หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Fon Sidestory 3



Fon Sidestory 3 “จุดเด่นของเธอและจุดด้อยของฉัน!?

...กลับมาพบกันอีกครั้งแล้วนะคะแต่วันนี้ฝนไม่ค่อยจะสบายใจสักเท่าไหร่เลยล่ะซึ่งเหตุผลก็คือหลังจากงานเลี้ยงของ 8 พี่น้องผ่านไปจนล่วงเข้าสู่วันที่ห้าแต่ “ชายหนุ่มสุดที่รัก” ของหนูก็ยังไม่หายจากความเครียดและบางครั้งเขาชอบนั่งเหม่ออยู่คนเดียวกับมีสีหน้าคล้ายว่ากำลังใช้ความคิดอะไรสักอย่าง...
“เอ่อ--...กลุ้มใจอะไรก็ระบายออกมาได้นะ...แบบนี้ไม่ดีเลย...ตัวเองจะเก็บความอัดอั้นตันใจไว้ทำไมล่ะ?”
“...ขอ...ฉันอยู่คนเดียวสักพักเถอะ”
“บอล~~
“ฉันไม่ทำอะไรโง่ๆหรอกน่ะ...อย่าห่วงเลย”
“...............................................”
“ฝน”
“จ๋า~~
“ว่าไปฉันก็ยังมีอะไรที่ไม่รู้อีกเยอะ”
“เช่นว่า...”
“เรื่องราวเกี่ยวกับพี่น้อง,วิถีชีวิตในบ้านเกิด,ธุรกิจที่ตระกูลมีส่วนอยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง...ฉันแทบไม่รู้อะไรเลย”
“ค่อยเป็นค่อยไปน่า--...ไม่มีใครรู้ไปซะทุกอย่างหรอก”
“แต่ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า?...คือเหมือนทุกๆคนกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่?”
“ฮื่อ--...รู้สึกไปเองแน่ๆ...ไม่ใช่ปิดบังอะไรหรอกแต่แค่บอลยังไม่รู้เท่านั้น...อย่าเครียด”
“นั่นสิ...มนุษย์ทุกคนต่างก็ต้องมีความลับกันสักอย่างสองอย่างนี่นะ”
“คุณเอกคเชนทร์เจ้าคะ...มีนเตรียมน้ำอาบไว้แล้วเจ้าค่ะ”
“อะ...อีกแล้วรึ?”
...หงึ!!...ทั้งที่หนูควรจะเป็นคนที่ได้ปรนนิบัติใกล้ชิดบอลที่สุดแท้ๆแต่เพราะวิธีของพี่เอ้ที่ทำให้ทุกอย่างผิดเพี้ยนไปหมด...เมื่อพี่เซคกับน้องม่อนมาถึงก็แปลว่างานเลี้ยงได้เริ่มต้นขึ้นโดยที่โต๊ะอาหารมีเก้าอี้ตั้งอยู่ 10 ตัวและเราทั้ง 8 พี่น้องก็จะนั่งกันฝั่งล่ะ 4 ซึ่งฝั่งของหนูมีพี่เซค,พี่เอ้,พี่อ๋อม...คงนึกออกนะคะ... 1,3,5,7 ส่วนอีกฝั่ง 2,4,6,8 นั่งสับหว่างกันตามลำดับอาวุโสอย่างเช่นพี่เซคก็นั่งตรงข้ามกับพี่แคท...
(“เก้าอี้ที่หัวโต๊ะสองฝั่งนั่นของป้าเอ็มกับอานีย์?”
“ถูกต้อง...หึ!...ฉันนั่งตรงข้ามนายก็ดีอยู่หรอกนะแต่ชักอยากเปลี่ยนกับป้อมแล้วสิ”
“ไม่เอาๆ...หนูจะนั่งข้างพี่ชายค่ะ”
“ยัยตัวเล็ก...หยุดเกาะแกะบอลซะทีเหอะ!!!
“ฮ่าๆๆๆ...พี่ฝนอิจฉาหนูล่ะซี้~~
(รู้แล้วยังจะพูดอีก!!)
“แต่นายรู้สึกเย็นวาบที่แขนซ้ายบ้างมั้ย?”
“ทำไมหรือ?”
“อ้าว!!!...ก็มียัยผู้หญิงตายซากนั่งอยู่ข้างๆนั่นไง”
“...หึๆ”
“ขำอะไรวะ?”
“หากเธอขอร้องเราดีๆก็จะยอมเปลี่ยนที่นั่งให้”
“หา?”
“แต่ในเมื่อเธอหาเรื่องเราก่อนเช่นนั้นก็เปลี่ยนใจล่ะ”
“ศรมุกดา!!...หล่อนจะยั่วโมโหฉันเรอะ?”
“เงียบๆหน่อย!...นี่เป็นวันดี...ลูกอ๋อมเลิกระหองระแหงกับพี่เขาสักครั้งเถอะ”
“เชอะ!!
...ป้าเอ็มมาถึงพร้อมกับน้านีย์และจากนั้นสาวรับใช้จากบ้านพี่เซคก็เริ่มตักอาหารให้ทุกคน...น้านีย์มานั่งใกล้หนูกับเจ้าป้อมก็เพื่อจะคอยปรามแหงๆเลยและอาจรวมถึงพี่ม่อนกับพี่อ๋อมด้วย...หืม?...ฝ่ายพี่แคทก็เป็นอะไรไปนะถึงดูมีสีหน้าเป็นกังวลและยังคอยเหลือบมองมาทางบอลหลายครั้งแล้ว!?...
(บางครั้งพี่เอ้ชวนคุยเจ๊ก็ต้องถามกลับอีกทีว่าพูดเรื่องอะไร)
“ทุกคนสวมใส่อัญมณีประจำตัวมาด้วยสินะ?...ไหนลองแนะนำตัวเองและบอกลักษณะอัญมณีของตัวเองซิ...เรียงตามลำดับอาวุโส”
“โหคุณแม่?...ใช้คำว่าอาวุโสนี่มันออกจะ...เริ่มจากฉัน...ศรเพทาย ราศีกาญจนา...อัญมณีประจำตัวเพทายสีแดงหม่นเจียระไนเป็นรูปหัวลูกศร”
“สุรีย์พรรณ เทวะกรนันท์...อัญมณีประจำตัว...เหรียญทองคำสลักเป็นรูปพระอาทิตย์แปดแฉก”
“สุริยาวรรณ วิษณุมนตรี...อัญมณีประจำตัวคือเหรียญลงรักสีดำสลักเป็นรูปพระอาทิตย์ทรงกลม”
(พี่เอ้เคยบอกว่ามันก็เปรียบเสมือนสุริยะคราสนั่นเอง)
“...ศรมุกดา ราศีกาญจนา...อัญมณีประจำตัว...คันศรครึ่งท่อนที่ทำจากมุกดาหารหมอกมัวประดุจดังหมอกน้ำค้างในยามเช้า”
“ศรบุษราคัม วิษณุมนตรี...คันศรครึ่งท่อนทำจากพลอยบุษราคัมสีเหลืองทองหรือที่เขาเรียกกันว่าบุษย์น้ำทองนั่นแหละ”
(หมายความว่าอัญมณีของทั้งสองคนนี้สามารถเอามาต่อกันเป็นคันศรที่สมบูรณ์ได้ไงล่ะคะ)
“เอ่อ--...เอกคเชนทร์ วิษณุมนตรี...อัญมณีประจำตัวผมคือ...ช้างชูงวงที่ทำมาจากแพลตตินั่มครับ”
(กรี๊ด!!!...เท่มากๆแต่ถ้าเอาคล้องคอนานๆก็มีเมื่อยเหมือนกันนะเพราะมันหนักไม่เบาเชียว)
“ตาหลานฝนแล้วจ้ะ”
“เอ๋?...ค่ะๆๆ...หยาดฝน เทวะกรนันท์...อัญมณีประจำตัวคือแก้วคริสตัลรูปหยดน้ำ...จะห้อยคอหรือเป็นต่างหูก็ได้ค่ะ”
“ใครถามกันน่ะ?...หนูชื่อศรโกเมน วิษณุมนตรี...อัญมณีประจำตัวคือเข็มยาวหนึ่งคืบที่ทำมาจากโกเมนสีนิลกาฬ...ฮึย~~...ไม่อยากจะเอามาโชว์นักหรอก”
(ที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นเพราะอัญมณีของยัยตัวเล็กจะมีความพิเศษกว่าของคนอื่นคือมันสามารถใช้เป็นอาวุธลับเล่นงานศัตรูได้)
“ทั้งสี่คนเอามาให้แม่หน่อยซิ”
...ป้าเอ็มรับอัญมณีของลูกสาวทั้งสี่มาก่อนจะเริ่มประกอบด้วยการเอาปลายเข็มของเจ้าป้อมใส่เข้าไปในรูลูกศรของพี่เซคจากนั้นเอาคันศรของพี่ม่อนกับพี่อ๋อมมาต่อกัน(มีสลักยึดกันหลุด)แต่เท่านี้ยังไม่สมบูรณ์หรอกถ้าขาดหางลูกศรสีเขียวที่ทำจากมรกตของป้าเอ็ม...
“นี่แหละจ้ะพ่อบอล...สัญลักษณ์ที่แท้จริงของแม่ลูกห้าศร”
“ผมเพิ่งจะได้เห็นกับตาก็วันนี้เอง...โชคดีจริงๆเลยครับ”
“อ่ะๆๆ...มาเริ่มกันได้แล้วค่ะ...หนูหิว”
“แต่ลูกเซคห้ามกินเหล้าเพราะวันนี้เป็นหมอสะแตนบาย...อะ...เอาไวน์มาด้วยเรอะ?”
“ค่า!!...หนูไม่ดื่มมากหรอก”
(ทำนิ้วประกอบด้วยว่าขอแค่ติ๊ดเดียวเอง)
“จริงๆเลยนะ--...ไม่แหกกฎก็ไม่ใช่ลูกสาวฉันใช่ไหมเนี่ย?”
“กระผมตักให้ท่านพี่สุรีย์พรรณนะขอรับ”
“ขอบใจจ้ะ”
(อยู่กับพี่น้องหลายคนแต่พี่เอ้ก็ยังเลือกที่จะเอาใจพี่แคทก่อนใครเหมือนเดิม)
“พี่ม่อนจะทานอะไรครับ...ถ้าไม่ถึงเดี๋ยวผมหยิบให้”
“...ขอบคุณแต่เราหยิบเองได้...มิต้องรบกวนเจ้าดอก”
“เฮอะ!!...ที่จริงยัยนี่ไม่ต้องกินอะไรแต่แค่นั่งมองเฉยๆก็อิ่มแล้ว”
“หลานอ๋อม”
“แหม่~~...น้านี่ก็คอยเบรคฉันซะจริงๆ”
“พี่ฝนอย่าเอาปลาทอดราดพริกไปกินคนเดียว...แบ่งให้หนูมั่ง!!
“งั้นยัยตัวเล็กเอาหัวปลากับก้างไป”
“ดี~~...ต้มยำหัวปลีกระดูกหมูนี่ก็เสร็จหนูล่ะกัน!!
“อ๋าอย่านะ!!!...พี่อุตส่าห์จ้องมาแต่แรก”)
...หนูคิดว่าครั้งนี้มันพิเศษกว่างานเลี้ยงปลายปีหลายเท่า...อบอุ่นและเป็นกันเองแม้จะมีการพูดเหน็บกันอยู่บ้างแต่หนูชอบบรรยากาศที่เฮฮาเช่นนี้กับอยากให้มีอีกจังเลยนะ...ใช่!!...มันสมควรจะพูดแบบนั้นได้เต็มปากถ้าพี่เซคไม่เปิดประเด็นนี้ขึ้นมาหลังจากที่สมาชิกในครอบครัวร่วมกันถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกซึ่งจะอัดรูปใส่กรอบบานใหญ่ยิ่งโดยเฉพาะคุณตาที่ย้ำนักย้ำหนาว่าอยากเห็นให้ได้...
