หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รักไม่นับตัวเลข ตอนที่ 24


รักไม่นับตัวเลข ตอนที่ 24 “ยอมพลีชีพเพื่อหญิงอันเป็นที่รัก!!!!!...วัตถุบินปริศนา!?

...หวุดหวิด!!!!...ถ้าเมื่อกี้บรีนเห็นของส่วนตัวของกุ๊กหล่นอยู่ในห้องล่ะก็...ผมมีหวังตายเด็ดๆ...
“เฮ้อ~~...พอ...ร่างกายฟื้น...นิดๆหน่อยๆก็เอา...เลยนะกู”
“ถูกต้อง!!!...ในชีวิตของเสือน้อยยังไม่เคยเห็นใครจะบ้าเซ็กส์บ้าผู้หญิงขนาดนี้มาก่อน...พี่ชายข้าวกล่องเอ๋ย~~
“?”
“ฉันเอง...”
“ธะ...เธอ!!!!
...เด็กหญิงผู้เรียกตัวเองว่า “เสือน้อย” ปรากฏกายทางด้านหลังเก้าอี้ที่ผมนั่งซึ่งคงจะอาศัยจังหวะที่บรีนออกไปข้างนอกปีนหน้าต่างบุกเข้ามาถึงในห้องส่วนตัวและไม่ใช่เพียงเท่านี้นั่นคือเธอเอาผ้าก๊อสออกจากตาซ้ายแล้วซึ่งมันก็ทำให้ผมตกใจอย่างมาก...
“.............................................”
“.............................................”
“.............................................”
...กลับมาแล้วเรอะ?...ก็แม่หนูคนนี้แหละที่เอายาปลุกเซ็กส์สูตรลับกรอกปากผมตอนหลับ...ต้นเหตุที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้...เธอนี่เอง!!!...
“ไหน...ว่าจะ...แต่ก็ดี!!...เธอ...ทำอะไรลง...ไปรู้ตัวบ้าง...หรือเปล่า?”
(อายที่จะพูดว่าเด็กนี่ทำให้เราสลบและก็ถูกนวดเจ้าหนู)
“เฮ่ยๆๆ...อย่าโวยวายน่า--...แค่นี้ทำเป็นอินโนเซ็นต์ไปได้แล้วอีกอย่างก็ทำตัวเองไม่ใช่หรือไงกัน?...ฉันเขียนไว้ในจดหมายชัดเจนนะว่าจะเกิดผลข้างเคียงหลังจากยาหมดฤทธิ์...แล้วมันน่ากลัวจริงๆใช่ไหม?”
“จะไม่ให้...โวยได้ไงก็...เธอจับ...ฮึ่ย~~...จับไอ้นั่น...บีบหมับๆๆ?”
“ก็ไม่ได้อยากจะจับไอ้จ้อนของพี่นักหนาหรอกนะแต่มันไม่มีทางเลี่ยงนี่...โอว---...แตงโมน่ากินจัง!!
...เด็กหญิงไม่มีเอ่ยขอสักคำแต่พอวางหมวกฟางที่โต๊ะก็หยิบส้อมจิ้มแตงโมส่งเข้าปากเฉยเลย...ถ้าไม่ติดตรงดวงตากับสีผมที่ไม่เหมือนชาวบ้านดูยังไงๆเธอก็เป็นคนธรรมดาเหมือนผมนี่เอง...
“ใช่...น่า...กลัวมาก...เธอคง...ไม่รู้ว่า...เมื่อคืน...ก่อนพี่...เกือบจมทะเล...ตายไปแล้ว”
“ขนาดนั้นเชียว!!!...ในเมื่อรู้พี่ก็น่าจะพักผ่อนให้มาก...เพียงอยู่เฉยๆไม่หักโหมแค่วัน 2 วันพี่ก็จะค่อยๆกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมแต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ถึงได้ฝืนสังขารจะทำเรื่องพรรค์นี้นัก?...แล้วเป็นยังไง?...สุ้มเสียงแหบแห้งหน้าตาล่ะก็ดูไม่ได้”
(มาไม้นี้ก็เถียงไม่ออกเลยสิตู)
“เป็น...หวัดหรือ?...เสียง...มันเพี้ยนๆ”
“เปล่า...”
“และ...ตา...ของเธอ?”
(นี่แหละสาเหตุสำคัญที่เมื่อกี้ทำเอาผมตกใจแทบสิ้นสติแล้วถ้าโผล่มาตอนกลางคืนก็ขอเผ่นแบบลืมตายล่ะ!!!)
“พึ่งจะเคยเห็นสินะ...ตาซ้ายของฉัน”
“โรค...ตาแดง?”
“บ้า!!...โรคตาแดงอะไรเป็นเฉพาะส่วนตาดำและแค่ข้างเดียวกันมิทราบ?”
“งั้น...มันอะไรล่ะ?”
...มนุษย์ที่ไหนจะทำได้แบบเด็กหญิงผู้นี้?...ตาดำข้างซ้ายกลายเป็นสีแดงสดคล้ายกับสีของเลือด...หรือว่า...
“เป็นอย่างที่พี่คิด...สิ่งที่ทำให้ตาดำกลายเป็นสีแดงก็คือเลือดและนี่เป็นลักษณะสำคัญเฉพาะลูกผู้หญิงในตระกูลของฉัน”
“แล้วทำไม...ข้างขวา...ไม่เป็น?”
“...ก็เป็นเหมือนกันแต่ในกรณีอื่น...อ้า!!...แตงโมหวานดีมาก...ขอบคุณที่เลี้ยง”
(กินซะเกลี้ยงจานเลยแต่เราไม่ได้เลี้ยงสักหน่อย)
“จริงสิ...เสียง...ก็เปลี่ยนไปด้วย?”
“ถ้าเมื่อใดที่ตาเป็นแบบนี้น้ำเสียงก็จะเปลี่ยนตามทุกครั้ง”
“ให้ตาย...อย่างกับ...เธอไม่ใช่...คนบนโลกนี้...ตาเปลี่ยนสีได้...แถมน้ำเสียง...ก็ห้าวทุ้มขึ้น...กว่าเดิมและดูน่ากลัวด้วย”
...พูดจบเด็กหญิงก็ส่ายหัว...
“แค่นี้ก็ว่าน่ากลัว?...ไม่อยากจะบอกเลยแต่พวกพี่ๆของฉันน่ะยิ่งกว่านี้อีก”
“ยิ่งกว่า...นี้?”
“หึ!!...ช่างเถอะๆ...มันไม่ใช่สาระสำคัญที่ฉันมาที่นี่”
“?”
“ก่อนอื่น...กินนี่เข้าไปซะ!!
“ฮะ...เฮ้ย?...อุ๊บๆๆ”
...อยู่ดีๆเด็กหญิงเสือน้อยก็ยัดอะไรบางอย่างเข้ามาในปากและเอามือจับคอผมเงยขึ้น...อื๋อ?...ได้กลิ่นหอมประหลาดโชยมาจากตัวเธอด้วย...
“อย่าดิ้น--...กลืน!!
“อ๊อก!!!
...เล่นกันแบบไม่ให้ตั้งตัวทัน...พอรู้ตัวอีกทีเจ้าสิ่งนั้นก็ไหลลงคอผ่านเข้าหลอดอาหารไปเรียบร้อยแล้ว...
