หน้าเว็บ

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 33

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 33 “เส้นทางต้องห้ามที่ไม่สมควรก้าวเดินไป!!!!”

 “รถพ่อ!?”
“มากันแย้ว~~”
...กุนกับป้าศรีก็กลับมาด้วย(ดีใจวุ้ย!!)...เอ่อแล้ว--...คุณป้าศรมรกต?...
“พ่อบอล?”
“คุณ...คุณป้า?”
“คิดถึงเหลือเกิน~~...หลานรัก!!”
...ผู้หญิง ไว้ผมทรงด้านหลังเป็นรูปดาวกระจายสี่แฉกผมเคยเห็นมาก่อนจากรูปวาดดินสอดำที่ ฝนเอาให้ดู...เธอคือ “ศรมรกต วิษณุมนตรี” พี่สาวแท้ๆของพ่อหรือก็คือคุณป้าของผม...
“มาให้ป้ากอดที...โอ~~...พ่อ บอลเติบโตขึ้นผิดหูผิดตากลายเป็นหนุ่มหล่อขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย?...ภพ!...แก ดูหลานชายฉันนี่!!...เชื้อไม่ถึงแถวเหมือนปู่เหมือนทวดนะว่ามั้ย?”
“ครับพี่...”
...แวว ตาแห่งความปลาบปลื้มยินดีของคุณป้า...เธอดีใจที่ได้พบกับผมผู้เป็นหลานชายจน น้ำตาคลอเชียวหรือ?...อุ!!!...แต่มันชักจะไม่โสภาซะแล้วเมื่อกุนกับสาต่าง หน้าเขียวกันถ้วนหน้า...นี่อย่าบอกนะว่าไม่พอใจที่เห็นคุณป้ากอดผมน่ะ?...
“เมื่อ ก่อนยังตัวแค่นิดเดียวแต่นี่สูงจนป้าต้องเงยหน้ามองซะแล้ว...แหม~~... รูปร่างองอาจสมชายชาตรีแถมหน้าตาก็หล่อเหลาเอาการเสียด้วย...ท่าจะทำผู้หญิง อกหักมาเยอะเลยสิท่า?”
“มะ...ไม่หรอกครับ”
“ป้าหยอกเล่นจ้า!!...เขินหน้าแดงเลยนะเรา...หืม--...ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนตาภพตอนหนุ่มๆเสียเหลือเกิน”
...ครับ!!!... แม้กระทั่งความเจ้าชู้ประตูดินผมก็ลอกแบบโคลนนิ่งมาจากคุณพ่อทุกกะเบียด นิ้ว...คุณป้าเล่นยอกันอย่างนี้มันเขินจริงๆ...อื๋อ?...รอยยิ้มที่ไม่เปิด ริมฝีปากกับสายตาอันเรียบเฉยของพี่แคทมันหมายความว่ายังไงกัน?...
“แหงะ!!...ลืมฝนซะแล้วหรือคะป้าเอ็ม?”
“โถๆๆ...อย่าเพิ่งน้อยใจสิจ๊ะแม่หนู~~...มามะ!!”
“หลีกน๊ะฉันจะกอดป้าเอ็ม!!...นายน่ะไว้ใจไม่ได้ร้อก~~”
...ฝนรีบเบียดตัวมาเจ๋อทันที...เจ้าผีเอ๊ย!!!...พูดชวนให้คนอื่นเข้าใจฉันผิด...
“...พ่อกลับมานานแล้วหรือครับ?”
“สักพักน่ะ”
“กุน...เที่ยวนี้มาอยู่ให้นานๆหน่อยเถอะ”
“โดนไล่ออกพอดีสิจ๊ะ”
“ก็จะได้กลับมาอยู่ซะที่นี่เลยไง”
“.................................................”
...ใบหน้าอาจจะยิ้มแย้มแต่เดี๋ยวพวกเราคงต้องเคลียร์ความเข้าใจกัน...พอดีป้าศรียืนอยู่ใกล้ๆ...
“รู้งี้ไม่น่าปล่อยให้ป้าไปอยู่กรุงเทพฯ”
“อะไรเนี่ยพ่อคนนี้?...ก็มีอ้อยอยู่ทั้งคนแล้วไง”
“ผมไม่พอใจครับ!!”
“หนูสากับพี่กวางก็ยังอยู่...เราอย่าโลภมากซี่~~”
“ป้าช่างใจร้ายกับผมนัก...ไว้มีโอกาสเหมาะจะทำโทษให้สาสม...สากับอ้อยไม่มีปัญหานะจ๊ะ?”
“...ก็ตามใจสิถ้าคิดว่าตัวเองแน่จริง...แล้วอย่ามาร้องโอดขอตัวช่วยนะยะ!!!”
“ส่วนหนูยังไงก็ได้แต่คิดว่าแม่คงไม่แพ้พี่ง่ายๆค่ะ”
“เป็นงั้นไปนะน้อง?”
...หุ!!... เรื่องสนุกสนานใกล้จะเกิดในอีกไม่ช้านี้แหละแต่ที่สำคัญคือต้องไม่ให้คุณพ่อ กับคุณป้ารู้...โอ๊ะเดี๋ยว!?...ยังมีแม่ลูกพี่ลูกน้องอีกสองคนด้วยนี่ หว่า!!!...
“เอ่อพี่เอ็ม...นิภาก็บอกว่าจะมาเหมือนกันครับ”
“ไม่เคยได้ยิน...แกมั่วหรือเปล่า?”
“โธ่~~...พี่เห็นผมเป็นคนชอบพูดเล่นไปได้”
“เออว่ะลืมไป!!...แกน่ะมันซื่อจนเซ่อมาแต่ไหนแต่ไร”
“คือแม่เคยพูดว่าจะลงมาจริงๆจ้ะป้า...เนอะพี่?”
“อืม--”
“อย่างนั้นก็ดีสิ...จะมาเมื่อไหร่ล่ะ?”
“ประมาณสิ้นเดือนค่ะ”
“ผมกลับไปทำงานแล้ว...”
“แต่ฉันยัง...พ่อบอลไปรอที่ห้องก่อนเดี๋ยวป้าคุยธุระกับพ่อเสร็จจะไปหาจ้ะ”
“งั้นฝนขอตัวไปเตรียมอาหารเย็นก่อน...พี่กุน,สา,หนูอ้อยมาช่วยที”
...ทั้งสี่สาวต่างกุลีกุจอขนถุงผักกับอาหารสดไปที่ครัวโดยมีป้าศรีตามไปช่วยส่วนพี่แคทยอดหญิงจอมอันตรายนั้น...
“?”
...จู่ๆสาวเจ้าก็โน้มศีรษะมาใกล้พลางสูดดมไปตามแขนและหน้าอกผม!?...ใกล้ชิดชนิดลมหายใจรดถูกตัว!!...
“กลิ่นน้ำหอม!?...ก่อนหน้านี้เธอไปอยู่กับใคร?”
“ปละ...เปล่า~~”
“สารภาพมา--”
“ก็บอกว่าเปล่า!”
“ผู้ร้ายฝีมืออ่อนหัดอย่างบอลอย่าริจะมาตบตาพี่ดีกว่า--”
“ผมไม่ได้ไปอยู่กับใครทั้งนั้น!!”
“โกหก!!!”
(ฮึ้ย~~...นางมารผจญผมยาวตาดุนี่!!...เราเผอเรออีกจนได้--...กลิ่นนี้จะต้องเป็นของสาวไม่ใช่ใครอื่น!!!)
“มีอะไรเหรอ?”
“พี่กุนคะ...แฟนของพี่ท่าทางจะไม่มีความซื่อสัตย์ซะแล้ว...น้องได้กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงที่ไม่มีใครในบ้านนี้ใช้มาจากตัวบอลค่ะ”
...แต่ก่อนที่ใครในหมู่พวกเราจะเอ่ยปาก...
