หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Moonstone Sidestory 2



Moonstone Sidestory 2 “ตามล่าฆาตกร...พบเบาะแส!!!!

“เสี่ยจะไปงานเลี้ยงสิ้นปีที่โยนกจัตุรัสด้วยหรือคะ?”
“ครับ...ท่านเอกบดินทร์อุตส่าห์ออกบัตรเชิญ...แม้จะติดเรื่องจัดงานศพภรรยาแต่หากผมไม่ไปล่ะก็คงเสียมารยาทแย่”
“แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...คุณตาท่านเข้าใจ”
“ผมตั้งใจจะไปคารวะท่านตั้งนานแล้วครับและอีกอย่างผมก็เคยทำธุรกิจกับวิษณุมนตรีมาก่อน”
“แล้ว...จะเดินทางตอนไหนหรือคะ?”
“งานเลี้ยงมีคืนพรุ่งนี้ใช่มั้ยครับ?...ผมกะว่าจะออกจากที่นี่พรุ่งนี้เที่ยง”
“ส่วนดิฉันจะไปวันนี้เลย...ทิม...นายเคลียร์งานเสร็จก็ไปกับฉันก็ได้”
“ผมไม่ไปหรอกเพราะคดีคุณดวงตายังไม่คลี่คลาย”
“หนอย!!...กล้าปฏิเสธคำขอของคุณตาฉันงั้นรึ?”
“ไม่ใช่--...แต่ว่า...”
“ไม่รู้เฟ้ย!!!...นายต้องไปเพราะคุณตาอยากเจอและถ้าไม่ไปท่านจะต่อสายคุยกับผู้บังคับบัญชาของนาย”
“โธ่~~...เซคเนี่ยชอบบังคับคนอื่นไม่เปลี่ยน”
“ยังไงคนร้ายก็หนีไม่รอดกฎหมายและบาปกรรมไปได้...ฉันเคยบอกกับเสี่ยตอนอยู่ที่โรงพยาบาล...ใช่มั้ยคะ?”
“ครับ”
“เข้าใจแล้ว...งั้นผมขอไปสั่งงานลูกน้องแล้วจะขับรถตามไปละกัน”
“ฮะๆๆ...ไปกันเยอะๆสิดีเพราะงานจะได้สนุกครึกครื้นนะครับผู้หมวด”
“หือ?”
“นั่นเสียงอะไรน่ะ?”
“พวกแกเอะอะอะไรกัน?...ฉันกำลังมีแขกอยู่นะหัดรู้จักมีมารยาทมั่ง!!
“เกิดเรื่องแล้วครับเสี่ย?”
“หา?”
“พี่จักรหายไปไหนก็ไม่รู้...ตามหาก็ไม่เจอครับ?”
“ว่าไงนะ?”
!?
“...............................................”
...........................................................................................................................................

“พวกมึงทำอะไรพี่จักรน่ะ?”
“แย่แล้วคุณหนู!!!
“เจ้ารีบไปที่จุดนัดพบซะ”
“คุณหนู”
“เร็ว!!...แล้วเราจะตามไป”
“คิดหนีเรอะอย่าหวังเลย...อ๊อก!!!
“ขออภัยด้วยแต่ปลายแถวเช่นเจ้าขัดขวางพวกเรามิได้ดอก”
“เตะก้านคอทีเดียวร่วง...หึ!...ที่เจ้าฝึกมวยไทยนับว่ามิสูญเปล่าเลย”
“ได้โปรดรีบตามมาด้วยนะเจ้าคะคุณหนู”
“อืม”
“................................................”
“เจ้าเองก็มิรู้เห็นเหมือนกันรึ?...เปล่าประโยชน์อีก...”
“................................................”
“................................................”
“...ไม่นึกว่าจะมีหนูสกปรกแอบเข้ามา”
!?
“จะถลกหนังออกแล้วกระทืบให้แหลกคาตีนเลย!!
“อั๊ก!!!
“เพราะยังไงก็ถือได้ว่าทำไปเพื่อป้องกันตัวและจัดการผู้บุกรุกที่อาจจะมีอาวุธ...มานี่เลยมึง!!!
“เฮอะ!
“โอ๊ก!!
“...............................................”
“อะ...อะไรนี่!?...มึง...มึงทำอะไรกู?
“เจ้า...บังอาจมาก!!
“เสียงเอะอะอะไร?”
“ผู้บุกรุกครับเสี่ย!!
“มันอยู่ทางนี้--”
“รีบขึ้นไปบนดาดฟ้าเร็วๆเข้า!!!
“แก...แกเป็นใครกันแน่?”
“ชิ!!
“หยุดนะ!!...อุ๊บ!!!
“พี่จิ๋ว!!
“รีบตามไปเซ่!!...มันเป็นใครกันวะ?”
“นั่นมันไอ้คนบ้า”
“คนบ้า?”
“เมื้อกี้มันมาร้องเพลงอยู่หน้าตึกน่ะครับ”
“บ้าจริงซะที่ไหนมันแกล้งทำต่างหากเล่าไอ้โง่!!!
“หา?”
“เป็นยังไง?”
“เราหาไม่เจอเลย...สงสัยมันหนีไปแล้ว”
“ปัทโธ่โว้ย!!...พวกมึงนี่ก็ไม่ได้ความเอาซะเลย”
“แล้วพี่บาดเจ็บหรือเปล่า?”
“อือ--...กูก็ไม่รู้ว่ามันทำอะไรแต่เล่นซะจุกแทบลุกไม่ขึ้นแล้วไอ้ตำรวจนั่นก็ยังอยู่ในตึกนี้ด้วย...กูรีบเผ่นก่อนดีกว่า”
“เดี๋ยวผมจะรายงานเสี่ยเองครับ”
“ไม่เข้าใจจริงๆ...แค่เจ้านั่นผลักมือมาที่เราก็เหมือนกับมีแรงอะไรบางอย่างกระแทกเราจนกระเด็นอัดข้างฝา...นั่นคือ...เรา...เราถูกผลักใช่มั้ย?”
“พี่จิ๋วครับ”
“อ้อ!!...เสี่ยมาพอดี”
“...มันเป็นใครกันแน่?”
“ผมก็ยังไม่รู้แต่ที่แน่ๆมันแกล้งบ้าแถมไม่ธรรมดาซะด้วย...ไอ้จักรเป็นยังไงมั่งล่ะ?”
“ฟื้นแล้วแต่บอกว่าจำอะไรไม่ได้เลยและยังโวยวายใหญ่ว่าใครต่อยปากมัน...นี่มันชักจะแปลกๆนะว่ามั้ย?”
“จำอะไร...ไม่ได้รึ?”
“อืม--...พอมองตาไอ้บ้านั่นแล้วก็ไม่รู้สึกอะไรอีก...ไอ้จักรมันว่าแบบนี้”
“...........................................”
“คิดว่าไง?...กูว่าไอ้จักรไม่โกหกหรอกแต่ที่ไม่เข้าใจคือมันเกิดอะไรขึ้น...ไอ้คนแกล้งบ้านั่นใช้วิธีการอะไรกัน?”
“วิธีน่ะยังไม่รู้แต่เป้าหมายหลักของพวกมันน่าจะเป็นไอ้จักร...ไม่สิ...ลูกน้องทุกคนของเสี่ยเลย...ฝ่ายนั้นคงจะคิดรีดเอาความลับออกมา”
“เฮอะ!!...ถ้าเป็นเรื่องเมียกูตายล่ะก็ทำไปก็เท่านั้นเพราะไม่มีใครรู้เห็นอะไรสักคน...นับว่าบังอาจไม่เบาที่กล้ามาลูบคมเสี่ยคำลือคนนี้”
“ผมเองก็โดนอัดกระเด็นเหมือนกัน...นี่ยังปวดหลังแปล๊บอยู่เลย”
“ยังไงๆระดับมืออาชีพอย่างแกก็ไม่น่าจะเกินมือนะ?”
“ฮะๆ...แต่ผมว่าคงต้องออกแรงกันมากหน่อยแล้วเสี่ยว่ามันจะเกี่ยวข้องกับไอ้ผู้หมวดนั่นมั้ย?”
“นั่นสิ...นี่กูก็ยังสงสัยอยู่เพราะทำไมมันช่างประจวบเหมาะกันพอดี?...ฮึ!!...แค่วันแรกที่เข้าออฟฟิศก็เกิดเรื่องเลย”
“ผมต้องทำยังไงต่อ?”
“จะหลบไปกบดานอยู่เงียบๆสักพักหนึ่งมั้ยล่ะ?”
“ไม่!!...ผมจะยังอยู่แถวๆนี้แหละ...อีกอย่างฉายาจิ๋ว แวงใหญ่นี่นับว่าโด่งดังพอตัวและพวกตำรวจก็จมูกไวจะตาย”
“งั้นระหว่างนี้อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น...วันสองวันนี่กูจะไปธุระแถวทองแสนขัน...รอจนกว่ากูจะกลับมาค่อยหารือกันอีกที”
“ครับ”
“ไม่มีวันหรอก--...พวกแกจะต้องคว้าน้ำเหลวทุกอย่างเพราะการตายของดวงตาน่ะมันเป็นอุบัติเหตุ...หึๆๆ”
..............................................................................................................................................

“นัยน์ตาที่อำมหิตกระหายเลือดเช่นนั้นเรารู้สึกได้ทันทีว่าเจ้านั่นจักต้องเคยสังหารผู้คนมาอย่างโชกโชน!!!
“ไม่ทราบว่าคุณหนูพอจะรู้ชื่อหรือเคยเห็นเขามาก่อนบ้างมั้ยครับ?”
“...มิเคยเห็น...แต่เราได้ยินพวกมันเรียกชายคนนั้นว่าจิ๋ว”
“จิ๋ว!?...เอ๊ะผมว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหนน๊า?...คุ้นๆเพิ่งเห็นผ่านตาสักวันสองวันนี่เอง...เดี๋ยวจะรีบไปตรวจสอบให้นะครับ”
“ไปเถิด...เผื่อเจ้าหน้าที่จะยังอยู่ในละแวกนี้...หากเรารวมกลุ่มกันย่อมมิปลอดภัย”
“คุณหนูก็รีบออกจากที่นี่เถอะครับ...ผมไปล่ะ”
“.............................................”
“อึ๊ก!!
“คุณหนู!!...ได้รับบาดเจ็บหรือเจ้าคะ?”
“...พาเรา...ไปนั่งพักตรงนั้น”
“พลาดท่าถูกหมัดของชายชื่อจิ๋วชกเข้าที่ท้องอย่างจัง...ตั้งแต่เกิดจนโตเรามิเคยโดนใครทำร้ายมาก่อน...ครั้งนี้ประมาทไปจริงๆที่ปล่อยให้ผู้อื่นเข้าใกล้ตัวได้โดยง่ายนัก...มัน...เจ็บปวดถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”
“แม้พลังจิตของคุณหนูจะแข็งแกร่งทว่าร่างกายนั้นกลับบอบบางดุจอิสตรีทั่วไปมิแตกต่างกันเลย”
“เรามิใช่นักสู้ดังเช่นท่านพี่สุรีย์พรรณหรือนางเสือจอมอหังการนะ...กำปั้นเมื่อกี้หากเป็นพวกนางย่อมมิอยู่ในสายตาดอก”
“นายจิ๋วนั่นรู้ตัวจริงของคุณหนูหรือยังเจ้าคะ?”
“...คิดว่ายัง...เมื่อครู่เราก็ตอบโต้มันได้แลจะเข้าซ้ำแต่กลับมีพวกมาช่วย”
“เสี่ยคำลือมีสมุนมือดีคอยอยู่รายล้อมเช่นนี้เห็นทีจะมิง่ายซะแล้ว...เอ๊ะนั่นคือ?”
“ของที่เราซื้อให้คุณดวงตาซึ่งนี่คือสิ่งยืนยันความเชื่อแต่แรกเริ่ม...ไอ้เสี่ยคำลือจอมปลิ้นปล้อนมันจะต้องชดใช้
แต่ก่อนอื่น...”
“มีใครกำลังมาทางนี้...รีบไปกันเถิดเจ้าค่ะ”
“เจ้าไปคนเดียว...ที่นี่เราจัดการเอง”
“จะ...เจ้าค่ะ”
“กัดมิปล่อยจริงๆนะผู้หมวดว่าแต่ตามมาได้อย่างไร?”
(...รึจะเป็นเพราะท่านพี่แจ้งให้เขาทราบ?)
“เจอตัวซะที”
“............................................”
“ใครจะไปนึกว่าสาวสวยที่มีคนขนานนามว่าเป็นร่างแปลงของนางฟ้านางสวรรค์จะกล้าเปลี่ยนโฉมเป็นชายวิกลจริตผมเผ้ายุ่งเหยิงสวมใส่เสื้อผ้าสกปรกเดินเตร็ดเตร่ไปตามถนนแต่นั่นคือการตบตาทั้งเพ”
“เหอะๆๆ”
“เพราะลับหลังก็แอบลอบเข้าไปในอาคารของเสี่ยคำลือสืบค้นหาหลักฐานและยังให้พี่สาวร่วมมือพาผมมาเป็นตัวล่อเรียกความสนใจของทุกคน...พูดง่ายๆก็คือหลอกใช้ตำรวจเพื่อล้วงความลับของเสี่ยคำลือ...ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว”
“ฮิๆๆ...นกบินไปก็บินมา”
“เลิกเล่นบทคนบ้าเสียสติได้แล้วล่ะ...ผมมีอะไรอยากจะถามน้องม่อนเต็มไปหมดเลย...โอ๊ะ!?...จู่ๆก็ขว้างหินใส่มันอันตรายนะ”
“แต่เราหาได้มีเรื่องพูดกับท่าน...ไปซะ!!...ท่านทำงานของท่านส่วนเราก็ทำงานของเราอย่าได้ยุ่งเกี่ยวกัน”
“น้องจะทำอะไรที่ผิดกฎหมายไม่ได้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเถอะ...อีกอย่าง...”
“?”
“เลือด...น้องม่อนเอาเลือดคุณดวงตาทาปากจริงหรือ?”
“...จริง”
“ทำไปเพื่ออะไร?”
“นั่นคือ...คำสัญญาจากสหายที่มีต่อผู้วายชนม์ว่าเราจะลากคอฆาตกรมาชดใช้กรรมให้จงได้”
“พี่ก็บอกแล้วไงว่าให้เป็นหน้าที่ของกฎหมายที่จะเอาคนผิดมาลงโทษ”
“ทว่าบางครั้งกฎแห่งกรรมก็เดินทางเร็วกว่านะเจ้าคะ”
“น้องม่อน”
“ท่านกับเราผู้ใดจะจัดการเสี่ยคำลือได้ก่อนช่างน่าติดตามนักแลหากท่านทำสำเร็จเราก็จะยอมรามือ...หึๆ...แต่จงรีบซะก่อนที่โอกาสจะหลุดลอยมาเข้าสู่กำมือของเรา...ผู้หมวด”
“..................................................”
..........................................................................................................................................

