้งพี่เอ้และเจ้าผู้ชายคนนั้นล้วนแต่พูดช้าลงไปหมด)
“วิ่งเข้าไปเลยค่ะ”
“ไม่มีอะไรต้องกลัวค่ะ”
“เอ้า!!...เอาก็เอา”
...ผมวิ่งเข้าไปหาชายคนนั้นซึ่งกำลังเหนี่ยวไกปืนและทันทีที่เห็นประกายไฟจากปากกระบอกก็รีบเบี่ยงตัวหลบออกข้างเช่นเดียวกับที่เคยหลบมีดของพี่ม่อน...เมื่อแน่ใจว่าพ้นแน่แล้วก็ตลบเข้าไปด้านหลังของคนยิงและเอามือขวาจับท้ายทอยเพื่อตั้งใจจะผลักให้ล้มแต่กลายเป็นว่าผมคว้าชายคนนั้นเหวี่ยงออกไปไกลหลายเมตร...
“เหลือ...เหลือเชื่อ--”
(พี่เอ้ไม่พูดช้าแล้ว...ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ)
“จัดการมันเร็วครับ!!”
“อื้อๆ”
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย”
(แขนเราทำไมถึงได้มีพลังมากถึงกับยกคนทั้งคนเหวี่ยงกระเด็นไปไกลขนาดนั้น?)
“น้องบอล...พี่มิต้องจัดการอะไรอีก”
“ทำไมครับ?”
“เขาสลบไปแล้วเจ้าค่ะ...เหมือนหัวไหล่จะหักด้วย”
“มะ...ไม่จริงน่ะ!”
..............................................................................................................................................
“อือ--...พวกนี้มันนัดหมายส่งยาใกล้ๆกับตรงที่เมื่อวานเราไปคุยกัน”
“จ้ะ...ก็เลยคิดว่าเราไปรู้เห็นการซื้อขายของผิดกฎหมายจึงตามมาจัดการ”
“พวกสันหลังหวะ!...ไม่ได้รู้อะไรด้วยสักนิด”
(เก่งมากที่พยายามจนหาเราเจอแต่ถ้าไม่ดิ้นรนขนาดนี้พวกมันก็ไม่ซวยหรอกเพราะเมื่อวานเราสนใจแต่ตัวตนของพี่เอ้จนไม่มีเวลาไปสนใจสิ่งอื่นเลย...จริงมั้ย?)
“เรารีบไปกันก่อนดีกว่า...มิอยากถูกสอบปากคำเจ้าค่ะ”
“ครับ”
“แต่น้องบอลเก่งจัง...ไปฝึกอะไรมาเจ้าคะถึงได้มีพละกำลังมากมายเช่นนี้?...ความเร็วอันน่าตกใจนั้นก็ด้วย”
...ตอบยังไงดีล่ะนี่เพราะมันเชื่อได้ยากมากแต่ที่แน่ๆจะต้องเกี่ยวกับการที่ในฝันแขนผมขาดไปและหนูขาลเอามาต่อให้ใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย!?...
“ดวงซวยจริงๆที่มาเจอพี่เอ้”
“หืม?...เจอน้องบอลด้วยต่างหาก...รู้ไหมว่าคนนั้นที่ถูกเหวี่ยงน่ะกระดูกไหล่หักเพราะแรงกระแทกจากน้องบอล?”
“เอ่อ--...มันออกจะน่าเหลือเชื่อไปแล้ว”
“พูดความจริงมาได้แล้วเจ้าค่ะ”
“ผมไม่ได้ทำอะไร”
“ใครจะเชื่อกัน?”
(ฝนโทรมาได้จังหวะพอดี)
“ออกไปไหนกับพี่เอ้น่ะ?”
“ไป...ไปกินข้าว”
“กินข้าว?”
“พี่เอ้มีเรื่องคุยกับฉันนิดนึง”
(ด้นสดมันก็จะติดขัดหน่อย)
“น้องนางหยาดฝนจ๋า~~...หวงสามีขนาดนี้เชียวเหรอ?”
“เปล่าๆๆ...แหม~~...สามี...พี่เอ้พูดซะหนูเขินเลยอ่ะ!!”