“เฮ่ๆๆ...หนูแคทจ๋า!!...นั่นคงจะเป็นน้ำหอมของป้าเอง...ก็เมื่อกี้ป้ากอดพ่อบอลเขาจ้ะ”
“หา?...ไม่ใช่นะคะ!...อ๊ะ!!”
“มาๆๆๆ...มานี่ๆ...บอกว่าใช่ก็ใช่สิ”
...คุณป้าเอ็มโผล่มาฉุดแม่ญาติสาวผู้พี่ออกไปคุยอะไรบางอย่างที่ผมกับพี่กุนไม่ได้ยินและต่อจากนั้น...
“นะหนูแคท...นะๆ...เป็นของป้าใช่มั้ย?”
“อือ--”
“ว่าไงเอ่ย?”
“ค่ะ...ใช่ค่ะ”
“ฮี่~~...ต้องยังงี้สิจ๊ะหลานรัก!!...ในเมื่อเคลียร์กันเรียบร้อยแล้วพ่อบอลก็ไปรอป้าที่ห้องเดี๋ยวจะตามไปคุยด้วย”
“...ครับ”
“พี่!!...มาช่วยสาหั่นฟักทองหน่อยซี่~~”
“จ้ะๆ”
“กุน...คืนนี้สักราวๆเที่ยงคืนเรามาเจอกันนะ”
“เอ๋?”
“รอให้คนอื่นหลับกันหมดก่อน”
“ทีเรื่องแบบนี้ล่ะช่างคิดวางแผนจริงๆเลย--”
“โอเค?”
“จ้ะ!!”
...ลัค กี้!!!...แต่เมื่อกี้ก็โชคดีมากๆที่คุณป้าเอ็มเข้ามาช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้ ไม่งั้นผมต้องแย่แน่...พี่แคทนี่ก็ช่างกระไรคอยจ้องแต่จะจับผิดกันอยู่นั่น แหละ!!...ยัง...ยังทำท่าฮึดฮัดไม่เลิก!?...เอ--...ว่าไปคุณป้าเหมือนจะเข้า ข้างผมซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆล่ะก็ตลอดเวลาที่พี่สาวของพ่ออยู่ที่นี่ไม่ ว่าจะพี่แคทหรือยัยผีบ้าฝนก็ไม่มีทางมาแหยมกับผมได้น่ะสิ!!!...
“หยุดก่อน!!”
(อะไรอีกล่ะเนี่ย?)
“พี่รู้ว่าบอลปิดบังเรื่องไม่ดีไว้แต่คุณป้าก็รู้เช่นเดียวกัน...ฉะนั้นอย่าเพิ่งได้ใจ”
“งั้นท่านจะช่วยผมทำไมครับ?”
“คำ ตอบง่ายมาก...คุณป้าไม่ได้พบหน้าหลานชายมานับสิบปี...วันนี้เห็นแววตาที่ แสดงออกในครั้งแรกก็รู้ว่าท่านมีความรู้สึกรักใคร่เอ็นดูเธอมากมายนักจึงไม่ แปลกที่จะช่วยกลบเกลื่อนให้ซึ่งก็คือไม่ต้องการจะเสียบรรยากาศดีๆไป”
“................................................”
“นั่นคือท่านไม่ต้องการให้ใครคนอื่นมาล่วงรู้พฤติกรรมอันเหลวแหลกของเธอซึ่งในที่นี้ฉันหมายถึงพี่กุน”
“หึ!!”
“ขำอะไร?”
“โจรดักตีเครื่องขายน้ำดื่มอย่างพี่ยังจะมีสิทธิ์ว่าใครๆได้อีกรึ?”
“!”
...คดี นี้ผมรู้มาจากนายเคนหนุ่มรุ่นน้องคนรู้จักของบุศ...กลางดึกคืนหนึ่งในช่วง ปิดภาคเรียนที่ผ่านมาเขาเห็นฝนกับพี่แคทสวมชุดสีดำทั้งตัววิ่งผ่านไปอย่าง รวดเร็วคล้ายกำลังหนีอะไรสักอย่างและมารู้เอาภายหลังว่าทั้งสองสาวไปรวมพลัง กันทำลายตู้ขายน้ำอัตโนมัติที่สวนออกกำลังกายจนพังยับเยิน(ในรักไม่นับตัว เลขตอนที่ 5)ผมก็ได้เห็นพวกเธอโกยแน่บตอนขี่รถขึ้นสะพานด้วยแต่ตอนนั้นยังไม่ทันเฉลียว ใจว่าเป็นใคร?...
“น่าเสียดายจังที่อุตส่าห์ลงทุนลงแรงแต่งชุดอำพรางสายตาแต่คนไม่ดีทำอะไรไว้ยังไงใครๆก็ต้องรู้...พี่คงจะไม่เถียงนะ?”
“ใช่...พวกเราเป็นคนทำเอง”
“เหตุผล?”
“ฉันไม่บอก”
...ใช้ วิธีนิ่งสงบสยบเคลื่อนไหว...ถูกจับความผิดได้แต่พี่แคทไม่มีเผยอาการตระหนก ตกใจให้เห็นซ้ำยังยอมรับหน้าตาเฉย...งั้นลองเจอนี่หน่อยซิครับลูกพี่ลูกน้อง คนสวย...
“อ้อ!!...ก่อนนี้ก็เหมือนจะได้ยินข่าวแว่วๆว่าตอนปิดเทอมที่ ลำปางพี่เคยไปไล่กระทืบชาวบ้านซะหกล้มหกคว่ำด้วย...สนุกสนานมากมั้ยล่ะ ครับ?”
“บอลกำลัง...ละเมออะไรน่ะ?”
“!?”
“ตาก็ลืมอยู่แท้ๆแต่หัวคิดท่าทางจะยังไม่ตื่น”
“อย่าเฉไฉเพื่อแกล้งปกปิดดีกว่า...พี่ทำอะไรไว้ก็น่าจะยอมรับ”
“มันคนละเรื่องเดียวกัน...จับแพะชนแกะซะแล้วล่ะเธอ”
“ตรงไหน?”
“พี่พูดเรื่องที่คุณป้าท่านรู้พฤติกรรมที่เหลวแหลกของบอล”
“ถ้าจะว่าผมอย่างนี้...พี่เองก็เหมือนกันแหละ!!!...ทำตัวเป็นอันธพาลกร่างคับบ้านคับเมืองหรือคิดว่ามีพ่อเป็นนายตำรวจใหญ่ครับ?”
...หากไปพูดให้คนอารมณ์ร้อนฟังผมคงโดนอัดน่วมแต่พี่แคทก็ยังไม่มีอาการแม้จะโกรธเคืองใดๆมิหนำซ้ำยังสวนกลับมาอย่างเจ็บแสบ...
“แต่ อย่างน้อยฉันก็กล้าทำกล้ารับไม่เหมือนเธอที่หากจับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็ปากแข็ง ไม่รับผิด...นี่น่ะรึคือสิ่งที่ลูกผู้ชายอกสามศอกเขาทำกัน?...ปากบอกเป็นแค่ เพื่อนแต่การกระทำกลับสวนทาง...เพื่อนประสาอะไรนัดพาไปอยู่ในห้องหับมิดชิด แก้ผ้าเสพสุขกันอย่างไม่รู้จักอับอายจิตสำนึกของตัวเอง?”
“ระ...รู้ได้ยังไง?”
“ยังพูดไม่จบ!!!”
“................................................”
“พี่ น่าจะแน่ใจตั้งแต่กรณีของพี่กุนและสานะว่าตัวเองมีน้องชายที่แสนดีเป็นคนรัก พี่เสียดายน้องดังนั้นก็เลยต้องรวบมันซะให้หมด...เอ้า!!...เธอก็ยอมรับมา บ้างซิว่ามันจริงหรือเท็จ?...รึจะให้พี่ไปคาดคั้นจากคุณบุศยากับน้องสาวก็ ยังได้นะ?”
