หน้าเว็บ

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ANOTHER SPIRITS (4)

ANOTHER SPIRITS (4) “บุคคลระดับสูงในวิษณุมนตรี!?...All Nude Battle!!”

24 ตุลาคม 2548

“คุณแม่คะ...ฝนไม่อยู่?”
“คงไปเที่ยวยิงนกตกปลาตามเรื่องตามราวมั้งจ๊ะ...เห็นบ่นว่าเบื่ออยู่บ้านแม่เลยบอกให้ไปเที่ยวข้างนอก”
“ผู้หญิงนี่นะคะ?...ยิงนกตกปลา...แม่ปล่อยลิงจ๋อตัวนี้เข้าป่าไปได้ยังไง?...ถ้าเกิดออกไปก่อเรื่องอีกล่ะคะ?”
“ฮะๆๆ...ลูกแคทก็ฝึกหมัดมวยกับฟันดาบ...คือๆกัน...ไม่ต้องว่าน้องหรอกจ้ะ”
“คุณแม่น่ะชอบตามอกตามใจ...ฝนถึงเคยตัวแบบนี้ไงคะ...จะนึกภาพแม่ตอนสาวๆนี่ไม่ยากสักนิดค่ะ...แค่ดูฝนก็รู้ทันที”
“เหะ!!...มันแน่อยู่แล้วจ้า--...แต่...ปัจจุบันแม่นิภาคนงามของลูกก็ยังสวยเช้งวับไม่เปลี่ยนเยยน๊า---...ฮะๆๆๆ”
“นั่นไงคะ!!...สุ้มเสียงท่าทาง...อย่างกับมีฝน 2 คนเลย...ถอดแบบเหมือนกันราวฝาแฝด”
“...............................................”
“คุณแม่?”
“สั้นจังนะ...ลูกๆที่น่ารักอุตส่าห์กลับบ้านแต่มาอยู่ด้วยกันไม่เท่าไหร่ก็จะจากแม่ไป...เวลาผ่านไปเร็วเกิน”
...นึกว่าอะไรซะอีก...แคทเข้าสวมกอดมารดาและพูดปลอบโยน...
“แหม---...ก็คุณตาคุณยายอุตส่าห์โทรมาขอให้หนูกับฝนลงไปเยี่ยมและจะตอบปฎิเสธได้ยังไงล่ะคะคุณแม่?”
“...ตา กับยายของลูกๆเขาก็เป็นซะอย่างนี้...สั่งอะไรแล้วคนอื่นต้องทำตาม... เฮ้อ---...แต่มีอีกเรื่องนึงที่น่าคิด...คือไม่รู้ว่าตระกูลวิษณุมนตรีถูก สาปหรือเปล่า?”
“ทำไมคุณแม่พูดแบบนั้นล่ะคะ?”
“คือแม่เคยคิดมาตั้งแต่ ยังสาวๆแล้วว่าลูกหลานของตระกูลเรามักเป็นผู้หญิงซะส่วนมาก...ผู้ชายน่ะมี ส่วนน้อยเหลือเกิน...ถ้าจะนับกันจริงๆก็แทบกางนิ้วนับได้...ตระกูลใหญ่ที่ สืบเชื้อสายขุนนางในราชสำนักยาวนานมาเป็นร้อยๆปี...ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยล่ะแค ท?”
...สุรีย์พรรณพยักหน้าให้ผู้เป็นมารดาเพราะเป็นความจริง...เธอและ หยาดฝนก็นับเป็นลูกหลานของ “วิษณุมนตรี” ด้วยเช่นกันแม้เวลานี้จะใช้นามสกุลของบิดา “เทวะกรนันท์” ...
“ไม่ต้องอื่นไกล...ในบรรดาพี่น้องของแม่ 4 คนก็เป็นผู้หญิงซะตั้ง 3 ผู้ชายมีคนเดียวคือลุงภพและเขาก็มีแค่ลูกชายซึ่งนั่นคือบอล...”
...ถึงตรงนี้หญิงสาวพอจะเดาออกว่ามารดาต้องการพูดอะไร...
