หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 104

 ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 104 “ภารกิจเสี่ยงชีวิต!!

 

“ฉันรู้เรื่องหมดแล้ว”

“...แล้วยังไง?”

“ตอนนั้นที่เข้าไปในป่าเธอสัญญาอะไรกับพี่ม่อนบ้าง?”

“ลืม”

“อ๋อม”

“หนวกหู!!...ฉันไม่อยากจำ...ก็ไหนว่ารู้หมดแล้วจะมาถามทำไมอีก?”

“จะบอกให้มั้ยว่าเรื่องนี้ใครผิดใครถูก?”

“ใคร?”

“ทั้งคู่น่ะแหละ”

“หา!?...นายต้องประสาทกลับไปแล้วแน่ๆ...เจ้าเอ้ไม่ได้บอกรึว่ายัยซกมกแอบจิตนั่นมันทิ้งฉันไว้ในป่า?”

“บอกสิ”

“งั้นจะว่าฉันผิดได้ไง?”

“ผิดที่ไม่ยอมปรับความเข้าใจกันไงเล่า”

“ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นในเมื่อศรมุกดาเป็นคนผิด?...มันสัญญาว่าจะไม่...จะไม่ทอดทิ้งฉันและสัญญาว่าจะพาคนมาช่วยแต่แล้ว...มันก็หนีเอาตัวรอดไปคนเดียว...ความรู้สึกที่ต้องอยู่ในป่าทึบไม่รู้ว่าทางออกอยู่ที่ไหนและจะโดนสัตว์ป่าคาบไปกินตอนไหนหรือต้องอดตายอยู่ในนั้นกว่าคนจะไปพบก็กลายเป็นศพ...นายไม่รู้หรอกว่าฉันต้องนอนฝันร้ายเป็นปีๆ”

“...เธอไม่คิดบ้างหรือว่าพี่ม่อนก็อาจจะหลงป่าเหมือนกัน?”

“ยัยนั่นหลงป่า...เหอะ!!...หลายคนก็พูด”

“อ้าวแล้ว?”

“แต่ฉันไม่เคยได้ยินประโยคนี้จากปากมัน...ถ้านี่คือความจริงทำไมไม่บอกกับทุกคนไปซะ?”

“............................................................”

“แสดงว่าศรมุกดาไม่ได้หลงป่าแต่มันตั้งใจทิ้งฉันเพื่อหนีเอาตัวรอด...นายรู้มั้ยว่าตาแก่ไปพบมันใกล้จะถึงปากทางออกจากป่าอีกไม่กี่ร้อยเมตรเอง...นายฟังแล้วจะคิดยังไงดี?”

“...........................................................”

“แต่ในขณะที่มีคนไปพบฉันอยู่ห่างออกหลายไปกิโลเมตร...โชคดีที่เจอลำธารฉันจึงได้ดื่มน้ำประทังชีวิตและก็พยายามเดินตามลำธารไปเรื่อยๆเพื่อความหวังที่จะได้พบบ้านคนแต่สุดท้ายฉันก็หมดแรงอยู่ริมลำธารนั่นแหละ...ฮึ!!...เพราะฉันอ่อนแอเกินไปไงถึงได้เชื่อฟังยัยนั่นไปเสียทุกอย่าง”

“ฉะนั้นเธอจึงเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เข้มแข็งเพราะเรื่องราวในครั้งนี้”

“ใช่...ทีนี้นายจะว่าฉันผิดอีกหรือเปล่าล่ะ?”

“..........................................................”

“ฉันเป็นคนถูกกระทำนะจะบอกให้แต่มาย้อนนึกดูก็ควรขอบใจศรมุกดาเหมือนกันเพราะมันทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้นและช่วยสอนว่าไม่ให้เชื่อใจใครง่ายๆ”

“อย่างไรอ๋อมก็เป็นผู้หญิง”

“นายจะพูดอะไรกันแน่?”

“เธอเชื่อใจฉันมั้ย?”

“จู่ๆก็ถามมีอะไรวะ?”

“ก็บอกมาสิ”

“อะ...อะไร?”

“มองตาฉัน”

“ทำไมเล่า?”

“เออน่ะ”

“..........................................................”

“..........................................................”

“จะหลบทำไม?”

“อึ๊!...ก็...”

“ก็อะไร?”

“ฉันเขินนี่!!

“ฮ่าๆๆ”

“นายนี่มันเป็นตัวอะไร!...จะแกล้งฉันเรอะ?”

“ฟังที่ฉันจะพูดต่อไปนี้ให้ดี”

“อะไรล่ะ?”