...อึ้ง!!...ถ้าเปลี่ยนจากถ้อยคำเป็นมีดตัวผมก็โดนเฉือนแผลเหวอะหวะทั่วร่างหมดแล้ว...แต่ว่า...
“นั่น...นั่นเป็นวิธีเดียวที่ผมจะรักษาความรักกับกุนและสาไว้ได้”
“บอลนี่น่าจับนุ่งกระโปรง...แก้ตัวน้ำขุ่นๆ”
“พี่ไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของผมหรอก!!”
“ก็แล้วมันคืออะไรเล่า?”
...บอก...บอกไม่ได้...ยังไงก็หลุดปากออกไปไม่ได้...
“ยะ...ยังไงก็แล้วแต่ผมกำลังชำระสะสางในสิ่งที่ตัวเองได้ก่อขึ้นและคุณป้าจะต้องภาคภูมิใจในตัวหลานชายคนนี้”
...ทั้งที่ตอบอย่างจริงจังแท้ๆแต่พี่แคทกลับเอียงคอมองหน้าและเลิกคิ้วออกแววสงสัยระคนไม่เชื่อ...
“คน อย่างเธอที่ดีแต่ก่อปัญหาเพิ่มทุกวันๆน่ะรึจะรู้จักชำระสะสาง?...คิดจะทำตัว เองให้สะอาดเอี่ยม...พี่สงสัยจังนะจ๊ะว่ามันจะสายเกินไปหรือเปล่า?”
“จะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจพี่”
“หากฉันเชื่อก็ปัญญาอ่อนเต็มที”
“มันยังดีกว่าผิดซ้ำผิดซาก!!!”
“เดี๋ยว--”
...พอ เห็นอีกฝ่ายไม่สนใจจะสนทนาด้วยก็บีบบังคับด้วยการดึงแขนไว้แถมยังมองด้วยสาย ตาประหนึ่งตนนั้นถือไพ่เหนือกว่า...ตัวผมนะเกลียดคนแบบนี้จริงๆ!!!...
“ไร้มารยาทมาก...ยังคุยไม่ทันจบก็จะสะบัดก้นหนี!!”
“ป่วยการจะเปลืองน้ำลายโต้เถียงกับคนอย่างพี่...ผมไม่มีเรื่องจะพูดอีก!!!”
“แต่ฉันยังมี”
(วะ!!...ผู้หญิงคนนี้!?)
“มาจับมือถือแขนผมแบบนี้ไม่กลัวกุนหรือสามาเห็นหรือ?”
“ลูกพี่ลูกน้องกัน...ไม่ต้องคิดมากเลย”
“แต่คนอื่นเค้าใช่ว่าจะคิดอย่างพี่ไปซะหมดนี่ครับ?”
“หากบริสุทธิ์ใจซะอย่างจะต้องเกรงกลัวอะไร...แล้วเธอก็...ไม่ใช่ผู้ชายในสไตล์ของฉัน”
“อ้าว!!... ก็ไหนว่าพี่แคทชอบผู้หญิงด้วยกันไงครับ?...น่าจะจริงซะด้วยนะเพราะขนาดน้อง สาวแท้ๆก็ยังไม่ละเว้นเลย...ไม่แน่ปิดเทอมที่ผ่านมาพี่กับฝนก็คงจะเล่น กิจกรรมดนตรีไทยกันเพลินอุราแล้วล่ะมั้ง?”
“คิดสกปรก!!!”
“เสียงดัง--”
...ขอเป็นฝ่ายเหนี่ยวรั้งบ้าง...ผมพาร่างลูกพี่ลูกน้องสาวให้ออกห่างจากบันไดลงชั้นล่างสักหน่อยเพราะตรงนั้นมีคนเดินผ่านไปมาเยอะ...
“...ใช้ ถ้อยคำทะลึ่งลามกอย่างนี้กับฉันถือว่ากล้ามาก...กล้าชนิดที่ไม่กลัวถูกตบ ปาก...จะขอบอกเลยว่าหากโลกนี้มีผู้ชายปากเสียอย่างเธอเหลืออยู่คนเดียวฉัน ยินดีไปไล่จีบผู้หญิงด้วยกันยังจะดีซะกว่า”
“จะ...จะดูถูกผมมากเกินไปแล้วนะ!!!!”
“ดูถูกแล้วยังไง?”
...หาก เป็นหญิงอื่นแล้วมาสบประมาทใส่หน้ากันแบบนี้...ผมเชื่อว่าผู้ชายหลายๆคนคง ไม่ยอมอยู่เฉยแน่นอนแต่เผอิญคนตรงหน้าคือพี่แคทผู้ยินดีในการทำร้ายเบียด เบียนชาวบ้านด้วยวิชาการต่อสู้ที่ฝึกฝนมาแต่เด็กและมีฐานะเป็นลูกพี่ลูกน้อง ของผม...
“ถ้าพี่ไม่ใช่ลูกสาวคุณอาล่ะก็ผมบุกปล้ำไปนานแล้ว!!!...จะทำให้พี่ติดใจผู้ชายจนเลิกนิสัยเบี่ยงเบนทางเพศไปเลยเชียวคอยดู!!!!”
“...............................................”
“...............................................”
“...จะว่าอย่างไร?”
“?”
...ที่ ผ่านมาไม่เคยเห็นพี่แคทอนุญาตให้ผู้ชายคนไหนแตะต้องเส้นผมของเธอเลยแต่บัด นี้หล่อนกลับส่งให้ถือและผมก็รับไว้ในอุ้งมืออย่างง่ายดายคล้ายคนที่ไม่มี สติ...
“นุ่มจังแถมนอกจากจะยาวสลวยดำขลับแล้วก็ยังมีกลิ่นหอม...ฝนเคยพูดไว้ว่านี่คือกลิ่นดอกราตรี...”
“ฮึ!!”
“ยะ...แย่แล้ว!!!!”
“ขนาด แฟนสองคนอยู่ในบ้านแท้ๆยังกล้าเอ่ยประโยคและทำกิริยาแทะโลมหญิงอื่น...มิหนำ ซ้ำยังเป็นลูกพี่ลูกน้องตัวเองอีกด้วย...อ้อ!!...จะบอกอะไรให้อีกอย่าง”
...เสีย ท่า!!...เผลอเคลิ้มไปซะได้!!!...สาวเจ้าสะบัดศีรษะทำให้ปลายผมหลุดจากมือ ก่อนจะเอ่ยปากบอกความจริงอันน่าตกใจแก่หนุ่มๆมากมายที่มีความนิยมชมชอบ หล่อนอยู่...
“เมื่อก่อนพี่ก็เคยมีอะไรๆกับผู้ชายมาแล้ว...ไม่ใช่หญิงบริสุทธิ์หรือไร้เดียงสาเรื่องบนเตียงอย่างที่ใครๆเข้าใจ”
“หมายถึงคุณสันต์?
...ตั้งแต่ ที่รู้ว่าพี่แคทเคยมีแฟนผมก็พอจะเดาออก...ในฐานะชายหนุ่มคนหนึ่งก็รู้สึกผิด หวังเหมือนกันที่ดอกฟ้าแสนสวยนี้มีคนเด็ดไปเชยชมเสียแล้ว...คุณสันต์ช่าง เป็นบุรุษที่โชคดีที่สุดในโลก(หากตัวเขาคิดเอง)...
“อืม!!...คุณสันต์คือผู้ชายในอุดมคติของพี่...ในคืนที่ได้อยู่ด้วยกัน...เซ็กส์ของเขาทำให้พี่มีความสุขมาก”
“................................................”