“...บอล คงไม่คิดจะ...กลับไปบ้านใหญ่หรอกค่ะเพราะเท่าที่แคททราบ...เขาโกรธแค้นคุณตา กับคุณยายมากเหลือเกินเพราะยังฝังใจว่าทั้ง 2 ท่านมีส่วนสำคัญที่ทำให้แม่ของเขาต้องเสียชีวิต”
“ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นเพราะทุกคนคาดไม่ถึง!!...แต่บอล...ไม่ยอมรับฟังอะไรทั้งนั้นเพราะเขาได้ เห็นพี่รัญภรณ์คุณแม่สุดที่รักสิ้นลมหายใจไปต่อหน้าต่อตา...มันเป็นบาดแผล ที่ฝังรากลึกในจิตใจจนยากจะสมานได้...ถ้าเป็นแม่...บางทีก็อาจจะคิดเช่น เดียวกับเขานะ”
“...ส่วนฝนรู้จากสาว่าบอลไม่มีความยินดีจะใช้นามสกุล วิษณุมนตรีเลยสักนิด...เขาบอกจะเปลี่ยนแน่นอนหลังจากเรียนจบแถมประกาศกร้าว ว่าจะขอตัดขาดจากบ้านใหญ่โดยเด็ดขาด”
“ไม่ได้!!!...อย่างนั้นตระกูลเก่า แก่ที่ยืนยงมาเกือบศตวรรษจะเป็นอย่างไร...เอ?...บางทีที่คุณตาคุณยายให้แค ทกับฝนไปหาคงเพื่อจะขอร้องให้เกลี้ยกล่อมหรือพาบอลไปหาพวกท่านล่ะมั้ง?”
“อาจ มีทางเป็นไปได้ค่ะคุณแม่แต่คงขอร้องผิดคนเพราะหนูไม่ได้สนิทอะไรกับบอล นัก...ฝนก็คาดหวังไม่ได้แน่...ให้พี่กุนกับสาช่วยอาจจะง่ายกว่านะคะ”
“เหรอ จ๊ะ?...คือพูดกันตรงๆ...ลุงเอกเคยบอกแม่ว่าในฐานะบุตรชายคนโตของคุณตาแต่จะ ไม่ขอรับสิทธิ์ผู้นำตระกูลเพราะต้องการยกให้กับลูกแทนซึ่งถ้าบอลยืนกราน เสียงแข็งไม่ยอมกลับบ้านใหญ่มันต้องไม่เป็นผลดีแน่...ทรัพย์สินเงินทองที่ คุณตาคุณยายยกให้แม่กับพ่อมันก็มากโขอยู่และเราตกลงกันว่าจะไม่เรียกร้อง อะไรจากพวกท่านอีกแต่ทางญาติพี่น้องคนอื่นๆของแม่อาจไม่คิดแบบนี้”
“หมายความว่าถ้าบอลไม่ยอมรับเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไป...อนาคตอาจจะเกิดความวุ่นวายขึ้นใช่มั้ยคะ?”
“อืม--... บอลเป็นเด็กน่าสงสารต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่เล็ก...แม่เห็นด้วยกับลุงเอกเต็ม ที่เพราะอยากให้หลานชายคนนี้ได้รับในสิ่งที่ควรจะได้โดยถือเป็นการชดเชยความ ผิดพลาดเมื่อครั้งอดีต...บอลอาจจะคิดว่าตัวเองไม่มีคุณค่าในสายตาคนอื่นแต่ เขาก็คือบุคคลระดับสูงในวิษณุมนตรีเหมือนแคทกับฝนหรือลูกหลานคนอื่นๆ...ไม่ แตกต่างกันเลย”
“หนูจะขอให้พี่กุนช่วยพูดกับบอลเองค่ะ...อย่างน้อยเขาต้องฟังว่าที่ภรรยาบ้าง”
“ขอบใจแคทมากจ้ะ!!...เออ--...เมื่อสักครู่สุริยาโทรมาแน่ะ”
“สุริยา...เอ้น่ะเหรอคะ?”
“อื้อ!!...บอกพรุ่งนี้จะขึ้นมา”
“คุณตาคุณยายคงใช้ให้มารับพวกหนูไปบ้านใหญ่”
...พอคิดได้ดังนี้สุรีย์พรรณก็มีความยินดีอย่างเห็นได้ชัด...
“แคท...ท่าทางลูกจะดีใจ?”
“...คุณแม่...รู้ด้วยหรือคะ?”
“อื้ม!!...สีหน้าแคทก็บอกชัดเจนอยู่แล้ว...ไม่บ่อยนักหรอกที่ลูกจะดูมีท่าทางดีใจอะไรกับใครเค้า...”
“บุคคลที่หนูยอมรับ...ถ้าไม่นับคุณสันต์...ก็มีเอ้เท่านั้นค่ะคุณแม่”
“....................................................”
“น้องนางคนงามกลับมาแล้วจ้า--...อะไรคะอะไร?...พี่เอ้เขาทำไมเหยอ?”
“ออกไปไหนมา?”
“หนูไปเตะตะกร้อกับพวกเด็กๆแถวบ้านนี่เองจ้ะ...เพิ่มพูนกำลังแข้งดีนักแล”
“เรี่ยวแรงที่มีก็มหาศาลปานนางยักษ์นางมารแล้วยังไม่พอใจอีกรึ?”
