หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2558

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 78

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 78 “ความสุขที่ซ่อนเร้น!?...นางฟ้าที่เผยโฉม!?

“...ยะ...ยอม...ยอมแล้วครับ!!!...หยุดซะทีเถอะ...คะ...คุณแข็งแกร่ง”
“งั้นจงมอบเอกสารนั่นมา”
“เอ่อ--
“ส่งมา”
“มัน...มันอยู่ที่เลขาของผม”
“อยู่ที่ไหน?”
“อ๊ากกกกกกกกกก~~
“นี่จ้ะ...แม่เอามาให้แล้ว...เขากำลังจะเตรียมหนีพอดีเทียว”
“โธ่เอ๊ย~~...ใช้ไม่ได้เลยนะแก!!!
“อุ!!!...ผม...ผมโดนเข็มเสียบเท้าเลยหนีไม่ได้ครับ~~
“เจ้าหน้าที่ใกล้จะมาแล้ว...เราปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาเถิด”
“ขอรับ”
“.......................................................”
“ท่านแม่”
“?”
“วิชาซัดเข็มเมื่อสักครู่...ยังน่ากลัวเหมือนเช่นเคยนะขอรับ”
“แต่ระดับนี้หลานป้อมก็คงทำได้แล้วล่ะกระมัง?”
“แม้ยามนี้เธอกับอ๋อมจะกำลังพากเพียรฝึกฝนงานแม่บ้านแม่เรือนอยู่ก็ตาม...เอ่อท่านแม่...ข่าวที่ได้รับเมื่อเช้า...จะว่าอย่างไรดีขอรับ?”
“หลานเอกคเชนทร์ประสบอุบัติเหตุขาหักน่ะหรือ?”
“อย่างน้อยเราสมควรจะไปเยี่ยมเพื่อแสดงน้ำใจ”
“...นั่นสินะ...ลูกเอ้พูดมีเหตุผล”
“.........................................................”
“ก็ดี...ไปเยี่ยมหลานเอกคเชนทร์กัน”
......................................................................................................................................................

“รีบหายไวๆแล้วกลับไปแต่งงานกับฉันซะที...อ๋อม”
“...................................................”
“ป้อมก็รอที่จะเป็นเจ้าสาวของพี่ชายอยู่นะคะ”
“เว้ย!!...เขียนแบบนี้ได้ยังไงน่ะ?...ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยสักนิด”
“แล้วทีพี่ฝนเขียนเล่า!!!
“...เอาเมจิคมานี่!!!
“ไม่ให้!!
“โอ๊ย~~...พอกันซะทีแล้วก็หยุดเขียนอะไรบ้าๆบอๆที่เฝือกของฉันด้วย!!!
...โรคประสาทจะแดกห่-ผมตั้งแต่ยามเช้าวันรุ่งขึ้นทีเดียว!!!!...ทันทีที่รู้ข่าวว่าผมประสบเหตุตกบันไดขาหัก(ไม่รู้ใครเสือกปล่อยข่าว?)ทั้งอ๋อมและน้องป้อมก็รีบออกจากโยนกจัตุรัสมาเยี่ยมถึงโรงพยาบาลแล้วก็คอยเฝ้าอยู่ข้างเตียงไม่ห่างร่วมกับฝน...อันที่จริงผมสมควรจะดีใจแต่ไปๆมาๆกลับเครียดยิ่งกว่าเก่าเพราะทั้งสามสาวแทบไม่เว้นเวลาโต้เถียงหรือบลั๊ฟใส่กันเลย...
(ว่าแต่ที่บอกว่าขออนุญาตก่อนออกมานี่จะจริงหรือเปล่า?)
“อะไรฟะ?...คนอุตส่าห์มาเยี่ยมด้วยความเป็นห่วง”
“แต่ไม่เห็นจะต้องเขียนอะไรบนเฝือกฉันนี่นา”
“ที่ไหนเขาก็ทำทั้งนั้น...อวยพรให้หายไวๆไง”
“อ๋อม...เธอนี่มัน...เธอนี่มัน...”
“โฮ่~~...เขินก็บอกมาเหอะ!!
“ฮึ่ย!!
“พี่ฝนก็เขียนแล้วยังจะมาพูดดี...ดูสิๆ...หายไวๆนะที่รักขา~~...ทั้งเลี่ยนทั้งคลื่นไส้ชะมัดเล้ย!!!
“ยัยตัวกะเปี๊ยกไม่มีสิทธิ์มาวิจารณ์น๊ะ!!
“หมาหวงก้าง~~
“พูดงี้มาเจอกันเลยดีกว่านังหนูอกแบน!!!
“กรี๊ดดดดดดดดด~~...เอาเซ่ๆ”
“เสียมู้ดหมด...ที่นี่โรงพยาบาลนะโว้ย!!!
(อ๋อม...เธอก็เหมือนกันนั่นแหละ!!)
“ฉันเลือกห้องไม่ผิดจริงๆ”
“...ศรเพทาย”
“นึกอยู่แล้วว่าพวกเธอมาเมื่อไหร่เป็นได้เอะอะโวยวายแน่ฉันถึงจัดห้องพักเฉพาะที่อยู่ห่างๆชาวบ้านเขาไงล่ะ...รบกวนอาจารย์ด้วยนะคะ...เฮ่!!...ลุกไปนั่งตรงโซฟาโน่น...คุณหมอจะตรวจอาการ”
“ค่า~~
“เชอะ!...ทำเป็นวางท่า”
“เห็นด้วยค่ะ”
“ฮะๆ...ความจริงผมไม่ต้องทำก็ได้เพราะคุณหมอรักษาได้เยี่ยมเลยเชียวละ!!...นี่ขนาดไม่ได้เชี่ยวชาญด้านกระดูกนะเนี่ย”
“ชมเกินไปแล้วค่ะ...อย่างไรก็ต้องให้แผนกศัลยกรรมกระดูกรับผิดชอบอยู่แล้ว”
...กลืนไม่เข้าคายไม่ออกคือความรู้สึกของผมยามนี้...ทำไมคนที่รักษาผมจะต้องเป็นพี่เซคด้วยนะและวิธีที่เจ้าหล่อนทำเมื่อคืนก็ยังสร้างความข้องใจให้ผมอยู่ตลอดเพราะเท่าที่รู้มาว่าการรักษาขาหักส่วนใหญ่คือผ่าตัดไม่ใช่เหรอ?...
(มันผ่านมาแล้วก็ป่วยการที่จะบ่นน่ะนะแต่เหมือนกับพี่เซคทำลงไปด้วยอารมณ์ความสะใจของตัวเองยังไงก็ไม่รู้?...เมื่อคืนนี่แม่คุณเล่นฉุดดึงกระดูกขาเราอย่างไม่รีรอเลยสักนิด...เจ็บเป็นบ้า!!!)
“ตอนนี้ยังเจ็บอยู่ไหมครับ?”
“เอ่อ--...ก็ยังปวดๆอยู่แต่เบากว่าเมื่อคืน...หมอครับ...ผมอยากถาม”
“?”
“คือว่า...วิธีรักษาของพี่เซค...อ่า--...หมอศรเพทายน่ะ...มัน...”
“อ้อ!!...ถ้าเป็นเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับเพราะขาที่หักของคุณไม่ได้ร้ายแรงขนาดจะต้องผ่าตัด”
“ไม่ร้ายแรง?”
“คือร้ายแรงอย่างเช่นว่าถ้ามีเลือดออกมากหรือกระดูกที่หักแทงทะลุออกมานอกเนื้อนั่นแหละครับที่จะต้องทำการผ่าตัดโดยด่วน”
“......................................................”
“ส่วนเคสของคุณเอกคเชนทร์นั้นแค่กระดูกหักและเกยกันอยู่ภายใน...ดูมือผมนะครับ...มันมาซ้อนกันอย่างนี้”
“อ๋อ~~
“ทั้งที่คุณขาหักแต่กลับบาดเจ็บน้อยมากถ้าเทียบกับรายอื่นที่เคยเจอ...ดูจากภาพเอ็กซ์เรย์ผมนี่ประหลาดใจมากเลย”
...แสดงว่าผมมีโอกาสที่จะหายเร็วและกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมทุกอย่างนับว่าสวรรค์ยังเข้าข้างจริงๆที่ไม่กลายเป็นคนพิการหรือแข้งขาบิดเบี้ยวไป...ใช่แล้วที่ลืมไปไม่ได้!!!!...ถ้าพี่แคทไม่กระโดดตามมาช่วยผมแล้วมันจะเป็นอย่างไรกันนะ?...
(ไม่แน่ว่าเราอาจจะถึงตายเลยก็ได้ล่ะมั้ง?)
“หยาดฝน...พี่สาวคนเก่งของเธอไปไหนทำไมยังไม่มา?”
“ไปเรียนค่ะ...อีกเดี๋ยวก็จะมารับหนู”
“ดี--...จะได้ไม่มีใครมาขวางหนูกับพี่อ๋อม”
“หา?”
“ทีนี้เราก็จะได้จู๋จี๋กับพี่ชายโดยไม่มีก้างขวางคอไงเคอะ”
“หนอยแน่ะ~~...ไม่มีทางร้อก!!!
“เอาอีกแล้ว!!...เกรงใจคุณหมอเขามั่งจะได้มั้ยเนี่ย?”
“หากมันรบกวนมากนักงั้นฉันจะพาบอลกลับโยนกทักษิณซะเดี๋ยวนี้!!!...ขืนอยู่กับพวกเธอสองพี่น้องต่อไปก็ไม่รู้ว่าบอลจะเจอเรื่องเจ็บตัวอะไรอีกบ้าง?”
“พี่อ๋อมพูดแบบนี้...หมายความว่ายังไงกัน?”
“ไม่ต้องแปล...ครั้งนี้ขาหักและครั้งต่อไปจะอะไรดี?...ต้องให้ถึงคอหักเลยใช่มั้ย?”
“..................................................”
“พี่ฝนกับพี่แคทเคยรับปากพวกเราอย่างแข็งขันว่าจะดูแลพี่ชายให้ดีที่สุดนี่คะแต่สุดท้ายพี่ชายก็ยังเจ็บตัวอีกจนได้...บอกตามตรงว่าป้อมชักไม่เชื่อมือพี่ๆสองคนซะแล้วสิ”
“แต่หากเมื่อคืนพี่แคทไม่เสี่ยงชีวิตเข้าช่วย...บอลอาจจะตายไปแล้วก็ได้”
“หึ!!...อย่างไรซะบอลไปอยู่กับพวกฉันก็ปลอดภัยกว่าแน่ๆ”
“ดูจะมั่นอกมั่นใจซะเหลือเกิน...เอาอะไรมาเป็นหลักประกันไม่ทราบคะ?”
“พอทีๆ...พวกเธอหัดถามฉันมั่งเถอะ”
“......................................................”
“......................................................”
“......................................................”
“ผมจะนอนดูอาการที่นี่อีกคืนหนึ่งตามคำแนะนำของคุณหมอ...ศรเพทาย...ใช่ไหมครับ?”
“อืม--...นี่คือคำสั่งของแพทย์”
“ชิ!...ยัยซกมกแอบจิตหมายเลขหนึ่ง”
“ได้ทีทำเป็นวางท่าใหญ่โตเชียวพี่เซค”
“เลิกแขวะพี่สักทีแล้วก็ออกไปข้างนอกปล่อยให้คนไข้พักผ่อนบ้าง...ตั้งแต่พวกเธอมาที่นี่ก็เสียงดังเจี๊ยวจ๊าวกันตลอด...มันรบกวนคนอื่นเข้าใจไหม?”
“หล่อนไม่ต้องมาสั่งสอน!!
“เข้าใจแล้วๆ...ไปก็ไปสิคะ”
“น้องฝนมากับพี่หน่อยนะ...มีอะไรจะคุยด้วย”
“ค่ะ”
“ถ้ามีอะไรก็กดปุ่มเรียกพยาบาลได้เลยนะครับ”
“ครับ”
“ยาแก้ปวดกับยาแก้อักเสบยังออกฤทธิ์อยู่...พักผ่อนให้มากๆล่ะ...คุณชายหก”
(จะไปก็ยังไม่วายพูดสวนกลับประชดประชันเราอีกแฮะ!?...แล้วคนที่กระจายข่าวน่ะจะใช่คุณหมอจอมกวนนี่ด้วยหรือเปล่าหว่า?...อื๋อ?...ที่เขียนอยู่ตรงน่องด้านหลังนี่มัน...หายไวๆแล้วก็รีบไปมุดกระโปรงผู้หญิงซะ...ไอ้บ้ากามเสียงแปดหลอด)
“ยะ...ยัยหมอซกมกแอบจิต!!!!...มัน...มันแอบเขียนไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?”
..............................................................................................................................................