“ต่อให้เธอจะไม่เชื่อถือใครก็ตามบนโลกใบนี้แต่ขอให้เชื่อมั่นในตัวฉัน...ฉันไม่ใช่ศัตรูและเป็นคนที่หวังดีต่อเธอ”

“ฉันเชื่อนายอยู่แล้วก็ชีวิตฉันต่อไปนี้จะขึ้นอยู่กับนายนี่นา”

“พูดจริงนะ?”

“เออสิ...นายสั่งอะไรฉันก็จะทำให้ทั้งนั้น”

“...........................................................”

“อะไรอีกเล่า?”

“เธอสวยจัง”

“บ้า!!...อีตาบ้า!!!...เรื่องอะไรมาชมฉันเนี่ย?”

...อ๋อมเขินจนหน้าแดงผมเลยคว้าเข้ามากอด...นับว่ามีความหวังแล้วที่จะให้เธอกับพี่ม่อนปรับความเข้าใจกันซึ่งเหตุผลที่ผมทำอย่างนี้น่ะหรือ?...จริงๆก็ไม่มีอะไรซับซ้อนแค่อยากให้ภาพลักษณ์ของผมดูดีขึ้นมาบ้าง...

“ถ้าพี่ม่อนมาขอโทษอ๋อมจะให้อภัยมั้ย?

“ฮะๆๆๆ”

“หัวเราะอะไรน่ะ?”

“แค่พูดก็เป็นไปไม่ได้แล้ว...ยัยนั่นไม่เคยสำนึกถึงความผิดเพราะมันคิดว่าตัวเองถูกต้องเสมอ”

“เธอจึงว่าพี่ม่อนไร้จิตสำนึก”

“อืม”

“แล้วว่ายังไง?...ถ้าเธอยอมขอโทษจริงๆ”

“วันก่อน...ที่นายไปเจอ...คือวันครบรอบ 15 ปีของเหตุการณ์ในวันนั้น”

“หา!?

“เจ้าเอ้ไม่ได้บอกสิ?”

“เปล่า”

“จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องบังเอิญ...ตั้งแต่ 9 ปีที่แล้วทุกวันที่ครบรอบฉันจะไปหาศรมุกดา...เพียงแค่จะได้ยินคำขอโทษแต่ก็ไม่มีสักครั้ง”

“หมายความว่าเธอพร้อมจะให้อภัยพี่ม่อน?”

“นอกจากจะไม่ขอโทษหรือแสดงว่าสำนึกผิดแต่มันยังทำตัวน่าหมั่นไส้...เอาแต่นิ่งเฉยไม่ยอมพูดอะไรทั้งสิ้น”

“เข้าใจแล้ว”

“ฉันว่านายอย่าทำอะไรดีกว่า...คนเราถ้าจะมีจิตสำนึกจริงๆต้องไม่รอให้ผู้อื่นมาบอกหรอกและจากนี้ฉันจะไม่หวังให้ยัยนั่นมาขอโทษอีกแล้ว”

“ไว้เป็นหน้าที่ฉันเอง”

“จะไปพบศรมุกดารึ?”

“ใช่”

“มันคงจะฟังนายหรอก”

“ก็ต้องลองสักตั้ง”

....................................................................................................................................................

 

“เวลานี้คุณหนูรองมิอนุญาตให้ผู้ใดเข้าพบเจ้าค่ะ”

(เริ่มมาก็ไม่ง่ายซะแล้วแฮะ)

“แต่ผมมีเรื่องสำคัญจะพูดนะครับ”

“มีสิ่งใดก็ฝากดิฉันไว้ได้เจ้าค่ะ”

“เรื่องนี้ผมจะต้องคุยกับพี่ม่อนเอง”

“เช่นนั้นเชิญคุณชายหกกลับเถิด...คุณหนูรองมิสะดวกจะพบผู้ใด”

“แม้กระทั่งฉันด้วยหรือเปล่า?”

“ดิฉันปฎิบัติตามคำสั่ง...ขออภัยเจ้าค่ะ”

“ฉันเข้าใจๆ...ยังไงก็รู้จักธรรมเนียมดีแต่วันนี้ช่วยไว้หน้าว่าที่นายใหญ่แห่งวิษณุมนตรีจะได้มั้ยเล่า?”

“ไม่เป็นไรหรอก...ในเมื่อพี่ม่อนไม่อยากพบใครงั้นค่อยมาคราวหลังล่ะกัน”

“ฉันก็บอกแล้วว่ายัยคนใจแคบนี่ไม่รู้จักสำนึกแถมยังใจปลาซิวด้วยล่ะ”

“ทำไมพูดอย่างนั้น?”