“ห๊ะ!!...ว่า’ไรนะค๊ะ!!...พี่สินางยักษ์...หาใช่ฝนไม่...ชอบทำตาดุใส่คนอื่นตังหากที่สมควรจะเป็น”
“ผิดแล้ว!!...พี่สวยเกินกว่าจะเอาไปเปรียบเป็นนางยักษ์...ถามคนสักพันคนคำตอบก็จะเป็นคำตอบเดียว”
“อี๊---...พูดดีมากนะคะ!!...อย่านึกว่าตัวจะสวยคนเดียวซี่--...ฝนก็สวยน่ารักเหมือนกัน...ไม่แพ้พี่หรอก”
“หึ!!”
“ท่าทางอย่างนั้น...ถอนหายใจแบบนั้น...หมายความว่ายังไงน่ะ!?...หรือคิดจะลองกำลังกันคะ?”
“...แน่จริงก็เข้ามาซิ”
“ฮึ่ย!!”
...ฝนเปิดศึกกับแคท...2 สาวตรงเข้าประลองกำลังแขนกันตรงหน้ามารดา...เสียงข้อนิ้วของทั้ง 2 ฝ่ายลั่นดังเปรี๊ยะๆ...
“ฮึบ!!!...อือ---”
“ฮึ๊ย---”
“เคยบอกแล้วไง...เรื่องกำลังแขน...ยังไงพี่ก็เหนือกว่า...ฮึ!!”
“ชิ!!...ภูมิใจงั้นเหรอ?...แต่กำลังขาหนู...ก็เหนือกว่าพี่เหมือนกันค่ะ...”
“สู้ไม่ได้...จะแพ้อยู่แล้วยังปากเก่งอีก”
...นอกจากนี้ยังต่างคนต่างบีบมือของอีกฝ่ายทดสอบแรงและความอดทนด้วย...
“...ฮือ--...หลังใกล้ติดกำแพง...เตรียมแพ้ได้เลยน้อง!!”
“ไม่มีทางหรอก!!...ฮึ่ม!!”
“เอ้าๆๆ...ทั้ง 2 คนหยุดได้แล้วน่า...คือเอ้เขาจะมาบ้านเราพรุ่งนี้จ้ะฝน”
“อะไรนะแม่?...พี่เอ้จะมา...”
...พอ รู้ว่า “ลูกพี่ลูกน้อง” ที่เคยเล่นสนุกในสมัยเด็กด้วยกันจะมาหา...หยาดฝนก็รีบสงบศึกกับพี่สาวทันที และถ้าขืนยังประลองกันต่อไปเธอจะตกเป็นฝ่ายแพ้เพราะถูกแคทดันให้ถอยหลังจน เกือบติดผนังอยู่แล้ว (กำลังแขนแคทยังเหนือกว่าฝนมากทีเดียว) ...
“.....................................................”
“จริง...จริงเหรอคะ!!!...ไชโยๆๆ...ดีใจจังเลยเจ้า...อูย---...ปวดมือ”
...สาว เขี้ยวแสนดีอกดีใจกระโดดตัวลอยเหย็งๆเพราะจะได้เจอกับ “เอ้” หรือในชื่อจริง “สุริยา” วัย 22 ปี...ลูกพี่ลูกน้องของเธออีกคนหนึ่ง...
“ไม่เห็นจะต้องร่าเริงดีใจอะไรขนาดนั้น...”
“เหอะๆๆ...ไม่ต้องว่าน้อง...ไม่ต้องว่านุ่ง...คนที่ควรดีใจที่สุดน่าจะเป็นพี่มากกว่าใครหรือไม่ใช่?”
“พี่ไปเกี่ยวอะไรด้วย?...ฝน!...คุณแม่คะ!!...2 คนอย่ามองอย่างงั้นสิ!!!”
...ความหมายของ “มองอย่างงั้น” คือ...ฝนกับแม่อรยืนโอบเอวทำตาแป๋วเป็นตาแมวจ้องมาที่แคทเพียงจุดเดียว...
(ซุบซิบๆ)
“แม่ดูจิ...พี่แคทอายล่ะ...ชอบพี่เอ้จริงๆด้วย”
“ใช่เลยๆ...หน้าเริ่มแดงนะนั่น...ไหนฝนบอกแม่ว่าพี่สาวเราจะไม่ชอบใครแล้วยังไงล่ะ?”
“แม่คะ!!”
“เฮะๆๆ...นึก แล้วว่าต้องได้ยิน...ก็ยอมรับมาตรงๆซี่ว่าพี่ปลาบปลื้มยินดีมากที่ตาเอ้จะมา บ้านเรา...เห็นมั้ย!!...วันก่อนบ่นอยากพบแล้วเป็นยังไงคะ?...พรุ่งนี้ก็จะ ได้เจอกันสมใจใช่มั้ยละ?”