“เอ๋!?...ก็เราขาหักอยู่ไม่ใช่เหรอแล้วไหงถึงเดินได้?...เออ!!...ขยับได้คล่องแคล่วเชียว”
“หึฮื่อ~~...นึกว่าใครหลงทางมาซะอีก?”
!?”
“ที่แท้ก็พ่อจอมเจ้าชู้ของหนูนี่เอง”
“นะ...หนูริน!!!!
...เด็กหญิงที่เคยออกตัวว่าเป็นบุตรสาวที่ถือกำเนิดจากผมกับฝนมาปรากฏกายให้เห็นอีกครั้ง...คราวนี้เธอนั่งห้อยขาอยู่บนต้นไม้โดยกำลังกินอะไรสักอย่างด้วย!?...ผมปลาบปลื้มดีใจที่ได้พบกับแม่หนูน้อยอีกแต่ก็กังวลใจเพราะกลัวเธอจะพลาดตกลงมา...
“ลงมาหาพ่อเถอะ”
“ไม่!!
“ทำไมล่ะ?”
“รินโกรธพ่อ!
“กะ...โกรธพ่อเรื่องอะไร?”
“ไม่บอก!!
(อะไรกันหว่า?)
“นั่นพ่อจะทำอะไรน่ะ?”
“ก็ขึ้นไปรับลูกลงมาข้างล่างไง”
“หนูขึ้นได้ก็ต้องลงได้สิคะ”
...ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหนูรินไม่พอใจอะไรแต่ผมไม่อยากเห็นเธออยู่บนที่สูงจึงจัดแจงปีนต้นไม้ทั้งๆที่ไม่ใช่งานถนัดเพื่อขึ้นไปรับซึ่งทีแรกเด็กหญิงไม่ยอมให้จับแต่ผมพยายามคว้าตัวพาลงมาจนได้...
“ไงจ๊ะนางฟ้าตัวน้อยของพ่อ!!...โกรธที่พ่อไม่มาหาเหรอ?”
“.................................................”
“จริงๆซะด้วย!...แหม~~...งอนเก่งเหมือนแม่นะเนี่ย?”
“หนูโกรธนะไม่ใช่งอน!!
“เหมือนกันนั่นแหละ--
“อ๋า!...รินไม่อยากเดิน~~
“หึๆๆๆ...อูยๆๆ...หยิกพ่อทำไมเล่า?”
“หัวเราะหนูเรอะ?...นี่ๆๆ”
“โธ่~~...เด็กขี้เหงาเอ๊ย!...อยากจะให้พ่ออุ้มก็บอกมาตรงๆสิจ๊ะ”
“.................................................”
“ยังจะหยิกอีก...พ่อเจ็บนะ!!
“สม!...รู้ทันหนูดีนัก”
“ฮ่าๆๆๆๆ”
...อ้อนเก่งผิดคาดแฮะลูกสาวผมคนนี้?...พออุ้มและพาเดินเล่นเข้าหน่อยก็อมยิ้มออกมาได้แต่อุ้มเด็กวัยเจ็ดขวบด้วยมือเดียวนี่ถือว่ายังเป็นของใหม่สำหรับผมเลย...
“อืม”
“?”
“โตเป็นสาวเมื่อไหร่นี่พ่อคงปวดหัวน่าดู”
“ทำไมอ่ะ?”
“เพราะหนูจะต้องสวยน่ารักจนมีหนุ่มตามมาถึงบ้านชนิดหัวกะไดไม่แห้งน่ะสิ”
“แล้วพ่อเคยได้ยินเขาพูดกันป่ะ?...คนเจ้าชู้มักจะมีลูกสาวสวยๆ”
“...นั่นสิ...อา...”
“พ่ออยากถามอะไรจ๊ะ?”
“คือ...ตกลงพ่อจะมีลูกกี่คนเหรอ?”
“.....................................................”
“คงจะไม่ได้มีหนูรินคนเดียวหรอกใช่ไหม?”
“...ประมาณนั้นค่ะแต่หนูบอกไม่ได้”
“อ้าว?”
“พ่อต้องได้พบเองซะก่อนแล้วพวกเธอถึงจะบอกอย่างที่ได้พบกับหนูนี่ไง”
“พวกเธอ...ลูกสาวอีกแล้วสิ?”
“คิ...ลูกสาวและก็ลูกสาว”
“มะ...ไม่มีลูกชายเลยเรอะ?”
“ไม่บอก~~
“หนูริน”
“ฮะๆๆๆ...ถ้ารินพูดซะก่อนก็จะโดนดุแน่...อ้ำ!!
...โดนดุ?...งั้นแสดงว่าหนูรินรู้จักเด็กคนอื่นอยู่แล้วและเหตุผลที่พูดไม่ได้นั้นผมก็พอจะเข้าใจ...ว่าแต่แม่หนูน้อยกินอะไรอยู่ตั้งแต่เมื่อกี้?...พอสังเกตดูดีๆก็เหมือนกับข้าวที่ปั้นเป็นก้อนๆมีสีเหลืองเข้มโตขนาดเหรียญสิบได้มั้ง?...
“ของโปรดหนูเลยละ!!
“...ข้าวเปล่าๆเนี่ยหรือ?”
“ค่ะ”
“มันอร่อยหรือจ๊ะ?”
“อร่อยมากค่ะ...พ่อลองชิมดูไหม?”
“กะ...กินได้เหรอ?”
“หนูป้อนให้...อ้าม~~
(เพื่อไม่ให้ลูกสาวเสียน้ำใจจึงรับมาเข้าปากก้อนนึง...เอ๊ะ?...จืดสนิทไม่มีรสชาติอะไรเลยสักนิด!?...ไม่สิ...พอกลืนลงท้องไปมันก็รู้สึกเหมือนกับไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก)
“เอ่อ--...พ่อว่ามัน...จืดไป”
“ไม่รู้รสใช่ไหมคะ?”
“ยังกับกินน้ำหรือข้าวเปล่าๆจืด...หอมก็ไม่หอม...ไม่มีกลิ่นอะไรอีกด้วยนะ”
“แต่ถ้าพ่อหยิบเองก็จะไม่ได้กินเลยค่ะ...แค่จับก็จะหายไปเลย”
“เพราะอะไร?”
“เพราะไม่ใช่ของพ่อไงล่ะคะ...นี่เป็นอาหารเฉพาะสำหรับหนูและความจริงมันมีรสชาติที่อร่อยล้ำเลิศมากๆ...กินเข้าไปเพียงหนึ่งก้อนก็จะอิ่มท้องไปถึงสามวันสามคืนโดยที่ไม่ต้องแตะอาหารหรือน้ำใดๆเลยก็ได้”
“ขะ...ขนาดนั้นเชียวเรอะ?”
“หงึ!!...พ่อไม่เชื่อหนูหรือไง?”
“เปล่าๆ...แต่เมื่อกี้ที่รินบอกว่าถ้าพ่อหยิบเองแล้วมันจะหายไป?”
“ค่ะ”
“งั้นทำไมพ่อถึงเคี้ยวได้?...อืม--...ถึงแม้กลืนลงท้องไปแล้วจะรู้สึกว่างเปล่าก็เถอะ”
“หากเจ้าของซึ่งก็คือหนูต้องการให้พ่อย่อมจะได้กินค่ะแต่ต้องป้อนเข้าปากนะ”
(ถึงว่าสิ!!...เมื่อกี้เลยส่งเข้าปากเราโดยตรงนี่เอง)
“สงสัยพ่อจะไม่มีวาสนาได้รู้รสอร่อยของมัน”
“แต่กินเข้าไปก้อนเดียวแค่นี้พ่อก็จะหายเจ็บเร็วขึ้นแล้วจ้ะ”
“หายเจ็บ?”
“อย่างเช่นพ่อโดนแม่ฝนเตะมาก็จะหายเจ็บเร็วขึ้นไง”
“อ๋อ!!...ฮะๆๆ...เอ๋?”
...ไหงๆจู่สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไปที่จากทุ่งหญ้าเขียวชะอุ่มกลายเป็นป่าไม้ใบหนาทึบที่แทบจะมองไม่เห็นทางเดิน?...ผมชักเห็นท่าไม่ค่อยดีเลยจะหันหลังกลับแต่ลูกรินท้วงขึ้นว่า...
“ช้าไปแล้วค่ะ...เราหลงเข้ามาจนได้”
“นี่เป็นถิ่นของใครกัน?...อุ๊บ!!!
(เสียงอะไรเนี่ยดังชะมัด!?)
“คึ!!...โกรธมากจริงๆด้วยสินะ?”
“หนูริน...ที่นี่อันตรายพ่อจะพาหนูออกไป!!!
(โอ๊ยแสบแก้วหูเหลือเกิน!!!!...มันคล้ายกับเสียงคำรามของสัตว์ที่กู่ร้องด้วยความโกรธเกรี้ยว...อย่าบอกนะว่าแถวนี้มีสิงโตหรือเสืออยู่?)
“เห็นแล้วค่ะ...เจ้าของเสียงอยู่บนก้อนหินใหญ่นั่น”
“อย่าเข้าไปเลยลูก~~
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...พ่อพาหนูเดินข้ามพุ่มไม้ข้างหน้าเถอะ”
“จะ...จะดีเหรอ?”
“ค่ะ!!
...ใจหนึ่งก็กลัวแต่อีกใจก็ต้องการจะรู้ว่าเจ้าของเสียงคำรามที่ดังกึกก้องปานแผ่นฟ้าจะถล่มแผ่นดินจะทลายนี่เป็นตัวอะไรกันแน่ผมจึงค่อยๆเอามือแหวกพุ่มไม้ส่วนอีกข้างก็โอบขาหนูรินอย่างแน่นหนาพลางบอกให้กอดคอผมไว้แน่นๆเผื่อว่าเจออันตรายจะได้หันหลังหนีทัน...
“นั่น...”
“...งดงามจริงๆค่ะ”
“เสือเหรอ?”
“ใช่ค่ะ”
(บนก้องหินใหญ่เบื้องหน้าปรากฏร่างเสือที่มีกายสีทองอร่ามไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดปลายหาง!!!!...แสงสว่างสีทองที่เปล่งออกมาจากรอบตัวของเสือนั่นทำให้ตาเราพร่าเลือนเลยทีเดียว...อุ!!...สว่างจ้าจนมองอะไรไม่เห็นแล้ว!?)
“นะ...หนูริน!?
“ว้าย~~...ทนดูไม่ได้!!!
..........................................................................................................................................................

