ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 91 “บทเรียนที่ต้องจำขึ้นใจ!!!”
“หมู่บ้านบ้าอะไรฟะหมอกลงทั้งปีทั้งชาติ!?...หือ?”
“...............................................”
“แน่ๆๆพี่ม่อน...มาอีกแล้วมุขเดิม...แปลงโฉมเป็นยายแก่”
(เดี๋ยวสวยๆ)
“โอ้ย!!”
“เอ๊ะ?”
“ทำอะไรนี่?”
“อะ...มะ...ไม่ใช่พี่ม่อนหรอกเหรอ?”
...ของจริงนี่หว่า!!!...ผมมาที่หมู่บ้านโยนกบูรพาเพื่อจะพบพี่เซคและเห็นยายแก่คนนึงนั่งในศาลาเลยเข้าใจไปว่าเป็นพี่ม่อนปลอมตัวมา...อูย~~...เมื่อกี้ดึงแก้มคุณยายซะแรงเชียววุ้ย!!!...
(ก็กะจะให้หน้ากากหลุดติดมือออกมา)
“ขอโทษครับยาย!!!...ผม...ผมไม่ได้ตั้งใจ...เอ่อ--”
“ไม่ตั้งใจอะไรดึงแก้มข้าซะแรง?...เด็กอะไรเล่นไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!!!”
“................................................”
“นี่ถ้ามีไม้อยู่ใกล้ๆจะตีกบาลแยก...รู้จักคนเฒ่าคนแก่น้อยไปซะแล้วไอ้เด็กสมัยนี้”
(เวรจริงๆ...เจอคนแก่ของจริงเข้าให้...อื๋อ?...คนที่นั่งอยู่บนเนินดินนั่น)
“พี่ม่อน”
“...............................................”
(มาหลับตานั่งขัดสมาธิอะไรแถวนี้?...เมื่อกี้จะเห็นเราหยิกแก้มคุณยายหรือเปล่า?)
“...............................................”
(หรือว่าหลับ?...ไม่น่ะ!!...เจ้าหล่อนอาจจะตื่นแล้วกำลังมองกับยิ้มเยาะเราอยู่ก็ได้)
“...............................................”
(แต่ดูเหมือนเธอจะหลับจริงๆแฮะ)
“พี่”
“...............................................”
“พี่ม่อนครับ”
...ผมเรียกตั้งนานญาติสาวผู้พี่ก็ไม่มีการตอบสนองตอบและพอมองดีๆศีรษะของเธอก้มนิดหนึ่งด้วย...นี่มันอาการของคนหลับยามชัดๆเลย!?...ไม่ได้...จะมามัวเสียเวลาอยู่ได้ยังไงต้องรีบไปบ้าน “ราศีกาญจนา” ด่วนไม่งั้นเกิดพี่เซคออกไปข้างนอกซะก่อนจะเสียเที่ยว...
(“วันนี้คนมองฉันราวกับเป็นตัวประหลาด”
“ก็ขานายหายดีในเวลาแค่ครึ่งเดือนเป็นใครก็ต้องแปลกใจ...ยัยป้อมงงเป็นไก่ตาแตกเลย”
“เพราะงั้นฉันถึงต้องขึ้นมาบนเขานี่ไง”
“จะไปสนใจคนอื่นทำไม?”
“..................................................”
“แล้วนายจะไปบ้านยัยซกมกแอบจิตหมายเลขหนึ่งเมื่อไหร่?”
“ก็ว่าจะไปแล้ว”
“ให้ฉันไปด้วยนะ”
“อืม--...ดี...ไม่ๆๆ”
“?”
“...ฉันไปคนเดียวดีกว่า”
“ทำไม?”
“เดี๋ยวพี่เซคก็เยาะเย้ยฉันอีกว่าหลบอยู่ใต้กระโปรงคอยให้ผู้หญิงออกหน้า”
“หลบยังไงยะฉันนุ่งกางเกงเฟ้ย~~”
“ยังจะมีอารมณ์ขันนะ”
“ได้...นายไปคนเดียวก็ระวังตัวมั่งล่ะกันถึงฉันเชื่อว่ายัยศรเพทายจะไม่โง่พอทำเรื่องบ้าๆสองครั้งติดกันก็เถอะแต่ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลรีบติดต่อฉันนะ”)
“ไปดีกว่าเรา”
“หึ!”
“?
“มิรู้จักที่ต่ำที่สูง”
“พี่ม่อน”
...ที่แท้ก็ตื่นอยู่และเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างเลยด้วย...เอ๋!?...ไม่อยู่ตรงนั้นแล้วแต่ได้ยินเสียงหญิงสาวจากด้านหลัง...หมายความว่าเธอ...
(อยู่ข้างหลังเราและยืนหันหลังให้)
“เจ้าคงจะเข้าใจว่าเป็นเราสิ?”
“ผมคิดว่าเป็นพี่...หนอย~~...ชอบหลอกคนอื่นเล่นอยู่แล้วนี่!!”
“วันนี้เรามิได้ตั้งใจจะเล่นสนุกกับเจ้าดอก”
“แล้วพี่มานั่งทำอะไรบนนั้น?”
“มิจำเป็นที่เจ้าจะต้องรู้แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
“ไม่จำเป็นที่พี่ม่อนจะต้องรู้เหมือนกัน”
“ขาเดินได้เป็นปกติก็ปากกล้าเชียวหรือ?...เจ้าคนมิรู้สำนึกบุญคุณ”
“ไร้สาระ...ผมไม่สำนึกบุญคุณอะไร?...โอ๊ย!!!”
(แขนเราจู่ๆก็เหมือนมีอะไรมาบีบจนปวดแปลบ!!!!)
“เมื่อคืนนี้อย่างไร...ชิ!!”
“เฮ้ย!!!...เธอน่ะมาตีกับฉันดีกว่ามั้ง?”
“อ๋อม”
“กับยัยนี่มันต้องฉัน...นายรีบไปซะ”
“..................................................”
“อย่ามาหาเรื่องกันนักเลยนางพญาเสือ...เราเบื่อเต็มทน”
“ฉันก็เบื่อเหมือนกันโว้ยแต่ใครใช้ให้เธอคอยมายุ่งกับผัวฉันเล่า!!!”
“พูดออกมาได้อย่างมิอายปาก”
“อายทำไมเมื่อมันเป็นเรื่องจริง...ไปสิบอล”
“อือ”
...โชคดีที่อ๋อมตามผมมาไม่งั้นพี่ม่อนจะทำอะไรที่เกินความคาดหมายอีกก็ไม่รู้...ให้ตายเถอะ...ช่างเป็นคนที่น่ากลัวจริงๆแค่ผมหันไปมองหน้าเธอก็
“เจอดี” เข้าให้...
“เห--...ฉันจำได้ว่าไม่เคยจุดธูปอัญเชิญแกมานะ?”
(ปากคอเราะร้ายฉิบหา-...ไม่มีท่าทีจะรู้สึกสลดสักนิดด้วย!!!)
“เผอิญผมยังไม่ตายสมใจพี่สินะครับ?”
“โฮ่~~...เพราะขาเดินได้ปกตินี่เองถึงมาทำท่ายโสต่อหน้าฉันถึงที่นี่?”
“ไม่เกี่ยวกับขาหรืออะไรแต่มันเกี่ยวกับพี่โดยตรงต่างหาก”
“ฉันเรอะ?”
“ใช่--...คนขี้ขลาดอย่างพี่เซคนั่นแหละรู้ไว้ซะด้วย!!”
“ไอ้หนู!!!...พูดจาระวังปากหน่อย”
(ผู้ชายสองคนนี่ใครไม่เคยเห็นมาก่อน...อุ!!...ตัวใหญ่ชะมัด)
“ไม่เป็นไรๆ...พอดีฉันได้ยินประโยคที่น่าสนใจจากหมอนี่...นายสองคนถอยไปข้างหลังก่อน”
“.................................................”
“.................................................”
(ไอ้สองคนนี้แววตาเอาเรื่องน่าดู...คนคุ้มกันของพี่เซคแน่ๆ)
“นั่งก่อนสิ”
“ไม่ต้องครับ...ผมใช้เวลาพูดไม่นาน”
“ห๊ะ!?...บอลมาเหรอ?”
(ฝนก็อยู่ที่นี่รึ?)
“เค้าได้ยินว่าขาของตัวเองหายเป็นปกติอ่ะ...จริงๆเหรอนี่?”
“จริง...ดูสิๆ”
“โอ้โห~~...ไม่น่าเชื่อเลย!!!...ทีแรกเค้านึกว่าเป็นเรื่องโกหก”
“ได้ยินแล้วทำไมไม่ไปหาฉันล่ะ?”
“ก็อยากไปแต่ยายเรียกฝนกับเจ๊มาที่นี่ก่อน”
“ทำอะไรหรือ?”
“เฮ่ๆ...คุยข้ามหัวเลยนะทั้งสองคน!”
“เปล่าจ้ะพี่เซค”
“หึๆ...ขอโทษครับที่ลืมพี่ไปซะสนิท...นึกว่าไม่มีตัวตนอยู่ที่นี่แล้วซะอีก”
“หนอย~~”
“แก!!!”
“ใจเย็น!!”
“ฮื่อ!!...พวกนายลองเข้ามาใกล้บอลสิ...ฉันเตะไม่เลี้ยงแน่คอยดู!!!”
“คุณหยาดฝนเก่งก็จริงแต่คนเดียวคงรับมือพวกเราไม่ไหวมั้งครับ?”
“เหรอ?...ถ้าฉันคนเดียวอาจจะไม่ไหวแต่โน่น...สองต่อสองคงพอฟัดพอเหวี่ยงนะ”
...พี่แคทเดินออกมาข้างนอกโดยในมือเธอถือจานใส่คุ้กกี้...รึว่าที่ยายเรียกทั้งคู่มาก็เพื่อจะสอนการทำขนม?...ไม่อยากถูกว่าเป็นคนขี้กลัวหรือใจเสาะหรอกแต่โคตรจะโล่งใจเลยที่เห็นสองลูกพี่ลูกน้องอยู่ที่นี่...
(เพราะยังไงซะพวกเธอก็คงไม่ยอมให้เราเป็นอะไรไปต่อหน้าต่อตาแน่นอน)
“หึๆ...ทีนี้ว่าไง...จะลองวัดกันสักตั้งมั้ย?”