“แต่เซ็กส์ของบอลน่ะเทียบไม่ติดเลยกับที่พี่เคยลิ้มลองมาด้วย...มันยังห่างชั้นกันไกลจ้ะไอ้หนู”
“เรื่องอะไรมาลงที่ผม!!!...อีกอย่างพี่แคทไม่เคยลองด้วยตัวเองแล้วจะรู้ได้ยังไงกัน?”
“หืม--...นี่หมายความว่า”
“?”
“หมายความว่า...”
“................................................”
“เธอก็เหมือนผู้ชายคนอื่นๆที่คิดเหิมเกริมจะตีหม้อฉันด้วยงั้นเรอะ?”
“เพราะ...เพราะพี่...สบประมาทผม”
“...คิดมานานแค่ไหนแล้ว?”
“ผม...ผมคงจะเป็นคนโกหกตอแหลแน่ๆถ้าตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นกับพี่เลย”
“................................................”
“................................................”
“อือ--...จะว่าไปมันก็น่าลองดูเหมือนกันนะ”
“!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
...นะ... นี่ไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ยที่พี่แคทสาวสวยอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยอยากจะลอง มีเซ็กส์กับผม?...พวกเราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันนะ...โอ๊ะ!?...คุณป้าศรมรกตมา แอบฟังอยู่ที่มุมผนังห้องตั้งแต่เมื่อไหร่?...
“ก็ได้~~...ฉันยินดีจะ ให้ เธอสนุกเต็มที่แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าหลังจากนั้นเธอจะต้องใช้ชีวิตเหมือนกับ ตายทั้งเป็น...ความหมายก็คือเสร็จกิจเมื่อไหร่ฉันจะเอาดาบฟันไอ้จู๋ขาด สะบั้นแล้วโยนทิ้งลงคลองหรือสับให้เละชนิดเอากลับไปต่อไม่ได้อีก เลย--”
“อึ๋ย!!!!!!!!!!!!!!!”
(เสียววาบจนเผลอเอามือกุมเป้าตัวเองทันที!!!!!!!!!!!!!)
“ด้วย สัตย์จริงจากก้นบึ้งในใจของฉัน...ผู้ชายอย่างเธอสมควรโดนกำราบให้สิ้นซาก เพื่อสวัสดิภาพแห่งพรหมจรรย์ของผู้หญิง...ดังนั้นถ้าอยากจะสูญพันธุ์วันไหน ก็เชิญติดต่อมาได้ทุกเวลาแล้วฉันจะจัดเตรียมห้องหับกับที่นอนไว้รอแถมจะ บริการให้อย่างสุดฝีมือด้วยเพราะมันจะเป็นเซ็กส์ครั้งสุดท้ายในชีวิตของ เธอ!!!!”
...เรื่องราวไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิดเมื่อพี่แคทนั้นเปรียบได้ กับ “กุหลาบงามที่มีหนามพิษร้ายแหลมคม” ดังนั้นหากเผลอไผลไปตามอารมณ์คึกคะนองและความบ้าบิ่นของตัวเองก็มีสิทธิ์ลง นรกทั้งที่ยังมีลมหายใจ...นี่คือเส้นทางต้องห้ามที่ไม่สมควรก้าวเดินไปด้วย ประการทั้งปวง!!!!...
“อ้อ!!...และไอ้ที่เมื่อกี้บอกจะชำระสะสาง...มัน หมายความว่าเธอจะโละทิ้งของเก่าเพราะความเบื่อแล้วไปคว้าเอาของใหม่มาใช่ หรือเปล่าคะพ่อหนุ่มหล่อลากดิน?...ฮะๆๆๆ”
“.................................................”
...ก่อน จะเข้าห้องตัวเองหญิงสาววัย 22 ยังไม่วายเอ่ยประโยควาจาเสียดสีประชดประชันพลางมองด้วยแววตาเย้ยหยันกับ สะบัดเส้นผมเชิดหน้าใส่และหัวเราะร่วน...ฮึ่ม!!!...นี่ขนาดเด็กอนุบาลก็ยัง รู้เลยว่าตัวผมในตอนนี้ถูกกระทืบศักดิ์ศรีจนย่อยยับซะไม่มีชิ้นดี!!!!...
...................................................................................................................

...ทั้ง แค้นทั้งเจ็บใจพี่แคทนัก!!!...ไม่มีผู้หญิงคนไหนบังอาจหยามเกียรติของผมมาก ถึงขนาดนี้แม้กระทั่งกุนกับสาก่อนจะคบเป็นแฟนกันก็ยังไม่เท่าเทียม...ยืน ท้าวเอวชี้หน้าว่าต่อให้เหลือผู้ชายอย่างผมเพียงคนเดียวในโลกก็ยินดีจะไป วิ่งไล่จับผู้หญิงด้วยกันยังดีซะกว่า...
(ปากดีอย่างนี้มันน่าจับอมของลับ!!!...แต่ติดตรงไม่ใช่แค่ปากน่ะสิเพราะมือเท้าก็ดีแถมหนักด้วย)
“ทำอะไรอยู่?”
“อะ...อ้า!...ผม...ผมมีเรื่องจะปรึกษาพ่อพอดี”
...นานมากทีเดียวที่ไม่ได้พูดคุยกันตามประสาพ่อลูกยิ่งช่วงนี้พ่อไม่ค่อยกลับมาบ้านนอกจากจะมีวันหยุดหลายๆวัน...
“แก เนี่ยถอดแบบมาจากพ่อแถมเหมือนปู่แกเมื่อยังหนุ่มด้วย...เอาล่ะ!!...จะตอบพ่อ มาตามตรงได้มั้ยว่าปัจจุบันแกยังไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงนอกบ้านอยู่ใช่ หรือเปล่า?”
“มี...มีครับ...หลายคนเลยด้วย”
“ว่าแล้ว--...หาเรื่อง ใส่ ตัวแท้ๆแต่จะตำหนิอะไรมากก็ไม่ได้เพราะตอนพ่ออายุเท่าลูกนั่นก็ไม่เบาเหมือน กัน...นี่มันเป็นพันธุกรรมถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นหรือเปล่านะ?”
“ผมจึงอยากขอคำปรึกษาครับ...เป็นพ่อๆจะทำยังไง?”
“...บอกเลิกซะ”
“อะ...อะไรมันจะง่ายดายอย่างงั้น?”
“ก็ถ้าแกไม่ได้รักหรือคิดจริงจังกับผู้หญิงคนอื่น...เลิกไปเลยสิ!!!...บอกฝ่ายนั้นไปตรงๆ”
“ความจริงวันนี้ก็เพิ่งเลิกกับผู้หญิงคนหนึ่งไป...ผมปวดใจมากนะครับพ่อเพราะเธอเป็นคนดี”
“พ่อ เข้าใจความรู้สึกนี้แต่ถ้าไม่ตัดให้ขาดซะตั้งแต่เนิ่นๆความใจอ่อนก็จะยิ่งมี เพิ่มมากขึ้นจนทำให้ลูกถอนตัวลำบากในภายหน้านะรู้ไหม?...หัดคิดถึงความ รู้สึกของหนูกุนและหนูสาซะบ้าง”
“กุน...สา”
“หนูกุนรู้อยู่ตลอดเวลา ว่าแกแอบมีผู้หญิงคนอื่นแต่ยังโชคดีที่เธอใจกว้างยอมรับได้...ดังนั้นแก สมควรตอบแทนความรักที่หนูกุนอุตส่าห์ทุ่มเทให้อย่างหมดใจส่วนจะทำยังไงนั้น พ่อคงไม่ต้องพูดอีกแล้ว”
“.............................................”