(“เรากำลังเดินทางกลับโยนกบูรพา...เจ้าล่ะ?”
“ผมก็นั่งรถมาจวนจะถึงแล้วครับ...คุณหนู...ผู้ชายที่ชื่อจิ๋วนั่น...บางที...”
“รู้แล้วอย่างนั้นรึ?”
“เขาอาจเป็นมือปืนรับจ้างที่มีฉายาว่า...จิ๋ว แวงใหญ่...หมอนี่มีหมายจับและค่าหัวสูงทีเดียวครับ”
“เช่นนั้นสังหรณ์ของเราก็ถูกต้องว่าแต่แวงใหญ่นั้นคืออะไร?”
“เป็นชื่ออำเภอหนึ่งในจังหวัดขอนแก่นครับ”
“จะเกี่ยวกับที่เสี่ยคำลือเดินทางไปไหม?”
“ผมว่าใช่แน่นอน...เจ้าเสี่ยนั่นคงจะไปว่าจ้างให้จิ๋ว แวงใหญ่มาทำงานกับมัน”
“แล้วเหตุใดจะต้องไปติดต่อด้วยตนเองให้เสียเวลา?”
“เรื่องสำคัญๆอย่างการว่าจ้างให้ไปเก็บใครสักคนนี่เขาไม่ติดต่อกันทางโทรศัพท์หรอกนะครับเพราะเสี่ยงจะถูกดักฟัง”
“อืม--...นับว่ารอบคอบใช้ได้เทียว”
“แค่นี้ก่อนนะครับ...ผมจะถึงบ้านแล้ว”
“เจ้าจะร่วมงานเลี้ยงด้วยหรือไม่?”
“ผมกะว่าจะไปสักประเดี๋ยว...พอดื่มให้กรึ่มๆสักหน่อย...แฮะๆๆ”
“...อย่าดีกว่า”
“เอ๋?”
“เจ้าเสี่ยคำลือจะมางานนี้ด้วย”
“แต่ผมว่าไม่น่าเป็นอะไรนะครับเพราะเขาไม่เคยเห็นผม”
“เราหมายถึงลูกน้องของมัน...เจ้าเคยไปกินอาหารที่ร้านหน้าอาคารของเสี่ยคำลือมิใช่ฤา?”
“เออจริงด้วย!!...ไม่แน่ว่าไอ้พวกนั้นอาจจะตามมา”
“ถูกต้อง...หากพวกมันเห็นหน้าเจ้าแลจำได้ย่อมเกิดความสงสัย”
“โห~~...แบบนี้ผมก็เซ็งแย่สิ...อุตส่าห์รอ”
“มิต้องเสียดายไปดอกเพราะเราจะชดเชยให้เจ้าเอง...คืนนี้เจ้ามาที่เรือนมุกดาจันทร์...เพียงผู้เดียว”)
“คุณหนู...แต่งคิ้วให้เข้มอีกนิดเจ้าค่ะ”
“อืม”
“แลตรงจมูกควรหนากว่านี้”
“...นายสมหวังเป็นอย่างไรบ้าง?”
“หลับมิรู้สึกตัวเจ้าค่ะ...คาดว่าพรุ่งนี้เช้าอาจได้สติ”
“ม่อน”
“ท่านพี่...มาถึงที่นี่มีสิ่งใดให้น้องรับใช้หรือเจ้าคะ?”
“เปล่า...จะมาเตือน”
“?”
“พี่ขอให้พวกเธอจงระมัดระวังตัวให้มากขึ้นและทำอะไรรอบคอบกว่าที่เป็นอยู่นี่...คราวนี้ถึงกับมีนักฆ่ามืออาชีพมาข้องเกี่ยวด้วยแล้วน้องก็เกือบจะเสียที...แต่พี่ยังไม่ได้บอกทิมหรอก”
“...............................................”
“เอาล่ะ...แต่ในเมื่อกลับมาทั้งทีความจริงม่อนก็น่าจะปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนนะ?”
“แปลงโฉมสะดวกกว่าเจ้าค่ะ”
“ฉันก็รู้น่าไหม--...คงจะมีเรื่องอื่นอีกล่ะสิ?”
“...............................................”
“เจ้าเอกคเชนทร์ใช่มั้ย?”
“................................................”
“ไม่ตอบก็แสดงว่าใช่...อ่ะ!!...พี่ไม่กวนล่ะต้องไปแต่งตัวเหมือนกันแล้วนั่นเสียงหัวเราะของใคร?”
“นายชาญเจ้าค่ะ”
“อีตานักสืบไม่ได้เรื่องนั่นทำไมมาอยู่ที่นี่?”
“เพื่อตอบแทนน้ำใจเล็กๆน้อยๆเจ้าค่ะ”
“หึๆ...ยังชอบทำอะไรไม่เหมือนคนอื่นจริงๆน้องสาวพี่คนนี้”
“................................................”
“ม่อน...อย่าให้ถึงขั้นเอาชีวิตกันเลยนะ...บอกตรงๆว่าพี่ไม่อยากให้น้องเจริญรอยตามเอ้กับคุณน้าอรศินีย์”
“...มันย่อมขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้นเจ้าค่ะ”
“เฮ้อ!!...พี่ละอยากให้เจ้าทิมรีบจับไอ้เสี่ยนั่นเข้าห้องขังเร็วๆจัง...ได้เดี๋ยวนี้เลยยิ่งดี”
“ท่านพี่”
“?”
“ขอบพระคุณเจ้าค่ะที่ปฏิบัติตามคำขอของน้อง”
“...อือ--...ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงอะไร”
........................................................................................................................................

“ไปกันเถิด...อ๊ะ!...ไปกันเถอะครับ”
“ดิฉันจะล่วงหน้าไปก่อนเจ้าค่ะ”
“อืม--...อย่าลืมที่ผมเตือนนะ”
“คุณเอกคเชนทร์จะมาถามดิฉันเรื่องคุณหนูจริงหรือเจ้าคะ?”
“มีความเป็นไปได้เพราะคุณศรมุกดาไม่ได้มาในงานและผู้ใกล้ชิดอย่างไหมก็คือเป้าหมาย”
“.............................................”
...เวลานี้เราคือ “สมหวัง” หนุ่มน้อยที่มีหน้าที่รับส่งอาหารเครื่องดื่มไปให้แขกที่มาร่วมงานฉะนั้นต้องแสดงให้สมบทบาทเพื่อรอเวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสม...
“หวัง!!...เอานี่ไปเสริฟ์โต๊ะริมแถวซ้าย”
“ครับ”
(หนักเหมือนกัน...เราเคยทำงานเช่นนี้มาก่อนซะที่ไหนจึงมิคุ้นเคยเอาเสียเลย)
โอ๊ะ!!”
ขอโทษครับ
ไม่เป็นไรครับ
เอ๊ะ?...คุณ...ชายหก
(เอกคเชนทร์!!...เพราะเราปิดกั้นจิตสัมผัสแลพยายามใช้ตาเนื้อมองดูจึงมิทันรู้ตัวจริงๆว่าเจ้าจะมาอยู่ตรงนี้)
ผมช่วยถือมั้ยครับ?...ท่าทางจะหนัก
ไม่เป็นไรครับไม่เป็นไร...ผมไม่กล้ารบกวนคุณเอกคเชนทร์หรอก...แหม~~...เมื่อกลางวันผมได้พบคุณหนูศรมุกดาและตกเย็นก็ได้คุยกับคุณเอกคเชนทร์อีก...ผมช่างโชคดีจริงๆ...นึกว่าจะไม่มีโอกาสซะแล้ว
(ใจดีเสียจริงนะ!?)
คุณได้เจอพี่ม่อนเหรอ!?
ครับ...ได้คุยด้วยตั้งหลายคำ...ผมล่ะปลื้มใจเหลือเกิน
เธอปลอมตัวเป็นใครครับ?”
ปลอมตัว?...ไม่นี่...คุณหนูศรมุกดาตัวจริงเลยนะครับ
(เราเพิ่งกลับมาถึงจะแปลงโฉมได้อย่างไร?)
พบที่ไหน?”
ที่นี่แหละครับ...เธอมากับคุณไหมที่เป็นคนสนิท...พูดเหมือนคุณเอกคเชนทร์เป๊ะเลยว่าจะช่วยผม
(แค่เหตุบังเอิญมากกว่า)
ที่บอกว่าโชคดีน่ะยังไงหรือ?”
เพราะคุณหนูศรมุกดาไม่ค่อยปรากฏตัวต่อหน้าคนอื่น
ก็...ชอบปลอมตัวเป็นใครต่อใครไม่รู้นี่นา
(เพราะมันเป็นความบันเทิงใจของเรา)
คนนอกไม่รู้เรื่องก็ถือว่าปกติแต่ทว่า...
“?”
แม้แต่ชาวบ้านในโยนกจัตุรัสก็ยังมีอีกมากครับที่ไม่เคยเห็นรูปโฉมที่แท้จริงของคุณหนูศรมุกดา
ฝนเคยบอกว่าเธอชอบแปลงโฉมเป็นคนอื่นไม่ว่าจะทั้งผู้ชายหรือผู้หญิงเพราะมีจุดประสงค์บางอย่าง
นี่แหละครับที่น่ากลัวมาก!!!...ไม่แน่ว่าเวลานี้เธออาจจะปลอมเป็นใครสักคนกับแฝงตัวเข้ามาในงานแล้วก็ได้
(ใช่...แต่เจ้าจะรู้ไหมนะ?)
หึ!...ผมล่ะไม่เข้าใจความคิดของเธอจริงๆ
(เจ้ามิจำเป็นต้องมาเข้าใจ)
“...ผมชื่อสมหวังอยู่ที่โยนกบูรพา...ขอตัวไปช่วยเขาจัดสำรับก่อนนะครับ
ตามสบายครับ
“..................................................”
“..................................................”
เป็นฝ่ายเข้าไปพบปะชาวบ้าน...นั่นคือความตั้งใจของตัวเจ้าหรือคำแนะนำจากผู้ใด?”
อุ๊บ!...ดื่มมากไปหน่อย...จะอยู่ถึงจนงานเลิกไหวมั้ยเนี่ย?”
“.................................................”
ไง!!...มาทำอะไรอยู่ตรงนี้เล่า?...เข้าไปหาเหล้ากินกันเถอะ
“.................................................”
เฮ้อ~~... คุณชายหกนี่มีสัมมาคารวะอ่อนน้อมถ่อมตัวดีนะ...ยกมือไหว้สวัสดีใกล้ชิดทุกๆคนโดยไม่ถือตัวเลยสักนิด...ท่านเอกบดินทร์กับท่านอุทุมพรคงจะมีความสุขมากๆที่หลานชายกลับมาซะที...เอ๊ะ?”
เจ้ากำลังง่วงนอนอย่างหนัก...เจ้าจะเริ่มมิรับรู้ถึงสิ่งรอบตัว...สติของเจ้าจะค่อยๆเลือนรางแลจมดิ่งลงสู่ความมืดมิด
อือ...อื๋อ~~
จงหลับไปซะบัดเดี๋ยวนี้!
เคาะ...คร่อก--
น่าขำ...เอกคเชนทร์ทำเพียงเท่านี้เจ้าก็ชื่นชมว่าเป็นคนที่ควรค่าแก่การนับถือแล้วอย่างนั้นรึ?”
“ฮะๆๆๆ...หลุดออกมาจนได้”
“เธอ...”
“อุตส่าห์ปลอมตัวกับเปลี่ยนสำเนียงพูดซะดิบดีก็อย่าเที่ยวสะกดจิตชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เซ่ยัยคนชอบทำตัวลับๆล่อๆ!!!
“...............................................”
“คราวนี้คิดจะเล่นตลกอะไรอีกวะ?”
“...ไม่ใช่เรื่องของคุณศรบุษราคัมสักนิดนะครับ”
“เออ--...ฉันก็ไม่ได้อยากจะยุ่งหรอกโว้ยแต่เห็นหล่อนเดินไปเดินมาในสภาพนี้แล้วมันขัดลูกตา!!
(จับไต๋เราได้แต่แรกเริ่ม...สมแล้วที่เป็นน้องสาวร่วมมารดา)
“อย่ามาทักอีกเพราะจะทำให้ผมเสียงาน”
“งานอะไรของเธอ?”
“...ศัตรูของผมจะมาในงานเลี้ยงคืนนี้”
“เฮอะ!!...หล่อนนี่มันขยันสร้างเรื่องจริงๆ...ชอบแกว่งตีนหาเสี้ยนเที่ยวไปทะเลาะกับชาวบ้านชาวช่องไม่รู้จักอยู่เฉยๆ”
(นางเสืออารมณ์ร้ายอย่างเธอมีสิทธิ์ว่าผู้อื่นได้ด้วยรึ?)
“อ้อ!!...แล้วที่ฉันออกมาคุยด้วยนี่ไม่ใช่เพราะอยากเจอแต่เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะไม่คิดทำอะไรแผลงๆกับบอล”
“...ธุระของผมไม่เกี่ยวกับคุณเอกคเชนทร์”
“ได้ยินอย่างนี้ฉันก็เบาใจ...นายสมหวัง...ไม่สิ...ยัยบ้าศรมุกดา!!!
“....................................................”
(หวงน้องชายอย่างออกหน้าออกตา...ดูท่าจะกู่มิกลับซะแล้วแต่ศรบุษราคัมเอ๋ย~~...เธอกับน้องนางศรโกเมนสมควรจะตาสว่างเสียทีว่าหัวใจของเอกคเชนทร์นั้นมีเจ้าของอยู่ซึ่งมิใช่เรื่องง่ายเลยที่พวกเธอจะสอดแทรกเข้าไปได้)
..................................................................................................................................

