หน้าเว็บ

วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2565

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 106

 ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 106 “คำตอบที่อยู่ในแขนขวา!?

 

(หลังจากเหตุระทึกขวัญผ่านพ้นไปเราก็ล้มตัวนอนกับพื้นและพอมองที่ไหล่ขวาก็อดถอนหายใจไม่ได้)

“เป็นอย่างนั้นก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องมีหญิงสาวมาหลงรัก”

“แต่...ให้เลือกได้พ่ออยากเป็นเหมือนคนปกติ...เอาเถอะ...แขนข้างนี้ถ้าช่วยชีวิตลูกได้พ่อก็ยินดี”

“ที่แม่รักพ่อมากก็เพราะอย่างนี้...ข้าเข้าใจแล้ว”

!?

...เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เสือทองอันมีร่างกายที่น่าเกรงขามได้แปรเปลี่ยนเป็นเด็กหญิงผิวขาวหมดจดสวมชุดคลุมสีทองอร่ามเปล่งแสงระยิบระยับเฉียงเปิดไหล่ขวาไว้ผมสั้นประบ่าสีดำขลับและมีตาสองข้างสีเหลืองดุจอำพัน..อืมๆ...หน้าตาหมดจดจิ้มลิ้มไม่เบาแต่ก็ดุเอาเรื่องและในมือยังถือแขนขวาของผมไว้ด้วย...

“อยู่นิ่งๆ...จะต่อแขนให้”

“.................................................................”

“พ่อไม่ผ่านการทดสอบของข้า”

“รู้อยู่แล้ว...ฮะๆ”

“ยังจะหัวเราะ!

“หนูหงุดหงิดง่ายจัง”

“ใช่...ข้ามักจะอารมณ์ร้าย...รู้แบบนี้ไม่ต้องมารักกันมากก็ได้เพราะข้านิสัยไม่ดีเหมือนคนอื่น”

“ไม่ใช่อย่างนั้น...พ่อรักลูกทุกคนไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม”

“.................................................................”

“โดยเฉพาะหนูที่ห้าวหาญไม่เกรงกลัวใคร...ดูตาของหนูแล้วพ่อยังกลัวเลย”

“ปากบอกกลัวแต่ทำหน้าทะเล้นยิ้มกรุ้มกริ่ม”

(ถึงจะดุไปหน่อยแต่หนูน้อยก็มีจิตใจดีสังเกตได้จากระหว่างที่ต่อแขนเธอจะค่อยๆทำอย่างนุ่มนวล)

“เสร็จแล้ว...พ่อลองขยับดู”

(นอกจากเราจะได้แขนขวากลับคืนมาแล้วยังใช้การได้ดีเหมือนเดิมอีกด้วย!!!...จะมีอะไรที่ดีไปกว่านี้อีก?)

“หนูช่างเหมือนแม่เหลือเกิน”

“ก็ต้องเหมือนน่ะสิ”

“แล้วลูกล่ะเป็นยังไงบ้างบาดเจ็บตรงไหน?...ให้พ่อดูหน่อย”

“แค่นี้ข้าไม่เห็นจะเจ็บเท่าไหร่”

“แขนซ้ายหนูมีรอยช้ำ”

“บอกว่าไม่เป็นอะไร”

“น่าๆ...พันไว้ก่อนดีกว่า...ลูกของพ่อคนนี้เก่งที่สุดแต่ก็ดูแลตัวเองหน่อย”

“ผ้าที่เคยใช้ซับเลือดเจ้านกบ้านั่น...ข้าจะฉีกทิ้งซะ”

“ฉีกไปพ่อก็หาอันใหม่มาพันให้อยู่ดี”

“ฮึ!!

หนูชื่ออะไร?”

“ศรแก้วสุดา...อายุ 8 ขวบเป็นลูกสาวของแม่ศรบุษราคัมและ...พ่อเอกคเชนทร์”

(อายุเท่าหนูรีย์?)

“ชื่อเพราะจังเลย...ชื่อเล่นล่ะจ๊ะ?”

“...ขาล”

“เอ๊ะ?...ขาล...ปีขาลน่ะหรือ?”

