หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 71



ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 71 “เทพธิดาผู้คลุ้มคลั่ง!!!!...ผีไร้ศาล!?

“...รู้สึกแย่ชะมัด~~...ใบหน้ายัยแก่มันยังวนเวียนอยู่ในหัวสมองผม”
“ก็ลืมๆไปสิ...ไม่ต้องจำ”
“มันง่ายซะเมื่อไหร่ครับ?...พี่ไม่ได้เจอแบบตั้งตัวไม่ทันอย่างผมนี่!!!
“เธอโกรธผิดคนล่ะ”
“ผมก็ไม่ได้โกรธพี่แคทหรอก...พี่ม่อนทำเกินไปแล้ว!!...ผมไปทำอะไรให้เธอแค้นเคืองตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“...ยังน้อยน่ะ”
“นี่เรอะน้อย?”
“ใช่...เวลานี้น้องม่อนยังเอ็นดูเธออยู่”
“............................................”
...เอ็นดูบ้าบออะไรเล่นซะผมอ้วกแตกหมดฟอร์มไม่เป็นท่าเลย!?...สวมหน้ากากหญิงแก่แต่เสือกใส่ชุดนักศึกษากระโปรงสั้นจู๋เสียฉิบ!!!...มีแต่คนสติไม่ดีเท่านั้นที่จะทำ...
(แต่จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะทุกอย่างนะเพราะขาพี่ม่อนน่ะทั้งเรียวยาวและขาวสวยไม่เบาเชียว...เอ้ย!?...ใจอ่อนอีกแล้วนะโว้ย!!!)
“ม่อนเธอรูปร่างดีนะ...ว่ามั้ย?”
“...นั่นใช่ของจริงหรือ?”
“อื้อ!!...นอกจากหน้ากากแล้วที่อื่นของแท้แน่นอน”
“เชอะ!!
“...กลับบ้านเถอะ”
“ผมขอล้างปากอีกหน่อย”
“............................................”
“ลำธารที่นี่แปลกนะครับ?”
“ยังไง?”
“ก็มันไหลผ่านผิวถนนเลย”
“ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน?...ที่อื่นก็มีเยอะแยะ”
“ผมไม่เคยเห็น”
“...เติบโตมาในเมืองก็อย่างนี้แหละ”
“อา--...เย็นสดชื่นดีจัง”
“แต่เมื่อกี้...เธอไม่ควรจะเอาเท้ากระทืบชมพู่ลูกนั้น”
“ก็มันน่าโมโหที่สุด!!!...เอาของกินมาขว้างปาใส่กันแล้วยังมาทำเป็นสั่งสอนให้ผมรู้จักคุณค่า...ถ้าเป็นพี่จะทำยังไง?”
“พี่รึ?”
“คงจะไม่บอกว่าเก็บขึ้นมาเช็ดๆแล้วก็ยัดใส่ปากหรอกนะ?”
“ใช่”
“ห๊า?”
“พี่จะเอาไปล้างน้ำให้สะอาดก่อนกิน”
“บ้า...บ้าไปแล้ว!!
“ตอนเด็กพี่เคยทำ...จะบ้าอะไร?”
“เอ๋?”
“เดิมทีน่ะพี่ไม่ได้สนิทกับม่อนหรอกนะและออกจะเป็นคนแปลกหน้ากันด้วย...นานๆก็จะเจอหน้าสักครั้ง”
...เพื่อให้ผมหายสงสัยพี่แคทจึงเปิดปากเล่าให้ฟังถึงเศษเสี้ยวหนึ่งของความทรงจำในวัยเยาว์เมื่อครั้งตอนเธออายุ 5 ขวบเศษ...
“นั่นเพราะน้องม่อนเป็นคนเก็บตัวไม่ชอบคบหาใคร”
“งั้นก็เหมือนพี่น่ะสิ”
“ฉันยังเทียบไม่ติด”
“อื้อฮือ~~
“วันนั้น...พี่หนีไปเล่นนอกบ้านเพราะเบื่อเลี้ยงฝน”
“ฮะฮ่าๆๆ”
“หัวเราะอะไรหึ?”
“นี่พี่แคทก็รู้จักเบื่อเลี้ยงน้องเหมือนกันแฮะ”
“นั่นมันตอนเด็กยังไงก็ต้องมีกันบ้างน่า--...ฟังเงียบๆ!!
(แล้วมาทำเสียงดุใส่เราซะงั้น?)
“พี่เดินเรื่อยมาจนถึงป่าด้านหลังหมู่บ้านโยนกบูรพาซึ่งทีแรกก็ไม่รู้ว่าม่อนชอบอยู่ที่นั่น”
“.............................................”
“อืม--...พี่หลงเดินเข้าไปโดยไม่รู้อะไรจนมาถึงต้นส้มเขียวหวานที่ออกผลเต็มต้นไปหมด...น่ากินมากเลยล่ะแต่ก่อนที่พี่จะเอื้อมมือไปปลิด...”
(“หยุดนะเธอ!!...นี่เป็นส้มของม่อน”
“ใครน่ะ?...โอ้ย!!!
“เซ่อจริง--...ฉันอยู่บนนี้!!
“แกล้งฉันเรอะ?”
“ฮะๆ”
“เอ๊ะเธอ?...น้องม่อนลูกป้าเอ็ม”
“.............................................”
“ถือดียังไง?...ฉันโตกว่าเธอนะ!!!
“โตกว่าแล้วไง?”
“เธอก็ต้องเคารพฉันสิแล้วไม่เอาของกินมาปาหัวกันแบบนี้ด้วย!!
“เพราะเธอเข้ามาในเขตของม่อน”
“เขตของเธอมันแค่ไหน?”
“จากตรงโน้น...ไปถึงตรงนั้น”
“บ้า!!...พูดเอาแต่ได้”
“ว่าไงนะ!!!
“ว๊าย!?”)
“พี่ม่อนทำอะไรหรือครับพี่แคทถึงร้อง?”
“ก็...ไม่มีอะไร...คือเธอโมโหที่พี่พลั้งปากว่าพูดเอาแต่ได้”
“แล้ว...ต่อจากนั้น”
“จะเล่าต่อนี่ไง”
(“...ช่างเถอะ”
“...นั่น...สุริยะ...สุริยะ”
“สุริยะโลหิต”
“เธอควบคุมมันได้เหรอ?”
“ไม่เห็นจะยากตรงไหนสักนิด”
“..............................................”
“ม่อนทำได้ตามใจเลยละ”
“ตากับเสียงของเธอเปลี่ยนไป...นี่คือสุริยะโลหิตแท้จริง!!!...เก่งจัง...ฉันยังทำไม่ได้เลย”
“ฮึๆๆ...อะ...เอาคืนมา...ส้มนั่นเอาคืนมานะ!!
“เธอขว้างมาก็แสดงว่าไม่เอามันแล้ว”
“ใครบอก!!
“อื้อ!...หวานอมเปรี้ยวดี...อร่อยจัง”
“เธอ...กินเข้าไปแล้ว!!
“ทิ้งไปก็เสียดายแย่”
“...เธอไม่ทิ้งส้มที่ม่อนขว้างแต่กินมัน”
“?”
“งั้น...งั้น”
“อะไรของเธอน่ะ?”
“คือ...เอ่อ--...คือ...”
“ก็พูดมาซี่!!
“มะ...ม่อนยกให้...พี่...พี่...พี่แคทสมกับเป็นพี่สาวของม่อน”)
“เฮ่!!!...อะไรกันครับ?”
“วันนั้นพี่ได้ส้มกลับบ้านเต็มตะกร้า”
“ไม่ใช่!!...ที่ผมจะถามคือพี่ม่อนไม่ได้หวงส้มหรอกเหรอ?”
“เปล่าเลย...ม่อนดีใจมากที่พี่กินส้มลูกนั้นและต่อจากนั้นเราสองคนก็เริ่มสนิทสนมกันมากกว่าเดิมด้วยนะ”
“ผมงง”
“สรุปคือพี่อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเมื่อกี้บอลกินชมพูลูกนั้นบางทีม่อนคงจะรู้สึกยินดีเช่นกัน...ไม่แน่...เธออาจยอมถอดหน้ากากให้บอลเห็นใบหน้าแท้จริงก็ได้”
“...ไม่อยากเห็น...แล้วผมว่ายังไงพี่ม่อนก็คงจะไม่งามไปกว่าพี่แคทหรอก”
“อะไรนะ?”
“เพราะผมคิดว่าพี่แคทสวยเป็นที่หนึ่ง”
“ลามปามรึ?”
“อย่า...อย่าตุ๊ยท้องผมนะ!!...ไม่มีอะไรจะออกมาแล้ว”
...ถึงจะเดินตามหลังและไม่เห็นว่าพี่แคทรู้สึกเขินหรือเปล่าแต่เชื่อว่าเธอคงแอบดีใจมั่งล่ะเพราะขึ้นชื่อผู้หญิงยังไงก็ต้องชอบละเมื่อมีคนชมให้ฟังว่าตัวเองสวย...
(ฮุ!?)
“..............................................”
(บั้นท้ายงามแท้ๆน้อพี่สาวเราคนนี้...ของจริงไม่มีฟองน้ำยัดซะด้วย)
“..............................................”
(ภายใต้กระโปรงจีบที่ชายบานพลิ้วนิดๆเมื่อยามต้องลมมีกางเกงชั้นในสีดำสนิทเหมือนเส้นผมของเจ้าหล่อน)
“..............................................”
(เห็นแค่ขอบวับๆแวมๆแต่มันก็รู้สึกซู่ซ่าดี...อูย~~...ลมได้โปรดช่วยให้พัดแรงกว่านี้อีกหน่อยสิ!!)
“อุ๊บ!!
“..............................................”
“ขอโทษครับ...ผมเดินไม่ระวัง”
...เวรจริง!!!...ผมเอาแต่มองบั้นท้ายสวยๆของพี่แคทเพลินเลยไม่รู้ตัวว่าเธอหยุดเดินตอนไหนจึงเข้าไปชนหลังเต็มเปา...ผมผละออกขณะที่ญาติสาวผู้พี่นั้นนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับมามองด้วยสีหน้าอันเงียบเฉย...
“ผมเปล่ามีเจตนาไม่ดีนะครับ”
“.............................................”
“พี่...พี่แคท”
“ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ”
“ก็...”
“มัวมองอะไรล่ะถึงเดินไม่ระวัง?”
“...เปล่า”
“โกหก...พี่ว่าสิ่งนั้นคงจะสวยหรือไม่ก็...เซ็กส์ซี่น่าหลงใหลเสียจนเธอไม่อาจละสายตามองไปได้...สินะ?”
“นี่พี่แคทรู้อยู่แล้ว?...หนอยแน่~~...อัจฉริยะจริงจริ๊ง!!
“เงียบไปเลยนะ!!...จ้องมองก้นฉันอย่างไม่เกรงอกเกรงใจแล้วยังจะมาโวย...ไม่เอาเรื่องก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
“ครับๆ...ผมต้องกราบขอประทานอภัยอย่างสูงคร้าบ~~
“เดี๋ยวเถอะ!...หือ?”
“.............................................”
“อะไรของเธออีก?”
“ผม...ผมของพี่หอมจัง”
“...เชย...มุขจีบสาวของเธอนี่มันเชยจริงๆ”
“มุขจีบอะไรครับ?...ผมไม่เคยใช้”
“แล้วก็เอามาใช้กับพี่เนี่ยนะ?”
“ก็บอกว่าไม่เคยใช้”
“............................................”
“ผมอยากกลับไปที่กระท่อมนั่นอีก”
“...กลับไปทำไม?”
“ก็...”
“อยากดู...อีกเหรอ?”
“มะ...ไม่ใช่...ผมมีอะไรจะบอก”
“งั้นบอกตรงนี้เลย”
“มันไม่ค่อยสะดวก”
“แล้วบอกไม่ใช่...ตาคนลามกนี่”
“จริงๆ...ผมจะบอกว่ามีอย่างอื่นที่นอกไปจากนั้น”
“อะไร?”
“พี่แคทว่ามุขจีบสาวของผมเชย...งั้นผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่าที่แท้มันไม่ได้เชย”
“หัดรู้จักละอายใจซะมั่ง!!!
!?
...บรรยากาศกำลังไปได้สวยแต่ไหงถึงพังครืนไม่เป็นท่าแบบนี้?...พี่แคทที่ตอนแรกดูจะอารมณ์ดีและมีรอยยิ้มที่มุมปากจู่ๆก็แสดงอาการโมโหฉุนเฉียวสะบัดหน้าเดินลิ่วไปเลยถามว่าโกรธอะไรก็ไม่ตอบ...
(รับมือยากจริงๆญาติสาวผู้พี่ของเราคนนี้...เอาใจไม่ถูกแล้ว)
“ผมขอโทษครับที่พูดจาอะไรไม่สมควร”
“............................................”
“พี่”
“ฉันพูดได้เลยว่าต่อให้เธอหมอบกราบแทบพื้นก็ยังไม่สาสมกับความผิด”
“ขนาดนั้นเชียว?”
“ยังจะมีหน้ามาย้อนถาม!!
(หุบปากดีกว่ามั้งเรา...ขืนยังพูดมากอีกเดี๋ยวคงได้มีกำปั้นลอยมาเข้าเบ้าตา)
“นั่นเสียงอะไรครับ?”
“...นี่มัน”
“เข้าไปดูกันเถอะ”
“เดี๋ยว!!!
!?
“...นึกแล้ว”
“เฮ่ย!!
...ไอ้ลูกกลมๆสีเงินขนาดเท่าปลายนิ้วก้อยนี่มันคืออะไรกันแน่?...เจ้าวัตถุนี้พุ่งวาบอยู่ในอากาศด้วยความเร็วก่อนฝังเข้าไปในต้นไม้ซึ่งอยู่ห่างจากหัวผมประมาณแค่ไม่ถึง...ห้าเซ็น...หวุดหวิดไปแล้วไอ้เอกคเชนทร์!!!!...ตะกี้ถ้าพี่แคทไม่ยื่นแขนมาผลักล่ะก็โดนหัวเต็มเปาแถมเผลอๆอาจเข้าตากลายเป็น “ไอ้คุณชายหกบอดเดี่ยว” ไปเรียบร้อย!?...
“พวกเธอทำอะไรกัน!!!
“สุรีย์พรรณ...เธอก็จะมาสะสางต่อจากเมื่อคืนด้วยเรอะ?”
“พี่แคทอย่ามายุ่งเรื่องของฝนนะ!!
“ฝน...นั่น”