(“น้องแคท”
“คะ?”
“เธอน่าจะไปเป็นตำรวจนะ...พี่รู้สึกเสียดายความสามารถในการสังเกตพฤติกรรมของคนอื่นน่ะ...มันยอดเยี่ยมมากเลย”
...นั่นสินะคะ”
“พี่เชื่อว่าแคทจะมีอนาคตที่สดใสแน่ๆและก็เป็นประโยชน์ต่อตระกูลของเรามากทีเดียวส่วนน้องฝน...”
“หือ?”
“ฝีมือทำอาหารของฝนก็สามารถไปเป็นเชฟในภัตตาคารได้สบายๆ”
“โอ้!!...หนูยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“อย่าถ่อมตัวเลย...ฝนเก่งขนาดไหนพี่รู้ดีแล้วถ้าคิดจะเปิดร้านอาหารเองก็ยังไหว...นั่นเป็นความฝันของน้องมาตลอดเลยไม่ใช่เหรอ?”
...ค่ะ...การได้เปิดกิจการร้านขายอาหารเป็นความฝันของหนูมาตลอดตั้งแต่สมัยเด็กแต่มันก็ยังมีความฝันอีกอย่างที่ “ซ่อน” อยู่ในเบื้องลึกของหัวใจนั่นคือการได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนที่ตัวเองรักและเขาผู้นั้นก็คือบอล...
“ม่อนเองก็ทำขนมเก่งและมีร้านเบเกอรี่อยู่แล้ว...พี่จึงไม่มีอะไรต้องห่วง”
“แม่ก็ดีใจที่ลูกม่อนสามารถหาเงินเลี้ยงตัวเองได้แต่เงินเก็บในบัญชีน่ะอย่าถอนออกมาซื้อพวกโดราเอม่อนมากนัก”
“เจ้าค่ะ”
“วันนี้เธอบ้าน้ำลายอย่างไม่น่าเชื่อว่ะศรเพทาย?”
“เปล่านี่...ฉันก็แค่พูดถึงเส้นทางในอนาคตของพวกเราทุกคน...ว่าไปเธอกับน้องป้อมก็หาเงินเลี้ยงตัวเองได้เหมือนกัน”
“ฮึ!
“อ๋อมทำอะไรเหรอ?”
“เอกคเชนทร์...นี่แกไม่รู้หรอกเรอะว่าอ๋อมมีความสามารถด้านงานช่างก่อสร้างส่วนน้องป้อมก็มีความรู้ในศาสตร์การแพทย์แผนโบราณ?...เรื่องการฝังเข็มหรือใช้ยาสมุนไพรนับว่าเข้าขั้นทีเดียว”
(ฟังถึงตรงนี้ชักจะไม่ค่อยเข้าทีซะแล้ว)
“น้องเอ้ก็มีกิจการร้านหนังสือในตัวเมืองอุตรดิตถ์และถ้าความมั่นคงของวิษณุมนตรีมีฉันอยู่เบื้องหน้าเอ้ก็เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง”
“ศรเพทาย...อยากจะพูดอะไรก็พูดออกมาไม่ต้องอ้อมค้อม!!!
“หนูเริ่มไม่สบอารมณ์ซะแล้ว”
“แหม~~...พี่น้องเสือสาวก็ใจเย็นๆก่อนซี่!!...ฉันไม่ได้หาเรื่องเธอแต่อยากจะถามอะไรเอกคเชนทร์สักหน่อย”
“ถามผม?”
(เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วย!!!...นี่คือหลุมพรางที่แม้จะมองเห็นตรงหน้าแต่ก็ต้องตกลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้)
“ถ้าแกตอบเคลียร์และทุกคนในที่นี้หมดข้อสงสัย...ฉันยินดีจะสนับสนุนแกขึ้นเป็นนายใหญ่ของวิษณุมนตรีก็ได้”
(อะ...อะไรนะ!?...ง่ายดายมากๆ)
“นี่พี่เซคล้อผมเล่นอยู่ใช่มั้ยครับ?”
“ต่อหน้าคุณแม่กับคุณน้าฉันไม่กล้าล้อเล่นหรอกและหากแกตอบได้ก็จะไม่มีใครขัดขวางหรือโต้แย้งใดๆอีกเพราะการตัดสินใจของฉันนั้นรวมของม่อน,แคทและก็เอ้เข้าไปด้วยส่วนฝน,อ๋อมและน้องป้อมคงไม่ต้องพูดซ้ำล่ะมั้ง?”
“ท่านพี่!
“ใจเย็นก่อน”
...จำไม่ได้แล้วว่าฝนเปลี่ยนใจมาเข้าข้างบอลตอนไหนและพี่อ๋อมกับเจ้าป้อมก็คงอยู่ฝ่ายนี้มาตั้งแต่ต้น...สี่คนรึ?...ยัง...ยังไม่พอเพราะอย่างน้อยก็จะต้องได้อีกหนึ่งเสียงให้รวมกันเป็นห้า...พี่แคทกับพี่ม่อนนั้นหมดหวังแน่นอนแต่พี่เอ้ยังห้าสิบๆ(มั้ง?)นะ...
(แต่หากโชคดีบอลตอบได้ถูกใจพี่เซคหนทางที่สดใสก็จะเปิดขึ้น...ไม่ๆ...มันคงไม่ง่ายดายขนาดนั้น!!!)
“น่าสนุกดีนิ!!
“พี่...ป้อมว่ามันมีอะไรแปลกๆ”
“แต่ถ้าไม่รู้แล้วจะรับมือยังไงล่ะ?”
“เชิญพี่เซคถามมาได้เลยครับ”
“คำถามคือ...แกจะทำอะไรที่เป็นคุณประโยชน์ต่อวิษณุมนตรีได้บ้าง?”
“.................................................”
“แกวางแผนชีวิตไว้หรือยังว่าหลังเรียนจบจะทำอะไร?...อยากเป็นอะไร?...ประกอบอาชีพอะไร?...ครั้งนี้จริงจังนะและฉันอยากรู้จริงๆไม่เสแสร้ง”
(อือ--...คำถามนี้จะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก)
“บอลยังเรียนอยู่จะตอบได้ยังไงเล่า?”
“ใช่ค่ะ...อนาคตมันเปลี่ยนแปลงกันได้เสมอ”
“อ๋อม,ป้อม...ฉันตั้งเป้าที่จะเป็นหมอเมื่ออายุ 5 ขวบนะ”
“คนเรามันไม่เหมือนกันนี่หว่า!!
“อย่างเช่นเธอก็เป็นงานช่างแทบทุกอย่างเมื่อตอนอายุ 13 ปีส่วนน้องป้อม 10 ขวบก็เริ่มออกไปรักษาคนนอกโยนกจัตุรัส...ใช่--...คนเราไม่เหมือนกันแต่อย่างน้อยก็ต้องพอจะรับรู้ว่าตัวเองมีความถนัดอะไร?...จุดเด่นอะไรและจุดด้อยที่ตรงไหนไม่ใช่หรือ?”
“ลูกเซค...แม่ว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะถามพ่อบอลในเวลานี้นะ”
“ไม่เร็วไปหรอกค่ะ...วิษณุมนตรีน่ะไม่ใช่มีแค่พวกเราที่นั่งอยู่ที่นี่แต่ยังมีครอบครัวอื่นที่มาพึ่งพารวมทั้งมีธุรกิจการค้าห้างร้านต่างๆอีกมาก...ถ้าคนที่เป็นนายใหญ่ไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะจัดการบริหารให้เจริญรุ่งเรืองได้ตระกูลของเราก็จะค่อยๆนับถอยหลังเข้าสู่ความเสื่อม”
“ศรเพทาย...เธอพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกต้องนะ!!...นายใหญ่ทำทุกอย่างคนเดียวซะเมื่อไหร่กันล่ะ?...พวกเรานั่นแหละที่จะต้องคอยให้ความช่วยเหลือ”
“ฝนเห็นด้วยกับพี่อ๋อมค่ะ”
“ป้อมด้วย”
“นั่นมันก็ใช่แต่นายใหญ่ก็ต้องมีความรู้กับบารมีในระดับหนึ่งเช่นกัน...อ๋อมเอ๊ย!!...หัวหน้าที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักอย่างแล้วลูกน้องที่ไหนจะเคารพเชื่อฟัง?...จะให้ฉันยอมรับน่ะไม่ได้ยากเย็นเลยก็แค่แสดงความสามารถออกมาให้เห็นสิ”
“ท่านพี่กล่าวถูกแล้วเจ้าค่ะ”
“...จุดนี้แคทเห็นด้วยกับพี่เซค”
“กระผมก็เช่นกัน...มิจำเป็นจะต้องเหนือกว่าผู้อื่นไปเสียทุกอย่างดอกแค่มีจุดเด่นที่แตกต่างฤาความรู้ที่เอามาใช้เป็นประโยชน์ต่อความก้าวหน้าของตระกูลก็เพียงพอแล้ว”
“สรุปคือคนที่ไม่มีประโยชน์วิษณุมนตรีนั้นไม่ต้องการและก็ใช้ชีวิตตามแต่ผู้ที่เก่งกว่าขีดเส้นกำหนดไว้เท่านั้น...หนูขอตัวค่ะ”
“หลานเซคจะกลับแล้วหรือ”
“ค่ะน้า...ที่แผนกโทรตามหนูเมื่อกี้”
“น้องไปด้วยเจ้าค่ะ”
“เชิญตามสบายนะทุกคน...วันนี้ฉันสนุกมากเลยล่ะ”)
...นี่แหละคือสาเหตุที่บอลเอาแต่เงียบกับมีสีหน้าเคร่งเครียดแม้กระทั่งตอนไปเรียน...หนูสังเกตว่าเขาไม่ค่อยจะร่าเริงเลยแม้จะอยู่กับเพื่อนฝูงแถมขาก็ยังมาเป็นแบบนี้ด้วย...วันก่อนที่พี่อ๋อมกับน้องป้อมยอมกลับโยนกจัตุรัส(เพราะคุณยายโทรตามจี้ทุกวัน)ก็ได้มาพูดคุยอย่างเปิดอกกับหนู...
(“ยัยแอบจิตชอบโนบรา...มันจงใจหักหน้าบอลชัดๆ!!!
“ใช่ค่ะ!!...ต่อหน้าแม่กับน้านีย์ด้วย...พี่เซคเนี่ยนิสัยน่ารังเกียจจริงๆ”
“แต่ก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผลซะทีเดียวนะคะ”
“หยาดฝน...เธอก็เห็นด้วยหรือไง?”
“ไม่ทั้งหมดหรอกค่ะแต่บอลจะต้องมีคำตอบที่พี่เซคยอมรับได้”