“ใช่...ที่แปลว่าเสือไง”

(ชื่อจริงฟังแล้วไพเราะสมเป็นกุลสตรีดีแต่ชื่อเล่นนี่สิ...เด็กผู้หญิงใช้ชื่อแบบนี้มันยังไงๆอยู่นา?)

“ใครตั้งให้เนี่ย?...ต้องเป็นแม่แน่ๆใช่มั้ย?”

“ก็พ่อน่ะแหละ”

!?

..........................................................................................................................................................

 

“ตัวเองตื่นแล้วเหรอ?”

“นายเป็นไงมั่ง?”

“เจ็บแขนขวาหรือไง?”

(ตื่นขึ้นมาในโลกความจริงก็อดไม่ได้ที่จะลองขยับแขนขวาจนสาวๆถาม...ไม่มีอะไรผิดปกติ)

“...ไม่มีอะไรครับ...ผมแค่ฝันไปเท่านั้น”

“เธอฝันว่าอะไร?”

“...ถูกเสือกัดแขนขาด”

“ฮื่อ~~...จะมีเรื่องดีนี่หว่า!!

“ดียังไงอ่ะพี่อ๋อม?...น่ากลัวออก”

“ฝันว่าถูกเสือกัดเขาว่าจะได้ลาภจากเพศตรงข้าม”

“ทุกวันนี้ก็ได้อยู่แล้วไม่ใช่รึ?”

(พี่แคทพูดอะไรเนี่ย!?)

“แล้วลาภนี่มันคืออะไร?”

“ฉันจะรู้ได้ยังไง?”

“ถ้างั้นผมคิดว่าได้มาแล้วล่ะ”

...จะมีเรื่องอะไรน่ายินดีไปกว่าที่ได้รู้ว่าตัวเองมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคนคือหนู “ศรแก้วสุดา” หรือ “ขาล” ที่ทั้งน่าเกรงขามและน่ารักน่าชังและถึงจะชอบทำหน้าดุใส่แต่เธอก็ห่วงใยผมมาก...ไม่น่าเลย...มีเรื่องคุยด้วยเยอะแยะไปหมดแท้ๆแต่กลับรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาซะได้...

(พี่เอ้โทรมา)

“พรุ่งนี้ช่วงสายๆสะดวกไหมเจ้าคะ?”

“นี่พี่ยังทำตัวเป็นผู้หญิงอีกหรือเนี่ย?”

“ก็เวลานี้พี่เป็นผู้หญิงไงล่ะเจ้าคะ”

“เฮ่อ!...ช่างเหอะๆ...พี่มีอะไรครับ?”

“พี่จะชวนไปซื้อของ”

“อ่า--...ก็ได้ครับ”

“09.00 น. น้องบอลออกมารอที่หน้าบ้านเจ้าค่ะ”

“เข้าใจแล้วครับ”

.................................................................................................................................................

 

“เชิญขึ้นรถเจ้าค่ะ”

“พี่เอ้”

“เจ้าคะ?”

“ถ้าพี่เป็นผู้หญิงจริงๆล่ะก็ผมไม่ปล่อยให้รอดมือแน่”

“ทำไมหรือเจ้าคะ?”

“พี่น่ะเหมือนผู้หญิงมากเกินไปแล้ว”

“บอกว่าพี่เป็นผู้หญิงเลยก็ได้”

(โธ่~~...แน่จริงนายเปิดกระโปรงให้ดูสิ!!)

“เมื่อวานสำเร็จด้วยดีนะเจ้าคะ”

“หูตาพี่ยังกว้างไกลเหมือนเดิม”

“ฮะๆๆ...จะถือว่าน้องบอลชมล่ะกัน”

“ไม่รู้พี่ม่อนจะว่ายังไงเพราะเธอก็ไม่ได้บอกอะไร”

“น้องนางศรมุกดาที่พี่รู้จักแม้จะทำอะไรลึกลับอยู่เนืองๆทว่าก็เป็นผู้ที่รักษาคำพูด...หากนางเอ่ยปากยอมรับความพ่ายแพ้ก็จะเป็นไปตามนั้นแต่วิธีการของน้องบอลอันตรายเกินไปมิสมควรกระทำอีกเจ้าค่ะ”