...ตาดำสองข้างของฝนเปลี่ยนเป็นสีแดง!?...ได้ยินมาว่าทั้งเธอและพี่แคทจะใช้ความโกรธที่รุนแรงเพื่อเป็นเชื้อปะทุในการเกิดภาวะสุริยะโลหิต...นี่เป็นภาพที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นที่เด็กสาวขี้เล่นน่ารักอารมณ์ดีอย่างฝนจะระเบิดความโกรธจนแสดงออกมาเป็น “ตะวันเลือด” ที่ให้เลือกได้ก็ไม่อยากจะเห็นมัน...
“อ๋อม...หยุดยั่วยุฝนเดี๋ยวนี้!!
“ฉันยั่วยุตรงไหนวะ?”
“ก็ที่เธอไม่หยุดสู้ทั้งๆที่ฝนเข้าถึงสุริยะโลหิตแล้วน่ะสิ”
“เรื่องอะไรจะหยุดในเมื่อฉันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าและ...”
“...............................................”
“ฉันเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่”
“พี่แคท...ที่ขาของฝนมีเลือดไหลออกมาครับ!!!
“...ดรรชนีเล็บเสือ”
“ถูกต้อง...น้องสาวของเธอเนี่ยดื้อและก็เร็วชะมัดยาดฉันเลยต้องหาวิธีหยุดไง...หึ!!...ฝีมือดีจริงๆ...ฉันยิงลูกแก้วไปจนหมดก็ไม่โดนสักนิดจึงต้องใช้...ลูกเหล็ก”
“บอกว่าไม่ด้อยกว่าแต่ก็ไม่ยอมใช้”
“ฝน...น้องระงับความโกรธและใจเย็นก่อน”
“...กำลังดูถูกฉันงั้นสิ?”
“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอกค่ะ...พี่อ๋อมน่ะตั้งใจ...”
“ป้อม...พี่บอกให้หยุด!!
“แต่เธอจะดูถูกสิ่งที่ฉันกำลังแสดงออกมาในช่วงเวลาไม่นานต่อจากนี้...ไม่ได้”
“ไม่นะฝน!!...พี่ขอร้อง”
“และความบังอาจที่จะมาแย่งบอลไปจากฉัน...โทษนี้สาหัสนัก...ยกโทษไม่ได้!!!...ยกโทษไม่ได้อย่างเด็ดขาด!!!!
“พูดได้เต็มปากเต็มคำเชียวนะ...เออ!!...ยกโทษให้ไม่ได้แล้วเธอจะทำอะไรฉัน?”
“ฉันเอาแกตายแน่...ศรบุษราคัม!!!!
!!!!!!!!!!!
“แย่แล้ว!!!...ในที่สุดสุริยะโลหิตแท้จริงก็...”
“โอ้ว!!...ไม่ได้เห็นนางฟ้าผู้คลุ้มคลั่งเสียนาน”
“หนูขนลุกซู่ไปหมด...พี่ฝนเนี่ยยังกะปิศาจร้ายไม่ใช่นางฟ้านางสวรรค์เลยสักนิด”
“...ก็ไม่ผิดล่ะนะ”
“แกจะลบหลู่บาทามรณะหรืออย่างไร!!!!
...ผมรู้จัก “สุริยะโลหิต” เป็นอย่างดีแล้วแต่นี่ตาสองข้างของผมกำลังมองเห็นอะไรอยู่?...สาวน้อยวัย 18 ที่ร่าเริงแจ่มใสได้แม้ยามอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ใจคนนั้น...หยาดฝน...รอยยิ้มใสซื่อบริสุทธิ์ของเธออันตรธานหายไปไหนแล้วอีกอย่างแค่รู้ว่าอ๋อมกับน้องป้อมจะพาผมไปก็โกรธแค้นโมโหเป็นฟืนเป็นไฟได้ถึงขนาดนี้เชียว...
“เดี๋ยวก่อน”
“เธอก็จะขวางฉัน?”
“ไม่...พี่จะช่วยเธออีกแรง”
“สองรุมหนึ่งเรอะ?...ไม่แฟร์นะคะพี่แคท!!!
“...ฉันไม่ขัดข้อง”
“อย่างนี้พี่ก็เสียเปรียบน่ะสิ?...หนูไม่เห็นด้วย!!
“ถ้าไม่มีความมั่นใจแล้วพี่จะกล้าตกลงทำไม?...ป้อมจงเชื่อใจพี่”
“หนูรู้ว่าพี่เก่งพอจะสู้กับใครก็ได้...แต่...แต่มันก็ไม่ยุติธรรมอยู่ดี”
“...สิ่งใดที่ได้มาอย่างยากลำบากสิ่งนั้นจะมีคุณค่ามหาศาล”
(พูดประโยคนี้จบอ๋อมก็ปรายตามองมาที่เรา!?)
“เธอนี่...บ้าดีเดือดกว่าที่ฉันคิด”
“มันท้าทายดีออกโว้ยไอ้น้อง!!
...จะไม่ให้พูดว่าบ้าดีเดือดได้ยังไงล่ะลองคิดดูสิ?...เจอฝนหรือพี่แคทคนใดคนหนึ่งก็นับว่าหนักหนามากพออยู่แล้วแต่นี่อ๋อมดันบ้าจี้รับคำท้า!?...คนพี่ขึ้นชื่อลือชาว่าหมัดหนักส่วนคนน้องก็เท้าไวแถมกำลังโมโหจัดแล้วอ๋อมจะเอากลยุทธ์อะไรมารับมือ?...ถ้าเล่นทีเผลอก็พอจะมีทางแต่หากสู้กันซึ่งๆหน้าผมว่าไม่นานเธอแพ้หมดท่าแน่...
“พี่เองก็มีหนี้ติดค้างอ๋อมอยู่...ขอร่วมวงด้วยคนนะ”
“...อย่ามาขัดแขนขัดขาฉันล่ะกัน”
“ช่างเป็นพี่สาวที่แสนดีนัก”
“ฉันก็แค่อยากให้เธอแพ้ไปเร็วๆเพื่อฝนจะได้หยุดคลุ้มคลั่ง”
“น่าสนุกจังว่ะ”
“พี่!!...ป้อมจะช่วยอีกแรง”
“อยู่เฉยๆเถอะ...น้องเหมาะจะสู้แบบลอบจู่โจมไม่ใช่เผชิญหน้า”
“แต่...”
“อีกอย่างถ้าฉันชนะสุรีย์พรรณได้อีกคนทีนี้ก็จะหมดข้อโต้แย้งและพวกเรามีความชอบธรรมเต็มเปี่ยมที่จะพาบอลไปจากที่นี่...แม้มันจะเสี่ยงแต่ผลตอบแทนก็คุ้มค่า”
“ฝันเฟื่อง...ฉันจะให้แกรู้ว่าแก...คิดผิด!!!
“ไม่ต้องมัวพูดมากนะ...สองพี่น้องเข้ามาพร้อมๆกันได้เลย!!!
“หึ!!...รับมือฉันก่อน”
...พี่แคทเปิดฉากโหมต่อยหมัดรัวใส่อ๋อมซึ่งนับว่าผิดวิสัยอันเยือกเย็นของเธอไปสักหน่อยแต่ผมเข้าใจถึงเหตุผลนั้น...พอหันไปดูอีกทางก็เห็นฝนยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหวแต่ตาจับจ้องญาติสาวผู้พี่จากโยนกทักษิณเขม็งจนผมอดที่จะขนลุกแทนไม่ได้...
(ต่อให้สาวเจ้าจะสวยน่ารักมาจากไหนแต่พออยู่ในสภาพสุริยะโลหิตก็น่ากลัวไม่ชวนแลมองทุกครั้งไป)
“ฮึ๊บ!!
“ฮ่าๆๆ”
“กรอด!!
“เฮอะ!!!
“ไวนัก”
“เฮ่ยๆ...ไม่ได้ดีแต่ไวโว้ย!!
“ฮึ่ม!!!
...เมื่ออยู่ใกล้อ๋อมพี่แคทจะประเคนพายุหมัดใส่แต่หากอ๋อมถอยฉากออกห่างก็จะตามติดอย่างกระชั้นชิดซึ่งมันไม่ใช่ง่ายเพราะอ๋อมเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วรวดเร็วรวมทั้งมีวิธีหลบหลีกที่ไม่ธรรมดา(+ใจกล้ามาก)เช่นแค่ขยับตัวถอยหลังเพียงนิดเดียวแต่พ้นจากระยะหมัดได้หรือไม่ก็กระโดดสูงจนข้ามหัวคู่ต่อสู้...
“ฮึๆ...หงุดหงิดแล้วสิ?”
“ย้าก!!
“มา!!
“นางเสือบ้าตัวนี้ก็มีแรงเยอะเหมือนกันนี่”
“ยอดเลย...ปักหลักดันสู้กับพี่แคทได้ด้วย”
“ผู้หญิงเป็นเพศที่บอบบางแต่ไม่ใช่กับพี่แคท...พี่ชายดูเองเถอะค่ะว่าถึกขนาดไหน”
(แต่เราคิดว่าพี่สาวเธอก็ไม่ต่างกันนะ)
“แรง...เธอเยอะเหลือเกิน...แบบว่ายกบอลขึ้นแล้วก็ทุ่มลงพื้นได้ง่ายๆ”
(อุ!!!...ดันเอาเราไปยกตัวอย่าง!?)
“อย่านึกว่าจะมีแต่เธอที่แรงควายอยู่คนเดียว”
“พี่ก็...ไม่คิดแบบนั้น”
“เว้ย!!
(แลกหมัดกับฝ่ามือเสร็จก็มางัดแขนดันกันแต่สุดท้ายพี่แคทก็เหวี่ยงอ๋อมเซไปได้ทั้งที่ตอนแรกสาวเจ้าหัวเสือยังดันสาวเจ้าผมยาวให้ถอยหลังได้)
“...สัตว์ประหลาดชัดๆ...พี่ชายมายืนกับหนูตรงนี้รับรองปลอดภัยค่ะ”
“พี่ยังไม่รู้เลยว่าทะเลาะอะไรกัน?”
“นี่!!
“น้องป้อม...ตีพี่ทำไม?”
“พี่ชายเนี่ยนอกจากจะเนื้อหอมแล้วยังซื่อจนเรียกว่าบื้อด้วยแฮะ”
“?”
“เหตุผลที่ผู้หญิงทะเลาะกันมีไม่กี่อย่างหรอกนะคะ”
“หมายความว่า...เพราะ...พี่เหรอ?”
...ถึงว่าสิเมื่อกี้อ๋อมพูดออกมาว่าถ้าชนะพี่แคทกับฝนได้ก็มีความชอบธรรมที่จะพาผมไปจากที่นี่แต่มันไม่ง่ายดายเพราะดูจากสีหน้าของฝนนั้นแสดงออกชัดว่าเธอจะสู้สุดชีวิตจนวินาทีสุดท้ายและบาดแผลที่ต้นขานั่นก็คือคำตอบ...
“...............................................”
“ทำไมพี่ฝนนิ่งอย่างผิดปกติทั้งที่เมื่อกี้ยังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ?...เพราะขาเจ็บ...”
(น้องป้อมบ่นอุบอิบอะไร?...ท่าทางจริงจังมาก)
“หรือว่า...”
“อ้าวๆๆ...ต้อนมาให้ฉันอัดนังนี่เหรอ?”
“ยะ...หยาดฝน!?
“เฮ้!!...ไหนบอกจะสู้ทีล่ะคนไง?”
“ใครพูดแบบนั้นยัยเด็กอ่อนหัด?...พี่แกต่างหากที่เรียกให้พวกฉันเข้าไปพร้อมกัน”
(ไม่รู้ตั้งใจหรือบังเอิญที่ช่วงจังหวะติดพันพี่แคทเหวี่ยงอ๋อมไปทางที่ฝนยืนอยู่พอดี!?...นี่เป็นเวลาอันคับขัน...ข้างหน้ายมทูตข้างหลังนางฟ้าแล้วแม่เสือสาวจะทำอย่างไร?)
ก็บอกไปแล้วว่าฉันจะเอาจริง...ลองเปิดช่องว่างให้แม้เพียงเสี้ยววินาทีสิ...ฮึ!!!...ท่าไม้ตายล่ะนะ
พี่อ๋อม!!...บาทามรณะของพี่ฝนจะโจมตีได้ถึงแปดครั้งในช่วงเวลาแค่สองวินาที...อย่าเข้าไปรับตรงๆนะคะ!!!
“...นึกไม่ถึงจริงๆว่าเธอจะหึงหวงบอลมากขนาดนี้แต่ฉันก็ไม่มีทางถอยกลับไปมือเปล่าแน่!!!!
...แปดครั้งในสองวินาทีมันจะเวอร์ไปหรือเปล่ามนุษย์ที่ไหนจะเตะได้เร็วถึงขนาดนั้น?...ผมมองฝนกับอ๋อมสลับไปมาด้วยหัวใจที่หวาดหวั่นเพราะไม่มีใครยอมถอยกันเลย...ฝนก้าวเท้าซ้ายมาข้างหน้าส่วนอ๋อมยืนกางขากับตั้งมือขวาขึ้นจรดจมูกและก่อนที่ทุกคนจะขยับตัวหรือพูดอะไรต่อ...ลูกสาวคนเล็กของอานิภาก็ยกขาขวาตวัดเท้าเตะใส่ลูกสาวคนที่สามของป้าเอ็ม...
“รับไป!!!!
“เฮอะ!!!
!?
!!!!!!!!!!!!
“ชิ!!
...อ๋อมหลบไปทางขวาของตัวเองก่อนที่ลูกเตะที่มีความเร็วอย่างเหลือเชื่อของฝนจะเข้าถึงและการที่สาวเจ้าหัวเสือหนีทันเลยกลายเป็นว่าพี่แคทที่อยู่ด้านหลังเกือบจะโดนลูกหลงแทนจนต้องกระโดดถอยห่างแล้วเวลานี้ทั้งสามคนต่างหยุดดูเชิงกันและกัน...ฝ่ายป้อมทักท้วงว่าพี่แคทกับฝนเล่นอุบายไม่ซื่อ...
“หนูน้อยอย่างแกจะรู้อะไรเกี่ยวกับความคิดของพวกฉัน?”
“สบประมาทกันเรอะ!!!...ทำไมหนูจะไม่รู้ว่าพี่ฝนเล่นไม่ซื่อกะเล่นงานพี่อ๋อมทีเผลอ?”
“งี่เง่า”
“...บาทามรณะ...กระบวนท่าเตะที่จะโจมตีแปดจุดสำคัญในร่างกาย...ก้านคอซ้ายขวา,หัวไหล่ซ้ายขวา,บั้นเอวซ้ายขวาและต้นขาซ้ายขวาโดยไม่เจาะจงว่าจะเริ่มต้นตรงไหนก่อนทำให้คาดเดาได้ยาก...เยี่ยมมาก...เธอเตะโดนต้นขาซ้ายของฉัน”
“...เสียดายที่แกหลบทันไม่งั้นบั้นเอวข้างซ้ายก็จะโดนด้วย”
(นี่แสดงว่าแค่ชั่วพริบตาเดียวฝนเตะออกไปถึงสองครั้งเชียวเหรอเนี่ย?...ช่างรวดเร็วอะไรอย่างนี้และก็เข้าเป้าไปหนึ่งครั้ง)
“ต้นขาซ้ายรึ?”
“อา--...เพื่อจะลดทอนความเร็วของพี่”
“ที่แท้ก็เล็งไว้แต่แรกแล้วเพราะรู้ว่าพี่แคทเร็วสู้พี่อ๋อมไม่ได้”
“ถูกต้อง”
“และก็เอาคืนด้วยการเตะให้ขาฉันเจ็บแบบที่ฉันยิงลูกเหล็กใส่ขาเธอ”
“ไม่ผิด”
“แต่คิดว่าสุรีย์พรรณจะเอาชนะได้ง่ายๆหรือในเมื่อฉันก็มีอาวุธหนักเหมือนกัน?”
“น้องป้อม...หากอัญเชิญยมทูตปะทะกับดาบเขี้ยวพยัคฆ์แล้วผลมันจะเป็นอย่างไร?”
“...เมื่อก่อนพี่อ๋อมกับพี่แคทเคยลองแล้วแต่ใช้กำลังเพียงครึ่งเดียวซึ่งผลก็คือเสมอกัน”
“อืม--...น้องถึงพูดว่าดาบเขี้ยวพยัคฆ์สามารถต้านอัญเชิญยมทูตได้...แล้ว...ถ้าหากใช้กำลังเต็มที่?”
