ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 104 “ภารกิจเสี่ยงชีวิต!!”
“ฉันรู้เรื่องหมดแล้ว”
“...แล้วยังไง?”
“ตอนนั้นที่เข้าไปในป่าเธอสัญญาอะไรกับพี่ม่อนบ้าง?”
“ลืม”
“อ๋อม”
“หนวกหู!!...ฉันไม่อยากจำ...ก็ไหนว่ารู้หมดแล้วจะมาถามทำไมอีก?”
“จะบอกให้มั้ยว่าเรื่องนี้ใครผิดใครถูก?”
“ใคร?”
“ทั้งคู่น่ะแหละ”
“หา!?...นายต้องประสาทกลับไปแล้วแน่ๆ...เจ้าเอ้ไม่ได้บอกรึว่ายัยซกมกแอบจิตนั่นมันทิ้งฉันไว้ในป่า?”
“บอกสิ”
“งั้นจะว่าฉันผิดได้ไง?”
“ผิดที่ไม่ยอมปรับความเข้าใจกันไงเล่า”
“ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นในเมื่อศรมุกดาเป็นคนผิด?...มันสัญญาว่าจะไม่...จะไม่ทอดทิ้งฉันและสัญญาว่าจะพาคนมาช่วยแต่แล้ว...มันก็หนีเอาตัวรอดไปคนเดียว...ความรู้สึกที่ต้องอยู่ในป่าทึบไม่รู้ว่าทางออกอยู่ที่ไหนและจะโดนสัตว์ป่าคาบไปกินตอนไหนหรือต้องอดตายอยู่ในนั้นกว่าคนจะไปพบก็กลายเป็นศพ...นายไม่รู้หรอกว่าฉันต้องนอนฝันร้ายเป็นปีๆ”
“...เธอไม่คิดบ้างหรือว่าพี่ม่อนก็อาจจะหลงป่าเหมือนกัน?”
“ยัยนั่นหลงป่า...เหอะ!!...หลายคนก็พูด”
“อ้าวแล้ว?”
“แต่ฉันไม่เคยได้ยินประโยคนี้จากปากมัน...ถ้านี่คือความจริงทำไมไม่บอกกับทุกคนไปซะ?”
“............................................................”
“แสดงว่าศรมุกดาไม่ได้หลงป่าแต่มันตั้งใจทิ้งฉันเพื่อหนีเอาตัวรอด...นายรู้มั้ยว่าตาแก่ไปพบมันใกล้จะถึงปากทางออกจากป่าอีกไม่กี่ร้อยเมตรเอง...นายฟังแล้วจะคิดยังไงดี?”
“...........................................................”
“แต่ในขณะที่มีคนไปพบฉันอยู่ห่างออกหลายไปกิโลเมตร...โชคดีที่เจอลำธารฉันจึงได้ดื่มน้ำประทังชีวิตและก็พยายามเดินตามลำธารไปเรื่อยๆเพื่อความหวังที่จะได้พบบ้านคนแต่สุดท้ายฉันก็หมดแรงอยู่ริมลำธารนั่นแหละ...ฮึ!!...เพราะฉันอ่อนแอเกินไปไงถึงได้เชื่อฟังยัยนั่นไปเสียทุกอย่าง”
“ฉะนั้นเธอจึงเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เข้มแข็งเพราะเรื่องราวในครั้งนี้”
“ใช่...ทีนี้นายจะว่าฉันผิดอีกหรือเปล่าล่ะ?”
“..........................................................”
“ฉันเป็นคนถูกกระทำนะจะบอกให้แต่มาย้อนนึกดูก็ควรขอบใจศรมุกดาเหมือนกันเพราะมันทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้นและช่วยสอนว่าไม่ให้เชื่อใจใครง่ายๆ”
“อย่างไรอ๋อมก็เป็นผู้หญิง”
“นายจะพูดอะไรกันแน่?”
“เธอเชื่อใจฉันมั้ย?”
“จู่ๆก็ถามมีอะไรวะ?”
“ก็บอกมาสิ”
“อะ...อะไร?”
“มองตาฉัน”
“ทำไมเล่า?”
“เออน่ะ”
“..........................................................”
“..........................................................”
“จะหลบทำไม?”
“อึ๊!...ก็...”
“ก็อะไร?”
“ฉันเขินนี่!!”
“ฮ่าๆๆ”
“นายนี่มันเป็นตัวอะไร!...จะแกล้งฉันเรอะ?”