“ก็นายมาขอพบอย่างเปิดเผยแต่มันยังหลุบหัวไม่ยอมเผยตัวไง...เขาเรียกว่ามีชีวิตอยู่อย่างคนขี้ขลาด”

(อย่างนี้จะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปอีก...เฮ่ย!?)

“หลบเร็ว!!

!!!

“ลอยมาจากไหน?”

“นังบ้านี่วันนี้ฉันอุตส่าห์ใจเย็นแล้วนะโว้ย!!!

...เก้าอี้ไม้หลายตัวลอยออกมาจากห้องชั้นบนพุ่งเข้ามาหาเราสองคนทำให้ต้องหาที่หลบกันจ้าละหวั่น...อ๋อมโมโหร้องตะโกนลั่น...

“จะชวนทะเลาะใช่มั้ย?...อยู่ในนั้นให้ดี...ฉันจะไปลากคอหล่อนลงมาเดี๋ยวนี้!!!

(ญาติสาวผู้พี่วัย 20 วิ่งไปที่ต้นไม้และกระโดดขึ้นไปจากนั้นก็พุ่งเข้าไปในหน้าต่างห้องที่เก้าอี้ลอยออกมา...เรากลัวว่าเธอจะทำเสียเรื่องจึงรีบตามเข้าไปในบ้าน)

“คุณ...คุณชายหก!?

“ห้องพี่ม่อนอยู่ไหน?”

“อยู่ชั้นสองด้านในสุดเจ้าค่ะ”

“ออกไปเดี๋ยวนี้!!

(ไม่ทัน)

“แน่จริงออกมาสิจะหลบอยู่ทำไม?...หล่อนนี่มันดีแต่เล่นลอบกัดชาวบ้าน”

“อ๋อมอย่าทำอะไรวู่วามนะ...เออะ!!

“มานี่เลย!!

“ปล่อย!!!

(พี่ม่อนนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่หน้าห้องน้ำส่วนอ๋อมพยายามจะเข้าไปดึงตัวออกมา)

“ขอ...ขอโทษ!!...ผมขอโทษ!!!...อ๋อมพอได้แล้ว”

“ยัยนี่จะทำร้ายนาย...มันต้องชดใช้”

“กลับกันเถอะ”

“นาย!

“ฉันบอกให้พอ!!

“ฮึ่ย!!

“พี่ม่อน...ผมขอโทษแทนอ๋อมด้วยครับกับเหตุการณ์ในวันนี้”

“.........................................................”

...ผมพาอ๋อมออกมานอกห้องพี่ม่อนพลางคิดในใจว่าจบสิ้นแล้ว...โอกาสที่จะช่วยประสานความไม่เข้าใจระหว่างพี่สาวทั้งสองคนคงไม่มีอีก...

“ทุกอย่างพังหมด”

“บอล...ฉันขอโทษที่ใจร้อนแต่ฉันทนไม่ได้ที่ยัยศรมุกดาจะทำร้ายนาย”

“ความเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อยทำให้ทุกอย่างกว่าจะแก้ไขได้ก็สายเกินไป”

“.........................................................”

“ที่ทำไปทั้งหมดเพื่อเธอกับพี่ม่อนนะทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันเลย”

“...ฉันรู้”

(อ๋อมเหมือนจะร้องให้)

“เป็นอะไรเนี่ย?...ฉันไม่ได้ดุเธอสักหน่อยและไม่มีใครผิดทั้งนั้นแหละ”

(แค่จะมาเป็นสื่อกลางให้สองพี่น้องกลายเป็นภารกิจเสี่ยงชีวิตซะอย่างนั้นแล้วครั้งนี้เป็นเก้าอี้แต่ครั้งหน้าไม่ใช่เหมามีดทั้งในครัวมานะ!?)

..........................................................................................................................................

 

“มีคำพูดอะไรก็เอ่ยออกมา...เรามิได้เวลามากขนาดให้เจ้านั่งดู”

“ผม...ไม่เห็นพี่หรอกครับเพราะนอกจากใส่แว่นดำแล้วยังหลับตาด้วย”

...เรื่องของเรื่องคือผมกับอ๋อมกำลังจะกลับพี่ม่อนก็ส่งคุณไหมมาเรียกให้ไปคุยที่ห้องแต่อนุญาตให้ผมเข้าไปเพียงคนเดียวเท่านั้น...