“ผมรู้ว่าอันตรายแต่มันจำเป็น”

“นับวันน้องบอลยิ่งทำให้พี่ประหลาดใจ...ครั้งที่สองแล้วนะเจ้าคะ”

(ครั้งแรกเขาหมายถึงตอนเราถูก “สิง” แล้วเล่นงานคนของพี่เซคแทบปางตาย)

“ก็บอกไม่รู้กี่ครั้งว่านั่นไม่ใช่ผม”

“เจ้าค่าๆ”

...พี่เอ้พาผมมาที่สวนขายต้นไม้ซึ่งเขาบอกว่าจะซื้อพันธุ์ไม้ดอกไปปลูกที่บ้านพี่เซค...ผมก็ไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่หรอกแต่ไม่รู้เป็นไงถึงเต็มใจเดินดูกับญาติหนุ่มผู้พี่โดยไม่ปริปากบ่นสักคำ...

“ต้นนี้ก็สวยต้นนั้นก็งาม”

“พี่ซื้อเยอะไปหรือเปล่า?”

“ท่านพี่ศรเพทายสั่งมาว่าให้เอาไปเยอะๆ”

“แต่ขนไปหมดนี่คงเอาใส่รถไม่ได้ครับ”

“อีกสักครู่คนของบ้านท่านพี่ศรเพทายจะขับรถกระบะมาขนเจ้าค่ะ”

“อ๋อๆ”

“เราเข้าไปดูข้างในต่อ”

(นี่ยังไม่มากพออีกรึ?)

“...ตรงนั้นแขวนไว้สูงจัง--”

“ถ้าพี่เอื้อมไม่ถึงผมก็เหมือนกันแหละ...ให้เขาเอาไม้มาเขี่ยเถอะ”

(เพราะพี่เอ้สูงไล่เลี่ยกับเรา...โอ๊ะ!?...กระเป๋าเงินหล่น)

“อึ๊บ!!

(ยังจะพยายามเอื้อมหยิบกระถางแขวนกล้วยไม้มาดูจนได้...อะ...อื๋อ?)

“อ่า--...ก็สวยดีเหมือนกัน”

(ใช่...สวยๆๆ...กางเกงในสีขาวอวดโฉมเต็มตาเราเลย...เฮ่ย!?...ผู้ชายอะไรทำไมบั้นท้ายถึงสวยได้รูปแบบนี้?)

“น้องบอลคิดว่าสวยไหม?...อ๋า~~...ลามก!...แอบมองกางเกงในพี่อีกแล้ว!!

“อะ...เอ้ย!!...ผม...ผมไม่ได้ดูนะ...ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”

“โกหก!...กล้าดูแต่มิกล้ายอมรับ”

“มันไม่ใช่!

“มิใช่อะไรเจ้าคะ?”

...เออ--...ดูก็ดูวะยอมรับ!!!...ผมน่ะเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่แล้ว...ยังไงวันนี้ก็ต้องรู้ให้ได้ว่าพี่เอ้สุดหล่อหน้าหยกแต่แตกสาวนี่เป็นชายหรือหญิงกันแน่?...

“น้องบอล!?

“จะว่าไป...ผมยังไม่เคยสนิทแนบชิดตามประสาผู้ชายกับพี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว”

“เอ๋?”

“พี่เอ้นี่รอบอกเท่าไหร่น๊า?...ผมดูล่ำกว่าก็จริงแต่อกของพี่ไหงถึงใหญ่กว่าของผมอีกแฮะ”

“มิ...ถึงขนาดนั้นดอก...เอ่อ--...จะทำอะไรเจ้าคะ?”

(เราคว้าตัวพี่เอ้มาอยู่ในอ้อมกอดและสังเกตอากัปกิริยา...ไหงร่างกายของเขาถึงได้บอบบางยังกับผู้หญิงแต่บริเวณอกกลับนูนยิ่งกว่าผู้ชายอย่างเรา!?...อุ!...พอยิ่งสบตากันพี่เอ้ก็หน้าแดงมากขึ้นเรื่อยๆด้วย)

“แน่ะ!!...อย่าบอกนะเจ้าคะว่าน้องบอลหลงเสน่ห์พี่แล้ว?”