“ฟังที่ฉันจะพูดต่อไปนี้ให้ดี”
“อะไรล่ะ?”
“ต่อให้เธอจะไม่เชื่อถือใครก็ตามบนโลกใบนี้แต่ขอให้เชื่อมั่นในตัวฉัน...ฉันไม่ใช่ศัตรูและเป็นคนที่หวังดีต่อเธอ”
“ฉันเชื่อนายอยู่แล้วก็ชีวิตฉันต่อไปนี้จะขึ้นอยู่กับนายนี่นา”
“พูดจริงนะ?”
“เออสิ...นายสั่งอะไรฉันก็จะทำให้ทั้งนั้น”
“...........................................................”
“อะไรอีกเล่า?”
“เธอสวยจัง”
“บ้า!!...อีตาบ้า!!!...เรื่องอะไรมาชมฉันเนี่ย?”
...อ๋อมเขินจนหน้าแดงผมเลยคว้าเข้ามากอด...นับว่ามีความหวังแล้วที่จะให้เธอกับพี่ม่อนปรับความเข้าใจกันซึ่งเหตุผลที่ผมทำอย่างนี้น่ะหรือ?...จริงๆก็ไม่มีอะไรซับซ้อนแค่อยากให้ภาพลักษณ์ของผมดูดีขึ้นมาบ้าง...
“ถ้าพี่ม่อนมาขอโทษอ๋อมจะให้อภัยมั้ย?
“ฮะๆๆๆ”
“หัวเราะอะไรน่ะ?”
“แค่พูดก็เป็นไปไม่ได้แล้ว...ยัยนั่นไม่เคยสำนึกถึงความผิดเพราะมันคิดว่าตัวเองถูกต้องเสมอ”
“เธอจึงว่าพี่ม่อนไร้จิตสำนึก”
“อืม”
“แล้วว่ายังไง?...ถ้าเธอยอมขอโทษจริงๆ”
“วันก่อน...ที่นายไปเจอ...คือวันครบรอบ 15 ปีของเหตุการณ์ในวันนั้น”
“หา!?”
“เจ้าเอ้ไม่ได้บอกสิ?”
“เปล่า”
“จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องบังเอิญ...ตั้งแต่ 9 ปีที่แล้วทุกวันที่ครบรอบฉันจะไปหาศรมุกดา...เพียงแค่จะได้ยินคำขอโทษแต่ก็ไม่มีสักครั้ง”
“หมายความว่าเธอพร้อมจะให้อภัยพี่ม่อน?”
“นอกจากจะไม่ขอโทษหรือแสดงว่าสำนึกผิดแต่มันยังทำตัวน่าหมั่นไส้...เอาแต่นิ่งเฉยไม่ยอมพูดอะไรทั้งสิ้น”
“เข้าใจแล้ว”
“ฉันว่านายอย่าทำอะไรดีกว่า...คนเราถ้าจะมีจิตสำนึกจริงๆต้องไม่รอให้ผู้อื่นมาบอกหรอกและจากนี้ฉันจะไม่หวังให้ยัยนั่นมาขอโทษอีกแล้ว”
“ไว้เป็นหน้าที่ฉันเอง”
“จะไปพบศรมุกดารึ?”
“ใช่”
“มันคงจะฟังนายหรอก”
“ก็ต้องลองสักตั้ง”
....................................................................................................................................................
“เวลานี้คุณหนูรองมิอนุญาตให้ผู้ใดเข้าพบเจ้าค่ะ”
(เริ่มมาก็ไม่ง่ายซะแล้วแฮะ)
“แต่ผมมีเรื่องสำคัญจะพูดนะครับ”
“มีสิ่งใดก็ฝากดิฉันไว้ได้เจ้าค่ะ”
“เรื่องนี้ผมจะต้องคุยกับพี่ม่อนเอง”
“เช่นนั้นเชิญคุณชายหกกลับเถิด...คุณหนูรองมิสะดวกจะพบผู้ใด”
“แม้กระทั่งฉันด้วยหรือเปล่า?”
“ดิฉันปฎิบัติตามคำสั่ง...ขออภัยเจ้าค่ะ”
“ฉันเข้าใจๆ...ยังไงก็รู้จักธรรมเนียมดีแต่วันนี้ช่วยไว้หน้าว่าที่นายใหญ่แห่งวิษณุมนตรีจะได้มั้ยเล่า?”