“อือ--...เอ้ย!!!
“ตื่นแล้วพี่”
“อ๋อม...น้องป้อม...พวก...พวกเธอทำอะไรน่ะ?”
(กางเกงคนไข้ของเราถูกดึงลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่?)
“...วันนี้ก็ถึงเวลาที่ฉันจะจับนายทำผัวซะทียังไงเล่า!!!
“อะ...อะไรนะ!?
...ขณะที่ผมกำลังฝันอยู่ดีๆก็สะดุ้งตื่นและยิ่งตกใจมากกว่าเดิมเมื่อพบว่าตัวเองจะโดนญาติสาวผู้พี่ข่มขืนคาเตียงพยาบาล!!!!...เหตุการณ์จะซ้ำรอยหรือยังไงกัน?...หนอย~~...คราวนี้มีต้นทางซะด้วยนั่นคือน้องป้อมนั่นเอง...
“เธอ...อย่าทำอะไรบ้าๆ”
“ทำไม?...เอากับฝนแล้วจะเอากับฉันบ้างไม่ได้เรอะ?”
“มันไม่ใช่...เฮ่ๆๆๆ...ที่นี่โรงพยาบาลนะ!!
“โรงบาลแล้วไงฟะยังไงวันนี้นายก็ต้องเสร็จฉัน!?...หยาดฝนมันชิงตัดหน้าไปก่อนแต่ฉันจะตีเสมอให้ได้!!!
“ตีเสมอ?...เอากันง่ายๆแบบนี้เลย!?
“เออฉันไม่สนอะไรทั้งนั้นแล้ว!!!...ป้อมคอยดูให้ดีนะ”
“ค่า~~...ไว้ใจหนูได้”
!!!!
“จะดิ้นทำไมนักหนาหึ?...เฉยไว้เดี๋ยวดีเอง”
“เธอ...จะข่มขืนฉันหรือไง?”
“ใช้คำไม่น่าฟังเลย...เขาเรียกว่ารวบหัวรวบหางต่างหากเล่า”
“มันก็เหมือนกันนั่นแหละ...เธอเป็นผู้หญิงนะเฮ่ย!!!
“โลกสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้วโว้ย!!!!
“ว้ากกกกกกกกก”
...ผมพยายามฉุดรั้งกางเกงเต็มที่แต่อ๋อมก็ตั้งหน้าตั้งตาจะดึงมันลงเต็มกำลังเหมือนกันแล้วยังมีน้องป้อม(ละทิ้งหน้าที่ต้นทาง)มาช่วยอีกแรงด้วย...สรุปว่าที่พวกเธอไปอบรมกิริยามารยาทของกุลสตรีกับคุณย่านี่ไม่มีประโยชน์อะไรเลยใช่มั้ย?...
“หลุดแล้ว!!!
“ปัทโธ่~~...เลิกล้อเล่นซะที”
“ใครว่าล้อ...”
“?”
“...............................................”
“อึ๊ก!!...นะ...นี่คือของพี่ชาย”
“บอล!!
“อะไร?”
“ทะ...ทำให้มันแข็งเดี๋ยวนี้!!!
“หา!!
“ไม่งั้นจะทำกันได้ยังไงล่ะ?”
“จู่ๆมาพูดแบบนี้ใครมันจะมีอารมณ์!!...นี่พวกเธอไม่ได้รู้เรื่องเลยเรอะ?”
“พี่อ๋อม...จำที่แม่สอนได้หรือเปล่า?”
“อือ--...เดี๋ยวนะ”
(อะไรของแม่คนนี้เนี่ย?)
“อย่าบอกว่าพี่ลืม?”
“ไม่ๆๆๆ...กำลังนึกอยู่นี่ไง...ใช่ๆๆๆๆ...ใช่แล้ว!!...เช้าวันนั้นที่ฉันบุกเข้าห้องนาย...แก้ผ้า...ใช่!!!...ฉันจะแก้ผ้าให้นายดูแล้วนายก็จะเกิดอารมณ์”
“อ๋อม...เธอเพี้ยนไปแล้วหรือไง?...น้องป้อม...แบบนี้มันไม่ถูกต้องนะ!!!
“ฮื่อ~~...เราจะถอยไม่ได้!!!
“เอ้ย!?
“พี่ชายต่างหากที่ต้องเข้าใจความรู้สึกของเราสองคนว่าการถูกชิงตัดหน้ามันเจ็บปวดแค่ไหน?”
“ก็เลยเอาคืนด้วยวิธีนี้?”
“เพราะพี่ฝนเป็นฝ่ายเล่นไม่ซื่อก่อน...เขาเรียกยุทธวิธีเกลือจิ้มเกลือไงคะ”
...ระหว่างที่ผมคุยกับน้องป้อมแป๊บเดียวอ๋อมก็ถอดเสื้อตัวนอกออกไปเหลือแต่ยกทรงสีเหลืองจากนั้นเดินมาจับไอ้หนูประจำกายก่อนจะรูดขึ้นรูดลง...ไม่รู้น้องป้อมไปเห็นดีเห็นงามกับความห่ามของพี่สาวของเธอได้อย่างไรทั้งที่สมควรจะช่วยห้ามแท้ๆ...
“เลิกทำอะไรแผลงๆสักทีเถอะ...โอ๊ยเจ็บ!!!
“จะ...เจ็บเหรอ?”
“พี่อ๋อมเบามือหน่อยสิคะ!!
“ขอโทษๆ...พี่ตื่นเต้นและก็ลืมที่แม่สอน...งั้นจะทำเบาๆล่ะ”
“...................................................
“...................................................
“ฮึ่ย~~...ทำไมไม่แข็ง?”
“นั่นสิคะ”
“ก็พูดไปไม่รู้กี่ครั้งว่าฉันมีอารมณ์ซะที่ไหนกัน?”
“เฮ่ย!?...หมายความว่าฉันมันไร้เสน่ห์นักเหรอไงห๊ะ?”
“ไม่ใช่หรอกพี่”
“ฉันเป็นผู้หญิงตั้งแต่หัวจรดเท้านะเฟ้ย...หนอย~~...จะไม่มีอารมณ์ได้ยังไงกันเป็นไปไม่ได้!!!”
(ปัญหาคือสถานที่ไม่เอื้ออำนวยบรรยากาศก็ไม่โรแมนติคหรือเป็นใจแถมแม่สาวหัวเสือนี่ก็ไม่ได้มีลีลาหรือจริตเย้ายวนเลยสักนิดจึงเป็นธรรมดาที่เจ้าหนูของเราจะไม่รู้ร้อนรู้หนาว)
“มองให้ดีๆเซ่!!!...นี่ร่างกายของสาวบริสุทธิ์ของแท้เลยนะ...เนื้อหนังมังสาของหญิงสาวในวัยเจริญพันธุ์แล้วผิวพรรณที่ทั้งนุ่มเนียนและก็น่ากอดที่สุด...เอ้า!!...ดูให้ชัดๆ”
(อู้หู~~...พอลองได้ดูใกล้ๆชัดๆแล้วหน้าอกของอ๋อมก็โตไม่ใช่ย่อยเหมือนกันนี่หว่า!!!...ขนาดน่าจะพอๆกับฝนด้วยล่ะมั้ง?)
“อุ๊ยได้ผล!?...เริ่มใหญ่ขึ้นแล้วค่ะ”
“ฮึๆๆ...ต่อไปฉันจะดูดควยนายละ!!!
“เดี๋ยวๆๆ...เธออมเป็นเหรอ?”
“บ๊ะ!!...ของง่ายๆทำไมฉันจะทำไม่ได้วะ?”
“แม่สอนเรามาเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ก็ทีเมื่อกี้นี้ยังลืมเลย...อุ๊!!
...อ๋อมเริ่มต้นแลบลิ้นเลียท่อนควยอย่างระวัดระวังหรือจะเรียกว่ากล้าๆกลัวๆดี?...ดูเธอจะพยายามด้วยความตั้งใจมากทีเดียวเพราะต้องการลบคำสบประมาทที่ผมเอ่ยว่า “ไม่มีอารมณ์” ให้จงได้...พอไล้เลียไปทั่วแล้วอ๋อมก็อ้าปากอมดูดส่วนหัวหยักเข้าไปเป็นการหยั่งเชิงโดยมีน้องป้อมยืนอยู่ข้างๆคอยลุ้นเอาใจช่วยทั้งผมและพี่สาวพลางลอบกลืนน้ำลายลงคอตามไปด้วย...
(เธอยังไม่กล้าเท่าอ๋อม)
“นุ่มนวลหน่อยนะพี่...อย่าจับแรงเหมือนเมื่อกี้”
“อือ”
“..................................................”
“..................................................”
“ว้าว!!!...ควยพี่ชายเริ่มจะใหญ่ขึ้นละ...ไหนใครน๊าบอกไม่มีอารมณ์?”
“โอออออออออออ”
“พี่ชายเสียวใช่มั้ยคะ?”
“อาาาาาาาาา”
“พี่อ๋อมอมเข้าไปทั้งลำเลยค่ะ”
“ได้...พี่จะทำเดี๋ยวนี้”
“อุ๊บ!!...อูวววววววววววว”
(ทำได้ขนาดนี้ก็ไม่เสียชื่อป้าเอ็มแล้ว)
“ค่อยๆช้าๆจ้ะ”
“...............................................”
(ไปๆมาๆเป็นน้องป้อมนี่แหละที่ลุ้นกว่าใครเพื่อนเพราะตอนที่เธอจับมือผมไปกุมหน้าอกอ๋อมก็รู้สึกได้ว่ามันเย็นเฉียบเลย)
“อื้อหือ~~...นมเธอนี่ก็ไม่เบาแฮะ”
(ถึงขนาดจะไม่เท่าของพี่แคทแต่ก็เนียนนุ่มน่าจับบีบเคล้นยิ่งนัก)
“บอกแล้วว่านายต้องชอบและฉันยังมีดีกว่านี้อีก...ความสุขที่ซ่อนเร้นอยู่ไง”
“งั้นแสดงให้ดูหน่อยซิ...ไอ้ความสุขที่ว่า”
“ฮึๆๆ...คอยดู”
...แรกๆอาจจะติดขัดประดักประเดิดไปบ้างแต่เมื่ออ๋อมตั้งสติได้ก็เริ่มแสดงผลจากการฝึกฝนที่แม่ของเธอถ่ายทอดวิชา(?)ออกมาให้เห็นและกำไร(ความเสียว)ก็ตกอยู่กับผมเต็มๆ...ญาติสาวผู้พี่สุดห้าวคนนี้ที่แท้ก็มีดีที่ลำคอซึ่งมันช่วยให้เธออมควยเข้าไปทั้งลำได้อย่างไม่ยากเย็น...เมื่อครู่ไม่มีอารมณ์จะมาทำเรื่องพรรค์นี้และเจ้าน้องชายก็นอนพับสงบนิ่งอยู่แท้ๆแต่พอโดนญาติสาวผู้พี่กระตุ้นเข้าไปก็พองตัวใหญ่คับช่องปากอย่างรู้หน้าที่และไม่ทำให้ผมเสียหน้า...