(พยายามจะทำใจดีสู้เสือผู้หญิงอย่างเราหรือเปล่า?)

“ที่นี่มิเหมาะเจ้าค่ะ...เดี๋ยวคนมาเห็น--”

“ผมไม่กลัวสักหน่อย”

“ตกลงจะทำอะไรกัน?”

(ลองจูบดูซิ)

“อื้ม--”

(ความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับตอนจูบพี่แคทหรือฝนเลย)

“หยะ...หยุดเจ้าค่ะ!!!

!!

“ออกจะหยาบคายไปสักหน่อยนะ...จูบให้เคลิบเคลิ้มแล้วฉวยโอกาสจะล้วงจับของสงวน”

(หน้าบึ้งเชียว...ทำให้โกรธซะแล้ว!!)

“นิสัยใช้มิได้...มิรู้กาลเทศะเลยเจ้าค่ะ...ขึ้นรถ!!

...จ๋อยเลยผมครั้งนี้เล่นหนักไปหน่อย...พี่เอ้ไม่พูดอะไรเลยสักคำทำให้บรรยากาศภายในรถอึดอัดมาก...

“ผมขอโทษครับ”

“..........................................................”

“ยกโทษให้สักครั้งนะครับที่ผมทำอะไรขาดสติไป”

“..........................................................”

“พี่จะให้ผมทำอะไรก็ได้...”

“คิก!

!?

“คิกๆๆๆ”

“พี่เอ้...พี่ไม่ได้โกรธผมเรอะ?”

“เปล่า...แค่แกล้งน้องบอลเล่นๆ”

“หนอยแน่ะ--”

“อ๋า!?...คนที่ต้องโกรธสมควรจะเป็นพี่นะเจ้าคะ...น้องบอลเล่นพิเรนทร์จริงเชียว...น่าตีนัก!!

“นั่น...”

“ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นน้องบอลโดนตบหน้าหันไปแล้ว...อยู่ดีๆก็จะมาจับ...พี่...พี่มิพูดด้วยล่ะ!!

(หน้าแดงอีกแล้วแต่ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มซึ่งแสดงว่าไม่ได้โกรธเราจริงๆ)

“พี่เอ้”

“..........................................................”

“พี่”

“ฮื่อ~~

“คุยกับผมหน่อยสิ”

“รู้แล้ว~~

“..........................................................”

“อะไรที่พี่ยังมิอยากให้รู้น้องบอลก็อย่าเพิ่งใจเร็วด่วนได้เลย”

“ครับ...ผมขอโทษจริงๆที่เสียมารยาท”

“เจ้าค่า--...ที่พี่มิถือสาหาความก็เพราะน้องบอลเป็นคนที่พี่ชอบดอก”

“หา?”

“ก็เคยบอกไปแล้วมิใช่หรือ?”

(กับคนที่ชอบกระผมรู้ไปหมดทุกอย่างแหละขอรับ)

“โธ่เอ้ย~~...อย่างนี้ยิ่งทำให้อยากรู้เข้าไปใหญ่”

“อย่าใจร้อนซี่--...หืม?”

“อะไรหรือครับ?”

“มีคนขี่รถตามเรามา”

“จริงด้วย!...พี่ไปทำอะไรหรือเปล่าเนี่ย?”

“ใจร้าย~~...พี่มิใช่คนอันธพาลที่จะเที่ยวหาเรื่องผู้ใดสักหน่อย!

“เอ่อ--...ผมก็ไม่ได้...”

“ชิ!...งอน”

“พี่เอ้”

“มิรู้!...งอน”

(ให้ตายสิ--...อื๋อ?...ให้เราหอมแก้มง้องั้นเรอะ?)

“เวลาแบบนี้ยังจะ...”

“เร็วๆเจ้าค่ะ”

“อ่ะๆๆ...ก็ได้ๆ”

“ว้าย!!