“ไม่เป็นไรหรอก...ในเมื่อพี่ม่อนไม่อยากพบใครงั้นค่อยมาคราวหลังล่ะกัน”
“ฉันก็บอกแล้วว่ายัยคนใจแคบนี่ไม่รู้จักสำนึกแถมยังใจปลาซิวด้วยล่ะ”
“ทำไมพูดอย่างนั้น?”
“ก็นายมาขอพบอย่างเปิดเผยแต่มันยังหลุบหัวไม่ยอมเผยตัวไง...เขาเรียกว่ามีชีวิตอยู่อย่างคนขี้ขลาด”
(อย่างนี้จะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปอีก...เฮ่ย!?)
“หลบเร็ว!!”
“!!!”
“ลอยมาจากไหน?”
“นังบ้านี่วันนี้ฉันอุตส่าห์ใจเย็นแล้วนะโว้ย!!!”
...เก้าอี้ไม้หลายตัวลอยออกมาจากห้องชั้นบนพุ่งเข้ามาหาเราสองคนทำให้ต้องหาที่หลบกันจ้าละหวั่น...อ๋อมโมโหร้องตะโกนลั่น...
“จะชวนทะเลาะใช่มั้ย?...อยู่ในนั้นให้ดี...ฉันจะไปลากคอหล่อนลงมาเดี๋ยวนี้!!!”
(ญาติสาวผู้พี่วัย 20 วิ่งไปที่ต้นไม้และกระโดดขึ้นไปจากนั้นก็พุ่งเข้าไปในหน้าต่างห้องที่เก้าอี้ลอยออกมา...เรากลัวว่าเธอจะทำเสียเรื่องจึงรีบตามเข้าไปในบ้าน)
“คุณ...คุณชายหก!?”
“ห้องพี่ม่อนอยู่ไหน?”
“อยู่ชั้นสองด้านในสุดเจ้าค่ะ”
“ออกไปเดี๋ยวนี้!!”
(ไม่ทัน)
“แน่จริงออกมาสิจะหลบอยู่ทำไม?...หล่อนนี่มันดีแต่เล่นลอบกัดชาวบ้าน”
“อ๋อมอย่าทำอะไรวู่วามนะ...เออะ!!”
“มานี่เลย!!”
“ปล่อย!!!”
(พี่ม่อนนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่หน้าห้องน้ำส่วนอ๋อมพยายามจะเข้าไปดึงตัวออกมา)
“ขอ...ขอโทษ!!...ผมขอโทษ!!!...อ๋อมพอได้แล้ว”
“ยัยนี่จะทำร้ายนาย...มันต้องชดใช้”
“กลับกันเถอะ”
“นาย!”
“ฉันบอกให้พอ!!”
“ฮึ่ย!!”
“พี่ม่อน...ผมขอโทษแทนอ๋อมด้วยครับกับเหตุการณ์ในวันนี้”
“.........................................................”
...ผมพาอ๋อมออกมานอกห้องพี่ม่อนพลางคิดในใจว่าจบสิ้นแล้ว...โอกาสที่จะช่วยประสานความไม่เข้าใจระหว่างพี่สาวทั้งสองคนคงไม่มีอีก...
“ทุกอย่างพังหมด”
“บอล...ฉันขอโทษที่ใจร้อนแต่ฉันทนไม่ได้ที่ยัยศรมุกดาจะทำร้ายนาย”
“ความเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อยทำให้ทุกอย่างกว่าจะแก้ไขได้ก็สายเกินไป”
“.........................................................”
“ที่ทำไปทั้งหมดเพื่อเธอกับพี่ม่อนนะทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันเลย”
“...ฉันรู้”
(อ๋อมเหมือนจะร้องให้)
“เป็นอะไรเนี่ย?...ฉันไม่ได้ดุเธอสักหน่อยและไม่มีใครผิดทั้งนั้นแหละ”
(แค่จะมาเป็นสื่อกลางให้สองพี่น้องกลายเป็นภารกิจเสี่ยงชีวิตซะอย่างนั้นแล้วครั้งนี้เป็นเก้าอี้แต่ครั้งหน้าไม่ใช่เหมามีดทั้งในครัวมานะ!?)
..........................................................................................................................................
“มีคำพูดอะไรก็เอ่ยออกมา...เรามิได้เวลามากขนาดให้เจ้านั่งดู”
“ผม...ไม่เห็นพี่หรอกครับเพราะนอกจากใส่แว่นดำแล้วยังหลับตาด้วย”
...เรื่องของเรื่องคือผมกับอ๋อมกำลังจะกลับพี่ม่อนก็ส่งคุณไหมมาเรียกให้ไปคุยที่ห้องแต่อนุญาตให้ผมเข้าไปเพียงคนเดียวเท่านั้น...