“ช่างหัวมันสิ!!!...แค่มีเราสามคนอยู่ข้างบอลและถ้าดึงเจ้าเอ้มาเป็นพวกได้ก็สบายแล้ว”
“อื้อ!!...รวมพี่ชายไปด้วยก็จะมีห้าเสียง...ชนะเห็นๆ”
“คิดง่ายไปหน่อยหรือเปล่า?”
“ง่ายตรงไหนก็กติกากำหนดไว้แบบนั้นนี่คะ?...พี่ชายออกเสียงให้ตัวเองได้และถ้ามีอีกอย่างน้อยสี่เสียงก็จะสามารถขึ้นเป็นนายใหญ่รุ่นที่สี่ของวิษณุมนตรีเพราะชนะเสียงข้างมาก”
...จริงอยู่ที่ฝ่ายใดมีถึงห้าเสียงคือผู้ชนะแต่ชื่อชั้นอย่างพี่เซคไม่ใช่ใครก็จะรับมือหรือตามทันได้ง่ายๆ...ขณะที่เรากำลังคิดอยู่นี่เธอก็อาจจะวางแผนไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้วไม่รู้และรอยยิ้มกับแววตาของเจ้าหล่อนในเย็นวันนั้นก็ไม่สามารถมองข้ามได้เลย...
(พี่เซคไม่...โกรธฝนเหรอคะ?”
ไม่เลยจ้ะเพราะต่อให้น้องฝนเปลี่ยนใจไปเข้าข้างเจ้าจระเข้น้ำเค็มมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมหรอก
(แทนที่จะโกรธเรากลับยิ้มให้พลางยกแก้วไวน์ดื่มอย่างอารมณ์ดี...พี่เซคจะต้องมีอุบายบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ!?)
“เอ่อ--...แล้วเราจะดึงพี่เอ้มาได้ยังไง?”
“ฮึม!!...มันต้องฉันเว้ย~~
“พี่อ๋อมน่ะหรือ?”
“นอกจากจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกันเจ้าเอ้ก็ยังเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของฉันด้วย...ถ้าขอร้องอย่างจริงจังยังไงมันก็ต้องช่วย”
“ฉะนั้นไม่ต้องไปสนใจพี่เซคหรือลิ่วล้ออย่างพี่ม่อนกับพี่แคท”
(ละ...ลิ่วล้อเชียวเรอะ?...ยัยตัวกะเปี๊ยกนี่!!)
“สำหรับยัยศรมุกดา...ก่อนที่จะกลับน่ะฉันก็ขู่มันไปดอกนึง”
“ฝนก็ได้ยินเหมือนกัน”
(จันทรกานต์ของเธอนับว่าน่ากลัวแต่เขี้ยวพยัคฆ์ของฉันก็ไม่ใช่จะมาดูถูกกันได้...อย่าลำพองให้มาก!!!
หึ!!...เธอต้องการจะบอกอะไรเราอย่างนั้นหรือ?”
ฉันจะบอกว่าฉันนี่แหละจะเป็นคนปกป้องบอลจากผู้หญิงโรคจิตอย่างพี่ของเธอไง...ศรมุกดา!!!)
“หยาดฝน...ดังนั้นฉันว่าเราควรสามัคคีกันดีกว่าจะมัวมาแก่งแย่งกันเองนะ”
“เพราะไหนๆเราสามคนต่างก็หมายปองพี่ชายและประกาศตัวชัดเจนว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับพี่เซค”
“ก็เป็นความคิดที่ไม่เลว”
“เธอกับพวกฉันร่วมแรงกันก็คงพอจะรับมือยัยสองซกมกแอบจิตได้หรอกน่า...ฝากเธอดูแลบอลด้วย”
“ค่ะ”
“พี่ฝน...ถึงหนูไม่ค่อยจะชอบแต่ก็ยังนึกวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ไม่ออก...อย่าปล่อยให้พี่เซคกับพี่ม่อนทำอะไรตามอำเภอใจได้นะคะ”
“รู้แล้ว”)
...หมายความว่าตั้งแต่บัดนี้ไปฝนต้องทำใจยอมรับสภาพว่าอนาคตของบอลจะมีพี่อ๋อมกับเจ้าป้อมอยู่เคียงข้างเช่นเดียวกัน...ไม่ง่าย...มันไม่ง่ายที่จะทำใจยอมรับได้เลยแต่การรวมตัวกันไว้เพื่อเป็นกำลังสนับสนุนบอลก็นับว่าสำคัญมากทีเดียว...
(เราจะมองเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวไม่ได้แล้วสินะ...อื๋อ?)
“อีกสองวันมีนจะกลับโยนกประจิมแลฝันจะมาแทนนะเจ้าคะ”
“ความจริงฉันดูแลตัวเองได้ไม่ต้องลำบากพวกเธอเลย”
“พวกเรามิอาจขัดคำสั่งของคุณสุริยาวรรณได้เจ้าค่ะ...ขอให้คุณเอกคเชนทร์โปรดเห็นใจด้วย”
“เฮ้อ!!...เมื่อพี่เอ้เป็นคนชนะในการจับสลากและทำให้ทุกคนหยุดทะเลาะกันได้ฉันก็ไม่มีอะไรจะเถียง”
...นึกขึ้นได้ทีไรก็สุดแสนจะเจ็บกระดองใจที่เย็นวันนั้นโชคของฝนไม่ดีเลยเพราะหากมือดีกว่านี้มีนก็ไม่จำเป็นจะต้องมาที่นี่หรอก...
(“ท่านพี่ศรเพทายและน้องนางศรมุกดา...อย่าเพิ่งกลับขอรับ”
“มีอะไรเหรอ?”
“ทำไมหรือเจ้าคะ?”
“เราจะหาผู้ที่มาปรนนิบัติน้องเอกคเชนทร์โดยเฉพาะเวลาอาบน้ำน่ะขอรับ...จะใช้วิธีจับสลาก”
“ปรนนิบัติเจ้าจระเข้น้ำเค็มนั่น!?
“อาบน้ำให้เขา!!
“ว้าก!!!...แล้วถ้าพี่จับโดนขึ้นมาจะว่าไงเล่า?...ไม่สิ!!...พี่ต้องทำงานไม่มีเวลามาทำแบบนั้นกับไอ้เคี่ยมนี่หรอกนะ”
“เหตุใดท่านพี่สุริยาวรรณจะต้องเอาน้องไปข้องเกี่ยวด้วย?”
“เพื่อความยุติธรรมไงล่ะขอรับ”
“ก็ปล่อยให้คนที่อยากทำไปตกลงกันเองซี่!!...อึ๋ย~~...เกิดฉันจับได้ขึ้นมาล่ะก็”
(พี่เซคดูจะกลัวมากแฮะสอดส่ายสายตาทำหน้าเลิ่กลั่กมองคนนั้นทีคนนี้ที!?...พี่น่ะไม่อยากทำแต่หนูพร้อมเสมอเลยนะจะบอกให้!!!)
“หนูทำใจยอมรับไม่ได้แน่ๆถ้าเป็นพี่เซคหรือพี่ม่อน...โธ่เอ๊ย!!
“แม่ว่าวิธีนี้ก็เข้าท่าอยู่นะจ๊ะ...สู้หน่อยสิ!!...ไม่แน่อาจจะเป็นลูกป้อมก็ได้”
“เอ้...แน่ใจว่าแกไม่มีลูกเล่นแอบแฝง?”
“กระผมจะเล่นมิซื่อเช่นนั้นไปเพื่ออะไรขอรับ?”
“ก็จะไปรู้แกเรอะ?”
“น้าเป็นคนคิดวิธีนี้เองก็อย่าวุ่นวายนักเลย”
“เอ่อ--...ว่าแต่ทำไมไม้ถึงมีเจ็ดอันล่ะครับ”
“กระผมก็จะจับฉลากด้วยขอรับ”
“เฮือก!!!!
(ตาเหลือกอ้าปากค้างไปอีกคนแล้วพ่อหนุ่มยอดชายสุดที่รักของเรา...สาธุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย!!!...ขอให้เราจับได้ทีเถ้อ~~)
“เอ้...คนที่จับไม้ที่ปลายไม่มีแต้มสีแดงใช่ไหม?”
“ขอรับท่านพี่สุรีย์พรรณ...ท่านแม่จะถือแก้วไปอยู่ตรงหน้าทว่าทุกคนต้องหลับตาแล้วหยิบไม้ขึ้นมาคนละอันนะขอรับ”
“อ้าว!?...ยัยศรมุกดามันหลับตาอยู่งั้นจะต่างกันตรงไหน?”
“จริงด้วย!!...พี่ม่อนหลับตาก็จริงแต่มองเห็นนะคะ”
“เราจะหันหน้าไปทางอื่น...เรื่องมากเสียจริง”
“ฮึ!!
“เชิญท่านพี่ศรมรกตกับหลานบอลออกไปก่อนเจ้าค่ะ”
“หา!?...ไหงมันดูลึกลับนัก?”
“นั่นสิครับ”
“เอาเถิดเจ้าค่ะ”
“ก็ได้ๆ...พ่อบอลไปกัน”
“ครับ”
(แม้แต่สาวใช้สามคนของบ้านพี่เซคก็ยังต้องออกไปให้หมดแบบนี้มันชักจะยังไงๆอยู่นา!?...เราคิดมากไปหรือเปล่า?)
“หลานเซคจับเป็นคนแรก”
“อะ...อึ๊ก!!!
“สัมผัสไม้ได้แล้วก็หยิบขึ้นมาเพียงอันเดียวแลอย่าเพิ่งลืมตาจนกว่าจะจับครบทุกคนด้วยนะจ๊ะ...หลานอ๋อม--”
“ดันรู้อีกวุ้ย!!...เออๆ...ฉันไม่แอบลืมตาแล้ว”
“หลานแคท”
“ค่ะ”
“ลูกเอ้”
“ขอรับ”
“หลานม่อน”
“...เจ้าค่ะ”
“หลานอ๋อม”
“จะต้องเป็นฉันๆ”
“หลานฝน”
(ได้โปรดเมตตาลูกช้างอีกสักครั้งเถอะ~~)
“หลานป้อม”
“ขอให้เป็นหนูๆ”
(ได้ยินเสียงยัยตัวเล็กพึมพำๆตั้งแต่ต้นจนถึงตาของตัวเองเล้ย!?)
“ทีนี้ทุกคนลืมตาได้จ้ะ”
“หวา!!!...แดงแจ๊ด”
“พี่ฝนชวดซะแล้ว...ฮิๆๆ”
“ยัยตัวกะเปี๊ยกทำปากดี!!...ก็เหมือนกันไม่ใช่เรอะ?”
“ห๊ะ?...ฮึ...ฮือ~~...บ้า...บ้าที่สุด!!!...พี่อ๋อมว่าไงคะ?”
“กะ...กรอด!!!...น้าได้โปรด...ฉันขอจับใหม่อีกครั้ง!!
“มิได้!!...ผลออกมาแล้วจะเปลี่ยนได้อย่างไร?”
“โธ่เว้ย!!!
“ยอมรับผลที่ออกมาซะเถิดแลต่อไปนี้จงเลิกทะเลาะกัน”
“อือ~~
“ป้อมเจ็บใจที่สุดเลย~~
“พี่เห็นด้วยว่ะ!!
“กรี๊ดดดดดด~~...สะใจจริงโว้ยไม่ใช่ฉัน!!!!...ฮะๆๆๆๆๆๆ...ยอมรับๆๆ...มันขาวสะอาดที่สุดแล้วค่ะคุณน้า”