“หนูก็ไม่รู้ค่ะเพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและอีกอย่างคนๆนั้นก็สั่งห้ามไว้แต่...ครั้งนี้คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วล่ะพี่ชาย”
(คนๆนั้น?)
“พี่แคท...ฉันช่วยไม่ให้ยัยน่ารำคาญนี่หนีได้ง่ายๆแล้วแต่ถ้ายังแพ้อีก...มันน่าขายหน้าจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี”
“ไม่ต้องห่วง...มันจะจบก่อนแน่”
“บาทามรณะยังน่ากลัวเหมือนเดิมเลย...เจ็บชะมัด...ถ้าเป็นคนปกติเบาะๆกล้ามเนื้อน่าจะฉีกขาดไปแล้ว”
“แกก็ไม่เบาที่โดนเข้าไปแล้วไม่ล้มแต่คงเจ็บน่าดู”
“หึๆๆ...ก็ขอชมว่าพวกเธอช่างรู้ใจกันแม้แค่มองตาไม่ต้องพูดแต่จะอัดฉันให้ร่วงคาตีน...มันต้องใช้หมัดไม่ใช่ปาก...เข้ามานังยมทูต!!!
“เออ!!
...จากนั้นยมทูตสาวกับนางพญาเสือก็เริ่มเปิดศึกยกที่สอง...หลายครั้งที่หมัดที่แฝงไว้ความเกรี้ยวกราดของพี่แคทกำลังจะพุ่งเข้าเป้าหมายทว่าอ๋อมกลับพริ้วหลบได้อย่างเนียนตาทั้งๆที่เจ็บต้นขาซ้าย...ผมถามป้อมก็ได้ความว่านั่นคือ “กังฟู” วิทยายุทธของจีน...
“แบบในหนังเหรอ?”
“ค่ะ...แต่พี่ชายอย่าเอาไปเทียบกันนะคะ”
“?”
“เพราะที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือของจริง...แค่พี่อ๋อมชูฝ่ามือขึ้นก็สามารถข่มขวัญคู่ต่อสู้ได้แล้วถ้าใครโดนซัดเข้าจังๆ...รับรองว่าเจ็บหนักแน่...นั่นไงฝ่ามือซ้ายหลอกและซัดด้วยขวา”
“อุ๊บ!!!
“พี่แคทหมัดหนักจริงแต่หากต่อยไม่โดนก็ไร้ผล...หึ!!...โดนบาทามรณะแล้วไง?...พี่แคทก็ยังชกวืดวาดอยู่ดี”
“ฮะๆๆๆ”
“พี่ฝนหัวเราะอะไร?”
“ไม่สรุปเร็วไปหน่อยเรอะ?...อย่างน้อยผู้หญิงคนนั้นก็เป็นพี่สาวฉัน...จะไม่มีปัญญารับมือกับความเร็วเชียวรึ?”
“แอ๊ก!!!
(พี่แคทที่โดนไปหนึ่งฝ่ามือก็เอาคืนได้หนึ่งหมัดทันควันด้วยการชกสวนกลับขณะอ๋อมกำลังจะเข้าซ้ำ)
“หมัดเคาน์เตอร์ของพี่แคทเร็วยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น...ขนาดฉันยังไม่เคยหลบทัน”
“ฮึ่ย~~
“เอาคืนที่ตีเข่าฉันเมื่อคืน”
“อึ๊!!...เป็นหมัดเคาน์เตอร์ที่เด็ดขาดมาก...อูย~~...แต่มันใช้ซ้ำสองกับฉันไม่ได้แล้ว!!!
“ใช่...พี่...พี่อ๋อมไม่มีทางแพ้แน่!!!
“ย้าก!!
“โอ๊ว!!
...สองหมัดสองฝ่ามือที่พุ่งแหวกผ่านอากาศจนเหมือนได้ยินเสียงลม...จากมุมมองคนที่อยู่ตรงกลางอย่างผมเห็นว่าพี่แคทกับอ๋อมฝีมือทันกันและชิงไหวชิงพริบตลอดเวลาเรียกว่าใครเปิดช่องก็คือหายนะมาเยือน...หมัดยมทูตถูกฝ่ามือพยัคฆ์หยุดยั้ง...ฝ่ามือพยัคฆ์ถูกต้านไว้ด้วยหมัดยมทูต...
“แกจะทำอะไรต่อ?...แกคิดอะไรอยู่หึ?...นางเสือลำบาก”
“........................................”
“อ้อ!!...วิธีถนัด...หาจังหวะเผด็จศึกในทีเดียว”
“หมัดยมทูตใช้บ่อยๆไม่ดีนะเว้ย~~
“แต่ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือ...แล้วจะซัดแม่เสือปากกล้าได้ยังไง?”
“เห็นช่องแล้ว!!!
“ขอฉันเถอะ!!!
!!!!!!!!
“อั๊ก!!!
“อ๊อก!!!
“โดนทั้งคู่!?
“มัน...เก่งจนเทียบชั้นกับยมทูตได้แล้วจริงๆหรือนี่?”
...พี่แคทต่อยหมัดเข้าแก้มของอ๋อมจนหน้าหันแต่อ๋อมก็ตอบโต้พุ่งฝ่ามือกระแทกใส่บริเวณขมับพี่แคทในเวลาเดียวกัน...พี่สาวทั้งสองหงายหลังล้มไปกองที่พื้นก่อนจะรวบรวมเรี่ยวแรงลุกขึ้นมาใหม่...อ๋อมขยับคอเสียงดังกร็อกๆกับถ่มน้ำลายที่มีเลือดปนออกมาด้วยส่วนพี่แคทเอามือกุมหัวกับเหวี่ยงสองหมัดชกลม...
“ทั้งสองคนหยุดซะที...ฉันไม่ต้องการเห็นอะไรแบบนี้อีกแล้ว”
“หยุดอยู่ตรงนั้น!!
“อ๋อม--...ฟังฉันหน่อย”
“นายหุบปากแล้วดูอยู่เงียบๆเพราะนี่คือความตั้งใจของทั้งฉันและสุรีย์พรรณ...นายคงไม่รู้หรอกว่าสมัยก่อนฉันไม่เคยสู้ยัยสองพี่น้องนี่ได้เลย”
“อะไรนะ?”
“แล้วเหตุผลอีกอย่างที่ฉันจะต้องเข้มแข็งขึ้น...นายไง”
“ฉัน?”
“ใช่...ฉันเฝ้ารอวันที่จะได้พบกับปกป้องนายถึงพยายามไล่ตามสุรีย์พรรณกับหยาดฝนให้ทัน...แล้วตอนนี้...ฉันก็ทำสำเร็จ”
“นับว่าแกพยายามได้ดีมากอันนี้คงต้องขอชมแต่คนที่จะปกป้องบอลน่ะมีอยู่แล้วนั่นคือฉันกับพี่!!!
“อย่ารวมพี่ไปด้วย!
“...พี่แคท”
“ฉันแค่ช่วยเหลือน้องสาวไม่มีเหตุผลอื่นและเผลอๆจะซัดเธอซะอีกคนด้วย”
“เฮ่ย~~...คู่ต่อสู้อยู่ตรงหน้านี่ว้อย!!...ปากดีนักเดี๋ยววันนี้หล่อนกินน้ำพริกไม่ได้แน่”
“นั่นมันเธอมากกว่า...ครั้งต่อไปขอมุมปากข้างซ้ายล่ะกันจะได้หยุดพูดมาก...หือ?”
“?”
“อะไร?...ตะ...ตาฉัน!!!
“พี่!?
“เฮอ--...ดูท่าจะจบกันได้แล้วสุรีย์พรรณ”
“ฮึ!!
“อยู่นี่”
“หนอยแน่ะ!!!
“ไม่ใช่ๆ...ตรงนี้ต่างหาก”
“ฝ่ามือเมื่อกี้เรอะ?”
“เธอต่อยแก้มฉันแต่ฉันฟาดฝ่ามือใส่ขมับเธอ...ตาลายแล้วสินะ”
“อุ๊บ!!...อึ๊ก!!!...บ้าจริง--”
“งั้นก็...ลงไปนอนเหอะ”
“โอ๊ย!!!
“พี่แคท!?
(เพราะตาลายจึงมองอะไรพร่าเลือนและพี่แคทก็ถูกอ๋อมที่ใช้จังหวะล่อหลอกพุ่งกระโดดถีบทั้งตัวจนล้มกลิ้งไปหลายตลบ...หยุดนอนคว่ำในพงหญ้าและก็แน่นิ่งไปเลย)
“ฮ่าห์!!!!
...เท่านั้นแหละฝนที่รอจังหวะอยู่นานก็กระโดดตะแคงตัวพุ่งถีบเท้าไปข้างหน้าโดยไม่ปล่อยให้อ๋อมพักหายใจหายคอ...กระบวนท่านี้ผมเคยเห็นมาก่อนตอนที่ฝนฝึกซ้อมกับพี่แคทที่บ้านของพ่อแต่ตอนนี้ความตั้งใจมันแตกต่างกันสุดขั้วเลย...โอ้โห!?...เตะออกไปแต่ล่ะทีกะจะเอาให้บาดเจ็บอย่างสาหัสทีเดียว...
“แก!!!
“เฮ่ยๆ”
“ฮึ๊บๆๆๆ”
“คิดว่าเตะถีบเป็นอยู่คนเดียวรึ?...อื๋อ!?
“ขอแขนข้างนี้เถอะ!
“ไม่ให้!!!
“งั้นก็ตาย...โอ๊ะ!!
...ฝนพยายามใช้ความไวพุ่งเข้าจับแขนแต่อ๋อมก็มีวิธีสะบัดหลุดในเวลาอันรวดเร็วทุกครั้งไป...นี่เป็นภาพที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น...ฝนกับอ๋อม...พวกเธอสองคนสู้กันอย่างจริงจังราวกับไม่ใช่ญาติพี่น้องแต่เป็นศัตรูคู่อาฆาตที่จะไม่มีการอ่อนข้อออมมือซึ่งพี่แคทคือตัวอย่างที่ดีเพราะตอนนี้เพิ่งขยับตัวลุกขึ้นนั่งได้...
“ย้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“ไรห์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“ตายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“ฮิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“อย่าหนีสิวะ!!!
“ไวนักก็เข้ามาเตะหน้าฉันหน่อยเซ่!!
“มึงตาย!!!!
“เก่งแต่ปากว่ะ”
“อีเลว!!!
“พี่แคท...พี่เป็นไงบ้าง?”
“...ไกลหัวใจ”
“แต่ดูจะเจ็บไม่เบา...ในเมื่อแพ้ไปแล้วหนูว่าพี่แคทไปนั่งพักซะเถอะค่ะอย่าฝืนตัวเองอีกเลย”
“ใครแพ้?”
“ก็พี่ไง”
“แค่นี้โค่นฉันไม่ลงหรอก...จะด่วนตัดสินเร็วไปหน่อยมั้ง?”
...พี่แคทมีพายุกำปั้นไว้จัดการคู่ต่อสู้ฉันใดฝนก็มีพายุเท้าไว้เล่นงานศัตรูฉันนั้น...ญาติสาวผู้น้องเป็นฝ่ายรุกคืบทั้งเตะทั้งถีบใส่อ๋อมไม่ยั้งโดยมุ่งเน้นไปที่ต้นขาซ้ายซึ่งอ๋อมก็รู้ทันจึงพยายามหลบหลีกและเอาฝ่ามือคอยต้านรับกับโต้กลับ...
“ฝน!!!...อย่าเอาแต่อารมณ์เดี๋ยวจะหมดแรงซะก่อน”
“เอ่อ--...ผมเห็นว่า...”
“อะไร?”
“ขาของฝนจะมีเลือดไหลหรือเปล่า?”
“ยะ...อย่าบอกนะว่าเตะมากจนหลอดเลือดที่ขาแตก?...ฝน...พอได้แล้ว!!!
“ฉันไม่หยุดจนกว่านังนี่จะตาย!!!!
“นี่จะเอาให้ถึงตายเลยเชียวเหรอ?”
“เด็กนั่นถูกสุริยะโลหิตครอบงำจนบ้าเลือดไปแล้ว”
“เฮ้ยเดี๋ยว!!
“?”
“เลือดที่เป้าของเธอนั่นมันอะไรกันวะ?”
...นอกจากที่ขาแล้วก็ยังมีเลือดออกตรงจุดสำคัญด้วย...ตายโหง!!!!...เมื่อคืนฝนเพิ่งจะผ่านการเสียสาวและเลือดนั่นก็ต้องไหลออกมาจากช่องคลอดอย่างไม่ต้องสงสัย...แบบนี้ก็เหมือนประกาศให้ใครต่อใครรู้โดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากพูดน่ะสิ!?...
“ยังมีเวลามาเสือกเรื่องของคนอื่นอีก...ท่าทางปากแกจะว่างมาก”
“ถ้าหล่อนเก่งจริงก็มาช่วยหุบให้ทีเซ่!!!
“สมควรตาย!!!!
“มาเล้ย!!!
“ดันพูดยั่วให้ฝนโกรธขึ้นไปอีก...บ้าบอคอแตกจริงๆยัยอ๋อม”
“ว่าไปการเคลื่อนไหวของพี่ฝนก็ดูจะไม่ค่อยคล่องแคล่วมาตั้งแต่แรก...เลือดออกตรงนั้น...ขยับแข้งขามากเกินไปเยื่อพรหมจารีย์เลยขาดงั้นเหรอ?”
“............................................”
...ผมฟังข้อสังเกตของน้องป้อมด้วยหัวใจตุ้มๆต่อมๆเพราะพี่แคทก็อยู่ไม่ห่างกันฉะนั้นจึงได้ยินแน่นอน...เวลานี้มันลุ้นระทึกยิ่งกว่ามีคนล้วงมือมาบีบไข่...จะรอดมั้ยเนี่ยไอ้เอกคเชนทร์?...ไอ้เยื่อนั่นมันไม่ได้เพิ่งขาดหรอกมึงน่ะรู้ดีที่สุด!!!...
“กะ...แก~~
“หมดแรงแล้วรึ?...จงโทษความบ้าบอไม่ยั้งคิดของตัวเองซะ”
“อั๊ก!!!
...แต่ก็ใช่ว่าอ๋อมจะไม่เหนื่อยเพราะหายใจหอบทีเดียวหลังจากถีบฝนกระเด็นเข้าไปที่กองลังกระดาษหลังจากใช้เท้าดวลความเร็วกันอยู่พักหนึ่งจากนั้นอ๋อมที่คงคิดว่าตัวเองชนะแล้วก็ต้องนิ่งงันเมื่อด้านหลังเธอนั้นมีใครบางคนยืนตะหง่านอยู่...
“หึๆๆ...สุดท้ายฉันก็...อื๋อ?”
“..........................................”
“...สุรีย์พรรณ”
“แย่แล้วพี่อ๋อม!!...นั่นมัน”
“อัญเชิญยมทูตเรอะ?...ฮึ่ม!!!
“ทำอะไรน่ะ?”
“จะรวมกำลังทันมั้ย?...ไม่...ไม่น่าทัน!!!...แค่สักหกไม่ถึงเจ็ดส่วน”
“..........................................”
“ไม่!!...พี่อ๋อมอย่ารับ...รีบหลบเร็ว!!!
“อัญเชิญยมทูต!!!!
“ดาบเขี้ยวพยัคฆ์!!!!
!!!!!!!!!!!!!!