(“ทำไมฉันจะฟังด้วยไม่ได้?”
“เพราะฉันมิชอบหน้าเธอ”
“ยัยบ้า!!...แล้วฉันพิศวาสหล่อนนักละ”
“เอาน่า...อ๋อมไปรอฉันข้างนอกก่อน”
“...ก็ได้...แต่ถ้ามีอะไรนายรีบตะโกนทันทีนะ”
“เธอคิดว่าจะทันการณ์หรือ?”
“ก็เอาซี่ยัยแอบจิต!!...เธอกล้าทำอะไรผัวฉันรับรองได้เห็นดีกัน...ยัยนี่ไว้ใจไม่ได้...นายใส่ไอ้นี่”
“แว่นตาดำ”
“แล้วเวลาคุยกับมันก็หลับตาซะ”
“ต้องทำถึงขนาดนี้เชียว?”
“ฉันไม่อยากให้นายเห็นยัยนี่ในสภาพนุ่งน้อยห่มน้อย”
“หึงฉันหรือเนี่ย?”
“เออ!!...ทั้งหึงทั้งหวงน่ะแหละ”)
...แต่ความจริงอ๋อมป้องกันไม่ให้ผมโดนพี่ม่อนสะกดจิตเพราะไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าญาติสาวผู้พี่วัย 21 จะทำอะไรบ้าง?...
“พี่ก็ไปใส่เสื้อผ้าซะก่อนเถอะครับ”
“เจ้ารีบพูดมาเร็วๆ”
(นั่งประจันหน้าห่างกันไม่ถึง 3 เมตรและพี่ม่อนยังนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่แถมเราหลับตาแบบนี้มันก็อดที่จะคิดบ้าๆบอๆไม่ได้อยู่แล้ว)
“ผมรู้มาจากพี่เอ้เกี่ยวกับเรื่องของพี่กับอ๋อมเมื่อ 15 ปีก่อน”
“เจ้านี่ช่างเจ้ากี้เจ้าการนัก...แล้วอย่างไร?”
“คืนนั้น...พี่ม่อนตั้งใจจะออกไปตามคนมาช่วยใช่มั้ยครับ?”
“เราจะทำอย่างไรก็ช่างแต่เรื่องนี้ก็เคยกล่าวไปแล้วว่าหาได้เกี่ยวข้องกับเจ้าแต่ประการใดไม่”
“ผมแค่อยากให้ทั้งสองคืนดีกันเท่านั้น”
“เหตุผลคืออะไร?”
“ไม่มีครับ”
“เช่นนั้นเจ้าเป็นคนที่หาได้มีหัวคิด...เราเดาว่าเจ้าอยากได้คำสรรเสริญจากผู้คน”
“สิ่งนั้นสำหรับผมไม่จำเป็นสักนิดเดียว”
“โอ้!”
“จากที่พี่น้องรักใคร่ผูกพันกลายเป็นความบาดหมาง...ผมก็ไม่ได้อยู่ในเหตการณ์จึงไม่อาจตัดสินว่าตกลงใครผิดหรือถูก...แต่...”
“แต่...”
“ผมว่าทั้งสองคนควรหันหน้ามาพูดคุยปรับความเข้าใจกันสักทีนะครับ”
“ปรับความเข้าใจ”
“แต่ผมคิดว่าพี่ม่อนเป็นพี่ก็ควรจะขอโทษอ๋อมนะครับ”
“...ลืมตา”
“ห๊ะ?”
(ให้ลืมตาทำไม?)
“มิได้ยินหรือ?...เราสั่งให้เจ้าลืมตา”
(ไม่ได้!!...ขืนไปทำตามล่ะก็)
“.........................................................”
“!?”
(กลิ่นหอมๆมาอยู่ใกล้!?)
“เรากำลังจะเอามีดเสียบอกเจ้า”
“หวา!!!!!”
...พี่ม่อนพูดว่าจะเอามีดเสียบผมเลยรีบลืมตาแล้วก็ได้เห็นเธอมายืนอยู่ตรงหน้าและก้มตัวมองผมชนิดที่ใบหน้าห่างกันแค่ราวๆหนึ่งช่วงแขน...แม้จะสวมแว่นตาดำแต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจน...เรือนร่างของหญิงสาวที่ห่อหุ้มด้วยผ้าขนหนูผืนเดียว...ไม่ใช่...สุริยะโลหิตที่น่าหวาดหวั่นของลูกพี่ลูกน้องวัย 21 ปีต่างหาก!!!!...