“เดี๋ยวๆๆ...มันอะไรกัน?”
“พอแล้วๆ...ทุกคนใจเย็นกันก่อนนะ...ปัญหานี้แก้ไขได้”
“พี่เซคคะ...ทำเสร็จแล้ว...เชิญค่ะ”
“น่ากินจัง!!...ไหนๆ...ให้พี่ชิมซิ”
(ไม่ให้เรากินด้วยเหรอ?)
“อื้อ!!...อร่อยมาก”
(พี่แคทใจร้ายไม่ชวนเรากินมั่งเลย...อูย!!!...หล่อนเหยียบเท้าเราทำไมเนี่ย?)
“ขาหายปุ๊บก็หาเรื่องปั๊บเชียว”
“ไม่ใช่นะครับ”
“ไม่ใช่อะไร?...แล้วที่บุกมาถึงนี่จะอธิบายว่ายังไง?...กลับไป!!”
“พี่”
(สาวเจ้ากระซิบข้างหู)
“ฉันรู้ว่าเธอมาเพื่อต้องการอะไรแต่อย่าเพิ่งวู่วามได้มั้ย?...กลับไปบ้านของเรา”
“แต่”
“น้องแคทจ๊ะ...ดูท่าบอลเขาอยากคุยกับพี่มากๆน่ะจึงไม่อยากกลับไปตอนนี้”
“ใช่เลยครับ”
“บอล!”
“ผมอยากคุยกับพี่มาก...มากจนไม่เคยรู้สึกขนาดนี้มาก่อน”
“เอ้า!!...เชิญนั่ง...แกมีเรื่องอะไรก็พูดออกมาให้หมดเปลือก”
“ได้ครับ...ผมขอพูดอีกครั้งหนึ่งนะ”
“ว่า?”
“พี่เซคน่ะมันคนขี้ขลาด!!!”
“!!”
“!?”
...ทั้งพี่แคทกับฝนต่างมีท่าทางตกใจไม่น้อยที่ได้ยินส่วนเจ้าสองคนนั่นไม่ต้องพูดถึง...มองหน้าผมราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันเลยเชียว...ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็ถอยกลับไม่ได้ล่ะวะ!!...
(อย่างน้อยมีพี่แคทกับฝนอยู่ที่นี่ก็ช่วยให้เราใจชื้นขึ้นมาหน่อย)
............................................................................................................................................
“เหตุใดจึงมานั่งทำแววตาถอดอาลัยเช่นนี้ขอรับ?”
“...ผมอยากอยู่คนเดียว”
“ยอดเยี่ยมมากเลยขอรับ”
“พี่เอ้!!...นั่นไม่ใช่ตัวผมนะ”
“มิใช่ตัวผม...หมายความว่าอย่างไร?”
“เอาเป็นว่าไม่ใช่ผมแน่...มันเป็นคนอื่น”
“หมัดชกเข้าปลายคางและตามด้วยรัวหมัดใส่ลำตัวนับสิบๆครั้งก่อนจะเอาเท้าถีบจนพี่สมพลกระเด็นไปไกล...มิทราบว่าไปฝึกหัดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ขอรับ?”
“ก็บอกว่านั่นไม่ใช่ผม!!!!”
“จะมิใช่ได้อย่างไรขอรับในเมื่อกระผมเห็นกับตาตนเองแลดูไปการออกกำปั้นก็คล้ายคลึงกับหมัดยมทูตของท่านพี่สุรีย์พรรณแล้วยังกระบวนท่าถีบสุดท้ายอีก?...นั่นคือบาทามรณะของน้องนางหยาดฝนด้วยนะขอรับ”
(นี่ไอ้หน้าหยก!!!...คนที่ไม่เคยฝึกหัดวิชาบู๊อย่างเราจะไปทำแบบนั้นได้ยังไงเล่า?...ถึงนายจะเห็นก็...ปัทโธ่วุ้ย!!!...จะพูดยังไงให้เชื่อได้ว่าตัวเราตอนที่กำลังจะหมดสติน่ะถูกใครก็ไม่รู้ “สิง” ร่าง!?)
“ก็บอกว่านั่นไม่ใช่ผม!!!!”
“จะมิใช่ได้อย่างไรขอรับในเมื่อกระผมเห็นกับตาตนเองแลดูไปการออกกำปั้นก็คล้ายคลึงกับหมัดยมทูตของท่านพี่สุรีย์พรรณแล้วยังกระบวนท่าถีบสุดท้ายอีก?...นั่นคือบาทามรณะของน้องนางหยาดฝนด้วยนะขอรับ”
(นี่ไอ้หน้าหยก!!!...คนที่ไม่เคยฝึกหัดวิชาบู๊อย่างเราจะไปทำแบบนั้นได้ยังไงเล่า?...ถึงนายจะเห็นก็...ปัทโธ่วุ้ย!!!...จะพูดยังไงให้เชื่อได้ว่าตัวเราตอนที่กำลังจะหมดสติน่ะถูกใครก็ไม่รู้ “สิง” ร่าง!?)
...โธ่เว้ย!!!...มันเป็นเหตุการณ์ที่สุดแสนพิศวงยากที่ใครจะเชื่อและต้องหาว่าผมเป็นบ้าไปแล้ว...
(“พี่เซคน่ะมันคนขี้ขลาด!!!”
“จะมากไปแล้วโว้ยไอ้หนู!!”
“..................................................”
“คุณหนูใหญ่ทำไมถึงไม่ตอกกลับไปบ้างครับ?...ผมได้ยินแล้วคันไม้คันมือจริงๆ”
“ใช่ครับ...ปล่อยให้ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมบุกมากำแหงถึงนี่...คุณหนูใจเย็นผิดปกติแล้ว”
“ฉันรู้ว่าพวกนายไม่นับถือเจ้านั่นแต่ยังไงก็เป็นญาติของฉัน...ฝืนเกรงใจศักดิ์ศรีของมันหน่อยล่ะกัน”
“ไม่ต้องมาเกรงใจกันหรอก...ผมไม่ใช่คนถือยศถือตัวเหมือนใครบางคนแถวนี้”
“..................................................”
“อ๊ะๆๆ...อย่าดีกว่าพวกนาย...ฉันเตือนแล้วใช่หรือเปล่าว่าอย่าคิดจะทำอะไรบอล?...หัดรู้จักตัวเองซะมั่ง!!!”
“คุณหยาดฝนคงจะไม่ได้ลืมไปนะครับว่าเราสองคนก็เป็นศิษย์ของคุณอรศินีย์?”
“แล้วยังเป็นองครักษ์แพรแดงที่ขึ้นตรงต่อคุณหนูใหญ่ด้วย”
(อะไรนะ?)
“ฉะนั้นอย่างน้อยก็น่าจะเคารพพวกเราในฐานะศิษย์พี่...จริงไหมครับคุณสุรีย์พรรณ?”
“ยิวยิตสึของสองคนนี้ไม่เลวนะ...ฝนกับพี่ประลองกับพวกเขาสองครั้งอาจผลัดกันแพ้ชนะและต้องมีครั้งที่สามเพื่อตัดสิน”
“ชิ!!”
(เก่งขนาดนั้นเชียว!!...มิน่าถึงได้กร่างน่าดู?)
“ฉันน่ะหรือกลัวแกจะมาแย่งตำแหน่งผู้นำตระกูล?”
“ใช่...ถึงได้ใช้วิธีขี้ขลาดตาขาวร่วมมือกับคนนอกวางแผนลักพาตัวผมไง”
“นี่คือคำตอบของแก”
“?
“ฮ่าๆๆๆๆ...แกน่ะมันกระจอก”
“ไม่ต้องมาย้อนด่าผมนะ!!!”
“ฉันพูดจริง...คำตอบของแกมันไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของฉันเลยสักนิดเพราะฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าแกต้องมาไม้นี้...กระจอกมาก!!...กระจอกอย่างที่สุด!!!...คนอย่างแกก็มีเพียงเท่านี้เอง”
...พูดจบยังยกแก้วจิบน้ำชาอย่างสบายอารมณ์นะนังผู้หญิงคนนี้...เออ!!...กระจอกแล้วยังไง?...รู้คำตอบของผมแล้วยังไงเล่า?...นึกว่าตัวเองวิเศษวิโสกว่าคนอื่นงั้นเหรอ?...
“อือ--...ฉันเคยพูดกับแกไว้แล้วนี่ว่าถ้าอยากขึ้นมานั่งบนหัวฉันก็ต้องแสดงความสามารถออกมาให้เห็นและการไปที่ตำบลศรีไตรตรึงษ์ในฐานะตัวแทนของวิษณุมนตรีก็เป็นภารกิจที่สำคัญไม่น้อย...หึ!...แต่แค่นี้แกยังทำไม่ได้แล้วจะรับผิดชอบเรื่องที่สำคัญกว่านี้ได้รึ?”
“...ก็ไม่เห็นต้องใช้วิธีบังคับกันแบบนี้”
“จะใช้วิธีอะไรก็ช่างแต่แกสมควรคิดให้กว้างๆและยาวๆ...การเห็นแค่ประโยชน์เฉพาะหน้าไม่ใช่คุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นผู้นำ...แกสอบตก!!!!”
“เชอะ!!...บททดสอบนี้ไม่มีใครสอบผ่านหรอกครับเพราะคนตรวจให้คะแนนมันลำเอียงอย่างน่าเกลียดที่สุด!!!!”
“หยุดเดี๋ยวนี้!!!”
“พี่แคท”
“มีแต่คนบ้าที่จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับพี่เซค...กลับไปตอนนี้เลย”
“ฝนพาไปเองค่ะ”
“ให้มันกลับไปคนเดียว!!!”
“เอ๋?”
“งานที่คุณยายสั่งยังไม่เสร็จ...แล้วมันมาเองได้ก็ต้องกลับเองได้...ใช่มั้ย?”
“ฮึ!!...อย่าคิดว่าพี่จะปัดความผิดของตัวเองพ้น”
“เชิญแกมาคิดบัญชีได้ทุกเมื่อเลย...ฉันจะรอ”
“พี่แคท”
“อืม--...พี่รู้”
.......................................................................................................................................................