“น้องนี่พูดไม่รู้เรื่อง!!...พี่ไม่เคยบอก...อยากพบเพิบอะไรกัน...ไม่ต้องมาจับคู่ให้เลยนะ”
...แล้ว จู่ๆสุรีย์พรรณก็รีบตัดบทสนทนาพร้อมทั้งเดินหนีไปปล่อยให้น้องสาวกับคุณแม่ ป้องปากหัวเราะคิกๆอย่างรื่นรมย์...ไม่เพียงแค่นี้... 2 สาวแม่ลูกยังจับคู่เต้นรำลีลาศกันเฉิบๆ...
“แม่ขา--...หาไม่ง่ายนักที่พี่แคทจะเขินถึงขนาดรีบเดินหนีอย่างเงี้ย--”
“ก็แสดงว่าพี่เราชอบเอ้เขาจริงๆน่ะสิ?”
...ฝนหมุนตัวมาอยู่ในอ้อมกอดคุณแม่และตอบว่า...
“ปากบอกหัวใจจะไม่มีความรักแต่นี่ยังไม่ทันเจอกันกลับแสดงความอ่อนไหวออกมาซะแล้ว...ถ้าเจอะหน้าจังๆจะเป็นยังไงน๊าเนี่ย?”
“อยากเห็นเนอะฝน...บางทีอาจจะอายจนพูดอะไรไม่ออกเป็นใบ้ไปเลยก็ได้”
...คราว นี้อรนิภาทำอย่างเดียวกับหยาดฝนบ้าง...หล่อนหมุนตัวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดลูก สาวคนเล็กที่นิสัยเหมือนกับตัวเองในวัยรุ่นเหลือเกิน...
“คงเป็นเช่นนั้นค่า--”
“ไม่มีทางซะละ!!...เข้ากันดีนักนะ 2 คนนี้...เป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียว”
...สุรีย์ พรรณรำพึงกับตนเองแต่ที่หยาดฝนพูดก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผลซะทีเดียว...บัดนี้ใน หัวใจของหญิงสาววัย 22 เริ่มเกิดความหวั่นไหวแม้จะยังเพียงเล็กน้อยแต่ใครจะรู้ว่าอนาคตข้างหน้า นั้น...
“...ไม่ปฎิเสธก็ได้ว่าเราอยากพบเอ้แต่ไม่ได้หมายความว่าจะชอบแบบนั้น...แค่เป็นการพูดเองเออเองของเด็กบ๊องๆคนหนึ่งเท่านั้น...”
...จากนั้นหญิงสาวผู้เยือกเย็นก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง...
...................................................................................................

...เวลาใกล้ค่ำในห้องอาบน้ำ...

“คิดอะไรอยู่เอ่ย?”
“..............................................”
“เอาะ...เอาะ...อ๋อ!!...คิดถึงตาเอ้อยู่ใช่ม้า--”
“...กรุณาอย่าเดาอะไรมั่วๆได้มั้ยคะ?”
“ฮื้ม!!...แล้วไม่เห็นจะต้องปฏิเสธเสียงดังขนาดนั้นเลยนี่คะ...หือ?...โฮ่---...”
“...อะไร?”
...หยาดฝนยิ้มมุมปากขณะดึงผ้าขนหนูออกจากตัวและทำทีส่องกระจกปล่อยให้สุรีย์พรรณที่แช่ในอ่างอาบน้ำต้องเป็นฝ่ายถาม...
“เปล่าน้า--...ฝนไม่ได้คิดอะไรร้อก!!...พี่นั่นแหละคิดมากเกินไป”
“เพราะพี่คิดมากและมันมักถูกซะด้วย...ตั้งแต่ฝนยังเด็กจนบัดนี้โตเป็นสาวแหละนะ”
...แค ทนึกในใจ...ใช่...ปีนี้น้องฝนเติบโตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว...ทรวดทรงองค์เอว ล้วนแต่ขยายผายเต่งตึง...ไม่ว่าจะทั้งส่วนบนส่วนล่างก็แทบจะไม่มีอะไรแตก ต่างกับเธอเลย...ยกเว้น...
“หน้าอกโตขึ้นอีกสินะฝน”
“อ่า---...แต่ยังไม่เท่าพี่สักทีเนี่ย...ถามจริง...จะทำยังไงให้ใหญ่เท่าพี่ล่ะคะ?”
“...เดี๋ยวมันก็ใหญ่ขึ้นตามวัยเอง...”
“งั้นรึ!!...แต่ฝนได้ยินมาว่าถ้าให้ผู้ชายจับมันจะช่วยให้ใหญ่ขึ้นได้...”
“?”
“อย่างนั้นตั้งแต่พรุ่งนี้ฝนจะไปหาพวกเพื่อนผู้ชาย...ให้พวกเขาจับให้หมดทุกคนเลย...ฮะๆๆๆ”
(พรวด!!!)
“อุ๊บ!!...แค่ก!!...แค่ก--”
...สุรีย์พรรณกำลังดื่มน้ำแร่พอได้ยินหยาดฝนพูดจาทะลึ่งตึงตังเลยสำลัก...