“เจ้าคนบังอาจ!!!...ที่ผ่านมาหาได้มีผู้ใดกล้าพูดกับเราเช่นนี้...เราคือฝ่ายผิดเช่นนั้นหรือ?”
“เรื่องนี้ไม่มีใครผิดใครถูกครับแต่ก็ต้องมีคนต้องยอมถอยเพื่อก้าวเดินต่อไป...ยังไง...ผมก็ไม่เปลี่ยนความคิด”
“ยังจะพูดเพ้อเจ้อ!!...มิรู้หรือว่าบัดนี้ขาของเจ้าก้าวลงนรกไปข้างหนึ่งแล้ว?”
(มีมีดลอยอยู่เหนือหัวซึ่งมันพร้อมจะปักลงกลางหน้าผากเราได้ทุกเมื่อ)
“ผม...ผมยืนยันคำเดิม”
“ยืนยัน?”
“อ๋อมรอคำขอโทษของพี่อยู่และผมจะไม่ถอยเด็ดขาด”
“รนหาที่นัก”
(เห็นกับตาเลยว่าตอนนี้มีมีดจำนวนมากลอยอยู่รอบตัวเราและมีบางเล่มลอยอยู่เหนือมือพี่ม่อนด้วย)
“เจ้าทำให้เราโกรธจนอยากฆ่าเจ้า”
(เหมามีดมาหมดทั้งบ้านจริงๆนั่นแหละ...อื๋อ?)
“.................................................................”
“ถอนคำพูดซะแลเราจะปล่อยเจ้าไปสักครั้ง”
“.................................................................”
“เจ้ามิได้ยินที่เราพูดหรืออย่างไร?”
“.................................................................”
“เจ้า!!”
“ก็ได้ครับ...ในเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่องงั้นเราก็มาเดิมพันกัน”
“เดิมพัน?...เจ้ามีค่าอะไรจะมาเดิมพันกับเรา?...ชีวิตของเจ้าหรือเราก็ใกล้จะรับไปแล้วอย่างไรเล่า!!!”
“ชีวิตผมไม่มอบให้พี่ง่ายๆหรอก”
“ว่าอย่างไรนะ?”
“เรามาประลองกันและผมจะเอาชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพัน”
“ประลองอะไร?”
“ถ้าผมหลบมีดที่พี่ใช้พลังจิตซัดมาได้ถือว่าผมชนะและพี่จะต้องขอโทษอ๋อม...กติกาง่ายๆใช่มั้ยล่ะครับ?”
“แต่ถ้าเจ้าหลบมิได้?”
“ผมก็รับมีดเล่มนั้นไป...จะเป็นหรือตายก็แล้วแต่โชคชะตา”
“เจ้ามิกลัวความตายอย่างนั้นหรือ?...เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าเราจะพุ่งมีดปักเข้ากลางอกของเจ้า?”
“พี่คงทำตามที่พูดแต่ผมก็มั่นใจว่าหลบได้...ผมอยู่ฝั่งนี้พี่อยู่ฝั่งนั้น...ระยะทางก็น่าจะราวๆ...6-7 เมตร...พี่ทุ่มพลังมาในครั้งเดียวกับมีดเล่มนั้นได้เลย”
“...เจ้ามีความมั่นใจอะไรถึงกล้าท้าเรา?”
“เปล่าครับ...แต่ถ้าจะให้พี่ม่อนยอมรับได้วิธีของผมก็ต้องไม่ธรรมดาใช่มั้ยล่ะ?”
“............................................................”
“พี่ไม่ต้องลังเล...ไม่ต้องออมมือ”
“ฮะๆๆๆๆๆๆๆ”
(หืม?...เราไม่เคยเห็นพี่ม่อนหัวเราะขนาดนี้มาก่อน)
“หากใช้ความเร็วเต็มที่แลเจ้าหลบมิพ้นก็เกรงว่าท่านพี่สุรีย์พรรณ,น้องนางหยาดฝนรวมทั้งหญิงสาวมากมายจะพากันหลั่งน้ำตา”
“ในเมื่อผมเป็นคนเลือกวิธีนี้เองก็พร้อมรับผลลัพธ์ของมันอยู่แล้ว...พี่ม่อนเลือกมีดได้ตามใจเลยครับ”
“น่าสนุกยิ่งนัก!!!...ตายไปก็จงอย่าร้องให้เสียใจ...เรา...เลือกมีดเล่มนี้แลจะนับหนึ่งถึงสาม...เจ้าพร้อมหรือยัง?”