... “เรื่องเร่งด่วน” ที่ท่านพี่สุรีย์พรรณใช้ให้เรามาที่แท้ก็เป็นการคอย
“คุ้มกัน” เอกคเชนทร์ห่างๆจากสององครักษ์แพรแดงของท่านพี่ศรเพทาย...
(“เอ้...พี่ขอร้องนะ”
“กระผมจะปฎิบัติตามที่ท่านพี่สุรีย์พรรณขอร้อง...มิต้องเป็นห่วงดอกขอรับ”)
“ทำให้ขาหักอีกรอบเป็นยังไง?”
“ก็ดี...แต่ที่จริงอย่าให้ถึงกับนอนหยอดน้ำข้ามต้มล่ะกัน...เอาแค่สั่งสอนเบาะๆก็พอ”
“ท่านทั้งสอง”
“คุณสุริยาวรรณมีอะไรหรือครับ?”
“เมื่อครู่กระผมได้ยินเรื่องที่น่าสนใจ...ท่านพี่ศรเพทายสั่งพวกท่านมาหรือขอรับ?”
“...เปล่าครับ”
(“หมายความว่าจะกระทำโดยพลการอย่างนั้นสิ?)
“เช่นนั้นทั้งสองอาจจะมีปัญหาในภายหลัง”
“มีแน่ครับ...ถ้าใครรู้ว่าพวกเราปล่อยให้ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมายืนด่านายตัวเองฉอดๆโดยไม่ทำอะไรคงได้โดนหัวเราะเย้ยหยัน”
“เด็กที่พี่สมพลพูดถึงคือลูกพี่ลูกน้องของท่านพี่ศรเพทายนะขอรับ”
“แล้วไงครับ...คนไร้ความสามารถแบบนั้นจะปล่อยให้เป็นผู้นำตระกูลได้เรอะ?”
“ใช่แล้วครับ...ไม่มีใครจะเหมาะสมไปกว่าคุณหนูใหญ่อีก”
“กระผมคงยอมให้เกิดขึ้นมิได้”
“พวกเราแค่จะสั่งสอนพอหอมปากหอมคอเท่านั้น...คุณสุริยาวรรณอย่าเพิ่งตื่นเต้น”
“พอหอมปากหอมคอที่พี่ปัญญาเอ่ยนั้นคืออะไรขอรับ?”
“เราจะบังคับให้นายบอลสาบานว่าจะไม่คิดแย่งชิงตำแหน่งนายใหญ่ของวิษณุมนตรีอีก”
“ทำเช่นนี้มิสมควร...”
(“ฝนขอร้องพี่เอ้ล่ะค่ะ...สายตาของพี่เซคที่มองบอลวันนี้น่ะยิ่งกว่าสายตาที่มองศัตรู”
“ยิ่งกว่า?”
“เป็นไปได้ว่าพี่เซคจะเกลียดชังบอลยิ่งกว่าศัตรูที่เคยเจอมาน่ะสิคะ”)
“กระผมชักอยากจะเห็นซะแล้ว”
“?”
“ที่ว่าจะสั่งสอนพอหอมปากหอมคอน่ะขอรับ”
“แสดงว่าคุณสุริยาวรรณจะไม่ขัดขวาง?”
“แต่หากกระผมเห็นว่าท่านทั้งสองกระทำเกินเลย”
“เชิญใช้ดาบที่เหน็บเอวนั่นบั่นคอพวกผมได้”
“.............................................................”
“เฮ้ย!!...จะรีบไปไหนวะ?”
“พวกนาย!?”
“เมื่อกี้ซ่าเต็มที่นะเรา”
“จะ...จะทำอะไรน่ะ?”
“ฮึๆ”
“นั่นสิ...จะทำอะไรดีล่ะ?”
“นี่...พี่เซคสั่งพวกแกมาเหรอ?”
“ไม่ต้องรู้หรอกโว้ยไอ้หนู!!!”
......................................................................................................................................................
“วิ่งหนีมิทันไรก็ถูกจับได้...จะคอยให้ท่านพี่สุรีย์พรรณแลน้องนางหยาดฝนคุ้มครองทุกครั้งก็มิไหวนะขอรับ”
(ถูกพี่ปัญญาที่ทั้งตัวใหญ่และบึกบึนกว่าล็อคคอจากด้านหลัง...เป็นเรายังลำบาก)
“กะ...แก...ปล่อยเซ่~~”
“ไอ้หนู...สาบานมาซะว่าต่อไปนี้จะไม่ไปอวดดีกับคุณหนูใหญ่อีก”
“อย่างแกน่ะมันไม่มีอะไรจะเทียบคุณหนูใหญ่ได้สักนิดเดียว”
“หึ!!...ให้...ให้ตายกูก็ไม่...สะ...สาบาน!!!!”
“ไอ้นี่!!...อยากขาหักอีกใช่มั้ยวะ?”
“อึย...ไอ้พวก...ไอ้พวกหมารับใช้เอ้ย!!!!”
“ปากดีนัก!!...พล...หักขามัน!!!”
“อะ...เอาซี่~~...เก่งจริงก็หักสิวะ!!...ยะ...อย่างพวกมึงมันก็ดีแต่รังแกคนอ่อนแอกว่า...กับหลบอยู่ใต้ชายกระโปรง”
“หนอย!!!...ทีแรกกะจะเอาแค่สั่งสอนเบาะๆแต่ปากดีแบบนี้เห็นทีเอาไว้ไม่ได้ละ”
“จริงด้วย...กูชักจะโมโหแล้ว”
(ท่าจะมิได้การ!!...สองคนนั้นเลือดขึ้นหน้าแล้วเพราะในหมู่องครักษ์แพรแดงของท่านพี่ศรเพทายทั้งสองคนนี้นับว่ามีความ
“จงรักภักดี” มากที่สุด)
“อีกเดี๋ยวมันก็จะหมดสติถึงตอนนั้นแกหักขามัน...เอาให้ไอ้เด็กเปรตนี่ร้องด้วยความเจ็บปวดสุดชีวิตเลยนะ”
“ได้!...กูจัดการเอง”
“อือ...อืออออออ”
(เมื่อใดที่เอกคเชนทร์หมดสติ...เราจะออกไปจัดการพี่สมพลทันที)
“เฮ่!!...ตาเริ่มเหลือกแล้วว่ะ”
“ตอนนี้แหละ...ให้มันจดจำเราสองคนไปจนวันตาย”
(เอาล่ะ...อื๋อ!?)
“เอ้ย!?...มันยิ้มอะไร?”
“อะไรของมึง?”
“ไอ้เด็กนี่มันยิ้ม...ก็ไหนว่าหมดสติไง?”
“มึงพูดบ้าอะไรวะ?”
“ก็เนี่ย...อั๊กกกกกกกกกกก”
“ไอ้พล!?”
...เอกคเชนทร์ที่สองผู้คุ้มกันของท่านพี่ศรเพทายหรือแม้แต่เราคิดว่าได้หมดสติไปแล้วจู่ๆก็ยกเท้าถีบพี่สมพลที่มิทันตั้งตัวกระเด็นลอยไป...หลายเมตร...มิน่าเชื่อ!!!!...เขาไปเอาพละกำลังขนาดนั้นมาจากไหนกันแลในภาวะที่หมดสติเช่นนี้ด้วย!?...
“ฤทธิ์มากเหรอ?...กะ...แก~~”
“................................................”
“อะ...อะไรวะ?...เป็น...เป็นไปได้ยังไง?”
(เอกคเชนทร์เอามือจับแขนพี่ปัญญาแล้วค่อยๆดึงออกจากคอตนเองจนหลุด...เราตาฝาดไปหรือเปล่านี่?)
“แก!...ทำไม?”
“โอ๊อออออออออออออออออออ!!!!!!!!!!!!”
(ญาติหนุ่มผู้น้องแหงนหน้ามองไปบนฟ้าแล้วร้องคำรามเสียงดังกึกก้องแล้วก็ดวงตาข้างซ้ายได้กลายเป็นสีดำสนิทแลข้างขวาเป็นสีขาวปลอดซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!?)
“หนอยแน่ะ!!!...จะลองดีกับกูใช่...อึ๊ก!?...อุ!!!”
(พี่ปัญญาที่จะตะครุบข้างหลังเอกคเชนทร์อีกครั้งอยู่ดีๆก็หัวทิ่มลงไปนอนกองกับพื้นเพราะถูกจับเหวี่ยงอย่างแรงแล้วเอกคเชนทร์ก็ไปนั่งทับข้างบนแล้วก็โถมศีรษะโขกใส่หน้าผากพี่ปัญญาอย่างรวดเร็วแลมินับครั้งอีกด้วย)
“เฮ่ยหยุด...ฮึ่ม!!!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
(พี่สมพลที่ถูกถีบเดินกุมท้องตั้งใจจะมาช่วยเพื่อนแต่เอกคเชนทร์ใช้แขนท้าวพื้นแล้วยกตัวสะบัดเท้าทั้งสองรัวใส่เป็นเชิงขู่...ไปฝึกท่าแบบนี้มาจากไหนถึงใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว?)
“ไอ้นี่มันเป็นบ้าอะไร?”
“ชะ...ช่วยกูด้วย~~...อ๊ากกกกกกกก!!!!!!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“โอ๊ยยยยยยยยยยย...ช่วย...ช่วยด้วย~~”
“โอ๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
(คราวนี้เอกคเชนทร์ระดมสาวหมัดชกไปที่ท้องแลก็ที่ใบหน้าพี่ปัญญามินับพลางหัวเราะไปพร้อมกัน...สุ้มเสียงที่เราได้ยินนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความบ้าคลั่งยิ่งกว่าตอนที่ท่านพี่สุรีย์พรรณในภาวะ
“ตะวันเลือด” เสียอีก!!!!)
“ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆ...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ”
(ทีแรกเราตั้งใจจะช่วยเอกคเชนทร์ทว่าหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้พี่ปัญญาต่างหากที่ต้องถึงแก่ความตายอย่างแน่นอน!?)
“หยุดเถิดขอรับ”
“เฮอะๆๆๆๆๆๆๆ”
“มิเช่นนั้นกระผมจะ...โอ๊ะ!?”
(ทันใดนั้นเอกคเชนทร์ก็ลุกขึ้นมาเหวี่ยงหมัดพลางเดินเซไปมาอย่างไร้จุดหมายในขณะที่พี่ปัญญานอนแน่นิ่งโลหิตไหลเปรอะเต็มหน้าไปหมด...ท่วงท่าการออกหมัดช่างมั่วซั่วสิ้นดีหรือจะยังมีอะไรซ่อนเร้นอยู่?)