“เฮ่ยไอ้หวัง!!...เมื่อกี้เอ็งบอกอยากได้งานใช่มะ?...งั้นยกถาดเครื่องดื่มนี่ไปที่โต๊ะคุณวงศ์ศักดิ์ทีซิ”
“ครับ”
(น้ำองุ่นคงจะเป็นของท่านพี่สุรีย์พรรณแลอีกสองแก้ว...อื๋อ!?...กลิ่นฉุนเข้าจมูกเช่นนี้คือน้ำเบญจวารีมิใช่เรอะ?)
“อย่าเสริฟ์ผิดคนนะเว้ยไม่งั้นงานล่มแน่!!!...แก้วคุณหนูแคทอยู่บนสุดถ้ามองจากฝั่งแกนะ”
“พี่ไว้ใจผมได้เลย”
“..............................................”
“เชิญรับเครื่องดื่มครับ”
“ขอบใจจ้ะ...อ่ะ!...นี่ของคุณ”
“อืม”
“กำลังอยากดื่มน้ำองุ่นพอดี...ขอบใจนะจ๊ะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“เดี๋ยว”
!?”
“เก้าอี้ของเธอก็อยู่นั่นแน่ะ...ไม่คิดจะมานั่งเหรอ?”
(อุ!?...ท่านพี่สุรีย์พรรณรู้จริงๆด้วยว่าเป็นเราแต่ขืนทำเช่นนั้นก็เท่ากับประกาศตัวว่าเราเป็นใครน่ะสิ?)
“นั่นเป็นของคุณหนูสี่...ไม่ใช่ที่นั่งของผมเลยนะครับ”
“ฮิๆๆ...ก็ไม่รู้นะจ๊ะว่ามีเหตุผลอะไรแต่พี่จะช่วยเงียบไว้ให้ล่ะกัน”
(ขอบพระคุณมากเจ้าค่ะ)
“ข้าขอแสดงความเสียใจด้วยนะแต่ความจริงเสี่ยไม่ต้องมาก็ได้”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ...ผมอยากมาคารวะท่านอยู่นานแล้วและถ้ายังไงก็ขอเชิญไปร่วมงานศพภรรยาผมด้วยนะครับ”
(เจ้าคนชั่วจอมปลอมโผล่หน้ามาแล้วแต่มิเห็นจิ๋ว แวงใหญ่เลย...หือ!?...เมื่อกี้นี้ท่านน้าอรนิภา?)
“ข้อสันนิษฐานนั้นอาจเป็นความจริง”
“..........................................”
“...คุณศรบุษราคัม...กำลังมองมาที่เราเจ้าค่ะ”
“คุณหนูหยาดฝนก็ด้วย...ท่าทางจะรู้ซะแล้ว”
...เราจำต้องถอยห่างออกมาแม้รู้ดีว่าพวกนางจะมิแพร่งพรายเพราะเข้าใจว่าเราคงมีความจำเป็นบางอย่างถึงต้องแปลงโฉม...เหตุการณ์ยังมิเป็นใจให้เราแม้แต่นิดแลเมื่อครู่ก็ให้รู้สึกขัดเคืองเพราะเอกคเชนทร์หาญกล้าคุกเข่าขอท่านพี่เต้นรำ...เขาช่างบังอาจจริงๆ!!!...
บอล...ทำไมเธอถึงไม่เคยเชื่อฟังในสิ่งที่ฉันสั่งสอนซะมั่ง...นึกว่าตัวเองเก่งแล้วหรือยังไง?”
อะ...อะไรของพี่ครับเนี่ยอยู่ดีๆก็มาตะคอกใส่ผม?...โอ๊ย!!
เฮ่ยปล่อยบอลเดี๋ยวนี้นะไม่งั้นสวยแน่!!
ใครไม่เกี่ยวถอยออกไปฉันจะอบรมเจ้าน้องชายไม่รักดีนี่!!...อ้อ~~...รึถ้าอยากจะโดนด้วยก็เข้ามา!!!
(อะไรกันอีกล่ะนี่?)
เจ้าแคทใจเย็นๆก่อน...ค่อยพูดค่อยจากันดีๆ
ยายขอเถอะลูก~~...ปล่อยพ่อบอลเถอะ
(จู่ๆท่านพี่สุรีย์พรรณก็เปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน...นางคว้าคอเสื้อเอกคเชนทร์ด้วยจิตที่มุ่งร้าย...ใช่จริงๆด้วย!!...เมื่อครู่นี้ท่านน้าอรนิภาแอบสับเปลี่ยนแก้วเหล้าของตนกับของท่านพี่สุรีย์พรรณแต่เพราะมีจุดประสงค์ใดกันเล่า?)
ไม่มีอะไรนะคะ...ทุกคนไม่ต้องกลัว...เอ๋?”
คู่ต่อสู้หล่อนอยู่นี่!!
ฮึ!
ว้าก!!!...ไรห์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โอล่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พี่ชายรีบถอยออกมาเร็ว!!!
บอลบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
ไม่...ไม่เป็นไร
...ยมทูตกับนางเสือร้ายมีเหตุทะเลาะเบาะแว้งกันอีกคราย้อนรอยงานวันเกิดของท่านตา...เราสมควรจะแทรกแซงการต่อสู้ที่ไร้ประโยชน์ดีนี่หรือไม่นะ?...
จะมากเกินไปหน่อยมั้งสุรีย์พรรณ?...ฉันชักโมโหแล้วนะโว้ย!!!
(“อุตส่าห์ปลอมตัวกับเปลี่ยนสำเนียงพูดซะดิบดีก็อย่าเที่ยวสะกดจิตชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เซ่ยัยคนชอบทำตัวลับๆล่อๆ!!”)
กรอด!!!
(“ฮิๆๆ...ก็ไม่รู้นะจ๊ะว่ามีเหตุผลอะไรแต่พี่จะช่วยเงียบไว้ให้ล่ะกัน”)
บังอาจ!!!
ดี--...แน่จริงก็เข้ามา!!
(หากจะหยุดทั้งสองพร้อมๆกันเราคงต้องใช้พลังจิตเกือบทั้งหมดแลต้องให้จบในการลงมือเพียงครั้งเดียวด้วย...ยิงจันทรกานต์แยกออกเป็นสอง?...ช้าก่อน!!!...ท่านี้มีไว้เพื่อจัดการศัตรูเท่านั้นแลพวกนางก็เป็นลูกพี่ลูกน้องคนสำคัญของเรา...จะใช้จันทรกานต์มิได้)
นั่น...น้องแคททำอะไร?”
หืม?...มัน...มันเยาะเย้ยฉันนี่หว่า!?...แก!!!
(นอกจากนี้เราก็มิอาจจะทำลายความตั้งใจของศรบุษราคัมแลอีกอย่าง...ท่านพี่สุรีย์พรรณที่โหมบุกอย่างบ้าเลือดแต่แรกเริ่มก็เริ่มจะหมดแรงแล้วเช่นนั้นชัยชนะจักเป็นของนางพญาเสือ)
เอาะ...อ๊อก!!!
สะ...สำเร็จแล้ว!!!!
เมื่อกี้มันอะไร?”
ท่าสวนกลับของพี่อ๋อมค่ะ...ว้าว~~...เด็ดขาดมาก!!!
ที...ทีนี้...ก็จบได้ซะที...เล่นซะเหงื่อตก
พี่แคท!?
เป็นยังไงมั่งลูก?”
แค่สลบไปเท่านั้นเอง...น้ารีบพากลับไปเลยป่ะ
(อย่างไรก็ตาม...ท่านน้าอรนิภามีพฤติกรรมน่าสงสัยมาก...นางต้องการให้ท่านพี่สุรีย์พรรณเมามายจนมิอาจครองสติไปเพื่ออะไรกันนะ?)
.....................................................................................................................................

“คุณเอกคเชนทร์จะไปดูอาการคุณสุรีย์พรรณ?”
“เจ้าค่ะ”
“................................................”
“ทำไมหรือเจ้าคะ?”
“ผม...จะไปให้ถึงก่อนคุณเอกคเชนทร์...คิดเรื่องสนุกๆออกแล้วอีกทั้งใช้โอกาสนี้พูดคุยกับน้องชายผู้อวดดีสักหน่อยจะเป็นไรไป”
“คุยด้วยตนเอง”
“ไม่ใช่...ผมจะใช้ตัวแทนที่เตรียมไว้ไง”
“................................................”
(เทเลโพเทชั่นสองครั้งแลก้าวเท้าให้เร็วสักนิดก็จะถึงที่หมายก่อนโดยมิยากเย็น)
“เช็ดหน้าเช็ดตาเสร็จก็ออกไปข้างนอกกันเถอะ”
“ดี...พี่ว่าเราคอยอยู่ใกล้ๆดีกว่า...เผื่อคุณสุรีย์พรรณจะฟื้น”
“เป็นไปมิได้!!...โดนคุณศรบุษราคัมตีเข่าแรงซะขนาดนั้น...บางทีอาจพรุ่งนี้เช้าแหละ”
“ช่างเป็นท่าสวนกลับที่เด็ดขาดจริงๆ”
“ดีหิวจัง...รู้สึกในตู้เย็นจะมีน้ำหวาน...พี่ซีไปกินด้วยกันมั้ย?”
“เอาสิ...แต่ยังไงก็เหลือไว้ให้พี่เอกับพี่บีด้วย”
(โอกาสเหมาะมาเยือนแล้ว!!)
“.................................................”
“ท่านพี่สุรีย์พรรณ”
“.................................................”
(ตั้งสมาธิให้แน่วแน่รวมพลังไว้ที่ปลายนิ้วเพียงจุดเดียวแลชี้ไปที่กลางหน้าผากของผู้ที่ต้องการจะสะกด)
“ด้วยเนตรมุกดาหารหมอกมัวนี่...ท่านพี่สุรีย์พรรณจักต้องตกอยู่ในอำนาจสะกดจิตของเรา...ใช่ก็เหมือนมิใช่คล้ายก็เหมือนมิคล้าย...จงปฏิบัติตามคำสั่งของเรา ณ บัดนี้เถิด”
“.................................................”
“ลืมตาสิเจ้าคะ”
“.................................................”
“อะ...อะไรกัน?...เราสะกดจิตท่านพี่สุรีย์พรรณมิสำเร็จ!!...เฮ้อ~~...สุริยะโลหิตในตัวนางทำให้เรายุ่งยากขึ้นมาเสียแล้ว”
“.................................................”
“แม้เมามายมิได้สติทว่าตะวันเลือดก็ยังกล้าแข็งนักเช่นนั้นเราจะเพิ่มพลังให้มากกว่านี้...ด้วยเนตรมุกดาหารหมอกมัวนี่...ท่านพี่สุรีย์พรรณจักต้องตกอยู่ในอำนาจสะกดจิตของเรา...ใช่ก็เหมือนมิใช่คล้ายก็เหมือนมิคล้าย...จงปฏิบัติตามคำสั่งของเรา ณ บัดนี้เถิด!!!
“................................................”
“ไหนลองลืมตามองน้องสิเจ้าคะ...ท่านพี่สุรีย์พรรณ”
“................................................”
“สำเร็จ!!!...ในที่สุดเราก็ทำได้...สะกดจิตผู้ที่มีสุริยะโลหิตแข็งแกร่งช่างเป็นงานที่มิง่ายดายเลย...เอาล่ะเอกคเชนทร์เอ๋ยแล้วเจ้าจะได้ประหลาดใจเป็นแน่!!...ท่านพี่สุรีย์พรรณเจ้าคะ...หากได้เห็นแลได้กลิ่นรูปรสสัมผัสของชายหนุ่มผู้นั้นก็จง...”
“................................................”
(ซุบซิบๆ)
“ท่านพี่สุรีย์พรรณในบุคลิกอันแสนน่ารักแลออดอ้อนฉอเลาะนั่นคืออุปนิสัยของสตรีที่เจ้าชอบนักหนามิใช่ฤา?...เอกคเชนทร์”
(อยากเห็นเหลือเกินว่าเจ้าจะทนข่มใจได้หรือไม่?...อ้อ!!...ท่านพี่สุรีย์พรรณที่จะได้เจอในอีกมินานนี้ก็มีความหึงหวงอยู่ด้วยนะ...หากเป็นไปได้ก็จงอย่าขัดใจแลมิควรพูดถึงหญิงอื่นให้นางได้ยิน)
“คุณเอกคเชนทร์”
“มาแล้วหรือ?...ท่านพี่สุรีย์พรรณจงนอนหลับตาเฉยๆนะเจ้าคะ...น้องจะออกไปก่อน”
“................................................”
(ขึ้นไปอยู่บนหลังคาจะดีที่สุด...ว้าย!!!...หวิดตกเพราะเท้าเกือบเหยียบหลังคามิถึง!?...ระ...เราคงจะใช้พลังจิตในการเทเลโพเทชั่นกับสะกดจิตท่านพี่สุรีย์พรรณมากเกินไป...ตกใจหมดเลย!!!!)
........................................................................................................................................