“ผมพร้อมทุกเมื่อครับ”
“................................................................”
“................................................................”
“1...2...3”
“!!!!!!!”
“!?”
(พ้น!!...พ้นแล้ว--...เราชนะ!!!!)
“เจ้า...หลบได้”
“ตาม...ตามสัญญานะครับ”
“................................................................”
(ไม่นึกว่าเราจะทำได้จริงๆ...สุดยอด!!...ความรู้สึกนี้ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน!!!!)
“นับว่าเจ้าเก่งมากแต่อย่าเพิ่งได้ใจไป...เราหาได้เล็งที่กลางอกเจ้าแต่แรกไม่แลจงมองดูที่ชายแขนเสื้อให้ดี”
“!!!”
(มีดที่พุ่งไปปักประตูยังทำให้ชายเสื้อขาดวิ่นเชียวหรือเนี่ย?...ที่แท้ก็หวุดหวิดเลยนี่หว่า!?...นี่ขนาดทำตามที่ “หนูหนึ่ง” กับ “หนูสอง” แนะนำทุกอย่างนะ...พี่ม่อนจึงหมายความว่าถ้าเธอเล็งที่กลางอกเราก็จะหลบไม่พ้นอย่างแน่นอน)
“สัญญาย่อมเป็นสัญญาในเมื่อเราแพ้แล้วก็จะทำตามโดยมิบิดพริ้ว”
“ผมอยากให้พี่ขอโทษอ๋อมจากใจจริงนะครับไม่ใช่ว่าเพราะผมชนะ”
“เจ้าจะพูดสิ่งใดกันแน่?”
“คือผมรู้ว่าพี่ยังมิทิฐิอยู่...”
“มิรู้ก็จงหุบปากซะ!!!”
“..............................................................”
“วันนี้เลยก็ได้...เจ้าไปตามอ๋อมมา”
“ผมว่าวันหลังดีกว่า”
“เพราะเหตุใด?”
“ก่อนอื่นพี่ม่อนให้ใครมาช่วยเย็บเสื้อให้ผมทีไม่งั้นอ๋อมเห็นจะยิ่งเลวร้ายไปใหญ่...นี่แหละครับเหตุผล”
“...ก็ได้”
...ผมออกมานอกห้องพี่ม่อนและยังไม่ทันจะก้าวลงบันไดก็เกิดอาการหมดเรี่ยวแรงไปทั้งตัว...ราวกับว่าพละกำลังมันสูญหายไปเกือบหมดแถมตายังปวดอีกด้วย...เป็นไปตามที่หนูหนึ่งกับหนูสองพูดจริงๆ...
“เจ้าเป็นอะไร?”
(ลูกพี่ลูกน้องวัย 21 เปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากห้องพอดี)
“ผมสบายดีครับแค่นั่งพักหน่อยเดียว...คือ...คือผมยังตื่นเต้นไม่หาย...ขอพักสักนิด”
“เจ้า...ถอดเสื้อส่งมาให้เรา...จะได้ให้คนไปซ่อมแซม”
“...........................................................”
“ไปฝึกฝนอย่างไรจึงรวดเร็วได้ถึงปานนี้?”
“เร็วหรือครับ?”
“เจ้ามิรู้สึกตัวรึ?”
(แค่รู้สึกว่าเรามองเห็นมีดพุ่งเข้ามาหาและก็รีบหลบเท่านั้น)
“ไม่รู้เหมือนกันครับ...ผมคงจะแค่บังเอิญโชคดีที่ดวงยังไม่ถึงฆาต”
“..........................................................”
.....................................................................................................................................................
(เบื้องหลังแห่งความอัศจรรย์)
“พ่อคะ”
“พ่อจ๊ะ”
“?”
“เล่นอะไรอยู่น่าสนุกจัง”
“ท่าทางน่าสนุกจังเลย”
“หนูหนึ่งหนูสอง...พ่อไม่ได้เล่นแต่กำลังแย่...คือ...”
“ยังจำคำพูดของหนูว่ากาลเวลาจงอยู่เคียงข้างได้หรือไม่?”
“ยังจำคำพูดของหนูว่าห้วงมิติจงอยู่ใกล้ชิดได้หรือไม่?”