“ฮึ!!...ก็แค่เนี้ย~~...ทีเมือกขาวๆที่ไหลออกจากไอ้ตรงนั้นของเพื่อนสาวพี่ยังกล้าเลียเข้าไปได้แล้วยานี่ก็กินง่ายกว่าตั้งเยอะ...ห้ามคายหรือขย้อนนะ...นี่เป็นยาบำรุงกำลังสูตรลับของเสือน้อย”
...และน้องหนูผมทองริ้วดำก็ส่งน้ำให้ดื่ม...
(เฮ้ย!!...ทะ...ที่พูดเมื่อกี้นี้...หมายความว่าเด็กนี่?)
“ฮึ่ย~~...เธอ...แอบฟังพวกฉัน...ด้วยเหรอ?”
“หึๆๆ...แม่นแล้ว...ไม่ใช่แค่แอบฟังแต่แอบดูเลยเชียวแหละ...นับว่าฉันช่างโชคดีที่มาทันจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มพอดี”
“เด็ก...ผู้หญิงอะไร...เนี่ย?...แอบฟังแอบ...ดูคนทำเรื่อง...”
...ไม่นึกว่าหนูน้อยคนนี้จะมารู้เห็นการกระทำทุกอย่างของผมจึงได้เอ่ยปากขอร้องเธอ...
“อย่าเอา...เรื่องนี้...ไปบอก...ใครเด็ดขาดเลยนะ...ขอร้องล่ะ!!!
“ก็ได้...เพราะตามสามัญสำนึกของเด็กผู้หญิงที่ได้รับการอบรมสอนสั่งจากผู้ใหญ่ก็ไม่ควรไปพูดเรื่องนี้กับใครที่ไหนอยู่แล้ว...จริงด้วย!!...เรียกแต่พี่ชายข้าวกล่องๆยังไม่รู้ชื่อพี่เลย?”
“แล้วเธอจะ...ยอมบอกชื่อ...จริงๆบ้างหรือเปล่า?...พี่...ชื่อเคน”
“เคนเรอะ?...ได้ไม่มีปัญหา...ฉันชื่อป้อม...เสือน้อยเป็นชื่อที่ชอบให้คนอื่นเรียกก็จริงแต่นี่เป็นชื่อเล่นที่พ่อแม่ตั้งให้นะ”
“ป้อม?”
“ชื่อน่ารักดีใช่ไหมล่ะ...ฮึ!!
(มีอะไรหล่นจากแขนเสื้อของเด็กหญิง?)
“เข็ม?”
“.........................................”
...ก็ไม่ค่อยแน่ใจแต่ท่าทางจะมีไว้สำหรับป้องกันตัวเพราะความยาวของเข็มเกินกว่าจะใช้เย็บผ้าได้...เด็กหญิงรีบก้มเก็บและเอาซ่อนทันทีราวกับจะไม่ต้องการให้ใครเห็นมัน...
“เอ้า!!...ถึงเวลาต้องจากกันแล้ว...บางทีชั่วชีวิตนี้เราอาจจะไม่ได้พบหน้ากันอีกแล้วจริงๆก็เป็นได้”
...ผมรู้สึกเหมือนมีคนกำลังมาที่ห้องและดูท่าทางน้องป้อมก็เหมือนจะไม่ต้องการให้ใครเห็นเธออีกเช่นกัน...
“เดี๋ยวสิ...เมื่อวัน...ก่อนกับวันนี้...รู้สึกอย่างกับ...เธอจะต้องการเผยตัว...ให้พี่เห็นเท่านั้น”
“งั้นมั้ง...ลาก่อนนะคะพี่เคน...ขอให้โชคดี”
“..............................................”
...แล้วน้องป้อมหรือน้องเสือน้อยตามแต่จะเรียกก็สะพายเป้ปีนหน้าต่างออกไป...
“นี่...เราไม่ได้...ฝัน...อูย!!!...เจ็บ...นี่หว่า”
(ก็ลิ้นยังรับรู้ถึงรสขมๆหวานๆของยาสูตรลับได้อยู่เลย)
“เมื้อกี้...คุยกับใครอยู่หรือเปล่าคะ?”
“อ่า--...เปล่า...เปล่านี่จ๊ะ...มะ...มีอะไรหรือครับ?”
“ก็คือว่า...หือ?...กลิ่นดอกไม้”
(หยึย!!)
“ดอกอะไรนะ?...หอมจริงๆ”
...ต้องเงียบไว้ลูกเดียว...จะบอกบรีนไม่ได้เด็ดขาดว่าน้องเสือน้อยมาที่นี่เพราะเดี๋ยวมีลมเพชรหึง...
“จริงด้วย!!...บรีนอยากพาเคนไปพบคุณพ่อ...รีบแต่งตัวให้ดีๆเถอะค่ะ”
“..........................................”
................................................................................................................................

...นายพ่อตาหนวดเข้มมาถึงบ้านพักหลังจากแวะทำธุระที่บริษัทสาขาหัวหิน...สีหน้าแววตานี่ก็ช่างไม่ให้ความเป็นมิตรกันเล้ย!!!...
(คือไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยอมรับเราสินะ)
“ตลอดทางที่มาฉันก็หวังอยู่ว่าจะไม่ต้องมาเห็นหน้าแกอีก...”
“พ่อ!!
“ไม่เห็นจะต้องพูดแบบนี้เลยนี่คะคุณ?”
“ไม่...ไม่เป็น...อะไรหรอกครับ”
“เชอะ!!...แล้วนี่แกเป็นบ้าอะไร?...หน้าตาซีดเซียวอย่างกับผีตายซาก...ไม่มีสง่าราศีเอาซะเลย”
(จะให้บอกความจริงออกไปหรือยังไงกัน?)
“ถึงเคนจะหน้าตาแย่กว่านี้อีกสิบๆเท่าบรีนก็ยังรักเขาค่ะคุณพ่อ”
“ใช่ซี่~~...ก็ตอนนี้ความรักของพ่ออย่างฉันมันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้วนี่!!
“คิดจะทำให้ลูกมีบาปติดตัวหรือคะถึงได้พูดแบบนี้?”
“...ในความคิดหนูคุณพ่อก็ยังเป็นคุณพ่อของหนูตลอดไปนะคะ”
“งั้นเหรอ?...ในเมื่อยังเห็นฉันเป็นพ่อแล้วทำไมแกถึงไม่เชื่อฟังและมองไม่เห็นถึงความหวังดีของฉัน...อย่าลืมนะว่าการหย่ายังไม่มีความสมบูรณ์เพราะรุจเขาไม่ยอมเซ็นต์ใบหย่า”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นหนูก็จะใช้กระบวนการทางกฎหมายช่วยปลดปล่อยให้ตัวเองเป็นอิสระจากคุณรุจ”
“แก!!!