“................................................”
(พลาดอีกแล้ว!...เราขึ้นมาอยู่บนนี้แล้วจะมองเห็นเหตุการณ์ในห้องได้อย่างไรเล่า?)
“................................................”
(จะลงไปซ่อนตัวอยู่ภายในห้องก็คงมิทันการเช่นนั้นยังเหลืออีกวิธีแต่เราก็มิค่อยอยากใช้สักเท่าไหร่นัก...พลังมองทะลุสิ่งกีดขวาง)
“................................................”
(ลืมตาแลเพ่งจิตกับสมาธิแล้วก้มมองไปที่หลังคา...หากได้ผลก็จะเริ่มปรากฏภาพของสิ่งที่อยู่ข้างล่าง)
เฮ่ย!?
หวาย~~
ทำไมจู่ๆก็ลุกพรวดแบบนั้น?”
แต่นั่นไม่สำคัญเท่า...โอ๊ะ!!
คุณเอกคเชนทร์อย่าดูนะเจ้าคะ!!!
โอ้ยตา!!!...เล็บๆๆๆ
พี่ซีไปช่วยพยุงคุณสุรีย์พรรณสิ...เธอจะไปที่ไหนน่ะ?”
ห้องน้ำล่ะมั้งแต่เอ--...ท่าทางแปลกๆนะว่ามั้ย?”
ยังไง?”
(เด็กแฝดทั้งสองนี่จะช่วยเงียบเสียงกันหน่อยมิได้หรืออย่างไรนะ?...เรามองเห็นภาพแต่มันก็เลือนรางเพราะมิค่อยมีสมาธิ...เปรียบประดุจดำลงน้ำในเวลากลางวันแล้วแหงนหน้ามองพระอาทิตย์นั่นแหละ)
“...ยังกะคนนอนละเมอเลย?”
นั่นสิ
“...ใครๆก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น
คุณเอกคเชนทร์ก็ด้วยหรือเจ้าคะ?”
อืม--...ยิ่งเวลาเมาน่ะแทบจะไม่รู้ตัวหรอกว่าทำอะไรไปบ้าง
(ราวกับมองดูภาพในกล้องวงจรปิดแต่ก็เอาเถิด... Clairvoyance เป็นพลังจิตขั้นสูงที่เหนือชั้นกว่าการใช้จิตสัมผัสช่วยกระตุ้นประสาทการมองเห็นของตาเนื้ออันพร่าเลือนของเรา...จะเรียกร้องมากไปกว่านี้ได้อีกหรือในเมื่อทุกสิ่งย่อมมีขอบเขตซึ่งพลังของเราก็มิใช่ข้อยกเว้น!?)
เอ่อ--...ผมขอโทษครับที่ถือวิสาสะเข้ามา...จะ...จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละครับ
“...............................................”
เธอสองคนดูแลพี่แคทด้วยนะ...ฉันไปล่ะ
“...หยุดก่อน--
อึ๋ย!!...ผะ...ผมไม่รู้จริงๆครับว่าพี่แคทไม่ได้ใส่เสื้อผ้า!!!
“...............................................”
มะ...ไม่ใช่ความผิดหนูนะเจ้าคะ!!
ยังไม่มีใครพูดเลยยัยดีก็...
ฮือ--...หึๆๆ...นาย...เป็นน้องชายของฉันสินะ?”
(การมองทะลุสิ่งกีดขวางนั้นปกติเราจะมิยอมใช้เพราะยุ่งยากแลสิ้นเปลืองพลังจิตมาก...ยังมิทันไรเราก็เริ่มจะปวดดวงตาแล้ว)
เดินมาหาคุณเอกคเชนทร์ทั้งที่ไม่ใส่เสื้อ...คุณสุรีย์พรรณกล้ามาก!!!
นมใหญ่จังเลยอ่ะ!!...เมื่อไหร่เราจะมีบ้างนะ?”
เข้ามาหา...ฉันเองเลยเหรอ?”
ผมมาเยี่ยมพี่...ยังปวดตรงไหนอยู่...อู้!!
!!!!!!!!!!!!
ว้ายตายแล้ว!?
(โอ้!!...ท่านพี่สุรีย์พรรณช่างกล้าเหลือเกิน...แม้อยู่ต่อหน้าเด็กหญิงก็หาได้นำพาไม่มุ่งแต่จะกระทำตามความต้องการของตนเอง...แม้ภายนอกจะมิแสดงออกทว่าภายในกลับร้อนแรงยิ่งเพราะอย่างไรซะนางก็คือปุถุชนที่ยังมีอารมณ์รักโลภโกรธหลง)
คุ...คุ...คุ...คุณ...คุณสุรีย์พรรณ...จุ...จุ...จูบคุณเอกคเชนทร์
อุ!!
อือ~~
อึ๊ย!!...พี่แคท...พี่เป็นอะไร?”
ฉันก็เป็นพี่สาวของนายไง
ไม่ใช่...ที่ผมจะถาม...อุ๊บ!!!
(การสะกดจิตของเราเมื่อสักครู่จะดึงเอาความปรารถนาที่ซุกซ่อนอยู่ในเบื้องลึกของจิตใจให้เป็นที่ปรากฏหมายความว่าท่านพี่สุรีย์พรรณต้องการจะสานต่อความสัมพันธ์ในโรงพยาบาลกับเอกคเชนทร์อย่างนั้นหรือ?)
ว้าวๆๆ...ดีเพิ่งจะเห็นคนจูบกันจะๆก็คราวนี้แหละ
น่าตื่นเต้นมาก!!!...อยากให้พี่เอกะพี่บีมาเห็นจังเลย
ใช่ๆๆ
อุ...อู้!!!
(เราก็ยังมิแน่ใจว่าท่านพี่สุรีย์พรรณจะเหมือนน้องนางหยาดฝนที่แอบมีใจให้ชายคนนี้หรือเพียงต้องการปลดเปลื้องอารมณ์ที่อัดอั้นไว้เท่านั้น?...อืม--...ทว่านางเคยพูดไว้ว่ารังเกียจเอกคเชนทร์เพราะเป็นคนเจ้าชู้มากรักมิใช่หรือ?...มิเข้าใจ...สำหรับเรานี่เป็นเรื่องยากที่จะหยั่งรู้)
พ...พอก่อนครับ!!!
ใช่...พอซะที...ผู้ใหญ่เขาจะสนทนากันเด็กๆรีบออกไปซะ
เอ๋?”
“...ไปสิ
เจ้าค่ะๆ
อย่าเพิ่งไป...โอ๊ะ!!
นายนั่นแหละอย่าไป!!
คือว่า...
ฉันมันน่ารังเกียจนักหรือ?”
ไม่ใช่หรอกครับ
งั้นนายก็เห็นฉันเป็นผู้หญิงไม่ดีใช่มั้ยล่ะ?”
ไม่...ผมไม่เคย
พูดจริงนะ?”
ครับ
อ๊า~~...ดีใจที่สุดเลย
(ท่านพี่สุรีย์พรรณน่ารักมาก!?...หากเราเป็นเจ้าก็จะมิยอมให้สตรีผู้นี้อยู่ห่างกายอย่างแน่นอน!!!...เอกคเชนทร์เอ๋ย~~...แล้วตัวเจ้าจะทำอย่างไร?...ตอบรับหรือปฏิเสธ?)
คืนนี้...ฉันสวยมั้ยคะ?”
เอ่อ--
ตอบมา~~
คือว่า...
ถ้าไม่ตอบหรือโกหกล่ะก็...คิกๆ...ฉันจะถอดเสื้อผ้านายออกทีละชิ้นๆ
(ท่าทางท่านพี่สุรีย์พรรณจะเอาจริง...อุ!!...ปวดตามากขึ้นเรื่อยๆ...ใช้พลังจิตที่มิค่อยเชี่ยวชาญก็เป็นเช่นนี้)
รึไม่...ก็จะจูบให้ขาดใจตายไปเลย
“................................................”
พูดเล่นน๊า~~...แบบนั้นฉันคงตรอมใจตายตามไปแน่ๆ...เอ้า!!...ตอบมาสิคะ
พี่...พี่แคทสวยมากครับ
แล้ว...นายอยากให้ฉัน...เป็นพี่สาวต่อไปหรือเปล่า?”
พี่หมายความว่ายังไง?”
มานั่งตรงนี้แล้วฉันจะบอก
ตอนนี้อากาศเย็น...ให้คุณสุรีย์พรรณใส่นี่เจ้าค่ะ
นี่ของพี่ครับ
ใส่ให้หน่อยสิ
เอ่อ--...ไม่เหมาะหรอกครับ
โธ่เอ๊ย!!...แค่นี้ก็ไม่กล้า
(เวลานี้หาได้มีผู้ใดจะใจกล้าเท่าท่านพี่สุรีย์พรรณอีกแล้วล่ะ)
ในเมื่อบอกว่าฉันสวยแล้วจะยังอดใจให้เป็นพี่สาวอีกได้หรือ?”
พี่...พี่เมามากแล้วควรจะนอนพักผ่อน
ฉันเมาตรงไหน?”
กลิ่นเหล้าหึ่งเลยยังจะถามว่าเมาตรงไหน?”
จะหาเรื่องบ่ายเบี่ยงแล้วหนีไปรึ?...ไหนพูดว่าฉันสวยไง!!!
!?
แท้จริงแล้วนายรักใครกันแน่น่ะ?”
“.............................................”
ไม่ใช่ศกุนตลาหรือสาวิตรีใช่มั้ย?...ในก้นบึ้งที่ลึกถึงที่สุดของจิตใจ...นายยังมีใครอยู่อีกเหรอ?”
(คำตอบนี้เราเองก็อยากรู้ว่าหญิงคนใดกันที่เป็นผู้ครอบครองหัวใจของชายมากรักเช่นเจ้า?...ฮึ่ม!!...เราใช้ Clairvoyance มากไปกว่านี้มิได้เสียแล้ว--...เอาล่ะ...คงถึงเวลาที่ตัวแทนของเราจะได้ใช้งานซะที)
บอกมาเร็วๆซี่!...เอ๋~~...รึจะเป็นฉัน?”
“...ผมพูดไม่ได้
ทำไม?”
เพราะผมเองก็ยังสับสน
ผู้หญิงที่เคยลิ้มลองมาทั้งหมดไม่มีใครทำให้นายตราตรึงใจได้งั้นหรือ?”
ไม่...ไม่ได้หมายความอย่างนั้นครับ...ไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย
งั้นถ้านายทำกับฉันแล้วบางทีอาจจะเปลี่ยนความคิด
อะไร?...เข้า...เข้าใจผิดไปใหญ่แล้วครับ!!...เอ้ย!?...อย่า...พี่อย่าถอดเสื้อผมนะ!!!
(เอกคเชนทร์ใช้สันมือตีหลังคอของท่านพี่สุรีย์พรรณ...หากทำเช่นนั้น...อุ๊บ!!!...พลังจิตมองทะลุขาดหายไป...ถึงขีดจำกัดของเราแล้วสินะ?)
เมื่อกี้มันเจ็บนะคะ
อึ๋ย~~
ทีนี้ตาฉันมั่ง...อึ๊!!
!?
“..................................................”
พี่แคทๆ...พี่เป็นอะไรไป?”
คุณสุรีย์พรรณสลบไปแล้ว!?
แหม่~~...กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลยเชียว!!!
พวกเธอ--...ทำไมไม่เข้ามาช่วยฉันเล่า?”
โธ่!...คุณสุรีย์พรรณน่ะน่ากลัวจะตาย...พวกเราไม่กล้าเจ้าค่ะ
หนูกับพี่ซีจึงตกลงว่าจะดูอยู่ข้างนอกเฉยๆดีกว่า
(สมกับที่แม่หนูสี่แฝดนี่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูจากท่านน้าอรนิภามาตั้งแต่เล็ก...ถอดแบบอุปนิสัยกันมาเทียว...เวลานี้เรามิอาจมองเห็นอากัปกิริยาของพวกเขาแต่จะใช้จิตสัมผัสไปเพิ่มความสามารถในการรับฟังแทน)
อืม--
อะไรเรอะ?”
จู่ๆก็หมดสติไปแบบนี้...ซีว่า...
นี่คือการสะกดจิต
สะกดจิตอะไร?”
มีจริงๆเจ้าค่ะ...แล้วก็ไม่ใช่การแสดงด้วย
โดยเฉพาะคนที่มีพลังจิต...แค่นี้นับว่าง่ายมาก
ฉันงงไปหมดแล้ว...สะกดจิตพลังจิตอะไรกัน?”
เวลานี้คงเป็นเรื่องยากที่คุณเอกคเชนทร์จะทำความเข้าใจแต่ผู้ที่ทำอย่างนี้ได้มีเพียง 2 คนเท่านั้นเจ้าค่ะ...หนึ่งคือคุณไหม
“...ผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆพี่เซค?”
และสองก็คือคุณศรมุกดา
พี่ม่อน!?
ซีเชื่อว่าที่คุณสุรีย์พรรณถูกคลายสะกดกลางคันก็แสดงว่าผู้ลงมือน่าจะอยู่มิห่างจากที่นี่
(หึ!!...ผู้ลงมือมิใช่เราแต่เป็นเจ้านั่นแหละเอกคเชนทร์...เจ้าใช้สันมือตีหลังคอของท่านพี่สุรีย์พรรณอย่างไรเล่า?)
น่าคิดจริงๆว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป...มันจะเกิดอะไรขึ้นนะพี่ซี?”
คุณเอกคเชนทร์กับคุณสุรีย์พรรณก็จะ...อึ๊บๆกันน่ะซี่!!!
ว้าย~~
หึๆๆๆๆๆ
!?
นั่น!?...เสียงคุณศรมุกดา
อื้ม!!...มิผิดแน่
หมายความว่าเป็นพี่ม่อนจริงๆ...อยู่ที่ไหนน่ะครับ?”
หึๆๆๆๆ
ทำไมเสียงหัวเราะของเธอถึงฟังแล้วขนลุกจังนะพี่ซี?”
ใช่...อากาศก็หนาวด้วย...เหมือนผีหัวเราะเลย
(นี่เสียงหัวเราะของเราน่ากลัวขนาดนั้นเทียวรึ?)
มิใช่เจ้าค่ะ...พวกหนูตัวเล็กแบบนี้คุณศรมุกดาจะปลอมได้ยังไง?”
เหตุใดจึงมิกระทำอย่างที่หัวใจร่ำร้องในเมื่อเจ้าเองก็ปรารถนาท่านพี่สุรีย์พรรณอยู่?”
จะ...จะทำได้ยังไงครับเพราะนั่นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของพี่แคทสักหน่อย?”
(ถูกต้อง!!...มิใช่ตัวตนที่แท้จริงแต่เป็นความปรารถนาที่ซ่อนอยู่เบื้องลึกต่างหากเพราะก่อนที่จะออกไปเรากระซิบข้างหูท่านพี่สุรีย์พรรณว่า “จงกระทำทุกอย่างตามแต่ความต้องการของตนเองเถิด”)
แต่นางมีอารมณ์เสน่หาแลต้องการให้เจ้าเป็นผู้ปลดปล่อยนะ
เลิกเล่นตลกที่ขำไม่ออกซะที...พี่...สะกดจิตพี่แคทใช่หรือเปล่า?
“...เป็นฝีมือของเราเอง
เห็นไหมล่ะเจ้าค่ะ?...นี่มิใช่เพราะความเมาแต่เป็นฝีมือของคุณศรมุกดา
ผู้ที่จะประสบความสำเร็จคือผู้ที่รู้จักโอกาส...หากมุ่งหวังจะรอให้โอกาสเดิมหวนกลับสู่ตนบางทีต่อให้คอยจนชั่วชีวิตโอกาสนั้นก็หาได้ย้อนคืนไม่
พี่ม่อนมาที่นี่...อย่าบอกนะครับว่าตามผมมา?”
ช่างสำคัญตนใหญ่โตเสียจริง...เรามาถึงก่อนเจ้าเกือบครึ่งชั่วโมงเพื่อดูแลท่านพี่สุรีย์พรรณแต่เจ้า...มาทำอะไร?”
(มิได้โกหก...เรามาถึงก่อนเจ้าตั้งนาน)
ผมก็มาดูพี่แคท
สมัครใจหรือใครไหว้วาน?”
ความตั้งใจของผมล้วนๆ
“...............................................”
ออกมาคุยกันดีๆเถอะครับ...บอกตามตรงว่าผมกลัว
กลัว?”
พี่คงไม่ได้คิดจะทำร้ายผมใช่ไหม?”
แล้วไปทำความผิดอะไรมาหรือเราจึงจะทำร้ายเจ้า?”
“...ผมเปล่า
เช่นนั้นก็หาได้ต้องหวาดระแวงเรา
(เสียงโทรศัพท์)
ว่าไงเรอะ?”
ก็...นอนหลับแล้ว
“.................................................”
“...ฝน...พี่ม่อนอยู่ที่นี่
(เป็นน้องนางหยาดฝนดังที่คิด)
นี่เธอไม่รู้รึ?”
(คงจะมิได้หลุดปากบอก “ชายคนรัก” ว่าเราปลอมตัวเป็นใครนะ?)
เธอบอกว่ามาดูแลพี่แคท
(ด้วยความห่วงใย)
สวยกะผีสิ...ได้ยินแต่เสียงไม่เห็นตัว
(ไร้มารยาท!!!...เดี๋ยวเราก็ทำให้เจ้าพูดมิได้เสียเลย)
เดี๋ยวจะไปเล่าให้ฟังนะ
...เป็นความบังเอิญหรืออย่างไรกันที่เอกคเชนทร์เดินออกไปพ้นรั้วประตูแล้วหันกลับมามอง?...ยินดีด้วยที่หาพบแต่นั่นเป็นเพียงหุ่นตัวแทนส่วนเราลงมาอยู่ข้างล่างตั้งแต่ที่เจ้าเดินไปทั่วบ้าน...
ดวงจันทราคืนนี้ส่องแสงงดงามแต่ก็ยังหาได้เพียงพอไม่
(เพราะเรายังอำพรางรูปโฉมที่แท้จริงอยู่)
เรามาพบกับเจ้าตามที่สัญญาไว้
จำได้ครับ
ความจริงที่น่าเจ็บปวดเป็นอย่างไรเล่า?...เจ้าคงจะรู้ซึ้งถึงเวลาที่ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์
ผมยอมรับว่าเสียใจแต่ก็ดีใจที่ได้รู้ความจริงซะตั้งแต่ตอนนี้
(อย่างนั้นหรือ?)
เจ้าจะบอกว่ามันย่อมดีกว่าปล่อยเวลาล่วงเลยไปยี่สิบหรือสามสิบปีจนมีใครล้มหายตายจากไป...เราเข้าใจถูกใช่หรือไม่?”
ครับ
เช่นนั้นก็ตามแต่ใจเจ้า
ผมอยากจะถามว่าพี่ทำแบบนี้ทำไม?...ถ้าพี่แคทรู้คงโกรธพี่แน่ๆที่เอาร่างกายของเธอมาเล่นสนุก
(เจ้าพูดเกินไปแล้วเพราะเรามิได้เล่นสนุกแต่กำลังทดสอบเจ้าต่างหาก)
ระวังคำพูดนั้นจะย้อนกลับมาทิ่มแทงตัวเจ้าเอง...หึ!...ก็นับว่ายังมีมโนธรรมเหลืออยู่ในใจ...เราขอชื่นชม
เมื่อกี้หากผมตอบรับความต้องการของพี่แคท...พี่จะทำอย่างไร?”
“...วางเฉย
เห?”
แต่เราก็เชื่อว่าเจ้าคงหาได้กระทำการฉวยโอกาสต่อเพศตรงข้าม
สรุปคือทดสอบผม?”
(สันดานเจ้านั้นหยิ่งผยองจองหองแต่แท้จริงแล้วก็มิใช่คนชั่วช้าสามานย์ถึงขั้นวางแผนสังหารภรรยาตนเองดังเสี่ยคำลืออีกทั้งยังเป็นญาติผู้น้องของเราด้วย)
เอกคเชนทร์...แม้จะเป็นคนในตระกูลเดียวกันแต่ทว่าสมัยเด็กเราทั้งสองก็มิเคยพานพบหน้า...เช่นนั้นมาเล่นสนุกด้วยกันไหม?”
เล่นอะไรครับ?”
ขึ้นชื่อว่าการละเล่นที่สนุกแลเข้าใจง่ายก็เห็นจะมีแต่เล่นซ่อนแอบ...เวลานี้สี่ทุ่มตรง...หากในงานเลี้ยงเจ้าสามารถหาเราเจอก่อนเที่ยงคืน...เจ้าอยากรู้อะไรเราก็จะบอกทุกอย่างโดยมิปิดบัง
ทุกอย่าง...แม้กระทั่งเรื่องของพี่?”
ถูกต้อง
แต่ก็จะแปลงโฉม?...ผมไม่เคยเห็นหน้าพี่มาก่อนนะและยิ่งปลอมตัวอีก...แบบนี้จะไปหาเจอได้ยังไงครับ?”
อืมนั่นสิ...ถ้าเรามิบอกใบ้อะไรเสียบ้างก็จะถือว่าเป็นการเอาเปรียบเกินไป...เช่นนั้นเราให้สัญญาว่าก่อนถึงเที่ยงคืนจะอยู่ในงานนั้นโดยมิออกจากอาณาบริเวณแม้แต่ก้าวเดียว
แล้วที่ปลอมตัว?...คืนนี้มีทั้งชาวบ้านและแขกเหรื่อตั้งเยอะแยะ...ผมลำบากแย่
“...เราจะแปลงตนเป็นชาวบ้านของโยนกบูรพา...มิใช่แขกเหรื่อหรือคนจากหมู่บ้านอื่น...เท่านี้คงจะเพียงพอแล้วกระมัง?”
(หึๆๆ...มิยากแต่ก็มิง่าย...เจ้าจะทำให้เรารู้สึกสนุกได้สักเพียงใดนะ?)
เช่นนั้นก็เริ่มเลย...เราจะไปรอเจ้าในงานเลี้ยง
“.............................................”
ยังจะมัวช้าอะไรอีก?”
แล้วพี่ล่ะ?...พี่ม่อนไม่หนาวบ้างหรือไงครับ?”
(เหตุผลที่เจ้ายั้งรอก็เพื่อจะถามเราว่ามิรู้สึกหนาวดอกหรือ?...ถ้ามองข้ามความเจ้าชู้ก็นับว่าเจ้ายังเหลือส่วนที่น่าเอ็นดูอยู่บ้าง)
หรือว่าที่อยู่บนนั้นเพราะขึ้นไปแล้วลงไม่ได้?...ให้ตายสิลำบากเราจน...เฮ้ย!!!!!
...เอกคเชนทร์เดินหายไปทางหัวมุมจากนั้นเขาก็ถือบันไดไม้ที่สูงพอจะวางพาด...ชายคนนี้คิดว่าเราขึ้นแล้วลงมิได้หรือจะทำอะไรกันแน่แต่หุ่นนั่นมิใช่เราดอก...นั่นไง...มันทนต่อแรงลมมิได้กลิ้งตกลงมาแล้ว...
พี่!!!...พี่เป็นยังไงบ้างครับ?...พี่!?...เฮ้ยใครก็ได้มานี่เร็ว!!!!
อะ...อะไรหรือเจ้าคะ?”
พี่ม่อนตกหลังคา!!
ว้ายตาย!!!
เธอรีบติดต่อคุณป้า...พี่เซคก็ได้...เร็วเข้า!!!
เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ!!...นี่คือหุ่น
หา?”
มิใช่คนเจ้าค่ะ...มันเป็นหุ่น
ไหน?...ไหนดูซิ!!
...คืนนี้ลมพัดแรงมากอีกทั้งหุ่นตัวนั้นก็มีน้ำหนักค่อนข้างเบาครั้นเมื่อโดนกระแสลมพัดนานๆเข้าจึงร่วงลงมาอย่างที่เห็น...
สรุปคือ...ฉันคุยกับเจ้าหุ่นบ้านี่ตั้งนานสองนานเลยเหรอ?”
แต่เสียงเป็นของคุณศรมุกดาจริงๆนะเจ้าคะ
ใช่...พวกหนูก็ได้ยิน
สนุกนักหรือไงถึงได้เล่นอะไรบ้าๆ!!!...รู้ไหมว่าผมตกใจแค่ไหนน่ะ?”
ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
!?
สยองชะมัดเลยพี่ซี~~...หนูกลัว
ยังจะมีหน้ามาหัวเราะเยาะอีกเรอะ?”
หึๆๆ...อุบายตื้นๆทว่ากลับหาได้ดูออกไม่แล้วมันมิสมควรจะให้เราขบขันดอกหรือ?”
(ช้าก่อน!!...เขาอาจจะเป็นห่วงเราจริงๆเช่นนั้นก็สมควรขอบคุณที่อุตส่าห์มีน้ำใจ)
“...เราขอขอบใจที่ห่วงใยแลก็ขออภัยที่เอาความรู้สึกของเจ้ามาล้อเล่นแต่ทว่า...
“?”
เอกคเชนทร์เอ๋ย~~...การละเล่นเริ่มต้นขึ้นแล้ว ณ บัดนี้!!
“...ผมต้องหาพี่ให้เจอแล้วจะขอเขกหัวสักทีเถอะ!!!!
(หากเจ้าทำได้ก็เชิญเลย...หึ!!...เราจะรอดูว่าเจ้ามีปัญญาแลความสามารถสักเพียงใดกัน?)
...ทว่ายังติดใจกับความคิดของท่านพี่สุรีย์พรรณ...เราว่าแท้จริงแล้วนางมิน่าจะเกลียดเอกคเชนทร์ดอกแต่หากจะให้แน่ใจนั้นต้องพิสูจน์ซึ่งก็มีอยู่วิธีหนึ่งคือสะกดจิตในยามที่คนๆนั้นนอนหลับลึกแลสอบถามโดยตรงแล้วความเชื่อถือได้นั่นหรือก็เรียกว่าเต็ม 100% เทียวเพราะ...
คนนอนหลับจักมิเอ่ยวาจาโกหก
(แต่จงวางใจเถิด...น้องจะมิใช้วิธีนี้กับท่านพี่สุรีย์พรรณแน่นอนเจ้าค่ะเพราะเท่าที่กระทำในคืนนี้ก็นับว่าเสียมารยาทมากเหลือเกิน)
.......................................................................................................................................