“ส่วน หนูสา...ตั้งแต่เล็กจนโตเป็นสาวก็ไม่เคยมีความรักกับผู้ชายคนไหน...ฉะนั้นแก เป็นรักแรกของเธอแล้วความสุขของผู้หญิงคนหนึ่งก็คือการได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วม กับคนที่ตนรักตลอดไป...พ่อเตือนด้วยความหวังดีและไม่อยากให้แกก้าวเดินผิด พลาดซ้ำรอยเดิม...พ่อน่ะนึกเสียใจทุกครั้งที่อดีตเคยนอกลู่นอกทางไม่ซื่อ สัตย์และเคยทำสิ่งไม่ดีกับแม่เค้าไว้มาก”
...ที่แท้พ่อก็มีความเศร้าโศกเสียใจและยังรู้สึกสำนึกผิดต่อแม่แต่ถึงกระนั้น...
“สองคนพ่อลูกคุยอะไรกันจ๊ะ?”
“...ไม่มีอะไรสำคัญหรอกพี่...ผมมาไต่ถามลูกเกี่ยวกับการเรียนกะเรื่องทั่วๆไป”
“งั้นต่อไปก็ตาฉันคุยกับหลานบ้าง...เพราะเมื่อเย็นแกมัวแต่ชวนฉันคุยนานเลยไม่ได้มาหาพ่อบอล”
“สำหรับเรื่องนั้น...ไว้เราค่อยมาหาทางตกลงกันใหม่”
“ตกลงกันใหม่?...แกไม่ต้องมาพยายามโน้มน้าวฉันอีกเลยนะเพราะยังไงฉันก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงความตั้งใจแน่!!”
“ไม่ได้หรอกครับ!!!”
“ทำไมจะไม่ได้?...ฉันไม่ชอบพูดอะไรซ้ำซากดังนั้นแกต้องทำตามที่ฉันบอก!!!”
“พี่เอ็มยังดื้อและเอาแต่ใจตัวเองไม่เปลี่ยนจริงๆ--”
“ก็คือกันแหละ!!...ไอ้นิสัยชอบเกรงอกเกรงใจใครต่อใครของแกก็แก้ไม่เคยหายสักที”
(เหมือนเราเลยนี่หว่า!?)
“ข้อเสนอของพี่...ผมกับกวางทำตามไม่ได้”
“ฮึ!!...คิดจะงัดข้อกับฉันก็เอา”
“ยังไง...ผมก็ต่อต้านพี่เอ็มไม่ได้ตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว...”
“เข้าใจได้ก็ดี--”
“บอล...ทุกสิ่งทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับลูกคนเดียว...จงคิดให้ดีๆก่อนตัดสินใจ”
“ครับ”
“ภพเอ้ย!!...ถ้ายังจะดิ้นหาทางออกอื่นก็ขอบอกเลยว่าไม่มีประโยชน์”
“ผมเชื่อว่าต้องมีข้อยุติที่เราทุกคนจะยอมรับได้นะครับ”
“งั้นเรอะ?”
“พี่เอ็ม!!...ต่อหน้าบอลอย่ามาเล่นตีหัวผมสิ!!!”
“หึๆๆ...อย่าลืมสิว่าแกน่ะไม่เคยเอาชนะฉันได้เลยสักครั้งเดียวตั้งแต่เด็กแล้ว...พยายามยื้อต่อไปก็เสียเวลาเปล่าๆ”
“แต่คราวนี้มันผิดนะพี่--”
“ความคิดของฉันถูกต้องแล้วเฟ้ย~~...ห้ามเถียง!!”
...ดู ท่าพ่อไม่รู้จะโต้ตอบยังไงต่อไปจึงรีบเดินหน้ามุ่ยออกจากห้อง...คุณป้าศร มรกตนี่เยี่ยมยอดจริงๆแฮะก็ขนาดพี่แคทที่ว่าแข็งๆยังโดนกล่อม(แกมบังคับ)ซะ อยู่หมัดเลยสมน้ำหน้า...เหอๆๆ...
“พ่อกับคุณป้าทะเลาะกันหรือครับ?”
“โอ้ไม่!!...แค่เรื่องหยุมหยิมเท่านั้นจ้ะ...คือพ่อของหลานน่ะจะทำอะไรก็ต้องถามเมียก่อนตัดสินใจคนเดียวไม่ได้...เห็นแล้วหงุดหงิด!!!”
“..............................................”
“..............................................”
...จาก นั้นป้าเอ็มก็ไม่พูดเอาแต่มองหน้าเพียงอย่างเดียวจนผมรู้สึกเขินไม่กล้าสบตา ตอบ...นี่น่ะหรือที่วัยจวนจะห้าสิบ?...ให้บอกอายุสักสามสิบปลายๆยังน่าเชื่อ ซะมากกว่าอีกเพราะพี่สาวของพ่อคนนี้หน้าเด็กกว่าความน่าจะเป็น...ดูอย่างแม่ กวางที่อายุอ่อนกว่ากันไม่เท่าไหร่แต่ก็มีริ้วรอยตีนกาให้เห็นแล้ว(ขืนได้ ยินมีหวังเราถูกหยิกเนื้อหลุด)...
“พ่อบอลอายุ 19 แล้ว...”
“มีนาปีหน้าก็ 20 ครับ”
“อีกไม่นานก็มีสิทธิ์ล่ะ”
(?)
“ว่าแต่...ปกติพ่อบอลกับหนูแคทมักจะมีเรื่องต่อปากต่อคำกันบ่อยๆเหรอ?”
“คุณป้าครับ...หมอนกับผ้าห่มนั่น?”
“ก็จะขอมานอนห้องพ่อบอลไงจ๊ะ”
“เห?”
“คือ ตาภพนอนกับเมียเขาป้าไม่อยากรบกวนส่วนหนูแคทหนูฝนก็พักอยู่ที่ห้องแฟนพ่อบอล ใช่มั้ยล่ะ?...ศรีเองก็ต้องนอนห้องเดียวกับลูกสาวเขาอยู่แล้วน่ะ”
“อ๋อได้!...ได้สิครับ”
...มันช่วยไม่ได้นี่นะและอีกอย่างผมก็นอนคนเดียว(วันนี้ไม่ไปทำงานพิเศษ)...
“พี่แคท?...ผมไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับเธอครับคุณป้า...ผู้หญิงอะไรชอบทำตาดุใส่พูดจาก็ไม่มีความอ่อนหวานน่ารักซะบ้างเลย”
“ฮิๆๆ...หนูแคทก็งี้ล่ะ...ถ้าผิดจากนี้ถือเป็นตัวปลอม”
“นิสัยอย่างนี้ผมไม่ชอบครับ”
“แล้วพ่อบอลชอบผู้หญิงยังไงจ๊ะ?”
“เอ่อก็...อ่อนโยนน่ารักช่างเอาใจ...มีความเป็นกุลสตรี...เรียบร้อยอ่อนหวาน...จะเจ้าแง่แสนงอนนิดหน่อยก็ไม่เป็นไรครับ”
(ทั้งหมดที่เอ่ยมาคือกุน,สา,อ้อยส่วนบุศอาจจะแข็งกร้าวกับเราในบางครั้งแต่ก็รู้จักเอาอกเอาใจดีมากๆ)
“..............................................”
“..............................................”
“..............................................”
“คุณป้า?”
“อะอื้อ!!... พ่อบอลก็อย่าถือสาหนูแคทเลย...ต้องโทษตาศักดิ์กะยัยนิภาเค้าแหละที่เลี้ยงลูกให้เป็นแบบนี้”
“ฮ่าๆๆ”
“แต่ ป้าเองก็ต้องการรู้เหมือนกันว่าตาภพน่ะเลี้ยงดูพ่อบอลยังไง?...ช่วยเล่าให้ ฟังหน่อยสิจ๊ะว่าตลอดเวลาเกือบสิบปีนี้พ่อบอลเป็นยังไงบ้าง?”