(“ทำไมฉันจะฟังด้วยไม่ได้?”

“เพราะฉันมิชอบหน้าเธอ”

“ยัยบ้า!!...แล้วฉันพิศวาสหล่อนนักละ”

“เอาน่า...อ๋อมไปรอฉันข้างนอกก่อน”

“...ก็ได้...แต่ถ้ามีอะไรนายรีบตะโกนทันทีนะ”

“เธอคิดว่าจะทันการณ์หรือ?”

“ก็เอาซี่ยัยแอบจิต!!...เธอกล้าทำอะไรผัวฉันรับรองได้เห็นดีกัน...ยัยนี่ไว้ใจไม่ได้...นายใส่ไอ้นี่”

“แว่นตาดำ”

“แล้วเวลาคุยกับมันก็หลับตาซะ”

“ต้องทำถึงขนาดนี้เชียว?”

“ฉันไม่อยากให้นายเห็นยัยนี่ในสภาพนุ่งน้อยห่มน้อย”

“หึงฉันหรือเนี่ย?”

“เออ!!...ทั้งหึงทั้งหวงน่ะแหละ”)

...แต่ความจริงอ๋อมป้องกันไม่ให้ผมโดนพี่ม่อนสะกดจิตเพราะไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าญาติสาวผู้พี่วัย 21 จะทำอะไรบ้าง?...

“พี่ก็ไปใส่เสื้อผ้าซะก่อนเถอะครับ”

เจ้ารีบพูดมาเร็วๆ”

(นั่งประจันหน้าห่างกันไม่ถึง 3 เมตรและพี่ม่อนยังนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่แถมเราหลับตาแบบนี้มันก็อดที่จะคิดบ้าๆบอๆไม่ได้อยู่แล้ว)

“ผมรู้มาจากพี่เอ้เกี่ยวกับเรื่องของพี่กับอ๋อมเมื่อ 15 ปีก่อน”

“เจ้านี่ช่างเจ้ากี้เจ้าการนัก...แล้วอย่างไร?”

“คืนนั้น...พี่ม่อนตั้งใจจะออกไปตามคนมาช่วยใช่มั้ยครับ?”

“เราจะทำอย่างไรก็ช่างแต่เรื่องนี้ก็เคยกล่าวไปแล้วว่าหาได้เกี่ยวข้องกับเจ้าแต่ประการใดไม่”

“ผมแค่อยากให้ทั้งสองคืนดีกันเท่านั้น”

“เหตุผลคืออะไร?”

“ไม่มีครับ”

“เช่นนั้นเจ้าเป็นคนที่หาได้มีหัวคิด...เราเดาว่าเจ้าอยากได้คำสรรเสริญจากผู้คน”

“สิ่งนั้นสำหรับผมไม่จำเป็นสักนิดเดียว”

“โอ้!

“จากที่พี่น้องรักใคร่ผูกพันกลายเป็นความบาดหมาง...ผมก็ไม่ได้อยู่ในเหตการณ์จึงไม่อาจตัดสินว่าตกลงใครผิดหรือถูก...แต่...”

“แต่...”

“ผมว่าทั้งสองคนควรหันหน้ามาพูดคุยปรับความเข้าใจกันสักทีนะครับ”

“ปรับความเข้าใจ”

“แต่ผมคิดว่าพี่ม่อนเป็นพี่ก็ควรจะขอโทษอ๋อมนะครับ

“...ลืมตา”

“ห๊ะ?”

(ให้ลืมตาทำไม?)

“มิได้ยินหรือ?...เราสั่งให้เจ้าลืมตา”

(ไม่ได้!!...ขืนไปทำตามล่ะก็)

“.........................................................”

!?

(กลิ่นหอมๆมาอยู่ใกล้!?)

“เรากำลังจะเอามีดเสียบอกเจ้า”

“หวา!!!!!

...พี่ม่อนพูดว่าจะเอามีดเสียบผมเลยรีบลืมตาแล้วก็ได้เห็นเธอมายืนอยู่ตรงหน้าและก้มตัวมองผมชนิดที่ใบหน้าห่างกันแค่ราวๆหนึ่งช่วงแขน...แม้จะสวมแว่นตาดำแต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจน...เรือนร่างของหญิงสาวที่ห่อหุ้มด้วยผ้าขนหนูผืนเดียว...ไม่ใช่...สุริยะโลหิตที่น่าหวาดหวั่นของลูกพี่ลูกน้องวัย 21 ปีต่างหาก!!!!...