“เด็กบ้า!!!...อย่าไปทำแบบนั้นเด็ดขาดนะ...ใครสั่งใครสอนให้พูดจาสัปดนลามกแบบนี้กันหึ?”
“ฮ่าๆๆๆ...ไม่ใช่พี่นี่”
“...หมายความว่ายังไง?”
“ก็นอกจากพี่สันต์ที่ได้มีโอกาสนวดหน้าอกพี่ก็จะมีพี่เอ้อีกคนแหงๆ...คงอดใจรอถึงพรุ่งนี้แทบไม่ไหวสิท่า?”
...แค ทอดจะหน้าแดงไม่ได้...จากที่น้องสาวแขวะเมื่อกี้ครั้นจะปฏิเสธก็ตอบได้ไม่ เต็มปากแต่จะให้ยอมรับมันก็...ไม่...ไม่เป็นความจริงสักนิด!!...เธอไม่ใช่คน บ้าผู้ชายขนาดจะวิ่งแร่ไปเสนอตัวให้...
“ขืนยังแหย่อีกพี่โกรธจริงๆด้วย!!!...พี่ไม่ได้...”
“หรือจะบอกไม่จริงค่ะ?...ก็เมื่อก่อนฝนเคยเห็นกับตาด้วยล่ะจะบอกให้...พี่เอ้นะพี่เอ้”
“......................................................”
“แหม---...เพราะงั้นหน้าอกพี่ถึงได้ตั้งเต้านูนอวบซะไม่มี...อีกอย่าง...ยอมรับมาตรงๆเลยว่าพี่แอบชอบพี่เอ้อยู่เหมือนกัน”
“ฮึ!!...ถ้าพี่จะทำแบบที่ฝนพูดจริงก็คงไม่ทำให้ดูต่อหน้าหรอกย่ะ!!”
“อ้าว!!!...พูดแบบนี้มีมูลสิเนี่ย?...ตั้งใจชวนตาเอ้สุดหล่อมาทำเรื่องทะลึ่งกันในที่ส่วนตัวจริงๆหรือคะ?”
“พูดจาน่ารำคาญนะฝน!!!...จะหาเรื่องกันใช่มั้ย?”
“เฮ่ย!!...เอาจริงเหยอ?...บอกความจริงทำเป็นรับไม่ได้รึ?”
“......................................................”
“...โฮ่--...เข้าใจละ!!...ก็ยังได้...หนูยังคาใจกับเมื่อตอนบ่ายด้วย...ดี!!...มาตัดสินกันต่อ...ที่นี่เวลานี้เลย!!”
...หยาด ฝนตั้งท่าพร้อมสู้...ไขว้แขนเป็นรูปกากบาทและตั้งมือขึ้นพร้อมก้าวเท้าซ้าย นำหน้าซึ่งเป็นท่าประจำตัวของเธอฝ่ายสุรีย์พรรณผุดลุกและก้าวเท้าออกมาจาก อ่างน้ำช้าๆ...
“......................................................”
...สุรีย์ พรรณกำหมัดบีบนิ้วดังกร๊อบ...หยาดฝนจับจ้องอาการฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่คลาดสาย ตาและหาวิธีรับมือ...การต่อสู้นอกรอบ (อะไรของพวกหล่อนก็ไม่รุ) ใกล้เริ่มขึ้น...
“...วันนี้พี่จะขอดัดนิสัยเด็กดื้อพูดแต่เรื่องลามก”
“ผิดแล้วค่า---...หนูจะดัดนิสัยคนปากแข็งไม่ยอมรับความจริงต่างหาก”
“......................................................”
“......................................................”
“ย้าก!!!!”
“ฮ่าห์---”
(ตึง!!...ตึง!!...ตูม!!!)
...ดู เชิงกันครู่เดียว...เสียงหมัดเสียงแข้งของ 2 สาวพี่น้องจอมซ่าก็ปะทะกันดังสนั่นลั่นห้องน้ำบ้านเทวะกรนันท์...สุรีย์พรรณ หยาดฝนต่างบรรเลงเพลงคาราเต้เข้าใส่กันทั้งๆที่ร่างกายเปลือยเปล่าหาได้มี อาภรณ์ปกปิดร่างไม่...
“หืมๆๆ...ฮืม---...วันนี้ทำแกงจืดฟักดีกว่านะเรา...เอ๋?...เสียงอะหยังหว่า?...อืม--...หูฝาดมั้ง”
...อร นิภาหารู้ไม่ว่าบุตรสาวจอมห่ามทั้ง 2 คนกำลังทำอะไรกันอยู่...ถึงแม้จะงัดกระบวนท่าเด็ดออกมาใช้แต่ก็ยังไม่ได้ผล มากนักเพราะต่างรู้จักฝีมือของกันและกันเป็นอย่างดีดังนั้นจึงหลบหลีกได้ อย่างว่องไวทั้งคู่...หยาดฝนย่อตัวตวัดเท้ายกถีบข้ามศีรษะแต่สุรีย์พรรณ ประสานมือป้องกันได้ทว่าก็ต้องถอยออกไปตามแรง...