“ผมย้ายที่อยู่ตามคุณพ่อ...เคยไปอยู่กรุงเทพฯราว 3 – 4 ปีแต่ส่วนใหญ่ก็จะได้อยู่ที่นี่ครับ”
“คนที่นี่ดีกับพ่อบอลไหม?...เช่น...กวางกับลูกๆเค้า”
“ตอนแรก...ก็ไม่เท่าไหร่ครับ”
“ไม่เท่าไหร่นี่...ไม่ค่อยเอาใจใส่พ่อบอลใช่หรือเปล่า?”
“มะ...ไม่ใช่...”
“พ่อบอลพูดมาตามตรง”
“..............................................”
“ป้าไม่ไปเอาเรื่องอะไรกับพวกเขาหรอกแค่อยากรู้เฉยๆจ้ะ”
...ผม จึงเล่าให้คุณป้าเอ็มฟังตามความเป็นจริงทุกอย่างแต่ก็ย้ำในตอนท้ายว่า ตั้งแต่ได้เป็นแฟนกับกุนและสาความสัมพันธ์กับทุกคนในบ้านก็ดีขึ้นกว่าเดิม มาก(ของมันแน่อยู่แล้ว)...
“สรุปคือเวลานี้พ่อบอลก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขดี?”
“ครับ”
“อยู่ที่นี่มีความสุข...”
“...............................................”
“แล้ว...ไม่คิดจะกลับไปหรือ?...หมายถึงที่บ้านของป้าน่ะ”
“คุณป้าอยู่ที่...”
“โยนกบูร พาจ้ะ...สภาพแวดล้อมทิวทัศน์ที่นั่นสวยมากๆเลยนะอากาศก็สดชื่นถ้าพ่อบอลได้ ไปเห็นจะต้องติดใจแน่ๆ...อ้อ!!...ที่โยนกทักษิณก็น่าอยู่ไม่แพ้กันแถมอาหาร การกินอร่อยมาก...ในความเห็นของป้าจึงไม่มีที่ไหนจะดียิ่งไปกว่าหมู่บ้านสอง แห่งนี่อีกแล้ว”
“งั้นหรือครับ?”
“พ่อบอล...ป้ารู้สึกเสียใจมากกับเรื่องเมื่อสิบปีก่อนและอยากจะหาทางชดเชยให้บ้าง”
“คุณป้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...แม้จะไม่สนิทชิดเชื้อกับแม่รัญภรณ์สักเท่าไหร่แต่ป้าก็เศร้าใจที่เวลานั้นช่วยอะไรไม่ได้เลย”
“ผม มีความรู้สึกเลวร้ายต่อบ้านโยนกอุดรเพราะคุณแม่เสียชีวิตที่นั่น...หลายคน พูดว่าจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมันทำให้ผมสูญเสียความทรงจำไปเกือบทั้งหมดไม่ ว่าจะญาติพี่น้องหรือสิ่งที่พบเจอ”
“เกือบหมดรึ?...งั้นถามจริงๆว่ายังพอ จะจดจำป้าได้หรือเปล่า?...ตอนพ่อบอลยังเล็กๆทุกวันพระป้าจะมาพาไปทำบุญที่ วัดแถวบ้านเพราะพ่อบอลชอบรบเร้าให้พาไป...เราสองป้าหลานจะเดินจูงมือกันไป วัดเป็นภาพที่คุ้นตาของคนที่นั่น”
“ผม...จำไม่ได้เลย...ขอโทษครับ”
“แต่พ่อบอลจำหนูฝนกับหนูแคทได้?”
“อาจเพราะพวกเธอเคยเป็นเพื่อนเล่นและก็อยู่ที่โยนกอุดรด้วยกันมานานแต่ก็จำอะไรได้ไม่มากครับ”
“ใจร้ายมากๆ...ลืมคนจากโยนกอื่นเสียได้แต่ก็ไม่แปลกหรอกเพราะตอนนั้นพ่อบอลมักจะไม่ออกไปนอกโยนกอุดรสักเท่าไหร่”
...ท่าทางตัวผมในวัยเยาว์คงจะถูกเลี้ยงดูมาอย่างเข้มงวดมาก...แค่คิดก็น่าอึดอัดใจเกินบรรยาย...
“อีกอย่างหนึ่งคือถ้าพ่อบอลกลับไปที่นั่นสักครั้งลูกๆของป้าก็จะต้องดีใจมากเลยด้วย”
“คุณป้า...มีลูกกี่คนครับ?”
“มี...”
“ป้าจ๋า!!...โทรศัพท์แน่ะ”
“หา~~...ใครอ่ะ?”
“ยังไงก็รีบไปรับเถอะค่ะ”
“................................................”
“สายด่วนร้อนๆจ้า!!”
“อื้อ!!...คราวนี้จะเล่นตลกอะไรอีก?...เดี๋ยวป้ามานะพ่อบอล”
(คงจะเป็นคนทางบ้าน...อื๋อ?)
“อะไรของเธอ?...จู่ๆมานั่งแปะตรงหน้าแล้วก็มองตาแป๋วแหววเชียว”
“บอลเนี่ย~~...ถูกป้าเอ็มกล่อมเข้านิดหน่อยใจก็เริ่มเอนเอียงอยากไปโยนกบูรพาหรือไม่ก็โยนกทักษิณแล้วใช่มะ?”
“ใครว่า?...อ้าวๆๆ!!...นี่หล่อนแอบฟังอยู่เรอะ?”
“สภาพแวดล้อมน่าอยู่เอย--...ทิวทัศน์สวยอากาศดีเอย--...อาหารการกินอร่อยเอย--...ก็ไม่เถียงหรอกนะแต่มันมีอย่างหนึ่งที่ผิด”
“?”
“ลูกๆของป้าเอ็มน่ะไม่ดีใจที่นายจะกลับไปเลยสักนิดแถมคอยจ้องจะเล่นงานอีกต่างหากด้วย!!!”
“เอ้า!!!...ฉันไปแอบดักตบหัวพวกเขาตั้งแต่กาลครั้งไหนมิทราบเล่า?...พบหน้าสักครั้งก็ยังไม่เคย”
“แหะ!!...เข้าใจเสียดสีนะจ๊ะตัวเอง~~...เอาเป็นว่าคงจะไม่มีใครปลื้มในตัวนายล่ะกัน...ดังนั้นจึงไม่ควร...”
“ขอบใจที่อุตส่าห์เตือนแต่ฉันยังไม่ได้บอกเลยสักคำว่าจะกลับไป...จะอุดร,บูรพา,ทักษิณหรืออะไรก็ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละ”
“ฮื่อ--...เป็น...คนหัวดื้อจริงๆด้วย”
“ว่าอะไรนะ?”
“เปล่า--...ยังไงก็ตาม...ความคิดนี้ของบอลจะทำให้ทุกสิ่งที่พากเพียรพยายามทำมาทั้งหมดต้องสูญเปล่านะขอบอก”
“...........................................”
...................................................................................................

“ป้าขอนอนก่อนนะไม่ใช่คนชอบอยู่ดึก...อึย~~...เจ้าลูกบ้าขู่แม้กระทั่งแม่ตัวเอง...มันน่านัก!!”
“............................................”
...กลาง ดึกผมมีนัดกับกุนในห้องอาบน้ำจึงพยายามไม่ข่มตาหลับส่วนเสียงหายใจเข้าออก ของคุณป้าที่ดังอย่างสม่ำเสมอข้างๆตัวนั้นช่วยบ่งบอกให้รู้ว่าเธอหลับสนิท แล้ว...
“คุณป้าเอ็มในวัยสัก 18-19 คงจะเป็นยอดสาวงามอันดับต้นๆของยุคนั้นแน่นอน...คุณอานิภาก็เช่นกัน”
“............................................”