“หยุดเสือกไสไล่ส่งลูกตัวเองซะทีเถอะค่ะพ่อ!!!...ยังไงน้องบรีนก็จะไม่มีวันกลับไปอยู่กับนายรุจอีก...ผู้ชายคนนั้นทั้งหยาบช้าและก็เห็นแก่ตัวไม่มีใครเกิน”
“เงียบนะ!!!...แกมันก็ดีแต่เข้าข้างน้อง...ดีแต่เสี้ยมสอนให้มาเถียงคอเป็นเอ็นกับฉัน”
“ไม่เงียบ!!!...เพราะบรีนต้องการจะทำตามหัวใจของตัวเองและต่อไปนี้หนูจะไม่ยอมให้ใครมารังแกเธอได้อีก...นอกจากนี้เคนก็เป็นผู้ชายที่หนูและคุณแม่ยอมรับ...เขาจะต้องดูแลและทำให้น้องสาวที่น่ารักของหนูมีความสุขได้แน่!!!!
...พี่จุน,น้าจี๊ด,จี,กุ๊ก,น้องมิว,น้องจอยได้ยินการโต้เถียงของสมาชิกในครอบครัวจึงทยอยออกมาดูซึ่งนั่นคงจะทำให้คุณพ่อของบรีนยิ่งไม่พอใจมากขึ้นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร...
“คุณพ่อคะ...บรีนไม่ต้องการกลับไปหาคุณรุจ...ชั่วชีวิตนี้ขออย่าได้เจอหน้ากันเลยยิ่งดี”
“เพราะอะไร?...หรือว่าแกยังโกรธที่รุจทำ...”
(ทำอะไร?)
“นั่นมันแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นค่ะคุณพ่อ...ถึงเขาจะทำให้หนูเสียใจจนแทบอยากฆ่าตัวตายแต่ก็หนูรู้ว่าจะต้องอดทนมีชีวิตต่อไปเพื่อมาเจอกับคนที่ตัวเองรัก...หนูเชื่อว่าต้องมีและก็เป็นความจริง...เคนคือคนๆนั้นเอง”
“สรุปก็คือฉันไม่สามารถเปลี่ยนความตั้งใจของแกได้?”
“.........................................”
“ฮึ!!...อย่างที่เขาว่าไว้เลย...เลี้ยงลูกก็เลี้ยงได้แต่ตัวจริงๆ...ปีกกล้าขาแข็งกันหมดแล้ว!!!...ลูกสาวคนโตไปคว้าฝรั่งตาน้ำข้าวเป็นผัวอยู่กินกันตั้งแต่ยังเรียนไม่จบและมาบ่นร่ำๆว่าจะหย่าส่วนลูกสาวคนเล็กแทนที่จะช่วยเชิดหน้าชูตาวงค์ตระกูลกลับไม่รักดีหนีผัวออกจากบ้าน...โน่น!!!...ไปฝากตัวทำงานกับไอ้คนไม่ได้ความแถมแอบคบผู้ชายควงกันออกนอกหน้า”
“คุณพูดแรงเกินไปแล้วนะคะ!!!...นี่ยังรักลูกของตัวเองอยู่หรือเปล่า?...แล้วบริษัทที่ลูกบรีนไปทำงานด้วยนั่นก็ของน้องชายคุณไม่ใช่หรือไง?”
“ผมพูดความจริงมันผิดตรงไหน?”
“เฮ้อ!!...สมัยนี้ยังจะมีอีกแฮะ?...ไอ้เรื่องแบ่งชนชั้นกันเนี่ย...นี่ตาหนวด!!!
...อึ๋ย!!!...พี่จุนเรียกคุณพ่อของบรีนว่าตาหนวดอย่างไม่เกรงใจแบบนี้มันอาจจะเกิดเรื่องขึ้นมาก็ได้นะครับ...
“เธอถือดียังไงมาเรียกฉันอย่างนี้!!!...คิดว่าตัวเองเป็นใครกันหา?”
“ฉันเป็นใคร?...ฮึ!!...รู้แล้วจะหนาวนะเฟ้ยนายหนวดเข้ม...อืม--...ขอถามอะไรสักหน่อยสิ...หลานฉันคนนี้มันไม่ดีตรงไหนถึงจะรักกับลูกสาวคุณไม่ได้?...นิสัยใจคอรึก็ดีมากๆไม่อย่างงั้นน้องบรีนคงไม่รักใคร่หัวปักหัวปำถึงขนาดขอหย่ากับสามีแบบทุกเมื่อเชื่อวันสามเวลาหลังอาหารร้อก!!
“........................................”
“อีกอย่างถ้าลูกเขยคนโปรดของนายมันดีจริงๆน้องบรีนก็คงไม่คิดหนีออกมาหรอกใช่มะ?...งั้นแสดงว่านายนี่ต้องเป็นคนที่ใช้การไม่ได้เอามากๆ...ไม่สิ...มันต้องชั่วร้ายสุดๆแน่”
“ใช้การได้หรือไม่ได้...ชั่วหรือไม่ชั่วแล้วนี่มันกงการอะไรของคนนอกไม่ทราบที่จะเข้ามายุ่งและยังวิพากษ์วิจารณ์คนในครอบครัวของฉัน?”
“โถๆๆเจ้าหนวด~~...ก็ไม่ได้อยากยุ่งนักหรอกนะเฟ้ย!!
“ควรจะคุยกันด้วยเหตุผลดีกว่าการบังคับนะคะ...คุณเองก็เป็นผู้ใหญ่ส่วนฉันเองก็เคยชอกช้ำใจจากผู้ชายที่ไม่เคยทำหน้าที่สามีที่ดีจนต้องพาลูกหนีออกมาและบรีนก็เห็นตัวอย่างจากฉันแล้ว”
“............................................”
“จะว่าไปฉันกับน้องบรีนก็สนิทกันดี...เรื่องราวคับข้องใจอะไรเธอก็จะเล่าให้ฟังตลอด...ในฐานะผู้หญิงด้วยกันฉันรู้สึกเห็นใจและสงสารมาก”
...น้าจี๊ดพูดพลางโอบกอดน้องมิวไว้แนบกาย...
“มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมายึดถือเป็นอารมณ์เลย...ทุกคนกรุณาอย่าทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กๆแค่นี้เพราะต่อไปเป็นหน้าที่ของสามีอย่างผมที่จะพาภรรยาตัวเองกลับบ้านแล้วล่ะครับ”
“คุณรุจ!!!!
.............................................................................................................................

...นี่น่ะหรือคุณรุจสามีของบรีน?...ชายหนุ่มผิวขาวรูปร่างสูงโปร่งสวมชุดสูทหน้าตาหมดจดเต็มไปด้วยมาดเศรษฐีผู้ดีเต็มขั้นกำลังเดินเข้ามาพร้อมมุ่งสายตามาทางผมอันบ่งบอกว่ากำลังหยามเหยียดกัน...คะเนว่าอายุน่าจะสัก 28 – 29 ปี...ด้านหลังเขาก็มีลูกน้องหน้าเข้มสวมแว่นกันแดดใส่ชุดดำอีก 2 คน...
“สวัสดีทุกคนท่านครับ”
“.........................................”
“แกมาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย?”
...พี่บรีมดูจะไม่ชอบหน้าน้องเขยที่ถูกต้องตามกฏหมายของเธอเอามากๆ...เขาเคยทำเรื่องเลวร้ายอะไรกับน้องสาวฝาแฝดบ้างนะ?...ครั้นจะถามบรีนก็ไม่กล้าเพราะกลัวเธอจะสะเทือนใจ...
“ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจ...ผมลงมาที่หัวหินล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะครับซึ่งคุณพ่อก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี”
“คุณพ่อ?”