(ทั้งๆที่เปอร์เซ็นต์จะโดนผู้หญิงข่มขืนคาเตียงพยาบาลรอบสองนั้นมีความเป็นไปได้สูงปรี๊ด)
“อื้อออออออออออ”
“ดะ...ดีเหลือหลาย...ไม่นึกว่าเธอจะอมเก่ง...อูยยยยยยยยยยยย...นั่นแหละๆๆ”
“ของพี่ชายแข็งเต็มที่แล้วค่ะ”
“หึๆๆ”
(หัวเราะในลำคอแบบนี้คงจะพึงพอใจน่าดูที่ทำให้อาวุธของเราใกล้พร้อมรบเต็มที่)
“โออออออออออ...เก่ง...อ๋อม...นี่ใช่ครั้งแรกของเธอแน่เหรอเนี่ย?...อึ๊ยยยยยยยยยยย”
“อืมๆๆๆๆๆๆ”
“เทียบกับพี่ฝนแล้วเป็นยังไงคะ?”
“จะ...จะให้บอกหรือ?”
(กลัวอ๋อมได้ยินแล้วจะเสียอารมณ์)
“ไม่เป็นไรค่ะ...พี่ชายบอกมาเถอะ”
“อะ...เอาตรงๆเลย...อ๋อมเก่งกว่าฝนเยอะ”
“จริงหรือคะ?”
“ฝะ...ฝนยังอมไม่เก่งเท่านี้หรอก...อืออออออออออ...ไม่...ไม่โกหกชัวร์...อ๊าวววววววววว”
“พี่ชายเสียวมากแล้วจ้ะพี่...เดี๋ยวจะเสร็จซะก่อนนะ”
“จริง...จริงด้วย”
“ชะ...ช่วยเลียตรงหัวอีกหน่อย”
“ฮ่า--...นี่นายติดใจฉันแล้วใช่ม้า?”
“อืม”
“ก็บอกแล้วว่าฉันมีเสน่ห์...ฮิๆๆ...หัวถอกบานแบบนี้แสดงว่าเงี่ยนเต็มแก่?”
“โอวววววววววววววว...เสียว...ฉันเสียวมากเลยอ๋อม...ซีดสสสสสสสสสสส...ตรง...ตรงขอบนั่นแหละ...โอ๊อออออออออ”
“ก้นพี่ชายแทบจะไม่อยู่ติดเตียงแล้ว...คิกๆๆๆ...พี่อ๋อมเก่งมากค่ะ...เอ๊ะ?”
!?
“เสียงเคาะประตู?”
(หงับ!?)
“โอ๊วววววววว...แสบ!!!!...งับทำไมวะเนี่ย?”
“แอวะ~~...อะไรนะ?...มีคนมา!!!
“รีบใส่เสื้อเร็วๆเข้า!!!
“ว้อย!!!!
...กรรมเวรอะไรของผมนักหนาทั้งที่กำลังจะรู้สึกเพลิดเพลิน(?)ด้วยฝีลิ้นของญาติสาวผู้พี่จอมห้าวแต่จู่ๆก็มีคนมาเคาะประตูห้องทำให้อ๋อมตกใจเผลองับท่อนควยจนผมสะดุ้งสุดตัวด้วยความเจ็บปวดและยังไม่ทันจะได้สำรวจร่องรอยความเสียหายเลยเพราะมีเสียงเปิดประตูดังขึ้นซะก่อน...โธ่~~...ความสุขที่ซ่อนเร้นอยู่ทำไมมันถึงสั้นนัก?...
“พี่ชายเป็นไงบ้างคะ?”
“เจ็บน่ะสิถามได้~~
“ใครเสือกมาขัดจังหวะฟะ?...อ๋า!?
“คุณน้า?...พี่เอ้?”
“พอท่านแม่ได้ข่าวก็รีบมาเยี่ยมน้องเอกคเชนทร์น่ะขอรับส่วนอ๋อมกับน้องป้อมมาตั้งแต่เมื่อไหร่หรือ?”
“...กลางดึกเมื่อคืน...ใครจะทนรออยู่ที่นั่นได้...จริงมะ?”
“แสดงว่าทั้งสองคนก็อยู่ที่นี่ตลอดเลย?”
“ใช่แล้วค่ะพี่เอ้”
(ที่แท้ก็เป็นอาอรศินีย์กับพี่เอ้...หวุดหวิดไปแล้ว!!!...โชคดีที่เรารีบดึงกางเกงขึ้นและอ๋อมก็ใส่เสื้อทันเวลาพอดี...อู๊ย!!!...โดนเขี้ยวของอ๋อมงับเข้าไปยังปวดแสบกระดออยู่เลยให้ตายซี่~~)
“หลานบอลเป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ?”
“มะ...ไม่เป็นไรแล้วครับ...ได้พี่เซคช่วยรักษาให้”
(แต่ตอนนี้มันเจ็บอย่างอื่นด้วย...เลือดออกหรือเปล่าก็ไม่รู้?)
“ดีจริง...หากเป็นหลานเซคก็หาได้มีอะไรต้องห่วงอีก...อามีของมาฝากด้วยนะ”
“โอ้!?...กระเช้าใหญ่เบ้อเริ่ม”
“มีแต่รังนกทั้งนั้น...ฉันขอกินเลยได้มั้ย?”
“ของน้องเอกคเชนทร์นะขอรับ”
“ไม่เห็นเป็นไร!!...ของๆบอลก็เหมือนของๆฉัน...ของฉันๆก็คือของๆฉัน”
(ตรรกะเพี้ยนๆของคนเพี้ยนๆ...งานนี้คนดีแกะขวดรังนกยกดื่มพรวดเดียวหมดก่อนคนป่วยซะอีก)
“พี่ชายทานไหมคะ?”
“...เอาไว้ก่อนเถอะ”
“เมื่อสักครู่พวกเธอทำอะไรกัน?”
“อุ๊บ!!!...แค่กๆ”
“อึ๋ย!!
“ปละ...เปล่านี่คะ!!...เราไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย~~
(ยะ...แย่แล้ว!!!...มีแววที่ความจะแตกอย่างรวดเร็วงั้นเหรอ?)
“น้าเห็นนะ...ท่อนบนของหลานอ๋อมเหลือแต่ยกทรง”
“อะ...อ๋อ~~...ฉันกำลัง...เปลี่ยนเสื้อไง!!
“เปลี่ยนเสื้อ?”
“ก็ในนี้มันร้อนไงแต่น้ายังอุตส่าห์ตาไวเห็นอีกแฮะ!?
“.......................................................”
“นี่...น้ายังจะสงสัยอะไรฉันอีกเล่า?”
“...ดูท่า...การสั่งสอนอบรมของท่านแม่คงจะไร้ประโยชน์เสียแล้ว”
“กระผมกับท่านแม่เห็นหมดทุกอย่างแล้วขอรับ”
“อะไรนะ?”
“หะ...เห็นหมดแล้วเหรอคะ?”
...หมดกัน~~...จบสิ้นแล้วภาพลักษณ์ของผม!!!!...นึกว่าอานีย์จะไม่รู้เรื่องซะอีกแต่นี่กลับรู้เห็นตั้งแต่ต้นแล้วต่อไปผมจะมีหน้าไปมองเธอได้อย่างไรกัน?...
“ก็...ก็แล้วยังไงเล่า?...นี่คือวิธีของฉัน!!
“วิธีอื่นก็มีถมเถ...คิดมิออกแล้วหรืออย่างไร?”
“น้าอย่ายุ่งเรื่องของพวกฉันเลยน่า!!!...บอล...แล้วเจอกันใหม่”
“ยะ...ยังจะเอาอีกเรอะ?...โหย~~
“ทำใจยอมรับเถอะน่ะ...ยังไงนายก็หนีพวกฉันไม่พ้นหรอกแต่เมื่อกี้เสียดายจัง...อีกนิดเดียวแท้ๆ”
“แล้วเราจะมาเยี่ยมพี่ชายอีกนะคะ...ฮิๆๆๆ”
“.......................................................”
“ช่างกล้ากันจริงๆเลยขอรับ”
“หลานบอล”
“คะ...ครับ!!
“ไหนบอกอาหน่อยซิว่าสองคนนั้นทำอะไรบ้าง?”
“คือ...”
“อาทันเห็นหลานอ๋อมวิ่งไปคว้าเสื้อแต่ก่อนหน้านั้นมิรู้”
“ก็...อ๋อมเขาร้อนไงครับ”
“ทั้งที่ในห้องนี้เปิดแอร์น่ะหรือขอรับ?”
(อุ๊ก!!!)
“มิใช่เหตุผลนั้นใช่ไหมจ๊ะ?”
...โอ่ยแย่~~...แม้จะปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้ากับแววตาที่บ่งบอกว่ามีความเมตตาแต่อานีย์เวลานี้น่าเกรงขามชนิดที่มือสมัครเล่นอย่างผมยังมองออกและสัมผัสได้...บารมีที่สามารถข่มขวัญผู้อื่นได้โดยไม่ต้องเอ่ยปากและก็คงเป็นเธอผู้นี้เองแหละที่ปลูกฝังคุณสมบัตินี้ให้แก่หลานๆทุกคน...
“คืออ๋อม...จะปล้ำผมและเมื่อกี้...เธอก็กำลังใช้ปากกับ...”
“ฮ้า!!!!
“กระผมมิอยากเชื่อ...ว่าเธอจะใจกล้าขนาดนี้”
“ชะ...ใช้ปากกับ...”
“ท่านแม่ขอรับ?”
“ลูกเอ้...แม่...แม่จะเป็นลม~~
“ท่านแม่!!
“คุณอา!?
(พี่เอ้ประคองอานีย์ที่เริ่มเดินเซกับยกมือกุมศรีษะไปนั่งโซฟาพลางหาน้ำเย็นมาให้ดื่ม)
“เอายาดมไหมขอรับ?”
“มิต้อง...มิต้องดอก”
“ผมคงพูดตรงไปหน่อย...ขอโทษครับ”
“หลานบอลมิต้องขอโทษเพราะผู้ผิดก็คือหลานอ๋อมกับหลานป้อมต่างหาก!!!...สมัยนี้มันกลายเป็นอะไรไปแล้ว?...ผู้หญิงกลับเป็นฝ่ายใช้กำลังฉุดคร่าจะขืนใจผู้ชาย!!!!...ลูกเอ้...ลูกเอ้ก็ต้องระวังด้วย”
“กะ...กระผมน่ะหรือขอรับ?”
(แล้วใครจะหาญกล้าขนาดนั้นกับนักดาบมือฉมังอย่างพี่เอ้นะ?)
............................................................................................................................................