...ได้ยินเสียงกำปั้นกับฝ่ามือปะทะกันดังสนั่นและถ้าไม่โอเวอร์จนเกินไปผมคิดว่ากำลังดูหนังอยู่...อ๋อมประกบมือซ้ายขวาขึ้นเหนือศรีษะและกางแขนออกไปด้านข้างจากนั้นก่อนจะโถมร่างกายพุ่งเข้าไปหาพี่แคทที่ชกหมัดสวนมาพอดี...ฝ่ามือขวาที่มีมือซ้ายประคองข้อแขนไว้นั่นคือ “ดาบแห่งจิตเขี้ยวพยัคฆ์” ท่าไม้ตายที่น้องป้อมเคยพูดถึงแต่อ๋อมก็บ้าบิ่นสุดขั้วไม่ยอมหลบตามที่น้องสาวร้องบอกและตั้งใจปะทะกับหมัดยมทูตของพี่แคทตรงๆด้วยเพราะมั่นใจว่าตัวเองก็มี “อาวุธหนัก” ไว้โต้ตอบ...ยังไม่จบแค่นี้...ผลจากการปะทะกันทำให้พี่แคทถอยหลังไปสามก้าวและอ๋อมยังตามฟาดฝ่ามือใส่ไปอีกสองครั้ง...
“การต่อสู้ครั้งนี้...ฉัน...ชนะแล้ว...อุ๊ก!!
“พี่อ๋อม...เจ็บหน้าอกเหรอ?”
“...เปล่า”
(ปากพูดว่าเปล่าแต่เอามือกุมที่กลางอกกับดูมีสีหน้าเจ็บปวด...เธอคงจะจุกไม่ใช่น้อย)
“มือพี่สั่นด้วย...เมื่อกี้รวมพลังไม่พอจริงๆ”
“แต่พี่ก็ยืนหยัดอยู่ได้...สุรีย์พรรณ...เธอโค่นฉันไม่ลงเองนะ”
“.............................................”
“แกก็ยังล้มฉันไม่ลงเหมือนกัน...คิดเรอะว่าแค่นี้จะเป็นฝ่ายชนะ?”
“โฮ่?...เลือดไหลเต็มเป้าเต็มขาแบบนั้นยังปากเก่งอีก...ย่อมได้~~
“คนที่จะแพ้คือแกต่างหาก!!!!...หือ”
!?”
“นิด!...นี่เธอ?”
“นังเด็กนี่!!!...กล้าเอาดาบของเจ้านั่นมาพาดคอฉันเรอะ?”
“หนูเป็นตัวแทนของนายหญิงอรศินีย์”
“.............................................”
“นึกว่าฉันไม่มีปัญญาจะเอาตัวรอดหรือไง?”
“เมื่อกี้ที่หนูพูดไปคุณมิได้ฟังเลยหรือเจ้าคะ?”
“อะไร?”
“หนูพูดว่าหนูมาในฐานะตัวแทนของนายหญิงอรศินีย์”
“เชอะ!!...ทำไมจะต้องมาจุ้นด้วยวะ?”
...ผมยังไม่เคยเห็นหน้าเด็กผู้หญิงคนนี้มาก่อนและจังหวะที่เธอตวัดดาบซามูไรมาพาดคออ๋อมก็มองไม่ทันด้วยแต่มันกลับช่วยให้ฝนกับอ๋อมหยุดสู้กันได้...
“ปล่อย!!...เลิกเอาดาบของเจ้านั่นมาจี้คอหอยฉันซะที”
(เจ้านั่นที่อ๋อมว่าคือใคร?)
“มีอะไรจะเทศนากันอีกห๊ะ?”
“คำถามแรกที่นายหญิงอรศินีย์ฝากหนูมาคือใครเป็นผู้ที่สอนวิชาการต่อสู้ให้พวกคุณทั้งสาม?”
“...น้านีย์”
“คุณน้าอรศินีย์”
“..................................................”
“น้องป้อม...พี่ได้ยินมาว่าอาจารย์ของพี่แคทกับฝนคือโตโดซัง”
“ก็ไม่ผิดหรอกค่ะแต่คาราเต้ของอาจารย์โตโดน่ะออกจะเถรตรงไป”
“เถรตรง?”
“ประมาณว่ายังไม่ดีพอจะเอามาใช้สู้จริง...ถ้าพี่ชายเจอคนร้ายที่ถือปืนแล้วมัวแต่จดๆจ้องๆดูเชิง...จะเป็นยังไงคะ?”
“มีหวังโดนยิงตายก่อนน่ะสิ”
“ใช่แล้วค่ะ...น้านีย์คือผู้เจนจัดในศาสตร์การต่อสู้หลายแขนงและใช้อาวุธเกือบทุกชนิดได้อย่างคล่องแคล่ว...วิชาซัดเข็มดาวเสือของหนูก็เช่นกันค่ะ”
“โอ้โห!!...พี่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย”
...น่าประหลาดใจที่อาคนเล็กของเราก็พลอยเป็นนักบู๊กับเค้าด้วย...แม้ความทรงจำในวัยเยาว์จะเลือนรางแต่ผมก็ไม่เคยเห็นเธอไปออกแรงสู้กับใครเลย...หน้าตาเป็นอย่างไรก็จำไม่ค่อยได้แล้วแต่ถ้าเป็นฝาแฝดกับอานิภางั้นคงพอจะนึกออกได้ไม่ยาก...
“คำถามที่สอง...นายหญิงอรศินีย์สอนให้พวกคุณมาต่อตีกันเองหรือเจ้าคะ?”
“ฉันไม่ใช่คนเริ่มก่อนโว้ย!!
“แต่คุณก็ตกปากรับคำอย่างง่ายดาย”
“ศักดิ์ศรีของฉัน...ไม่รับได้เรอะ?”
“มันหลีกเลี่ยงได้”
“ฉันไม่ทำ!!
“คุณหยาดฝน...คุณเป็นฝ่ายเริ่มต้น”
“เพราะยัยนี่บังอาจมาแย่งของๆฉัน...มันผิดหรือที่ฉันจะปกป้อง?”
“ของที่ว่า...คุณเอกคเชนทร์?”
“ใช่”
...เด็กผู้หญิงมองผมแวบหนึ่งแล้วหันกลับไปพูดต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...เธอผู้นี้ดุดันเคร่งขรึมแต่อ่อนน้อมไม่กร้าวร้าวและแค่เห็นท่าเก็บดาบเข้าฝักก็รู้แล้วว่าไม่ใช่มือสมัครเล่น...
“งั้นคุณสุรีย์พรรณล่ะเจ้าคะ...ปกติคุณรักสงบมิใช่หรือ?”
“นิดดูสภาพของฝนก็น่าจะรู้นะว่าพี่ทำไปเพื่ออะไร?”
“ด้วยการเข้าร่วมวงก่อเหตุวิวาทกับเค้าน่ะหรือเจ้าคะ?...มันมิอาจช่วยให้อะไรดีขึ้นมาได้”
“เออแล้วไงเล่าจะลงโทษใช่มั้ย?...เอาเลยซี่~~...ไม่ต้องมามัวพูดให้มากความ”
“แกกับฉันยังไม่ทันรู้แพ้ชนะแล้วจะรีบไปรับโทษทำไมกัน?”
“ฮะ...ทำเป็นปากกล้า!!...ขนาดอัญเชิญยมทูตของพี่เธอยังล้มฉันไม่ลงแล้วบาทามรณะติดๆขัดๆแบบนั้นจะทำอะไรได้วะ?”
“แต่คุณก็ได้รับบาดเจ็บภายในเพราะฝืนใช้ดาบเขี้ยวพยัคฆ์ปะทะกับอัญเชิญยมทูตตรงๆทั้งที่ยังรวบรวมกำลังมิเพียงพอ”
“ถ้าพี่อ๋อมไม่ใช้ก็ได้โดนหมัดพี่แคทเต็มๆ...ฮึ!!...ลองให้พี่อ๋อมรวมกำลังได้เต็มที่ล่ะก็...อัญเชิญยมทูตเมื่อกี้จะถูกกระแทกกลับแน่และแขนกับหมัดของพี่แคทจะหักโดยพร้อมเพรียง”
“...........................................”
“ตัวแทนของน้านีย์...เธอพูดอย่างนั้น?”
“เจ้าค่ะ”                                        
“งั้นฝากอะไรมาบอกเล่า?”
“ผลแพ้ชนะ”
“อะไรนะ?”
แม้หนูจะมิต้องพูดประโยคที่นายหญิงอรศินีย์ฝากมาแต่พวกคุณทั้งสองก็คงรู้อยู่แก่ใจว่าใครเป็นฝ่ายชนะ
แต่มันยังไม่ถึงที่สุด...ยังไงก็มีความผิดที่ใช้ท่าไม้ตายมาสู้กันเองงั้นก็มาตัดสินให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย!!!
คุณหยาดฝน...การฝ่าฝืนข้อห้ามของนายหญิงอรศินีย์มีโทษกำหนดไว้อยู่แล้ว...มิสมควรถลำลึกอีกเจ้าค่ะ
“นิด...พูดต่อไปซิ”
“พี่แคท!?
“ลงว่าถ้าคุณน้ารู้นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้วนะฝน”
“ก็บอกมาว่าใครชนะ...ฉันหรือยัยนี่?”
“คุณคือผู้ชนะค่ะ”
...นิดชี้นิ้วไปที่อ๋อมซึ่งทำให้น้องป้อมดีใจจนยิ้มไม่หุบส่วนพี่แคทถอนหายใจและเดินไปตบบ่าฝนที่ยืนกำหมัดแน่นโดยมีหนูบีกับหนูซีเอาผ้ามาช่วยซับเลือดที่ต้นขาให้...ผมจะโล่งใจมากเลยถ้าการต่อสู้จบลงแล้ว...
“ตอบมาซิว่าฉันแพ้เพราะอะไร?”
“คุณหยาดฝนแพ้เพราะตัวของคุณเอง”
“หา?”
“ร่างกายของคุณหยาดฝนหาได้ปกติตั้งแต่แรกหรือนั่นก็คือขาดความพร้อม...นี่เป็นข้อห้ามอันดับต้นๆของนายหญิงอรศินีย์ใช่ไหมเจ้าคะ?”
“............................................”
“แลเมื่อครู่อุตส่าห์ฝ่าฝืนข้อห้ามใช้ท่าไม้ตายแต่ยังล้มคุณศรบุษราคัมมิได้...มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทั้งที่อีกฝ่ายอยู่ในระยะโจมตี?...คำตอบก็คือไม้ตายที่ใช้ออกไปแต่มิอาจล้มศัตรูได้นี่หาได้สมควรเรียกว่าไม้ตายไม่”
“อึ๊ก!!
“ฝน”
“บาทามรณะเป็นกระบวนท่าที่ร่างกายท่อนล่างต้องรับภาระหนักยิ่งเช่นนั้นจึงมิอาจใช้ได้บ่อย...หากมิคับขันจวนตัวจริงๆจงหลีกเลี่ยง...ครั้งหนึ่งไม่มีสอง”
“เออ!!...จะเอาคำพูดน้านีย์มาตอกย้ำทำไมนักหนา?...ฉันแพ้ก็ได้พอใจหรือยัง?”
...ฝนหน้านิ่วคิ้วขมวดเดินโขยกเขยกโดยมีหนูบีกับหนูซีหิ้วปีกพาไปนั่งเก้าอี้ส่วนหนูเอกับหนูดีหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าพี่แคท...ทีแรกผมนึกว่าญาติสาวผู้น้องจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆแต่ผิดคาดไปไกลแฮะ!?...คุณอาอรศินีย์นี่ดูท่าจะเป็นที่ยำเกรงของหลานๆมากกว่าที่คิดไว้...
“ต่อไป...คุณสุรีย์พรรณเจ้าคะ”
“...ฉันก็แพ้เหมือนกันสินะ?”
“คุณแพ้เพราะมีจิตใจที่ลังเลราวกับมิรู้ว่าออกหมัดไปเพื่อสิ่งใด?”
“ใครว่า?...พี่ทำไปเพื่อฝนไง”
“จริงหรือเจ้าคะ?”
“ก็จริงน่ะสิ!!...แล้ว...อ๋อมชนะพวกเราด้วยเหตุผลอะไร?”
“...ความพร้อมแลการเตรียมใจเจ้าค่ะ”
“อ๋อ!!...ฉันเข้าใจแล้วล่ะนิด”
“คุณศรโกเมน?”
“พี่ฝนเตรียมใจจะสู้แต่ร่างกายไม่มีความพร้อมส่วนพี่แคทร่างกายมีความพร้อมแต่ไม่เตรียมใจจะสู้เพราะลังเล...ใช่มะ?”
“.........................................”
“ฉะนั้นพี่อ๋อมจึงชนะเพราะมีพร้อมทั้งสองสิ่ง”
“แล้วไงอีก?”
“ในเมื่อฉันชนะก็จะพาบอลไปจากที่นี่ล่ะ”
“แก!!!
“ฟังให้จบก่อน!!...ฉันกับป้อมจะมารับบอลไปกินข้าวเย็นตอนหกโมงไม่ใช่เวลานี้”
“อือ--...เหลือเวลาอีกประมาณเจ็ดชั่วโมงค่ะ”
“รับไปกินข้าวเย็นแล้วก็จะค้างคืนที่โยนกทักษิณหรือ?”
“ไม่ได้ฝนไม่ยอม!!!...บอลจะไปกินข้าวเย็นกับพวกเธอก็ได้แต่เขาต้องกลับมานอนที่โยนกอุดร”
“ไม่เอาโว้ย!!
“งั้นมาฟาดปากกันต่อดีกว่า!!!
“คุณหยาดฝนเจ้าคะ...หนูยังทายามิเรียบร้อยเลย”
“ทั้งสองคนหยุดก่อน--”
“นายหุบปากไป!!
“มะ...ไม่ถามความเห็นฉันบ้างเหรอ?”
“โยนกอุดรก็ไม่ได้โยนกทักษิณก็ไม่เอาแล้วจะเป็นที่ไหน?”
“โยนกบูรพา”
“ไม่มีวันซะละ!!!
“ใช่...หนูไม่ปล่อยให้พี่ชายไปโดนพี่เซคกะพี่ม่อนเย้ยหยันดูถูกหรอก!!
“ที่นั่นดีที่สุดแล้ว...จริงมั้ยคะ?”
“ถ้าเป็นโยนกบูรพาก็เสียใจด้วย...พี่เซคเคยพูดไว้”
(“ในฐานะที่พี่เป็นผู้ปกครองหมู่บ้านโยนกบูรพา...พี่จะไม่ให้ไอ้ผู้ชายบ้ากามนั่นมาซุกหัวนอนอย่างเด็ดขาด...ถ้ามาก็จะไม่รับประกันความปลอดภัยให้”)
“หา!?
“ฮะฮ่าๆๆ...ถึงฉันจะไม่ชอบขี้หน้ายัยซกมกแอบจิตหมายเลขหนึ่งแต่ครั้งนี้มันพูดถูกใจจังว่ะ!!!
“สรุปพี่ชายต้องไปนอนที่โยนกทักษิณ”
“ไม่มีทาง!!!
...อูย~~...ไม่ถงไม่ถามความเห็นกันสักคำเลยว่าผมยินดีจะไปนอนค้างอ้างแรมที่ไหนหรือเปล่า?...จะนอนที่โยนกอุดรอ๋อมกับป้อมไม่ยอมจะนอนที่โยนกทักษิณฝนก็ไม่ตกลงแล้วไปที่โยนกบูรพาพี่เซคก็ไม่ต้อนรับ...อ้าว!?...นี่แปลว่าผมต้องกลายเป็นคนไร้บ้านผีไร้ศาลไปแล้วงั้นเหรอเนี่ย?...
...............................................................................................................................................