“ทำไมคุณไม่บอกเรื่องนี้กับฉันคะ?”
“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรสักหน่อยนี่คุณรีและต่อไปนี้จะเป็นเรื่องของผัวเมียจะตกลงทำความเข้าใจกัน...คนนอกไม่มีสิทธิ์เข้าไปเกี่ยวข้อง”
...ว่ากระทบไปถึงพวกผมแน่นอน...
“กลับบ้านของเราเถอะนะ...รู้มั้ยครับ?...ตั้งแต่บรีนน้อยใจหนีออกมาผมไม่เคยนอนหลับสนิทเลย...ต้องคอยผวาตื่นตลอดเผื่อว่าบรีนจะกลับมา”
“..........................................”
“หึย~~...น่าคลื่นไส้ชะมัด!!!...ขนาดไม่ใช่บรีนพี่ยังรู้สึกสะอิดสะเอียนแทน...เคน...เธอต้องเข้มแข็งไว้นะ”
“...ครับ”
“ไอ้นี่เปลือกนอกมันดูดีแต่ข้างในสุดจะโสโครก...มันทำเรื่องเลวร้ายกับบรีนไว้มากดังนั้นเธอจึงไม่มีวันใจอ่อนยอมกลับไปกับมันหรอก...เชื่อสิ”
“...........................................”
“พวกแกทั้ง 5 คนจะเสนอหน้าอยู่หาพระแสงอะไรวะ?...ออกไปข้างนอกโน่น!!!
“เอ้ย!!...ไอ้หน้าเสียม 2 ตัวนี่มีสิทธิ์อะไรมาไล่พวกเรามิทราบ?”
“พูดแบบนี้สงสัยอยากจะโดนตีนเป็นของว่างมั้ง?”
...น้าจี๊ดพาน้องมิวถอยออกห่างเช่นเดียวกับกุ๊กที่คอยกันน้องจอยไม่ให้เข้าไปใกล้ชายฉกรรจ์ทั้งสองส่วนพี่จุนกับจีอยู่ในสภาพเตรียมพร้อม...
“คนนอกกลุ่มนั้นคงเป็นแขกของบ้านนี้...ไม่เป็นไรๆ...ดีซะอีกจะได้อยู่ช่วยกันเป็นพยาน”
“หยุดตรงนั้นแหละ!!!...อยากจะตอแหลอะไรก็รีบๆซะแต่ไม่ต้องมาแตะตัวน้องฉันแม้ปลายเส้นขน”
“ทำไมพี่เมียพูดกับผมแบบนี้?”
“ฉันไม่ใช่พี่เมียของแก!!!...คำๆนี้น้องเคนเรียกได้คนเดียวเท่านั้น”
“หึๆๆ...นายคนที่แย่งเมียชาวบ้านเนี่ยน่ะหรือครับพี่บรีม”
“แล้วยังไง?...น้องเคนเขาดีกว่าแกเป็นร้อยๆเท่า...จนบัดนี้ฉันก็ยังมีความเสียใจเหลืออีกอย่างหนึ่งคือไม่ได้อยู่ปกป้องน้องสาวให้รอดพ้นจากเงื้อมมือมารร้ายอย่างแก...ฉันแสนจะเสียใจจริงๆ!!!
“พี่บรีมได้โปรดอย่าโทษตัวเองอย่างนั้นเลยค่ะ”
“...แต่จากนี้ไปฉันไม่มีวันจะปล่อยให้เหตุการณ์เดิมมันเกิดขึ้นได้อีกแน่นอน...คนอย่างแกมันไม่คู่ควรกับน้องสาวที่น่ารักคนนี้เลย”
...ไม่เคยเห็นพี่เมียเกรี้ยวกราดมากถึงขนาดนี้มาก่อนส่วนพี่จุนยืนซุบซิบกับจีแต่เผอิญผมอยู่ใกล้เลยได้ยิน...
“ท่าทางเจ้าสำอางดีแฮะแต่ไม่ใช่แบบที่ฉันชอบว่ะ”
“จุน!!...จะพูดอะไรก็คิดซะบ้างซี่ว่าที่นี่ที่ไหน?”
“ฉันอยากจะพูดอะไรก็พูดว้อย!!!
“เฮ้ย!!!...เจ้านายกูให้อยู่ข้างในได้แล้วก็อย่าดัดจริตร้องเอะอะเสียงดังเซ่---
“จับข่มขืนเรียงคิวซะดีมั้ยนี่?”
“ชักโมโหแล้วโว้ย!!...ไอ้ 2 ตัวนี่กวนส้นตีนชะมัด...แม่งช่วยเอาหมาออกจากปากมันดีมั้ย?”
“...ถ้าอย่างนั้นแบ่งกับฉันละกัน...เอ้ย!!...มันพกปืนด้วยนี่”
...เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายมีอาวุธร้ายแรงทั้ง 2 แม่ลูกจึงยังไม่กล้าลงมือทำอะไรวู่วาม...
“นะจ๊ะ...เรามาเริ่มต้นกันใหม่...เริ่มชีวิตครอบครัวอันแสนอบอุ่นกันอีกครั้ง...คุณพ่อคุณแม่ผมก็บ่นคิดถึงบรีนทุกวันเลย”
“โกหกหน้าด้านๆ...พ่อแม่ของคุณน่ะหรือคิดถึงฉัน?...ทุกวันๆดีแต่พูดจาเสียดสีกระทบกระเทียบเหยียดหยาม...อย่ามาใช้คำพูดหลอกลวงคนอื่นดีกว่าค่ะเพราะฉันกับคุณรู้ดีทุกอย่างว่าอะไรมันเป็นอะไร?”
“บรีนจ๋า~~
“อย่ามาใกล้ตัวฉันนะ!!!!
“นั่นไงล่ะเคน!!!...บรีนเกลียดไอ้หมอนี่สุดๆไปเลย”
“จริงด้วยจ้ะ...แม่เองก็ไม่เคยเห็นบรีนเป็นแบบนี้...ปกติเธอไม่ใช่คนที่มีความกล้าจะโต้ตอบอะไรกับใครนักหรอก...แล้วทำไมกันนะ?”
“บรีนพูดไม่น่ารักเลย...ทั้งที่เมื่อก่อนคุณน่ะจิตใจอ่อนโยนและก็อ่อนหวาน...ใครกันที่เสี้ยมสอนให้คุณทำแบบนี้กับสามี”
“สามี?...หึ!!...อยากจะหัวเราะ...ฉันไม่เคยเห็นคุณเป็นสามีแม้เลยสักวินาทีเดียว”
“........................................”
“........................................”
“เอาน่ะ...ผมจะถือว่าคุณคงยังโกรธผมอยู่แต่ไม่ว่ายังไงวันนี้เราก็ต้องตกลงกันให้รู้เรื่อง...ไอ้หนุ่มนี่ใช่มั้ยที่ทำให้บรีนเปลี่ยนไป?”
...ในที่สุดก็ถึงคิวของผม...งานนี้จะไม่มีทางก้มหน้าหงอเพราะผมไม่ใช่คนลักขโมยเมียชาวบ้านอย่างที่อีกฝ่ายกำลังเข้าใจ...
“เคนสินะ?”