“จำ...จำได้ๆ”
“งั้นเอามาใช้ประโยชน์ได้แล้ว”
“ได้เวลาเอามาใช้ประโยชน์เสียที”
“พ่อต้องทำอะไรบ้าง?”
“พูดออกไปว่าจะหลบหลีกคมมีด”
“ท้าเธอผู้นั้นไปว่าจะหลบคมมีดที่พุ่งเข้ามา”
“พะ...พ่อจะทำได้ยังไง?...พี่ม่อนเธอเก่งกาจมากทีเดียวนะ”
“พ่อจงเชื่อมั่นในตัวเอง”
“เชื่อมั่นว่าพ่อต้องทำได้”
“.......................................................”
“ตั้งสติให้มั่นคงไม่หวั่นไหว”
“ตาจับจ้องไปที่มีดเล่มนั้น”
“เมื่อเห็นแสงกระพริบให้รีบขยับไปทางซ้าย”
“เช่นนั้นแล้วก็จะหลบพ้นได้อย่างแน่นอน”
“เข้าใจล่ะ”
“แต่พ่อจะสูญเสียแรงกายไปเกือบหมดนะ”
“ดวงตาของพ่อก็จะปวดมากด้วยล่ะ”
“เอาน่ะลูก...ดีกว่าถูกมีดเสียบอก”
“พ่อเก่งจังเลย”
“พ่อเก่งมาก”
“อ่า--...ยังไม่ทันจะทำอะไรเลย”
“จงร้อนแรงดังแสงแห่งดวงตะวัน”
“จงเยือกเย็นดังแสงแห่งดวงจันทรา”
...............................................................................................................................................................
“ไหม...เราใช้พลังจิตราว 6 ส่วนในการซัดมีดซึ่งต้องเป็นผู้ที่มีความว่องไวเช่นท่านพี่สุรีย์พรรณหรือน้องนางหยาดฝนเท่านั้นจึงจะมีโอกาสหลบพ้นแต่มิเข้าใจจริงๆว่าคนธรรมดาเอกคเชนทร์ทำได้อย่างไร?”
“คุณหนูตั้งใจให้มีดเล่มนั้นปักแขนคุณชายหกหรือเจ้าคะ?”
“...เราตั้งใจเช่นนั้น”
“มาย้อนคิดดู...จะต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่นอนเจ้าค่ะหากคุณชายหกได้รับบาดเจ็บ”
“เราเองก็อยากเดิมพันเช่นกัน”
“?”
“เขาเอ่ยออกมาด้วยความมั่นใจมากว่าจะทำได้...การท้าทายอันบ้าบิ่นนั้นทำให้เรารู้สึกตื่นตัวแลต้องการจะพิสูจน์ว่าจริงหรือเท็จ...มีดที่พุ่งออกไปแม้มิรวดเร็วเท่าดาบอสูรทะลวงตรงของท่านพี่สุริยาวรรณแต่ก็ยากที่จะหลบเลี่ยง...โอกาสที่คนธรรมดาเช่นเอกคเชนทร์จะทำสำเร็จก็ยิ่งมีน้อยนิด”
“แต่คุณชายหกทำได้แม้คุณหนูจะมิได้มุ่งหมายไปที่กลางอกตั้งแต่ต้นด้วย”
“อย่างไรก็เราคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นหากเอกคเชนทร์เป็นอะไรไปอยู่นะ”
“ดีแล้วเจ้าค่ะที่คุณหนูออมมือให้โดยที่คุณชายหกมิจำเป็นต้องล่วงรู้”
“ทว่ามีเรื่องน่าแปลก...เอกคเชนทร์พอออกจากห้องของเราก็หมดแรงทรุดนั่งที่บันไดอาการบ่งบอกว่าเขาใช้พละกำลังไปเกือบหมดสิ้น”
“หรือเป็นเพราะยังมิหายตกใจ?”
“อาจจะเป็นไปได้...เปรียบดังคนที่เพิ่งผ่านพ้นวินาทีแห่งความเป็นความตายมาอย่างฉิวเฉียด...เอาเถิด...ความสงสัยนี้สักวันก็จะได้รู้...พรุ่งนี้เราจะไปบ้านของเอกคเชนทร์”
“คุณหนูจะไปขอโทษคุณหนูศรบุษราคัมหรือเจ้าคะ?”
“ในเมื่อเราเป็นฝ่ายแพ้ก็ต้องทำตามสัญญา”
“เจ้าค่ะ”
“เอกคเชนทร์...เจ้าปกปิดบางสิ่งอยู่”
.....................................................................................................................................