“เจ้าคนบังอาจ!!!...ที่ผ่านมาหาได้มีผู้ใดกล้าพูดกับเราเช่นนี้...เราคือฝ่ายผิดเช่นนั้นหรือ?”

“เรื่องนี้ไม่มีใครผิดใครถูกครับแต่ก็ต้องมีคนต้องยอมถอยเพื่อก้าวเดินต่อไป...ยังไง...ผมก็ไม่เปลี่ยนความคิด”

“ยังจะพูดเพ้อเจ้อ!!...มิรู้หรือว่าบัดนี้ขาของเจ้าก้าวลงนรกไปข้างหนึ่งแล้ว?”

(มีมีดลอยอยู่เหนือหัวซึ่งมันพร้อมจะปักลงกลางหน้าผากเราได้ทุกเมื่อ)

“ผม...ผมยืนยันคำเดิม”

“ยืนยัน?”

“อ๋อมรอคำขอโทษของพี่อยู่และผมจะไม่ถอยเด็ดขาด”

“รนหาที่นัก”

(เห็นกับตาเลยว่าตอนนี้มีมีดจำนวนมากลอยอยู่รอบตัวเราและมีบางเล่มลอยอยู่เหนือมือพี่ม่อนด้วย)

“เจ้าทำให้เราโกรธจนอยากฆ่าเจ้า”

(เหมามีดมาหมดทั้งบ้านจริงๆนั่นแหละ...อื๋อ?)

“.................................................................”

“ถอนคำพูดซะแลเราจะปล่อยเจ้าไปสักครั้ง”

“.................................................................”

“เจ้ามิได้ยินที่เราพูดหรืออย่างไร?”

“.................................................................”

“เจ้า!!

“ก็ได้ครับ...ในเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่องงั้นเราก็มาเดิมพันกัน”

“เดิมพัน?...เจ้ามีค่าอะไรจะมาเดิมพันกับเรา?...ชีวิตของเจ้าหรือเราก็ใกล้จะรับไปแล้วอย่างไรเล่า!!!

“ชีวิตผมไม่มอบให้พี่ง่ายๆหรอก”

“ว่าอย่างไรนะ?”

“เรามาประลองกันและผมจะเอาชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพัน”

“ประลองอะไร?”

“ถ้าผมหลบมีดที่พี่ใช้พลังจิตซัดมาได้ถือว่าผมชนะและพี่จะต้องขอโทษอ๋อม...กติกาง่ายๆใช่มั้ยล่ะครับ?”

“แต่ถ้าเจ้าหลบมิได้?”

“ผมก็รับมีดเล่มนั้นไป...จะเป็นหรือตายก็แล้วแต่โชคชะตา”

“เจ้ามิกลัวความตายอย่างนั้นหรือ?...เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าเราจะพุ่งมีดปักเข้ากลางอกของเจ้า?”

“พี่คงทำตามที่พูดแต่ผมก็มั่นใจว่าหลบได้...ผมอยู่ฝั่งนี้พี่อยู่ฝั่งนั้น...ระยะทางก็น่าจะราวๆ...6-7 เมตร...พี่ทุ่มพลังมาในครั้งเดียวกับมีดเล่มนั้นได้เลย”

“...เจ้ามีความมั่นใจอะไรถึงกล้าท้าเรา?”

“เปล่าครับ...แต่ถ้าจะให้พี่ม่อนยอมรับได้วิธีของผมก็ต้องไม่ธรรมดาใช่มั้ยล่ะ?”

“............................................................”

“พี่ไม่ต้องลังเล...ไม่ต้องออมมือ”

“ฮะๆๆๆๆๆๆๆ”

(หืม?...เราไม่เคยเห็นพี่ม่อนหัวเราะขนาดนี้มาก่อน)

“หากใช้ความเร็วเต็มที่แลเจ้าหลบมิพ้นก็เกรงว่าท่านพี่สุรีย์พรรณ,น้องนางหยาดฝนรวมทั้งหญิงสาวมากมายจะพากันหลั่งน้ำตา”

“ในเมื่อผมเป็นคนเลือกวิธีนี้เองก็พร้อมรับผลลัพธ์ของมันอยู่แล้ว...พี่ม่อนเลือกมีดได้ตามใจเลยครับ”

“น่าสนุกยิ่งนัก!!!...ตายไปก็จงอย่าร้องให้เสียใจ...เรา...เลือกมีดเล่มนี้แลจะนับหนึ่งถึงสาม...เจ้าพร้อมหรือยัง?”