มิได้เจ้าค่ะ...ดิฉันมีหน้าที่รินเหล้าให้คุณหนูใหญ่
ไม่นานหรอกนะครับ
อย่างไรก็มิได้
...หึ!!...มิได้เกินความหมายเพราะเรานึกอยู่แล้วว่าเจ้าจะต้องไปหาไหมทว่าเมื่อสักครู่ที่เราจงใจไปอยู่ตรงหน้าแลบอกใบ้แต่เจ้าก็หาได้รู้สึกตัวไม่...
(“เดินหาใครอยู่หรือครับ?...ผมเห็นอยู่พักหนึ่งแล้ว”
“ก็จะมีใครอื่น...พี่ม่อนนั่นแหละ”
“ผมก็ไม่รู้นะครับแต่เธอน่าจะอยู่ใกล้ๆนี่เอง”
“แต่หายังไงก็หาไม่เจอ...ใครต่อใครที่ผมไปคุยด้วยก็ไม่เห็นมีพิรุธเลย”
“ถ้าเจอแล้วจะทำยังไงล่ะครับ?”
“ก่อนอื่นจะขอเขกหัวสักที...หมั่นไส้นัก!!
“แหม~~...ผมชักจะอยากเห็นซะแล้ว...คุณเอกคเชนทร์พยายามเข้านะครับ...ผมจะ...คอยเอาใจช่วย...เธอไม่อยู่ไกลคุณแน่”)
“ฮิๆๆ...น่าสนุก”
“ไม่อยู่ต่ออีกหน่อยเรอะครับเสี่ย?”
“กลับล่ะครับ...พรุ่งนี้ผมยังต้องไปจัดการงานของภรรยาอีก”
(ยังตีหน้าโศกหลอกลวงผู้คนได้อย่างแนบเนียนเช่นเคยนะเจ้าคนใจบาป...ฮึ่ม!!...แค่เห็นหน้าเจ้าความรื่นรมย์ของเราก็มลายหายไปทันที)
“อ้าว!?...แล้วลูกน้องผม...ไปไหนกันล่ะเนี่ย?”
“มีคนหลับอยู่หลังเวที...ใช่ลูกน้องเสี่ยหรือเปล่าครับ?”
“หา?”
“..............................................”
“ชะ...ใช่แล้วครับนี่ลูกน้องผมเอง...ไอ้หนูไอ้แสง!!...ตื่นสิเฮ่ยเราจะกลับกันแล้ว”
“..............................................”
“..............................................”
“ท่าจะเมามากเลยหลับไปน่ะครับ”
“บ้าจริง!!!...แล้วใครจะขับรถล่ะนี่?”
(สองลูกน้องของเจ้าหลับเพราะฝีมือของเราเอง...หึๆ...จงหัวเสียไปโดยที่มิรู้เรื่องอะไรซะเถิด)
หือ?...กำลังมอง
เจ้าค่ะ
“..............................................”
“?”
หรือว่าคุณ...
ดิฉันมิใช่คุณหนูรองนะเจ้าคะ!
“.............................................”
คุณ...มาจ้องดิฉันเช่นนี้
“.............................................”
ออก...ออกไปให้ห่างเลยเจ้าค่ะ!!
ขะ...ขอโทษครับ
...ไหม--...จงอย่าหลงกลชายผู้นี้เพราะเอกคเชนทร์มิได้สงสัยว่าเจ้าคือตัวเราแต่เขาหมายจะแอบสูดกลิ่นเอื้องสายหลวงต่างหาก...หึ!...คงยากหน่อยล่ะเพราะเราวานให้ท่านพี่นำเอื้องสายหลวงใส่แจกันแล้วมาตั้งตามโต๊ะในงานเลี้ยงฉะนั้นกลิ่นจึงหอมกระจายจนยากที่ใครจะรู้ว่าเราเข้ามาในงานนี้...
(ยกเว้นบรรดาพี่น้องของเราที่ป่านนี้คงรู้กันหมด...เฮ้อ!!...วิชาแปลงโฉมของเราก็นับว่าตบตาผู้อื่นได้สนิทแต่มิเคยหลอกพวกนางสำเร็จสักครั้งเดียว)
นี่!!
“?”
ไม่!!...หนูไม่ได้อยากกินน้ำส้ม...เผยตัวออกมาซะดีกว่า
(น้องนางศรโกเมนแลน้องนางหยาดฝน!?)
เจ้าป้อมเบาๆ--
“.................................................”
เฮอดี--...หนูจะไปบอกพี่ชายเดี๋ยวนี้แหละว่าพี่ม่อนอยู่ที่นี่
“...อย่าทำลายความสนุกของพี่เลย...น้องนางศรโกเมน
อึ๊!!...อะ...อะไรน่ะ?...นั่นคิดจะขู่หนูรึ?”
“................................................”
(หากกระทำเช่นนั้นพี่ก็จำต้องให้น้องหลับทันทีนะจ๊ะ)
บะ...บอกไว้ก่อนว่าหนูไม่ได้กลัวพี่ม่อนและก็เลิกเล่นอะไรไร้สาระซะที!!!
ปากบอกไม่กลัวแต่รีบเดินหนีเชียวยัยตัวเล็ก...อ๊ะ!!...เดี๋ยวค่ะ
“...มีอะไรหรือ?”
หากเลยเที่ยงคืนไปแล้วบอลยังหาพี่ไม่เจอ...
การละเล่นก็จบลงทันที...หาได้มีอะไรมากไปกว่านั้น
“................................................”
น้องนางหยาดฝน
คะ?”
พี่พอจะเข้าใจขึ้นบ้างแล้วว่าเหตุใดน้องจึงมอบความรักให้เอกคเชนทร์แต่ก็ขอเตือนไว้สักอย่าง
อะไรหรือพี่?”
บางสิ่งที่สูญเสียไปแล้วก็มิอาจจะได้กลับคืนมา...เข้าใจไหม?”
“..............................................”
พี่ฝน
“..............................................”
พี่ฝน!!
เอ้ยอะไร?”
ผลการดวลออกมาแล้วล่ะ
(การประลองไร้สาระจบลงได้เสียที)
ใครชนะ?”
ก็ดูนั่นสิคะ
อื๋อ?”
ฮ่าๆๆๆๆๆ...ชานะเว้ย~~...อึ๊ก!!
เดี๋ยวเถอะ!!...นี่แม่นะ
อุ๊ย!?...คูณแม่ไมแต่งตัวสวยจาง?”
(ท่านพี่ทำท่าจะเข้าไปจูบท่านแม่ซะอย่างนั้น!?)
พล่ามมาด้ายว่าชานะ?...ฉานต่างหากโว้ย!!...นี่แม่...แม่อย่าปายเชื่อยัยแอบจิตนั่น
แล้วลูกอ๋อมพูดกับใคร?...แม่อยู่ทางนี้ย่ะ!
(ทางนี้ก็พอกัน...ตาลายจนเห็นชาวบ้านเป็นท่านแม่ไปเสียได้)
เออะ...แอวะ~~
ก๊าก!...ฮ่าๆๆๆ
น่ารำคาญ!!
ให้ตายสิ--...ใครมาช่วยพาลูกฉันขึ้นรถที
ไปส่งคุณหนูศรรัตน์ที่โยนกทักษิณก่อนนะเจ้าคะ
ไม่ๆ...พาไปนอนที่โยนกบูรพาเลย...เธอสั่งให้ทางนั้นจัดเตรียมห้องไว้...ลูกป้อมก็ต้องไปด้วย
แม่...หนูน่ะไม่มีปัญหาแต่พี่อ๋อมสร่างเมาเมื่อไหร่รับรองบ้านแตกแน่ๆ
ก็ให้มันรู้ไป!!...จะเรื่องมากอะไรกันนักหนา?”
แม่จ๋า~~...ใครชนะเนี่ย?”
ไม่มีแพ้ชนะหรอกเพราะหนูเซคกับหนูอ๋อมฟุบพร้อมๆกันเลย
(มิรู้จะดื่มน้ำมึนเมานี่ไปเพื่อให้ได้อะไรกัน?...ท่านพี่ก็เหลือเกินที่ไปรับคำท้านางเสือหัวดื้อและพลอยทำให้ท่านแม่ลำบากไปด้วย)
ลูกฝนก็กลับบ้านเถอะ
ยังค่ะ...หนูจะกลับพร้อมบอล
(ว่าอย่างไรนะ?...กลับพร้อมกัน!?)
.............................................................................................................................................