“น้านีย์บอกว่าอยากจะให้พี่น้องทุกคนมาทานข้าวร่วมกัน?
“คือไหนๆพี่เอ้,อ๋อม,น้องป้อมก็อยู่ที่นี่แล้ว”
“เมื่อไหร่?”
“หลังจากที่ผมออกจากโรงพยาบาลครับ”
“ที่บ้านไหนล่ะ?”
“ก็บ้านเราไง...อาจะชวนพี่เซคกับพี่ม่อนมาด้วยนะ”
“ว้าว!!!...ต้องสนุกครึกครื้นแน่ๆเลย...นี่เป็นโอกาสพิเศษสุดเพราะพวกเราลูกพี่ลูกน้องทั้งแปดคนยังไม่เคยได้อยู่พร้อมหน้าสักครั้ง”
(แต่ไม่รู้จะเกิดเรื่องวุ่นวายอะไรอีกหรือเปล่าเพราะงานนี้มีคู่กรณีเพียบอย่างเช่นพี่ม่อนกับอ๋อม,ฝนกับน้องป้อมหรือแต่เราที่ไม่เคยได้พูดคุยดีๆกับพี่เซค?...ว่าแต่พี่แคทไหงถึงมีสีหน้าที่เคร่งเครียดแบบนั้น!?)
“................................................”
“เจ๊เป็นอะไรน่ะ?”
“................................................”
“เจ๊!!
“หืม?”
“ไม่ดีใจหรือไงคะ?
“เปล่า...ดีใจสิ...แต่พี่เซคกับน้องม่อนจะมาแน่เหรอ?”
“อานีย์คงสั่งให้มาจนได้แหละครับ”
“ฮิๆ...อยากให้ถึงเร็วๆจัง”
“...พี่จะไปซื้อของหน่อย”
“งั้นหนูฝากซื้อขนมด้วย”
“อืม”
...พอพี่แคทออกไปจากห้องฝนก็ลุกมานั่งข้างผมทันที...วันนี้ไม่รู้สึกเหงาเลยสักนิดเพราะเมื่ออานีย์กับพี่เอ้กลับไปสักครู่พี่แคทกับฝนก็มาถึงแล้วเมื่อกี้ป้าเอ็มเพิ่งมาเยี่ยมพร้อมกับสามคนสนิท...ผมเข้าใจความรู้สึกของนายเศกก็ตอนนี้แหละว่าพอโดนเข้ากับตัวเองแล้วมันทำอะไรไม่ค่อยสะดวกดังใจหวังเลยไม่ว่าจะแขนหักหรือขาหัก...
“บอลจ๊ะ”
“?”
พอได้ยินว่าพี่ม่อนจะไปกินข้าวที่บ้านด้วยพี่แคทก็ดูมีสีหน้ากังวลนะว่ามั้ย?”
คงไม่มั้ง?...เธอก็คงจะกังวลคิดมากไปเองเหมือนกันล่ะ
“...งั้นเหรอ?”
(แต่ความจริงเราก็รู้สึกเหมือนๆกับฝน)
“อยากไปเดินเล่นจัง”
“ขาเป็นแบบนี้ตัวเองจะเดินได้ไงเรอะ?”
“ฉันหมายถึงนั่งรถเข็น...อยู่แต่ในห้องมันอุดอู้เลยอยากออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง”
“โอเค!!...เดี๋ยวเค้าไปขอยืมรถเข็นมาให้”
...ไม่นานฝนก็กลับมาพร้อมรถเข็นโดยเธอจะรับอาสาพาผมไป...ไม่นึกว่าจะมีวันที่ตัวเองต้องเข้าเฝือกนั่งบนรถเข็นให้คนอื่นพาไปไหนมาไหน...อูย!!...เมื่อกี้แค่นึกหน้าอ๋อมก็ให้รู้สึกเหมือนจะปวดแสบที่ไอ้จ้อนแต่ผมสำรวจดูเรียบร้อยซึ่งยังโชคดีที่ไม่มีเลือดออกแต่ก็เหลือรอยฟัน(เขี้ยว)ของสาวเจ้าหัวเสือไว้ดูต่างหน้า...
(จะมองอะไรนักหนาไม่เคยเห็นคนขาหักหรือไง?...อารมณ์ยิ่งไม่ค่อยผ่องใสอยู่!!)
“ฮึ่ย!!!
“เป็นอะไรเหรอ?”
“ทั้งพยาบาลทั้งพวกนิสิตจะมามองฉันทำไมเนี่ย?”
“ก็อย่าไปสนใจซี่~~
“น่าอายชะมัด!!...รู้งี้ไม่น่าลงมาชั้นล่างเลย”
“ไม่เห็นจะน่าอายตรงไหน...อื๋อ?”
(ใครโทรมาหาฝน?)
“ค่ะ...หนูพาบอลมาเดินเล่นข้างล่าง”
“...................................................”
“งั้นเหรอค่ะ?...ในที่สุดบอลก็จะได้เจอพี่ซะที”
(!?)
“ได้จ้ะๆ...เดี๋ยวจะไปรอที่หน้าลิฟท์”
“ทำไม?”
“รอพี่ม่อนจ้ะ”
“เฮ่ย!?...จะมาจริงๆรึ?”
“อื้ม!!...เธอกำลังกลับบ้านแต่แวะมาหาเราก่อน”
“คราวนี้แม่คุณคนสวยจะมาในรูปแบบอะไรอีกหึ?...หญิงแก่,ชายหนุ่ม,ยาม,แม่บ้าน”
“ผิดทั้งหมด!...คำตอบคือสาวสวยจ้ะ”
“เฮอะ!!
...ผู้หญิงที่ทำตัวไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องและมีงานอดิเรกเพี้ยนๆแต่จัดเป็นตัวอันตรายอันดับหนึ่งในขณะนี้...พี่ม่อนคนนั้นจะลงลิฟท์จากชั้นเก้าเพื่อมาพบผมกับฝนอย่างนั้นหรือ?...แสดงว่ามีใจอยากพบกันแล้วสิเพราะผมได้ยินว่าถ้าพี่ม่อนไม่อยากพบใครต่อให้ตามหาตัวยังไงก็ไม่มีทางเจอเว้นซะว่าเธอจะเป็นฝ่ายมาหาเอง...
(เอาเหอะ!!...จะมาในสภาพแก่หรือสาวชายหรือหญิงก็เชิญตามสะดวกเลย...เราจะไม่ตกใจหรือตื่นเต้นอะไรทั้งนั้น)
“ถึงชั้นหนึ่งแล้ว”
“..................................................”
“ว่าไง?...ปลอมเป็นอะไร?”
“เดี๋ยวดูก่อน”
“..................................................”
“...ไม่มี”
“อ้าว?”
“พี่ม่อนไม่อยู่ในกลุ่มคนเมื่อกี้”
“เก่งแฮะ...มองปราดเดียวก็รู้เลย”
“รึจะเปลี่ยนใจไม่มา?”
“คงงั้น...ก็เธอเกลียดฉันนี่นา”
“พูดแบบนี้อีกแล้ว”
“เขาพูดมิผิดดอก...น้องนางหยาดฝน”
“?”
...เสียงนำมาก่อนตัวตามแบบฉบับของบุตรสาวคนรองจอมลึกลับของป้าเอ็ม...ที่แท้ก็ไม่ใช้ลิฟท์แต่เดินลงบันไดเพราะผมได้ยินเสียงฝีเท้าและเงาที่ทอดยาวกับพื้นที่ปูด้วยหินอ่อน...เห็นแล้วล่ะทุกท่าน!!!...แหม~~...เข้าใจปรากฏตัวซะด้วยคือเลือกเดินมาทางที่ไม่มีคนเรียกว่างานนี้คุณเธอฉายเดี่ยว...
“ขออภัยที่ให้รอ...บังเอิญพี่เปลี่ยนใจมิอยากลงลิฟท์”
“ก็พอเดาได้ค่ะ...พี่ม่อนไม่ชอบเบียดเสียดคนเยอะๆนี่”
“...........................................”
“เมื่อสักครู่พี่ได้พบกับท่านน้าอรศินีย์แลท่านพี่สุริยาวรรณด้วย”
“แต่ไม่ได้เจอพี่อ๋อมกับเจ้าป้อมใช่ม้า?”
“พี่มิอยากกระทบกระทั่งด้วยเรื่องที่น่าเบื่อซ้ำซาก”
“เข้าใจค่ะเข้าใจ...แล้วพี่ไหมไม่มาด้วยหรือคะ?”
“รออยู่ที่รถน่ะ”
“...........................................”
“บอลเป็นอะไรทำไมไม่พูด?”
คราวนี้คุณเธอ...ปลอมเป็นนักศึกษาเหรอไง?”
บ้าสิ!?...นี่มาในสภาพตัวจริงเลยละจะบอกให้!!!
“เห!?
...คนที่อยู่ตรงหน้าคือพี่ม่อน “ตัวจริง” ที่ไม่ได้แปลงโฉมหรือเนี่ย?...หญิงสาวผมบ๊อบในชุดนักศึกษากระโปรงสั้นมีผ้าคลุมยาวสีขาวด้านหลัง(?)สวมแว่นตาดำที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ผมกับฝน...ในที่สุด...ในที่สุดก็ยอมเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาจนได้นะ!!!!...
(แต่ก็ยังใส่แว่นปิดบังดวงตา)
“.................................................”
(พี่ม่อนก้มมองที่ขาเรา...ในใจกำลังสมน้ำหน้าเราหรือเปล่าหว่า?)
“นี่ผมถือซะว่ามันเป็นกรรมเวรที่ต้องชดใช้”
“...พูดเช่นนี้ก็มิถูกต้องซะทีเดียวนัก...อย่างน้อยเจ้าก็พอจะมีโชคอยู่บ้างมิใช่หรือเพราะถ้าโชคร้ายเจ้าก็จะคอหักถึงแก่ชีวิตเป็นแน่?”
“พี่ม่อน...พูดน่ากลัวจัง”
“เผอิญผมมันคงจะเป็นคนหนังเหนียวตายยากพอตัวเลยน่ะครับ”
“น่าพิสูจน์ยิ่งนักว่าจะเป็นจริงไหม?”
“ทะ...ทั้งสองคนคะ?”
“วันนี้นึกยังไงถึงยอมเปิดเผยตัวจริงได้ครับ?”
“เพราะเกิดเรื่องน่ายินดีขึ้น”
“น่ายินดี?”
“ตั้งแต่เมื่อคืนเลย...เราได้ยินเสียงใครบางคนร้องโหยหวนประดุจดังผีเปรตในขุมนรก”
“มัน...มันจะไม่มากเกินไปหน่อยเรอะ?”
“เจ้าคิดว่าเราหมายถึงเจ้าหรือ?”
“งั้นหมายถึงใคร?”
“ที่นี่คือโรงพยาบาลที่ในรอบหนึ่งวันจะมีคนได้รับบาดเจ็บเข้ามารักษาจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดมิใช่ฤา?”
(ทำพูดโน่นอ้างนี่แต่เธอต้องหมายถึงเรานั่นแหละ!!!...หน้าตาก็ไม่เลวแต่ปากคอเราะร้ายตามรอยพี่เซคทีเดียว)
“เจ้าคงจะสำคัญตนมากเกินไปหน่อยนะ”
...เจอะหน้ากัน “ตรงๆ” พี่ม่อนก็แดกดันผมเป็นชุดเชียวไม่รู้หมั่นไส้อะไรกันนักหนา?...นิสัยไม่น่าคบแบบนี้เองมิน่าอ๋อมถึงจงเกลียดจงชังและโดยเฉพาะสำเนียงการพูดที่เหมือนกับหลุดออกมาจากโรงลิเกนั่นด้วย...
“อะ...อ้า!!...พี่ม่อนถอดแว่นออกหน่อยสิจ๊ะ...บอลเขาอยากเห็นใบหน้าจริงๆของพี่”
“เธอ...พูดอะไร?”
(ใครบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าอยากเห็น?)
“...ย่อมได้”
(หึย!?...นี่มัน!!!!)
“บอล”
“...................................................”
“บอล!!
“...................................................”
“ย้าก!!!
“หนวกหู~~...จะเสียงดังทำไม?”
“ถึงกับมองตาค้างเลยเชียวเรอะ?”
“...................................................”
“ยังอีก--
นะ...นี่น่ะหรือ?...โฉมหน้าที่แท้จริงของพี่ม่อน!?...แม้จะไม่เห็นดวงตา...แต่...แต่เธอก็...
ชิ...ตะลึงไม่หายเลยล่ะซี้?”
ใช่...สวย...สวยมาก!!!...ฉะ...ฉันว่าเธอสวยไม่แพ้พี่แคทเลยนะเนี่ย!!!...รึบางทีก็อาจจะ...เหนือกว่าด้วยซ้ำ!!!!
...คนที่เคยเอาเสื้อคลุมห่มให้ผมขณะเผลอหลับในหอสมุด...คนที่เคยแปลงโฉมเป็นแม่บ้านทำความสะอาด,หนุ่มน้อยเด็กเสริฟ์,หญิงแก่ชรามาปรากฏกายตรงหน้าผม...คนที่เคยแกล้งเอาหุ่นโชว์ไปไว้บนหลังคาบ้านเพื่อหลอกให้ผมไขว้เขว้จนหลงคุยด้วยตั้งนานสองนาน...คนที่เคยส่งเอแคลร์เพียงหนึ่งชิ้นมาให้เพื่อตอบแทนของขวัญ...ตัวอย่างที่ว่ามานั่นคือตัวตนของหญิงสาวนามว่า “ศรมุกดา” ลูกพี่ลูกน้องวัยยี่สิบเอ็ดผู้นี้...
“นี่!
“เจ็บ!!
“เลิกตาค้างได้แล้วน๊ะ!!!...ฮึ่ม~~
“...นางฟ้าที่เผยโฉม...โอ้!!
“ก๊าด!!!...นี่แค่เห็นหน้าครั้งแรกก็หลงแล้วหรือไง?”
“ละ...หลงอะไรเล่า?...ไม่ใช่!!
“...............................................”
(ยิ่งดูก็ยิ่งน่ารักเหลือเกินวุ้ย!!!...นี่ถ้าลืมตาด้วยก็อาจจะมองข้ามอดีตที่เคยก่อเรื่องแสบๆกับเราไว้)
“ฮึ่ย~~...ไม่รู้ด้วยแล้ว!!
“นั่นเธอจะไปไหน?”
“อยากมองนักก็เชิญมองซะให้พอเถอะย่ะไม่ขวางแล้ว!!!
“อ้าว?...เดี๋ยวก่อน!!
(ญาติสาวผู้น้องแสดงท่าทางกระฟัดกระเฟียดเดินกระแทกเท้างอนตุ๊บป่องลิ่วไปอย่างเร็วเลย)
“...เจ้ามิสมควรกระทำเยี่ยงนี้”
“ผมแค่อยากมองหน้าพี่ให้ชัดๆเองนะครับ”
“มีผู้หญิงคนไหนที่จะทนเห็นชายอันเป็นที่รักละความสนใจไปจากตนเอง...เจ้าเคยคิดถึงจุดนี้บ้างไหม?”
“...............................................”
“ฝน!...ต่อไปน้องอย่าทำแบบนี้”
“ทำไมเราถึงปล่อยให้สองคนนั้นอยู่ด้วยกันตามลำพังไม่ได้คะ?”
“ไม่ต้องถาม!!
...ขาไปคนเดียวขากลับสองคน?...พี่แคทเดินนำหน้าฝนมาทางพวกเราด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนกไม่น้อยจากนั้นก็รีบเข็นรถที่ผมนั่งตรงไปที่ลิฟท์ทันทีโดยไม่สนใจจะทักทายพี่ม่อนแม้แต่นิด...
“นี่...นี่อะไรกันน่ะครับพี่?”
“หมอใกล้จะขึ้นตรวจแล้วเธอยังมาเอ้อระเหยอยู่ได้!!!
“ผมก็แค่อยากมาสูดอากาศ...ยะ...อย่าเร็วนักสิครับ!!...เฮ่ย!?
“พี่ม่อนจ๊ะเดี๋ยวเราค่อยคุยกันใหม่...เอ้อ!...น้านีย์ชวนไปกินข้าวที่บ้านหลังจากบอลออกจากโรงพยาบาลนะ”
“ทราบแล้วจ้ะ”
“รอด้วยสิเจ๊ก็!!
“...ก็มิเข้าใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นนะเจ้าคะแต่ถ้าเมื่อสักครู่น้องจะประสงค์ร้ายต่อเอกคเชนทร์จริง...ท่านพี่สุรีย์พรรณก็มิอาจจะมาช่วยเหลือเขาได้ทัน...อย่างแน่นอน”
.................................................................................................................................