(พี่เซคร้องตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความโล่งอกจนป้าเอ็มกับบอลเข้ามาดู...แหม่~~...ไม่อยากเป็นผู้โชคดีถึงขนาดนั้นเชียว?)
“ป้าอยากรู้จังเลยว่าเป็นใครกันล่ะจ๊ะ?”
“พี่แคทเหรอ?”
“ไม่ใช่”
“งั้นก็...”
“มิใช่เราดอก”
“ถ้า...ถ้าไม่ใช่ฝน,อ๋อม,น้องป้อม,พี่เซค,พี่ม่อน,พี่แคท...งั้นก็...เป็น...”
“กระผมขอรับ”
!!!!!!!!”)
...ฝนเชื่อว่าเวลานั้นถ้าบอลไม่มีไม้ค้ำจะต้องหงายท้องล้มตึงไปแล้วอย่างแน่นอน(มีอาการเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างเลยละขอบอก!!!)แต่พี่เอ้ไม่ใช่คนที่จะอาบน้ำให้หรอกเพราะช่วงสายๆของวันต่อมาสาวใช้จากหมู่บ้านโยนกประจิมชื่อ “มีน” ก็เดินทางมาถึง...เธอจะช่วยฝนดูแลงานบ้านกับปรนนิบัติบอลเป็นพิเศษ...
(กรอด!!!...จะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแหงๆเพราะมันดูประจวบเหมาะกันพอดีเป๊ะแต่ไม่ว่าเราหรือพี่อ๋อมก็ไม่กล้าโต้แย้งอะไรมากเพราะเกรงใจน้านีย์)
“ทีแรกฉันก็นึกว่าพี่เอ้ซะอีก...ตอนนั้นตกใจแทบจะล้มทั้งยืนเชียวล่ะ”
“หนูก็แทบจะล้มทั้งยืนเช่นกันเจ้าค่ะเมื่อคุณเอ้โทรไปบอก”
(คุยและก็หัวเราะท่าทางสนุกสนานเชียวนะ~~...ฮึ่ม!!!)
“ว่าแต่เรื่องเรียนของเธอ?”
“หนูเรียนศึกษาทางไกลเจ้าค่ะ...หาได้มีปัญหาแต่อย่างใด...อุ๊ย!!
“มี...มีอะไร?”
(!?)
“อ่า--...ผ้าถุงกับกางเกงในของหนูเปียกน้ำเสียแล้ว...คง...จะต้องถอดออกเจ้าค่ะ”
“เฮ่ย!?...งั้นเธอก็จะ...”
“หนูจะผลัดนุ่งผ้าเช็ดตัวเจ้าค่ะ”
“คะ...ค่อยยังชั่วหน่อย...นึกว่า...”
“แต่มีนจะเปลือยหมดก็ได้นะเจ้าคะ”
“ไม่ๆๆๆ...ฉันแค่พูดเฉยๆ”
...อี~~...อีตาบ้า!!!...ขนาดขาเดี้ยงอยู่แท้ๆก็ยังจะแสดงนิสัยเพลย์บอยออกมาได้อีก...โอ๊ย!!...อยากเข้าไปแทนที่หนูมีนเหลือเกินและมันจะไม่จบแค่อาบน้ำเฉยๆแน่เหมือนกับวันที่กลับจากไปดูหนังนั่นไง!!!!...ย้อนกลับในวันแห่งความทรงจำอันแสนหอมหวานที่ฝนกับบอลไปดูหนังกันสองต่อสองในห้างชื่อดังและมีพี่แคทแอบตามไปเฝ้ามอง...หึ!!...อะไรจะไม่ไว้ใจกันถึงขนาดน้าน~~...พอหนังฉายจบพวกเราก็พากันกลับบ้านโดยที่ไม่เถลไถลไปที่อื่นสักหน่อย...
(“พี่แคทไม่อยู่บ้านแฮะ?”
“อ่า--...อีกเดี๋ยวก็คงจะกลับน่ะ...นั่งรถมาร้อนชะมัดเลย”
“ฉันขึ้นไปเล่นเน็ตสักแป๊บดีกว่า”
“แน่ะ!!...อย่ามัวแต่เปิดดูภาพโป๊นะ”
“จะ...จะบ้าเหรอ?”
“ขึ้นชื่อว่าผู้ชายยังไงก็ต้องมีกันมั่งแหละแต่สำหรับบอลไม่ต้องไปดูในคอมร้อก~~...เคยบอกไม่ใช่หรือว่าแค่มาขอฝนๆก็จะเปิดให้ดู”
“อึ๊!!...เธอนี่นับวันยิ่งแก่แดดจริงๆ”
“ฮิๆๆ...โอ้ใช่!?...กับข้าวเย็นนี้ว่าจะทำไข่เจียวหอยลายนี่นาแต่ช่างมันก่อน...เอาไว้ใกล้เวลาค่อยทอดกินร้อนๆดีกว่าเยอะ”
(หูย!!...ซ้อนท้ายรถตากแดดร้อนจนทนไม่ไหวแล้ว)
...เมื่อตัดสินใจได้ดังนี้ฝนจึงเปลื้องเสื้อผ้าออกมันซะตรงหน้าห้องน้ำนี่เลยและขณะที่มือจับลูกบิดประตูหัวสมองก็บังเกิดความคิดบางอย่างขึ้นโดยฉับพลัน...
“เอ๊ะ!?...ก็มีเรากับบอลอยู่บ้านแค่สองคนนี่นา”
(ไม่ต้องเสียเวลาและเสียเงินไปเข้าโรงแรมหรือม่านรูด)
“แต่ปัญหาคือพี่แคทจะกลับมาถึงตอนไหนล่ะ?”
(ถ้าภายในครึ่งชั่วโมงนี้ก็ยังพอจะทำอะไรกันได้บ้างไม่ใช่หรือ?)
“อุ!!...แค่นึกหัวใจก็เต้นแรงไม่เป็นส่ำเลย”
(ตื่นเต้นมากนะเนี่ย...ให้ความรู้สึกเหมือนเด็กที่แอบทำเรื่องไม่ดีลับหลังผู้ใหญ่หรือโจรที่กำลังลอบเข้าไปขโมยของในบ้านคนอื่นเป็นครั้งแรก)
“ดีละ!!!...โอกาสงามๆแบบนี้จะปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆได้ยังไง?”
(และต่อให้เจ๊กลับมามันก็สายไปแล้ว!!!!)
“บอล”
“หือ?”
“ช่วยหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้หน่อยสิ”
“ทำไมไม่มาเอาเองล่ะ?”
“เค้าลืม...กำลังอยู่ในห้องน้ำ”
“อ่ะๆๆ...รอเดี๋ยว”
“................................................”
“บ๊ะเธอนี่!!...ถอดเสื้อผ้าทิ้งเรี่ยราดแบบนี้พี่แคทรู้ล่ะโดนดุแน่...อึ๋ย!!!
(บอลชะงักเมื่อเห็นว่าชิ้นผ้าผืนน้อยที่มือของเขากำลังจะเอื้อมจับคือกางเกงชั้นในแบบผูกเชือกสีเขียวอ่อนตัวโปรดของเรา...ฮิๆ...ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่เชียว...น่ารักจัง)
“นะ...นี่...ผ้าของเธอ...โอ๊ะ!?
“เดี๋ยวสิจ๊ะ...ให้แล้วจะไปเฉยๆรึ?”
“ฝน”
“ขี่รถมาอากาศร้อนจะตาย...เข้ามาอาบน้ำด้วยกันเถอะ”
“แต่ว่า...พี่แคท...”
“ต่อให้มาถึงตอนนี้ก็หยุดไม่ได้แต่บอลไม่กล้าหรือไงทั้งที่ฝนให้ท่าซะขนาดนี้แล้วนะ?”
“................................................”
...หวะ!!...เชิญชวนมากไปหรือเปล่า?...เราควรจะทำตัวบ๊องแบ๊วกว่านี้อีกสักนิดไม่ใช่มองค้อนตาคมเหมือนสาวไฟแรงสูงในละครทีวี...เผลอแสดงนิสัย “ที่แท้จริง” ออกไปซะได้!!!...
“อะ...เอ่อ--...ฝนก็แค่...คือพี่แคทยังไม่กลับ...มันน่าจะเป็นโอกาสของเราสองคน”
“................................................”
(ความมั่นใจหดวูบ...บอลเงียบไม่พูดอะไรหมายความว่าเขาจะต้องเห็นเราเป็นผู้หญิงไม่ดีแน่เลย!!...จะ...จะทำยังไงดี?...เอ๋?...ประตูห้องน้ำเปิดและบอลก็เข้ามาในสภาพล่อนจ้อน...ว้ายอะไรนั่น!?...ท่อนลำของเขากำลังกระดกหัวหงึกๆเลยอ่ะ!!!!)
“เธอคิดว่าฉันไม่กล้า?...ผิดแล้ว!!...ฉันแค่เดินไปล็อคประตูหน้ากับมัวลอกคราบก็เลยช้า”
“ตัวเองนี่ล่ะก็~~...”
(ที่แท้ก็จะเล่นด้วย...แหม~~...แล้วก็มัวแต่เงียบให้คนอื่นเค้าใจเสียอยู่ได้!!!!)
“นิสัยไม่ดีๆๆ!!!
“ฮะๆ...ก็ทั้งคู่แหละ”
“แต่...แต่ฝน...”
“หืม?”
“รักบอลที่สุดเลยนะ!!!!
...และวิธีที่จะพิสูจน์คำพูดนี้ก็คือ “ยก” เรือนร่างของตัวเองให้ชายอันเป็นที่รักได้เชยชม...บอลสั่งให้ฝนหันหลังกับก้มตัวโดยที่เอามือยันขอบโอ่งน้ำไว้ซึ่งแม้ไม่ต้องมองกระจกฝนก็รู้ว่าหน้าตัวเองนั้นแดงแค่ไหน...อายจังเลย~~...คืนนั้นยังแค่เห็นรางๆแต่วันนี้บอลได้จ้องมองมันอย่างเต็มๆตา...
(บอลกำลังรูดควยจนมันแข็งปั๋งชี้โด่มาที่หีของฝนพลางกระดกหงึกๆกับเริ่มมีน้ำใสๆซึมออกมา...เขาก็คงจะเงี่ยนจนหักห้ามใจไม่ไหวแล้วเหมือนกัน)
“ฮืยยยยยยย...เธอนี่ทำตัวแย่จริงๆ”
“เค้าแย่ยังไงอ่ะ?”
“ก็แทนที่จะไปชอบผู้ชายคนอื่นแต่กลับมายืนแอ่นหีให้พี่ชายตัวเองเย็ดไง!!!
“ไปให้คนอื่นเย็ดน่ะเสียของหมด...ต้องให้พี่ตัวเองแหละดีแล้ว”
“นั่นสิ...ไหน~~...ขอชื่นชมข้างในหีน้องสาวให้ชัดๆหน่อย”
(หัวใจเต้นแรงจนจะหลุดออกข้างนอก...แค่บอลเอานิ้วแหวกแคมแบะออกกว้างเราก็ครางด้วยความกระสันอย่างสุดกลั้นเสียแล้ว)
“โออออออออ”
“สวยมั้ยจ๊ะ?”
“ที่สุดเชียวละ!!
“อ๊า~~...แบะออกกว้างแบบนั้น...น่าอายชะมัด!!!
...ฝนตัวสั่นเทาไปทั้งร่างแต่ก็มีความสุขเกินจะบรรยาย...การได้มีความสัมพันธ์กับคนที่ตนรักนี่เปรียบเสมือนกับได้ขึ้นสวรรค์...คนสมัยก่อนสอนให้ลูกหลานรู้จักหวงแหนพรหมจรรย์ของตัวเองแต่สำหรับฝนนั้น...ไม่รู้สึกเสียดายอีกต่อไป...