เอ๊ะ!?...สะกดจิต...เล่นซ่อนแอบ...นี่คุณหนูม่อนมาจริงๆด้วยหรือครับ?”
มาสิคะ...เธอไม่ได้อยู่ไกลเลย
“.............................................”
เพราะขณะนี้คุณหนูรองก็กำลังสนทนาอยู่กับดิฉันไงล่ะเจ้าคะ
ถูกต้อง...รูปโฉมแท้จริงภายใต้หน้ากากของนายสมหวังชาวบ้านโยนกบูรพาในค่ำคืนอันหนาวเย็นนี้ก็คือเรา...ศรมุกดา ราศีกาญจนาบุตรีคนที่สองที่ถือกำเนิดจากท่านพ่อโยทะกากับท่านแม่ศรมรกต
เชิญเปลี่ยนเสื้อผ้าเจ้าค่ะ
“.............................................”
ดิฉันก็คาดคิดไว้ก่อนแล้วว่าคุณเอกคเชนทร์มิอาจจะหาคุณหนูรองพบ
นั่นต้องขอบใจน้องนางหยาดฝนแลน้องนางศรโกเมนที่มิได้เปิดเผยตัวตนของเรา
เอ๊ะนั่น!?...คุณหยาดฝนกับคุณเอกคเชนทร์!!!
“.............................................”
ควงแขนราวกับเป็นคู่รักกันเลยนะเจ้าคะ?”
“...เช่นนี้นี่เอง...เราพอจะรู้อะไรบ้างแล้ว
“?”
หมายความว่าที่ท่านพี่สุรีย์พรรณเมาสุราก็มิใช่เหตุบังเอิญแม้แต่นิดเพราะนางรู้ซึ้งถึงผลเสียของสุราดียิ่งกว่าใครจึงมิแตะต้องมันแน่อีกทั้งเป็นตัวเราเองที่ส่งแก้วใส่น้ำองุ่นให้
มีคนแอบสับเปลี่ยนแก้ว!!!...ใครหรือเจ้าคะ?”
ไหมลองทบทวนดูซิว่าผู้ใดที่จะมีโอกาสสับเปลี่ยนแก้วได้มากที่สุด?”
“...ย่อมหนีมิพ้น...อะไรกัน!?...ผู้ที่นั่งใกล้คุณสุรีย์พรรณที่สุดก็คือคุณอรนิภานี่เจ้าคะ?...ใช่แล้ว!!...แก้วคุณอรนิภาเป็นเหล้าของโยนกอุดรที่มีกลิ่นสีและรสคล้ายคลึงน้ำองุ่น...ดิฉันจำได้!!!
เป็นเช่นนั้นจริงๆ...ทุกสิ่งถูกเตรียมการมาก่อนล่วงหน้ากับมีการคิดวางแผนอย่างรอบคอบโดยมีท่านน้าอรนิภาเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ
แล้วคุณหนูรองจะมิทำอะไรเลยหรือเจ้าคะ?”
ทำอะไรนี่คือขัดขวาง?...น้องนางหยาดฝนมีอุปนิสัยเช่นไรเจ้าย่อมทราบดี...นางมีเหตุผลแลความเชื่อเป็นของตนเองเช่นเดียวกับท่านพี่สุรีย์พรรณในครั้งนั้นอีกทั้งเรายังเตือนสตินางไปแล้ว
“..................................................”
แม้ว่าหนทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมายเพียงใดแต่ก็ยังคิดเดินหน้าต่อไปตามที่หัวใจของตนเรียกร้องสินะ?...ความรักนั้นทำให้ผู้คนหน้ามืดตามัว...ช่างน่าเบื่อหน่ายนัก
“ขึ้นชื่อว่าความรักนั้นช่างทำให้มนุษย์ต้องเป็นทุกข์มาตั้งแต่สมัยโบราณ”
“ไหม...เจ้าสองคนที่เหลือนั่นก็หาได้รู้เรื่องแต่อย่างใดไม่”
“นายหนูกับนายแสงคือสองในห้าลูกน้องคนสนิทที่สุดก็ยังมิได้ความ...เห็นทีว่าเราจะสูญเปล่า...”
“อย่าเพิ่งยอมแพ้ง่ายๆ...แม้สองคนนี้จะมิทราบอะไรแต่เราก็ได้รู้บางสิ่งที่น่าสนใจ”
(“พี่ชอบน้ำเบญจวารีหรือครับ?”
“ที่นี่เขาเรียกแบบนี้เรอะ?...เออ!!...รสชาติมันเข้าท่าดี...พี่ถูกใจมาก”
“กินแล้วไม่บาดคอแต่ดีกรีมันออกจะอ่อนไปหน่อย...ชาวบ้านเขาทำเองใช่มะ?...ไปขอถึงบ้านเลยได้เปล่าเนี่ย?”
“อืม--...งั้นพี่ก็ไม่ต้องไปไหนแล้วล่ะ”
“ทำไมเหรอ?”
“เพราะถ้าพี่ไปขอเหล้าของบ้านที่มีลูกสาว...พี่ก็ต้องแต่งเข้าเป็นเขยที่บ้านนั้นซะก่อนนะครับ”
“เฮ้ย!?...จริงเรอะไอ้น้อง?”
“คือชาวบ้านที่นี่ไม่ค่อยให้เหล้าเบญจวารีให้คนภายนอกง่ายๆนอกจากเป็นแขกสำคัญ...หากพี่อยากดื่มเยอะๆก็ต้องขอเข้าเป็นลูกเขยและทีนี้พี่จะได้ดื่มสมใจอยากแถมได้เมียอีก”
“มีงี้ด้วย!!!...ฮ่าๆๆๆ”
“ไอ้น้องนี่พูดจาเข้าท่าว่ะ!!
“เอ่อ--...ถ้าพวกพี่สนใจ...จะลองชิมเหล้าของโยนกทักษิณที่มีดีกรีแรงที่สุดมั้ยล่ะครับ?”
“เอาสิๆ...ไอ้น้องรีบเอามาเลย!!!
“แรงแน่นะ?...อย่าหลอกกัน”)
“นี่คุณหนู...ไปขอเหล้าพยัคฆ์เดือดมาจากคุณศรบุษราคัมหรือเจ้าคะ?”
“...ใช่”
“หากเป็นเบญจวารีที่คุณศรบุษราคัมต้มด้วยตนเองก็ขึ้นชื่อลือชาว่าดีกรีแรงมาก...ขนาดคอเหล้าที่ว่าแน่ดื่มเข้าไปเพียวๆแค่หนึ่งจอกก็แทบจะเมาพับล้มทั้งยืนอยู่ตรงนั้น”
“ถูกต้อง...อีกทั้งกลิ่นก็แรงฉุนขึ้นจมูกจนเราเบือนหน้าหนีเทียว”
“แต่...คุณศรบุษราคัมเธอหวงแหนเหล้านี่มากแลยังพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยตลอด...คุณหนูขอมาได้อย่างไรเจ้าคะดิฉันมิอยากจะเชื่อเลย?”
“เรื่องนี้...เกิดขึ้นหลังจากงานเลี้ยงเริ่มไปมินาน”
(อะไรนะ?...จะขอเหล้าของฉัน”
“ผมอาจจะมีความจำเป็นต้องใช้ครับ”
“ฮิๆ...หล่อนรู้ตัวว่าไร้เสน่ห์ก็เลยจะเอาไปมอมผู้ชายใช่มะ?”
“...ผมจริงจังไม่ได้พูดเล่น...คุณศรบุษราคัม”
“อย่ามาพูดประชดฉันนะ!!...งั้นบอกมาก่อนว่าเธอจะเอาไปทำไม?”
“ตอนนี้ผมยังบอกอะไรไม่ได้...”
“...ฉันไม่ให้ถ้าเธอไม่บอก...เหล้าพยัคฆ์เดือดนี่กว่าจะทำสำเร็จน่ะมีขั้นตอนยุ่งยากและใช้เวลาหมักนาน...มันต่างจากเบญจวารีปลายแถวของที่อื่นและปีหนึ่งก็ทำได้แค่สองสามครั้งแถมปริมาณที่ได้ยังน้อยมาก”
“...โปรดจงถือซะว่านี่คือคำขอร้องของพี่สาวผู้มิเอาไหนคนนี้เถิด”
“...............................................”
“หากมิต้องใช้แล้วเราสัญญาว่าจะนำมาคืนให้โดยมิพร่องไปแม้สักหยดเดียว”
“หึ!!...เหลือเชื่อที่คนหยิ่งที่ไม่ชอบพึ่งพาผู้อื่นอย่างเธอจะมาขอร้องฉัน...น่าหัวเราะนะ?”
“เชิญหัวเราะขบขันเสียให้พอเถิดแต่เรามีความจำเป็น”
“ก็ได้...ยังไงคืนนี้ฉันก็ได้เห็นอะไรดีๆ...เอาไป!!...เสียเวลากินของฉันจริงๆ”
“...อ๋อม”
“เสร็จธุระแล้วเอาขวดไปวางไว้ตรงรูปปั้นเสือหน้าทางเข้าหมู่บ้าน”
“ที่เธอพูดว่าเห็นอะไรดีๆนี่คือ...”
“ไม่บอกโว้ย!!...ทีหล่อนยังไม่พูดว่าจะเอาเหล้าของฉันไปทำอะไรนี่หว่า...ฮะๆๆๆ”)
“แม้มิต้องเดาแต่นางเสือร้ายนั่นคงจะยิ้มเยาะกับสารรูปของเราเป็นแน่”
“ดิฉันก็เห็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ...แล้วต่อจากนั้น...”
“เราก็เอามาให้สองคนนั้นดื่ม...มันได้ผลจริงๆ...แค่คนละจอกก็หงายท้อง”
“ธรรมดาเหล้าของคุณศรบุษราคัมจะต้องผสมน้ำเสียก่อน”
“เราเตือนแล้วแต่พวกมันมิเชื่อ”
“ดื่มเพียวๆได้อย่างไรกันนะ?...หาเรื่องใส่ตนจริงๆ”
“แต่ก็ช่วยให้เราสะกดจิตได้ง่ายขึ้นมาก”
(“จิ๋ว แวงใหญ่เริ่มมาทำงานกับนายของเจ้าเมื่อไหร่?”
“...ราว...สองเดือนก่อน”
“พวกเจ้ารู้มาก่อนหรือไม่ว่าเขาเป็นใคร?”
“ไม่...ทีแรกเราไม่รู้...เสี่ยบอกว่านี่คือคนขับรถ...ใหม่”
“ที่ผ่านมาเขามีอะไรน่าสงสัยหรือกระทำการแปลกๆบ้างหรือเปล่า?”
“ไม่เลย...”
“นายหนูล่ะ?”
“พี่...พี่จิ๋วมักจะไปบ้านของเสี่ยบ่อยๆ”
“แค่นี้รึ?”
“แล้วเขาก็จะพักอยู่ที่ออฟฟิศ...ไม่ได้เช่าบ้าน”
“อืม--...แล้วไงต่อ?”
“พี่จิ๋ว...จะชอบขึ้นไปกินเหล้าบนดาดฟ้าออฟฟิศคนเดียว”
“ใช่ๆ...บางทีก็เดินไปทั่วอาคารแล้วชอบพูดคนเดียวด้วย”
“พูดอะไร?”
“....................................................”
“ว่าอย่างไร?...พอจะนึกออกหรือไม่?”
“ตรงนี้...ใช้ไม่ได้...อึ๊ก!!
“อะ...อือ~~”)
“ตรงนี้...ใช้ไม่ได้...ดิฉันมิเข้าใจความหมายของประโยคนี้เลยเจ้าค่ะ”
“แต่มันต้องมีความหมายซ่อนอยู่เป็นแน่เสียดายที่พวกเขาหมดสติหลับไปเสียก่อน...เหล้าพยัคฆ์เดือดของนางพญาเสือช่างร้ายกาจสมคำร่ำลือ”
“ถ้าหลับสนิทคุณหนูก็สามารถสะกดจิตซ้ำแลไต่ถามอีกครั้ง”
“มิได้เพราะมันต้องใช้เวลากับสมาธิอีกอย่างใครมาเห็นจะเป็นเรื่องใหญ่”
“อืม--...แต่ก็มิสูญเปล่าซะทีเดียวนะเจ้าคะเพราะเราสามารถตัดห้าคนนี่ออกไปได้แล้ว”
“หากความคิดของเราถูก...จิ๋ว แวงใหญ่ก็คือผู้ต้องสงสัยแลบางทีที่เขามักจะเดินไปรอบๆตึกนั่นก็อาจเพราะ...”
(คิดวางแผนหาลู่ทางเพื่อฆ่าคุณดวงตาโดยให้ดูเหมือนว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุหรือ?)
“เราจะต้องรู้ความจริงให้ได้แลผู้ที่สามารถไขข้อข้องใจนี่ก็คือเจ้าเสี่ยคำลือนั่นเอง”
“เมื่อไหร่เจ้าคะ?”
“รอให้พลังจิตของเราฟื้นคืนมาเสียก่อน...กลางดึกคืนวันที่ 1 มกราคม 2549 ถือเป็นวันเวลาที่เหมาะสม”
........................................................................................................................................