“ใช่ครับ”
“มา!!...เรา 2 คนมาเปิดอกพูดคุยกันอย่างลูกผู้ชาย...ผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของฉันและที่มาวันนี้ก็เพื่อมาตามภรรยาตัวเองกลับ...สามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายคนนอกไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่ง...ถ้านายคิดจะทำอะไรที่ไม่ดีไม่งามต่อศีลธรรมล่ะก็ขอให้หยุดซะเดี๋ยวนี้”
“.............................................”
“หึ!!...ไอ้รุจ...เดนคนอย่างแกรู้จักคำว่าศีลธรรมกับเขาด้วยเรอะ?”
“ไม่!!!...ฉันจะไม่กลับไปยังสถานที่ๆเหมือนนรกนั่นอีกแล้วและไม่ต้องเอาคำว่าศีลธรรมมาอ้าง”
“ฮึ!!...ถ้าเป็นเรื่องการหย่าผมไม่ยอมรับ!!...เรา 2 คนจะไม่มีวันแยกทางกันเด็ดขาดเพราะนั่นเป็นการตัดสินใจเพียงฝ่ายเดียวซึ่งไม่อาจจะยอมรับได้!!!
“ฉันไม่ได้รักคุณ!!...แล้วมันมีเหตุผลอะไรที่เราจะหย่ากันไม่ได้?”
...ผมไม่มีทางปล่อยคุณไปหรอก...อ้อ!!...นี่คงเพราะได้คบกับหนุ่มเอ๊าะๆถึงลืมหน้าผัวไม่กลับบ้านกลับช่อง...ท่าทางสนิทกันมากนี่นะ”
“คุณกรุณาให้เกียรติอดีตภรรยาของคุณหน่อยครับ”
“อดีตภรรยา...งั้นเหรอ?...ปากดีไม่เบานี่...เฮอะยอมรับมาซะดีกว่า!!!...ฉันให้คนคอยเฝ้าติดตามอยู่และได้รู้ว่านายกับเมียฉันสนิทสนมกันดีมาก...ออกไปเที่ยวไหนต่อไหน 2 ต่อ 2 กันหลายครั้งทีเดียว...ดังนั้นถ้าจะทำอะไรบัดสีกันมันก็คงจะไม่แปลก”
“เฮ่ๆๆ...คนของนายเคยแอบเห็น 2 คนนี้ไปทำเรื่องทะลึ่งกันด้วยหรือไง?...พูดจาให้มันมีหลักฐานหน่อยคู้น~~...อย่างนี้ฟ้องหมิ่นประมาทได้นะเนี่ย?”
“เป็นคนนอกกรุณาอย่ายุ่งเกี่ยวเรื่องของผัวเมีย...ไม่มีอะไรจะต้องพูดกันให้เสียเวลาอีก...บรีน...กลับไปกับผมซะที!!!!
“ไม่มีทาง!!...ฉันจะไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น...บอกแล้วไงว่าไม่มีประโยชน์ที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน...การแต่งงานมันเกิดขึ้นเพราะคุณวางแผนชั่วและใช้กำลังย่ำยีจนฉันตั้งท้อง”
...อะไรนะ!!!!!!!!!!!...ท้อง...คุณบรีนตั้งท้อง?...แต่ตอนนี้...งั้น...งั้นลูกของเธอล่ะ?...
“พอท้องได้ 4 เดือนฉันก็ต้องแท้งลูกจากอุบัติเหตุ...พ่อแม่ของคุณแทนที่จะดูดำดูดีกลับเย้ยหยันดูถูกและโยนความผิดให้กับฉันรับไปคนเดียว”
“บรีมเคยบอกคุณพ่อๆก็ไม่เชื่อแถมยังไปเข้าข้างลูกเขยคนดีซะงั้น”
“.........................................”
...แต่ว่า...เรื่องแท้งลูกนี้บรีนก็น่าจะเล่าให้ผมฟังบ้างนะ...ทำไมยังต้องปกปิดกันอีก?...
“ไงไอ้คนใจสัตว์!!!...แกจะกล้าเถียงไหมล่ะว่าที่น้องฉันพูดมันไม่จริง?”
“ลูกบรีม”
“ความเลวร้ายทั้งหมดมันเกิดขึ้นจากแกคนเดียว...ไอ้เดนมนุษย์ชั่วช้าไร้จิตสำนึก...คิดแผนวางยาข่มขืนน้องฉันในงานวันเกิดพ่อตัวเองพอรุ่งขึ้นก็ตีหน้าเศร้าบอกจะรับผิดชอบพาผู้ใหญ่มาสู่ขอตบแต่งอย่างออกหน้า...ตบหัวแล้วลูบหลังอ้างว่าจะขอรับผิดทุกอย่างแต่ขอโทษ...ที่แกทำลงไปมันเพื่อต้องการล้างแค้นที่บรีนไม่เคยมีใจให้กับแกเลยต่างหาก!!!!
“จริงหรือฮะเนี่ย?”
“น่าเกลียดสุดๆ...วางแผนข่มขืนผู้หญิงจนตั้งท้อง...ต๊าย!!!...ผู้ชายอะไรทั้งชั่ว...เลว...สกปรก...โสมม...ซกมก...โสโครก...สถุล...ถุย!!!
“ใช่ค่ะ...เลวยิ่งกว่าสัตว์นรก...ต่อให้เหลือผู้ชายแค่คนเดียวในโลกแต่ถ้าชั่วช้าสามานย์ขนาดนี้กุ๊กก็ขออยู่เป็นโสดไปชั่วชีวิตดีกว่า”
“ฮึ!!...พวกคนนอกชั้นต่ำนี่มันปากร้ายปากตลาดกันจริงๆเลยนะ...อย่างนี้มันน่าไปเป็นพวกผีขนุนแถวสนามหลวงนัก”
“ว้ายๆๆ...ไม่ยักรู้เลยนะเนี่ยว่าพวกผู้ดีไฮโซจะรู้จักผีขนุนด้วย...จะหมายความยังไงนะจี?”
“ก็หมายความว่า...ไอ้หน้าจิ้งจกที่วางท่าเป็นคุณชายผู้ดีในที่นี้ก็อาจจะเคยแอบหิ้วอีตัวไปนอนกกน่ะสิ...ฮ่าๆๆๆ”
“ถึงว่าสิคะพี่จุน...รู้จักอะไรๆดีซะขนาดนี้...ขนาดกุ๊กยังไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำ”
“............................................”
...จากนั้นทั้ง 3 สาวต่างก็เอาปังตอรุมสับอดีตสามีของบรีนเละซะไม่มีชิ้นดีจนพวกลูกน้องที่มาด้วยจ้องตาขวางราวจะกินเลือดกินเนื้อ...
“พวกแก!!!
“ทำไมๆ...จะซัดกันเหรอ?...เข้ามาดิๆ”
...พี่จุนคงสังเกตเห็นแต่แรกจึงแกล้งยั่วยุหนักขึ้นแล้วก็ร้องท้าทายอย่างไม่กลัว...อีกฝ่ายก็ใช่ย่อยกะจะรับคำท้าเหมือนกัน...