“เจ้าจะบังอาจมากเกินไปแล้ว!!!...วสันตะนุจรินทร์”
“บังอาจอะไร?”
“พาชายผู้นั้นล่วงล้ำเข้ามาในถิ่นที่อยู่ของข้า...นี่เจ้าแกล้งโง่หรือว่าโง่จริงกันแน่?”
“แล้วเจ้าว่าเป็นอย่างไหนดี?”
“เจ้า!!!!
“ครั้งนี้น้องทำเกินไปนะ”
“โอ๊ะ!?...นี่พี่ก็จะเข้าข้างอชินีสุราลัยงั้นหรือ?”
“ก็รู้ว่านางมีความคิดอย่างไรแต่ยังจะพาพ่อมายังที่ๆนางอยู่ฉะนั้นน้องจึงเป็นฝ่ายผิดอย่างไม่มีข้อโต้เถียง”
“น้องจะขอโทษก็ได้นะคะ”
“ไม่ต้อง!!...ข้ารู้ว่าเจ้าไม่มีความจริงใจจะขอโทษหรอกและข้าหวังว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย...เจ้าจะพาพ่อของเจ้าไปท่องเที่ยวที่ไหนก็ตามใจแต่ต้องไม่ใช่ที่ถิ่นของข้า!!!
“...................................................”
“พี่สอนน้องหลายครั้งแล้วว่าควรจะให้ความยำเกรงอชินีสุราลัยในฐานะที่นางอาวุโสกว่า...เอาล่ะ...จะบอกเหตุผลให้พี่รู้ได้หรือยัง?”
“หนูต้องการให้นางได้พบกับพ่อแต่นึกไม่ถึงว่านางจะโกรธขนาดนี้”
“นึกไม่ถึงอะไรกัน?...น้องต้องคาดไว้อยู่แล้วต่างหาก!
“น่าพี่รีย์~~...อย่าพลอยโมโหตามสหายรักไปด้วยสิ”
“ก็รู้อยู่แก่ใจว่าอชินีสุราลัยในตอนนี้ยังไม่พร้อมจะยอมรับคุณพ่อเลย”
“แล้วจะพร้อมตอนไหนคะ?”
“ให้เวลานาง”
“แต่เวลาของพวกเราใช่ว่าจะมีมากนะคะ”
“ไม่มีประโยชน์ที่จะไปเร่งเร้า”
“ยอมรับแม่แต่ไม่ยอมรับพ่อ...ใช้ไม่ได้หรอก...ลำเอียงด้วยล่ะเพราะเมื่อครู่แม่ของเธอก็...หงึ!!...ทนดูไม่ได้”
“ยังไงก็ตามน้องอย่าได้ทำอีกไม่งั้นจะไม่จบเพียงเท่านี้...อชินีสุราลัยมีฤทธิ์มากกว่าน้องและที่นางนิ่งเฉยอยู่ก็เพราะยังเกรงใจพี่”
“...เข้าใจแล้วค่าแต่ไม่เห็นจะต้องตอกย้ำกันนี่นา--...ฮื่อ~~...ถ้าหนูเก่งเท่าพี่ก็ดีน่ะสิจะได้สูสีกับแม่เสืออารมณ์ร้ายบ้าง”
“แค่นี้ก็ก่อเรื่องปวดหัวได้สาหัสพออยู่แล้ว”
“พี่รีย์ใจร้าย~~
“และที่จริงอชินีสุราลัยก็...ช่างเถอะ”
“?”
..............................................................................................................................................................