“ฮึ!!”
“โอ๊ะ!!”
...ถัด มาสุรีย์พรรณใช้ความยาวของเส้นผมตนเองให้เป็นประโยชน์...หยาดฝนที่หมายเข้า มาซ้ำก็จำต้องรีบล่าถอย...ครั้นจะคว้าจับก็ไม่อาจทำได้เพราะเส้นผมยังไม่ ทันตวัดผ่านไปหมดกำปั้นขวาตรงก็พุ่งชกออกมาทันที...ถึงจะรับได้แต่ฝนก็ รู้สึกชาที่มือ...
“...ใช้ผมฟาดต่างแส้รึ?...แต่มันไม่ได้ผลกับฝนหรอกน่า!!”
“หางแมงป่องของน้องก็ยังไม่มีพิษสง...ไม่ต้องโว!!”
“หึ!!...ทีนี้ล่ะ!!!”
“เข้ามา!!!”
“โอ๊ววววววววว---”
“OLA!!…OLA!!…OLA!!”
(โครม!!...เปรี้ยง!!!)
...คราวนี้เสียงการต่อสู้ดังไปถึงหน้าบ้าน...อรนิภากำลังเลือกสรรผลฟักมาทำอาหารเย็นพอได้ยินเข้าเลยชักเอะใจรีบเดินเข้ามาดู...
“เอะอะอะไรกัน?...ว้าย!!!”
...จังหวะหยาดฝนก้มตัวหลบหมัดของพี่สาวและสวนโต้ด้วยการเตะต่ำ...ทว่า!!!...ในขณะที่สุรีย์พรรณโดดหลบขาข้างหนึ่งเกิดเสียหลักลื่น...
“เฮ้ย!?...พี่!!!”
“โอ๊ย!!” (แคท)
“แอ๊ก!!!” (ฝน)
“ตายแล้ว!!!” (อรนิภา)
...อร นิภาร้องอุทานด้วยความตกใจที่เห็นร่างบุตรสาวคนโตหล่นลงทับบนบั้นท้ายบุตร สาวคนเล็กพอดิบพอดีซึ่งก็เจ็บตัวกันทั้งคู่เพราะสุรีย์พรรณดันเอาสะโพกลงไป โดนสันหลังน้องสาว...
“โอย---...โอ๊ย!!...เจ๊บๆๆ!!!...ก้นหนู...ปี้ลุกซี่--...ทับหนูได้นะ...ตัวหนักเป็นบ้าเล้ย!!!”
“...เสียมารยาท!!!...โอ้ย---...พี่ก็เจ็บสะโพกนะ...ก้นน้องทำไมแฟบ...แถมแข็งอีกด้วย...อือ---...อูย---เจ็บ...”
“กรี๊ด-----...หล่นมาทับเค้าแล้วจะว่าอีก...ก้นหนูงอนไม่แฟบสักหน่อยน๊ะ!!!...อูย---...นมฝนแบนหมดแล้ว!!!”
“........................................................”
“ห๊ะ!?...แม่!!”
“ว่าไงนะ!?”
...ฝน นอนหงายแคทนอนคว่ำ...ร่างโป๊เปลือยของ 2 พี่น้องเกยทับกันพลางร้องโอดโอยไม่เป็นท่าครั้นพอสาวเขี้ยวผงกหัวและสาวผม ยาวเอี้ยวศีรษะเห็นคุณแม่ยืนหน้าบึ้งก็พากันตกอกตกใจ...ถ้าเป็นคนอื่นคงดู ไม่จืดแน่ๆเพราะอรนิภาเห็นของลับหยาดฝนหมดสิ้นอย่างไม่ตั้งใจเนื่องจากเธอ นอนหงายอ้าซ่าแต่สุรีย์พรรณยังดีที่มีเส้นผมยาวพอจะบังตรงส่วนนั้นได้รางๆ (สรุป...อรนิภาก็เห็นหมดอยู่ดี) ...
“ทำอะไรบ้าๆ!!!...ถ้าหัวกระแทกพื้น ไปล่ะจะว่ายังไง?...เกิดกระดูกหักขึ้นมาอะไรมันจะเกิดขึ้นหา!!!...แคท!!... ฝน!!...มันอันตรายแค่ไหน?”
“ขอ...ขอโทษค่ะคุณแม่”
... 2 สาวเอ่ยขอโทษเสียงอ่อยซึ่งความจริงสุรีย์พรรณกับหยาดฝนก็เคยฟาดแข้งวัดกำปั้นกันในห้องน้ำมาแล้ว (ทั้งโป๊ๆนี่แหละ) ...