“พี่ชายเข้าบ้านไปแล้ว”
“เอาล่ะยัยนิด...มีอะไรก็ว่ามา”
“พรุ่งนี้แปดโมงเช้าขอให้พวกคุณทั้งสี่ไปพร้อมกันที่โยนกประจิม”
“เพื่อจะลงโทษหรือ?”
“มิใช่ดอก...นอกจากคุณศรโกเมนแล้วต่างก็ได้รับบาดเจ็บกันหมด...นายหญิงมิใจร้ายถึงขนาดนั้นนะเจ้าคะ”
“รอให้หายก่อนนั่นแหละ...แต่ว่า...”
“?”
“อย่าได้บังอาจเอาดาบของเจ้าเอ้มาพาดคอฉันอย่างนี้อีก...ไม่งั้นฉันจะกรีดหน้าเธอซะ!!!
“พี่อ๋อม!?...ทีสู้กับพี่ฝนพี่แคทยังไม่ใช้ตะวันเลือดเลยแล้วไหงถึง...”
“ก็มันน่ายัวะมั้ย?...ขนาดเจ้าเอ้ยังไม่เคยทำแบบนี้กับพี่เลย”
“หากคุณศรบุษราคัมมีข้อสงสัยก็เชิญไปไต่ถามนายหญิงอรศินีย์เอาเองเถิดเจ้าค่ะ”
“หา!!...ยัยน้าบ้านั่นสั่งให้เธอทำ?”
“กรณีที่มิยอมเลิกราน่ะเจ้าค่ะ”
“ปัทโธ่ว้อย!!!
“งั้นเพื่อตัดปัญหา...ให้บอลไปนอนที่โยนกประจิมสิ”
“พี่แคท...ฝนไม่เห็นด้วย!!
“ไม่มีที่ไหนอีกแล้ว”
“หึ!!...ก็ดีเหมือนกัน...บอลจะได้เจอน้านีย์กับเจ้าเอ้ด้วย”
“ป้อมว่าก็โอเคนะ”
“แล้วพวกเธอจะไปส่งบอลที่โยนกประจิมกี่ทุ่มกี่ยาม?”
“ฉันต้องบอกเธอด้วยงั้นรึ?”
“...ไม่เกินสี่ทุ่ม”
“ป้อม”
“หนูให้สัญญา...พอเลยสี่ทุ่มไปแล้วพี่ฝนก็ลองโทรถามน้านีย์เอาเอง”
“............................................”
“แบบนี้ก็ดีนะ”
“...ได้...แต่เธอสองคนต้องกลับไปนอนบ้านตัวเองด้วย”
“เออน่ะเรื่องมากจริง!!!...เธอไปคิดคำแก้ตัวสำหรับพรุ่งนี้ดีกว่ามั้งว่าจะตอบน้านีย์ยังไง?”
“เหมือนกันนั่นแหละ”
“เช่นนั้นหนูจะกลับไปรายงานให้นายหญิงอรศินีย์ทราบเสียก่อน...ขอตัวเจ้าค่ะ”
“เข้าบ้านเถอะ...ฝนเดินไหวมั้ย?”
“ไหวค่ะ”
“เดี๋ยวสุรีย์พรรณ...ฉันมีอะไรจะพูดด้วย”
“?”
“...ฝนไปก่อนนะ”
“............................................”
“มีอะไร?”
“อัญเชิญยมทูตเมื่อกี้เธอเองก็ใช้กำลังประมาณ 8-9 ส่วนสินะ?”
“...แค่แปดในสิบเพราะพี่เจ็บท้อง”
“หมายความว่าถ้าไม่เจ็บเธอจะใช้เต็มที่งั้นสิ?”
“คงงั้นมั้ง...”
“หายนะมาเยือนกันหมดแน่เลยพี่แคท...เอ๋~~...มือพี่น่ะเลือดเพิ่งหยุดไปเมื่อกี้เองเนอะ?”
“...สมกับเป็นดาบเขี้ยวพยัคฆ์...หากเธอใช้พลังเต็มที่มือฉันคงโดนบาดเป็นแผลเหวอะหวะไปหมด”
“พูดอะไร?...มือฉันก็จะหักเพราะอัญเชิญยมทูตเช่นกัน”
“.............................................”
“หยาดฝน...เด็กนั่นเรียบร้อยกับบอลไปแล้วคิดว่าเธอคงรู้”
“อืม--”
“น่าเจ็บใจนัก!!!...ช่างมาตัดหน้ากันซะได้นะพี่ฝน...คิดอยู่แล้วเชียวว่ามันแปลกๆ”
“เธอเป็นพี่สาว...จะทำยังไงต่อ?”
“เหตุการณ์มันผ่านไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้...พี่เองก็พลาดที่เมื่อคืนหลงกลแผนของเด็กคนนั้น”
“พอมานึกดูดีๆเราก็โดนหลอกกันหมดทุกคนแหละ...แต่ช่างเหอะ...ในเมื่อหยาดฝนทำได้ฉันกับป้อมก็ทำได้เหมือนกัน”
“พวกเธอ!!!...เป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”
“ไม่ได้บ้าค่ะพี่แคท...พวกเราตั้งใจจริง”
“ใครก็ห้ามพวกฉันไม่ได้...อ้อ!!...พวกผู้หญิงหน้าด้านในบ้านของเธอ...หลังจากที่พวกฉันกับบอลมีอะไรกันแล้วก็จะจัดการเฉดหัวไปให้พ้นซะทุกคน...ไม่แน่นะ...เริ่มจากคืนนี้เลยก็ได้”
“หวังว่าพี่แคทคงไม่ไปพูดให้พี่ฝนรู้หรอกนะจ๊ะ...ฮี่ๆๆ”
“................................................”
“ไปเหอะป้อม”
“ค่า~~
“ทั้งที่ยังไม่มองเห็นหนทางได้เคียงคู่ก็ยังจะมอบสิ่งที่สำคัญที่สุดให้...พวกเธอจะต้องเสียใจแน่แล้วก็ฝน...ทำไมน้องถึงได้หน้ามืดตามัวอย่างนี้?”
..............................................................................................................................................