“พี่มีอะไรจะคุยกับน้องบอลนิดหน่อยจ้ะ...อีกเดี๋ยวจะพากลับไปส่งแล้ว”
“ค่าๆๆ...หนูจะได้บอกเจ๊กับพี่อ๋อมให้สบายใจ”
“.........................................................”
“เท่านี้ก็จบปัญหา”
...ระหว่างรถจอดติดไฟแดงพี่เอ้ก็หันสบตามองอย่างจริงจังในขณะที่จับมือผมไว้ด้วย...ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงไม่ชักมือออกทั้งที่เราสองคนต่างก็เป็น “ผู้ชาย” ซึ่งธรรมดาที่ผมจะต้องรู้สึกไม่ชอบใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อยแต่...ลูกพี่ลูกน้องคนนี้กลับแตกต่างออกไป...พอมองลึกลงไปในนัยน์ตาของเขาก็คล้ายว่าดำดิ่งสู่จุดที่ลึกที่สุดและไม่อาจหยั่งถึงได้...
(ก่อนที่เราจะคิดหรือทำอะไรต่อพี่เอ้ที่ทีแรกเอาแต่มองก็ประกบริมฝีปากเรา)
“อือออออออ”
(ขะ...เขาพยายาม...จะ...เปิดปากเรา!?)
“อุๆๆๆๆ”
“อืมมมมมมมมมมมมมม”
(ต่อต้านไม่ได้เลย!!...ลิ้นของเราสองคนพัวพันกันไปมา...จูบกับผู้ชายได้ความรู้สึกดีขนาดนี้เชียวหรือ?)
“อุ๊ก!!...พี่...พี่เอ้...จะ...จะไฟเขียวแล้ว!!!”
“รู้แล้วน่า~~...ฮิ!”
(พี่เอ้ออกรถพลางเอานิ้วที่ดูยังไงก็เรียวบางไม่ต่างกับของผู้หญิงป้ายน้ำลายเข้าปากและเหลือบหางตามองเราอย่างมีความนัย)
“แม้ว่าเหตุร้ายจะคลี่คลายไปได้ด้วยดีแต่น้องบอลกระทำการเสี่ยงอันตรายยิ่งกว่าพี่เสียอีก...หากเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นพี่จะมีหน้าไปอธิบายกับทุกคนได้อย่างไร?”
“เพราะผมเชื่อมั่นในตัวพี่เอ้ไงครับ...อือ~~”
“จริงๆนะ...เมื่อครู่เกือบจะทำให้พี่หัวใจวาย...น้องบอล!?...ปะ...เป็นอะไรไปเจ้าคะ?”
(อาการอ่อนเพลียแบบเมื่อวานมาอีกแล้วแต่คราวนี้นอกจากจะหมดแรงแขนขวาก็ยังแทบขยับไม่ได้ด้วย!?)
.............................................................................................................................................................
“พี่ม่อน!”
“อ๋อมอยู่ไหมจ๊ะ?”
“อยู่จ้า~~...หนูไปเรียกให้”
“ไม่ต้องหรอกหยาดฝน...เธอมาก็ดีจะได้ไม่ต้องเสียเวลา...เมื่อวานบอลคุยอะไรกับเธอบ้าง?”
“เอกคเชนทร์มิได้เล่าหรือ?”
“ถ้ารู้จะถามหล่อนมั้ยล่ะ?”
“ใจเย็นคุยกันดีๆ...วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสอากาศเย็นสบายอย่ามาทะเลาะให้ขุ่นเคืองอารมณ์กันเลย”
“สุรีย์พรรณ...ฉันก็ไม่ได้อยากหาเรื่องใครเพราะบอลสั่งให้ทำตัวเรียบร้อยฉันก็จะทำตามนั้น...ศรมุกดา...เรื่องราวเมื่อ 15 ปีก่อนที่ทำให้เราสองคนต้องขัดแย้งกันสมควรที่มันจะต้องจบลงเสียที...ฉันขอโทษพี่ด้วยนะ”
“เฮ้ย!!!”
“!?”
..........................................................................................................................................................
สวัสดีปีใหม่ 2565 ครับ...ปีนี้ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวต่อไปด้วยนะครับ