“แม่ขอสั่งให้ลูกเลิกทำแบบนี้เด็ดขาด!!!...ไม่งั้นจะฟ้องคุณพ่อ!!!”
“ว้าก!!!...อย่านะแม่”
...ฝน พยายามลุกนั่งยกไม้ยกมือห้ามพลางร้องเสียงหลง...ที่เป็นเช่นนี้เพราะเธอกลัว คุณพ่อตอนโมโหมากๆนั่นเองส่วนสุรีย์พรรณลุกเดินโขยกเขยกไปหยิบผ้าเช็ดตัว ด้วยยังมีอาการเคล็ดที่สะโพกอยู่...
“ถ้าจะประลองก็ไปที่บ้านอาจารย์โตโด โน่น...นี่อะไร!!...เป็นสาวเป็นแส้กลับเปลือยกายยกแข้งยกขาเตะต่อยกัน...ใคร มาเห็นเขาจะว่ายังไง?...โดยเฉพาะแคท...ไม่น่าเป็นไปได้เลยนะเรา”
“...ขอโทษค่ะ...เป็นเพราะหนูไม่ควบคุมอารมณ์ให้ดี...ต่อไปแคทจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้วค่ะ”
“เพราะตาเอ้เป็นต้นเหตุน่ะแม่”
“ฮึ่ม!!!”
“ยังอีก!!!...แม่ยังไม่ทันละสายตาเลยนี่จะเอาอีกแล้วรึ?...ฝนก็เลิกยั่วอารมณ์พี่เขาซะที...อย่านั่งแหกขาแบบนั้นด้วย!!!”
“...ค่า---”
...พอคุณแม่ไปแล้วทั้ง 2 สาวก็ลงแช่ตัวในอ่างอาบน้ำพร้อมกันแต่ยังไม่วายที่จะโต้คารมกันอีก...
“เพราะพี่แท้ๆ...ถูกแม่ดุ...หึ!!...ฝนไม่โดนพี่ต่อยเลยสักหมัดแต่ดันเจ็บตัวเพราะพี่หล่นมาทับ...ก้นหนูช้ำเลยเห็นมั้ยคะ?”
“ยังไม่ยอมหยุดอีกเหรอ?...ฝนต่างหากล่ะที่แหย่พี่ก่อน”
“อะไรกันค๊ะ?...ปกติปี้ไม่ใช่คนที่จะโกรธใครง่ายๆแต่พอเป็นเรื่องของตาเอ้...นี่คงคิดลึกกับเขาจริงๆสิท่า?”
“พอได้แล้ว!!!”
“ฮิๆๆๆ...ก็ได้ค่า---...แต่พรุ่งนี้พี่เอ้มาฝนจะบอกให้หมดเลย”
“เชิญตามสบายเถอะยัยเด็กดื้อ!!!”
..............................................................................................................

...คิด ว่าคงไม่มีบ้านไหนหรอกที่จะมีลูกสาวสุดเพี้ยนสุดแก่นขนาดเปลือยกายล่อนจ้อน ชกต่อยกันในห้องน้ำเยี่ยงสุรีย์พรรณกับหยาดฝน(แต่น่าดูเหมือนกันยามที่อะไร ต่อมิอะไรจะเคลื่อนไหวหรือกระเพื่อมดึ๋งๆ...รึไม่จริง?)...
...................................................................................................

(เกือบ 5 ปีก่อนสุรีย์พรรณมีอาการใจเต้นตึกตักกับคุณสันต์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งนั่นคือ “ความรัก”...ครั้นพอ 5 ปีต่อมาเธอก็เริ่มจะรู้สึกเช่นนี้อีกครั้ง...บุคคลชื่อ “เอ้” ผู้นี้เป็นใครมาจากไหน?...บรรยายมาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายๆคนคงเริ่มสงสัยและ อยากรู้...เอาเป็นว่าลองไปทำความรู้จักกับเขาสักเล็กๆน้อยๆ)
...................................................................................................

“คุณเอ้เจ้าคะ...ข้าวของสัมภาระจัดเสร็จเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว”
“ขอบใจมาก...นิดไปพักผ่อนเถิด”
“.................................................”
“ยังมีอะไร...อีกกระนั้นหรือ?”
“นิด...อยากไปลำปางกับคุณเอ้เจ้าค่ะ”
“...สำหรับเรื่องนี้เราตกลงกันแล้วนะ”
“ขอประทานโทษเจ้าค่ะ...นิดทราบแก่ใจดี...แต่...อย่างไรนิดก็อยากจะไปคุ้มครองคุณเอ้...”
“กระผมไปค้างบ้านท่านป้าแค่คืนเดียวเอง...มะรืนตอนเย็นๆก็กลับถึงโยนกประจิมแห่งนี้”
“.................................................”