(หอมจังและที่สำคัญกว่านั้น...ไอ้ที่ร้อง “ว้าย” เมื่อกี้ทำเอาเราใจเต้นโครมครามไปหมด!!!!)

“แล้วจะจับหน้าอกพี่ทำไมอ่ะ?...เพิ่งดุไปหยกๆเองว่าอย่าเล่นพิเรนทร์”

“ทำไม...มันนุ่มขนาดนี้?...ยังกะ...นมจริงๆแน่ะ”

“ฮึ!...พี่รู้ว่าน้องบอลจงใจแต่เรื่องนี้เอาไว้ก่อน...ดูท่าเราจะเจอปัญหาเสียแล้ว”

“แสดงว่าเราจะมีอันตรายหรือครับ?”

(รถมอเตอร์ไซค์คันนั้นขี่ตามไม่ยอมลดละ)

“มิได้การเจ้าค่ะ...ตามมาถึงขนาดนี้พวกเขาย่อมประสงค์ร้ายอย่างแน่นอน”

“ทำยังไงดี?”

“แผนการมีดังนี้นะเจ้าคะ...พี่จะเร่งความเร็วไปจนถึงที่กลับรถใต้สะพานข้างหน้าแล้วหาที่เหมาะๆจอดรถจากนั้นก็จะล่อพวกมันไปอีกทางหนึ่ง”

“ได้ครับ”

“วางใจเจ้าค่ะ...พี่มิยอมให้น้องบอลมีอันตรายแม้เท่าปลายเส้นผมดอก”

...พอพูดจบพี่เอ้ก็เร่งความเร็วรถปานพายุบุแคมไปถึงจุดกลับรถใต้สะพานและทางซ้ายมือมีถนนเล็กจึงเลี้ยวเข้าไปประมาณ 200 เมตรก็จอดข้างทางและเราสองคนรีบลงจากรถวิ่งเข้าไปในพงหญ้า...ตื่นเต้นไม่น้อยเชียวเพราะนี่คือการหนีจากถูก “ล่า” ในสถานการณ์จริง...

“แม่งเอ้ย!!...หายไปไหนวะ?”

“มาแล้ว”

“ชี่~~

(มีผู้ชายสองคนเดินเข้าไปดูภายในรถของพี่เอ้ซึ่งเมื่อไม่เห็นใครก็แยกย้ายกันไปคนละทาง)

“กูจะดูแถวๆนี้มึงไปดูตรงโน้นซิ!!

“น้องบอลหลบที่นี่ห้ามออกไปเด็ดขาดนะเจ้าคะ”

“พี่เอ้จะทำอะไร?”

“มีหลายวิธีที่จะจัดการเจ้าค่ะ”

“เหมือนพี่จะออกไปท้าทายพวกมันตรงๆ?”

“อุ๊ย!!...เก่งจังเลย--”

“อย่านะพี่!!...อันตรายมาก...ถ้าพวกมันมีปืนล่ะก็อาจไม่จบแค่บาดเจ็บ”

...ผมจับแขนพี่เอ้ไว้และส่ายหน้าไม่เห็นด้วยแต่เขากลับเอามือแตะที่บ่าก่อนจะจูบที่ปากผมอย่างอ่อนโยน...บ้าจริง--...เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ยังจะทำอะไรเนี่ย?...

“พี่!!

“คิกๆ...แหม~~...ก็อยากได้กำลังใจนี่เจ้าคะ”

“คนอุตส่าห์เป็นห่วง!

“ได้ยินน้องบอลพูดว่าเป็นห่วงพี่เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว...เดี๋ยวพี่จะตีหมาสองตัวแล้วหักขามาฝากเจ้าค่ะ”

(พี่เอ้พูดจบก็ลุกเดินจากไป...เรารู้ดีว่าในยามที่เขาถือดาบ “ชิโรเทนเคียว” นั้นจะเก่งกาจมากแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้)

“เจอผู้หญิงแล้ว!!

“พวกแก...ตามฉันกับแฟนมาทำไมมิทราบ?”

“แฟนเรอะ?”

“เออ!!...ฉันกับแฟนกำลังจะไปมีความสุขกันในม่านรูด...ทำไมอยากจะดูรึ?”