บาทามรณะที่พี่เคยเห็นน่ะเฉียบขาดและก็รวดเร็วกว่านี้...จังหวะนั้นอ๋อมจะไม่มีทางหลบทันแน่นอน...แต่...
พี่จะพูดให้ได้อะไรขึ้นมาอีก?...หนูก็บอกไปไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่าเพราะเป็นไข้ไม่สบายร่างกายมันเลยไม่ปกติ
“...ใช่...เป็นไข้...ไม่สบาย...ร่างกายเลยไม่ปกติ...โดยเฉพาะช่วงล่างของน้องที่เคลื่อนไหวติดๆขัดๆ
“สีหน้าแบบนั้นแสดงว่าพี่รู้เรื่องทั้งหมด...เอาเลย!!...อยากเฆี่ยนอยากตีหรือจะไปฟ้องป้อกับแม่ก็เชิญ”
“ไม่...พี่ไม่ทำแบบนั้นหรอกเพราะงานนี้คุณแม่เกี่ยวด้วยแน่นอน”
“ตอนที่เห็นเลือดตรงหว่างขาหนูหรือ?”
“...รู้ก่อนหน้านั้นอีก...น้องทำแบบนั้นทำไม?”
“เพราะความรักที่เอ่อล้นจนทนไม่ได้ไงคะ”
“ผิดพลาด...มันผิดพลาดมาแต่แรกเลย...ฝนต้องเจ็บปวดที่ความรักนี้ไม่มีวันจะสมหวังได้”
“แต่ฝนก็ไม่มีวันเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป”
“เดี๋ยวๆ...เราต้องมาคุยกันให้รู้เรื่องนะ!!!
“หนูไม่มีอะไรจะพูดด้วย!!
“ฝน--...ฝน!!
“.................................................”
“แล้วป่านนี้เจ้าตัวต้นเหตุไปอยู่ไหนกัน?...ก่อเรื่องงามหน้าเจาะไข่แดงน้องสาวเราและยังจะมาก้อร่อก้อติกกับเราอีก...ฮึ่ม!!...อยากจะโหดเหี้ยมให้ได้สักครึ่งหนึ่งของพี่เซคจริงๆ...รู้งี้ที่โรงแรมนั่นฉันน่าจะเฉือนทิ้งให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ!!!
.........................................................................................................................