“อูยยยยยยยย...คะ...แค่ตัวเองจับก้นเค้าก็ขนลุกเลย...อื้อหืมมมม~~...ยะ...อย่าแหกรูนักสิคะ...ซีดสสสสสสสสสส”
“จะแหกให้กว้างพอเสียบควยเข้าไปได้ไง”
“อาววววววววว~~...ไม่...ไม่นะ!!...อื้มมมมมมมมมมมมม...อะไรอีก?...เอาควยถูตูดฝนนี่นา~~
(ชักจะยืนไม่ไหวล่ะก็บอลเอาท่อนเนื้ออันแข็งแกร่งถูไถบั้นท้ายไปมาตรงนั้นตรงนี้เหมือนแกล้งให้เราทรมานใจเล่นๆ...ทั้งที่รู้...ทั้งที่รู้ว่าเราอยากได้มันแทบจะขาดใจแต่ก็ยัง...คนบ้าคนชีกอ...คิดจะทำให้เรายิ่งรักยิ่งหลงไปถึงขนาดไหน?)
“ซีดสสสสสสสสสส...รีบ...รีบเอาควยยัดเข้าไปสิ...ฝนเงี่ยนแล้วนะ”
“ยังก่อน...ฉันยังอยากเล่นสนุกกับมันต่อ”
“สนุก...สนุกแบบไหน?”
“ก็นิ้วนี่ไง”
“อึ๊ยยยยยยยยยยยย~~
...มือบอลข้างหนึ่งจับก้นแล้วใช้นิ้วโป้งแยงเข้าไปในหีพลางดึงเข้าดึงออก...ให้ตายสิเสียวเป็นบ้าเลย!!!...ตั้งแต่เกิดมาจนช่วยตัวเองครั้งแรกก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะใช้นิ้วโป้งสอดใส่เข้าไปข้างใน...ไม่อยากจะพูดสักเท่าไหร่หรอกนะแต่เรื่องนี้บอลเก่งกว่าฝนหลายเท่านักเพราะประสบการณ์ที่ต่างกัน...บอลใช้นิ้วโป้งแยงหีอยู่ครู่หนึ่งก็เอาออกก่อนจะประคองท่อนลึงค์เข้าใกล้ช่องคลอดของฝน...
“โก่งตูดอีกหน่อยซิ”
“...........................................”
“แยกขาด้วย”
“จะใส่แล้วเหรอ?”
“มัวลีลามากไปกว่านี้ไม่ได้...เวลาไม่พอ
“ฝนเข้าใจดีจ้ะ...ที่จริงก็อยากให้บอลเลียหีกับอยากจะอมควยแต่เวลามันจำกัด...มาเถอะ...ฝนพร้อมจะเป็นเมียของบอลแล้ว”
“งั้น...เอาล่ะนะ”
“มาเลย”
(มือซ้ายจับขอบโอ่งส่วนมือขวาแบะแคมหีอ้าออกเพื่อเปิดทาง...ตอนนี้แม้พี่แคทหรือใครก็ตามจะมาพบก็ไม่สนใจทั้งนั้น!!!!)
“โอออออ...โอออออ...เธอหนีบขาอย่างนี้...รูหียิ่งคับ...กรอดดดดดด”
“อ้า~~...เอาเลยผัวขา!!...ตอนนี้แหละ...ไม่...ไม่มีใครมาขวางเราแล้ววววววว...อูยยยยยยยยย”
“ฉะ...ฉันจะไปล่ะ...เธอ...เธอเตรียมตัวโดนเย็ดได้เลย!!!
“แหม~~...เค้าเตรียมตัวเป็นเมียของตัวเองมาเกือบสิบปีล่ะจ้า...ฮิๆๆๆๆ...อุ๊ก!!
“กรอดดดดด!!!
“อะไรน่ะ?”
(บอลหลั่งอะไรอุ่นๆออกมา!?)
“อู๊ววววววววววววว!!!!
“หยุดทำไมเล่าเย็ดต่อสิจ๊ะ?...ฝนกำลังเสียวซาบซ่านถึงใจเชียว~~
“คะ...คือ--”
“หรือว่า...”
...ยังไม่ทันที่บอลจะเริ่มขยับบั้นเอวฝนก็รู้สึกได้ว่ามีของเหลวอุ่นๆอยู่ภายในช่องคลอดและมีส่วนหนึ่งที่ไหลย้อยลงมาที่พื้น...ไม่อยากจะเชื่อเลยบอลหนีฝนไปขึ้นสวรรค์คนเดียวเสียแล้ว!!!...นี่ใช่มั้ยที่เขาเรียกกันว่าลมปากอ่าว?...
(ได้ไงอ่ะ!?)
“ขอ...ขอโทษ...มันออกซะได้”
“ทะ...ทำไมเร็วจัง?”
“คือ...ข้างในของเธอมันสุดยอดมากเลย...แค่ยัดควยเข้าไปเฉยๆก็แทบจะทำให้น้ำแตกได้แล้ว”
“.................................................”
“...ขอโทษ”
“ต้องแก้ตัวใหม่อีกครั้งนะคะ...ผัวรักของฝน”
(บอลคงจะกลัวพี่แคทกลับมาก็เลยตื่นเต้นรีบร้อนไปหน่อย...ฝนประคองหัวของเขาให้โน้มเข้าใกล้ก่อนจะประทับจูบเป็นการปลอบขวัญว่า “แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก” จากนั้นเราสองคนก็ออกจากห้องน้ำขึ้นไปทำรักกันต่อในห้องของบอลและยกสองก็ไม่ทำให้ฝนอารมณ์ค้างอีกแล้วถึงแม้ปริมาณน้ำกามจะน้อยกว่ายกแรกแต่คราวนี้เราเสร็จสมเกือบจะพร้อมๆกัน...น่าดีใจที่สุด!!!!)
“เหนียวเหนอะหนะไปหมดฝนขอไปล้างตัวก่อน...หือ?...รู้สึกจะมีคนมาแฮะ”
“พะ...พี่แคทหรือเปล่า?”
“จะไปดูเดี๋ยวนี้ล่ะ”
...สุดท้ายก็เป็นพี่แคทจริงๆที่เอะอะตรงหน้าบ้านแถมคิดจะพังประตูเข้ามาอีกด้วยฝนเห็นท่าไม่ดีเลยรีบไปเปิดให้แต่ก็ยังโดนดีจนได้เพราะเป็นจังหวะเดียวกับที่เจ๊จะใช้ลูกถีบจึงยั้งเท้ากลับไม่ทันแล้วต่อจากนั้นเรื่องราวเป็นยังไงก็คงไม่ต้องบรรยายซ้ำล่ะมั้งคะ?...)
“ฮิ!...แฮะๆๆ”
 “มานั่งน้ำลายยืดตรงนี้ทำไม?”
“อะ...เอ๊อะ!?...ไม่...ไม่มีอะไรนี่คะ”
“ละเมอทั้งที่ยังตื่น?”
“ใช่ซะที่ไหนเล่า!...หือ?”
“?”
“ได้เวลาตกแต่งแล้วนะอย่าปล่อยให้มันแลบออกมาสิจ๊ะ...จ๊าก!!...หนูเจ็บ~~
“ไม่มีอะไรจะพูดจะมองแล้วหรือไงหึ!?”
“เตือนดีๆไม่เห็นจะต้องเขกหัวกันเลย!...เอ--...ไม่น่าใช่...เจ๊นุ่งกางเกงในเป้าเล็กเกินหรือว่าตรงนั้นใหญ่ไปกันแน่?...อ๋าๆๆ...ไม่พูดแล้วๆ...ได้เวลาทำกับข้าวละ!!
...สามสี่วันมานี่พี่แคทกับบอลพูดกันแทบนับคำได้เลย...อา--...ซับซ้อนจริงๆ...บอลคงจะโกรธพี่แคทที่เป็นต้นเหตุทำให้ขาหักส่วนพี่แคทก็โกรธที่บอลมีอะไรกับฝนในวันนั้นแต่มันจะแค่นั้นแน่หรือเปล่า?...ยังมีอะไรที่ลึกซึ้งไปกว่านั้นอีกใช่ไหม?...ก็...สองคนนี้...
(แม้ว่าบอลจะไม่รู้แต่สองคนนี่ก็...)
“จนป่านนี้เจ๊ก็ไม่คิดจะเปลี่ยนใจมาเข้าข้างบอลหรือคะ?”
“พี่พูดอย่างชัดเจนตั้งไปนานแล้ว”
“แต่เวลานี้มันเปลี่ยนไป...ทั้งสองฝ่ายมีสี่เสียงเท่ากันและหากบอลได้เพิ่มอีกเสียงก็จะชนะทันที!!!
“ก็เลยจะมาดึงพี่ไปเป็นเสียงที่ห้า?...อย่าพูดเรื่องอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลย”
“ไม่จริงค่ะ!!!...มันได้เกิดขึ้นแล้วทั้งที่หนูเคยเชื่อมาตลอดว่าไม่มีทางจะเป็นไปได้”
“................................................”
“พี่ต้องไม่ลืมเหตุการณ์ในคืนนั้น”
(“...เธอจะบอกบอลใช่มั้ยว่าแท้จริงแล้วผู้หญิงที่บุกข่มขืนเขาถึงบนเตียงก็คือพี่?”
วางใจได้!!!...ฝนจะไม่ทำอะไรงี่เง่าแบบนั้นเพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
“?”
หนูเข้าใจและเห็นใจว่าพี่ไม่รู้จะไปปลดปล่อยความต้องการทางเพศอันรุนแรงนี้กับใครได้...
พอที!!
และเพราะพี่ไม่ยอมมีแฟนฉะนั้นคนที่พอจะพึ่งพาได้ก็มีแค่บอลเท่านั้น
หยุดพูดเถอะ!!...พี่มีเซ็กส์กับบอลไม่ใช่เพราะความชอบแต่...
นั่นมันมุมมองของพี่คนเดียว)
“แล้วไงจะบอกบอลงั้นหรือ?...เชิญเลย!!...เขาก็อยู่ในห้องนั่นแน่ะ”
“เปล่า!...หนูก็ยังยืนยันเจตนาเดิมว่าไม่คิดจะพูดแต่ที่อยากรู้คือพี่เองก็ไปถึงขั้นนั้นกับเขาแล้วทำไมยังไม่เปลี่ยนใจ?”
“ทั้งสองเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน...พี่บอกไปแล้วว่านั่นมันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบพาไป”
(แค่นั้นจริงๆเหรอ?)
“คำพูดของพี่เซคถูกต้อง...วิษณุมนตรีต้องการผู้นำที่มีความรู้ความสามารถมารับช่วงต่อจากคุณตาแต่ตอนนี้ยังไม่เห็นอะไรที่ว่าจากบอลเลยสักนิด...น้องก็เหมือนกันอย่าเห็นแก่ความสุขส่วนตัวสำคัญกว่าผลประโยชน์ส่วนรวมสิ!!!
“...............................................”
..............................................................................................................................................