“ส่วนลูกสาวของอานิภาได้เห็นอยู่แทบทุกวันแล้วไม่ขอโต้เถียงในเรื่องรูปร่างหน้าตาแต่ลูกของป้ามรกต...เรายังไม่เคยเจอ”
(จะชายหรือหญิงก็ช่าง...อย่างน้อยให้เป็นคนพูดง่ายคุยรู้เรื่องกว่าพี่แคทและฝนก็ดีถมเถแล้ว)
...เปิด ประตูค่อยๆย่องออกมาจากห้องโดยปล่อยให้คุณป้าหลับอย่างสบายที่เตียง(ตัวเอง นอนพื้น)ซึ่งทั้งที่ในใจจริงๆก็อยากชวนกุนเข้าไปตอกเสาเข็มในห้องป้าศรีและ น้องอ้อยแต่ดูท่าจะไม่เข้าทีเพราะก้างขวางคอยังมีอยู่...
“เงานั่น?”
...ฮุๆๆ... ที่แท้เธอก็ทนอารมณ์เปลี่ยวไม่ไหวจนต้องเป็นฝ่ายลงมารอก่อน...พอสืบเท้าไป ใกล้จนได้ระยะผมก็เข้าสวมกอดหญิงสาวจากด้านหลังด้วยความรักและคิดถึงที่ สุด...
“กุนจ๋า~~...ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงเสียที”
“............................................”
...คืน นี้ผมจะชวนแม่ยอดยาหยีสุดที่รักเล่นเสียวในห้องอาบน้ำเป็นการเรียกน้ำย่อย มัดจำสักยกแต่ก่อนนั้นขอปลุกอารมณ์กระสันให้ตื่นตัวเพื่อที่อะไรๆมันจะได้ เข้าสะดวกดายขึ้น...
“ผมคิดถึงกุนมากเลยรู้มั้ยครับ?...มากจนไม่รู้ว่าจะเอาไปเปรียบกับอะไรได้”
“............................................”
...ผม บรรจงจูบที่ต้นคอทีหนึ่งและสูดดมกลิ่นหอมของสาวสวยวัยทำงานตามแขนตามไหล่ขณะ ที่มือซ้ายประคองฐานอกส่วนมือขวาลูบคลึงบั้นท้ายสาวเจ้าเบาๆ...
“ที่ จริง ล่างไม่ต้องนุ่งกางเกงในก็ได้นะจ๊ะที่รักแต่บนโนบราน่ะโอเค...หูย~~...เนื้อ ตัวเนี๊ยนเนียน...ป่ะ!!...ไปที่ห้องอาบน้ำเถอะ...บอลมีเรื่องจะรบกวนให้กุน ช่วยเยอะแยะไปหมดเชียว”
“............................................”
“?”
...ทำไมแฟนสาวของผมถึงไม่พูดอะไรบ้างเลย?...จะว่าอายก็ไม่น่าใช่...เอ๊ะ?...กลิ่นนี่มันคุ้นๆด้วยแฮะ...
(ผม...ผมกุนยาว...ถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!?...เอ๊ย!!!...งั้นก็หมายความว่า?)
“ขอโทษนะที่ทำให้เธอต้องผิดหวัง”
“อุ๊บ!!!”
...ตกใจ แทบสิ้นชีวิต!!!!...ทำไม...ทำไมถึงเป็นพี่แคทไปได้เล่า!?...แล้วกุนไหงถึง ไม่ลงมาหาตามที่นัดหมายกันไว้?...อุ๊!!...แกะไม่ออก~~...มือสาวรุ่นพี่บีบ แก้มผมแน่นเลย...
“อู๊~~...อี้อาไอ้...”
“อยากไปห้องอาบน้ำ?”
...ห้อง อาบน้ำของบ้านหลังนี้จะเปิดไฟหลอดเล็กไว้ตลอดทั้งคืนเพื่อประโยชน์ในการมอง เห็นและนั่นมันก็ทำให้ผมเห็นพี่แคทสวมชุดนอนซีทรูสีดำสนิทยาวถึงหัวเข่าโดย เนื้อผ้าตั้งแต่หน้าอกลงไปถึงชายจะเป็นลายลูกไม้ทั้งหมด...โอ้โฮ!!!...หญิง สาวผมยาววัย 22 ไม่ได้ใส่ยกทรงจริงๆด้วยเพราะยอดปทุมถันมันนูนเป็นเม็ดออกมาอย่างชัดเจนส่วน เบื้องล่างสวมกางเกงชั้นในสีฟ้า...
“จะปล่อยมือแล้วนะแต่หากทะลึ่งแหกปากร้องขึ้นมา...ในสภานการณ์นี้คนที่จะเป็นฝ่ายซวยก็คือบอล”
“โอย!!...ขากรรไกรแทบพัง--...ถือวิสาสะอะไรมาทำกับผมแบบนี้?”
“แล้วทีบอลกอดพี่แถมจับหน้าอกจับก้นล่ะ?”
“ก็ใครจะไปรู้?...นึกว่าเป็นกุน”
“ข้ออ้างนี้ฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด”
“พี่แคทไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง?”
“ฉันจะต้องรายงานเธอด้วยรึ?”
“กวนประสาท!!!...นับวันพี่นี่ก็ยิ่งทำตัวไม่น่ารักมากขึ้นทุกทีๆ”
“ถ้าไม่น่ารักแล้วบอลจะกอดพี่ทำไมนะ?”
“ก็บอกไปแล้วไงครับ...ผมไม่คิดว่าจะเป็นพี่”
“ไม่มั้ง?...พี่คิดว่าเธออาจจะรู้เพราะกลิ่นดอกราตรีจากผมของพี่ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะลอกเลียนแบบกัน”
“หากรู้แต่แรกผมไม่มีทางเข้าใกล้ผู้หญิงใจร้ายอย่างพี่หรอก”
“ผู้ชายใจทรามอย่างบอลก็เช่นกัน...น่าสงสารพี่กุนกับน้องสาที่หลวมตัวมาหลงรักเสียได้”
“พี่แคท!!...หน็อย~~...ดูถูกผมอีกแล้ว!!!”
“เธอจะทำอะไรฉัน?...ก็บอกไปแล้วนี่ว่าอยากสูญพันธ์เมื่อไหร่ให้มาเคาะประตูบอกได้ทุกเมื่อเลย”
“อย่างพี่น่ะรึ?...หึๆๆๆ...ให้ฟรีๆยังไม่เอา”
“บอล!!”
“ผม พูดไม่ผิดนี่...ผู้หญิงใจโหดอย่างพี่สมควรต้องอยู่อ้างว้างไปคนเดียวชั่ว ชีวิตตราบใดที่ยังประพฤติตัวแบบนี้หรือก็คือขึ้นคานทองตลอดไปนั่นแหละ!!!”
“เจ้าคนบ้า!!!!”
“ไม่ไหวๆ...เห็นหน้าพี่แล้วจู๋หดหมดอารมณ์”
...และแล้วในจังหวะที่ผมจะเดินออกไปจากห้องอาบน้ำนั่นเองพี่แคทก็ชิงยื่นมือกดล็อคกลอนประตูเสียก่อน!?...
“มาลองทดสอบดูหน่อยเป็นไร?”
“จะทำอะไรน่ะ?...อุ๊บ!!!”
“...............................................”
“อู๊!!!...อู๊!!!!...อู๊~~”
“...............................................”
...ว้า กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก~~...พี่แคท...เธอ...เธอตรงรี่เข้ามาจูบผมแถมยัง โอบกอดรัดพลางวาดมือลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง!?...ไม่...ไม่ใช่การจูบปากประกบ กันอย่างธรรมดาซะด้วย...นี่มัน...ดิฟ...ดิฟคิส!!!!!!!!!!!!!(จูบดูดดื่ม)...
“อะ...อย่า~~...อุ๊บ!!!”
“...............................................”