...ตัวอย่างในตอนหน้า...

“พ่อนี่แย่จังเลย!...ลืมกระทั่งชื่อลูกตัวเองทั้งที่เป็นคนตั้งให้หนูแท้ๆ”
“แบบ...แบบว่ายังไงดี?...พะ...พ่องานยุ่งน่ะหนู...นะๆ...ช่วยบอกชื่อเล่นชื่อจริงของหนูให้...ให้พ่อฟังอีกทีนะ”
“แหม~~...งั้นหนูจะบอกแค่ครั้งเดียวอย่าลืมอีกล่ะ...หนูชื่อริน...ชื่อจริงหยาดวารินทร์...วิษณุมนตรี”
............................................
“คะ...คุณคือ...อานีย์เหรอครับ?”
“มิได้พบกันเสียนานนะจ๊ะ...หลานช่างรูปงามเหมือนท่านพี่เอกภพเมื่อครั้งยังหนุ่มมิผิดเพี้ยน”
“นายหญิงอรศินีย์เจ้าคะ...คุณเอ้สั่งไว้ว่าคืนนี้คุณเอกคเชนทร์จะต้องนอนในห้องนี้เจ้าค่ะ”
............................................
“ผม...ผมปฏิเสธไมตรีที่ฝนยื่นมาให้ไม่ได้”
“แล้วจะเอาน้องสาวของฉันไปไว้ที่ไหนแล้วพี่กุนกับสา?...เธอจะทำยังไง?”
“ก็บอกแล้วว่าผมบอกปัดไม่ได้!!...ต่อให้ย้อนเวลากลับไปผมก็จะทำแบบเดิม”
................................................................................................................................