“มึงต้องชดใช้ไอ้เด็กเวร!!!!”
“อย่าเข้าไป!!!”
“!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
...เอกคเชนทร์ที่ปล่อยหมัดวืดวาดเมื่อสักครู่ก็ประกายตาลุกวาวหมุนตัวมาชกเสยคางพี่สมพลที่เข้ามาในระยะอย่างจังจนหน้าหงายจากนั้นระดมกำปั้นชกที่ท้องมินับครั้งแล้วตามด้วยถีบพี่สมพลลอยไปกระแทกกับต้นไม้แลร่วงลงไปในสระน้ำ...
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
(สุดท้ายญาติหนุ่มผู้น้องของเราก็ยืนแหงนหน้าหัวเราะอยู่เป็นเวลานานประดุจว่าไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะอย่างสิ้นเชิง...เพียงชั่วมิกี่อึดใจก็สามารถจัดการกับองครักษ์แพรแดงฝีมือดีถึงสองคนของท่านพี่ศรเพทายลงได้อย่างราบคาบ!!!!)
....................................................................................................................................................
“จะไม่เกินไปหน่อยหรือ?”
“ไม่เกินไปหน่อยเหรอ?”
“ท่านทั้งสองกล่าวอะไรขอรับ?”
“เรารู้ว่าเป็นการกระทำของท่าน”
“รู้ว่าเป็นการกระทำของท่าน”
“คราวหน้าอย่าทำอีกนะ”
“อย่าทำอีกล่ะ...สหายแห่งเรา”
“...ข้าพเจ้ามิได้กระทำการใดๆทั้งนั้น”
“นี่นะ...น้องสีตล”
“อะไรคะ?...พี่อุษณ”
“เวลาพญาคชสารโกรธ...น่ากลัวจริงๆ”
“จริงด้วย!!...น่ากลัวจริงๆ”
“...................................................”
.......................................................................................................................................................
“พี่เอ้ยิ้มอะไร?”
“หมัดชกเข้าปลายคางและตามด้วยรัวหมัดใส่ลำตัวนับสิบๆครั้งก่อนจะเอาเท้าถีบจนพี่สมพลกระเด็นไปไกล...มิทราบว่าไปฝึกหัดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ขอรับ?”
“ก็บอกว่านั่นไม่ใช่ผม!!!!”
“จะมิใช่ได้อย่างไรขอรับในเมื่อกระผมเห็นกับตาตนเองแลดูไปการออกกำปั้นก็คล้ายคลึงกับหมัดยมทูตของท่านพี่สุรีย์พรรณแล้วยังกระบวนท่าถีบสุดท้ายอีก?...นั่นคือบาทามรณะของน้องนางหยาดฝนด้วยนะขอรับ”
(นี่ไอ้หน้าหยก!!!...คนที่ไม่เคยฝึกหัดวิชาบู๊อย่างเราจะไปทำแบบนั้นได้ยังไงเล่า?...ถึงนายจะเห็นก็...ปัทโธ่วุ้ย!!!...จะพูดยังไงให้เชื่อได้ว่าตัวเราตอนที่กำลังจะหมดสติน่ะถูกใครก็ไม่รู้ “สิง” ร่าง!?)
“ก็บอกว่านั่นไม่ใช่ผม!!!!”
“จะมิใช่ได้อย่างไรขอรับในเมื่อกระผมเห็นกับตาตนเองแลดูไปการออกกำปั้นก็คล้ายคลึงกับหมัดยมทูตของท่านพี่สุรีย์พรรณแล้วยังกระบวนท่าถีบสุดท้ายอีก?...นั่นคือบาทามรณะของน้องนางหยาดฝนด้วยนะขอรับ”
(นี่ไอ้หน้าหยก!!!...คนที่ไม่เคยฝึกหัดวิชาบู๊อย่างเราจะไปทำแบบนั้นได้ยังไงเล่า?...ถึงนายจะเห็นก็...ปัทโธ่วุ้ย!!!...จะพูดยังไงให้เชื่อได้ว่าตัวเราตอนที่กำลังจะหมดสติน่ะถูกใครก็ไม่รู้ “สิง” ร่าง!?)
“น่าประทับใจจริงๆขอรับ”
...ไม่ไหว!!!...ไม่มีเชื่อกันเลยแต่ที่สำคัญเจ้า “คน”
ที่สิงอยู่ในร่างของผมเป็นใครกันแน่นั่นคือคำตอบที่อยากรู้ยิ่งกว่าสิ่งใดในตอนนี้...เดี๋ยวซิ!!...นั่นมันใช่ “คน” แน่เรอะ?...
(“อะ...อือออออออออ...ปล่อย...ปล่อย...อื๊อออออออออออ”
“.........................................................”
“อะ...ไร?”
“จะ...แม่...ท่าน...เสีย”
“!?”)
“เอกคเชนทร์ขอรับ”
(สี่คำที่เราได้ยินมันมาจากประโยคเต็มว่าอะไร?)
“เอกคเชนทร์!”
“เอ้ย!!”
“กระผมพูดกับเธออยู่”
“ผมกำลังใช้ความคิด”
(น่าเสียดายมากที่เราได้ยินสี่คำปริศนานั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกแล้วพอรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่บนเขานี่และคนที่พามาก็ไม่ใช่ใครอื่น)
“.....................................................”
(จะมองอะไรเรานักหนา?)
“.....................................................”
“มะ...มีอะไรครับ?”
“คอยังเป็นรอยแดงอยู่”
...พี่เอ้ยื่นมือมาแตะที่คอซึ่งมันทำให้ผมใจไม่ค่อยดีเพราะอย่าได้ลืมว่าคนๆนี้หน้าตาเหมือนพี่แคทราวกับพิมพ์เดียวกันจึงอาจทำให้หัวใจสั่นสะท้านได้ง่ายๆ...เอ๊ะ?...ไอ้คราบสีแดงตรงข้อมือญาติหนุ่มผู้พี่นั่นคือ?...
“ละ...เลือดที่มือพี่มันอะไรกัน?”
“.....................................................”
“หรือว่าพี่...”
“ใจเย็นขอรับ...นี่เพราะน้องเอกคเชนทร์ต่างหาก”
“ผม”
“เลือดนี่เป็นของพี่ๆองครักษ์แพรแดงที่เธอเล่นงานจนลุกมิขึ้นอย่างไรล่ะขอรับแลคงจะกระเซ็นมาติดตอนที่กระผมไปช่วยพวกเขา?”
“ไม่ใช่ผมๆๆ”
“เช่นนั่นคนที่ยืนหัวเราะหลังจากถีบพี่สมพลตกน้ำแล้วยังตามไปกวักมือเรียกเป็นใครอื่นอีกเล่า?”
“ว่าไงนะ?”
“ผีสิงรึ?”
“!?”
“หากพูดประโยคนี้ออกมาจะต้องเป็นเรื่องน่าขันมากอย่างแน่นอน...ฮะๆๆ”
“......................................................”
“......................................................”
...ผมพยายามสังเกตหลายครั้งแล้วว่าหมอนี่ก็มีจริตจะก้านคล้ายผู้หญิงอยู่เหมือนกันอย่างเช่นการยิ้มหรือการชายตามองผู้อื่นและจะว่าไปรุ่นพี่ที่เคารพในวงเหล้าก็เคยหล่นประโยคทองไว้...
(“ผู้ชายคนไหนแต่งตัวเป๊ะใส่ใจทุกรายละเอียดดูเจ้าสำอางล่ะก็ชัดเลย...เกย์แน่ๆ...ในวงเหล้าไม่มีโกหกว่ะ”)
...แล้วเมื่อกี้พี่เอ้ชำเลืองมองแล้วก็ขยิบตาให้ผมด้วยนะ!?...มิ...มิน่าถึงได้มีผู้ชายแวะเวียนมาหาตั้งหลายคนเพราะที่แท้นายก็เป็น...เป็น...มะ...ไม่ได้การแล้ว!!!...ขืนอยู่ใกล้ไอ้เวรนี่มากๆมีหวังได้พลาดท่าเข้าสักวันแน่!!!!...ต้องรีบตัดบทๆ...
“นี่!!...ผมกลุ้มแทบตายพี่ยังจะมายิ้มอะไร?”
“กระผมจะยิ้มหรือจะอะไรก็ช่างเถิดขอรับ”
“ผะ...ผมจะกลับบ้านแล้วส่วนเรื่องนั้นรบกวนพี่ด้วย”
“....................................................”
(เอ๊ะ?...ขาของเราทำไมเริ่มมีอาการปวด?...ไม่สิ...แม้กระทั่งมือแขนขึ้นไปถึงหน้าผากอีก)
..............................................................................................................................................
“ไม่อร่อยเหรอ?...กินน้อยจัง”
“ผมไม่ค่อยหิว...เท่าไหร่ครับอา”
“อย่าเครียดเลยนะตัวเอง”
“เธอหมายถึง?”
“ก็ที่บ้านพี่เซคไง”
“เปล่า--...ฉันไม่ได้เครียดเรื่องนั้น”
“..................................................”
“ผมขอตัวก่อนครับ”
(แน่นอนว่าพี่แคทกับฝนรวมถึงคนอื่นไม่รู้เรื่องของสององครักษ์แพรแดงบ้าบอของพี่เซคและพี่เอ้เป็นคนรับอาสาจัดการเรื่องนี้เองทั้งหมด)
“ปวดแข้งปวดขาจนกินข้าวไม่อร่อยแถมหน้าผากก็ปวดตุบๆเหมือนมีใครเอากำปั้นมาทุบเลยเว้ย!!!”
...เวลาผ่านไปยิ่งเจ็บไปทั้งตัวตั้งแต่หน้าผากลงไปที่มือลามถึงปลายเท้า...ใช้ยานวดก็พอจะบรรเทาได้บ้างแต่ล้มตัวนอนแล้วไม่อยากลุกขึ้นอีกจริงๆผับผ่าสิและพรุ่งนี้จะเดินได้หรือเปล่ายังเป็นข้อสงสัย!?...ฟังจากที่พี่เอ้บรรยายแล้วให้ชวนอึ้งเนื่องจากเจ้าคนที่ “สิง”
ร่างของผมเล่นงานไอ้สองตัวนั่นหนักโดยเฉพาะนายสมพลที่ถูกถีบตกลงไปในน้ำแล้วพี่เอ้ยังสำทับอีกว่าผมตามไปนั่งยองๆที่ริมตลิ่งกวักมือเรียกพลางหัวเราะเยาะหยัน...