...นี่ กะจะจูบให้ขาดใจตายคาปากไปเลยหรือเนี่ย?...โอออออออออออออออ~~~...พี่แคทส่ง ลิ้นเข้ามาสร้างความปั่นป่วนในปากของผมอย่างไม่หยุดยั้ง...ร้อนแรง...ร้อน อย่างกับร่างกายกำลังถูกเพลิงเผาผลาญ...สติสัมปชัญญะก็ใกล้จะหลุดลอยออกจาก ตัว...คุณสันต์เขาผ่านผู้หญิงคนนี้มาได้ด้วยวิธีการอะไรกันแน่?...
“อาาาาาาาา~~”
“ฮึ!!...ไม่เห็นจะเป็นอย่างคุยโว...สุดท้ายเธอมันก็ดีแต่ปาก”
“ระ...เรื่องอะไรถึงมาว่า...”
“นั่นไงหลักฐาน...โด่ตุงเป็นลำ”
“..............................................”
(จูบชนิดล้ำลึกถึงแก่นแถมสวมกอดชนิดเนื้อตัวแนบติดกัน...ลองโดนอย่างนี้ใครไม่เกิดอารมณ์ก็บกพร่องทางเพศขั้นร้ายแรงแล้ว!!!)
“บอลก็เลยเงี่ยนและคงอยากจะขึ้นเตียงกับพี่สิท่า--...คิกๆ...เถียงไม่ออกเลยใช่มั้ยจ๊ะ?”
“ฮึ่ม!!!”
“ไหนเมื่อกี้ใครประกาศนะว่าต่อให้ล่อฟรีๆยังไม่เอา?...ซาบซึ้งหรือยังล่ะกับจูบของฉันน่ะ?
“บ้าเอ๊ย!!!!”
“บอก ไปแล้วไงว่าตัวพี่ไม่ได้ไร้เดียงสากับเรื่องบนเตียง...เป็นบอลนั่นแหละที่ สุดท้ายก็ได้แค่พูดคำสวยหรูแต่ไร้ความน่าเชื่อถือสิ้นดี...เอ้า!!...เช็ดซะ เจ้าไก่อ่อนเอ๋ย~~”
...พี่แคทหยิบกระดาษทิชชู่ที่อ่างล้างหน้ามาเช็ด น้ำลายที่มุมปากก่อนจะโยนให้ผม...ห๊ะ!!...เลือดกำเดามันไหลออกมาได้ยัง ไง?...แค่ถูกจูบเนี่ยนะ!?...แต่ว่า...
“ดูถูก~~...ดูถูกกันดีนัก!!!...สักวัน...สักวัน...”
“หือ?...เธอจะเอาเรื่องที่ถูกฉันแกล้งไปฟ้องป้ากวาง,พี่กุนหรือน้องสาก็ได้นะจ๊ะ”
“ผมไม่ใช่ลูกแหง่ที่จะทำอย่างพี่พูดแต่สักวันหนึ่งผมจะจับพี่แคทเย็ดให้เดินขาถ่างไปเป็นอาทิตย์เลยคอยดู!!!!!!”
“...................................................”
...สาวเจ้าผมยาวจ้องหน้าเขม็ง...งานนี้ผมคงไม่แคล้วถูกตบฟันร่วงแต่ผลตอบกลับมาดันไม่ใช่...
“ฮิๆๆ...เหรอคะ?”
“ใช่...ถะ...แถมจะเอาควยให้พี่ดูดอมทุกเช้าก่อนไปเรียนจนกว่าจะเลิกนิสัยปากเก่ง”
“ปากเก่ง?...นั่นมันเธอซะล่ะมากกว่า”
“แต่อย่าเข้าใจผิดไป...ผมทำเพราะไม่ได้รักพี่แต่เป็นความเกลียดชัง!!!”
“น่าสนใจ--...แล้วเธอไม่กลัว...ถูกตัดควยรึ?”
...ตั้งแต่ พี่แคทมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ผมก็เพิ่งจะเคยได้ยินคำว่า “ควย” ออกจากปากของเธอเป็นครั้งแรก...ฟังแล้วขนตามร่างกายมันลุกซู่ไปหมด(จะมีหี ตามมามั้ยเนี่ย?)...
“...................................................”
“...พี่ เบื่อที่จะฟังความปากดีของเธอเต็มทน...พอที!!...สุดท้ายก็ไม่เห็นจะมีดีอะไร ตรงไหน...ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผู้หญิงถึงได้พากันหลงใหลเธอนัก?...เพราะ ความดีเหรอ?...เพราะบทรักอันเยี่ยมยอดเหรอ?...อ้อ!!...แล้วไอ้ที่พล่ามๆมา ทั้งหมดนั่นสมควรจะเอาเก็บลงลิ้นชักและลืมไปซะดีกว่า...ไม่ต้องอะไรมากมาย ไกลตัวเอาแค่ถูกจูบนิดหน่อยบอลก็เลือดกำเดาไหลไม่เป็นท่า...นี่ถ้าพี่เปิดนม เปิดหีให้ดูคงได้ช็อคหัวใจวายตายแน่มั้ง?...ฉะนั้นได้มีโอกาสเห็นขาอ่อนกับ กางเกงในของพี่ก็นับว่าดีนักหนาแล้วพ่อหนุ่มน้อย~~”
“...................................................”
...หมด สิ้นแล้วตัวผม!!!!...เกียรติยศแห่งความเป็นลูกผู้ชายที่น่าภาคภูมิใจถูกบด ขยี้จนแหลกสลายไม่มีชิ้นดีอันเกิดจากน้ำมือ(รสจูบ)ของลูกพี่ลูกสาววัย 22 ปีนามว่า “สุรีย์พรรณ เทวะกรนันท์” เธอผู้นี้ไม่เหมือนหญิงสาวที่ผมเคยสัมผัสมา...มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง... แค่รสจูบที่หล่อนมอบให้ผมก็คล้ายกับว่าอวัยวะภายในร่างกายทุกส่วนจะพร้อมใจ กันส่งเสียงร่ำร้องให้รีบล่าถอยออกมาโดยเร็วที่สุด...แม้กระทั่งตอนนี้หัวใจ มันก็ยังเต้นถี่รัวราวกับจะการเตือนว่าต่อไปจงอย่าเข้าใกล้สตรีผมยาวคนนี้ อีก...เอกคเชนทร์ วิษณุมนตรี...แกมันเป็นได้แค่ไอ้ไก่อ่อนอย่างที่เค้าว่าจริงๆหรือ?...
............................................................................................................

...ขณะเดียวกันนั้นที่ถนนปากทางเข้าบ้าน...

“ไม่เห็นมีใคร”
“อาจจะซุ่มแอบอยู่แถวๆนี้ก็ได้...ไอ้พวกนี้มันจมูกไวจะตาย...นั่นไง!!”
“...ผู้หญิงนะพี่?”
“นี่แหละตัวดีนัก!!!...ขี่ไปดักหน้าเลย”
“.........................................”
“ดึกดื่นป่านนี้ยังมาเดินลอยชายก็ให้เดาไว้ก่อนว่าอาจจะมีเจตนาไม่ดี...ใส่ชุดนักศึกษากับผูกผ้าคลุมแบบนี้ยิ่งไม่ปกติ”
“พะ...พี่...ผม...ผมว่า...ระ...เรากลับดีกว่า”
“พูดอะไรของมึงวะเนี่ย!?...ถ้าเป็นคนร้ายจริงจะว่ายังไง?...รีบไปอย่าหยุดรถ!!!”
“งะ...งั้น...งั้นพี่...ลอง...ลองดูที่เท้าหล่อนสิ”
“ทำไม?...ฮะ...เฮ้ย!!!!”
“อย่าหาว่า...ผมปอดแหกเลยนะ...ตะ...แต่เท้าลอยไม่ติดพื้นอย่างนั้นพี่คิดว่านั่นใช่คนหรือเปล่าล่ะ?”
.................................................................................................

...นั่นสิ...ใช่คนหรือเปล่า?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น