37 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากๆครับ แวะมาเจิมเสียหน่อยนึง ^_^

    ตอบลบ
  2. ของขวัญวันสงกรานต์ใช่มิครัช คริๆ ขอให้มีความสุขมากๆนะครับท่าน.abslman

    ตอบลบ
  3. สนุกสุขสงกรานต์ครับท่านผู้แต่ง และก็คงต้องขอขอบคุณท่านเช่นเคยครับผม

    ตอบลบ
  4. สุขสันต์วันสงกรานต์ล่วงหน้าครับ (วันนี้ 10/4)
    รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

    ตอบลบ
  5. ขอบคุนครัช ได้เพิ่มมาอีกนิดพอชุ่มชื่นหัวใจ คิคิ

    ตอบลบ
  6. ถึงจะมาแค่น้อยนิด
    แต่ก็ทำให้แฟนคลับ ได้หายคิดถึงไปบ้างครับ

    ตอบลบ
  7. แวะมารอเนื้อเรื่องที่เหลือเมื่อไหร่จะมาน๊

    ตอบลบ
  8. ถ้าไม่มีอะไรติดขัดพรุ่งนี้ 30 เมษาผมจะลงต่อให้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ช่วงก่อนสงกรานต์จนถึงวันนี้แถวบ้านผมอากาศร้อนมากครับทำให้ผมไม่มีกะใจจะเรียบเรียงเรื่องเลยและคอมก็ไม่ได้อยู่ในห้องแอร์ด้วยจึงเปิดนานไม่ได้ ไอ้ครั้นจะไปร้านเน็ตก็หนวกหูเด็กมันเล่นเกมส์กัน สรุปคือเพราะอากาศร้อนคนเขียนจึงอู้และก็ขี้เกียจไปพักใหญ่เลยครับ

    ตอบลบ
  9. อย่าว่าแต่คนเขีียนเลยครับ

    ผมว่าคนอ่านทุกคน ก็เซ็งกับอากาศร้อนเช่นกัน

    ตอบลบ
  10. สมดั่งรอ ถึงจะยาวดัั่งที่หวัง แต่ก็ยังดีที่มา30% ไปเรื่อยๆครับ อากาศไม่ต้องรีบร้อนตามอากาศ เดี๋ยวจะปวดหัวเอา

    ตอบลบ
  11. ร้อนกันถ้วนหน้าครับ แต่ใจเย็นๆ ผมเลื่อยๆครับ เพราะผึ้งป่วยหนักมา ยังไงก็รอติดตามต่อครับ มีเวลาติดตามเรื่องนี้ทั้งชีวิตครับ ^^

    ตอบลบ
  12. แวะเข้ามาดูเรื่อยๆ
    แต่ไม่กล้าโพสตอบบ่อยๆ
    กลัวจะไปกดดันท่าน adslman มากไป

    ได้มาทีละนิด ๆ ก็ยังดี

    ตอบลบ
  13. เข้ามาแวะดูทุกวันเหมือนกันครับ เป็นกำลังใจให้ท่านadslmanเสมอนะครับ

    ตอบลบ
  14. ทำไมท่านแอดมินเงียบหายไปเลย

    ตอบลบ
  15. เข้ามาแวะดูเกือบทุกวันเลย

    เห็นท่าน adsl หายไปนาน
    เลยอดใจไม่ไหว ต้องเข้ามาถามไถ่ (แอบๆกดดัน)

    หลังจากที่ฝนปะทะกับอ๋อมแล้ว
    ยังไงๆ ผมก็เื่ชื่อว่าพี่แคท ต้องดูออกว่าฝนมีอาการผิดปกติ
    (เจ็บตรงส่วนนั้น ทำให้เตะได้ไม่เต็มที่)

    ตอบลบ
  16. เหตุผลที่งานไม่ค่อยคืบหน้าคือ
    1.อากาศร้อน
    2.มุกตื้อคิดอะไรไม่ค่อยแล่น
    3.ธุระยุ่ง(ดูแลหลานช่วงปิดเทอม)
    แล้วไอ้ครั้นจะเอาแบบบู๊เต็มที่ก็กลัวว่าความน่ารักของสาวๆจะลดฮวบ (ฮ่า) จึงพยายามเรียบเรียงให้กระชับและอ่อนลงมาหน่อยครับ บทบู๊ยากกว่าที่คิดไว้

    ตอบลบ
  17. มีหลายๆรสชาติก็ดีครับท่าน
    มีทั้งหวาน เปรี้ยว เค็ม จืด มันๆ หรือแม้กระทั่งขม

    ตอบลบ
  18. น่าจะเป็นฝนที่แพ้ แต่บอลคงไม่ไปกับอ๋อม เพราะอะไรสักอย่าง เลยไม่มีที่ซุกหัวนอน เป็นผีไร้ศาล ประมาณนี้มั๊ง เดาๆเอา ก็เป็นกำลังใจให้ครับ เด็กๆก็เปิดเทอมแล้วก็คงจะเร็วขึ้นหน่อย โอกาสหน้าอยากอ่านฉากโรแมนติก บนยอดเขานะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. นึกถึงประโยคที่พี่แคทบอกฝนว่า
      ปกติแล้ว ท่าเท้ายมฑูต จะต้องร้ายกาจกว่านี้
      นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้ฝนแพ้ (เพราะเจ็บตรงนั้น)

      ส่วนคำว่า ผีไร้ศาล
      ก็น่าจะหมายถึง บอล ไม่มีที่จะไป(อยู่) นั่นเอง

      ลบ
    2. โอยๆๆ ยิ่งเดายิ่งหัวปวด มาแนวนี้ไปไม่ถูกเลย เดายากจริงๆ แต่ก็นี้ล่ะที่แฟนๆติดตาม เรียบง่ายแต่เดายาก คงต้องรอจุดจบของตอนจริงๆล่ะงานนี้ เรื่อยๆแล้วกันนะครับไม่รีบ แต่จะรอ จะเข้ามาดูทุกวันเลย เป็นกำลังใจให้เสมอครับ

      ลบ
  19. ดีใจนะครับที่ท่านadslmanมาแจ่งข่าว เรื่องเวลาไม่ใช่ปัญหาคครัชสำหรับแฟนๆตัวยง แต่ได้ติดตามได้รู้ข่าวคราวของื่านนักเขียนบ้างแค่นี้ก็ดีใจแล้วครับ^^

    ตอบลบ
  20. ในที่สุด ก็มีมาเพิ่มให้แฟนๆคลับได้หายคิดถึงกันละ
    บรรยากาศการต่อสู้ ช่างเร้าใจจริงๆ
    คาดเดาลำบากจริงๆ (ถ้าไม่ได้ สปอยมาก่อน)

    ตอบลบ
  21. ขอบคุณครับ ถึงจะมาน้อย แต่ก็ได้รสชาติ.คริๆ

    ตอบลบ
  22. มา 55% แล้ว

    ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม
    อดใจรอ ผลงานระดับมาสเตอร์พีซ
    ต้องใจเย็นๆ

    ตอบลบ
  23. โอ้ว...นี่คือการต่อสู้ของมนุษย์ผู้หญิงจริงๆหรือคริ คริ คริ สนุกมากครับ สู่กันมันดี555

    ตอบลบ
  24. ถ้าความแตกบอลก็คงโดนโกรธจากทั้งหมดนั่นแหละนะ สู้กันแทบตาย เจอฝนตัดหน้า 55

    ตอบลบ
  25. ขอบคุณครับ งวดนี้ดูท่า บอลต้องหาทางหนีทีไล่ไว้หรอแล้วหละครับ เริ่มมีหลักฐาน555+

    ตอบลบ
  26. ครบตอนแล้ว ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ
  27. ขอบคุณมากๆครับถึงช่วงนี้จะไม่ค่อยได้เข้ามาเลย แต่ก็จะตามให้กำลังใจเสมอนะครับ

    ตอบลบ
  28. รินลูกใครอีกละเนีย

    ตอบลบ
  29. จบไปอีกตอนนะครับ71ตอนนี้รู้สึกจะเป็นการเดินทางที้ยาวนานมาก(ว่าไปโน่น) แต่ก็รู้สึกดีใจนะครับที่คาเเรคเตอร์ของแคทดูอ่อนลงมาก(ถ้าเป็นเมื่อก่อนรู้ว่าฝนกับบอล...คงส่งยอลไปนอนโรงบาลละ555)สาวแคทคือนางเอกประจำเรื่องนี้เลยนะครับ แหะๆ^^ สำหรับตอนหน้าจะมีตัวระครใหม่เข้ามา "หยาดวารินทร์ วิษณุมนตรี"(ใครกัน)หน้าติดตามมากครับ) แต่ยังไงผมก็เชียบอลกะแคทเหมือนเดิมน๊ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  30. ขอบคุณมากครับ ความแตกแล้วบอลจะเป็นยังงัยบ้างหนอ รอติดตามนะครับ

    ตอบลบ
  31. ขอบคุณคร้าบบบ มาครบแว้ววว

    ตอบลบ
  32. ขอบคุณครับ เห็นด้วยกับท่านสายลมนะครับว่าแคทเริ่มอ่อนลง จากโหดๆ เริ่มมีเขินเวลาโดนบอลแซวซึ่งปกติแล้วแคทจะค่อนข้างเย็นชาเวลาโดนแซว แต่นี่แอบมีบ่นอุบอิบตอนรู้ว่าฝนเสร็จบอลไปละ เหมือนจะงอนๆ ลองนึกภาพคนสวยๆน่ารักๆ ตอนกำลังงอนดูก็อดยิ้มไม่ได้ คงน่าเอ็นดูไม่หยอก นี่แสดงว่าแคทแอบมีใจให้บอลแล้วสิเนี่ย

    ตอบลบ