(เราไม่ได้เป็นคนกวนอวัยวะเบื้องล่างขนาดนั้นสักหน่อย!!)
“บอล”
“พี่แคทเหรอ?”
“เข้าไปได้มั้ย?”
“ครับ...ประตูไม่ล็อค”
“...เข้าไปนะ”
“.......................................................”
“เป็นอะไรกันแน่?”
“หือ?”
“นึกหรือว่าพี่จะดูไม่ออก?...ร่างกายเธอเป็นอะไรบอกมาอย่าปิดบัง!”
“มัน...เจ็บทั้งตัว”
“เจ็บยังไง?”
“ระบมไปหมดครับ”
“ไปหักโหมออกกำลังกายมาหรือ?”
“เอ่อ--”
(จะพูดแบบนั้นก็ไม่ใช่ซะทีเดียว)
“ขอดูซิ”
“อูย!!”
“นี่!...พี่แค่แตะหน่อยเดียวเอง...จะอ่อนแอเกินไปละ!!”
“ผมเจ็บจริงๆนะ~~”
“อืม--...รอยฟกช้ำก็ไม่เห็นจะมีเลยสักที่”
“แต่ผมไม่ได้สำออยหรอกครับ”
“ก็ยังไม่มีใครว่าอะไร?”
(เมื่อกี้ว่าเราอ่อนแอ)
“อย่าทำอะไรเกินตัว”
“ผมเปล่า...”
“เงียบ!”
...พี่แคทเอานิ้วแตะริมฝีปากตัวเองก่อนจะเอามาแตะที่ริมฝีปากผม...ภายนอกอาจดูไม่ค่อยสนใจแต่ภายในผมรู้ดีว่าเธอเป็นห่วงมาก...สาวเจ้าจะถามตลอดว่าจับตรงนี้เป็นยังไงเจ็บหรือเปล่า?...
“อะไรนะ?...ทายาแต่ไม่นวด”
“ครับ”
“เธอนี่!!...ทายาแล้วไม่นวดคลึงมันจะได้ผลเหรอจ๊า~~”
“มันปวดจนผมไม่กล้า”
“ใจเสาะไปได้...เอ้าๆๆ...พี่นวดให้”
“คร้าบ~~”
“....................................................”
(เจ็บแต่ก็มีความสุขวุ้ย!!!)
“ตรงนี้ปวดมากมั้ย”
“พอไหวครับ”
“ถ้าหนักมือไปก็บอก”
“พี่แคทใจดีจัง”
“แล้วชอบให้ใจดีหรือเปล่าล่ะ?”
“ชอบสิจ๊ะ”
“มือนี่อีก...ไหนบอกว่าปวด?”
“อื๋อ?”
“อย่าจับก้นพี่!!...ยังจะซน”
“คืนนี้นอนกับผมนะ”
“คนบ้า~~...เดี๋ยวคุณพ่อรู้”
“ไม่มีใครบอกแล้วใครจะรู้?”
“ฝนนี่แหละจะบอก”
(อ้าว!?...มาอยู่ในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่?)
“ถ้าไม่ให้เค้านอนด้วย”
“โอเคๆ...ไม่มีปัญหาคืนนี้ควบสอง...โอ๊ว!!!”
“เป็นอะไรน่ะตัวเอง?”
“ดูท่าคืนนี้บอลคงจะอดเล่นซนล่ะนะ ”
(กรรมจริงๆเลยกูเอ๊ย!!!)
“ว้า!!...น่าเสียดายจัง~~”
“แต่ก็ดี...พรุ่งนี้ก็จะกลับไปเรียนแล้ว...เก็บแรงไว้ดีกว่า”
“แล้วหากผมฟื้นคืนชีพกลางดึกพี่แคทจะว่ายังไง?”
“นั่นมันก็เรื่องของบอล”
“ไหงงั้น?”
(ออกจากห้องไปซะแล้ว~~)
“ตัวเองไม่ต้องกลัวหรอก...เจ๊มาแน่ๆ”
“จริงๆเรอะ?”
“อื้อ!...ถ้าไม่จริงคืนนี้ฝนให้บอลปล้ำทั้งคืนเล้ย!!”
...แต่ผมจะมีแรงปล้ำไหวหรือเปล่าเนี่ยสิปัญหา!!...เวรแท้ๆ...อาหารอร่อยรสเด็ดอยู่ตรงหน้าแต่ช้อนส้อมเสือกจะไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน...ฝนอยู่คลอเคลียกับผมตั้งแต่หัวค่ำจนเกือบสี่ทุ่มจึงนอนและพอปิดไฟได้สักครู่พี่แคทก็เปิดประตูเข้ามาจริงๆ...
(อยากจะบ้าตาย!!!!...สองพี่น้องสุดสวยนอนขนาบซ้ายขวาแต่ร่างกายปวดชาจนขยับแทบจะไม่ได้...แบบนี้เขาเรียก
“เสียเชิง” ให้ผู้คนเอาไปเย้ยหยัน)
..............................................................................................................................................
“พื้นหินทอดยาวขนานไปกับเวิ้งน้ำกว้างใหญ่และดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ที่ลอยเด่นตรงข้ามกัน...เราเคยเห็นมาก่อนนี่?”
...ความทรงจำค่อยๆไหลเข้ามาในหัว...ใช่...แล้วผมก็ได้เจอกับสองเด็กหญิงฝาแฝดที่คนหนึ่งผมขาวยาวสลวยและอีกคนผมสั้นดำขลับ...
“ทำอย่างนี้นะ”
“ทำอย่างนี้”
“!?”
(อยู่ตรงนั้นไง)
“รวมจิตเป็นหนึ่งเดียว”
“รวมจิตเป็นหนึ่งไม่มีสอง”
“นี่...พวกหนูทำอะไรกันจ๊ะ?”
“....................................................”
(ไม่ถอยหนีเหมือนครั้งที่แล้วแต่ก็ไม่ได้สนใจถึงการมาของเราสักนิดทั้งที่จะเข้าใกล้อีกไม่เกินห้าก้าวล่ะ)
“....................................................”
(สองแฝดทำอะไรอยู่?...วาดมือสองข้างวนไปมาในอากาศและก็พร้อมเพรียงกันดีซะด้วย...อืม--...ดูไปก็เหมือนกับการร่ายรำเหมือนกัน)
“น่ารักดีจัง...อื๋อ?”
(“มาเล่นทายปัญหากัน”
“ทายปัญหากัน”
“หากตอบถูกหนูจะพูดในสิ่งที่ท่านต้องการรู้”
“พูดในสิ่งที่ท่านต้องการรู้”
“จะ...จะทายอะไรเหรอ?”
“ระหว่างพวกเราใครคือพี่แล้วใครคือน้อง?”
“ใครคือพี่แล้วใครคือน้อง?”)
“....................................................”
(“ในเมื่อตอบผิดก็ต้องโดนลงโทษ!!!”
“ต้องโดนลงโทษ!!!”
“ฮ้า!?...มะ...มีงี้ด้วย!!!...ไม่เห็นบอกกันก่อนเลยนี่นา?”
“งั้นก็ไม่สนุกสิ”
“ไม่สนุก”)
...ความทรงจำต่างๆยังพรั่งพรูเข้ามาอีก...ใช่แล้ว!!!...เด็กหญิงทั้งสองนี้ชวนผมเล่นทายปัญหาว่าใครคือพี่ใครคือน้องและผมก็ทายผิดจากนั้นพวกเธอจึงบอกจะทำโทษ...
(เฮ้ย!?...เมื่อ...เมื่อกี้ไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั้ย?...เราเห็นดวงตาสีดำมืดของหนูรัศมีผมขาวส่องประกายขึ้นแวบหนึ่งและพอมองไปอีกทาง...ดะ...ดวงตาสีขาวปลอดของหนูรัศมีผมดำก็สว่างวาบขึ้นครั้งหนึ่งเช่นเดียวกัน)
“ท่าจะไม่ดีหนีดีกว่าเรา...ว้าก!!!”
“ฮื่อ!”
“คิก!”
(สองหนูแฝดมาล้อมหน้าล้อมตั้งแต่เมื่อไหร่และเมื่อกี้ยังไม่สนอกสนใจเรานี่นา!?)
“เพราะนึกออกจึงคิดหนี”
“นึกออกจึงคิดหนีเหรอ? ”
“.....................................................”
“กังวลเกินเหตุ”
“กังวลเกินไป”
“ตอนนั้น..พวกหนูจะทำอะไร?”
“นั่นสินะ...จะทำอะไร? ”
“จะทำอะไรหนอ?”
(แล้วเราจะรู้ไหม?)
“ฮิๆๆๆ”
“ฮะๆๆๆ”
...ตอนแรกที่นึกออกผมก็กลัวๆนะแต่ตอนนี้ผ่อนคลายไปเยอะแล้วล่ะอีกอย่างแม้จะมองดวงตาของแม่หนูทั้งสองได้อย่างไม่สนิทใจทว่ากลับรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก...ไม่แน่พวกเธออาจจะเป็น
“ลูกสาว” ของผมกับผู้หญิงคนใดคนหนึ่งก็เป็นได้...อยากจะสัมผัสตัวสองหนูน้อยแต่ไม่กล้ายื่นมือออกไปเพราะเกรงว่าจะถอยหนีกันอีก...
“.....................................................”
“.....................................................”
(จับได้แล้ว!!...ไม่หนีหรือหลบด้วย)
“ทีนี้มายืนคู่กันหน่อยสิจ๊ะ”
“จะรู้อะไร?”
“จะทำอะไร?”
“อือ--...ฝาแฝดกันจริงๆด้วย”
“ก็ใช่สิ”
“ก็ใช่ไง”
“อายุ...เท่าไหร่เหรอ?”
“สิบขวบค่ะ”
“สิบขวบจ้ะ”
“อ๋อ~~...เท่ากันเพราะเป็นฝาแฝดนี่นะ?”