“อืออออออออ...อะไร...พี่ยังไม่นอนอีกเหรอ?”
“...............................................”
(จะห้าทุ่มแล้วแต่พี่แคทยังไม่มานอนที่เตียง...เธอนั่งเก้าอี้หันหลังไปทางหน้าต่างห้องพลางถือสมุดโน้ตเล่มเล็กๆ)
“นั่นมันสมุดที่...”
“ใช่...บันทึกชื่อกับประวัติของผู้หญิงที่เคยมีความสัมพันธ์กับบอลไงล่ะ”
“...ข้อมูลในนั้นไม่ทันสมัยแล้วค่ะ”
“โห~~...ต้องเขียนชื่อเธอลงไปด้วยใช่ไหม?”
“เขียนลงไปซะก็ดีและความจริงมันยังตกไปอีกคนหนึ่งด้วย”
“...............................................”
...ผู้หญิงที่ขาดไปไม่ได้อยู่ไกลเลยแต่อยู่ตรงหน้าฝนนี่เอง!!!...ทำไมถึงไม่ยอมรับตรงๆว่าในโรงพยาบาลคืนนั้นไม่ได้ทำลงไปเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น?...พี่สาวที่ฝนรู้จักไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่นขนาดนั้นแม้จะถูก “ตะวันเลือด” ครอบงำก็ตาม...
“ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วพี่แคทก็มาอยู่ฝ่ายหนูเถอะนะ”
“.................................................”
“...พี่แคท?”
“.................................................”
“ไม่จริงน่า!?
(เข้าสู่ภาวะจิตแห่งการ “ตัดขาด” จากโลกภายนอกไปซะแล้ว!!!!...หมายความว่าพี่แคทกำลังจะตัดสินใจอะไรสักอย่างที่ยากลำบากกับสำคัญยิ่งแต่มันจะใช่เรื่องการย้ายข้างหรือเปล่า?)
“ขอให้ใช่ทีเถิดแล้วจะก้มลงกราบงามๆสามครั้งเลยเชียว!!!!
...หนูมองพี่แคทที่นั่งนิ่งไม่ไหวติงร่างกายอยู่ครู่หนึ่งก็ทนไม่ไหวต้องเอนตัวหลับไปก่อนรู้สึกตัวอีกทีก็เจ็ดโมงเช้าและพี่แคทไม่ได้นั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมหรืออยู่ในห้อง...ทีแรกนึกว่าเธอคงจะฝึกฟันดาบไม้ในสวนแต่ออกไปแล้วก็ไม่เห็น...
“หนูมีน...เห็นพี่แคทป่าว?”
“มิเห็นเลยเจ้าค่ะ...มีนเตรียมอาหารเช้าในครัวตลอดมิได้ออกไปไหน”
“อืม--...วันนี้เธอจะกลับโยนกประจิมจริงๆเหรอ?”
“เจ้าค่ะ...ผลัดเปลี่ยนกับฝัน”
“ลำบากแย่นะ...ไหนจะต้องเรียนหนังสืออีก”
“เพราะเป็นคำสั่งของคุณเอ้เจ้าค่ะ”
“ฉันขอถามตรงๆเลยว่าพี่เอ้สั่งให้พวกเธอมาสอดส่องพฤติกรรมของบอลหรือสังเกตการณ์อะไรหรือเปล่า?
(ความจริงจะคอยจับตาดูเงียบๆก็ได้แต่ที่ถามเพราะอยากเห็นว่ามีนจะมีปฏิกิริยายังไง?)
“หาได้มีเรื่องเช่นนั้นเจ้าค่ะ...คุณหนูหยาดฝนโปรดวางใจ”
(ไม่แสดงท่าทางตื่นตระหนกแถมดวงตาก็ยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม...พี่เอ้คงจะไม่ได้สั่งมาอะไรเป็นพิเศษจริงๆ)
“คือฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรนักหรอกแค่ถามเฉยๆน่ะ”
(แล้วเจ๊หายไปไหนของเขาอ่ะหาจนทั่วแล้วนะเนี่ย!!...เอ--...ยังเหลืออีกที่หนึ่งนี่หว่า?)
“จะต้องอยู่ที่ห้องของบอลแน่...อ๊ะ!?
“ผมสมควรจะโกรธไม่ใช่พี่นะ!!
“ฉันต่างหากที่ต้องโกรธเธอ!!
“ที่ขาผมหักก็เพราะพี่แคทนั่นแหละ!!!
“ความจริงเธอน่าจะคอหักไปแล้วถ้าพี่ไม่ช่วย!!!
“งั้นช่วยผมทำไมเล่า?”
“นั่นสิ!!...ปล่อยให้เธอตายๆไปซะถึงจะสาสมกับบาปที่ก่อขึ้น”
“หวา!!!...พอแล้วๆๆๆทั้งสองคนน่ะทำไมมาหาเรื่องทะเลาะกันอีกแล้วล่ะ?...ก็ไหนบอกว่าจะไม่รื้อฟื้นมันอีกไงคะ?”
“ไม่ต้องพูด...น้องนั่นแหละทำตัวดีนัก!!
(อ้าว!?...มาลงที่เราซะอย่างนั้น?)
“อย่ามัวเอ้อระเหย!!...รีบอาบน้ำแต่งตัวจะได้แวะส่งหนูมีนที่ท่ารถก่อนไปเรียน”
“จ๋อยเลยเรา~~...อื๋อ?”
...ทีแรกฝนหวั่นใจว่าแบบนี้หนทางที่วาดหวังไว้คงโดนปิดตายแต่จังหวะที่พี่แคทเดินสวนออกไปก็สังเกตเห็นว่าบริเวณคอของเธอใกล้หัวไหล่มีรอยอะไรสักอย่างซึ่งมันดูคล้ายๆกับรอยริมฝีปาก...เอ๋?...เอ๋?...งั้นมันก็คือรอยจูบไม่ใช่เหรอไง?...
“บอล...เมื่อกี้...”
“ทำไมรึ?”
“...ตัวเอง...คงไม่ได้...”
“ฉันทำอะไรล่ะ?...พี่แคทน่ะเป็นคนผิดแท้ๆแต่ยังมาว่าฉัน...แย่จริง!!!
“โฮ่~~
(ทำเนียน!!)
“?”
“ไม่มีอะไรๆ...เออ!!...บอลอยากรู้จุดเด่นของตัวเองมั้ยฝนจะบอกให้?”
“ขนาดตัวฉันเองยังไม่ค่อยแน่ใจแล้วเธอจะบอกได้ไง?”
“แต่บางทีให้คนอื่นพูดก็จะดีกว่านะจ๊ะ”
“อืม--...งั้นเธอลองบอกมาซิ”
“แฮ่ม!!...จุดเด่นของบอลก็คือ...ตัวตนทุกๆอย่างที่ทำให้ฝนหลงรักจนหมดหัวใจไงล่ะ”
“นะ...นั่นเหรอจุดเด่นของฉัน?”
“จ้า...ไม่ว่าจะนิสัยใจคอการกระทำของบอล...ฝนชอบทุกอย่างเลยละ”
“ฟังแล้วมันดูทะแม่งๆยังไงชอบกลนา--”
“ส่วนจุดด้อยของฝนก็คือหลงรักบอลมาตั้งแต่เด็กอย่างไม่มีเงื่อนไขไงจ๊ะ...ไม่ว่าจะทำยังไงก็หักห้ามความรู้สึกนี้ไม่ได้และนับวันก็ยิ่งเพิ่มทวีมากขึ้น”
“เฮ่ย--...นี่มันก็ยิ่งแปลกไปใหญ่!
“หึๆ...พี่อ๋อมกับเจ้าป้อมจะรู้สึกเหมือนกันหรือเปล่านี่ยังไม่แน่ใจแต่พี่แคท...ไม่...มีอะไรหรอก”
...ร้ายจริงๆทั้งคู่!!!!...เบื้องหน้าทำเป็นทะเลาะแดกดันกันแต่เบื้องหลังกลับตรงกันข้าม...บอลอาจจะน่าหมั่นไส้ที่ทำเป็นแอบเนียนไม่รู้เรื่องแต่พี่แคทนี่แหละที่น่าตีที่สุดเพราะเป็นฝ่ายเข้ามาให้ถูก “จูบ” ถึงใน...ห๊ะ!!!...อะไรกันนั่น?...
“ตัวเอง...”
“?”
(ที่ซอกคอของบอลก็ปรากฏรอยจุมพิตสีชมพูอ่อนซึ่งถ้ามองผ่านๆหรือไม่สังเกตดีๆจะไม่มีทางเห็นและลิปสะติกสีโปรดของพี่แคทก็...)
“...ชมพูอ่อน”
“เธอว่าไงนะ?”
“.................................................”
“ฝน...ชมพูอ่อนอะไร?”
“อ๋า!?...ชะ...ชมพูอ่อน...เอ้อใช่ๆ...วันนี้เค้านุ่งกางเกงในสีชมพูอ่อนน่ะ!!
“เหย!?...แล้วเธอจะมาบอกฉันทำไมเนี่ย?”
“ไม่บอกเฉยๆหรอก...เปิดให้ดูเลยนี่!!!
“พิ...พิลึกจังวุ้ยจู่ๆก็เลิกกระโปรงให้ดู!!...แล้วเธอใส่สีขาวอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
“จริง...จริงด้วยแฮะ”
(“ทั้งสองเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน...พี่บอกไปแล้วว่านั่นมันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบพาไป”)
“อารมณ์ชั่ววูบพาไปอะไร?...โกหกทั้งเพเลยแม่สาว Ice Lady จอมปากแข็ง!!!
!?
.......................................................................................................................................................