(พี่เอ้พูดซะเราเสียววาบตรงเป้าเลยวุ้ย!!!)

“ไม่ต้องเฉไฉ!!...วันก่อนแกสองคนไปทำอะไรที่ริมตลิ่งแม่น้ำ”

“หืม?...วันก่อน...ริมตลิ่งแม่น้ำ”

(ที่เรากับพี่เอ้ไปคุยกัน!?)

“คนเป็นแฟนกันจะไปจีบกันที่ไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก?...แกทำอะไรล่ะ?...เรื่องชั่วร้ายใช่ไหม?”

“มึงไม่ต้องรู้!!...ปากดีนะอีนี่--...แล้วแฟนมึงไปไหน?”

“ทางนั้นไง”

...พี่เอ้แกล้งชี้นิ้วไปทางอื่นและมันได้ผลเพราะเจ้าหมอนั่นหลงกลหันหน้าไปจริงๆ...ญาติหนุ่มผู้พี่วัย 22 อาศัยจังหวะนั้นชักดาบออกจากฝักแล้วเอาไพล้หลังพลางทำหน้ายิ้มๆ...

“ไม่เห็นมี!!...อีนี่อย่ามาเล่นตลกกับกู”

“เปล่าน๊า~~

“แล้วซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง?”

“เอ่อคือ...”

“เอาออกมาอย่าเล่นตุกติก”

“เชอะ!

“ดาบ?...วางลงเดี๋ยวนี้!!

“ก็ได้ๆ”

!!!!!

(พี่เอ้หน้าบึ้งคิ้วขมวดเอาดาบมาถือในมือซ้ายและทำทีจะทิ้งลงพื้นแต่ชั่วพริบตากลับใช้มือขวาจับด้ามดาบแล้วพุ่งเข้าใส่ชายคนนั้นด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อซึ่งกว่าที่เขาจะรู้สึกตัวก็ถูกดาบเสียบที่แขนซ้ายอย่างจังจนล้มคว่ำนอนกลิ้งด้วยความเจ็บปวด...โอ้โฮ!?...ระยะทางเกือบจะสิบเมตรแต่เคลื่อนไหวร่างกายรวดเร็วมาก...แค่ไม่กี่วิก็เรียกเลือดไอ้นั่นได้แล้ว)

“โอ๊ยยยยยยยยยยย~~...แขนกู!!!

“มะ...มึงเป็นไงมั่งวะ?”

(อีกคนมาถึงแถมถือปืนเตรียมพร้อมจะยิงด้วย...พี่เอ้อันตรายแล้ว!!!)

“อย่าทำอะไรพี่กู!!

!!!

“น้องบอล...ออกจากที่ซ่อนทำไมเจ้าคะ?”

...เหตุที่ผมออกจากที่ซ่อนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของชายคนนั้นและพี่เอ้ก็จะมีโอกาสโจมตีเขาได้...เอ๊ะนี่มัน?...รู้สึกว่าทุกอย่างรอบๆตัวมันช้าลงอย่างชัดเจน...

(การขยับตัวของชายผู้นั้นคือคำตอบที่ชัดแจ้งมากและแน่นอนว่าเบื้องหลังนี้ก็คือหนูหนึ่งกับหนูสอง)

“พ่อจ๋า~~...ทำแบบครั้งก่อนสิ”

“ทำแบบครั้งก่อนที่พ่อหลบมีดน่ะ”

“หนูๆจะให้พ่อทำอะไรเมื่อหลบพ้น?”

“หลบพ้นแล้วพ่อจะทำอะไรต่อนะ?”

“พ่อจะทำอะไรต่อล่ะ?...หักแขนหรือฟาดให้หลังหัก”

(โหดไปหน่อยมั้ง?)

“หนูอยากเห็นคำตอบที่อยู่ในแขนขวาของพ่อ”

“คำตอบที่อยู่ในแขนขวาของพ่อคืออะไร?”

“แขนขวา”

“แก...ตาย!!!

“น้อง...บอล!!!!