“ที่นี่...”
“เจ้ายังจำได้สถานที่นี้ได้ใช่ไหม?”
(จำได้อยู่แล้วเพราะเราพบกับหนูรีย์ครั้งแรกที่นี่แต่ตอนนี้ไม่สำคัญเท่ากับการปรากฏร่างของเสือขนาดใหญ่ที่มีแสงสีทองรอบตัวอยู่ใต้ต้นไม้คล้ายว่ากำลังพักผ่อน)
“แล้วที่อยู่ตรงหน้า...เหยื่อหรือ?”
“ใช่...นกตัวนี้คือเหยื่อของข้าแต่ยังไม่ตายหรอก...เจ้าสามารถช่วยสังหารมันให้ข้าได้ไหม?”
(จะ...จะให้เราฆ่านกสีเงินตัวนี้หรือ?...เดี๋ยวก่อนซิ...เสือตัวนี้เราก็เคยพบมาก่อนด้วยนี่นา?)
.......................................................................................................................................
ลูกเสือสาว มาทดสอบพ่อแล้ว พ่อบอลจะตัดสินใจอย่างไร
ตอบลบไรท์มีเทคนิคร้ายเหลือ อธิบายบริบทมากมาย สร้างทางเลือกเยอะแยะให้ผู้อ่านสร้างจินตนาการ แล้วไรท์ทยอยเฉลยให้มีทั้งตรงใจหรือขัดใจ สนุกสนานครับ
ตอบลบมาเร็วมากๆ ขอบคุณมากครับ
ตอบลบ.....หวังว่าความกล้าของบอลรอบนี้จะชนะใจพี่ม่อนบ้างนะ จะได้ไม่เกิดคำทำนายแบบเศร้าๆ ขึ้น
คิดว่านกสีเงินน่าจะเป็นลูกของม่อนแน่ๆ ถ้าจะให้บอลสังหารนกตัวนี้บอลคงไม่ทำแน่นอน
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ตอบลบขอบคุณท่าน adslman ทีทำให้ผู้อ่านมีนิยายดีๆได้อ่านครับ ขอบคุณครับ
ตอบลบสุดยอดมากครับ ตอนนี้ถูกใจมากเลย และ...สาวม่อนคืออีกหนึ่งสาวที่ผมชอบ อยากให้มีบทน่ารักๆ และร้อนกับนายบอลด้วย ..รู้ว่าเสี่ยงก็จะลุย
ตอบลบหลังจากเคลียใจเรื่องนี้ม่อนอาจจะเปิดใจให้บอลก็เป็นได้ ส่วนบอลอาจจะได้บัฟGlVl จากลูกเพิ่มก็เป็นได้ แล้วมาลุ้นคว่าฮาจากบอลและอ้อต่อ
ตอบลบเดี๋ยว..นกสีเงินจะเป็นลูกของม่อนหรือน้องคนเล็ก นางพญาหงษ์
ตอบลบตอนนี้เจ้าบอลกลายเป็นThe Flash
ตอบลบท่านผู้เขียน อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะครับ จะได้มาเขียนนิยายให้พวกเราอ่านอีก 😊😊😊
ตอบลบมาแล้ว...รอนานมากๆๆๆ ขอให้น้องแอดสุขภาพแข็งแรง ปีใหม่ขอให้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป หมดหนี้หมดสิ้น ร่ำรวยเงินทองไหลมาเทมา H.N.Y
ตอบลบความสุขความเจริญจงมีแก่ท่านผู้แต่งเถิดขอบคุณมากที่แต่งให้อ่านครับผม
ตอบลบขอบคุณสำหรับจิตนาการ ขอบคุณสำหรับผู้ให้ และทำให้พวกเราหลายๆคนอ่านหนังสือเกิน10บรรทัดต่อปี ขอชื่นชม ขอบคุณ
ตอบลบเรื่องนี้เป็นที่ 1 ในใจตลอดกาล ขอให้ผู้แต่งมีความสุขสุขภาพแข็งแรง มีแรงบันดาลใจที่จะแต่งเรื่องนี้ต่อไปครับ
ตอบลบลงต่อเรยคับกำลังได้เรื่องเรย
ตอบลบดูแลสุขภาพด้วยคับ..อยากให้แต่งจนจบคับ
ตอบลบช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลตัวเองด้วยนะครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ
ตอบลบ