...ตัวอย่างในตอนหน้า...

“หน้าที่อาบน้ำให้บอลเป็นของหนูต่างหาก...พี่อ๋อมกับยัยตัวเล็กไม่ต้องยุ่ง!!!
“หนอย~~...พี่ฝนคิดจะครอบครองพี่ชายไว้คนเดียวหรือไงคะ?...หนูไม่ยอมนะ!!!
“เธอกับฉันมาตัดสินกันเลยดีกว่าไม่งั้นมันก็ไม่จบเรื่องซะที...คนแพ้ห้ามบ่นห้ามโวยวายจะเอามั้ยเล่า?”
....................................................
“ทั้งสามคนน่ะหยุดได้แล้ว!!...เอาเป็นว่าแม่จะทำให้เอง...หยุดทะเลาะกันซะที”
“เอ๋ๆๆ...คุณแม่ไม่คิดจะถามหนูกับม่อนก่อนหรือคะว่ายอมตกลงมั้ย?”
“เชิญท่านแม่ตามสะดวกเลยนะเจ้าคะแต่หนูขอบอกเสียก่อนว่ามันคงมิจบเพียงขาขวาเท่านั้น”
....................................................
“พี่ไม่อยากจะเชื่อเลยเอ้...กะอีแค่จะอาบน้ำให้บอลก็เกิดปัญหามากขนาดนี้”
“เช่นนั้นกระผมกับท่านพี่สุรีย์พรรณจะรับหน้าที่นี้ไหมล่ะขอรับ?”
“จะคนไหนผมก็ไม่เอาเด็ดขาด!!!...แล้วนี่พี่เอ้อยากให้กองไฟมันมอดดับหรือยิ่งลุกลามไปใหญ่กันแน่ครับ?”
.........................................................................................................................................