“มาเล่นทายปัญหากัน”
“ทายปัญหากัน”
“อีก...อีกแล้ว...จะทายอะไรเหรอ?”
“ระหว่างพวกเราใครคือพี่แล้วใครคือน้อง?”
“ใครคือพี่แล้วใครคือน้อง?”
(คำถามเหมือนครั้งก่อนนี่!?)
“ตอบได้ไหม?”
“ตอบได้หรือเปล่า?”
...โธ่แม่หนูเอ๊ย!!...ถ้าผมยังตอบผิดก็ไม่สมควรเกิดมาเป็นคนละ...สองแฝดคงคิดว่าผมจำไม่ได้เลยล่ะมั้งถึงถามคำถามเดิม?...ไม่มีทางตอบผิดแน่นอน...
“เอานะ...หนูผมขาวเป็นน้องและหนูผมดำก็เป็นพี่”
“!?”
“!?”
“ฮะๆๆ”
“หัวเราะด้วยความมั่นใจซะจริง”
“ท่าทางมั่นใจมากเลย”
“ผิดแล้ว...หนูเป็นพี่ต่างหาก”
“ผิดล่ะ...หนูเป็นน้องต่างหาก”
(สองหนูน้อยมีสีหน้าค่อนข้างจะขุ่นเคืองต่างจากครั้งที่แล้วที่หัวเราะชอบใจ)
“ในเมื่อตอบผิดก็ต้องโดนลงโทษ!!!”
“ต้องโดนลงโทษ!!!”
“จะลงโทษอะไรก็มาได้เลย”
“เอ๋?”
“อ๋า!”
...ที่จริงผมจงใจตอบผิดเองแหละเพราะอยากแกล้งแม่หนูคืนไปมั่ง...ถามว่ากลัวแสงจากดวงตาของพวกเธอมั้ย?...ก็หวั่นๆเหมือนกันแต่ผมเชื่อว่าสองเด็กแฝดต้องไม่มีเจตนาร้ายแน่เพราะถ้ามีคงลงมือไปนานแล้ว...
“เจ้าเล่ห์นัก”
“เจ้าเล่ห์จริงๆ”
“ตัวเล็กน่ากอดเหลือเกิน”
“จะไม่ยกโทษให้แน่”
“จะไม่ยกโทษให้เลย”
“งั้นพี่ต้องทำยังไงถึงจะยกโทษ?”
(พูดจบเด็กหญิงผมขาวก็ยกแขนสองข้างขึ้น...ที่แท้จะให้อุ้มนี่เอง...เรื่องเล็กมาก!!!)
“น่ารักจังเลย...อื๋อ?”
(หนูผมดำดึงเสื้อเรา...ถึงจะไม่พูดออกมาแต่ก็รู้ว่าเธออยากให้อุ้มเช่นกัน...ช่วยไม่ได้)
“งั้นขอวางหนูก่อนนะ...โอ๊ย!!”
“...................................................”
(ทีนี้ยัยหนูผมขาวหน้าบึ้งตึงเชียววุ้ยแถมเหยียบเท้าเราอีก)
“เอาไงดีเนี่ย?...ถ้าอย่างงั้น...”
“ฮืออออออออ”
“!!!”
...วุ่นแล้วไง~~...ผมอุ้มหนูน้อยผมขาวไม่ทันจะเรียบร้อยหนูน้อยผมดำก็ดึงเสื้อกับมองด้วยแววตาอ้อนวอนด้วยความใจอ่อนจึงวางหนูผมขาวแล้วอุ้มหนูผมดำบ้างแต่หนูผมขาวกลับตีหน้าบึ้งเหยียบเท้าผม!!...ทีนี้วางหนูผมดำแล้วจัดแจงจะอุ้มหนูผมขาวอีกครั้งกลายเป็นว่าพอเท้าแตะพื้นหนูผมดำก็ร้องให้เสียงดังลั่น!?...
“พี่จะอุ้มพี่หนูก่อนไงจ๊ะ”
“ฮืออออออออออออ”
“โอ๋ๆๆ...หยุดร้องซะนะ...เด็กดีๆ”
(แต่ปลอบโยนยังไงยัยหนูก็ไม่ยอมหยุด)
“ไม่เคยเลี้ยงเด็กซะด้วยสิเรา...เอาไงดี?”
“................................................”
“หนูจ๋า~~...หนูเป็นพี่นะ...ยังไงก็...”
“ฮึ!!!”
“อุ๊ย!!”
(หนูน้องผมขาวยิ่งชักสีหน้าบึ้งตึงไปกันใหญ่ทำเอาเราสะดุ้งเชียว...เหมือน...เวลาโกรธเหมือนพี่แคทมากนะเนี่ย!?)
“อ่ะก็ได้!!...พี่จะอุ้มหนูพร้อมๆกัน”
“!?”
“!?”
(พอได้ยินแบบนี้สองฝาแฝดก็หันขวับมามองเราเป็นตาเดียว...ต้องทำให้ได้ด้วยนะนี่ไม่งั้นขายหน้าตาย!!!)
“มะ...นั่งบนแขนพี่เลยหนูๆจ๋า~~”
“..................................................”
(ข้างซ้ายหนูผมขาวข้างขวาหนูผมดำ)
“อึ๊บ!!”
“..................................................”
“อ้า!!...พี่ทำได้แล้วเห็นไหมจ๊ะ?...อุ้มหนูๆพร้อมกันเล้ย!!!...ฮ่าๆๆๆๆ”
“ฮิๆๆๆๆๆ”
“คิกๆๆๆๆๆ”
...ผมนี่ก็ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากไปได้!!...มันไม่เห็นจะยากตรงไหนเล้ยก็แค่อุ้มพร้อมกันสองคนก็สิ้นเรื่อง!!...เห็นมะสองแฝดหัวเราะเอิ้กอ้ากกันสนุกเชียว...แต่...แต่อุ้มเด็กวัยสิบขวบตั้งสองคนจะหนักไปหน่อยมั้ย?...แล้ว “แม่” ของหนูน้อยทั้งสองหายไปไหนล่ะ?...
(อยากรู้ว่าเป็นใครและจะใช่ “เมีย” ของเราหรือเปล่า?)
“แม่ไม่มา”
“ไม่มาหรอก”
“แล้วแม่พวกหนูเป็นใครจ๊ะ?”
“แล้วพ่อหนูเป็นใคร?”
“พ่อหนูเป็นใครหรือ?”
(เอ๊ะ?)
(อยากรู้ว่าเป็นใครและจะใช่ “เมีย” ของเราหรือเปล่า?)
“แม่ไม่มา”
“ไม่มาหรอก”
“แล้วแม่พวกหนูเป็นใครจ๊ะ?”
“แล้วพ่อหนูเป็นใคร?”
“พ่อหนูเป็นใครหรือ?”
(เอ๊ะ?)
“..................................................”
“..................................................”
“หรือว่า...พี่จะเป็น...”
“ถ้าไม่ใช่พ่อ...หนูก็ไม่มีทางให้อุ้มหรอก”
“ไม่ใช่พ่อก็ไม่มีทางให้อุ้มแน่”
(นั่นไงเล่า!!!...เป็นลูกของเราจริงๆด้วย)
“พ่อ...พ่อดีใจเหลือเกินลูก!!!!...แล้วทำไมไม่บอกกันแต่แรกปล่อยให้พ่อกลัวอยู่ได้?”
“บอกก็ไม่สนุกสิ”
“ไม่สนุก”
“ใช่เรื่องสนุกตรงไหนจ๊ะ?...แม่หนูน้อยของพ่อเนี่ยซนจริงๆ...ขอหอมแก้มสักทีซิ”
“ฮื่อ!!”
“ไม่ลืมหรอกจ้า~~”
(จะหอมแก้มหรือทำอะไรให้แค่คนเดียวไม่ได้ต้องเสมอภาคกันไม่งั้นจะโดนหนูน้อยผมดำหยิกหูอย่างที่เราเจอเมื่อกี้)
“พ่อ...หนูหิวค่ะ”
“หนูหิวจ้ะพ่อ”
(แล้วเราจะไปหาอะไรให้ลูกๆกินและก็จากที่ไหนล่ะ?)
“ไม่ไกลจากนี้มีต้นพุทราอยู่”
“พุทราหวานอร่อยมาก”
“ได้เลย!!...พ่อจะพาไปเอง”
...แรกๆก็หนักนะแต่พอนานเข้ากลับรู้สึกเบาอย่างน่าประหลาด...อย่างนี้ทั้งวันก็ไม่มีทางเมื่อยล้า...เออ!!...ผมยังไม่รู้ชื่อของแม่หนูน่ารักทั้งสองเลย...
“ก็ชื่อรัศมีไงคะ”
“ชื่อรัศมีไงจ๊ะ”
“พ่อว่าเรียกรัศมีดำกับรัศมีขาวไม่ค่อยจะเข้าทีเท่าไหร่นะ?”
“เรียกหนูว่าหนึ่ง”
“เรียกหนูว่าสอง”
“หนูหนึ่งกับหนูสอง...ใครตั้งให้จ๊ะ?”
“พ่อ”
“แม่”
(มีงี้ด้วยวุ้ย!!)
“แล้วแม่ของพวกหนูคือ...”
“..................................................”
“..................................................”
“ชื่อสุรีย์พรรณ...อ้าว!?”
(หนูหนึ่งกับหนูสองกระโดดออกจากอ้อมแขนไปอยู่ที่พื้นทันทีพลางมองหน้า...เราทำให้ทั้งสองไม่พอใจอะไรหรือเปล่าหว่า?)
“เอ่อ--...ถ้าพ่อพูดอะไร...”
“ถึงแล้ว”
“ถึงล่ะพ่อ”
“?”
“นั่น...ต้นพุทรา”
“นั่น...ผลพุทรา”
....โอ้โฮ!?...สาบานนะว่านี่คือต้นพุทราทำไมถึงได้สูงใหญ่ขนาดนั้น?...นี่ผมต้องเงยหน้าจนคอตั้งฉากถึงจะเห็นผลของมันแล้วจะปีนขึ้นไปเก็บได้หรือเปล่านี่?...
(แต่เอาวะ!!!...ในเมื่อลูกๆอยากกิน...จะให้เสียชื่อพ่อได้ยังไงกัน?)