“ยังไงพ่อแม่ของพวกเราก็สนิทชิดเชื้อกันมานานและเคยคุยเรื่องการหมั้นหมายของเราด้วย...มันจะเสียหายตรงไหนเล่า?...ยังไงเรา 2 คนก็ต้องได้แต่งงานกันอยู่ดี”
“อิอิ...สงสัยหมดท่าคิดหาคำแก้ตัวก็เลยยอมรับความระยำของตัวเอง”
“...นึกว่าหน้าจะหนายิ่งกว่านี้ซะอีกนะ”
“อย่าไปสนใจกับเสียงนกเสียงกาที่ไร้ค่า...ผมรักบรีนมากนะครับ”
“แต่ฉันไม่เคยรักคุณแม้สักเพียงเศษเสี้ยวเดียว!!!...สิ่งที่คุณเคยได้ไปจะถือว่าเป็นฝันร้ายและเป็นเวรกรรมแต่ชาติปางก่อน...ต่อจากนี้ไปฉันจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้ชายที่ตัวเองรักซึ่งมีเพียงแค่คนเดียวนั่นก็คือเคน...เขาเท่านั้นแหละที่ฉันยอมรับเป็นสามี”
...ผมยินดีอย่างยิ่งที่บรีนพูดแบบนี้แต่ว่า...
“เฮอะ!!...สามี?...ไอ้หน้าปลาจวดนี่มันมีอะไรดีกว่าผม?...จนก็จน...ศักดิ์ศรีรึก็ไม่มีอะไรเทียบเท่าผมได้เลยสักนิด”
“แล้วยังไงคะ?...อย่างน้อยเรา 2 คนก็เข้าใจซึ่งกันและกัน...คุณน่ะมันดีแต่เอาเงินทองของนอกกายมาประเคนให้โดยปากบอกว่ารักแต่แท้จริงก็เพราะต้องการจะแก้แค้น...จิตใจของคุณมันมีแต่ความโสมมถึงกับใช้วิธีสกปรกเพื่อจะครอบครองตัวฉัน...แต่เอาเถอะ...ฉันขออโหสิกรรมให้กับความเลวทั้งหลายแหล่ของคุณละกัน”
“ใช่แล้วครับ...ผม...ไม่มีวันเป็นฝ่ายถอย...ออกไป...ผมรักคุณบรีนและเราจะแต่งงาน...กันในอนาคต...คุณบรีนไม่ได้รักคุณรุจ...ดังนั้นจึง...ไม่มีประโยชน์ที่จะกลับไปอยู่กับคุณ...อีก”
“กะ...แกว่าอะไรนะ?”
“จะให้พูดอีกกี่ครั้งก็ได้!!!...ผมรักคุณบรีนและคุณบรีนก็รักผม...ว่าไง?...ได้ยินชัดหรือยัง?”
“หุบ...หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!!!!...มึง...มึงมันมีอะไรจะมาเทียบกูได้?...จะอยู่กินฉันท์ผัวเมีย...น่าหัวร่อ...น้ำหน้าอย่างมึงรึจะไปกันรอด?”
...คราบผู้ดีมีชาติตระกูลถูกสลัดออกเผยให้เห็นธาตุแท้แล้ว...
“...ผมคงจะไม่แข่งขันเรื่องความร่ำรวย...ความมั่งมีเงินทอง...ฐานะหน้าตาในสังคมกับคุณหรอกแต่สิ่งที่ผมมั่นใจว่าต้องมีเหนือกว่าคุณอย่างเทียบไม่ได้นั่นก็คือหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อบรีน”
“อย่ามาเห่าหอนมั่วๆ...กูก็มีความรักให้บรีนเหมือนกันโว้ย!!!
“ผิด!!...ความรักที่คุณชอบนำมากล่าวอ้างแท้จริงมันคือการมีทิฐิมานะที่อยากจะเอาชนะใจบรีนต่างหาก...ตัวคุณเองก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าเธอไม่ได้รักคุณแม้แต่นิด...ช่วงระยะเวลาตั้งแต่วัยเด็กถึงปัจจุบันกับความรักที่คุณเชื่อมั่นนักหนามันไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อสตรีที่ตัวเองรักเลย...มีแต่สร้างความทุกข์ทรมานให้เท่านั้น!!!!
“เยี่ยมยอดเคนเพื่อนรัก!!
“น้าภูมิใจในตัวเธอมากจ้ะ”
“ฮึ่ม!!...ปากดีนักนะมึง!!!
“ว้าย!!!!
“รุจ~~...เธอจะทำอะไร?”
(โอ้ยอะไรกัน!!!!...ถึงกับชักปืนออกมาชี้หน้ากันเชียวหรือนี่?)
“นั่นปืนจริงหรือแม่?”
“อย่าออกห่างแม่นะลูก!!!
“พี่เคนรีบหนีค่ะ!!!
...น้องมิวยังมีใจเป็นห่วงผมแต่น่าละอายที่ตัวเองไม่อาจจะสนองตอบความรักของเธอได้...
“บรีน...โอกาสนี้จะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายสำหรับเธอ...จงบอกมาว่าจะกลับไปอยู่กับผมหรืออยากจะตายเพื่อบูชาความรักบ้าๆบอๆพร้อมกับไอ้นี่!!!
“ไม่นะ!!!
...คุณสายจุรีเอามือปิดปากใบหน้าก็ถอดสีลงด้วยไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอเห็นต่อหน้า...พี่บรีมก็ตกตะลึงพรึงเพริดอยู่ข้างๆคุณพ่อ...
“แกมันบ้า!!!...แค่น้องสาวฉันไม่รักแกแค่นี้ก็ถึงกับควักปืนออกมาบังคับขู่เข็ญกันเชียวเหรอ?”
“ใครว่าผมแค่จะขู่เท่านั้นละคร้าบพี่เมีย?...ผมยิงทิ้งจริงๆแน่ทั้ง 2 ตัวชายโฉดหญิงชั่วนี่แหละ!!...เมื่อถ้าผมไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการใครก็อย่าหวังจะได้ไปเด็ดขาด!!!!
“บ้า...บ้าไปแล้ว!!!...เห็นมั้ยพี่จี๊ด?...แค่ผู้หญิงเขาไม่รักตัวเองแค่เนี้ย~~
“จริงด้วยจุน...หน้าตามันก็อย่างกับคนโรคจิต!!
“หุบปากซะไอ้พวกชั้นต่ำ!!!!...เรื่องของผัวเมียคนนอกกรุณาอย่าเสือก...เฮ้ยพวกมึง!!!...ถ้าอีตัวไหนคิดจะเข้ามาสอดแม่งจับไปข่มขืนตามใจชอบได้เลย!!!!
“ผู้ชายคนนี้น่ากลัวจังแม่...มิวกลัว~~
“ไม่เป็นไรนะลูก...แม่อยู่นี่ทั้งคน”
(จริงด้วย!!!...น้องมิวเคยรับผลกระทบจากความทารุณโหดร้ายของคุณพ่อเธอตอนยังเล็ก...แล้ววันนี้นายรุจก็มาก่อเรื่องซ้ำรอยตอกย้ำรอยแผลในใจเข้าให้อีก)
“แม่จุน...จอยเกลียดผู้ชายคนนี้!!...เกลียดที่สุด!!!!