“ผมพร้อมทุกเมื่อครับ”

“................................................................”

“................................................................”

“1...2...3”

!!!!!!!

!?

(พ้น!!...พ้นแล้ว--...เราชนะ!!!!)

“เจ้า...หลบได้”

“ตาม...ตามสัญญานะครับ”

“................................................................”

(ไม่นึกว่าเราจะทำได้จริงๆ...สุดยอด!!...ความรู้สึกนี้ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน!!!!)

“นับว่าเจ้าเก่งมากแต่อย่าเพิ่งได้ใจไป...เราหาได้เล็งที่กลางอกเจ้าแต่แรกไม่แลจงมองดูที่ชายแขนเสื้อให้ดี”

!!!

(มีดที่พุ่งไปปักประตูยังทำให้ชายเสื้อขาดวิ่นเชียวหรือเนี่ย?...ที่แท้ก็หวุดหวิดเลยนี่หว่า!?...นี่ขนาดทำตามที่ “หนูหนึ่ง” กับ “หนูสอง” แนะนำทุกอย่างนะ...พี่ม่อนจึงหมายความว่าถ้าเธอเล็งที่กลางอกเราก็จะหลบไม่พ้นอย่างแน่นอน)

“สัญญาย่อมเป็นสัญญาในเมื่อเราแพ้แล้วก็จะทำตามโดยมิบิดพริ้ว”

“ผมอยากให้พี่ขอโทษอ๋อมจากใจจริงนะครับไม่ใช่ว่าเพราะผมชนะ”

“เจ้าจะพูดสิ่งใดกันแน่?”

“คือผมรู้ว่าพี่ยังมิทิฐิอยู่...”

“มิรู้ก็จงหุบปากซะ!!!

“..............................................................”

“วันนี้เลยก็ได้...เจ้าไปตามอ๋อมมา”

“ผมว่าวันหลังดีกว่า”

“เพราะเหตุใด?”

“ก่อนอื่นพี่ม่อนให้ใครมาช่วยเย็บเสื้อให้ผมทีไม่งั้นอ๋อมเห็นจะยิ่งเลวร้ายไปใหญ่...นี่แหละครับเหตุผล”

“...ก็ได้”

...ผมออกมานอกห้องพี่ม่อนและยังไม่ทันจะก้าวลงบันไดก็เกิดอาการหมดเรี่ยวแรงไปทั้งตัว...ราวกับว่าพละกำลังมันสูญหายไปเกือบหมดแถมตายังปวดอีกด้วย...เป็นไปตามที่หนูหนึ่งกับหนูสองพูดจริงๆ...

“เจ้าเป็นอะไร?”

(ลูกพี่ลูกน้องวัย 21 เปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากห้องพอดี)

“ผมสบายดีครับแค่นั่งพักหน่อยเดียว...คือ...คือผมยังตื่นเต้นไม่หาย...ขอพักสักนิด”

“เจ้า...ถอดเสื้อส่งมาให้เรา...จะได้ให้คนไปซ่อมแซม”

“...........................................................”

“ไปฝึกฝนอย่างไรจึงรวดเร็วได้ถึงปานนี้?”

“เร็วหรือครับ?”

“เจ้ามิรู้สึกตัวรึ?”

(แค่รู้สึกว่าเรามองเห็นมีดพุ่งเข้ามาหาและก็รีบหลบเท่านั้น)

“ไม่รู้เหมือนกันครับ...ผมคงจะแค่บังเอิญโชคดีที่ดวงยังไม่ถึงฆาต”

“..........................................................”

.....................................................................................................................................................

 

(เบื้องหลังแห่งความอัศจรรย์)

“พ่อคะ”

“พ่อจ๊ะ”

“?”

“เล่นอะไรอยู่น่าสนุกจัง”

“ท่าทางน่าสนุกจังเลย”

“หนูหนึ่งหนูสอง...พ่อไม่ได้เล่นแต่กำลังแย่...คือ...”

“ยังจำคำพูดของหนูว่ากาลเวลาจงอยู่เคียงข้างได้หรือไม่?”

“ยังจำคำพูดของหนูว่าห้วงมิติจงอยู่ใกล้ชิดได้หรือไม่?”

“จำ...จำได้ๆ”

“งั้นเอามาใช้ประโยชน์ได้แล้ว”

“ได้เวลาเอามาใช้ประโยชน์เสียที”

“พ่อต้องทำอะไรบ้าง?”