...ตัวอย่างในตอนหน้า...ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตตอนที่ 80 “ดอกไม้แห่งรักเบ่งบานที่เวียงละกอน!?

“แม่ไม่ว่าอะไรที่ลูกจะกลับมาร่วมงานบุญ 100 วันของอาจารย์แต่ขอให้พาใครก็ได้มาเป็นเพื่อน”
“ฝนไม่ได้หรอกค่ะเพราะชั้นเรียนของเธอมีกำหนดจะไปดูงานที่ไร่องุ่นกับฟาร์มนกกระจอกเทศพอดี”
“ไม่รู้ละ!!...แม่ไม่อยากให้แคทขับรถทางไกลตามลำพังฉะนั้นชวนเพื่อนหรือใครสักคนที่ว่างซะนะ”
...................................................
“จากการที่เจ้ารอดชีวิตครั้งนี้ก็คงจะสัมผัสได้นะว่าเนื้อแท้แล้วท่านพี่สุรีย์พรรณเป็นคนเช่นไร?”
“ผมรู้ดีทีเดียวครับและการทำเป็นเคืองพี่แคทต่อหน้าคนอื่นก็เป็นแค่ละครฉากหนึ่ง”
“ใช่แล้ว...แบบนั้นล่ะ...ท่านพี่สุรีย์พรรณน่ะใจดีกว่าเราหรือท่านพี่มากมายนักเช่นนั้นเจ้าจงดูแลนางให้ดีๆเถิด”
...................................................
“อ่า--...ผมขอพูดสายคุณตะวันอัสดงครับ”
“...โปรดรอสักครู่เจ้าค่ะ”
(คงจะเป็นแฟนคุณตะวันอัสดงล่ะมั้งแต่ผู้หญิงคนนี้น้ำเสียงหวานจับใจไพเราะเสนาะหูชะมัดเลย!?)
......................................................................................................................