(ส่วนน้องจอยก็เคารพและเทิดทูนคุณพ่อของเธอที่ล่วงลับไปแล้วยิ่งกว่าใครจึงทนไม่ได้ที่จะมีผู้ชายเลวๆมายืนอยู่ต่อหน้า)
“โอเคๆ...ใครที่บังอาจทำให้ลูกจอยโกรธเกลียด...แม่จะจัดการมันเอง!!!!
“กุ๊กถอยไป...”
“หยุดนะว้อย!!!!...อย่าคิดเล่นตุกติกกับกู...พวกมึงตาบอดเหรอถึงไม่เห็นว่ากูถืออะไรอยู่?”
“รุจ!!!!...พ่อขอร้อง...วางปืนก่อนเถอะ...เรามาพูดจากันดีๆ”
“อย่ามาสั่ง!!!...ผมน่ะผิดหวังกับคุณพ่อจริงๆนึกว่าจะพึ่งพาได้ซะอีก...ขนาดแค่กล่อมลูกสาวตัวเองให้กลับไปอยู่กับผัวก็ยังไม่มีปัญญาเล้ย~~...ถ้ารู้งี้ผมลงมือซะแต่แรกมันก็จบเรื่องไปนานแล้ว...เอาละบรีน...ตอบมา!!!!
“.......................................”
“ฉันจะไม่ตอบคำถามอันซ้ำซากของคุณอีก...นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วใช่มั้ยคะ?...ได้!!...ฉันขอตอบว่าไม่มีวันที่จะกลับไปอยู่กับคุณ...ผู้ชายที่ฉันรักมีเพียงคนเดียวนั่นคือเคน”
“ขอบคุณ...ขอบคุณเหลือเกินครับ...แค่นี้ชีวิตผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว”
...สถานการณ์ตรงหน้าเข้าขั้นฉุกเฉินขนาดหนักแต่ผมยังยิ้มออกได้อีกและไม่ใช่เวลาจะมัวมาคิดเรื่องอื่นนอกจากต้องมีชีวิตรอด...
“เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปนะคะ”
“........................................”
“........................................”
“ฮึๆๆๆๆๆๆๆ...ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...ครั้งสุดท้ายจริงๆ...ฉันได้เพียงตัวเธอ...แต่ไม่ได้หัวใจของเธอ...ดีมาก...ดี!!!!
...นายรุจเวลานี้เหมือนกับคนเสียสติทั้งหัวเราะแล้วก็ร้องให้ไปพร้อมกัน...
“ทั้งที่...กูหลงรักมึงมาแต่เด็กแต่มึงกลับไม่เคยเห็นคุณค่า!!!...ไอ้ชายโฉดหญิงชั่ว...ได้~~...ในเมื่อรักกันมากนักก็จงตายไปซะทั้งคู่เถอะพวกมึง!!!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!
“อย่า~~~
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด”
...เสียงหวีดร้องของผู้หญิงดังประสานกันลั่นแต่วินาทีนั้นผมไม่สนใจอะไรอีกแล้วนอกจากเค้นเอาพละกำลังเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่พร้อมกับใช้ร่างกายของตนเองพุ่งเข้ากอดบรีนเพื่อเอาตัวรับลูกกระสุนปืนแทนหญิงสาวอันเป็นที่รักยิ่งแต่ก่อนที่ประกายไฟจากกระบอกปืนจะสว่างวาบขึ้น!!!!...นายรุจก็แหกปากร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดก่อนจะทรุดตัวล้มลงไปนอนดิ้นพล่านกับพื้น...
“ช่วย~~~...โอ๊ย!!!!!!!!...ช่วยด้วยยยยย...เจ็บเหลือเกินนนนนนนนน”
“เจ้านาย!!!!
“จี!!!
“แกตาย!!!
“โอ้ยยยยยยยยยย”
“อั๊กกกกกกกกกกก”
“ฮึๆๆ...เมื่อกี้ปากเก่งนักไม่ใช่เรอะ?...กล้าทำกร่างต่อหน้าทอร์นาโดจุนคนนี้...มันน่าจะพัดไปลงทะเลให้เป็นสวะลอยคอซะจริงๆ”
...พี่จุนยกเท้ากระทืบหลังและเตะคนกลิ้งเหมือนเตะสิ่งของ...
“สำหรับแก 2 ตัวปืนจริงมันก็เหมือนของเล่นว่ะ...ถ้าจะยิงก็ยิงมาเลยอย่ามัวแต่ขู่...ไอ้พวกงี่เง่า!!
...จีก็กำลังเล่นงานที่แขนของ 1 ใน 2 คนนั่นซึ่งพี่จุนกับเธอรีบชิงความได้เปรียบอาศัยความว่องไวตรงเข้าเล่นงานพวกลูกน้องที่จะไปช่วยเจ้านายตัวเองจนล้มกลิ้งไปคนละทิศคนละทางแล้วตามทำร้ายซ้ำส่วนนายรุจที่ข้อมือขวาของเขามีเลือดไหลออกมามากทีเดียวรวมทั้งอกขวาก็เช่นกัน...
“บรีนลูกแม่~~
“น้องไม่เป็นอะไรนะ?”
“ค่ะพี่บรีม...เคนคะ!!...เคนเป็นยังไงบ้าง?”
...ถึงผมจะยังมีสติแต่มันก็เลือนรางเต็มทีอีกทั้งยังไม่มีแรงแม้จะขยับปากพูด...เมื่อกี้นี้มันเป็นพลังแห่งความรักโดยแท้...
(แค่นี้ผมก็ดีใจมากแล้ว...ที่ตัวเองทำหน้าที่อย่างกล้าหาญปกป้องบรีนให้มีชีวิตรอด...รู้สึกภาคภูมิใจเหลือเกิน)
“ขอบคุณนะคะเคน...ขอบคุณมาก...บรีนมองคนไม่ผิดจริงๆ”
...พูดไม่ได้แต่บรีนก็เหมือนจะรู้ความคิดของผมผ่านทางแววตา...หญิงสาวหลั่งน้ำตาแห่งความปลื้มปิติและโอบกอดผมไว้แน่นอก...
“คุณคะ...ฉันโทรแจ้งตำรวจแล้ว...ไอ้โฉดชั่วตัวนี้จะไม่ใช่สามีของลูกบรีนอีกต่อไปเพราะขนาดแค่ความเป็นมนุษย์มันก็ยังไม่มีหลงเหลือซึ่งต่อให้ต้องถึงขั้นฟ้องร้องศาลฉันก็จะขอสู้คดีจนถึงที่สุดเพื่อความสุขชั่วชีวิตของลูกเรา!!!...คุณได้เห็นเต็มสองตาแล้วใช่มั้ยว่าเคนคือผู้ชายที่เหมาะสมจะเป็นลูกเขยของเราอย่างไม่ต้องสงสัยอะไรอีก?...เขานั้นนับเป็นลูกผู้ชายอย่างแท้จริงที่ยอมพลีชีพเพื่อหญิงอันเป็นที่รัก”
“.........................................”
“ว่าไงคะ?...คุณยังจะมีอคติที่ไม่เข้าท่าชิงชังรังเกียจลูกเคนไปทำไมกันอีกในเมื่อเขารักลูกสาวเราอย่างแท้จริง?”