69 ความคิดเห็น:

  1. สงสัยผู้หมวดต้องตามนักสืบโมริแล้วคราวนี้

    ตอบลบ
  2. ถ้าหลุดมาเข้ามือม่อนนี่ คงได้จบแบบbedEndสยดสยองหน้าดูชมเชียวครับ โอ๊ะก็ว่าไปนั้นม่อนออกจะเป็นสุภาพสตรีที่สวยและรูปร่างแปาะบางแถมนิสัยอ่อนหวาน(กับผู้หญิง)-_-||

    ตอบลบ
  3. น้องม่อน น่าจะลองใช้แผนนางงาม ดูบ้างนะ
    คงจะสนุก+ตลกพิลึก

    ตอบลบ
  4. ช่วงนี้คิดถึงท่านadslmanเป็นพิเศษเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไป แฮะๆอยากอ่านต่อเร็วๆจังครับ

    ตอบลบ
  5. ช่วงนี้ผมเรียบเรียงตอนพิเศษกับตอนหลักไปพร้อมๆกันครับเพราะจนกว่าตอนพิเศษจะจบม่อนจะไม่ปรากฏตัวในเรื่องหลัก

    ตอบลบ
  6. แวะเข้ามาดูเรื่อยๆเลยครับ

    ถึงจะอยากอ่านมากแค่ไหน
    แต่ก็อยากให้ท่าน adslman ได้ผลิตผลงานออกมามีคุณภาพที่สุดเช่นกัน

    ดังสุภาษิตที่ว่า "อดเปรี้ยวไว้กินหวาน"

    ตอบลบ
  7. จดๆจ้องๆรอวันเวลา เข้ามาทุกวันครับ
    ก็เป็นกำลังใจให้เสมอ ขออย่างเดียวอย่าหายเข้ากลีบเมฆเหมือนนักเขียนท่านอื่นเลย

    ตอบลบ
  8. รอบนี้ท่านadslmanหายไปนานเลยครับหรือจะไม่สบายรึปล่าวนะรู้สึกเป็นห่วง /ช่วงนี้ตัวผมว่างๆเลยรองเเต่งเรื่องมาเรื่องนึงแต่ตอนที่1ตอนนี้ก็ยังได้แค่15%เพราะยังตัดสินใจไม่ได้แน่ชัดว่าจะเปิดเรื่องให้ไปในแนวไหนดี ไว้ถ้าแต่งต่อได้ซัก50%จะรองเอามาไห้เพื่อนๆได้รองอ่านนะครับ

    ตอบลบ
  9. ไม่ได้หายไปไหนครับแต่มัวจับปลาสองมือ เรียบเรียงตอนที่ 74 อยู่ ก็กะว่าจะเอามาลงควบคู่กับตอนพิเศษด้วยเพราะม่อนจะไม่มีบทบาทในเนื้อเรื่องหลักอีกนานจึงคิดว่าน่าจะลงควบคู่กันได้แต่ยังลังเลอยู่

    ตอบลบ
  10. จาอาวตอน74 :D กองอวยพี่แคทชูธง หลังจากตอน 73 ฝันแบบนั้นแล้ว ผมถึงกับต้องชูธงอวยอย่างเป็นทางการ พี่สาว+เงียบ+แว่น เป็คคคเลยยย

    ตอบลบ
  11. รอๆๆจามา2ตอนรวดอ่านกันเพลินแน่นอนครับ แล้วก็ แคท ฝน กุน สา เหมาะสมกับบอลที่สุดแล้ว แต่ม่อนก็หน้าสนแฮะ สวยเงียบ แต่แคทที่1 ครับ^^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ยกเว้นพี่เซคคนเดียวอ่ะครับ 555+
      นอกนั้น บอล รับได้สบายอยู่แล้ว

      ลบ
    2. รายนั้นคาแรคเตอร์ออกไปในแนวทางญาติดีกับบอลยากมา(รึจะไม่มีทางญาติดีกันง่ายๆแน่นอน)555+ เอาเป็นว่าตอนนี้อย่าให้สาวเซคเชียดมาไกล้บอลมากเลยดีกว่าครับ อันตรายๆ

      ลบ
    3. รอevent งามๆ น่าจะสามารถปักธงได้ไม่ยากเย็นเท่าไหร สิงโตเวลาโดนปราบพยศมันก็แค่ลูกแมวดีๆนี่เอง :) ตามที่ท่านสายลมบอก ตอนนี้อย่าเข้าใกล้เป็นดีที่สุด เพราะถ้าเข้าใกล้ได้นี่อาจจะสิ้นชีพได้ทุกเมื่อ ถ้าเลือกเล่นดนตรีไทยกันจนจบเรื่องนี้ผมคงเสียดาย ไม่น้อยเลยทีเดียว

      ลบ
    4. ผมกลัวว่าท่านadslmanจะสร้างเหตุการณ์ให้เซคยอมรับนายบอลได้แน่ๆสิครับ เช่นว่าม่อนไปทำเรื่องผิดพลาดอะไรเข้าจนบอลตามไปช่วยด้วยพยายาม รึว่าเจ้าตัวรึเซคนั่นเองที่พลาดท่าใครสักคนจนบอลต้องเข้าช่วยแทนแคท ฝน เอ้ และสองนางพญาเสือจนเซคยอมรับขึ้นมา ก็เดาๆเอาน่ะครับ

      ลบ
    5. ผมว่าไม่น่าจะพลาดง่ายๆหรอกครับ แต่ละคนธรรมดาที่ไหน -_- ฆ่าคนเป็นผักปลาก็ทำได้เส้นสายก็มีเยอะแยะ แทบจะไม่มีทางได้เลย คงต้องรอดูพ่อบอลฝึกวิชาเอาแล้วละครับ ตอนนี้ผมค่อนข้างสงสัยว่า มันที่้เท่าไหรในเนื้อเรื่องหว่าเหมือนว่า วันเวลามันจะหายไปหลายตอนเหมือนกัน ผมอ่านตอนแรกๆนี่มีวันที่กำกับทุกครั้ง วันที่ล่าสุดที่ลงไว้อยู่ตอนไหนหว่า ตอนที่ 60กลางๆหรือเปล่า -_- ?

      ลบ
    6. ผมว่าพลาดไม่พลาดอยู่ที่ปลายนิ้วของท่านadslman ล่ะครับงานนี้ บางที่อาจจะให้บอลสละดวงตาให้กัยบม่อนเลยก็ได้(ม่อนตาไม่ดีนิหน่า) แล้วก็อาจจะมีใครยอมตายเพื่อเอากระจกตาคืนให้กับบอลก็ได้ไม่แน่ๆ

      ลบ
    7. แต่ม่อนก็มีพลังจิตทำให้ไม่ใช่มองไม่เห็นซะทีเดียว นี่หน่า เอาดวงตาไปก็ไม่ค่อยช่วยเท่าไหรเพียบแค่ลบปมด้อยที่ โดนน้องๆเรียกว่า ต้อกระจก เท่านั้นเอง มันต้องเป็นสงคราม ระหว่างฝ่ายเหนือ ฝ่ายใต้ แล้วหล่ะ เพราะคนธรรมดายังไงก็ทำอะไรพวกนางไม่ได้เลย รอบทสงครามเหนือใต้ (ถ้ามี) อาจจะได้เห็นอสูรคลั่งพร้อมเหตุผลที่เกลียดพ่อขนาดนั้น(เดา) แต่พระเอกเราแม่มคนธรรมดา ธรรมดาแบบสุดๆ ทั้งๆที่ลูกพี่ลูกน้องแต่ละคนอย่างเมพ จะเป็นถึงผู้นำตระกูล ให้ซุกอยู่แต่ใต้กระโปรงผู้ ญ ได้ไง แต่ตามันก็ไม่เห็นมีวีรกรรมไรหล่อๆบ้างเลยนี่หว่า

      ลบ
  12. ก็ระหว่างที่รอท่านadslman แต่งเสร็จ ผมก็รออ่านไม่ไหว เลยลองแต่งๆมาให้อ่านดูครับ เป็นยังไงก็ขอคำแนะนำด้วย อาจจะลอกลายครูอย่างadslmanไปบ้างก็ขออภัยด้วยนะครับ ก็เข้าอ่านกันได้นะครับทุกๆท่านhttp://gampitthaya.blogspot.com/2014/08/blog-post_17.html

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เรื่องราวสนุกน่าอ่านดีนะครับ นับว่าคุณสายลมมีแววไม่เบาเเชียว ถ้าฝึกปรือขัดเกลาต่อไปเรื่อยๆรับรองว่ามีดีไม่ต้องอายใครแน่ๆครับ

      ลบ
    2. 55555จำแฟนคลับผิดคนแล้วครับท่านadslman แต่ก็ดีใจแล้วก็เข้าใจเลยครับว่าการแต่งนิยายให้ออกมาน่าอ่านน่าติดตามช่างยากเย็นจริงๆ ผมก็ยังห่างจากท่านมากมายอยู่ดีก็เป็นกำลังใจให้นะครับ ผลงานดีๆอย่างนี้ผมพร้อมติดตามเสมอครับ

      ลบ
    3. ขอโทษทีครับ จำคนผิดอย่างไม่น่าให้อภัย สงสัยสมองจะเบลอๆเพราะมัวพิมพ์เรื่อง 555555555