“พูดออกไปว่าจะหลบหลีกคมมีด”

“ท้าเธอผู้นั้นไปว่าจะหลบคมมีดที่พุ่งเข้ามา”

“พะ...พ่อจะทำได้ยังไง?...พี่ม่อนเธอเก่งกาจมากทีเดียวนะ”

“พ่อจงเชื่อมั่นในตัวเอง”

“เชื่อมั่นว่าพ่อต้องทำได้”

“.......................................................”

“ตั้งสติให้มั่นคงไม่หวั่นไหว”

“ตาจับจ้องไปที่มีดเล่มนั้น”

“เมื่อเห็นแสงกระพริบให้รีบขยับไปทางซ้าย”

“เช่นนั้นแล้วก็จะหลบพ้นได้อย่างแน่นอน”

“เข้าใจล่ะ”

“แต่พ่อจะสูญเสียแรงกายไปเกือบหมดนะ”

“ดวงตาของพ่อก็จะปวดมากด้วยล่ะ”

“เอาน่ะลูก...ดีกว่าถูกมีดเสียบอก”

“พ่อเก่งจังเลย”

“พ่อเก่งมาก”

“อ่า--...ยังไม่ทันจะทำอะไรเลย”

“จงร้อนแรงดังแสงแห่งดวงตะวัน”

“จงเยือกเย็นดังแสงแห่งดวงจันทรา”

...............................................................................................................................................................

 

“ไหม...เราใช้พลังจิตราว 6 ส่วนในการซัดมีดซึ่งต้องเป็นผู้ที่มีความว่องไวเช่นท่านพี่สุรีย์พรรณหรือน้องนางหยาดฝนเท่านั้นจึงจะมีโอกาสหลบพ้นแต่มิเข้าใจจริงๆว่าคนธรรมดาเอกคเชนทร์ทำได้อย่างไร?”

“คุณหนูตั้งใจให้มีดเล่มนั้นปักแขนคุณชายหกหรือเจ้าคะ?”

“...เราตั้งใจเช่นนั้น”

“มาย้อนคิดดู...จะต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่นอนเจ้าค่ะหากคุณชายหกได้รับบาดเจ็บ”

“เราเองก็อยากเดิมพันเช่นกัน”

“?”

“เขาเอ่ยออกมาด้วยความมั่นใจมากว่าจะทำได้...การท้าทายอันบ้าบิ่นนั้นทำให้เรารู้สึกตื่นตัวแลต้องการจะพิสูจน์ว่าจริงหรือเท็จ...มีดที่พุ่งออกไปแม้มิรวดเร็วเท่าดาบอสูรทะลวงตรงของท่านพี่สุริยาวรรณแต่ก็ยากที่จะหลบเลี่ยง...โอกาสที่คนธรรมดาเช่นเอกคเชนทร์จะทำสำเร็จก็ยิ่งมีน้อยนิด”

“แต่คุณชายหกทำได้แม้คุณหนูจะมิได้มุ่งหมายไปที่กลางอกตั้งแต่ต้นด้วย”

“อย่างไรก็เราคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นหากเอกคเชนทร์เป็นอะไรไปอยู่นะ”

“ดีแล้วเจ้าค่ะที่คุณหนูออมมือให้โดยที่คุณชายหกมิจำเป็นต้องล่วงรู้”

“ทว่ามีเรื่องน่าแปลก...เอกคเชนทร์พอออกจากห้องของเราก็หมดแรงทรุดนั่งที่บันไดอาการบ่งบอกว่าเขาใช้พละกำลังไปเกือบหมดสิ้น”

“หรือเป็นเพราะยังมิหายตกใจ?”

“อาจจะเป็นไปได้...เปรียบดังคนที่เพิ่งผ่านพ้นวินาทีแห่งความเป็นความตายมาอย่างฉิวเฉียด...เอาเถิด...ความสงสัยนี้สักวันก็จะได้รู้...พรุ่งนี้เราจะไปบ้านของเอกคเชนทร์”

“คุณหนูจะไปขอโทษคุณหนูศรบุษราคัมหรือเจ้าคะ?”

“ในเมื่อเราเป็นฝ่ายแพ้ก็ต้องทำตามสัญญา”

“เจ้าค่ะ”

“เอกคเชนทร์...เจ้าปกปิดบางสิ่งอยู่”

.....................................................................................................................................

 

“ที่นี่...”

“เจ้ายังจำได้สถานที่นี้ได้ใช่ไหม?”