28 ความคิดเห็น:

  1. ผมนี่F5 วันละ 3เวลาเลย 555

    ตอบลบ
  2. มาแล้ว ฉากเด็ดที่รอคอย

    ตอบลบ
  3. จะมีตอนไหนที่ไม่โดนข่มมั่งนะ 555

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คิดเหมือนกันเลยครับ ยังกับชีวิตนี้จะไม่มีวันโผล่หัวไปสู้เขาได้
      ทั้งพลังและสติปัญญา (เวลต่ำเกิ้น) อนาถจริงๆ

      ลบ
  4. ผมนี่เข้ามาดูทุกวันเลย ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  5. ขอให้มีกลิ่นอาย "ความรัก " อยู่ในเนื้อเรื่องส่วนที่เหลือด้วยนะครับ

    จะได้ตราตรึงใจไปนานๆ

    ตอบลบ
  6. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขออวยพรให้ผู้แต่งและผู้ติดตามทุกท่าน มั่งมีศรีสุข อายุมันขวัญยืน ในวันตรุษจีน
      คิดว่ามาถึงนี้แม้บอลอาจไม่มีฝีมือการต่อสู้ก็ไม่ทำให้เรื่องด้อยนะ เพราะเป็นคนมีน่้ำใจแคร์ความรู้สึกของคนอื่น จึงได้เกิดปัญหา พีแคท-ฝน ก็มีความผูกพันธ์จากวัยเด็กมากเว้นช่วงไปตอนโตเท่านั้น แค่่ความผูกพันธ์ลักษณะพีสาวและน้องสาวเกิดมากขึ้นเมืออยู่ร่วมกันใหม่ตอนหนุ่มสาว ความสัมพันธ์จึงค้างคาไม่กล้าแดงออกให้ชัดเจนสักทีทั้งพี่สาวน้องชายและน้องสาวไม่ยอมรับตัวเองว่ารักชอบ สวนตัวละครอื่นเป็นแค่ตัวรองในการเดินเรื่องเท่านั้น เป็นความรู้สึกจากการติดตามภาค 2 นะ ครับ

      ลบ
  7. ขอบคุณครับ แค่คิดภาพตอนจับฉลากเลือกคนอาบน้ำให้บอลก็ฮาแล้ว ผมว่าต้องเป็นแผนของเอ้แน่ๆ

    ตอบลบ
  8. จุดเด่นของบอล ก็ความมีน้ำใจ และเข้ากันได้กับทุกคน (ยกเว้ยเชค)

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณขอรับ น้องนางหยาดฝน..

    ตอบลบ
  10. รอท่านมาต่อเติม..ครับ

    ตอบลบ
  11. มารอครับ ช่วงนี้ยังไม่มีประเด็นใหม่ คนมาคอมเม้นต์เลยน้อย แต่คิดว่สคงติดตามกันตลอด

    ตอบลบ
  12. ติดตามตลอดครับ..แอบลุ้นเล็กๆ

    ตอบลบ
  13. มาแร้ว ขอบคุณมากคัฟ สนุกมาก ผมเข้ามาส่องทุกวันเลย ขอบอก เชียร์ แคท อีกคนคัฟ

    ตอบลบ
  14. คุณพระ!!!....ฟินสุดๆไปเลยครับ ระหว่างเรื่องแคทกับบอล ปลื้มๆ นางเอง ของผม อิอิ ผมนี่อยากรู้เร็วๆจังว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ติดตามเสมอนะครับเข้ามาดูทุกวัน

    ปล.มีเวลาเข้ามาดูแต่ไม่มีเวลาต่อของตัวเองเลย คิดว่าหลังวันที่10 ต้องปั่นยาวๆล่ะ ไม่งั้นตามท่านadslmanไม่ทันแน่ๆ คุคุคุ

    ตอบลบ
  15. มาแล้ว รอลุ้นต่อครับ

    ตอบลบ
  16. อุบร๊ะ ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง
    อนาคตมักไม่แน่นอน เสมอไป T T

    ตอบลบ
  17. หูยยย...หนูฝนสุดยอดจริง ๆ
    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  18. อุต๊ะ! แคททำเป็นเนียนไม่แน่ว่าจะแอบมานอนกับบอลเมื่อคืนแถมฝากรอยจูบไว้ต่างหาก(ตกลงทำไรกันป่าวเนี่ย) และจากชื่อตอน ตอนหน้าคงให้อารมณ์ความรู้สึกแบบโรแมนติกมากๆ แน่ๆ เลย คิดแล้วฟินเลยนะเนี่ย
    จะไปสารภาพรักหรือเผยความในใจอะไรกันน้า ลุ้นแบบฟินๆ (ღ˘⌣˘ღ)

    ตอบลบ
  19. ชวงท้ายๆของตอนนี้ฟินจัง ไม่รู้ว่าแคทกะบอลแอบทำไรกันปล่าวหรือแค่จูบกัน สงสัยว่าตอนหน้าคงจะฟินยิ่งกว่านี้อีก คงจะทำตามหัวใจตัวเองซะที

    ตอบลบ
  20. ไม่ใช่แฟนแต่ทำแทน(พี่กุน)ได้ทุกเรื่อง พีแคทแมวตัวใหญ่มักล้ำหน้าฝนไปเรื่อย และทิ้งพี่อ๋อมและน้องป้อมแบบไม่เห็นฝุ่น แต่ก็ชอบเหมือนกันเพราะชัดเจนมั่นคงต่อบอลเช่นเดียวกะฝน อยากอ่านตอนต่อไปเร็ว ๆ

    ตอบลบ
  21. .................................................
    “จากการที่เจ้ารอดชีวิตครั้งนี้ก็คงจะสัมผัสได้นะว่าเนื้อแท้แล้วท่านพี่สุรีย์พรรณเป็นคนเช่นไร?”

    ตรงนี้มันเกิดอะไรขึ้นหรอครับ (บอลกำลังพูดอยู่กับม่อนใช่ไหม) แล้วเรื่องรอดชีวิตนี่ คือบอลไปโดนอะไรอีก(ขาหักยังไม่หายเลย...รึเปล่า?) หรือว่าตอนต่อไปจะเฉลยแล้วว่าผู้หญิงอีกคนที่ จะทำร้ายบอล
    จนถึงแก่ชีวิตคือใคร ?

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ก็รอดตายจากที่ตกบันไดนั่นแหละครับไม่มีอุบัติเหตุอื่นซ้ำอีกส่วนผู้หญิงอีกคน? ผมยังไม่เฉลยแน่นอนครับเพราะบทยังส่งไปไม่ถึงมากพอและจะเน้นสาวแคทอย่างเดียวเลยแต่อาจมีโผล่มาแวบนึงก็เป็นไปได้

      ลบ
  22. ขอบคุณครับ มาต่อให้แล้วสมกับการรอคอย

    ตอบลบ