“ไม่ได้บอกจะให้พ่อปีนขึ้นไปสักหน่อย”
“ไม่ได้บอกสักหน่อย”
“อ้าว!?...แล้วจะได้ลูกพุทรามายังไงถ้าไม่ปีน?...ตรงนี้ไม้ยาวๆก็ไม่มี”
“มีผู้ที่จะช่วยเราได้”
“ช่วยเราได้แน่”
“ไหนจ๊ะ?”
“น้องช้าง”
“มาช่วยเราที”
“!?”
“มาแล้วล่ะ”
“มาแล้วนะ”
...โอ้โห!!!!...แล้วนี่ก็ช้างอะไรทำไมตัวใหญ่มหึมาขนาดนี้แถมงาก็แหลมงอนยาวเฟื้อย!?...ผมเคยเห็นช้างตัวเป็นๆเมื่อตอนไปเที่ยวที่ลำปางสมัยเรียนมัธยมต้นแต่เจ้าตัวที่กำลังเดินมาใกล้นี่ใหญ่กว่าตั้งสี่ห้าเท่าได้มั้ง?...ก้าวเดินแต่ล่ะทีพื้นกระเทือนมาถึงตรงที่ผมยืนอยู่ทีเดียว...
“พวกหนูกับพ่ออยากกินพุทรา...น้องช่วยทีสิ”
“ช่วยทีนะน้องช้าง”
“นะ...น้องเหรอ?”
““ใช่...เป็นน้อง”
“น้องของเรา”
“...............................................”
“พ่อถอยออกมาห่างๆ”
“ห่างกว่านี้”
“อยู่ใกล้หนู
“อย่าออกห่างจากหนูนะ”
“จะโค่นต้นหรือเปล่า?”
“ไม่ค่ะ”
“ไม่จ้ะ”
“แล้วจะ...เอ้ย!!...อะ...เอาเท้าเตะเรอะ?”
(ช้างตัวนั้นชูงวงพลางแผดเสียงร้องดังกึกก้องก่อนจะยกเท้าเตะต้นพุทราจนแผ่นดินถึงกับสะเทือนเลื่อนลั่นชนิดที่เราเกือบยืนไม่อยู่แน่ะ!!!...ทว่าหนูหนึ่งกับหนูสองกลับไม่แสดงอาการตื่นตระหนกอะไรทั้งสิ้น)
“หล่นมาเยอะแยะเลย”
“เยอะแยะเลยๆ”
...แค่เตะครั้งเดียวผลพุทราก็ตกลงมาราวกับห่าฝน...ผลของมันมีสีแดงสดซึ่งนับว่าแปลกประหลาดกว่าที่เคยเจอ...สองเด็กหญิงต่างดีอกดีใจรีบช่วยกันเก็บมากองรวมกันแต่พอผมจะช่วยเก็บบ้างผลพุทรากลับอันตรธานหายไป!?...
“ให้หนูเก็บเอง”
“หนูเก็บเองนะ”
(ช้างตัวเมื่อกี้เดินหายเข้าไปในป่าแล้ว...นี่ต้องไม่ใช่ช้างธรรมดาแต่น่าจะเป็นถึงระดับหัวหน้าฝูง...ไม่สิ...เรียกว่าพญาช้างล่ะมั้ง?...อื้อฮือ...เรียกให้มาเตะต้นพุทราเพื่อเอาลูกมากิน...ลูกสาวเรานี่ไม่ธรรมดา)
“มากินกัน”
“มากินเถอะ”
“เออ--...มีผลสีเขียวด้วยแบบนี้พ่อเคยเห็นแต่ไอ้ผลสีแดงนี่...ไม่เคยเห็นเลย”
“อ้าปากจ้ะ”
(หนูสองป้อนพุทราสีเขียวใส่ปาก...ไม่...ไม่รู้รสและไม่รู้สึกว่าได้กินเลยสักนิด...เหมือนกับข้าวสีเหลืองทองที่หนูรินเคยป้อนให้กิน)
“พ่อ”
“จ้ะๆ”
(ทีนี้หนูหนึ่งป้อนพุทราสีแดงให้บ้าง...เหมือนกัน...ไม่รู้รสชาติแต่อย่างใดทั้งสิ้น)
“อย่ากังวลไป”
“อย่าวิตกเลย”
“มันจะไม่สูญเปล่า”
“ไม่สูญเปล่าแน่”
“ขอให้หายเจ็บ”
“ขอให้หายปวด”
(อวยพรเราหรือ?...รู้สึกตื้นตันในหัวอก)
“กาลเวลาจงอยู่เคียงข้าง”
“ห้วงมิติจงอยู่ใกล้ชิด”
“...................................................”
“ร้อนแรงดังแสงแห่งดวงตะวัน”
“เยือกเย็นดังแสงแห่งดวงจันทรา”
“...................................................”
...สองหนูน้อยป้อนพุทราถึงปากผมพร้อมกับกล่าวคำอวยพรไปด้วยแต่หลังๆไม่ใช่ภาษาที่ผมเคยได้ยินเลยคือฟังๆไปก็คล้ายเป็นบทสวดอะไรสักอย่างน่ะ...
“พ่อกลับเถอะ”
“ถึงเวลาแล้ว”
“แต่พ่ออยากอยู่กับพวกหนูนานกว่านี้”
“ทำไมคะ?”
“ทำไมจ๊ะ?”
“ไม่มีคำตอบอื่นนอกจากพ่ออยากจะรู้จักลูกสาวทั้งสองให้มากกว่านี้น่ะสิ”
“แต่ก่อนหน้านั้นพ่อควรจะรู้จักแม่เสียก่อน”
“รู้จักแม่เสียก่อนจะรู้จักพวกหนู”
“แล้วแม่หนูเป็นใคร?”
“ต้องรู้ด้วยตัวเอง”
“ต้องทราบด้วยตัวเอง”
“......................................................”
.............................................................................................................................................
“เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่กลางวันแต่ฉันเพิ่งจะมารู้กลางดึกเนี่ยนะ?”
“......................................................”
“สองคนนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
“บาดเจ็บสาหัสเจ้าค่ะ”
“ฝีมือเอกคเชนทร์?”
“เจ้าค่ะ”
“ไม่อยากเชื่อ...มันเล่นงานสององครักษ์แพรแดงฝีมือดีของฉันได้ยังไง?...มันเก่งขึ้นได้อย่างไร?...แล้วที่สำคัญขาก็เพิ่งจะถอดเฝือกมาอีกต่างหาก”
“ไหมก็มิเข้าใจเจ้าค่ะ”
“เอาล่ะ...เธอไปนอนเถอะ”
“......................................................”
“คงจะต้องให้เล่าแล้วล่ะนะว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นยังไงบ้าง?...น้องอ้อ”
“เจ้าคะ?”
“แต่พี่สงสัยน่ะ”
“?”
“เอกคเชนทร์มันตัดหูสองคนนั้นไปด้วยหรือ?”
“มิได้เจ้าค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น...อื๋อ?”
“....................................................”
“นี่มัน?...อ้อ!!!...เธอเป็นคน...”
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ...น้องเป็นผู้ที่ตัดหูพวกมันเอง”
“ทะ...ทำไมกัน?...แล้วก็เอามาให้ตอนนี้มันต่อคืนไม่ได้แล้ว!!!!...น้องจะไม่อำมหิตเกินไปหน่อยเหรอ?”
“เพราะพวกมันบังอาจ...มายุ่งกับเขาแลยังจะทำร้าย...ด้วย”
“!!!”
“คิกๆๆ”
“อุ๊ก!!...นี่...นี่น้องถึงกับเอามีดจ่อคอพี่!?...คิดจะเปลี่ยนใจไปเข้าข้างเจ้าเคี่ยมนั่นอีกคนรึ?”
“หาได้เป็นเช่นนั้นไม่เจ้าค่ะ...อ้อยังอยู่ฝ่ายท่านพี่ศรเพทายเช่นเดิม”
“อ้อ...”
“น้องตั้งใจจะตัดหัวเสียบประจานเสียด้วยซ้ำแต่ตัดหูไปคนละข้างก็ถือว่าเมตตาพวกมันมากแล้วเจ้าค่ะ”
“.....................................................”
“ต่อไปท่านพี่ศรเพทายน่าจะให้ความยำเกรงท่านเอกคเชนทร์บ้างก็จะดีนะเจ้าคะเพราะน้องคิดว่า...เขามิใช่ธรรมดาเลย”
“ไม่ธรรมดายังไง?”
“อย่างน้อยในสายตาของน้อง...เขาก็...เป็น...สัตว์ป่าเจ้าค่ะ”
“สัตว์ป่า?”
....................................................................................................................................
...ตัวอย่างในตอนหน้า...ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 92 “แขกผู้มาเยือนที่คาดไม่ถึง!?”
“พี่เซคเคยพูดว่าผมมันก็เปรียบเสมือนลูกไก่ในกำมือ...จะบีบก็ตายจะคลายก็รอดใช่มั้ย?”
“ใช่...แล้วยังไง?”
“แต่สำหรับผม...พี่ก็เป็นได้แค่กบที่กำลังเผชิญหน้ากับงูพิษเช่นผม...ไม่มีทางรอดนอกจากถูกฉกกัดจนตาย”
....................................................
“ฉันขอบอกตรงๆนะว่านายไม่จำเป็นต้องฝึกอะไรแบบนี้...นายทำหน้าที่เป็นสามีของฉันกับเลี้ยงลูกก็พอ”
“อ๋อมพูดอย่างนี้ทำร้ายจิตใจฉันมากเลยนะ”
“แต่นายต้องฟังและยอมรับ...เขี้ยวพยัคฆ์มีผลข้างเคียงที่อันตรายซึ่งถ้าไม่จำเป็นจริงๆฉันก็จะไม่ใช้”
....................................................
“นี่!!...คุณเข้ามาในห้องดิฉันได้อย่างไรกันคะ?”