(ทั้งพี่เอ้และเจ้าผู้ชายคนนั้นล้วนแต่พูดช้าลงไปหมด)

“วิ่งเข้าไปเลยค่ะ”

“ไม่มีอะไรต้องกลัวค่ะ”

“เอ้า!!...เอาก็เอา”

...ผมวิ่งเข้าไปหาชายคนนั้นซึ่งกำลังเหนี่ยวไกปืนและทันทีที่เห็นประกายไฟจากปากกระบอกก็รีบเบี่ยงตัวหลบออกข้างเช่นเดียวกับที่เคยหลบมีดของพี่ม่อน...เมื่อแน่ใจว่าพ้นแน่แล้วก็ตลบเข้าไปด้านหลังของคนยิงและเอามือขวาจับท้ายทอยเพื่อตั้งใจจะผลักให้ล้มแต่กลายเป็นว่าผมคว้าชายคนนั้นเหวี่ยงออกไปไกลหลายเมตร...

“เหลือ...เหลือเชื่อ--”

(พี่เอ้ไม่พูดช้าแล้ว...ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ)

“จัดการมันเร็วครับ!!

“อื้อๆ”

“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย”

(แขนเราทำไมถึงได้มีพลังมากถึงกับยกคนทั้งคนเหวี่ยงกระเด็นไปไกลขนาดนั้น?)

“น้องบอล...พี่มิต้องจัดการอะไรอีก”

“ทำไมครับ?”

“เขาสลบไปแล้วเจ้าค่ะ...เหมือนหัวไหล่จะหักด้วย”

“มะ...ไม่จริงน่ะ!

..............................................................................................................................................

 

“อือ--...พวกนี้มันนัดหมายส่งยาใกล้ๆกับตรงที่เมื่อวานเราไปคุยกัน”

“จ้ะ...ก็เลยคิดว่าเราไปรู้เห็นการซื้อขายของผิดกฎหมายจึงตามมาจัดการ”

“พวกสันหลังหวะ!...ไม่ได้รู้อะไรด้วยสักนิด”

(เก่งมากที่พยายามจนหาเราเจอแต่ถ้าไม่ดิ้นรนขนาดนี้พวกมันก็ไม่ซวยหรอกเพราะเมื่อวานเราสนใจแต่ตัวตนของพี่เอ้จนไม่มีเวลาไปสนใจสิ่งอื่นเลย...จริงมั้ย?)

“เรารีบไปกันก่อนดีกว่า...มิอยากถูกสอบปากคำเจ้าค่ะ”

“ครับ”

“แต่น้องบอลเก่งจัง...ไปฝึกอะไรมาเจ้าคะถึงได้มีพละกำลังมากมายเช่นนี้?...ความเร็วอันน่าตกใจนั้นก็ด้วย”

...ตอบยังไงดีล่ะนี่เพราะมันเชื่อได้ยากมากแต่ที่แน่ๆจะต้องเกี่ยวกับการที่ในฝันแขนผมขาดไปและหนูขาลเอามาต่อให้ใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย!?...

“ดวงซวยจริงๆที่มาเจอพี่เอ้”

“หืม?...เจอน้องบอลด้วยต่างหาก...รู้ไหมว่าคนนั้นที่ถูกเหวี่ยงน่ะกระดูกไหล่หักเพราะแรงกระแทกจากน้องบอล?”

“เอ่อ--...มันออกจะน่าเหลือเชื่อไปแล้ว”

“พูดความจริงมาได้แล้วเจ้าค่ะ”

“ผมไม่ได้ทำอะไร”

“ใครจะเชื่อกัน?”

(ฝนโทรมาได้จังหวะพอดี)

“ออกไปไหนกับพี่เอ้น่ะ?”

“ไป...ไปกินข้าว”

“กินข้าว?”

“พี่เอ้มีเรื่องคุยกับฉันนิดนึง”

(ด้นสดมันก็จะติดขัดหน่อย)

“น้องนางหยาดฝนจ๋า~~...หวงสามีขนาดนี้เชียวเหรอ?”

“เปล่าๆๆ...แหม~~...สามี...พี่เอ้พูดซะหนูเขินเลยอ่ะ!!