29 ความคิดเห็น:

  1. ช่วงนี้ท่านadslmanออกตอนใหม่ไวมากเลยครับ ชอบๆ^^

    ตอบลบ
  2. ส่วนตัวผมสำหรับตอนนี้ คือว่า เวลา ผมอ่านถึง (ชื่อ) รู้สึกว่าจะทำให้ความต่อเนื่องขาดหายไปจังหว่ะนึงเลยทีเดียว คือปกติที่ติดตามมาหลายปีผมชอบแบบเก่ามากกว่านะครับ เพราะแบบนั้นจะทำให้รู้สึกว่าผมอยู่ในเหตุการณ์และเป็นตัวละครในนั้นมากกว่า แต่พอมาอ่านเจอชื่อมันเหมือนกับผมไม่ได้เข้าถึงเรื่องแต่ออกมาเป็นบุคคลที่3มากกว่า ผมคิดว่าแบบเก่าดีกว่านะครับ ถึงแบบเก่าจะไม่ระบุชื่อว่าใครเป็นคนพูดแต่จากลักษณะการพูดก็รู้ว่าเป็นใคร แถมยังอ่านได้แบบไม่สะดุดด้วย T-T

    ตอบลบ
  3. ผมทดลองดูน่ะครับ ถ้าเห็นว่าไม่เวิรค์ก็จะกลับไปใช้แบบเดิม ไม่ต้องกลัวเสียอรรถรสหรอกครับ ของแบบนี้สามารถพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงได้เสมอ แรกๆผมก็เป็นแบบคุณสายลมนี่แหละ พิมพ์ผิดเยอะมากและยังไม่มีพล๊อตเรื่องเป็นของตัวเองแต่ค่อยๆขัดเกลาพัฒนามาเรื่อยๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. รับทราบครับ เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ

      ลบ
    2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
    3. งั้นท่าน adslman ช่วยแต่งแบบ ตอนภาค 1 ได้ไหมคับ เพราะรู้สึกภาค2ไม่ค่อยมีบรรยายเท่าไหร่เลย มีแต่ประโยคคำพูด ผมพอกลับไปอ่านภาค 1 ใหม่ รู้เลย รู้สึกมันดีกว่า ได้อารมณ์ร่วมมากกว่าเพราะท่าน adslman บรรยายระเอียด ไม่รู้คนอื่นเป็นไหมแต่ผมรู้สึกอย่างงั้นจิงๆว่าภาค 1 แต่งดีกว่าภาค 2

      ลบ
  4. ผมว่าในจังหวะที่มีตัวละครหลายตัวแล้ว ไม่มีบทพูดออกมา ทำนองเถียงไม่ออก “....“ การใส่ชื่อตัวละครในลักษณะนี้ช่วยให้เข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายขึ้นกว่านะครับว่าใครมีปฏิกริยาตอบสนองยังไง

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณครับ ช่วงนี้ขยันปล่อยของ ชอบครับแวะมาดูประจำ แล้วก็ผมชอบแบบเดิมนะถึงจะงงๆอยู่บ้างแต่ก็ได้อรรถรสดี

    ตอบลบ
  6. แหมๆฮาเริมจงเจริญจริงๆครับ
    ปล.ยังอวยฮาเริม แม้จะชอบพี่แคทมากๆ
    สาวซึนเดระ

    ตอบลบ
  7. ดูทุกวัน รอครับ ขอบคุณที่ออกตอนใหม่ทันใจขาลุ้น

    ตอบลบ
  8. รินคือใครจำไม่ได้จริงๆ

    ปล.หลังจากมีชื่อของคนพูดผมว่าีขึ้นนะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ริน คือ ลูกของบอลกับฝนครับ

      ลบ
    2. อ๋อฝันที่เองสงสัยมาบอกให้พอระวังตัวไว้

      ลบ
  9. มาแล้วรออ่านต่อครับ

    ตอบลบ
  10. 40% แล้ว ขอบคุณครับ แบบนี้จะมีลูกของกุนกับสาบ้างหรือเปล่านะ แล้วอีกเรื่องถ้าแคทรู้ว่าบอลกำลังทำอะไรกับอ๋อมนี่มีงอนอีกยกใหญ่แน่...แต่จะเป็นไปได้หรือ?(ขาหักอยู่นะบอลอยากให้มันหักอีกข้างรึ...ขอให้มีคนมาหยุดไว้ทันทีเถอะ!?)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ฮ่าๆๆ อย่าขัดอ๋อมกับป้อมเลยครับ รอมาตั้งนาน ส่วนแคทนี่คงไม่เผอิญโผล่มาละมั้งเพราะแค่นี้งานก็เยอะอยู่แล้ว ปล.ฮาเร็มจงเจริญ

      ลบ
  11. ตื่นขึ้นมาจะโดนข่มขืนอีกแล้วหรอ จะไม่เป็นสร้างบาดแผลในใจของบอล เป็นรอบที่ 2 หรอครับ

    แล้วบอลอาจจะเข้าใจว่ารอบที่แล้วโดนอ๋อมข่มขืน พอถามไปถามมา ไม่ใช่อ๋อม

    บอลจะรู้ว่าคนนั้นเป็นแคท ที่นี่คู่นี้คงลงเอยกันแน่นอน ^_^

    ตอบลบ
  12. ขอบคุณครับ.... จัดไปเลย เจ้าบอล

    ตอบลบ
  13. ขอบคุณครับ ผมชอบมากเลยตอนพ่อคุยกับลูกสาว
    อยากให้บอลเจอลูกๆทุกคนเร็วๆ 55555

    ตอบลบ
  14. ขอบคุณครับ

    เป็นเรื่องที่ผมชอบมากเลย ท่านผู้เเต่งเก่งจริงๆ

    ตอบลบ
  15. รู้สึกว่าผมจะเสพติด เรื่องของท่านadslmanไปแล้ว แบบโงหัวไม่ขึ้น อิอิ

    ตอบลบ
  16. อชินีสุลาลัย สุดท้ายก็คือลูกของอ๋อมกับบอล โอ้ตายบอลจะฟาดเรียบทั้งหมดเลยรึหว่า กนะผมจะตามลุ้นต่อไป อีกเรื่องคือเรืรองของม่อนนี่ชักจะอำมหิตร้ายลึกๆเข้าไปทุกทีแล้ว แต่ลุ้นให้เธอกลับใจตัวเองสักทีเถอะ เพี้ยง

    ตอบลบ
  17. โถ น่าสงสารพ่อบอลซะเหลือเกินเหมือนต้องมาใช้กรรเลยนะครับ ทั้งจะโดนม่อนทำร้ายแล้งยังจะโดนอ๋อมกับป้อมรุมทำมิดีมิร้ายอีก ยังงัยก็จะรอตอนต่อไปนะครับ

    ตอบลบ
  18. ลูกของอ๋อมกับบอล มีปมอะไรกันแน่ ถึงไม่ยอมรับพ่อ
    มันกลับกันนะ เพราะอ๋อมจะคอยจับบอลกินอยู่ตลอด 555

    อยากดูบทบาทของลูกม่อนกับลูกพี่เชค(ถ้ามี)บ้าง
    ว่าจะช่วยคลี่คลายปมระหว่างบอลกับม่อน/พี่เชค ได้อย่างไรบ้าง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้ามีมันก็ซ้ำน่ะสิครับ ลองแนวอื่นบ้างเปลี่ยนอรรถรส เพราะผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าท่าน adslman จะแก้เกมส์ให้บอลยังไงนอกเหนือมุขลูกสาวเข้าฝัน แต่ที่รู้ๆ ตอนนี้ทั้งเซคและม่อนยังเหม็นขี้หน้าบอลอยู่

      ฮาเร็มจงเจริญ \(^0^)/

      ลบ
  19. ขอบคุณเช่นเคยครับท่าน

    ตอบลบ
  20. ผม มโนสาวๆแต่ล่ะนางไม่ออกจริงๆเลยครับที่สวยสุดๆ
    สวยแบบไหนแบบไทยแท้ๆหรือสาวสมัยไหม่
    ท่านใดพอมีภาพประกอบมั้งมั้ยครับ..
    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  21. ตอนหน้าสนุกแน่ครับ.. ผมชอบหยาดฝนนะ รู้สึกว่า น่ารักดี

    ตอบลบ