“อือ...ถูกต้องอย่างที่คุณรีพูดทุกอย่าง...ในเมื่อ...เขาถึงกับยอมสละชีวิตเพื่อจะปกป้องลูกของเรา...ผมก็ไม่มีอะไรจะเถียงอีกแล้ว...คุณอยากทำอะไรก็ทำไปได้เลย”
(สุดท้ายพ่อตาหนวดเข้มก็ยอมรับในตัวเราจนได้)
...นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนจะหมดสติไปด้วยความปลาบปลื้มในดวงจิตอย่างที่สุด...
............................................................................................................................

...พอผมฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเหตุการณ์ก็เข้าสู่ภาวะปกติโดยมีจีทอมสาวที่แสนดีคอยพยาบาลอยู่ใกล้ๆ...นายรุจกับพวกโดนตำรวจอายัดตัวข้อหาพยายามฆ่าและพกพาอาวุธในที่สาธารณะแต่ตอนนี้ต่างถูกหามส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วนยิ่งโดยเฉพาะอดีตสามีของบรีน...ข้อมือและอกด้านขวาของเขาถูกวัตถุบินปริศนาที่ใครบางคนซัดใส่จากในมุมมืดขณะกำลังง้างไกปืนจะยิงผม...ทว่า!!...เมื่อลองคิดใคร่ครวญดีๆก็พอจะเดาออกได้ไม่ยากว่าใครเป็นคนทำ...
(สิ่งนั้นอาจจะเป็นเข็มของน้องเสือน้อย...ว่าแต่ทำไมถึงยังอยู่ที่นี่อีก?)
“คุณตำรวจสุดหล่อ~~...ฉันกับลูกจะถูกข้อหาทำร้ายร่างกายหรือเปล่าคะ?”
“อ่า--...เอ่อ--...ในกรณีนี้คือ...เอ่อ--...เพราะอีกฝ่ายมีอาวุธปืน...จึงถือว่าเป็นการป้องกันตัวครับ”
“ว้าว!!...นอกจากจะหล่อแล้วยังมีเหตุผลอีก...เยี่ยมไปเลย!!!...นี่พ่อตำรวจขา~~...วันนี้เรามามีนัดกันหน่อยม้า~~
“เอ่อคือ...”
...จู่ๆพี่จุนก็ใช้จริตของผู้หญิงยั่วผู้หมวดหนุ่มที่มาทำคดีจนจีทนไม่ไหวรีบต่อว่า...
“ยัยจุน!!...ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ...หล่อนมีผัวมีลูกแล้วนะเว้ย!!
“ยุ่งจริง!!...ก็มาหัวหินเที่ยวนี้ยังหาฝรั่งควงไม่ได้เลยนี่หว่า--...แหมๆๆแต่ไม่เป็นไร...งั้นของาบผู้หมวดคนนี้แทนล่ะกัน”
“อึ๋ย!!
“เลิกบ้าได้แล้ว!!
“โอ๊ย!!!
...งานนี้ลูกเลี้ยงเกิดความหมั่นไส้สุดจะระงับไหวจึงจัดการเขกหัวแม่เลี้ยงดังป๊อกเลยครับ...พี่จุนถึงกับทรุดนั่งพลางกุมหัว...
“แก~~...อูย--...ฉันเจ็บน๊ะ!!!...นี่เป็นแผนเบี่ยงเบนความสนใจต่างหากเล่า!!
“ใครหลงเชื่ออุบายของเธอก็ปัญญาอ่อนเต็มที...ยัยสาวแก่หาข้ออ้างจ้องจะจับผู้ชายซะมากกว่าล่ะมั้ง?”
“ว่าฉันเป็นยัยสาวแก่อีกแล้ว~~...พูดแบบนี้เดี๋ยวสวยแน่อีลูกบ้า!!!
...ฝ่ายน้าจี๊ดเฝ้าปลอบโยนและพาน้องมิวซึ่งกำลังขวัญเสียเข้าห้องพักส่วนบรีนพาพี่บรีมรวมถึงคุณแม่คุณพ่อไปให้การกับตำรวจที่โรงพัก...น้องจอยก็มีกุ๊กคอยดูแลอยู่ในห้องตัวเองไม่ให้ออกมาข้างนอกตามคำสั่งของพี่จุน...
“หืม?...เหงื่อเต็มหน้าเชียวนะแก...ยังตื่นเต้นเรอะ?
“เออ!!...ฉันไม่เหมือนเธอนี่หว่าที่จะโดนปืนจ่อหน้าแล้วยังทำเฉยเหมือนทองไม่รู้ร้อนได้”
“เพราะว่าผ่านเรื่องเป็นเรื่องตายสมัยตอนอยู่แอฟริกามามากเกินพอไงล่ะเฟ้ย~~...แค่นี้จิ๊บๆ”
“จิ๊บๆบ้าอะไรของหล่อนหา?...ถูกยิงจังๆก็ตายโหงนะว้อย!!!
“เฮ่ๆๆ...นี่อย่าบอกนะว่าเป็นห่วงฉันน่ะ?”
“พูดบ้าๆ”
“ว่าไงน๊ะ?...แกกล้าพูดอย่างงี้แม่ตัวเองได้ลงคอเชียวเรอะ?”
“เธอไม่ใช่แม่ฉัน!!
“หนอย~~...เอ๊ะ?...อ๋อใช่ๆๆ...ว่าจะพูดเรื่องสำคัญ”
“มีอะไรอีกล่ะ?”
“แกดูนี่”
“เข็ม?”
“ใช่...เข็ม 2 เล่มนี้น่ะทั้งหนักแล้วก็ยาว...แสดงว่าคนที่ใช้มันต้องมีฝีมือสูงทีเดียว”
“ที่เธอบอกมาฉันยังไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่แต่นี่มันเป็นของกลางนะเฟ้ย!!...แอบฉกมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เรื่องนี้ช่างเหอะน่าแต่แกลองคิดให้ดีๆสิ...วินาทีนั้นไอ้รุจกำลังจะฆ่าเคนแต่กลับถูกเข็มนี่เสียบเอ็นข้อมือข้างที่ถือปืนซึ่งมันก็น่าจะขาดสะบั้นไปแล้ว...ที่อกขวาก็อีก...ซัดได้แม่นยำขนาดนี้ช่างน่ากลัวซะจริงๆเลย”
“อ๋อ~~...เข้าใจแล้วๆ...ตามตำแหน่งที่ต้องการสินะ...งั้นถ้าเปลี่ยนจากขวาเป็นซ้าย...”
“ไม่น่าถาม!!!...ไอ้ชาติชั่วนั่นได้ไปเฝ้ายมบาลแน่เพราะหัวใจของมันจะถูกเสียบทะลุตายอย่างไม่ต้องอุทธรณ์”
...แต่หัวใจผมกลับเต้นพองโตเมื่อลองคิดว่าในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนั้นตัวเองกลับมีเรี่ยวแรงลุกขึ้นเอาตัวบังกระสุนปืนให้บรีน...
(ไม่แน่ว่าอาจเป็นผลจากยาที่น้องป้อมกรอกใส่ปากเรา)
“เฮ้ยใครน่ะ!!!
“?”
...ทันใดนั้นก็มีเงาๆหนึ่งวูบหายไปทางหลังบ้านซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นของเธอ...เด็กหญิงดวงตาสีเลือด!!!!...
........................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น