(จำได้อยู่แล้วเพราะเราพบกับหนูรีย์ครั้งแรกที่นี่แต่ตอนนี้ไม่สำคัญเท่ากับการปรากฏร่างของเสือขนาดใหญ่ที่มีแสงสีทองรอบตัวอยู่ใต้ต้นไม้คล้ายว่ากำลังพักผ่อน)

“แล้วที่อยู่ตรงหน้า...เหยื่อหรือ?”

“ใช่...นกตัวนี้คือเหยื่อของข้าแต่ยังไม่ตายหรอก...เจ้าสามารถช่วยสังหารมันให้ข้าได้ไหม?”

(จะ...จะให้เราฆ่านกสีเงินตัวนี้หรือ?...เดี๋ยวก่อนซิ...เสือตัวนี้เราก็เคยพบมาก่อนด้วยนี่นา?)

.......................................................................................................................................

18 ความคิดเห็น:

  1. ลูกเสือสาว มาทดสอบพ่อแล้ว พ่อบอลจะตัดสินใจอย่างไร

    ตอบลบ
  2. ไรท์มีเทคนิคร้ายเหลือ อธิบายบริบทมากมาย สร้างทางเลือกเยอะแยะให้ผู้อ่านสร้างจินตนาการ แล้วไรท์ทยอยเฉลยให้มีทั้งตรงใจหรือขัดใจ สนุกสนานครับ

    ตอบลบ
  3. มาเร็วมากๆ ขอบคุณมากครับ

    .....​หวังว่าความกล้าของบอลรอบนี้จะชนะใจพี่ม่อนบ้างนะ จะได้ไม่เกิดคำทำนายแบบเศร้าๆ ขึ้น

    ตอบลบ
  4. คิดว่านกสีเงินน่าจะเป็นลูกของม่อนแน่ๆ ถ้าจะให้บอลสังหารนกตัวนี้บอลคงไม่ทำแน่นอน

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณ​มาก​ครับ​

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณท่าน adslman ทีทำให้ผู้อ่านมีนิยายดีๆได้อ่านครับ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  7. สุดยอดมากครับ ตอนนี้ถูกใจมากเลย และ...สาวม่อนคืออีกหนึ่งสาวที่ผมชอบ อยากให้มีบทน่ารักๆ และร้อนกับนายบอลด้วย ..รู้ว่าเสี่ยงก็จะลุย

    ตอบลบ
  8. หลังจากเคลียใจเรื่องนี้ม่อนอาจจะเปิดใจให้บอลก็เป็นได้ ส่วนบอลอาจจะได้บัฟGlVl จากลูกเพิ่มก็เป็นได้ แล้วมาลุ้นคว่าฮาจากบอลและอ้อต่อ

    ตอบลบ
  9. เดี๋ยว..นกสีเงินจะเป็นลูกของม่อนหรือน้องคนเล็ก นางพญาหงษ์

    ตอบลบ
  10. ตอนนี้เจ้าบอลกลายเป็นThe Flash

    ตอบลบ
  11. ท่านผู้เขียน อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะครับ จะได้มาเขียนนิยายให้พวกเราอ่านอีก 😊😊😊

    ตอบลบ
  12. มาแล้ว...รอนานมากๆๆๆ ขอให้น้องแอดสุขภาพแข็งแรง ปีใหม่ขอให้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป หมดหนี้หมดสิ้น ร่ำรวยเงินทองไหลมาเทมา H.N.Y

    ตอบลบ
  13. ความสุขความเจริญจงมีแก่ท่านผู้แต่งเถิดขอบคุณมากที่แต่งให้อ่านครับผม

    ตอบลบ
  14. ขอบคุณสำหรับจิตนาการ ขอบคุณสำหรับผู้ให้ และทำให้พวกเราหลายๆคนอ่านหนังสือเกิน10บรรทัดต่อปี ขอชื่นชม ขอบคุณ

    ตอบลบ
  15. เรื่องนี้เป็นที่ 1 ในใจตลอดกาล ขอให้ผู้แต่งมีความสุขสุขภาพแข็งแรง มีแรงบันดาลใจที่จะแต่งเรื่องนี้ต่อไปครับ

    ตอบลบ
  16. ลงต่อเรยคับกำลังได้เรื่องเรย

    ตอบลบ
  17. ดูแลสุขภาพด้วยคับ..อยากให้แต่งจนจบคับ

    ตอบลบ
  18. ช่วงนี้​อากาศ​เปลี่ยนแปลง​บ่อย​ ดูแลตัวเอง​ด้วย​นะ​ครับ​ เป็น​กำลัง​ใจ​ให้​นะครับ​

    ตอบลบ