“พี่มีอะไรจะคุยกับน้องบอลนิดหน่อยจ้ะ...อีกเดี๋ยวจะพากลับไปส่งแล้ว”

“ค่าๆๆ...หนูจะได้บอกเจ๊กับพี่อ๋อมให้สบายใจ”

“.........................................................”

“เท่านี้ก็จบปัญหา”

...ระหว่างรถจอดติดไฟแดงพี่เอ้ก็หันสบตามองอย่างจริงจังในขณะที่จับมือผมไว้ด้วย...ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงไม่ชักมือออกทั้งที่เราสองคนต่างก็เป็น “ผู้ชาย” ซึ่งธรรมดาที่ผมจะต้องรู้สึกไม่ชอบใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อยแต่...ลูกพี่ลูกน้องคนนี้กลับแตกต่างออกไป...พอมองลึกลงไปในนัยน์ตาของเขาก็คล้ายว่าดำดิ่งสู่จุดที่ลึกที่สุดและไม่อาจหยั่งถึงได้...

(ก่อนที่เราจะคิดหรือทำอะไรต่อพี่เอ้ที่ทีแรกเอาแต่มองก็ประกบริมฝีปากเรา)

“อือออออออ”

(ขะ...เขาพยายาม...จะ...เปิดปากเรา!?)

“อุๆๆๆๆ”

“อืมมมมมมมมมมมมมม”

(ต่อต้านไม่ได้เลย!!...ลิ้นของเราสองคนพัวพันกันไปมา...จูบกับผู้ชายได้ความรู้สึกดีขนาดนี้เชียวหรือ?)

“อุ๊ก!!...พี่...พี่เอ้...จะ...จะไฟเขียวแล้ว!!!

“รู้แล้วน่า~~...ฮิ!

(พี่เอ้ออกรถพลางเอานิ้วที่ดูยังไงก็เรียวบางไม่ต่างกับของผู้หญิงป้ายน้ำลายเข้าปากและเหลือบหางตามองเราอย่างมีความนัย)

“แม้ว่าเหตุร้ายจะคลี่คลายไปได้ด้วยดีแต่น้องบอลกระทำการเสี่ยงอันตรายยิ่งกว่าพี่เสียอีก...หากเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นพี่จะมีหน้าไปอธิบายกับทุกคนได้อย่างไร?”

“เพราะผมเชื่อมั่นในตัวพี่เอ้ไงครับ...อือ~~

“จริงๆนะ...เมื่อครู่เกือบจะทำให้พี่หัวใจวาย...น้องบอล!?...ปะ...เป็นอะไรไปเจ้าคะ?”

(อาการอ่อนเพลียแบบเมื่อวานมาอีกแล้วแต่คราวนี้นอกจากจะหมดแรงแขนขวาก็ยังแทบขยับไม่ได้ด้วย!?)

.............................................................................................................................................................

 

“พี่ม่อน!

“อ๋อมอยู่ไหมจ๊ะ?”

“อยู่จ้า~~...หนูไปเรียกให้”

“ไม่ต้องหรอกหยาดฝน...เธอมาก็ดีจะได้ไม่ต้องเสียเวลา...เมื่อวานบอลคุยอะไรกับเธอบ้าง?”

“เอกคเชนทร์มิได้เล่าหรือ?”

“ถ้ารู้จะถามหล่อนมั้ยล่ะ?”

“ใจเย็นคุยกันดีๆ...วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสอากาศเย็นสบายอย่ามาทะเลาะให้ขุ่นเคืองอารมณ์กันเลย”

“สุรีย์พรรณ...ฉันก็ไม่ได้อยากหาเรื่องใครเพราะบอลสั่งให้ทำตัวเรียบร้อยฉันก็จะทำตามนั้น...ศรมุกดา...เรื่องราวเมื่อ 15 ปีก่อนที่ทำให้เราสองคนต้องขัดแย้งกันสมควรที่มันจะต้องจบลงเสียที...ฉันขอโทษพี่ด้วยนะ”

“เฮ้ย!!!

!?

..........................................................................................................................................................

สวัสดีปีใหม่ 2565 ครับ...ปีนี้ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวต่อไปด้วยนะครับ