“จะด้วยวิธีใดนั้นหาใช่ประเด็นสำคัญ...ที่เรามาในวันนี้ก็เพราะมีเรื่องเร่งด่วนจะสนทนากับเจ้า...ศกุนตลา”
“แต่ดิฉันไม่มีอะไรจะพูดด้วย...เชิญกลับไปซะเถอะค่ะ...คุณหนูศรมุกดา”
...........................................................................................................................
https://en-gb.facebook.com/people/Goldsun-Sungold/100012167342248ไปแจมกันได้นะครับ
ปากพางานเข้า เสียคะแนนนิยมไปมากโขเลยบอล ไปด่าคนที่มีอำนาจสูงสุด ในหมู่บ้านตอนนี้
ตอบลบมาแล้วๆเปิดตอนมาบอลก็วอลหาบาทาเลย แต่มันต้องมีอะไรแฝงแน่ๆ
ตอบลบว้าว มาเเล้วๆ ขอบคุณครับ
ตอบลบผมว่านะในอนาคตเซคก็คงเป็นเมียของบอลแน่และอาจให้กำเนิดลูกด้วยกันเหมือนพี่น้องคนอื่นๆ
ตอบลบที่ทำเหมือนเกลียดแต่ข้างในใจอาจรักบอล
มากๆก็ได้
คงเป็นการทดสอบความเป็นผู้นำในตัวของบอลมากกว่า
ขอบพระคุณท่านผู้แต่งอย่างสูงคับที่สละเวลาแต่งนิยายดีๆให้ได้อ่าน
เมือไหล่พระเอกจะโชว์สกิลบ้างเนียต้องห้เมียออกหน้าตลอดเลย
ตอบลบมาเร็วดีครับ ยังมีให้ลุ้นต่อ ขอบคณครับ
ตอบลบยังดีที่มีฝนกับแคทอยู่ แต่ถ้าถึงแม้ว่าบอลจะอยู่คนเดียวยังไง ถึงจะมีปากเสียงหรือประชดประชันกันแค่ไหน แต่ยังไง เซคก็ไม่ทำร้ายบอลถึงชีวิตแน่ แล้วก็ไม่น่าจะทำให้เลือดตกยางออกด้วยแน่ (แต่บางครั้งก็ไม่แน่นะ)
ตอบลบต่อให้ไม่มีฝนกับแคท ตาบอลเรายังมี กุมารทอง ครับ ไม่ต้องห่วงว่าจะมีอันตราย
ตอบลบหัสดินเทวนาถนี่ลูกพี่เซคแน่นอน....
ตอบลบคิดเหมือนกันเลยคับผม
ลบส่วนราชหงส์สุรัมภาก็เป็นลูกของม่อน
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบปากจัด ปากไว นี่แหละคือตัวตนของพระเอกเรา
ตอบลบได้ต่อรอบอลอัพเลเวล 555 ขนาดยังไม่อัพยังปากดีขนาดนี้!!!
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบเดาเรื่องต่างๆไม่ถูกเลยครับ
ตอบลบได้แต่คอยติดตามและเป็นกำลังใจครับ
ขอบคุณครับ
แล้วก็ถึงเวลาโชว์สกิล(ลูกช่วย)ได้สุดยอด ขอบคุณครับ
ตอบลบนี่สินะ สกิลของบอล ลูกๆ เป็นเทพทั้งนั้น แต่ ขอให้พ่อทำด้วยตัวเองได้ไหมลูก หรือพาไปฝึกบนสวรรค์ที่เวลาเร้วกว่าบนโลกก้ได้นะ บอลอัพเวล
ตอบลบขอบคุณครับท่าน!!
นี่สินะ สกิลของบอล ลูกๆ เป็นเทพทั้งนั้น แต่ ขอให้พ่อทำด้วยตัวเองได้ไหมลูก หรือพาไปฝึกบนสวรรค์ที่เวลาเร้วกว่าบนโลกก้ได้นะ บอลอัพเวล
ตอบลบขอบคุณครับท่าน!!
ลูกชายรึป่าวนะ ดีไม่ดีจะเป็นลูกกับเซคด้วยนี่สิ
ตอบลบลูกชายรึป่าวนะ ดีไม่ดีจะเป็นลูกกับเซคด้วยนี่สิ
ตอบลบตอนนี้สะใจมาก...แต่เมื่อไหร่จะเก่งด้วยตัวเองโดยลูกๆไม่ต้องช่วย...
ตอบลบตอนนี้สะใจมาก...แต่เมื่อไหร่จะเก่งด้วยตัวเองโดยลูกๆไม่ต้องช่วย...
ตอบลบสุดยอดอยากให้เก่งเร็วจัง
ตอบลบอยากให้เจ้าบอลเก่งการต่อสู้บ้าง
ตอบลบจะได้ไม่ดูหน่อมแน้ม...อิอิอิ
ขอบคุณครับ
แล้วนี้มันจบหรือยังอะผมชอบๆๆมากๆๆอ่านมากมาวันแบบไม่พักเลย
ตอบลบยิ่งอ่านยิ่งมันส์
ลบสุดยอดเลยเป็นพลังจากอะไรนะจากลูกๆช่วยหรือจิตของบอลที่บอลมีจี้ประจำตัวเป็นงาช้างใช่ป่ะน่าสนใจสนุกมากเลย เอาคืนซะมั้งเอะอะอะไรก็โดนทำร้ายได้เอาคืนก็เท่เลยโหดสาสเลย 😁😁
ตอบลบอยากรู้จังว่าบอลจะเก่งขึ้นได้ไง และใครเป็นคนสอน
ตอบลบที่เหลือจะมาเมื่อใดน้อ ลุ้นนนนนน
ตอบลบนี่สินะครับ ที่แฝงอยู่ในตัวของเอกคเชนทร์
ตอบลบสนุกตื่นเต้นมากครับ
ขอบคุณครับ
สนุกมากครับ..ขอบคุณครับ
ตอบลบสนุกมากครับ..ขอบคุณครับ
ตอบลบนายบอล มีเข้าโหมดลุยแหลกด้วย
ตอบลบถึงแม้จะโดน (อาจจะเป็นลูกๆในอนาคต) เข้าสิง ก็เถอะ
ทายาทสาวจะมีตะวันเดือด
ตอบลบทายาทชายอาการคลุ้มคลั่งแบบนี้เรียกว่าอะไรครับ? (แม้จะโดนสิงก็เถอะ)
“ตะวันเลือด” น่าจะคู่กับ สุริยาเดือด นะ
ลบชื่อลูกๆของบอล บอกตรงๆ ผมงงมาก อ้านหลายรอบยังงงอยู่เลย เห้อ
ตอบลบติดตามตลอดครับ เป็นกำลังใจให้ท่าน adslman เสมอครับ
ตอบลบชอบ ชอบ มารออ่านทุกวันครับ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบขอบคุณคับ เป็นคนที่ตามผลงานเหมือนกัน ยอมรับเปิดดูทุกวัน ว่ามาอัปให้อ่านเพิ่มหรือป่าว ขอบคุณคับ
ตอบลบอื้อ หือ เริ่มเห็นเค้าราง ความเก่ง และโกงของเจ้าบอลซะแล้ว จัดว่าอยากให้มาวันละตอนรึเกิน 5555 โอยติดหนึบ หนุบหนับเหลือเกิน กุนมีบทแล้วในตอนหน้าเย้คิดถึงนาง
ตอบลบhttps://www.facebook.com/profile.php?id=100012167342248
ลบไม่ทราบว่าได้เข้าไปหรือยัง ถ้ายังก็ขอเชิญนะครับ
โอ้สนุกที่สุดเลย และ อ้อกับ เอ้ จะคนเดียวกันซะด้วย ตอนหน้าก็ลุ้นสุดๆ
ตอบลบอยากอ่านมากมายเลยครับตอนนี้ แต่ติดอยู่ที่กำลังทำงาน อยากอ่านรวดเดียวถึงตอนที่ ม่อนไปหากุนในตอนหน้าเลยครับ จะมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นอีกบ้างน่าติดตามสุดๆ
ตอบลบดีใจจังเห็นชื่อศกุนตลามาละ ว่าแต่จะเป็นไงนะ จะมีเรื่องไรอีกป่ะนี่ อยากให้ได้กันนิ
ตอบลบบอลจะเก่งเพราะมีตัวข่วยดีแบบนี้นี้เอง ลูกๆคอยช่วยพ่อแบบนี้บอลไม่ต้องกลัวใครละ
ตอบลบเงื่อนงำค่อยๆคลีคลายออกมาแล้วครับ
ตอบลบแต่ว่าความซับซ้อนก็ยังคงอยู่
น่าติดตามมากครับ
ตอบลบน่าติดตามมากครับ
ตอบลบสนุกเช่นเคยครับท่าน
ตอบลบขอบคุณครับ
อ่านบทพระนาง กับลูกๆของบอลแล้วอมยิ้มตามเลยครับ
ตอบลบสนุกเหมือนเดิมครับยากให้ลงไวๆจัง
ตอบลบสนุกเหมือนเดิมครับยากให้ลงไวๆจัง
ตอบลบชอบตอนบอลอยู่กับลูกมาก
ตอบลบชอบตอนบอลอยู่กับลูกมาก
ตอบลบชอบตอนลุกๆๆอ้อนพ่อบอลมากครับน่ารักดี
ตอบลบเย้ ตอนหน้า กุน กลับมาแล้ว บทหายไปนานแสนคิดถึง
ตอบลบขอเดานะว่า สองแฝดเป็นลูกของม่อนรึอ้อแน่ๆ ติดตามตลอดครับ นานๆมาเม้นทีนึง เป็นกำลังใจให้ครับ
ตอบลบขอเดานะว่า สองแฝดเป็นลูกของม่อนรึอ้อแน่ๆ ติดตามตลอดครับ นานๆมาเม้นทีนึง เป็นกำลังใจให้ครับ
ตอบลบแต่งต่อไหมครับอยากอ่าน
ตอบลบบนสวรรค์มีอะไรที่กินแล้วเพิ่มพลังกับประสาทสัมผัสบ้างไหม แบบในนิยายกำลังภายในที่กินพวก ตังไล้ เห็ด โสม ฯลฯ
ตอบลบขอบคุณคร้าบบบ
ตอบลบขอบคุณมากๆนะครับ ติดตามตลอด เป็นกำลังใจให้ครับ✌✌
ตอบลบผมว่าบอลน่าจะต้องมีพลังแผง อยู่ในตัวบ้างละครับ ดีไม่ดี อาจจะโหด กว่าทุกคนด้วยซ้ำไป เพราะไม่งั้นคงจะเป็น ผู้นำไม่ได้ แน่ (เครื่องประดับของบอลจะมีอะไรเกี่ยวกับพลังในตัวไมนะ)
ตอบลบอยากให้บอลเก่งๆครับ
ตอบลบ