“ก็เข้าใจดีว่านิดเป็นห่วงแต่มิมีใครจะทำอะไรกระผมได้โดยง่ายดายดอกแลอีกประการก็หาได้ไปสู้รบปรบมือกับใครซักหน่อย”
“ตลอด เวลาที่อาศัยอยู่ที่นี่...คุณเอ้รักใคร่เอ็นดูนิดเหมือนเป็นน้องสาวแท้ๆคน หนึ่ง...นิดทั้งดีใจและมีความสุขมากพร้อมทั้งเคยตั้งใจกับตัวเองไว้ว่าจะขอ ติดตามคุณไปตลอดชีวิต...พอครั้งนี้คุณจะออกไปสู่โลกภายนอกคนเดียวเลยอดเป็น ห่วงไม่ได้เจ้าค่ะ”
“.................................................”
... “เอ้” เป็นบุตรคนเดียวของ “อรศินีย์” น้องสาวฝาแฝดของอรนิภาคุณแม่ของสุรีย์พรรณและหยาดฝนหรืออีกนัยหนึ่งคือ เอ้,แคท,ฝนก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกันโดยแท้นั่นเองแล...
“ท่านยายออกปากขอให้นิดอยู่ที่นี่ก็หมายความว่าท่านรักเอ็นดูนิดมากนะจ๊ะแลหมู่นี้ท่านมักชมนิดให้กระผมฟังบ่อยๆด้วย”
“...นิดเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”
“อืม...”
“งั้นคุณเอ้เอาชิโระเทนเคียวไปด้วยนะเจ้าคะ”
“ฮะๆๆๆ...กระผมกระทำเช่นนั้นมิได้ดอก...พกอาวุธมีคมขึ้นรถไฟเดี๋ยวเกิดตำรวจเขาค้นเจอก็ถูกจับกันพอดีสิจ๊ะ”
“....................................................”
“เอาละ!!...นิดไปพักผ่อนเถิดนะ...กระผมก็จะนอนเหมือนกัน”
“ราตรีสวัสดิ์เจ้าค่ะ”
... “นิด” เด็กสาวที่ทางตระกูลรับมาอุปการะเลี้ยงดูตั้งแต่เล็ก...ปีนี้ย่างเข้าอายุ 15 ปี...เธอมีความสนิทสนมชอบพอกับเอ้มากที่สุดและเอ้ก็ให้ความไว้วางใจในตัวเธอ มากเช่นเดียวกัน...
“นี่เป็นโอกาสอันดียิ่งที่จะทำให้ท่านยายเห็นความดีของนิดให้เป็นที่ประจักษ์...ฉะนั้นจงอย่าปล่อยให้โอกาสอันงามนี้สูญเปล่าไปซะล่ะ”
...เมื่อ เป็นลูกหลานของ “วิษณุมนตรี” เอ้จึงเป็นบุคคลระดับสูงที่ไม่ว่าใครก็ตามที่รู้จักใกล้ชิดหรือความเกี่ยว ข้องกับตระกูลจะต้องให้ความเคารพเกรงใจเช่นเดียวกับแคทและฝน...ความเกี่ยว พันของบุคคลทั้ง 3 นี้อาจเป็นไปได้ว่าจะมีอะไรมากกว่าที่เราทุกคนรู้!!...
“หึๆๆ...ท่าน พี่...เราจะได้พบปะเจอหน้ากันซะทีนะขอรับ...กระผมต้องการฟังคำตอบจากปากของ ท่านพี่เอง...กระผมเฝ้าอดทนรอมานานมากซึ่งครั้งนี้จะต้องทราบให้ได้ว่าเมื่อ เทียบกับท่านพี่สันต์แล้วกระผมจะสำคัญต่อท่านพี่มากสักเพียงไหน กัน?...ส่วนน้องฝน...จากวันนั้นที่ได้เห็นตัวจริงของน้อง...ยอมรับว่าน่า กลัวมากแต่ยังไงกระผมก็ชอบน้องนางหยาดฝนในยามปกติที่ร่าเริงสดใสแก่นแก้วแสน ซนมากกว่า...พรุ่งนี้จึงต้องขอดูให้ประจักษ์แก่สายตาเต็มๆสักหน่อยว่าน้องจะ เติบโตขึ้นกว่าคราวก่อนมากเพียงใด?...ฮะๆๆ...ท่านพี่สุรีย์พรรณก็ดี...น้อง นางหยาดฝนก็ดี...กระผมอยากจะครอบครองพวกเธอทั้ง 2 คนไว้โดยพร้อมเพรียงกันเหลือเกิน...ถ้าปล่อยให้คนใดคนหนึ่งหลุดลอยไปมันอาจ จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่สุดในชีวิตของกระผมเลยทีเดียว”
.................................................................................................................

1 ความคิดเห็น:

  1. ได้ย้อนมาอ่านแล้วครับ ขอบคุณมากที่ลิงค์มาให้

    ตอบลบ