      ลบ
    4. ไม่เป็นไรครับ ผมก็เป็น นี้ผมนอนคิดพล็อตเรื่องมาตั้งแต่เมื่อคืน มาลงมือเอาตอนเช้า พึ่งจะเสร็จตอน5ทุ่มกว่าๆ เบลอครับ เนื้อหาของผมอาจจะไม่ค่อยวูบวาบเหมือนของท่านadslmanสักเท่าไหร่ แต่ก็จะพยายามครับ ยังไงก็ช่วยแนะนำผมหน่อยแล้วกันนะครับ ขอบคุณมากๆครับที่ติชมมา

      ลบ
  13. Moonstone Sidestory 2 เสร็จสิ้นไปประมาณ 60% จะเอามาลงพรุ่งนี้นะครับ รักชอบเชียร์ใครก็เชิญรอติดตามกันได้ตามสะดวก ^_^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดีใจสุดๆ ได้อ่านต่อสักทีครับ จะรออ่านทุกชม.เลย

      ลบ
    2. ท่านPitthaya Pu-onnimแต่งออกมาเร็วมากครับ ของผมก็รองพ็อดเรื่องไว้แล้วตอนนี้ได้มาประมาน30% แต่ยังหาทางไปต่อไม่ค่อยได้เลย 555+ รายระเอียดก็ยังไม่ค่อยมีมากเท่าไหร่ ไว้เดี๋ยวจะรองไห้เพื่อนๆอ่านมั้งนะครับ

      ลบ
    3. ก็ไปเรื่อยๆนะครับ ผมรอได้ จะรอติดตามเลยล่ะ นี่ตอนที่2 ผมก็เสร็จแล้ว ก็ตามเรียกร้อง ช่วงนี้ไฟกำลังรุกโชน ขาดช่วงเดี๋ยวสะดุดเอา

      ก็แนะนำนะครับ ท่านสายลมลองนึกๆช่วงชีวิตของตัวเองดูสิ การวางพล๊อตก็จะออกมาง่ายหน่อยครับ ลองดูๆ

      ลบ
  14. มาอีก30%แล้ว อ่านไปก็ขำไปนะครับ งวดนี้มาม่อน ทำตัวเหมือนเด็ก มาก555+
    "เล่นอะไรเหมือนเด็กๆเลยนะ ศรมุกดา"

    ตอบลบ
  15. สมเป็น sidestory ของม่อน จริงๆครับ

    อ่านตอนพิเศษนี้ ประกอบกับตอนหลัก
    ยิ่งเพิ่มความสนุก น่าตื่นเต้นขึ้นไปอีก

    ตอบลบ
  16. ทำใจไม่อ่าน รอครบตอน ไม่งั้นคงลงแดงไม่ใช่น้อยๆ

    ตอบลบ
  17. หัวใจของเอกคเชนทร์นั้นมีเจ้าของอยู่ เพื่อนๆคิดว่าเป็นใครครับ แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นแคทนะ 55 (ชูป้ายไฟรัวๆ) ตอนนี้มีนักฆ่าอาชีพเพิ่มมาอีก1 มันกันล่ะคราวนี้ ขอบคุนท่านadslman มากครับ รอสับสะไคร้ เอ้ยรอติดตามม ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. พี่แคท FC (ชูป้ายไฟ) แต่จริงๆผมว่าถ้าให้เลือกก็คงยาก เพราะตัวของมันเองยังไม่รู้เลยว่าใครที่ตัวเองรักมากที่สุด เท่าที่อ่านมาสรุป Harem end ครับ

      ลบ
  18. ผมก็แคทนะครับ แต่ถ้าเอาเข้าจริงคงยากที่จะตัดความสัมพันกับคนอื่นโดยเฉพาะกุน
    ถ้าให้เลือกนี้คงบีบใจหน้าดู

    ตอบลบ
  19. ผมว่านะถ้าม่อนเสร็จอีกคน คงมีไหมอีกคนแน่ๆที่ต้องร่วมวงไพบรูณ์ บรรเลงมโหรี ในสต๊อกสาวๆ ของบอลแน่ๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไหม โดนบอลจัดไปแล้ว
      ตอนที่แอบไปค้างกับป้าเอ็ม

      ยังไง ไหมก็จัดบอลอยู่แล้ว
      ถ้ามีโอกาส

      ลบ
    2. - - อะไรนะ ??? ไหมโดนบอลทะลวงไปแล้ว ไหงผมจำไม่ได้ :O ขอเลขตอนหน่อยสิตอนที่โดนหน่ะ

      ลบ
    3. ผมว่าไม่ม๊างงงงงง ที่โดนน่ะ ศิไม่ใช่เหรอ

      ลบ
    4. ไหมยังไม่เคยโดนบอลนะครับ?

      ลบ
    5. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
  20. ไม่ค่อยมั้นใจนะครับ ตอนแรก กะจะแต่งให้ยาวกว่านี้ แต่ก็รองอ่ารกันก่อนนะครับ ถ้ามีรายระเอียดส่วนไหนขัดแย้งกันก็ขออภัยด้วยนะครับ นี่เรื่องของผม คลิก http://destinyoflove1.blogspot.com/

    ตอบลบ
  21. ปล่อยไก่ไปตัวเบ้อเริ่มเลย
    จำผิดน่ะครับ
    ขออภัยที่ทำให้สับสน

    ตอบลบ
  22. ว่าแต่ บอล นี่ทะลวงสาวไปกี่คนแล้วนะ ไอเราก็ชักลืมๆ -_- เกือบๆ20 ได้ไหมหว่า ? กุน สา อ้อย ป้าศรี แม่กวาง เก๋ สาว แอม บุศ โบว์ จอย ขวัญ นัน แก้ว รัญภรณ์(หมอนวด) ป้าเอ็ม ศิ ฝน แคท ขาดใครไปไหมหว่า ? เมียเศกหรือศุกร์นี่โดนจัดไหมหว่า ว่าไปมันก็เยอะแหะ โดนด่าไอบ้ากามมันก็สมควรอยู่หรอก -_- หนทางแห่งฮาเร็มข้างหน้าช่างลำบากนัก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เดี๋ยวประเด็นนี้ผมจะเอามาเล่นในตอนต่อๆไปครับ

      ลบ
    2. แสดงว่าเวลาของ ความจริงแลกความสุข ใกล้เข้ามาแล้วสินะครับ จะรออ่านครับ :D

      ถ้าพูดชื่อป้าเอ็มออกไปแล้วมันหลุดไปถึงหู พี่เซค ไหม ม่อน นี่ถึงกับลาก่อย เจ้าบอลเอ๋ยเลยนะดูเหมือนว่าหลายๆอย่างที่แคทรู้ มักจะมีคนรู้ด้วยเสมอ @_@

      ลบ
    3. ถ้าถึงเวลานั้นผมคิดว่าจะต้องวัดใจแคทแล้วหละครับ ว่าจะทำยังไงต่อ แต่ถ้าหากบอกเซคไปแล้วทำให้บอลต้องตาย(อันนี้เผื่อกรณีเลวร้ายสุดๆ)แต่แคทจะใจร้ายขนาดนั้นได้จริงหรอ
      (คุ้นๆเหมือนจะมีประโยคนี้นะครับ
      "นี่ใจจริงพี่แคทจะปล่อยให้ผมตายงั้นเรอะ?"
      "แล้วฉันปล่อยรึ"
      "ก็...ไม่") แต่มีอีกอย่างนะครับ คิดในแง่ดีสุดๆคือเป็นความลับระหว่างบอลกับแคทแทน แต่ก็ต้องอยู่ที่แคทหละครับอาจจะมีทางออกอื่นอีกก็ได้

      ลบ
    4. ยิ่งตอน73ได้รู้ว่าเป็นป๊ะป๋า แล้วด้วย ถ้าเป็นก่อนจะฝันถึงนี่ก็ไม่แน่แต่ถ้าหลังจากฝันถึงลูกสาวแล้วละก็ ผมว่าไม่น่าจะ เพราะดูแคทจะรักลูกสาวมากทีเดียวแล้วสรุปคนที่บอลฝันเห็นในตอน ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต 18 นี่เป็นฝนสินะ

      ปัญหาตอนนี้ผมกลัวว่าจะเป็นเรื่องของกุนกับแคทหน่ะสิ ไม่เอานะ จะให้เลือกข้างใดข้างหนึ่งนี่ทำใจไม่ค่อยได้แฮะ ตอนนี้อยู่ในจตุรัสมา คืนที่3 แล้วสินะ อีก3-4วันจบภาคจตุรัสสินะ

      ลบ
    5. ถ้าพูดถึงกุนหน้าจะมีปัญหาน้อยกว่าพูดถึงสานะครับ ประมานว่ากุนจะออกไปในทางสนับสนุนแคท(เรื่องที่โรงแรมกุนก็รู้และให้แคททำ แล้วก็ตรงที่ลองมองลงไปที่ส่วนลึกในจิตใจของบอลเอง เรื่องนี้กุนก็พูดเกี่ยวกับแคทและบอล) แต่ถ้าเป็นกรณีสา ทั้งเพื่อน(ฝน) ทั้งพี่ที่เคารพ(แคท) เกิดมารักแฟนตัวเอง สาจะทำใจได้ง่ายๆอย่างนั้นหรอ หน้าคิดนะครับ

      ลบ
    6. ในส่วนความคิดของผม

      ถ้าสาวๆเขาคุยกันเองก็น่าจะแบ่งวันกันได้นะครับ แต่เพราะพ่อแม่เสี่ยม ให้ลูกตัวเองได้เป็น เมียหลวง โดยอ้างว่าเพื่อความสุขของลูกสาว ก็เลยเกิดเหตุการ์ณแบบนั้นขึ้น เพราะฝนเท่าที่อ่านๆมาก็ไม่ได้อยากเป็นที่1สักเท่าไหรแค่แบ่งความรักมาให้บ้างก็พอนะ ส่วนสานี่ผมว่าน่าจะคุยยาก ประมาณว่าทั้งๆที่ไว้ใจให้ดูแลแต่กลับคาบไปซะอย่างงั้น

      ลบ
  23. พอจำได้ลางๆว่า สุริยะโลหิตนี่มีผลข้างเคียงด้วยนี่ครับ แล้วฝนพึ่งใช้ไป จะหาที่ระายที่ไหนอ่ะครับ รึว่าเป็นฝนคนเดียวที่ผลข้างเคียงทำอะไรเธอไม่ได้

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แหม่ ก้เล่นดนตรีไทยกับพี่แคทไงครับ อ๋อมก็ใช้นี่หน่า แต่ใช้แปปเดียวคงมีผลไม่นานเท่าฝนมั้ง ฝนนี่หลังจากโดนเฉาะไข่แดงรู้สึกอารมณ์หึงหวงจะ ทวีคูณขึ่นหรือเปล่านะ ?

      ลบ
  24. Destiny of lpve ตอนที่2 ออกมาให้รองอ่าน60%แล้วนะครับ สวนอีก40%ที่เหลือคงต้องใช้เวลาอีกซักพัก ในระหว่างนั้นจึงมารอ50%ที่เหลือของท่านadslman เมื่อไหร่จะมาน๊าาา

    http://destinyoflove1.blogspot.com/2014/08/destiny-of-love-2-60.html?m=1

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เข้าไปดูแล้ว
      จะรอ 40% ที่เหลือนะครับ

      ไม่ต้องกังวลนะครับ สู้ๆ เต็มที่

      ลบ
  25. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เพิ่มมาอีก 5% แสดงว่า กองอวยแคทกำลังจะเข้าวินตามฝนไปสินะ เอาละเหว้ยๆ สาวคูลเดเระจะทนได้อีกนานแค่ไหน อยากเห็นตอนปากตรงกับใจจริงๆอยากจะรู้ว่าหวานขนาดไหน :D

      ลบ
  26. สุดท้ายแล้ว คิดว่า บอลคงจะหาม่อนเจอในนาทีสุดท้าย
    แล้วคำถามที่บอลถาม+ม่อนตอบ ก็เป็นคำถามที่กระเทือนเนื้อเรื่องในตอนต่อๆไป

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คือว่าตอนนี้เป็นรอยต่อของตอนที่68เป็นต้นมาครับ แล้วก็บอลหาม่อนไม่เจอ แล้วหลังจากนั้นฝนก็ชวนบอลไป(มีริน?)ครับ

      ลบ
    2. มีรินที่ไหน ชวนไป มุกิ้ว~ ตะหาก !!! ผมอยากรู้ความในใจม่อนตอนปาชมพู่ในตอนที่72(หรือ71หว่า)มากกว่า

      ลบ
    3. 555 ตามนั้นเลยครับ ตอนนั้นผมนึกคำหน้ารักๆ.ไม่ออก เลยรองใส่ชื่อลูก(ในอนาคต)ไปอ่ะครับ ที่จริงแล้วฝนชวนบอลไป "มุกิ้ว-"

      ลบ
  27. ช่วงนี้กลัวเพื่อนๆนักอ่านจะเงียบเหงา ตอนนี้ destiny of love ตอนที่2 ออกครบแล้วนะครับ รองอ่านได้ตามลิงค์เลย http://destinyoflove1.blogspot.com/2014/08/destiny-of-love-2-60.html?m=0

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เข้าไปดูและลงชื่อเรียบร้อยละครับ ^ ^

      ลบ
  28. มาครบ 100% แล้ว
    ม่อนนี่ร้ายกาจจริงๆ หวังว่าคงจะรู้ความจริงจากการสืบได้สมใจเร็วๆ

    ตอบลบ
  29. ขอบคุณครับ ตอนพิเศษยังมีต่ออีกใช่ไหมครับ รอติดตามนะครับ

    ตอบลบ
  30. ผมกะว่าจะคั่นด้วยตอน 74 ก่อนนะครับแล้วค่อยเป็นตอนพิเศษบทส่งท้าย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณครับ
      อ่านแล้วหายคิดถึงไปอีกนานเลยตอนนี้ 555

      ลบ
  31. อ๊าห์ มาครบสักที จะรอตอน 74นะฮัป :3

    ตอบลบ
  32. ฝากเรื่องที่ผมลองแต่ง ด้วยนะครับ http://takahashigenjin.blogspot.com/2014/08/blog-post.html

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สนุกดีครับ
      เปิดเรื่องได้น่าติดตามมาก ^ ^

      ลบ